سورة التوبة

At-Tawba

The Repentance


medinan   .   129 Ayahs

9:1

بَرَآءَةٌۭ مِّنَ ٱللَّهِ وَرَسُولِهِۦٓ إِلَى ٱلَّذِينَ عَـٰهَدتُّم مِّنَ ٱلْمُشْرِكِينَ

Translation: (นี้คือประกาศ) การพ้นข้อผูกพันใดๆ(1) จากอัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์ แด่บรรดาผู้สักการะเจว็ด (มุชริกีน) ที่พวกเจ้า(2) ได้ทำสัญญาไว้

Comment: (1)คือข้อผูกพันอันเป็นพันธะสัญญาที่ร่อซูลได้กระทำไว้แก่พวกมุชริกนั้นตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป พ้นจากการรับผิดชอบจากอัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์แล้ว ทั้งนี้เนื่องจากพวกเขาละเมิดสัญญาอยู่เป็นประจำ

Comment: (2)พวกเจ้าที่นี้หมายถึงพวกมุมิน ตามสั่ง ผู้ที่ทำสัญญานั้นคือท่านนบีในฐานะที่ท่านเป็นผู้นำ แต่ก็หมายถึงว่าบรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลายกระทำด้วย ในการนี้จึงได้ระบุว่า บรรดามุมินเป็นผู้กระทำ

9:2

فَسِيحُوا۟ فِى ٱلْأَرْضِ أَرْبَعَةَ أَشْهُرٍۢ وَٱعْلَمُوٓا۟ أَنَّكُمْ غَيْرُ مُعْجِزِى ٱللَّهِ ۙ وَأَنَّ ٱللَّهَ مُخْزِى ٱلْكَـٰفِرِينَ

Translation: ดังนั้นพวกท่าน(3) จงท่องเที่ยวไปในแผ่นดินสี่เดือน(4) และพึงรู้เถิดว่า แท้จริงพวกท่านนั้นมิใช่ผู้ที่จะทำให้อัลลอฮ์หมดความสามารถ(5) ก็หาไม่ และแท้จริงอัลลอฮ์จะทรงให้ผู้ปฏิเสธศรัทธาทั้งหลายอัปยศ

Comment: (3)คือใช้ให้บรรดาผู้ศรัทธาประกาศแก่พวกมุชริกว่าจงท่องเที่ยว

Comment: (4)หมายถึงเปิดโอกาสให้พวกเขาใช้ชีวิตในแผ่นดินด้วยความปลอดภัยภายในสี่เดือน เพื่อพิจารณาตัวเองว่าจะกำหนดวิถีชีวิตของตนเองอย่างไร ? ถ้าจะอยู่ในสันติก็จงรับนับถืออิสลาม หรือไม่ก็อยู่ภายใต้กฎหมายอิสลามโดยมีอิสระในการนับถือศาสนา แต่ถ้าจะตั้งตนเป็นผู้บ่อนทำลายก็จงเตรียมตัวไว้ เพื่อจะได้ไม่กล่าวหาฝ่ายมุสลิมว่า ปฏิบัติการโดยไม่ประกาศให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้หลังจากครบกำหนดเวลาสี่เดือน นับตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป คือวันที่ 10 ของซุลฮิจญะฮ์ ปีที่ 9 แห่ง ฮ.ศ. อันเป็นวันเชือดกุรบาน และจะสิ้นสุดในวันที่ 10 เดือนร่อบีอุลอาคิร ปีที่ 10 แห่งฮิจเราะฮ์ศักราช

Comment: (5)คือหมดความสามารถที่จะลงโทษพวกท่านได้ จะเป็นการลงโทษในโลกนี้หรือปรโลกก็ตาม

9:3

وَأَذَٰنٌۭ مِّنَ ٱللَّهِ وَرَسُولِهِۦٓ إِلَى ٱلنَّاسِ يَوْمَ ٱلْحَجِّ ٱلْأَكْبَرِ أَنَّ ٱللَّهَ بَرِىٓءٌۭ مِّنَ ٱلْمُشْرِكِينَ ۙ وَرَسُولُهُۥ ۚ فَإِن تُبْتُمْ فَهُوَ خَيْرٌۭ لَّكُمْ ۖ وَإِن تَوَلَّيْتُمْ فَٱعْلَمُوٓا۟ أَنَّكُمْ غَيْرُ مُعْجِزِى ٱللَّهِ ۗ وَبَشِّرِ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ بِعَذَابٍ أَلِيمٍ

Translation: และเป็นประกาศจากอัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์ แด่ประชาชนทั้งหลายในวันฮัจญ์อันใหญ่ยิ่ง(6) ว่า แท้จริง อัลลอฮ์นั้นทรงพ้นข้อผูกพัน(7) จากมุชริกทั้งหลาย และร่อซูลของพระองค์ก็พ้นข้อผูกพันนั้นด้วย และหากพวกเจ้า(8) สำนึกผิด และกลับตัว(9) มันก็เป็นสิ่งดีแก่พวกเจ้า และหากพวกเจ้าผินหลังให้ ก็พึงรู้เถิดว่า แท้จริงพวกเจ้านั้นมิใช่ผู้ที่จะทำให้อัลลอฮ์หมดความสามารถ(10) ได้ และจงแจ้งข่าวดีแก่บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาเหล่านั้นเถิด ด้วยการลงโทษอันเจ็บแสบ

Comment: (6)คือวันแห่งการประกอบพิธีฮัจญ์ อันหมายถึงวันเชือดกุรบาน ซึ่งตรงกับวันที่ 10 เดือน ซุลฮิจญะฮ์ ปีที่ 9 ฮ.ศ.

Comment: (7)คือพ้นจากพันธะสัญญาที่เป็นข้อผูกพันใด ๆ ทั้งสิ้น

Comment: (8)หมายถึงพวกมุชริก

Comment: (9)คือรับนับถือ อัล-อิสลาม

Comment: (10)คือหมดความสามารถที่จะลงโทษ

9:4

إِلَّا ٱلَّذِينَ عَـٰهَدتُّم مِّنَ ٱلْمُشْرِكِينَ ثُمَّ لَمْ يَنقُصُوكُمْ شَيْـًۭٔا وَلَمْ يُظَـٰهِرُوا۟ عَلَيْكُمْ أَحَدًۭا فَأَتِمُّوٓا۟ إِلَيْهِمْ عَهْدَهُمْ إِلَىٰ مُدَّتِهِمْ ۚ إِنَّ ٱللَّهَ يُحِبُّ ٱلْمُتَّقِينَ

Translation: นอกจากบรรดาผู้สักการะเจว็ด (มุชริกีน) ที่พวกเจ้าได้ทำสัญญาไว้ แล้วพวกเขามิได้ผิดสัญญาแก่พวกเจ้าแต่อย่างใด และมิได้สนับสนุนผู้ใดต่อต้านพวกเจ้า ดังนั้น จะให้ครบถ้วนแก่พวกเขาซึ่งสัญญาของพวกเขาจนถึงกำหนดเวลาของพวกเขาเถิด แท้จริง อัลลอฮ์ทรงชอบผู้ที่ยำเกรงทั้งหลาย

9:5

فَإِذَا ٱنسَلَخَ ٱلْأَشْهُرُ ٱلْحُرُمُ فَٱقْتُلُوا۟ ٱلْمُشْرِكِينَ حَيْثُ وَجَدتُّمُوهُمْ وَخُذُوهُمْ وَٱحْصُرُوهُمْ وَٱقْعُدُوا۟ لَهُمْ كُلَّ مَرْصَدٍۢ ۚ فَإِن تَابُوا۟ وَأَقَامُوا۟ ٱلصَّلَوٰةَ وَءَاتَوُا۟ ٱلزَّكَوٰةَ فَخَلُّوا۟ سَبِيلَهُمْ ۚ إِنَّ ٱللَّهَ غَفُورٌۭ رَّحِيمٌۭ

Translation: ครั้นเมื่อบรรดาเดือนต้องห้าม(11) เหล่านั้นได้ผ่านพ้นไปแล้ว ก็จงประหัตประหารมุชริกเหล่านั้น ณ ที่ใดก็ตามที่พวกเจ้าพบพวกเขา และจงจับพวกเขาและจงล้อมพวกเขา และจงนั่งสอดส่องพวกเขาทุกจุดที่สอดส่อง(12) แต่ถ้าพวกเขาสำหนึกผิกกลับตัว และดำรงไว้ซึ่งการละหมาด และชำระซะกาตแล้วไซร้ ก็จงปล่อยพวกเขาไป แท้จริง อัลลอฮ์เป็นผู้ทรงอภัยโทษผู้ทรงเอ็นดูเมตตา

Comment: (11)คือหมดความสามารถที่จะลงโทษ

Comment: (12)คือเพื่อจัดการแก่พวกเขา โดยไม่ปล่อยให้พวกเขารอดพ้นไปได้

9:6

وَإِنْ أَحَدٌۭ مِّنَ ٱلْمُشْرِكِينَ ٱسْتَجَارَكَ فَأَجِرْهُ حَتَّىٰ يَسْمَعَ كَلَـٰمَ ٱللَّهِ ثُمَّ أَبْلِغْهُ مَأْمَنَهُۥ ۚ ذَٰلِكَ بِأَنَّهُمْ قَوْمٌۭ لَّا يَعْلَمُونَ

Translation: และหากว่ามีคนใดในหมู่มุชริกได้ขอให้เจ้าคุ้มครอง(13) ก็จงคุ้มครองเขาเถิด จนกว่าเขาจะได้ยินดำรัส(14) ของอัลลอฮ์แล้วจงส่งเขายังที่ปลอดภัย(15) ของเขา นั่นก็เพราะว่าพวกเขาเป็นกลุ่มชนที่ไม่รู้(16)

Comment: (13)คือคุ้มครองให้พ้นจากอันตรายที่จะได้รับจากฝ่ายมุสลิม เพราะมุสลิมกำลังต่อสู้กับฝ่ายมุชริกอยู่ และการที่ให้ความคุ้มครองแก่เขานั้น เพราะเขายังไม่รู้อะไร

Comment: (14)คือให้รับฟังโองการของอัลลอฮ์ และมีเวลาพอแก่การใคร่ครวญ แต่ถ้าเขาศรัทธาก็เป็นการดีแก่เขา แต่ถ้าเขาปฏิเสธก็เป็นสิทธิของเขา และจะไม่ได้รับความคุ้มครองอีกในโอกาสต่อไป

Comment: (15)คือที่ที่เขาได้รับความปลอดภัย

Comment: (16)คือไม่รู้บัญญัติของอัลลอฮ์

9:7

كَيْفَ يَكُونُ لِلْمُشْرِكِينَ عَهْدٌ عِندَ ٱللَّهِ وَعِندَ رَسُولِهِۦٓ إِلَّا ٱلَّذِينَ عَـٰهَدتُّمْ عِندَ ٱلْمَسْجِدِ ٱلْحَرَامِ ۖ فَمَا ٱسْتَقَـٰمُوا۟ لَكُمْ فَٱسْتَقِيمُوا۟ لَهُمْ ۚ إِنَّ ٱللَّهَ يُحِبُّ ٱلْمُتَّقِينَ

Translation: จะเป็นไปได้อย่างไรแก่มุชริกีนที่จะมีสัญญาใด ๆ ณ ที่อัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์ได้(17) นอกจากบรรดาผู้ที่พวกเจ้าได้ทำสัญญาไว้ที่ อัลมัสยิดดิลฮะรอม(18) เท่านั้น ดังนั้นตราบใดที่พวกเขาเที่ยงธรรมต่อพวกเจ้า ก็จงเที่ยงธรรมต่อพวกเขา แท้จริงอัลลอฮ์นั้นทรงชอบบรรดาผู้ทีความยำเกรง

Comment: (17)เพราะพวกเขาเป็นผู้บ่อนทำลายไม่เคยรักษาสัญญาที่เคยทำไว้

Comment: (18)คือทำสัญญาไว้แก่บะนูกิมานะฮ์ และบะนูเฎาะมิเราะฮ์

9:8

كَيْفَ وَإِن يَظْهَرُوا۟ عَلَيْكُمْ لَا يَرْقُبُوا۟ فِيكُمْ إِلًّۭا وَلَا ذِمَّةًۭ ۚ يُرْضُونَكُم بِأَفْوَٰهِهِمْ وَتَأْبَىٰ قُلُوبُهُمْ وَأَكْثَرُهُمْ فَـٰسِقُونَ

Translation: (จะมีสัญญา(19)ใด) อย่างไรเล่า ? และหากพวกเขามีชัยชนะเหนือพวกเจ้า พวกเขาก็ไม่คำนึงถึงเครือญาติ และพันธสัญญาใดๆ(20) ในหมู่พวกเจ้า พวกเขาทำให้พวกเจ้าพึงพอใจด้วยลมปากของพวกเขาเท่านั้น โดยที่หัวใจของพวกเขาปฏิเสธ และส่วนมากของพวกเขาเป็นผู้ละเมิด

Comment: (19)เป็นข้อความที่ละไว้

Comment: (20)คือไม่คำนึงว่าใครจะเป็นเครือญาติหรือมีพันธะสัญญากับใครในหมู่พวกเจ้า

9:9

ٱشْتَرَوْا۟ بِـَٔايَـٰتِ ٱللَّهِ ثَمَنًۭا قَلِيلًۭا فَصَدُّوا۟ عَن سَبِيلِهِۦٓ ۚ إِنَّهُمْ سَآءَ مَا كَانُوا۟ يَعْمَلُونَ

Translation: พวกเขาได้เอาบรรดาโองการของอัลลอฮ์แลกเปลี่ยนกับราคาอันเล็กน้อย(21) แล้วก็ขัดขวาง(ผู้คน(22)) ให้ออกจากทางของอัลลอฮ์แท้จริงสิ่งที่พวกเขาทำอยู่ช่างชั่วช้าจริง ๆ

Comment: (21)หมายถึงว่า การที่พวกเขาปฏิเสธศรัทธาต่อบรรดาโองการของอัลลอฮ์โดยเห็นแก่ผลประโยชน์เล็ก ๆ น้อย ๆ นั้นประหนึ่งว่า พวกเขาเอาบรรดาโองการที่พวกเขาได้รับไปแลกเปลี่ยนกับราคาอันเล็กน้อย

Comment: (22)คือผู้คนที่ต้องการรู้ความจริงเพื่อเลื่อมใสศรัทธา

9:10

لَا يَرْقُبُونَ فِى مُؤْمِنٍ إِلًّۭا وَلَا ذِمَّةًۭ ۚ وَأُو۟لَـٰٓئِكَ هُمُ ٱلْمُعْتَدُونَ

Translation: พวกเขาจะไม่คำนึงถึงเครือญาติและพันธสัญญาในผู้ศรัทธาคนหนึ่งคนใด(23) และชนเหล่านี้แหละ พวกเขาคือผู้ละเมิด

Comment: (23)ได้อธิบายไว้แล้วในฟุตโน๊ตของอายะฮ์ที่ 8 ในซูเราะฮ์นี้

9:11

فَإِن تَابُوا۟ وَأَقَامُوا۟ ٱلصَّلَوٰةَ وَءَاتَوُا۟ ٱلزَّكَوٰةَ فَإِخْوَٰنُكُمْ فِى ٱلدِّينِ ۗ وَنُفَصِّلُ ٱلْـَٔايَـٰتِ لِقَوْمٍۢ يَعْلَمُونَ

Translation: แล้วหากพวกเขาสำนึกผิดกลับตัว และดำรงไว้ซึ่งการละหมาด และชำระซะกาตแล้วไซร้ ก็เป็นพี่น้องของพวกเจ้าในศาสนา และเราจะแจกแจงบรรดาโองการไว้แก่กลุ่มชนที่รู้(24)

Comment: (24)คือกลุ่มชนที่ใช้สติปัญญาและมีความเข้าใจ

9:12

وَإِن نَّكَثُوٓا۟ أَيْمَـٰنَهُم مِّنۢ بَعْدِ عَهْدِهِمْ وَطَعَنُوا۟ فِى دِينِكُمْ فَقَـٰتِلُوٓا۟ أَئِمَّةَ ٱلْكُفْرِ ۙ إِنَّهُمْ لَآ أَيْمَـٰنَ لَهُمْ لَعَلَّهُمْ يَنتَهُونَ

Translation: และถ้าหากพวกเขาทำลายคำมั่นสัญญาของพวกเขา หลังจากที่พวกเขาได้ทำสัญญา(25) ไว้ และใส่ร้ายในศาสนา(26) ของพวกเจ้าแล้วไซร้ ก็จงต่อสู้บรรดาผู้นำแห่งการปฏิเสธศรัทธา(27) เถิด แท้จริงพวกเขานั้นหาได้มีคำมั่นสัญญาใด(28)ๆ แก่พวกเขาไม่ เพื่อว่าพวกเขาจะหยุดยั้ง

Comment: (25)คำว่า “อะฮ์อิฮิม” ถ้าจะแปลว่า “การทำสัญญาของพวกเขา” ก็ได้ แต่ถ้าจะแปลว่า “พวกเขาได้ทำสัญญาไว้” ก็ดี เพราะได้ความชัดเจน และเป็นสำนวนไทยดีกว่า ทั้งนี้เนื่องจากคำว่า “ฮิม” ซึ่งเป็นสรรพนามนั้น แม้ว่าในการ จะตกในตำแหน่งคำควบ แต่ความเป็นจริงตามหลักภาษานั้น มันตกในตำแหน่ง “ประธาน” ของคำว่า “อะฮด์” ทั้ง ๆ ที่คำว่า เป็นอาการนาม เพราะหลักภาษาอาหรับนั้น อาการนามทำหน้าที่กริยาด้วย ที่ต้องอธิบายยืดยาวเช่นนี้เกรงว่าผู้ที่ยังไม่เข้าใจหรือลืมหลักภาษาไปอาจเข้าใจว่าแปลผิด ทั้งนี้จากความปรารถนาดีของเพื่อน ๆ ที่แนะให้ชี้แจงไว้

Comment: (26)คือกล่าวหาว่าเป็นศาสนาที่ไม่เหมาะไม่ควรนานาประการ หรือในปัจจุบันนี้อาจมีผู้กล่าวว่าเป็นศาสนาที่ล้าสมัย คร่ำครึ และถ้าใครถือปฏิบัติก็ให้รู้ว่าเชย และเป็นที่น่าละอาย

Comment: (27)คือผู้ที่ทำลายคำมั่นสัญญา และใส่ร้ายศาสนา เพราะบุคคลประเภทนี้ถือว่าเป็นหัวหน้าในการปฏิเสธศรัทธา

Comment: (28)คือไม่เคยรักษาสัญญาใด ๆ ประหนึ่งว่าพวกเขาไม่เคยมีพันธะสัญญาใด ๆ กับใคร

9:13

أَلَا تُقَـٰتِلُونَ قَوْمًۭا نَّكَثُوٓا۟ أَيْمَـٰنَهُمْ وَهَمُّوا۟ بِإِخْرَاجِ ٱلرَّسُولِ وَهُم بَدَءُوكُمْ أَوَّلَ مَرَّةٍ ۚ أَتَخْشَوْنَهُمْ ۚ فَٱللَّهُ أَحَقُّ أَن تَخْشَوْهُ إِن كُنتُم مُّؤْمِنِينَ

Translation: พวกเจ้าจะไม่ต่อสู้กระนั้นหรือ ซึ่งกลุ่มชนที่ทำลายคำมั่นสัญญาของพวกเขา และมุ่งขับไล่ร่อซูลให้ออกไป ทั้ง ๆ ที่พวกเขาได้เริ่มปฏิบัติแก่พวกเจ้าก่อนเป็นครั้งแรก พวกเจ้ากลัวพวกเขากระนั้นหรือ ? อัลลอฮ์ต่างหากเล่า คือผู้ที่สมควรแก่การที่พวกเจ้าจะกลัว หากพวกเจ้าเป็นผู้ศรัทธา

9:14

قَـٰتِلُوهُمْ يُعَذِّبْهُمُ ٱللَّهُ بِأَيْدِيكُمْ وَيُخْزِهِمْ وَيَنصُرْكُمْ عَلَيْهِمْ وَيَشْفِ صُدُورَ قَوْمٍۢ مُّؤْمِنِينَ

Translation: พวกเจ้าจงต่อสู้กับพวกเขาเถิด อัลลอฮ์จะได้ทรงลงโทษพวกเขาด้วยมือของพวกเจ้า และจะได้ทรงหยามพวกเขา และจะได้ทรงช่วยเหลือพวกเจ้าให้ได้รับชัยชนะเหนือพวกเขา และจะได้ทรงบำบัด(29) หัวอกของกลุ่มชนที่ศรัทธาทั้งหลาย

Comment: (29)คือบำบัดความไม่สบายใจ และความกังวลใจ เนื่องจากการรุกรานของฝ่ายศัตรูให้หมดไปจากหัวอกของผู้ศรัทธา

9:15

وَيُذْهِبْ غَيْظَ قُلُوبِهِمْ ۗ وَيَتُوبُ ٱللَّهُ عَلَىٰ مَن يَشَآءُ ۗ وَٱللَّهُ عَلِيمٌ حَكِيمٌ

Translation: และจะได้ทรงให้หมดไปซึ่งความกริ้วโกรธแห่งหัวใจของพวกเขา และอัลลอฮ์จะทรงอภัยโทษแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และอัลลอฮ์คือผู้ทรงรอบรู้ ผู้ทรงปรีชาญาณ

9:16

أَمْ حَسِبْتُمْ أَن تُتْرَكُوا۟ وَلَمَّا يَعْلَمِ ٱللَّهُ ٱلَّذِينَ جَـٰهَدُوا۟ مِنكُمْ وَلَمْ يَتَّخِذُوا۟ مِن دُونِ ٱللَّهِ وَلَا رَسُولِهِۦ وَلَا ٱلْمُؤْمِنِينَ وَلِيجَةًۭ ۚ وَٱللَّهُ خَبِيرٌۢ بِمَا تَعْمَلُونَ

Translation: หรือพวกเจ้าคิดว่า พวกเจ้าจะถูกปล่อยไว้(30) โดยที่อัลลอฮ์ยังมิได้ทรงรู้(31) บรรดาผู้ที่ต่อสู้ในหมู่พวกเจ้า และมิได้ยึดถือเพื่อนสนิท(32) อื่นจากอัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์ และอื่นจากผู้ศรัทธาทั้งหลาย และอัลลอฮ์ทรงรอบรู้อย่างละเอียดในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำ

Comment: (30)คือถูกปล่อยไว้ให้กล่าวแต่เพียงว่าพวกเราศรัทธาต่ออัลลอฮ์แล้วก็เพียงพอกระนั้นหรือ โดยที่ยังมิได้ทดสอบว่าใครในหมู่พวกเจ้ามีความจริงใจในการศรัทธาต่อพระองค์ และการทดสอบนั้นก็คือการต่อสู้กับฝ่ายศัตรูทั้งด้วยชีวิตและทรัพย์สมบัติ

