سورة الأعراف
Al-A'raaf
The Heights
meccan . 206 Ayahs
بِسْمِ ٱللَّهِ ٱلرَّحْمَـٰنِ ٱلرَّحِيمِ
7:1
الٓمٓصٓ
Translation: อะลิฟ ลาม มีม ศอด(อัลลอฮ์เท่านั้นที่ทราบความหมายของอักษรเหล่านั้น)
7:2
كِتَـٰبٌ أُنزِلَ إِلَيْكَ فَلَا يَكُن فِى صَدْرِكَ حَرَجٌۭ مِّنْهُ لِتُنذِرَ بِهِۦ وَذِكْرَىٰ لِلْمُؤْمِنِينَ
Translation: มีคัมภีร์ฉบับหนึ่ง(1) ซึ่งถูกประทานลงมาแก่เจ้า(2) ดังนั้น จงอย่าให้ความอึดอัดมีอยู่ในหัวอกของเจ้าเนื่องจากคัมภีร์นั้น ทั้งนี้(3) เพื่อเจ้าจะได้ใช้คัมภีร์นั้นตักเตือน(ผู้คน) และเพื่อเป็นข้อเตือนใจ(4) แก่ผู้ศรัทธาทั้งหลาย
Comment: (1)คืออัลกุรอาน
Comment: (2)คือท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
Comment: (3)คำว่า “ลิตุนซิเราะ” นั้นตกในตำแหน่ง “มัฟอุลุลลิอัจญะลิฮ์” แต่ที่มาในรูปของกริยานั้นก็เพราะขาดเงื่อนไขบางประการโปรดดูในอัศ-ซอวีย์
Comment: (4)คือเพื่อที่อัลกุรอานจะได้เป็นข้อเตือนใจแก่บรรดาผู้ศรัทธา กล่าวคือผู้ศรัทธานั้จะต้องอ่านอัลกุรอานอยู่เสมอ ในการนี้อัลกุรอานซึ่งเป็นโองการของอัลลอฮ์จะเตือนใจมุมินให้รำลึกถึงหน้าที่ของเขาอยู่เป็นเนืองนิตย์
7:3
ٱتَّبِعُوا۟ مَآ أُنزِلَ إِلَيْكُم مِّن رَّبِّكُمْ وَلَا تَتَّبِعُوا۟ مِن دُونِهِۦٓ أَوْلِيَآءَ ۗ قَلِيلًۭا مَّا تَذَكَّرُونَ
Translation: พวกเจ้าจงปฏิบัติตามสิ่งที่ถูกประทานลงมาแก่พวกเจ้าจากพระผู้อภิบาลของพวกเจ้าเถิด และอย่าปฏิบัติตามบรรดาผู้คุ้มครองใดๆ(5) อื่นจากพระองค์ ส่วนน้อยจากพวกเจ้าเท่านั้นแหละที่จะรำลึก(6)
Comment: (5)ความจริงผู้คุ้มครองนั้นมีเพียงองค์เดียวเท่านั้นคือ อัลลอฮ์ แต่ด้วยความเขลาของมนุษย์จึงได้ถือเอาสิ่งนั้นบ้างผู้นี้บ้างเป็นผู้คุ้มครองซึ่งเป็นการงมงายและถือเป็นความผิดมหันต์ ด้วยเหตุนี้อัลลอฮ์จึงได้บัญญัติห้ามไว้ และความที่ว่า “จงอย่าปฏิบัติตามบรรดาผู้คุ้มครองใดๆ” นั้น คืออย่าได้ปฏิบัติตามกลุ่มชนผู้งมงายที่ยึดถือสิ่งหนึ่งสิ่งใดหรือผู้หนึ่งผู้ใดเป็นผู้คุ้มครองอื่นจากอัลลอฮ์
Comment: (6)คือรำลึกถึงโองการของอัลลอฮ์ที่ได้ชี้แจงแนวทางที่ถูกต้องให้
7:4
وَكَم مِّن قَرْيَةٍ أَهْلَكْنَـٰهَا فَجَآءَهَا بَأْسُنَا بَيَـٰتًا أَوْ هُمْ قَآئِلُونَ
Translation: และกี่เมืองแล้วที่เราได้ทำลายมัน(7) โดยที่การลงโทษของเราได้มายังเมืองนั้น ในยามค่ำคืนหรือในขณะที่พวกเขานอนพักผ่อนในเวลาบ่าย
Comment: (7)หมายถึงทำลายชาวเมืองเพราะความดื้อรั้นของพวกเขาที่ไม่ยอมศรัทธาต่อร่อซูลของพระองค์ และคำว่า“กี่เมืองแล้ว” นั้นหมายถึง “มากมายหลายเมืองแล้ว”
7:5
فَمَا كَانَ دَعْوَىٰهُمْ إِذْ جَآءَهُم بَأْسُنَآ إِلَّآ أَن قَالُوٓا۟ إِنَّا كُنَّا ظَـٰلِمِينَ
Translation: มิปรากฏว่า พวกเขาวิงวอนขออื่นใดขณะที่การลงโทษของเราได้มายังพวกเขา นอกจากการที่พวกเขากล่าว(สารภาพ)ว่า แท้จริงพวกข้าพระองค์เป็นผู้อธรรม
7:6
فَلَنَسْـَٔلَنَّ ٱلَّذِينَ أُرْسِلَ إِلَيْهِمْ وَلَنَسْـَٔلَنَّ ٱلْمُرْسَلِينَ
Translation: แน่นอน เราจะถามบรรดาผู้ที่ร่อซูลถูกไปยังพวกเขา(8) และแน่นอนเราจะถามบรรดาร่อซูลทั้งหลายด้วย(9)
Comment: (8)คือถามว่าได้ตอบรับคำเชิญชวนของร่อซูลประการใดบ้าง และเมื่อตอนรับแล้วได้ให้ความสำคัญต่อบัญญัติของอัลลอฮ์อย่างไร
Comment: (9)และถามบรรดาร่อซูลว่าได้ปฏิบัติหน้าที่แห่งการประกาศศาสนาประการใดบ้างและได้ผลอย่างไร ความจริงเรื่องเหล่านี้อยู่ในความรู้ของอัลลอฮ์โดยหมดสิ้นแล้ว ดังนั้นที่พระองค์จะทรงถาม มิใช่เพื่อต้องการรู้หากแต่เพื่อให้บรรดาร่อซูลและประชาชาติที่ได้รับการเชิญชวนได้ตระหนักถึงหน้าที่ของตน เพราะแต่ละฝ่ายจะต้องถูกสอบสวน
7:7
فَلَنَقُصَّنَّ عَلَيْهِم بِعِلْمٍۢ ۖ وَمَا كُنَّا غَآئِبِينَ
Translation: แน่นอน เราจะนำความรู้มาเล่าให้พวกเขาฟัง(10) และเราไม่เคยหายไปไหน(11)
Comment: (10)คือความรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างร่อซูลของพระองค์ และประชาชาติที่ถูกเชิญชวนให้ศรัทธา
Comment: (11)คือพระองค์ทรงรู้ทรงเห็นในทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์กระทำกันอยู่ประหนึ่งว่าพระองค์อยู่ร่วมกับทุกคนโดยมิได้หายไปไหน
7:8
وَٱلْوَزْنُ يَوْمَئِذٍ ٱلْحَقُّ ۚ فَمَن ثَقُلَتْ مَوَٰزِينُهُۥ فَأُو۟لَـٰٓئِكَ هُمُ ٱلْمُفْلِحُونَ
Translation: และการชั่ง(12) ในวันนั้นเป็นความจริง ผู้ใดที่ตราชูของเขาหนัก(13) ชนเหล่านี้แหละ คือผู้ที่ได้รับความสำเร็จ
Comment: (12)คือชั่งความดีและความชั่ว
Comment: (13)หมายถึงมีคุณความดีมาก เนื่องจากศรัทธาต่อนบีของพระองค์ และปฏิบัติตามบัญญัติของพระองค์
7:9
وَمَنْ خَفَّتْ مَوَٰزِينُهُۥ فَأُو۟لَـٰٓئِكَ ٱلَّذِينَ خَسِرُوٓا۟ أَنفُسَهُم بِمَا كَانُوا۟ بِـَٔايَـٰتِنَا يَظْلِمُونَ
Translation: และผู้ใดที่ตราชูของเขาเบา(14) ชนเหล่านี้แหละ คือผู้ที่ก่อความขาดทุนให้แก่ตัวของพวกเขาเอง เนื่องพวกเขาอธรรมแก่บรรดาโองการของเรา(15)
Comment: (14)คือไม่มีความดีที่ควรได้รับการเห็นชอบเนื่องจากเขาปฏิเสธศรัทธา และดำเนินชีวิตไปตามอารมณ์
Comment: (15)คือปฏิเสธโองการของเราด้วยความยโส ปราศจากการพิจารณาโดยถ่องแท้
7:10
وَلَقَدْ مَكَّنَّـٰكُمْ فِى ٱلْأَرْضِ وَجَعَلْنَا لَكُمْ فِيهَا مَعَـٰيِشَ ۗ قَلِيلًۭا مَّا تَشْكُرُونَ
Translation: และแน่นอน เราได้ให้พวกเจ้ามีที่พำนักอยู่ในแผ่นดิน และเราได้ให้มีบรรดาเครื่องยังชีพแก่พวกเจ้าในผืนแผ่นดิน ส่วนน้อยของพวกเจ้าเท่านั้นที่ขอบคุณ
7:11
وَلَقَدْ خَلَقْنَـٰكُمْ ثُمَّ صَوَّرْنَـٰكُمْ ثُمَّ قُلْنَا لِلْمَلَـٰٓئِكَةِ ٱسْجُدُوا۟ لِـَٔادَمَ فَسَجَدُوٓا۟ إِلَّآ إِبْلِيسَ لَمْ يَكُن مِّنَ ٱلسَّـٰجِدِينَ
Translation: และแน่นอน เราได้บังเกิดพวกเจ้า(16) แล้วเราได้ให้พวกเจ้าเป็นรูปร่าง(17) แล้วเราได้กล่าวแก่มลาอิกะฮ์ว่า จงสุญูด(18) แก่อาดัมเถิด แล้วพวกเขาก็สุญูดกัน นอกจากอิบลิส(19) เท่านั้น มิปรากฏว่ามันอยู่ในหมู่ผู้สุญูด
Comment: (16)หมายถึงนบีอาดัมเพราะการบังเกิดนบีอาดัมก็คือการบังเกิดพวกเจ้านั้นเอง เนื่องจากพวกเจ้านั้นมาจากนบีอาดัม
Comment: (17)คือต่อมาก็ได้ทรงให้พวกเจ้าสืบเชื้อสายจากนบีอาดัมโดยให้พวกเจ้าเป็นรูปร่างขึ้นในครรภ์ของพระนางเฮาวาอ์ และในครรภ์ของผู้เป็นมารดาสืบต่อมา
Comment: (18)คำว่า “สุญูด” ตามความหมายทางภาษานั้นคือการก้มคำนับเพื่อแสงการเคารพนบนอบ และการกราบลงบนพื้น ในการนี้จึงทำให้มี 2 ทรรศนะด้วยกันคือ ทรรศนะแรกนั้นถือเอาการก้มคำนับ เพราะถือว่าการกราบนั้นจะกระทำแก่เฉพาะอัลลอฮ์เท่านั้น ส่วนอีกทรรศนะหนึ่งถือเอาการกราบลงพื้นโดยให้เหตุผลว่า การกราบนั้นถ้าเป็นคำสั่งของอัลลอฮ์ให้กระทำแก่ผู้ใดก็ไม่ถือว่าเป็นความผิดแต่อย่างใด
Comment: (19)อิบลิสมิใช่มลาอิกะฮ์ หากแต่เป็นคนหนึ่งจากญิน
7:12
قَالَ مَا مَنَعَكَ أَلَّا تَسْجُدَ إِذْ أَمَرْتُكَ ۖ قَالَ أَنَا۠ خَيْرٌۭ مِّنْهُ خَلَقْتَنِى مِن نَّارٍۢ وَخَلَقْتَهُۥ مِن طِينٍۢ
Translation: พระองค์ตรัสว่า อะไรที่ขัดขวางเจ้ามิให้เจ้าสุญูด ขณะที่ข้าได้ใช้เจ้า มันกล่าวว่า ข้าพระองค์ดีกว่าเขา โดยที่พระองค์ทรงบังเกิดข้าพระองค์จาไฟ และได้บังเกิดเขาจากดิน
7:13
قَالَ فَٱهْبِطْ مِنْهَا فَمَا يَكُونُ لَكَ أَن تَتَكَبَّرَ فِيهَا فَٱخْرُجْ إِنَّكَ مِنَ ٱلصَّـٰغِرِينَ
Translation: พระองค์ตรัสว่า จงลงจากสวน(20) นั้นไปเสียไม่สมควรแก่เจ้าที่จะทำโอหังในนั้น จงออกไปให้พ้น แท้จริงเจ้านั้นอยู่ในหมู่ผู้ต่ำต้อย(21)
Comment: (20)หมายถึงสวนสวรรค์ที่พระองค์ทรงให้ท่านนบีอาดัมพำนักอยู่
Comment: (21)คือเนื่องจาพระองค์จะทรงลงโทษมันที่ขัดคำสั่งของพระองค์
7:14
قَالَ أَنظِرْنِىٓ إِلَىٰ يَوْمِ يُبْعَثُونَ
Translation: มันกล่าวว่า โปรดผ่อนผันข้าพระองค์จนถึงวันที่พวกเขา(22) ถูกให้ฟื้นคืนชีพด้วยเถิด
Comment: (22)หมายถึงอาดัมและลูกหลานของท่าน
7:15
قَالَ إِنَّكَ مِنَ ٱلْمُنظَرِينَ
Translation: พระองค์ตรัสว่า แท้จริงเจ้าอยู่ในหมู่ผู้ที่ได้รับการผ่อนผัน
7:16
قَالَ فَبِمَآ أَغْوَيْتَنِى لَأَقْعُدَنَّ لَهُمْ صِرَٰطَكَ ٱلْمُسْتَقِيمَ
Translation: มันกล่าวว่า ด้วยเหตุที่พระองค์ได้ทรงให้ข้าพระองค์ตกอยู่ในความหลงผิด(23) แน่นอน ข้าพระองค์จะนั่งขวางกั้นพวกเขา(24) ซึ่งทางอันเที่ยงตรงของพระองค์
Comment: (23)คือไม่ทรงอภัยโทษให้แก่มันและขับไล่มันให้ออกจากความกรุณาของพระองค์
Comment: (24)หมายถึงทำหน้าที่ชักนำพวกเขาให้ออกจากทางอันเที่ยงตรงของพระองค์
7:17
ثُمَّ لَـَٔاتِيَنَّهُم مِّنۢ بَيْنِ أَيْدِيهِمْ وَمِنْ خَلْفِهِمْ وَعَنْ أَيْمَـٰنِهِمْ وَعَن شَمَآئِلِهِمْ ۖ وَلَا تَجِدُ أَكْثَرَهُمْ شَـٰكِرِينَ
Translation: แล้วข้าพระองค์จะมายังพวกเขา จากเบื้องหน้าของพวกเขา และจากเบื้องหลังของพวกเขาและจากเบื้องขวาของพวกเขา และจากเบื้องซ้ายของพวก(25) เขา และพระองค์จะไม่พบว่าพวกเขาส่วนมากเป็นผู้ขอบคุณ
Comment: (25)หมายถึงการที่มันจะใช้เล่ห์เพทุบายทุกอย่างที่จะจูงใจให้มนุษย์กระทำชั่ว อันเป็นการฝ่าฝืนพระเจ้าของเขาหรือปฏิเสธศรัทธาในพระองค์ เพื่อที่พวกเขาจะได้เป็นเชื้อเพลิงแห่งนรกเช่นเดียวกับมัน ทั้งนี้เป็นการแก้แค้นที่ท่านนบีอาดัมเป็นต้นเหตุให้มันได้รับความกริ้วโกรธจากอัลลอฮ์ ในการที่พระองค์ทรงแจ้งให้มนุษย์ทราบถึงปฏิบัติการของมันนั้นเพื่อว่าพวกเขาจะได้ตระหนักและระวังตัวไว้
7:18
قَالَ ٱخْرُجْ مِنْهَا مَذْءُومًۭا مَّدْحُورًۭا ۖ لَّمَن تَبِعَكَ مِنْهُمْ لَأَمْلَأَنَّ جَهَنَّمَ مِنكُمْ أَجْمَعِينَ
Translation: พระองค์ตรัสว่า จงออกจากสวนนั้น(26) ในฐานะผู้ถูกติเตียน และถูกขับไล่ ข้าสาบานว่า(27) ผู้ใดในหมู่พวกเขาที่ปฏิบัติตามเจ้า ข้าจะบรรจุให้เต็มญะฮันนัมทั้งจากพวกเจ้าด้วยทั้งหมด
Comment: (26)หมายถึง สวนสวรรค์ที่อัลลอฮ์ทรงให้นบีอาดัมและพระของนางเฮาวาอ์พำนักอยู่ ความจริงมันมิได้รับอนุญาตให้เข้าไปอยู่ในสวนนั้น หากแต่มันเล็ดลอดเข้าไปทำการหลอกลวงนบีอาดัมให้กระทำการฝ่าฝืนอัลลอฮ์ แล้วพระองค์จึงได้ทรงขับไล่มันออก
Comment: (27)คำว่า “ข้าสาบาน” นี้เป็นความหมายของ “ลาม” ที่อยู่ในคำว่า “ละมัน” เพราะลามนี้อยู่ในตำแหน่งคำสาบาน โปรดดูใน “อัล-มะรอฆี” และใน “อัศ-ซอวีย์” ทั้งหมด
7:19
وَيَـٰٓـَٔادَمُ ٱسْكُنْ أَنتَ وَزَوْجُكَ ٱلْجَنَّةَ فَكُلَا مِنْ حَيْثُ شِئْتُمَا وَلَا تَقْرَبَا هَـٰذِهِ ٱلشَّجَرَةَ فَتَكُونَا مِنَ ٱلظَّـٰلِمِينَ
Translation: และพระองค์ตรัสว่า อาดัมเอ๋ย ! ทั้งเจ้าและคู่ครองเจ้าจงอยู่ในสวนสวรรค์นั้นเถิด แล้วจงบริโภค ณ ที่ใดก็ได้ที่เจ้าทั้งสองประสงค์ และเจ้าทั้งสองอย่าเข้าใกล้ต้นไม้ต้นนี้(มิเช่นนั้นแล้ว) เจ้าทั้งสองจะกลายเป็นผู้อยู่ในหมู่ผู้ที่อธรรม
7:20
فَوَسْوَسَ لَهُمَا ٱلشَّيْطَـٰنُ لِيُبْدِىَ لَهُمَا مَا وُۥرِىَ عَنْهُمَا مِن سَوْءَٰتِهِمَا وَقَالَ مَا نَهَىٰكُمَا رَبُّكُمَا عَنْ هَـٰذِهِ ٱلشَّجَرَةِ إِلَّآ أَن تَكُونَا مَلَكَيْنِ أَوْ تَكُونَا مِنَ ٱلْخَـٰلِدِينَ
Translation: แล้วชัยฏอนก็ได้กระซิบกระซาบแก่ทั้งสอง(28) เพื่อที่จะเผยแก่เขาทั้งสองซึ่งสิ่งที่ถูกปิดบังแก่เขาทั้งสองไว้(29) อันได้แก่ส่วนที่พึงละอาย(30) ของเขาทั้งสอง และมันได้กล่าวว่า พระเจ้าของท่านทั้งสองมิได้ทรงหวงห้ามท่านทั้งสอง ซึ่งต้นไม้ต้นนี้(มิใช่เพราะอื่นใด) นอกจากการที่ท่านทั้งสองจะกลายเป็นมลาอิกะฮ(31) หรือ ไม่ก็กลายเป็นผู้อยู่ในหมู่ผู้ที่มีชีวิตอยู่อยู่ตลอดกาลเท่านั้น(32)
Comment: (28)คือการกระซิบกระซาบแก่นบีอาดัมและพระนางเฮาวาอ์ ทั้งนี้หลังจากที่มันสามารถเข้าไปในสถานที่พำนักของท่านทั้งสอง
Comment: (29)หมายถึงว่าทั้งสองนั้นแม้ว่าจะอยู่ในสภาพเปลือยกาย แต่ก็ไม่รู้สึกมีความละอายแต่อย่างใด เนื่องจากอัลลอฮ์ยังไม่ทรงเผยให้ทั้งสองได้ประจักษ์ซึ่งความละอาย ประหนึ่งว่าสิ่งที่น่าละอายของทั้งสองนั้นถูกปกปิดอยู่
Comment: (30)หมายถึงอวัยวะเพศของทั้งสองอันถือเป็นส่วนพึงละอาย
Comment: (31)คือถ้าได้เข้าไปใกล้ต้นนี้และบริโภคผลของมันแล้วท่านทั้งสองก็จะกลายเป็นมลาอิกะฮ์ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่น่ายินดี
Comment: (32)คือถ้าไม่เป็นมลาอิกะฮ์ก็จะมีชีวิตตลอดกาลโดยไม่มีการตาย ทั้งหมดที่มันกล่าวนั้นเป็นการเสกสรรขึ้นทั้งสิ้น ไม่เป็นความจริงแต่ประการใด
7:21
وَقَاسَمَهُمَآ إِنِّى لَكُمَا لَمِنَ ٱلنَّـٰصِحِينَ
Translation: และมันได้สาบานแก่ทั้งสองนั้นว่า แน่นอน ข้าอยู่ในพวกที่แนะนำท่านทั้งสอง(33)
Comment: (33)คือเป็นผู้ปรารถนาดีจึงได้มาแนะนำท่านทั้งสอง
7:22
فَدَلَّىٰهُمَا بِغُرُورٍۢ ۚ فَلَمَّا ذَاقَا ٱلشَّجَرَةَ بَدَتْ لَهُمَا سَوْءَٰتُهُمَا وَطَفِقَا يَخْصِفَانِ عَلَيْهِمَا مِن وَرَقِ ٱلْجَنَّةِ ۖ وَنَادَىٰهُمَا رَبُّهُمَآ أَلَمْ أَنْهَكُمَا عَن تِلْكُمَا ٱلشَّجَرَةِ وَأَقُل لَّكُمَآ إِنَّ ٱلشَّيْطَـٰنَ لَكُمَا عَدُوٌّۭ مُّبِينٌۭ
Translation: แล้วเราก็ทำให้ทั้งสองนั้นตกอยู่ในสิ่งที่มันต้องการ(34) อันเนื่องจากการหลอกลวง ครั้นเมื่อทั้งสองได้ลิ้มรสต้นไม้ต้นนั้นแล้ว(35) สิ่งอันพึงละอายของเขาทั้งสอง(36) ก็เผยให้ประจักษ์แก่เขาทั้งสอง และเขาทั้งสองก็ปกปิดบน(ส่วนที่น่าละอาย)ของเขาทั้งสองจากใบไม้แห่งสวนสวรรค์(37) นั้น และพระเจ้าของเขาทั้งสองจึงได้เรียกเขาทั้งสอง(โดยตรัสว่า) ข้ามิได้ห้ามเจ้าทั้งสองเกี่ยวกับต้นไม้นั้นดอกหรือ? และข้ามิได้ตรัสแก่เจ้าทั้งสองดอกหรือว่า แท้จริงชัยฏอน(38) คือศัตรูที่ชัดแจ้งแก่เจ้าทั้งสอง
Comment: (34)คือเห็นดีเห็นชอบตามคำหลอกลวงของมัน
Comment: (35)หมายถึงลิ้มรสผลของมัน
Comment: (36)คืออวัยวะเพศของเขาทั้งสองก็ถูกเผยให้ประจักษ์แก่เขาทั้งสองว่าเป็นสิ่งที่น่าละอาย อันควรแก่การปกปิดเสียเพื่อมิให้ใครเห็น
Comment: (37)คือเก็บใบไม้กลัดติดกัน แล้วปิดร่างกายส่วนที่น่าละอายเสีย
Comment: (38)คำว่าชัยฏอนนั้นเป็นชื่อของผู้ประพฤติชั่ว และทำให้คนอื่นหลงผิดประพฤติชั่วด้วย ในฐานะที่อิบลิสประพฤติชั่วจึงถูกเรียกว่า ชัยฏอน มิใช่เพียงอิบลิสเท่านั้น พวกพ้องของมันทั้งหมดก็ถูกเรียกว่าชัยฏอนด้วย แม้แต่มนุษย์ถ้าประพฤติชั่วก็เรียกว่า ชัยฏอนเหมือนกัน
7:23
قَالَا رَبَّنَا ظَلَمْنَآ أَنفُسَنَا وَإِن لَّمْ تَغْفِرْ لَنَا وَتَرْحَمْنَا لَنَكُونَنَّ مِنَ ٱلْخَـٰسِرِينَ
Translation: เขาทั้งสองได้กล่าวว่า โอ้พระผู้อภิบาลของพวกข้าพระองค์ พวกข้าพระองค์ได้อธรรมแก่ตัวของพวกข้าพระองค์เอง และถ้าพระองค์ไม่ทรงอภัยโทษแก่พวกข้าพระองค์และเอ็นดูเมตตาแก่ข้าพระองค์แล้ว แน่นอนพวกข้าพระองค์ก็ต้องกลายเป็นพวกที่ขาดทุน
7:24
قَالَ ٱهْبِطُوا۟ بَعْضُكُمْ لِبَعْضٍ عَدُوٌّۭ ۖ وَلَكُمْ فِى ٱلْأَرْضِ مُسْتَقَرٌّۭ وَمَتَـٰعٌ إِلَىٰ حِينٍۢ
Translation: พระองค์ตรัสว่า พวกเจ้าจงลง(39) กันไปโดยที่บางส่วนของพวกเจ้า(40) คือ ศัตรูกับอีกบางส่วนและในแผ่นดินนั้นมีที่พำนักและสิ่งอำนวยประโยชน์สำหรับพวกเจ้าจนถึงระยะเวลาหนึ่ง(41)
Comment: (39)คืออัลลอฮ์ทรงใช้นบีอาดัม, พระนางเฮาวาอ์ และอิบลีส ให้ออกจากสวนสวรรค์ลงไปสู่โลก ส่วนที่ว่าจะลงมาด้วยวิธีใดนั้นเป็นการง่ายแก่ระองค์จะทรงให้ลงมา
Comment: (40)หมายถึงลูกหลานของอาดัม และพวกพ้องของอิบลิสนั้นต่างเป็นศัตรูซึ่งกันและกันในการมีชีวิตอยู่ในโลก
Comment: (41)คือจนกว่าจะสิ้นชีวิต
7:25
قَالَ فِيهَا تَحْيَوْنَ وَفِيهَا تَمُوتُونَ وَمِنْهَا تُخْرَجُونَ
Translation: พระองค์ตรัสว่า ในแผ่นดินนั้นแหละพวกเจ้าจะมีชีวิตอยู่ และในแผ่นดินนั้นแหละพวกเจ้าจะตาย และจากแผ่นดินนั้นและพวกเจ้าจะถูกออกมาอีก(42)
Comment: (42)คือให้ออกมาจากดินในการฟื้นคืนชีพ
7:26
يَـٰبَنِىٓ ءَادَمَ قَدْ أَنزَلْنَا عَلَيْكُمْ لِبَاسًۭا يُوَٰرِى سَوْءَٰتِكُمْ وَرِيشًۭا ۖ وَلِبَاسُ ٱلتَّقْوَىٰ ذَٰلِكَ خَيْرٌۭ ۚ ذَٰلِكَ مِنْ ءَايَـٰتِ ٱللَّهِ لَعَلَّهُمْ يَذَّكَّرُونَ
Translation: ลูกหลานอาดัมเอ๋ย! แท้จริงเราได้ให้ลงมาแก่พวกเจ้าแล้ว ซึ่งเครื่องนุ่งห่ม(43) ทีปกปิดส่วนที่น่าละอายของพวกเจ้า และเครื่องนุ่งห่มที่ให้ความสวยงาม(44) และเครื่องนุ่งห่มแห่งความยำเกรง(45) นั่นคือสิ่งที่ดียิ่ง(46) นั่นแหละคือส่วนหนึ่งจากบรรดาโองการของอัลลอฮ์เพื่อที่ว่าเขาเหล่านั้นจะได้รำลึก
Comment: (43)หมายถึงปัจจัยที่จะนำมาใช้ประกอบเป็นเครื่องนุ่งห่ม แต่ที่ใช้ถ้อยคำว่า “เครื่องนุ่งห่ม” นั้นคำนึงถึงการที่จะได้นำปัจจัยเหล่านั้นมาประกอบให้เป็นรูปสำเร็จ และเมื่อได้ประกอบเป็นเครื่องนุ่งห่มแล้ว เราก็พูดได้อย่างถูกต้องว่าเป็นสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงประทานมาให้
Comment: (44)ความหายนี้แปลจากคำว่า “รีชุน” ความเดิมแปลว่า “ขนนก” โดยที่ขนนกได้หุ้มห่อนกให้มีความสวยงามจึงนิยมเอาคำนี้มาใช้แทน “เครื่องแต่งกายที่สวยงาม”
Comment: (45)หมายถึงการอีมาน และการปฏิบัติตามบัญญัติศาสนา เพราะผู้ที่มีลักษณะดังกล่าวนั้นย่อมเป็นผู้ที่น่ารักน่านับถือ เปรียบเสมือนผู้แต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สะอาดและสวยงาม เจริญตาเจริญใจ
Comment: (46)คือดียิ่งกว่าเครื่องนุ่มห่มอื่น ๆ อนึ่ง การที่อัลลอฮ์ทรงระบุว่า ให้นบีอาดัมอยู่ในแผ่นดินนั้นเป็นการชี้ขาดว่าในตอนแรกนั้นอาดัมมิได้อยู่ในแผ่นดิน ถ้าสมมุติว่าสวนที่ท่านนบีอาดัมพำนักอยู่ในตอนแรกเป็นสวนที่อยู่ในโลกนี้แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องระบุที่ใหม่ที่ทรงให้นบีอาดัมอยู่ว่าเป็นแผ่นดิน เพราะขณะที่อยู่ในสวนนั้นก็อยู่ในแผ่นดินแล้ว ดังนั้นการระบุแผ่นดินอันเป็นที่อยู่ใหม่ของนบีอาดัมจึงเป็นหลักฐานยืนยันว่า สวนที่ท่านนบีอาดัมอยู่ในตอนเริ่มแรกหาใช่ในโลกนี้ไม่
7:27
يَـٰبَنِىٓ ءَادَمَ لَا يَفْتِنَنَّكُمُ ٱلشَّيْطَـٰنُ كَمَآ أَخْرَجَ أَبَوَيْكُم مِّنَ ٱلْجَنَّةِ يَنزِعُ عَنْهُمَا لِبَاسَهُمَا لِيُرِيَهُمَا سَوْءَٰتِهِمَآ ۗ إِنَّهُۥ يَرَىٰكُمْ هُوَ وَقَبِيلُهُۥ مِنْ حَيْثُ لَا تَرَوْنَهُمْ ۗ إِنَّا جَعَلْنَا ٱلشَّيَـٰطِينَ أَوْلِيَآءَ لِلَّذِينَ لَا يُؤْمِنُونَ
Translation: ลูกหลานของอาดัมเอ๋ย! จงอย่าให้ชัยฏอนหลอกลวงพวกเจ้า เช่นเดียวกับที่มันได้ให้พ่อแม่ของพวกเจ้า(47) ออกจากสวนสวรรค์มาแล้ว โดยที่มันได้ถอดเครื่องนุ่งห่ม(48) ของเขาทั้งสองออกเพื่อที่จะให้เขาทั้งสองเห็นส่วนที่น่าละอาย(49) ของเขาทั้งสอง แท้จริงทั้งมัน และเผ่าพันธุ์ของมันมองเห็นพวกเจ้า โดยที่พวกเจ้าไม่เห็นพวกมัน แท้จริง เราได้ให้บรรดาชัยฏอนเป็นเพื่อนกับบรรดาผู้ที่ไม่ศรัทธา
Comment: (47)หมายถึงท่านนบีอาดัม และพระนางเฮาวาอ์
Comment: (48)คือเป็นการเปรียบเทียบผู้ที่ยังไม่รู้สึกมีความละอายในสภาพที่เปลือยกายอยู่ เป็นว่าประหนึ่งคนที่สวมเครื่องนุ่งห่มกระนั้น ต่อเมื่อได้บริโภคผลไม้ที่ต้องห้ามเข้าไปเนื่องจากการหลอกลวงของชัยฏอน จึงทำให้รู้สึกละอายที่เปลือยกายอยู่ ในการนี้จึงประหนึ่งว่าชัยฏอนได้ถอดเครื่องนุ่งห่มของพวกท่านทั้งสอง
Comment: (49)คือเห็นอวัยวะเพศเปลือยเปล่าซึ่งเป็นสิ่งที่น่าละอาย
7:28
وَإِذَا فَعَلُوا۟ فَـٰحِشَةًۭ قَالُوا۟ وَجَدْنَا عَلَيْهَآ ءَابَآءَنَا وَٱللَّهُ أَمَرَنَا بِهَا ۗ قُلْ إِنَّ ٱللَّهَ لَا يَأْمُرُ بِٱلْفَحْشَآءِ ۖ أَتَقُولُونَ عَلَى ٱللَّهِ مَا لَا تَعْلَمُونَ
Translation: และเมื่อพวกเขากระทำสิ่งชั่วช้าน่ารังเกียจ(50) พวกเขาก็กล่าวว่า พวกเราได้พบเห็นบรรดาบรรพบุรุษของพวกเราเคยกระทำมา และอัลลอฮ์ก็ทรงใช้พวกเราให้กระทำมันด้วย(51) จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่าแท้จริงอัลลอฮ์นั้นไม่ทรงใช้ให้กระทำสิ่งชั่วช้าน่ารังเกียจดอก พวกท่านจะกล่าวให้ร้ายแก่อัลลอฮ์ในสิ่งที่พวกเจ้าไม่รู้กระนั้นหรือ?
