سورة الأنعام
Al-An'aam
The Cattle
meccan . 165 Ayahs
بِسْمِ ٱللَّهِ ٱلرَّحْمَـٰنِ ٱلرَّحِيمِ
6:1
ٱلْحَمْدُ لِلَّهِ ٱلَّذِى خَلَقَ ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضَ وَجَعَلَ ٱلظُّلُمَـٰتِ وَٱلنُّورَ ۖ ثُمَّ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ بِرَبِّهِمْ يَعْدِلُونَ
Translation: การสรรเสริญทั้งหลายนั้นเป็นสิทธิของอัลลอฮ์ผู้ทรงสร้างบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดินได้ทรงให้มีบรรดาความมืดและแสงสว่าง(1) แต่แล้วบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธา ก็ยังให้(สิ่งอื่น) เท่าเทียมกับพระเจ้าของเขาอยู่(2)
Comment: (1)คือให้มีกลางคืนสำหรับพักผ่อน และให้มีกลางวันสำหรับประกอบอาชีพ
Comment: (2)ทั้งๆ ที่พระองค์เท่านั้นที่ควรแก่การได้รับการเคารพสักการะจากมนุษย์ ในฐานะผู้ทรงสร้างบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดินและให้มีกลางคืนและกลางวัน กลับถูกให้มีสิ่งอื่นเท่าเทียมกับพระองค์ ในการได้รับการเคารพสักการะ ทั้ง ๆ ที่สิ่งนั้นมิได้ทำอะไรเลย
6:2
هُوَ ٱلَّذِى خَلَقَكُم مِّن طِينٍۢ ثُمَّ قَضَىٰٓ أَجَلًۭا ۖ وَأَجَلٌۭ مُّسَمًّى عِندَهُۥ ۖ ثُمَّ أَنتُمْ تَمْتَرُونَ
Translation: พระองค์คือผู้ที่ทรงบังเกิดพวกเจ้าจากดิน แล้วได้ทรงกำหนดเวลาแห่งความตายไว้ และกำหนดที่ถูกระบุไว้อีกกำหนดหนึ่งนั้น(3) อยู่ที่พระองค์แต่แล้ว พวกเจ้าก็ยังสงสัยกันอยู่
Comment: (3)คือกำหนดแห่งการฟื้นคืนชีพในวันกิยามะฮ์ ซึ่งกำหนดนี้ไม่มีใครสามารถจะรู้ได้ นอกจากพระองค์เท่านั้น
6:3
وَهُوَ ٱللَّهُ فِى ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَفِى ٱلْأَرْضِ ۖ يَعْلَمُ سِرَّكُمْ وَجَهْرَكُمْ وَيَعْلَمُ مَا تَكْسِبُونَ
Translation: และพระองค์คือ อัลลอฮ์สิทธิทั้งในบรรดาชั้นฟ้าและในแผ่นดิน(4) ทรงรู้สึกเร้นลับของพวกเจ้า และสิ่งเปิดเผยของพวกเจ้า และทรงรู้สิ่งที่พวกเจ้าขวนขวายกันอยู่
Comment: (4)หมายถึงว่า อัลลอฮ์นั้นย่อมเป็นที่รู้จักกันดีทั้งในบรรดาชั้นฟ้า และในแผ่นดินว่า พระองค์คือพระผู้เป็นเจ้าที่ทรงคุณลักษณะอันสมบูรณ์ทุกประการ
6:4
وَمَا تَأْتِيهِم مِّنْ ءَايَةٍۢ مِّنْ ءَايَـٰتِ رَبِّهِمْ إِلَّا كَانُوا۟ عَنْهَا مُعْرِضِينَ
Translation: และไม่มีโองการใด จากบรรดาโองการแห่งพระเจ้าของพวกเขามายังพวกเขา(5) นอกจากได้ปรากฏว่าพวกเขาผินหลังให้แก่โองการนั้น
Comment: (5)หมายถึงชาวมักกะฮ์
6:5
فَقَدْ كَذَّبُوا۟ بِٱلْحَقِّ لَمَّا جَآءَهُمْ ۖ فَسَوْفَ يَأْتِيهِمْ أَنۢبَـٰٓؤُا۟ مَا كَانُوا۟ بِهِۦ يَسْتَهْزِءُونَ
Translation: แน่นอน พวกเขาได้ปฏิเสธความจริง เมื่อความจริงนั้นได้มายังพวกเขา แล้วข่าวคราว(6) ของสิ่งที่พวกเขาเคยเย้ยหยันไว้นั้นก็จะมายังพวกเขา
Comment: (6)ข่าวคราวแห่งผลร้าย
6:6
أَلَمْ يَرَوْا۟ كَمْ أَهْلَكْنَا مِن قَبْلِهِم مِّن قَرْنٍۢ مَّكَّنَّـٰهُمْ فِى ٱلْأَرْضِ مَا لَمْ نُمَكِّن لَّكُمْ وَأَرْسَلْنَا ٱلسَّمَآءَ عَلَيْهِم مِّدْرَارًۭا وَجَعَلْنَا ٱلْأَنْهَـٰرَ تَجْرِى مِن تَحْتِهِمْ فَأَهْلَكْنَـٰهُم بِذُنُوبِهِمْ وَأَنشَأْنَا مِنۢ بَعْدِهِمْ قَرْنًا ءَاخَرِينَ
Translation: พวกเขามิได้เห็นดอกหรือว่า กี่ประชาชาติมาแล้วที่เราได้ทำลายมาก่อนหน้าพวกเขา ซึ่งเราได้ให้พวกเขามีอำนาจและความสามารถในแผ่นดิน ซึ่งสิ่งที่เรามิได้ให้มีแก่พวกเจ้า(7) และเราได้ส่งฝนมายังพวกเขาอย่างมากมาย(8) และเราได้ให้มีแม่น้ำหลายสายไหลอยู่เบื้องล่างของพวกเขา(9) แล้วเราก็ทำลายพวกเขาเสีย เนื่องด้วยบรรดาความผิดของพวกเขา และเราได้ให้มีขึ้นหลังจากพวกเขาซึ่งประชาชาติอื่น
Comment: (7)หมายถึงชาวมักกะฮ์ การที่พระองค์ทรงเปลี่ยนการใช้สรรพนามบุรุษที่สามแทนชาวมักกะฮ์ มาใช้สรรพนามบุรุษที่สองแทนพวกเขานั้น ก็เพื่อสร้างภาพพจน์ให้เห็นประหนึ่งว่า พระองค์ทรงกล่าวแก่พวกเขาโดยตรง และคำว่า “สิ่งที่เรามิได้ให้มีแก่พวกเจ้า” นั้น หมายถึง อำนาจ และความสามารถ ซึ่งอัลลอฮ์ได้ให้มีแก่ประชาชาติในอดีตนั้น เป็นอำนาจและความสามารถที่พระองค์มิได้ทรงให้มีแก่ชาวมักกะฮ์ กระนั้นก็ดี พวกเขายังถูกทำลายได้ด้วยเดชานุภาพของพระองค์ แล้วชาวมักกะฮ์จะสามารถคงอยู่ได้กระนั้นหรือหากพระองค์จะทรงลงโทษ เนื่องจากความดื้อดึงและฝ่าฝืนของพวกเขา
Comment: (8)ให้ฝนตกในพื้นที่ที่พวกเขาอาศัยอยู่อย่างมากมาย เพื่อให้เกิดความอุดมสมบูรณ์แก่พวกเขา
Comment: (9)ให้มีแม่น้ำหลายสายไหลผ่านหมู่บ้านของพวกเขาด้วย
6:7
وَلَوْ نَزَّلْنَا عَلَيْكَ كِتَـٰبًۭا فِى قِرْطَاسٍۢ فَلَمَسُوهُ بِأَيْدِيهِمْ لَقَالَ ٱلَّذِينَ كَفَرُوٓا۟ إِنْ هَـٰذَآ إِلَّا سِحْرٌۭ مُّبِينٌۭ
Translation: และหากเราได้ให้ลงมาแก่เจ้าซึ่งคัมภีร์ฉบับหนึ่ง (ที่ถูกจารึกไว้) ในกระดาษ(10) แล้วพวกเขาก็ได้สัมผัส(11) คัมภีร์นั้นด้วยมือของพวกเขาเอง แน่นอนบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธาย่อมกล่าวว่า สิ่งนี้มิใช่อื่นใดนอกจากมายากลอันชัดแจ้งเท่านั้น
Comment: (10)คือประทานคัมภีร์ในสภาพที่เป็นกระดาษลงมาทั้งฉบับ โดยที่โองการของพระองค์ถูกจารึกไว้ในกระดาษของคัมภีร์
Comment: (11)ลูบคลำคัมภีร์นั้นด้วยความแน่ใจว่าเป็นคัมภีร์จริง ๆ ไม่ใช่เป็นภาพลวงตา
6:8
وَقَالُوا۟ لَوْلَآ أُنزِلَ عَلَيْهِ مَلَكٌۭ ۖ وَلَوْ أَنزَلْنَا مَلَكًۭا لَّقُضِىَ ٱلْأَمْرُ ثُمَّ لَا يُنظَرُونَ
Translation: และพวกเขาได้กล่าวว่าไฉนเล่ามะลัก(12) จึงมิได้ถูกให้ลงมาแก่เขา(13) และหากว่าเราได้ให้มะลักลงมาแล้ว แน่นอนกิจการทั้งหลายก็ย่อมถูกชี้ขาด(14) แล้วพวกเขาก็จะไม่ถูกรอคอย(15)
Comment: (12)มะลักเป็นเอกพจน์ของมลาอิกะฮ์
Comment: (13)คือส่งมะลักลงมายังท่านนบี เพื่อทำการยืนยันว่า ท่านนบีมุฮัมมัดเป็นร่อซูลของอัลลอฮ์จริง พวกเขาจะได้เชื่อ
Comment: (14)คือพระองค์จะส่งมะลักลงมาในรูปร่างอันแท้จริงของมะลักแล้ว ก็หมายความว่ากิจการทั้งหลายได้ถูกชี้ขาดลงแล้วคือชี้ขาดในการลงโทษพวกเขา และการลงมาของมะลักก็คือ การมาลงโทษพวกเขา มิใช่มาเป็นผู้ยืนยันให้พวกเขาเชื่อ
Comment: (15)คือจะถูกลงโทษทันทีที่ไม่รอคอยให้โอกาสแก้ตัวอีกต่อไป
6:9
وَلَوْ جَعَلْنَـٰهُ مَلَكًۭا لَّجَعَلْنَـٰهُ رَجُلًۭا وَلَلَبَسْنَا عَلَيْهِم مَّا يَلْبِسُونَ
Translation: และหากว่าพวกเราได้ให้เขา(16) เป็นมะลัก แน่นอนเราก็ย่อมให้เขาเป็นคนผู้ชาย(17) และแน่นอนเราก็ย่อมให้สิ่งที่พวกเขาคลุมเครือกัน(18) อยู่เป็นที่คลุมเครือแก่พวกเขา
Comment: (16)ผู้ที่จะลงมานั้นเป็นมะลัก
Comment: (17)คือเยี่ยงมนุษย์ผู้ชายทั้งหลาย ถ้ามิเช่นนั้นแล้ว มนุษย์จะตกใจกลัว และพากันหนีเมื่อเห็นมะลักในรูปร่างอันแท้จริง
Comment: (18)หมายถึงว่า ถ้าพระองค์ให้มะลักลงมาในรูปของบุรุษเพศ ก็ย่อมเป็นที่คลุมเครือแก่พวกเขาอีกว่า จะใช่มะลักจริงหรือเปล่า หรือว่าเป็นปุถุชนธรรมดาที่มุฮัมมัดแอบอ้างนำมาหลอกลวง แล้วในที่สุดพวกเขาก็ไม่เชื่อ คำว่า”สิ่งที่พวกเขคลุมเครือกันอยู่” นั้น หมายถึงให้มะลักลงมาในรูปร่างบุรุษเพศ ซึ่งเป็นที่คลุมเครือแก่พวกเขา จะเป็นมะลักจริง หรือเป็นปุถุชนธรรมดา
6:10
وَلَقَدِ ٱسْتُهْزِئَ بِرُسُلٍۢ مِّن قَبْلِكَ فَحَاقَ بِٱلَّذِينَ سَخِرُوا۟ مِنْهُم مَّا كَانُوا۟ بِهِۦ يَسْتَهْزِءُونَ
Translation: และแน่นอนบรรดาร่อซูล ก่อนเจ้านั้นได้ถูกเย้ยหยันมาแล้ว(19) ดังนั้นจึงได้ล้อมบรรดาผู้ที่เย้ยหยันร่อซูลเหล่านั้นไว้ ซึ่งสิ่งที่พวกเขาเคยเย้ยหยันกัน
Comment: (19)โทษอันเกิดจากการเย้ยหยัน บรรดาร่อซูลก็ประสบแก่พวกเขา ในการที่ใช้คำว่า “ล้อม” นั้นเพื่อให้เป็นที่ประจักษ์ว่าพวกเขาไม่สามารถหนีรอดไปได้ พวกเขาจะต้องได้รับโทษอย่างแน่นอน เนื่องจากการที่พวกเขาเย้ยหยันบรรดาร่อซู
6:11
قُلْ سِيرُوا۟ فِى ٱلْأَرْضِ ثُمَّ ٱنظُرُوا۟ كَيْفَ كَانَ عَـٰقِبَةُ ٱلْمُكَذِّبِينَ
Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่า พวกท่านจงเดิน(20) ไปในแผ่นดินเถิด แล้วจงดูว่า ผลสุดท้ายของบรรดาผู้ปฏิเสธนั้นเป็นอย่างไรบ้าง?(21)
Comment: (20)ท่องเที่ยวไป
Comment: (21)ในการท่องเที่ยวไปในแผ่นดินนั้น ย่อมจะพบแหล่งอันเป็นที่อยู่อาศัยของผู้คนที่ดื้อดึงและฝ่าฝืนพระองค์มาก่อนแล้วจงดูว่าบั้นปลายของพวกเขานั้นเป็นประการใด แน่นอนบั้นปลายของพวกเขานั้นคือ ความพินาศ ในการนี้ย่อมจะทำให้พวกเขากลับตัวไม่ดื้อดันอีกต่อไป เพราะกลัวจะเป็นเช่นพวกเหล่านั้น
6:12
قُل لِّمَن مَّا فِى ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضِ ۖ قُل لِّلَّهِ ۚ كَتَبَ عَلَىٰ نَفْسِهِ ٱلرَّحْمَةَ ۚ لَيَجْمَعَنَّكُمْ إِلَىٰ يَوْمِ ٱلْقِيَـٰمَةِ لَا رَيْبَ فِيهِ ۚ ٱلَّذِينَ خَسِرُوٓا۟ أَنفُسَهُمْ فَهُمْ لَا يُؤْمِنُونَ
Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่า สิ่งที่อยู่ในบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดินนั้นเป็นของใคร? จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่าเป็นของอัลลอฮ์พระองค์ได้ทรงกำหนดการเอ็นดูเมตตาไว้บนพระองค์(22) แน่นอน พระองค์จะทรงรวบรวมพวกเจ้าไปสู่วันกิยามะฮ์ โดยที่ไม่มีการสงสัยใดๆ ในวันนั้นบรรดาผู้ที่ทำให้ตัวของพวกเขาขาดทุน(23) พวกเขาก็จะไม่ศรัทธา
Comment: (22)ทรงให้การเอ็นดูเมตตาเป็นคุณลักษณะหนึ่งของพระองค์เพื่อจะได้ทรงเอ็นดูเมตตาแก่บรรดาบ่าวของพระองค์
Comment: (23)คือผู้ที่ไม่สนใจในคำเชิญชวนของท่านนบีมุฮัมมัด หรือไม่ใส่ใจศาสนาอิสลามที่มีการเผยแพร่กันอยู่ พวกเหล่านี้แหละคือพวกที่ทำตัวให้ขาดทุน เพราะใช้ชีวิตไม่ถูกต้อง และที่ซ้ำร้ายคือ พวกเขาจะไม่ศรัทธา
6:13
۞ وَلَهُۥ مَا سَكَنَ فِى ٱلَّيْلِ وَٱلنَّهَارِ ۚ وَهُوَ ٱلسَّمِيعُ ٱلْعَلِيمُ
Translation: และสิ่งที่สงบเงียบอยู่(24) ในเวลากลางคืนและกลางวันนั้นเป็นสิทธิของพระองค์ และพระองค์คือผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงรอบรู้
Comment: (24)หมายถึงสัตว์บางประเภทที่พักผ่อนในเวลากลางคืน และสัตว์บางประเภทที่พักผ่อนในเวลากลางวัน
6:14
قُلْ أَغَيْرَ ٱللَّهِ أَتَّخِذُ وَلِيًّۭا فَاطِرِ ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضِ وَهُوَ يُطْعِمُ وَلَا يُطْعَمُ ۗ قُلْ إِنِّىٓ أُمِرْتُ أَنْ أَكُونَ أَوَّلَ مَنْ أَسْلَمَ ۖ وَلَا تَكُونَنَّ مِنَ ٱلْمُشْرِكِينَ
Translation: จงกล่าวเถิด ฉันจะยึดถือ “ผู้คุ้มครองอื่นจากอัลลอฮ์กระนั้นหรือ” ซึ่งพระองค์เป็นผู้เนรมิตบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดิน(25) และพระองค์เป็นผู้ทรงให้อาหาร และไม่ถูกให้อาหาร(26) จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) แท้จริง ฉันถูกใช้ให้เป็นคนแรกในหมู่ที่สวามิภักดิ์ และพวกท่านจงอย่าอยู่ในหมู่ผู้ให้มีภาคีเป็นอันขาด
Comment: (25)เป็นการแสดงถึงความยิ่งใหญ่ และเดชานุภาพของพระองค์ ซึ่งสมควรอย่างยิ่งแก่มนุษย์ที่จะให้การเคารพสักการะแก่พระองค์ และมอบหมายให้พระองค์คุ้มครอง
Comment: (26)คือพระองค์ทรงยิ่งใหญ่ และในการที่ทรงกล่าวว่า “พระองค์ไม่ถูกให้อาหาร” นั้น เพื่อให้มนุษย์เข้าใจว่า พระองค์ไม่ทรงต้องพึ่งมนุษย์หากแต่มนุษย์ต่างหากที่ต้องพึ่งพระองค์
6:15
قُلْ إِنِّىٓ أَخَافُ إِنْ عَصَيْتُ رَبِّى عَذَابَ يَوْمٍ عَظِيمٍۢ
Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่า แท้จริงฉันกลัวการลงโทษในวันอันยิ่งใหญ่(27) หากฉันฝ่าฝืนพระผู้อภิบาลของฉัน
Comment: (27)คือได้รับความทุกข์ทรมาน และความเดือดร้อนระหว่างรอคอยการตัดสินในวันกิยามะฮ์ นั่นก็หมายถึงว่า เขาจะได้เข้าสวรรค์ด้วยความเอ็นดูเมตตาจากพระอง
6:16
مَّن يُصْرَفْ عَنْهُ يَوْمَئِذٍۢ فَقَدْ رَحِمَهُۥ ۚ وَذَٰلِكَ ٱلْفَوْزُ ٱلْمُبِينُ
Translation: ผู้ใดที่การลงโทษถูกหันเหออกจากเขาในวันนั้น แน่นอนพระองค์ทรงเอ็นดูเมตตาเขา และนั่นคือชัยชนะอันยิ่งใหญ่
6:17
وَإِن يَمْسَسْكَ ٱللَّهُ بِضُرٍّۢ فَلَا كَاشِفَ لَهُۥٓ إِلَّا هُوَ ۖ وَإِن يَمْسَسْكَ بِخَيْرٍۢ فَهُوَ عَلَىٰ كُلِّ شَىْءٍۢ قَدِيرٌۭ
Translation: และหากว่าอัลลอฮ์ทรงให้ความเดือดร้อนอย่างหนึ่งอย่างใดประสบแก่เจ้า(28) แล้วก็ไม่มีผู้ใดจะปลดเปลื้องมันได้ นอกจากพระองค์เท่านั้น และหากพระองค์ทรงให้ความดีอย่างหนึ่งอย่างใดประสบแก่เจ้า(29) แท้จริงพระองค์นั้นทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง
Comment: (28)ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
Comment: (29)คือ “ก็ไม่มีผู้ใดจะขัดขวางได้” ข้อความอันเป็นคำตอบนี้ได้ถูกละเอาไว้เพราะเป็นที่ทราบกัน และก็เคยถูกระบุไว้เป็นบางครั้งเช่นในซูเราะฮ์ยูนุส
6:18
وَهُوَ ٱلْقَاهِرُ فَوْقَ عِبَادِهِۦ ۚ وَهُوَ ٱلْحَكِيمُ ٱلْخَبِيرُ
Translation: และพระองค์คือผู้ทรงชนะเหนือปวงบ่าวของพระองค์ และพระองค์คือผู้ทรงปรีชาญาณ ผู้ทรงรอบรู้อย่างละเอียดถี่ถ้วน
6:19
قُلْ أَىُّ شَىْءٍ أَكْبَرُ شَهَـٰدَةًۭ ۖ قُلِ ٱللَّهُ ۖ شَهِيدٌۢ بَيْنِى وَبَيْنَكُمْ ۚ وَأُوحِىَ إِلَىَّ هَـٰذَا ٱلْقُرْءَانُ لِأُنذِرَكُم بِهِۦ وَمَنۢ بَلَغَ ۚ أَئِنَّكُمْ لَتَشْهَدُونَ أَنَّ مَعَ ٱللَّهِ ءَالِهَةً أُخْرَىٰ ۚ قُل لَّآ أَشْهَدُ ۚ قُلْ إِنَّمَا هُوَ إِلَـٰهٌۭ وَٰحِدٌۭ وَإِنَّنِى بَرِىٓءٌۭ مِّمَّا تُشْرِكُونَ
Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่า สิ่งใดใหญ่ยิ่งกว่าในการเป็นพยาน(30) จงกล่าวเถิดว่าอัลลอฮ์นั้นคือผู้เป็นพยานระหว่างฉันกับพวกท่าน และอัลกุรอานนี้ก็ได้ถูกประทานลงมาแก่ฉัน เพื่อที่ฉันจะได้ใช้อัลกุรอาน นี้ตักเตือนพวกท่าน และผู้ที่อัลกุรอานนี้ไปถึง(31) พวกท่านจะยืนยันโดยแน่นอนกระนั้นหรือว่า มีบรรดาที่เคารพสักการะอื่นร่วมกับอัลลอฮ์? จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่าฉันจะไม่ยืนยัน จงกล่าวเถิด แท้จริงพระองค์นั้นคือผู้ที่ควรแก่การเคารพภักดีแต่เพียงองค์เดียวเท่านั้น และแท้จริงฉันขอปลีกตัวอกจากสิ่งที่พวกท่านให้มีภาคี(แก่อัลลอฮ์)
Comment: (30)หมายถึงว่า การเป็นพยานนั้น สิ่งใดใหญ่ยิ่งกว่าที่จะทำให้ชาวกุเรซเชื่อถือได้ แล้วอัลลอฮ์ก็ทรงใช้ให้ท่านนบีตอบเสียเองว่า ที่ใหญ่ยิ่งกว่าสิ่งใดในการเป็นพยานนั้นคืออัลลอฮ์ ซึ่งจะเป็นพยานระหว่างท่านนบีกับพวกเขาว่า พระองค์ได้ทรงประทานอัลกุรอานนี้ลงมาแก่ท่าน
Comment: (31)หมายถึงยิวและคริสต์
6:20
ٱلَّذِينَ ءَاتَيْنَـٰهُمُ ٱلْكِتَـٰبَ يَعْرِفُونَهُۥ كَمَا يَعْرِفُونَ أَبْنَآءَهُمُ ۘ ٱلَّذِينَ خَسِرُوٓا۟ أَنفُسَهُمْ فَهُمْ لَا يُؤْمِنُونَ
Translation: บรรดาผู้ที่เราได้ให้คัมภีร์แก่พวกเขา(32) นั่น พวกเขารู้จักเขา(33) เช่นเดียวกับที่พวกเขารู้จักลูก ๆ ของพวกเขาเอง บรรดาผู้ที่ทำให้ตัวของพวกเขาขาดทุนนั้น พวกเขาจะไม่ศรัทธา
Comment: (32)หมายถึงยิวและชาวคริสต์
Comment: (33)ท่านนบีมุฮัมมัด
6:21
وَمَنْ أَظْلَمُ مِمَّنِ ٱفْتَرَىٰ عَلَى ٱللَّهِ كَذِبًا أَوْ كَذَّبَ بِـَٔايَـٰتِهِۦٓ ۗ إِنَّهُۥ لَا يُفْلِحُ ٱلظَّـٰلِمُونَ
Translation: และผู้ใดเล่า คือผู้อธรรมยิ่งกว่าผู้ที่อุปโลกน์ความเท็จให้แก่อัลลอฮ์(34) หรือปฏิเสธบรรดาโองการของพระองค์? แท้จริงบรรดาผู้อธรรมนั้นจะไม่ได้รับความสำเร็จ
Comment: (34)เช่นอุปโลกน์ว่า พระองค์ทรงมีพระบุตร และมลาอิกะฮ์เป็นบุตรีของพระองค์ ตลอดจนกล่าวว่ามีผู้สมควรได้รับการเคารพสักการะร่วมกับพระองค์
6:22
وَيَوْمَ نَحْشُرُهُمْ جَمِيعًۭا ثُمَّ نَقُولُ لِلَّذِينَ أَشْرَكُوٓا۟ أَيْنَ شُرَكَآؤُكُمُ ٱلَّذِينَ كُنتُمْ تَزْعُمُونَ
Translation: และวันที่เราจะชุมชุมพวกเขาทั้งมวล แล้วเรากล่าวแก่บรรดาผู้ที่ให้มีภาคีขึ้นว่าไหนเล่า บรรดาภาคีของพวกเจ้าที่พวกเจ้าอ้างกัน
6:23
ثُمَّ لَمْ تَكُن فِتْنَتُهُمْ إِلَّآ أَن قَالُوا۟ وَٱللَّهِ رَبِّنَا مَا كُنَّا مُشْرِكِينَ
Translation: แล้ว(ผลแห่ง) การทดสอบพวกเขาก็มิได้เป็นอย่างอื่น นอกจากพวกเขากล่าวว่า(35) พวกข้าพระองค์ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ผู้เป็นพระผู้อภิบาลของพวกข้าพระองค์ว่า พวกข้าพระองค์ไม่เคยเป็นผู้ให้มีภาคีขึ้น
Comment: (35)คือกล่าวเท็จเป็นการแก้ตัวของพวกเขา
6:24
ٱنظُرْ كَيْفَ كَذَبُوا۟ عَلَىٰٓ أَنفُسِهِمْ ۚ وَضَلَّ عَنْهُم مَّا كَانُوا۟ يَفْتَرُونَ
Translation: จงดูเถิด(มุอัมมัด)ว่า พวกเขาได้โกหกแก่ตัวของพวกเขาเองอย่างไร(36) ? และสิ่งที่พวกเขาเคยอุปโลกน์ขึ้นก็ได้หายไป(37) จากพวกเขา
Comment: (36)กล่าวคือพวกเขาเองเป็นผู้ให้มีภาคีแก่พระองค์ แต่กลับโกหกแก่ตัวเองว่ามิได้กระทำ ดังกล่าวนี้เป็นการประณามอย่างแรง เพราะการโกหกแก่ผู้อื่นนั้นก็นับว่า เลวร้ายอยู่แล้ว แล้วการโกหกแก่ตัวเองเล่าจะเลวร้ายแค่ไหน?
Comment: (37)คือมิได้มาให้ความช่วยเหลือแก่เขา ดั่งพวกเขาเข้าใจเพราะสิ่งที่พวกเขาอุปโลกน์ขึ้นนั้น หาได้รู้เรื่องในการกระทำของพวกเขาแต่อย่างใดไม่ หากพวกเขารู้เรื่องก็ย่อมไม่ยินยอมที่จะให้กระทำเช่นนั้นได้ เพราะเป็นการกระทำที่มีความผิดมหันต์ นอกจากชัยฏอนเท่านั้นที่ยินดีให้พวกเขากระทำ เพราะต้องการให้พวกเขาหลงไปจากทางอันเที่ยงตรงของอัลลอฮ์
6:25
وَمِنْهُم مَّن يَسْتَمِعُ إِلَيْكَ ۖ وَجَعَلْنَا عَلَىٰ قُلُوبِهِمْ أَكِنَّةً أَن يَفْقَهُوهُ وَفِىٓ ءَاذَانِهِمْ وَقْرًۭا ۚ وَإِن يَرَوْا۟ كُلَّ ءَايَةٍۢ لَّا يُؤْمِنُوا۟ بِهَا ۚ حَتَّىٰٓ إِذَا جَآءُوكَ يُجَـٰدِلُونَكَ يَقُولُ ٱلَّذِينَ كَفَرُوٓا۟ إِنْ هَـٰذَآ إِلَّآ أَسَـٰطِيرُ ٱلْأَوَّلِينَ
Translation: และในหมู่พวกเขานั้นมีผู้ที่สดับฟังเจ้าอยู่บ้าง(38) แต่เราได้ให้มีสิ่งปิดกั้นอยู่บนหัวใจของพวกเขา ในการที่พวกเขาจะเข้าใจอัลกุรอาน และได้ให้ในหูของพวกเขามีความหนวกอยู่ด้วย(39) และหากพวกเขาเห็นสัญญาณทุกอย่าง(40) พวกเขาก็จะไม่ศรัทธาจนกระทั่งพวกเขาได้มาหาเจ้าก็ยัง โต้เถียงกับเจ้า บรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธานั้นจะกล่าวว่า นี่(41) มิใช่อะไรอื่น นอกจากบรรดาสิ่งขีดเขียนอันไร้สาระของคนก่อน ๆ เท่านั้น (นิยายโบราณ)
Comment: (38)คือสดับฟังมิใช่เจตนาจะหาความเข้าใจ หากแต่มีเจตนาที่จะกล่าวหาว่าไม่รู้เรื่อง
Comment: (39)ให้หัวใจของพวกเขาเป็นประหนึ่งมีสิ่งปิดกั้นอยู่ เพื่อมิให้อัลกุรอานเข้าไปถึงหัวใจและให้หูของพวกเขาประหนึ่งหูหนวก ฟังอะไรไม่ได้ยินไม่รู้เรื่อง
Comment: (40)สัญญาณที่แสดงถึงว่าท่านนบีมุฮัมมัดเป็นนบีจริง จะเป็นสัญญาณที่มาจากอัลกุรอานหรือจากตัวท่านเอง เขาก็จะไม่เชื่อ เพราะหัวใจของพวกเขาบอดเสียแล้ว
Comment: (41)หมายถึงอัลกุรอาน
6:26
وَهُمْ يَنْهَوْنَ عَنْهُ وَيَنْـَٔوْنَ عَنْهُ ۖ وَإِن يُهْلِكُونَ إِلَّآ أَنفُسَهُمْ وَمَا يَشْعُرُونَ
Translation: และพวกเขาห้าม(42) เกี่ยวข้องกับอัลกุรอาน และพวกเขาก็ปลีกตัวออกห่างจากอัลกุรอานด้วย และพวกเขาจะไม่ทำให้ใครพินาศนอกจากตัวของพวกเขาเองเท่านั้น แต่พวกเขาไม่รู้สึก
Comment: (42)ห้ามผู้คนมิให้สดับฟังอัลกุรอาน เพราะกลัวว่าจะเกิดความศรัทธาแก่พวกเขา
6:27
وَلَوْ تَرَىٰٓ إِذْ وُقِفُوا۟ عَلَى ٱلنَّارِ فَقَالُوا۟ يَـٰلَيْتَنَا نُرَدُّ وَلَا نُكَذِّبَ بِـَٔايَـٰتِ رَبِّنَا وَنَكُونَ مِنَ ٱلْمُؤْمِنِينَ
Translation: และหากเจ้าจะได้เห็น ขณะที่พวกเขาถูกให้หยุดยืนอยู่เบื้องหน้าไฟนรก แล้วพวกเขาได้กล่าวว่า โอ้! หวังว่าเราจะถูกนำกลับไป(43) และเราก็จะไม่ปฏิเสธบรรดาโองการแห่งพระผู้อภิบาลของเราอีกและเราก็จะได้กลายเป็นผู้ที่อยู่ในหมู่ผู้ศรัทธา
Comment: (43)ถูกนำกลับไปสู่โลกอีกครั้งหนึ่ง
6:28
بَلْ بَدَا لَهُم مَّا كَانُوا۟ يُخْفُونَ مِن قَبْلُ ۖ وَلَوْ رُدُّوا۟ لَعَادُوا۟ لِمَا نُهُوا۟ عَنْهُ وَإِنَّهُمْ لَكَـٰذِبُونَ
Translation: แต่ทว่าได้ประจักษ์แก่พวกเขาแล้ว สิ่งที่พวกเขาปกปิดไว้(44) แต่กาลก่อน และแม้ว่าพวกเขาถูกให้กลับไป(45) แน่นอนพวกเขาก็กลับกระทำอีกในสิ่งที่พวกเขาถูกห้ามไว้ และแท้จริงพวกเขาคือผู้ที่กล่าวเท็จ
Comment: (44)หมายถึงการกุฟร์ หรือการปฏิเสธศรัทธาของพวกเขาขณะที่อยู่ในโลก
Comment: (45)คือถูกให้กลับไปยังโลกอีกครั้งหนึ่งเพื่อกระทำความดีเป็นการแก้ตัว
6:29
وَقَالُوٓا۟ إِنْ هِىَ إِلَّا حَيَاتُنَا ٱلدُّنْيَا وَمَا نَحْنُ بِمَبْعُوثِينَ
Translation: และพวกเขากล่าวว่า มันมิใช่อะไรอื่นนอกจากชีวิตความเป็นอยู่ของเราในโลกนี้เท่านั้น และเรานั้นใช่ว่าจะเป็นผู้ถูกให้ฟื้นคือชีพก็หาไม่
6:30
وَلَوْ تَرَىٰٓ إِذْ وُقِفُوا۟ عَلَىٰ رَبِّهِمْ ۚ قَالَ أَلَيْسَ هَـٰذَا بِٱلْحَقِّ ۚ قَالُوا۟ بَلَىٰ وَرَبِّنَا ۚ قَالَ فَذُوقُوا۟ ٱلْعَذَابَ بِمَا كُنتُمْ تَكْفُرُونَ
Translation: และหากกล่าวเจ้าจะได้เห็น ขณะที่พวกเขาถูกให้ยืนอยู่เบื้องหน้าพระผู้อภิบาลของพวกเขา โดยที่พระองค์ได้ทรงกล่าวว่า นี่(46) มิใช่ความจริงดอกหรือ? พวกเขาตอบว่า ใช่ขอรับ พวกข้าพระองค์ขอสาบานด้วยพระผู้อภิบาลของพวกข้าพระองค์ พระองค์ตรัสว่า พวกจ้าจงลิ้มรสการลงโทษกันเถิด เนื่องจากการที่พวกเจ้าปฏิเสธศรัทธา
Comment: (46)คือวันกิยามะฮ์ ที่พวกเจ้าปฏิเสธ ซึ่งมันได้ประจักษ์ขึ้น มิใช่เป็นความจริงดอกหรือ?
6:31
قَدْ خَسِرَ ٱلَّذِينَ كَذَّبُوا۟ بِلِقَآءِ ٱللَّهِ ۖ حَتَّىٰٓ إِذَا جَآءَتْهُمُ ٱلسَّاعَةُ بَغْتَةًۭ قَالُوا۟ يَـٰحَسْرَتَنَا عَلَىٰ مَا فَرَّطْنَا فِيهَا وَهُمْ يَحْمِلُونَ أَوْزَارَهُمْ عَلَىٰ ظُهُورِهِمْ ۚ أَلَا سَآءَ مَا يَزِرُونَ
Translation: แน่นอน บรรดาผู้ที่ปฏิเสธต่อการพบอัลลอฮ์ได้ขาดทุนไปแล้ว(47) จนกระทั่งเมื่อวันกิยามะฮ์ได้มายังพวกเขาโดยกระทันหัน แล้วพวกเขาก็กล่าวว่า โอ้ความเสียใจของเรา(48) ในสิ่งที่เราได้ทำให้บกพร่องในโลก โดยที่พวกเขาแบกบรรดาบาปของพวกเขาไว้บนหลังของพวกเขาด้วย(49) พึงรู้เถิดว่า ช่างเลวร้ายจริง ๆ สิ่งที่พวกเขากำลังแบกอยู่
Comment: (47)พบพระองค์ในวันกิยามะฮ์
Comment: (48)คือเรียกร้องความเสียใจของพวกเขาให้มาทำลายพวกเขาเสีย เพื่อให้สาสมกับที่พวกเขาได้ละเลยหน้าที่ของพวกเขาขณะที่อยู่ในโลกนี้
Comment: (49)บาปที่พวกเขาได้กระทำไว้นั้นได้ถูกให้มีสภาพเป็นวัตถุ ซึ่งผู้กระทำจะแบกไว้บนหลังของพวกเขา
6:32
وَمَا ٱلْحَيَوٰةُ ٱلدُّنْيَآ إِلَّا لَعِبٌۭ وَلَهْوٌۭ ۖ وَلَلدَّارُ ٱلْـَٔاخِرَةُ خَيْرٌۭ لِّلَّذِينَ يَتَّقُونَ ۗ أَفَلَا تَعْقِلُونَ
Translation: และชีวิตความเป็นอยู่แห่งโลกนี้นั้นมิใช่อะไรอื่น นอกจากการเล่น และการเพลิดเพลินเท่านั้น และแน่นอนสำหรับบ้านแห่งอาคีเราะฮ์(50) ดียิ่งกว่า(51) สำหรับบรรดาผู้ที่ยำเกรง พวกเจ้าไม่ใช้ปัญญาดอกหรือ?