Comment: (31)ความจริงอัลลอฮ์ทรงรู้อย่างดียิ่งว่าใครเป็นผู้ต่อสู้ทั้งชีวิตและทรัพย์ของเขา แต่ที่พระองค์ทรงทดสอบนั้นก็เพื่อให้ตัวของตนเองได้รู้ว่าตนนั้นมีความศรัทธาด้วยใจจริงหรือเปล่าเท่านั้น และรู้ว่าตนเองได้ยึดถือใครบ้างเป็นเพื่อสนิทจากอัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์และบรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลายด้วย และก็การที่พระองค์ทรงกล่าวในสำนวนที่ว่า “โดยที่พระองค์มิได้มิทรงรู้” นั้น ก็เพื่อให้เป็นไปตามสภาพของมนุษย์โลกโดยทั่ว ๆ ไปเท่านั้น อนึ่ง ข้อความดังกล่าวนี้มีปรากฏอยู่ในอายะฮ์ที่ 142 ซูเราะฮ์ อาละอิมรอน ฟุตโน๊ตที่ 3 โปรดพลิกทบทวนดู

Comment: (32)หมายถึงเพื่อนสนิทที่เป็นมุชริกและเป็นมุนาฟิก

9:17

مَا كَانَ لِلْمُشْرِكِينَ أَن يَعْمُرُوا۟ مَسَـٰجِدَ ٱللَّهِ شَـٰهِدِينَ عَلَىٰٓ أَنفُسِهِم بِٱلْكُفْرِ ۚ أُو۟لَـٰٓئِكَ حَبِطَتْ أَعْمَـٰلُهُمْ وَفِى ٱلنَّارِ هُمْ خَـٰلِدُونَ

Translation: ไม่บังควรแก่มุชริกทั้งหลายที่จะบูรณะ(33) บรรดามัสยิดของอัลลอฮ์ในฐานะที่พวกเขายืนยันแก่ตัวของพวกเขาเองแล้ว ซึ่งการปฏิเสธศรัทธา(34) ชนเหล่านี้แหละบรรดาการงานของพวกเขาไร้ผล และในนรกนั้นพวกเขาจะอยู่ตลอดกาล

Comment: (33)หมายถึงการประกอบอิบาดะฮ์ในบรรดามัสยิดของพระองค์ เฉพาะอย่างยิ่งอัลมัสยิดิลฮะรอม ทั้งนี้ตามแนวทางของพวกเขาซึ่งมีการกระทำชิริกรวมอยู่ด้วย และยังหมายถึงการปรับปรุงและบำรุงรักษาด้วย

Comment: (34)คือปฏิเสธศรัทธาต่ออัลลอฮ์ ด้วยการทำชิริก หรือสักการะเจว็ด และปฏิเสธศรัทธาต่อท่านนบีมุฮัมมัดด้วย

9:18

إِنَّمَا يَعْمُرُ مَسَـٰجِدَ ٱللَّهِ مَنْ ءَامَنَ بِٱللَّهِ وَٱلْيَوْمِ ٱلْـَٔاخِرِ وَأَقَامَ ٱلصَّلَوٰةَ وَءَاتَى ٱلزَّكَوٰةَ وَلَمْ يَخْشَ إِلَّا ٱللَّهَ ۖ فَعَسَىٰٓ أُو۟لَـٰٓئِكَ أَن يَكُونُوا۟ مِنَ ٱلْمُهْتَدِينَ

Translation: แท้จริงที่จะบูรณะบรรดามัสยิดของอัลลอฮ์นั้นคือผู้ที่ศรัทธาต่ออัลลอฮ์และวันปรโลก และได้ดำรงไว้ซึ่งการละหมาด และชำระซะกาต และเขามิได้ยำเกรงนอกจากอัลลอฮ์เท่านั้น ดังนั้นจึงหวังได้ว่า ชนเหล่านี้แหละจะเป็นผู้อยู่ในหมู่ผู้รับทางนำ

9:19

۞ أَجَعَلْتُمْ سِقَايَةَ ٱلْحَآجِّ وَعِمَارَةَ ٱلْمَسْجِدِ ٱلْحَرَامِ كَمَنْ ءَامَنَ بِٱللَّهِ وَٱلْيَوْمِ ٱلْـَٔاخِرِ وَجَـٰهَدَ فِى سَبِيلِ ٱللَّهِ ۚ لَا يَسْتَوُۥنَ عِندَ ٱللَّهِ ۗ وَٱللَّهُ لَا يَهْدِى ٱلْقَوْمَ ٱلظَّـٰلِمِينَ

Translation: พวกเจ้าได้ถือเอาการให้น้ำดื่ม(35) แก่ผู้ประกอบพิธีฮัจญ์ และการบูรณะมัสยิดอัลฮะรอม(36) ดั่งผู้ที่ศรัทธาต่ออัลลอฮ์และวันปรโลก และต่อสู้ในทางของอัลลอฮ์กระนั้นหรือ ? เขาเหล่านั้นย่อมไม่เท่าเทียมกัน ณ ที่อัลลอฮ์และอัลลอฮ์นั้นจะไม่ทรงนำทางกลุ่มชนที่เป็นผู้อธรรม

Comment: (35)หมายถึงบรรดาผู้ที่ให้น้ำดื่ม

Comment: (36)คือซ่อมแซมอัล-มัสยิดิลฮะรอม ทั้งนี้เป็นการอ้างของชาวมักกะฮ์ และถือเป็นคุณความดีของพวกเขา เท่าเทียมกับผู้ศรัทธา

9:20

ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ وَهَاجَرُوا۟ وَجَـٰهَدُوا۟ فِى سَبِيلِ ٱللَّهِ بِأَمْوَٰلِهِمْ وَأَنفُسِهِمْ أَعْظَمُ دَرَجَةً عِندَ ٱللَّهِ ۚ وَأُو۟لَـٰٓئِكَ هُمُ ٱلْفَآئِزُونَ

Translation: บรรดาผู้ที่ศรัทธา และอพยพและต่อสู้ในทางของอัลลอฮ์ทั้งด้วยทรัพย์สมบัติของพวกเขาและชีวิตของพวกเขานั้นย่อมเป็นผู้มีระดับชั้นยิ่งใหญ่กว่า ณ ที่อัลลอฮ์และชนเหล่านี้แหละพวกเขาคือ ผู้มีชัยชนะ

9:21

يُبَشِّرُهُمْ رَبُّهُم بِرَحْمَةٍۢ مِّنْهُ وَرِضْوَٰنٍۢ وَجَنَّـٰتٍۢ لَّهُمْ فِيهَا نَعِيمٌۭ مُّقِيمٌ

Translation: พระเจ้าของพวกเขาทรงแจ้งข่าวดีแก่พวกเขา ด้วยกความกรุณาเมตตาจากพระองค์ และด้วยความปิติยินดี และบรรดาสวนสวรรค์(37) ด้วยซึ่งในสวนสวรรค์เหล่านั้น พวกเขาจะได้รับสิ่งอำนวยความสุขอันจีรังยั่งยืน

Comment: (37)คือนอกจากอัลลอฮ์จะทรงเอ็นดูเมตตาแก่พวกเขาแล้ว พระองค์ยังทรงปิติยินดีในพวกเขา และพวกเขาจะได้เข้าสวรรค์ด้วย

9:22

خَـٰلِدِينَ فِيهَآ أَبَدًا ۚ إِنَّ ٱللَّهَ عِندَهُۥٓ أَجْرٌ عَظِيمٌۭ

Translation: โดยที่พวกเขาจะพำนักอยู่ในสวนสวรรค์เหล่านั้นตลอดกาล แท้จริงอัลลอฮ์นั้น ณ ที่พระองค์มีรางวัลอันยิ่งใหญ่

9:23

يَـٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ لَا تَتَّخِذُوٓا۟ ءَابَآءَكُمْ وَإِخْوَٰنَكُمْ أَوْلِيَآءَ إِنِ ٱسْتَحَبُّوا۟ ٱلْكُفْرَ عَلَى ٱلْإِيمَـٰنِ ۚ وَمَن يَتَوَلَّهُم مِّنكُمْ فَأُو۟لَـٰٓئِكَ هُمُ ٱلظَّـٰلِمُونَ

Translation: บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย! จงอย่าได้ถือเอาบิดาของพวกเจ้า และพี่น้องของพวกเจ้าเป็นมิตร หากพวกเขาชอบการปฏิเสธศรัทธา(38) เหนือการอีมาน และผู้ใดในหมู่พวกเจ้าให้พวกเขาเป็นมิตรแล้ว ชนเหล่านี้แหละพวกเขาคือผู้อธรรม

Comment: (38)การปฏิเสธศรัทธานั้นเกิดขึ้นได้ในหลายกรณี แม้แต่การปฏิเสธอายะฮ์อัล-กุรอาน เพียงอายะฮ์เดียวก็กลายเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาแล้ว เป็นต้นว่า การบิดเบือนความหมาย อัลกุรอานให้เฉไปเป็นอื่น เนื่องจากไม่เชื่อว่าเป็นความจริงในความหมายของอัลกุรอาน เช่น การบิดเบือนว่าสิ่งที่อัลลอฮ์เตรียมไว้ต้อนรับบรรดาผู้ศรัทธาในสวนสวรรค์ อันได้แก่ ผลไม้นานาชนิด เนื้อนกชนิดต่าง ๆ ตามที่ชาวสวรรค์ปรารถนา ตลอดจนคู่ครองอันบริสุทธิ์ และฮูรุลอีนที่มีความสวยงามเป็นเลิศ นับว่าเป็นสิ่งจูงใจให้ผู้คนกระทำตาม เท่านั้น หาใช่เป็นความจริงแต่ประการใดไม่ และเช่น บิดเบือนว่า ที่ทะเลแดงแยกเป็นทางเดิน เนื่องจากการที่ท่านนบีมูซาใช้ไม้เท้าของท่านตีลงไปด้วยคำสั่งของอัลลอฮ์นั้นว่า เป็นเวลาที่น้ำลดโดยประจวบเหมาะ และคำที่ว่าตีนั้น ก็บิดเบือนเป็นหยั่งดูว่าตรงไหนตื้น ตรงไหนลึก ดังกล่าวนี้เป็นวิธีการอันแยบยลของขบวนการก็อดยานีย์ ในการปฏิเสธความหมายของอัลกุรอาน ดังนั้น พวกนี้จึงถูกถือว่าเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธา (กาฟิร) และห้ามมิให้คบค้าสมาคมกับพวกนี้ แม้ว่าพวกเขาจะเป็นพ่อแม่พี่น้องก็ตาม ถ้าดื้อดึงก็เท่ากับเป็นการละเมิดคำสั่งของอัลลอฮ์

9:24

قُلْ إِن كَانَ ءَابَآؤُكُمْ وَأَبْنَآؤُكُمْ وَإِخْوَٰنُكُمْ وَأَزْوَٰجُكُمْ وَعَشِيرَتُكُمْ وَأَمْوَٰلٌ ٱقْتَرَفْتُمُوهَا وَتِجَـٰرَةٌۭ تَخْشَوْنَ كَسَادَهَا وَمَسَـٰكِنُ تَرْضَوْنَهَآ أَحَبَّ إِلَيْكُم مِّنَ ٱللَّهِ وَرَسُولِهِۦ وَجِهَادٍۢ فِى سَبِيلِهِۦ فَتَرَبَّصُوا۟ حَتَّىٰ يَأْتِىَ ٱللَّهُ بِأَمْرِهِۦ ۗ وَٱللَّهُ لَا يَهْدِى ٱلْقَوْمَ ٱلْفَـٰسِقِينَ

Translation: จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า หากบรรดาบิดาของพวกเจ้า และบรรดาลูก ๆ ของพวกเจ้า และบรรดาพี่น้องของพวกเจ้า และบรรดาคู่ครองของพวกเจ้า และบรรดาญาติของพวกเจ้า และบรรดาทรัพย์สมบัติที่พวกเจ้าแสวงหาไว้ และสินค้าที่พวกเจ้ากลัวว่าจะจำหน่ายมันไม่ออก และบรรดาที่อยู่อาศัยที่พวกเจ้าพึงพอใจมันนั้น เป็นที่รักใคร่แก่พวกเจ้ายิ่งกว่าอัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์ และการต่อสู้ในทางของพระองค์แล้วไซร้ ก็จงรอคอยกันเถิดจนกว่าอัลลอฮ์จะทรงนำมาซึ่งกำลัง(39) ของพระองค์ และอัลลอฮ์จะไม่ทรงนำทางแก่กลุ่มชนที่ละเมิด

Comment: (39)หมายถึง นำการลงโทษของพระองค์มา กล่าวคือถ้ายังรักบุคคลดังกล่าวยิ่งกว่า คำสั่งของอัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์แล้ว ก็จงรอการลงโทษจากพระองค์เถิด

9:25

لَقَدْ نَصَرَكُمُ ٱللَّهُ فِى مَوَاطِنَ كَثِيرَةٍۢ ۙ وَيَوْمَ حُنَيْنٍ ۙ إِذْ أَعْجَبَتْكُمْ كَثْرَتُكُمْ فَلَمْ تُغْنِ عَنكُمْ شَيْـًۭٔا وَضَاقَتْ عَلَيْكُمُ ٱلْأَرْضُ بِمَا رَحُبَتْ ثُمَّ وَلَّيْتُم مُّدْبِرِينَ

Translation: แท้จริงอัลลอฮ์ได้ทรงช่วยเหลือพวกเจ้าแล้วในสนามรบอันมากมาย และในวันแห่งสงครามฮุนัยน์(40) ด้วย ณ ที่การมีจำนวนมากของพวกเจ้าทำให้พวกเจ้าพึงใจ(41) แล้วมันก็มิได้อำนวยประโยชน์แก่พวกเจ้าแต่อย่างใด และแผ่นดินก็แคบแก่พวกเจ้า(42) ทั้งๆ ที่มันกว้างอยู่ แล้วพวกเจ้าก็หันหลังหนี

Comment: (40)ฮุนัยน์เป็นที่ราบต่ำซึ่งตั้งอยู่ระหว่างมักกะฮ์กับฏออิฟ ได้เกิดการสู้รบกันขึ้นที่นี้ระหว่างมุสลิมกับพวกมุชริก ฮะวาซิน ชาวฏออิฟ ในปีที่ 8 แห่ง ฮ.ศ. แล้วสงครามนี้จึงถูกเรียกว่า “สงครามฮุนัยน์”

Comment: (41)โดยกล่าวว่า วันนี้เราจะไม่แพ้ฝ่ายที่มีจำนวนน้อยเป็นอันขาด ทั้งนี้โดยที่ฝ่ายมุสลิมมีจำนวนทหารหมื่นคน และฝ่ายกุฟฟารมีสี่พันคนเท่านั้น

Comment: (42)คือด้วยความกลัวจนไม่รู้ว่าจะหนีไปทางไหนที่ปลอดภัยประหนึ่งว่าแผ่นดินนั้น แคบเสียนี่กระไร ทั้ง ๆ ที่มันกว้างขวางและความที่ว่า “ไม่อำนวยประโยชน์ให้แก่พวกเจ้าแต่อย่างใด” นั้นหมายถึงไม่ทำให้พวกเจ้าชนะได้

9:26

ثُمَّ أَنزَلَ ٱللَّهُ سَكِينَتَهُۥ عَلَىٰ رَسُولِهِۦ وَعَلَى ٱلْمُؤْمِنِينَ وَأَنزَلَ جُنُودًۭا لَّمْ تَرَوْهَا وَعَذَّبَ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ ۚ وَذَٰلِكَ جَزَآءُ ٱلْكَـٰفِرِينَ

Translation: และอัลลอฮ์ก็ได้ทรงประทานลงมาซึ่งความสงบใจจากพระองค์ แก่ร่อซูลของพระองค์และแก่บรรดาผู้ศรัทธาเหล่านั้น(43) และได้ทรงให้ไพร่พล(44)ลงมา ซึ่งพวกเจ้าไม่เห็นพวกเขา และได้ทรงลงโทษบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาเหล่านั้น(45) และนั่นคือการตอบแทนแก่บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา

Comment: (43)คือให้ร่อซูลและบรรดาผู้ศรัทธาสงบใจไว้ได้แล้วผนึกกำลังต่อสู้ใหม่

Comment: (44)คือไพร่พลที่เป็นมลาอิกะฮ์

Comment: (45)คือให้พวกเขาถูกประหัตประหาร และถูกจับเป็นเชลยศึก

9:27

ثُمَّ يَتُوبُ ٱللَّهُ مِنۢ بَعْدِ ذَٰلِكَ عَلَىٰ مَن يَشَآءُ ۗ وَٱللَّهُ غَفُورٌۭ رَّحِيمٌۭ

Translation: และพระองค์ก็ทรงอภัยโทษหลังจากนั้นแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงอภัยโทษผู้ทรงเอ็นดูเมตตา

9:28

يَـٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوٓا۟ إِنَّمَا ٱلْمُشْرِكُونَ نَجَسٌۭ فَلَا يَقْرَبُوا۟ ٱلْمَسْجِدَ ٱلْحَرَامَ بَعْدَ عَامِهِمْ هَـٰذَا ۚ وَإِنْ خِفْتُمْ عَيْلَةًۭ فَسَوْفَ يُغْنِيكُمُ ٱللَّهُ مِن فَضْلِهِۦٓ إِن شَآءَ ۚ إِنَّ ٱللَّهَ عَلِيمٌ حَكِيمٌۭ

Translation: บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย! แท้จริงบรรดามุชริกนั้นโสมม(46) ดังนั้นพวกเขาจงอย่าเข้าใกล้อัลมัสยิดิลฮะรอม หลังจากปีของพวกเขา(47) นี้ และหากพวกเจ้ากลัวความยากจน(48) อัลลอฮ์ก็จะทรงให้พวกเจ้ามั่งมี จากความกรุณาของพระองค์ หากพระองค์ทรงประสงค์แท้จริงอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงรอบรู้ ผู้ทรงปรีชาญาณ

Comment: (46)คือโสมมในการเชื่อถืออย่างเลอะเทอะ และสักการะเจว็ด ตลอดจนดื้อด้านต่อคำเชิญชวนของพระผู้เป็นเจ้า

Comment: (47)คือปี ฮ.ศ. ที่ 9

Comment: (48)เนื่องจากมิได้ติดต่อทำการค้าขายกับพวกมุชริก

9:29

قَـٰتِلُوا۟ ٱلَّذِينَ لَا يُؤْمِنُونَ بِٱللَّهِ وَلَا بِٱلْيَوْمِ ٱلْـَٔاخِرِ وَلَا يُحَرِّمُونَ مَا حَرَّمَ ٱللَّهُ وَرَسُولُهُۥ وَلَا يَدِينُونَ دِينَ ٱلْحَقِّ مِنَ ٱلَّذِينَ أُوتُوا۟ ٱلْكِتَـٰبَ حَتَّىٰ يُعْطُوا۟ ٱلْجِزْيَةَ عَن يَدٍۢ وَهُمْ صَـٰغِرُونَ

Translation: พวกเจ้าจงต่อสู้บรรดาผู้ที่ไม่ศรัทธาต่ออัลลอฮ์และต่อวันปรโลก(49) และไม่งดเว้นสิ่งที่อัลลอฮ์และร่อซูล(50) ห้ามไว้ และไม่ปฏิบัติตามศาสนาแห่งความสัจจะ(51) อันได้แก่บรรดาผู้ที่ได้รับคัมภีร์(52) จนกว่าพวกเขาจะจ่ายอัล-ญิซยะฮ์(53) จากมือของพวกเขา(54) เอง ในสภาพที่พวกเขาเป็นผู้ต่ำต้อย

Comment: (49)หมายถึงพวกยิวและพวกคริสต์ เพราะการที่พวกเขาปฏิเสธศรัทธาต่อนบีมุฮัมมัดนั้นถือว่าเขาปฏิเสธศรัทธาต่ออัลลอฮ์และวันปรโลกด้วย

Comment: (50)หมายถึงท่านนบีมูซาและนบีอีซา

Comment: (51)หมายถึงบัญญัติศาสนาอันแท้จริงที่มีอยู่ในคัมภีร์เตารอตและอินญีล

Comment: (52)คือพวกยิวและคริสต์

Comment: (53)อัล-ญิซยะฮ์ คือเงินค่าหัวที่ถูกกำหนดแก่ผู้ที่มิใช่มุสลิม เป็นการชดเชยที่เขาได้รับความคุ้มครองทั้งชีวิตของเขาและทรัพย์สมบัติของพวกเขา ทั้งนี้หลังจากที่พวกเขาปราชัยและอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรอิสลาม

Comment: (54)คือนำมาหยิบยื่นด้วยมือของตนเอง จะฝากใครมามอบให้แทนไม่ได้

9:30

وَقَالَتِ ٱلْيَهُودُ عُزَيْرٌ ٱبْنُ ٱللَّهِ وَقَالَتِ ٱلنَّصَـٰرَى ٱلْمَسِيحُ ٱبْنُ ٱللَّهِ ۖ ذَٰلِكَ قَوْلُهُم بِأَفْوَٰهِهِمْ ۖ يُضَـٰهِـُٔونَ قَوْلَ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ مِن قَبْلُ ۚ قَـٰتَلَهُمُ ٱللَّهُ ۚ أَنَّىٰ يُؤْفَكُونَ

Translation: และชาวยิวได้กล่าวว่า อุซัยร์(55) เป็นบุตรของอัลลอฮ์และชาวคริสต์ได้กล่าวว่า อัลมะซีห์(56) เป็นบุตรของอัลลอฮ์นั่นคือถ้อยคำที่พวกเขากล่าวขึ้นด้วยปากของพวกเขาเอง ซึ่งคล้ายกับถ้อยคำของบรรดาผู้ที่ได้ปฏิเสธการศรัทธามาก่อน ขออัลลอฮ์ทรงละอ์นัต(57) พวกเขาด้วยเถิด พวกเขาถูกหันเห(58) ไปได้อย่างไร?