Comment: (50)เช่น การเปลือยกายเดินเวียนรอบกะอ์บะฮ์ เป็นต้น
Comment: (51)หมายความว่า การที่พวกเขากระทำกันอยู่โดยที่อัลลอฮ์มิได้ทรงลงโทษพวกเขานั้นแสดงว่าเขาทำถูกต้องและอัลลอฮ์ทรงใช้ให้พวกเขาทำ
7:29
قُلْ أَمَرَ رَبِّى بِٱلْقِسْطِ ۖ وَأَقِيمُوا۟ وُجُوهَكُمْ عِندَ كُلِّ مَسْجِدٍۢ وَٱدْعُوهُ مُخْلِصِينَ لَهُ ٱلدِّينَ ۚ كَمَا بَدَأَكُمْ تَعُودُونَ
Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่า พระผู้อภิบาลของฉันได้ทรงสั่งให้มีความยุติธรรม และพวกเจ้าจงให้ตรงซึ่งใบหน้า(52) ของพวกเจ้า ณ ทุกมัสยิด และจงวินวอนต่อพระองค์ในฐานะผู้มอบอิบาดะฮ์ทั้งหลายแด่พระองค์โดยบริสุทธิ์ใจ เช่นเดียวกับที่พระองค์ได้ทรงบังเกิดพวกเจ้าแต่แรกนั้น พวกเจ้าก็จะกลับไป(53)
Comment: (52)หมายถึงจิตใจด้วย ในทำนองเดียวกับคำว่ามุ่งหน้าไป หมายถึงจิตใจมุ่งด้วย ดังนั้นคำว่า “จงให้เที่ยงตรงซึ่งใบหน้า” นั้นจึงหมายถึงให้ทั้งใบหน้าและจิตใจมุ่งสู่อัลลอฮ์โดยเที่ยงตรงขณะประกอบอิบาดะฮ์ในทุกมัสยิด
Comment: (53)คือกลับไปหาอัลลอฮ์ในวันกิยามะฮ์
7:30
فَرِيقًا هَدَىٰ وَفَرِيقًا حَقَّ عَلَيْهِمُ ٱلضَّلَـٰلَةُ ۗ إِنَّهُمُ ٱتَّخَذُوا۟ ٱلشَّيَـٰطِينَ أَوْلِيَآءَ مِن دُونِ ٱللَّهِ وَيَحْسَبُونَ أَنَّهُم مُّهْتَدُونَ
Translation: พวกหนึ่งพระองค์ทรงนำทางให้(54) และอีกพวกหนึ่งสมควรแก่พวกเขาแล้วซึ่งการหลงผิด(55) แท้จริง พวกเขาได้ยึดเอาบรรดาชัยฏอนเป็นผู้คุ้มครอง(56) อื่นจากอัลลอฮ์และพวกเขาคิดว่าพวกเขาคือผู้ที่ได้รับแนวทางที่ถูกต้อง
Comment: (54)หมายถึงพวกนั้นรับการนำทางแห่งนบีของอัลลอฮ์
Comment: (55)เพราะพวกเขาดื้อรั้นไม่ยอมศรัทธาต่อนบีของพระองค์
Comment: (56)ด้วยเหตุนี้จึงสมควรแล้วที่อยู่ในความหลงผิด เพราะชัยฏอนไม่ใช่ผู้คุ้มครอง หากแต่เป็นผู้ชักนำให้หลงผิด เมื่อพวกเขาเอาชัยฏอนเป็นผู้คุ้มครอง พวกเขาก็ย่อมไปสู่ทางที่หลงผิดอย่างแน่นอน
7:31
۞ يَـٰبَنِىٓ ءَادَمَ خُذُوا۟ زِينَتَكُمْ عِندَ كُلِّ مَسْجِدٍۢ وَكُلُوا۟ وَٱشْرَبُوا۟ وَلَا تُسْرِفُوٓا۟ ۚ إِنَّهُۥ لَا يُحِبُّ ٱلْمُسْرِفِينَ
Translation: ลูกหลานของอาดัมเอ๋ย!(57) จงเอา เครื่องประดับกาย(58) ของพวกเจ้า ณ ทุกมัสยิด และจงกินและจงดื่ม และจงอย่าฟุ่มเฟือย แท้จริง พระองค์ไม่ชอบบรรดาผู้ที่ฟุ่มเฟือย
Comment: (57)คือให้ถือปฏิบัติเป็นเนืองนิจ
Comment: (58)หมายถึงการสวมเครื่องนุ่งห่มให้เรียบร้อยขณะไปยังทุก ๆ มัสยิด
7:32
قُلْ مَنْ حَرَّمَ زِينَةَ ٱللَّهِ ٱلَّتِىٓ أَخْرَجَ لِعِبَادِهِۦ وَٱلطَّيِّبَـٰتِ مِنَ ٱلرِّزْقِ ۚ قُلْ هِىَ لِلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ فِى ٱلْحَيَوٰةِ ٱلدُّنْيَا خَالِصَةًۭ يَوْمَ ٱلْقِيَـٰمَةِ ۗ كَذَٰلِكَ نُفَصِّلُ ٱلْـَٔايَـٰتِ لِقَوْمٍۢ يَعْلَمُونَ
Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่า ผู้ใดเล่าที่ให้เป็นที่ต้องห้ามซึ่งเครื่องประดับร่างกาย(59) จากอัลลอฮ์ที่พระองค์ได้ทรงให้ออกมาสำหรับปวงบ่าวของพระองค์ และบรรดาสิ่งดีๆ จากปัจจัยยังชีพ จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่าสิ่งเหล่านั้นสำหรับบรรดาผู้ที่ศรัทธา(60) ในชีวิตความเป็นอยู่แห่งโลกนี้ (และเป็นของพวกเขา) โดยเฉพาะ(61) ในวันกิยามะฮ์ ในทำนองนั้นแหละเราจะแจกแจงโองการทั้งหลายแก่ผู้ที่รู้(62)
Comment: (59)หมายถึง เครื่องแต่งตัวเพื่อให้มีสภาพเรียบร้อย ไม่เป็นที่รังเกียจแก่ผู้ที่ร่วมอยู่ด้วยหรือผู้พบเห็น
Comment: (60)และผู้ที่ไม่ศรัทธาด้วย
Comment: (61)คือในวันอาคีเราะฮ์ (ปรโลก) จะได้แก่ผู้ที่ศรัทธาโดยเฉพาะ คนปฏิเสธศรัทธาจะไม่มีส่วนได้เลย
Comment: (62)คือด้วยการใช้สติปัญญา และยอมรับความจริง
7:33
قُلْ إِنَّمَا حَرَّمَ رَبِّىَ ٱلْفَوَٰحِشَ مَا ظَهَرَ مِنْهَا وَمَا بَطَنَ وَٱلْإِثْمَ وَٱلْبَغْىَ بِغَيْرِ ٱلْحَقِّ وَأَن تُشْرِكُوا۟ بِٱللَّهِ مَا لَمْ يُنَزِّلْ بِهِۦ سُلْطَـٰنًۭا وَأَن تَقُولُوا۟ عَلَى ٱللَّهِ مَا لَا تَعْلَمُونَ
Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่า แท้จริง สิ่งที่พระเจ้าของฉันทรงห้ามนั้น คือบรรดาสิ่งที่ชั่วช้าน่ารังเกียจ(63) ทั้งเป็นสิ่งที่เปิดเผยจากมันและสิ่งที่ไม่เปิดเผย และสิ่งที่เป็นบาป(64) และการข่มเหงรังแกโดยไม่เป็นธรรม(65) และการที่พวกเจ้าให้เป็นภาคีแก่อัลลอฮ์ซึ่งสิ่งที่พระองค์มิได้ทรงประทานหลักฐานใดๆ ลงมาแก่สิ่งนั้น(66) และการที่พวกเจ้ากล่าวให้ร้าย(67) แก่อัลลอฮ์ในสิ่งที่พวกเจ้าไม่รู้
Comment: (63)เช่นการทำซินา การข่มขืนชำเรา การฆ่ากัน และการจี้ปล้น เป็นต้น
Comment: (64)คือการฝ่าฝืนบัญญัติศาสนาโดยทั่วไป
Comment: (65)คำว่า “โดยไม่เป็นธรรม” นั้นเป็นการย้ำคำที่ว่า “การข่มเหงรังแก”
Comment: (66)คือมิได้ทรงมีหลักฐานยืนยันว่าสิ่งนั้นเป็นภาคีกับพระองค์ ที่กล่าวเช่นนี้เพียงเพื่อแสดงว่าพวกเรากระทำด้วยพละการเท่านั้น ความจริงแล้วไม่มีสิ่งใดเป็นภาคีแก่พระองค์ทั้งสิ้น
Comment: (67)คืออุตริกระทำสิ่งหนึ่งขึ้น แล้วอ้างว่าเป็นศาสนาของอัลลอฮ์ ปฏิบัติการดังกล่าวนี้ถือเป็นการให้ร้ายแก่พระองค์
7:34
وَلِكُلِّ أُمَّةٍ أَجَلٌۭ ۖ فَإِذَا جَآءَ أَجَلُهُمْ لَا يَسْتَأْخِرُونَ سَاعَةًۭ ۖ وَلَا يَسْتَقْدِمُونَ
Translation: และสำหรับแต่ละประชาชาติมีกำหนดเวลาหนึ่ง(68) ครั้นเมื่อกำหนดเวลาของพวกเขามา พวกเขาจะขอให้ล่าช้าไปสักชั่วโมงหนึ่งก็ไม่ได้ และจะขอให้เร็วไป (สักชั่วโมงหนึ่ง) ก็ไม่ได้
Comment: (68)คือกำหนดเวลาแห่งการมีเกียรติและไร้เกียรติ และกำหนดเวลาแห่งการสิ้นสุดแห่งประชาชาตินั้น ทั้งนี้ย่อมเป็นไปตามกฎแห่งการกำหนดสภาวะของพระองค์
7:35
يَـٰبَنِىٓ ءَادَمَ إِمَّا يَأْتِيَنَّكُمْ رُسُلٌۭ مِّنكُمْ يَقُصُّونَ عَلَيْكُمْ ءَايَـٰتِى ۙ فَمَنِ ٱتَّقَىٰ وَأَصْلَحَ فَلَا خَوْفٌ عَلَيْهِمْ وَلَا هُمْ يَحْزَنُونَ
Translation: ลูกหลานอาดัมเอ๋ย! ถ้ามีบรรดาร่อซูลในหมู่พวกเจ้ามายังพวกเจ้าโดยบอกเล่าโองการของข้าแก่พวกเจ้าแล้ว ผู้ใดที่ยำเกรงและปรับปรุงแก้ไขแล้วก็ไม่มีความหวาดกลัวใดๆ แก่พวกเขา และทั้งพวกเขาก็จะไม่เสียใจ
7:36
وَٱلَّذِينَ كَذَّبُوا۟ بِـَٔايَـٰتِنَا وَٱسْتَكْبَرُوا۟ عَنْهَآ أُو۟لَـٰٓئِكَ أَصْحَـٰبُ ٱلنَّارِ ۖ هُمْ فِيهَا خَـٰلِدُونَ
Translation: และบรรดาผู้ที่ปฏิเสธโองการทั้งหลายของเรา และแสดงโอหังเหล่านั้น ชนเหล่านี้แหละคือชาวนรกโดยที่พวกเขาจะอยู่ในนรกนั้นตลอดกาล
7:37
فَمَنْ أَظْلَمُ مِمَّنِ ٱفْتَرَىٰ عَلَى ٱللَّهِ كَذِبًا أَوْ كَذَّبَ بِـَٔايَـٰتِهِۦٓ ۚ أُو۟لَـٰٓئِكَ يَنَالُهُمْ نَصِيبُهُم مِّنَ ٱلْكِتَـٰبِ ۖ حَتَّىٰٓ إِذَا جَآءَتْهُمْ رُسُلُنَا يَتَوَفَّوْنَهُمْ قَالُوٓا۟ أَيْنَ مَا كُنتُمْ تَدْعُونَ مِن دُونِ ٱللَّهِ ۖ قَالُوا۟ ضَلُّوا۟ عَنَّا وَشَهِدُوا۟ عَلَىٰٓ أَنفُسِهِمْ أَنَّهُمْ كَانُوا۟ كَـٰفِرِينَ
Translation: แล้วผู้ใดเล่าคือผู้ที่อธรรมยิ่งกว่าผู้ที่อุปโลกน์ความเท็จให้แก่อัลลอฮ์หรือปฏิเสธบรรดาโองการของพระองค์(69) ชนเหล่านี้แหละส่วนของพวกเขาที่ถูกกำหนดไว้(70) ก็จะได้แก่พวกเขา จนกว่าบรรดาทูตของเราที่จะเอาชีวิตของพวกเขาได้มายังพวกเขา โดยกล่าวว่า ไหนเล่าสิ่ง(71) ที่พวกท่านวิงวอนขออื่นจากอัลลอฮ์? พวกเขาก็กล่าวว่า เขาเหล่านั้นได้หายหน้าไปจากเราเสียแล้ว และพวกเขาได้ยืนยันแก่ตัวพวกเขาเองว่า พวกเขานั้นเป็นผู้ปฏิเสธการศรัทธา
Comment: (69)กล่าวคือไม่มีใครอีกแล้วที่จะอธรรมยิ่งกว่า
Comment: (70)คือส่วนของเขาเกี่ยวกับปัจจัยยังชีพและอื่น ๆ ที่ถูกกำหนดไว้ให้แก่พวกเขาตามกฎแห่งการกำหนดสภาวะก็จะได้แก่พวกเขา ทั้งนี้ตามกำลังความสามารถและความรู้ของพวกเขาแต่ละคน
Comment: (71)หมายถึงบรรดาเจว็ด กล่าวคือไหนเล่าบรรดาเจว็ดที่พวกท่านวิงวอนขออื่นจากอัลลอฮ์ โดยเข้าใจว่าเจว็ดเหล่านั้นจะให้ความช่วยเหลือได้
7:38
قَالَ ٱدْخُلُوا۟ فِىٓ أُمَمٍۢ قَدْ خَلَتْ مِن قَبْلِكُم مِّنَ ٱلْجِنِّ وَٱلْإِنسِ فِى ٱلنَّارِ ۖ كُلَّمَا دَخَلَتْ أُمَّةٌۭ لَّعَنَتْ أُخْتَهَا ۖ حَتَّىٰٓ إِذَا ٱدَّارَكُوا۟ فِيهَا جَمِيعًۭا قَالَتْ أُخْرَىٰهُمْ لِأُولَىٰهُمْ رَبَّنَا هَـٰٓؤُلَآءِ أَضَلُّونَا فَـَٔاتِهِمْ عَذَابًۭا ضِعْفًۭا مِّنَ ٱلنَّارِ ۖ قَالَ لِكُلٍّۢ ضِعْفٌۭ وَلَـٰكِن لَّا تَعْلَمُونَ
Translation: พระองค์ตรัสว่า พวกเจ้าจงเข้าไปในหมู่ประชาชาติที่ได้ล่วงลับมาก่อนพวกเจ้าทั้งที่เป็นญิน (บังเกิดมาจากไฟ) และมนุษย์ ซึ่งอยู่ในไฟนรกนั้นเถิด ทุกครั้งที่มีกลุ่มชนหนึ่งเข้าไป พวกเขาก็สาปแช่งพี่น้องของพวกเขา(72) จนกระทั่งเมื่อพวกเขาได้ไปทันกันในไฟนรกนั้นทั้งหมด แล้วกลุ่มหลังสุดของพวก เขาก็กล่าวแก่กลุ่มแรกของพวกเขาว่า โอ้พระผู้อภิบาลของข้าพระองค์ ชนเหล่านี้แหละได้ทำให้พวกข้าพระองค์หลงผิด ดังนั้นโปรดได้ทรงนำมาแก่พวกเขา ซึ่งการลงโทษสองเท่าจากไฟนรกด้วยเถิด พระองค์ตรัสว่า แต่ละกลุ่มนั้นจะได้รับสองเท่า แต่ทว่าพวกเจ้าไม่รู้
Comment: (72)คือเมื่อได้เข้าไปพบพวกพ้องที่เชื่อถืออย่างเดียวกันก็รู้สึกโกรธเคืองและสาปแช่งพวกเขา ทั้งนี้เนื่องจากเข้าใจว่า เขาเหล่านั้นเองเป็นแบบฉบับอันเลวที่ทำให้พวกเขาดำเนินตาม อันเป็นเหตุให้พวกเขาต้องเข้าสู่ไฟนรกด้วย อนึ่งคำว่า “พี่น้อง” นั้นหมายถึงบรรดาผู้ที่เชื่อถือและดำเนินชีวิตแบบเดียวกัน มิใช่พี่น้องพ่อแม่เดียวกันแต่อย่างใด
7:39
وَقَالَتْ أُولَىٰهُمْ لِأُخْرَىٰهُمْ فَمَا كَانَ لَكُمْ عَلَيْنَا مِن فَضْلٍۢ فَذُوقُوا۟ ٱلْعَذَابَ بِمَا كُنتُمْ تَكْسِبُونَ
Translation: และกลุ่มแรกของพวกเขา ได้กล่าวแก่กลุ่มหลังว่า พวกท่านไม่มีความที่เด่นใดๆ เหนือพวกเรา ดังนั้นพวกท่านจงชิมการลงโทษ เนื่องด้วยสิ่งที่พวกเจ้าแสวงหากันไว้เถิด
7:40
إِنَّ ٱلَّذِينَ كَذَّبُوا۟ بِـَٔايَـٰتِنَا وَٱسْتَكْبَرُوا۟ عَنْهَا لَا تُفَتَّحُ لَهُمْ أَبْوَٰبُ ٱلسَّمَآءِ وَلَا يَدْخُلُونَ ٱلْجَنَّةَ حَتَّىٰ يَلِجَ ٱلْجَمَلُ فِى سَمِّ ٱلْخِيَاطِ ۚ وَكَذَٰلِكَ نَجْزِى ٱلْمُجْرِمِينَ
Translation: แท้จริงบรรดาผู้ปฏิเสธโองการต่างๆ ของเรา และได้แสดงโอหังต่อโองการเหล่านั้น(73) บรรดาประตูแห่งฟากฟ้าจะไม่ถูกเปิดให้แก่พวกเขา(74) และพวกเขาจะไม่ได้เข้าสวรรค์ จนกว่าอูฐจะลอดเข้าไปในรูเข็มได้(75) และในทำนองนั้นแหละ เราจะตอบแทน(ลงโทษ) แก่ผู้กระทำความผิด
Comment: (73)คือเห็นว่าการศรัทธาต่อโองการเหล่านั้นจะทำให้พวกเขาต่ำต้อย
Comment: (74)คือในการที่วิญญาณของพวกเขาจะถูกนำขึ้นไป
Comment: (75)คือ เป็นสำนวนที่แจ้งให้ทราบว่าพวกเขาจะต้องอยู่ในนรกตลอดกาล ไม่มีทางที่จะเข้าสวรรค์ได้ เพราะเงื่อนไขแห่งเวลาที่เขาจะได้เข้าสวรรค์นั้นคืออูฐสามารถลอดเข้ารูเข็มได้ และก็อูฐนั้นไม่มีทางที่จะลอดรูเข็มได้เป็นอันขาด อย่างไรก็ดีพวกก็อดยานีย์ที่อ้างว่า กาฟิรจะได้เข้าสวรรค์” นั้นได้อธิบายบิดเบือนว่า “คือพวกเขาต้องถูกลงโทษก่อน” กุรอานมะญีด เล่าที่ 1 หน้าที่ 341 อายะฮ์ที่ 40
7:41
لَهُم مِّن جَهَنَّمَ مِهَادٌۭ وَمِن فَوْقِهِمْ غَوَاشٍۢ ۚ وَكَذَٰلِكَ نَجْزِى ٱلظَّـٰلِمِينَ
Translation: สำหรับพวกเขานั้น คือ ที่นอนจากนรกญะฮันนัม และจากเบื้องบนของพวกเขานั้น มีสิ่งคลุมครอบอยู่(76) และในทำนองนั้นแหละเราจะตอบแทนลงโทษแก่บรรดาผู้อธรรม
Comment: (76)คือ มีเปลวไฟลุกท่วมเขาอยู่ เหมือนสิ่งคลุมครอบเขา
7:42
وَٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ وَعَمِلُوا۟ ٱلصَّـٰلِحَـٰتِ لَا نُكَلِّفُ نَفْسًا إِلَّا وُسْعَهَآ أُو۟لَـٰٓئِكَ أَصْحَـٰبُ ٱلْجَنَّةِ ۖ هُمْ فِيهَا خَـٰلِدُونَ
Translation: และบรรดาผู้ที่ศรัทธาและประกอบสิ่งที่ดีทั้งหลายเราไม่บังคับชีวิตใด นอกจากที่ชีวิตนั้นมีความสามารถเท่านั้น(77) ชนเกล่านี้แหละคือชาวสวรรค์ โดยที่พวกเขาจะพำนักอยู่ในสวรรค์ชั่วนิรันดร์
Comment: (77)เป็นประโยคแทรก ทั้งนี้เพื่อแจ้งให้ทราบว่า แต่ละชีวิตนั้นจะไม่ถูกบังคับให้กระทำ นอกจากเท่าที่ชีวิตนั้นสามารถเท่านั้น
7:43
وَنَزَعْنَا مَا فِى صُدُورِهِم مِّنْ غِلٍّۢ تَجْرِى مِن تَحْتِهِمُ ٱلْأَنْهَـٰرُ ۖ وَقَالُوا۟ ٱلْحَمْدُ لِلَّهِ ٱلَّذِى هَدَىٰنَا لِهَـٰذَا وَمَا كُنَّا لِنَهْتَدِىَ لَوْلَآ أَنْ هَدَىٰنَا ٱللَّهُ ۖ لَقَدْ جَآءَتْ رُسُلُ رَبِّنَا بِٱلْحَقِّ ۖ وَنُودُوٓا۟ أَن تِلْكُمُ ٱلْجَنَّةُ أُورِثْتُمُوهَا بِمَا كُنتُمْ تَعْمَلُونَ
Translation: และเราได้ถอนออก(78) ซึ่งการผูกใจเจ็บที่อยู่ในหัวอกของพวกเขา (คือชาวสวรรค์) โดยมีบรรดาแม่น้ำไหลอยู่ภายใต้ของพวกเขา(79) และพวกเขาได้กล่าวว่า การสรรเสริญทั้งหลายนั้นเป็นสิทธิของอัลลอฮ์ผู้ทรงนำทางพวกเราให้ได้รับสิ่งนี้(80) และใช่ว่าพวกเราจะได้รับคำนำทางก็หาไม่ หากว่าอัลลอฮ์ไม่ทรงนำทางแก่พวกเรา แน่นอนบรรดาร่อซูลแห่งพระผู้อภิบาลของเรานั้นได้นำความจริงมา(81) และพวกเราได้ถูกป่าวร้องว่า(82) นั้นแหละคือ สวนสวรรค์โดยที่พวกท่านได้รับมันไว้เป็นมรดก เนื่องด้วยสิ่งที่พวกเจ้าเคยกระทำกันไว้
Comment: (78)คือ ถอนออกจากผู้ที่เป็นชาวสวรรค์
Comment: (79)คือ สวนสวรรค์อันเป็นที่พำนักของพวกเขานั้น มีแม่น้ำไหลผ่าน คำว่า “ไหลอยู่ภายใต้พวกเขา” นั้น เนื่องจากพวกเขาพำนักอยู่สูงกว่าระดับพื้น ของสวนสวรรค์ ในการนี้แม่น้ำจึงอยู่ในระดับต่ำกว่าพวกเขา
Comment: (80)หมายถึง สวนสวรรค์
Comment: (81)คือ ชาวสวรรค์ได้ปรารภกันว่าที่พวกเราได้เข้าสวรรค์นั้นก็เนื่องจากบรรดาร่อซูลของอัลลอฮ์ได้นำความจริงจากพระองค์มาแจ้งแก่พวกเรา และพวกเราก็เชื่อ
Comment: (82)คือ ขณะที่อยู่ในสวนสวรรค์
7:44
وَنَادَىٰٓ أَصْحَـٰبُ ٱلْجَنَّةِ أَصْحَـٰبَ ٱلنَّارِ أَن قَدْ وَجَدْنَا مَا وَعَدَنَا رَبُّنَا حَقًّۭا فَهَلْ وَجَدتُّم مَّا وَعَدَ رَبُّكُمْ حَقًّۭا ۖ قَالُوا۟ نَعَمْ ۚ فَأَذَّنَ مُؤَذِّنٌۢ بَيْنَهُمْ أَن لَّعْنَةُ ٱللَّهِ عَلَى ٱلظَّـٰلِمِينَ
Translation: และชาวสวรรค์ได้ร้องเรียกชาวนรก(83) ว่าแท้จริงพวกเราได้พบแล้วว่าสิ่งที่พระผู้อภิบาลของเราได้สัญญาแก่เราไว้นั้นเป็นความจริง และพวกท่านได้พบสิ่งที่พระเจ้าของพวกท่านได้ทรงสัญญาไว้เป็นความจริงไหม? พวกเขากล่าวว่า เป็นความจริงแล้วมีผู้ประกาศคนหนึ่งได้ประกาศขึ้นในระหว่างพวกเขาว่า ขอละอ์นัต(84) ของอัลลอฮ์จงมีแต่ผู้อธรรมทั้งหลายเถิด
Comment: (83)เป็นการชี้ให้เราทราบว่า ชาวสวรรค์และชาวนรกนั้นมองเห็นกันส่วนที่ว่าจะเห็นกันในรูปใดหรือวิธีไหนนั้นย่อมเป็นไปได้ทั้งสิ้นในเดชานุภาพของอัลลอฮ์
Comment: (84)ละอ์นัต คือ การขับไล่ให้ออกจากความกรุณาเมตตาของอัลลอฮ์
7:45
ٱلَّذِينَ يَصُدُّونَ عَن سَبِيلِ ٱللَّهِ وَيَبْغُونَهَا عِوَجًۭا وَهُم بِٱلْـَٔاخِرَةِ كَـٰفِرُونَ
Translation: คือบรรดาผู้ที่ขัดขวางทางของอัลลอฮ์และปรารถนาให้ทางนั้นคดเคี้ยว(85) และต่อวันปรโลกนั้นพวกเขาปฏิเสธศรัทธา
Comment: (85)คือปรารถนาที่จะให้คำแนะนำของอัลลอฮ์เป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ ประหนึ่งทางคดที่ไม่มีการปรารถนาจะเห็น
7:46
وَبَيْنَهُمَا حِجَابٌۭ ۚ وَعَلَى ٱلْأَعْرَافِ رِجَالٌۭ يَعْرِفُونَ كُلًّۢا بِسِيمَىٰهُمْ ۚ وَنَادَوْا۟ أَصْحَـٰبَ ٱلْجَنَّةِ أَن سَلَـٰمٌ عَلَيْكُمْ ۚ لَمْ يَدْخُلُوهَا وَهُمْ يَطْمَعُونَ
Translation: และระหว่างพวกเขานั้นมีกำแพงกั้น(86) และบนส่วนสูงของกำแพงนั้นมีบรรดาชายกลุ่มหนึ่ง(87) ซึ่งพวกเขารู้จัก(พวกนั้น)(88) ทั้งหมด ด้วยเครื่องหมาย(89) ของพวกเขา (ชาวสวรรค์) และพวกเขาได้เรียกชาวสวรรค์ (โดยกล่าวว่า) ขอความปลอดภัยจงมีแด่พวกท่านเถิดโดยที่พวกเขา(90) ยังมิได้เข้าสวนสวรรค์ ทั้งๆ ที่พวกเขาก็ปรารถนาอย่างแรงกล้า
Comment: (86)คือระหว่างชาวสวรรค์และชาวนรกนั้นมีกำแพงกั้น
Comment: (87)อันได้แก่ผู้ที่ให้เอกภาพแก่อัลลอฮ์ทั้งในฐานะผู้ทรงสร้างทรงบังเกิด และในฐานะผู้ทรงเป็นที่เคารพสักการะแต่ทว่าพวกเขามีความดีและความชั่วเท่ากัน
Comment: (88)เป็นข้อความที่ถูกละไว้ อันหมายถึงผู้คนอื่น ๆ ที่มิได้อยู่บนส่วนสูงของกำแพง กล่าวคือพวกเขารู้ดีว่าใครเป็นชาวสวรรค์ และใครเป็นชาวนรก ทั้งนี้ด้วยเครื่องหมายที่ปรากฏในตัวของพวกเขา
Comment: (89)หมายถึงลักษณะแห่งความปลื้มปิติยินดี และความเศร้าสลดเสียใจที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของพวกเขากล่าวคือรู้ว่าใครจะเป็นชาวสวรรค์และชาวนรก ทั้งนี้ก่อนที่พวกเขาจะเข้าสวรรค์
Comment: (90)คือ พวกชาวสวรรค์
7:47
۞ وَإِذَا صُرِفَتْ أَبْصَـٰرُهُمْ تِلْقَآءَ أَصْحَـٰبِ ٱلنَّارِ قَالُوا۟ رَبَّنَا لَا تَجْعَلْنَا مَعَ ٱلْقَوْمِ ٱلظَّـٰلِمِينَ
Translation: และเมื่อบรรดาสายตาของพวกเขา(91) ถูกหันไปทางชาวนรก พวกเขาก็กล่าวว่า โอ้พระเจ้าของพวกข้าพระองค์ โปรดอย่าได้ทรงให้พวกข้าพระองค์ร่วมอยู่กับกลุ่มผู้อธรรมเหล่านั้นเลย
Comment: (91)พวกที่อยู่บนกำแพง
7:48
وَنَادَىٰٓ أَصْحَـٰبُ ٱلْأَعْرَافِ رِجَالًۭا يَعْرِفُونَهُم بِسِيمَىٰهُمْ قَالُوا۟ مَآ أَغْنَىٰ عَنكُمْ جَمْعُكُمْ وَمَا كُنتُمْ تَسْتَكْبِرُونَ
Translation: และบรรดาผู้ที่อยู่บนส่วนสูงของกำแพงนั้น ได้ร้องเรียกชายกลุ่มหนึ่งซึ่งพวกเขารู้จักพวกนั้นได้ด้วยเครื่องหมาย(92) ของพวกเขา (ชาวนรก) โดยกล่าวว่ามันย่อมไม่อำนวยประโยชน์แก่พวกท่านเลยซึ่งการสะสม(93) (ทรัพย์) ของพวกท่านและการที่พวกท่านหยิ่งยโส
Comment: (92)คือร้องเรียกชายกลุ่มหนึ่งที่เป็นชาวนรก ซึ่งพวกเขาเคยรู้จักมาตั้งแต่ขณะที่อยู่ในโลก และที่พวกเขารู้จักได้นั้นก็ด้วยเครื่องหมายต่าง ๆ ที่ปรากฏอยู่ในตัวของพวกเขา
Comment: (93)หมายถึงสะสมเงินทองและกำลังผู้คนด้วยความภาคภูมิใจและยโส ขณะเดียวกันก็ดูถูกเหยียดหยามบรรดามุมินที่อ่อนแอเพราะความยากจนของพวกเขา
7:49
أَهَـٰٓؤُلَآءِ ٱلَّذِينَ أَقْسَمْتُمْ لَا يَنَالُهُمُ ٱللَّهُ بِرَحْمَةٍ ۚ ٱدْخُلُوا۟ ٱلْجَنَّةَ لَا خَوْفٌ عَلَيْكُمْ وَلَآ أَنتُمْ تَحْزَنُونَ
Translation: ชนเหล่านี้ใช่ไหม(94) คือผู้ที่พวกเจ้าได้สาบานไว้ว่า อัลลอฮ์จะไม่ทรงให้พวกเขาได้รับความเอ็นดูเมตตาใดๆ พวกเจ้าจงเข้าสวรรค์กันเถิด(95) โดยปราศจากความกลัวใดๆ แก่พวกเจ้า และทั้งพวกเจ้าก็จะไม่เสียใจ
Comment: (94)คือบรรดาผู้ที่อยู่บนส่วนสูงของกำแพง หรือ อัศฮาบุลอะอ์รอฟนั้นได้ชี้ไปยังบรรดามุมินที่เคยเป็นผู้อ่อนแอมาก่อนในโลก ซึ่งบัดนี้ได้กลายเป็นชาวสวรรค์ไปแล้ว ทั้งนี้เพื่อให้กลุ่มชายที่ยโสดู โดยถามว่าชนเหล่านี้ใช่ไหม… คำถามดังกล่าวนี้เป็นการตักเตือนให้พวกเขารำลึกถึงความเลวร้ายที่พวกเขาเคยก่อขึ้นแก่ผู้อ่อนแอ แล้วบั้นปลายเป็นอย่างไร ?ใครเป็นผู้ที่ได้รับความเอ็นดูเมตตาจากอัลลอฮ์?
