سورة الفاتحة
Al-Faatiha
The Opening
meccan . 7 Ayahs
1:1
بِسْمِ ٱللَّهِ ٱلرَّحْمَـٰنِ ٱلرَّحِيمِ
Translation : ด้วยพระนามของอัลลอฮ์ผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาเสมอ
1:2
ٱلْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ ٱلْعَـٰلَمِينَ
Translation : การสรรเสริญทั้งหลายนั้น เป็นสิทธิของอัลลอฮ์พระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก
1:3
ٱلرَّحْمَـٰنِ ٱلرَّحِيمِ
Translation : ผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาเสมอ
1:4
مَـٰلِكِ يَوْمِ ٱلدِّينِ
Translation : ผู้ทรงอภิสิทธิ์แห่งวันตอบแทน(1)
Comment : (1)คือวันปรโลก อันเป็นวันที่มนุษย์ฟื้นคืนชีพมาเพื่อรับการตอบแทน
1:5
إِيَّاكَ نَعْبُدُ وَإِيَّاكَ نَسْتَعِينُ
Translation : เฉพาะพระองค์เท่านั้นที่พวกข้าพระองค์เคารพอิบาดะฮ์(2) และเฉพาะพระองค์เท่านั้นที่พวกข้าพระองค์ขอความช่วยเหลือ(3)
Comment : (2)คือมอบการอิบาดะฮ์ทุกประเภทให้แก่พระองค์ แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น โดยปราศจากการให้ผู้หนึ่งผู้ใด หรือสิ่งหนึ่งสิ้งใดมีหุ้นส่วนในการอิบาดะฮ์ดังกล่าว เป็นต้นว่า การวิงวอนขอความช่วยเหลือ การบน การสาบาน การเชือด ฯลฯ
Comment : (3)ขอความช่วยเหลือในสิ่งที่อยู่นอกเหนือสภาวการณ์ หรือสิ่งที่ไม่อยู่ในความสามารถของมนุษย์ที่จะให้ความช่วยเหลือได้
1:6
ٱهْدِنَا ٱلصِّرَٰطَ ٱلْمُسْتَقِيمَ
Translation : ขอพระองค์ทรงแนะนำพวกข้าพระองค์ซึ่งทางอันเที่ยงตรง
1:7
صِرَٰطَ ٱلَّذِينَ أَنْعَمْتَ عَلَيْهِمْ غَيْرِ ٱلْمَغْضُوبِ عَلَيْهِمْ وَلَا ٱلضَّآلِّينَ
Translation : (คือ) ทางของบรรดาผู้ที่พระองค์ได้ทรงโปรดปราณแก่พวกเขา มิใช่ในทางของพวกที่ถูกกริ้ว(4) และมิใช่ทางของพวกที่หลงผิด(5)
Comment : (4)หมายถึง พวกยิว เพราะพวกเขาประพฤติตนฝ่าฝืนบัญญัติของอัลลอฮ์อยู่เสมอ และหมายถึงผู้ที่มีพฤติการณ์ในทำนองเดียวกันนั้นด้วย
Comment : (5)หมายถึง พวกคริสเตียน พวกเขาหลงผิดไปว่า นบีอีซาเป็นบุตรของอัลลอฮ์ เนื่องจากนบีอีซาเกิดจากนางมัรยัม ซึ่งเป็นหญิงบริสุทธิ์ปราศจากชายใดสมสู่นาง แต่ความจริงนั้นนบีอีซาหาใช่บุตรของพระองค์ไม่ หากแต่เป็นบ่าวของพระองค์คนหนึ่ง เช่นเดียวกับบ่าวของพระองค์ทั้งหลาย จะแตกต่างก็เพียงว่า นบีอีซานั้นเกิดจากนางมัรยัมแต่ฝ่ายเดียว โดยไม่มีชายใดสมสู่เยี่ยงหญิงอื่นๆ ทั้งนี้ด้วยประกาศิตของพระองค์ ดังกล่าวนี้เป็นการชี้แจงของพระองค์ไว้ในอัลกุรอาน
سورة البقرة
Al-Baqara
The Cow
medinan . 286 Ayahs
ِبِسْمِ ٱللَّهِ ٱلرَّحْمَـٰنِ ٱلرَّحِيمِ
2:1
الٓمٓ
Translation : อะลีฟ ลาม มีม(6)(อัลลอฮ์ทรงทราบความหมายของอักษรย่อนี้)
Comment : (6)คำนี้มิใช่เป็นศัพท์ที่ถูกกำหนดให้มีความหมายดังเช่นคำอื่นๆ หากแต่เป็นพยัญชนะโดดๆ ซึ้งถูกนำมารวมกัน เพื่อให้อ่านออกเสียงพยัญชนะเหล่านี้ต่อเนื่องกัน ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องอ่านออกเสียงเป็นพยัญชนะโดดๆ ว่า อะลิฟ ลาม มีม ส่วนความมุ่งหมายอันแท้จริงของคำนี้และคำอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกันเช่น อะลิฟ ลาม รอ เป็นต้น ไม่มีใครสามารถเข้าใจได้ เพราะท่านนบีมิได้อธิบายไว้ แต่กระนั้นก็ยังมีนักปราชญ์บางท่านพยายามหาความเข้าใจ โดยนำพยัญชนะอื่นๆ มาประกอบเพื่อให้มีความหมายในการนนี้ย่อมทำให้ความหมายของแต่ละพยัญชนะแตกต่างกันไป ซึ่งไม่เป็นที่ยึดได้ ยังมีทรรศนะหนึ่งของนักปราชญ์บางท่านว่า พยัญชนะเหล่านี้ถูกนำมาระบุบไว้ในตอนต้นของซูเราะฮ์ เพื่อเตือนผู้คนให้หันมาสนใจและสดับฟังในโองการของอัลลอฮ์ที่จะอ่านให้ฟังต่อไปคล้ายกับคำที่ใช้เตือนให้เตรียมตัว เช่นการนับ หนึ่ง สอง สาม กระนั้น นี่เป็นเพียงทรรศนคติของนักปราชญ์ที่ต้องการจะให้ความหมาย แต่ความหมายที่แท้จริงนั้นไม่มีใครสามารถจะรู้ได้ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว
2:2
ذَٰلِكَ ٱلْكِتَـٰبُ لَا رَيْبَ ۛ فِيهِ ۛ هُدًۭى لِّلْمُتَّقِينَ
Translation : คัมภีร์นี้ ไม่มีความสงสัยใดๆ ในนั้น เป็นแนวทางสำหรับบรรดาผู้ยำเกรงเท่านั้น
2:3
ٱلَّذِينَ يُؤْمِنُونَ بِٱلْغَيْبِ وَيُقِيمُونَ ٱلصَّلَوٰةَ وَمِمَّا رَزَقْنَـٰهُمْ يُنفِقُونَ
Translation : คือบรรดาผู้ศรัทธาต่อสิ่งเร้นลับ(7) และดำรงไว้ซึ่งการละหมาดและส่วนหนึ่งจากสิ่งที่เราได้ให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเขา พวกเขาก็บริจาค
Comment : (7)หมายถึงสิ่งที่พ้นญาณวิสัยของมนุษย์ เช่น องค์อัลลอฮ์ มลาอิกะฮ์ของพระองค์ และสภาพวันกิยามะฮ์ ตลอดจนการสอบสวนของมุงกัร และนะกรี แก่ผู้ที่เสียชีวิตไม่ว่าจะถูกฝังไว้ในสุสานหรือถูกเก็บไว้ในที่อื่นใดก็ตาม พร้อมด้วยการตอบแทน และลงโทษบุคคลเหล่านั้นในเบื้องต้นก่อนด้วย
2:4
وَٱلَّذِينَ يُؤْمِنُونَ بِمَآ أُنزِلَ إِلَيْكَ وَمَآ أُنزِلَ مِن قَبْلِكَ وَبِٱلْـَٔاخِرَةِ هُمْ يُوقِنُونَ
Translation : และบรรดาผู้ที่ศรัทธาต่อสิ่งที่ถูกประทานลงมาแก่เจ้า(8) และสิ่งที่ถูกประทานลงมาก่อนเจ้า(9) และต่อวันปรโลกพวกเขาเชื่อมั่น
Comment : (8)คือ คัมภีร์ อัลกุรอานที่ถูกประทานลงมาแก่นบี
Comment : (9)ได้แก่คัมภีร์ เตารอตและอินญีล และคัมภีร์อื่นๆ
2:5
أُو۟لَـٰٓئِكَ عَلَىٰ هُدًۭى مِّن رَّبِّهِمْ ۖ وَأُو۟لَـٰٓئِكَ هُمُ ٱلْمُفْلِحُونَ
Translation : ชนเหล่านี้ คือ ผู้ที่(ตั้ง)อยู่บนแนวทาง(10) ที่มาจากพระผู้อภิบาลของพวกเขา และชนเหล่านี้ คือผู้ที่บรรลุผล
Comment : (10)ปฏิบัติตามคำแนะนำที่มาจากอัลลอฮ์ผู้เป็นพระเจ้าของพวกเรา
2:6
إِنَّ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ سَوَآءٌ عَلَيْهِمْ ءَأَنذَرْتَهُمْ أَمْ لَمْ تُنذِرْهُمْ لَا يُؤْمِنُونَ
Translation : แท้จริงบรรดาผู้ที่ปฏิเสธการศรัทธานั้นย่อมมีผลเท่ากันแก่พวกเขา เจ้าจะตักเตือนพวกเขาแล้วหรือยังมิได้ตักเตือนพวกเขาก็หาได้ศรัทธาไม่
2:7
خَتَمَ ٱللَّهُ عَلَىٰ قُلُوبِهِمْ وَعَلَىٰ سَمْعِهِمْ ۖ وَعَلَىٰٓ أَبْصَـٰرِهِمْ غِشَـٰوَةٌۭ ۖ وَلَهُمْ عَذَابٌ عَظِيمٌۭ
Translation : อัลลอฮ์ได้ทรงประทับปิดบนหัวใจของพวกเขา และบนหูของพวกเขา และบนตาของพวกเขาก็มีสิ่งบดบังอยู่(11) และเขาเหล่านั้นจะได้รับการลงโทษอันมหันต์
Comment : (11)เป็นการเปรียบเทียบผู้ปฏิเสธศรัทธาว่า พวกเขาประหนึ่งผู้ที่หัวใจและหูของเขาถูกปิดพนึกไว้ เพราะการไม่ยอมเข้าใจ และสดับฟังความจริงที่มาจากพระเจ้าของเขา ย่อมไม่แตกต่างกับหัวใจและหูที่ถูกปิดผนึกไว้แต่อย่างใด เพราะต่างก็ไม่ได้รับความกระจ่างจากอัลลอฮ์เช่นเดียวกันและตาของพวกเขาที่ไม่ใช้มองในสิ่งที่อำนวยประโยชน์ ก็ไม่แตกต่างจากตาที่มีสิ่งปกคลุมแต่อย่างใด
2:8
وَمِنَ ٱلنَّاسِ مَن يَقُولُ ءَامَنَّا بِٱللَّهِ وَبِٱلْيَوْمِ ٱلْـَٔاخِرِ وَمَا هُم بِمُؤْمِنِينَ
Translation : และจากหมู่มนุษย์มีผู้กล่าว่าเราได้ศรัทธาต่ออัลลอฮ์และวันปรโลกแล้ว ทั้งๆ ที่พวกเขาหาใช่เป็นผู้ศรัทธาไม่(12)
Comment : (12)หมายถึงพวกมุนาฟิกที่ศรัทธาแต่เพียงคำพูด แต่หัวใจปฏิเสธ
2:9
يُخَـٰدِعُونَ ٱللَّهَ وَٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ وَمَا يَخْدَعُونَ إِلَّآ أَنفُسَهُمْ وَمَا يَشْعُرُونَ
Translation : เขาเหล่านั้นต่างหลอกลวงอัลลอฮ์และบรรดาผู้ที่ศรัทธา และพวกเขาหาได้หลอกลวงใครไม่ นอกจากตัวของพวกเขาเอง(13) แต่พวกเขาไม่รู้สึก
Comment : (13)คือการหลอกลวงของพวกเขานั้น หาได้เป็นอันตรายแก่ผู้ใดไม่ นอกจากตัวของพวกเขาเองเท่านั้น เพราะพวกเขาปฏิเสธข้อปฏิบัติที่จะอำนวยประโยชน์แก่ตัวของพวกเขาเอง แต่พวกเขาไม่รู้สึก
2:10
فِى قُلُوبِهِم مَّرَضٌۭ فَزَادَهُمُ ٱللَّهُ مَرَضًۭا ۖ وَلَهُمْ عَذَابٌ أَلِيمٌۢ بِمَا كَانُوا۟ يَكْذِبُونَ
Translation : ในหัวใจของพวกเขามีโรคอย่างหนึ่ง(14) แล้วอัลลอฮ์ได้ทรงเพิ่มโรคอีกอย่างหนึ่ง(15) ให้แก่พวกเขา และพวกเขาจะได้รับการลงโทษอันเจ็บแสบเนื่องจากการที่พวกเขากล่าวเท็จ
Comment : (14)โรคแห่งความสงสัย
Comment : (15)โรคแห่งความดื้นรั้นและปฏิเสธศรัทธา
2:11
وَإِذَا قِيلَ لَهُمْ لَا تُفْسِدُوا۟ فِى ٱلْأَرْضِ قَالُوٓا۟ إِنَّمَا نَحْنُ مُصْلِحُونَ
Translation : และเมื่อได้ถูกกล่าวแก่พวกเขาว่า พวกท่านจงอย่าก่อความเสียหาแก่แผ่นดิน พวกเขาก็กล่าวว่า ที่จริงนั้นเราเป็นผู้ปรับปรุงให้ดีต่างหาก(16)
Comment : (16)เป็นการกล่าวแก้ต่างที่แสดงออกซึ่งความดึงดัน และมีทิฐิ
2:12
أَلَآ إِنَّهُمْ هُمُ ٱلْمُفْسِدُونَ وَلَـٰكِن لَّا يَشْعُرُونَ
Translation : พึงรู้เถิดว่า แท้จริง พวกเขานั่นแหละเป็นผู้ที่ก่อความเสียหาย(17) แต่ทว่าพวกเขาไม่รู้สึก
Comment : (17)เพราะพวกเขาประพฤติและปฏิบัติตามความใคร่ใฝ่ต่ำ จึงก่อให้เกิดความเสียหาย แต่เนื่องจากหัวใจของพวกเขาบอดเสียแล้วพวกเขาจึงไม่รู้สึก
2:13
وَإِذَا قِيلَ لَهُمْ ءَامِنُوا۟ كَمَآ ءَامَنَ ٱلنَّاسُ قَالُوٓا۟ أَنُؤْمِنُ كَمَآ ءَامَنَ ٱلسُّفَهَآءُ ۗ أَلَآ إِنَّهُمْ هُمُ ٱلسُّفَهَآءُ وَلَـٰكِن لَّا يَعْلَمُونَ
Translation : และเมื่อได้ถูกล่าวแก่พวกเขาว่า พวกท่านจงศรัทธาเยี่ยงที่ประชาชน(18) เขาศรัทธาเถิด พวกเขากล่าวว่าจะให้เราศรัทธาเยี่ยงผู้โฉดเขลาเหล่านั้นศรัทธา(19) กระนั่นหรือ? พึงรู้เถิดว่า พวกเขาเองนั่นแหละเป็นผู้ที่โฉดเขลาแต่พวกเขาหารู้ไม่
Comment : (18)หมายถึงผู้ที่ศรัทธาด้วยใจจริง
Comment : (19)หมายถึงผู้ที่ศรัทธาต่อท่านนบีมูฮัมมัด กล่าวคือ พวกมุนาฟิกนั้น เมื่อได้รับคำเชิญชวนให้ศรัทธาต่อท่านนบี เช่นเดียวกับผู้ศรัทธาทั้งหลาย พวกเขากล่าวว่า ผู้ศรัทธาทั้งหลายเป็นพวกโง่เขลาทั้งนั้น จะให้พวกเขาศรัทธาเช่นพวกเหล่านั้นย่อมเป็นไปไม่ได้
2:14
وَإِذَا لَقُوا۟ ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ قَالُوٓا۟ ءَامَنَّا وَإِذَا خَلَوْا۟ إِلَىٰ شَيَـٰطِينِهِمْ قَالُوٓا۟ إِنَّا مَعَكُمْ إِنَّمَا نَحْنُ مُسْتَهْزِءُونَ
Translation : และเมื่อพวกเขาพบบรรดาผู้ศรัทธาพวกเขาก็กล่าวว่า เราศรัทธาแล้วและเมื่อพวกเขาได้อยู่กับบรรดาหัวโจกพวกเขาแต่ลำพังพวกเขาก็กล่าวว่า แท้จริง เรายังอยู่กับพวกท่าน ที่จริงเราเป็นแต่เพียงผู้เย้ยหยันเท่านั้น(20)
Comment : (20)คือเย้ยหยันผู้ศรัทธา ด้วยการแสดงตนว่าเป็นผู้ศรัทธา ทั้ง ๆ ที่พวกเขาไม่ได้ศรัทธาแต่อย่างใด
2:15
ٱللَّهُ يَسْتَهْزِئُ بِهِمْ وَيَمُدُّهُمْ فِى طُغْيَـٰنِهِمْ يَعْمَهُونَ
Translation : อัลลอฮ์ทรงเย้ยหยันพวกเขาและทรงยืดเวลาให้พวกเขาระเริงอยู่ในการละเมิดของพวกเขาต่อไป(21)
Comment : (21)อัลลอฮ์จะไม่ทรงลงโทษในทันทีทันใด แต่จะทรงปล่อยให้พวกเขาระเริงอยู่ในการละเมิดต่อไป จนกระทั่งทรงเห็นว่าได้เวลาอันสมควรแล้ว ก็จะทรงลงโทษ และผู้ใดที่อัลลอฮ์ทรงลงโทษแล้วก็ไม่มีใครจะช่วยเขาได้
2:16
أُو۟لَـٰٓئِكَ ٱلَّذِينَ ٱشْتَرَوُا۟ ٱلضَّلَـٰلَةَ بِٱلْهُدَىٰ فَمَا رَبِحَت تِّجَـٰرَتُهُمْ وَمَا كَانُوا۟ مُهْتَدِينَ
Translation : ชนเหล่านี้คือผู้ที่ซื้อทางหลงผิดด้วยทางที่ถูกต้อง(22) ดังนั้นการค้าของพวกเขาจึงไม่ได้กำไร(23) และทั้งพวกเขาก็ไม่เคยเป็นผู้รับเอาทางที่ถูกต้อง
Comment : (22)คือนำเอาแนวทางที่ถูกต้องที่อัลลอฮ์ทรงประทานให้ไปแลกเปลี่ยนเอาทางที่ผิด
Comment : (23)อัลลอฮ์ทรงเปรียบเทียบการดำเนินชีวิตของมนุษย์ว่าเหมือนกับการค้าขาย กล่าวคือการดำเนินชีวิตในทางที่ผิดนั้น ย่อมทำให้ชีวิตได้รับความเดือดร้อนฉันใด การค้าขายที่ซื้อแต่สินค้าเลว ๆ และเสียหาย ย่อมนำมาซึ่งการขาดทุนฉันนั้น
2:17
مَثَلُهُمْ كَمَثَلِ ٱلَّذِى ٱسْتَوْقَدَ نَارًۭا فَلَمَّآ أَضَآءَتْ مَا حَوْلَهُۥ ذَهَبَ ٱللَّهُ بِنُورِهِمْ وَتَرَكَهُمْ فِى ظُلُمَـٰتٍۢ لَّا يُبْصِرُونَ
Translation : อุปมาพวกเขา ดังผู้ที่จุดไฟขึ้น(24) ครั้งเมื่อไฟได้ให้แสงสว่างแก่สิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวเขา(25) อัลลอฮ์ก็ทรงนำเอาแสงสว่างของพวกเขาไป(26) และปล่อยพวกเขาไว้ในบรรดาความมืด ซึ่งพวกเขาไม่สามารถจะมองเห็นได้
Comment : (24)เพื่อจะได้เห็นสิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัวพวกเขาว่า มีอะไรบ้างที่มีประโยชน์และเป็นอันตรายแก่ตัวของพวกเขาอันเปรียบได้ดั่งการมาของอิสลาม เพราะอิสลามทำให้เขารู้และเข้าใจสิ่งที่เป็นหน้าที่ของพวกเขา ความที่ว่า “สิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัวของพวกเขา” นั้น หมายถึงหน้าที่ต่าง ๆ ที่พวกเขาต้องปฏิบัติ
Comment : (25)เมื่อไฟได้ช่วยให้เขาเห็นสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวเขา อันหมายถึงหน้าที่ของพวกเขา แทนที่เขาจะให้ความสนใจกับสิ่งเหล่านั้นเพื่อประโยชน์แก่ตัวของเขา กลับทำเป็นไม่เห็นและผินหลังให้เสีย
Comment : (26)เมื่อพวกเขาไม่สนใจในสิ่งที่พวกเขาเห็นรอบ ๆ ตัวของเขา อัลลอฮ์ทรงปล่อยให้พวกเขาอยู่ในความมืดต่อไปกล่าวคือ ปล่อยให้จมปลักในความโง่ต่อไป ตามที่พวกเขาปรารถนา ทั้งนี้โดยที่ได้ทรงใช้ถ้อยคำในเชิงประชดว่า อัลลอฮ์ก็ทรงนำเอาแสงสว่างของพวกเขาไป ปล่อยให้พวกเขาอยู่ในความมืดมิด ซึ่งพวกเขาไม่สามารถจะมองเห็นได้ ในการที่จะทำให้พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ในความมืด โดยไม่สามารถรู้ว่าอะไรควรและไม่ควร อันเป็นการเปรียบเทียบให้เห็นสภาพของผู้ปฏิบัติศรัทธาว่าการดำเนินชีวิตของพวกเขานั้นเหมือนอยู่ในความมืด