Comment: (55)คือนักปราชญ์ยิว ซึ่งทำหน้าที่รวบรวมบัญญัติแห่งคัมภีร์เตารอตจากบรรดาชาวยิวที่จดจำไว้ แล้วรวบรวมเป็นเล่มขึ้นทั้งนี้หลังจากที่ต้นฉบับได้สูญหายไป ด้วยเหตุเขาจึงได้รับการเคารพนับถือ จนกระทั่งถูกเข้าใจว่าเป็นพระบุตรของอัลลอฮ์

Comment: (56)หมายถึงท่านนบีอีซา

Comment: (57)ละอ์นัต คือ การขับไล่ให้ออกความเอ็นดูเมตตาของอัลลอฮ์ การขอให้อัลลอฮ์ทรงละอ์นัต จึงหมายถึงขอให้อัลลอฮ์ทรงขับไล่ให้ออกจากความเอ็นดูเมตตาของพระองค์ อนึ่ง พึงสังเกตด้วยว่าข้อความของอัลกุรอานที่ว่า قَا تَلَ นั้นเป็นประโยค ดุอาอ์ หมายถึงขอให้อัลลอฮ์ทรงละอ์นัต

Comment: (58)คือหันเหออกจากความจริง

9:31

ٱتَّخَذُوٓا۟ أَحْبَارَهُمْ وَرُهْبَـٰنَهُمْ أَرْبَابًۭا مِّن دُونِ ٱللَّهِ وَٱلْمَسِيحَ ٱبْنَ مَرْيَمَ وَمَآ أُمِرُوٓا۟ إِلَّا لِيَعْبُدُوٓا۟ إِلَـٰهًۭا وَٰحِدًۭا ۖ لَّآ إِلَـٰهَ إِلَّا هُوَ ۚ سُبْحَـٰنَهُۥ عَمَّا يُشْرِكُونَ

Translation: พวกเขาได้ยึดเอาบรรดานักปราชญ์ของพวกเขา และบรรดาบาทหลวงของพวกเขาเป็นพระเจ้า(59) อื่นจากอัลลอฮ์และยึดเอาอัลมะซีห์ บุตรของมัรยัมเป็นพระเจ้าด้วย(60) ทั้งๆ ที่พวกเขามิได้ถูกใช้ นอกจากเพื่อเคารพสักการะผู้ทีสมควรได้รับการเคารพสักการะ(61) แต่เพียงองค์เดียว ซึ่งไม่มีผู้ใดควรได้รับการเคารพสักการะนอกจากพระองค์เท่านั้น พระองค์ทรงบริสุทธิ์จากสิ่งที่พวกเขาให้มีภาคีขึ้น

Comment: (59)เนื่องจากพวกเขาได้ยึดถือคำแนะนำของนักปราชญ์และบาทหลวงแทนบัญญัติของพระเจ้า จึงเท่ากับว่าพวกเขาถือเอานักปราชญ์และบาทหลวงเป็นพระเจ้า

Comment: (60)เนื่องจากท่านนบีอีซาเกิดมาโดยไม่มีบิดาจึงเข้าใจผิดว่าพระองค์แบ่งภาคมาเกิด เลยถือว่าท่านเป็นพระเจ้า

Comment: (61)หมายถึงอัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา

9:32

يُرِيدُونَ أَن يُطْفِـُٔوا۟ نُورَ ٱللَّهِ بِأَفْوَٰهِهِمْ وَيَأْبَى ٱللَّهُ إِلَّآ أَن يُتِمَّ نُورَهُۥ وَلَوْ كَرِهَ ٱلْكَـٰفِرُونَ

Translation: พวกเขาต้องการเพื่อจะดับแสงสว่างของอัลลอฮ์ด้วยปากของพวกเขา(62) และอัลลอฮ์นั้นไม่ทรงยินยอม นอกจากจะทรงให้แสงสว่างของพระองค์สมบูรณ์เท่านั้น และแม้ว่าบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาจะชิงชังก็ตาม

Comment: (62)คือด้วยการใส่ไคล้ในอิสลาม เฉพาะอย่างยิ่งกล่าวหาว่านบีมุฮัมมัดหาใช่เป็นร่อซูลของอัลลอฮ์ไม่ ทั้งนี้เพื่อมิให้ผู้คนรับนับถืออิสลาม

9:33

هُوَ ٱلَّذِىٓ أَرْسَلَ رَسُولَهُۥ بِٱلْهُدَىٰ وَدِينِ ٱلْحَقِّ لِيُظْهِرَهُۥ عَلَى ٱلدِّينِ كُلِّهِۦ وَلَوْ كَرِهَ ٱلْمُشْرِكُونَ

Translation: พระองค์นั้นคือผู้ที่ได้ส่งร่อซูลของพระองค์มาพร้อมด้วยคำแนะนำ และศาสนาแห่งสัจจะ เพื่อที่จะทรงให้ศาสนาแห่งสัจจะนั้นประจักษ์(63) เหนือศาสนาทุกศาสนา และแม้ว่าบรรดามุชริกจะชิงชังก็ตาม

Comment: (63)คือประจักษ์ความเป็นจริง และความเหมาะสมเหนือทุกศาสนา

9:34

۞ يَـٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوٓا۟ إِنَّ كَثِيرًۭا مِّنَ ٱلْأَحْبَارِ وَٱلرُّهْبَانِ لَيَأْكُلُونَ أَمْوَٰلَ ٱلنَّاسِ بِٱلْبَـٰطِلِ وَيَصُدُّونَ عَن سَبِيلِ ٱللَّهِ ۗ وَٱلَّذِينَ يَكْنِزُونَ ٱلذَّهَبَ وَٱلْفِضَّةَ وَلَا يُنفِقُونَهَا فِى سَبِيلِ ٱللَّهِ فَبَشِّرْهُم بِعَذَابٍ أَلِيمٍۢ

Translation: บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย! แท้จริงจำนวนมากมายจากบรรดานักปราชญ์ และบาทหลวงนั้นกินทรัพย์ของประชาชนโดยไม่ชอบ(64) และขัดขวาง(ผู้คน) จากทางของอัลลอฮ์และบรรดาผู้ที่สะสมทองและเงิน และไม่จ่ายมันในทางของอัลลอ(65) จงแจ้งข่าวดีแก่พวกเขาเถิด ด้วยการลงโทษอันเจ็บปวด

Comment: (64)คือถ้าใครติดสินบนให้ตัดสินใจให้เป็นฝ่ายถูก และบิดเบือนคัมภีร์ว่าอนุญาตให้กินดอกเบี้ยผู้ที่มิใช่เป็นยิวได้ แล้วพวกเขาก็กินดอกเบี้ยที่ได้มาร่วมกัน หรือกินเงินเพื่อชี้ให้สิ่งที่เป็นที่ต้องห้ามกลับเป็นที่อนุมัติเป็นต้น

Comment: (65)คือเป็นส่วนซะกาต และส่วนที่จ่ายไปด้วยความสมัครใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่บัญญัติศาสนาส่งเสริมเป็นการแสดงออกซึ่งความศรัทธาที่จะได้รับการตอบแทนจากอัลลอฮ์

9:35

يَوْمَ يُحْمَىٰ عَلَيْهَا فِى نَارِ جَهَنَّمَ فَتُكْوَىٰ بِهَا جِبَاهُهُمْ وَجُنُوبُهُمْ وَظُهُورُهُمْ ۖ هَـٰذَا مَا كَنَزْتُمْ لِأَنفُسِكُمْ فَذُوقُوا۟ مَا كُنتُمْ تَكْنِزُونَ

Translation: วันที่มัน(66) จะถูกเผาไฟนรกแห่งญะฮันนัม แล้วหน้าผากของพวกเขา และสีข้างของพวกเขา และหลังของพวกเขาจะถูกนาบด้วยมันนี้แหละ(67) คือสิ่งที่พวกเจ้าได้สะสมไว้เพื่อ(68) ตัวของพวกเจ้าเอง ดังนั้น จงลิ้มรสสิ่งที่พวกเจ้าสะสมไว้เถิด

Comment: (66)เงินและทองที่พวกเขาสะสมไว้

Comment: (67)คือจะมีเสียงกล่าวแก่พวกเขาในวันที่พวกเขาถูกลงโทษว่านี้แหละ….

Comment: (68)คือเพื่อลงโทษตัวเอง

9:36

إِنَّ عِدَّةَ ٱلشُّهُورِ عِندَ ٱللَّهِ ٱثْنَا عَشَرَ شَهْرًۭا فِى كِتَـٰبِ ٱللَّهِ يَوْمَ خَلَقَ ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضَ مِنْهَآ أَرْبَعَةٌ حُرُمٌۭ ۚ ذَٰلِكَ ٱلدِّينُ ٱلْقَيِّمُ ۚ فَلَا تَظْلِمُوا۟ فِيهِنَّ أَنفُسَكُمْ ۚ وَقَـٰتِلُوا۟ ٱلْمُشْرِكِينَ كَآفَّةًۭ كَمَا يُقَـٰتِلُونَكُمْ كَآفَّةًۭ ۚ وَٱعْلَمُوٓا۟ أَنَّ ٱللَّهَ مَعَ ٱلْمُتَّقِينَ

Translation: แท้จริง จำนวนเดือน(69) ณ อัลลอฮ์นั้นมีสิบสองเดือน ในคัมภีร์ของอัลลอฮ์ตั้งแต่วันที่พระองค์ทรงสร้างบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดินจากเดือนเหล่านั้นมีสี่เดือน ซึ่งเป็นเดือนที่ต้องห้าม(70) นั่นคือบัญญัติอันเที่ยงตรง ดังนั้นพวกเจ้าจงอย่าอธรรม(71) แก่ตัวของพวกเจ้าเองในเดือนเหล่านั้นและจงต่อสู้บรรดามุชริกทั้งหมด เช่นเดียวกับที่พวกเขากำลังต่อสู้กับพวกเจ้าทั้งหมด และพึงรู้เถิดว่า แท้จริงอัลลอฮ์นั้นอยู่ร่วมกับบรรดาผู้ที่ยำเกรง

Comment: (69)คือจำนวนเดือนในปีหนึ่ง

Comment: (70)คือต้องห้ามในการต่อสู้กัน ทั้งนี้เพื่อให้เป็นเดือนที่ปลอดภัยแก่ผู้ประกอบพิธีอุมเราะฮ์ และพิธีฮัจญ์ อันเป็นบัญญัติที่อัลลอฮ์ได้ทรงกำหนดไว้โดยผ่านท่านนบีอิบรอฮีม และนบีอิสมาอีล ซึ่งเดือนเหล่านั้นได้แก่เดือน ซุลเกาะดะฮ์ ซุลฮิจญะฮ์ อัล-มุฮัรร็อม และเดือนร่อญับ

Comment: (71)คือจงอย่าละเมิดทำการต่อสู้ในเดือนเหล่านั้น อันถือเป็นการอธรรมแก่ตัวเอง

9:37

إِنَّمَا ٱلنَّسِىٓءُ زِيَادَةٌۭ فِى ٱلْكُفْرِ ۖ يُضَلُّ بِهِ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ يُحِلُّونَهُۥ عَامًۭا وَيُحَرِّمُونَهُۥ عَامًۭا لِّيُوَاطِـُٔوا۟ عِدَّةَ مَا حَرَّمَ ٱللَّهُ فَيُحِلُّوا۟ مَا حَرَّمَ ٱللَّهُ ۚ زُيِّنَ لَهُمْ سُوٓءُ أَعْمَـٰلِهِمْ ۗ وَٱللَّهُ لَا يَهْدِى ٱلْقَوْمَ ٱلْكَـٰفِرِينَ

Translation: แท้จริงการเลื่อนเดือนที่ต้องห้ามให้ล่าช้า(72) ไปนั้นเป็นการเพิ่มในการปฏิเสธศรัทธา(73) ยิ่งขึ้นโดยที่ผู้ปฏิเสธศรัทธาเหล่านั้นถูกทำให้หลงผิดไป(74) เนื่องด้วยการเลื่อนเดือนต้องห้ามนั้น พวกเขาได้ให้มันเป็นที่อนุมัติปีหนึ่ง และให้มันเป็นที่ต้องห้ามปีหนี่ง(75) เพื่อพวกเขาจะให้พ้องกับจำนวนเดือนที่อัลลอฮ์ได้ทรงห้ามไว้(76) (มิเช่นนั้นแล้ว) พวกเขาก็จะทำให้เป็นที่อนุมัติสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงให้เป็นที่ต้องห้ามไป(77) โดยที่ความชั่วแห่งบรรดาการงานของพวกเขาได้ถูกประดับประดาให้สวยงามแก่พวกเขา และอัลลอฮ์นั้นจะไม่ทรงนำทางแก่กลุ่มชนที่ปฏิเสธศรัทธา

Comment: (72)คือเลื่อนเดือนอัล-มุฮัรร็อมซึ่งเป็นเดือนต้องห้ามให้เป็นเดือนเศาะฟัรเสียกล่าวคือกำหนดเดือนเศาะฟัรให้เป็นเดือนต้องห้ามแทนเดือนอัล-มุฮัรร็อมแล้วให้เดือน อัล-มุฮัรร็อม เป็นที่อนุมัติในการต่อสู้กัน ทั้งนี้เพราะพวกเขาไม่สามารถจะทนอยู่ในพักรบเป็นเวลานานถึงสามเดือนต่อเนื่องกันได้ นั่นคือเดือน ซุลเกาะดะฮ์ และเดือน อัล-มุฮัรร็อม

Comment: (73)คือปฏิเสธศรัทธาในบัญญัติที่มิให้ละเมิดในบรรดาเดือนต้องห้ามเพิ่มขึ้นอีก ทั้งนี้นอกเหนือจากการปฏิเสธศรัทธาต่อท่านนบีของพระองค์ และคัมภีร์ของพระองค์คือถูกทำให้หลงผิดไปว่า เป็นการทำที่ถูกต้องเพราะมิได้ลดจำนวนเดือนที่ต้องห้ามลงแต่อย่างใด ในการนี้ทำให้ผู้ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ในหมู่พวกเขาพลอยหลงผิดไปด้วย

Comment: (74)คือถูกทำให้หลงผิดไปกว่า เป็นการทำที่ถูกต้อง เพราะมิได้ลดจำนวนเดือนที่ต้องห้ามลงแต่อย่างใด ในการนี้ทำให้ผู้ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ในหมู่พวกเราพลอยหลงผิดไปด้วย

Comment: (75)คือเมื่อพวกเขาให้เดือนต้องห้ามเป็นที่อนุมัติปีหนึ่ง ในปีต่อไปก็ให้เดือนนั้นเป็นที่ต้องห้ามอีก สับเปลี่ยนกันไป

Comment: (76)คือให้จำนวนเดือนที่เป็นต้องห้ามนั้นพ้องกับจำนวนเดือนที่อัลลอฮ์ได้กำหนดไว้

Comment: (77)คือถ้าพวกเรามิให้เดือนเศาะฟัร อันเป็นเดือนที่เป็นที่อนุมัติชดเชยเดือนอัล-มุฮัรรอม อันเดือนที่ต้องห้ามซึ่งพวกเขาได้ให้เป็นเดือนที่เป็นที่อนุมัติแล้ว พวกเขาก็จะกลายเป็นผู้ที่อนุมัติในสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงให้เป็นที่ต้องห้ามไป ทั้งนี้เป็นความนึกคิดตามอารมณ์ของตนเอง อย่างไรก็ดี การกระทำของพวกเขานั้นก็คือ การให้สิ่งที่เป็นที่ต้องห้าม เป็นสิ่งที่เป็นที่อนุมัตินั้นเอง หาใช่อื่นใดไม่ซึ่งถือเป็นความผิดมหันต์

9:38

يَـٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ مَا لَكُمْ إِذَا قِيلَ لَكُمُ ٱنفِرُوا۟ فِى سَبِيلِ ٱللَّهِ ٱثَّاقَلْتُمْ إِلَى ٱلْأَرْضِ ۚ أَرَضِيتُم بِٱلْحَيَوٰةِ ٱلدُّنْيَا مِنَ ٱلْـَٔاخِرَةِ ۚ فَمَا مَتَـٰعُ ٱلْحَيَوٰةِ ٱلدُّنْيَا فِى ٱلْـَٔاخِرَةِ إِلَّا قَلِيلٌ

Translation: บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย มีอะไรเกิดขึ้นแก่พวกเจ้ากระนั้นหรือ ? เมื่อได้ถูกกล่าวแก่พวกเจ้าว่า จงออกไปต่อสู้ในทางของอัลลอฮ์(78) เถิด พวกเจ้าก็แนบตัวอยู่กับพื้นดิน(79) พวกเจ้าพึงพอใจต่อชีวิตความเป็นอยู่แห่งโลกนี้แทน(80) ปรโลกกระนั้นหรือ ? สิ่งอำนวยความสุขแห่งชีวิตความเป็นอยู่ในโลกนี้กับในปรโลกแล้ว ไม่มีอะไรนอกจากสิ่งเล็กน้อยเท่านั้น(81)

Comment: (78)คือออกไปทำศึกกับอาณาจักรแห่งโรมัน เนื่องจากพวกนั้นกำลังจัดเตรียมกำลังที่จะทำการพิชิตนครมะดีนะฮ์ การยกกำลังไปทำศึกครั้งนี้เรียกว่า “สงครามตะบูก” ตะบูกเป็นชื่อของสถานที่ซึ่งอยู่กึ่งทางระหว่างมะดีนะฮ์กับดิมัชก์ (ดามัสกัส) คือห่างจากมะดีนะฮ์ 610 กิโลเมตร และห่างจากดามัสกัส 692 กิโลเมตร

Comment: (79)คือทำอืดอาดชักช้าไม่เต็มใจที่จะออกไป ประหนึ่งว่าก้นของพวกเขาแนบตัวติดอยู่กับพื้นดินลุกขึ้นไม่ได้กระนั้น ทั้งนี้เนื่องจากเป็นเวลาที่มีอากาศร้อนจัด และเพิ่งกลับมาจากสงครามพิชิตนครมักกะฮ์ สงครามฮุนัยน์ และฏออิฟ ใหม่ ๆ ขณะเดียวกันก็กำลังขาดแคลนอาหาร และเป็นฤดูที่อินทผาลัมกำลังจะสุก และอากาศก็กำลังจะดี เพราะเดือนร่อยับ ซึ่งตรงกับเดือนตุลาคมในปีนั้น

Comment: (80)คือแทนชีวิตความเป็นอยู่ในปรโลก

Comment: (81)คือสิ่งอำนวยความสุขนั้นเมื่อเทียบกับปรโลกแล้วนับเป็นสิ่งเล็กน้อยมาก

9:39

إِلَّا تَنفِرُوا۟ يُعَذِّبْكُمْ عَذَابًا أَلِيمًۭا وَيَسْتَبْدِلْ قَوْمًا غَيْرَكُمْ وَلَا تَضُرُّوهُ شَيْـًۭٔا ۗ وَٱللَّهُ عَلَىٰ كُلِّ شَىْءٍۢ قَدِيرٌ

Translation: ถ้าหากพวกเจ้าไม่ออกไป พระองค์ก็จะทรงลงโทษพวกเจ้าอย่างเจ็บปวด และจะทรงให้พวกหนึ่งอื่นจากพวกเจ้ามาแทน และพวกเจ้าไม่สามารถจะยังความเดือดร้อนให้แก่พระองค์ได้แต่อย่างใด และอัลลอฮ์นั้นทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง

9:40

إِلَّا تَنصُرُوهُ فَقَدْ نَصَرَهُ ٱللَّهُ إِذْ أَخْرَجَهُ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ ثَانِىَ ٱثْنَيْنِ إِذْ هُمَا فِى ٱلْغَارِ إِذْ يَقُولُ لِصَـٰحِبِهِۦ لَا تَحْزَنْ إِنَّ ٱللَّهَ مَعَنَا ۖ فَأَنزَلَ ٱللَّهُ سَكِينَتَهُۥ عَلَيْهِ وَأَيَّدَهُۥ بِجُنُودٍۢ لَّمْ تَرَوْهَا وَجَعَلَ كَلِمَةَ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ ٱلسُّفْلَىٰ ۗ وَكَلِمَةُ ٱللَّهِ هِىَ ٱلْعُلْيَا ۗ وَٱللَّهُ عَزِيزٌ حَكِيمٌ

Translation: ถ้าหากพวกจ้าไม่ช่วยเขา(82) ก็แท้จริงนั้นอัลลอฮ์ได้ทรงช่วยเขามาแล้ว ขณะที่บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา(83) ได้ขับไล่เขาออกไปโดยที่เขาเป็นคนที่สองในสองคน(84) ขณะที่ทั้งสอง(85) อยู่ในถ้ำนั้นคือขณะที่เขา(86) ได้กล่าวแก่สหายของเขา(87) ว่า ท่านอย่าเสียใจ แท้จริงอัลลอฮ์ทรงอยู่กับเรา(88) แล้วอัลลอฮ์ก็ทรงประทานลงมาแก่เขา(89) ซึ่งความสงบใจจากพระองค์ และได้ทรงสนับสนุนเขาด้วยบรรดาไพร่พล ซึ่งพวกเจ้าไม่เห็นพวกเขา และได้ทรงให้ถ้อยคำ(90) ของผู้ที่ปฏิเสธศรัทธาอยู่ในระดับต่ำสุด(91) และพจนารถของอัลลอฮ์นั้น คือพจนารถที่สูงสุด(92) และอัลลอฮ์คือ ผู้ทรงเดชานุภาพ ผู้ทรงปรีชาญาณ

Comment: (82)หมายถึงท่านนบี กล่าวคือ ถ้าพวกเจ้าไม่ช่วยท่านนบีก็ไม่สำคัญ อัลลอฮ์จะทรงช่วยท่านเอง และก็ได้ทรงช่วยท่านมาแล้ว

Comment: (83)หมายถึงพวกมุชริกมักกะฮ์

Comment: (84)คนที่หนึ่งคือ อะบูบักร์

Comment: (85)คือท่านนบี และอะบูบักร์

Comment: (86)คือท่านนบี

Comment: (87)คืออะบูบักร์

Comment: (88)หมายถึงผู้ทรงรู้เห็น และพร้อมที่จะทรงช่วยเหลือ

Comment: (89)คือแก่ท่านนบี กล่าวคือทรงให้ท่านนบีมีความสงบใจ

Comment: (90)หมายถึงคำเรียกร้องและเชิญชวนให้เคารพสักการะเจว็ด

Comment: (91)คือไม่มีทางที่จะชนะได้

Comment: (92)คือมีชัยชนะตลอดกาล

9:41

ٱنفِرُوا۟ خِفَافًۭا وَثِقَالًۭا وَجَـٰهِدُوا۟ بِأَمْوَٰلِكُمْ وَأَنفُسِكُمْ فِى سَبِيلِ ٱللَّهِ ۚ ذَٰلِكُمْ خَيْرٌۭ لَّكُمْ إِن كُنتُمْ تَعْلَمُونَ

Translation: พวกเจ้าจงออกไปกันเถิด ทั้งผู้ที่มีสภาพว่องไว และผู้ที่มีสภาพเชื่องช้า(93) และจงเสียสละทั้งด้วยทรัพย์ของพวกเจ้า และชีวิตของพวกเจ้าในทางของอัลลอฮ์นั่นแหละคือสิ่งที่ดียิ่งสำหรับพวกเจ้า หากพวกเจ้ารู้

Comment: (93)หมายถึงทั้งผู้ที่กระฉับกระเฉงว่องไว และผู้อับอายเชื่องช้า ทั้งผู้ที่มั่งมีและยากจน และทั้งผู้ที่ยังหนุ่มแน่น และผู้สูงอายุรวมความแล้วหมายถึง บุคคลทุกประเภทที่สามารถจะเดินทางไปได้

9:42

لَوْ كَانَ عَرَضًۭا قَرِيبًۭا وَسَفَرًۭا قَاصِدًۭا لَّٱتَّبَعُوكَ وَلَـٰكِنۢ بَعُدَتْ عَلَيْهِمُ ٱلشُّقَّةُ ۚ وَسَيَحْلِفُونَ بِٱللَّهِ لَوِ ٱسْتَطَعْنَا لَخَرَجْنَا مَعَكُمْ يُهْلِكُونَ أَنفُسَهُمْ وَٱللَّهُ يَعْلَمُ إِنَّهُمْ لَكَـٰذِبُونَ

Translation: หากมัน(94) เป็นผลได้อันใกล้ และเป็นการเป็นทางที่สะดวก และใกล้แล้วไซร้ แน่นอนพวกเขา(95) ก็ปฏิบัติตามเจ้าแล้ว แต่ทว่าระยะทาง(96) อันลำบากนั้นไกลแก่พวกเขา และพวกเขาจะสาบานต่ออัลลอฮ์(97) ว่า ถ้าหากพวกเราสามารถแล้ว แน่นอนพวกเราก็ออกไปกับพวกท่านแล้ว พวกเขากำลังทำลายชีวิตของพวกเขาเอง(98) และอัลลอฮ์นั้นทรงรู้ว่า แท้จริงพวกเขานั้นเป็นผู้กล่าวเท็จ

Comment: (94)หมายถึงการออกไปต่อสู้กับฝ่ายศัตรูนั้นเป็นการได้มาซึ่งทรัพย์เชลยอันรวดเร็ว

Comment: (95)หมายถึงมุนาฟิกที่ไม่ยอมออกไป

Comment: (96)คือระยะทางที่จะเดินทางไปนั้นลำบากและไกลถึง 610 กิโลเมตร

Comment: (97)คือจะสาบานเท็จ เป็นการแก้ตัวแก่ท่านนบี เมื่อท่านเดินทางกลับจากสงคราม กล่าวคืออัลลอฮ์ทรงประทานโองการนี้แก่ท่านนบี ก่อนที่ท่านจะเดินทางกลับ

Comment: (98)เนื่องจากการสาบานเท็จของพวกเขา

9:43

عَفَا ٱللَّهُ عَنكَ لِمَ أَذِنتَ لَهُمْ حَتَّىٰ يَتَبَيَّنَ لَكَ ٱلَّذِينَ صَدَقُوا۟ وَتَعْلَمَ ٱلْكَـٰذِبِينَ

Translation: อัลลอฮ์ได้ทรงอภัยโทษให้แก่เจ้า(99) แล้วเพราะเหตุใดเล่าเจ้าจึงอนุมัติให้แก่พวกเขา(100) จนกว่าจะได้ประจักษ์แก่เจ้าก่อน(101) ซึ่งบรรดาผู้ที่พูดจริง และจนกว่าเจ้าจะได้รู้บรรดาผู้ที่กล่าวเท็จ

Comment: (99)หมายถึงท่านนบี

Comment: (100)คือพวกที่ขออนุญาตจากท่านนบีที่จะไม่ออกไปทำสงครามตะบูก

Comment: (101)คือเจ้าไม่ควรจะรีบด่วนอนุมัติให้แก่พวกเขา จนกว่าจะประจักษ์แก่เจ้าเสียก่อน…..