Comment: (50)หมายถึงวันปรโลก
Comment: (51)ดียิ่งกว่าสิ่งใด ๆ ทั้งมวลในโลก
6:33
قَدْ نَعْلَمُ إِنَّهُۥ لَيَحْزُنُكَ ٱلَّذِى يَقُولُونَ ۖ فَإِنَّهُمْ لَا يُكَذِّبُونَكَ وَلَـٰكِنَّ ٱلظَّـٰلِمِينَ بِـَٔايَـٰتِ ٱللَّهِ يَجْحَدُونَ
Translation: เรารู้ดีว่า สิ่งที่พวกเขากล่าวกัน(52) นั้นทำให้เจ้าเสียใจ แท้จริงพวกเขาหาได้ปฏิเสธเจ้าไม่(53) แต่ทว่าบรรดาผู้อธรรมนั้นปฏิเสธโองการต่างๆ ของอัลลอฮ์ต่างหาก
Comment: (52)คือกล่าววิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการประกาศตนเป็นนบีของท่านว่า ท่านมิใช่เป็นนบี หากแต่เป็นนักกวี และบ้างก็ว่าท่านเป็นผู้เสียสติ และอื่น ๆ อีกมากมาย
Comment: (53)เพราะพวกเขาเคยให้เกียรติและนับถือเจ้าว่าเป็น “อัล-อะมีน” แต่ที่พวกเขาปฏิเสธนั้นคือโองการของอัลลอฮ์ที่เจ้านำมาประกาศ
6:34
وَلَقَدْ كُذِّبَتْ رُسُلٌۭ مِّن قَبْلِكَ فَصَبَرُوا۟ عَلَىٰ مَا كُذِّبُوا۟ وَأُوذُوا۟ حَتَّىٰٓ أَتَىٰهُمْ نَصْرُنَا ۚ وَلَا مُبَدِّلَ لِكَلِمَـٰتِ ٱللَّهِ ۚ وَلَقَدْ جَآءَكَ مِن نَّبَإِى۟ ٱلْمُرْسَلِينَ
Translation: และแน่นอนบรรดา ร่อซูลก่อนเจ้านั้นได้ถูกปฏิเสธมาแล้ว แล้วพวกเขาอดทนต่อสิ่งที่พวกเขาถูกปฏิเสธมา และถูกทำร้ายจนกระทั่ง(54) ความช่วยเหลือของเราได้มายังพวกเขา และไม่มีใครเปลี่ยนแปลงพจนารถของอัลลอฮ์ได้ และแท้จริงได้มายังเจ้าแล้วจากข่าวคราวของบรรดาผู้ที่ถูกส่งมา
Comment: (54)หมายถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นแก่บรรดาร่อซูลในอดีต
6:35
وَإِن كَانَ كَبُرَ عَلَيْكَ إِعْرَاضُهُمْ فَإِنِ ٱسْتَطَعْتَ أَن تَبْتَغِىَ نَفَقًۭا فِى ٱلْأَرْضِ أَوْ سُلَّمًۭا فِى ٱلسَّمَآءِ فَتَأْتِيَهُم بِـَٔايَةٍۢ ۚ وَلَوْ شَآءَ ٱللَّهُ لَجَمَعَهُمْ عَلَى ٱلْهُدَىٰ ۚ فَلَا تَكُونَنَّ مِنَ ٱلْجَـٰهِلِينَ
Translation: และหากว่าการผินหลังให้ของพวกเขานั้นมันใหญ่โต(55) แก่เจ้าแล้ว หากเจ้าสามารถที่จะแสวงหาช่องใดๆ ลงในแผ่นดิน หรือบันไดสู่ฟากฟ้า(56) แล้วทำสัญญาณหนึ่งมายังพวกเขา และหากว่าอัลลอฮ์ทรงประสงค์แล้ว แน่นอนพระองค์ก็ทรงรวบรวมพวกเขาให้อยู่บนแนวทางทีี่ถูกต้องแล้ว(57) ดังนั้นเจ้าจงอย่าเป็นผู้หนึ่งในหมู่ผู้งมงายเลย
Comment: (55)คือทำให้เจ้าไม่สามารถจะอดทนได้
Comment: (56)คือลงไปในพื้นดินหรือขึ้นไปบนฟ้าเพื่อแสวงหาสัญญาณใดสัญญาณหนึ่งมา เพื่อยืนยันให้พวกเขาเชื่อว่า เจ้าเป็นนบี
Comment: (57)ให้พวกเขาทั้งหมดปฏิบัติตามบัญญัติของอัลลอฮ์
6:36
۞ إِنَّمَا يَسْتَجِيبُ ٱلَّذِينَ يَسْمَعُونَ ۘ وَٱلْمَوْتَىٰ يَبْعَثُهُمُ ٱللَّهُ ثُمَّ إِلَيْهِ يُرْجَعُونَ
Translation: แท้จริง ที่ตอบรับ(58) นั้น เพียงบรรดาผู้ที่ฟัง(59) เท่านั้น และบรรดาผู้ที่ตาย(60) อัลลอฮ์จะทรงให้พวกเขาฟื้นคืนชีพ และพวกเขาก็จะถูกนำกลับไปยังพระองค์
Comment: (58)ตอบรับคำเชิญชวนของท่านนบี
Comment: (59)ผู้ที่สนใจฟัง และพยายามหาความเข้าใจ
Comment: (60)หมายถึงผู้ที่ไม่สนใจและไม่พยายามเข้าใจ โดยกระทำตนเหมือนคนตาย
6:37
وَقَالُوا۟ لَوْلَا نُزِّلَ عَلَيْهِ ءَايَةٌۭ مِّن رَّبِّهِۦ ۚ قُلْ إِنَّ ٱللَّهَ قَادِرٌ عَلَىٰٓ أَن يُنَزِّلَ ءَايَةًۭ وَلَـٰكِنَّ أَكْثَرَهُمْ لَا يَعْلَمُونَ
Translation: และพวกเขากล่าวว่า ไฉนเล่าจึงไม่มีสัญญาณหนึ่งจากพระผู้อภิบาลของเขาถูกให้ลงมาแก่เขา จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) แท้จริง อัลลอฮ์นทรงสามารถที่จะให้สัญญาณหนึ่งลงมา แต่ทว่าส่วนมากพวกเขานั้นไม่รู้
6:38
وَمَا مِن دَآبَّةٍۢ فِى ٱلْأَرْضِ وَلَا طَـٰٓئِرٍۢ يَطِيرُ بِجَنَاحَيْهِ إِلَّآ أُمَمٌ أَمْثَالُكُم ۚ مَّا فَرَّطْنَا فِى ٱلْكِتَـٰبِ مِن شَىْءٍۢ ۚ ثُمَّ إِلَىٰ رَبِّهِمْ يُحْشَرُونَ
Translation: และไม่มีสัตว์ใดๆ ในแผ่นดิน และไม่มีสัตว์ปีกใด ๆ ที่บินด้วยสองปีกของมัน นอกจากประหนึ่งเป็นประชาชาติ(61) เยี่ยงพวกเจ้านั้นเอง เรามิได้ให้บกพร่องแต่อย่างใดในคัมภีร์ แล้วยังพระผู้อภิบาลของพวกเขานั้น พวกเขาจะถูกนำไปชุมนุม
Comment: (61)มีชีวิตความเป็นอยู่ เป็นหมู่เป็นคณะ เช่นเดียวกับมนุษย์
6:39
وَٱلَّذِينَ كَذَّبُوا۟ بِـَٔايَـٰتِنَا صُمٌّۭ وَبُكْمٌۭ فِى ٱلظُّلُمَـٰتِ ۗ مَن يَشَإِ ٱللَّهُ يُضْلِلْهُ وَمَن يَشَأْ يَجْعَلْهُ عَلَىٰ صِرَٰطٍۢ مُّسْتَقِيمٍۢ
Translation: และบรรดาผู้ที่ปฏิเสธโองการทั้งหลายของเรานั้น คือผู้ที่หูหนวก และเป็นใบ้(62) ซึ่งอยู่ในบรรดาความมืด ผู้ใดที่อัลลอฮ์ทรงประสงค์ พระองค์ก็จะทรงให้เขาหลงทางไป และผู้ใดที่พระองค์ประสงค์ ก็จะทรงให้เขาอยู่บนทางอันเที่ยงตรง
Comment: (62)หมายถึงผู้ที่กระทำตนเหมือนคนหูหนวก และเป็นใบ้
6:40
قُلْ أَرَءَيْتَكُمْ إِنْ أَتَىٰكُمْ عَذَابُ ٱللَّهِ أَوْ أَتَتْكُمُ ٱلسَّاعَةُ أَغَيْرَ ٱللَّهِ تَدْعُونَ إِن كُنتُمْ صَـٰدِقِينَ
Translation: จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ท่านได้เห็นพวกท่านแล้วมิใช่หรือ?(63) หากการลงโทษของอัลลอฮ์มายังพวกท่าน หรือวันกิยามะฮ์ ได้มายังพวกท่านอื่นจากอัลลอฮ์กระนั้นหรือ ที่พวกท่านจะวิงวอนหากพวกเจ้าเป็นผู้พูดจริง(64)
Comment: (63)คือเห็นว่าพวกท่านนั้นมีสภาพเป็นอย่างไร? ข้อความดังกล่าวนี้นักปราชญ์ผู้อธิบายอัลกุรอานต่างให้ความหมายว่า “พวกท่านทั้งหลายจงบอกฉันทีว่า พวกท่านจะทำอย่างไร?”
Comment: (64)คือพูดว่าสิ่งที่พวกเขาเคารพสักการะอื่นจากอัลลอฮ์นั้น จะช่วยเหลือพวกเขาได้
6:41
بَلْ إِيَّاهُ تَدْعُونَ فَيَكْشِفُ مَا تَدْعُونَ إِلَيْهِ إِن شَآءَ وَتَنسَوْنَ مَا تُشْرِكُونَ
Translation: มิได้ เฉพาะพระองค์เท่านั้นที่พวกท่านจะวิงวอนขอ แล้วพระองค์ก็จะทรงปลดเปลื้องสิ่งที่พวกท่านวิงวอนให้ช่วยเหลือ หากพระองค์ทรงประสงค์ และพวกเจ้าก็จะลืมสิ่งที่พวกเจ้าให้มีภาคีขึ้น(65)
Comment: (65)ในขณะที่พวกเจ้าอยู่ในภาวะคับขันนั้น พวกเจ้าจะลืมสิ่งที่พวกเจ้าให้มีภาคีขึ้น แต่เมื่อปลอดภัยแล้วก็ให้มีภาคีแก่อัลลอฮ์ดังเดิมอีก
6:42
وَلَقَدْ أَرْسَلْنَآ إِلَىٰٓ أُمَمٍۢ مِّن قَبْلِكَ فَأَخَذْنَـٰهُم بِٱلْبَأْسَآءِ وَٱلضَّرَّآءِ لَعَلَّهُمْ يَتَضَرَّعُونَ
Translation: และแน่นอน เราได้ส่งไปยังประชาชาติก่อนหน้าเจ้า(66) แล้วเราก็ได้ลงโทษพวกเขา(67) ด้วยความแร้นแค้น และการเจ็บป่วยเพื่อว่าพวกเขาจะได้นอบน้อม
Comment: (66)ส่งบรรดาร่อซูล
Comment: (67)เนื่องจากพวกเขาปฏิเสธร่อซูลของพวกเขา
6:43
فَلَوْلَآ إِذْ جَآءَهُم بَأْسُنَا تَضَرَّعُوا۟ وَلَـٰكِن قَسَتْ قُلُوبُهُمْ وَزَيَّنَ لَهُمُ ٱلشَّيْطَـٰنُ مَا كَانُوا۟ يَعْمَلُونَ
Translation: แล้วไฉนเล่า พวกเขาจึงไม่นอบน้อม เมื่อการลงโทษของเราได้มายังพวกเขา แต่ทว่าหัวใจของพวกเขาแข็งกระด้าง และชัยฏอนก็ได้ประดับประะดาแก่พวกเขาด้วย(68) ในสิ่งที่พวกเขากระทำกัน
Comment: (68)ชัยฏอนคอยยุยงว่าสิ่งที่พวกเขาปฏิบัตินั้นถูกต้อง และสวยงามแล้ว ทั้งนี้เพื่อจะได้เป็นพวกเดียวกับมันในฐานะเป็นชาวนรก
6:44
فَلَمَّا نَسُوا۟ مَا ذُكِّرُوا۟ بِهِۦ فَتَحْنَا عَلَيْهِمْ أَبْوَٰبَ كُلِّ شَىْءٍ حَتَّىٰٓ إِذَا فَرِحُوا۟ بِمَآ أُوتُوٓا۟ أَخَذْنَـٰهُم بَغْتَةًۭ فَإِذَا هُم مُّبْلِسُونَ
Translation: ครั้นเมื่อพวกเขาลืมสิ่งที่พวกเขาถูกเตือน(69) ให้รำลึกในสิ่งนั้น เราก็เปิดให้แก่พวกเขาซึ่งบรรดาประตูของสิ่ง(70) จนกระทั่งเมื่อพวกเขาระเริงต่อสิ่งที่พวกเขาได้รับ เราก็ลงโทษพวกเขาโดยกระทันหัน แล้วทันใดนั้นพวกเขาก็หมดหวัง(71)
Comment: (69)คือสิ่งอันเป็นหน้าที่ของพวกเขาที่ร่อซูลของพวกเขาได้เตือนไว้
Comment: (70)ทุกสิ่งที่จะอำนวยความสุขความสำราญแก่พวกเขา
Comment: (71)หมดหวังที่จะกลับตัวหรือแก้ไขใด ๆ
6:45
فَقُطِعَ دَابِرُ ٱلْقَوْمِ ٱلَّذِينَ ظَلَمُوا۟ ۚ وَٱلْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ ٱلْعَـٰلَمِينَ
Translation: แล้วได้ถูกตัดขาด จนคนสุดท้ายของกลุ่มชนที่อธรรม(72) และการสรรเสริญทั้งหลายนั้นเป็นสิทธิของอัลลอฮ์พระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก
Comment: (72)หมายถึงได้ทำลายกลุ่มชนที่อธรรมเหล่านั้นจนคนสุดท้าย ที่ใช้คำว่า “ตัด” นั้น เพื่อให้เข้าใจว่า ชนพวกนี้จะไม่มีการสืบพันธุ์อีกต่อไปเพราะตายหมด
6:46
قُلْ أَرَءَيْتُمْ إِنْ أَخَذَ ٱللَّهُ سَمْعَكُمْ وَأَبْصَـٰرَكُمْ وَخَتَمَ عَلَىٰ قُلُوبِكُم مَّنْ إِلَـٰهٌ غَيْرُ ٱللَّهِ يَأْتِيكُم بِهِ ۗ ٱنظُرْ كَيْفَ نُصَرِّفُ ٱلْـَٔايَـٰتِ ثُمَّ هُمْ يَصْدِفُونَ
Translation: จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) พวกท่านเห็นแล้วมิใช่หรือ? หากอัลลอฮ์ทรงเอาหูของพวกท่าน และตาของพวกท่านไป และได้ทรงประทับตราบนหัวใจของพวกท่านด้วยแล้ว ใครเล่าคือผู้ซึ่งได้รับการเคารพสักการะอื่นจากอัลลอฮ์ที่จะนำมันมาให้แก่พวกท่านได้ จงดูเถิดว่า อย่างไรเล่าที่เราแจกแจงโองการทั้งหลาย แล้วพวกเขาก็ยังหันเหไปได้
6:47
قُلْ أَرَءَيْتَكُمْ إِنْ أَتَىٰكُمْ عَذَابُ ٱللَّهِ بَغْتَةً أَوْ جَهْرَةً هَلْ يُهْلَكُ إِلَّا ٱلْقَوْمُ ٱلظَّـٰلِمُونَ
Translation: จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) พวกท่านเห็นแล้วมิใช่หรือว่า หากการลงโทษของอัลลอฮ์มายังพวกท่านโดยกระทันหันก็ดี หรือโดยเปิดเผย(73) ก็ดีนั้น จะไม่มีใครถูกทำลาย นอกจากกลุ่มชนผู้อธรรมเท่านั้น
Comment: (73)คือได้ทราบล่วงหน้าก่อนแล้ว
6:48
وَمَا نُرْسِلُ ٱلْمُرْسَلِينَ إِلَّا مُبَشِّرِينَ وَمُنذِرِينَ ۖ فَمَنْ ءَامَنَ وَأَصْلَحَ فَلَا خَوْفٌ عَلَيْهِمْ وَلَا هُمْ يَحْزَنُونَ
Translation: และเราจะไม่ส่งบรรดาร่อซูลมา นอกจากในฐานะผู้แจ้งข่าวดี และผู้ตักเตือนเท่านั้น ดังนั้นผู้ใดที่ศรัทธาและปรับปรุงแก้ไขแล้ว ก็ไม่มีความกลัวใดๆ แก่พวกเขาและทั้งพวกเขาก็จะไม่เสียใจ
6:49
وَٱلَّذِينَ كَذَّبُوا۟ بِـَٔايَـٰتِنَا يَمَسُّهُمُ ٱلْعَذَابُ بِمَا كَانُوا۟ يَفْسُقُونَ
Translation: และบรรดาผู้ที่ปฏิเสธบรรดาโองการของเรานั้น การลงโทษจะประสบแก่พวกเขา เนื่องจากการที่พวกเขาละเมิด
6:50
قُل لَّآ أَقُولُ لَكُمْ عِندِى خَزَآئِنُ ٱللَّهِ وَلَآ أَعْلَمُ ٱلْغَيْبَ وَلَآ أَقُولُ لَكُمْ إِنِّى مَلَكٌ ۖ إِنْ أَتَّبِعُ إِلَّا مَا يُوحَىٰٓ إِلَىَّ ۚ قُلْ هَلْ يَسْتَوِى ٱلْأَعْمَىٰ وَٱلْبَصِيرُ ۚ أَفَلَا تَتَفَكَّرُونَ
Translation: จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด)ว่า ฉันจะไม่กล่าวแก่พวกท่านว่า ที่ฉันมีบรรดาคลังสมบัติของอัลลอฮ์และทั้งฉันก็ไม่รู้สิ่งเร้นลับ และฉันก็จะไม่กล่าวแก่พวกท่านว่า ฉันคือมะลัก ฉันจะไม่ปฏิบัติตาม นอกจากสิ่งที่ถูกให้เป็นโองการแก่ฉันเท่านั้นจงกล่าวเถิด คนตาบอดกับคนตาดีจะเท่าเทียมกันหรือ? พวกท่านไม่ใคร่ครวญดอกหรือ?