2:18
صُمٌّۢ بُكْمٌ عُمْىٌۭ فَهُمْ لَا يَرْجِعُونَ
Translation : เขาเหล่านั้นเป็นคนหูหนวก เป็นใบ้ และตาบอด ดังนั้น พวกเขาจึงไม่สามารถจะกลับมาได้(27)
Comment : (27)อัลลอฮ์ทรงเปรียบเทียบพวกเขาว่าประหนึ่ง คนหูหนวก เป็นใบ้ และตาบอด และประการหนึ่งว่าพวกมุนาฟิกนั้น เป็นพวกที่สูญเสียอวัยวะสำคัญทั้งสามดังกล่าว แน่นอนผู้ที่มีสภาพดังกล่าวย่อมไม่สามารถกลับไปสู่ทางที่ถูกได้ เพราะว่าจะฟังเขาพูดก็ไม่ได้ยิน จะถามเขาก็พูดไม่ได้ และจะมองก็มองไม่เห็น อันนับได้ว่าเป็นมนุษย์ที่น่าทุเรศที่สุด
2:19
أَوْ كَصَيِّبٍۢ مِّنَ ٱلسَّمَآءِ فِيهِ ظُلُمَـٰتٌۭ وَرَعْدٌۭ وَبَرْقٌۭ يَجْعَلُونَ أَصَـٰبِعَهُمْ فِىٓ ءَاذَانِهِم مِّنَ ٱلصَّوَٰعِقِ حَذَرَ ٱلْمَوْتِ ۚ وَٱللَّهُ مُحِيطٌۢ بِٱلْكَـٰفِرِينَ
Translation : หรือดังฝนที่หลั่งลงมาจากฟากฟ้าโดยที่ในฝนนั้นมีทั้งบรรดาความมืด ฟ้าคำรนและฟ้าแลบ พวกเขาจึงเอานิ้วมือของพวกเขาอุดหูไว้เนื่องจากฟ้าผ่าเพราะกลัวความตาย(28) และอัลลอฮ์นั้นทรงห้อมล้อม(29) พวกปฏิเสธการศรัทธา
Comment : (28)ตามธรรมดาสำหรับผู้มีปัญญานั้น เมื่อกลัวฟ้าผ่า ก็จะต้องหลีกเลี่ยงให้ห่างไกลจากสิ่งที่เป็นสื่อไฟฟ้าเสีย จึงจะได้รับความปลอดภัย ไม่ใช่เอานิ้วมืออุดหู เพื่อไม่ให้ได้ยินเสียฟ้าผ่า แล้วฟ้าก็จะไม่ผ่า อันเป็นการกระทำของผู้ที่ขาดปัญญา ในทำนองเดียวกัน พวกมุนาฟิกที่พยายามหลีกเลี่ยงไม่ยอมฟัง อัลกุรอาน และคำแนะนำของท่านนบีนั้น ก็ใช่ว่าจะพ้นการลงโทษของอัลลอฮ์ได้ เพียงแต่แก้ตัวว่าไม่เคยได้ยินโองการของอัลลอฮ์และคำแนะนำของท่านนบีเท่านั้น
Comment : (29)เป็นการแจ้งให้ทราบว่าพวกเขาไม่สามารถจะหนีให้พ้นไปได้ เพราะประหนึ่งพวกเขาถูกล้อมไว้แล้ว
2:20
يَكَادُ ٱلْبَرْقُ يَخْطَفُ أَبْصَـٰرَهُمْ ۖ كُلَّمَآ أَضَآءَ لَهُم مَّشَوْا۟ فِيهِ وَإِذَآ أَظْلَمَ عَلَيْهِمْ قَامُوا۟ ۚ وَلَوْ شَآءَ ٱللَّهُ لَذَهَبَ بِسَمْعِهِمْ وَأَبْصَـٰرِهِمْ ۚ إِنَّ ٱللَّهَ عَلَىٰ كُلِّ شَىْءٍۢ قَدِيرٌۭ
Translation : สายฟ้าแลบแทบจะเฉี่ยวสายตาของพวกเขาไป(30) คราใดที่มันให้แสงสว่างแก่พวกเขา พวกเขาก็เดินไปในแสงสว่างนั้น(31) และเมื่อมันมืดลงแก่พวกเขา พวกเขาก็หยุดยืน และหากอัลลอฮ์ทรงประสงค์แล้ว(32) แน่นอนก็ทรงนำเอาหูและตาของพวกเขาไปแล้ว แท้จริง อัลลอฮ์นั้นทรงอานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง
Comment : (30)อัลลอฮ์ทรงเปรียบเทียบว่า ความชัดเจนของอัลกุรอานนั้นให้ความเจิดจ้าประดุจสายฟ้าแลบที่แทบจะเฉี่ยวสายตาของพวกเขาไป
Comment : (31)ทรงเทียบว่า เมื่ออัลกุรอานได้ให้ความเข้าใจแก่พวกเขา ในสิ่งที่พวกเขายังมืดมนอยู่ (อันเปรียบเสมือนแสงฟ้าแลบที่ให้ความสว่างแก่พวกเขา) พวกเขาก็ปฏิบัติตาม แต่เมื่อพวกเขาไม่สบอารมณ์ในข้อความของอัลกุรอาน (อันเปรียบเสมือนแสงฟ้าแลบได้มืดลง) พวกเขาก็ไม่ยอมปฏิบัติ (อันเปรียบเสมือนพวกที่ยืนอยู่กับที่)
Comment : (32)ถ้าอัลลอฮ์ทรงประสงค์จะลงโทษพวกเขา พระองค์ก็ทรงให้ตาของพวกเขาบอดไปแล้ว เพราะมีตาก็เหมือนไม่มี เนื่องจากไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองแต่อย่างใด
2:21
يَـٰٓأَيُّهَا ٱلنَّاسُ ٱعْبُدُوا۟ رَبَّكُمُ ٱلَّذِى خَلَقَكُمْ وَٱلَّذِينَ مِن قَبْلِكُمْ لَعَلَّكُمْ تَتَّقُونَ
Translation : มนุษย์เอ๋ย! จงเคารพอิบาดะฮ์(33) พระผู้อภิบาลของพวกเจ้าที่ทรงบังเกิดพวกเจ้าและบรรดาผู้ที่มาก่อนพวกเจ้าเถิดเพื่อว่าพวกเจ้าจะยำเกรง
Comment : (33)การให้เอกภาพแเด่อัลลอฮ์ด้วยความนอบน้อมถ่อมตน และจงรักภักดีต่อพระองค์
2:22
ٱلَّذِى جَعَلَ لَكُمُ ٱلْأَرْضَ فِرَٰشًۭا وَٱلسَّمَآءَ بِنَآءًۭ وَأَنزَلَ مِنَ ٱلسَّمَآءِ مَآءًۭ فَأَخْرَجَ بِهِۦ مِنَ ٱلثَّمَرَٰتِ رِزْقًۭا لَّكُمْ ۖ فَلَا تَجْعَلُوا۟ لِلَّهِ أَندَادًۭا وَأَنتُمْ تَعْلَمُونَ
Translation : พระองค์คือผู้ทรงให้แผ่นดินเป็นที่นอน(34) และฟ้าเป็นอาคาร(35) แก่พวกเจ้าและทรงให้น้ำหลั่งลงมาจากฟากฟ้าแล้วได้ทรงให้บรรดาผลไม้ออกมาเนื่องด้วยน้ำนั้นทั้งนี้เพื่อเป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้า ดังนั้น พวกเจ้าจงอย่าให้มีผู้เท่าเทียมใดๆ ขึ้น สำหรับอัลลอฮ์(36) โดยที่พวกเจ้าก็รู้กันอยู่
Comment : (34)ให้แผ่นดินเป็นผืนราบเหมือนที่นอน
Comment : (35)ให้ฟากฟ้าที่มองเห็นเป็นรูปโดมนั้น เป็นเสมือนอาคารที่มนุษย์พักอาศัย
Comment : (36)อย่าให้มีผู้หนึ่งผู้ใดหรือสิ่งหนึ่งสิ่งใดเท่าเทียมกับพระองค์ ทั้งในความรัก ความกลัวเกรง และในการจงรักภักดี ตลอดจนในสิ่งอื่นใดทั้งสิ้น กล่าวคือ เราจะต้องให้พระองค์อยู่เหนือกว่าสิ่งใดทั้งมวล เฉพาะอย่างยิ่งในการอิบาดะฮ์ต่อพระองค์ทุกประเภท จะต้องให้เป็นไปเพื่อความโปรดปรานของพระองค์ แต่เพียงองค์เดียวเท่านั้น
2:23
وَإِن كُنتُمْ فِى رَيْبٍۢ مِّمَّا نَزَّلْنَا عَلَىٰ عَبْدِنَا فَأْتُوا۟ بِسُورَةٍۢ مِّن مِّثْلِهِۦ وَٱدْعُوا۟ شُهَدَآءَكُم مِّن دُونِ ٱللَّهِ إِن كُنتُمْ صَـٰدِقِينَ
Translation : และหากว่าพวกเจ้าอยู่ในความแคลงใจใด ๆ จากสิ่ง(37) ที่เราได้ลงมาแก่บ่าวของเราแล้ว(38) ก็จงนำมาสักซูเราะฮฺหนึ่งเยี่ยงนั้น(39) และจงเชิญชวนผู้ที่อยู่ในหมู่พวกเจ้าอื่นนอกจากอัลลอฮ์หากพวกเจ้าเป็นผู้พูดจริง(40)
Comment : (37)จากอัลกุรอาน
Comment : (38)แก่ท่านนบีมุฮัมมัด
Comment : (39)คือจงประพันธ์มาสักซูเราะฮ์หนึ่ง เช่นเดียวกับอัลกุรอาน
Comment : (40)อัลลอฮ์ทรงใช้ให้พวกเขาชักชวนบรรดาผู้เชี่ยวชาญที่ร่วมอยู่ในหมู่พวกเขาให้ช่วยเหลือในการประพันธ์อีกด้วย ยกเว้นอัลลอฮ์องค์เดียวเท่านั้น หากพวกเขาพูดจริงตามที่อ้างไว้ และการที่ต้องยกเว้นอัลลอฮ์นั้นก็เพราะว่าพระองค์อยู่ในสภาพที่ร่วมอยู่กับพวกเขาด้วยและสามารถประพันธ์ได้ เพราะอัลกุรอานเป็นดำรัสของพระองค์
2:24
فَإِن لَّمْ تَفْعَلُوا۟ وَلَن تَفْعَلُوا۟ فَٱتَّقُوا۟ ٱلنَّارَ ٱلَّتِى وَقُودُهَا ٱلنَّاسُ وَٱلْحِجَارَةُ ۖ أُعِدَّتْ لِلْكَـٰفِرِينَ
Translation : แต่พวกเจ้าก็ยังมิได้ทำและจะไม่กระทำตลอดไปแล้วก็จงระวังไฟนรกซึ่งเชื้อเพลิงของมันนั้นคือ มนุษย์และหิน(41) โดยที่มันได้ถูกเตรียมไว้สำหรับบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา
Comment : (41)หมายถึงมนุษย์ที่ดื้อด้าน และปฏิเสธศรัทธา ส่วนหินนั้นหมายถึงหินที่มนุษย์นำมาสลักเป็นเจว็ดสำหรับเคารพสักการะ
2:25
وَبَشِّرِ ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ وَعَمِلُوا۟ ٱلصَّـٰلِحَـٰتِ أَنَّ لَهُمْ جَنَّـٰتٍۢ تَجْرِى مِن تَحْتِهَا ٱلْأَنْهَـٰرُ ۖ كُلَّمَا رُزِقُوا۟ مِنْهَا مِن ثَمَرَةٍۢ رِّزْقًۭا ۙ قَالُوا۟ هَـٰذَا ٱلَّذِى رُزِقْنَا مِن قَبْلُ ۖ وَأُتُوا۟ بِهِۦ مُتَشَـٰبِهًۭا ۖ وَلَهُمْ فِيهَآ أَزْوَٰجٌۭ مُّطَهَّرَةٌۭ ۖ وَهُمْ فِيهَا خَـٰلِدُونَ
Translation : และ(มุฮัมมัด) จงแจ้งข่าวดีแก่บรรดาผู้ศรัทธา และประกอบสิ่งที่ดีทั้งหลายว่าแน่นอนพวกเขาจะได้รับบรรดาสวนสวรรค์ ซึ่งมีแม่น้ำหลายสายไหลอยู่ เบื้องใต้สวนสวรรค์เหล่านั้น คราใดที่พวกเขาได้รับผลไม้จากสวนสวรรค์นั้นเป็นเครื่องยังชีพ พวกเขาก็กล่าวว่า นี่คือสิ่งที่เราได้รับเป็นปัจจัยยังชีพมาก่อนแล้ว(42) และสิ่งที่พวกเขาได้รับนั้นมีลักษณะคล้ายคลึงกัน และในสวรรค์นั้น พวกเขาจะได้รับคู่ครองที่บริสุทธิ์(43) และพวกเขาจะพำนักอยู่ในสวรรค์นั้นตลอดกาล
Comment : (42)โดยเข้าใจผิดว่า เป็นผลไม้ที่เหมือนกับที่พวกเขาเคยบริโภคมาก่อนแล้วในโลกนี้ ทั้งนี้เพราะมีลักษณะคล้ายคลึงกัน แต่ความจริงนั้นเหมือนแต่เพียงรูปร่าง และลักษณะเท่านั้น ส่วนรสชาติห่างไกลกันมาก
Comment : (43)คือคู่ครองที่บริสุทธิ์ทั้งจิตใจและร่างกาย และบริสุทธิ์จากการแตะต้องโดยมนุษย์และญิน เป็นคู่ครองที่อยู่กันเยี่ยงสามีภรรยา หาใช่เป็นเพียงเพื่อนสนทนาอย่างที่พวกก็อดยานีเข้าใจไม่
2:26
۞ إِنَّ ٱللَّهَ لَا يَسْتَحْىِۦٓ أَن يَضْرِبَ مَثَلًۭا مَّا بَعُوضَةًۭ فَمَا فَوْقَهَا ۚ فَأَمَّا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ فَيَعْلَمُونَ أَنَّهُ ٱلْحَقُّ مِن رَّبِّهِمْ ۖ وَأَمَّا ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ فَيَقُولُونَ مَاذَآ أَرَادَ ٱللَّهُ بِهَـٰذَا مَثَلًۭا ۘ يُضِلُّ بِهِۦ كَثِيرًۭا وَيَهْدِى بِهِۦ كَثِيرًۭا ۚ وَمَا يُضِلُّ بِهِۦٓ إِلَّا ٱلْفَـٰسِقِينَ
Translation : แท้จริงอัลลอฮ์ไม่ทรงละอายในการที่พระองค์จะทรงยกอุทาหรณ์ใดๆ ขึ้นเปรียบเทียบไม่ว่าจะเป็นริ้นสักตัวหนึ่งแล้วก็สิ่งที่ยิ่งไปกว่านั้นก็ตาม(44) ส่วนบรรดาผู้ที่ศรัทธานั้นพวกเขาย่อมรู้ว่าแท้จริงมัน(45) คือความจริงที่มาจากพระเจ้าของพวกเขาและส่วนบรรดาผู้ที่ปฏิเสธการศรัทธา พวกเขาจะพูดว่าอัลลอฮ์ทรงประสงค์สิ่งใดในการยกอุทาหรณ์ด้วยสิ่งนี้(46)? พระองค์ทรงให้คนมากมายหลงผิดด้วยอุทาหรณ์นั้น(47) และทรงแนะนำทางที่ถูกต้องแก่คนมากมายด้วยอุทาหรณ์นั้น(48) และพระองค์จะไม่ทรงให้ใครหลงผิดด้วยอุทาหรณ์นั้นนอกจากผู้ที่ฝ่าฝืนเท่านั้น
Comment : (44)สิ่งที่เล็กยิ่งกว่าริ้น
Comment : (45)อุทาหรณ์ที่อัลลอฮ์ทรงยกมาเปรียบเทียบ
Comment : (46)ในการที่พระองค์ทรงนำเอาริ้นมาเปรียบเทียบ เนื่องจากพระองค์ทรงประสงค์ในการทดสอบบุคคล
Comment : (47)พวกที่ดื้อดึงไม่ยอมเชื่อ เนื่องจากไม่ใช้ปัญญาหาความเข้าใจ ในอุทาหรณ์ดังกล่าว ดังนั้นพวกเขาจึงหลงทางด้วยการปฏิเสธศรัทธา
Comment : (48)สำหรับผู้ที่ใช้ปัญญา ย่อมเข้าใจในอุทาหรณ์ดีแล้ว พวกเขาก็ได้รับแนวทางที่ถูกต้อง และศรัทธาต่อพระองค์
2:27
ٱلَّذِينَ يَنقُضُونَ عَهْدَ ٱللَّهِ مِنۢ بَعْدِ مِيثَـٰقِهِۦ وَيَقْطَعُونَ مَآ أَمَرَ ٱللَّهُ بِهِۦٓ أَن يُوصَلَ وَيُفْسِدُونَ فِى ٱلْأَرْضِ ۚ أُو۟لَـٰٓئِكَ هُمُ ٱلْخَـٰسِرُونَ
Translation : คือบรรดาผู้ที่ทำลายสัญญาของอัลลอฮ์หลังจากที่ได้มีสัญญาไว้แก่พระองค์(49) และตัดสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงใช้ให้ต่อ(50) และบ่อนทำลายในผืนแผ่นดินชนเหล่านี้แหละคือพวกที่ขาดทุน
Comment : (49)สัญญาทางสามัญสำนึก หรือทางสัญชาตญาณที่จะทำให้พวกเขายอมรับในการเป็นการเป็นพระเจ้าของอัลลอฮ์ ดังที่พระองค์ได้ทรงถามพวกเขาขณะยังอยู่ในสภาพเชื้อสุจิอยู่ว่า “ข้าไม่ใช่พระเจ้าของพวกเจ้าดอกหรือ ? พวกเขาตอบว่า ใช่ขอรับ พวกข้าพระองค์ขอยืนยัน” แต่แล้วพวกเขาก็ทำลายสัญญานั้นเสีย ด้วยการปฏิเสธการเป็นพระเจ้าของพระองค์
Comment : (50)ไม่ปฏิบัติตามสิ่งที่พระองค์ทรงใช้
2:28
كَيْفَ تَكْفُرُونَ بِٱللَّهِ وَكُنتُمْ أَمْوَٰتًۭا فَأَحْيَـٰكُمْ ۖ ثُمَّ يُمِيتُكُمْ ثُمَّ يُحْيِيكُمْ ثُمَّ إِلَيْهِ تُرْجَعُونَ
Translation : พวกเจ้าจะปฏิเสธการศรัทธาต่ออัลลอฮ์ได้อย่างไร? ทั้งๆ ที่พวกเจ้านั้นเคยปราศจากชีวิตมาก่อน(51) แล้วพระองค์ก็ทรงให้เจ้ามีชีวิตขึ้นภายหลังก็จะทรงให้พวกเจ้าตายแล้วก็จะทรงให้พวกเจ้ามีชีวิตขึ้นอีกและพวกเจ้าก็จะถูกนำกลับไปสู่พระองค์
Comment : (51)คือยังอยู่ในสภาพเป็นเดิม อันหมายถึงท่านนบีอาดัมผู้เป็นบิดาแห่งมนุษยชาติทั้งมวล
2:29
هُوَ ٱلَّذِى خَلَقَ لَكُم مَّا فِى ٱلْأَرْضِ جَمِيعًۭا ثُمَّ ٱسْتَوَىٰٓ إِلَى ٱلسَّمَآءِ فَسَوَّىٰهُنَّ سَبْعَ سَمَـٰوَٰتٍۢ ۚ وَهُوَ بِكُلِّ شَىْءٍ عَلِيمٌۭ
Translation : พระองค์คือผู้ได้ทรงสร้างสิ่งทั้งมวลในโลกไว้สำหรับพวกเจ้าภายหลังได้ทรงมุ่งสู่ฟากฟ้า(52) และได้ทำให้มันสมบูรณ์ขึ้นเป็นเจ็ดชั้นฟ้าและพระองค์เป็นผู้ทรงรอบรู้ในทุกสิ่งทุกอย่าง
Comment : (52)ซึ่งขณะนั้นฟากฟ้ายังเป็นหมอกควันอยู่ ดังที่พระองค์ทรงแจ้งไว้ว่า “แล้วพระองค์ได้ทรงมุ่งสู่ฟากฟ้า ขณะที่มันยังเป็นหมอกควันอยู่”
2:30
وَإِذْ قَالَ رَبُّكَ لِلْمَلَـٰٓئِكَةِ إِنِّى جَاعِلٌۭ فِى ٱلْأَرْضِ خَلِيفَةًۭ ۖ قَالُوٓا۟ أَتَجْعَلُ فِيهَا مَن يُفْسِدُ فِيهَا وَيَسْفِكُ ٱلدِّمَآءَ وَنَحْنُ نُسَبِّحُ بِحَمْدِكَ وَنُقَدِّسُ لَكَ ۖ قَالَ إِنِّىٓ أَعْلَمُ مَا لَا تَعْلَمُونَ
Translation : และจงรำลึกถึงขณะที่พระเจ้าของเจ้าได้ตรัสแก่มลาอิกะฮ์ว่าแท้จริง ข้าจะให้มีผู้แทนคนหนึ่ง(53) ในพิภพมลาอิกะฮ์ได้ทูลขึ้นว่าพระองค์จะทรงให้มีขึ้นในพิภพซึ่งผู้ที่บ่อนทำลายและก่อการนองเลือดในพิภพกระนั้นหรือ(54)? ทั้งๆ ที่พวกข้าพระองค์ให้ความบริสุทธิ์พร้อมด้วยการสรรเสริญพระองค์และเทิดทูนความบริสุทธิ์ในพระองค์ พระองค์ตรัสว่าแท้จริงข้ารู้ยิ่งในสิ่งที่พวกเจ้าไม่รู้(55)
Comment : (53)คือนบีอาดัม ซึ่งเป็นมนุษย์คนแรก และเป็นบิดาของมนุษยชาติมิใช่คนใดคนหนึ่งที่ชื่ออาดัม ตามที่พวกก็อดยานีได้บิดเบือนไว้
Comment : (54)การที่มลาอิกะฮ์กล่าวเช่นนั้น อาจเข้าใจได้ว่าเมื่อก่อนโน้นอัลลอฮ์เคยบังเกิดสิ่งที่มีชีวิต และมีปัญญามาในโลก แล้วพวกเขาเหล่านั้นประหัตประหารกัน จนกระทั่งสูญพันธุ์ ทั้งนี้ด้วยพระประสงค์ของพระองค์แล้วพระองค์ก็ทรงบังเกิดอาดัมขึ้นมาใหม่จากเดิม เพื่อเป็นผู้แทนของพระองค์ในพิภพ ซึ่งจะมีลูกหลานแพร่สะพัดไปทั่วโลกในการนี้ให้มลาอิกะฮ์เข้าใจว่า ลูกหลานของอาดัมจะประหัตประหารกัน และหลั่งเลือด จึงได้ถามพระองค์เพื่อต้องการทราบ ใช่ว่าเป็นการคัดค้านแต่อย่างใดไม่