9:44

لَا يَسْتَـْٔذِنُكَ ٱلَّذِينَ يُؤْمِنُونَ بِٱللَّهِ وَٱلْيَوْمِ ٱلْـَٔاخِرِ أَن يُجَـٰهِدُوا۟ بِأَمْوَٰلِهِمْ وَأَنفُسِهِمْ ۗ وَٱللَّهُ عَلِيمٌۢ بِٱلْمُتَّقِينَ

Translation: บรรดาผู้ทีศรัทธาต่ออัลลอฮ์และวันปรโลกนั้น จะไม่ขออนุมัติต่อเจ้าในการที่พวกเขาจะเสียสละทั้งด้วยทรัพย์ของพวกเขา และชีวิตของพวกเขา(102) และอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงรอบรู้ต่อบรรดาผู้ที่ยำเกรง

Comment: (102)หมายถึงพวกเขาอยู่ในสภาพเตรียมพร้อมอยู่เสมอ เพราะรู้จักหน้าที่ของตน เมื่อถึงเวลาที่พวกเขาจะเสียสละทรัพย์และชีวิตของเขาแล้ว เขาจะนำทรัพย์ของเขาไปมอบให้แก่ท่านนบี และเตรียมตัวออกทำการต่อสู้ทันที โดยไม่ต้องขออนุญาตต่อท่านนบีแต่อย่างใด

9:45

إِنَّمَا يَسْتَـْٔذِنُكَ ٱلَّذِينَ لَا يُؤْمِنُونَ بِٱللَّهِ وَٱلْيَوْمِ ٱلْـَٔاخِرِ وَٱرْتَابَتْ قُلُوبُهُمْ فَهُمْ فِى رَيْبِهِمْ يَتَرَدَّدُونَ

Translation: แท้จริงที่จะขออนุมัติต่อเจ้านั้นคือบรรดาผู้ที่ไม่ศรัทธาต่ออัลลอฮ์และวันปรโลกและหัวใจของพวกเขาสงสัยเท่านั้น(103) แล้วในการสงสัยของพวกเขาเอง พวกเขาจึงลังเลใจ

Comment: (103)หมายถึงพวกมุนาฟิก

9:46

۞ وَلَوْ أَرَادُوا۟ ٱلْخُرُوجَ لَأَعَدُّوا۟ لَهُۥ عُدَّةًۭ وَلَـٰكِن كَرِهَ ٱللَّهُ ٱنۢبِعَاثَهُمْ فَثَبَّطَهُمْ وَقِيلَ ٱقْعُدُوا۟ مَعَ ٱلْقَـٰعِدِينَ

Translation: และหากพวกเขาต้องการออกไป(104) แน่นอน พวกเขาต้องเตรียมสัมภาระ(105) สำหรับการออกไปนั้นแล้ว แต่ทว่าอัลลอฮ์ทรงเกลียดการออกไปของพวกเขา พระองค์จึงได้ทรงกีดขวาง(106) พวกเขาไว้ และได้ถูกกล่าวว่า(107) ท่านทั้งหลายจงนั่งอยู่กับผู้ที่นั่งทั้งหลาย(108) เถิด

Comment: (104)คือออกไปร่วมกับท่านนบี

Comment: (105)คือเตรียมพาหนะ เสบียงอาหาร และอาวุธ

Comment: (106)หมายถึงทำให้พวกเขาเกียจคร้านที่ออกไป

Comment: (107)คือมีผู้แนะนำพวกเขา ซึ่งอาจเป็นชัยฏอนที่มาในร่างของมนุษย์ก็ได้

Comment: (108)หมายถึงเด็ก ๆ ผู้หญิง คนป่วยและคนชรา

9:47

لَوْ خَرَجُوا۟ فِيكُم مَّا زَادُوكُمْ إِلَّا خَبَالًۭا وَلَأَوْضَعُوا۟ خِلَـٰلَكُمْ يَبْغُونَكُمُ ٱلْفِتْنَةَ وَفِيكُمْ سَمَّـٰعُونَ لَهُمْ ۗ وَٱللَّهُ عَلِيمٌۢ بِٱلظَّـٰلِمِينَ

Translation: หากว่าพวกเขาออกไปในหมู่พวกเจ้าแล้ว ก็ไม่มีอะไรเพิ่มแก่พวกเจ้า นอกจากความเสียหาย(109) เท่านั้น และแน่นอนพวกเขาก็ย่อมฉวยโอกาสยุแหย่ระหว่างพวกเจ้าโดยปรารถนาให้เกิดความวุ่นวายแก่พวกเจ้า(110) และในหมู่พวกเจ้านั้นก็มีพวกที่รับฟังพวกเขาอยู่ และอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงรอบรู้ในผู้อธรรมทั้งหลาย

Comment: (109)เพราะพวกเขามิได้ตั้งใจต่อสู้ และเมื่อได้รับบาดเจ็บก็จะพากันหนีอันก่อให้เกิดการเสียขวัญแก่บรรดามุอ์มิน

Comment: (110)คือให้เกิดความไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน

9:48

لَقَدِ ٱبْتَغَوُا۟ ٱلْفِتْنَةَ مِن قَبْلُ وَقَلَّبُوا۟ لَكَ ٱلْأُمُورَ حَتَّىٰ جَآءَ ٱلْحَقُّ وَظَهَرَ أَمْرُ ٱللَّهِ وَهُمْ كَـٰرِهُونَ

Translation: แท้จริง นั้นพวกเขาได้แสวงหาความวุ่นวาย(111) มาก่อนแล้ว และวางแผนต่างๆ นานา เพื่อต่อต้าน(112) เจ้าจนกระทั่งความจริง(113) ได้มา และพระบัญชาของอัลลอฮ์ได้ประจักษ์ขึ้น(114) ทั้ง ๆ ที่พวกเขาไม่พอใจ

Comment: (111)กล่าวคือพวกเขาเคยวางแผนที่จะทำให้บรรดามุสลิมเสียขวัญ ขณะที่ออกไปต่อสู้ในสงครามอุฮุดมาแล้ว นั่นคือขณะที่กำลังทหารได้เดินทางไปถึง “อัชเชาฏ” ซึ่งอยู่ระหว่างมะดีนะฮ์ และอุฮุด นั้นอับดุลลอฮ์ บินอุบัย บินสะลูน ซึ่งเป็นผู้นำของพวกมุนาฟิกได้นำกำลังทหารซึ่งเป็นมุนาฟิกเช่นเดียวกับเขากลับมะดีนะฮ์จำนวนหนึ่งในสามของทหารทั้งหมด และได้กล่าวแก่ผู้คนว่า “เด็กๆ และผู้ที่ไม่มีปัญญาความคิดอะไรเท่านั้นที่เชื่อฟังท่านนบี เรื่องอะไรเราจะฆ่าตัวเอง” เขาหมายความว่า ถ้าคนใดในพวกเขาตายในการสู้รบ ก็เหมือนกับว่าได้ฆ่าตัวเอง

Comment: (112)ข้อความดังกล่าวนี้เราถอดเอาแต่ความมุ่งหมายเท่านั้น ซึ่งข้อความตามศัพท์นั้นก็คือ “และพวกเขาได้พลิกกลับกิจการทั้งหลายสำหรับเจ้า” เป็นการเปรียบเทียบว่า กิจการทั้งหลายนั้นเป็นวัตถุ และการพลิกกลับไปกลับมานั้น ก็เพื่อพิจารณาว่าจะมีงานใดบ้างที่จะสามารถกำจัดท่านนบีมูฮัมมัดได้บ้าง ดังนั้นความมุ่งหมายแห่งสำนวนดังกล่าวนี้คือ “พวกเขาได้วางแผนต่าง ๆนานา เพื่อต่อต้านท่านนบีและกำจัดท่าน” ดังที่ใช้เป็นความหมายของอายะฮ์

Comment: (113)หมายถึง ชัยชนะ

Comment: (114)คือประจักษ์แก่ผู้คนส่วนใหญ่ว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และมาจากพระองค์โดยแท้จริง

9:49

وَمِنْهُم مَّن يَقُولُ ٱئْذَن لِّى وَلَا تَفْتِنِّىٓ ۚ أَلَا فِى ٱلْفِتْنَةِ سَقَطُوا۟ ۗ وَإِنَّ جَهَنَّمَ لَمُحِيطَةٌۢ بِٱلْكَـٰفِرِينَ

Translation: และในหมู่พวกเขา(115) มีผู้ที่กล่าว(116) ว่า จงอนุญาตแก่ฉันเถิด และอย่าให้ฉันตกอยู่ในการทำความชั่ว(117) เลย พึงรู้เถิดว่า พวกเขาได้ตกอยู่ในการทำความชั่ว(118) นั้นแล้ว และแท้จริงนรกญะฮันนัมล้อมบรรดาผู้ปฏิเสธการศรัทธาอยู่แล้ว

Comment: (115)คือพวกมุนาฟิก

Comment: (116)คือ อัล-ญัต บินก็อยส

Comment: (117)คือฝ่าฝืนบัญญัติศาสนาเนื่องจากเขาอ้างเท็จว่า ถ้าเขาได้พบเห็นหญิงแห่งบะนี อัล-อัศฟัร แล้ว เขาไม่สามารถที่จะอดใจได้ที่จะทำชั่วกับนาง (บะนีอัล-อัศฟัร นั้น เป็นผู้สืบทอดในการเป็นกษัตริย์แห่งโรมัน) แล้วท่านนบีก็อนุญาตให้แก่เขา

Comment: (118)คือเนื่องจากฝ่าฝืนคำสั่งของอัลลอฮ์ที่ใช้ให้ออกไปสู้รบ แต่เขาไม่ยอมออก โดยอ้างเท็จแก่ท่านนบีเป็นข้อแก้ตัว อนึ่งคำว่า “ความชั่ว” นั้นถอดความมาจาก “อัล-ฟิตนะฮ์” ซึ่ง “อัล-ฟิตนะฮ์” นี้มีความหมายหลายนัย เช่น การทดสอบ การก่อความไม่สงบ การหลงผิด การขัดแย้ง และการกระทำความชั่ว เป็นต้น

9:50

إِن تُصِبْكَ حَسَنَةٌۭ تَسُؤْهُمْ ۖ وَإِن تُصِبْكَ مُصِيبَةٌۭ يَقُولُوا۟ قَدْ أَخَذْنَآ أَمْرَنَا مِن قَبْلُ وَيَتَوَلَّوا۟ وَّهُمْ فَرِحُونَ

Translation: หากมีความดีใดๆ ประสบแก่เจ้าก็ทำให้พวกเขาไม่สบายใจ และหากมีอันตรายใดๆ ประสบแก่เจ้า(119) พวกเขาก็กล่าวว่า แท้จริงพวกเราได้เอากิจการของเราไว้ก่อน(120) แล้ว และพวกเขาก็ผินหลังให้(121) โดยที่พวกเขาเป็นผู้ปิติยินดี

Comment: (119)คือได้รับการเพลี่ยงพล้ำ

Comment: (120)คือเราได้ปฏิบัติตามความเห็นของเรา โดยที่เราเห็นว่าจะได้รับการเพลี่ยงพล้ำ พวกเราจึงไม่ออกไป พวกเราจึงปลอดภัย

Comment: (121)คือกลับออกไปจากหมู่ผู้ศรัทธา

9:51

قُل لَّن يُصِيبَنَآ إِلَّا مَا كَتَبَ ٱللَّهُ لَنَا هُوَ مَوْلَىٰنَا ۚ وَعَلَى ٱللَّهِ فَلْيَتَوَكَّلِ ٱلْمُؤْمِنُونَ

Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่า จะไม่ประสบแก่เราเป็นอันขาด นอกจากสิ่งที่อัลลอฮ์ได้กำหนดไว้แก่เราเท่านั้น(122) ซึ่งพระองค์เป็นผู้คุ้มครองเรา และแด่อัลลอฮ์มุอ์มินทั้งหลายจงมอบหมายเถิด

Comment: (122)คือกำหนดไว้แก่เรา ตามกฎแห่งการกำหนดสภาวะของพระองค์ที่ทรงให้ไว้แก่โลก อย่างไรก็ดีหากพระองค์ทรงประสงค์แล้วสิ่งนั้นจะเกิดขึ้นโดยไม่ต้องผ่านกฎแห่งการกำหนดสภาวะดังกล่าวแต่อย่างใด

9:52

قُلْ هَلْ تَرَبَّصُونَ بِنَآ إِلَّآ إِحْدَى ٱلْحُسْنَيَيْنِ ۖ وَنَحْنُ نَتَرَبَّصُ بِكُمْ أَن يُصِيبَكُمُ ٱللَّهُ بِعَذَابٍۢ مِّنْ عِندِهِۦٓ أَوْ بِأَيْدِينَا ۖ فَتَرَبَّصُوٓا۟ إِنَّا مَعَكُم مُّتَرَبِّصُونَ

Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่าพวกท่านจะไม่คอยดูพวกเรา นอกจากหนึ่งในสองสิ่ง(123) ทีดีเยี่ยมเท่านั้น และเราก็จะคอยดูพวกท่านในการที่อัลลอฮ์จะทรงให้ประสบแก่พวกท่านด้วยการลงโทษที่มาจากที่พระองค์(124) หรือด้วยมือของพวกเรา(125) ดังนั้นพวกเจ้าจงคอยดูไปเถิด แท้จริงพวกเราก็จะเป็นผู้คอยดูพร้อมกับพวกท่านด้วย

Comment: (123)คือชัยชนะพร้อมด้วยเชลยศึก และทรัพย์เชลยหนึ่ง และชะฮีดอีกหนึ่ง ซึ่งทั้งสองนั้นนับเป็นสิ่งที่ดีเยี่ยม

Comment: (124)คือให้สายฟ้าฟาดลงมาในหมู่พวกเขา หรือการลงโทษอย่างหนึ่งอย่างใดทำให้พวกเขาพินาศ

Comment: (125)คือทำการประหัตประหารพวกเขา และริบทรัพย์ของพวกเขา เพราะพวกเขาอยู่ในฐานะผู้ปฏิเสธศรัทธา

9:53

قُلْ أَنفِقُوا۟ طَوْعًا أَوْ كَرْهًۭا لَّن يُتَقَبَّلَ مِنكُمْ ۖ إِنَّكُمْ كُنتُمْ قَوْمًۭا فَـٰسِقِينَ

Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่าพวกท่านจงบริจาคกันเถิด ทั้งด้วยสมัครใจหรือด้วยฝืนใจก็ตาม มัน(126) จะไม่ถูกรับจากพวกท่านเป็นอันขาดแท้จริงพวกท่านเป็นพวกที่ละเมิด

Comment: (126)หมายถึงสิ่งที่พวกเขาบริจาค

Comment: (127)คือละเมิดบัญญัติของอัลลอฮ์ และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของท่านนบี

9:54

وَمَا مَنَعَهُمْ أَن تُقْبَلَ مِنْهُمْ نَفَقَـٰتُهُمْ إِلَّآ أَنَّهُمْ كَفَرُوا۟ بِٱللَّهِ وَبِرَسُولِهِۦ وَلَا يَأْتُونَ ٱلصَّلَوٰةَ إِلَّا وَهُمْ كُسَالَىٰ وَلَا يُنفِقُونَ إِلَّا وَهُمْ كَـٰرِهُونَ

Translation: ไม่มี่สิ่งใดขัดขวางพวกเขา ในการที่บรรดาสิ่งบริจาคของพวกเขาไม่ถูกรับจากพวกเขานอกจากพวกเขาปฏิเสธศรัทธาต่ออัลลอฮ์(128) และต่อร่อซูลของพระองค์เท่านั้น และพวกเขาจะไม่มาละหมาด นอกจากพวกเขาจะมีสภาพเกียจคร้าน(129) แลพวกเขาจะไม่บริจาค นอกจากพวกเขาจะมีสภาพฝืนใจ(130)

Comment: (128)คือความจริงพวกเขาศรัทธาต่ออัลลอฮ์ แต่เนื่องจากพวกเขาปฏิเสธศรัทธาต่อท่านนบีจึงถือว่าพวกเขาปฏิเสธศรัทธาต่ออัลลอฮ์ด้วย เพราะอัลลอฮ์เป็นผู้ส่งท่านนบีมา

Comment: (129)เนื่องจากพวกเขามิได้มีความศรัทธาด้วยใจจริง

Comment: (130)เพราะไม่เชื่อว่าพวกเขาจะได้รับการตอบแทน นอกจากนั้นยังเป็นกำลังแก่ฝ่ายผู้ศรัทธาด้วย

9:55

فَلَا تُعْجِبْكَ أَمْوَٰلُهُمْ وَلَآ أَوْلَـٰدُهُمْ ۚ إِنَّمَا يُرِيدُ ٱللَّهُ لِيُعَذِّبَهُم بِهَا فِى ٱلْحَيَوٰةِ ٱلدُّنْيَا وَتَزْهَقَ أَنفُسُهُمْ وَهُمْ كَـٰفِرُونَ

Translation: ดังนั้น จงอย่าให้ทรัพย์สมบัติพวกเขา และอย่าให้ลูก ๆ ของพวกเขาเป็นที่พึงใจแก่เจ้า แท้จริง อัลลอฮ์ทรงต้องการที่จะลงโทษพวกเขาด้วยสิ่งเหล่านั้นในชีวิตแห่งโลกนี้ และที่จะให้ชีวิตของพวกเขาออกจากร่างไป ขณะที่พวกเขาเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาเท่านั้น

9:56

وَيَحْلِفُونَ بِٱللَّهِ إِنَّهُمْ لَمِنكُمْ وَمَا هُم مِّنكُمْ وَلَـٰكِنَّهُمْ قَوْمٌۭ يَفْرَقُونَ

Translation: และพวกเขา(131) จะสาบานต่ออัลลอฮ์ว่า แท้จริงพวกเขานั้นเป็นพวกของพวกเจ้า และพวกเขาหาใช่เป็นพวกของพวกเจ้าไม่ แต่ทว่าพวกเขานั้นคือ พวกที่หวาดกลัว(132) ต่างหาก

Comment: (131)คือพวกมุนาฟิกแห่งมะดีนะฮ์

Comment: (132)คือหวาดกลัวว่าพวกเขาจะถูกตอบโต้ เช่นเดียวกับพวกมุชริกแห่งมักกะฮ์ เนื่องจากพวกเขาหลอกลวงบรรดาผู้ศรัทธาว่า พวกเขาก็เป็นผู้ศรัทธาทั้งๆ ที่พวกเขามิได้เป็นผู้ศรัทธา

9:57

لَوْ يَجِدُونَ مَلْجَـًٔا أَوْ مَغَـٰرَٰتٍ أَوْ مُدَّخَلًۭا لَّوَلَّوْا۟ إِلَيْهِ وَهُمْ يَجْمَحُونَ

Translation: หากพวกเขาพบที่พักพิง หรือบรรดาถ้ำหรืออุโมง แน่นอนพวกเขาจะหันไปหามัน โดยที่พวกเขาจะไปอย่างรีบด่วน(133)

Comment: (133)หมายความว่า ถ้าพวกเขามีทางที่จะหนีให้พ้นจากบรรดาผู้ศรัทธาได้ พวกเขารีบพากันไปทันที เพราะไม่สามารถจะปกปิดความกลับกลอก หรือการเป็นมุนาฟิกของพวกเขาได้ตลอด และเกรงว่าจะถูกเปิดเผย แล้วในขณะนั้นแหละ ภัยอันใหญ่หลวงก็จะประสบแก่พวกเขา

9:58

وَمِنْهُم مَّن يَلْمِزُكَ فِى ٱلصَّدَقَـٰتِ فَإِنْ أُعْطُوا۟ مِنْهَا رَضُوا۟ وَإِن لَّمْ يُعْطَوْا۟ مِنْهَآ إِذَا هُمْ يَسْخَطُونَ

Translation: และในหมู่พวกเขานั้นมีผู้ที่ตำหนิเจ้าในเรื่องสิ่งบริจาค(134) ถ้าหากพวกเขาได้รับจากสิ่งบริจาคนั้นพวกเขาก็ยินดี และหากพวกเขามิได้รับจากสิ่งบริจาคนั้น ทันใดพวกเขาก็โกรธ

Comment: (134)หมายถึงเงินหรือทรัพย์สินส่วนซะกาต

9:59

وَلَوْ أَنَّهُمْ رَضُوا۟ مَآ ءَاتَىٰهُمُ ٱللَّهُ وَرَسُولُهُۥ وَقَالُوا۟ حَسْبُنَا ٱللَّهُ سَيُؤْتِينَا ٱللَّهُ مِن فَضْلِهِۦ وَرَسُولُهُۥٓ إِنَّآ إِلَى ٱللَّهِ رَٰغِبُونَ

Translation: และหากพวกเขายินดีต่อสิ่ง(135) ที่อัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์ได้ให้แก่พวกเขา และกล่าวว่า อัลลอฮ์ทรงพอเพียงแก่เรา(136) แล้วโดยที่อัลลอฮ์จะทรงประทานแก่เราจากความกรุณาของพระองค์และร่อซูลของพระองค์ (ก็จะให้ด้วย) แท้จริงแด่อัลลอฮ์เท่านั้นพวกเราเป็นผู้วิงวอนขอ

Comment: (135)หมายถึงทรัพย์เชลย

Comment: (136)คือการที่อัลลอฮ์ทรงอยู่กับเรานั้นเป็นการพอเพียงแล้ว เพราะพระองค์ทรงรู้สภาพของพวกเราดีว่า เราควรได้รับความช่วยเหลืออะไรจากพระองค์ ทั้งนี้เมื่อเราดำเนินชีวิตอยู่ในวิถีทางของพระองค์