Comment: (95)และอัศฮาบุลอะอ์รอฟก็กล่าวใช้ให้บรรดาผู้อ่อนแอเข้าสวรรค์ ทั้งนี้เพื่อเป็นการเพิ่มความอัปยศแก่กลุ่มชนที่เคยถูกพวกเขาให้มากยิ่งขึ้นเท่านั้น มิใช่เป็นคำสั่งจริง ๆ ดอก เพราะพวกเขาไม่มีอำนาจที่จะกระทำเช่นนั้นได้ มุฟัซซิร์บางท่านกล่าวว่า ขณะที่สนทนากันนั้น ชาวสวรรค์ได้อยู่ในสวรรค์แล้ว และชาวนรกก็เข้าอยู่ในนรกแล้ว ส่วนอัศฮาบุลอะอ์รอฟนั้นยังอยู่บนส่วนสูงของกำแพงระหว่างสวรรค์และนรก และการที่มีคำสั่งใช้ให้มุมินที่เคยถูกดูหมิ่นมาเข้าสวรรค์นั้นเป็นการให้เกียรติและยกย่องพวกเขา ทรรศนะดังกล่าวนี้ระบุอยู่ในตัฟฟซีร تفسير الكريم الرحمن “ ของท่าน عبد الرحمن بن ناصر السعدي ส่วนท่าน أحمد مصطفى المراغي ซึ่งเป็นเจ้าของ تفسير المراغي นั้นมีทรรศนะว่า คำสั่งให้เข้าสวรรค์นั้นคือคำสั่งของอัลลอฮ์ให้ أصحاب الأعراف เข้าสวรรค์หลังจากที่ได้กักพวกเขาไว้บนส่วนสูงของกำแพง
7:50
وَنَادَىٰٓ أَصْحَـٰبُ ٱلنَّارِ أَصْحَـٰبَ ٱلْجَنَّةِ أَنْ أَفِيضُوا۟ عَلَيْنَا مِنَ ٱلْمَآءِ أَوْ مِمَّا رَزَقَكُمُ ٱللَّهُ ۚ قَالُوٓا۟ إِنَّ ٱللَّهَ حَرَّمَهُمَا عَلَى ٱلْكَـٰفِرِينَ
Translation: และชาวนรกได้ร้องเรียกชาวสวรรค์ว่า จงเทน้ำมาให้แก่พวกเราด้วยเถิด(96) หรือไม่ก็สิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกท่าน(97) ด้วย เขาเหล่านั้นกล่าวว่า แท้จริงอัลลอฮ์ได้ทรงให้สิ่งทั้งสองนั้นเป็นที่ต้องห้ามแก่ผู้ปฏิเสธศรัทธาทั้งหลาย
Comment: (96)เพราะพวกเขากำลังกระหายน้ำเหลือเกินเนื่องจากความร้อนจากไฟนรก
Comment: (97)อันหมายถึงเครื่องดื่มอื่น ๆ นอกเหนือจากน้ำที่อัลลอฮ์ทรงให้แก่พวกเขา
7:51
ٱلَّذِينَ ٱتَّخَذُوا۟ دِينَهُمْ لَهْوًۭا وَلَعِبًۭا وَغَرَّتْهُمُ ٱلْحَيَوٰةُ ٱلدُّنْيَا ۚ فَٱلْيَوْمَ نَنسَىٰهُمْ كَمَا نَسُوا۟ لِقَآءَ يَوْمِهِمْ هَـٰذَا وَمَا كَانُوا۟ بِـَٔايَـٰتِنَا يَجْحَدُونَ
Translation: คือบรรดาผู้ที่ยึดเอาศาสนาของพวกเขาเป็นสิ่งให้ความเพลิดเพลิน และเป็นของเล่น และชีวิตความเป็นอยู่แห่งโลกนี้ก็ได้หลอกลวงพวกเขา(98) ด้วย ดังนั้นวันนี้เราจะลืมพวกเขาบ้าง(99) ดังที่พวกเขาได้ลืมการพบกับวันของพวกเขานี้(100) และการที่พวกเขาปฏิเสธบรรดาโองการของเขา(101)
Comment: (98)คือหลอกลวงว่าชีวิตแบบเป็นอยู่นั้นเพียงโลกนี้เท่านั้น ส่วนที่ว่ามีวันปรโลกนั้นเป็นเรื่องไร้สาระ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงปฏิเสธศรัทธา และถือเอาศาสนาเป็นที่ล้อเลียนสร้างความสนุกสนานให้แก่พวกเขา
Comment: (99)คือทำประหนึ่งไม่ได้ยินคำอ้อนวอนขอความกรุณาให้ผ่อนโทษแก่พวกเขา
Comment: (100)คือวันกิยามะฮ์ ซึ่งเป็นวันที่พวกเขาจะได้พบตามที่อัลลอฮ์ได้ทรงแจ้งให้ทราบ
Comment: (101)คือลืมการลงโทษเนื่องในการที่พวกเขาปฏิเสธโองการของอัลลอฮ์
7:52
وَلَقَدْ جِئْنَـٰهُم بِكِتَـٰبٍۢ فَصَّلْنَـٰهُ عَلَىٰ عِلْمٍ هُدًۭى وَرَحْمَةًۭ لِّقَوْمٍۢ يُؤْمِنُونَ
Translation: และแท้จริงนั้นเราได้นำคัมภีร์ฉบับหนึ่ง(102) มาให้แก่พวกเขาแล้วซึ่งเราได้แจกแจงคัมภีร์นั้นด้วยความรอบรู้(103) ทั้งนี้เพื่อเป็นข้อแนวทาง และเป็นการเอ็นดูเมตตาแก่กลุ่มชนที่ศรัทธา
Comment: (102)คือ อัลกุรอาน
Comment: (103)คือความรอบรู้จากพระองค์
7:53
هَلْ يَنظُرُونَ إِلَّا تَأْوِيلَهُۥ ۚ يَوْمَ يَأْتِى تَأْوِيلُهُۥ يَقُولُ ٱلَّذِينَ نَسُوهُ مِن قَبْلُ قَدْ جَآءَتْ رُسُلُ رَبِّنَا بِٱلْحَقِّ فَهَل لَّنَا مِن شُفَعَآءَ فَيَشْفَعُوا۟ لَنَآ أَوْ نُرَدُّ فَنَعْمَلَ غَيْرَ ٱلَّذِى كُنَّا نَعْمَلُ ۚ قَدْ خَسِرُوٓا۟ أَنفُسَهُمْ وَضَلَّ عَنْهُم مَّا كَانُوا۟ يَفْتَرُونَ
Translation: เขาเหล่านั้นมิได้คอยอะไร(104) นอกจากผลสุดท้ายแห่งคัมภีร์นั้นเท่านั้น(105) วันที่ผลสุดท้ายแห่งคัมภีร์จะมานั้น บรรดาผู้ที่ได้ลืมคัมภีร์มาก่อน(106) จะกล่าวว่า แท้จริงบรรดาร่อซูลแห่งพระเจ้าของเราได้นำความจริงมาแล้ว(107) มีบรรดาผู้ที่จะขอความช่วยเหลือให้แก่พวกเราบ้างไหม ซึ่งพวกเขาจะได้ ขอความช่วยเหลือให้แก่พวกเรา หรือไม่ก็ให้พวกเราถูกนำกลับไปใหม่(108) แล้วพวกเราก็จะได้ปฏิบัติอื่นจาก(109) ที่พวกเราเคยปฏิบัติมา แน่นอนพวกเขาได้ยังความขาดทุนให้แก่ตัวของพวกเขาเอง และสิ่งที่พวกเขาอุปโลกน์ขึ้นนั้น(110) ได้หายหน้าจากพวกเขาไป(111)
Comment: (104)หมายถึงผู้ที่ปฏิเสธศรัทธา และผู้ศรัทธาที่ไม่ใส่ใจต่อบัญญัติศาสนา
Comment: (105)หมายถึงการตอบแทนลงโทษ
Comment: (106)หมายถึงทั้งผู้ที่ปฏิเสธศรัทธา และผู้ศรัทธาที่ไม่ใส่ใจ
Comment: (107)คือ แต่เราไม่ศรัทธา หรือศรัทธาแต่ไม่สนใจจะปฏิบัติตาม
Comment: (108)คือถูกนำกลับไปยังโลกอีกครั้งหนึ่งเพื่อแก้ตัว
Comment: (109)คือปฏิบัติสิ่งดีงามตามบัญญัติศาสนาอื่นจากความชั่วที่เราเคยปฏิบัติเนื่องจากความดื้อดึงของเรา
Comment: (110)คือเจว็ดที่พวกเขาอุปโลกน์ขึ้นทำการเคารพสักการะอื่นจากอัลลอฮ์
Comment: (111)คือไม่มาปรากฏตัวเพื่อช่วยเหลือพวกเขาตามที่พวกเขาคาดคิดกัน
7:54
إِنَّ رَبَّكُمُ ٱللَّهُ ٱلَّذِى خَلَقَ ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضَ فِى سِتَّةِ أَيَّامٍۢ ثُمَّ ٱسْتَوَىٰ عَلَى ٱلْعَرْشِ يُغْشِى ٱلَّيْلَ ٱلنَّهَارَ يَطْلُبُهُۥ حَثِيثًۭا وَٱلشَّمْسَ وَٱلْقَمَرَ وَٱلنُّجُومَ مُسَخَّرَٰتٍۭ بِأَمْرِهِۦٓ ۗ أَلَا لَهُ ٱلْخَلْقُ وَٱلْأَمْرُ ۗ تَبَارَكَ ٱللَّهُ رَبُّ ٱلْعَـٰلَمِينَ
Translation: แท้จริง พระเจ้าของพวกเจ้า คือ อัลลอฮ์ผู้ทรงสร้างบรรดาชั้นฟ้า และแผ่นดินภายในหกวัน แล้วสถิตย์อยู่บนบัลลังก์พระองค์ ทรงให้กลางคืนครองคลุมกลางวันในสภาพที่กลางคืนไล่ตามกลางวันโดยรวดเร็ว(112) และทรงสร้างดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์ และบรรดาดวงดาวขึ้นโดยถูกกำหนดให้กำหนดทำหน้าที่บริการ(113) ตามพระบัญชาของพระองค์ พึงรู้เถิดว่า การสร้างและกิจการทั้งหลายนั้นเป็นสิทธิของพระองค์เท่านั้น(114) มหาบริสุทธิ์อัลลอฮ์ผู้เป็นพระเจ้าแห่งสากลโลก
Comment: (112)เป็นการแสดงให้เห็นว่าโลกที่เราอาศัยอยู่นี้มีสภาพกลมซึ่งหมุนรอบตัวเองและหมุนรอบดวงอาทิตย์ อันทำให้เกิดกลางวันและกลางคืนขึ้น โดยที่กลางวันและกลางคืนมีสภาพประหนึ่งไล่ตามกันติด ๆ อย่างรวดเร็ว
Comment: (113)คือการบริการแก่มนุษย์โดยไม่คิดค่าตอบแทน
Comment: (114)คือไม่มีผู้ใดมีส่วนร่วมกับพระองค์
7:55
ٱدْعُوا۟ رَبَّكُمْ تَضَرُّعًۭا وَخُفْيَةً ۚ إِنَّهُۥ لَا يُحِبُّ ٱلْمُعْتَدِينَ
Translation: พวกเจ้าจงวิงวอนต่อพระเจ้าของพวกเจ้าในสภาพถ่อมตนและปกปิด(115) แท้จริงพระองค์ไม่ทรงชอบบรรดาผู้ที่ละเมิด
Comment: (115)คือไม่เปิดเผยให้ใครรู้เห็น
7:56
وَلَا تُفْسِدُوا۟ فِى ٱلْأَرْضِ بَعْدَ إِصْلَـٰحِهَا وَٱدْعُوهُ خَوْفًۭا وَطَمَعًا ۚ إِنَّ رَحْمَتَ ٱللَّهِ قَرِيبٌۭ مِّنَ ٱلْمُحْسِنِينَ
Translation: และพวกเจ้าอย่าก่อความเสียหายไว้ในแผ่นดิน หลังจากได้มีการปรับปรุงแกไขมันแล้ว(116) และจงวิงวอนขอต่อพระองค์ด้วยความยำเกรง(117) และความปรารถนาอันแรงกล้า(118) แท้จริงความเอ็นดูเมตตาของอัลลอฮ์นั้นใกล้แก่ผู้กระทำดีทั้งหลาย
Comment: (116)หมายถึงปรับปรุงแก้ไขความประพฤติของมนุษย์จากชั่วให้เป็นดี ทั้งนี้ด้วยคำสอนของอัลลอฮ์ และแบบอย่างของท่านนบีมุฮัมมัดการที่อัลลอฮ์ตรัสว่า “ปรับปรุงแก้ไขแผ่นดิน” นั้นเป็นการแจ้งให้ทราบถึงผลงานอันชั่วที่เกิดจากน้ำมือของมนุษย์ ดังนั้นการแก้ไขความเสียหายของแผ่นดิน จึงหมายถึงการแก้ไขและปรับปรุงความประพฤติของมนุษย์
Comment: (117)คือยำเกรงว่า พระองค์จะไม่ทรงรับในการนี้ จะช่วยให้มีการสำรวมมากยิ่งขึ้น
Comment: (118)การวิงวอนขอของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจที่จะได้รับ
7:57
وَهُوَ ٱلَّذِى يُرْسِلُ ٱلرِّيَـٰحَ بُشْرًۢا بَيْنَ يَدَىْ رَحْمَتِهِۦ ۖ حَتَّىٰٓ إِذَآ أَقَلَّتْ سَحَابًۭا ثِقَالًۭا سُقْنَـٰهُ لِبَلَدٍۢ مَّيِّتٍۢ فَأَنزَلْنَا بِهِ ٱلْمَآءَ فَأَخْرَجْنَا بِهِۦ مِن كُلِّ ٱلثَّمَرَٰتِ ۚ كَذَٰلِكَ نُخْرِجُ ٱلْمَوْتَىٰ لَعَلَّكُمْ تَذَكَّرُونَ
Translation: และพระองค์คือ ผู้ที่ทรงส่งลงมาเป็นข่าวดีเบื้องหน้าความเอ็นดูเมตตา(119) ของพระองค์จนกระทั่งเมื่อมันได้แบกเมฆ(120) อันหนักอึ้งไว้เราก็นำมันไปสู่(121) เมืองที่แห้งแล้ง แล้วเราก็ให้น้ำหลั่งลงที่เมืองนั้น แล้วเราได้ให้ผลไม้ทุกชนิดออกมาด้วยน้ำนั้น ในทำนองนั้นแหละเราจะให้บรรดาผู้ที่ตายแล้วออกมา(122) หวังว่าพวกเจ้าจะได้รำลึก
Comment: (119)หมายถึงฝน อนึ่งครั้งที่จะมีฝนตกจะต้องมีลมพัดล่วงหน้ามาก่อนเพื่อเป็นสัญญาณให้ผู้คนทราบ อันนับเป็นความกรุณาอันสำคัญยิ่ง
Comment: (120)คือได้พัดพาเมฆฝนมารวมกันไว้ในสภาพที่หนักอึ้งประหนึ่งแบกมันไว้
Comment: (121)คือให้ลมหอบเมฆฝนนั้นไป
Comment: (122)คือออกมาจากหลุมศพอย่างง่ายดายด้วยเสียงแตร เช่นเดียวกับได้ให้ผลไม้ออกด้วยน้ำฝน
7:58
وَٱلْبَلَدُ ٱلطَّيِّبُ يَخْرُجُ نَبَاتُهُۥ بِإِذْنِ رَبِّهِۦ ۖ وَٱلَّذِى خَبُثَ لَا يَخْرُجُ إِلَّا نَكِدًۭا ۚ كَذَٰلِكَ نُصَرِّفُ ٱلْـَٔايَـٰتِ لِقَوْمٍۢ يَشْكُرُونَ
Translation: และเมืองที่ดี(123) พืชของมันจะงอกออกมาด้วยอนุมัติแห่งพระผู้อภิบาลของมัน และเมืองที่ไม่ดีนั้นพืชของมันจะไม่ออกนอกจากในสภาพแกร็น(124) ในทำนองนั้นแหละ เราจะแจกแจงบรรดาโองการทั้งหลายแก่กลุ่มชนที่ขอบคุณ(125)
Comment: (123)คือเมืองที่มีดินดี
Comment: (124)คือไม่งอกเงยในสภาพที่ไม่สมบูรณ์เพราะขาดปุ๋ย และแม้จะออกผลก็ไม่ให้ประโยชน์อะไร
Comment: (125)คือกลุ่มที่ใช้ปัญญาพิจารณาแล้วพวกเขาก็ทราบในความกรุณาของพระองค์ พวกเขาจึงเป็นกลุ่มที่ขอบคุณพระองค์
7:59
لَقَدْ أَرْسَلْنَا نُوحًا إِلَىٰ قَوْمِهِۦ فَقَالَ يَـٰقَوْمِ ٱعْبُدُوا۟ ٱللَّهَ مَا لَكُم مِّنْ إِلَـٰهٍ غَيْرُهُۥٓ إِنِّىٓ أَخَافُ عَلَيْكُمْ عَذَابَ يَوْمٍ عَظِيمٍۢ
Translation: และแน่นอนเราได้ส่งนูห์ไปยังประชาชาติของเขา แล้วเขาได้กล่าวว่า โอ้ ประชาชาติของฉันจงเคารพภักดีอัลลอฮ์เถิด ไม่มีผู้ได้รับการเคารพสักการะใดๆ สำหรับพวกท่านอีกแล้วอื่นจากพระองค์ แท้จริง ฉันกลัวการลงโทษในวันอันยิ่งใหญ่จะประสบแก่พวกท่าน
7:60
قَالَ ٱلْمَلَأُ مِن قَوْمِهِۦٓ إِنَّا لَنَرَىٰكَ فِى ضَلَـٰلٍۢ مُّبِينٍۢ
Translation: บรรดาชนชั้นนำในหมู่ประชาชนของเขา(126) ได้กล่าวว่า แท้จริงเขาเห็นท่านอยู่ในความหลงผิดอันชัดแจ้ง
Comment: (126)คือของนบีนูฮ์
7:61
قَالَ يَـٰقَوْمِ لَيْسَ بِى ضَلَـٰلَةٌۭ وَلَـٰكِنِّى رَسُولٌۭ مِّن رَّبِّ ٱلْعَـٰلَمِينَ
Translation: เขากล่าวว่า โอ้ ประชาชาติของฉัน! ไม่มีความหลงผิดใดๆ อยู่ที่ฉัน แต่ทว่าฉัน คือทูตคนหนึ่ง ซึ่งมาจากพระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก
7:62
أُبَلِّغُكُمْ رِسَـٰلَـٰتِ رَبِّى وَأَنصَحُ لَكُمْ وَأَعْلَمُ مِنَ ٱللَّهِ مَا لَا تَعْلَمُونَ
Translation: โดยที่ฉันจะประกาศแก่พวกท่าน ซึ่งบรรดาสารแห่งพระผู้อภิบาลของฉัน และฉันจะชี้แจงและนำให้แก่พวกท่าน และฉัน(127) รู้จากอัลลอฮ์สิ่งที่พวกท่านไม่รู้
Comment: (127)คือ รู้เกี่ยวกับหลักการศรัทธา และข้อปฏิบัติอันดีงามที่จะทำให้มนุษย์ได้รับความสุขและความเจริญ
7:63
أَوَعَجِبْتُمْ أَن جَآءَكُمْ ذِكْرٌۭ مِّن رَّبِّكُمْ عَلَىٰ رَجُلٍۢ مِّنكُمْ لِيُنذِرَكُمْ وَلِتَتَّقُوا۟ وَلَعَلَّكُمْ تُرْحَمُونَ
Translation: และพวกท่านแปลกใจกระนั้นหรือ? การที่ได้มีข้อตักเตือนจากพระผู้อภิบาลของพวกท่านมายังพวกท่านโดยผ่านชายคนหนึ่งในหมู่พวกท่านเพื่อเขาจะได้ตักเตือนพวกท่าน และเพื่อที่พวกท่านจะได้ยำเกรง และเพื่อว่าพวกท่านจะได้รับการเอ็นดูเมตตา
7:64
فَكَذَّبُوهُ فَأَنجَيْنَـٰهُ وَٱلَّذِينَ مَعَهُۥ فِى ٱلْفُلْكِ وَأَغْرَقْنَا ٱلَّذِينَ كَذَّبُوا۟ بِـَٔايَـٰتِنَآ ۚ إِنَّهُمْ كَانُوا۟ قَوْمًا عَمِينَ
Translation: แล้วพวกเขาได้ปฏิเสธนูห์ ภายหลังเรา(128) ได้ช่วยเขา และบรรดาผู้ที่อยู่กับเขาในเรือให้ปลอดภัย และเราได้ให้บรรดาผู้ที่ปฏิเสธโองการทั้งหลายของเราจมน้ำ(129) แท้จริงพวกเขานั้นเป็นกลุ่มชนที่มืดบอด(130)
Comment: (128)หมายถึง อัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา
Comment: (129)คือ บรรดาผู้ปฏิเสธโองการของอัลลอฮ์นั้น ไม่มีใครยอมขึ้นเรือที่ท่านนบีนูฮ์ต่อไว้ เพราะไม่เชื่อในคำบอกเล่าของท่านนบีนูฮ์ ที่ว่าน้ำจะท่วมโลก ด้วยเหตุนี้เมื่อน้ำได้ท่วมขึ้นจริงตามที่ท่านนบีนูฮ์ได้แจ้งไว้ พวกนั้นจึงจมน้ำตายกันหมด
Comment: (130)หมายถึง มีหัวใจมืดบอด และเซ่อเซอะ
7:65
۞ وَإِلَىٰ عَادٍ أَخَاهُمْ هُودًۭا ۗ قَالَ يَـٰقَوْمِ ٱعْبُدُوا۟ ٱللَّهَ مَا لَكُم مِّنْ إِلَـٰهٍ غَيْرُهُۥٓ ۚ أَفَلَا تَتَّقُونَ
Translation: และยังประชาชาติอ๊าดนั้น เราได้ส่งฮูด ซึ่งเป็นพี่น้องของพวกเขาไปเขากล่าวว่า โอ้ประชาชาติของฉัน! จงเคารพภักดีอัลลอฮ์เถิด ไม่มีพระเจ้าใดๆ สำหรับพวกท่านอีกแล้วอื่นจากพระองค์ พวกท่านไม่ยำเกรงดอกหรือ?
7:66
قَالَ ٱلْمَلَأُ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ مِن قَوْمِهِۦٓ إِنَّا لَنَرَىٰكَ فِى سَفَاهَةٍۢ وَإِنَّا لَنَظُنُّكَ مِنَ ٱلْكَـٰذِبِينَ
Translation: บรรดาชนชั้นนำที่ปฏิเสธการศรัทธาในหมู่ประชาชาติของเขาได้กล่าวว่า แท้จริง เราเห็นท่านอยู่ในความโฉดเขลา และแท้จริงพวกเราแน่ใจว่าท่านนั้นเป็นคนหนึ่งในหมู่ผู้มุสา
7:67
قَالَ يَـٰقَوْمِ لَيْسَ بِى سَفَاهَةٌۭ وَلَـٰكِنِّى رَسُولٌۭ مِّن رَّبِّ ٱلْعَـٰلَمِينَ
Translation: เขากล่าวว่า โอ้ประชาชาติของฉัน! ไม่มีความโฉดเขลาใด ๆ อยู่ที่ฉัน แต่ทว่าฉันคือร่อซูลคนหนึ่ง ซึ่งมาจากพระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก
7:68
أُبَلِّغُكُمْ رِسَـٰلَـٰتِ رَبِّى وَأَنَا۠ لَكُمْ نَاصِحٌ أَمِينٌ
Translation: โดยที่ฉันจะประกาศแก่พวกท่าน ซึ่งบรรดาสารแห่งพระผู้อภิบาลของฉัน และฉันนั้นเป็นผู้แนะนำที่ซื่อตรงแก่พวกท่าน
7:69
أَوَعَجِبْتُمْ أَن جَآءَكُمْ ذِكْرٌۭ مِّن رَّبِّكُمْ عَلَىٰ رَجُلٍۢ مِّنكُمْ لِيُنذِرَكُمْ ۚ وَٱذْكُرُوٓا۟ إِذْ جَعَلَكُمْ خُلَفَآءَ مِنۢ بَعْدِ قَوْمِ نُوحٍۢ وَزَادَكُمْ فِى ٱلْخَلْقِ بَصْۜطَةًۭ ۖ فَٱذْكُرُوٓا۟ ءَالَآءَ ٱللَّهِ لَعَلَّكُمْ تُفْلِحُونَ
Translation: และพวกท่านแปลกใจกระนั้นหรือ? การที่ได้มีข้อตักเตือนจากพระผู้อภิบาลของพวกท่าน มายังพวกท่านโดยผ่านชายคนหนึ่งในหมู่พวกท่าน เพื่อเขาจะได้ตักเตือนพวกท่าน และพวกท่านจงรำลึกเถิด ขณะที่พระองค์ได้ทรงให้พวกท่านเป็นผู้สืบช่วงแทน(131) มาหลังจากประชาชาติของนูห์ และได้ทรงเพิ่มพละกำลังแก่พวกท่านในการบังเกิด(132) ดังนั้น พวกท่านรำลึกถึงความกรุณาของอัลลอฮ์เถิดเพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รับความสำเร็จ
Comment: (131)คือสืบสายโลหิตมาจากประชาชาติของท่านนบีฮูด ในฐานะเป็นผู้ปกครองสืบช่วงแทนพวกเขา
Comment: (132)คือได้บังเกิดพวกท่านให้มีร่างกายแข็งแรงและมีพละกำลัง
7:70
قَالُوٓا۟ أَجِئْتَنَا لِنَعْبُدَ ٱللَّهَ وَحْدَهُۥ وَنَذَرَ مَا كَانَ يَعْبُدُ ءَابَآؤُنَا ۖ فَأْتِنَا بِمَا تَعِدُنَآ إِن كُنتَ مِنَ ٱلصَّـٰدِقِينَ
Translation: พวกเขากล่าวว่า ที่ท่านมาหาพวกเรานั้น เพื่อว่าเราจะได้เคารพภักดีอัลลอฮ์แต่เพียงองค์เดียว และละทิ้งสิ่งที่บรรดาบรรพบุรุษของพวกเราเคยเคารพสักการะมากระนั้นหรือ? จงนำสิ่ง(133) ที่ท่านได้สัญญาแก่พวกเรามายังพวกเราเถิดหากท่านอยู่ในหมู่ผู้พูดจริง
Comment: (133)หมายถึงกาลงโทษ
7:71
قَالَ قَدْ وَقَعَ عَلَيْكُم مِّن رَّبِّكُمْ رِجْسٌۭ وَغَضَبٌ ۖ أَتُجَـٰدِلُونَنِى فِىٓ أَسْمَآءٍۢ سَمَّيْتُمُوهَآ أَنتُمْ وَءَابَآؤُكُم مَّا نَزَّلَ ٱللَّهُ بِهَا مِن سُلْطَـٰنٍۢ ۚ فَٱنتَظِرُوٓا۟ إِنِّى مَعَكُم مِّنَ ٱلْمُنتَظِرِينَ
Translation: เขากล่าวว่า แน่นอนได้เกิดขึ้นแล้วแก่พวกท่าน ซึ่งการลงโทษ(134) และความกริ้วโกรธจาพระผู้อภิบาลของพวกท่าน พวกท่านจะโต้เถียงฉันในบรรดาชื่อ(135) ที่พวกท่านและบรรพบุรุษของพวกท่านได้ตั้งมันขึ้นมาเอง โดยที่อัลลอฮ์มิได้ทรงประทานหลักฐานใดๆ มาสำหรับชื่อเหล่านั้น(136) กระนั้นหรือ? ดังนั้นพวกท่านจงรอคอยเถิด แท้จริงฉันร่วมกับพวกท่านด้วยในหมู่ผู้รอคอย
Comment: (134)อันได้แก่การให้มีลมพายุซึ่งมีความเร็วสูงและความเย็นจัดพัดมาในหมู่พวกเขาเป็นเวลาเจ็ดคืนกับแปดวันต่อเนื่องกัน ทำให้ผู้ที่ฝ่าฝืนในหมู่พวกเขาตายหมดสิ้น
Comment: (135)คือชื่อเจว็ดที่เป็นที่เคารพสักการะของพวกเขา
Comment: (136)คือเพื่อยืนยันว่าให้เคารพสักการะได้กระนั้นหรือ?