Comment : (55)อัลลอฮ์ทรงรู้ดียิ่ง ถึงเป้าหมายในการบังเกิดท่านนบีอาดัม แต่มลาอิกะฮ์ไม่รู้
2:31
وَعَلَّمَ ءَادَمَ ٱلْأَسْمَآءَ كُلَّهَا ثُمَّ عَرَضَهُمْ عَلَى ٱلْمَلَـٰٓئِكَةِ فَقَالَ أَنۢبِـُٔونِى بِأَسْمَآءِ هَـٰٓؤُلَآءِ إِن كُنتُمْ صَـٰدِقِينَ
Translation : และพระองค์ได้ทรงสอนบรรดานามของทั้งปวงให้แก่อาดัม(56) ภายหลังได้ทรงแสดงสิ่งเหล่านั้นแก่มลาอิกะฮ์ แล้วตรัสว่าจงบอกบรรดาชื่อของสิ่งเหล่านั้นแก่ข้าหากพวกเจ้าเป็นผู้พูดจริง
Comment : (56)อัลลอฮ์ทรงสอนบรรดาชื่อทั้งปวงของสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสร้างไว้ในพิภพ ให้แก่นบีอาดัมได้ทราบ
2:32
قَالُوا۟ سُبْحَـٰنَكَ لَا عِلْمَ لَنَآ إِلَّا مَا عَلَّمْتَنَآ ۖ إِنَّكَ أَنتَ ٱلْعَلِيمُ ٱلْحَكِيمُ
Translation : พวกเขา(บรรดามลาอิกะฮ์)ทูลว่า มหาบริสุทธิ์พระองค์ท่านไม่มีความรู้ใดๆ แก่พวกข้าพระองค์นอกจากสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสอนพวกข้าพระองค์เท่านั้น แท้จริง พระองค์คือผู้ทรงรอบรู้ ผู้ทรงปรีชาญาณ
2:33
قَالَ يَـٰٓـَٔادَمُ أَنۢبِئْهُم بِأَسْمَآئِهِمْ ۖ فَلَمَّآ أَنۢبَأَهُم بِأَسْمَآئِهِمْ قَالَ أَلَمْ أَقُل لَّكُمْ إِنِّىٓ أَعْلَمُ غَيْبَ ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضِ وَأَعْلَمُ مَا تُبْدُونَ وَمَا كُنتُمْ تَكْتُمُونَ
Translation : พระองค์ตรัสว่า โอ้อาดัม! จงบอกบรรดาชื่อของสิ่งเหล่านั้นแก่พวกเขาที (บรรดามลาอิกะฮ์) ครั้นเมื่ออาดัมได้บอกชื่อของสิ่งเหล่านั้นแก่พวกเขาแล้วพระองค์จึงตรัสว่า ข้ามิได้บอกแก่พวกเจ้าดอกหรือว่า แท้จริงข้าเป็นผู้รู้ยิ่งซึ่งความเร้นลับแห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และเป็นผู้รู้ยิ่งในสิ่งที่พวกเจ้าเปิดเผย และสิ่งที่พวกเจ้าปกปิด
2:34
وَإِذْ قُلْنَا لِلْمَلَـٰٓئِكَةِ ٱسْجُدُوا۟ لِـَٔادَمَ فَسَجَدُوٓا۟ إِلَّآ إِبْلِيسَ أَبَىٰ وَٱسْتَكْبَرَ وَكَانَ مِنَ ٱلْكَـٰفِرِينَ
Translation : และจงรำลึกถึง ขณะที่เราได้กล่าวแก่มลาอิกะฮ์ว่า พวกเจ้าจงสุญูด(57) แก่อาดัมเถิด แล้วพวกเขาก็สุญูดกัน นอกจากอิบลีส(58) โดยที่มันไม่ยอมสุญูดและแสดงการโอหัง และมันจึงได้กลายเป็นผู้สิ้นสภาพแห่งการศรัทธา(กาฟิร์)
Comment : (57)หมายถึงการโน้มศีรษะลงด้วยความนอบน้อม เป็นการคารวะและเคารพนับถือ มิใช่หมายถึงการวางใบหน้าลงบนพื้นแต่อย่างใดเพราะปฏิบัติการดังกล่าวนี้ จะกระทำได้เฉพาะอัลลอฮ์เท่านั้น
Comment : (58)เป็นต้นตอแห่งเชื้อสายของชัยฏอน และชัยฏอนนั้นคือผู้ที่ฝ่าฝืนและดื้อดึงจากพวกญิน
2:35
وَقُلْنَا يَـٰٓـَٔادَمُ ٱسْكُنْ أَنتَ وَزَوْجُكَ ٱلْجَنَّةَ وَكُلَا مِنْهَا رَغَدًا حَيْثُ شِئْتُمَا وَلَا تَقْرَبَا هَـٰذِهِ ٱلشَّجَرَةَ فَتَكُونَا مِنَ ٱلظَّـٰلِمِينَ
Translation : และเราได้กล่าว่า โอ้ อาดัม! เจ้าและคู่ครองของเจ้าจงพำนักอยู่ในสวนสวรรค์เถิดและเจ้าทั้งสอง จงบริโภคจากสวนนั้นอย่างเปรมปรีดิ์ตามที่เจ้าทั้งสองปรารถนาและอย่าเข้าใกล้ต้นไม้ต้นนี้(59) (มิเช่นนั้นแล้ว) เจ้าทั้งสองจะกลายเป็นผู้อธรรมแก่ตัวเอง
Comment : (59)ต้นไม้ต้นหนึ่งในสวนสวรรค์ ซึ่งพระองค์ทรงชี้ให้อาดัมและเฮาวา ดู
2:36
فَأَزَلَّهُمَا ٱلشَّيْطَـٰنُ عَنْهَا فَأَخْرَجَهُمَا مِمَّا كَانَا فِيهِ ۖ وَقُلْنَا ٱهْبِطُوا۟ بَعْضُكُمْ لِبَعْضٍ عَدُوٌّۭ ۖ وَلَكُمْ فِى ٱلْأَرْضِ مُسْتَقَرٌّۭ وَمَتَـٰعٌ إِلَىٰ حِينٍۢ
Translation : ภายหลังจากชัยฏอนได้ทำให้ทั้งสองนั้นพลั้งพลาดไปเนื่องจากต้นไม้ต้นนั้น(60) แล้วได้ทำให้ทั้งสองออกจากสถานที่ที่เคยพำนักอยู่(61) และเราได้กล่าวว่าพวกเจ้าจงออกไปโดยที่บางส่วนของพวกเจ้าต่างเป็นศัตรูต่อกัน(62) และ(สำหรับพวกเจ้าในผืนแผ่นดินนั้น) มีที่พำนักและมีสิ่งอำนวยประโยชน์จนถึงระยะเวลาหนึ่ง(63)
Comment : (60)เนื่องจากเข้าใกล้ต้นไม้ต้นนั้น และบริโภคผลของมัน
Comment : (61)ออกจากสวนสวรรค์
Comment : (62)บางส่วนของลุกหลานอาดัม กับผู้ที่สืบเชื้อสายจขากอิบลีสที่จะมีต่อไป
Comment : (63)จนกว่าจะถึงวาระแห่งการสิ้นชีวิต
2:37
فَتَلَقَّىٰٓ ءَادَمُ مِن رَّبِّهِۦ كَلِمَـٰتٍۢ فَتَابَ عَلَيْهِ ۚ إِنَّهُۥ هُوَ ٱلتَّوَّابُ ٱلرَّحِيمُ
Translation : ครั้นดาอัมได้เรียนรู้คำวิงวอนจากพระผู้อภิบาลของเขา(64) แล้วพระองค์อภัยโทษแก่เขาแท้จริงพระองค์คือผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ
Comment : (64)แล้วได้วิงวอนขออภัยโทษต่อพระองค์
2:38
قُلْنَا ٱهْبِطُوا۟ مِنْهَا جَمِيعًۭا ۖ فَإِمَّا يَأْتِيَنَّكُم مِّنِّى هُدًۭى فَمَن تَبِعَ هُدَاىَ فَلَا خَوْفٌ عَلَيْهِمْ وَلَا هُمْ يَحْزَنُونَ
Translation : เราได้กล่าว่า พวกเจ้าจงออกไปทั้งหมด(65) จากสวนนั้นแล้วหากมีคำแนะนำจากข้ามายังพวกเจ้า ดั้งนั้น ผู้ใดที่ปฏิบัติตามคำแนะนำของข้าก็ไม่มีความกลัวใดๆ แก่พวกเขา(66) และทั้งพวกเขาก็จะไม่เสียใจ
Comment : (65)ทั้งนบีอาดัม พระนางเฮาวาอ์ และอิบลีส
Comment : (66)เมื่อพวกเขาฟื้นคืนชีพในวันปรโลก พวกเขาจะไม่มีความกลัวใด ๆ ที่จะถูกลงโทษ และจะไม่เสียใจในสิ่งตอบแทนที่พวกเขาจะได้รับ
2:39
وَٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ وَكَذَّبُوا۟ بِـَٔايَـٰتِنَآ أُو۟لَـٰٓئِكَ أَصْحَـٰبُ ٱلنَّارِ ۖ هُمْ فِيهَا خَـٰلِدُونَ
Translation : และบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธาและไม่เชื่อบรรดาโองการของเรา ชนเหล่านี้คือชาวนรกโดยที่พวกเขาจะอยู่ในนรกนั้นตลอดกาล
2:40
يَـٰبَنِىٓ إِسْرَٰٓءِيلَ ٱذْكُرُوا۟ نِعْمَتِىَ ٱلَّتِىٓ أَنْعَمْتُ عَلَيْكُمْ وَأَوْفُوا۟ بِعَهْدِىٓ أُوفِ بِعَهْدِكُمْ وَإِيَّـٰىَ فَٱرْهَبُونِ
Translation : วงศ์วานอิสรออีลเอ๋ย! จงรำลึกถึงความโปรดปรานของข้าที่ข้าได้โปรดปานแก่พวกเจ้า(67) และจงรักษาข้อสัญญาของข้าให้ครบถ้วน(68) ข้าก็จะรักษาสัญญาของพวกเจ้าให้ครบถ้วนและเฉพาะข้าเท่านั้นพวกเจ้าจงเกรงกลัว
Comment : (67)หมายถึงได้ทรงให้บุคคลในประชาชาติของอิสรออีล เป็นร่อซูลของพระองค์ติดต่อกันมาหลายยุคหลายสมัยจนพวกเขาเข้าใจผิดว่าพวกเขาเป็นประชาชาติที่อัลลอฮ์ทรงรัก
Comment : (68)ให้เคารพอิบาดะฮ์ต่อพระองค์แต่เพียงองค์เดียวเท่านั้น โดยปราศจากการตั้งภาคีใด ๆ ทั้งสิ้น ให้ปฏิบัติตามศาสนบัญญัติ และให้ศรัทธาต่อบรรดาร่อซูลของพระองค์ เมื่อประจักษ์หลักฐานความเป็นจริงของร่อซูลเหล่านั้น
2:41
وَءَامِنُوا۟ بِمَآ أَنزَلْتُ مُصَدِّقًۭا لِّمَا مَعَكُمْ وَلَا تَكُونُوٓا۟ أَوَّلَ كَافِرٍۭ بِهِۦ ۖ وَلَا تَشْتَرُوا۟ بِـَٔايَـٰتِى ثَمَنًۭا قَلِيلًۭا وَإِيَّـٰىَ فَٱتَّقُونِ
Translation : และพวกเจ้าจงศรัทธาต่อสิ่งที่ข้าได้ประทานลงมาเพื่อยืนยันสิ่งทีมีอยู่กับพวกเจ้า(69) และพวกเจ้าจงอย่าเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาต่อสิ่งนั้นเป็นคนแรก(70) และจงอย่าได้นำบรรดาโองการของข้าไปแลกเปลี่ยนด้วยราคาอันเล็กน้อย(71) และเฉพาะข้าเท่านั้นพวกเจ้าจงยำเกรง
Comment : (69)ให้ศรัทธาต่ออัลกุรอานที่ถูกประทานลงมาเพื่อยืนยันคัมภีร์เตารอด และอินญีล ซึ่งมีอยู่ในมือของเขา
Comment : (70)อย่าได้ละทิ้งโองการของอัลลอฮ์ที่ท่านนบีนำมา โดยเห็นแก่ประโยชน์เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เคยได้รับ
Comment : (71)อย่าได้ละทิ้งโองการของอัลลอฮ์ที่ท่านนบีนำมา โดยเห็นแก่ประโยชน์เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เคยได้รับ
2:42
وَلَا تَلْبِسُوا۟ ٱلْحَقَّ بِٱلْبَـٰطِلِ وَتَكْتُمُوا۟ ٱلْحَقَّ وَأَنتُمْ تَعْلَمُونَ
Translation : และพวกเจ้าจงอย่าได้ปะปนความจริงด้วยสิ่งเท็จและจงอย่าปกปิดความจริง(72) ทั้งๆ ที่พวกเจ้ารู้กันอยู่
Comment : (72)อย่าปกปิดลักษณะของนบีมุฮัมมัดที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์ของพวกเจ้า โดยนำเอาลักษณะอื่นที่ไม่เป็นจริงมาแทน
2:43
وَأَقِيمُوا۟ ٱلصَّلَوٰةَ وَءَاتُوا۟ ٱلزَّكَوٰةَ وَٱرْكَعُوا۟ مَعَ ٱلرَّٰكِعِينَ
Translation : และพวกเจ้าจงดำรงการละหมาดและจงชำระซะกาตและจงโค้งรุกัวะอ์ร่วมกับผู้รุกัวะอ์ทั้งหลาย(73)
Comment : (73)ให้พวกเขาอยู่ในหมู่มุสลิม และทำละหมาดร่วมกัน
2:44
۞ أَتَأْمُرُونَ ٱلنَّاسَ بِٱلْبِرِّ وَتَنسَوْنَ أَنفُسَكُمْ وَأَنتُمْ تَتْلُونَ ٱلْكِتَـٰبَ ۚ أَفَلَا تَعْقِلُونَ
Translation : พวกเจ้าใช้ให้ผู้คนกระทำความดี(74) และที่พวกเจ้าลืมตัวของพวกเจ้าเองกระนั้นหรือ ? และทั้งๆ ที่พวกเจ้าอ่านคัมภีร์กันอยู่ แล้วพวกเจ้าไม่ใช้ปัญญากระนั้นหรือ ?
Comment : (74)นักปราชญ์ของยิวได้แนะนำให้บางส่วนของพวกเขาศรัทธาต่อท่านนบีมุฮัมมัด แต่พวกเขาเองไม่ยอมศรัทธา
2:45
وَٱسْتَعِينُوا۟ بِٱلصَّبْرِ وَٱلصَّلَوٰةِ ۚ وَإِنَّهَا لَكَبِيرَةٌ إِلَّا عَلَى ٱلْخَـٰشِعِينَ
Translation : และพวกเจ้าจงอาศัยความอดทน(75) และการละหมาดเถิด(76) และแท้จริงการละหมาดนั้นเป็นภาระที่ยิ่งใหญ่(77) นอกจากสำหรับบรรดาผู้ที่นอบน้อมถ่อมตนเท่านั้น(78)
Comment : (75)ให้ใช้ความอดทนเป็นสำคัญในการปฏิบัติตามบัญญัติศาสนา
Comment : (76)ให้ดำรงไว้ซึ่งการละหมาดด้วย เพราะการละหมาดจะช่วยให้ผู้ปฏิบัติรำลึกถึงอัลลอฮ์และมีความยำแกรงต่ออัลลอฮ์
Comment : (77)ทั้งนี้เพราะการละหมาดนั้นต้องปฏิบัติเป็นเนืองนิจ อันเป็นภาระที่เปรียบเสมือนสิ่งใหญ่โตที่ต้องใช้การบากบั่นเป็นอย่างมาก
Comment : (78)นอกจากผู้ที่รู้จักอัลลอฮ์และนอบน้อมแต่พระองค์เท่านั้น ที่จะรู้สึกว่า การละหมาดนั้นเป็นเรื่องเล็กน้อย และปฏิบัติด้วยความศรัทธา
2:46
ٱلَّذِينَ يَظُنُّونَ أَنَّهُم مُّلَـٰقُوا۟ رَبِّهِمْ وَأَنَّهُمْ إِلَيْهِ رَٰجِعُونَ
Translation : (คือ) บรรดาผู้ที่คาดคิดว่า แน่นอนพวกเขาจะพบกับพระผู้อภิบาลของพวกเขาและแน่นอน พวกเขาจะเป็นผู้กลับไปยังพระองค์
2:47
يَـٰبَنِىٓ إِسْرَٰٓءِيلَ ٱذْكُرُوا۟ نِعْمَتِىَ ٱلَّتِىٓ أَنْعَمْتُ عَلَيْكُمْ وَأَنِّى فَضَّلْتُكُمْ عَلَى ٱلْعَـٰلَمِينَ
Translation : วงศ์วานอิสรออีลเอ๋ย! จงรำลึกถึงความโปรดปรานของข้าที่ข้าได้ให้ความโปรดปรานแก่พวกเจ้าและแท้จริงข้าได้เทิดเกียรติพวกเจ้าไว้เหนือประชาชาติทั้งหลาย(79)
Comment : (79)เหนือกว่าประชาชาติในสมัยนั้น และประชาชาติในอดีต เนื่องจากพวกเขายึดมั่นในบัญญัติแห่งศาสนาของพวกเขา
2:48
وَٱتَّقُوا۟ يَوْمًۭا لَّا تَجْزِى نَفْسٌ عَن نَّفْسٍۢ شَيْـًۭٔا وَلَا يُقْبَلُ مِنْهَا شَفَـٰعَةٌۭ وَلَا يُؤْخَذُ مِنْهَا عَدْلٌۭ وَلَا هُمْ يُنصَرُونَ
Translation : และสูเจ้าทั้งหลายจงกลัวเกรงวันหนึ่ง ซึ่งไม่มีชีวิตใดจะทดแทนสิ่งใดแก่อีกชีวิตได้(80) และการช่วยเหลือใดๆ ก็จะไม่ถูกรับจากชีวิตนั้น(81) และค่าไถ่ถอนใดๆ ก็จะไม่ถูกรับเอาจากชีวิตนั้น(82) ด้วย และทั้งพวกเขาก็จะไม่ได้รับความช่วยเหลือ
Comment : (80)ไม่มีคนใดที่จะช่วยแบกภาระแทนกันได้ แม้แต่จะเป็นพ่อแม่ พี่น้อง และลูก ภรรยาก็ตาม
Comment : (81)การขอให้ผู้อื่นมาช่วยเหลือให้ตนได้รับความกรุณาจากอัลลอฮ์นั้น ก็จะไม่ได้รับอนุมัติจากพระองค์
Comment : (82)ถ้าชีวิตนั้นจะนำค่าไถ่ถอนใดๆ เพื่อถ่ายถอนตัวเองให้พ้นจากการลงโทษ อัลลอฮ์ก็จะไม่ทรงรับ ดังกล่าวนี้เพียงเปรียบเทียบให้ทราบว่าไม่มีหนทางใดที่เขาจะหลีกเลี่ยงให้พ้นการลงโทษไปได้เท่านั้น
2:49
وَإِذْ نَجَّيْنَـٰكُم مِّنْ ءَالِ فِرْعَوْنَ يَسُومُونَكُمْ سُوٓءَ ٱلْعَذَابِ يُذَبِّحُونَ أَبْنَآءَكُمْ وَيَسْتَحْيُونَ نِسَآءَكُمْ ۚ وَفِى ذَٰلِكُم بَلَآءٌۭ مِّن رَّبِّكُمْ عَظِيمٌۭ
Translation : และพวกเจ้าจงรำลึกถึง ขณะที่เราได้ช่วยพวกเจ้าให้พ้นจากพวกพ้องของฟิรอาวน์โดยที่พวกเขาบังคับขู่เข็ญพวกเจ้าซึ่งการทรมานอันแสนสาหัส(83) พวกเขาเชือดบรรดาลูกผู้ชายของพวกเจ้าและไว้ชีวิตบรรดาลูกผู้หญิงของพวกเจ้า(84) และในเรื่องนั้นคือการทดสอบอันใหญ่หลวงจากพระผู้อภิบาลของพวกเจ้า(85)
Comment : (83)การเอาพวกเขาเป็นทาสแล้วใช้พวกเขาให้ทำงานหนัก
Comment : (84)โดยมีเจตนาทำลายประชาชาติอิสรออีล ให้สูญพันธุ์
Comment : (85)ทั้งนี้เพื่อให้พวกเขาได้รำลึกถึงความกรุณาของส่วนบุคคลอัลลอฮ์อยู่เสมอ จะได้ไม่ดื้อดึงต่อพระองค์อีก
2:50
وَإِذْ فَرَقْنَا بِكُمُ ٱلْبَحْرَ فَأَنجَيْنَـٰكُمْ وَأَغْرَقْنَآ ءَالَ فِرْعَوْنَ وَأَنتُمْ تَنظُرُونَ
Translation : และพวกเจ้าจงรำลึงถึง ขณะที่เราได้แยกทะเลออกเพื่อพวกเจ้า(86) แล้วเราได้ช่วยพวกเจ้าให้รอดพ้น(87) และได้ให้พวกฟิรอาวน์จมน้ำตาย(88) ขณะที่พวกเจ้ามองดูอยู่(89)
Comment : (86)เพราะพวกเจ้าไม่มีทางอื่นที่จะหนีให้พ้นจากฟิรอาวน์ได้ นอกจากจะต้องให้น้ำในทะเลแดงแยกออกเป็นทางเดินข้ามไปเท่านั้นในเรื่องนี้ พวกก็อดยานีไม่ยอมเชื่อ เขากล่าว่า “เป็นเวลาที่น้ำกำลังลดลงสู่ระดับต่ำจนเห็นท้องทะเล” เขากล่าวอีกว่า “ถ้าน้ำในทะเลแยกออกเป็นร่องจริง และเป็นการแยกที่ไม่ได้มี ปรากฏมาก่อน พวกฟิรอาวน์ก็จะต้องตกใจ คงไม่กล้าเสี่ยงลงข้ามไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงเป็นอภินิหารหรือความมหัศจรรย์ที่ประจวบกันอย่างเหมาะเจาะ” ผู้อ่านคงทราบแล้วเขามีเจตนาบิดเบือนอย่างไร อัลลอฮ์แจ้งให้ทราบว่า “พระองค์ให้น้ำในทะเลแดงแยกออกเป็นทาง” เขาบิดเบือนไปว่า “น้ำมันลดเอง”
Comment : (87)ให้รอดพ้นจากฟิรอาวน์ และไร่พลของเขา