9:60

۞ إِنَّمَا ٱلصَّدَقَـٰتُ لِلْفُقَرَآءِ وَٱلْمَسَـٰكِينِ وَٱلْعَـٰمِلِينَ عَلَيْهَا وَٱلْمُؤَلَّفَةِ قُلُوبُهُمْ وَفِى ٱلرِّقَابِ وَٱلْغَـٰرِمِينَ وَفِى سَبِيلِ ٱللَّهِ وَٱبْنِ ٱلسَّبِيلِ ۖ فَرِيضَةًۭ مِّنَ ٱللَّهِ ۗ وَٱللَّهُ عَلِيمٌ حَكِيمٌۭ

Translation: แท้จริงท่านทั้งหลาย(137) นั้น สำหรับบรรดาผู้ที่ยากจน(138) และบรรดาผู้ที่ขัดสน(139) และบรรดาเจ้าหน้าที่ในการรวบรวมมัน(140) และบรรดาผู้ที่หัวใจของพวกเขาสนิทสนม(141) และในการไถ่ทาส และบรรดาผู้ที่หนี้สินล้นตัว(142) และในทางของอัลลอฮ์(143) และผู้ที่อยู่ในระหว่างเดินทาง(144) ทั้งนี้เป็นบัญญัติอันจำเป็นซึ่งมาจากอัลลอฮ์และอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงรอบรู้ ผู้ทรงปรีชาญาณ

Comment: (137)หมายถึงทรัพย์สินส่วนซะกาต

Comment: (138)คือผู้ที่มีรายได้ไม่พอเลี้ยงครอบครัว

Comment: (139)คือผู้ที่ไม่มีรายได้อะไร และไม่มีเงินที่จะใช้จ่ายในการครองชีพ

Comment: (140)คือเจ้าหน้าที่ที่ได้รับแต่งตั้งให้ไปรวบรวมซะกาตทั้งนี้โดยแบ่งทรัพย์ซะกาตส่วนนั้นให้แก่พวกเขา

Comment: (141)คือผู้ที่อิสลามได้โน้มน้าวจิตใจของเขาให้แก่มุสลิมีน ในการให้ซะกาตส่วนหนึ่งแก่พวกเขานั้น ก็เพื่อจูงใจพวกเขาให้รับนับถืออิสลาม หรือไม่ก็เพื่อเป็นการยับยั้งพวกเขามิให้คิดร้ายต่อมุสลิมีน และเป็นกำลังป้องกันให้แก่มุสลิมอีกด้วย และยังหมายถึงผู้ที่รับนับถืออิสลามใหม่ๆ ด้วย ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งในการศรัทธาของเขา

Comment: (142)หมายถึงหนี้สินที่มิได้เกิดขึ้นจากการกระทำที่ฝ่าฝืนบัญญัติศาสนา

Comment: (143)หมายถึงจ่ายไปในการเตรียมกำลังเพื่อต่อสู้ฝ่ายศัตรูที่รุกราน และเพื่อป้องกันและเผยแพร่ซึ่งศาสนาของอัลลอฮ์ตลอดจนในทางอื่นๆ ที่เป็นวิถีทางของพระองค์

Comment: (144)คือที่ขาดค่าใช้จ่ายในระหว่างเดินทาง ทั้งนี้ย่อมเป็นการเดินทางที่ได้รับการเห็นชอบด้วยบัญญัติศาสนา

9:61

وَمِنْهُمُ ٱلَّذِينَ يُؤْذُونَ ٱلنَّبِىَّ وَيَقُولُونَ هُوَ أُذُنٌۭ ۚ قُلْ أُذُنُ خَيْرٍۢ لَّكُمْ يُؤْمِنُ بِٱللَّهِ وَيُؤْمِنُ لِلْمُؤْمِنِينَ وَرَحْمَةٌۭ لِّلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ مِنكُمْ ۚ وَٱلَّذِينَ يُؤْذُونَ رَسُولَ ٱللَّهِ لَهُمْ عَذَابٌ أَلِيمٌۭ

Translation: และในหมู่พวกเขานั้นมีบรรดาผู้ที่ก่อความเดือดร้อนแก่นบี โดยที่พวกเขากล่าวว่า เขาคือหู(145) จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า คือหูแห่งความดีสำหรับพวกท่าน(146) โดยที่ศรัทธาต่ออัลลอฮ์และเชื่อถือต่อผู้ศรัทธาทั้งหลาย(147) และเป็นการเอ็นดูเมตตา(148) แก่บรรดาผู้ศรัทธาในหมู่พวกท่านและบรรดาผู้ที่ก่อความเดือดร้อนแก่ร่อซูลของอัลลอฮ์(149) พวกเขาจะได้รับการลงโทษอันเจ็บปวด

Comment: (145)คือพวกเขาเปรียบท่านนบีว่าประหนึ่งท่านนั้นคือหู ทั้งนี้เป็นการประณามว่าท่านนั้นเป็นคนหูเบาได้ยินใครบอกใครเล่าเกี่ยวกับพฤติการณ์ของพวกเขาแล้วเชื่อทั้งสิ้นไม่ไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน ซึ่งเป็นการแก้ตัวอย่างหน้าด้านและเป็นกล่าวหาอันรุนแรงมาก

Comment: (146)คือทรงใช้ให้ท่านโต้ตอบไปว่าใช่เป็นหู แต่ที่เป็นหูที่รับฟังสิ่งดี ๆ จนพระเจ้ามาบอกเล่าให้แก่พวกเขาทราบในขณะเดียวกันก็ศรัทธาต่ออัลลอฮ์ด้วย

Comment: (147)คือเชื่อคำพูดของบรรดาผู้ที่เขาศรัทธาด้วยความจริงใจที่นำมาบอกเล่า

Comment: (148)คือช่วยให้ผู้ศรัทธาได้รับแนวทางดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง และมีความสุข ความราบรื่นในชีวิตความเป็นอยู่

Comment: (149)เช่นกล่าวหาว่าท่านคือหูเป็นต้น

9:62

يَحْلِفُونَ بِٱللَّهِ لَكُمْ لِيُرْضُوكُمْ وَٱللَّهُ وَرَسُولُهُۥٓ أَحَقُّ أَن يُرْضُوهُ إِن كَانُوا۟ مُؤْمِنِينَ

Translation: พวกเขาสาบาน(150) ด้วยอัลลอฮ์แก่พวกเจ้า เพื่อที่จะให้พวกเจ้าพอใจ และอัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์เป็นผู้สมควรยิ่งกว่าที่พวกเขาจะทำให้เขาพึงพอใจ(151) หากพวกเขาเป็นผู้ศรัทธา

Comment: (150)คืออ้างอัลลอฮ์มาสาบานเท็จแก่บรรดาผู้ศรัทธาว่า พวกเขามิได้กล่าวหาว่าร่อซูลลุลลอฮ์ ว่าคือหู

Comment: (151)หมายถึงให้ร่อซูลุลลอฮ์พึงพอใจ อนึ่งการให้ร่อซูลพึงพอใจแต่เพียงผู้เดียว ทั้งที่ในประโยคมีอัลลอฮ์ระบุอยู่ด้วยนั้นก็เพราะคือการให้ท่านนบียินดีก็เท่ากับใหัอัลลอฮ์ทรงยินดีเหมือนกัน เพราะท่านนบีเป็นตัวแทนของพระองค์

9:63

أَلَمْ يَعْلَمُوٓا۟ أَنَّهُۥ مَن يُحَادِدِ ٱللَّهَ وَرَسُولَهُۥ فَأَنَّ لَهُۥ نَارَ جَهَنَّمَ خَـٰلِدًۭا فِيهَا ۚ ذَٰلِكَ ٱلْخِزْىُ ٱلْعَظِيمُ

Translation: พวกเขามิได้รู้ดอกหรือว่า แท้จริงผู้ใดที่ฝ่าฝืนอัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์ แน่นอนสำหรับเขานั้นคือไฟนรกญะฮันนัมโดยที่เขาจะอยู่ในนั้นตลอดกาล นั่นแหละคือความอัปยศอันใหญ่หลวง

9:64

يَحْذَرُ ٱلْمُنَـٰفِقُونَ أَن تُنَزَّلَ عَلَيْهِمْ سُورَةٌۭ تُنَبِّئُهُم بِمَا فِى قُلُوبِهِمْ ۚ قُلِ ٱسْتَهْزِءُوٓا۟ إِنَّ ٱللَّهَ مُخْرِجٌۭ مَّا تَحْذَرُونَ

Translation: บรรดามุนาฟิก(152) นั้นหวั่นเกรงว่า จะมีซูเราะฮ์(153) หนึ่งถูกประทานลงมาแก่พวกเขา(154) ซึ่งแจ้งให้พวกเขาทราบสิ่งที่อยู่ในใจ(155) ของพวกเขา จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า พวกท่านจงเย้ยหยัน(156) กันเถิด แท้จริงอัลลอฮ์จะทรงให้ออกมาซึ่งสิ่ง(157) ที่พวกท่านหวั่นเกรง

Comment: (152)คือพวกที่กลับกลอกในการศรัทธา

Comment: (153)คือบทหนึ่งของอัลกุรอาน ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 114 บท

Comment: (154)หมายถึงบรรดาผู้ศรัทธา

Comment: (155)หมายถึงความกลับกลอกของพวกมุนาฟิก และการวางแผนต่อต้านของพวกเขา

Comment: (156)คือเย้ยหยันอัลลอฮ์ โองการของพระองค์และท่านนบีมุฮัมมัด

Comment: (157)คือกลับกลองของพวกเขา

9:65

وَلَئِن سَأَلْتَهُمْ لَيَقُولُنَّ إِنَّمَا كُنَّا نَخُوضُ وَنَلْعَبُ ۚ قُلْ أَبِٱللَّهِ وَءَايَـٰتِهِۦ وَرَسُولِهِۦ كُنتُمْ تَسْتَهْزِءُونَ

Translation: และถ้าหากเจ้าได้ถามพวกเขา(158) แน่นอนพวกเขาจะกล่าวว่า แท้จริงพวกเราเป็นเพียงแต่พูดสนุก พูดเล่น เท่านั้นจงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่า ต่ออัลลอฮ์และบรรดาโองการของพระองค์และร่อซูลของพระองค์กระนั้นหรือที่พวกท่านเย้ยหยันกัน ?

Comment: (158)เกี่ยวกับคำพูดของพวกเขาที่กล่าวดูถูกและเย้ยหยันท่านนบี

9:66

لَا تَعْتَذِرُوا۟ قَدْ كَفَرْتُم بَعْدَ إِيمَـٰنِكُمْ ۚ إِن نَّعْفُ عَن طَآئِفَةٍۢ مِّنكُمْ نُعَذِّبْ طَآئِفَةًۢ بِأَنَّهُمْ كَانُوا۟ مُجْرِمِينَ

Translation: พวกท่านอย่าแก้ตัวเลย แท้จริงพวกท่านได้ปฏิเสธศรัทธา(159) แล้ว หลังจากการมีศรัทธาของพวกท่าน หากเราจะอภัยโทษให้แก่กลุ่มหนึ่งในหมู่พวกเจ้า(160) เราก็จะลงโทษอีกกลุ่มหนึ่ง(161) เพราะว่าพวกเขาเป็นผู้กระทำความผิด

Comment: (159)คือเนื่องจากพวกเขาเย้ยหยันอัลลอฮ์ และโองการของพระองค์ และเย้ยหยันร่อซูลของพระองค์

Comment: (160)คือกลุ่มที่กลับเนื้อกลับตัวและขออภัยโทษ

Comment: (161)คือกลุ่มที่ดื้อรั้นอยู่ไม่ยอมกลับตัว หรือที่ตายไปโดยมิได้สำนึกผิด และกลับเนื้อกลับตัว

9:67

ٱلْمُنَـٰفِقُونَ وَٱلْمُنَـٰفِقَـٰتُ بَعْضُهُم مِّنۢ بَعْضٍۢ ۚ يَأْمُرُونَ بِٱلْمُنكَرِ وَيَنْهَوْنَ عَنِ ٱلْمَعْرُوفِ وَيَقْبِضُونَ أَيْدِيَهُمْ ۚ نَسُوا۟ ٱللَّهَ فَنَسِيَهُمْ ۗ إِنَّ ٱلْمُنَـٰفِقِينَ هُمُ ٱلْفَـٰسِقُونَ

Translation: บรรดามุนาฟิก(162) ชาย และบรรดามุนาฟิกหญิงนั้นบางส่วนของพวกเขาต่างมาจากอีกบางส่วน(163) ซึ่งพวกเขาจะใช้ให้ปฏิบัติในสิ่งที่ไม่ชอบและห้ามปรามในสิ่งที่ชอบและกำมือ(164) ของพวกเขาไว้ โดยที่พวกเขาลืมอัลลอฮ์แล้วพระองค์ก็ทรงลืมพวกเขา(165) บ้าง แท้จริงบรรดามุนาฟิก พวกเขาคือผู้ละเมิด

Comment: (162)คือพวกที่กลับกลอกในการศรัทธา

Comment: (163)คือสืบทอดอุปนิสัยและความประพฤติมาจากกันและกัน ในการนี้จึงทำให้พวกเขามีนิสัยอย่างเดียวกัน

Comment: (164)เป็นสำนวนที่บ่งถึงการตระหนี่ไม่ยอมจ่ายทรัพย์ในทางของอัลลอฮ์

Comment: (165)คือลืมอัลลอฮ์ ที่ทรงบังเกิดพวกเขา และมีความเมตตากรุณาต่อพวกเขา

9:68

وَعَدَ ٱللَّهُ ٱلْمُنَـٰفِقِينَ وَٱلْمُنَـٰفِقَـٰتِ وَٱلْكُفَّارَ نَارَ جَهَنَّمَ خَـٰلِدِينَ فِيهَا ۚ هِىَ حَسْبُهُمْ ۚ وَلَعَنَهُمُ ٱللَّهُ ۖ وَلَهُمْ عَذَابٌۭ مُّقِيمٌۭ

Translation: อัลลอฮ์ได้ทรงขู่ไว้แก่บรรดามุนาฟิกชาย และบรรดามุนาฟิกหญิง และผู้ปฏิเสธศรัทธาทั้งหลาย ซึ่งไฟนรกญะฮันนัมโดยที่พวกเขาจะอยู่ในนั้นตลอดกาล มันเป็นสิ่งที่พอเพียงแก่พวกเขาแล้ว และอัลลอฮ์ก็ได้ทรงให้พวกเขาห่างไกลจากความเอ็นดูเมตตาของพระองค์ และสำหรับพวกเขานั้นคือ การลงโทษอันจีรังยั่งยืน

9:69

كَٱلَّذِينَ مِن قَبْلِكُمْ كَانُوٓا۟ أَشَدَّ مِنكُمْ قُوَّةًۭ وَأَكْثَرَ أَمْوَٰلًۭا وَأَوْلَـٰدًۭا فَٱسْتَمْتَعُوا۟ بِخَلَـٰقِهِمْ فَٱسْتَمْتَعْتُم بِخَلَـٰقِكُمْ كَمَا ٱسْتَمْتَعَ ٱلَّذِينَ مِن قَبْلِكُم بِخَلَـٰقِهِمْ وَخُضْتُمْ كَٱلَّذِى خَاضُوٓا۟ ۚ أُو۟لَـٰٓئِكَ حَبِطَتْ أَعْمَـٰلُهُمْ فِى ٱلدُّنْيَا وَٱلْـَٔاخِرَةِ ۖ وَأُو۟لَـٰٓئِكَ هُمُ ٱلْخَـٰسِرُونَ

Translation: เช่นเดียวกับบรรดาผู้ที่ก่อนหน้าพวกเจ้า(166) ซึ่งพวกเขาเป็นพวกที่มีกำลังแข็งแรงกว่าพวกเจ้า และมีทรัพย์สมบัติและลูกๆ มากกว่าพวกเจ้า แล้วพวกเขาก็ได้หาความสำราญในสิ่งที่เป็นส่วนได้(167) ของพวกเขา พวกเจ้าก็ได้หาความสำราญในสิ่งที่เป็นส่วนได้ของพวกเจ้าเช่นเดียวกับบรรดาผู้ทีก่อนหน้าพวกเจ้าได้หาความสำราญในสิ่งที่เป็นส่วนได้ของพวกเขามาแล้ว และพวกเจ้าพูดกันในสิ่งไร้สาระ(168) เช่นเดียวกับพวกเขาพูดคุยกัน ชนเหล่านี้แหละ บรรดาการงานของพวกเขาไร้ผล ทั้งในโลกนี้และปรโลก และชนเหล่านี้แหละพวกเขาคือผู้ขาดทุน

Comment: (166)คือปล่อยพวกเขาให้เป็นไปตามความปรารถนาแห่งความใคร่ของพวกเขา โดยที่พวกเขาจะได้รับการตอบแทนตามผลกรรมที่พวกเขาได้ประกอบไว้

Comment: (167)คือพวกมุนาฟิกในอดีต

Comment: (168)คือสิ่งที่พวกเขาแสวงหามาได้จากปัจจัยยังชีพ ที่อัลลอฮ์ทรงให้มีในโลก

9:70

أَلَمْ يَأْتِهِمْ نَبَأُ ٱلَّذِينَ مِن قَبْلِهِمْ قَوْمِ نُوحٍۢ وَعَادٍۢ وَثَمُودَ وَقَوْمِ إِبْرَٰهِيمَ وَأَصْحَـٰبِ مَدْيَنَ وَٱلْمُؤْتَفِكَـٰتِ ۚ أَتَتْهُمْ رُسُلُهُم بِٱلْبَيِّنَـٰتِ ۖ فَمَا كَانَ ٱللَّهُ لِيَظْلِمَهُمْ وَلَـٰكِن كَانُوٓا۟ أَنفُسَهُمْ يَظْلِمُونَ

Translation: มิได้มายังพวกเขาดอกหรือ ซึ่งข่าวคราวของบรรดาผู้ก่อนหน้าพวกเขา คือกลุ่มชนของนูห์ และของอ๊าด และของษะมูด และกลุ่มชนของอิบรอฮีม และชาวมัดยัน(169) และชาวอัล-มุตะฟิกาต(170) โดยที่บรรดาร่อซูลของพวกเขาได้นำหลักฐานต่างๆ อันชัดแจ้งมายังพวกเขา(171) ใช่ว่าอัลลอฮ์จะอธรรมแก่พวกเขาก็หาไม่ แต่ทว่าพวกเขาอธรรมแก่ตัวของพวกเขาเองต่างหาก

Comment: (169)ซึ่งส่วนหนึ่งนั้นคือกล่าวคำเย้ยหยันนบีของพวกเขาและโองการของอัลลอฮ์

Comment: (170)คือประชาชนของนบีชูอัยบ์ ซึ่งเป็นชาวเมืองมัดยัน

Comment: (171)คือประชาชาติของนบีลูฏ ซึ่งเป็นชาวเมือง อัล-มุตะฟิกาต และเมืองนี้แหละถูกยกขึ้นแล้วพลิกคว่ำกระแทกลงยังที่เดิมจนพื้นที่นั้นยุบลงกลายเป็นทะเลสาป ซึ่งเป็นทราบกันในปัจจุบันนี้ว่า “เด็ซซี –ทะเลตาย” ทั้งนี้เนื่องจากการลงโทษของอัลลอฮ์ต่อชาวเมืองซึ่งประพฤติชั่ว

9:71

وَٱلْمُؤْمِنُونَ وَٱلْمُؤْمِنَـٰتُ بَعْضُهُمْ أَوْلِيَآءُ بَعْضٍۢ ۚ يَأْمُرُونَ بِٱلْمَعْرُوفِ وَيَنْهَوْنَ عَنِ ٱلْمُنكَرِ وَيُقِيمُونَ ٱلصَّلَوٰةَ وَيُؤْتُونَ ٱلزَّكَوٰةَ وَيُطِيعُونَ ٱللَّهَ وَرَسُولَهُۥٓ ۚ أُو۟لَـٰٓئِكَ سَيَرْحَمُهُمُ ٱللَّهُ ۗ إِنَّ ٱللَّهَ عَزِيزٌ حَكِيمٌۭ

Translation: และบรรดามุอ์มิน(172) ชาย และบรรดามุอ์มินหญิงนั้น บางส่วนของพวกเขาต่างเป็นผู้ช่วยเหลืออีกบางส่วน(173) ซึ่งพวกเขาจะใช้ให้ปฏิบัติในสิ่งที่ชอบและห้ามปรามในสิ่งที่ไม่ชอบ และพวกเขาจะดำรงไว้ซึ่งการละหมาดและจ่ายซะกาต และภักดีต่ออัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์ชนเหล่านี้แหละ อัลลอฮ์จะทรงเอ็นดูเมตตาแก่พวกเขา แท้จริงอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงเดชานุภาพ ผู้ทรงปรีชาญาณ

Comment: (172)คือผู้ที่ศรัทธาต่อนบีที่อัลลอฮ์ทรงส่งมา

Comment: (173)คือต่างเป็นผู้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

9:72

وَعَدَ ٱللَّهُ ٱلْمُؤْمِنِينَ وَٱلْمُؤْمِنَـٰتِ جَنَّـٰتٍۢ تَجْرِى مِن تَحْتِهَا ٱلْأَنْهَـٰرُ خَـٰلِدِينَ فِيهَا وَمَسَـٰكِنَ طَيِّبَةًۭ فِى جَنَّـٰتِ عَدْنٍۢ ۚ وَرِضْوَٰنٌۭ مِّنَ ٱللَّهِ أَكْبَرُ ۚ ذَٰلِكَ هُوَ ٱلْفَوْزُ ٱلْعَظِيمُ

Translation: อัลลอฮ์ได้ทรงสัญญาแก่บรรดามุอ์มินชายและบรรดามุอ์มินหญิง ซึ่งบรรดาสวนสวรรค์ ซึ่งมีแม่น้ำหลายสายไหลอยู่ภายใต้สวนสวรรค์เหล่านั้น โดยที่พวกเขาจะอยู่ในนั้นตลอดกาล และบรรดาสถานที่พำนัก(174) อันดีซึ่งอยู่ในบรรดาสวนสวรรค์แห่งความวัฒนาสถาพร และความปิติยินดี จากอัลลอฮ์นั้นใหญ่กว่า(175) นั่นคือ ชัยชนะอันใหญ่หลวง

Comment: (174)คือทรงสัญญาจะให้ที่พำนักอันดีแก่มุมินชายและหญิงอีกด้วย

Comment: (175)คือใหญ่กว่าสิ่งใดทั้งมวล

9:73

يَـٰٓأَيُّهَا ٱلنَّبِىُّ جَـٰهِدِ ٱلْكُفَّارَ وَٱلْمُنَـٰفِقِينَ وَٱغْلُظْ عَلَيْهِمْ ۚ وَمَأْوَىٰهُمْ جَهَنَّمُ ۖ وَبِئْسَ ٱلْمَصِيرُ

Translation: โอ้ นบี! จงต่อสู้บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาและบรรดาผู้กลับกลอกในการศรัทธา (มุนาฟิกีน) และจงเฉียบขาดแก่พวกเขาและที่อยู่ของพวกเขานั้นคือ นรกญะฮันนัม และที่กลับไป(176) ชั่วช้าจริง ๆ

Comment: (176)คือสถานที่ที่พวกเขากลับไป อันได้แก่ นรกญะฮันนัม ช่างเป็นที่ที่ชั่วร้ายจริง ๆ