7:72
فَأَنجَيْنَـٰهُ وَٱلَّذِينَ مَعَهُۥ بِرَحْمَةٍۢ مِّنَّا وَقَطَعْنَا دَابِرَ ٱلَّذِينَ كَذَّبُوا۟ بِـَٔايَـٰتِنَا ۖ وَمَا كَانُوا۟ مُؤْمِنِينَ
Translation: แล้วเราได้ช่วยเขา(137) และบรรดาผู้ที่ร่วมอยู่กับเขาให้ปลอดภัยด้วยความเอ็นดูเมตตาจากเรา แลเราได้ตัดขาด(138) ซึ่งคนสุดท้ายของบรรดาผู้ที่ปฏิเสธโองการทั้งหลายของเรา และมิเคยปรากฏว่าพวกเขาเป็นผู้ศรัทธา
Comment: (137)คือท่านนบีฮูด
Comment: (138)คือทำลายจนกระทั่งคนสุดท้ายของพวกเขา อนึ่งพวกอ๊าดที่ถูกทำลายนี้เรียกว่า “ชาวอ๊าดพวกแรก” ซึ่งอยู่ในภาคพื้นส่วนที่เรียกว่า “อัล-อะฮ์กอฟ” ส่วน “ชาวอ๊าดพวกที่สอง” นั้นอยู่ใน “ยะมัน”
7:73
وَإِلَىٰ ثَمُودَ أَخَاهُمْ صَـٰلِحًۭا ۗ قَالَ يَـٰقَوْمِ ٱعْبُدُوا۟ ٱللَّهَ مَا لَكُم مِّنْ إِلَـٰهٍ غَيْرُهُۥ ۖ قَدْ جَآءَتْكُم بَيِّنَةٌۭ مِّن رَّبِّكُمْ ۖ هَـٰذِهِۦ نَاقَةُ ٱللَّهِ لَكُمْ ءَايَةًۭ ۖ فَذَرُوهَا تَأْكُلْ فِىٓ أَرْضِ ٱللَّهِ ۖ وَلَا تَمَسُّوهَا بِسُوٓءٍۢ فَيَأْخُذَكُمْ عَذَابٌ أَلِيمٌۭ
Translation: และยังประชาชาติษะมูดนั้น เราได้ส่งซอและห์ซึ่งเป็นพี่น้องของพวกเขาไป(ยังพวกเขา) เขากล่าวว่า โอ้ ประชาชาติของฉัน! จงเคารพภักดีอัลลอฮ์เถิด ไม่มีผู้ที่ควรได้รับการเคารพภักดีใด ๆ สำหรับพวกท่านอีกแล้ว อื่นจากพระองค์ แน่นอนได้มีหลักฐานอันชัดเจนจากพระเจ้าของพวกท่านมายังพวกท่านแล้วนี้คืออูฐตัวเมีย(139) ของอัลลอฮ์ในฐานะเป็นสัญญาณหนึ่งสำหรับพวกท่าน ดังนั้นพวกท่านจงปล่อยมันกินในแผ่นดินของอัลลอฮ์เถิด และจงอย่าแตะต้องมันด้วยการทำร้ายใดๆ เลยจะเป็นเหตุให้การลงโทษอันเจ็บแสบ(คร่าชีวิต) พวกท่านเสีย
Comment: (139)คืออูฐตัวเมียที่ชาวซะมูตท้าทายให้นบีซอและฮ์นำออกมาจากก้อนหินที่พวกเขาได้กำหนดขึ้น เพื่อเป็นสัญญาณยืนยันว่า ท่านเป็นร่อซูลของอัลลอฮ์จริง แล้วอัลลอฮ์ทรงให้อูฐตัวเมียนี้ออกมาจากก้อนหินนั้น
7:74
وَٱذْكُرُوٓا۟ إِذْ جَعَلَكُمْ خُلَفَآءَ مِنۢ بَعْدِ عَادٍۢ وَبَوَّأَكُمْ فِى ٱلْأَرْضِ تَتَّخِذُونَ مِن سُهُولِهَا قُصُورًۭا وَتَنْحِتُونَ ٱلْجِبَالَ بُيُوتًۭا ۖ فَٱذْكُرُوٓا۟ ءَالَآءَ ٱللَّهِ وَلَا تَعْثَوْا۟ فِى ٱلْأَرْضِ مُفْسِدِينَ
Translation: และพวกท่านจงรำลึกขณะที่พระองค์ได้ทรงให้พวกท่านเป็นผู้สืบช่วงแทนมา(140) หลังจากชาวอ๊าด และได้ทรงให้พวกท่านตั้งหลักแหล่งอยู่ในแผ่นดินส่วนนั้น(141) โดยยึดเอาจากที่ราบของมันเป็นวัง และสกัดภูเขาเป็นบ้าน พวกท่านพึงรำลึกถึงความกรุณาของอัลลอฮ์เถิด และจงอย่าก่อกวนในแผ่นดินในฐานะผู้บ่อนทำลาย
Comment: (140)คือสืบช่วงแทนในการปกครองอาณาจักร
Comment: (141)คือแผ่นดินส่วนที่เรียกว่า อัลฮิจรุ ซึ่งอยู่ในระหว่างฮิญาซกับชาม
7:75
قَالَ ٱلْمَلَأُ ٱلَّذِينَ ٱسْتَكْبَرُوا۟ مِن قَوْمِهِۦ لِلَّذِينَ ٱسْتُضْعِفُوا۟ لِمَنْ ءَامَنَ مِنْهُمْ أَتَعْلَمُونَ أَنَّ صَـٰلِحًۭا مُّرْسَلٌۭ مِّن رَّبِّهِۦ ۚ قَالُوٓا۟ إِنَّا بِمَآ أُرْسِلَ بِهِۦ مُؤْمِنُونَ
Translation: บรรดาชนชั้นนำที่แสดงโอหังจากประชาชาติของเขาได้กล่าวแก่บรรดาผู้ที่ถูกนับว่าอ่อนแอ(กล่าวคือ) แก่บรรดาผู้ศรัทธาในหมู่พวกเขากล่าว่า พวกท่านรู้กระนั้นหรือว่า แท้จริงซอและห์นั้นเป็นผู้ถูกส่งมาจากพระผู้อภิบาลของเขา พวกเขากล่าวว่า แท้จริง พวกเราเป็นผู้ศรัทธาต่อสิ่งที่เขาถูกส่งให้นำสิ่งนั้นมา
7:76
قَالَ ٱلَّذِينَ ٱسْتَكْبَرُوٓا۟ إِنَّا بِٱلَّذِىٓ ءَامَنتُم بِهِۦ كَـٰفِرُونَ
Translation: บรรดาผู้ที่แสดงโอหังกล่าวว่า แท้จริงเราเป็น ผู้ปฏิเสธศรัทธา ต่อสิ่งที่พวกท่านได้ศรัทธากัน
7:77
فَعَقَرُوا۟ ٱلنَّاقَةَ وَعَتَوْا۟ عَنْ أَمْرِ رَبِّهِمْ وَقَالُوا۟ يَـٰصَـٰلِحُ ٱئْتِنَا بِمَا تَعِدُنَآ إِن كُنتَ مِنَ ٱلْمُرْسَلِينَ
Translation: และพวกเขาก็เชือดอูฐตัวเมียตัวนั้น และได้ละเมิดคำสั่ง(142) แห่งพระผู้อภิบาลของพวกเจ้า และได้กล่าวว่าโอ้ซอและห์! จงนำสิ่ง(143) ที่ท่านได้สัญญาแก่พวกเราไว้มาให้แก่พวกเราเถิด ถ้าหากท่านอยู่ในหมู่ผู้ที่ถูกส่งมาเป็นร่อซูล
Comment: (142)คือคำสั่งอื่นๆ อีกที่อัลลอฮ์ได้ทรงใช้พวกเขา
Comment: (143)หมายถึงสัญญาที่ว่า หากพวกเขาทำร้ายอูฐแล้วพวกเขาจะได้รับโทษอันเจ็บแสบ
7:78
فَأَخَذَتْهُمُ ٱلرَّجْفَةُ فَأَصْبَحُوا۟ فِى دَارِهِمْ جَـٰثِمِينَ
Translation: และความไหวอย่างแรงของแผ่นดิน(144) ก็ได้คร่าพวกเขา แล้วพวกเขาก็กลายเป็นผู้นั่งคุกเข่าตายในบ้านของพวกเขา
Comment: (144)ความไหวของแผ่นดินนี้อาจเกิดจากการที่อัลลอฮ์ทรงให้ฟ้าผ่าอย่างรุนแรงก็ได้ เพราะพระองค์ได้ระบุการลงโทษพวกเขาในซูเราะฮ์อื่น ๆ ว่าด้วยเสียงกัมปนาทบ้าง ฟ้าผ่าบ้าง เช่นในซูเราะฮ์ ฮูด และซูเราะฮ์อัซซาริยาต เป็นต้นหรือไม่ก็อาจถูกลงโทษทั้งเสียงกัมปนาทและแผ่นดินไหวด้วย
7:79
فَتَوَلَّىٰ عَنْهُمْ وَقَالَ يَـٰقَوْمِ لَقَدْ أَبْلَغْتُكُمْ رِسَالَةَ رَبِّى وَنَصَحْتُ لَكُمْ وَلَـٰكِن لَّا تُحِبُّونَ ٱلنَّـٰصِحِينَ
Translation: แล้วเขา(145) ก็หันออกไปจากพวกนั้น และกล่าวว่า โอ้ประชาชาติของฉัน แท้จริงฉันได้ประกาศแก่พวกท่านแล้ว ซึ่งสารแห่งพระผู้อภิบาลของฉัน และฉันก็ได้ชี้แจงแนะนำแก่พวกท่านด้วย แต่ทว่าพวกท่านไม่ชอบบรรดาผู้ชี้แจงแนะนำ
Comment: (145)หมายถึงท่านนบีซอและห์
7:80
وَلُوطًا إِذْ قَالَ لِقَوْمِهِۦٓ أَتَأْتُونَ ٱلْفَـٰحِشَةَ مَا سَبَقَكُم بِهَا مِنْ أَحَدٍۢ مِّنَ ٱلْعَـٰلَمِينَ
Translation: และจงรำลึกถึงลูฏ(146) ขณะที่เขาได้กล่าวแก่ประชาชาติของเขาว่า ท่านทั้งหลายจะประกอบสิ่งชั่วช้าน่ารังเกียจ ซึ่งๆ ไม่มีคนใดในหมู่ประชาชาติทั้งหลายได้ประกอบมันมาก่อนพวกท่านกระนั้นหรือ?
Comment: (146)คือท่านนบีลูฏ
7:81
إِنَّكُمْ لَتَأْتُونَ ٱلرِّجَالَ شَهْوَةًۭ مِّن دُونِ ٱلنِّسَآءِ ۚ بَلْ أَنتُمْ قَوْمٌۭ مُّسْرِفُونَ
Translation: แท้จริงพวกท่านจะสมสู่เพศชายด้วยตัณหาราคะอื่นจากเพศหญิง(147) ยิ่งกว่าพวกท่านยังเป็นพวกที่ละเมิดขอบเขตด้วย
Comment: (147)กล่าวคือมีตัณหาราคะในเพศชายมากกว่าในเพศหญิง
7:82
وَمَا كَانَ جَوَابَ قَوْمِهِۦٓ إِلَّآ أَن قَالُوٓا۟ أَخْرِجُوهُم مِّن قَرْيَتِكُمْ ۖ إِنَّهُمْ أُنَاسٌۭ يَتَطَهَّرُونَ
Translation: และคำตอบแห่งประชาชาติของเขานั้นมิปรากฏเป็นอื่นใด นอกจากการที่พวกเขากล่าวว่า ท่านทั้งหลายจงขับไล่พวกเขา(148) ออกไปจากเมืองของพวกท่านเสีย แท้จริง พวกเขาเป็นพวกที่บริสุทธิ์(149)
Comment: (148)หมายถึงท่านนบีลูฏและผู้ที่ศรัทธาต่อท่าน
Comment: (149)เป็นถ้อยคำเย้ยหยันจากพวกเขา มิใช่เป็นถ้อยคำชมเชยหรือยอมรับในความจริง
7:83
فَأَنجَيْنَـٰهُ وَأَهْلَهُۥٓ إِلَّا ٱمْرَأَتَهُۥ كَانَتْ مِنَ ٱلْغَـٰبِرِينَ
Translation: และเรา(150) ได้ช่วยเขาและครอบครัวของเขาให้รอดพ้น นอกจากภรรยาของเขาเท่านั้น ซึ่งนางปรากฏอยู่ในหมู่ที่คงอยู่(151) (เพื่อรับการลงโทษ)
Comment: (150)หมายถึงอัลลอฮ์
Comment: (151)คือนางมิได้ร่วมอพยพไปกับท่านนบีลูฏ
7:84
وَأَمْطَرْنَا عَلَيْهِم مَّطَرًۭا ۖ فَٱنظُرْ كَيْفَ كَانَ عَـٰقِبَةُ ٱلْمُجْرِمِينَ
Translation: และเราได้ให้ฝน(152) ตกลงมาบนพวกเขาแล้ว เจ้า(153) จงดูเถิดว่า ผลสุดท้ายของบรรดาผู้กระทำผิดนั้นเป็นอย่างไร?
Comment: (152)หมายถึงฝนที่เป็นเม็ดหิน ซึ่งระบุอยู่ในซูเราะฮ์ฮูด และซูเราะฮ์อัล-ฮิจญริ
Comment: (153)หมายถึงท่านนบีมุฮัมมัด
7:85
وَإِلَىٰ مَدْيَنَ أَخَاهُمْ شُعَيْبًۭا ۗ قَالَ يَـٰقَوْمِ ٱعْبُدُوا۟ ٱللَّهَ مَا لَكُم مِّنْ إِلَـٰهٍ غَيْرُهُۥ ۖ قَدْ جَآءَتْكُم بَيِّنَةٌۭ مِّن رَّبِّكُمْ ۖ فَأَوْفُوا۟ ٱلْكَيْلَ وَٱلْمِيزَانَ وَلَا تَبْخَسُوا۟ ٱلنَّاسَ أَشْيَآءَهُمْ وَلَا تُفْسِدُوا۟ فِى ٱلْأَرْضِ بَعْدَ إِصْلَـٰحِهَا ۚ ذَٰلِكُمْ خَيْرٌۭ لَّكُمْ إِن كُنتُم مُّؤْمِنِينَ
Translation: และยังประชาชาติมัดยันนั้น เราได้ส่งชุอัยบ์ ซึ่งเป็นพี่น้องของพวกเขาไป เขากล่าวว่า โอ้ ประชาชาติของฉัน! จงเคารพภักดีอัลลอฮ์เถิด ไม่มีสิ่งใดที่ควรได้รับการเคารพสักการะสำหรับพวกท่านอีกแล้วอื่นจากพระองค์ แท้จริง หลักฐานอันชัดเจนจากพระผู้อภิบาลของพวกท่านนั้นได้มายังพวกท่านแล้ว ดังนั้นจงให้ครบเต็มซึ่งเครื่องตวงและเครื่องชั่งเถิด และจงอย่าให้ขาดแก่เพื่อมนุษย์ซึ่งบรรดาสิ่งของของพวกเขา หลังจากที่มีการแก้ไขมันแล้ว นั่นแหละเป็นสิ่งที่ดียิ่งแก่พวกท่านหากพวกท่านเป็นผู้ศรัทธา
7:86
وَلَا تَقْعُدُوا۟ بِكُلِّ صِرَٰطٍۢ تُوعِدُونَ وَتَصُدُّونَ عَن سَبِيلِ ٱللَّهِ مَنْ ءَامَنَ بِهِۦ وَتَبْغُونَهَا عِوَجًۭا ۚ وَٱذْكُرُوٓا۟ إِذْ كُنتُمْ قَلِيلًۭا فَكَثَّرَكُمْ ۖ وَٱنظُرُوا۟ كَيْفَ كَانَ عَـٰقِبَةُ ٱلْمُفْسِدِينَ
Translation: และพวกท่านอย่านั่งในทุกหนทาง โดยทำสำทับและสกัดกั้นให้ออกจากทางของอัลลอฮ์ผู้ซึ่งศรัทธาต่อพระองค์ และพวกท่านยังปรารถนาให้ทางของอัลลอฮ์คดเคี้ยว(154) และจงรำลึกถึงขณะที่พวกท่านมีจำนวนน้อย แล้วพระองค์ได้ทรงให้พวกท่านมีจำนวนมากขึ้น และพวกท่านจงดูเถิดว่า ผลสุดท้ายของบรรดาผู้ก่อความเสียหายนั้นเป็นอย่างไร?
Comment: (154)คือ เพื่อว่าผู้คนจะได้ไม่ดำเนินในทางของพระองค์ ทั้งนี้เนื่องจากอิจฉาริษยาผู้ที่อยู่ในทางอันเที่ยงตรงของพระองค์
7:87
وَإِن كَانَ طَآئِفَةٌۭ مِّنكُمْ ءَامَنُوا۟ بِٱلَّذِىٓ أُرْسِلْتُ بِهِۦ وَطَآئِفَةٌۭ لَّمْ يُؤْمِنُوا۟ فَٱصْبِرُوا۟ حَتَّىٰ يَحْكُمَ ٱللَّهُ بَيْنَنَا ۚ وَهُوَ خَيْرُ ٱلْحَـٰكِمِينَ
Translation: และถ้าหากว่ามีกลุ่มหนึ่งในหมู่พวกท่านศรัทธาต่อสิ่งที่ฉันถูกส่งให้นำสิ่งนั้นมา และอีกกลุ่มหนึ่งมิได้ศรัทธาแล้วก็ จงอดทนไปเถิดจนกว่าอัลลอฮ์จะทรงชี้ขาดระหว่างเรา และพระองค์คือผู้ที่ดีเยี่ยมในหมู่ผู้ชี้ขาดทั้งหลาย
7:88
۞ قَالَ ٱلْمَلَأُ ٱلَّذِينَ ٱسْتَكْبَرُوا۟ مِن قَوْمِهِۦ لَنُخْرِجَنَّكَ يَـٰشُعَيْبُ وَٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ مَعَكَ مِن قَرْيَتِنَآ أَوْ لَتَعُودُنَّ فِى مِلَّتِنَا ۚ قَالَ أَوَلَوْ كُنَّا كَـٰرِهِينَ
Translation: บรรดาชนชั้นนำที่แสดงโอหังจากประชาชาติของเขา(155) ได้กล่าวว่า โอ้ชุอัย! และบรรดาผู้ที่ศรัทธากับเจ้าด้วยจากเมืองของเรา หรือไม่ก็แน่นอนเจ้าจะต้องกลับมาในลัทธิของเรา เขา(156) กล่าวว่า แม้ว่าพวกเราจะเกลียดชัง(157) กระนั้นหรือ?
Comment: (155)คือ ของนบีชุอัยบ์
Comment: (156)คือ นบีชุอัยบ์
Comment: (157)คือ เกลียดชังในลัทธิของพวกเขา
7:89
قَدِ ٱفْتَرَيْنَا عَلَى ٱللَّهِ كَذِبًا إِنْ عُدْنَا فِى مِلَّتِكُم بَعْدَ إِذْ نَجَّىٰنَا ٱللَّهُ مِنْهَا ۚ وَمَا يَكُونُ لَنَآ أَن نَّعُودَ فِيهَآ إِلَّآ أَن يَشَآءَ ٱللَّهُ رَبُّنَا ۚ وَسِعَ رَبُّنَا كُلَّ شَىْءٍ عِلْمًا ۚ عَلَى ٱللَّهِ تَوَكَّلْنَا ۚ رَبَّنَا ٱفْتَحْ بَيْنَنَا وَبَيْنَ قَوْمِنَا بِٱلْحَقِّ وَأَنتَ خَيْرُ ٱلْفَـٰتِحِينَ
Translation: แน่นอน พวกเราก็ได้อุปโลกน์ความเท็จให้แก่อัลลอฮ์(158) หากพวกเรากลับไปในลัทธิของพวกท่านหลังจากที่อัลลอฮ์ได้ทรงช่วยพวกเราให้พ้นจากลัทธินั้นมาแล้ว และไม่บังควรแก่พวกเราที่จะกลับไปในลัทธินั้นอีก นอกจากอัลลอฮ์ผู้เป็นพระผู้อภิบาลของพวกเราจะทรงประสงค์เท่านั้น พระผู้อภิบาลของพวกเรานั้นทรงมีความรู้กว้างขวางทั่วทุกสิ่งทุกอย่าง แด่อัลลอฮ์เท่านั้นที่พวกเราได้มอบหมาย โอ้ พระผู้อภิบาลของเราโปรดชี้ขาดระหว่งพวกเรา และประชาชาติของเราด้วยความจริงเถิด และพระองค์คือผู้ที่ดีเยี่ยมในหมู่ผู้ชี้ขาดทั้งหลาย
Comment: (158)คือ สร้างความเท็จให้แก่อัลลอฮ์ โดยที่ได้ปฏิญาณตนว่าศรัทธาในศาสนาของพระองค์ แต่แล้วเปลี่ยนใจกลับเข้าในลัทธิของพวกท่านอีก
7:90
وَقَالَ ٱلْمَلَأُ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ مِن قَوْمِهِۦ لَئِنِ ٱتَّبَعْتُمْ شُعَيْبًا إِنَّكُمْ إِذًۭا لَّخَـٰسِرُونَ
Translation: และบรรดาบุคคลชั้นนำที่ปฏิเสธศรัทธา จากหมู่ประชาชาติของเขา(159) ได้กล่าวว่า แน่นอน ถ้าหากพวกเจ้าปฏิบัติตามชุอัยบ์แล้ว แท้จริง พวกท่านก็เป็นผู้ขาดทุนในทันที
Comment: (159)คือ นบีชุอัยบ์
7:91
فَأَخَذَتْهُمُ ٱلرَّجْفَةُ فَأَصْبَحُوا۟ فِى دَارِهِمْ جَـٰثِمِينَ
Translation: แล้วความไหวอย่างแรงของแผ่นดินก็ได้คร่าพวกเขา แล้วพวกเขาก็กลายเป็นผู้นั่งคุกเข่าตายในบ้านของพวกเขา
7:92
ٱلَّذِينَ كَذَّبُوا۟ شُعَيْبًۭا كَأَن لَّمْ يَغْنَوْا۟ فِيهَا ۚ ٱلَّذِينَ كَذَّبُوا۟ شُعَيْبًۭا كَانُوا۟ هُمُ ٱلْخَـٰسِرِينَ
Translation: บรรดาผู้ที่ปฏิเสธชุอัยบ์ประหนึ่งว่า พวกเขาไม่เคยอยู่ในหมู่บ้านนั้น(160) บรรดาผู้ที่ปฏิเสธชุอัยบ์นั้น พวกเขาเป็นผู้ขาดทุน
Comment: (160)เนื่องจากพวกเขาได้เสียชีวิตกันหมด ไม่ได้เหลือใครไว้ให้เป็นร่องรอยอยู่เลย
7:93
فَتَوَلَّىٰ عَنْهُمْ وَقَالَ يَـٰقَوْمِ لَقَدْ أَبْلَغْتُكُمْ رِسَـٰلَـٰتِ رَبِّى وَنَصَحْتُ لَكُمْ ۖ فَكَيْفَ ءَاسَىٰ عَلَىٰ قَوْمٍۢ كَـٰفِرِينَ
Translation: แล้วเขา(161) ก็หันออกไปจากพวกเขา และกล่าวว่า โอ้ประชาชาติของฉัน แท้จริงฉันได้ประกาศแก่พวกท่านแล้ว ซึ่งบรรดาสารแห่งพระผู้อภิบาลของฉัน และฉันก็ได้ชี้แจงแนะนำแก่พวกท่านแล้ว แล้วฉันจะเสียใจต่อกลุ่มชนที่ปฏิเสธศรัทธาอย่างไร?
Comment: (161)คือนบีชุอัยบ์
7:94
وَمَآ أَرْسَلْنَا فِى قَرْيَةٍۢ مِّن نَّبِىٍّ إِلَّآ أَخَذْنَآ أَهْلَهَا بِٱلْبَأْسَآءِ وَٱلضَّرَّآءِ لَعَلَّهُمْ يَضَّرَّعُونَ
Translation: และเรามิได้ส่งนบีคนใดไปในเมืองหนึ่งเมืองใด นอกจากเราได้ลงโทษชาวเมืองนั้น ด้วยความแร้นแค้น และการเจ็บป่วย(162) เพื่อว่าพวกเขาจะได้นอบน้อม
Comment: (162)เนื่องจากการดื้อดึงของพวกเขา ทั้งนี้เพื่อให้พวกเขาได้สำนึก
7:95
ثُمَّ بَدَّلْنَا مَكَانَ ٱلسَّيِّئَةِ ٱلْحَسَنَةَ حَتَّىٰ عَفَوا۟ وَّقَالُوا۟ قَدْ مَسَّ ءَابَآءَنَا ٱلضَّرَّآءُ وَٱلسَّرَّآءُ فَأَخَذْنَـٰهُم بَغْتَةًۭ وَهُمْ لَا يَشْعُرُونَ
Translation: ภายหลังเราได้เปลี่ยนความดีแทนที่ความชั่วจนกระทั่งพวกเขามีมาก(163) และพวกเขากล่าวว่า แท้จริง ความเดือดร้อนและความสุขสบาย(164)ได้ประสบแก่บรรพบุรุษของเรามาแล้ว แล้วเราจึงได้ลงโทษ พวกเขาโดยกระทันหันขณะที่พวกเขาไม่รู้ตัว
Comment: (163)คือมีการเพิ่มทั้งจำนวนคนและทรัพย์สมบัติ
Comment: (164)คือแทนที่พวกเขาจะขอบคุณอัลลอฮ์ที่ทรงให้พวกเขาได้รับความสุขและความเจริญ จนกระทั่งมีทรัพย์สมบัติและลูกหลานอันมากมาย กลับกล่าวด้วยความยโสว่า เรื่องความเดือดร้อนและความสุขสบายนั้นมันเป็นเรื่องธรรมดาที่ผลัดเปลี่ยนเวียนกันเกิดขึ้น ซึ่งได้เคยประสบแก่บรรพบุรุษของเรามาแล้ว
7:96
وَلَوْ أَنَّ أَهْلَ ٱلْقُرَىٰٓ ءَامَنُوا۟ وَٱتَّقَوْا۟ لَفَتَحْنَا عَلَيْهِم بَرَكَـٰتٍۢ مِّنَ ٱلسَّمَآءِ وَٱلْأَرْضِ وَلَـٰكِن كَذَّبُوا۟ فَأَخَذْنَـٰهُم بِمَا كَانُوا۟ يَكْسِبُونَ
Translation: และหากว่าชาวเมืองนั้นได้ศรัทธากัน และมีความยำเกรงแล้วไซร้ แน่นอน เราก็เปิดให้แก่พวกเขาแล้ว ซึ่งบรรดาความเพิ่มพูนจากฟากฟ้า(165) และแผ่นดิน แต่ทว่าพวกเขาปฏิเสธ ดังนั้น เราจึงได้ลงโทษพวกเขา เนื่องด้วยสิ่งที่พวกเขาขวนขวายไว้
Comment: (165)หมายถึงให้ฝนตกลงมาตามฤดูกาลและให้แผ่นดินงอกเงยซึ่งพืชผลอันเป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเรา
7:97
أَفَأَمِنَ أَهْلُ ٱلْقُرَىٰٓ أَن يَأْتِيَهُم بَأْسُنَا بَيَـٰتًۭا وَهُمْ نَآئِمُونَ
Translation: แล้วชาวเมืองนั้นปลอดภัยกระนั้นหรือ? ในการที่การลงโทษของเราจะมายังพวกเขาในเวลากลางคืน ขณะที่พวกเขานอนหลับอยู่
7:98
أَوَأَمِنَ أَهْلُ ٱلْقُرَىٰٓ أَن يَأْتِيَهُم بَأْسُنَا ضُحًۭى وَهُمْ يَلْعَبُونَ
Translation: และชาวเมืองนั้นปลอดภัยกระนั้นหรือ? ในการที่การลงโทษของเราจะมายังพวกเขาในเวลาสาย ขณะที่พวกเขากำลังเล่นสนุกสนานกันอยู่(166)
Comment: (166)คือใช้ชีวิตไปตามความปรารถนาของอารมณ์ โดยไม่คำนึงว่าจะชั่วดีประการใด ประหนึ่งเด็ก ๆ ที่เล่นกันอย่างสนุกสนาน
7:99
أَفَأَمِنُوا۟ مَكْرَ ٱللَّهِ ۚ فَلَا يَأْمَنُ مَكْرَ ٱللَّهِ إِلَّا ٱلْقَوْمُ ٱلْخَـٰسِرُونَ
Translation: แล้วพวกเขาปลอดภัยจากอุบายของอัลลอฮ์กระนั้นหรือ(167) ไม่มีใครมั่นใจว่าจะปลอดภัยจากอุบายของอัลลอฮ์นอกจากกลุ่มชนที่ขาดทุนเท่านั้น
Comment: (167)คืออุบายที่จะทรงลงโทษพวกเขาเนื่องจากความดื้อรั้นของพวกเขา
7:100
أَوَلَمْ يَهْدِ لِلَّذِينَ يَرِثُونَ ٱلْأَرْضَ مِنۢ بَعْدِ أَهْلِهَآ أَن لَّوْ نَشَآءُ أَصَبْنَـٰهُم بِذُنُوبِهِمْ ۚ وَنَطْبَعُ عَلَىٰ قُلُوبِهِمْ فَهُمْ لَا يَسْمَعُونَ
Translation: และก็ยังมิได้ประจักษ์แก่บรรดาผู้ที่ได้รับสืบทอดแผ่นดิน(168) หลังจากเจ้าของมันดอกหรือว่าหากเราประสงค์แล้ว(169) เราก็ให้ภัยพิบัติประสบแก่พวกเขาแล้ว เนื่องด้วยบรรดาบาปกรรมของพวกเขา และเราจะประทับตราบนหัวใจของพวกเขา แล้วพวกเขาก็จะไม่ได้ยิน(170)
Comment: (168)หมายถึงชาวเมืองอันเป็นที่อยู่อาศัยสืบทอดจากบรรพบุรุษของพวกเขาที่ได้ถูกลงโทษจากอัลลอฮ์มาแล้ว กล่าวคือการที่บรรพบุรุษของพวกเขาถูกลงโทษมาแล้วนั้นมิได้ประจักษ์แก่พวกเขาดอก หรือว่าพวกเขาก็ย่อมจะถูกลงโทษเช่นเดียวกัน หากพวกเขากระทำตนเยี่ยงบรรพบุรุษของพวกเขา
Comment: (169)คือประสงค์จะลงโทษพวกเขา
Comment: (170)คือเนื่องจากถูกประทับตราบนหัวใจ จึงทำให้พวกเขาไม่เข้าใจคำแนะนำใด ๆ ประหนึ่งพวกเขาไม่ได้ยิน
7:101
تِلْكَ ٱلْقُرَىٰ نَقُصُّ عَلَيْكَ مِنْ أَنۢبَآئِهَا ۚ وَلَقَدْ جَآءَتْهُمْ رُسُلُهُم بِٱلْبَيِّنَـٰتِ فَمَا كَانُوا۟ لِيُؤْمِنُوا۟ بِمَا كَذَّبُوا۟ مِن قَبْلُ ۚ كَذَٰلِكَ يَطْبَعُ ٱللَّهُ عَلَىٰ قُلُوبِ ٱلْكَـٰفِرِينَ
Translation: บรรดาเมืองเหล่านั้นหละ เรากำลังเล่าให้เจ้า(171) ทราบถึงข่าวคราวของมัน และแท้จริงนั้นบรรดาร่อซูลของพวกเขาได้นำบรรดาหลักฐานอันชัดแจ้งมายังพวกเขาแล้ว แต่แล้วใช่ว่าพวกเขาจะศรัทธาต่อสิ่งที่พวกเขาปฏิเสธมาก่อนก็หาไม่(172) ในทำนองนั้นแหละ อัลลอฮ์จะทรงประทับตราบนหัวใจของผู้ปฏิเสธศรัทธาทั้งหลาย
Comment: (171)คือนบีมุฮัมมัด
Comment: (172)คือปฏิเสธการให้เอกภาพแด่อัลลอฮ์ และการฟื้นคืนชีพในปรโลกก่อนที่บรรดาร่อซูลมายังพวกเขา
7:102
وَمَا وَجَدْنَا لِأَكْثَرِهِم مِّنْ عَهْدٍۢ ۖ وَإِن وَجَدْنَآ أَكْثَرَهُمْ لَفَـٰسِقِينَ
Translation: และเราไม่พบว่ามีสัญญาใดๆ(173) สำหรับส่วนมากของพวกเขา และแน่นอนเราได้พบว่าส่วนมากของพวกเขานั้นเป็นผู้ละเมิด
Comment: (173)หมายถึงพวกเขาไม่เคยรักษาสัญญาใด ๆ ประหนึ่งว่าไม่มีสัญญาใด ๆ แก่พวกเขา
7:103
ثُمَّ بَعَثْنَا مِنۢ بَعْدِهِم مُّوسَىٰ بِـَٔايَـٰتِنَآ إِلَىٰ فِرْعَوْنَ وَمَلَإِي۟هِۦ فَظَلَمُوا۟ بِهَا ۖ فَٱنظُرْ كَيْفَ كَانَ عَـٰقِبَةُ ٱلْمُفْسِدِينَ
Translation: แล้วหลังจากพวกเขา(174) เราได้ส่งมูซาพร้อมด้วยสัญญาณต่างๆ(175) ของเราไปยังฟิรอาวน์ และบรรดาบุคคลชั้นนำของเขา(176) แต่พวกเขาได้ปฏิเสธศรัทธาต่อสัญญาณเหล่านั้น ดังนั้นเจ้าจงมองดูเถิดว่าบั้นปลายของบรรดาผู้ก่อความเสียหายนั้นเป็นอย่างไร?(177)
Comment: (174)หมายถึงบรรดาร่อซูลเหล่านั้น