Comment : (88)ขณะที่ฟิรอาวน์ติดตามวงศ์วานอิสรออีลไปถึงกลางทะเล ซึ่งขณะนั้นวงศ์วานอิสรออีลขึ้นฝั่งแล้ว อัลลอฮ์ก็ทรงให้น้ำที่แยกออกสองฟากทางกระแทกตัวเข้าหากัน ทำให้พวกฟิรอาวน์จมน้ำตาย
Comment : (89)ขณะที่วงศ์วานอิสรออีลมองดูกันอยู่
2:51
وَإِذْ وَٰعَدْنَا مُوسَىٰٓ أَرْبَعِينَ لَيْلَةًۭ ثُمَّ ٱتَّخَذْتُمُ ٱلْعِجْلَ مِنۢ بَعْدِهِۦ وَأَنتُمْ ظَـٰلِمُونَ
Translation : และจงรำลึกถึงขณะที่เราได้สัญญาแก่มูซาไว้สี่สิบคืน(90) แล้วพวกเจ้าได้ยึดถือลูกวัวตัวนั้นหลักจากเขา(91) ในสภาพที่พวกเจ้าคือ ผู้อธรรม
Comment : (90)ให้ท่านนบีมูซาไปรับบัญญัติ 10 ประการ ณ ภูเขาสินาย และจะต้องอยู่ที่นั่น 40 คืน
Comment : (91)ยึดถือลูกวัวที่ซารีย์ได้จำลองขึ้นจากทองคำ เป็นที่เคารพสักการะ หลังจากนบีมูซาเดินทางไปรับบัญญัติ 10 ประการ
2:52
ثُمَّ عَفَوْنَا عَنكُم مِّنۢ بَعْدِ ذَٰلِكَ لَعَلَّكُمْ تَشْكُرُونَ
Translation : แล้วเราก็ได้ให้อภัยแก่พวกเจ้าหลังจากนั้นเพื่อว่าพวกเจ้าจักขอบคุณ
2:53
وَإِذْ ءَاتَيْنَا مُوسَى ٱلْكِتَـٰبَ وَٱلْفُرْقَانَ لَعَلَّكُمْ تَهْتَدُونَ
Translation : และจงรำลึกถึงขณะที่เราได้ให้คัมภีร์และสิ่งที่จำแนกความถูกผิดแก่มูซาเพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง
2:54
وَإِذْ قَالَ مُوسَىٰ لِقَوْمِهِۦ يَـٰقَوْمِ إِنَّكُمْ ظَلَمْتُمْ أَنفُسَكُم بِٱتِّخَاذِكُمُ ٱلْعِجْلَ فَتُوبُوٓا۟ إِلَىٰ بَارِئِكُمْ فَٱقْتُلُوٓا۟ أَنفُسَكُمْ ذَٰلِكُمْ خَيْرٌۭ لَّكُمْ عِندَ بَارِئِكُمْ فَتَابَ عَلَيْكُمْ ۚ إِنَّهُۥ هُوَ ٱلتَّوَّابُ ٱلرَّحِيمُ
Translation : และจงรำลึกถึงขณะที่มูซาได้กล่าวแก่กลุ่มชนของเขาว่า โอ้กลุ่มชนของฉัน! แท้จริงพวกท่านได้อยุติธรรมแก่ตัวของพวกท่านเอง โดยที่พวกท่านได้ยึดถือลูกวัวตัวนั้น(92) (เป็นที่เคารพสักการะ) ดังนั้น จงกลับสู่พระผู้บังเกิดพวกท่านเถิด(93) แล้วจงฆ่าตัวของพวกท่านเอง(94) นั่นเป็นสิ่งดีแก่พวกท่าน ณ พระผู้บังเกิดพวกท่าน ภายหลังพระองค์ก็ได้ทรงอภัยโทษแก่พวกท่านแท้จริงพระองค์คือผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ
Comment : (92)ลูกวัวที่ซามิรีย์ได้จำลองขึ้นจากทองที่เขารวบรวมจากวงศ์วานอิสรออีล แล้วประกาศว่า นี่แหละคือ พระเจ้าแล้ววงศ์วานอิสรออีล ส่วนมากก็เคารพสักการะกัน
Comment : (93)กลับเข้าหาพระผู้ทรงบังเกิดด้วยความสำนึกผิดและกลับเนื้อกลับตัวและขออภัยโทษต่อพระองค์
Comment : (94)ให้ทำการประหัตประหารซึ่งกันและกันชั่วระยะเวลาหนึ่ง เพื่อลบล้างความผิด ผู้ใดที่รอดพ้นจากการถูกฆ่าก็จะได้รับการอภัยจากอัลลอฮ์
2:55
وَإِذْ قُلْتُمْ يَـٰمُوسَىٰ لَن نُّؤْمِنَ لَكَ حَتَّىٰ نَرَى ٱللَّهَ جَهْرَةًۭ فَأَخَذَتْكُمُ ٱلصَّـٰعِقَةُ وَأَنتُمْ تَنظُرُونَ
Translation : และจงรำลึกถึง ขณะที่พวกเจ้ากล่าวว่า โอ้มูซา! เราจะไม่ศรัทธาต่อท่านเป็นอันขาด จนกว่าเราจะได้เห็นอัลลอฮ์โดยเปิดเผย(95) แล้วสายฟ้าผ่าก็ได้คร่าพวกเจ้า(96) ขณะที่พวกเจ้ามองดูอยู่
Comment : (95)เห็นอัลลอฮ์ด้วยตาของพวกเขา
Comment : (96)อัลลอฮ์ได้ทรงให้ฟ้าผ่าพวกเขา ทำให้พวกเขาสิ้นชีวิตจนหมดสิ้น ทั้งนี้โดยทยอยกันเสียชีวิตทีละคนสองคน คนที่เสียชีวิตทีหลังก็ได้เห็นคนที่เสียชีวิตก่อน ดังข้อความที่ว่า “ขณะที่พวกเจ้ามองดูอยู่”
2:56
ثُمَّ بَعَثْنَـٰكُم مِّنۢ بَعْدِ مَوْتِكُمْ لَعَلَّكُمْ تَشْكُرُونَ
Translation : ภายหลังเราได้ให้พวกเจ้าคืนชีพ หลังจากที่พวกเจ้าได้ตายไปแล้ว(97) เพื่อว่าพวกเจ้าจักขอบคุณ
Comment : (97)ในเรื่องนี้ พวกก็อดยานี้ไม่เชื่อ จึงได้บิดเบือนความหมายของอัลกุรอานไปว่า “ให้ฟื้นขึ้นหลังจากที่ได้สลบไป” อัลลอฮ์ได้ตรัสว่า “ตาย” เขาว่า “ไม่ใช่ สลบต่างหาก”
2:57
وَظَلَّلْنَا عَلَيْكُمُ ٱلْغَمَامَ وَأَنزَلْنَا عَلَيْكُمُ ٱلْمَنَّ وَٱلسَّلْوَىٰ ۖ كُلُوا۟ مِن طَيِّبَـٰتِ مَا رَزَقْنَـٰكُمْ ۖ وَمَا ظَلَمُونَا وَلَـٰكِن كَانُوٓا۟ أَنفُسَهُمْ يَظْلِمُونَ
Translation : และเราได้ให้เมฆบดบังพวกเจ้า(98) และได้ให้อัลมันนะและอัสซัลวา(99) แก่พวกเจ้าพวกเจ้าจงบริโภคสิ่งที่เราได้ให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้าจากสิ่งดีๆ เถิด และพวกเขาหาได้อธรรมแก่เราไม่ แต่ทว่าพวกเขาอธรรมแก่ตัวของพวกเขาเองต่างหาก
Comment : (98)ให้เมฆบดบังแสงอาทิตย์เพื่อให้ความร่มเย็นแก่พวกเขาขณะเดินทางอยู่ในทะเลทราย
Comment : (99)อัล-มันนะ คือของหวานชนิดหนึ่ง คล้ายน้ำผึ้ง ส่วนอัส-ซัลวานั้น คือ นกคุ่ม
2:58
وَإِذْ قُلْنَا ٱدْخُلُوا۟ هَـٰذِهِ ٱلْقَرْيَةَ فَكُلُوا۟ مِنْهَا حَيْثُ شِئْتُمْ رَغَدًۭا وَٱدْخُلُوا۟ ٱلْبَابَ سُجَّدًۭا وَقُولُوا۟ حِطَّةٌۭ نَّغْفِرْ لَكُمْ خَطَـٰيَـٰكُمْ ۚ وَسَنَزِيدُ ٱلْمُحْسِنِينَ
Translation : และจงรำลึกถึงขณะที่เราได้กล่าวว่า พวกเจ้าจงเข้าไปในเมืองนี้(100) แล้วจงบริโภคจากเมืองนั้นอย่างเปรมปรีดิ์ตามที่พวกเจ้าปรารถนา และจงเข้าประตูนั้น(101) ไปในสภาพผู้โน้มศีรษะลงด้วยความนอบน้อม และจงกล่าวว่า "ฮิฏเฏาะฮ์" เราก็จะอภัยโทษให้แก่พวกเจ้า ซึ่งบรรดาความผิดของพวกเจ้า และเราจะเพิ่มพูนแก่บรรดาผู้กระทำความดี
Comment : (100)คือ บัยตุลมักดิสและเข้าเมืองในสภาพที่โน้มศีรษะลงด้วยความคารวะคือ บัยตุลมักดิสและเข้าเมืองในสภาพที่โน้มศีรษะลงด้วยความคารวะ
Comment : (101)หมายถึงประตูหนึ่งแห่งบัยตุลมักดิส ปัจจุบันเรียกว่า ประตู “ฮิฏเฏาะฮ์”
2:59
فَبَدَّلَ ٱلَّذِينَ ظَلَمُوا۟ قَوْلًا غَيْرَ ٱلَّذِى قِيلَ لَهُمْ فَأَنزَلْنَا عَلَى ٱلَّذِينَ ظَلَمُوا۟ رِجْزًۭا مِّنَ ٱلسَّمَآءِ بِمَا كَانُوا۟ يَفْسُقُونَ
Translation : แล้วผู้อธรรมเหล่านั้น ได้เปลี่ยนเอาคำพูดหนึ่งซึ่งมิใช่คำพูดที่ถูกกล่าวแก่พวกเขา(102) เราจึงได้ให้การลงโทษจากฟากฟ้าลงมาแก่บรรดาผู้อธรรมเหล่านั้น เนื่องจากพวกเขาละเมิด
Comment : (102)เปลี่ยนเป็น “ฮินเฎาะฮ์” แปลว่า “เมล็ดข้าวสาลี” โดยอ้างว่า “ฮิฏเฎาะฮ์” นั้น พวกเขาไม่เข้าใจ
2:60
۞ وَإِذِ ٱسْتَسْقَىٰ مُوسَىٰ لِقَوْمِهِۦ فَقُلْنَا ٱضْرِب بِّعَصَاكَ ٱلْحَجَرَ ۖ فَٱنفَجَرَتْ مِنْهُ ٱثْنَتَا عَشْرَةَ عَيْنًۭا ۖ قَدْ عَلِمَ كُلُّ أُنَاسٍۢ مَّشْرَبَهُمْ ۖ كُلُوا۟ وَٱشْرَبُوا۟ مِن رِّزْقِ ٱللَّهِ وَلَا تَعْثَوْا۟ فِى ٱلْأَرْضِ مُفْسِدِينَ
Translation : และจงรำลึกถึงขณะที่มูซาได้ขอน้ำให้แก่กลุ่มชนของพวกเขาแล้วเราได้กล่าวว่าเจ้าจงตีหินด้วยไม้เท้าของเจ้าแล้วตาน้ำสิบสองตาก็พุ่งออกจากหินนั้น แน่นอนกลุ่มชนแต่ละกลุ่ม(103) ย่อมรู้แหล่งน้ำดื่มของตน พวกเจ้าจงกินและจงดื่มจากปัจจัยยังชีพของอัลลอฮ์และจงอย่าก่อกวนในผืนแผ่นดินในฐานะผู้บ่อนทำลาย
Comment : (103)หมายถึงกลุ่มชน ซึ่งเป็นวงศ์วานอิสรออีลสิบสองกลุ่ม
2:61
وَإِذْ قُلْتُمْ يَـٰمُوسَىٰ لَن نَّصْبِرَ عَلَىٰ طَعَامٍۢ وَٰحِدٍۢ فَٱدْعُ لَنَا رَبَّكَ يُخْرِجْ لَنَا مِمَّا تُنۢبِتُ ٱلْأَرْضُ مِنۢ بَقْلِهَا وَقِثَّآئِهَا وَفُومِهَا وَعَدَسِهَا وَبَصَلِهَا ۖ قَالَ أَتَسْتَبْدِلُونَ ٱلَّذِى هُوَ أَدْنَىٰ بِٱلَّذِى هُوَ خَيْرٌ ۚ ٱهْبِطُوا۟ مِصْرًۭا فَإِنَّ لَكُم مَّا سَأَلْتُمْ ۗ وَضُرِبَتْ عَلَيْهِمُ ٱلذِّلَّةُ وَٱلْمَسْكَنَةُ وَبَآءُو بِغَضَبٍۢ مِّنَ ٱللَّهِ ۗ ذَٰلِكَ بِأَنَّهُمْ كَانُوا۟ يَكْفُرُونَ بِـَٔايَـٰتِ ٱللَّهِ وَيَقْتُلُونَ ٱلنَّبِيِّـۧنَ بِغَيْرِ ٱلْحَقِّ ۗ ذَٰلِكَ بِمَا عَصَوا۟ وَّكَانُوا۟ يَعْتَدُونَ
Translation : และจงรำลึกถึงขณะที่พวกเจ้ากล่าวว่า โอ้มูซา! เราไม่สามารถจะอดทนต่ออาหารชนิดเดียว(104) อีกต่อไปได้ ดังนั้น จงวิงวอนต่อพระผู้อภิบาลของท่านให้แก่เราเถิด พระองค์จะทรงให้ออกมาแก่เราจากสิ่งที่แผ่นดินให้งอกเงยขึ้น อันได้แก่ พืชผัก แตงกวา กระเทียม ถั่ว และหัวหอม มูซาได้กล่าวว่า พวกท่านจะขอเปลี่ยนเอาสิ่งที่เลวกว่าด้วยสิ่งที่ดีกว่ากระนั้นหรือ? พวกท่านจงลงไปอยู่ในเมืองเถิด(105) แล้วสิ่งที่พวกท่านขอก็จะเป็นของพวกท่าน และความอัปยศ และความขัดสนก็ถูกกระหน่ำลงบนพวกเขา(106) และพวกเขาได้นำเอาความกริ้วโกรธจากอัลลอฮ์กลับไป(107) นั่นก็เพราะว่า พวกเขาเคยปฏิเสธสัญญาณต่างๆ ของอัลลอฮ์(108) และยังฆ่าบรรดานบี(109) โดยปราศจากความเป็นธรรม นั่นก็เนื่องจากความดื้อดันของพวกเขา และพวกเขาจึงได้กลายเป็นผู้ละเมิดขอบเขต
Comment : (104)คือกินอัล-มันนะ และอัส-ซัลวา จำเจอยู่เพียงชนิดเดียว
Comment : (105)หมายถึง บัยตุลมักดิส
Comment : (106)อัลลอฮ์ทรงให้พวกเขาได้รับความอัปยศ และความยากจนประหนึ่งว่าความอัปยศและความขัดสนถูกกระหน่ำยังพวกเขา
Comment : (107)ประหนึ่งว่า ความกริ้วโกรธของอัลลอฮ์ที่มีต่อพวกเขานั้นเป็นวัตถุ และพวกเขาก็กลับไปยังพระองค์ ก็นำความกริ้วโกรธนั้นกลับไปด้วย เพื่อให้มองเห็นว่าพวกเขาจะต้องได้รับโทษอย่างแน่นอน
Comment : (108)ฝ่าฝืนและดื้อดึงต่ออัลลอฮ์ ทั้ง ๆ ที่ได้มีสัญญาณต่าง ๆ จากพระองค์ที่แสดงถึงเดชานุภาพของพระองค์ประจักษ์แก่พวกเขาแล้ว ประหนึ่งพวกเขาปฏิเสธสัญญาณเหล่านั้น
Comment : (109)เช่น “ฆ่า นบีซะกะรียา และนบียะฮ์ยา เป็นต้น
2:62
إِنَّ ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ وَٱلَّذِينَ هَادُوا۟ وَٱلنَّصَـٰرَىٰ وَٱلصَّـٰبِـِٔينَ مَنْ ءَامَنَ بِٱللَّهِ وَٱلْيَوْمِ ٱلْـَٔاخِرِ وَعَمِلَ صَـٰلِحًۭا فَلَهُمْ أَجْرُهُمْ عِندَ رَبِّهِمْ وَلَا خَوْفٌ عَلَيْهِمْ وَلَا هُمْ يَحْزَنُونَ
Translation : แท้จริง บรรดาผู้ศรัทธาและบรรดาผู้ที่เป็นยิว และบรรดาผู้ที่เป็นคริสเตียน และอัศซอบิอีน(110) ผู้ใดก็ตามที่ศรัทธาต่ออัลลอฮ์และวันปรโลกและประกอบสิ่งที่ดีแล้ว พวกเขาก็จะได้รับรางวัลของพวกเขา ณ พระผู้อภิบาลของพวกเขา และไม่มีความหวาดกลัวใดๆ แก่พวกเขา และทั้งพวกเขาก็จะไม่เสียใจ
Comment : (110)ในตัฟซีร อัล-ญาละลัยน์ ระบุว่า “ชนกลุ่มหนึ่งจากยิวหรือคริสเตียน” แต่ทัศนะที่มีน้ำหนักกว่าว่า อาหรับมุชริกกลุ่มหนึ่งก่อนอิสลามที่สักการะเจว็ด
2:63
وَإِذْ أَخَذْنَا مِيثَـٰقَكُمْ وَرَفَعْنَا فَوْقَكُمُ ٱلطُّورَ خُذُوا۟ مَآ ءَاتَيْنَـٰكُم بِقُوَّةٍۢ وَٱذْكُرُوا۟ مَا فِيهِ لَعَلَّكُمْ تَتَّقُونَ
Translation : และจงรำลึกถึงขณะที่เราได้เอาคำมั่นสัญญาจากพวกเจ้า และเราได้ยกภูเขาฏูรขึ้นเหนือพวกเจ้า(111) จงยึดถือสิ่งที่เราได้ให้แก่พวกเจ้าด้วยความเข้มแข็ง และจงรำลึกถึงสิ่งที่มีอยู่ในนั้น หวังว่าพวกเจ้าจะเกรงกลัว
Comment : (111)คือยกลอยขึ้นไปเหนือพวกเขาประหนึ่งสิ่งกำบังแดดหรือให้ร่มเงา ในเรื่องพวกก็อดยานี บิดเบือนไปว่า ภูเขามิได้ถูกยกขึ้นแต่อย่างใด หากแต่มันตั้งสูงตระหง่านบังแสงแดดต่างหาก พวกที่ตั้งตนอวดรู้กับอัลลอฮ์เสมอ พระองค์ทรงแจ้งว่าพระองค์ทรงยกภูเขาขึ้น พวกเขาบอกว่าไม่ได้ยกภูเขา มันสูงตระหง่านต่างหาก ถึงกับอาจหาญกล่าวว่า “ข้อที่ว่าภูเขาซินายถูกยกให้ลอยอยู่บนฟ้าเหนือวงศ์วานอิสรออีลนั้น จึงเป็นนิยายชวนหัวเราะ”
2:64
ثُمَّ تَوَلَّيْتُم مِّنۢ بَعْدِ ذَٰلِكَ ۖ فَلَوْلَا فَضْلُ ٱللَّهِ عَلَيْكُمْ وَرَحْمَتُهُۥ لَكُنتُم مِّنَ ٱلْخَـٰسِرِينَ
Translation : แล้วหลังจากนั้น พวกเจ้าก็ผินหลังให้(112) หากอัลลอฮ์ไม่ทรงโปรดปราน และกรุณาเมตตาแก่พวกเจ้าแล้ว แน่นอน พวกเจ้าย่อมกลายเป็นพวกที่ขาดทุน
Comment : (112)ไม่ยอมปฏิบัติตามบัญญัติของอัลลอฮ์ที่ได้ทรงเอาสัญญาแก่พวกเขา
2:65
وَلَقَدْ عَلِمْتُمُ ٱلَّذِينَ ٱعْتَدَوْا۟ مِنكُمْ فِى ٱلسَّبْتِ فَقُلْنَا لَهُمْ كُونُوا۟ قِرَدَةً خَـٰسِـِٔينَ
Translation : และแน่นอน พวกเจ้ารู้กันแล้วถึงบรรดาผู้ที่อยู่ในพวกของเจ้าที่ได้ละเมิดในวันสับบาโต(113) แล้วเราได้กล่าวแก่พวกเขาว่า พวกเจ้าจงเป็นลิงที่ถูกขับไล่ให้ห่างไกล(114)
Comment : (113)คือวันเสาร์ซึ่งถูกกำหนดให้เป็นวันพักผ่อนและประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเท่านั้น แต่พวกเขากลับละเมิดโดยวางแผนล่อปลา ให้เข้าบ่อในวันนั้น แล้วจับในวันต่อไป เนื่องจากในวันนั้นปลาจะออกหากินอย่างชุกชุมและว่ายเข้าไปในบ่อ แล้วพวกเขาก็ปิดปากบ่อ
Comment : (114)มีจิตใจ และลักษณะท่าทางเสมือนลิง ซึ่งใครเห็นก็ขับไล่ให้ห่างไกล ตามที่ อิบนิญะรีร และอิบนุฮาติมรายงานไว้จากมุญาฮิด อย่างไรก็ดี นักปราชญ์ส่วนมากเห็นว่ารูปร่างของพวกเขาถูกเปลี่ยนเป็นลิงจริง ๆ และมีชีวิตอยู่ไม่เกินสามวัน
2:66
فَجَعَلْنَـٰهَا نَكَـٰلًۭا لِّمَا بَيْنَ يَدَيْهَا وَمَا خَلْفَهَا وَمَوْعِظَةًۭ لِّلْمُتَّقِينَ
Translation : แล้วเราได้ให้การลงโทษนั้นเป็นอุทาหรณ์แก่ประชาชาติที่อยู่เบื้องหน้ามัน(115) และประชาชาติที่อยู่เบื้องหลังมัน(116) และให้เป็นข้อเตือนสติแก่ผู้เกรงกลัวทั้งหลาย
Comment : (115)เบื้องหน้าการลงโทษ
Comment : (116)เบื้องหลังจากการลงโทษ
2:67
وَإِذْ قَالَ مُوسَىٰ لِقَوْمِهِۦٓ إِنَّ ٱللَّهَ يَأْمُرُكُمْ أَن تَذْبَحُوا۟ بَقَرَةًۭ ۖ قَالُوٓا۟ أَتَتَّخِذُنَا هُزُوًۭا ۖ قَالَ أَعُوذُ بِٱللَّهِ أَنْ أَكُونَ مِنَ ٱلْجَـٰهِلِينَ
Translation : และจงรำลึกถึงขณะที่มูซาได้กล่าวแก่กลุ่มชนของเขาว่า แท้จริงอัลลอฮ์ทรงบัญชาแก่พวกท่านให้เชือดวัวตัวเมียตัวหนึ่ง(117) พวกเขากล่าวว่าท่านจะถือเอาพวกเราเป็นที่ล้อเล่นกระนั้นหรือ? มูซา กล่าวว่า ฉันขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮ์ให้พ้นจากการที่ฉันจะเป็นผู้หนึ่งจากพวกโง่เขลาเบาปัญญา