9:74

يَحْلِفُونَ بِٱللَّهِ مَا قَالُوا۟ وَلَقَدْ قَالُوا۟ كَلِمَةَ ٱلْكُفْرِ وَكَفَرُوا۟ بَعْدَ إِسْلَـٰمِهِمْ وَهَمُّوا۟ بِمَا لَمْ يَنَالُوا۟ ۚ وَمَا نَقَمُوٓا۟ إِلَّآ أَنْ أَغْنَىٰهُمُ ٱللَّهُ وَرَسُولُهُۥ مِن فَضْلِهِۦ ۚ فَإِن يَتُوبُوا۟ يَكُ خَيْرًۭا لَّهُمْ ۖ وَإِن يَتَوَلَّوْا۟ يُعَذِّبْهُمُ ٱللَّهُ عَذَابًا أَلِيمًۭا فِى ٱلدُّنْيَا وَٱلْـَٔاخِرَةِ ۚ وَمَا لَهُمْ فِى ٱلْأَرْضِ مِن وَلِىٍّۢ وَلَا نَصِيرٍۢ

Translation: พวกเขาสาบานต่ออัลลอฮ์ว่า พวกเขามิได้พูดและแท้จริงนั้น พวกเขาได้พูดซึ่งถ้อยคำแห่งการปฏิเสธศรัทธา(177) และพวกเขาได้ปฏิเสธศรัทธาแล้ว หลังจากการเป็นมุสลิมของพวกเขาและพวกเขามุ่งกระทำในสิ่งที่พวกเขามิได้รับผล(178) และพวกเขามิได้ปฏิเสธ และจงเกลียดจงชัง(179) นอกจากว่า อัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์ได้ทรงให้พวกเขามั่งคั่งขึ้นจากความกรุณาของพระองค์(180) และหากพวกเขาสำนึกผิดกลับเนื้อกลับตัว ก็เป็นสิ่งดีแก่พวกเขา และหากพวกเขาผินหลังให้อัลลอฮ์ก็จะทรงลงโทษพวกเขาอย่างเจ็บแสบทั้งในโลกนี้และปรโลก และพวกเขาไม่มีผู้คุ้มครองและผู้ช่วยเหลือใด ๆ ในผืนแผ่นดิน

Comment: (177)คือถ้อยคำที่ทำให้เขาหมดสภาพการเป็นมุสลิม อันได้แก่ การกล่าวถากถางท่านนบีและศาสนาอิสลาม

Comment: (178)คือมุ่งลอบฆ่าท่านนบีในระหว่างทางบนยอดเขา ขณะที่ท่านเดินทางกลับจากสงครามตะบูกแต่ไม่สำเร็จ เพราะอัลลอฮ์ทรงแจ้งให้ท่านนบีทราบเสียก่อน

Comment: (179)คำว่า “นะเกาะมะ” นั้นมีความหมายหลายนัย แต่ในที่นี้มีความหมายว่า “ปฏิเสธ และจงเกลียดจงชัง” คือ ปฏิเสธและจงเกลียดจงชังท่านนบี

Comment: (180)เป็นสำนวนในเชิงประชดบรรดามุนาฟิกเหล่านั้น กล่าวคือแทนที่พวกเขาจะสำนึกในความกรุณาของอัลลอฮ์ และร่อซูลของพระองค์ที่ทำให้พวกเขามั่งคั่งขึ้นด้วยทรัพย์เชลยหลังจากได้เคยยากจนมา กลับทำให้พวกเขาเนรคุณยิ่งขึ้น

9:75

۞ وَمِنْهُم مَّنْ عَـٰهَدَ ٱللَّهَ لَئِنْ ءَاتَىٰنَا مِن فَضْلِهِۦ لَنَصَّدَّقَنَّ وَلَنَكُونَنَّ مِنَ ٱلصَّـٰلِحِينَ

Translation: และในหมู่พวกเขานั้นมีผู้ที่ได้สัญญาแก่อัลลอฮ์ว่า ถ้าหากพระองค์ได้ทรงประทานแก่พวกเรา ซึ่งส่วนหนึ่งจากความกรุณาของพระองค์แล้วไซร้ แน่นอนเหลือเกิน พวกเราจะบริจาคทานและแน่นอนพวกเราจะได้เป็นผู้อยู่ในหมู่คนดี

9:76

فَلَمَّآ ءَاتَىٰهُم مِّن فَضْلِهِۦ بَخِلُوا۟ بِهِۦ وَتَوَلَّوا۟ وَّهُم مُّعْرِضُونَ

Translation: ครั้นเมื่อพระองค์ได้ทรงประทานให้แก่พวกเขา ซึ่งส่วนหนึ่งจากความกรุณาของพระองค์ พวกเขาก็ตระหนี่ในส่วนนั้น และได้ผินหลังให้ โดยที่พวกเขาเป็นผู้ผินหลังให้อยู่แล้ว(181)

Comment: (181)คือเนื่องจากพวกเขามีอุปนิสัยเป็นผินหลังให้อยู่แล้ว พวกเขาจึงกล่าฝ่าฝืนคำมั่นสัญญาที่ได้กระทำไว้ แม้แต่สัญญาที่ได้กระทำไว้แก่อัลลอฮ์

9:77

فَأَعْقَبَهُمْ نِفَاقًۭا فِى قُلُوبِهِمْ إِلَىٰ يَوْمِ يَلْقَوْنَهُۥ بِمَآ أَخْلَفُوا۟ ٱللَّهَ مَا وَعَدُوهُ وَبِمَا كَانُوا۟ يَكْذِبُونَ

Translation: แล้วพระองค์ก็ทรงให้การกลับกลอกในหัวใจของพวกเขาเป็นผลลัพธ์(182) แก่พวกเขา จนกระทั่งถึงวันที่พวกเขาจะพบพระองค์ เนื่องจากการที่พวกเขาบิดพริ้วต่ออัลลอฮ์ในสิ่งที่พวกเขาให้สัญญาไว้แก่พระองค์ และเนื่องจากการที่พวกเขาปฏิเสธ(183)

Comment: (182)คือเป็นผลลัพธ์แห่งการงานของพวกเขา

Comment: (183)คือปฏิเสธสัญญาที่ให้ไว้แก่ อัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา

9:78

أَلَمْ يَعْلَمُوٓا۟ أَنَّ ٱللَّهَ يَعْلَمُ سِرَّهُمْ وَنَجْوَىٰهُمْ وَأَنَّ ٱللَّهَ عَلَّـٰمُ ٱلْغُيُوبِ

Translation: พวกเขามิได้รู้ดอกหรือว่า แท้จริงอัลลอฮ์นั้นทรงรู้ความเร้นลับของพวกเขา และการพูดซุบซิบของพวกเขา และแท้จริงอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงรอบรู้ในซึ่งสิ่งเร้นลับทั้งหลาย

9:79

ٱلَّذِينَ يَلْمِزُونَ ٱلْمُطَّوِّعِينَ مِنَ ٱلْمُؤْمِنِينَ فِى ٱلصَّدَقَـٰتِ وَٱلَّذِينَ لَا يَجِدُونَ إِلَّا جُهْدَهُمْ فَيَسْخَرُونَ مِنْهُمْ ۙ سَخِرَ ٱللَّهُ مِنْهُمْ وَلَهُمْ عَذَابٌ أَلِيمٌ

Translation: พวกที่ตำหนิ(184) บรรดาผู้ที่สมัครใจจากหมู่ผู้ศรัทธาในการบริจาคทาน(185) และตำหนิผู้ที่ไม่พบสิ่งใด (จะบริจาค)นอกจากค่าแรงงานอันเล็กน้อยของพวกเขา แล้วเย้ยหยันพวกเขา(186) นั้น อัลลอฮ์ได้ทรงเย้ยหยันพวกเขา(187) แล้ว และสำหรับพวกเขานั้น คือการลงโทษอันเจ็บแสบ

Comment: (184)คือพวกมุนาฟิก

Comment: (185)คือตำหนิว่าบริจาคทานเพื่อโอ้อวด ทั้ง ๆที่พวกเขาบริจาคด้วยความบริสุทธิ์ใจ และในการที่พวกเขาตำหนินั้นก็ใช่อะไรอื่น นอกจากความอิจฉาริษยาที่พวกตนไม่สามารถจะกระทำได้เพราะความตระหนี่

Comment: (186)คือพวกบริจาค

Comment: (187)คืออัลลอฮ์ได้ทรงตอบแทนการเย้ยหยันของพวกเขาแล้ว โดยให้พวกเขาเป็นผู้อัปยศ

9:80

ٱسْتَغْفِرْ لَهُمْ أَوْ لَا تَسْتَغْفِرْ لَهُمْ إِن تَسْتَغْفِرْ لَهُمْ سَبْعِينَ مَرَّةًۭ فَلَن يَغْفِرَ ٱللَّهُ لَهُمْ ۚ ذَٰلِكَ بِأَنَّهُمْ كَفَرُوا۟ بِٱللَّهِ وَرَسُولِهِۦ ۗ وَٱللَّهُ لَا يَهْدِى ٱلْقَوْمَ ٱلْفَـٰسِقِينَ

Translation: เจ้าจงขออภัยโทษให้แก่พวกเขา(188) หรือไม่ก็จงอย่าขออภัยโทษให้แก่พวกเขา(189) หากเจ้าขออภัยให้แก่พวกเขาเจ็ดสิบครั้ง(190) อัลลอฮ์ก็จะไม่ทรงอภัยให้แก่พวกเขาเป็นอันขาด นั่นก็เพราะว่าพวกเขาได้ปฏิเสธศรัทธาต่ออัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์ และอัลลอฮ์จะไม่ทรงแนะนำกลุ่มชนที่ละเมิด

Comment: (188)คือถ้าเจ้าปรารถนาจะขออภัยโทษให้แก่พวกเขา ก็จงขอเถิด แต่ก็หาได้รับประโยชน์อันใดไม่

Comment: (189)คือถ้าเจ้าไม่ปรารถนาก็จงอย่าขอให้เลย เพราะการขออภัยโทษให้หรือไม่นั้นย่อมได้ผลเท่ากัน คือพวกเขาไม่ได้รับการอภัยโทษ

Comment: (190)หมายถึงจำนวนมากมายกล่าวคือ หากท่านนบีจะขออภัยโทษพวกมุนาฟิกมากสักเท่าไรก็ตาม อัลลอฮ์จะไม่ทรงรับ อนึ่งหมายเลขเจ็ด หรือเจ็ดสิบนั้น เป็นหมายเลขที่แสดงจำนวนมาก

9:81

فَرِحَ ٱلْمُخَلَّفُونَ بِمَقْعَدِهِمْ خِلَـٰفَ رَسُولِ ٱللَّهِ وَكَرِهُوٓا۟ أَن يُجَـٰهِدُوا۟ بِأَمْوَٰلِهِمْ وَأَنفُسِهِمْ فِى سَبِيلِ ٱللَّهِ وَقَالُوا۟ لَا تَنفِرُوا۟ فِى ٱلْحَرِّ ۗ قُلْ نَارُ جَهَنَّمَ أَشَدُّ حَرًّۭا ۚ لَّوْ كَانُوا۟ يَفْقَهُونَ

Translation: บรรรดาผู้ที่ถูกปล่อยให้อยู่เบื้องหลัง(191) นั้นดีใจในการที่พวกเขานั่งอยู่เบื้องหลัง(192) ของร่อซูลุลลอฮ์ และพวกเขาเกลียดในการที่พวกเขาจะต่อสู้ด้วยทรัพย์ของพวกเขา และชีวิตของพวกเขาในทางของอัลลอฮ์และพวกเขากล่าวว่า(193) ท่านทั้งหลายอย่าออกไปในความร้อนเลย จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่า ไฟนรกญะฮัมนัมนั้นร้อนแรงยิ่งกว่า(194) หากพวกเขาเข้าใจ

Comment: (191)คือมุนาฟิกกลุ่มหนึ่งถูกปล่อยไว้ให้อยู่ที่มะดีนะฮ์ เนื่องจากพวกเขาไม่ยอมออกไปยังตะบูก เพื่อทำสงครามต่อต้านศัตรูโดยอ้างเหตุผลต่าง ๆ บังหน้า

Comment: (192)คือดีใจที่พวกเขามิได้ออกไปทำสงครามตะบูก เพราะนอกจากอากาศจะร้อนแล้ว ยังต้องเสี่ยงกับการเสียชีวิตด้วย คำว่า “เบื้องหลังของร่อซูล” นั้นหมายถึงนั่งอยู่ในบ้านโดยมิได้ออกไปกับร่อซูล

Comment: (193)คือกล่าวแก่พวกมุนาฟิกด้วยกัน

Comment: (194)หมายความว่า ถ้าทนความร้อนในโลกนี้ไม่ไหว ไฉนพวกเขาจึงทนไฟนรกได้ ทั้ง ๆที่ไฟนรกร้อนกว่าหลายพันหลายหมื่นเท่า

9:82

فَلْيَضْحَكُوا۟ قَلِيلًۭا وَلْيَبْكُوا۟ كَثِيرًۭا جَزَآءًۢ بِمَا كَانُوا۟ يَكْسِبُونَ

Translation: พวกเขาหัวเราะแต่น้อย และจงร้องไห้มากๆ เถิด(195) ทั้งนี้เป็นการตอบแทนตามที่พวกเขาขวนขวาย(196) ไว้

Comment: (195)คือเมื่อพิจารณาถึงความผิดของพวกเขาที่จะได้รับการลงโทษแล้ว ก็สมควรแก่พวกเขาที่จะหัวเราะแต่น้อย และร้องไห้มาก ๆ ทั้งนี้เป็นการเสียใจในการกระทำของตน

Comment: (196)กล่าวคือที่ที่พวกเขาจะถูกลงโทษนั้นก็มิใช่อื่นใด เป็นเพียงการตอบแทนตามที่พวกเขากระทำเท่านั้น

9:83

فَإِن رَّجَعَكَ ٱللَّهُ إِلَىٰ طَآئِفَةٍۢ مِّنْهُمْ فَٱسْتَـْٔذَنُوكَ لِلْخُرُوجِ فَقُل لَّن تَخْرُجُوا۟ مَعِىَ أَبَدًۭا وَلَن تُقَـٰتِلُوا۟ مَعِىَ عَدُوًّا ۖ إِنَّكُمْ رَضِيتُم بِٱلْقُعُودِ أَوَّلَ مَرَّةٍۢ فَٱقْعُدُوا۟ مَعَ ٱلْخَـٰلِفِينَ

Translation: หากอัลลอฮ์ทรงให้เจ้ากลับไปยังกลุ่มหนึ่งในหมู่พวกเขา(197) แล้วพวกเขาจะขออนุมัติเจ้าเพื่อออกไป(198) ก็จงกล่าวเถิดว่า พวกท่านจะไม่ออกไปกับฉันตลอดกาล และจะไม่ต่อสู้ร่วมกับฉันซึ่งศัตรูใดๆ เป็นอันขาด แท้จริงพวกท่านพอใจต่อการนั่งอยู่แต่ครั้งแรกแล้ว ดังนั้น จงนั่งอยู่กับบรรดาผู้ที่อยู่เบื้องหลัง(199) ต่อไปเถิด

Comment: (197)คือให้หมู่ผู้ที่หลีกเลี่ยงไม่ยอมออกไปทำสงครามตะบู๊ก

Comment: (198)คืออกไปทำการต่อสู้ร่วมกับท่านนบีครั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้น

Comment: (199)คือบรรดาผู้ที่หลีกเลี่ยงไม่ยอมออกไปทำสงคราม

9:84

وَلَا تُصَلِّ عَلَىٰٓ أَحَدٍۢ مِّنْهُم مَّاتَ أَبَدًۭا وَلَا تَقُمْ عَلَىٰ قَبْرِهِۦٓ ۖ إِنَّهُمْ كَفَرُوا۟ بِٱللَّهِ وَرَسُولِهِۦ وَمَاتُوا۟ وَهُمْ فَـٰسِقُونَ

Translation: และเจ้า(200) จงอย่าละหมาดให้แก่คนใดในหมู่พวกเขาที่ตายไปเป็นอันขาด และจงอย่ายืนที่หลุมศพของเขาด้วย แท้จริงพวกเขานั้นได้ปฏิเสธศรัทธาต่ออัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์ และพวกเขาได้ตายลง ขณะที่พวกเขาเป็นผู้ละเมิด

Comment: (200)หมายถึงท่านนบี

9:85

وَلَا تُعْجِبْكَ أَمْوَٰلُهُمْ وَأَوْلَـٰدُهُمْ ۚ إِنَّمَا يُرِيدُ ٱللَّهُ أَن يُعَذِّبَهُم بِهَا فِى ٱلدُّنْيَا وَتَزْهَقَ أَنفُسُهُمْ وَهُمْ كَـٰفِرُونَ

Translation: และจงอย่าให้ทรัพย์สมบัติของพวกเขาและลูกๆ ของพวกเขา เป็นที่พึงใจแก่เจ้า แท้จริงอัลลอฮ์ทรงต้องการที่จะลงโทษพวกเขาด้วยสิ่งเหล่านั้นในโลกนี้ และที่จะให้ชีวิตของพวกเขาออกจากร่างไป ขณะที่พวกเขาเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาเท่านั้น(201)

Comment: (201)กล่าวคือการที่พวกเขามีทรัพย์และมีลูก ๆ มากมายนั้นทำให้พวกเขาเข้าใจผิดว่า ที่พวกเขากระทำอยู่นั้นถูกต้องแล้ว พวกเขาจึงไม่คิดที่จะแก้ไขและพิจารณาตัวเอง ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงคงอยู่ในสภาพผู้ปฏิเสธศรัทธาต่อไปและเมื่อพวกเขาตายพวกเขาก็ย่อมตายในสภาพผู้ปฏิเสธศรัทธา และเมื่อนั้นแหละพวกเขาจะได้รับการลงโทษอย่างสาสมกับความดื้อรั้นของพวกเขา

9:86

وَإِذَآ أُنزِلَتْ سُورَةٌ أَنْ ءَامِنُوا۟ بِٱللَّهِ وَجَـٰهِدُوا۟ مَعَ رَسُولِهِ ٱسْتَـْٔذَنَكَ أُو۟لُوا۟ ٱلطَّوْلِ مِنْهُمْ وَقَالُوا۟ ذَرْنَا نَكُن مَّعَ ٱلْقَـٰعِدِينَ

Translation: และเมื่อมีซูเราะฮ์หนึ่งซูเราะฮ์ใด(202) ถูกประทานลงมาว่า พวกเขาจงศรัทธาต่ออัลลอฮ์เถิด และจงต่อสู้ด้วยทรัพย์สมบัติและชีวิต ร่วมกับร่อซุลของพระองค์ ผู้ที่มั่งคั่งในหมู่พวกเขา ก็ขออนุญาตต่อเจ้า(203) และกล่าวว่า จงปล่อยพวกเราไว้เถิด พวกเราจะได้อยู่กับบรรดาผู้ที่นั่งอยู่(204) กัน

Comment: (202)คือบทหนึ่งบทใดจากอัล-กรุอาน

Comment: (203)คือขออนุญาตที่จะไม่ต่อสู้ร่วมกับร่อซูลุลลอฮ์ และไม่เสียสละทรัพย์สมบัติ

Comment: (204)หมายถึงบรรดาเด็ก ๆ ผู้หญิง และคนชราซึ่งถูกทิ้งไว้ให้อยู่เบื้องหลัง

9:87

رَضُوا۟ بِأَن يَكُونُوا۟ مَعَ ٱلْخَوَالِفِ وَطُبِعَ عَلَىٰ قُلُوبِهِمْ فَهُمْ لَا يَفْقَهُونَ

Translation: พวกเขายินดีในการที่พวกเขาจะอยู่กับบรรดาผู้ที่อยู่เบื้องหลัง(205) และได้ถูกประทับตราไว้แล้วบนหัวใจของพวกเขา(206) แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เข้าใจ

Comment: (205)หมายถึงพวกเด็ก ๆ ผู้หญิงและคนชรา ซึ่งถูกทิ้งไว้ให้อยู่เบื้องหลัง

Comment: (206)กล่าวคือ บุคคลดังกล่าวประหนึ่งถูกประทับตราบนหัวใจของพวกเขาแล้วโดยที่ไม่มีสิ่งใดสามารถเข้าสู่หัวใจของพวกเขาได้ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่เข้าใจอะไรได้

9:88

لَـٰكِنِ ٱلرَّسُولُ وَٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ مَعَهُۥ جَـٰهَدُوا۟ بِأَمْوَٰلِهِمْ وَأَنفُسِهِمْ ۚ وَأُو۟لَـٰٓئِكَ لَهُمُ ٱلْخَيْرَٰتُ ۖ وَأُو۟لَـٰٓئِكَ هُمُ ٱلْمُفْلِحُونَ

Translation: แต่ทว่าร่อซูล และบรรดาผู้ที่ศรัทธาซึ่งร่วมอยู่กับท่านนั้น ได้ต่อสู้ด้วยทรัพย์สมบัติของพวกเขา และชีวิตของพวกเขา ชนเหล่านี้แหละสำหรับพวกเขานั้นจะได้รับความดีมากมาย และชนเหล่านี้แหละคือผู้ที่ได้รับความสำเร็จ

9:89

أَعَدَّ ٱللَّهُ لَهُمْ جَنَّـٰتٍۢ تَجْرِى مِن تَحْتِهَا ٱلْأَنْهَـٰرُ خَـٰلِدِينَ فِيهَا ۚ ذَٰلِكَ ٱلْفَوْزُ ٱلْعَظِيمُ

Translation: อัลลอฮ์ได้ทรงเตรียมไว้แล้ว สำหรับพวกเขา ซึ่งบรรดาสวนสวรรค์ ที่มีแม่น้ำหลายสายไหลอยู่ภายใต้(207) สวนสวรรค์เหล่านั้น โดยที่พวกเขาจะพำนักอยู่ในนั้นตลอดกาล นั่นแหละคือชัยชนะอันใหญ่หลวง

Comment: (207)คำว่า “อยู่ภายใต้” นั้นมิได้หมายความว่า “อยู่ใต้ดิน” หากแต่อยู่บนพื้นดินนั้นเอง เพราะคำว่า “สวนสวรรค์” นั้นคือสถานที่ที่มีต้นไม้ ดังนั้น แม่น้ำที่ไหลอยู่ภายใต้สวนสวรรค์ จึงหมายถึง แม่น้ำที่อยู่บนพื้นดินใต้ต้นไม้ในสวนสวรรค์นั้น

9:90

وَجَآءَ ٱلْمُعَذِّرُونَ مِنَ ٱلْأَعْرَابِ لِيُؤْذَنَ لَهُمْ وَقَعَدَ ٱلَّذِينَ كَذَبُوا۟ ٱللَّهَ وَرَسُولَهُۥ ۚ سَيُصِيبُ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ مِنْهُمْ عَذَابٌ أَلِيمٌۭ

Translation: และบรรดาผู้ที่แก้ตัว(208) ในหมู่อาหรับชนบทเหล่านั้นได้มา(209) เพื่อจะได้ถูกอนุมัติให้แก่พวกเขา(210) และบรรดาผู้ที่ปฏิเสธ(211) อัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์นั้นได้นั่งกันอยู่(212) การลงโทษอันเจ็บแสบจะประทานแก่บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาในหมู่พวกเขา

Comment: (208)คือพวกมุนาฟิกที่อ้างตนว่ามีอุปสรรคไม่สามารถจะออกไปสู้รบได้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในหมู่อาหรับชาวชนบท