6:51
وَأَنذِرْ بِهِ ٱلَّذِينَ يَخَافُونَ أَن يُحْشَرُوٓا۟ إِلَىٰ رَبِّهِمْ ۙ لَيْسَ لَهُم مِّن دُونِهِۦ وَلِىٌّۭ وَلَا شَفِيعٌۭ لَّعَلَّهُمْ يَتَّقُونَ
Translation: และเจ้าจงตักเตือนด้วย อัลกุรอานแก่บรรดาผู้ที่เกรงกลัวว่าพวกเขาจะถูกนำไปชุมชุมยังพระผู้อภิบาลของพวกเขา โดยที่อื่นจากพระองค์แล้วไม่มีผู้ช่วยเหลือคนใด และไม่มีผู้ทำการซะฟาอะฮ์(74) คนใด สำหรับพวกเขา เพื่อว่าพวกเขาจะได้ยำเกรง
Comment: (74)คือผู้ที่ได้รับอนุมัติจากอัลลอฮ์ ให้ทำการช่วยเหลือเพื่อให้พ้นจากการลงโทษ
6:52
وَلَا تَطْرُدِ ٱلَّذِينَ يَدْعُونَ رَبَّهُم بِٱلْغَدَوٰةِ وَٱلْعَشِىِّ يُرِيدُونَ وَجْهَهُۥ ۖ مَا عَلَيْكَ مِنْ حِسَابِهِم مِّن شَىْءٍۢ وَمَا مِنْ حِسَابِكَ عَلَيْهِم مِّن شَىْءٍۢ فَتَطْرُدَهُمْ فَتَكُونَ مِنَ ٱلظَّـٰلِمِينَ
Translation: เจ้าจงอย่าขับไล่บรรดาผู้ที่วิงวอนต่อพระเจ้าของพวกเขา ทั้งในเวลาเช้าและเวลาเย็น(75) โดยพวกเขาปรารถนาความโปรดปรานจากพระองค์ ไม่เป็นภัยแก่เจ้าแต่อย่างใด ในการชำระพวกเขาและก็ไม่เป็นภัยแก่พวกเขาแต่อย่างใด จากการชำระเจ้าแล้วเหตุใดเจ้าจึงจะขับไล่พวกเขา? (ถ้าเจ้าทำเช่นนั้นแล้ว) เจ้าก็จะกลายเป็นผู้หนึ่งในหมู่ผู้อธรรม
Comment: (75)หมายถึงบรรดาผู้ที่ต่ำต้อย และยากจนอันได้แก่ ศุไฮบ์ อัมมาร์บินบาซิร์ และค็อบบาบ และผู้อ่อนแออื่นๆ เนื่องจากได้มีกุเรซกลุ่มหนึ่งเดินผ่านท่านนบีโดยที่มีบุคคลดังกล่าวร่วมอยู่กับท่าน พวกเขาจึงกล่าวแก่ท่านนบีว่า ท่านพอใจที่จะให้พวกนั้นเป็นส่วนหนึ่งของพวกท่านกระนั้นหรือ? พวกนี้กระนั้นหรือที่อัลลอฮ์ทรงเมตตาแก่พวกเขาท่ามกลางพวกเรา พวกเราจะเป็นผู้ดำเนินตามพวกนี้ได้อย่างไร? ท่านจงขับไล่พวกเขาไปเถิด แล้วพวกเราจะปฏิบัติตามท่าน แล้วอัลลอฮ์ก็ทรงแจ้งแก่ท่านนบีมิให้ขับไล่พวกเขา
6:53
وَكَذَٰلِكَ فَتَنَّا بَعْضَهُم بِبَعْضٍۢ لِّيَقُولُوٓا۟ أَهَـٰٓؤُلَآءِ مَنَّ ٱللَّهُ عَلَيْهِم مِّنۢ بَيْنِنَآ ۗ أَلَيْسَ ٱللَّهُ بِأَعْلَمَ بِٱلشَّـٰكِرِينَ
Translation: และในทำนองนั้นเราได้ทดสอบบางคนของพวกเขาด้วยอีกบางคน(76) เพื่อพวกเขาจะได้กล่าวว่า ชนเหล่านี้กระนั้นหรือ(77) ที่อัลลอฮ์ทรงกรุณาแก่พวกเขา ในระหว่างพวกเรา อัลลอฮ์มิใช่เป็นผู้ทรงรู้ยิ่งต่อบรรดาผู้ที่กตัญญูดอกหรือ?
Comment: (76)คือได้ทดสอบผู้มีเกียรติชาวกุเรซ ด้วยผู้ยากจนบางคนที่ศรัทธาต่อท่านนบี และเป็นที่รักใคร่ของท่านนบี อันได้แก่ ศุไฮบ์ และเพื่อน ๆ ของเขา ทั้งนี้เพื่อลดความยโสของพวกเขา
Comment: (77)หมายถึงศุไฮบ์และเพื่อน ๆ ของเขา ซึ่งเคยเป็นคนไร้เกียรติท่ามกลางพวกเขา แล้วได้กลายมาเป็นผู้มีเกียรติและจะเป็นผู้นำพวกเขา พวกเขาจะยอมรับได้อยากไร? กล่าวคือพวกเขากล่าวถามโดยการเย้ยหยันและดูถูก
6:54
وَإِذَا جَآءَكَ ٱلَّذِينَ يُؤْمِنُونَ بِـَٔايَـٰتِنَا فَقُلْ سَلَـٰمٌ عَلَيْكُمْ ۖ كَتَبَ رَبُّكُمْ عَلَىٰ نَفْسِهِ ٱلرَّحْمَةَ ۖ أَنَّهُۥ مَنْ عَمِلَ مِنكُمْ سُوٓءًۢا بِجَهَـٰلَةٍۢ ثُمَّ تَابَ مِنۢ بَعْدِهِۦ وَأَصْلَحَ فَأَنَّهُۥ غَفُورٌۭ رَّحِيمٌۭ
Translation: และเมื่อบรรดาผู้ศรัทธาต่อบรรดาโองการของเราได้มาหาเจ้า(มุฮัมมัด) ก็จงกล่าวเถิดว่า ขอความปลอดภัยจงมีแด่พวกท่านเถิดพระผู้อภิบาลของพวกเจ้าได้กำหนดการเอ็นดูเมตตาไว้บนตัวของพระองค์ว่า ผู้ใดในหมู่พวกเจ้ากระทำความชั่วโดยไม่รู้แล้วเขาสำนึกผิดกลับเนื้อกลับตัวหลังจากนั้นและปรับปรุงแก้ไขแล้ว แท้จริงพระองค์คือผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเอ็นดูเมตตา
6:55
وَكَذَٰلِكَ نُفَصِّلُ ٱلْـَٔايَـٰتِ وَلِتَسْتَبِينَ سَبِيلُ ٱلْمُجْرِمِينَ
Translation: และในทำนองนั้นเราจะแจกแจงโองการทั้งหลาย และเพื่อที่วิถีทางของผู้กระทำผิดจะได้ประจักษ์ชัด(78)
Comment: (78)ประจักษ์แก่พวกเจ้า เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้ไม่ดำเนินชีวิตในวิถีทางนั้น
6:56
قُلْ إِنِّى نُهِيتُ أَنْ أَعْبُدَ ٱلَّذِينَ تَدْعُونَ مِن دُونِ ٱللَّهِ ۚ قُل لَّآ أَتَّبِعُ أَهْوَآءَكُمْ ۙ قَدْ ضَلَلْتُ إِذًۭا وَمَآ أَنَا۠ مِنَ ٱلْمُهْتَدِينَ
Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด)ว่าแท้จริงฉันถูกห้ามมิให้เคารพสักการะบรรดาผู้ที่พวกท่านวิงวอนกันอยู่(79) อื่นจากอัลลอฮ์จงกล่าวเถิดฉันจะไม่ปฏิบัติตามความใคร่ใฝ่ต่ำของพวกเจ้า ถ้าเช่นนั้นแน่นอน ฉันก็ย่อมหลงผิดไปด้วย และฉันก็จะไม่ใช่เป็นคนหนึ่งในหมู่ผู้ได้รับคำแนะนำ
Comment: (79)คือบรรดามลาอิกะฮ์คนซอและฮ์ และบรรดาเจว็ด
6:57
قُلْ إِنِّى عَلَىٰ بَيِّنَةٍۢ مِّن رَّبِّى وَكَذَّبْتُم بِهِۦ ۚ مَا عِندِى مَا تَسْتَعْجِلُونَ بِهِۦٓ ۚ إِنِ ٱلْحُكْمُ إِلَّا لِلَّهِ ۖ يَقُصُّ ٱلْحَقَّ ۖ وَهُوَ خَيْرُ ٱلْفَـٰصِلِينَ
Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) แท้จริงฉันอยู่บนหลักฐานอันชัดเจน จากพระผู้อภิบาลของฉัน และพวกเจ้าปฏิเสธหลักฐานนั้นที่ฉันนั้นไม่มีสิ่งที่พวกเจ้าเร่งรีบดอก(80) แท้จริง การชี้ขาดนั้นมิใช่สิทธิของผู้ใด นอกจากเป็นสิทธิของอัลลอฮ์เท่านั้น โดยที่พระองค์จะทรงแจ้งความจริง(81) และพระองค์เป็นผู้ที่เยี่ยมที่สุดในบรรดาผู้ชี้ขาด
Comment: (80)หมายถึงการลงโทษที่พวกเข้าท้าทายให้ท่านนำมา ซึ่งท่านนบีจะนำมาได้อย่างไร เพราะสิ่งนั้นเป็นสิทธิของอัลลอฮ์
Comment: (81)แจ้งความจริงที่พระองค์ได้ทรงชี้ขาดประชาชาติในอดีตมาแล้ว เพื่อจะได้เป็นบทเรียนแก่พวกเจ้า
6:58
قُل لَّوْ أَنَّ عِندِى مَا تَسْتَعْجِلُونَ بِهِۦ لَقُضِىَ ٱلْأَمْرُ بَيْنِى وَبَيْنَكُمْ ۗ وَٱللَّهُ أَعْلَمُ بِٱلظَّـٰلِمِينَ
Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่า หากที่ฉันมีสิ่ง(อำนาจ) ที่พวกเจ้าเร่งรีบกันแล้ว แน่นอน กิจการทั้งหลายก็ถูกชี้ขาดระหว่างฉันกับพวกท่านแล้วและอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงรู้ยิ่งต่อผู้อธรรมทั้งหลาย
6:59
۞ وَعِندَهُۥ مَفَاتِحُ ٱلْغَيْبِ لَا يَعْلَمُهَآ إِلَّا هُوَ ۚ وَيَعْلَمُ مَا فِى ٱلْبَرِّ وَٱلْبَحْرِ ۚ وَمَا تَسْقُطُ مِن وَرَقَةٍ إِلَّا يَعْلَمُهَا وَلَا حَبَّةٍۢ فِى ظُلُمَـٰتِ ٱلْأَرْضِ وَلَا رَطْبٍۢ وَلَا يَابِسٍ إِلَّا فِى كِتَـٰبٍۢ مُّبِينٍۢ
Translation: และที่พระองค์มีบรรดากุญแจแห่งความเร้นลับ(82) โดยที่ไม่มีใครรู้กุญแจเหล่านั้น นอกจากพระองค์เท่านั้น และพระองค์ทรงรู้สิ่งที่อยู่ในแผ่นดิน และในทะเล และไม่มีใบไม้ใด ร่วงหล่นลงนอกจากพระองค์จะทรงรู้มัน และไม่มีเมล็ดพืชใด ซึ่งอยู่ในบรรดาความมืดของแผ่นดิน และไม่มีสิ่งที่อ่อนนุ่มใด และสิ่งที่แห้งใด นอกจากจะอยู่ในบันทึกอันชัดแจ้ง(83)
Comment: (82)หมายถึงว่าพระองค์ทรงรู้ความเร้นลับทั้งหลาย ประหนึ่งพระองค์ทรงมีลูกกุญแจที่จะไขประตูแห่งความเร้นลับทั้งหลายทั้งมวลอนึ่งคำว่า مَفَاتِح นั้นเป็นพหูพจน์ของคำเอกพจน์สองคำ คือ مَفْتَحٌ แปลว่า “คลัง” และ مِفْتَحٌ แปลว่า “ลูกกุญแจ” ในการนี้ถ้าจะแปลคำ مَفَاتِحُ الْغَيْبِ ว่า “บรรดาคลังแห่งความเร้นลับ” ก็ได้ และความหมายก็มิได้เปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด
Comment: (83)หมายถึงอยู่ในความรู้ของพระองค์ โดยปราศจากการลืมเลือน ประหนึ่งได้บันทึกไว้ในสมุดบันทึก
6:60
وَهُوَ ٱلَّذِى يَتَوَفَّىٰكُم بِٱلَّيْلِ وَيَعْلَمُ مَا جَرَحْتُم بِٱلنَّهَارِ ثُمَّ يَبْعَثُكُمْ فِيهِ لِيُقْضَىٰٓ أَجَلٌۭ مُّسَمًّۭى ۖ ثُمَّ إِلَيْهِ مَرْجِعُكُمْ ثُمَّ يُنَبِّئُكُم بِمَا كُنتُمْ تَعْمَلُونَ
Translation: และพระองค์คือผู้ที่ทรงให้พวกเจ้าตาย(84) ในเวลากลางคืน และทรงรู้สิ่งที่พวกเจ้าได้กระทำขึ้นในเวลากลางวัน แล้วก็ทรงให้พวกเจ้าฟื้นคืนชีพ(85) ในเวลานั้น เพื่อว่าเวลาแห่งอายุที่ถูกกำหนดไว้นั้นจะได้ถูกใช้ให้หมดไป แล้วยังพระองค์นั้นคือการกลับไปของพวกเจ้า แล้วพระองค์จะทรงบอกแก่พวกเจ้าในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำกัน
Comment: (84)ให้นอนหลับประหนึ่งคนตาย เพราะสภาพคนนอนหลับนั้น คล้ายกับสภาพของคนตาย
Comment: (85)ให้ตื่นขึ้นประหนึ่งคนตายฟื้นคืนชีพกระนั้น
6:61
وَهُوَ ٱلْقَاهِرُ فَوْقَ عِبَادِهِۦ ۖ وَيُرْسِلُ عَلَيْكُمْ حَفَظَةً حَتَّىٰٓ إِذَا جَآءَ أَحَدَكُمُ ٱلْمَوْتُ تَوَفَّتْهُ رُسُلُنَا وَهُمْ لَا يُفَرِّطُونَ
Translation: และพระองค์คือผู้ทรงอำนาจเหนือปวงบ่าวของพระองค์(86) และทรงส่งบรรดาผู้บันทึกความดีและความชั่ว(87) มายังพวกเจ้าด้วยครั้นเมื่อความตายได้มายังคนใดในพวกเจ้าบรรดาทูตของเรา(88) ก็จะรับชีวิตของพวกเขาไป โดยที่พวกเขาจะไม่ทำให้บกพร่อง(89)
Comment: (86)ไม่มีใครที่จะหลีกเลี่ยงให้พ้นจากพระองค์ไปได้
Comment: (87)หมายถึง บรรดามลาอิกะฮ์ ที่ทำหน้าที่บันทึกความดีและความชั่วของมนุษย์
Comment: (88)หมายถึง มลาอิกะฮ์ผู้ช่วยเหลือ มะละกุลเมาต์ในการรับวิญญาณผู้ที่ถึงแก่ชีวิต
Comment: (89)ไม่โอ้เอ้ ล่าช้า หรือละเลยไม่ได้รับเอาวิญญาณของผู้ที่ถึงแก่ชีวิตไป
6:62
ثُمَّ رُدُّوٓا۟ إِلَى ٱللَّهِ مَوْلَىٰهُمُ ٱلْحَقِّ ۚ أَلَا لَهُ ٱلْحُكْمُ وَهُوَ أَسْرَعُ ٱلْحَـٰسِبِينَ
Translation: แล้วพวกเขาก็ถูกนำกลับไปยังอัลลอฮ์(90) ผู้เป็นนายอันแท้จริงของพวกเรา พึงรู้เถิดว่าการชี้ขาด(91) นั้นเป็นสิทธิของพระองค์เท่านั้น และพระองค์เป็นผู้รวดเร็วยิ่งในหมู่ผู้ชำระทั้งหลาย
Comment: (90)หมายถึงวันกิยามะฮ์
Comment: (91)หมายถึงการชี้ขาดในวันกิยามะฮ์
6:63
قُلْ مَن يُنَجِّيكُم مِّن ظُلُمَـٰتِ ٱلْبَرِّ وَٱلْبَحْرِ تَدْعُونَهُۥ تَضَرُّعًۭا وَخُفْيَةًۭ لَّئِنْ أَنجَىٰنَا مِنْ هَـٰذِهِۦ لَنَكُونَنَّ مِنَ ٱلشَّـٰكِرِينَ
Translation: จงกล่าวเถิด(มุอัมมัด)ว่า ใครเล่าจะช่วยพวกเจ้าให้พ้นจากบรรดาความมืดของทางบก(92) และทางทะเล(93) โดยที่พวกเจ้าวิงวอนขอต่อเขาด้วยความนอบน้อม และแผ่วเบาว่า ถ้าหากพระองค์ทรงช่วยเราให้รอดพ้นจากสิ่งนี้แล้ว แน่นอนพวกข้าพระองค์ก็จะเป็นผู้ที่อยู่ในหมู่ผู้กตัญญูรู้คุณ
Comment: (92)ในเวลาค่ำคืนเดือนมืด ขณะหลงทาง
Comment: (93)ในขณะที่มีมรสุมอันรุนแรง หรือในยามค่ำคืนอันมืดมิด โดยที่ไม่รู้ว่าจะมุ่งหน้าไปทางทิศใด
6:64
قُلِ ٱللَّهُ يُنَجِّيكُم مِّنْهَا وَمِن كُلِّ كَرْبٍۢ ثُمَّ أَنتُمْ تُشْرِكُونَ
Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่าอัลลอฮ์จะช่วยพวกท่านให้รอดพ้นจากมัน(94) และจากความทุกข์ยากทุกอย่างด้วย แต่แล้วพวกท่านก็ให้มีภาคีขึ้นอีก(แก่พระองค์)
Comment: (94)รอดพ้นจากความมืดเหล่านั้น
6:65
قُلْ هُوَ ٱلْقَادِرُ عَلَىٰٓ أَن يَبْعَثَ عَلَيْكُمْ عَذَابًۭا مِّن فَوْقِكُمْ أَوْ مِن تَحْتِ أَرْجُلِكُمْ أَوْ يَلْبِسَكُمْ شِيَعًۭا وَيُذِيقَ بَعْضَكُم بَأْسَ بَعْضٍ ۗ ٱنظُرْ كَيْفَ نُصَرِّفُ ٱلْـَٔايَـٰتِ لَعَلَّهُمْ يَفْقَهُونَ
Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) พระองค์คือผู้ทรงสามารถที่จะส่งการลงโทษมายังพวกท่านจากเบื้องบน(95) ของพวกท่านหรือจากใต้เท้า(96) ของพวกท่านหรือ ให้พวกท่านปนเปกันโดยมีหลายพวก(97) และให้บางส่วนของพวกท่านลิ้มรส ซึ่งการรุกรานของอีกบางส่วน จงดูเถิด(มุฮัมมัด) ว่า เรากำลังแจกแจงโองการทั้งหลายอยู่อย่างไร? เพื่อว่าพวกเขาจะได้เข้าใจ
Comment: (95)เช่นให้หินตกลงมาบนพวกเขา หรือในยามค่ำคืนอันมือมิด โดยที่ไม่รู้ว่าจะมุ่งหน้าไปทางทิศใด
Comment: (96)เช่นให้ธรณีสูบ หรือให้แผ่นดินไหวเป็นต้น
Comment: (97)ให้มีผู้คนหลายพวกปนเปกันอยู่ในหมู่พวกท่าน ซึ่งแต่ละพวกก็มีความคิดเห็นไปคนละทาง อันก่อให้เกิดการแตกแยกและนำมาซึ่งความไม่สงบ
6:66
وَكَذَّبَ بِهِۦ قَوْمُكَ وَهُوَ ٱلْحَقُّ ۚ قُل لَّسْتُ عَلَيْكُم بِوَكِيلٍۢ
Translation: และกลุ่มชนของเจ้าได้ปฏิเสธอัลกุรอานทั้ง ๆ ที่อัลกุรอานนั้นเป็นสัจธรรม จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า ฉันมิใช่ผู้พิทักษ์พวกท่านดอก(98)
Comment: (98)พิทักษ์รักษาให้พวกท่านประพฤติตามบัญญัติของพระเจ้า หากแต่ฉันเพียงมีหน้าที่ชี้แจงบัญญัติของพระองค์ให้พวกท่านทราบเท่านั้น ส่วนพวกท่านจะเชื่อฟังหรือไม่นั้นเป็นหน้าที่ของพวกท่าน และเป็นผู้รับผิดชอบต่อพระองค์
6:67
لِّكُلِّ نَبَإٍۢ مُّسْتَقَرٌّۭ ۚ وَسَوْفَ تَعْلَمُونَ
Translation: สำหรับแต่ละข่าวคราวนั้น(99) ย่อมมีเวลาที่เกิดขึ้น และพวกเจ้าจะได้รู้
Comment: (99)คือข่าวคราวเกี่ยวกับความเมตตาก็ดี และเกี่ยวกับการลงโทษก็ดี ที่ท่านนบีได้แจ้งให้ทราบนั้น มันจะต้องเกิดขึ้นแน่ๆ ตามเวลาที่มันถูกกำหนดไว้
6:68
وَإِذَا رَأَيْتَ ٱلَّذِينَ يَخُوضُونَ فِىٓ ءَايَـٰتِنَا فَأَعْرِضْ عَنْهُمْ حَتَّىٰ يَخُوضُوا۟ فِى حَدِيثٍ غَيْرِهِۦ ۚ وَإِمَّا يُنسِيَنَّكَ ٱلشَّيْطَـٰنُ فَلَا تَقْعُدْ بَعْدَ ٱلذِّكْرَىٰ مَعَ ٱلْقَوْمِ ٱلظَّـٰلِمِينَ
Translation: และเมื่อเจ้าเห็นบรรดาผู้ซึ่งกำลังวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ในบรรดาโองการของเรา(100) ก็จงออกห่างจากพวกเขาเสีย จนกว่าพวกเขาจะวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องอื่นจากนั้น และถ้าชัยฏอนทำให้เจ้าลืมแล้ว ก็จงอย่านั่งรวมกับพวกที่อธรรมเหล่านั้นต่อไป หลังจากที่มีการนึกขึ้นได้
Comment: (100)วิพากษ์วิจารณ์ในทำนองเย้ยหยัน
6:69
وَمَا عَلَى ٱلَّذِينَ يَتَّقُونَ مِنْ حِسَابِهِم مِّن شَىْءٍۢ وَلَـٰكِن ذِكْرَىٰ لَعَلَّهُمْ يَتَّقُونَ
Translation: และบรรดาผู้ที่ยำเกรงไม่เป็นภัยแต่อย่างใดจากการชำระพวกเขา แต่ทว่าเป็นการตักเตือน (แก่พวกเขา) เพื่อว่าพวกเขาจะได้ยำเกรง(101)
Comment: (101)เลิกกระทำการเย้ยหยัน
6:70
وَذَرِ ٱلَّذِينَ ٱتَّخَذُوا۟ دِينَهُمْ لَعِبًۭا وَلَهْوًۭا وَغَرَّتْهُمُ ٱلْحَيَوٰةُ ٱلدُّنْيَا ۚ وَذَكِّرْ بِهِۦٓ أَن تُبْسَلَ نَفْسٌۢ بِمَا كَسَبَتْ لَيْسَ لَهَا مِن دُونِ ٱللَّهِ وَلِىٌّۭ وَلَا شَفِيعٌۭ وَإِن تَعْدِلْ كُلَّ عَدْلٍۢ لَّا يُؤْخَذْ مِنْهَآ ۗ أُو۟لَـٰٓئِكَ ٱلَّذِينَ أُبْسِلُوا۟ بِمَا كَسَبُوا۟ ۖ لَهُمْ شَرَابٌۭ مِّنْ حَمِيمٍۢ وَعَذَابٌ أَلِيمٌۢ بِمَا كَانُوا۟ يَكْفُرُونَ
Translation: และเจ้าจงปล่อยบรรดาผู้ที่(102) ยึดเอาศาสนา(103) ของพวกเขาเป็นของเล่น และสิ่งที่ให้ความเพลิดเพลิน(104) และชีวิตความเป็นอยู่ในโลกนี้ได้หลอกลวงพวกเขา(105) และเจ้าจงเตือนด้วยอัลกุรอาน(106) การที่ชีวิตหนึ่งชีวิตใดจะถูกประกันอยู่(107) กับสิ่งที่ชีวิตนั้นได้ขวนขวายไว้อื่นจากอัลลอฮ์แล้วจะไม่มีผู้ช่วยเหลือคนใด และไม่มีผู้ทำการชะฟาอะฮ์คนใดสำหรับชีวิตนั้น และถ้าชีวิตนั้นจะไถ่ถอนด้วยสิ่งไถ่ถอนทุกอย่าง มันก็จะไม่ถูกรับจากชีวิตนั้น ชนเหล่านี้คือบรรดาผู้ที่ได้ถูกให้ประกันอยู่กับสิ่งที่พวกเขาได้แสวงหาไว้ ซึ่งพวกเขาจะได้รับเครื่องดื่มจากน้ำที่ร้อนจัด และจะได้รับการลงโทษอันเจ็บแสบเนื่องจากที่พวกเขาปฏิเสธการศรัทธา
Comment: (102)หมายถึงพวกมุชริกมักกะฮ์
Comment: (103)หมายถึง ศาสนาอิสลาม กล่าวคือแม้ว่าพวกเขาจะไม่รับนับถือ แต่ก็ถือว่าเป็นศาสนาของพวกเขา เพราะอัลลอฮ์ทรงประทานมาให้พวกเขา
Comment: (104)เนื่องจากพวกเขาได้วิพากษ์วิจารณ์ศาสนาอิสลามในทำนองเย้ยหยัน แล้วหัวเราะกันอย่างสนุกสนานและเพลิดเพลิน
Comment: (105)หลอกลวงพวกเขาให้หลงผิดไปว่า ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขานั้นเพียงในโลกนี้เท่านั้น หรือไม่ก็เมื่อโลกนี้ดีเสียอย่าง ถ้าโลกหน้ามีจริงก็ย่อมดีในโลกหน้าด้วย ไม่จำเป็นต้องไปเชื่อฟังมุฮัมมัดแต่อย่างใด
Comment: (106)ตักเตือนให้พวกเขาทราบในความเป็นจริงที่จะเกิดขึ้นแก่พวกเขาในวันกิยามะฮ์
Comment: (107)คือถูกลงโทษตามความชั่วที่ชีวิตนั้นได้ประกอบไว้
6:71
قُلْ أَنَدْعُوا۟ مِن دُونِ ٱللَّهِ مَا لَا يَنفَعُنَا وَلَا يَضُرُّنَا وَنُرَدُّ عَلَىٰٓ أَعْقَابِنَا بَعْدَ إِذْ هَدَىٰنَا ٱللَّهُ كَٱلَّذِى ٱسْتَهْوَتْهُ ٱلشَّيَـٰطِينُ فِى ٱلْأَرْضِ حَيْرَانَ لَهُۥٓ أَصْحَـٰبٌۭ يَدْعُونَهُۥٓ إِلَى ٱلْهُدَى ٱئْتِنَا ۗ قُلْ إِنَّ هُدَى ٱللَّهِ هُوَ ٱلْهُدَىٰ ۖ وَأُمِرْنَا لِنُسْلِمَ لِرَبِّ ٱلْعَـٰلَمِينَ
Translation: จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า เราจะวิงวอนขอต่อสิ่งที่ไม่ให้คุณแก่เราได้ และไม่ให้โทษแก่เราได้อื่นจากอัลลอฮ์กระนั้นหรือ? และเราก็จะถูกให้หันส้นเท้าของเรากลับ(108) หลังจากที่อัลลอฮ์ได้ทรงนำทางเราแล้ว ดั่งผู้ที่พวกชัยฏอนได้ทำให้เขาหลงไปในแผ่นดินในสภาพที่งงงวย(109) ซึ่งเขามีเพื่อนๆ เรียกร้องเขาให้ไปสู่คำแนะนำที่ถูกต้อง(110) ว่า จงหาพวกเราเถิด(111) จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด)ว่าแท้จริงคำแนะนำของอัลลอฮ์เท่านั้นคือแนวทางที่ถูกต้อง และพวกเราได้รับบัญชาให้เราสวามิภักดิ์แด่พระผู้เป็นเจ้าแห่งสากลโลกเท่านั้น
Comment: (108)หมายถึงหันหลังกลับสู่ความงมงายดังเดิม
Comment: (109)ไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน และไม่รู้ว่าจะเดินไปทางไหน ซึ่งเป็นทางที่ถูกล
Comment: (110)คือบัญญัติแห่งศาสนาของอัลลอฮ์
Comment: (111)แต่เขาหาได้เชื่อฟังไม่ ในการนี้จึงทำให้เขาได้รับความหายนะ
6:72
وَأَنْ أَقِيمُوا۟ ٱلصَّلَوٰةَ وَٱتَّقُوهُ ۚ وَهُوَ ٱلَّذِىٓ إِلَيْهِ تُحْشَرُونَ
Translation: และ(พวกเราได้รับบัญชา) ว่าจงดำรงการละหมาด และจงยำเกรงพระองค์เถิด และพระองค์คือผู้ที่พวกเจ้าจะถูกนำกลับไปชุมนุมยังพระองค์
6:73
وَهُوَ ٱلَّذِى خَلَقَ ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضَ بِٱلْحَقِّ ۖ وَيَوْمَ يَقُولُ كُن فَيَكُونُ ۚ قَوْلُهُ ٱلْحَقُّ ۚ وَلَهُ ٱلْمُلْكُ يَوْمَ يُنفَخُ فِى ٱلصُّورِ ۚ عَـٰلِمُ ٱلْغَيْبِ وَٱلشَّهَـٰدَةِ ۚ وَهُوَ ٱلْحَكِيمُ ٱلْخَبِيرُ
Translation: และพระองค์คือ ผู้ที่ทรงสร้างบรรดาชั้นฟ้า และแผ่นดินด้วยความจริง และวันที่(112) พระองค์ตรัสว่า เจ้าจงเป็นขึ้น แล้วมันก็จะเป็นขึ้น พระดำรัสของพระองค์คือความจริง(113) และอำนาจทั้งหลายนั้นเป็นของพระองค์ ในวันที่จะถูกเป่าเข้าไปในแตร(114) พระผู้ทรงรอบรู้ในสิ่งเร้นลับ และในสิ่งเปิดเผย(115) และพระองค์คือผู้ทรงปรีชาญาณ ผู้ทรงรอบรู้อย่างละเอียดถี่ถ้วน
Comment: (112)วันสร้างโลกโดยที่ทรงประกาศิตว่า จงเป็นขึ้น แล้วก็เป็นโลกขึ้น
Comment: (113)สิ่งใดที่พระองค์ทรงแจ้งให้ทราบนั้น เป็นความจริงทั้งสิ้น
Comment: (114)วันที่แตรจะถูกเป่าเป็นครั้งที่สองโดยอิสรอฟีล เพื่อให้มนุษย์ฟื้นคืนชีพ
Comment: (115)หมายถึงอัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา
6:74
۞ وَإِذْ قَالَ إِبْرَٰهِيمُ لِأَبِيهِ ءَازَرَ أَتَتَّخِذُ أَصْنَامًا ءَالِهَةً ۖ إِنِّىٓ أَرَىٰكَ وَقَوْمَكَ فِى ضَلَـٰلٍۢ مُّبِينٍۢ
Translation: และจงรำลึกขณะที่อิบรอฮีมได้กล่าวแก่บิดาของเขา คืออาซัรว่า ท่านจะยึดถือเอาบรรดาเจว็ดเป็นที่เคารพสักการะกระนั้นหรือ?แท้จริงฉันเห็นว่า ท่านและกลุ่มชนของท่านนั้นอยู่ในความหลงผิดอันชัดแจ้ง
6:75
وَكَذَٰلِكَ نُرِىٓ إِبْرَٰهِيمَ مَلَكُوتَ ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضِ وَلِيَكُونَ مِنَ ٱلْمُوقِنِينَ
Translation: และในทำนองนั้นแหละ เราจะให้อิบรอฮีมเห็นอำนาจอันยิ่งใหญ่(116) ในบรรดาชั้นฟ้า และแผ่นดินและเพื่อเขาจะได้เป็นผู้หนึ่งในหมู่ผู้เชื่อมั่นทั้งหลาย
Comment: (116)อำนาจอันยิ่งใหญ่ของอัลลอฮ์
6:76
فَلَمَّا جَنَّ عَلَيْهِ ٱلَّيْلُ رَءَا كَوْكَبًۭا ۖ قَالَ هَـٰذَا رَبِّى ۖ فَلَمَّآ أَفَلَ قَالَ لَآ أُحِبُّ ٱلْـَٔافِلِينَ
Translation: ครั้นเมื่อกลางคืนปกคลุมเขา เขาได้เห็นดาวดวงหนึ่ง เขากล่าวว่า นี้คือพระผู้อภิบาลของฉัน แต่เมื่อมันลับไป เขาก็กล่าวว่า ฉันไม่ชอบบรรดาสิ่งที่ลับไป
6:77
فَلَمَّا رَءَا ٱلْقَمَرَ بَازِغًۭا قَالَ هَـٰذَا رَبِّى ۖ فَلَمَّآ أَفَلَ قَالَ لَئِن لَّمْ يَهْدِنِى رَبِّى لَأَكُونَنَّ مِنَ ٱلْقَوْمِ ٱلضَّآلِّينَ
Translation: ครั้นเมื่อเขาเห็นดวงจันทร์กำลังขึ้นเขาก็กล่าวว่านี้คือพระผู้อภิบาลของฉัน แต่เมื่อมันลับไป เขาก็กล่าวว่านี้คือพระเจ้าของฉัน แต่เมื่อมันลับไป เขาก็กล่าวว่า ถ้าพระเจ้าของฉันมิได้ทรงนำทางฉันแล้ว แน่นอน ฉันก็จะกลายเป็นคนหนึ่งในกลุ่มชนที่หลงผิด
6:78
فَلَمَّا رَءَا ٱلشَّمْسَ بَازِغَةًۭ قَالَ هَـٰذَا رَبِّى هَـٰذَآ أَكْبَرُ ۖ فَلَمَّآ أَفَلَتْ قَالَ يَـٰقَوْمِ إِنِّى بَرِىٓءٌۭ مِّمَّا تُشْرِكُونَ
Translation: ครั้นเมื่อเขาเห็นดวงอาทิตย์กำลังขึ้นเขาก็กล่าวว่า นี้แหละคือพระเจ้าของฉัน นี้แหละใหญ่กว่า(117) แต่เมื่อมันได้ลับไป เขาก็กล่าวว่า โอ้กลุ่มชนของฉัน! แท้จริงฉันขอปลีกตัวออก(118) จากสิ่งที่พวกท่านให้มีภาคีขึ้น(แก่อัลลอฮ์)
Comment: (117)ใหญ่กว่าดวงดาวและดวงจันทร์
Comment: (118)ไม่ขอเกี่ยวข้องด้วยกับการที่พวกท่านให้มีภาคีขึ้นแก่อัลลอฮ์ เพราะฉันรู้แล้วว่าเป็นความงมงาย และเป็นความผิดมหันต์
6:79
إِنِّى وَجَّهْتُ وَجْهِىَ لِلَّذِى فَطَرَ ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضَ حَنِيفًۭا ۖ وَمَآ أَنَا۠ مِنَ ٱلْمُشْرِكِينَ
Translation: แท้จริง ข้าพระองค์ขอผินหน้าของข้าพระองค์แด่ผู้ที่สร้างบรรดาชั้นฟ้า และแผ่นดินในฐานะผู้ใฝ่หาความจริง ผู้สวามิภักดิ์และข้าพระองค์มิใช่คนหนึ่งในหมู่ผู้ให้มีภาคีขึ้น
6:80
وَحَآجَّهُۥ قَوْمُهُۥ ۚ قَالَ أَتُحَـٰٓجُّوٓنِّى فِى ٱللَّهِ وَقَدْ هَدَىٰنِ ۚ وَلَآ أَخَافُ مَا تُشْرِكُونَ بِهِۦٓ إِلَّآ أَن يَشَآءَ رَبِّى شَيْـًۭٔا ۗ وَسِعَ رَبِّى كُلَّ شَىْءٍ عِلْمًا ۗ أَفَلَا تَتَذَكَّرُونَ
Translation: และกลุ่มชนของเขาได้โต้เถียงเขา เขาได้กล่าวว่า พวกท่านจะโต้เถียงฉันในเรื่องอัลลอฮ์(119) กระนั้นหรือ? และแท้จริง พระองค์ได้ทรงนำทางฉันแล้ว และฉันจะไม่กลัวสิ่งที่พวกท่านให้สิ่งนั้นเป็นภาคีขึ้น(120) นอกจากพระผู้อภิบาลของฉันจะทรงประสงค์สิ่งหนึ่งสิ่งใดเท่านั้น พระผู้อภิบาลของฉันนั้นมีความรู้กว้างขวางทั่วทุกสิ่ง แล้วพวกเจ้าไม่รำลึกลึกดอกหรือ?