Comment : (117)เพื่อนำส่วนหนึ่งของมันไปตีร่างของผู้ที่ถูกฆ่าตาย แล้วผู้นั้นก็จะฟื้นขึ้น บอกว่าใครเป็นคนฆ่า แล้วก็ตายตามเดิม
2:68
قَالُوا۟ ٱدْعُ لَنَا رَبَّكَ يُبَيِّن لَّنَا مَا هِىَ ۚ قَالَ إِنَّهُۥ يَقُولُ إِنَّهَا بَقَرَةٌۭ لَّا فَارِضٌۭ وَلَا بِكْرٌ عَوَانٌۢ بَيْنَ ذَٰلِكَ ۖ فَٱفْعَلُوا۟ مَا تُؤْمَرُونَ
Translation : และพวกเขากล่าวว่า โปรดวิงวอนต่อพระผู้อภิบาลของท่านให้แก่พวกเราด้วยเถิด พระองค์ก็จะทรงแจ้งแก่พวกเราว่า วัวนั้นเป็นอย่างไร? มูซากล่าวว่า แท้จริงพระองค์ตรัสว่า มันเป็นวัวตัวเมียที่ไม่แก่ และไม่สาว แต่มีอายุกึ่งกลางระหว่างนั้น พวกท่านจงปฏิบัติตามสิ่งที่พวกท่านถูกใช้เถิด
2:69
قَالُوا۟ ٱدْعُ لَنَا رَبَّكَ يُبَيِّن لَّنَا مَا لَوْنُهَا ۚ قَالَ إِنَّهُۥ يَقُولُ إِنَّهَا بَقَرَةٌۭ صَفْرَآءُ فَاقِعٌۭ لَّوْنُهَا تَسُرُّ ٱلنَّـٰظِرِينَ
Translation : พวกเขากล่าวว่า โปรดวิงวอนต่อพระผู้อภิบาลของท่านให้แก่พวกเราเถิด พระองค์ก็จะทรงแจ้งแก่พวกเราว่า วัวตัวนั้นสีอะไร? มูซากล่าวว่าแท้จริงพรองค์ตรัสว่า มันเป็นวัวสีเหลืองสีของมันเข้มเป็นที่ปิติยินดีแก่บรรดาผู้ที่มองดู
2:70
قَالُوا۟ ٱدْعُ لَنَا رَبَّكَ يُبَيِّن لَّنَا مَا هِىَ إِنَّ ٱلْبَقَرَ تَشَـٰبَهَ عَلَيْنَا وَإِنَّآ إِن شَآءَ ٱللَّهُ لَمُهْتَدُونَ
Translation : พวกเขากล่าวว่า โปรดวิงวอนต่อพระเจ้าของท่านให้แก่เราเถิด พระองค์ก็จะทรงแจ้งแก่พวกเราว่า วัวนั้นเป็นอย่างไร? แท้จริงวัวนั้นมันคล้ายๆ กันแก่พวกเรา และหากอัลลอฮ์ทรงประสงค์ แน่นอนพวกเราก็เป็นผู้ที่ได้รับคำแนะนำ(118)
Comment : (118)จากอัลลอฮ์ให้ได้วัวที่ต้องการนั้นมา
2:71
قَالَ إِنَّهُۥ يَقُولُ إِنَّهَا بَقَرَةٌۭ لَّا ذَلُولٌۭ تُثِيرُ ٱلْأَرْضَ وَلَا تَسْقِى ٱلْحَرْثَ مُسَلَّمَةٌۭ لَّا شِيَةَ فِيهَا ۚ قَالُوا۟ ٱلْـَٔـٰنَ جِئْتَ بِٱلْحَقِّ ۚ فَذَبَحُوهَا وَمَا كَادُوا۟ يَفْعَلُونَ
Translation : มูซากล่าวว่าแท้จริงพระองค์ตรัสว่า มันเป็นวัวที่ไม่เคยที่จะไถดินและที่จะทดน้ำเข้านา(119) เป็นวัวบริสุทธิ์ปราศจากสีอื่นใดปนในตัวมัน พวกเขากล่าวว่า บัดนี้ท่านได้นำความจริงมาให้แล้ว ต่อมาพวกเขาก็เชือดมันและพวกเขาเกือบจะไม่ทำมันอยู่แล้ว(เพราะหายากและราคาแพง)
Comment : (119)ลากเครื่องทดน้ำเข้านา
2:72
وَإِذْ قَتَلْتُمْ نَفْسًۭا فَٱدَّٰرَْٰٔتُمْ فِيهَا ۖ وَٱللَّهُ مُخْرِجٌۭ مَّا كُنتُمْ تَكْتُمُونَ
Translation : และจงรำลึกถึงขณะที่พวกเจ้าฆ่าคนคนหนึ่งแล้วพวกเจ้าต่างปกป้องตัวเองในเรื่องนั้น(120) และอัลลอฮ์นั้นจะเป็นผู้ทรงเปิดเผยสิ่งที่พวกเจ้าปกปิดไว้
Comment : (120)ปกป้องตัวเองในเรื่องที่จะถูกล่าวหาว่าเป็นผู้ฆ่า
2:73
فَقُلْنَا ٱضْرِبُوهُ بِبَعْضِهَا ۚ كَذَٰلِكَ يُحْىِ ٱللَّهُ ٱلْمَوْتَىٰ وَيُرِيكُمْ ءَايَـٰتِهِۦ لَعَلَّكُمْ تَعْقِلُونَ
Translation : แล้วเราได้กล่าวว่า พวกเจ้าจงตีเขาด้วยบางส่วนของวัวตัวนั้น(121) ในทำนองนั้นแหละอัลลอฮ์ทรงให้ผู้ตาย(122) มีชีวิตขึ้นมา และทรงให้พวกเจ้าเห็นสัญญาณต่างๆ ของพระองค์(123) เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้เข้าใจ
Comment : (121)ตีผู้ที่ถูกฆ่าด้วยบางส่วนของวัวที่ถูกใช้ให้เชือด
Comment : (122)ให้ผู้ที่ถูกฆ่าตายฟื้นคืนชีพ เพื่อบอกว่าใครเป็นคนฆ่า
Comment : (123)สัญญาณแห่งเดชานุภาพของพระองค์ที่ได้ทรงให้ผู้ที่ตายมีชีวิตขึ้นมาได้ ซึ่งเป็นเรื่องง่ายดายสำหรับพระองค์
2:74
ثُمَّ قَسَتْ قُلُوبُكُم مِّنۢ بَعْدِ ذَٰلِكَ فَهِىَ كَٱلْحِجَارَةِ أَوْ أَشَدُّ قَسْوَةًۭ ۚ وَإِنَّ مِنَ ٱلْحِجَارَةِ لَمَا يَتَفَجَّرُ مِنْهُ ٱلْأَنْهَـٰرُ ۚ وَإِنَّ مِنْهَا لَمَا يَشَّقَّقُ فَيَخْرُجُ مِنْهُ ٱلْمَآءُ ۚ وَإِنَّ مِنْهَا لَمَا يَهْبِطُ مِنْ خَشْيَةِ ٱللَّهِ ۗ وَمَا ٱللَّهُ بِغَـٰفِلٍ عَمَّا تَعْمَلُونَ
Translation : แล้วหลังจากนั้นหัวใจของพวกเจ้าก็แข็งกระด้าง มันประดุจหิน หรือแข็งกระด้างยิ่งกว่าและแท้จริงจากบรรดาหินนั้น มีส่วนที่บรรดาธารน้ำพวยพุ่งออกจากมัน และแท้จริงจากบรรดาหินนั้นมีส่วนที่แตกแยกออก แล้วมีน้ำออกจากมันและแท้จริงจากบรรดาหินนั้นมีส่วนที่ทลายลงเนื่องจากความเกรงกลัวอัลลอฮ์และอัลลอฮ์นั้นจะไม่ละเลยต่อสิ่งที่พวกเจ้ากระทำกัน
2:75
۞ أَفَتَطْمَعُونَ أَن يُؤْمِنُوا۟ لَكُمْ وَقَدْ كَانَ فَرِيقٌۭ مِّنْهُمْ يَسْمَعُونَ كَلَـٰمَ ٱللَّهِ ثُمَّ يُحَرِّفُونَهُۥ مِنۢ بَعْدِ مَا عَقَلُوهُ وَهُمْ يَعْلَمُونَ
Translation : พวกเจ้ายังโลภที่จะให้พวกเขา(124) ศรัทธาต่อพวกเจ้าอีกกระนั้นหรือ? ทั้งๆ ที่กลุ่มหนึ่งในพวกเขาเคยสดับฟังดำรัสอัลลอฮ์แล้วพวกเขาก็บิดเบือนมันเสีย หลังจากที่พวกเขาเข้าใจแล้ว ทั้งๆ ที่พวกเขาก็ทราบดี
Comment : (124)หมายถึงพวกยิว
2:76
وَإِذَا لَقُوا۟ ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ قَالُوٓا۟ ءَامَنَّا وَإِذَا خَلَا بَعْضُهُمْ إِلَىٰ بَعْضٍۢ قَالُوٓا۟ أَتُحَدِّثُونَهُم بِمَا فَتَحَ ٱللَّهُ عَلَيْكُمْ لِيُحَآجُّوكُم بِهِۦ عِندَ رَبِّكُمْ ۚ أَفَلَا تَعْقِلُونَ
Translation : และเมื่อพวกเขาได้พบแบบรรดาผุ้ที่ศรัทธาพวกเขาก็กล่าวว่าเราศรัทธาแล้วและเมื่อบางคนในพวกเขาอยู่ตามลำพังกับอีกบางคน พวกเขาก็กล่าวว่าพวกท่านจะพูดให้พวกเขาฟังซึ่งสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงเปิดเผยแก่พวกท่าน เพื่อพวกเขาจะได้นำสิ่งนั้นไปเป็นหลักฐานยืนยันแก่พวกท่าน ณ ที่พระผู้อภิบาลของพวกท่าน กระนั้นหรือ ? พวกท่านไม่ใช้ปัญญาดอกหรือ?
2:77
أَوَلَا يَعْلَمُونَ أَنَّ ٱللَّهَ يَعْلَمُ مَا يُسِرُّونَ وَمَا يُعْلِنُونَ
Translation : และเขาเหล่านั้นไม่รู้หรือว่า แท้จริงอัลลอฮ์นั้นทรงรอบรู้ในสิ่งที่พวกเขาปกปิด และสิ่งที่พวกเขาเปิดเผย
2:78
وَمِنْهُمْ أُمِّيُّونَ لَا يَعْلَمُونَ ٱلْكِتَـٰبَ إِلَّآ أَمَانِىَّ وَإِنْ هُمْ إِلَّا يَظُنُّونَ
Translation : และในหมู่พวกเขามีบรรดาผู้ที่เขียนอ่านไม่เป็นซึ่งพวกเขาไม่รู้คัมภีร์(125) นอกจากความเพ้อฝันเท่านั้นและพวกเขาหาได้มีอะไรไม่นอกจากจะนึกคิดเอาเองเท่านั้น
Comment : (125)อ่านคัมภีร์ไม่ได้
2:79
فَوَيْلٌۭ لِّلَّذِينَ يَكْتُبُونَ ٱلْكِتَـٰبَ بِأَيْدِيهِمْ ثُمَّ يَقُولُونَ هَـٰذَا مِنْ عِندِ ٱللَّهِ لِيَشْتَرُوا۟ بِهِۦ ثَمَنًۭا قَلِيلًۭا ۖ فَوَيْلٌۭ لَّهُم مِّمَّا كَتَبَتْ أَيْدِيهِمْ وَوَيْلٌۭ لَّهُم مِّمَّا يَكْسِبُونَ
Translation : ดังนั้น ความวิบัติได้แก่บรรดาผู้ที่เขียนคัมภัร์ขึ้นด้วยมือของตนเองแล้วกล่าวว่า นี่แหละมาจากอัลลอฮ์เพื่อพวกเขาจะได้นำมันไปแลกเปลี่ยนกับราคาอันเล็กน้อย(126) ดังนั้นความวิบัติจะได้แก่พวกเขาเนื่องจากสิ่งที่มือของพวกเขาได้เขียนขึ้นและความวิบัตินั้นได้แก่พวกเขา เนื่องจากสิ่งที่พวกเขาแสวงหาไว้
Comment : (126)หมายถึง ข้อความที่เขาเขียนขั้นนั้น มีเจตนาที่จะสนับสนุนปฏิบัติการของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพื่อให้ได้มาซึ่งประโยชน์เป็นการตอบแทน
2:80
وَقَالُوا۟ لَن تَمَسَّنَا ٱلنَّارُ إِلَّآ أَيَّامًۭا مَّعْدُودَةًۭ ۚ قُلْ أَتَّخَذْتُمْ عِندَ ٱللَّهِ عَهْدًۭا فَلَن يُخْلِفَ ٱللَّهُ عَهْدَهُۥٓ ۖ أَمْ تَقُولُونَ عَلَى ٱللَّهِ مَا لَا تَعْلَمُونَ
Translation : และเขาเหล่านั้นกล่าวว่าไฟนรกนั้นจะไม่แตะต้องพวกเราเลย นอกจากบรรดาวันที่ถูกนับได้(127) จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า ท่านทั้งหลายได้ยึดถือคำมั่นสัญญา ณ ที่อัลลอฮ์แล้วหรือ? ดังนั้น อัลลอฮ์จะไม่ทรงผิดสัญญาของพระองค์เลย หรือว่าพวกท่านปั้นความเท็จขึ้นให้แก่อัลลอฮ์ในสิ่งที่พวกท่านไม่รู้
Comment : (127)หมายถึง วันเวลาเพียงเล็กน้อย เพียงเจ็ดวัน หรือสี่สิบวันเท่านั้น
2:81
بَلَىٰ مَن كَسَبَ سَيِّئَةًۭ وَأَحَـٰطَتْ بِهِۦ خَطِيٓـَٔتُهُۥ فَأُو۟لَـٰٓئِكَ أَصْحَـٰبُ ٱلنَّارِ ۖ هُمْ فِيهَا خَـٰلِدُونَ
Translation : หาใช่เช่นนั้นไม่ ผู้ใดที่แสดวงหาความชั่วและความผิดของเขาได้ล้อมเขาไว้(128) ชนเหล่านี้คือชาวนรกโดยที่พวกเขาจะอยู่ในนรกตลอดกาล
Comment : (128)คือการะทำความผิดอย่างมากมาย และเป็นความผิดที่เกี่ยวกับการชิริกด้วย ดังนั้น พวกเขาจึงจำต้องอยู่ในรกตลอดกาล
2:82
وَٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ وَعَمِلُوا۟ ٱلصَّـٰلِحَـٰتِ أُو۟لَـٰٓئِكَ أَصْحَـٰبُ ٱلْجَنَّةِ ۖ هُمْ فِيهَا خَـٰلِدُونَ
Translation : และบรรดาผู้ที่ศรัทธา และประกอบสิ่งที่ดีงามทั้งหลายนั้น ชนเหล่านั้นแหละคือ ชาวสวรรค์ พวกเขาจะพำนักอยู่ในสวรรค์ตลอดกาล
2:83
وَإِذْ أَخَذْنَا مِيثَـٰقَ بَنِىٓ إِسْرَٰٓءِيلَ لَا تَعْبُدُونَ إِلَّا ٱللَّهَ وَبِٱلْوَٰلِدَيْنِ إِحْسَانًۭا وَذِى ٱلْقُرْبَىٰ وَٱلْيَتَـٰمَىٰ وَٱلْمَسَـٰكِينِ وَقُولُوا۟ لِلنَّاسِ حُسْنًۭا وَأَقِيمُوا۟ ٱلصَّلَوٰةَ وَءَاتُوا۟ ٱلزَّكَوٰةَ ثُمَّ تَوَلَّيْتُمْ إِلَّا قَلِيلًۭا مِّنكُمْ وَأَنتُم مُّعْرِضُونَ
Translation : และจงรำลึกถึงขณะที่เราได้เอาคำมั่นสัญญาจากวงศ์วานอิสรออีลว่า พวกเจ้าจะต้องไม่เคารพสักการะนอกจากอัลลอฮ์เท่านั้น และจงทำดีต่อบิดามารดา ญาติที่ใกล้ชิด เด็กกำพร้า และผู้ขัดสน และจงพูดจาแก่เพื่อนมนุษย์อย่างดี และจงดำรงไว้ซึ่งการละหมาด และจงชำระซะกาต แต่แล้วพวกเจ้าก็ผินหลังให้ นอกจากเพียงเล็กน้อยในหมู่พวกเจ้าเท่านั้น และพวกเจ้าก็กำลังผินหลังให้อยู่
2:84
وَإِذْ أَخَذْنَا مِيثَـٰقَكُمْ لَا تَسْفِكُونَ دِمَآءَكُمْ وَلَا تُخْرِجُونَ أَنفُسَكُم مِّن دِيَـٰرِكُمْ ثُمَّ أَقْرَرْتُمْ وَأَنتُمْ تَشْهَدُونَ
Translation : และจงรำลึกถึงขณะที่เราได้อาคำมั่นสัญญาแก่พวกเจ้าว่า พวกเจ้าจะต้องไม่หลั่งเลือดของพวกเจ้า และจะต้องไม่ขับไล่ตัวของพวกเจ้าเอง(129) ออกจากหมู่บ้านของพวกเจ้า แล้วพวกเจ้าก็ได้ให้ในการรับรอง และทั้งพวกเจ้าก็ยังยืนอยู่
Comment : (129)หมายถึงขับไล่พวกเขา
2:85
ثُمَّ أَنتُمْ هَـٰٓؤُلَآءِ تَقْتُلُونَ أَنفُسَكُمْ وَتُخْرِجُونَ فَرِيقًۭا مِّنكُم مِّن دِيَـٰرِهِمْ تَظَـٰهَرُونَ عَلَيْهِم بِٱلْإِثْمِ وَٱلْعُدْوَٰنِ وَإِن يَأْتُوكُمْ أُسَـٰرَىٰ تُفَـٰدُوهُمْ وَهُوَ مُحَرَّمٌ عَلَيْكُمْ إِخْرَاجُهُمْ ۚ أَفَتُؤْمِنُونَ بِبَعْضِ ٱلْكِتَـٰبِ وَتَكْفُرُونَ بِبَعْضٍۢ ۚ فَمَا جَزَآءُ مَن يَفْعَلُ ذَٰلِكَ مِنكُمْ إِلَّا خِزْىٌۭ فِى ٱلْحَيَوٰةِ ٱلدُّنْيَا ۖ وَيَوْمَ ٱلْقِيَـٰمَةِ يُرَدُّونَ إِلَىٰٓ أَشَدِّ ٱلْعَذَابِ ۗ وَمَا ٱللَّهُ بِغَـٰفِلٍ عَمَّا تَعْمَلُونَ
Translation : ภายหลังพวกเจ้านี้แหละฆ่าตัวของพวกเจ้าเอง(130) และขับไล่กลุ่มหนึ่งในหมู่พวกเจ้าออกจากหมู่บ้านของพวกเขา โดยที่พวกเจ้าต่างร่วมมือกันเอาชนะพวกเขา(131) ด้วยการกระทำบาปและการเป็นศัตรูกัน และถ้าพวกเขา(132) มายังพวกเจ้าในฐานะเชลยพวกเจ้าก็ไถ่ตัวพวกเขาโดยที่การขับไล่พวกเขาออกไปนั้นเป็นที่ต้องห้ามแก่พวกเจ้า พวกเจ้าจะศรัทธาแต่เพียงบางส่วนของคัมภีร์ และปฏิเสธอีกบางส่วนกระนั้นหรือ? ดังนั้นสิ่งตอบแทนแก่ผู้กระทำเช่นนั้นจากพวกเจ้าจึงมิใช่อะไรอื่นนอกจากความอัปยศอดสูในชีวิตความเป็นอยู่แห่งโลกนี้เท่านั้น และในวันกิยามะฮ์พวกเขาจะถูกนำกลับไปสู่การลงโทษอันฉกรรจ์ยิ่งและอัลลอฮ์จะไม่ทรงละเลยในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำกันอยู่
Comment : (130)หมายถึงฆ่าพวกเดียวกัน เช่นเดียวกับที่ได้อธิบายไว้ในฟุตโน้ต หมายเลขหนึ่ง
Comment : (131)ยิวแต่ละฝ่ายร่วมมือกับพันธมิตรของตนที่เป็นอาหรับมุชริก ขับไล่พวกยิวด้วยกันที่เป็นคู่กรณีกับฝ่ายพันธมิตรออกจากหมู่บ้านของพวกเขา
Comment : (132)พวกยิวที่ถูกขับไล่ไปเป็นเชลยของฝ่ายพันธมิตรที่เป็นมุชริก
2:86
أُو۟لَـٰٓئِكَ ٱلَّذِينَ ٱشْتَرَوُا۟ ٱلْحَيَوٰةَ ٱلدُّنْيَا بِٱلْـَٔاخِرَةِ ۖ فَلَا يُخَفَّفُ عَنْهُمُ ٱلْعَذَابُ وَلَا هُمْ يُنصَرُونَ
Translation : ชนเหล่านี้ คือ ผู้ที่ซื้อเอาชีวิตความเป็นอยู่แห่งโลกนี้ไว้ด้วยชีวิตความเป็นอยู่แห่งปรโลก(133) ดังนั้น การลงโทษจึงไม่ถูกลดหย่อนแก่พวกเขาและทั้งพวกเขาก็จะไม่ได้รับความช่วยเหลือ
Comment : (133)คือเอาชีวิตความเป็นอยู่แห่งปรโลกไปแลกเอาความเป็นอยู่ของโลกนี้ไว้ หรืออีกนัยหนึ่งมุ่งแต่ชีวิตความเป็นอยู่แห่งโลกนี้เท่านั้นโดยมิได้สนใจกับชีวิตความเป็นอยู่แห่งปรโลกแต่อย่างใด
2:87
وَلَقَدْ ءَاتَيْنَا مُوسَى ٱلْكِتَـٰبَ وَقَفَّيْنَا مِنۢ بَعْدِهِۦ بِٱلرُّسُلِ ۖ وَءَاتَيْنَا عِيسَى ٱبْنَ مَرْيَمَ ٱلْبَيِّنَـٰتِ وَأَيَّدْنَـٰهُ بِرُوحِ ٱلْقُدُسِ ۗ أَفَكُلَّمَا جَآءَكُمْ رَسُولٌۢ بِمَا لَا تَهْوَىٰٓ أَنفُسُكُمُ ٱسْتَكْبَرْتُمْ فَفَرِيقًۭا كَذَّبْتُمْ وَفَرِيقًۭا تَقْتُلُونَ
Translation : และแท้จริงนั้นเราได้ให้คัมภีร์มูซาและหลังจากเขาเราได้ให้บรรดาร่อซูลติดตามมาและเราได้ให้หลักฐานต่างๆ อันชัดเจน(134) แก่อีซา บุตรของมัรยัม และเราได้สนับสนุนเขาด้วยวิญญาณอันปริสุทธิ์(135) แล้วทุกครั้งที่ได้มีร่อซูลนำสิ่งที่ไม่สบอารมณ์ของพวกเจ้ามายังพวกเจ้า พวกเจ้าก็แสดงความยโส แล้วกลุ่มหนึ่งพวกเจ้าก็ปฏิเสธ และอีกกลุ่มหนึ่งพวกเจ้าก็ฆ่าเสียกระนั้นหรือ(136) ?