Comment: (209)คือมาหาท่านบี

Comment: (210)คือเพื่อจะได้รับอนุมัติจากท่านนบีให้อยู่บ้านโดยไม่ต้องออกไปสู้รบ

Comment: (211)คือไม่เชื่อฟังอัลลอฮ์

Comment: (212)คือพวกมุนาฟิกชาวชนบทอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งไม่ยอมออกไปสู้รบ โดยนั่งอยู่ที่บ้านเฉย ๆ และมิได้มาหาท่านนบีเพื่อแก้ตัวอย่างพวกแรกซึ่งก็ถือว่าเป็นพวกปฏิเสธอัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์ด้วย

9:91

لَّيْسَ عَلَى ٱلضُّعَفَآءِ وَلَا عَلَى ٱلْمَرْضَىٰ وَلَا عَلَى ٱلَّذِينَ لَا يَجِدُونَ مَا يُنفِقُونَ حَرَجٌ إِذَا نَصَحُوا۟ لِلَّهِ وَرَسُولِهِۦ ۚ مَا عَلَى ٱلْمُحْسِنِينَ مِن سَبِيلٍۢ ۚ وَٱللَّهُ غَفُورٌۭ رَّحِيمٌۭ

Translation: ไม่มีบาปใด ๆ แก่บรรดาผู้ที่อ่อนแอ และแก่ผู้ที่ป่วยไข้ และแก่บรรดาผู้ที่ไม่พบสิ่งที่จะบริจาค เมื่อพวกเขาได้แนะนำตักเตือนให้จงรักภักดีต่ออัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์ ไม่มีทางใดที่จะกล่าวโทษแก่บรรดาผู้กระทำดีได้(213) และอัลลอฮ์คือผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเอ็นดูเมตตา

Comment: (213)หมายถึงบรรดาผู้ยากจนที่ไม่มีเงินและบริจาคเพื่อเป็นกำลังในการสู้รบและทำหน้าที่แนะนำตักเตือนให้ผู้คนจงรักภักดีต่ออัลลอฮ์และร่อซูล และก็หมายถึงคนทำดีโดยทั่ว ๆ ไปด้วย

9:92

وَلَا عَلَى ٱلَّذِينَ إِذَا مَآ أَتَوْكَ لِتَحْمِلَهُمْ قُلْتَ لَآ أَجِدُ مَآ أَحْمِلُكُمْ عَلَيْهِ تَوَلَّوا۟ وَّأَعْيُنُهُمْ تَفِيضُ مِنَ ٱلدَّمْعِ حَزَنًا أَلَّا يَجِدُوا۟ مَا يُنفِقُونَ

Translation: และไม่มีบาปใดๆ แก่บรรดาผู้ที่เมื่อพวกเขามาหาเจ้าเพื่อให้เจ้าจัดให้พวกเขาขี่(214) เจ้าได้กล่าวว่า ฉันไม่พบพาหนะที่จะให้พวกท่านขี่บนมันได้ พวกเขาก็ผินหลังกลับโดยที่นัยน์ตาของพวกเขาท่วมท้วนไปด้วยน้ำตา เพราะเสียใจที่พวกเขาไม่พบสิ่งที่พวกเขาจะบริจาค

Comment: (214)คือจัดพาหนะให้พวกเขาขี่เพื่อไปทำการรบ

9:93

۞ إِنَّمَا ٱلسَّبِيلُ عَلَى ٱلَّذِينَ يَسْتَـْٔذِنُونَكَ وَهُمْ أَغْنِيَآءُ ۚ رَضُوا۟ بِأَن يَكُونُوا۟ مَعَ ٱلْخَوَالِفِ وَطَبَعَ ٱللَّهُ عَلَىٰ قُلُوبِهِمْ فَهُمْ لَا يَعْلَمُونَ

Translation: แท้จริงทางที่จะกล่าวโทษได้นั้น ก็เพียงแต่บรรดาผู้ที่อนุญาตต่อเจ้า(215) ทั้ง ๆ ที่พวกเขาเป็นผู้มั่งมี ซึ่งยินดีที่จะอยู่ร่วมกับบรรดาผู้ที่อยู่เบื้องหลัง และอัลลอฮ์ได้ทรงประทับตราบนหัวใจของพวกเขาแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้อะไร

Comment: (215)คือขออนุญาตที่จะไปออกรบ และไม่บริจาคทั้งๆ ที่พวกเขามีความมั่งคั่ง

9:94

يَعْتَذِرُونَ إِلَيْكُمْ إِذَا رَجَعْتُمْ إِلَيْهِمْ ۚ قُل لَّا تَعْتَذِرُوا۟ لَن نُّؤْمِنَ لَكُمْ قَدْ نَبَّأَنَا ٱللَّهُ مِنْ أَخْبَارِكُمْ ۚ وَسَيَرَى ٱللَّهُ عَمَلَكُمْ وَرَسُولُهُۥ ثُمَّ تُرَدُّونَ إِلَىٰ عَـٰلِمِ ٱلْغَيْبِ وَٱلشَّهَـٰدَةِ فَيُنَبِّئُكُم بِمَا كُنتُمْ تَعْمَلُونَ

Translation: พวกเขา(ที่ไม่ออกไปสงครามตะบู๊ก)จะแก้ตัวแก่พวกท่าน เมื่อพวกท่านกลับมายังพวกเขา จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่าพวกท่านอย่าแก้ตัวเลยเราจะไม่เชื่อพวกท่านดอก แท้จริงอัลลอฮ์ทรงแจ้งข่าวคราวของพวกท่านแก่เราแล้ว และอัลลอฮ์ทรงเห็นการกระทำของพวกท่าน และร่อซูลของพระองค์ก็เห็นด้วย แล้วพวกท่านก็จะถูกนำกลับไปยังพระผู้ทรงรอบรู้แห่งสิ่งเร้นลับและสิ่งเปิดเผย แล้วพระองค์ก็จะทรงแจ้งแก่พวกท่านให้รู้ถึงสิ่งที่พวกท่านกระทำ

9:95

سَيَحْلِفُونَ بِٱللَّهِ لَكُمْ إِذَا ٱنقَلَبْتُمْ إِلَيْهِمْ لِتُعْرِضُوا۟ عَنْهُمْ ۖ فَأَعْرِضُوا۟ عَنْهُمْ ۖ إِنَّهُمْ رِجْسٌۭ ۖ وَمَأْوَىٰهُمْ جَهَنَّمُ جَزَآءًۢ بِمَا كَانُوا۟ يَكْسِبُونَ

Translation: พวกเขาจะสาบานต่ออัลลอฮ์แก่พวกท่าน เมื่อพวกท่านได้กลับมายังพวกเขา เพื่อให้พวกท่านยกโทษให้พวกเขา ดังนั้น พวกท่านจงผินหลังให้พวกเขาเถิด แท้จริง พวกเขานั้นชั่วร้าย และที่พำนักของพวกเขาคือนรก ทั้งนี้เป็นการตอบแทนในสิ่งที่พวกเขาขวนขวายไว้

9:96

يَحْلِفُونَ لَكُمْ لِتَرْضَوْا۟ عَنْهُمْ ۖ فَإِن تَرْضَوْا۟ عَنْهُمْ فَإِنَّ ٱللَّهَ لَا يَرْضَىٰ عَنِ ٱلْقَوْمِ ٱلْفَـٰسِقِينَ

Translation: พวกเขาจะสาบานแก่พวกท่าน เพื่อให้พวกท่านพอใจต่อพวกเขา แล้วหากพวกท่านพอใจต่อพวกเขา แท้จริง อัลลอฮ์นั้นจะไม่ทรงพอพระทัยต่อกลุ่มชนที่ละเมิดฝ่าฝืน

9:97

ٱلْأَعْرَابُ أَشَدُّ كُفْرًۭا وَنِفَاقًۭا وَأَجْدَرُ أَلَّا يَعْلَمُوا۟ حُدُودَ مَآ أَنزَلَ ٱللَّهُ عَلَىٰ رَسُولِهِۦ ۗ وَٱللَّهُ عَلِيمٌ حَكِيمٌۭ

Translation: บรรดาอาหรับชนบทเป็นพวกปฏิเสธศรัทธา และพวกกลับกลอกที่ร้ายกาจที่สุด และเป็นการสมควรยิ่งแล้ว ที่พวกเขาจะไม่รู้ขอบเขตในสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงประทานให้แก่ร่อซูลของพระองค์ และอัลลออ์นั้นเป็นผู้ทรงรอบรู้ ผู้ทรงปรีชาญาณ

9:98

وَمِنَ ٱلْأَعْرَابِ مَن يَتَّخِذُ مَا يُنفِقُ مَغْرَمًۭا وَيَتَرَبَّصُ بِكُمُ ٱلدَّوَآئِرَ ۚ عَلَيْهِمْ دَآئِرَةُ ٱلسَّوْءِ ۗ وَٱللَّهُ سَمِيعٌ عَلِيمٌۭ

Translation: และในหมู่อาหรับชนบทนั้น มีผู้ถือเอาสิ่งที่ตนบริจาคไปเป็นค่าปรับ และถือว่าเป็นการขาดทุนและพวกเขารอคอยเหตุร้ายที่จะเกิดแก่พวกท่าน เหตุร้ายเหล่านั้นจงประสบแก่พวกเขาเขาเถิด และอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงได้ยินทรงรอบรู้

9:99

وَمِنَ ٱلْأَعْرَابِ مَن يُؤْمِنُ بِٱللَّهِ وَٱلْيَوْمِ ٱلْـَٔاخِرِ وَيَتَّخِذُ مَا يُنفِقُ قُرُبَـٰتٍ عِندَ ٱللَّهِ وَصَلَوَٰتِ ٱلرَّسُولِ ۚ أَلَآ إِنَّهَا قُرْبَةٌۭ لَّهُمْ ۚ سَيُدْخِلُهُمُ ٱللَّهُ فِى رَحْمَتِهِۦٓ ۗ إِنَّ ٱللَّهَ غَفُورٌۭ رَّحِيمٌۭ

Translation: และในหมู่อาหรับชนบทนั้น มีผู้ศรัทธาต่ออัลลอฮ์และวันอาคิเราะฮ์ และถือเอาสิ่งที่ตนบริจาคไปนั้นเป็นการใกล้ชิดกับอัลลอฮ์และเป็นการขอพรของร่อซูล พึงรู้เถิดว่า แท้จริงมันเป็นการทำให้ใกล้ชิดแก่พวกเขา อัลลอฮ์จะทรงให้พวกเขาอยู่ในความเอ็นดูเมตตาของพระองค์ แท้จริงอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงอภัยโทษ ทรงเอ็นดูเมตตาเสมอ

9:100

وَٱلسَّـٰبِقُونَ ٱلْأَوَّلُونَ مِنَ ٱلْمُهَـٰجِرِينَ وَٱلْأَنصَارِ وَٱلَّذِينَ ٱتَّبَعُوهُم بِإِحْسَـٰنٍۢ رَّضِىَ ٱللَّهُ عَنْهُمْ وَرَضُوا۟ عَنْهُ وَأَعَدَّ لَهُمْ جَنَّـٰتٍۢ تَجْرِى تَحْتَهَا ٱلْأَنْهَـٰرُ خَـٰلِدِينَ فِيهَآ أَبَدًۭا ۚ ذَٰلِكَ ٱلْفَوْزُ ٱلْعَظِيمُ

Translation: บรรดาบรรพชนรุ่นแรกในหมู่ผู้อพยพ(ชาวมุฮาญิรีนจากมักกะฮ์) และในหมู่ผู้ให้ความช่วยเหลือ(ชาวอันศัอรจากมะดีนะฮ์)(216) และบรรดาผู้ดำเนินตามพวกเขาด้วยการทำดี อัลลอฮ์ทรงพอพระทัยในพวกเขา และพวกเขาก็พอใจในพระองค์ด้วย และพระองค์ทรงเตรียมไว้ให้พวกเขาแล้ว ซึ่งบรรดาสวนสวรรค์ที่มีแม่น้ำหลายสายไหลผ่านอยู่เบื้องล่าง พวกเขาจะพำนักอยู่ในนั้นตลอดกาล นั่นคือชัยชนะอันใหญ่หลวง

Comment: (216)มีรายงานจากอัชชะอ์บียว่า บรรดาบรรพชนรุ่นแรกในหมู่พวกมุฮาญิรีนและพวกอันศอรนั้นคือ บรรดาผู้ที่ทำสัตยาบัน บัยอะฮ์อัรริฎวาน และกล่าวกันอีกว่าคือบรรดาผู้ที่ทำละหมาดโดยหันไปสู่สองกิบลัตที่กล่าวมานี้ บรรดาศอฮาบะฮ์ทั้งหมดหมายถึงบรรดาบรรพชนรุ่นแรก ที่อพยพจากนครมักกะฮ์ไปสู่นครมะดีนะฮ์ และบรรดาผู้ที่ทำให้ความช่วยเหลือที่เป็นชาวมะดีนะฮ์ อัสสลัฟ = หมายถึงบรรพชนในช่วง 3 ศตวรรษแรกของฮิจเราะฮ์ศักราช

9:101

وَمِمَّنْ حَوْلَكُم مِّنَ ٱلْأَعْرَابِ مُنَـٰفِقُونَ ۖ وَمِنْ أَهْلِ ٱلْمَدِينَةِ ۖ مَرَدُوا۟ عَلَى ٱلنِّفَاقِ لَا تَعْلَمُهُمْ ۖ نَحْنُ نَعْلَمُهُمْ ۚ سَنُعَذِّبُهُم مَّرَّتَيْنِ ثُمَّ يُرَدُّونَ إِلَىٰ عَذَابٍ عَظِيمٍۢ

Translation: และส่วนหนึ่งจากผู้ที่พำนักอยู่รอบๆ พวกเจ้าที่เป็นอาหรับชนบทนั้น เป็นพวกกลับกลอก และในหมู่ชาวมะดีนะฮ์ก็เช่นเดียวกัน พวกเขาเหล่านั้นดื้อรั้นในการกลับกลอก เจ้า(มุฮัมมัด) ไม่รู้จักธาตุแท้ของพวกเขาดอก เรา(อัลลอฮ์) รู้จักพวกเขาดี เราจะลงโทษพวกเขาสองครั้ง(217) แล้วพวกเขาจะถูกนำกลับไปสู่การลงโทษอันยิ่งใหญ่ต่อไป(218)

Comment: (217)คือจะได้รับการลงโทษในโลกดุนยาด้วยการถูกฆ่า และถูกจับเป็นเฉลย เมื่อตายไปก็จะได้รับการทรมานในหลุมฝังศพ

Comment: (218)ในส่วนโลกอาคิเราะฮ์ก็จะถูกนำไปสู่การทรมานในนรกญะฮันนัน

9:102

وَءَاخَرُونَ ٱعْتَرَفُوا۟ بِذُنُوبِهِمْ خَلَطُوا۟ عَمَلًۭا صَـٰلِحًۭا وَءَاخَرَ سَيِّئًا عَسَى ٱللَّهُ أَن يَتُوبَ عَلَيْهِمْ ۚ إِنَّ ٱللَّهَ غَفُورٌۭ رَّحِيمٌ

Translation: และมีชนกลุ่มอื่นที่สารภาพความผิดของพวกเขา โดยที่พวกเขาประกอบกรรมดีปะปนไปกับงานที่ชั่ว(219) หวังว่าอัลลอฮ์จะทรงอภัยโทษให้แก่พวกเขา แท้จริงอัลลอฮ์นั้นคือ ผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเอ็นดูเมตตาเสมอ

Comment: (219)อายะฮ์นี้ถูกประทานลงมาโดยเฉพาะเกี่ยวกับชาย10คนที่ไม่ได้ออกไปร่วมรบในสมรภูมิตะบู๊ก ในจำนวน 10 คนนี้ มีเจ็ดคนทรมานตนด้วยการมัดตนเองเข้ากับเสามัสยิด อันเป็นการสารภาพผิด และหวังว่าท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จะอภัยให้แก่พวกเขา แต่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่ได้ให้ความสนใจต่อการกระทำของพวกเขา อัลลอฮ์ ตะอาลา จึงได้ทรงประทานอายะฮ์นี้ลงมา

9:103

خُذْ مِنْ أَمْوَٰلِهِمْ صَدَقَةًۭ تُطَهِّرُهُمْ وَتُزَكِّيهِم بِهَا وَصَلِّ عَلَيْهِمْ ۖ إِنَّ صَلَوٰتَكَ سَكَنٌۭ لَّهُمْ ۗ وَٱللَّهُ سَمِيعٌ عَلِيمٌ

Translation: (มุฮัมมัด) เจ้าจงเอาส่วนหนึ่งจากทรัพย์สมบัติของพวกเขาเป็นทาน เพื่อทำให้พวกเขาบริสุทธิ์ และล้างมลทินของพวกเขาด้วยส่วนตัวที่เป็นทานนั้น(220) และเจ้าจงขอพรให้แก่พวกเขาเถิด เพราะแท้จริงการขอพรของพวกเจ้านั้น ทำให้เกิดความสุขใจแก่พวกเขา และอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงรอบรู้

Comment: (220)ชายเจ็ดคนหลังจากถูกปล่อยเป็นอิสระแล้วรู้สึกสำนักผิด แล้วมีความประสงค์ที่จะล้างมลทินด้วยการบริจาคทาน จึงไปหาท่านร่อซูลุลลอฮ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม พร้อมด้วยเงินจำนวนหนึ่ง โดยหวังว่าการบริจาคทานแก่คนยากคนจนนั้น จะช่วยชำระล้างการกระทำในอดีต และได้รับการอภัยโทษจากอัลลอฮ์ ตะอาลา ก็เป็นได้พระองค์จึงได้ประทานอายะฮ์นั้นลงมา

9:104

أَلَمْ يَعْلَمُوٓا۟ أَنَّ ٱللَّهَ هُوَ يَقْبَلُ ٱلتَّوْبَةَ عَنْ عِبَادِهِۦ وَيَأْخُذُ ٱلصَّدَقَـٰتِ وَأَنَّ ٱللَّهَ هُوَ ٱلتَّوَّابُ ٱلرَّحِيمُ

Translation: พวกเขาไม่รู้ดอกหรือว่า แท้จริงอัลลอฮ์ทรงรับการสำนึกผิดจากปวงบ่าวของพระองค์ และทรงรับบรรดาสิ่งที่เป็นทาน(เศอะดะเกาะฮ์) และแท้จริงอัลลอฮ์คือ ผู้ทรงอัยโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ

9:105

وَقُلِ ٱعْمَلُوا۟ فَسَيَرَى ٱللَّهُ عَمَلَكُمْ وَرَسُولُهُۥ وَٱلْمُؤْمِنُونَ ۖ وَسَتُرَدُّونَ إِلَىٰ عَـٰلِمِ ٱلْغَيْبِ وَٱلشَّهَـٰدَةِ فَيُنَبِّئُكُم بِمَا كُنتُمْ تَعْمَلُونَ

Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่า พวกท่านจงทำงานเถิด แล้วอัลลอฮ์จะทรงเห็นการงานของพวกท่าน และร่อซูลของพระองค์และบรรดามุอ์มินก็จะเห็นด้วย และพวกท่านจะถูกนำกลับไปยัง พระผู้ทรงรอบรู้ในสิ่งเร้นลับและสิ่งเปิดเผย แล้วพระองค์จะทรงแจ้งแก่พวกท่าน ในสิ่งที่พวกท่านทำไว้

9:106

وَءَاخَرُونَ مُرْجَوْنَ لِأَمْرِ ٱللَّهِ إِمَّا يُعَذِّبُهُمْ وَإِمَّا يَتُوبُ عَلَيْهِمْ ۗ وَٱللَّهُ عَلِيمٌ حَكِيمٌۭ

Translation: และมีชนอีกกลุ่มหนึ่ง(221) ที่ยังรอคำบัญชาของอัลลอฮ์พระองค์อาจจะทรงลงโทษพวกเขา และพระองค์ก็อาจจะทรงอภัยโทษให้แก่พวกเขา และอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงรอบรู้ ผู้ทรงปรีชาญาณ

Comment: (221)ชนกลุ่มนี้ อิบนุอับบาส กล่าวว่า มีจำนวน 3 คน คือ กะอุบ อิบนุมาลิก ฮิลาล อิบนุอุมัยยะฮ์ และมุรอเราะฮ์ อิบนุอัรร่อบีอ์ ชายสามคนนี้ได้รีบเร่งไปหาท่านร่อซูลุลลอฮ์ ท่านได้ห้ามบรรดาศ่อฮาบะฮ์มิให้เข้าไปสังสรรค์และกล่าวสลามแก่ชาย 3 คน ทั้งนี้จนกว่าอัลลอฮ์จะทรงตัดสินชี้ขาดในเรื่องของพวกเขา

9:107

وَٱلَّذِينَ ٱتَّخَذُوا۟ مَسْجِدًۭا ضِرَارًۭا وَكُفْرًۭا وَتَفْرِيقًۢا بَيْنَ ٱلْمُؤْمِنِينَ وَإِرْصَادًۭا لِّمَنْ حَارَبَ ٱللَّهَ وَرَسُولَهُۥ مِن قَبْلُ ۚ وَلَيَحْلِفُنَّ إِنْ أَرَدْنَآ إِلَّا ٱلْحُسْنَىٰ ۖ وَٱللَّهُ يَشْهَدُ إِنَّهُمْ لَكَـٰذِبُونَ

Translation: และบรรดาผู้ที่ยึดเอามัสยิดหลังหนึ่ง เพื่อก่อให้เกิดความเดือดร้อนและปฏิเสธศรัทธา และก่อให้เกิดการแตกแยกระหว่างบรรดามุอ์มินด้วยกัน และเป็นแหล่งซ่องสุมสำหรับผู้ที่ทำสงครามต่อต้านอัลลอฮ์และร่อซุลของพระองค์มาก่อน และแน่นอนพวกเขาจะสาบานว่า เราไม่มีเจตนาอื่นใดนอกจากที่ดี และอัลลอฮ์นั้นทรงเป็นพยานยืนยันว่า พวกเขานั้นเป็นพวกกล่าวเท็จอย่างแน่นอน

9:108

لَا تَقُمْ فِيهِ أَبَدًۭا ۚ لَّمَسْجِدٌ أُسِّسَ عَلَى ٱلتَّقْوَىٰ مِنْ أَوَّلِ يَوْمٍ أَحَقُّ أَن تَقُومَ فِيهِ ۚ فِيهِ رِجَالٌۭ يُحِبُّونَ أَن يَتَطَهَّرُوا۟ ۚ وَٱللَّهُ يُحِبُّ ٱلْمُطَّهِّرِينَ

Translation: เจ้าอย่าไปร่วมยืนละหมาดในมัสยิดนั้นเป็นอันขาด แน่นอนมัสยิดที่ถูกวางรากฐานบนความยำเกรงตั้งแต่วันแรกนั้น สมควรอย่างยิ่งที่เจ้าจะเข้าไปยืนละหมาดในนั้น เพราะในมัสยิดนั้นมีคณะบุคคลที่ชอบจะชำระตัวให้บริสุทธิ์ และอัลลอฮ์ทรงรักบรรดาผู้ที่ชำระตัวให้สะอาดบริสุทธิ์อยู่เสมอ

9:109

أَفَمَنْ أَسَّسَ بُنْيَـٰنَهُۥ عَلَىٰ تَقْوَىٰ مِنَ ٱللَّهِ وَرِضْوَٰنٍ خَيْرٌ أَم مَّنْ أَسَّسَ بُنْيَـٰنَهُۥ عَلَىٰ شَفَا جُرُفٍ هَارٍۢ فَٱنْهَارَ بِهِۦ فِى نَارِ جَهَنَّمَ ۗ وَٱللَّهُ لَا يَهْدِى ٱلْقَوْمَ ٱلظَّـٰلِمِينَ