Comment: (119)คือเรื่องการให้เอกภาพแด่พระองค์ ทั้งนี้เนื่องจากนบีอิบรอฮีม เรียกให้ยึดถือในเอกภาพของพระองค์ แต่พวกเขาไม่เห็นด้วย ไม่กลัวว่าบรรดาเจว็ดที่พวกท่านให้มีภาคีแด่อัลลอฮ์นั้นจะทำร้ายฉัน เพราะฉันรู้ว่ามันไม่ให้คุณให้โทษใครได้แต่อย่างใด
Comment: (120)ไม่กลัวว่าบรรดาเจว็ดที่พวกท่านให้มีภาคีแด่อัลลอฮ์นั้นจะทำร้ายฉัน เพราะฉันรู้ว่ามันไม่ให้คุณให้โทษใครได้แต่อย่างใด
6:81
وَكَيْفَ أَخَافُ مَآ أَشْرَكْتُمْ وَلَا تَخَافُونَ أَنَّكُمْ أَشْرَكْتُم بِٱللَّهِ مَا لَمْ يُنَزِّلْ بِهِۦ عَلَيْكُمْ سُلْطَـٰنًۭا ۚ فَأَىُّ ٱلْفَرِيقَيْنِ أَحَقُّ بِٱلْأَمْنِ ۖ إِن كُنتُمْ تَعْلَمُونَ
Translation: และอย่างไรเล่าที่ฉันจะกลัวสิ่งที่พวกท่านให้มีภาคีขึ้น โดยที่พวกท่านไม่กลัวที่พวกท่านได้ให้มีภาคีแก่อัลลอฮ์ซึ่งสิ่งที่พระองค์มิได้ทรงให้มีหลักฐานใดๆ ลงมาแก่พวกเจ้าในสิ่งนั้น(121) แล้วฝ่ายใดเล่าในสองฝ่ายนั้น(122) เป็นฝ่ายที่สมควรต่อความปลอดภัย(123) ยิ่งกว่าหากพวกท่านรู้
Comment: (121)มิได้ทรงให้มีหลักฐานลงมารับรองสิ่งนั้นเป็นผู้มีภาคีกับพระองค์ในการได้รับการเคารพสักการะ
Comment: (122)คือฝ่ายที่ให้เอกภาพแก่อัลลอฮ์ กับฝ่ายที่ให้มีภาคีแก่พระองค์
Comment: (123)ปลอดภัยจากการที่จะถูกลงโทษ
6:82
ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ وَلَمْ يَلْبِسُوٓا۟ إِيمَـٰنَهُم بِظُلْمٍ أُو۟لَـٰٓئِكَ لَهُمُ ٱلْأَمْنُ وَهُم مُّهْتَدُونَ
Translation: บรรดาผู้ที่ศรัทธาและพวกเขามิได้ให้การศรัทธาของพวกเขาปะปนกับการอธรรม(124) ชนเหล่านี้แหละพวกเขาจะได้รับความปลอดภัย และพวกเขาคือผู้ที่รับเอาทางนำที่ถูกต้องไว้
Comment: (124)การอธรรมที่นี้ หมายถึงการซิริก (การมีภาคีแก่อัลลอฮ์)
6:83
وَتِلْكَ حُجَّتُنَآ ءَاتَيْنَـٰهَآ إِبْرَٰهِيمَ عَلَىٰ قَوْمِهِۦ ۚ نَرْفَعُ دَرَجَـٰتٍۢ مَّن نَّشَآءُ ۗ إِنَّ رَبَّكَ حَكِيمٌ عَلِيمٌۭ
Translation: และนั่นคือ หลักฐานขอวงเราที่ได้ให้มันแก่อิบรอฮีม โดยมีฐานะเหนือกลุ่มชนของเขา เราจะยกขึ้นหลายขั้นผู้ที่เราประสงค์ แท้จริงพระผู้อภิบาลของเจ้า เป็นผู้ทรงปรีชาญาณ ผู้ทรงรอบรู้
6:84
وَوَهَبْنَا لَهُۥٓ إِسْحَـٰقَ وَيَعْقُوبَ ۚ كُلًّا هَدَيْنَا ۚ وَنُوحًا هَدَيْنَا مِن قَبْلُ ۖ وَمِن ذُرِّيَّتِهِۦ دَاوُۥدَ وَسُلَيْمَـٰنَ وَأَيُّوبَ وَيُوسُفَ وَمُوسَىٰ وَهَـٰرُونَ ۚ وَكَذَٰلِكَ نَجْزِى ٱلْمُحْسِنِينَ
Translation: และเราได้ประทานอิสฮาก และยะอ์กูบ ทั้งหมดเราได้นำทางแล้ว และนูห์เราก็ได้นำทางมาก่อน และจากลูกหลานของเขา(125) คือดาวูด และสุลัยมาน และอัยยูบและยูซุฟและมูซา และฮารูน และในทำนองนั้นแหละ เราจะตอบแทนแก่ผู้กระทำดีทั้งหลาย
Comment: (125)ของนบีอิบรอฮีม
6:85
وَزَكَرِيَّا وَيَحْيَىٰ وَعِيسَىٰ وَإِلْيَاسَ ۖ كُلٌّۭ مِّنَ ٱلصَّـٰلِحِينَ
Translation: และซะกะรียา และยะฮ์ยา และอีซา และอิลยาส ทุกคนนั้นอยู่ในหมู่คนดี
6:86
وَإِسْمَـٰعِيلَ وَٱلْيَسَعَ وَيُونُسَ وَلُوطًۭا ۚ وَكُلًّۭا فَضَّلْنَا عَلَى ٱلْعَـٰلَمِينَ
Translation: และอิสมาอีล และอัลยะสะอ์ และยูนุสและลูฏ แต่ละคนนั้นเราได้ให้ดีเด่นเหนือกว่าประชาชาติในสากลโลก
6:87
وَمِنْ ءَابَآئِهِمْ وَذُرِّيَّـٰتِهِمْ وَإِخْوَٰنِهِمْ ۖ وَٱجْتَبَيْنَـٰهُمْ وَهَدَيْنَـٰهُمْ إِلَىٰ صِرَٰطٍۢ مُّسْتَقِيمٍۢ
Translation: และ (เราได้ให้ดีเด่นอีก) ซึ่งส่วนหนึ่งจากบรรดาบิดาของพวกเขา และลูกหลานของพวกเขา และพี่น้องของพวกเขา และเราได้เลือกพวกเขา(126) และได้นำทางพวกเขาไปสู่ทางอันเที่ยงตรง
Comment: (126)เลือกพวกเขาให้เป็นนบีของพระองค์
6:88
ذَٰلِكَ هُدَى ٱللَّهِ يَهْدِى بِهِۦ مَن يَشَآءُ مِنْ عِبَادِهِۦ ۚ وَلَوْ أَشْرَكُوا۟ لَحَبِطَ عَنْهُم مَّا كَانُوا۟ يَعْمَلُونَ
Translation: นั่นแหละคือ ทางนำของอัลลอฮ์โดยที่พระองค์จะทรงนำทางผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ในหมู่ปวงบ่าวของพระองค์ ด้วยคำทางนำนั้น และหากเขาได้ให้มีภาคีขึ้นแล้ว แน่นอนสิ่งที่พวกเขาเคยกระทำกันมา ก็สูญสลายไปจากพวกเขา(127)
Comment: (127)ถูกทำลายหมดสิ้น ด้วยการที่พวกเขาให้มีภาคีขึ้น
6:89
أُو۟لَـٰٓئِكَ ٱلَّذِينَ ءَاتَيْنَـٰهُمُ ٱلْكِتَـٰبَ وَٱلْحُكْمَ وَٱلنُّبُوَّةَ ۚ فَإِن يَكْفُرْ بِهَا هَـٰٓؤُلَآءِ فَقَدْ وَكَّلْنَا بِهَا قَوْمًۭا لَّيْسُوا۟ بِهَا بِكَـٰفِرِينَ
Translation: ชนเหล่านี้คือ ผู้ที่เราได้ให้คัมภีร์แก่พวกเขาและให้คำตัดสิน(128) และให้การเป็นนบีด้วย แต่ถ้าชนเหล่านี้(129) ปฏิเสธศรัทธาต่อมัน(130) แท้จริง เราได้มอบมันไว้แล้วแก่กลุ่มชนหนึ่งที่พวกเขามิใช่เป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาต่อมัน
Comment: (128)คือให้มีความเข้าใจในบัญญัติของพระองค์ จนสามารถรู้ข้อตัดสินในปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง หมายถึงมุชริกชาวมักกะฮ์
Comment: (129)หมายถึงมุชริกชาวมักกะฮ์
Comment: (130)หมายถึง คัมภีร์คำชี้ขาด และการเป็นนบี
6:90
أُو۟لَـٰٓئِكَ ٱلَّذِينَ هَدَى ٱللَّهُ ۖ فَبِهُدَىٰهُمُ ٱقْتَدِهْ ۗ قُل لَّآ أَسْـَٔلُكُمْ عَلَيْهِ أَجْرًا ۖ إِنْ هُوَ إِلَّا ذِكْرَىٰ لِلْعَـٰلَمِينَ
Translation: ชนเหล่านี้(131) คือผู้ที่อัลลอฮ์ได้ทรงนำทาง ดังนั้นด้วยแนวทางของพวกเขา เจ้า(132) จงเจริญรอยตามเถิด จงกล่าวเถิด(133) (มุฮัมมัด) ว่าฉันจะไม่ขอต่อพวกท่านซึ่งค่าจ้างใด ๆ ในการให้(134) ศรัทธาต่ออัลกุรอาน อัลกุรอาน มิใช่อะไรอื่นนอกจากคำตักเตือนสำหรับประชาชาติทั้งหลายเท่านั้น
Comment: (131)หมายถึงบรรดานบีสิบแปดท่านที่นามของท่านถูกระบุในอายะฮ์ที่ผ่านมา
Comment: (132)หมายถึงนบีมุฮัมมัด
Comment: (133)กล่าวแก่มุชริกมักกะฮ์
Comment: (134)คือให้พวกมุชริกมักกะฮ์ศรัทธา
6:91
وَمَا قَدَرُوا۟ ٱللَّهَ حَقَّ قَدْرِهِۦٓ إِذْ قَالُوا۟ مَآ أَنزَلَ ٱللَّهُ عَلَىٰ بَشَرٍۢ مِّن شَىْءٍۢ ۗ قُلْ مَنْ أَنزَلَ ٱلْكِتَـٰبَ ٱلَّذِى جَآءَ بِهِۦ مُوسَىٰ نُورًۭا وَهُدًۭى لِّلنَّاسِ ۖ تَجْعَلُونَهُۥ قَرَاطِيسَ تُبْدُونَهَا وَتُخْفُونَ كَثِيرًۭا ۖ وَعُلِّمْتُم مَّا لَمْ تَعْلَمُوٓا۟ أَنتُمْ وَلَآ ءَابَآؤُكُمْ ۖ قُلِ ٱللَّهُ ۖ ثُمَّ ذَرْهُمْ فِى خَوْضِهِمْ يَلْعَبُونَ
Translation: และพวกเขา(135) มิได้ให้ความยิ่งใหญ่แก่อัลลอฮ์ตามควรแก่ความยิ่งใหญ่ของพระองค์ จงรำลึกขณะที่พวกเขากล่าวว่า อัลลอฮ์มิได้ทรงประทานสิ่งใดแก่ปุถุชนคนใด(136) จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่าผู้ใดเล่าที่ได้ทรงประทานลงมา ซึ่งคัมภีร์ที่มูซานำมาเป็นแสงสว่าง และคำแนะนำแก่มนุษย์ซึ่งพวกท่านได้บันทึกไว้ในกระดาษ(137) โดยที่จะได้เปิดเผยมันและก็ปกปิดมันไว้มากมาย(138) และพวกเจ้า(139) ถูกสอนในสิ่งที่ทั้งพวกเจ้า และบรรพบุรุษของพวกเจ้ามิได้รู้มาก่อน จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่า(140) (ผู้ทรงประทาน) คืออัลลอฮ์นั่นเอง แล้วจงปล่อยพวกเขาสนุกสนานกันในการวิพากษ์วิจารณ์ของพวกเขาต่อไป
Comment: (135)หมายถึงพวกยิว
Comment: (136)หมายถึงนบีมุฮัมมัด กล่าวคือพวกยิวต้องการปฏิเสธการเป็นนบีของมุฮัมมัด โดยกล่าวอย่างขาดสติว่า อัลลอฮ์ไม่เคยประทานโองการของพระองค์ให้แก่มนุษย์คนใด ทั้งๆ ที่ท่านนบีมูซาซึ่งเป็นนบีของพวกเขาก็เป็นมนุษย์
Comment: (137)เพียงส่วนหนึ่ง เพื่อเปิดเผยให้ประชาชนทราบ
Comment: (138)เช่นลักษณะของท่านนบีมุฮัมมัด เป็นต้น
Comment: (139)หมายถึงชาวอาหรับ
Comment: (140)คือกล่าวว่า ผู้ที่ประทานคัมภีร์ให้แก่นบีมูซานั้น คืออัลลอฮ์ ซึ่งพระองค์ก็ได้ทรงประทานให้แก่ฉันด้วย
6:92
وَهَـٰذَا كِتَـٰبٌ أَنزَلْنَـٰهُ مُبَارَكٌۭ مُّصَدِّقُ ٱلَّذِى بَيْنَ يَدَيْهِ وَلِتُنذِرَ أُمَّ ٱلْقُرَىٰ وَمَنْ حَوْلَهَا ۚ وَٱلَّذِينَ يُؤْمِنُونَ بِٱلْـَٔاخِرَةِ يُؤْمِنُونَ بِهِۦ ۖ وَهُمْ عَلَىٰ صَلَاتِهِمْ يُحَافِظُونَ
Translation: นี้คือ คัมภีร์(141) ที่เราได้ให้ลงมาอันเป็นคัมภีร์ที่มีความจำเริญ(142) ที่ยืนยันสิ่ง(143) ซึ่งอยู่เบื้้องหน้าคัมภีร์นี้และเพื่อที่เจ้าจะได้ตักเตือนแม่แห่งเมืองทั้งหลาย(144) และผู้ที่อยู่รอบๆ แม่เมืองนั้น(145) และบรรดาผู้ที่ศรัทธาต่อวันอาคิเราะฮ์(ปรโลก) พวกเขาย่อมศรัทธาต่อคัมภีร์นี้ และขณะเดียวกันพวกเขาก็จะรักษาการละหมาดของพวกเขา
Comment: (141)คัมภีร์อัลกุรอาน
Comment: (142)มีคุณความดีอันมาก ใครศรัทธาและปฏิบัติตามก็จะได้รับความจำเริญ
Comment: (143)หมายถึง ยืนยหมายถึงเมืองมักกะฮ์ และคำว่า “ตักเตือนแม่แห่งเมืองทั้งหลาย” นั้นหมายถึง ตักเตือนชาวมักกะฮ์นั้นเองันบรรดาคัมภีร์ที่อัลลอฮ์ได้ทรงประทานลงมาก่อนอัลกุรอานว่า เป็นคัมภีร์ที่พระองค์ทรงประทานลงมาจริ
Comment: (144)หมายถึงเมืองมักกะฮ์ และคำว่า “ตักเตือนแม่แห่งเมืองทั้งหลาย” นั้นหมายถึง ตักเตือนชาวมักกะฮ์นั้นเอง
Comment: (145)หมายถึงมนุษยชาติทั้งมวล
6:93
وَمَنْ أَظْلَمُ مِمَّنِ ٱفْتَرَىٰ عَلَى ٱللَّهِ كَذِبًا أَوْ قَالَ أُوحِىَ إِلَىَّ وَلَمْ يُوحَ إِلَيْهِ شَىْءٌۭ وَمَن قَالَ سَأُنزِلُ مِثْلَ مَآ أَنزَلَ ٱللَّهُ ۗ وَلَوْ تَرَىٰٓ إِذِ ٱلظَّـٰلِمُونَ فِى غَمَرَٰتِ ٱلْمَوْتِ وَٱلْمَلَـٰٓئِكَةُ بَاسِطُوٓا۟ أَيْدِيهِمْ أَخْرِجُوٓا۟ أَنفُسَكُمُ ۖ ٱلْيَوْمَ تُجْزَوْنَ عَذَابَ ٱلْهُونِ بِمَا كُنتُمْ تَقُولُونَ عَلَى ٱللَّهِ غَيْرَ ٱلْحَقِّ وَكُنتُمْ عَنْ ءَايَـٰتِهِۦ تَسْتَكْبِرُونَ
Translation: และใครเล่าคือ ผู้อธรรมยิ่งกว่าผู้ที่อุปโลกน์ความเท็จให้แก่อัลลอฮ์หรือกล่าวว่าได้ถูกประทานโองการแก่ฉัน ทั้งๆ ที่มิได้มีสิ่งใดถูกประทานให้เป็นโองการแก่เขา และผู้ที่กล่าวว่า ฉันจะให้ลงมาเช่นเดียวกับสิ่งที่อัลลอฮ์ให้ลงมา และหากเจ้าจะได้เห็นขณะที่บรรดาผู้อธรรมอยู่ในภาวะคับขันแห่งความตาย และมลาอิกะฮ์ กำลังแบมือของพวกเขา(โดยกล่าวว่า)จงให้ชีวิตของพวกท่านออกมา วันนี้พวกท่านจะได้รับการตอบแทน ซึ่งโทษแห่งการต่ำต้อย เนื่องจากที่พวกท่านกล่าวให้ร้ายแก่อัลลอฮ์โดยปราศจากความจริง(146) และเนื่องจากการที่พวกท่านแสดงยโสต่อบรรดาโองการของพระองค์
Comment: (146)เช่นกล่าวว่า พระองค์มิได้ทรงประทานสิ่งใดแก่ท่านนบีมุฮัมมัด หรือว่าพระองค์ทรงมีพระบุตร เป็นต้น
6:94
وَلَقَدْ جِئْتُمُونَا فُرَٰدَىٰ كَمَا خَلَقْنَـٰكُمْ أَوَّلَ مَرَّةٍۢ وَتَرَكْتُم مَّا خَوَّلْنَـٰكُمْ وَرَآءَ ظُهُورِكُمْ ۖ وَمَا نَرَىٰ مَعَكُمْ شُفَعَآءَكُمُ ٱلَّذِينَ زَعَمْتُمْ أَنَّهُمْ فِيكُمْ شُرَكَـٰٓؤُا۟ ۚ لَقَد تَّقَطَّعَ بَيْنَكُمْ وَضَلَّ عَنكُم مَّا كُنتُمْ تَزْعُمُونَ
Translation: และแน่นอน พวกเจ้าได้มายังเราโดยลำพัง(147) เยี่ยงที่เราได้บังเกิดพวกเจ้ามาในครั้งแรก และพวกเจ้าได้ละทิ้งสิ่งที่เราได้ให้แก่พวกเจ้าไว้เบื้องของพวกเจ้า(148) และเราไม่เห็นบรรดาผู้ที่จะช่วยเหลือพวกเจ้าอยู่กับพวกเจ้าที่พวกเจ้าได้อ้างไว้ว่า พวกเขาเป็นผู้มีหุ้นส่วนกับพวกเจ้า(149) แน่นอน (ความสัมพันธ์) ได้ขาดเป็นเสี่ยงๆ แล้วในระหว่างพวกเจ้า และสิ่งที่พวกเจ้าได้อ้างไว้ได้หายจากพวกเจ้าแล้ว