Comment : (134)หมายถึง มัวะญิซาต หรือสิ่งที่อยู่นอกเหนือความสามารถของมนุษย์
Comment : (135)หมายถึง ญิบรีล อลัยฮิสสลาม
Comment : (136)เช่น นบีซะกะรียา และนบียะฮ์ยา เป็นต้น
2:88
وَقَالُوا۟ قُلُوبُنَا غُلْفٌۢ ۚ بَل لَّعَنَهُمُ ٱللَّهُ بِكُفْرِهِمْ فَقَلِيلًۭا مَّا يُؤْمِنُونَ
Translation : และพวกเขากล่าวว่า หัวใจของพวกเรามีเปลือกหุ้มอยู่(137) มิใช่เช่นนั้นดอก อัลลอฮ์ทรงขับไล่พวกเขาให้ออกจากความเมตตาของพระองค์ต่างหากเนื่องจากการปฏิเสธศรัทธาของพวกเขาช่างน้อยเหลือเกินที่พวกเขาศรัทธา
Comment : (137)เป็นการกล่าวในเชิงเย้ยหยัน มิใช่มีเปลือกหุ้มจริง ๆ
2:89
وَلَمَّا جَآءَهُمْ كِتَـٰبٌۭ مِّنْ عِندِ ٱللَّهِ مُصَدِّقٌۭ لِّمَا مَعَهُمْ وَكَانُوا۟ مِن قَبْلُ يَسْتَفْتِحُونَ عَلَى ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ فَلَمَّا جَآءَهُم مَّا عَرَفُوا۟ كَفَرُوا۟ بِهِۦ ۚ فَلَعْنَةُ ٱللَّهِ عَلَى ٱلْكَـٰفِرِينَ
Translation : และเมื่อได้มีคัมภีร์ฉบับหนึ่งจากที่อัลลอฮ์มายังพวกเขา ซึ่งยืนยันในสิ่งที่มีอยู่กับพวกเขา ทั้งๆ ที่พวกเขาเคยขอให้มีชัยชนะเหนือบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธามาก่อน ครั้นเมื่อสิ่งที่พวกเขารู้จักดีได้มายังพวกเขาแล้ว พวกเขากลับปฏิเสธสิ่งนั้นเสีย ดังนั้นการสาบแช่ง(138) ของอัลลอฮ์จึงตกอยู่แก่บรรดาผู้ปฏิเสธเหล่านั้น
Comment : (138)ห่างไกลจากความเมตตาของอัลลอฮ์
2:90
بِئْسَمَا ٱشْتَرَوْا۟ بِهِۦٓ أَنفُسَهُمْ أَن يَكْفُرُوا۟ بِمَآ أَنزَلَ ٱللَّهُ بَغْيًا أَن يُنَزِّلَ ٱللَّهُ مِن فَضْلِهِۦ عَلَىٰ مَن يَشَآءُ مِنْ عِبَادِهِۦ ۖ فَبَآءُو بِغَضَبٍ عَلَىٰ غَضَبٍۢ ۚ وَلِلْكَـٰفِرِينَ عَذَابٌۭ مُّهِينٌۭ
Translation : ช่างชั่วช้าจริงๆ สิ่งที่พวกเขาขายตัวของพวกเขาด้วยสิ่งนั้น คือการที่พวกเขาปฏิเสธสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงประทานลงมาทั้งนี้เพราะความอิจฉาริษยาในการที่อัลลอฮ์ทรงประทานจากความโปรดปรานของพระองค์แก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ในหมู่ปวงบ่าวของพระองค์ ดังนั้นพวกเขาจึงนำความกริ้วโกรธซ้อนความกริ้วโกรธกลับไป(ยังพระองค์)(139) และสำหรับผู้ปฏิเสธการศรัทธานั้นจะได้รับการลงโทษอันต่ำช้า
Comment : (139)นำความกริ้วโกรธหลายครั้งหลายคราวที่อัลลอฮ์ทรงมีให้แก่พวกเขากลับไปหาพระองค์ ประหนึ่งว่าความกริ้วโกรธนั้นคือ วัตถุที่สามารถถือหรือแบกได้ ซึ่งเป็นการยืนยันว่า พวกเขาจะต้องได้รับโทษแน่นอน
2:91
وَإِذَا قِيلَ لَهُمْ ءَامِنُوا۟ بِمَآ أَنزَلَ ٱللَّهُ قَالُوا۟ نُؤْمِنُ بِمَآ أُنزِلَ عَلَيْنَا وَيَكْفُرُونَ بِمَا وَرَآءَهُۥ وَهُوَ ٱلْحَقُّ مُصَدِّقًۭا لِّمَا مَعَهُمْ ۗ قُلْ فَلِمَ تَقْتُلُونَ أَنۢبِيَآءَ ٱللَّهِ مِن قَبْلُ إِن كُنتُم مُّؤْمِنِينَ
Translation : และเมื่อมีผู้กล่าวแก่เขาเหล่านั้นว่าจงศรัทธาต่อสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงประทานลงมาเถิด พวกเขาก็กล่าวว่า เรากำลังศรัทธาต่อสิ่งที่ได้ถูกประทานลงมาแก่เราอยู่แล้วและพวกเขาปฏิเสธศรัทธาต่อสิ่งอื่นจากนั้น ทั้ง ๆ ที่สิ่งนั้นคือความจริงที่มายืนยันสิ่งที่มีอยู่กับพวกเขา(140) จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่าเพราะเหตุใดเมื่อก่อนโน้นพวกท่านจึงฆ่านบีของอัลลอฮ์ถ้าหากพวกเจ้าเป็นผู้ศรัทธาจริง
Comment : (140)สิ้งที่อยู่ในคัมภัร์พวกเขาอันได้แก่ การให้เอกภาพแด่อัลลอฮ์
2:92
۞ وَلَقَدْ جَآءَكُم مُّوسَىٰ بِٱلْبَيِّنَـٰتِ ثُمَّ ٱتَّخَذْتُمُ ٱلْعِجْلَ مِنۢ بَعْدِهِۦ وَأَنتُمْ ظَـٰلِمُونَ
Translation : และแน่นอนแท้จริง มูซาได้นำหลักฐานอันชัดเจนมายังพวกเจ้าแล้ว(141) แต่พวกเจ้าได้ยึดเอาลูกวัว(142) (เป็นที่เคารพสักการะ) หลังจากเขาและพวกเจ้านั้นคือพวกอธรรม
Comment : (141)หลักฐานเกี่ยวกับเอกภาพของอัลลอฮ์ และเดชานุภาพของพระองค์
Comment : (142)ลูกวัวที่ถูกจำลองขึ้นจากทองคำโดยน้ำมือของซามิรีย์
2:93
وَإِذْ أَخَذْنَا مِيثَـٰقَكُمْ وَرَفَعْنَا فَوْقَكُمُ ٱلطُّورَ خُذُوا۟ مَآ ءَاتَيْنَـٰكُم بِقُوَّةٍۢ وَٱسْمَعُوا۟ ۖ قَالُوا۟ سَمِعْنَا وَعَصَيْنَا وَأُشْرِبُوا۟ فِى قُلُوبِهِمُ ٱلْعِجْلَ بِكُفْرِهِمْ ۚ قُلْ بِئْسَمَا يَأْمُرُكُم بِهِۦٓ إِيمَـٰنُكُمْ إِن كُنتُم مُّؤْمِنِينَ
Translation : และจงรำลึกถึงขณะที่เราได้เอาคำมั่นสัญญาจากพวกเจ้าและ เราได้ยกภูเขาฎูร์ขึ้นเหนือพวกเจ้า(143) พวกเจ้าจงยึดถือสิ่งที่เราได้ประทานลงมาแก่พวกเจ้าด้วยความเข้มแข็ง และจงสดับฟัง พวกเขากล่าวว่า พวกข้าพระองค์ฟังกันแล้ว และก็ได้ฝ่าฝืนกันไปแล้ว และพวกเขาได้ถูกให้ดื่มลูกวัวเข้าไปในหัวใจของพวกเขา(144) เนื่องจากพวกเขาปฏิเสธศรัทธา จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด)ว่าช่างชั่วช้าจริงๆ สิ่งที่การศรัทธาพวกท่านใช้พวกท่านให้กระทำสิ่งนั้นถ้าหากพวกท่านเป็นผู้ศรัทธา
Comment : (143)ภูเขาฏูรถูกยกขึ้นเหนือศีรษะของพวกเขาประหนึ่งสิ้งกำบังแดด
Comment : (144)ให้เกิดความรักอย่างดื่มด่ำ
2:94
قُلْ إِن كَانَتْ لَكُمُ ٱلدَّارُ ٱلْـَٔاخِرَةُ عِندَ ٱللَّهِ خَالِصَةًۭ مِّن دُونِ ٱلنَّاسِ فَتَمَنَّوُا۟ ٱلْمَوْتَ إِن كُنتُمْ صَـٰدِقِينَ
Translation : จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า ถ้าหากว่าสถานที่พำนักแห่งอาคิเราะฮ์ ณ ที่อัลลอฮ์เป็นของพวกท่านโดยเฉพาะ มิใช่ของบุคคลอื่นแล้วไซร้ก็จงปรารถนาความตายเสียเถิด ถ้าหากพวกเจ้าเป็นผู้พูดจริง
2:95
وَلَن يَتَمَنَّوْهُ أَبَدًۢا بِمَا قَدَّمَتْ أَيْدِيهِمْ ۗ وَٱللَّهُ عَلِيمٌۢ بِٱلظَّـٰلِمِينَ
Translation : และเขาเหล่านั้น(145) จะไม่ปรารถนาความตายเลยตลอดกาล เนื่องด้วยความชั่วที่มือของพวกเขาได้ประกอบล่วงหน้าไว้ และอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงรู้ดียิ่งต่อบรรดาผู้อธรรมเหล่านั้น
Comment : (145)หมายถึงชาวยิวหรือวงศ์วานอิสราอีล
2:96
وَلَتَجِدَنَّهُمْ أَحْرَصَ ٱلنَّاسِ عَلَىٰ حَيَوٰةٍۢ وَمِنَ ٱلَّذِينَ أَشْرَكُوا۟ ۚ يَوَدُّ أَحَدُهُمْ لَوْ يُعَمَّرُ أَلْفَ سَنَةٍۢ وَمَا هُوَ بِمُزَحْزِحِهِۦ مِنَ ٱلْعَذَابِ أَن يُعَمَّرَ ۗ وَٱللَّهُ بَصِيرٌۢ بِمَا يَعْمَلُونَ
Translation : และแน่นอนเหลือเกินเจ้า(146) จะพบว่าพวกเขาปรารถนาการมีชีวิตอยู่ยิ่งกว่ามนุษย์ทั้งหลาย และยิ่งกว่าบรรดาผู้ที่ให้มีภาคีขึ้น(แก่อัลลอฮ์) เสียอีก คนหนึ่งคนใดในพวกเขานั้นชอบ หากว่าเขาจะถูกให้มีอายุถึงพันปี ทั้งๆ ที่การมีอายุยืนนานจะไม่ทำให้เขาห่างไกลจากการถูกลงโทษไปได้ และอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงเห็นในสิ่งที่เขาเหล่านั้นกระทำกันอยู่
Comment : (146)คือท่านนบีจะพบว่าชาวยิวนั้นห่วงใยต่อชีวิตเป็นอย่างยิ่ง
2:97
قُلْ مَن كَانَ عَدُوًّۭا لِّجِبْرِيلَ فَإِنَّهُۥ نَزَّلَهُۥ عَلَىٰ قَلْبِكَ بِإِذْنِ ٱللَّهِ مُصَدِّقًۭا لِّمَا بَيْنَ يَدَيْهِ وَهُدًۭى وَبُشْرَىٰ لِلْمُؤْمِنِينَ
Translation : จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า ใครที่เคยเป็นศัตรูต่อญิบรีลบ้าง? แท้จริง เขาได้นำเอาอัลกุรอานทยอยลงมายังหัวใจจของเจ้าด้วยอนุมัติของอัลลอฮ์ทั้งนี้เพื่อมายืนยันคัมภีร์ที่อยู่หน้าคัมภีร์อัลกุรอาน(147) และเพื่อเป็นข้อแนะนำและข่าวดีแก่ผู้ศรัทธาทั้งหลาย
Comment : (147)หมายถึงคัมภีร์เตารอตและอินญีล
2:98
مَن كَانَ عَدُوًّۭا لِّلَّهِ وَمَلَـٰٓئِكَتِهِۦ وَرُسُلِهِۦ وَجِبْرِيلَ وَمِيكَىٰلَ فَإِنَّ ٱللَّهَ عَدُوٌّۭ لِّلْكَـٰفِرِينَ
Translation : ใครที่เป็นศัตรูต่ออัลลอฮ์และมลาอิกะฮ์ของพระองค์และบรรดาร่อซูลของพระองค์ และเป็นศัตรูต่อญิบรีลและมีกาอีลนั้น แท้จริงอัลลอฮ์ทรงเป็นศัตรูแก่ผู้ปฏิเสธศรัทธาทั้งหลาย
2:99
وَلَقَدْ أَنزَلْنَآ إِلَيْكَ ءَايَـٰتٍۭ بَيِّنَـٰتٍۢ ۖ وَمَا يَكْفُرُ بِهَآ إِلَّا ٱلْفَـٰسِقُونَ
Translation : และแท้จริงเราได้ให้สัญญาณต่างๆ อันชัดแจ้งแก่เจ้าแล้ว(148) และย่อมจะไม่มีใครปฏิเสธสัญญาณเหล่านั้น นอกจากบรรดาผู้ที่ฝ่าฝืนเท่านั้น
Comment : (148)หมายถึงหลักฐานอันชัดเจน
2:100
أَوَكُلَّمَا عَـٰهَدُوا۟ عَهْدًۭا نَّبَذَهُۥ فَرِيقٌۭ مِّنْهُم ۚ بَلْ أَكْثَرُهُمْ لَا يُؤْمِنُونَ
Translation : และทุกครั้งที่พวกเขา(149) ได้ให้คำมั่นสัญญาใดๆ ไว้ กลุ่มหนึ่งในพวกเขาก็โยนสัญญานั้นทิ้งเสียกระนั้นหรือ? หามิได้ส่วนมากของพวกเขาไม่ศรัทธาต่างหาก
Comment : (149)ชาวยิวที่ได้ให้คำมั่นสัญญาแก่อัลลอฮ์ไว้
2:101
وَلَمَّا جَآءَهُمْ رَسُولٌۭ مِّنْ عِندِ ٱللَّهِ مُصَدِّقٌۭ لِّمَا مَعَهُمْ نَبَذَ فَرِيقٌۭ مِّنَ ٱلَّذِينَ أُوتُوا۟ ٱلْكِتَـٰبَ كِتَـٰبَ ٱللَّهِ وَرَآءَ ظُهُورِهِمْ كَأَنَّهُمْ لَا يَعْلَمُونَ
Translation : และเมื่อได้มีร่อซูลคนใด ณ ที่อัลลอฮ์มายังพวกเขาซึ่งจะเป็นผู้ยืนยันสิ่งที่มีอยู่กับพวกเขา(150) กลุ่มหนึ่งจากบรรดาผู้ที่ได้รับคัมภีร์ ก็เหวี่ยงคัมภีร์ของอัลลอฮ์ไว้เบื้องหลังของพวกเขาเสีย(151) เสมือนหนึ่งว่าพวกเขาไม่รู้
Comment : (150)หมายถึงคัมภีร์เตารอต ในส่วนที่ยืนยันเอกภาพแด่อัลลอฮ์ และส่วนที่เป็นรากฐานแห่งบัญญัติศาสนา
Comment : (151)โยนส่วนที่บอกลักษณะของท่านนบีทิ้งเสีย
2:102
وَٱتَّبَعُوا۟ مَا تَتْلُوا۟ ٱلشَّيَـٰطِينُ عَلَىٰ مُلْكِ سُلَيْمَـٰنَ ۖ وَمَا كَفَرَ سُلَيْمَـٰنُ وَلَـٰكِنَّ ٱلشَّيَـٰطِينَ كَفَرُوا۟ يُعَلِّمُونَ ٱلنَّاسَ ٱلسِّحْرَ وَمَآ أُنزِلَ عَلَى ٱلْمَلَكَيْنِ بِبَابِلَ هَـٰرُوتَ وَمَـٰرُوتَ ۚ وَمَا يُعَلِّمَانِ مِنْ أَحَدٍ حَتَّىٰ يَقُولَآ إِنَّمَا نَحْنُ فِتْنَةٌۭ فَلَا تَكْفُرْ ۖ فَيَتَعَلَّمُونَ مِنْهُمَا مَا يُفَرِّقُونَ بِهِۦ بَيْنَ ٱلْمَرْءِ وَزَوْجِهِۦ ۚ وَمَا هُم بِضَآرِّينَ بِهِۦ مِنْ أَحَدٍ إِلَّا بِإِذْنِ ٱللَّهِ ۚ وَيَتَعَلَّمُونَ مَا يَضُرُّهُمْ وَلَا يَنفَعُهُمْ ۚ وَلَقَدْ عَلِمُوا۟ لَمَنِ ٱشْتَرَىٰهُ مَا لَهُۥ فِى ٱلْـَٔاخِرَةِ مِنْ خَلَـٰقٍۢ ۚ وَلَبِئْسَ مَا شَرَوْا۟ بِهِۦٓ أَنفُسَهُمْ ۚ لَوْ كَانُوا۟ يَعْلَمُونَ
Translation : และพวกเขาได้ปฏิบัติตามสิ่งที่บรรดาชัยฏอน(152) ในสมัยสุลัยมานอ่านให้ฟัง และสุลัยมานหาได้ปฏิเสธการศรัทธาไม่ แต่ทว่าชัยฏอนเหล่านั้นต่างหากที่ปฏิเสธการศรัทธา(153) โดยสอนประชาชนซึ่งวิชาไสยศาสตร์และสิ่งที่ถูกประทานลงมา(154) แก่มลาอิกะฮ์ทั้งสอง คือ ฮารูตและมารูต ณ เมืองบาบิลและเขาทั้งสองจะไม่สอนให้แก่ผู้ใดจนกว่าจะกล่าวว่า แท้จริงเราเพียงเป็นผู้ทดสอบเท่านั้น ท่านจงอย่าปฏิเสธการศรัทธาเลย(155) แล้วเขาเหล่านั้นก็ศึกษาจากเขาทั้งสอง สิ่งที่พวกเขาจะใช้มันยังความแตกแยกระหว่างบุคคลกับภรรยาของเขา และพวกเขาไม่อาจทำให้สิ่งนั้นเป็นอันตรายแก่ผู้ใดได้ นอกจากด้วยการอนุมัติของอัลลอฮ์เท่านั้น(156) และพวกเขาก็เรียนสิ่งที่เป็นโทษแก่พวกเขาและมิใช่เป็นคุณแก่พวกเขา และแท้จริงนั้นพวกเขารู้แล้วว่าแน่นอนผู้ที่ซื้อมันไว้นั้น(157) ในปรโลกก็ย่อมไม่มีส่วนได้ใดๆ และแน่นอนเป็นสิ่งที่ชั่วช้าจริงๆ ที่พวกเขาขายตัวของพวกเขาด้วยสิ่งนั้น หากพวกเขารู้
Comment : (152)หมายถึง ชัยฏอนผู้ประพฤติชั่วในสมัยท่านนบีสุลัยมานได้นำวิชาไสยศาสตร์ ออกเผยแพร่ และปฏิบัติกัน
Comment : (153)หมายถึงการยึดถือวิชาไสยศาสตร์ เพราะปฏิบัติการดังกล่าวนี้ถือว่าเป็นการปฏิเสธศรัทธา
Comment : (154)หมายถึงวิชาไสยศาสตร์ที่อัลลอฮ์ทรงให้มะลาอิกะฮ์ทั้งสองนำมาเพื่อทดสอบการอีมานของวงศ์วานอิสรออีล
Comment : (155)จงอย่าศึกษาวิชาไสยศาสตร์เลย เพราะเป็นการปฏิเสธศรัทธา
Comment : (156)นอกจากเป็นไปตามกฎสภาวการณ์ของอัลลอฮ์เท่านั้น
Comment : (157)ผู้ที่เชื่อวิชาไสยศาสตร์
2:103
وَلَوْ أَنَّهُمْ ءَامَنُوا۟ وَٱتَّقَوْا۟ لَمَثُوبَةٌۭ مِّنْ عِندِ ٱللَّهِ خَيْرٌۭ ۖ لَّوْ كَانُوا۟ يَعْلَمُونَ
Translation : และหากว่าเขาเหล่านั้นศรัทธา และเกรงกลัวแล้ว แน่นอนผลานิสงส์ ณ ที่อัลลอฮ์นั้นย่อมดีกว่า หากพวกเขารู้
2:104
يَـٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ لَا تَقُولُوا۟ رَٰعِنَا وَقُولُوا۟ ٱنظُرْنَا وَٱسْمَعُوا۟ ۗ وَلِلْكَـٰفِرِينَ عَذَابٌ أَلِيمٌۭ