Comment: (175)หมายถึงมัวะญิซาต เช่นการโยนไม้เท้าลงบนดินแล้วกลายเป็นงู และการฟาดไม้เท้าลงในทะเลแดง แล้วน้ำทะเลได้แยกออกถึงก้นทะเล กลายเป็นทางเดินข้ามฟากของบะนีอิสรออีล เพื่อหนีฟิรอาวน์ และไพร่พลของเขา เป็นต้น
Comment: (176)หมายถึงเจ้าหน้าที่คนสำคัญ ๆ ของฟิรอาวน์
Comment: (177)คือสำหรับฟิรอาวน์และไพร่พลของเขานั้นคือการจมน้ำตาย
7:104
وَقَالَ مُوسَىٰ يَـٰفِرْعَوْنُ إِنِّى رَسُولٌۭ مِّن رَّبِّ ٱلْعَـٰلَمِينَ
Translation: และมูซาได้กล่าวว่า โอ้ ฟิรอาวน์! แท้จริงฉันคือทูตที่มาจากพระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก
7:105
حَقِيقٌ عَلَىٰٓ أَن لَّآ أَقُولَ عَلَى ٱللَّهِ إِلَّا ٱلْحَقَّ ۚ قَدْ جِئْتُكُم بِبَيِّنَةٍۢ مِّن رَّبِّكُمْ فَأَرْسِلْ مَعِىَ بَنِىٓ إِسْرَٰٓءِيلَ
Translation: เป็นสิ่งสมควรในการที่ฉันจะไม่กล่าวเกี่ยวกับอัลลอฮ์นอกจากความจริงเท่านั้น แท้จริงฉันได้นำหลักฐานจากพระเจ้าของพวกเจ้า(178) มายังพวกเจ้าแล้ว ดังนั้นจงส่งวงศ์วานอิสรออีลไปกับฉัน(179) เถิด
Comment: (178)เป็นการให้ฟิรอาวน์และบุคคลชั้นผู้นำของเขาทราบว่า มีพระเจ้าของพวกเขา หาใช่ฟิรอาวน์เป็นพระเจ้าตามที่เขาอ้างไม่
Comment: (179)คือให้ปลดปล่อยวงศ์วานอิสรออีลให้พ้นจากการเป็นทาสเสีย เพื่อพวกเขาจะได้ไปใช้ชีวิตในที่อื่นร่วมกับฉัน
7:106
قَالَ إِن كُنتَ جِئْتَ بِـَٔايَةٍۢ فَأْتِ بِهَآ إِن كُنتَ مِنَ ٱلصَّـٰدِقِينَ
Translation: เขา(180) กล่าวว่า หากท่านได้นำหลักฐานใดๆ มาก็จงนำมันมาเถิด หากท่านอยู่ในหมู่ผู้พูดจริง
Comment: (180)หมายถึงฟิรอาวน์
7:107
فَأَلْقَىٰ عَصَاهُ فَإِذَا هِىَ ثُعْبَانٌۭ مُّبِينٌۭ
Translation: แล้วเขา(181) ได้โยนไม้เท้าของเขาไป แล้วทันใดนั้นมันก็กลายเป็นงูที่ชัดเจน
Comment: (181)หมายถึงท่านนบีมูซา
7:108
وَنَزَعَ يَدَهُۥ فَإِذَا هِىَ بَيْضَآءُ لِلنَّـٰظِرِينَ
Translation: และเขาได้ชักมือของเขาออก แล้วทันมันก็ขาว(182) แก่บรรดาผู้ที่มองดูกัน
Comment: (182)คือเมื่อชักมือออกจากภายในเสื้อของท่านแล้ว มือก็มีสภาพเป็นสีขาวบริสุทธิ์
7:109
قَالَ ٱلْمَلَأُ مِن قَوْمِ فِرْعَوْنَ إِنَّ هَـٰذَا لَسَـٰحِرٌ عَلِيمٌۭ
Translation: บรรดาบุคคลชั้นนำจากประชาชาติของฟิรเอาวน์ได้กล่าวว่า แท้จริงผู้นี้คือนักมายากลที่รอบรู้(183)
Comment: (183)คือสามารถแสดงกลลวงตาผู้คนให้เห็นเป็นเรื่องจริงได้อย่างแนบเนียน
7:110
يُرِيدُ أَن يُخْرِجَكُم مِّنْ أَرْضِكُمْ ۖ فَمَاذَا تَأْمُرُونَ
Translation: เขาต้องการที่จะขับไล่พวกท่านออกจากแผ่นดินของพวกท่าน ดังนั้นพวกท่านจะใช้ให้ทำสิ่งใด(184)
Comment: (184)คือบอกกล่าวแก่ประชาชนว่าจะให้พวกเขาจัดการแก่ท่านนบีมูซาอย่างไรบ้าง ซึ่งพวกเขาพร้อมจะทำทุกอย่าง
7:111
قَالُوٓا۟ أَرْجِهْ وَأَخَاهُ وَأَرْسِلْ فِى ٱلْمَدَآئِنِ حَـٰشِرِينَ
Translation: พวกเขากล่าวว่า จงประวิงเขาและพี่ชายของเขาไว้ก่อน(185) และจงส่งคนไปรวบรวม(186) ในเมืองต่างๆเอาไว้
Comment: (185)คือประวิงท่านนบีมูซาและนบีฮารูนไว้ก่อน โดยที่ยังมิให้จัดการใด ๆ แก่เขาทั้งสอง
Comment: (186)คือรวบรวมบรรดานักมายากล
7:112
يَأْتُوكَ بِكُلِّ سَـٰحِرٍ عَلِيمٍۢ
Translation: พวกเขา(187) ก็จะนำมายังท่านซึ่งนักมายากลทุกคนที่รอบรู้
Comment: (187)คือพวกที่ไปรวบรวม
7:113
وَجَآءَ ٱلسَّحَرَةُ فِرْعَوْنَ قَالُوٓا۟ إِنَّ لَنَا لَأَجْرًا إِن كُنَّا نَحْنُ ٱلْغَـٰلِبِينَ
Translation: และบรรดานักมายากลก็ได้มายังฟิรอาวน์โดยกล่าวว่า แน่นอนพวกเราจะต้องได้รางวัล ถ้าพวกเราเป็นผู้ชนะ
7:114
قَالَ نَعَمْ وَإِنَّكُمْ لَمِنَ ٱلْمُقَرَّبِينَ
Translation: เขา(188) กล่าวว่า ใช่แล้ว และแท้จริงพวกท่านนั้นจะได้อยู่ในหมู่ผู้ใกล้ชิด
Comment: (188)หมายถึงฟิรอาวน์
7:115
قَالُوا۟ يَـٰمُوسَىٰٓ إِمَّآ أَن تُلْقِىَ وَإِمَّآ أَن نَّكُونَ نَحْنُ ٱلْمُلْقِينَ
Translation: พวกเขา(189) กล่าวว่า โอ้มูซา! ท่านจะโยนก่อนหรือว่าพวกเราจะเป็นผู้โยนก่อน
Comment: (189)คือพวกนักมายากล
7:116
قَالَ أَلْقُوا۟ ۖ فَلَمَّآ أَلْقَوْا۟ سَحَرُوٓا۟ أَعْيُنَ ٱلنَّاسِ وَٱسْتَرْهَبُوهُمْ وَجَآءُو بِسِحْرٍ عَظِيمٍۢ
Translation: เขา(190) กล่าวว่า พวกท่านจงโยนก่อนเถิด ครั้นเมื่อพวกเขาได้โยน (191)ออกไป พวกเขาก็ลวงตาประชาชน(192) และทำให้พวกเขากลัว(193) และพวกเขานั้นได้นำมาซึ่งมายากลอันใหญ่หลวง
Comment: (190)หมายถึงท่านนบีมูซา
Comment: (191)คือโยนเชือกและไม้เท้าของพวกเขา
Comment: (192)คือลวงตาให้เห็นว่าเป็นงูมากมายกำลังเลื้อยคลานอยู่
Comment: (193)คือกลัวงูที่กำลังเลื้อยคลานอยู่นั้น
7:117
۞ وَأَوْحَيْنَآ إِلَىٰ مُوسَىٰٓ أَنْ أَلْقِ عَصَاكَ ۖ فَإِذَا هِىَ تَلْقَفُ مَا يَأْفِكُونَ
Translation: และเราได้มีโองการแก่มูซาว่า จงโยนไม้เท้าของเจ้าแล้วทันใด(194) มันก็กลืนสิ่งที่พวกเขาลวงตาไว้(195)
Comment: (194)คือหลังจากที่นบีมูซาได้โยนไม้เท้าลงไปซึ่งไม้เท้าของท่านนั้นได้กลายเป็นงูจริงๆ
Comment: (195)คือกลืนงูที่บรรดานักมายากลของฟิรอาวน์จนหมดสิ้น แล้วก็กลายเป็นไม้เท้าของท่านกลับตามเดิม พร้อมกันนั้นเชือกของบรรดานักมายากลและไม้เท้าของพวกเขาก็หายไปด้วย”
7:118
فَوَقَعَ ٱلْحَقُّ وَبَطَلَ مَا كَانُوا۟ يَعْمَلُونَ
Translation: และความจริง(196) ก็ได้เกิดขึ้น และสิ่งที่พวกเขากระทำ(197) กันขึ้นก็ตกไป
Comment: (196)หมายถึงการเป็นร่อซูลของท่านนบีมูซา
Comment: (197)หมายถึงมายากลที่พวกเขานำไปประลอง
7:119
فَغُلِبُوا۟ هُنَالِكَ وَٱنقَلَبُوا۟ صَـٰغِرِينَ
Translation: แล้วที่โน่นแหละ(198) พวกเขา(199) ก็ได้รับความพ่ายแพ้ และกลายเป็นผู้ต่ำต้อย
Comment: (198)คือสถานที่นัดไปชุมนุมกันเพื่อทำการประลองระหว่างบรรดานักมายากลของฟิรอาวน์ กับท่านนบีมูซา
Comment: (199)หมายถึงฟิรอาวน์ และประชาชนของเขา
7:120
وَأُلْقِىَ ٱلسَّحَرَةُ سَـٰجِدِينَ
Translation: และบรรดานักมายากลก็ถูกทำให้ล้มตัวลงกราบ(200) (โดยความจริง)
Comment: (200)คือการที่พวกเขาได้เห็นความจริงที่ประจักษ์ในการแสดงของท่านนบีมูซาทำให้เขาเกิดความศรัทธาและล้มตัวลงกราบต่อพระเจ้าที่ท่านนบีมูซาเรียกร้องไปสู่
7:121
قَالُوٓا۟ ءَامَنَّا بِرَبِّ ٱلْعَـٰلَمِينَ
Translation: โดยกล่าวว่า พวกเราได้ศรัทธาแล้วต่อพระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก
7:122
رَبِّ مُوسَىٰ وَهَـٰرُونَ
Translation: คือพระผู้อภิบาลของมูซา และฮารูน
7:123
قَالَ فِرْعَوْنُ ءَامَنتُم بِهِۦ قَبْلَ أَنْ ءَاذَنَ لَكُمْ ۖ إِنَّ هَـٰذَا لَمَكْرٌۭ مَّكَرْتُمُوهُ فِى ٱلْمَدِينَةِ لِتُخْرِجُوا۟ مِنْهَآ أَهْلَهَا ۖ فَسَوْفَ تَعْلَمُونَ
Translation: ฟิรเอาวน์กล่าวว่า พวกท่านศรัทธาต่อเขาก่อนที่ข้าจะอนุมัติแก่พวกท่านกระนั้นหรือ ? แท้จริงนี้คืออุบายหนึ่งที่พวกท่าน(201) ได้วางแผนมันไว้ในเมือง เพื่อที่จะขับไล่ชาวเมือง(202) ให้ออกไปจากเมืองเสียแล้วพวกท่านจะได้รู้(203)
Comment: (201)เขาหมายถึงทั้งท่านนบีมูซาและบรรดานักมายากลของเขา ซึ่งเป็นการกล่าวหาทั้ง ๆ ที่รู้ว่าไม่เป็นความจริง ทั้งนี้เพื่อรักษาหน้าไว้เท่านั้น
Comment: (202)คือเป็นการกล่าวหาอีกเช่นเดียวกัน เพื่อมิให้ประชาชนศรัทธาต่อท่านนบีมูซา ขณะเดียวกันก็ให้ถือว่าท่านนบีมูซาเป็นศัตรูด้วย เนื่องจากกระทำการยึดอำนาจและขับไล่พวกเขาออกจากเมืองไป
Comment: (203)คือรู้ว่าข้าจะลงโทษพวกท่านอย่างไร ?
7:124
لَأُقَطِّعَنَّ أَيْدِيَكُمْ وَأَرْجُلَكُم مِّنْ خِلَـٰفٍۢ ثُمَّ لَأُصَلِّبَنَّكُمْ أَجْمَعِينَ
Translation: ข้าสาบานว่า ข้าจะตัดมือของท่าน และเท้าของพวกท่านโดยสลับข้างกัน(204) แล้วข้าจะตรึงพวกท่านทั้งหมดไว้ (ที่ลำต้นอินทผลัม)(205)
Comment: (204)คือตัดมือขวาและเท้าซ้าย
Comment: (205)คำว่า “ลำต้นอินทผาลัม” นั้น ในอายะฮ์นี้มิได้ระบุไว้ หากแต่ได้ระบุไว้ในอายะฮ์ที่ 20:71 ดังนั้นจึงได้นำมาขยายในอายะฮ์นี้ด้วย เพื่อให้ข้อความสมบูรณ์
7:125
قَالُوٓا۟ إِنَّآ إِلَىٰ رَبِّنَا مُنقَلِبُونَ
Translation: พวกเขา(206) กล่าวว่า แท้จริงพวกเราจะเป็นผู้กลับไปยังพระผู้อภิบาลของเรา(207)
Comment: (206)หมายถึงพวกมายากลที่ศรัทธาต่อท่านนบีมูซา
Comment: (207)คือท่านจะเข่นฆ่าพวกเราอย่างไรก็เชิญเถิด เพราะพวกเราพร้อมแล้วที่จะกลับไปยังพระผู้อภิบาลของเราที่ศรัทธา
7:126
وَمَا تَنقِمُ مِنَّآ إِلَّآ أَنْ ءَامَنَّا بِـَٔايَـٰتِ رَبِّنَا لَمَّا جَآءَتْنَا ۚ رَبَّنَآ أَفْرِغْ عَلَيْنَا صَبْرًۭا وَتَوَفَّنَا مُسْلِمِينَ
Translation: และท่าน(208) จะไม่แก้แค้นเรา นอกจากว่าเราศรัทธาต่อบรรดาสัญญาณ(209) แห่งพระผู้อภิบาลของเราเท่านั้น เมื่อมันได้มายังเรา โอ้พระผู้อภิบาลของเราโปรดเทความอดทน(210) ลงมาบนพวกเราด้วยเถิด และโปรดทรงให้พวกเราตายในฐานะผู้สวามิภักดิ์ด้วย
Comment: (208)หมายถึงฟิรอาวน์
Comment: (209)หมายถึงมัวะญิซาตที่อัลลอฮ์ได้แสดงให้ประจักษ์โดยผ่านมือของท่านนบีมูซา ทั้งนี้เพื่อยืนยันการเป็นนบีของท่าน
Comment: (210)หมายถึงให้มีความอดทน และการที่ใช้คำว่า “เรา” นั้นเป็นการเปรียบเทียบเพื่อให้เห็นเป็นภาพพจน์ว่าความอดทนนั้นประหนึ่งน้ำ และเมื่อต้องการได้ ก็ขอให้อัลลอฮ์ทรงเทลงมาให้
7:127
وَقَالَ ٱلْمَلَأُ مِن قَوْمِ فِرْعَوْنَ أَتَذَرُ مُوسَىٰ وَقَوْمَهُۥ لِيُفْسِدُوا۟ فِى ٱلْأَرْضِ وَيَذَرَكَ وَءَالِهَتَكَ ۚ قَالَ سَنُقَتِّلُ أَبْنَآءَهُمْ وَنَسْتَحْىِۦ نِسَآءَهُمْ وَإِنَّا فَوْقَهُمْ قَـٰهِرُونَ
Translation: และบรรดาบุคคลชั้นนำจากประชาชาติของฟิรอาวน์ได้กล่าวว่า ท่านจะปล่อยมูซา และพวกพ้อง(211) ของเขาไว้เพื่อก่อความเสียหายในแผ่นดิน และปล่อยท่าน(212) และบรรดาที่เคารพสักการะของท่านกระนั้นหรือ ? เขา(213) กล่าวว่า เราจะฆ่าบรรดาลูกชายของพวกเขา(214) และไว้ชีวิตบรรดาหญิงของพวกเขา และแท้จริง เราเป็นผู้มีกำลังอำนาจเหนือพวกเขา
Comment: (211)หมายถึงวงศ์วานอิสรออีลที่เป็นทาสของฟิรอาวน์
Comment: (212)คือไม่เคารพสักการะท่านในฐานะพระเจ้า
Comment: (213)หมายถึงฟิรอาวน์
Comment: (214)คือลูกผู้ชายของวงศ์วานอิสรออีล ดังที่ได้เคยกระทำมาก่อนแล้วครั้งหนึ่ง ตั้งแต่ก่อนที่นบีมูซาจะเกิด
7:128
قَالَ مُوسَىٰ لِقَوْمِهِ ٱسْتَعِينُوا۟ بِٱللَّهِ وَٱصْبِرُوٓا۟ ۖ إِنَّ ٱلْأَرْضَ لِلَّهِ يُورِثُهَا مَن يَشَآءُ مِنْ عِبَادِهِۦ ۖ وَٱلْعَـٰقِبَةُ لِلْمُتَّقِينَ
Translation: มูซาได้กล่าวแก่พวกพ้องของเขาว่า จงขอความช่วยเหลือต่ออัลลอฮ์เถิด และจงอดทนด้วย แท้จริงแผ่นดินนั้นเป็นสิทธิของอัลลอฮ์ซึ่งพระองค์จะทรงให้มันสืบทอดแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ จากปวงบ่าวของพระองค์ และบั้นปลายนั้นย่อมเป็นของผู้ยำเกรงทั้งหลาย(215)
Comment: (215)คือผู้ยำเกรงนั้น บั้นปลายย่อมได้รับความสำเร็จเสมอ
7:129
قَالُوٓا۟ أُوذِينَا مِن قَبْلِ أَن تَأْتِيَنَا وَمِنۢ بَعْدِ مَا جِئْتَنَا ۚ قَالَ عَسَىٰ رَبُّكُمْ أَن يُهْلِكَ عَدُوَّكُمْ وَيَسْتَخْلِفَكُمْ فِى ٱلْأَرْضِ فَيَنظُرَ كَيْفَ تَعْمَلُونَ
Translation: พวกเขา(216) กล่าวว่า พวกเราได้รับการทารุณ(217) ทั้งก่อนจากที่ท่านจะมายังพวกเรา(218) และหลังจากที่ท่านได้มายังเรา เขา(219) กล่าวว่า หวังว่าพระผู้อภิบาลของพวกท่านจะทรงทำลายศัตรูของพวกท่าน และจะทรงให้พวกท่าสืบช่วง(220) แทนในแผ่นดิน แล้วพระองค์จะทรงดูว่าพวกท่านจะทำอย่างไร?
Comment: (216)หมายถึงวงศ์วานอิสรออีลซึ่งเป็นพวกพ้องของนบีมูซา
Comment: (217)อันได้แก่การที่ฟิรอาวน์สั่งให้ฆ่าลูกผู้ชายของพวกเขาที่เกิดใหม่ และใช้พวกเขาให้ทำงานอย่างหนัก
Comment: (218)คือตั้งแต่ก่อนที่ท่านจะปรากฏตัว
Comment: (219)หมายถึงท่านนบีมูซา
Comment: (220)คือให้มีอำนาจปกครองแผ่นดินสืบช่วงแทน
7:130
وَلَقَدْ أَخَذْنَآ ءَالَ فِرْعَوْنَ بِٱلسِّنِينَ وَنَقْصٍۢ مِّنَ ٱلثَّمَرَٰتِ لَعَلَّهُمْ يَذَّكَّرُونَ
Translation: และแน่นอนเราได้ลงโทษวงศ์วานของฟิรอาวน์ด้วยความแห้งแล้ง และขาดแคลนผลไม้ต่างๆ เพื่อว่าพวกเขาจะได้รำลึก
7:131
فَإِذَا جَآءَتْهُمُ ٱلْحَسَنَةُ قَالُوا۟ لَنَا هَـٰذِهِۦ ۖ وَإِن تُصِبْهُمْ سَيِّئَةٌۭ يَطَّيَّرُوا۟ بِمُوسَىٰ وَمَن مَّعَهُۥٓ ۗ أَلَآ إِنَّمَا طَـٰٓئِرُهُمْ عِندَ ٱللَّهِ وَلَـٰكِنَّ أَكْثَرَهُمْ لَا يَعْلَمُونَ
Translation: ครั้นเมื่อความดี(221) ได้มายังพวกเขา พวกเขาก็กล่าวว่า นี้คือสิทธิของเรา และหากความชั่วใดๆ ประสบแก่พวกเขาพวกเขาก็ถือเอานบีมูซาเป็นลางร้าย(222) และผู้ที่ร่วมอยู่กับเขาด้วย พึงรู้เถิดว่า ที่จริงลางร้ายของพวกเขานั้นอยู่ที่อัลลอฮ์ต่างหาก(223) แต่ทว่าส่วนมากของพวกเขาไม่รู้
Comment: (221)คือความอุดมสมบูรณ์
Comment: (222)คือถือว่าการมาของท่านนบีมูซานั้นเป็นลางร้าย ทำให้พวกเขาได้รับความแห้งแล้งและอื่นๆ อีก
Comment: (223)คือความแห้งแล้งนั้นหาได้เกี่ยวข้องกับท่านนบีมูซาแต่อย่างใดไม่ หากแต่มันเป็นไปตามกฎสภาวะของอัลลอฮ์ หรือไม่ก็เป็นการลงโทษจากพระองค์ต่างหาก
7:132
وَقَالُوا۟ مَهْمَا تَأْتِنَا بِهِۦ مِنْ ءَايَةٍۢ لِّتَسْحَرَنَا بِهَا فَمَا نَحْنُ لَكَ بِمُؤْمِنِينَ
Translation: และพวกเขากล่าวว่า ท่านจะนำสัญญาณหนึ่งสัญญาณใดมายังพวกเรา อย่างไรก็ตามเพื่อที่จะลวงเราให้หลงเชื่อต่อสัญญาณนั้น เราก็จะไม่เป็นผู้ศรัทธาต่อท่าน(224)
Comment: (224)คือเป็นการชี้ให้เห็นถึงความดื้อด้านของพวกเขาอย่างไร้ยางอายที่สุด
7:133
فَأَرْسَلْنَا عَلَيْهِمُ ٱلطُّوفَانَ وَٱلْجَرَادَ وَٱلْقُمَّلَ وَٱلضَّفَادِعَ وَٱلدَّمَ ءَايَـٰتٍۢ مُّفَصَّلَـٰتٍۢ فَٱسْتَكْبَرُوا۟ وَكَانُوا۟ قَوْمًۭا مُّجْرِمِينَ
Translation: แล้วเราได้ส่ง(225) น้ำท่วม และตั๊กแตนและเหา และกบ และเลือดมาเป็นสัญญาณ(226) อันชัดเจนแก่พวกเขา แต่แล้วพวกเขาก็แสดงโอหัง และได้กลายเป็นกลุ่มชนที่กระทำความผิด
Comment: (225)หมายถึงให้มีขึ้น ในการที่ใช้คำว่า “ส่ง” นั้นเพื่อให้มองเห็นเป็นภาพว่าน้ำ, ตั๊กแตน และ…มันถูกส่งมาจากพระองค์โดยตรง
Comment: (226)คือเป็นสัญญาณยืนยันว่าท่านนบีมูซานั้นเป็นทูตของอัลลอฮ์จริงตามที่ท่านได้ประกาศให้ทราบ และขณะเดียวกันก็เป็นการลงโทษพวกเขาพร้อมกันไปด้วย
7:134
وَلَمَّا وَقَعَ عَلَيْهِمُ ٱلرِّجْزُ قَالُوا۟ يَـٰمُوسَى ٱدْعُ لَنَا رَبَّكَ بِمَا عَهِدَ عِندَكَ ۖ لَئِن كَشَفْتَ عَنَّا ٱلرِّجْزَ لَنُؤْمِنَنَّ لَكَ وَلَنُرْسِلَنَّ مَعَكَ بَنِىٓ إِسْرَٰٓءِيلَ
Translation: และเมื่อมีการลงโทษ(227) เกิดขึ้นแก่พวกเขา พวกเขาก็กล่าวว่า โอ้มูซา! จงขอต่อพระผู้อภิบาลของท่านให้แก่เราตามที่พระองค์ได้สัญญาไว้ที่ท่านเถิด(228) ถ้าหากท่านได้ปลดเปลื้องการลงโทษนั้นให้พ้นจากเราแล้ว แน่นอน เราจะศรัทธาต่อท่าน และแน่นอนเราจะส่งวงศ์วานอิสรออีลไปกับท่าน
Comment: (227)เช่นให้น้ำท่วม หรือให้มีตั๊กแตนมาทำลายพืชไร่ของพวกเขาเป็นต้น
Comment: (228)นั่นก็คือระงับการลงโทษแก่เรา หากเราศรัทธา
7:135
فَلَمَّا كَشَفْنَا عَنْهُمُ ٱلرِّجْزَ إِلَىٰٓ أَجَلٍ هُم بَـٰلِغُوهُ إِذَا هُمْ يَنكُثُونَ
Translation: ครั้นเมื่อเราได้ปลดเปลื้องการลงโทษนั้น ให้พ้นจากพวกเขาไปยังกำหนดหนึ่ง(229) ซึ่งพวกเขาถึงกำหนดไปแล้ว ทันใดพวกเขาก็ผิดสัญญา(230)
Comment: (229)คือหลังจากที่ได้รับการปลดเปลื้องให้พ้นจากการลงโทษแล้วอัลลอฮ์ได้ทรงกำหนดเวลาให้แก่พวกเขา เพื่อเตรียมตัวที่จะทำการศรัทธาต่อท่านนบีมูซาและมอบวงศ์วานอิสรออีลให้แก่นบีมูซาตามที่พวกเขาได้ให้คำมั่นสัญญาไว้
Comment: (230)คือเมื่อพวกเขาถึงกำหนดนั้นแล้วพวกเขาก็ผิดสัญญา
7:136
فَٱنتَقَمْنَا مِنْهُمْ فَأَغْرَقْنَـٰهُمْ فِى ٱلْيَمِّ بِأَنَّهُمْ كَذَّبُوا۟ بِـَٔايَـٰتِنَا وَكَانُوا۟ عَنْهَا غَـٰفِلِينَ
Translation: แล้วเราก็ได้ลงโทษพวกเขา โดยให้พวกเขาจมในทะเล เนื่องด้วยพวกเขาได้ปฏิเสธสัญญาณ(231) ต่างๆ ของเราและพวกเขาจึงได้กลายเป็นที่ไม่ใส่ใจต่อสัญญาณต่างๆ เหล่านั้น
Comment: (231)หมายถึงมัวะญิซาตที่อัลลอฮ์ทรงให้มีขึ้นโดยผ่านเมืองของท่านนบีมูซา
7:137
وَأَوْرَثْنَا ٱلْقَوْمَ ٱلَّذِينَ كَانُوا۟ يُسْتَضْعَفُونَ مَشَـٰرِقَ ٱلْأَرْضِ وَمَغَـٰرِبَهَا ٱلَّتِى بَـٰرَكْنَا فِيهَا ۖ وَتَمَّتْ كَلِمَتُ رَبِّكَ ٱلْحُسْنَىٰ عَلَىٰ بَنِىٓ إِسْرَٰٓءِيلَ بِمَا صَبَرُوا۟ ۖ وَدَمَّرْنَا مَا كَانَ يَصْنَعُ فِرْعَوْنُ وَقَوْمُهُۥ وَمَا كَانُوا۟ يَعْرِشُونَ
Translation: และเราได้ให้เป็นมรดก(232) แก่กลุ่มชนที่ถูกนับว่าอ่อนแอ(233) ซึ่งบรรดาทิศตะวันออกของแผ่นดิน(234) และบรรดาทิศตะวันตกของมัน(235) อันเป็นแผ่นดินที่เราได้ให้มีความจำเริญในนั้น(236) และถ้อยคำแห่งพระผู้อภิบาลของเจ้าอันสวยงามยิ่งนั้นครบถ้วนแล้ว(237) แก่วงศ์วานอิสรออีล เนื่องจาก การที่พวกเขามีความอดทน และเราได้ทำลายสิ่งที่ฟิรอาวน์ และพวกพ้องของเขาได้ทำไว้ และสิ่งที่พวกเขาได้ก่อสร้างไว้
Comment: (232)หมายถึงให้เป็นกรรมสิทธิ์ประหนึ่งได้รับมรดก
Comment: (233)หมายถึงวงศ์วานอิสรออีล
Comment: (234)หมายถึงแผ่นดินแห่งชาม คำว่า “บรรดาทิศตะวันออก” นั้นหมายถึงทั้งทิศตะวันออกเฉียงเหนือและเฉียงใต้ของชามด้วย
Comment: (235)หมายถึงทิศตะวันตกเฉียงเหนือและทิศตะวันตกเฉียงใต้ด้วย
Comment: (236)คือให้มีความอุดมสมบูรณ์
Comment: (237)คือครบถ้วนตามที่พระองค์ได้สัญญาไว้ นั่นก็คือให้พวกเขาพ้นจากศัตรูของพวกเขาที่ทารุณและโหดร้ายต่อพวกเขา และให้พวกเขามีถิ่นที่อยู่ของพวกเขาเอง
7:138
وَجَـٰوَزْنَا بِبَنِىٓ إِسْرَٰٓءِيلَ ٱلْبَحْرَ فَأَتَوْا۟ عَلَىٰ قَوْمٍۢ يَعْكُفُونَ عَلَىٰٓ أَصْنَامٍۢ لَّهُمْ ۚ قَالُوا۟ يَـٰمُوسَى ٱجْعَل لَّنَآ إِلَـٰهًۭا كَمَا لَهُمْ ءَالِهَةٌۭ ۚ قَالَ إِنَّكُمْ قَوْمٌۭ تَجْهَلُونَ
Translation: และเราได้ให้วงศ์วานอิสรออีลข้ามทะเลไปได้(238) แล้วพวกเขาก็มายังกลุ่มชนหนึ่ง ซึ่งกำลังประจำอยู่ที่บรรดาเจว็ดของพวกเขา(239) พวกเขาได้กล่าวขึ้นว่า โอ้มูซา!จงให้มีขึ้นแก่พวกเราด้วยเถิด สิ่งซึ่งเป็นที่เคารพสักการะสักองค์หนึ่ง เช่นเดียวกับที่พวกเขามีสิ่งที่เป็นที่เคารพสักการะหลายองค์ เขากล่าวว่า แท้จริง พวกท่านเป็นพวกที่โฉดเขลา
Comment: (238)คือข้ามทะเลแดงขณะที่อพยพหนีจากฟิรอาวน์ และถูกฟิรอาวน์ไล่ตาม
Comment: (239)เพื่อเคารพสักการะ
7:139
إِنَّ هَـٰٓؤُلَآءِ مُتَبَّرٌۭ مَّا هُمْ فِيهِ وَبَـٰطِلٌۭ مَّا كَانُوا۟ يَعْمَلُونَ
Translation: แท้จริงชนเหล่านี้แหละ สิ่งที่พวกเขาเคารพสักการะกันอยู่นั้นจะถูกทำลาย(240) และสิ่งที่พวกเขาเคยกระทำกันมาก็ไร้ผล(241)
Comment: (240)เนื่องจากท่านนบีมูซารู้ว่าการให้เอกภาพแด่อัลลอฮ์จะถูกนำมาเผยแพร่แก่พวกเขา แล้วพวกเขาก็จะพากันทำลายเจว็ดของพวกเขาโดยสิ้นเชิง
Comment: (241)เนื่องจากพวกเขาให้มีภาคีขึ้นแก่อัลลอฮ์ เพราะการให้มีภาคีขึ้นแก่อัลลอฮ์นั้น ทำให้งานทุกอย่างไร้ผล
7:140
قَالَ أَغَيْرَ ٱللَّهِ أَبْغِيكُمْ إِلَـٰهًۭا وَهُوَ فَضَّلَكُمْ عَلَى ٱلْعَـٰلَمِينَ