Comment: (147)ลำพังผู้เดียวไม่มีใครติดสอยห้อยตามเพื่อให้ความคุ้มครองและช่วยเหลือ
Comment: (148)คือบ้านช่องและทรัพย์สิน
Comment: (149)มีหุ้นส่วนในการได้รับการเคารพสักการะร่วมกับอัลลอฮ์
6:95
۞ إِنَّ ٱللَّهَ فَالِقُ ٱلْحَبِّ وَٱلنَّوَىٰ ۖ يُخْرِجُ ٱلْحَىَّ مِنَ ٱلْمَيِّتِ وَمُخْرِجُ ٱلْمَيِّتِ مِنَ ٱلْحَىِّ ۚ ذَٰلِكُمُ ٱللَّهُ ۖ فَأَنَّىٰ تُؤْفَكُونَ
Translation: แท้จริง อัลลอฮ์เป็นผู้ทรงให้เมล็ดพืชและเมล็ดอินทผลัมปริออก(150) ทรงให้สิ่งที่มีชีวิตออกจากสิ่งที่ไม่มีชีวิต(151) และทรงให้สิ่งที่ไม่มีชีวิตออกจากสิ่งที่มีชีวิต(152) นั่นแหละคืออัลลอฮ์แล้วอย่างไรเล่าที่พวกเจ้าถูกหันเหไปได้
Comment: (150)เพื่อหน่อของมันจะได้แทงออกมาได้
Comment: (151)เช่นให้ไก่ออกจากไข่
Comment: (152)เช่นให้ไข่ออกจากไก่
6:96
فَالِقُ ٱلْإِصْبَاحِ وَجَعَلَ ٱلَّيْلَ سَكَنًۭا وَٱلشَّمْسَ وَٱلْقَمَرَ حُسْبَانًۭا ۚ ذَٰلِكَ تَقْدِيرُ ٱلْعَزِيزِ ٱلْعَلِيمِ
Translation: ผู้ทรงเผยอรุโณทัย(153) และทรงให้กลางคืนเป็นเวลาพักผ่อน และทรงให้ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เป็นการคำนวณ(154) นั่นคือการกำหนดให้มีขึ้นของผู้ทรงเดชานุภาพ ผู้ทรงปรีชาญาณ
Comment: (153)คือทรงขจัดความมืดออกและทรงให้รุ่งเช้าประจักษ์ขึ้น
Comment: (154)ให้การขึ้นและการ ตกของมันทั้งสองเป็นการนับวัน เดือน และปี
6:97
وَهُوَ ٱلَّذِى جَعَلَ لَكُمُ ٱلنُّجُومَ لِتَهْتَدُوا۟ بِهَا فِى ظُلُمَـٰتِ ٱلْبَرِّ وَٱلْبَحْرِ ۗ قَدْ فَصَّلْنَا ٱلْـَٔايَـٰتِ لِقَوْمٍۢ يَعْلَمُونَ
Translation: และพระองค์คือ ผู้ที่ทรงดลบันดาลดวงดาวทั้งหลายแก่พวกเจ้าจะได้รับการนำทางด้วยดวงดาวเหล่านั้น(155) ทั้งในความมืดแห่งทางบกและทางทะเล แท้จริง เราได้แจกแจงโองการทั้งหลายไว้แล้ว สำหรับกลุ่มชนที่รู้(156)
Comment: (155)ขณะหลงทางอยู่ในความมืด ทั้งนี้โดยสังเกตดูมัน แล้วจะรู้ได้ว่าทิศทางไหนที่ควรจะไป
Comment: (156)สำหรับคนที่เคยใช้ดวงดาวนำทางแล้ว ย่อมจะยอมรับในความยิ่งใหญ่ของพระองค์
6:98
وَهُوَ ٱلَّذِىٓ أَنشَأَكُم مِّن نَّفْسٍۢ وَٰحِدَةٍۢ فَمُسْتَقَرٌّۭ وَمُسْتَوْدَعٌۭ ۗ قَدْ فَصَّلْنَا ٱلْـَٔايَـٰتِ لِقَوْمٍۢ يَفْقَهُونَ
Translation: และพระองค์คือ ผู้ที่ทรงให้พวกเจ้าเกิดขึ้นจากชีวิตหนึ่ง(157) โดยให้มีที่พัก(158) และให้มีที่ฝาก(159) แท้จริง เราได้แจกแจงโองการทั้งหลายไว้แล้วสำหรับกลุ่มชนที่เข้าใจ(160)
Comment: (157)หมายถึงท่านนบีอาดัม
Comment: (158)คือที่กระดูกสันหลังของชายหรือลูกอัณฑะในสภาพอสุจิ
Comment: (159)คือที่มดลูกของหญิง ในสภาพเริ่มเจริญเติบโต
Comment: (160)สำหรับกลุ่มชนที่เข้าใจในเรื่องนี้ย่อมเห็นในเดชานุภาพของพระองค์
6:99
وَهُوَ ٱلَّذِىٓ أَنزَلَ مِنَ ٱلسَّمَآءِ مَآءًۭ فَأَخْرَجْنَا بِهِۦ نَبَاتَ كُلِّ شَىْءٍۢ فَأَخْرَجْنَا مِنْهُ خَضِرًۭا نُّخْرِجُ مِنْهُ حَبًّۭا مُّتَرَاكِبًۭا وَمِنَ ٱلنَّخْلِ مِن طَلْعِهَا قِنْوَانٌۭ دَانِيَةٌۭ وَجَنَّـٰتٍۢ مِّنْ أَعْنَابٍۢ وَٱلزَّيْتُونَ وَٱلرُّمَّانَ مُشْتَبِهًۭا وَغَيْرَ مُتَشَـٰبِهٍ ۗ ٱنظُرُوٓا۟ إِلَىٰ ثَمَرِهِۦٓ إِذَآ أَثْمَرَ وَيَنْعِهِۦٓ ۚ إِنَّ فِى ذَٰلِكُمْ لَـَٔايَـٰتٍۢ لِّقَوْمٍۢ يُؤْمِنُونَ
Translation: และพระองค์คือ ผู้ที่ทรงให้น้ำลงมาจากฟากฟ้าแล้วทรงให้พันธุ์พืชของทุกสิ่งออกมาด้วยน้ำนั้น และเราได้ให้ออกจากพันธุ์พืชซึ่งสิ่งที่มีสีเขียว จากสิ่งที่มีสีเขียวนั้นเราได้ให้ออกมาซึ่งเมล็ดที่ซ้อนตัวกันอยู่(161) และจากต้นอินทผลัมนั้นจากจั่นของมันเป็นทลายต่ำ(162) (และทรงให้ออกมาด้วยน้ำนั้นอีก) ซึ่งสวนองุ่นและซัยตูน(163) และทับทิม โดยมีสภาพคล้ายกันและไม่คล้ายกัน “พวกเจ้าจงมองดู ผลของมัน เมื่อมันเริ่มออกผลและเมื่อมันแก่สุก แท้จริงในสิ่งเหล่านั้นแน่นอน มีสัญญาณมากมาย สำหรับหมู่ชนผู้ศรัทธา”
Comment: (161)เช่น ผลทับทิม และส้มโอ เป็นต้น
Comment: (162)คือจั่นของมันนั้นเป็นทลายห้อยต่ำลงง่ายแก่การเก็บ
Comment: (163)ไม้ผลพันธุ์มะกอกชนิดหนึ่ง
6:100
وَجَعَلُوا۟ لِلَّهِ شُرَكَآءَ ٱلْجِنَّ وَخَلَقَهُمْ ۖ وَخَرَقُوا۟ لَهُۥ بَنِينَ وَبَنَـٰتٍۭ بِغَيْرِ عِلْمٍۢ ۚ سُبْحَـٰنَهُۥ وَتَعَـٰلَىٰ عَمَّا يَصِفُونَ
Translation: และพวกเขาได้ให้มีขึ้นแก่อัลลอฮ์ซึ่งบรรดาภาคีแห่งญิน(164) ทั้งๆ ที่พระองค์ทรงบังเกิดพวกเขา(165) แต่พวกเขา(166) ได้อุปโลกน์ให้แก่พระองค์ซึ่งบรรดาบุตรชาย และบรรดาบุตรหญิง โดยปราศจากความรู้ พระองค์ทรงบริสุทธิ์และทรงสูงส่งเกินกว่าที่พวกเขาจะกล่าวบรรยายลักษณะนั้น
Comment: (164)ทำการเคารพสักการะญินโดยเข้าใจว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในการเคารพสักการะญินนั้น คือการให้ญินเป็นภาคีกับพระองค์
Comment: (165)พวกญิน
Comment: (166)หมายถึงพวกยิว คริสต์ และมุชริกมักกะฮ์
6:101
بَدِيعُ ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضِ ۖ أَنَّىٰ يَكُونُ لَهُۥ وَلَدٌۭ وَلَمْ تَكُن لَّهُۥ صَـٰحِبَةٌۭ ۖ وَخَلَقَ كُلَّ شَىْءٍۢ ۖ وَهُوَ بِكُلِّ شَىْءٍ عَلِيمٌۭ
Translation: พระผู้ทรงเนรมิตบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดิน อย่างไรเล่าที่พระองค์จะทรงมีพระบุตรโดยที่พระองค์มิได้ทรงมีคู่ครอง? และพระองค์ได้ทรงบังเกิดทุกสิ่ง และพระองค์ก็ทรงรู้ในทุกสิ่งทุกอย่าง
6:102
ذَٰلِكُمُ ٱللَّهُ رَبُّكُمْ ۖ لَآ إِلَـٰهَ إِلَّا هُوَ ۖ خَـٰلِقُ كُلِّ شَىْءٍۢ فَٱعْبُدُوهُ ۚ وَهُوَ عَلَىٰ كُلِّ شَىْءٍۢ وَكِيلٌۭ
Translation: นั่นแหละคืออัลลอฮ์ผู้เป็นพระผู้อภิบาลของพวกเจ้า ไม่มีผู้ควรได้รับการเคารพภักดีนอกจากพระองค์ ผู้ทรงบังเกิดทุกสิ่งเท่านั้น พวกเจ้าจงเคารพภักดีพระองค์เถิด และพระองค์ทรงเป็นผู้รับมอบหมายให้คุ้มครองรักษาในทุกสิ่งทุกอย่าง
6:103
لَّا تُدْرِكُهُ ٱلْأَبْصَـٰرُ وَهُوَ يُدْرِكُ ٱلْأَبْصَـٰرَ ۖ وَهُوَ ٱللَّطِيفُ ٱلْخَبِيرُ
Translation: สายตาทั้งหลายหยั่งไม่ถึงพระองค์(167) แต่พระองค์ทรงหยั่งถึงสายตาเหล่านั้น(168) และพระองค์ก็คือผู้ทรงปรานี ผู้ทรงรอบรู้อย่างถี่ถ้วน
Comment: (167)คือไม่สามารถจะมองเห็นพระองค์ได้
Comment: (168)พระองค์ทรงเห็นพวกเขาและสายตาของพวกเขา
6:104
قَدْ جَآءَكُم بَصَآئِرُ مِن رَّبِّكُمْ ۖ فَمَنْ أَبْصَرَ فَلِنَفْسِهِۦ ۖ وَمَنْ عَمِىَ فَعَلَيْهَا ۚ وَمَآ أَنَا۠ عَلَيْكُم بِحَفِيظٍۢ
Translation: แท้จริงบรรดาหลักฐานจากพระเจ้าของพวกเจ้าได้มายังพวกเจ้าแล้ว ดังนั้นผู้ใดมองเห็น(169) ก็ย่อมได้แก่ตัวของเขา และผู้ใดมองไม่เห็น(170) ก็ย่อมเป็นภัยแก่ตัวของเขา และฉันมิใช่เป็นผู้พิทักษ์รักษาพวกเจ้า(171)
Comment: (169)หมายถึงศรัทธาและการศรัทธานั้นได้ให้ประโยชน์แก่ตัวเขา
Comment: (170)คือไม่ยอมศรัทธา
Comment: (171)คือพิทักษ์รักษามิให้ปฏิเสธศรัทธา หากแต่มีหน้าที่เพียงผู้ประกาศให้ทราบเท่านั้น
6:105
وَكَذَٰلِكَ نُصَرِّفُ ٱلْـَٔايَـٰتِ وَلِيَقُولُوا۟ دَرَسْتَ وَلِنُبَيِّنَهُۥ لِقَوْمٍۢ يَعْلَمُونَ
Translation: และในทำนองเดียวกัน เราจะแจกแจงโองการทั้งหลายไว้(172) และเพื่อพวกเขาจะได้กล่าวว่า เจ้า(มุฮัมมัด) ได้ศึกษามา(173) และเพื่อเราจะได้ให้แจ่มแจ้งแก่กลุ่มชนที่รู้(174)
Comment: (172)คือเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆ ในอดีตระหว่างบรรดาร่อซูล และประชาชาติของเขา
Comment: (173)คือศึกษามาจากคัมภีร์ก่อน เพราะรู้เรื่องราวในอดีตอย่างดี
Comment: (174)คือกลุ่มชนที่เคยมีความรู้มาก่อน กล่าวคือกลุ่มชนที่เคยรู้มาก่อนนั้น เมื่อได้ทราบจากที่ท่านนบีได้อ่านให้เขาฟัง เขาจะยืนยันว่าเป็นความจริง
6:106
ٱتَّبِعْ مَآ أُوحِىَ إِلَيْكَ مِن رَّبِّكَ ۖ لَآ إِلَـٰهَ إِلَّا هُوَ ۖ وَأَعْرِضْ عَنِ ٱلْمُشْرِكِينَ
Translation: จงปฏิบัติสิ่งที่ถูกประทานลงมาแก่เจ้าจากพระเจ้าของเจ้าเถิด ไม่มีผู้ใดที่ควรได้รับการเคารพภักดีนอกจากพระองค์เท่านั้น และเจ้าจงผินหลังให้แก่บรรดาผู้ให้มีภาคี(175) เถิด
Comment: (175)คือผู้ให้สิ่งหนึ่งใด หรือผู้ใดมีหุ้นส่วนร่วมกับอัลลอฮ์ ในการเคารพสักการะของพวกเขา
6:107
وَلَوْ شَآءَ ٱللَّهُ مَآ أَشْرَكُوا۟ ۗ وَمَا جَعَلْنَـٰكَ عَلَيْهِمْ حَفِيظًۭا ۖ وَمَآ أَنتَ عَلَيْهِم بِوَكِيلٍۢ
Translation: และหากว่าอัลลอฮ์ทรงประสงค์แล้ว(176) พวกเขาก็ย่อมไม่ตั้งภาคี และเราก็มิได้ให้เจ้าเป็นผู้พิทักษ์รักษาพวกเขา และเจ้าก็มิใช่เป็นผู้รับมอบหมาย(177) ให้คุ้มครองรักษาพวกเขาด้วย
Comment: (176)คือประสงค์จะไม่ให้มีการตั้งภาคีขึ้นโดยใช้อำนาจของพระองค์บังคับแล้ว แน่นอนเพวกเขาย่อมให้มีภาคีขึ้นไม่ได้ แต่การที่มีผู้ให้มีภาคีขึ้นแก่พระองค์นั้น เนื่องจากพระองค์ทรงให้อิสระแก่บ่าวของพระองค์ในการปฏิบัติตน โดยที่พระองค์เป็นผู้ทรงแนะนำให้เขาทราบว่าอะไรผิดอะไรถูก ถ้าเราเชื่อพระองค์และปฏิบัติตามเขาก็เป็นชาวสวรรค์ ถ้าเขาไม่เชื่อพระองค์ เขาก็เป็นชาวนรก คือมนุษย์มีอิสระที่จะเชื่อก็ได้ไม่เชื่อก็ได้ แต่ทว่าทุกคนต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตนกระทำ
Comment: (177)คือรับมอบหมายจากอัลลอฮ์
6:108
وَلَا تَسُبُّوا۟ ٱلَّذِينَ يَدْعُونَ مِن دُونِ ٱللَّهِ فَيَسُبُّوا۟ ٱللَّهَ عَدْوًۢا بِغَيْرِ عِلْمٍۢ ۗ كَذَٰلِكَ زَيَّنَّا لِكُلِّ أُمَّةٍ عَمَلَهُمْ ثُمَّ إِلَىٰ رَبِّهِم مَّرْجِعُهُمْ فَيُنَبِّئُهُم بِمَا كَانُوا۟ يَعْمَلُونَ
Translation: และพวกเจ้าจงอย่าด่าว่า บรรดาที่พวกเขาวิงวอนขอ(178) อื่นจากอัลลอฮ์แล้วพวกเขาก็จะด่าว่า อัลลอฮ์อันเป็นการละเมิด(179) โดยปราศจากความรู้ ในทำนองนั้นแหละ เราได้ประดับประดาแก่ทุกประชาชาติ(180) ซึ่งการงานของพวกเขา และยังพระผู้อภิบาลของพวกเขานั้น คือการกลับไปของพวกเขา แล้วพระองค์ก็จะทรงบอกแก่พวกเขาในสิ่งที่พวกเขากระทำกัน
Comment: (178)หมายถึง บรรดาเจว็ดหรือผู้ที่กราบไหว้บูชาเจว็ด
Comment: (179)คือละเมิดขอบเขตแห่งอำนาจและการเป็นพระเจ้าของพระองค์
Comment: (180)หมายถึงแก่บุคคลในทุกประชาชาติที่ไม่ศรัทธาต่อนบีของเขา โดยเห็นชอบต่อสิ่งที่ ชัยฏอนชี้นำพวกเขา
6:109
وَأَقْسَمُوا۟ بِٱللَّهِ جَهْدَ أَيْمَـٰنِهِمْ لَئِن جَآءَتْهُمْ ءَايَةٌۭ لَّيُؤْمِنُنَّ بِهَا ۚ قُلْ إِنَّمَا ٱلْـَٔايَـٰتُ عِندَ ٱللَّهِ ۖ وَمَا يُشْعِرُكُمْ أَنَّهَآ إِذَا جَآءَتْ لَا يُؤْمِنُونَ
Translation: และพวกเขาได้สาบานต่ออัลลอฮ์อย่างหนักแน่นว่า ถ้าหากมีสัญญาณหนึ่ง(181) มายังพวกเขา แน่นอนพวกเขาจะศรัทธา(182) เนื่องด้วยสัญญาณนั้น จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่า แท้จริง สัญญาณทั้งหลายนั้นอยู่ที่อัลลอฮ์เท่านั้น(183) และอะไรเล่าที่ทำจะทำให้พวกเจ้ารู้สึกได้(184)? แท้จริง สัญญาณนั้นเมื่อมันมาแล้ว พวกเขาก็ไม่ศรัทธา