Translation : โอ้ ศรัทธาทั้งหลาย! จงอย่าพูดว่ารออินา(158) และจงพูดว่า อุนซุรนา(159) และจงฟังและสำหรับผู้ปฏิเสธการศรัทธานั้น คือการลงโทษอันเจ็บแสบ
Comment : (158)แปลว่า “โปรดสดับฟังเรา”
Comment : (159)แปลว่า “โปรดมองมาทางเรา”
2:105
مَّا يَوَدُّ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ مِنْ أَهْلِ ٱلْكِتَـٰبِ وَلَا ٱلْمُشْرِكِينَ أَن يُنَزَّلَ عَلَيْكُم مِّنْ خَيْرٍۢ مِّن رَّبِّكُمْ ۗ وَٱللَّهُ يَخْتَصُّ بِرَحْمَتِهِۦ مَن يَشَآءُ ۚ وَٱللَّهُ ذُو ٱلْفَضْلِ ٱلْعَظِيمِ
Translation : บรรดาผู้ปฏิเสธการศรัทธาทั้งจากอะฮ์ลุลกิตาบ(160) และจากบรรดามุชริกนั้น(161) ต่างไม่ชอบที่จะให้มีความดีใดๆ จากพระผู้อภิบาลของพวกเจ้าถูกประทานลงมาแก่พวกเจ้า และอัลลอฮ์จะทรงเจาะจงความกรุณาของพระองค์แก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์และอัลลอฮ์เป็นผู้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง
Comment : (160)หมายถึงพวกยิว
Comment : (161)หมายถึงชาวมักกะฮ์ที่สักการะเจว็ด
2:106
۞ مَا نَنسَخْ مِنْ ءَايَةٍ أَوْ نُنسِهَا نَأْتِ بِخَيْرٍۢ مِّنْهَآ أَوْ مِثْلِهَآ ۗ أَلَمْ تَعْلَمْ أَنَّ ٱللَّهَ عَلَىٰ كُلِّ شَىْءٍۢ قَدِيرٌ
Translation : โองการใดที่เรายกเลิก(162) หรือเราทำให้มันลืมเลือนไป เราจะนำสิ่งที่ดีกว่าโองการนั้นมา(163) หรือสิ่งที่เท่าเทียมกับโองการนั้น(164) เจ้ามิได้รู้ดอกหรือว่า แท้จริง อัลลอฮ์นั้นทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง
Comment : (162)คือโองการที่อัลลอฮ์ได้ประทานมาในอดีต เมื่อหมดความเหมาะสมแล้วก็ถูกยกเลิก
Comment : (163)มีประโยชน์มากกว่า
Comment : (164) มีประโยชน์เท่าเทียมกัน
2:107
أَلَمْ تَعْلَمْ أَنَّ ٱللَّهَ لَهُۥ مُلْكُ ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضِ ۗ وَمَا لَكُم مِّن دُونِ ٱللَّهِ مِن وَلِىٍّۢ وَلَا نَصِيرٍ
Translation : เจ้า (มุฮัมมัด) มิได้รู้ดอกหรือว่า แท้จริง อัลลอฮ์ทรงมีอำนาจแห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน อื่นจากอัลลอฮ์แล้ว พวกเจ้าย่อมไม่มีผู้คุ้มครองใดๆ และผู้ช่วยเหลือใด ๆ
2:108
أَمْ تُرِيدُونَ أَن تَسْـَٔلُوا۟ رَسُولَكُمْ كَمَا سُئِلَ مُوسَىٰ مِن قَبْلُ ۗ وَمَن يَتَبَدَّلِ ٱلْكُفْرَ بِٱلْإِيمَـٰنِ فَقَدْ ضَلَّ سَوَآءَ ٱلسَّبِيلِ
Translation : หรือพวกเจ้าจะขอร้องต่อร่อซูลของพวกเจ้า เช่นเดียวกับที่มูซาเคยถูกขอร้องมาก่อนแล้ว(165) และผู้ใดเปลี่ยนเอาการปฏิเสธไว้แทนการศรัทธาแล้วไซร้ แน่นอน เขาได้หลงทางอันเที่ยงตรงเสียแล้ว
Comment : (165)คือถูกขอร้องให้พวกเขาเห็นอัลลอฮ์โดยเปิดเผย และพวกเจ้าในที่นี้หมายถึงชาวมักกะฮ์ ซึ่งขอร้องให้ท่านนบีขยายเนื้อที่มักกะฮ์ให้กว้างขวางขึ้น
2:109
وَدَّ كَثِيرٌۭ مِّنْ أَهْلِ ٱلْكِتَـٰبِ لَوْ يَرُدُّونَكُم مِّنۢ بَعْدِ إِيمَـٰنِكُمْ كُفَّارًا حَسَدًۭا مِّنْ عِندِ أَنفُسِهِم مِّنۢ بَعْدِ مَا تَبَيَّنَ لَهُمُ ٱلْحَقُّ ۖ فَٱعْفُوا۟ وَٱصْفَحُوا۟ حَتَّىٰ يَأْتِىَ ٱللَّهُ بِأَمْرِهِۦٓ ۗ إِنَّ ٱللَّهَ عَلَىٰ كُلِّ شَىْءٍۢ قَدِيرٌۭ
Translation : อะฮ์ลุลกิตาบมากมาย(166) ชอบหากพวกเขาจะสามารถทำให้พวกเจ้ากลับเป็นผู้ปฏิเสธการศรัทธาอีก ทั้งนี้เพราะความอิจฉาริษยาที่มาจากตัวของพวกเขาเอง หลังจากความจริงได้ประจักษ์แก่พวกเขา ดังนั้น พวกเจ้าจงให้อภัย และเบือนหน้าเสีย(167) จนกว่าอัลลอฮ์จะประทานคำสั่งของพระองค์มา แท้จริง อัลลอฮ์นั้นทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่ง
Comment : (166)หมายถึงชาวยิวและชาวคริสเตียน
Comment : (167)ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
2:110
وَأَقِيمُوا۟ ٱلصَّلَوٰةَ وَءَاتُوا۟ ٱلزَّكَوٰةَ ۚ وَمَا تُقَدِّمُوا۟ لِأَنفُسِكُم مِّنْ خَيْرٍۢ تَجِدُوهُ عِندَ ٱللَّهِ ۗ إِنَّ ٱللَّهَ بِمَا تَعْمَلُونَ بَصِيرٌۭ
Translation : และพวกเจ้าจงดำรงไว้ซึ่งการละหมาดเถิดและจงชำระซะกาตเสีย และความดีใดๆ ที่พวกเจ้าได้ประกอบล่วงหน้าไว้สำหรับตัวของพวกเจ้าเองพวกเจ้าก็จะพบมัน ณ ที่อัลลอฮ์แท้จริงอัลลอฮ์นั้นทรงเห็นในสิ่งที่พวกเจ้าปฏิบัติกันอยู่
2:111
وَقَالُوا۟ لَن يَدْخُلَ ٱلْجَنَّةَ إِلَّا مَن كَانَ هُودًا أَوْ نَصَـٰرَىٰ ۗ تِلْكَ أَمَانِيُّهُمْ ۗ قُلْ هَاتُوا۟ بُرْهَـٰنَكُمْ إِن كُنتُمْ صَـٰدِقِينَ
Translation : และพวกเขากล่าวว่า จะไม่มีใครเข้าสวรรค์เลย นอกจากผู้ที่เป็นยิวหรือเป็นคริสเตียนเท่านั้น(168) นั่นคือความเพ้อฝันของพวกเขา จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่าพวกท่านจงนำหลักฐานของพวกท่านมา ถ้าพวกท่านเป็นผู้พูดจริง
Comment : (168)ต่างฝ่ายต่างก็อ้างว่าฝ่ายตนเท่านี้จะได้เข้าสวรรค์
2:112
بَلَىٰ مَنْ أَسْلَمَ وَجْهَهُۥ لِلَّهِ وَهُوَ مُحْسِنٌۭ فَلَهُۥٓ أَجْرُهُۥ عِندَ رَبِّهِۦ وَلَا خَوْفٌ عَلَيْهِمْ وَلَا هُمْ يَحْزَنُونَ
Translation : หาใช่เช่นนั้นไม่(169) ผู้ใดที่มอบใบหน้าของเขา(170) ให้แก่อัลลอฮ์และขณะเดียวกันเขาก็เป็นผู้กระทำความดีแล้วไซร้ เขาจะได้รับรางวัลของเขา ณ ที่พระผู้อภิบาลของเขา และไม่มีความกลัวใดๆ แก่พวกเขาและทั้งพวกเขาก็จะไม่เสียใจ(171)
Comment : (169)หาใช่ตามที่ชาวยิวและคริสต์เพ้อฝันแต่อย่างใดไม่
Comment : (170)หมายถึงทั้งชีวิตและร่างกาย
Comment : (171)หมายถึงทั้งในโลกนี้และปรโลก
2:113
وَقَالَتِ ٱلْيَهُودُ لَيْسَتِ ٱلنَّصَـٰرَىٰ عَلَىٰ شَىْءٍۢ وَقَالَتِ ٱلنَّصَـٰرَىٰ لَيْسَتِ ٱلْيَهُودُ عَلَىٰ شَىْءٍۢ وَهُمْ يَتْلُونَ ٱلْكِتَـٰبَ ۗ كَذَٰلِكَ قَالَ ٱلَّذِينَ لَا يَعْلَمُونَ مِثْلَ قَوْلِهِمْ ۚ فَٱللَّهُ يَحْكُمُ بَيْنَهُمْ يَوْمَ ٱلْقِيَـٰمَةِ فِيمَا كَانُوا۟ فِيهِ يَخْتَلِفُونَ
Translation : และชาวยิวกล่าวว่า ชาวคริสต์นั้นมิได้ตั้งอยู่บนสิ่งใด(172) และชาวคริสต์ก็กล่าว่า ชาวยิวก็มิได้ตั้งอยู่บนสิ่งใด ทั้งๆ ที่เขาเหล่านั้นอ่านคัมภีร์กันอยู่ ในทำนองเดียวกัน บรรดาผู้ที่ไม่รู้ก็ได้กล่าวเช่นเดียวกับคำกล่าวของพวกเขา ดังนั้นในวันกิยามะฮ์(173) อัลลอฮ์จะทรงตัดสินระหว่างพวกเขาในสิ่งที่พวกเขาขัดแย้งกัน
Comment : (172)คือมิได้ตั้งอยู่บนศาสนาที่ถูกต้อง
Comment : (173)วันที่มนุษย์ถูกให้ฟื้นคืนชีพ เพื่อรับการตอบแทน
2:114
وَمَنْ أَظْلَمُ مِمَّن مَّنَعَ مَسَـٰجِدَ ٱللَّهِ أَن يُذْكَرَ فِيهَا ٱسْمُهُۥ وَسَعَىٰ فِى خَرَابِهَآ ۚ أُو۟لَـٰٓئِكَ مَا كَانَ لَهُمْ أَن يَدْخُلُوهَآ إِلَّا خَآئِفِينَ ۚ لَهُمْ فِى ٱلدُّنْيَا خِزْىٌۭ وَلَهُمْ فِى ٱلْـَٔاخِرَةِ عَذَابٌ عَظِيمٌۭ
Translation : และใครเล่าจะเป็นผู้อธรรมยิ่งไปกว่าผู้ที่หวงห้ามบรรดามัสยิดของอัลลอฮ์ในการที่พระนามของพระองค์จะถูกรำลึกในมัสยิดเหล่านั้น และพยายามในการทำลายมัสยิดเหล่านั้นด้วย(174) ชนเหล่านี้แหละไม่บังควรแก่พวกเขาที่จะเข้าไปในมัสยิดเหล่านั้น นอกจากในฐานะผู้เกรงกลัวเท่านั้น และเขาเหล่านั้นจะได้รับความอัปยศในโลกนี้ และในปรโลก พวกเขาจะได้รับการลงโทษอันใหญ่หลวง
Comment : (174)หมายถึง ติตัสและไพร่พลของเขาซึ่งเป็นชาวโรมันได้ทำลายบัยตุลมักดิส
2:115
وَلِلَّهِ ٱلْمَشْرِقُ وَٱلْمَغْرِبُ ۚ فَأَيْنَمَا تُوَلُّوا۟ فَثَمَّ وَجْهُ ٱللَّهِ ۚ إِنَّ ٱللَّهَ وَٰسِعٌ عَلِيمٌۭ
Translation : และทิศตะวันออกและทิศตะวันตกนั้นเป็นสิทธิของอัลลอฮ์ดังนั้นพวกเจ้าจะผินไปทางไหน ที่นั่นแหละคือพระพักตร์ของอัลลอฮ์แท้จริงอัลลอฮ์คือผู้ทรงกว้างขวาง ผู้ทรงรอบรู้
2:116
وَقَالُوا۟ ٱتَّخَذَ ٱللَّهُ وَلَدًۭا ۗ سُبْحَـٰنَهُۥ ۖ بَل لَّهُۥ مَا فِى ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضِ ۖ كُلٌّۭ لَّهُۥ قَـٰنِتُونَ
Translation : และพวกเขากล่าวว่า อัลลอฮ์ได้ทรงยึดเอาพระบุตรองค์หนึ่ง(175) มหาบริสุทธิ์แห่งพระองค์ หาใช่เช่นนั้นไม่ สิ่งที่อยู่ในบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดินนั้น เป็นของพระองค์ทั้งสิ้น โดยที่ทั้งหมดนั้นเป็นผู้ภักดี(176) และนอบน้อมต่อพระองค์
Comment : (175)หมายถึงท่านนบีอีซา
Comment : (176)หมายถึงนบนอบในอำนาจและพระประสงค์ของพระองค์ทั้งสิ้น
2:117
بَدِيعُ ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضِ ۖ وَإِذَا قَضَىٰٓ أَمْرًۭا فَإِنَّمَا يَقُولُ لَهُۥ كُن فَيَكُونُ
Translation : พระองค์ผู้ทรงเนรมิตรชั้นฟ้า และแผ่นดิน(177) และเมื่อพระองค์ทรงกำหนดสิ่งใดแล้ว พระองค์เพียงแต่ประกาศิตแก่สิ่งนั้นว่า จงเป็นแล้วสิ่งนั้นก็จะเป็นขึ้น
Comment : (177)หมายถึงว่าไม่เคยมีผู้ใดเคยสร้างฟ้าและพิภพมาก่อน
2:118
وَقَالَ ٱلَّذِينَ لَا يَعْلَمُونَ لَوْلَا يُكَلِّمُنَا ٱللَّهُ أَوْ تَأْتِينَآ ءَايَةٌۭ ۗ كَذَٰلِكَ قَالَ ٱلَّذِينَ مِن قَبْلِهِم مِّثْلَ قَوْلِهِمْ ۘ تَشَـٰبَهَتْ قُلُوبُهُمْ ۗ قَدْ بَيَّنَّا ٱلْـَٔايَـٰتِ لِقَوْمٍۢ يُوقِنُونَ
Translation : และบรรดาผู้ที่ไม่รู้กล่าวว่า ไฉนอัลลอฮ์จึงไม่ตรัสแก่พวกเรา หรือไม่มีสัญญาณหนึ่งมายังพวกเรา ในทำนองเดียวกัน บรรดาชนรุ่นก่อนพวกเขา ก็กล่าวเช่นเดียวกับคำพูดของพวกเขา โดยที่หัวใจของพวกเขาคล้ายคลึงกัน แท้จริงนั้น เราได้แจกแจงสัญญาณต่างๆ ไว้อย่างชัดเจนแล้วแก่พวกที่ศรัทธามั่น
2:119
إِنَّآ أَرْسَلْنَـٰكَ بِٱلْحَقِّ بَشِيرًۭا وَنَذِيرًۭا ۖ وَلَا تُسْـَٔلُ عَنْ أَصْحَـٰبِ ٱلْجَحِيمِ
Translation : และแท้จริง เรา(อัลลอฮ์) ได้ส่งเจ้า(มุฮัมมัด)มาพร้อมด้วยความจริง ในฐานะผู้แจ้งข่าวดี และผู้ตักเตือน และเจ้าจะไม่ถูกไต่สวนเกี่ยวกับชาวนรก
2:120
وَلَن تَرْضَىٰ عَنكَ ٱلْيَهُودُ وَلَا ٱلنَّصَـٰرَىٰ حَتَّىٰ تَتَّبِعَ مِلَّتَهُمْ ۗ قُلْ إِنَّ هُدَى ٱللَّهِ هُوَ ٱلْهُدَىٰ ۗ وَلَئِنِ ٱتَّبَعْتَ أَهْوَآءَهُم بَعْدَ ٱلَّذِى جَآءَكَ مِنَ ٱلْعِلْمِ ۙ مَا لَكَ مِنَ ٱللَّهِ مِن وَلِىٍّۢ وَلَا نَصِيرٍ
Translation : และชาวยิวและชาวคริสต์นั่น จะไม่พอใจแก่เจ้า (มุฮัมมัด) เป็นอันขาด จนกว่าเจ้าจะปฏิบัติตามศาสนาของพวกเขา จงกล่าวเถิดแท้จริงคำแนะนำของอัลลอฮ์เท่านั้น คือ คำแนะนำ(178) แน่นอน ถ้าเจ้า ปฏิบัติตามอารมณ์ของพวกเขา หลังจากที่มีความรู้มายังแล้ว ก็ย่อมไม่มีผู้คุ้มครองและผู้ช่วยเหลือใดๆ สำหรับเจ้าให้พ้นจากการลงโทษของอัลลอฮ์ได้
Comment : (178)คือคำแนะนำที่ถูกต้อง และให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
2:121
ٱلَّذِينَ ءَاتَيْنَـٰهُمُ ٱلْكِتَـٰبَ يَتْلُونَهُۥ حَقَّ تِلَاوَتِهِۦٓ أُو۟لَـٰٓئِكَ يُؤْمِنُونَ بِهِۦ ۗ وَمَن يَكْفُرْ بِهِۦ فَأُو۟لَـٰٓئِكَ هُمُ ٱلْخَـٰسِرُونَ
Translation : บรรดาผู้ที่เราได้ให้คัมภีร์แก่พวกเขาโดยที่พวกเขาอ่านคัมภีร์นั้นอย่างจริงจัง(179) ชนเหล่านี้คือ ผู้ที่ศรัทธาต่อคัมภีร์นั้นและผู้ใดปฏิเสธศรัทธาต่อคัมภีร์นั้นไซร้(180) แน่นอนชนเหล่านี้คือผู้ที่ขาดทุน
Comment : (179)อ่านคัมภีร์นั้นด้วยความศรัทธาและพินิจพิจารณาในการนี้ย่อมทำให้เขารู้แน่ว่า นบีมุฮัมมัด คือนบีที่ถูกระบุลักษณะไว้ในคัมภีร์นั้น
Comment : (180)มิได้อ่านคัมภีร์นั้นอย่างจริงใจ จึงทำให้เขาไม่เข้าใจข้อความซึ่งระบุในคัมภีร์ทำให้เขาปฏิเสธนบีมุฮัมมัด เขาจึงตกอยู่ในฐานะผู้ปฏิเสธคัมภีร์
2:122
يَـٰبَنِىٓ إِسْرَٰٓءِيلَ ٱذْكُرُوا۟ نِعْمَتِىَ ٱلَّتِىٓ أَنْعَمْتُ عَلَيْكُمْ وَأَنِّى فَضَّلْتُكُمْ عَلَى ٱلْعَـٰلَمِينَ
Translation : วงศ์วานอิสรออีลเอ๋ย! จงรำลึกถึงความกรุณาของข้าที่ข้าได้กรุณาต่อพวกเจ้า และแท้จริงข้าได้เทิดพวกเจ้าเหนือ ประชาชนทั้งหลาย
2:123
وَٱتَّقُوا۟ يَوْمًۭا لَّا تَجْزِى نَفْسٌ عَن نَّفْسٍۢ شَيْـًۭٔا وَلَا يُقْبَلُ مِنْهَا عَدْلٌۭ وَلَا تَنفَعُهَا شَفَـٰعَةٌۭ وَلَا هُمْ يُنصَرُونَ
Translation : และพ+วกเจ้าจงหวั่นเกรงวันหนึ่ง(วันกิยามะฮ์)ซึ่งไม่มีชีวิตใดจะชดเชยสิ่งใดแทนอีกชีวิตหนึ่งได้(181) และค่าไถ่ถอนใดๆ ก็หาได้รับประโยชน์แก่ชีวิตนั้นไม่ถูกรับ(182)และ ทั้งการขอให้ความช่วยเหลือใดๆ ก็หาได้ยังประโยชน์แก่ชีวิตนั้นแก่ชีวิตนั้นไม่(183) ตลอดจนเขาเหล่านั้นก็จะไม่ได้รับความช่วยเหลือ
Comment : (181)คือไม่มีใครนำเอาความดีของตนไปชดเชยส่วนบกพร่องของอีกคนหนึ่งได้