Translation: เขากล่าวว่า อื่นจากอัลลอฮ์กระนั้นหรือ ที่ฉันจะแสวงหาสิ่งที่เคารพสักการะให้แก่พวกท่าน(242) ทั้งๆ ที่พระองค์ได้ทรงเทิดพวกท่านเหนือประชาชาติทั้งหลาย(243)
Comment: (242)คือเป็นไปไม่ได้โดยเด็ดขาดที่ฉันจะให้มีที่เคารพสักการะแก่พวกท่านอื่นจากอัลลอฮ์ เพราะเป็นการให้มีภาคีแก่พระองค์ซึ่งเป็นความผิดอันมหันต์
Comment: (243)คือประชาชาติในสมัยนั้น
7:141
وَإِذْ أَنجَيْنَـٰكُم مِّنْ ءَالِ فِرْعَوْنَ يَسُومُونَكُمْ سُوٓءَ ٱلْعَذَابِ ۖ يُقَتِّلُونَ أَبْنَآءَكُمْ وَيَسْتَحْيُونَ نِسَآءَكُمْ ۚ وَفِى ذَٰلِكُم بَلَآءٌۭ مِّن رَّبِّكُمْ عَظِيمٌۭ
Translation: และจะรำลึกขณะที่เราได้ช่วยพวกเจ้าให้พ้นจากพวกพ้องของฟิรอาวน์โดยที่พวกเขาบังคับขู่เข็ญพวกเจ้า ซึ่งการทรมานอันร้ายแรง พวกเขาฆ่าบรรดาลูกผู้ชายของพวกเจ้า และไว้ชีวิตบรรดาลูกผู้หญิงของพวกเจ้า และในเรื่องนั้น(244) คือการทดสอบอันสำคัญจาพระผู้อภิบาลของพวกเจ้า
Comment: (244)หมายถึงการที่ถูกบังคับขู่เข็ญให้ทำงานหนัก อันเป็นการทรมานอย่างร้ายแรง และการฆ่าลูกผู้ชายของพวกเขา
7:142
۞ وَوَٰعَدْنَا مُوسَىٰ ثَلَـٰثِينَ لَيْلَةًۭ وَأَتْمَمْنَـٰهَا بِعَشْرٍۢ فَتَمَّ مِيقَـٰتُ رَبِّهِۦٓ أَرْبَعِينَ لَيْلَةًۭ ۚ وَقَالَ مُوسَىٰ لِأَخِيهِ هَـٰرُونَ ٱخْلُفْنِى فِى قَوْمِى وَأَصْلِحْ وَلَا تَتَّبِعْ سَبِيلَ ٱلْمُفْسِدِينَ
Translation: และเราได้สัญญาแก่มูซาสามสิบคืน และเราได้ให้มันครบอีกสิบ(245) ดังนั้น กำหนดเวลาแห่งพระเจ้าของเราจึงครบสี่สิบคืน และมูซาได้กล่าวแก่ฮารูนพี่ชายของเขาว่า จงทำหน้าที่แทนฉันในหมู่ชนของฉัน(246) และจงปรับปรุงแก้ไข(247) และจงอย่าปฏิบัติตามทางของผู้ก่อความเสียหาย(248)
Comment: (245)คือให้สามสิบคืนนั้นครบเป็นสี่สิบคืน โดยเพิ่มอีกสิบคืน
Comment: (246)หมายถึงวงศ์วานอิสรออีล
Comment: (247)คือหามีการปฏิบัติที่ไม่ถูกไม่ควรเกิดขึ้นในหมู่พวกเขา
Comment: (248)คืออย่าให้เห็นดีเห็นชอบ หรือร่วมปฏิบัติในทางที่เสียหาย
7:143
وَلَمَّا جَآءَ مُوسَىٰ لِمِيقَـٰتِنَا وَكَلَّمَهُۥ رَبُّهُۥ قَالَ رَبِّ أَرِنِىٓ أَنظُرْ إِلَيْكَ ۚ قَالَ لَن تَرَىٰنِى وَلَـٰكِنِ ٱنظُرْ إِلَى ٱلْجَبَلِ فَإِنِ ٱسْتَقَرَّ مَكَانَهُۥ فَسَوْفَ تَرَىٰنِى ۚ فَلَمَّا تَجَلَّىٰ رَبُّهُۥ لِلْجَبَلِ جَعَلَهُۥ دَكًّۭا وَخَرَّ مُوسَىٰ صَعِقًۭا ۚ فَلَمَّآ أَفَاقَ قَالَ سُبْحَـٰنَكَ تُبْتُ إِلَيْكَ وَأَنَا۠ أَوَّلُ ٱلْمُؤْمِنِينَ
Translation: และเมื่อมูซาได้มาตามกำหนดเวลาของเรา(249) และพระผู้อภิบาลของเขาได้ตรัสแก่เขา เขา(250) ได้กล่าวขึ้นว่า โอ้พระผู้อภิบาลของข้าพระองค์ โปรดให้ข้าพระองค์เห็นด้วยเถิด โดยที่ข้าพระองค์จะได้มองดูพระองค์ พระองค์ตรัสว่า เจ้าจะเห็นข้าไม่ได้เป็นอันขาด แต่ทว่าเจ้าจงมองดูภูเขา(251) นั้นเถิด ถ้าหากมันมั่นอยู่ ณ ที่ของมัน เจ้าก็จะเห็นข้า ครั้นเมื่อพระเจ้าของเขาได้ประจักษ์ที่ภูเขานั้น ก็ทำให้มันทลายตัวลงอย่างราบเรียบ และมูซาก็ล้มลงในสภาพหมดสติ ครั้นเมื่อเขาฟื้นขึ้น เขาก็กล่าวว่ามหาบริสุทธิ์พระองค์ท่าน ข้าพระองค์ขอลุแก่โทษต่อพระองค์(252) และข้าพระองค์คือคนแรกในหมู่ผู้ศรัทธาทั้งหลาย
Comment: (249)หมายถึงอัลลอฮ์ โปรดทราบด้วยว่าอัลลอฮ์ทรงเปลี่ยนสรรพนามของพระองค์ในหลายวาระ บางครั้งในอายะฮ์เดียวกันทรงใช้สรรพนามแทนพระองค์ด้วยสรรพนามบุรุษที่หนึ่งบ้าง และบุรุษที่สามบ้าง ดังอายะฮ์ที่ 143 นี้ ในสำนวนภาษาอาหรับนั้นถือว่าเป็นวิธีการที่แยบยลมาก เพราะทำให้ผู้อ่านหรือผู้ฟังไม่รู้สึกเบื่อ
Comment: (250)หมายถึงนบีมูซา
Comment: (251)คือภูเขาซินายที่ท่านนบีมูซาได้รับคำสั่งจากอัลลอฮ์ให้ไปรับบัญญัติสิบประการ
Comment: (252)เนื่องจากการขอต่อพระองค์ในสิ่งอันเกินขอบเขตที่ท่านพึงกระทำ
7:144
قَالَ يَـٰمُوسَىٰٓ إِنِّى ٱصْطَفَيْتُكَ عَلَى ٱلنَّاسِ بِرِسَـٰلَـٰتِى وَبِكَلَـٰمِى فَخُذْ مَآ ءَاتَيْتُكَ وَكُن مِّنَ ٱلشَّـٰكِرِينَ
Translation: พระองค์ตรัสว่า โอ้มูซา! แท้จริงข้าได้เลือกเจ้าให้เหนือกว่ามนุษย์ทั้งหลาย เนื่องด้วยบรรดาสารของข้า(253) และด้วยถ้อยคำของเขา(254) ดังนั้นจงยึดถือสิ่งที่ข้าได้ให้แก่เจ้า และจงอยู่ในหมู่ผู้ขอบคุณ
Comment: (253)หมายถึงในฐานะผู้ทำหน้าที่ประกาศสารของพระองค์ อันได้แก่ คัมภีร์เตารอด
Comment: (254)หมายถึงการที่พระองค์ตรัสแก่ท่านนบีมูซา โดยตรงไม่มีสื่อกลาง
7:145
وَكَتَبْنَا لَهُۥ فِى ٱلْأَلْوَاحِ مِن كُلِّ شَىْءٍۢ مَّوْعِظَةًۭ وَتَفْصِيلًۭا لِّكُلِّ شَىْءٍۢ فَخُذْهَا بِقُوَّةٍۢ وَأْمُرْ قَوْمَكَ يَأْخُذُوا۟ بِأَحْسَنِهَا ۚ سَأُو۟رِيكُمْ دَارَ ٱلْفَـٰسِقِينَ
Translation: และเราได้บันทึกคำตักเตือนจากทุกสิ่ง(255) และการแจกแจงในทุกอย่าง(256) ไว้ให้แก่เขาในบรรดาแผ่นจารึก(257) ดังนั้นเจ้า(258) จงยึดถือมันไว้ด้วยความเข้มแข็ง และจงใช้พวกพ้องของเจ้าเถิด พวกเขาก็จะยึดถือสิ่งที่ดีที่สุดของมัน(259) ข้าจะให้พวกเจ้าได้เห็นที่อยู่ของผู้ละเมิด(260) ทั้งหลาย
Comment: (255)คือทุกสิ่งที่เป็นภัยแก่พวกเขา
Comment: (256)คือทุกอย่างที่เป็นหน้าที่ซึ่งพวกเขาจะต้องปฏิบัติ
Comment: (257)คือแผ่นจารึกคัมภีร์เตารอดที่อัลลอฮ์ทรงมอบให้แก่ท่านนบีมูซาที่ภูเขาซินาย
Comment: (258)หมายถึงนบีมูซา
Comment: (259)คือของบัญญัติศาสนาตามที่มีความสามารถ กล่าวคือ บางคนไม่อยู่ในฐานะที่จะปฏิบัติให้ครบถ้วนได้ก็ให้ปฏิบัติที่ดีที่สุดที่สามารถจะปฏิบัติได้
Comment: (260)หมายถึงอียิปต์อันที่อยู่ของฟิรอาวน์ แต่บางท่านว่าหมายถึงที่อยู่ของ อ๊าด และษะมูด และกลุ่มชนของลูฏ
7:146
سَأَصْرِفُ عَنْ ءَايَـٰتِىَ ٱلَّذِينَ يَتَكَبَّرُونَ فِى ٱلْأَرْضِ بِغَيْرِ ٱلْحَقِّ وَإِن يَرَوْا۟ كُلَّ ءَايَةٍۢ لَّا يُؤْمِنُوا۟ بِهَا وَإِن يَرَوْا۟ سَبِيلَ ٱلرُّشْدِ لَا يَتَّخِذُوهُ سَبِيلًۭا وَإِن يَرَوْا۟ سَبِيلَ ٱلْغَىِّ يَتَّخِذُوهُ سَبِيلًۭا ۚ ذَٰلِكَ بِأَنَّهُمْ كَذَّبُوا۟ بِـَٔايَـٰتِنَا وَكَانُوا۟ عَنْهَا غَـٰفِلِينَ
Translation: ข้าจะผิน(261) ออกจากบรรดาโองการของข้าจากบรรดาผู้ที่ยโสในแผ่นดินโดยไม่บังควร(262) และแม้ว่าพวกเขาจะได้เห็นสัญญาณทุกอย่างพวกเขาก็จะไม่ศรัทธาต่อสัญญาณนั้น และหากพวกเขาเห็นทางแห่งความถูกต้อง พวกเขาก็จะไม่ถือมันเป็นหนทาง(263) และหากพวกเขาเห็นทางแห่งความผิด พวกเขาก็ยึดถือมันเป็นทาง นั่นก็เพราะว่าพวกเขาปฏิเสธบรรดาโองการของเรา และพวกเขาจึงได้เป็นผู้ละเลยโองการเหล่านั้น
Comment: (261)คือไม่ให้สนใจและได้รับการเข้าใจจากบรรดาโองการ
Comment: (262)คือไม่บังควรที่จะยโสในแผ่นดิน เพราะมิใช่สิทธิของเขาจะกระทำเช่นนั้น
Comment: (263)คือเป็นแนวทางดำเนินชีวิต
7:147
وَٱلَّذِينَ كَذَّبُوا۟ بِـَٔايَـٰتِنَا وَلِقَآءِ ٱلْـَٔاخِرَةِ حَبِطَتْ أَعْمَـٰلُهُمْ ۚ هَلْ يُجْزَوْنَ إِلَّا مَا كَانُوا۟ يَعْمَلُونَ
Translation: และบรรดาผู้ที่ปฏิเสธบรรดาโองการของเรา และการพบกับวันอาคิเราะฮ์ บรรดาการงานของพวกเขาย่อมไร้ผล พวกเขาจะไม่ถูกตอบแทนนอกจากสิ่งที่พวกเขากระทำเท่านั้น
7:148
وَٱتَّخَذَ قَوْمُ مُوسَىٰ مِنۢ بَعْدِهِۦ مِنْ حُلِيِّهِمْ عِجْلًۭا جَسَدًۭا لَّهُۥ خُوَارٌ ۚ أَلَمْ يَرَوْا۟ أَنَّهُۥ لَا يُكَلِّمُهُمْ وَلَا يَهْدِيهِمْ سَبِيلًا ۘ ٱتَّخَذُوهُ وَكَانُوا۟ ظَـٰلِمِينَ
Translation: และพวกพ้องของมูซาได้ยึดถือลูกวัวที่เป็นรูปร่าง(264) ซึ่งทำมาจากเครื่องประดับ(265) ของพวกเขา หลังจากเขา(266) ซึ่งลูกวัวนั้นมีเสียงร้อง(267) พวกเขามิได้เห็นดอกหรือว่าแท้จริงมันพูดกับพวกเขาไม่ได้ และมันก็แนะนำทางใดทางหนึ่งให้แก่พวกเขาไม่ได้ด้วย?(268) แล้วพวกเขาได้ยึดถือลูกวัวนั้น และพวกเขาจึงได้กลายเป็นผู้อธรรม(269)
Comment: (264)คือเป็นรูปร่างลูกวัว
Comment: (265)คือเครื่องประดับที่เป็นทองรูปพรรณ
Comment: (266)คือหลังจากนบีมูซาไปพบพระเจ้า
Comment: (267)คือมีเสียงก้องเป็นเสียงวัว
Comment: (268)เป็นคำถามเชิงประณามจากอัลลอฮ์ในการกระทำโง่ๆ ของพวกเขา
Comment: (269)คืออธรรมตัวเองเนื่องจากตัวเองจะได้รับจากการกระทำของพวกเขา
7:149
وَلَمَّا سُقِطَ فِىٓ أَيْدِيهِمْ وَرَأَوْا۟ أَنَّهُمْ قَدْ ضَلُّوا۟ قَالُوا۟ لَئِن لَّمْ يَرْحَمْنَا رَبُّنَا وَيَغْفِرْ لَنَا لَنَكُونَنَّ مِنَ ٱلْخَـٰسِرِينَ
Translation: และเมื่อได้ถูกตกลงในเมืองของพวกเขา(270) และพวกเขาได้เห็นว่าพวกเขาได้หลงผิดไปแล้ว พวกเขาจึงกล่าวว่า แน่นอนถ้าหากพระผู้อภิบาลของเรามิได้เอ็นดูเมตตาแก่เรา และมิได้อภัยโทษให้แก่เราแล้ว แน่นอนพวกเราก็จะต้องอยู่ในหมู่ผู้ขาดทุน
Comment: (270)หมายถึงพวกเขากัดนิ้วมือของพวกเขา เป็นการแสดงออกซึ่งความเสียใจ ประหนึ่งว่าปากของพวกเขาถูกทำให้ตกลงในมือของพวกเขาเพื่อทำการกัดนิ้วมือของพวกเขา ข้อความดังกล่าวนี้เป็นสำนวนที่คนอาหรับใช้กล่าวแสดงถึงความเสียใจ
7:150
وَلَمَّا رَجَعَ مُوسَىٰٓ إِلَىٰ قَوْمِهِۦ غَضْبَـٰنَ أَسِفًۭا قَالَ بِئْسَمَا خَلَفْتُمُونِى مِنۢ بَعْدِىٓ ۖ أَعَجِلْتُمْ أَمْرَ رَبِّكُمْ ۖ وَأَلْقَى ٱلْأَلْوَاحَ وَأَخَذَ بِرَأْسِ أَخِيهِ يَجُرُّهُۥٓ إِلَيْهِ ۚ قَالَ ٱبْنَ أُمَّ إِنَّ ٱلْقَوْمَ ٱسْتَضْعَفُونِى وَكَادُوا۟ يَقْتُلُونَنِى فَلَا تُشْمِتْ بِىَ ٱلْأَعْدَآءَ وَلَا تَجْعَلْنِى مَعَ ٱلْقَوْمِ ٱلظَّـٰلِمِينَ
Translation: และเมื่อมูซาได้กลับมายังพวกพ้องของเขาด้วยความโกรธ และเสียใจเขาได้กล่าวว่า ช่างเลวร้ายจริง ๆ ที่พวกท่านทำหน้าที่แทน(271) ฉัน หลังจากฉัน(272) พวกท่านด่วนกระทำก่อน(273) คำสั่งขอพระผู้อภิบาลของพวกท่าน(274) กระนั้นหรือ? และเขาได้โยนบรรดาแผ่นจารึกลง และจับศีรษะพี่ชายของเขา(275) โดยดึงมัน(276) มายังเขา เขา(277) กล่าวว่า โอ้ลูกแม่(278) แท้จริงพวกพ้องเหล่านั้นเห็นว่า ฉันเป็นผู้อ่อนแอ(279) และพวกเขาเกือบจะฆ่าฉันแล้ว ดังนั้น จงอย่าให้ศัตรูทั้งหลายดีใจ(280) ต่อสิ่งที่ประสบกับฉันเลย และจงอย่าให้ฉันร่วมอยู่(281) ในกลุ่มชนที่อธรรมเหล่านั้นเลย
Comment: (271)อันได้แก่การทำลูกวัวขึ้นจากเครื่องทองที่ติดตัวมาแล้วทำการเคารพสักการะ ซึ่งนับเป็นการกระทำที่เลวร้ายจริงๆ
Comment: (272)คือหลังจากฉันไปพบกับอัลลอฮ์ที่ภูเขาซินาย
Comment: (273)คือด่วนกระทำการเคารพสักการะลูกวัว
Comment: (274)คือก่อนคำสั่งของพระเจ้าที่จะให้พวกท่านปฏิบัติทั้งนี้เป็นการอวดดีของพวกเจ้า อนึ่งผู้ที่เกรียกร้องให้เตารพลูกวัวนั้นคือ อัซซามิรีย์
Comment: (275)คือนบีฮารูน
Comment: (276)คือดึงศีรษะของนบีฮารูน
Comment: (277)หมายถึงนบีฮารูน
Comment: (278)คือลูกแม่ของฉัน ในการกล่าวเช่นนั้นเพื่อสะกิดใจให้นบีมูซาระงับการกระทำรุนแรงแก่ท่าน
Comment: (279)คือไม่ใช่ผู้มีอำนาจเด็ดขาดที่พวกเขาถึงยำเกรง เพราะท่านเป็นนบีผู้ช่วยเท่านั้น
Comment: (280)คืออย่าดีใจต่อการที่ท่านจะกระทำแก่ฉัน
Comment: (281)คืออย่าให้ฉันอยู่ในฐานะผู้กระทำผิด เช่นเดียวกับกลุ่มชนที่อธรรมเหล่านั้นเลย เพราะฉันมิได้ทำผิด และไม่สมควรที่จะถูกลงโทษ
7:151
قَالَ رَبِّ ٱغْفِرْ لِى وَلِأَخِى وَأَدْخِلْنَا فِى رَحْمَتِكَ ۖ وَأَنتَ أَرْحَمُ ٱلرَّٰحِمِينَ
Translation: เขากล่าวว่า โอ้พระผู้อภิบาลแห่งข้าพระองค์โปรดอภัยโทษแก่ข้าพระองค์ และแก่พี่ชายของข้าพระองค์ด้วย และโปรดได้ทรงให้พวกข้าพระองค์เข้าอยู่ในความเอ็นดูเมตตาของพระองค์เถิด และพระองค์นั้นคือผู้ที่ทรงเอ็นดูเมตตายิ่งกว่าผู้เอ็นดูเมตตาทั้งหลาย
7:152
إِنَّ ٱلَّذِينَ ٱتَّخَذُوا۟ ٱلْعِجْلَ سَيَنَالُهُمْ غَضَبٌۭ مِّن رَّبِّهِمْ وَذِلَّةٌۭ فِى ٱلْحَيَوٰةِ ٱلدُّنْيَا ۚ وَكَذَٰلِكَ نَجْزِى ٱلْمُفْتَرِينَ
Translation: แท้จริงบรรดาผู้ที่ยึดลูกวัว พวกเขาจะได้รับความกริ้วโกรธจากพระเจ้าของพวกเขา และความต่ำช้าในชีวิตความเป็นอยู่แห่งโลกนี้ และในทำนองเดียวกัน เราจะตอบแทนแก่บรรดาผู้อุปโลกน์ความเท็จขึ้น
7:153
وَٱلَّذِينَ عَمِلُوا۟ ٱلسَّيِّـَٔاتِ ثُمَّ تَابُوا۟ مِنۢ بَعْدِهَا وَءَامَنُوٓا۟ إِنَّ رَبَّكَ مِنۢ بَعْدِهَا لَغَفُورٌۭ رَّحِيمٌۭ
Translation: และบรรดาผู้ที่กระทำสิ่งที่ชั่ว แล้วสำนึกผิดกลับตัวหลังจากนั้น และศรัทธาแล้วไซร้ แน่นอน พระผู้อภิบาลของเจ้านั้น หลังจากนั้น(282) ย่อมเป็นผู้ทรงอภัยโทษทรงเอ็นดูเมตตา
Comment: (282)คือหลังจากเลิกจากการทำชั่ว และกลับเนื้อกลับตัว
7:154
وَلَمَّا سَكَتَ عَن مُّوسَى ٱلْغَضَبُ أَخَذَ ٱلْأَلْوَاحَ ۖ وَفِى نُسْخَتِهَا هُدًۭى وَرَحْمَةٌۭ لِّلَّذِينَ هُمْ لِرَبِّهِمْ يَرْهَبُونَ
Translation: และเมื่อความกริ้วโกรธจากมูซาได้สงบลง เขาก็เอาบรรดาแผ่นจารึกนั้นไปและในสิ่งที่ถูกจารึกไว้ในมันนั้นมีคำแนะนำและความเอ็นดูเมตตาแก่บรรดาผู้ที่เกรงกลัวพระผู้อภิบาลของพวกเขา
7:155
وَٱخْتَارَ مُوسَىٰ قَوْمَهُۥ سَبْعِينَ رَجُلًۭا لِّمِيقَـٰتِنَا ۖ فَلَمَّآ أَخَذَتْهُمُ ٱلرَّجْفَةُ قَالَ رَبِّ لَوْ شِئْتَ أَهْلَكْتَهُم مِّن قَبْلُ وَإِيَّـٰىَ ۖ أَتُهْلِكُنَا بِمَا فَعَلَ ٱلسُّفَهَآءُ مِنَّآ ۖ إِنْ هِىَ إِلَّا فِتْنَتُكَ تُضِلُّ بِهَا مَن تَشَآءُ وَتَهْدِى مَن تَشَآءُ ۖ أَنتَ وَلِيُّنَا فَٱغْفِرْ لَنَا وَٱرْحَمْنَا ۖ وَأَنتَ خَيْرُ ٱلْغَـٰفِرِينَ
Translation: และมูซาได้เลือก(283) จากพวกพ้องของเขาซึ่งชายเจ็ดสิบคนกำหนดเวลาของ(284) เราา ครั้นเมื่อความไหวอันรุนแรง(285) ได้คร่าชีวิตพวกเขา เขา(286) กล่าวว่า โอ้พระผู้อภิบาลแห่งข้าพระองค์ หากพระองค์ทรงประสงค์แล้ว(287) พระองค์ก็ทรงทำลายพวกเขาไปก่อนแล้ว(288) และข้าพระองค์ด้วย พระองค์จะทรงทำลายพวกข้าพระองค์ เนื่องด้วยสิ่งที่บรรดาผู้โฉดเขลาในหมู่ผู้ข้าพระองค์ได้กระทำขึ้น(289) กระนั้นหรือ? มัน(290) มิใช่อื่นใดดอก นอกจากการทดสอบของพระองค์เท่านั้น พระองค์จะทรงให้ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์หลงผิด(291) ไปเนื่องด้วยการทดสอบนั้น และจะทรงนำทางผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์(292) พระองค์คือผู้ทรงคุ้มครองพวกข้าพระองค์ ดังนั้นโปรดได้ทรงอภัยให้แก่พวกข้าพระองค์ และเอ็นดูเมตตาพวกข้าพระองค์ด้วยเถิด และพระองค์คือผู้ทรงเยี่ยมกว่าในหมู่ผู้ให้อภัยทั้งหลาย(293)
Comment: (283)คือเลือกผู้ที่มิได้ร่วมกระทำการเคารพสักการะลูกวัว
Comment: (284)คือกำหนดเวลาที่อัลลอฮ์ได้ทรงให้ไว้แก่นบีมูซา กล่าวคือท่านนบีมูซาได้ขออนุญาตต่ออัลลอฮ์ที่จะนำพวกพ้องของท่านจำนวนหนึ่งเข้าเฝ้าพระองค์เพื่อขออภัยต่อพระองค์เนื่องจากได้มีบุคคลในหมู่พวกเขากระทำผิดโดยเคารพสักการะลูกวัวด้วยความโฉดเขลา แล้วพระองค์ก็ทรงอนุญาตและกำหนดเวลาให้
Comment: (285)คือความสั่นไหวอันอันรุนแรงของภูเขาซินายที่พวกเขาไปชุมนุมกันเพื่อเข้าเฝ้าอัลลอฮ์นั้นได้ทำให้พวกเขาเสียชีวิต
Comment: (286)คือท่านนบีมูซา
Comment: (287)คือทรงประสงค์จะทำลายพวกเขา
Comment: (288)คือก่อนจากที่จะมาเข้าเฝ้าพระองค์
Comment: (289)หมายถึงกระทำการเคารพสักการะลูกวัว อนึ่งคำถามนี้หากเช่นเป็นคำถามเพื่ออยากทราบก็หาไม่ หากแต่เป็นคำถามในเชิงขอความกรุณา กล่าวคือประหนึ่งท่านนบีมูซากล่าวว่า โปรดอย่าได้ทรงลงโทษพวกข้าพระองค์ เนื่องด้วยความผิดที่พวกโง่ ๆ ในหมู่ข้าพระองค์ได้ประกอบขึ้นเลย แล้วพระองค์ก็ทรงให้ทุกคนฟื้นคืนชีพ
Comment: (290)หมายถึงการให้ภูเขาไหวอย่างแรงและทำให้ผู้ที่มาเฝ้าพระองค์เสียชีวิต
Comment: (291)คือผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ให้หลงผิดนั้นได้แก่บุคคลที่ไม่ใช้สติปัญญาในสิ่งที่พระองค์ทดสอบพวกเขา ทำให้พวกเขาขาดความอดทน และดื้อรั้นไม่ยอมรับคำแนะนำชี้แจง บุคคลประเภทนี้พระองค์จะทรงปล่อยให้หลงผิดไปตามความปรารถนาของพวกเขา
Comment: (292)หมายถึงผู้ที่ใช้สติปัญญาและสำนึกผิด กลับเนื้อกลับตัว
Comment: (293)คือในหมู่ผู้อภัยทั้งหลายแล้วพระองค์ทรงเยี่ยมที่สุดและเลิศที่สุดในการให้อภัย
7:156
۞ وَٱكْتُبْ لَنَا فِى هَـٰذِهِ ٱلدُّنْيَا حَسَنَةًۭ وَفِى ٱلْـَٔاخِرَةِ إِنَّا هُدْنَآ إِلَيْكَ ۚ قَالَ عَذَابِىٓ أُصِيبُ بِهِۦ مَنْ أَشَآءُ ۖ وَرَحْمَتِى وَسِعَتْ كُلَّ شَىْءٍۢ ۚ فَسَأَكْتُبُهَا لِلَّذِينَ يَتَّقُونَ وَيُؤْتُونَ ٱلزَّكَوٰةَ وَٱلَّذِينَ هُم بِـَٔايَـٰتِنَا يُؤْمِنُونَ
Translation: และโปรดได้ทรงกำหนด(294) ความดีให้แก่พวกข้าพระองค์ในโลกนี้ และในปรโลกด้วย แท้จริง พวกข้าพระองค์สำนึกผิด และกลับมายังพระองค์แล้ว พระองค์ตรัสว่า การลงโทษของข้านั้น ข้าจะให้มันประสบแก่ผู้ที่ข้าประสงค์(295) และการเอ็นดูเมตตาของข้านั้น กว้างขวางทั่วทุกสิ่ง ซึ่งข้าจะกำหนดมันให้แก่บรรดาผู้ที่ยำเกรง(296) และชำระซะกาต และแก่บรรดาผู้ที่พวกเขาศรัทธาต่อบรรดาโองการของเรา(297)
Comment: (294)หมายถึงให้ทรงประทานตามที่ให้
Comment: (295)คือประสงค์จะลงโทษเนื่องจากพวกเขาดื้อดึงไม่ยอมสำนึกผิดและกลับตัว
Comment: (296)คือยำเกรงต่อพระองค์
Comment: (297)หมายความว่า ผู้ที่ปฏิเสธศรัทธาต่อบรรดาโองการของพระองค์ หรือผู้ที่เป็นกาเฟรนั้นไม่มีโอกาสที่จะได้รับความเอ็นดูเมตตาของพระองค์ได้เลย แล้วพวกก็อดยานีไปเอาที่ไหนมาพูดว่า คนกาเฟรจะได้เข้าสวรรค์ เพราะได้รับเมตตาจากพระองค์ อย่างนี้แหละที่ผู้คนเขากล่าวว่า มีเจตนาบิดเบือนและผู้ที่มีเจตนาบิดเบือนดังกล่าวก็กลายเป็นกาเฟรไปด้วย และเป็นที่ต้องห้ามแก่มุสลิมที่จะคบหาสมาคมกับพวกเขา
7:157
ٱلَّذِينَ يَتَّبِعُونَ ٱلرَّسُولَ ٱلنَّبِىَّ ٱلْأُمِّىَّ ٱلَّذِى يَجِدُونَهُۥ مَكْتُوبًا عِندَهُمْ فِى ٱلتَّوْرَىٰةِ وَٱلْإِنجِيلِ يَأْمُرُهُم بِٱلْمَعْرُوفِ وَيَنْهَىٰهُمْ عَنِ ٱلْمُنكَرِ وَيُحِلُّ لَهُمُ ٱلطَّيِّبَـٰتِ وَيُحَرِّمُ عَلَيْهِمُ ٱلْخَبَـٰٓئِثَ وَيَضَعُ عَنْهُمْ إِصْرَهُمْ وَٱلْأَغْلَـٰلَ ٱلَّتِى كَانَتْ عَلَيْهِمْ ۚ فَٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ بِهِۦ وَعَزَّرُوهُ وَنَصَرُوهُ وَٱتَّبَعُوا۟ ٱلنُّورَ ٱلَّذِىٓ أُنزِلَ مَعَهُۥٓ ۙ أُو۟لَـٰٓئِكَ هُمُ ٱلْمُفْلِحُونَ
Translation: คือบรรดาผู้ปฏิบัติตามร่อซูล(298) ผู้เป็นนบีที่เขียนอ่านไม่เป็นที่พวกเขา(299) พบเขาถูกจารึกไว้ ณ ที่พวกเขา ทั้งในอัตเตารอต และในอัลอินญีลโดยที่เขา(300) จะใช้พวกเขาให้กระทำในสิ่งที่ชอบและห้ามพวกเขามิให้กระทำในสิ่งที่ไม่ชอบ และจะอนุมัติให้แก่พวกเขาซึ่งสิ่งดีทั้งหลาย และจะให้เป็นที่ต้องห้ามแก่พวกเขา ซึ่งสิ่งที่เลวทั้งหลาย และจะปลดเปลื้องออกจากพวกเขา ซึ่งภาระหนักของพวกเขาและห่วงคอ(301) ที่ปรากฏอยู่บนพวกเขา ดังนั้น บรรดาผู้ที่ศรัทธาต่อเขา และให้ความสำคัญแก่เขาและช่วยเหลือเขา และปฏิบัติตามแสงสว่าง(302) ที่ถูกประทานลงมาแก่เขา ชนเหล่านี้แหละคือบรรดาผู้ที่ประสบความสำเร็จ
Comment: (298)หมายถึงท่านนบีมุฮัมมัด
Comment: (299)หมายถึงพวกยะฮูดและนะซอรอ กล่าวคือพวกยิวและคริสต์ได้พบชื่อและลักษณะของท่านนบีจารึกอยู่ในคัมภีร์ของพวกเขาทั้งในเตารอด และอินญีล ว่าเป็นผู้ที่จะอุบัติขึ้นเป็นนบีและร่อซูลสุดท้าย
Comment: (300)คือนบีมุฮัมมัด