Translation: ผู้ที่วางรากฐานอาคารของเขาบนความยำเกรงต่ออัลลอฮ์และบนความโปรดปรานนั้นดีกว่าหรือว่าผู้ที่วางรากฐานอาคารของเขาบนริมขอบเหวที่จะพังทลายลง แล้วมันก็พังนำเขาลงไปในนรกและอัลลอฮ์จะไม่ชี้แนะทางแก่กลุ่มชนที่อธรรม

9:110

لَا يَزَالُ بُنْيَـٰنُهُمُ ٱلَّذِى بَنَوْا۟ رِيبَةًۭ فِى قُلُوبِهِمْ إِلَّآ أَن تَقَطَّعَ قُلُوبُهُمْ ۗ وَٱللَّهُ عَلِيمٌ حَكِيمٌ

Translation: อาคารของพวกเขาที่ก่อสร้างขึ้นมานั้นยังคงเป็นที่ระแวงสงสัยอยู่ในจิตใจของพวกเขา จนกระทั่งหัวใจเหล่านั้นจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ และอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงรอบรู้ ผู้ทรงปรีชาญาณ

9:111

۞ إِنَّ ٱللَّهَ ٱشْتَرَىٰ مِنَ ٱلْمُؤْمِنِينَ أَنفُسَهُمْ وَأَمْوَٰلَهُم بِأَنَّ لَهُمُ ٱلْجَنَّةَ ۚ يُقَـٰتِلُونَ فِى سَبِيلِ ٱللَّهِ فَيَقْتُلُونَ وَيُقْتَلُونَ ۖ وَعْدًا عَلَيْهِ حَقًّۭا فِى ٱلتَّوْرَىٰةِ وَٱلْإِنجِيلِ وَٱلْقُرْءَانِ ۚ وَمَنْ أَوْفَىٰ بِعَهْدِهِۦ مِنَ ٱللَّهِ ۚ فَٱسْتَبْشِرُوا۟ بِبَيْعِكُمُ ٱلَّذِى بَايَعْتُم بِهِۦ ۚ وَذَٰلِكَ هُوَ ٱلْفَوْزُ ٱلْعَظِيمُ

Translation: แท้จริง อัลลอฮ์นั้นได้ทรงซื้อแล้วจากบรรดาผู้ศรัทธา ซึ่งชีวิตของพวกเขาและทรัพย์สมบัติของพวกเขา โดยพวกเขาจะได้รับสวนสวรรค์เป็นการตอบแทน พวกเขาจะต่อสู้ในทางของอัลลอฮ์แล้ว พวกเขาก็จะฆ่าและถูกฆ่า เป็นสัญญาของพระองค์เองอย่างแท้จริง ซึ่งมีอยู่ในคัมภีร์เตารอต อินญีล และกรุอาน และใครเล่าจะรักษาสัญญาของเขาให้ดียิ่งไปกว่าอัลลอฮ์ดังนั้น พวกท่านจงชื่นชมยินดีในการขายของพวกท่านเถิด ซึ่งพวกท่านได้ขายมันไป และนั่นคือชัยชนะอันใหญ่หลวง

9:112

ٱلتَّـٰٓئِبُونَ ٱلْعَـٰبِدُونَ ٱلْحَـٰمِدُونَ ٱلسَّـٰٓئِحُونَ ٱلرَّٰكِعُونَ ٱلسَّـٰجِدُونَ ٱلْـَٔامِرُونَ بِٱلْمَعْرُوفِ وَٱلنَّاهُونَ عَنِ ٱلْمُنكَرِ وَٱلْحَـٰفِظُونَ لِحُدُودِ ٱللَّهِ ۗ وَبَشِّرِ ٱلْمُؤْمِنِينَ

Translation: บรรดาผู้กลับตัวกระทำการอิบาดะฮ์ ผู้กล่าวคำสรรเสริญ ผู้เดินทางเพื่อต่อสู้หรือแสวงหาวิชาความรู้(222) ผู้รุกัวะอ์(223) ผู้สุญูด(224) ผู้กำชับให้ทำความดี ผู้ห้ามปรามให้ละเว้นความชั่วและบรรดาผู้รักษาขอบเขตของอัลลอฮ์และจงแจ้งข่าวดีแก่บรรดาผู้ศรัทธาเถิด

Comment: (222)นักตัฟซีรบางคนให้ความหมายของคำว่า “อัซซาอิหูน” ว่า ผู้ถือศีลอด บางท่านให้ความหมายว่า ผู้ทำการสู้รบในทางของอัลลอฮ์ บางท่านก็ว่าหมายถึง ผู้อพยพหรือเดินทางเพื่อต่อสู้หรือแสวงหาวิชาความรู้

Comment: (223)ลักษณะของผู้โค้งคำนับโดยเอามือทั้งสองจับหัวเข่าทั้งสอง

Comment: (224)ลักษณะของผู้ก้มลงกราบกับพื้น โดยเอาหน้าผากและจมูกจรดพื้น และฝ่ามือทั้งสองจรดพื้น

9:113

مَا كَانَ لِلنَّبِىِّ وَٱلَّذِينَ ءَامَنُوٓا۟ أَن يَسْتَغْفِرُوا۟ لِلْمُشْرِكِينَ وَلَوْ كَانُوٓا۟ أُو۟لِى قُرْبَىٰ مِنۢ بَعْدِ مَا تَبَيَّنَ لَهُمْ أَنَّهُمْ أَصْحَـٰبُ ٱلْجَحِيمِ

Translation: ไม่บังควรแก่นบีและบรรดาผู้ศรัทธาที่จะขออภัยโทษให้แก่พวกตั้งภาคี และแม้ว่าพวกเขาจะเป็นญาติใกล้ชิดกันก็ตาม ทั้งนี้หลังจากเป็นที่ประจักษ์แก่พวกเขาแล้ว แน่นอนพวกเขาเหล่านั้นเป็นชาวนรก(225)

Comment: (225)ขณะที่อะบูฏอลิบ ลุงของท่านนบีใกล้จะสิ้นชีวิต ท่านนบีได้เข้าไปเยี่ยม ขณะนั้นอะบูญะฮัล และอับดุลลอฮ์ อิบนุอะบีอุมัยยะฮ์นั่งรวมอยู่ด้วย ท่านนบีได้กล่าวขึ้นว่า “โอ้คุณลุง” จงกล่าวคำว่า “ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์”แล้วฉันจะเป็นพยานให้แก่ท่าน ณ ที่อัลลอฮ์ อะบูญะฮัล และอิบนุอะบัอุมัยยะฮ์ กล่าวสวนขึ้นทันทีว่า “โอ้อะบาฏอลิบ ท่านจะผินหลังให้แก่แนวทางของอับดุลมุฏฏอลิบกระนั้นหรือ ?” ท่านนบียังคงกล่าวข้อความนี้แก่ลุงของท่าน ในที่สุดอะบูฏอลิบได้กล่าวข้อความสุดท้ายขึ้นว่า “ฉันจะอยู่ในแนวทางของอับดุลมุฏฏอลิบ” โดยไม่ยอมกล่าวคำว่า “ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์” ท่านนบีจึงกล่าวว่า “วัลลอฮิ” ฉันจะขออภัยโทษต่ออัลลอฮ์ให้แก่ท่าน (หมายถึงอะบูฏอลิบ) ตราบใดที่ฉันไม่ถูกห้ามในการกระทำเช่นนั้น แล้วอัลลอฮ์ ตะอาลา จึงได้ประทานอายะฮ์ที่ 113 นี้ลงมา

9:114

وَمَا كَانَ ٱسْتِغْفَارُ إِبْرَٰهِيمَ لِأَبِيهِ إِلَّا عَن مَّوْعِدَةٍۢ وَعَدَهَآ إِيَّاهُ فَلَمَّا تَبَيَّنَ لَهُۥٓ أَنَّهُۥ عَدُوٌّۭ لِّلَّهِ تَبَرَّأَ مِنْهُ ۚ إِنَّ إِبْرَٰهِيمَ لَأَوَّٰهٌ حَلِيمٌۭ

Translation: และการขออภัยโทษของอิบรอฮีมให้แก่บิดาของเขามิได้ปรากฏขึ้น นอกจากเป็นสัญญาที่เขาได้ให้ไว้แก่บิดาของเขาเท่านั้น แต่เมื่อได้เป็นที่ประจักษ์แก่เขาแล้ว แท้จริงบิดาของเขาเป็นศัตรูของอัลลอฮ์เขาก็ปลีกตัวออกจากบิดาของเขา แท้จริง อิบรอฮีมเป็นผู้อ่อนโยน และเป็นผู้มีขันติอดทน

9:115

وَمَا كَانَ ٱللَّهُ لِيُضِلَّ قَوْمًۢا بَعْدَ إِذْ هَدَىٰهُمْ حَتَّىٰ يُبَيِّنَ لَهُم مَّا يَتَّقُونَ ۚ إِنَّ ٱللَّهَ بِكُلِّ شَىْءٍ عَلِيمٌ

Translation: และอัลลอฮ์จะไม่ทรงให้กลุ่มชนใดหลงผิด หลังจากที่พระองค์ได้ทรงชี้ทางที่ถูกต้องให้แก่พวกเขาแล้ว นอกจากจะป็นที่ประจักษ์แก่พวกเขา ซึ่งสิ่งที่พวกเขาจะยำเกรงเท่านั้น แท้จริง อัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงรอบรู้ทุกสิ่ง

9:116

إِنَّ ٱللَّهَ لَهُۥ مُلْكُ ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضِ ۖ يُحْىِۦ وَيُمِيتُ ۚ وَمَا لَكُم مِّن دُونِ ٱللَّهِ مِن وَلِىٍّۢ وَلَا نَصِيرٍۢ

Translation: แท้จริง อัลลอฮ์นั้นอำนาจแห่งบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดินเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์ พระองค์ทรงให้เป็น ทรงให้ตาย และนอกจากอัลลอฮ์แล้วก็ไม่มีผู้คุ้มครองและผู้ช่วยเหลือใดๆ สำหรับพวกท่าน

9:117

لَّقَد تَّابَ ٱللَّهُ عَلَى ٱلنَّبِىِّ وَٱلْمُهَـٰجِرِينَ وَٱلْأَنصَارِ ٱلَّذِينَ ٱتَّبَعُوهُ فِى سَاعَةِ ٱلْعُسْرَةِ مِنۢ بَعْدِ مَا كَادَ يَزِيغُ قُلُوبُ فَرِيقٍۢ مِّنْهُمْ ثُمَّ تَابَ عَلَيْهِمْ ۚ إِنَّهُۥ بِهِمْ رَءُوفٌۭ رَّحِيمٌۭ

Translation: แท้จริง อัลลอฮ์ทรงอภัยโทษให้แก่ท่านนบี ชาวมุฮาญิรีน และชาวอันศอรแล้ว ซึ่งเขาเหล่านั้นได้ปฏิบัติตามเขา(นบี) ในยามคับขันหลังจากที่จิตใจของชนกลุ่มหนึ่งในพวกเขา เกือบจะหันเหออกจากความจริง แล้วพระองค์ก็ทรงอภัยโทษให้แก่พวกเขา แท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงเมตตา ผู้ทรงกรุณาอยู่เสมอ

9:118

وَعَلَى ٱلثَّلَـٰثَةِ ٱلَّذِينَ خُلِّفُوا۟ حَتَّىٰٓ إِذَا ضَاقَتْ عَلَيْهِمُ ٱلْأَرْضُ بِمَا رَحُبَتْ وَضَاقَتْ عَلَيْهِمْ أَنفُسُهُمْ وَظَنُّوٓا۟ أَن لَّا مَلْجَأَ مِنَ ٱللَّهِ إِلَّآ إِلَيْهِ ثُمَّ تَابَ عَلَيْهِمْ لِيَتُوبُوٓا۟ ۚ إِنَّ ٱللَّهَ هُوَ ٱلتَّوَّابُ ٱلرَّحِيمُ

Translation: และอัลลอฮ์ทรงอภัยโทษให้แก่ชายสามคน (คือ กะอุบ์ อิบนุมาลิก มุรอเราะฮ์ อิบนุ อัรร่อบีอ์ และฮิลาล อิบนุอุมัยยะฮ์) ที่ไม่ได้ออกไปสงคราม จนกระทั่งแผ่นดินได้คับแคบแก่พวกเขาทั้งๆ ที่มันกว้างใหญ่ไพศาล และตัวของพวกเขาก็รู้สึกอึดอัดไปด้วย แล้วพวกเขาก็คาดคิดกันว่าไม่มีที่พึ่งอื่นใดเพื่อให้พ้นจากอัลลอฮ์ไปได้ นอกจากกลับไปหาพระองค์ แล้วพระองค์ก็ทรงอภัยโทษให้แก่พวกเขา เพื่อพวกเขาจะได้กลับเนื้อกลับตัวสำนักผิดต่อพระองค์ แท้จริง อัลลอฮ์คือผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเอ็นดูเมตตาเสมอ

9:119

يَـٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ ٱتَّقُوا۟ ٱللَّهَ وَكُونُوا۟ مَعَ ٱلصَّـٰدِقِينَ

Translation: โอ้ ศรัทธาชนทั้งหลาย พึงยำเกรงอัลลอฮ์เถิด และจงอยู่ร่วมกับบรรดาผู้ที่พูดจริง

9:120

مَا كَانَ لِأَهْلِ ٱلْمَدِينَةِ وَمَنْ حَوْلَهُم مِّنَ ٱلْأَعْرَابِ أَن يَتَخَلَّفُوا۟ عَن رَّسُولِ ٱللَّهِ وَلَا يَرْغَبُوا۟ بِأَنفُسِهِمْ عَن نَّفْسِهِۦ ۚ ذَٰلِكَ بِأَنَّهُمْ لَا يُصِيبُهُمْ ظَمَأٌۭ وَلَا نَصَبٌۭ وَلَا مَخْمَصَةٌۭ فِى سَبِيلِ ٱللَّهِ وَلَا يَطَـُٔونَ مَوْطِئًۭا يَغِيظُ ٱلْكُفَّارَ وَلَا يَنَالُونَ مِنْ عَدُوٍّۢ نَّيْلًا إِلَّا كُتِبَ لَهُم بِهِۦ عَمَلٌۭ صَـٰلِحٌ ۚ إِنَّ ٱللَّهَ لَا يُضِيعُ أَجْرَ ٱلْمُحْسِنِينَ

Translation: ไม่บังควรแก่ชาวมะดีนะฮ์และชาวอาหรับชนบทที่พักอยู่รอบๆ จะผินหลังให้กับร่อซูลของอัลลอฮ์และไม่บังคับควรที่เขาเหล่านั้นจะห่วงชีวิตของพวกเขา มากกว่าชีวิตของท่านร่อซูล ทั้งนี้เนื่องจากความกระหายน้ำก็ดี ความทุกข์ยากก็ดีและความหิวโหยก็ดี เพื่อหนทางของอัลลอฮ์จะไม่ประสบกับพวกเขา และไม่ว่าพวกเขาจะเหยียบย่างไป ณ ที่ใดที่ ทำให้พวกปฏิเสธศรัทธา กริ้วโกรธก็ตาม และพวกเขาจะไม่ได้รับอันตรายจากศัตรูนอกจากการงานที่ดีถูกจากรึกไว้แล้วสำหรับพวกเขาเพราะสิ่งนั้น แท้จริง อัลลอฮ์จะไม่ทรงให้รางวัลของผู้กระทำความดีต้องสูญเสียไปเป็นอันขาด

9:121

وَلَا يُنفِقُونَ نَفَقَةًۭ صَغِيرَةًۭ وَلَا كَبِيرَةًۭ وَلَا يَقْطَعُونَ وَادِيًا إِلَّا كُتِبَ لَهُمْ لِيَجْزِيَهُمُ ٱللَّهُ أَحْسَنَ مَا كَانُوا۟ يَعْمَلُونَ

Translation: และพวกเขาจะไม่บริจาคในการบริจาคใดๆ ไม่ว่าจะน้อยหรือมากก็ตาม และพวกเขาไม่เดินผ่านหุบเขาใดๆ นอกจากมันจะถูกบันทึกไว้แก่พวกเขา เพื่อว่าอัลลอฮ์จะทรงตอบแทนให้แก่พวกเขาซึ่งสิ่งที่ดียิ่งในสิ่งที่พวกเขาได้ทำไว้

9:122

۞ وَمَا كَانَ ٱلْمُؤْمِنُونَ لِيَنفِرُوا۟ كَآفَّةًۭ ۚ فَلَوْلَا نَفَرَ مِن كُلِّ فِرْقَةٍۢ مِّنْهُمْ طَآئِفَةٌۭ لِّيَتَفَقَّهُوا۟ فِى ٱلدِّينِ وَلِيُنذِرُوا۟ قَوْمَهُمْ إِذَا رَجَعُوٓا۟ إِلَيْهِمْ لَعَلَّهُمْ يَحْذَرُونَ

Translation: ไม่บังควรที่บรรดาผู้ศรัทธาจะออกไปสู้รบกันทั้งหมด ทำไมแต่ละกลุ่มในหมู่พวกเขาจึงไม่ออกไปเพื่อหาความเข้าใจในศาสนา และเพื่อจะได้ตักเตือนหมู่คณะของพวกเขา เมื่อพวกเขาได้กลับมายังหมู่คณะของพวกเขา โดยหวังว่าหมู่คณะของพวกเขาจะได้ระมัดระวัง

9:123

يَـٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ قَـٰتِلُوا۟ ٱلَّذِينَ يَلُونَكُم مِّنَ ٱلْكُفَّارِ وَلْيَجِدُوا۟ فِيكُمْ غِلْظَةًۭ ۚ وَٱعْلَمُوٓا۟ أَنَّ ٱللَّهَ مَعَ ٱلْمُتَّقِينَ

Translation: โอ้ศรัทธาชนทั้งหลาย จนสู้รบกับบรรดาผู้ที่อยู่ใกล้เคียงพวกท่าน ที่เป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาเสียก่อน และจงให้พวกเหล่านั้นประสบกับความรุนแรงจากพวกท่าน และพึงรู้เถิดว่า แท้จริง อัลลอฮ์นั้นทรงอยู่ร่วมกับบรรดาผู้ยำเกรงทั้งหลาย

9:124

وَإِذَا مَآ أُنزِلَتْ سُورَةٌۭ فَمِنْهُم مَّن يَقُولُ أَيُّكُمْ زَادَتْهُ هَـٰذِهِۦٓ إِيمَـٰنًۭا ۚ فَأَمَّا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ فَزَادَتْهُمْ إِيمَـٰنًۭا وَهُمْ يَسْتَبْشِرُونَ

Translation: และเมื่อมีบทหนึ่งบทใดของอัลกุรอานถูกประทานลงมา ดังนั้น ในหมู่พวกเขามีผู้กล่าวขึ้นว่า มีใครบ้างในพวกท่านที่บทนี้ทำให้ศรัทธาเพิ่มขึ้น ? สำหรับบรรดาผู้ที่มีความศรัทธานั้น บทนี้ได้ทำให้การศรัทธาเพิ่มขึ้นแก่พวกเขา แล้วพวกเขาก็มีความปิติยินดี

9:125

وَأَمَّا ٱلَّذِينَ فِى قُلُوبِهِم مَّرَضٌۭ فَزَادَتْهُمْ رِجْسًا إِلَىٰ رِجْسِهِمْ وَمَاتُوا۟ وَهُمْ كَـٰفِرُونَ

Translation: และสำหรับบรรดาผู้ที่มีโรคอยู่ในจิตใจของพวกเขา บทนี้ก็ยิ่งจะเพิ่มความสกปรกให้แก่พวกเขามากยิ่งขึ้นไปอีก และพวกเขาจะตายไปในสภาพที่เป็นพวกปฏิเสธศรัทธา

9:126

أَوَلَا يَرَوْنَ أَنَّهُمْ يُفْتَنُونَ فِى كُلِّ عَامٍۢ مَّرَّةً أَوْ مَرَّتَيْنِ ثُمَّ لَا يَتُوبُونَ وَلَا هُمْ يَذَّكَّرُونَ

Translation: และพวกเขาไม่เห็นดอกหรือว่า แท้จริงพวกเขาจะถูกทดสอบในทุกๆ ปี ครั้งหนึ่งหรือสองครั้ง แล้วพวกเขาก็ไม่ยอมกลับเนื้อกลับตัวและพวกเขาก็ไม่สำนึกผิดอีกด้วย

9:127

وَإِذَا مَآ أُنزِلَتْ سُورَةٌۭ نَّظَرَ بَعْضُهُمْ إِلَىٰ بَعْضٍ هَلْ يَرَىٰكُم مِّنْ أَحَدٍۢ ثُمَّ ٱنصَرَفُوا۟ ۚ صَرَفَ ٱللَّهُ قُلُوبَهُم بِأَنَّهُمْ قَوْمٌۭ لَّا يَفْقَهُونَ

Translation: และเมื่อบทหนึ่งบทใดของอัลกุรอานถูกประทานลงมา บางคนในหมู่พวกเขาต่างก็มองตาซึ่งกันและกัน (แล้วถามขึ้นว่า) มีใครเห็นพวกท่านบ้างไหม(226) แล้วพวกเขาก็พากันหันเหออกจากแนวทางที่ถูกต้อง เพราะแท้จริงพวกเขาเป็นกลุ่มชนที่ไม่มีความเข้าใจอะไรเลย

Comment: (226)เมื่อมีบทของอัลกุรอานที่ถูกประทานลงมา เป็นการประณามพวกมุนาฟิกีน โดยที่พวกเขาอยู่ร่วมในที่ประชุมของท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม พวกเขาก็จะมองตาซึ่งกันและกัน แสดงอาการเย้ยหยันและทำสัญญาณเป็นคำถามว่าไม่มีใครเห็นพวกเราบ้างไหม? เพื่อที่จะได้ออกไปจากที่ประชุมนี้ เพราะเราทนการประณามต่อไปอีกไม่ได้แล้ว

9:128

لَقَدْ جَآءَكُمْ رَسُولٌۭ مِّنْ أَنفُسِكُمْ عَزِيزٌ عَلَيْهِ مَا عَنِتُّمْ حَرِيصٌ عَلَيْكُم بِٱلْمُؤْمِنِينَ رَءُوفٌۭ رَّحِيمٌۭ

Translation: แท้จริงมีร่อซูลคนหนึ่งจากพวกท่านเองได้มาหาพวกท่านแล้ว เป็นที่ลำบากใจแก่เขาในสิ่งที่พวกท่านได้รับความทุกข์ยาก เป็นผู้ห่วงใยพวกท่าน เป็นผู้เมตตา ผู้กรุณาสงสาร ต่อบรรดาผู้ศรัทธา

9:129

فَإِن تَوَلَّوْا۟ فَقُلْ حَسْبِىَ ٱللَّهُ لَآ إِلَـٰهَ إِلَّا هُوَ ۖ عَلَيْهِ تَوَكَّلْتُ ۖ وَهُوَ رَبُّ ٱلْعَرْشِ ٱلْعَظِيمِ

Translation: พากพวกเขาผินหลังให้ ก็จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่า อัลลอฮ์นั้นเป็นที่พอเพียงแก่ฉันแล้ว ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์เท่านั้น แด่พระองค์เท่านั้นที่ฉันขอมอบหมาย และพระองค์คือเจ้าของบัลลังก์อันยิ่งใหญ่