Comment : (182)คือสมมุติว่า ชีวิตนั้นจะไถ่ตัวของเขาให้พ้นจากการลงโทษด้วยทรัพย์สินมากมายเท่าใดก็ตาม ก็จะไม่ถูกรับเพราะแต่ละคนจะต้องลิ้มรสแห่งความผิดของตน ไม่มีผู้ใดหรือสิ่งใดช่วยเหลือได้
Comment : (183)การขอให้อัลลอฮ์ทรงกรุณาแก่ชีวิตนั้นก็หาได้รับประโยชน์ไม่
2:124
۞ وَإِذِ ٱبْتَلَىٰٓ إِبْرَٰهِـۧمَ رَبُّهُۥ بِكَلِمَـٰتٍۢ فَأَتَمَّهُنَّ ۖ قَالَ إِنِّى جَاعِلُكَ لِلنَّاسِ إِمَامًۭا ۖ قَالَ وَمِن ذُرِّيَّتِى ۖ قَالَ لَا يَنَالُ عَهْدِى ٱلظَّـٰلِمِينَ
Translation : และจงรำลึกถึงขณะที่พระผู้อภิบาลของอิบรอฮีมได้ทดสอบเขาด้วยพระบัญชาบางประการ(184) แล้วเขาก็ได้สนองตามพระบัญชานั้นโดยครบถ้วน(185) พระองค์ตรัสว่า แท้จริงข้าจะให้เจ้าเป็นผู้นำมนุษยชาติ เขากล่าวว่าและจากลูกหลานของข้าพระองค์ด้วย(186) พระองค์ ตรัสว่า สัญญาของข้านั้นจะไม่ได้แก่บรรดาผู้อธรรม(187)
Comment : (184)เราไม่สามารถรู้ได้ว่าพระบัญชาบางประการนั้นคืออะไรบ้าง? เพราะไม่ปรากฏว่าท่านนบีได้อธิบายไว้ ในการนี้นักปราชญ์จึงมีทรรศนะต่างกัน
Comment : (185)ปฏิบัติตามบัญชานั้นอย่างครบถ้วน
Comment : (186)ท่านนบีอิบรอฮีม ขอให้อัลลอฮ์ทรงแต่งตั้งผู้นำจากลูกหลานของท่านด้วย
Comment : (187)พระองค์ทรงรับคำขอของท่านนบีอิบรอฮีม แต่ถ้าสมัยใดที่ลูกหลานของท่านเป็นผู้อธรรมแล้ว ก็จะไม่ได้รับตามสัญญานั้น
2:125
وَإِذْ جَعَلْنَا ٱلْبَيْتَ مَثَابَةًۭ لِّلنَّاسِ وَأَمْنًۭا وَٱتَّخِذُوا۟ مِن مَّقَامِ إِبْرَٰهِـۧمَ مُصَلًّۭى ۖ وَعَهِدْنَآ إِلَىٰٓ إِبْرَٰهِـۧمَ وَإِسْمَـٰعِيلَ أَن طَهِّرَا بَيْتِىَ لِلطَّآئِفِينَ وَٱلْعَـٰكِفِينَ وَٱلرُّكَّعِ ٱلسُّجُودِ
Translation : และจงรำลึกถึงขณะที่เราได้ให้บ้านหลังนั้นเป็นที่กลับมาสำหรับมนุษย์ และเป็นที่ปลอดภัย และพวกเจ้าจงยึดเอาเป็นที่ยืนของอิบรอฮีม(188) เป็นที่ละหมาดเถิดและ เราได้สั่งเสียแก่อิบรอฮีม และอิสมาอีลว่า เจ้าทั้งสองจงทำความสะอาดบ้านของข้าเพื่อบรรดาผู้ทำการเฎาะวาฟ(189) และบรรดาผู้ทำการเอี๊ยะติกาฟ(190) และบรรดาผู้ที่ทำรุกัวะและสุญูด(191)
Comment : (188)คือ ก้อนหินที่ท่านใช้เป็นที่รองเท้า เพื่อก่ออัล-กะอ์บะฮ์ ซึ่งเรียกกันว่า “มะกอมอิบรอฮีม”
Comment : (189)ผู้เดินเวียนซ้ายรอบกะอ์บะฮ์เจ็ดรอบ
Comment : (190)ผู้ที่จำกัดตนอยู่ในบริเวณกะอ์บะฮ์ตามจำนวนที่เขากำหนดไว้ เพื่อทำการอิบาดะฮ์ต่ออัลลอฮ์
Comment : (191)ผู้ทำละหมาด
2:126
وَإِذْ قَالَ إِبْرَٰهِـۧمُ رَبِّ ٱجْعَلْ هَـٰذَا بَلَدًا ءَامِنًۭا وَٱرْزُقْ أَهْلَهُۥ مِنَ ٱلثَّمَرَٰتِ مَنْ ءَامَنَ مِنْهُم بِٱللَّهِ وَٱلْيَوْمِ ٱلْـَٔاخِرِ ۖ قَالَ وَمَن كَفَرَ فَأُمَتِّعُهُۥ قَلِيلًۭا ثُمَّ أَضْطَرُّهُۥٓ إِلَىٰ عَذَابِ ٱلنَّارِ ۖ وَبِئْسَ ٱلْمَصِيرُ
Translation : และจงรำลึกถึงขณะที่อิบรอฮีมได้วิงวอนว่า ข้าแต่พระผู้อภิบาลของข้าพระองค์โปรดทรงให้ที่นี่เป็นเมืองที่ปลอดภัย และโปรดประทานบรรดาผลไม้ให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่ชาวเมืองนั้นด้วย คือ ผู้ที่ศรัทธาต่ออัลลอฮ์และวันปรโลกจากพวกเขา(192) พระองค์ตรัสว่า ผู้ใดที่ปฏิเสธการศรัทธา ข้าจะให้เขาได้รับความสำราญชั่วเวลาเพียงเล็กน้อยเท่านั้นภายหลังข้าจะบีบบังคับให้เขาไปสู่การทรมานแห่งขุมนรก และเป็นจุดหมายปลายทางอันชั่วช้ายิ่ง
Comment : (192)คือจากลูกหลานของท่านนบีอิบรอฮีม
2:127
وَإِذْ يَرْفَعُ إِبْرَٰهِـۧمُ ٱلْقَوَاعِدَ مِنَ ٱلْبَيْتِ وَإِسْمَـٰعِيلُ رَبَّنَا تَقَبَّلْ مِنَّآ ۖ إِنَّكَ أَنتَ ٱلسَّمِيعُ ٱلْعَلِيمُ
Translation : และจงรำลึกถึง ขณะที่อิบรอฮีมและอิสมาอีล ได้ก่อฐานของบ้านหลังนั้น(193) ให้สูงขึ้น (ทั้งสองได้กล่าววิงวอนว่า) ข้าแต่พระผู้อภิบาลของพวกข้าพระองค์โปรดรับ(งาน) จากพวกข้าพระองค์ด้วยเถิด แท้จริงพระองค์นั้นทรงได้ยิน และทรงรอบรู้
Comment : (193)คือ อัล-กะอ์บะฮ์ หรือบัยตุลลอฮ์
2:128
رَبَّنَا وَٱجْعَلْنَا مُسْلِمَيْنِ لَكَ وَمِن ذُرِّيَّتِنَآ أُمَّةًۭ مُّسْلِمَةًۭ لَّكَ وَأَرِنَا مَنَاسِكَنَا وَتُبْ عَلَيْنَآ ۖ إِنَّكَ أَنتَ ٱلتَّوَّابُ ٱلرَّحِيمُ
Translation : พระผู้อภิบาลของข้าพระองค์ โปรดให้พระองค์ทั้งสองเป็นผู้นอบน้อมต่อพระองค์ และโปรดให้มีจากลูกหลานของพวกพระองค์ประชาชนที่นอบน้อมต่อพระองค์ และโปรดแสดงแก่ข้าพระองค์ ซึ่งพิธีการทำฮัจญ์ของพวกข้าพระองค์ และโปรดอภัยโทษแก่พวกข้าพระองค์ด้วย แท้จริงพระองค์ทรงเป็นผู้อภัยโทษ ทรงเอ็นดูเมตตา
2:129
رَبَّنَا وَٱبْعَثْ فِيهِمْ رَسُولًۭا مِّنْهُمْ يَتْلُوا۟ عَلَيْهِمْ ءَايَـٰتِكَ وَيُعَلِّمُهُمُ ٱلْكِتَـٰبَ وَٱلْحِكْمَةَ وَيُزَكِّيهِمْ ۚ إِنَّكَ أَنتَ ٱلْعَزِيزُ ٱلْحَكِيمُ
Translation : พระผู้อภิบาลของพวกข้าพระองค์โปรดส่งร่อซูลคนหนึ่งจากพวกเขาไปในหมู่พวกเขา ซึ่งเขาจะได้อ่านบรรดาโองการของพระองค์ให้พวกเขาฟัง และจะได้สอนคัมภีร์และความมุ่งหมายแห่งบัญญัติให้พวกเขาทราบและซักฟอกพวกเขาให้สะอาด แท้จริงพระองค์ทรงไว้ซึ่งเดชานุภาพ ทรงปรีชาญาณ
2:130
وَمَن يَرْغَبُ عَن مِّلَّةِ إِبْرَٰهِـۧمَ إِلَّا مَن سَفِهَ نَفْسَهُۥ ۚ وَلَقَدِ ٱصْطَفَيْنَـٰهُ فِى ٱلدُّنْيَا ۖ وَإِنَّهُۥ فِى ٱلْـَٔاخِرَةِ لَمِنَ ٱلصَّـٰلِحِينَ
Translation : และใครเล่าที่จะไม่พึงปรารถนาในแนวทางของอิบรอฮีม นอกจากผู้ที่ทำให้ตัวเองโฉดเขลาเท่านั้น และแท้จริงนั้น เราได้คัดเลือกเขา(ให้เป็นนบี และร่อซูล) ในโลกนี้ และแท้จริงในปรโลกนั้น เขาจะอยู่ในหมู่คนดีอย่างแน่นอน
2:131
إِذْ قَالَ لَهُۥ رَبُّهُۥٓ أَسْلِمْ ۖ قَالَ أَسْلَمْتُ لِرَبِّ ٱلْعَـٰلَمِينَ
Translation : จงรำลึกถึงขณะที่พระผู้อภิบาลของเขาได้กล่าวแก่เขาว่าเจ้าจงสวามิภักดิ์เถิดเขากล่าวว่า ข้าพระองค์ได้สวามิภักดิ์แด่พระเจ้าแห่งสากลโลกแล้ว
2:132
وَوَصَّىٰ بِهَآ إِبْرَٰهِـۧمُ بَنِيهِ وَيَعْقُوبُ يَـٰبَنِىَّ إِنَّ ٱللَّهَ ٱصْطَفَىٰ لَكُمُ ٱلدِّينَ فَلَا تَمُوتُنَّ إِلَّا وَأَنتُم مُّسْلِمُونَ
Translation : และอิบรอฮีมได้สั่งเสียแก่ลูกของเขาให้ปฏิบัติตามแนวทางนั้น(194) และยะอ์กูบก็สั่งเสียด้วยว่า โอ้ลูกๆ ของฉัน แท้จริง อัลลอฮ์ได้ทรงเลือกศาสนาให้แก่พวกเจ้าแล้ว ดังนั้น พวกเจ้าจงอย่าตายเป็นอันขาดนอกจากในขณะที่พวกเจ้าเป็นผู้สวามิภักดิ์(ต่ออัลลฮ์) เท่านั้น(195)
Comment : (194)คือแนวทางที่ท่านเรียกร้องและเชิญชวน
Comment : (195)ให้พยายามยึดมั่นในศาสนาที่อัลลอฮ์ได้ทรงคัดเลือกไว้ให้ และถ้าเมื่อตายลงจะได้ตายในฐานะผู้สวามิภักดิ์ต่อพระองค์
2:133
أَمْ كُنتُمْ شُهَدَآءَ إِذْ حَضَرَ يَعْقُوبَ ٱلْمَوْتُ إِذْ قَالَ لِبَنِيهِ مَا تَعْبُدُونَ مِنۢ بَعْدِى قَالُوا۟ نَعْبُدُ إِلَـٰهَكَ وَإِلَـٰهَ ءَابَآئِكَ إِبْرَٰهِـۧمَ وَإِسْمَـٰعِيلَ وَإِسْحَـٰقَ إِلَـٰهًۭا وَٰحِدًۭا وَنَحْنُ لَهُۥ مُسْلِمُونَ
Translation : หรือว่าพวกเจ้าอยู่ด้วยเมื่อความตายได้เยี่ยมกรายยะอ์กูบ ขณะที่เขากล่าวแก่ลูกๆ ของเขาว่า พวกเจ้าจะเคารพสักการะอะไร หลังจากฉัน? พวกเขากล่าวว่า พวกเราจะเคารพสักการะพระเจ้าของท่าน และพระเจ้าแห่งบรรดาบิดาของท่าน คือ อิบรอฮีม อิสมาอีล และอิสฮาก แต่เพียงองค์เดียวและพวกเราจะเป็นผู้สวามิภักดิ์ต่อพระองค์เท่านั้น
2:134
تِلْكَ أُمَّةٌۭ قَدْ خَلَتْ ۖ لَهَا مَا كَسَبَتْ وَلَكُم مَّا كَسَبْتُمْ ۖ وَلَا تُسْـَٔلُونَ عَمَّا كَانُوا۟ يَعْمَلُونَ
Translation : นั่นคือ หมู่ชนที่ล่วงลับไปแล้ว สิ่งที่พวกเขาขวนขวายไว้ ก็ย่อมได้แก่พวกเขา และสิ่งที่พวกเจ้าขวนขวายไว้ก็ย่อมได้แก่พวกเจ้า และพวกเจ้าจะไม่ถูกไต่สวนถึงสิ่งที่พวกเขากระทำ
2:135
وَقَالُوا۟ كُونُوا۟ هُودًا أَوْ نَصَـٰرَىٰ تَهْتَدُوا۟ ۗ قُلْ بَلْ مِلَّةَ إِبْرَٰهِـۧمَ حَنِيفًۭا ۖ وَمَا كَانَ مِنَ ٱلْمُشْرِكِينَ
Translation : และพวกเขากล่าวว่า พวกท่านจงเป็นยิวเถิด หรือเป็นคริสต์เถิด(196) พวกท่านก็จะได้รับคำแนะนำอันถูกต้อง จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) หาใช่เช่นนั้นไม่ แนวทางของอิบรอฮีมผู้ใฝ่หาความจริงต่างหาก(197)เขามิได้เป็นผู้หนึ่งจากบรรดาผู้ตั้งภาคี
Comment : (196)คือทั้งยิวและคริสต์ต่างก็เรียกร้องให้นับถือศาสนาของตน
Comment : (197)แนวทางของท่านนบีอิบรอฮีมต่างหากที่ถูกต้อง
2:136
قُولُوٓا۟ ءَامَنَّا بِٱللَّهِ وَمَآ أُنزِلَ إِلَيْنَا وَمَآ أُنزِلَ إِلَىٰٓ إِبْرَٰهِـۧمَ وَإِسْمَـٰعِيلَ وَإِسْحَـٰقَ وَيَعْقُوبَ وَٱلْأَسْبَاطِ وَمَآ أُوتِىَ مُوسَىٰ وَعِيسَىٰ وَمَآ أُوتِىَ ٱلنَّبِيُّونَ مِن رَّبِّهِمْ لَا نُفَرِّقُ بَيْنَ أَحَدٍۢ مِّنْهُمْ وَنَحْنُ لَهُۥ مُسْلِمُونَ
Translation : พวกท่านจงกล่าวเถิด เราได้ศรัทธาต่ออัลลอฮ์และสิ่งที่ถูกประทานลงมาแก่เรา และสิ่งที่ถูกประทานลงมาแก่อิบรอฮีม และอิสมาอีล และอิสฮาก และยะอ์กูบและบรรดาวงศ์วานเหล่านั้น(198) และสิ่งที่มูซา และอีซาได้รับ และสิ่งที่บรรดานบีได้รับจากพระผู้อภิบาลของพวกเขา พวกเรามิได้แบ่งแยกท่านหนึ่งท่านใดจากเขาเหล่านั้น(199) และพวกเราจะเป็นผู้สวามิภักดิ์ต่อพระองค์เท่านั้น
Comment : (198)ลูกหลานของท่านนบียะอ์กูบ
Comment : (199)มิได้แบ่งแยกระหว่างนบีเหล่านั้นในการศรัทธา หารแต่เราศรัทธาต่อนบีทุกท่าน
2:137
فَإِنْ ءَامَنُوا۟ بِمِثْلِ مَآ ءَامَنتُم بِهِۦ فَقَدِ ٱهْتَدَوا۟ ۖ وَّإِن تَوَلَّوْا۟ فَإِنَّمَا هُمْ فِى شِقَاقٍۢ ۖ فَسَيَكْفِيكَهُمُ ٱللَّهُ ۚ وَهُوَ ٱلسَّمِيعُ ٱلْعَلِيمُ
Translation : แล้วหากพวกเขาศรัทธาอย่างที่พวกเจ้าศรัทธาแล้ว แน่นอนพวกเขาก็ย่อมได้รับข้อแนะนำที่ถูกต้อง และหากพวกเขาผินหลังให้ แน่นอนพวกเขาย่อมอยู่ในความแตกแยกกันแล้วอัลลอฮ์ก็จะทรงให้เจ้าพอเพียงแก่พวกเขา(200) และพระองค์นั้นเป็นผู้ทรงไว้ซึ่งการได้ยิน ทรงไว้ซึ่งความรอบรู้
Comment : (200)คือสามารถหยุดยั้งความเลวร้ายของพวกเขาได้
2:138
صِبْغَةَ ٱللَّهِ ۖ وَمَنْ أَحْسَنُ مِنَ ٱللَّهِ صِبْغَةًۭ ۖ وَنَحْنُ لَهُۥ عَـٰبِدُونَ
Translation : การย้อมของอัลลอฮ์และใครเล่าจะย้อมดียิ่งไปกว่าอัลลอฮ์(201) และพวกเราจะเป็นผู้เคารพอิบาดะฮ์ต่อพระองค์
Comment : (201)ทรงเปรียบเทียบศาสนาของพระองค์ว่าประหนึ่งสีย้อมผ้า แต่ศาสนาของพระองค์นั้นสำหรับย้อมจิตใจมนุษย์และความประพฤติของเขาให้ตั้งอยู่ในทางที่ถูกและดีงาม และใครเล่าจะกำหนดศาสนาได้ดีกว่าพระองค์
2:139
قُلْ أَتُحَآجُّونَنَا فِى ٱللَّهِ وَهُوَ رَبُّنَا وَرَبُّكُمْ وَلَنَآ أَعْمَـٰلُنَا وَلَكُمْ أَعْمَـٰلُكُمْ وَنَحْنُ لَهُۥ مُخْلِصُونَ
Translation : จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่าพวกท่านจะโต้แย้งกับเราในเรื่องของอัลลอฮ์กระนั้นหรือ? ทั้งๆ ที่พระองค์ทรงเป็นพระผู้อภิบาลของเราและพระผู้อภิบาลพวกท่าน และบรรดาการงานของเราก็ย่อมเป็นของเรา และบรรดาการงานของพวกท่านก็เป็นของพวกท่าน และพวกเรานั้นเป็นผู้มอบการอิบาดะฮ์ทั้งหลายให้แก่พระองค์เท่านั้น
2:140
أَمْ تَقُولُونَ إِنَّ إِبْرَٰهِـۧمَ وَإِسْمَـٰعِيلَ وَإِسْحَـٰقَ وَيَعْقُوبَ وَٱلْأَسْبَاطَ كَانُوا۟ هُودًا أَوْ نَصَـٰرَىٰ ۗ قُلْ ءَأَنتُمْ أَعْلَمُ أَمِ ٱللَّهُ ۗ وَمَنْ أَظْلَمُ مِمَّن كَتَمَ شَهَـٰدَةً عِندَهُۥ مِنَ ٱللَّهِ ۗ وَمَا ٱللَّهُ بِغَـٰفِلٍ عَمَّا تَعْمَلُونَ
Translation : หรือว่าพวกท่านจะกล่าวว่า แท้จริงอิบรอฮีม และอิสมาอีล และอิสฮาก และยะอ์กูบและบรรดาวงศ์วานเหล่านั้น(202) เป็นพวกยิวหรือเป็นคริสต์จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่าพวกท่านรู้ดียิ่งกว่าอัลลอฮ์กระนั้นหรือ หรือว่าอัลลอฮ์? แล้วผู้ใดจะอธรรมยิ่งไปกว่าผู้ที่ปิดบังหลักฐานจากอัลลอฮ์ซึ่งมีอยู่ที่เขา และอัลลอฮ์นั้นจะไม่ทรงเผลอเรอในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำกันอยู่
Comment : (202)บรรดาลูกหลานของท่านนบียะฮ์กูบ
2:141
تِلْكَ أُمَّةٌۭ قَدْ خَلَتْ ۖ لَهَا مَا كَسَبَتْ وَلَكُم مَّا كَسَبْتُمْ ۖ وَلَا تُسْـَٔلُونَ عَمَّا كَانُوا۟ يَعْمَلُونَ
Translation : นั่นคือ กลุ่มชนที่ล่วงลับไปแล้ว สิ่งที่พวกเขาได้ขวนขวายไว้ก็ย่อมเป็นของพวกเขา และสิ่งที่พวกเจ้าขวนขวายไว้ก็ย่อมเป็นของพวกเจ้าและพวกเจ้าจะไม่ถูกไต่สวน ถึงสิ่งที่เขาเหล่านั้นปฏิบัติกัน