Comment: (301)คำว่าภาระหนัก และห่วงคอนั้นเป็นคำเรียบเทียบซึ่งหมายถึงบัญญัติศาสนาที่กำหนดให้พวกเขาปฏิบัติในสิ่งที่ยากลำบากแก่พวกเขา เช่นให้ฆ่าคนอื่นโดยเจตนาหรือผิดพลาดก็ตาม จะต้องถูกฆ่าให้ตายตามกันโดยไม่มีการรับค่าทำขวัญใด ๆ ทั้งสิ้นและอื่น ๆอีก
Comment: (302)หมายถึงอัลกุรอาน ในการเปรียบอัลกุรอาน ประหนึ่งแสงสว่างนั้นเนื่องจากอัลกุรอานให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่มนุษย์ประหนึ่งมนุษย์อยู่ในแสงสว่างสามารถรู้เห็นอะไรได้อย่างถูกต้อง
7:158
قُلْ يَـٰٓأَيُّهَا ٱلنَّاسُ إِنِّى رَسُولُ ٱللَّهِ إِلَيْكُمْ جَمِيعًا ٱلَّذِى لَهُۥ مُلْكُ ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضِ ۖ لَآ إِلَـٰهَ إِلَّا هُوَ يُحْىِۦ وَيُمِيتُ ۖ فَـَٔامِنُوا۟ بِٱللَّهِ وَرَسُولِهِ ٱلنَّبِىِّ ٱلْأُمِّىِّ ٱلَّذِى يُؤْمِنُ بِٱللَّهِ وَكَلِمَـٰتِهِۦ وَٱتَّبِعُوهُ لَعَلَّكُمْ تَهْتَدُونَ
Translation: จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า โอ้มนุษย์ทั้งหลาย! แท้จริงฉัน คือร่อซูลของอัลลอฮ์มายังพวกท่านทั้งมวล ซึ่งพระองค์นั้นอำนาจแห่งบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดิน ไม่มีผู้ใดควรได้รับการเคารพภักดี นอกจากพระองค์เท่านั้น ผู้ทรงให้เป็นและทรงให้ตาย ดังนั้น พวกท่านจงศรัทธาต่ออัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์ ผู้เป็นนบีที่เขียนอ่านไม่เป็น ซึ่งเขาศรัทธาต่ออัลลอฮ์และดำรัสทั้งหลายของพระองค์ และพวกเจ้าจงปฏิบัติตามเขา(303) เถิด เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รับคำแนะนำ
Comment: (303)คือปฏิบัติตามนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม คำสั่งนี้เป็นดำรัสของอัลลอฮ์
7:159
وَمِن قَوْمِ مُوسَىٰٓ أُمَّةٌۭ يَهْدُونَ بِٱلْحَقِّ وَبِهِۦ يَعْدِلُونَ
Translation: และจากพวกพ้องของมูซานั้นมีกลุ่มหนึ่งที่แนะนำชี้แจงด้วยความจริง และด้วยความจริงนั้นพวกเขาให้ความเที่ยงธรรม
7:160
وَقَطَّعْنَـٰهُمُ ٱثْنَتَىْ عَشْرَةَ أَسْبَاطًا أُمَمًۭا ۚ وَأَوْحَيْنَآ إِلَىٰ مُوسَىٰٓ إِذِ ٱسْتَسْقَىٰهُ قَوْمُهُۥٓ أَنِ ٱضْرِب بِّعَصَاكَ ٱلْحَجَرَ ۖ فَٱنۢبَجَسَتْ مِنْهُ ٱثْنَتَا عَشْرَةَ عَيْنًۭا ۖ قَدْ عَلِمَ كُلُّ أُنَاسٍۢ مَّشْرَبَهُمْ ۚ وَظَلَّلْنَا عَلَيْهِمُ ٱلْغَمَـٰمَ وَأَنزَلْنَا عَلَيْهِمُ ٱلْمَنَّ وَٱلسَّلْوَىٰ ۖ كُلُوا۟ مِن طَيِّبَـٰتِ مَا رَزَقْنَـٰكُمْ ۚ وَمَا ظَلَمُونَا وَلَـٰكِن كَانُوٓا۟ أَنفُسَهُمْ يَظْلِمُونَ
Translation: และเราได้แบ่งพวกเขาออกเป็นสิบสองเหล่า คือสิบสองกลุ่ม และเราได้มีโองการแก่มูซาขณะที่พวกพ้องของเขาได้ขอน้ำจากเขาว่า จงตีหินก้อนนั้นด้วยไม้เท้าของเจ้า แล้วตาน้ำสิบสองตาก็พวยพุ่งขึ้นจากก้อนหิน(304) นั้น แท้จริงกลุ่มชนแต่ละเหล่า(305) ย่อมรู้แหล่งน้ำดื่มของตน(306) และเราได้ให้เมฆบดบังพวกเขา(307) และเราได้ให้ลงมาแก่พวกเขาซึ่งของหวาน(308) และนกคุ่ม(309) พวกเจ้าจงบริโภคสิ่งที่เราได้ให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้าจากสิ่งที่ดี ๆ เถิดและพวกเขาหาได้อธรรมแก่เราไม่ แต่ทว่าพวกเขาอธรรมแก่ตัวของพวกเขาเองต่างหาก
Comment: (304)คือหลังจากที่ถูกตีด้วยไม่เท้าของท่านนบีมูซา
Comment: (305)คือทั้งสิบสองเหล่า ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากลูกของนบียะอ์กูบสิบสองคน
Comment: (306)คือไม่ก้าวก่ายแหล่งน้ำของกลุ่มอื่น
Comment: (307)ขณะที่เดินในทะเลทรายหลังจากที่ได้ข้ามทะเลไปแล้ว
Comment: (308)คือของหวานชนิดหนึ่งลักษณะเหนียวคล้ายน้ำผึ้งมันจะตกลงมาบนหินและบนใบไม้ในสภาพเหลวคล้ายน้ำค้าง ตั้งแต่เวลารุ่งอรุณจนตะวันขึ้น แล้วมันจะแข็งตัวและแห้ง แล้วผู้คนก็จะเก็บไว้จนพอใช้ในวันหนึ่งๆ
Comment: (309)คือมันจะบินมายังพวกเขาโดยที่พวกเขาจะจับไว้บริโภคพอสำหรับวันหนึ่งๆ
7:161
وَإِذْ قِيلَ لَهُمُ ٱسْكُنُوا۟ هَـٰذِهِ ٱلْقَرْيَةَ وَكُلُوا۟ مِنْهَا حَيْثُ شِئْتُمْ وَقُولُوا۟ حِطَّةٌۭ وَٱدْخُلُوا۟ ٱلْبَابَ سُجَّدًۭا نَّغْفِرْ لَكُمْ خَطِيٓـَٔـٰتِكُمْ ۚ سَنَزِيدُ ٱلْمُحْسِنِينَ
Translation: และเมื่อถูกกล่าวแก่พวกเขาว่า จงอยู่ในเมือง(310) นี้เถิด และจงบริโภคจากเมืองนั้น ณ ที่ใดก็ได้ที่พวกเจ้าประสงค์ และจงกล่าวว่า ฮิฏเฏาะฮ์(311) และจงเข้าประตู(312) นั้นไปในสภาพผู้โน้มศีรษะลงด้วยความนอบน้อม เราก็จะอภัยโทษให้แก่พวกเจ้า ซึ่งบรรดาความผิดของพวกเจ้า และเราจะเพิ่มพูนแก่บรรดาผู้กระทำความดี
Comment: (310)คือ บัยตุลมักดิส
Comment: (311)คือในขณะที่ผ่านเข้าประตูเมืองไป
Comment: (312)คือประตูหนึ่งแห่งบัยตุลมักดิส ซึ่งปัจจุบันนี้เรียกว่า “ประตูฮิฏเฏาะฮ์”
7:162
فَبَدَّلَ ٱلَّذِينَ ظَلَمُوا۟ مِنْهُمْ قَوْلًا غَيْرَ ٱلَّذِى قِيلَ لَهُمْ فَأَرْسَلْنَا عَلَيْهِمْ رِجْزًۭا مِّنَ ٱلسَّمَآءِ بِمَا كَانُوا۟ يَظْلِمُونَ
Translation: แล้วบรรดาผู้อธรรมเหล่านั้นได้เปลี่ยนเอาคำพูดหนึ่ง(313) ซึ่งมิใช่คำพูดที่ถูกกล่าวแก่พวกเขา ดังนั้น เราจึงได้ส่งการลงโทษจากฟากฟ้ามายังพวกเขา เนื่องจากที่พวกเขาอธรรม
Comment: (313)คือเปลี่ยนคำว่า “ฮินเฎาะฮ์” กล่าวแทนคำว่า “ฮิฏเฏาะฮ์” โดยอ้างว่า “ฮิฏเฏาะฮ์” ไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร เอา“ฮินเฏาะฮ์” ดีกว่าซึ่งแปลว่า “เมล็ดข้าวสาลี”
7:163
وَسْـَٔلْهُمْ عَنِ ٱلْقَرْيَةِ ٱلَّتِى كَانَتْ حَاضِرَةَ ٱلْبَحْرِ إِذْ يَعْدُونَ فِى ٱلسَّبْتِ إِذْ تَأْتِيهِمْ حِيتَانُهُمْ يَوْمَ سَبْتِهِمْ شُرَّعًۭا وَيَوْمَ لَا يَسْبِتُونَ ۙ لَا تَأْتِيهِمْ ۚ كَذَٰلِكَ نَبْلُوهُم بِمَا كَانُوا۟ يَفْسُقُونَ
Translation: และเจ้าจงถามพวกเขา(314) ถึงเมืองที่เคยอยู่ใกล้ทะเล(315) ขณะที่พวกเขา(316) ละเมิดในวันสับบาโต(317) ทั้งนี้ขณะที่บรรดาปลาของพวกเขา(318) มายังพวกเขา ในวันสับบาโตของพวกเขา ในสภาพลอยตัวให้เห็นบนผิวน้ำ(319) และวันที่พวกเขาไม่ถือว่าเป็นวันสับบาโต(320)นั้น ปลาเหล่านั้นหาได้มายังพวกเขาไม่(321) ในทำนองนั้นแหละเราจะทดสอบพวกเขา เนื่องด้วยการที่พวกเขาละเมิด
Comment: (314)หมายถึงพวกยิว
Comment: (315)คือเมือง อัยละฮ์ ซึ่งเป็นเมืองของยิวสมัยนบีมูซา
Comment: (316)คือขณะที่ชาวเมืองนั้นทำการจับปลาอันเป็นการละเมิดวันสับบะโต
Comment: (317)วันสับบะโตคือวันเสาร์อันเป็นวันสำคัญของชาวยิวทางศาสนา ซึ่งพวกเขาจะไปโบสถ์กันเพื่อทำการอิบาดะฮ์ และห้ามจับปลาในวันนั้นโดยเด็ดขาด
Comment: (318)หมายถึงปลาในทะเล
Comment: (319)เพราะมันรู้ว่าไม่มีใครรังแกมัน
Comment: (320)คือบรรดาวันอื่นๆ ที่มิใช่วันเสาร์
Comment: (321)เพราะมันรู้ว่าคนจะทำร้ายมัน อนึ่งการที่ปลามีสภาพดังกล่าวนั้น เป็นความประสงค์ของอัลลอฮ์ เพื่อทดสอบชาวยิว
7:164
وَإِذْ قَالَتْ أُمَّةٌۭ مِّنْهُمْ لِمَ تَعِظُونَ قَوْمًا ۙ ٱللَّهُ مُهْلِكُهُمْ أَوْ مُعَذِّبُهُمْ عَذَابًۭا شَدِيدًۭا ۖ قَالُوا۟ مَعْذِرَةً إِلَىٰ رَبِّكُمْ وَلَعَلَّهُمْ يَتَّقُونَ
Translation: และจงรำลึกขณะที่กลุ่มหนึ่ง(322) ในพวกเขากล่าวว่า เพราะเหตุใดเล่าพวกท่านจึงตักเตือนกลุ่มชน(323) ที่อัลลอฮ์จะทรงเป็นผู้ทำลายพวกเขาหรือเป็นผู้ลงโทษพวกเขาอย่างรุนแรง? พวกเขากล่าวว่า (การที่เราตักเตือนนั้น) เพื่อเป็นข้ออ้าง(324) ต่อพระเจ้าของพวกเจ้า และเพื่อว่าพวกเขาจะได้ยำเกรง”
Comment: (322)คือกลุ่มที่มิได้ละเมิด และมิได้ห้ามปรามผู้ละเมิด
Comment: (323)คือกลุ่มชนที่ละเมิด
Comment: (324)คือเป็นข้ออ้างหรือหลักฐานว่าพวกเขาได้ปฏิบัติหน้าที่ของพวกเขาแล้วที่อัลลอฮ์ทรงบัญญัติไว้ ทั้งนี้เพื่อพวกเขาจะได้พ้นผิด
7:165
فَلَمَّا نَسُوا۟ مَا ذُكِّرُوا۟ بِهِۦٓ أَنجَيْنَا ٱلَّذِينَ يَنْهَوْنَ عَنِ ٱلسُّوٓءِ وَأَخَذْنَا ٱلَّذِينَ ظَلَمُوا۟ بِعَذَابٍۭ بَـِٔيسٍۭ بِمَا كَانُوا۟ يَفْسُقُونَ
Translation: ครั้นเมื่อพวกเขาลืม(325) สิ่งที่พวกเขาถูกเตือนในสิ่งนั้น เราก็ช่วยเหลือบรรดาผู้ที่ห้ามปรามการทำชั่วให้รอดพ้น(326) และได้จัดการแก่บรรดาผู้ที่อธรรมเหล่านั้น(327) ด้วยการลงโทษอันรุนแรง เนื่องด้วยการที่พวกเขาละเมิด
Comment: (325)หมายถึงมิได้ปฏิบัติตามคำตักเตือนประหนึ่งว่าพวกเขาลืมกระนั้น ทั้งๆ ที่พวกเขามิได้ลืม
Comment: (326)คือรอดพ้นจากการลงโทษของพระองค์
Comment: (327)คือผู้ที่ฝ่าฝืนจับปลาในวันสับบะโต และบรรดาผู้ที่ไม่ห้ามปรามด้วย
7:166
فَلَمَّا عَتَوْا۟ عَن مَّا نُهُوا۟ عَنْهُ قُلْنَا لَهُمْ كُونُوا۟ قِرَدَةً خَـٰسِـِٔينَ
Translation: ครั้นเมื่อพวกเขาละเมิดสิ่งที่พวกเขาถูกห้ามในสิ่งนั้นแล้ว เราก็ประกาศิตแก่พวกเขาว่า พวกเจ้าจงเป็นสิ่งที่ถูกขับไล่ให้ห่างไกล(328)
Comment: (328)นักปราชญ์บางกลุ่มมีทรรศนะว่า หลังจากประกาศิตแล้ว พวกเขาก็มีสภาพเหมือนลิง แต่ปราชญ์ส่วนมากมีทรรศนะว่าพวกเขาถูกเปลี่ยนสภาพเป็นลิงจริงๆ จะไม่กินไม่ดื่มและไม่สืบพันธุ์ และจะเสียชีวิตภายในสามวัน
7:167
وَإِذْ تَأَذَّنَ رَبُّكَ لَيَبْعَثَنَّ عَلَيْهِمْ إِلَىٰ يَوْمِ ٱلْقِيَـٰمَةِ مَن يَسُومُهُمْ سُوٓءَ ٱلْعَذَابِ ۗ إِنَّ رَبَّكَ لَسَرِيعُ ٱلْعِقَابِ ۖ وَإِنَّهُۥ لَغَفُورٌۭ رَّحِيمٌۭ
Translation: และจงรำลึกขณะที่พระเจ้าของเจ้าได้แจ้งให้ทราบว่า แน่นอน พระองค์จะส่งมาให้มีอำนาจเหนือพวกเขาจนถึงวันกิยามะฮ์ ซึ่งผู้ที่จะบังคับขู่เข็ญพวกเขา ด้วยการทรมานอันร้ายแรง แท้จริงพระเจ้าของเจ้าเป็นผู้ทรงรวดเร็วในการลงโทษ และแท้จริงพระองค์คือผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเอ็นดูเมตตา”
7:168
وَقَطَّعْنَـٰهُمْ فِى ٱلْأَرْضِ أُمَمًۭا ۖ مِّنْهُمُ ٱلصَّـٰلِحُونَ وَمِنْهُمْ دُونَ ذَٰلِكَ ۖ وَبَلَوْنَـٰهُم بِٱلْحَسَنَـٰتِ وَٱلسَّيِّـَٔاتِ لَعَلَّهُمْ يَرْجِعُونَ
Translation: และเราได้แยกพวกเขาออกเป็นกลุ่มๆ ในแผ่นดิน(329) จากพวกเขานั้นมีคนดี และจากพวกเขานั้นมีอื่นจากนั้น(330) และเราได้ทดสอบพวกเขาด้วยบรรดาสิ่งที่ดี(331) และบรรดาสิ่งที่ชั่ว(332) เพื่อว่าพวกเขาจะกลับมา(333)
Comment: (329)คือให้กระจัดกระจายไปอยู่ทุกประเทศในแผ่นดิน
Comment: (330)หมายถึงคนชั่ว
Comment: (331)คือสิ่งที่อำนวยความสุข
Comment: (332)คือการลงโทษจากพระองค์
Comment: (333)คือกลับมาประพฤติจนเป็นคนดี
7:169
فَخَلَفَ مِنۢ بَعْدِهِمْ خَلْفٌۭ وَرِثُوا۟ ٱلْكِتَـٰبَ يَأْخُذُونَ عَرَضَ هَـٰذَا ٱلْأَدْنَىٰ وَيَقُولُونَ سَيُغْفَرُ لَنَا وَإِن يَأْتِهِمْ عَرَضٌۭ مِّثْلُهُۥ يَأْخُذُوهُ ۚ أَلَمْ يُؤْخَذْ عَلَيْهِم مِّيثَـٰقُ ٱلْكِتَـٰبِ أَن لَّا يَقُولُوا۟ عَلَى ٱللَّهِ إِلَّا ٱلْحَقَّ وَدَرَسُوا۟ مَا فِيهِ ۗ وَٱلدَّارُ ٱلْـَٔاخِرَةُ خَيْرٌۭ لِّلَّذِينَ يَتَّقُونَ ۗ أَفَلَا تَعْقِلُونَ
Translation: แล้วได้มีกลุ่มชั่วกลุ่มหนึ่งสืบแทนหลังจากพวกเขา ซึ่งได้รับช่วงคัมภีร์ไว้ โดยที่พวกเขารับเอาสิ่งเล็กๆ น้อยๆ(334) แห่งโลกนี้ และกล่าวว่ามันจะถูกอภัยให้แก่เรา(335) และหากมีสิ่งเล็กๆ น้อยๆ(336) เยี่ยงเดียวกันนั้นมายังพวกเขา พวกเขาก็รับเอามันอีก(337) มิได้ถูกเอาแก่พวกเขาดอกหรือ ซึ่งข้อสัญญาแห่งคัมภีร์ว่า พวกเขาจะไม่กล่าวพาดพิงเกี่ยวกับอัลลอฮ์(338) นอกจากความจริงเท่านั้น และพวกเขาก็ได้ศึกษาสิ่งที่อยู่ในคัมภีร์นั้น(339) แล้ว และที่พำนักแห่งปรโลกนั้น คือสิ่งที่ดียิ่งสำหรับบรรดาผู้ที่ยำเกรงพวกเจ้าไม่ใช้ปัญญาดอกหรือ?
Comment: (334)หมายถึงเงินทองเล็ก ๆ น้อยๆ ไม่ว่าจะเป็นสินบนที่ผู้คนหยิบยื่นให้ หรือเรียกร้องเอาจากผู้คน ทั้งนี้เป็นการแลกเปลี่ยนกับการบิดเบือนคัมภีร์หรืออุปโลกน์บัญญัติขึ้น เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ผู้ที่ให้สินบน
Comment: (335)คืออ้างว่าการกระทำของพวกเขาอัลลอฮ์จะทรงอภัยให้ ประหนึ่งพวกเขากล่าวว่า ต่อไปจะไม่กระทำอีก
Comment: (336)คือในการเอาสินบน แม้เป็นสิ่งเล็ก ๆน้อย ๆ นั้น แสดงให้เห็นถึงการมักได้อย่างหลับหูหลับตาโดยไม่คำนึกว่าจะคู่ควรแก่การได้รับโทษหรือไม่
Comment: (337)คือแม้พวกเขาเคยตั้งใจไว้ว่าจะเลิกการกระทำแต่เมื่อมีผู้หยิบยื่นให้อีกก็อดไม่ได้ที่จะรับไว้ เพราะความละโมกของพวกเขา
Comment: (338)คือจะไม่กล่าวพาดพิงถึงอัลลอฮ์เกี่ยวกับความเท็จ เช่น กล่าวว่า อัลลอฮ์ทรงอนุญาตให้ทำอย่างนั้นได้ ทั้งๆที่พระองค์มิได้ทรงอนุญาตหรือบิดเบือนถ้อยคำของอัลลอฮ์ว่า พระองค์ทรงแจ้งให้ทราบอย่างนี้ ทั้งๆ ที่พระองค์ทรงแจ้งให้ทราบเป็นอย่างอื่นเป็นต้น
Comment: (339)คือรู้แล้วว่ามีบัญญัติให้กระทำอย่างไร เพราะได้ศึกษาบัญญัติที่อยู่ในคัมภีร์แล้ว
7:170
وَٱلَّذِينَ يُمَسِّكُونَ بِٱلْكِتَـٰبِ وَأَقَامُوا۟ ٱلصَّلَوٰةَ إِنَّا لَا نُضِيعُ أَجْرَ ٱلْمُصْلِحِينَ
Translation: และบรรดาผู้ที่ยึดถือคัมภีร์และดำรงไว้ซึ่งการละหมาด แท้จริงเราจะไม่ให้สูญไปซึ่งรางวัลของผู้ปรับปรุงแก้ไขทั้งหลาย
7:171
۞ وَإِذْ نَتَقْنَا ٱلْجَبَلَ فَوْقَهُمْ كَأَنَّهُۥ ظُلَّةٌۭ وَظَنُّوٓا۟ أَنَّهُۥ وَاقِعٌۢ بِهِمْ خُذُوا۟ مَآ ءَاتَيْنَـٰكُم بِقُوَّةٍۢ وَٱذْكُرُوا۟ مَا فِيهِ لَعَلَّكُمْ تَتَّقُونَ
Translation: และจงรำลึกขณะที่เราได้ให้ภูเขาลูกนั้น(340) ไหวตัว และถอนตัวขึ้นเหนือพวกเขา ประหนึ่งมันเป็นสิ่งที่ให้เงาร่ม(341) กระนั้น และพวกเขาคิดว่ามันจะตกลงทับพวกเขา(342) พวกเจ้าจงยึดเอาสิ่ง(343) ที่เราได้ให้ไว้แก่พวกเจ้าด้วยความเข้มแข็ง และจงรำลึกถึงสิ่ง(344) ที่มีอยู่ในนั้น หวังว่าพวกเจ้าจะเกรงกลัว
Comment: (340)คือภูเขาซินาย
Comment: (341)คือประหนึ่งสิ่งกำบังแดดสำหรับพวกเขา
Comment: (342)เนื่องจากมันลอยอยู่เหนือศีรษะของพวกเขาโดยไม่มีสิ่งใดค้ำยันไว้
Comment: (343)หมายถึงบทบัญญัติแห่งศาสนา
Comment: (344)หมายถึงข้อปฏิบัติที่มีอยู่ในบัญญัตินั้น อนึ่งสำหรับข้อความของอายะฮ์นี้ อันได้แก่การยกภูเขานั้น พวกก็อดยานีไม่ยอมเชื่อพวกเขาจึงบิดเบือนให้ความหมายเฉไปทางอื่น ดูกุรอานมะญีด เล่มหนึ่ง หน้า 375
7:172
وَإِذْ أَخَذَ رَبُّكَ مِنۢ بَنِىٓ ءَادَمَ مِن ظُهُورِهِمْ ذُرِّيَّتَهُمْ وَأَشْهَدَهُمْ عَلَىٰٓ أَنفُسِهِمْ أَلَسْتُ بِرَبِّكُمْ ۖ قَالُوا۟ بَلَىٰ ۛ شَهِدْنَآ ۛ أَن تَقُولُوا۟ يَوْمَ ٱلْقِيَـٰمَةِ إِنَّا كُنَّا عَنْ هَـٰذَا غَـٰفِلِينَ
Translation: และจงรำลึกขณะที่พระผู้อภิบาลของเจ้า ได้เอาจากลูกหลานของอาดัมซึ่งลูกๆ ของพวกเขา จากหลังของพวกเขา(345) และให้พวกเขา(346) ยืนยันแก่ตัวของเขาเอง(โดยตอบคำถามที่ว่า) ข้ามิใช่พระเจ้าของพวกเจ้าดอกหรือ? พวกเขากล่าวว่าใช่ขอรับ พวกข้าพระองค์ขอยืนยัน (มิฉะนั้น)(347) พวกเจ้าจะกล่าวในวันกิยามะฮ์ว่า แท้จริงพวกข้าพระองค์ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับเรื่องนี้
Comment: (345)คือให้ลูก ๆ ของพวกเขาเกิดขึ้นจากอสุจิของพวกเขา และการทรงกล่าวว่า “จากหลังของพวกเขา” นั้น เป็นการกล่าวพาดพิงถึงการปฏิสนธิในตอนเริ่มแรกของเด็ก กล่าวคือ ขณะที่ทารกอยู่ในครรภ์นั้น ลูกอัณฑะเริ่มปรากฏอยู่ระหว่างกระดูกสันหลัง และเมื่อเด็กเจริญขึ้นลูกอัณฑะก็จะค่อยเลื่อนลงมา จนอวัยวะทุกส่วนเจริญสมบูรณ์แล้วลุกอัณฑะก็จะเข้าประจำที่ของมันตามที่เราทราบกันอยู่ ดังนั้น ความที่ว่า “พระองค์ทรงเอาลูก ๆ ของลูกหลานนบีอาดัมจากหลังของพวกเขา” นั้น จึงหมายถึงให้ลูก ๆ ของพวกเขาเกิดจากอสุจิของพวกเขานั้นเอง
Comment: (346)คือพวกลูก ๆ ของลูกหลานอาดัม
Comment: (347)คือถ้ามิได้ให้พวกเจ้ากล่าวยืนยันไว้ก่อนแล้ว
7:173
أَوْ تَقُولُوٓا۟ إِنَّمَآ أَشْرَكَ ءَابَآؤُنَا مِن قَبْلُ وَكُنَّا ذُرِّيَّةًۭ مِّنۢ بَعْدِهِمْ ۖ أَفَتُهْلِكُنَا بِمَا فَعَلَ ٱلْمُبْطِلُونَ
Translation: หรือไม่ก็พวกเจ้าจะกล่าวว่า ที่จริงนั้น บรรพบุรุษของพวกข้าพระองค์ได้ให้ภาคีขึ้นมาก่อน และพวกเราป็นลูกหลานที่มาหลังจากพวกเขา(348) แล้วพระองค์จะทรงทำลายพวกเรา เนื่องด้วยการกระทำของบรรดาผู้ที่ทำให้เสียกระนั้นหรือ ?(349)
Comment: (348)จึงได้เลียนแบบตามบรรพบุรุษโดยเข้าใจว่าเป็นกระทำที่ชอบ
Comment: (349)หมายถึงบรรพบุรุษของพวกเขาที่ให้มีภาคีขึ้นแก่อัลลอฮ์
7:174
وَكَذَٰلِكَ نُفَصِّلُ ٱلْـَٔايَـٰتِ وَلَعَلَّهُمْ يَرْجِعُونَ
Translation: และในทำนองนั้นแหละเราจะแจกแจงโองการทั้งหลาย เพื่อว่าพวกเขาจะกลับตัว(350)
Comment: (350)คือกลับมาปฏิบัติในทางที่ถูกด้วยความสำนึกผิด
7:175
وَٱتْلُ عَلَيْهِمْ نَبَأَ ٱلَّذِىٓ ءَاتَيْنَـٰهُ ءَايَـٰتِنَا فَٱنسَلَخَ مِنْهَا فَأَتْبَعَهُ ٱلشَّيْطَـٰنُ فَكَانَ مِنَ ٱلْغَاوِينَ
Translation: และจงอ่านให้พวกเขา(351) ฟัง ซึ่งข่าวของผู้ที่เราได้ให้บรรดาโองการของเราแก่เขา(352) แล้วเขาได้ถอนตัวออกจากโองการเหล่านั้น(353) แล้วชัยฏอนก็ติดตามเขา(354) ดังนั้นเขาจึงอยู่ในหมู่ผู้หลงผิด
Comment: (351)คือพวกยิว
Comment: (352)หมายถึง “บัลอัม บิน บาอูรออ์” ซึ่งเป็นผู้มีความรู้ดีคนหนึ่งของชาวยิว
Comment: (353)คือได้กระทำการฝ่าฝืนบรรดาโองการของพระองค์ประหนึ่งเขาได้ถอนตัวออกจากโองการเหล่านั้น
Comment: (354)คือติดตามเขาเพื่อจูงใจเขาให้กระทำการฝ่าฝืนบรรดาโองการต่อไป แล้วมันก็สามารถทำได้สำเร็จ
7:176
وَلَوْ شِئْنَا لَرَفَعْنَـٰهُ بِهَا وَلَـٰكِنَّهُۥٓ أَخْلَدَ إِلَى ٱلْأَرْضِ وَٱتَّبَعَ هَوَىٰهُ ۚ فَمَثَلُهُۥ كَمَثَلِ ٱلْكَلْبِ إِن تَحْمِلْ عَلَيْهِ يَلْهَثْ أَوْ تَتْرُكْهُ يَلْهَث ۚ ذَّٰلِكَ مَثَلُ ٱلْقَوْمِ ٱلَّذِينَ كَذَّبُوا۟ بِـَٔايَـٰتِنَا ۚ فَٱقْصُصِ ٱلْقَصَصَ لَعَلَّهُمْ يَتَفَكَّرُونَ
Translation: และหากเราประสงค์แล้ว แน่นอนเราก็ยกเขาขึ้น(355) ด้วยบรรดาโองการเหล่านั้น แต่ทว่าเขาคงมั่นอยู่กับดิน(356) และปฏิบัติตามความใคร่ใฝ่ต่ำของเขา ดังนั้น อุปมาของผู้นั้น จึงดั่งอุปมัยของสุนัขหากเจ้าขับไล่มัน มันก็จะหอบแลบลิ้นห้อยลง(357) นั่นแหละคือ อุปมากลุ่มชนที่ปฏิเสธบรรดาโองการของเรา ดังนั้นเจ้าจงเล่าเรื่องราวเหล่านั้นเถิด เพื่อว่าพวกเขาจะได้ใคร่ครวญ
Comment: (355)คือยกเขาขึ้นสู่เกียรติอันสูงส่งด้วยการปฏิบัติตามบรรดาโองการเหล่านั้น
Comment: (356)หมายถึงไม่ยอมที่จะเป็นผู้มีเกียรติ ประหนึ่งบุคคลที่ชอบอยู่กับดิน ยินดีในความสกปรกที่แปดเปื้อนตัวเขาแม้ใครจะเชิญชวนให้ขึ้นไปอยู่บนบ้านก็ไม่ยอม คือลักษณะของผู้ที่ดื้อรั้นดังกล่าวนั้น ก็เช่นเดียวกับลักษณะของสุนัข กล่าวคือผู้ที่ดื้อรั้นนั้นใครจะแนะนำเขาหรือไม่ เขาก็มีสภาพเหมือนเดิม คือประพฤติชั่ว ดังเช่นสุนัขใครจะไล่กวดมัน หรือปล่อยมันไว้แต่ลำพัง มันก็จะมีสภาพหอบพร้อมกับแลบลิ้นห้อยลง
Comment: (357)คือลักษณะของผู้ที่ดื้อรั้นดังกล่าวนั้น ก็เช่นเดียวกับลักษณะของสุนัข กล่าวคือผู้ที่ดื้อรั้นนั้นใครจะแนะนำเขาหรือไม่ เขาก็มีสภาพเหมือนเดิม คือประพฤติชั่ว ดังเช่นสุนัขใครจะไล่กวดมัน หรือปล่อยมันไว้แต่ลำพัง มันก็จะมีสภาพหอบพร้อมกับแลบลิ้นห้อยลง
7:177
سَآءَ مَثَلًا ٱلْقَوْمُ ٱلَّذِينَ كَذَّبُوا۟ بِـَٔايَـٰتِنَا وَأَنفُسَهُمْ كَانُوا۟ يَظْلِمُونَ
Translation: เป็นตัวอย่างที่ชั่วช้าจริงๆ กลุ่มชนที่ปฏิเสธบรรดาโองการของเรา และก็ตัวของพวกเขานั้นเองพวกเขาอธรรมกันอยู่
7:178
مَن يَهْدِ ٱللَّهُ فَهُوَ ٱلْمُهْتَدِى ۖ وَمَن يُضْلِلْ فَأُو۟لَـٰٓئِكَ هُمُ ٱلْخَـٰسِرُونَ
Translation: ผู้ที่อัลลอฮ์ทรงแนะนำนั้น เขาก็เป็นผู้รับคำแนะนำ(358) และผู้ที่พระองค์ทรงปล่อยให้หลงผิด(359) นั้นชนเหล่านี้แหละพวกเขาคือผู้ที่ขาดทุน
Comment: (358)คือเนื่องจากเขามีจิตใจปรารถนาในความจริง เมื่ออัลลอฮ์ทรงแนะนำเขา เขาก็รับคำแนะนำด้วยความยินดี
Comment: (359)เนื่องจากความดื้อรั้นไม่ยอมใช้ความคิด ไม่ยอมรับฟังคำแนะนำชี้แจงที่อัลลอฮ์ทรงประทานมาให้ หากแต่พึงพอใจในการหลงผิดของเขา อัลลอฮ์จึงปล่อยเขาให้เป็นไปตามความปรารถนาของเขา ซึ่งเขาจะต้องรับผิดชอบในการกระทำของเขา อนึ่งการที่พระองค์ทรงระบุว่า “พระองค์ทรงปล่อยให้เขาหลงผิด” นั้นก็เพื่อเป็นการแจ้งให้เราทราบว่าหากพระองค์จะทรงบังคับให้เขาอยู่ในทางที่ถูกนั้นย่อมกระทำได้แต่ที่พระองค์ไม่ทรงกระทำนั้น เนื่องจากพระองค์ทรงให้แต่ละคนตัดสินใจด้วยตนเองเพราะทุกคนมีปัญญา และรับผิดชอบในสิ่งที่เขาตัดสินใจด้วย และอีกประการหนึ่ง ในศาสนาของพระองค์นั้นไม่มีการบังคับให้ใครต้องรับนับถือ
7:179
وَلَقَدْ ذَرَأْنَا لِجَهَنَّمَ كَثِيرًۭا مِّنَ ٱلْجِنِّ وَٱلْإِنسِ ۖ لَهُمْ قُلُوبٌۭ لَّا يَفْقَهُونَ بِهَا وَلَهُمْ أَعْيُنٌۭ لَّا يُبْصِرُونَ بِهَا وَلَهُمْ ءَاذَانٌۭ لَّا يَسْمَعُونَ بِهَآ ۚ أُو۟لَـٰٓئِكَ كَٱلْأَنْعَـٰمِ بَلْ هُمْ أَضَلُّ ۚ أُو۟لَـٰٓئِكَ هُمُ ٱلْغَـٰفِلُونَ
Translation: และแน่นอนเราได้บังเกิดสำหรับญะฮันนัม(360) ซึ่งมากมายจากญิน(361) และมนุษย์ โดยที่พวกเขามีหัวใจซึ่งพวกเขาไม่ใช้มันทำความเข้าใจ และพวกเขามีตา ซึ่งพวกเขาไม่ใช้มันมอง และพวกเขามีหู ซึ่งพวกเขาไม่ใช้มันฟัง ชนเหล่านี้แหละประหนึ่งปศุสัตว์ ใช่แต่เท่านั้น พวกเขาเป็นผู้หลงผิดยิ่งกว่า ชนเหล่านี้แหละ พวกเขาคือผู้ทีเผลอเรอ(362)
Comment: (360)คือชื่อนรกชุมหนึ่ง
Comment: (361)ญินคือบ่าวของอัลลอฮ์ ประเภทหนึ่งซึ่งถูกบังเกิดขึ้นโดยมีหน้าที่ปฏิบัติเช่นเดียวกับมนุษย์ พวกมันเห็นมนุษย์ แต่มนุษย์ไม่เห็นพวกมันในรูปร่างอันแท้จริงของพวกมันได้ นอกจากในร่างที่มันจำแลงเท่านั้น และก็สามารถจำแลงตนให้เหมือนทุกสิ่งทุกอย่างได้นอกจากรูปร่างของท่านนบีมูฮัมมัดเท่านั้น
Comment: (362)คือเนื่องจากความไม่สนใจ เพราะไม่เชื่อว่าสิ่งที่ถูกชี้แจงแนะนำแก่พวกเขามาจากพระเจ้าของพวกเขา
7:180
وَلِلَّهِ ٱلْأَسْمَآءُ ٱلْحُسْنَىٰ فَٱدْعُوهُ بِهَا ۖ وَذَرُوا۟ ٱلَّذِينَ يُلْحِدُونَ فِىٓ أَسْمَـٰٓئِهِۦ ۚ سَيُجْزَوْنَ مَا كَانُوا۟ يَعْمَلُونَ
Translation: และอัลลอฮ์นั้นมีบรรดาพระนามอันสวยงาม ดังนั้นพวกเจ้าจงเรียกหา(363) พระองค์ด้วยพระนามเหล่านั้นเถิด และจงปล่อยบรรดาผู้ที่ทำให้เฉออก(364) ในบรรดาพระนามของพระองค์เถิด พวกเขาจะถูกตอบแทนในสิ่งที่พวกเขากระทำ
Comment: (363)คือวิงวอนขอความช่วยเหลือ
Comment: (364)คืออกเสียงกล่าวพระนามของอัลลอฮ์ให้เพี้ยนและเฉออกจากสำเนียงที่เป็นจริง ทั้งนี้เพื่อให้พระนามของอัลลอฮ์หมดความสวยงามประการหนึ่ง และอีกประการหนึ่งก็เพื่อให้พระนามของพระองค์ ตรงกับชื่อบรรดาเจว็ดของพวกเขา หรือไม่ก็บิดเบือนความหมายแห่งพระนามของพระองค์เสียเลย
7:181
وَمِمَّنْ خَلَقْنَآ أُمَّةٌۭ يَهْدُونَ بِٱلْحَقِّ وَبِهِۦ يَعْدِلُونَ
Translation: และส่วนหนึ่งจากผู้ที่เราได้บังเกิดนั้นคือ คณะหนึ่ง ซึ่งพวกเขาแนะนำ(365) ด้วยความจริง และด้วยความจริงนั้นพวกเขาปฏิบัติ(366) โดยเที่ยงธรรม
Comment: (365)คือแนะนำทั้งตัวเองและผู้อื่น
Comment: (366)คือปฏิบัติสิทธิแก่ตัวเองและผู้อื่น
7:182
وَٱلَّذِينَ كَذَّبُوا۟ بِـَٔايَـٰتِنَا سَنَسْتَدْرِجُهُم مِّنْ حَيْثُ لَا يَعْلَمُونَ
Translation: และบรรดาผู้ปฏิเสธบรรดาโองการของเรา เราจะจัดการกับพวกเขาเป็นขั้นตอน(367) โดยที่พวกเขาไม่รู้
Comment: (367)คือไม่ทรงลงโทษพวกเขาอย่างรุนแรงในทันทีทันใด หากแต่จะค่อย ๆ ลงโทษพวกเขาทีละเล็กละน้อยโดยที่พวกเขาไม่รู้สึกตัวจนกระทั่งเมื่อรู้สึกตัวก็สายเสียแล้วที่จะแก้ไขได้ นั่นก็คือความตายได้มาคร่าชีวิตพวกเขาเสียแล้ว
7:183
وَأُمْلِى لَهُمْ ۚ إِنَّ كَيْدِى مَتِينٌ
Translation: และข้าจะประวิงเวลา(368) ให้แก่พวกเขาแท้จริงอุบาย(369) ของข้านั้นแข็งแรงนัก
Comment: (368)คือเวลาแห่งความตาย
Comment: (369)หมายถึงวิธีแห่งการลงโทษของอัลลอฮ์นั้นแข็งแรงนักไม่มีใครล่วงรู้ได้
7:184
أَوَلَمْ يَتَفَكَّرُوا۟ ۗ مَا بِصَاحِبِهِم مِّن جِنَّةٍ ۚ إِنْ هُوَ إِلَّا نَذِيرٌۭ مُّبِينٌ
Translation: และพวกเขามิได้ใคร่ครวญดอกหรือว่า ที่สหายของพวกเขานั้นหาได้มีความบ้าใดๆ ไม่(370) เขามิใช่ใครอื่นนอกจากผู้ตักเตือนที่ชัดแจ้งคนหนึ่งเท่านั้น
Comment: (370)เป็นการตอบโต้ที่พวกเขากล่าวหาว่า นบีมุฮัมมัดเป็นผู้วิกลจริต
7:185
أَوَلَمْ يَنظُرُوا۟ فِى مَلَكُوتِ ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضِ وَمَا خَلَقَ ٱللَّهُ مِن شَىْءٍۢ وَأَنْ عَسَىٰٓ أَن يَكُونَ قَدِ ٱقْتَرَبَ أَجَلُهُمْ ۖ فَبِأَىِّ حَدِيثٍۭ بَعْدَهُۥ يُؤْمِنُونَ
Translation: และพวกเขามิได้มองดูในอำนาจทั้งหลายแห่งบรรดาชั้นฟ้า และแผ่นดิน และสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงบังเกิดขึ้นดอกหรือ ? และแท้จริงอาจเป็นไปได้ว่า กำหนดเวลาแห่งความตายของพวกเขานั้นได้ใกล้มาแล้ว(371) แล้วก็ถ้อยคำใดเล่าที่พวกเขาจะศรัทธากันหลังจากอัลกุรอาน(372)
Comment: (371)กล่าวคือ เมื่อความตายได้มายังพวกเขาแล้วโดยที่พวกเขามิได้ศรัทธา พวกเขาจะต้องเสียใจอย่างรุนแรงเนื่องจากโทษที่พวกเขาจะได้รับ
Comment: (372)หมายถึงว่าถ้าไม่เชื่ออัลกุรอานแล้ว พวกเขาจะเชื่อคำแนะนำของใคร?
7:186
مَن يُضْلِلِ ٱللَّهُ فَلَا هَادِىَ لَهُۥ ۚ وَيَذَرُهُمْ فِى طُغْيَـٰنِهِمْ يَعْمَهُونَ
Translation: ผู้ใดที่อัลลอฮ์ทรงปล่อยให้หลงไปแล้ว(373) ก็ไม่มีผู้แนะนำใดๆ สำหรับเขา พระองค์จะทรงปล่อยพวกเขาให้ระเหเร่ร่อนอยู่ในการละเมิดของพวกเขา(374)
Comment: (373)คือเนื่องจากความดื้อรั้นของพวกเขา
Comment: (374)เนื่องจากเป็นความปรารถนาของพวกเขา แล้วพระองค์ก็จะทรงลงโทษพวกเขาด้วย
7:187
يَسْـَٔلُونَكَ عَنِ ٱلسَّاعَةِ أَيَّانَ مُرْسَىٰهَا ۖ قُلْ إِنَّمَا عِلْمُهَا عِندَ رَبِّى ۖ لَا يُجَلِّيهَا لِوَقْتِهَآ إِلَّا هُوَ ۚ ثَقُلَتْ فِى ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضِ ۚ لَا تَأْتِيكُمْ إِلَّا بَغْتَةًۭ ۗ يَسْـَٔلُونَكَ كَأَنَّكَ حَفِىٌّ عَنْهَا ۖ قُلْ إِنَّمَا عِلْمُهَا عِندَ ٱللَّهِ وَلَـٰكِنَّ أَكْثَرَ ٱلنَّاسِ لَا يَعْلَمُونَ
Translation: พวกเขาจะถามเจ้าถึงยามอวสาน(วันกิยามะฮ์) นั้นว่า เมื่อใดเล่ามันจะเกิดขึ้น ? จงกล่าวเถิดว่าแท้จริง ความรู้ในเรื่องนั้นอยู่ที่พระผู้อภิบาลของฉันเท่านั้น ไม่มีใครจะเผยมันให้ทราบสำหรับเวลาของมัน(375) ได้ นอกจากพระองค์เท่านั้น มันหนักอึ้ง(376) อยู่ในบรรดาชั้นฟ้า และแผ่นดิน มันจะไม่มายังพวกเจ้า นอกจากโดยกระทันหัน พวกเขาถามเจ้ากันประหนึ่งว่าเจ้านั้นเป็นผู้ที่รู้ในเรื่องนั้น(377) ดี จงกล่าวเถิดแท้จริงความรู้ในเรื่องนั้นอยู่ที่อัลลอฮ์เท่านั้น แต่ทว่ามนุษย์ส่วนมากไม่รู้
Comment: (375)คือเวลาที่มันจะเกิดขึ้น
Comment: (376)คือเวลาแห่งวันกิยามะฮ์นั้นทั้งผู้ที่อยู่ในชั้นฟ้าและแผ่นดินใคร่อยากจะรู้ว่าเมื่อใดมันจะเกิดขึ้น เพราะเป็นสิ่งที่ทุกผู้ทุกนามมีความหวาดกลัว และการที่อยากรู้ในสิ่งที่ไม่สามารถจะรู้ได้นั้น ทำให้รู้สึกว่าสิ่งนั้นประหนึ่งวัตถุที่หนักอึ้งอยู่ ในบรรดาชั้นฟ้าและในแผ่นดิน
Comment: (377)คือรู้ในเรื่องเวลาของวันกิยามะฮ์
7:188
قُل لَّآ أَمْلِكُ لِنَفْسِى نَفْعًۭا وَلَا ضَرًّا إِلَّا مَا شَآءَ ٱللَّهُ ۚ وَلَوْ كُنتُ أَعْلَمُ ٱلْغَيْبَ لَٱسْتَكْثَرْتُ مِنَ ٱلْخَيْرِ وَمَا مَسَّنِىَ ٱلسُّوٓءُ ۚ إِنْ أَنَا۠ إِلَّا نَذِيرٌۭ وَبَشِيرٌۭ لِّقَوْمٍۢ يُؤْمِنُونَ
Translation: จงกล่าวเถิดว่า(มุฮัมมัด) ว่าฉันไม่มีอำนาจที่จะครอบครองประโยชน์ใดๆ และโทษใดๆ ไว้เป็นกรรมสิทธิ์แก่ตัวของฉันได้(378) นอกจากสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงประสงค์เท่านั้น และหากฉันเป็นผู้ที่รู้สิ่งเร้นลับแล้ว แน่นอน ฉันก็ย่อมกอบโกยสิ่งที่ดีไว้(379) มากมายแล้ว และความชั่วร้ายก็ย่อมไม่แตะต้องฉันได้(380) ฉันมิใช้ใครอื่นนอกจากผู้ตักเตือน และผู้ประกาศข่าวดีแก่กลุ่มชนที่ศรัทธาเท่านั้น
Comment: (378)คือเหตุนี้ฉันจึงไม่สามารถที่จะให้และให้โทษแก่ใครได้ เพราะมันไม่อยู่ในครอบครองของฉัน
Comment: (379)ส่วนหนึ่งจากสิ่งที่ดีนั้นก็คือทรัพย์สินเงินทอง เพราะรู้ดีว่ามันอยู่ที่ไหน และทางใดที่จะได้มา
Comment: (380)เพราะรู้ล่วงหน้าก่อนแล้วจึงสามารถหลบหลีกและป้องกันได้ แต่ความจริงหาได้เป็นเช่นนั้นไม่
7:189
۞ هُوَ ٱلَّذِى خَلَقَكُم مِّن نَّفْسٍۢ وَٰحِدَةٍۢ وَجَعَلَ مِنْهَا زَوْجَهَا لِيَسْكُنَ إِلَيْهَا ۖ فَلَمَّا تَغَشَّىٰهَا حَمَلَتْ حَمْلًا خَفِيفًۭا فَمَرَّتْ بِهِۦ ۖ فَلَمَّآ أَثْقَلَت دَّعَوَا ٱللَّهَ رَبَّهُمَا لَئِنْ ءَاتَيْتَنَا صَـٰلِحًۭا لَّنَكُونَنَّ مِنَ ٱلشَّـٰكِرِينَ
Translation: พระองค์คือผู้ที่ได้ทรงบังเกิดพวกเจ้าจากชีวิตเดียว(381) และได้ทรงให้มีขึ้นจากชีวิตนั้นซึ่งคู่ครอง(382) ของชีวิตนั้นเพื่อชีวิตนั้นจะได้มีความสงบสุขกับนาง ครั้นเมื่อชีวิตนั้นได้สมสู่นาง นางก็อุ้มครรภ์อย่างเบาๆ(383) แล้วนางก็ผ่านมันไป(384) ครั้นเมื่อนางอุ้มครรภ์หนัก(385) เขาทั้งสอง(386) ก็วิงวอนต่ออัลลอฮ์ผู้เป็นพระผู้อภิบาลของเขาทั้งสองว่า ถ้าหากพระองค์ทรงประทานบุตรที่สมบูรณ์ให้ข้าพระองค์แล้ว แน่นอนข้าพระองค์ก็อยู่ในหมู่ผู้ขอบคุณ
Comment: (381)คือท่านนบีอาดัม
Comment: (382)คือพระนางเฮาวาอ์
Comment: (383)คือตั้งครรภ์อ่อน ๆ
Comment: (384)คือผ่านไปโดยไม่รู้สึกว่ามีความเดือดร้อนแต่ประการใด
Comment: (385)คือท้องแก่
Comment: (386)คือนบีอาดัมและพระนางเฮาวาอ์
7:190
فَلَمَّآ ءَاتَىٰهُمَا صَـٰلِحًۭا جَعَلَا لَهُۥ شُرَكَآءَ فِيمَآ ءَاتَىٰهُمَا ۚ فَتَعَـٰلَى ٱللَّهُ عَمَّا يُشْرِكُونَ
Translation: ครั้นเมื่อพระองค์ได้ทรงประทานให้เขาทั้งสองซึ่งบุตรที่สมบูรณ์ เขาทั้งสอง(387) ก็ให้มีบรรดาภาคีขึ้นแก่พระองค์ ในสิ่งที่พระองค์ทรงประทานให้แก่เขาทั้งสอง อัลลอฮ์นั้นทรงสูงเกินกว่าที่พวกเขาให้มีภาคีขึ้น
Comment: (387)หมายถึงสามีภรรยาซึ่งเป็นลูกหลานของนบีอาดัมหลังจากท่าน แต่ตามสำนวนของประโยคอาจทำให้เข้าใจว่า เป็นนบีอาดัมและเฮาวาอ์ได้ อย่างไรก็ดีถ้าเข้าใจเช่นนั้นย่อมขัดต่อความเป็นจริงที่ว่าผู้เป็นนบีนั้นย่อมรู้จักอัลลอฮ์ดีที่จะไม่กระทำการชิริกต่อพระองค์ อีกประการหนึ่งการใช้ถ้อยคำในภาษาอาหรับนั้น บางครั้งก็ระบุว่ามนุษย์ทั้งหมดนั้น เป็นบุตรของอาดัมและเฮาวาอ์ ทั้ง ๆ ที่ผู้เป็นบุตรของอาดัมและเฮาวาอ์จริง ๆ เพียงไม่กี่คน แต่โดยที่มนุษย์ทุกคนสืบเชื้อสายมาจากท่าน จึงอาจกล่าวได้ว่ามนุษย์เป็นบุตรของท่าน ในทำนองเดียวกันเมื่อระบุถึงท่านทั้งสองจึงอาจหมายถึงลูกหลานของท่านก็ได้ เพราะลูกหลานของท่านก็คือตัวของท่านทั้งสองนั้นเอง ทั้งนี้ในกรณีที่มีหลักฐานประกอบช่วยให้เข้าใจได้ว่าเป็นลูกหลานของท่าน ดังอายะฮ์นี้
7:191
أَيُشْرِكُونَ مَا لَا يَخْلُقُ شَيْـًۭٔا وَهُمْ يُخْلَقُونَ
Translation: พวกเขา(388) จะให้สิ่งที่บังเกิดอันใดมีหุ้นส่วน(กับพระองค์(389)) ทั้งๆ ที่พวกมันถูกบังเกิดขึ้น(390) กระนั้นหรือ?
Comment: (388)คือมุชริกมักกะฮ์
Comment: (389)คือมีหุ้นส่วนกับพระองค์ในการเคารพสักการะของพวกเขา
Comment: (390)คือถูกบังเกิดขึ้นโดยพระองค์
7:192
وَلَا يَسْتَطِيعُونَ لَهُمْ نَصْرًۭا وَلَآ أَنفُسَهُمْ يَنصُرُونَ
Translation: และพวกมัน(391) ไม่สามารถให้ความช่วยเหลือใดๆ แก่พวกเขา(392) และทั้งไม่สามารถช่วยเหลือตัวของพวกมัน(393) เองด้วย
Comment: (391)หมายถึงบรรดาเจว็ด
Comment: (392)คือพวกมุชริกมักกะฮ์
Comment: (393)คือตัวของพวกเจว็ดเอง
7:193
وَإِن تَدْعُوهُمْ إِلَى ٱلْهُدَىٰ لَا يَتَّبِعُوكُمْ ۚ سَوَآءٌ عَلَيْكُمْ أَدَعَوْتُمُوهُمْ أَمْ أَنتُمْ صَـٰمِتُونَ
Translation: และหากพวกเจ้าเชิญชวนพวกเขา(394) ไปสู่คำแนวทางที่ถูกต้อง พวกเขาก็จะไม่ปฏิบัติตาม(395)พวกเจ้า ย่อมมีผลเท่ากันแก่พวกเจ้า พวกเจ้าจะเชิญชวนพวกเขาหรือพวกเจ้าจะนิ่งเฉยอยู่ก็ตาม
Comment: (394)คือพวกเจว็ด
Comment: (395)เพราะมันไม่ได้ยินคำวิงวอน และไม่รู้เรื่องในสิ่งที่พวกเขาต้องการ แม้ว่ารู้เรื่องก็ทำไม่ได้
7:194
إِنَّ ٱلَّذِينَ تَدْعُونَ مِن دُونِ ٱللَّهِ عِبَادٌ أَمْثَالُكُمْ ۖ فَٱدْعُوهُمْ فَلْيَسْتَجِيبُوا۟ لَكُمْ إِن كُنتُمْ صَـٰدِقِينَ
Translation: แท้จริงบรรดาผู้ที่พวกเจ้าวิงวอนขอ(396) อื่นจากอัลลอฮ์คือ ผู้ที่เป็นบ่าว(397) เยี่ยงพวกเจ้านั้นเอง จงวิงวอนขอต่อพวกเขาเถิด แล้วจงให้พวกเขาตอบรับพวกเจ้าด้วย(398) หากพวกเจ้าเป็นผู้พูดจริง(399)
Comment: (396)คือขอความช่วยเหลือต่อพวกเขา
Comment: (397)คือเป็นบ่าวของอัลลอฮ์
Comment: (398)กล่าวคือไม่มีทางที่พวกเขาจะตอบรับได้ เพราะพวกเขาไม่ได้ยินและไม่รู้เรื่อง
Comment: (399)คือพูดจริงว่าพวกเขาให้คุณและให้โทษแก่พวกเจ้าได้สมควรแก่การเคารพสักการะ อนึ่งการใช้ให้ขอในที่นี้เป็นการประชด
7:195
أَلَهُمْ أَرْجُلٌۭ يَمْشُونَ بِهَآ ۖ أَمْ لَهُمْ أَيْدٍۢ يَبْطِشُونَ بِهَآ ۖ أَمْ لَهُمْ أَعْيُنٌۭ يُبْصِرُونَ بِهَآ ۖ أَمْ لَهُمْ ءَاذَانٌۭ يَسْمَعُونَ بِهَا ۗ قُلِ ٱدْعُوا۟ شُرَكَآءَكُمْ ثُمَّ كِيدُونِ فَلَا تُنظِرُونِ
Translation: พวกมัน(400) มีเท้าที่ใช้มันเดินกระนั้นหรือ ? หรือว่าพวกมันมีมีที่ใช้มันจัดการอย่างรุนแรง(401) หรือว่าพวกมันมีตาที่ใช้มอง หรือว่าพวกมันมีหูที่ใช้มันฟัง จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่า พวกท่านจงวิงวอนขอต่อบรรดาภาคี(402) ของพวกเจ้าเถิดแล้วจงวางอุบาย(403) แก่ฉันด้วย จงอย่าได้ประวิงเวลาให้แก่ฉันเลย
Comment: (400)คือพวกเจว็ด
Comment: (401)คือใช้มือทำร้ายผู้อื่นได้อย่างรุนแรง
Comment: (402)คือบรรดาภาคีของพวกเจ้าที่พวกเจ้าอุปโลกน์ขึ้นเพื่อให้มีส่วนร่วมกับอัลลอฮ์ในการเคารพสักการะของพวกเจ้า
Comment: (403)คือวางอุบายเพื่อกำจัดฉัน หรือขัดขวางฉันคือขอความช่วยเหลือต่อพวกเขา
7:196
إِنَّ وَلِـِّۧىَ ٱللَّهُ ٱلَّذِى نَزَّلَ ٱلْكِتَـٰبَ ۖ وَهُوَ يَتَوَلَّى ٱلصَّـٰلِحِينَ
Translation: แท้จริงผู้คุ้มครองฉันนั้นคือ อัลลอฮ์ผู้ทรงประทานคัมภีร์ลงมา และในขณะเดียวกันพระองค์ก็ทรงคุ้ครองบรรดาผู้ประพฤติดีทั้งหลาย
7:197
وَٱلَّذِينَ تَدْعُونَ مِن دُونِهِۦ لَا يَسْتَطِيعُونَ نَصْرَكُمْ وَلَآ أَنفُسَهُمْ يَنصُرُونَ
Translation: และบรรดาผู้ที่พวกเจ้าวิงวอนขอ(404) อื่นจากพระองค์นั้น พวกมันไม่สามารถจะช่วยเหลือพวกเจ้าได้ และไม่สามารถช่วยเหลือตัวของพวกมันเองด้วย
Comment: (404)คือขอความช่วยเหลือต่อพวกเขา
7:198
وَإِن تَدْعُوهُمْ إِلَى ٱلْهُدَىٰ لَا يَسْمَعُوا۟ ۖ وَتَرَىٰهُمْ يَنظُرُونَ إِلَيْكَ وَهُمْ لَا يُبْصِرُونَ
Translation: และหากพวกเจ้าวิงวอนพวกมันให้ช่วยนำไปสู่คำแนวทางที่ถูกต้อง พวกมันก็ไม่ได้ยิน และเจ้าจะเห็นพวกมันมองมายังเจ้า ทั้ง ๆ ที่พวกมันมองไม่เห็น
7:199
خُذِ ٱلْعَفْوَ وَأْمُرْ بِٱلْعُرْفِ وَأَعْرِضْ عَنِ ٱلْجَـٰهِلِينَ
Translation: เจ้า(มุฮัมมัด) จงยึดถือไว้ซึ่งการอภัย(405) และจงใช้ให้กระทำสิ่งที่ชอบ และจงผินหลัง(406) ให้แก่ผู้โฉดเขลาทั้งหลายเถิด
Comment: (405)หมายถึงให้มีการผ่อนปรนตามสมควร
Comment: (406)คือให้ปลีกตัวออกจากพวกเขา
7:200
وَإِمَّا يَنزَغَنَّكَ مِنَ ٱلشَّيْطَـٰنِ نَزْغٌۭ فَٱسْتَعِذْ بِٱللَّهِ ۚ إِنَّهُۥ سَمِيعٌ عَلِيمٌ
Translation: และหากมีการยั่วยุใด ๆ จากชัยฏอนกำลังยั่วยุ(407) เจ้าอยู่ ก็จงขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮ์เถิด แท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงรอบรู้
Comment: (407)คือยั่วยุให้กระทำในสิ่งที่ไม่ชอบ
7:201
إِنَّ ٱلَّذِينَ ٱتَّقَوْا۟ إِذَا مَسَّهُمْ طَـٰٓئِفٌۭ مِّنَ ٱلشَّيْطَـٰنِ تَذَكَّرُوا۟ فَإِذَا هُم مُّبْصِرُونَ
Translation: แท้จริงบรรดาผู้ที่ยำเกรงนั้น เมื่อมีคำชี้นำ(408) ใดๆ จากชัยฏอนประสบแก่พวกเขา พวกเขาก็รำลึก(409) ได้แล้วทันใดพวกเขาก็มองเห็น(410)
Comment: (408)คือชี้นำให้กระทำสิ่งที่ฝ่าฝืนบัญญัติศาสนา
Comment: (409)คือรำลึกได้ว่าพวกเขากำลังถูกชักนำโดยชัยฏอน
Comment: (410)คือมองเห็นทางที่จะหลีกเลี่ยงให้รอดพ้นไปได้
7:202
وَإِخْوَٰنُهُمْ يَمُدُّونَهُمْ فِى ٱلْغَىِّ ثُمَّ لَا يُقْصِرُونَ
Translation: และพี่น้อง(411) ของพวกมันนั้นจะช่วยเหลือพวกมันในการทำให้หลงผิด(412) แล้วพวกมันก็จะไม่ลดละ
Comment: (411)หมายถึงพวกพ้องของมันที่เป็นมนุษย์ที่เห็นดีเห็นชอบในการชี้นำของมัน
Comment: (412)และในการชักชวนเพื่อนมนุษย์ให้หลงผิดด้วย
7:203
وَإِذَا لَمْ تَأْتِهِم بِـَٔايَةٍۢ قَالُوا۟ لَوْلَا ٱجْتَبَيْتَهَا ۚ قُلْ إِنَّمَآ أَتَّبِعُ مَا يُوحَىٰٓ إِلَىَّ مِن رَّبِّى ۚ هَـٰذَا بَصَآئِرُ مِن رَّبِّكُمْ وَهُدًۭى وَرَحْمَةٌۭ لِّقَوْمٍۢ يُؤْمِنُونَ
Translation: และเมื่อมิได้มีอายะฮ์(413) ได้มายังพวกเขา พวกเขาก็กล่าวว่า ไฉนเล่าท่านจึงไม่อุปโลกน์มันขึ้นเอง จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่า แท้จริงฉันจะปฏิบัติตามเฉพาะสิ่งที่ถูกให้เป็นโองการแก่ฉันจากพระผู้อภิบาลของฉันเท่านั้น นี่(414) คือบรรดาหลักฐาน จากพระผู้อภิบาลของพวกเจ้า และ(นี้คือ) ข้อแนะนำและการเอ็นดูเมตตาแก่กลุ่มชนที่ศรัทธา
Comment: (413)คืออายะฮ์อัลกุรอานตามที่พวกเขาปรารถนา
Comment: (414)หมายถึงอัลกุรอาน
7:204
وَإِذَا قُرِئَ ٱلْقُرْءَانُ فَٱسْتَمِعُوا۟ لَهُۥ وَأَنصِتُوا۟ لَعَلَّكُمْ تُرْحَمُونَ
Translation: และเมื่ออัลกุรอานถูกอ่านขึ้น ก็จงสดับฟังอัลกุรอานนั้นเถิด และจงนิ่งเงียบ เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รับการเอ็นดูเมตตา
7:205
وَٱذْكُر رَّبَّكَ فِى نَفْسِكَ تَضَرُّعًۭا وَخِيفَةًۭ وَدُونَ ٱلْجَهْرِ مِنَ ٱلْقَوْلِ بِٱلْغُدُوِّ وَٱلْـَٔاصَالِ وَلَا تَكُن مِّنَ ٱلْغَـٰفِلِينَ
Translation: และเจ้า (มุฮัมมัด) จงรำลึกถึงพระเจ้าของเจ้าในใจของเจ้าด้วยความนอบน้อมและยำเกรงและโดยไม่ออกเสียงดัง ทั้งในเวลาเช้าและเย็น และจงอย่าอยู่ในหมู่ผู้ที่เผลเรอ
7:206
إِنَّ ٱلَّذِينَ عِندَ رَبِّكَ لَا يَسْتَكْبِرُونَ عَنْ عِبَادَتِهِۦ وَيُسَبِّحُونَهُۥ وَلَهُۥ يَسْجُدُونَ ۩
Translation: แท้จริงบรรดา(415) ผู้ที่อยู่ที่พระเจ้าของเจ้านั้น พวกเขาจะไม่หยิ่งต่อการเคารพสักการะพระองค์ และกล่าวให้ความบริสุทธิ์แก่พระองค์และแด่พระองค์เท่านั้น พวกเขากราบกรานกัน
Comment: (415)หมายถึงบรรดามลาอิกะฮ์