Comment: (181)คือสิ่งที่พวกเขา(ชาวมักกะฮ์)ได้เสนอให้ท่านนบีกระทำ นั่นคือให้ท่านนบีเปลี่ยนภูเขาศ่อฟาให้เป็นทองคำ
Comment: (182)คือศรัทธาต่อท่านนบี
Comment: (183)คือท่านนบีไม่อยู่ในฐานะที่จะกระทำได้ เพราะสัญญาณทั้งหลายอยู่ในอำนาจของอัลลอฮ์แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น
Comment: (184)คืออัลลอฮ์ทรงถามบรรดาผู้ศรัทธาที่ต้องการจะให้ท่านนบีวิงวอนต่ออัลลอฮ์ให้ทรงนำสัญญาณมาตามที่พวกเขาเสนอ เพื่อว่าพวกเขาจะได้ศรัทธา กล่าวคือทรงถามว่า อะไรทำให้พวกเจ้ารู้ได้ว่า ถ้ามีสัญญาณมาแล้วพวกเขาจะศรัทธา
6:110
وَنُقَلِّبُ أَفْـِٔدَتَهُمْ وَأَبْصَـٰرَهُمْ كَمَا لَمْ يُؤْمِنُوا۟ بِهِۦٓ أَوَّلَ مَرَّةٍۢ وَنَذَرُهُمْ فِى طُغْيَـٰنِهِمْ يَعْمَهُونَ
Translation: และเราจะพลิกหัวใจของพวกเขา(185) และตาของพวกเขา(186) เช่นเดียวกับที่พวกเขามิได้ศรัทธาต่อสิ่งนั้น(187) ในครั้งแรก และเราจะปล่อยพวกเขาให้ระเหเร่ร่อนอยู่ในความละเมิดของพวกเขาต่อไป
Comment: (185)หมายถึงเปลี่ยนหัวใจพวกเขาให้หมดความสนใจที่จะศรัทธาต่อไป
Comment: (186)คือหันเหสายตาของพวกเขามิให้มองเห็นความจริง
Comment: (187)คืออัลกุรอานที่ท่านนบีให้นำมาประกาศในครั้งแรก
6:111
۞ وَلَوْ أَنَّنَا نَزَّلْنَآ إِلَيْهِمُ ٱلْمَلَـٰٓئِكَةَ وَكَلَّمَهُمُ ٱلْمَوْتَىٰ وَحَشَرْنَا عَلَيْهِمْ كُلَّ شَىْءٍۢ قُبُلًۭا مَّا كَانُوا۟ لِيُؤْمِنُوٓا۟ إِلَّآ أَن يَشَآءَ ٱللَّهُ وَلَـٰكِنَّ أَكْثَرَهُمْ يَجْهَلُونَ
Translation: และแม้ว่าเราได้ให้มลาอิกะฮ์ลงมายังพวกเขา(188) และบรรดาคนตายได้พูดกับพวกเขา(189) และเราได้รวบรวมทุกสิ่งไว้เบื้องหน้าพวกเขา(190) ก็ใช่ว่าพวกเขาจะศรัทธากัน นอกจากอัลลอฮ์จะทรงประสงค์เท่านั้น(191) แต่ทว่าส่วนมากในหมู่พวกเขานั้นไม่รู้(192)
Comment: (188)คือลงมาเพื่อยืนยันว่ามุฮัมมัดเป็นร่อซูลของอัลลอฮ์จริงๆ
Comment: (189)หมายถึงว่าอัลลอฮ์ได้ทรงให้คนตายฟื้นขึ้น แล้วพูดกับพวกเขาโดยยืนยันว่ามุฮัมมัดเป็นร่อซูลของพระองค์
Comment: (190)เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่ามุฮัมมัดเป็นร่อซูลของพระองค์
Comment: (191)คือประสงค์ให้พวกเขาศรัทธาเท่านั้น ทั้งนี้โดยใช้อำนาจบังคับพวกเขา แต่ที่พระองค์มิได้ทรงกระทำเช่นนั้นก็เพื่อให้พวกเขาตัดสินใจด้วยตนเอง และรับผิดชอบ ซึ่งพวกเขาจะได้รับการตอบแทนและลงโทษตามผลงานของเขา
Comment: (192)หมายถึงส่วนมากในหมู่มุมินไม่รู้ในความดื้อด้านของพวกเขา จึงมีความปรารถนาจะให้พวกเขาศรัทธา
6:112
وَكَذَٰلِكَ جَعَلْنَا لِكُلِّ نَبِىٍّ عَدُوًّۭا شَيَـٰطِينَ ٱلْإِنسِ وَٱلْجِنِّ يُوحِى بَعْضُهُمْ إِلَىٰ بَعْضٍۢ زُخْرُفَ ٱلْقَوْلِ غُرُورًۭا ۚ وَلَوْ شَآءَ رَبُّكَ مَا فَعَلُوهُ ۖ فَذَرْهُمْ وَمَا يَفْتَرُونَ
Translation: และในทำนองนั้นแหละเราได้ให้มีศัตรูขึ้นแก่นบีทุกคน(193) คือ บรรดาชัยฏอนจากมนุษย์และญินโดยที่บางส่วนของพวกเขาจะกระซิบกระซาบแก่อีกบางส่วน(194) ซึ่งคำพูดที่ตกแต่งเป็นการหลอกลวง(195) และหากว่าพระผู้อภิบาลของเจ้าทรงประสงค์(196) แล้วพวกเขาก็มิกระทำมันขึ้นได้(197) เจ้าจงปล่อยพวกเขาและสิ่งที่พวกเขาอุปโลกน์(198) ขึ้น
Comment: (193)คือตามกฎสภาวการณ์นั้นผู้ที่ไม่ใช้สติปัญญาย่อมเป็นศัตรูต่อความจริง และสิ่งที่ท่านนบีทุกท่านนำมานั้นเป็นความจริงทั้งสิ้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้ที่มีสภาพดังกล่าวเป็นศัตรูต่อนบี ส่วนชัยฏอนในหมู่ญินนั้นย่อมไม่ต้องสงสัยในการเป็นศัตรูของพวกเขา เพราะมันได้ประกาศตนเป็นศัตรูแก่ลูกหลานของอาดัมตั้งแต่ต้นมาแล้ว
Comment: (194)คือบางส่วนของชัยฏอนที่เป็นญินกระซิบกระซาบแก่ชัยฏอนที่เป็นมนุษย์
Comment: (195)คือหลอกลวงมนุษย์มิให้ศรัทธาต่อนบีของพวกเขา
Comment: (196)คือประสงค์ที่จะไม่ให้พวกเขาร่วมกันหลอกลวงเพื่อนมนุษย์
Comment: (197)คือพวกเขาก็ไม่สามารถจะกระทำกันได้
Comment: (198)คือการตกแต่งคำพูดให้สวยงามเพื่อจูงใจผู้คนให้หลงเชื่อ
6:113
وَلِتَصْغَىٰٓ إِلَيْهِ أَفْـِٔدَةُ ٱلَّذِينَ لَا يُؤْمِنُونَ بِٱلْـَٔاخِرَةِ وَلِيَرْضَوْهُ وَلِيَقْتَرِفُوا۟ مَا هُم مُّقْتَرِفُونَ
Translation: และเพื่อที่หัวใจของบรรดาผู้ที่ไม่ศรัทธาต่ออาคิเราะฮ์(ปรโลก) โน้มเอียงไปสู่คำพูดที่ตกแต่ง และเพื่อที่พวกเขาจะได้พึงพอใจในคำพูด(199) และเพื่อที่พวกเขาจะได้กระทำในสิ่งที่พวกเขาเป็นผู้กระทำกันอยู่(200)
Comment: (199)คือคำพูดแต่งขึ้น
Comment: (200)คือการปฏิเสธคำเชิญของนบีและกระทำความชั่วตามที่เคยกระทำมา
6:114
أَفَغَيْرَ ٱللَّهِ أَبْتَغِى حَكَمًۭا وَهُوَ ٱلَّذِىٓ أَنزَلَ إِلَيْكُمُ ٱلْكِتَـٰبَ مُفَصَّلًۭا ۚ وَٱلَّذِينَ ءَاتَيْنَـٰهُمُ ٱلْكِتَـٰبَ يَعْلَمُونَ أَنَّهُۥ مُنَزَّلٌۭ مِّن رَّبِّكَ بِٱلْحَقِّ ۖ فَلَا تَكُونَنَّ مِنَ ٱلْمُمْتَرِينَ
Translation: อื่นจากอัลลอฮ์กระนั้นหรือ ที่ฉันจะแสวงหาผู้ชี้ขาด(201) ทั้งๆ ที่พระองค์เป็นผู้ทรงประทานคัมภีร์ลงมาแก่พวกท่านในสภาพที่ถูกแจกแจงไว้อย่างละเอียด ? และบรรดาผู้ที่เรา(202) ได้ให้คัมภีร์แก่พวกเขา(203) พวกเขารู้ดีว่า แท้จริงอัลกุรอานถูกประทานลงมาจากพระผู้อภิบาลของเจ้า(204) ด้วยความเป็นจริง เจ้าอย่าได้อยู่ในหมู่ผู้สงสัยเป็นอันขาด(205)
Comment: (201)เป็นถ้อยคำของท่านนบีที่ถามพวกมุชริก
Comment: (202)หมายถึงอัลลอฮ์
Comment: (203)หมายถึงยิวและคริสต์
Comment: (204)คือท่านนบีมุฮัมมัด
Comment: (205)ความจริงท่านนบีมิได้มีความสงสัยใด ๆ แต่ที่พระองค์ทรงเตือนท่านไว้ ก็เพื่อที่จะให้บรรดามุมินได้สังวรไว้เป็นสำคัญเท่านั้น
6:115
وَتَمَّتْ كَلِمَتُ رَبِّكَ صِدْقًۭا وَعَدْلًۭا ۚ لَّا مُبَدِّلَ لِكَلِمَـٰتِهِۦ ۚ وَهُوَ ٱلسَّمِيعُ ٱلْعَلِيمُ
Translation: และถ้อยคำแห่งพระผู้อภิบาลของเจ้าครบถ้วนแล้ว โดยเป็นความสัจจะและความยุติธรรม ไม่มีผู้ใดเปลี่ยนแปลงบรรดาถ้อยคำของพระองค์ได้ และพระองค์คือผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงรอบรู้
6:116
وَإِن تُطِعْ أَكْثَرَ مَن فِى ٱلْأَرْضِ يُضِلُّوكَ عَن سَبِيلِ ٱللَّهِ ۚ إِن يَتَّبِعُونَ إِلَّا ٱلظَّنَّ وَإِنْ هُمْ إِلَّا يَخْرُصُونَ
Translation: และหากเจ้าเชื่อฟังส่วนมากของผู้คนในแผ่นดิน พวกเขาก็จะทำให้เจ้าหลงทางจากทางของอัลลอฮ์พวกเขาจะไม่ปฏิบัติตามนอกจากการนึกคิดเอาเอง(206) และพวกเขามิได้ตั้งอยู่บนสิ่งใดนอกจากพวกเขาจะคาดคะเนเอาเท่านั้น
Comment: (206)คือใครจะมาแนะนำตักเตือนก็ตาม พวกเขาจะไม่ยอมรับทั้งสิ้น พวกเขาจะปฏิบัติตามสิ่งที่พวกเขานึกคิดเอาเองเท่านั้น
6:117
إِنَّ رَبَّكَ هُوَ أَعْلَمُ مَن يَضِلُّ عَن سَبِيلِهِۦ ۖ وَهُوَ أَعْلَمُ بِٱلْمُهْتَدِينَ
Translation: แท้จริงพระผู้อภิบาลของเจ้าคือผู้ที่ทรงรู้ยิ่งต่อผู้ที่กำลังพลัดหลงไปจากทางของพระองค์ และเป็นผู้รู้ยิ่งต่อบรรดาผู้ที่รับเอาทางนำ(207)
Comment: (207)คือรับเอาคำแนะนำจากพระองค์และร่อซูลของพระอง
6:118
فَكُلُوا۟ مِمَّا ذُكِرَ ٱسْمُ ٱللَّهِ عَلَيْهِ إِن كُنتُم بِـَٔايَـٰتِهِۦ مُؤْمِنِينَ
Translation: ดังนั้น พวกเจ้าจงบริโภคจากสิ่ง(208) ที่พระนามของอัลลอฮ์ถูกกล่าวบนมัน(209) เถิด หากพวกเจ้าเป็นผู้ศรัทธาต่อบรรดาโองการของพระองค์
Comment: (208)หมายถึงสัตว์เชือด
Comment: (209)คือขณะที่เชือดมัน
6:119
وَمَا لَكُمْ أَلَّا تَأْكُلُوا۟ مِمَّا ذُكِرَ ٱسْمُ ٱللَّهِ عَلَيْهِ وَقَدْ فَصَّلَ لَكُم مَّا حَرَّمَ عَلَيْكُمْ إِلَّا مَا ٱضْطُرِرْتُمْ إِلَيْهِ ۗ وَإِنَّ كَثِيرًۭا لَّيُضِلُّونَ بِأَهْوَآئِهِم بِغَيْرِ عِلْمٍ ۗ إِنَّ رَبَّكَ هُوَ أَعْلَمُ بِٱلْمُعْتَدِينَ
Translation: และมีอะไรเกิดขึ้นแก่พวกเจ้ากระนั้นหรือ? ที่พวกเจ้าไม่บริโภคจากสิ่งที่พระนามของอัลลอฮ์ถูกกล่าวบนมัน ทั้งๆ ที่พระองค์ทรงแจกแจงแก่พวกเจ้าแล้ว ซึ่งสิ่ง(210) ที่พระองค์ได้ทรงห้ามแก่พวกเจ้า นอกจากสิ่งที่พวกเจ้าได้รับความคับขันให้ต้องการ(211) มันเท่านั้น และแท้จริงมีผู้คนมากมายทำให้ผู้อื่นหลงผิดไป(212) ด้วยความใคร่ใฝ่ต่ำของพวกเขาโดยปราศจากความรู้ แท้จริง พระเจ้าของเจ้าคือผู้ที่ทรงรอบรู้ยิ่งต่อผู้ละเมิดทั้งหลาย
Comment: (210)คือสัตว์ประเภทต่างๆ
Comment: (211)คือนอกจากสัตว์ต้องห้ามที่ความคับขันทำให้ต้องบริโภคมันเพื่อประทังไว้ซึ่งชีวิตเท่านั้น ทั้งนี้ในกรณีที่ไม่สามารถหาอาหารชนิดที่เป็นที่อนุมัติได้
Comment: (212)คือหลงผิดบริโภคเนื้อสัตว์ที่ต้องห้าม หรือไม่ยอมบริโภคเนื้อสัตว์ที่เป็นที่อนุมัติ
6:120
وَذَرُوا۟ ظَـٰهِرَ ٱلْإِثْمِ وَبَاطِنَهُۥٓ ۚ إِنَّ ٱلَّذِينَ يَكْسِبُونَ ٱلْإِثْمَ سَيُجْزَوْنَ بِمَا كَانُوا۟ يَقْتَرِفُونَ
Translation: และพวกเจ้าจงสละซึ่งบาปที่เปิดเผยและบาปที่ปกปิด(213) แท้จริงบรรดาผู้ที่ขวนขวายกระทำสิ่งที่เป็นบาปกันอยู่นั้น พวกเขาจะได้รับการตอบแทน ตามที่พวกเขากระทำกัน
Comment: (213)คือบาปที่กระทำโดยเปิดเผย และบาปที่กระทำโดยปกปิด
6:121
وَلَا تَأْكُلُوا۟ مِمَّا لَمْ يُذْكَرِ ٱسْمُ ٱللَّهِ عَلَيْهِ وَإِنَّهُۥ لَفِسْقٌۭ ۗ وَإِنَّ ٱلشَّيَـٰطِينَ لَيُوحُونَ إِلَىٰٓ أَوْلِيَآئِهِمْ لِيُجَـٰدِلُوكُمْ ۖ وَإِنْ أَطَعْتُمُوهُمْ إِنَّكُمْ لَمُشْرِكُونَ
Translation: และพวกเจ้าจงอย่าบริโภคจากสิ่งที่(214) พระนามของอัลลอฮ์มิได้ถูกกล่าวบน(215) มัน และแท้จริงมัน(216) เป็นการละเมิดแน่ๆ และแท้จริงบรรดาชัยฏอนนั้นจะกระซิบกระซาบแก่บรรดาสหาย(217) ของมันเพื่อพวกเขา(218) จะได้โต้เถียงกับพวกเจ้า และถ้าหากพวกเจ้าเชื่อฟังพวกเขา แน่นอนพวกเจ้าก็เป็นผู้ให้มีภาคีขึ้น(219)
Comment: (214)คือสัตว์ที่ฮาลาล
Comment: (215)คือขณะเชือด
Comment: (216)คือการบริโภคมัน อันหมายถึงสัตว์เชือดที่มิได้กล่าวพระนามของอัลลอฮ์ขณะเชือด
Comment: (217)คือสหายของมันที่เป็นมนุษย์ซึ่งเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาให้ชักจูงผู้คนกินเนื้อสัตว์ที่มิได้ระบุนามของอัลลอฮ์
Comment: (218)คือพวกที่เป็นสหายของมันจะได้โต้เถียงกับพวกเจ้าซึ่งเป็นผู้ศรัทธา
Comment: (219)คือให้พวกที่เป็นสหายของพวกมันเป็นภาคีกับอัลลอฮ์ ทั้งนี้ก็เพราะถือว่าคำแนะนำของมันนั้นมีความสำคัญเท่าเทียมกับคำสั่งของอัลลอฮ์ ซึ่งเท่ากับเป็นการเคารพนับถือพวกนั้นเท่าเทียมกับพระองค์
6:122
أَوَمَن كَانَ مَيْتًۭا فَأَحْيَيْنَـٰهُ وَجَعَلْنَا لَهُۥ نُورًۭا يَمْشِى بِهِۦ فِى ٱلنَّاسِ كَمَن مَّثَلُهُۥ فِى ٱلظُّلُمَـٰتِ لَيْسَ بِخَارِجٍۢ مِّنْهَا ۚ كَذَٰلِكَ زُيِّنَ لِلْكَـٰفِرِينَ مَا كَانُوا۟ يَعْمَلُونَ
Translation: และผู้ที่ตายแล้ว(220) แล้วเราได้ให้เขามีชีวิตขึ้น(221) และเราได้ให้แสงสว่าง(222) แก่เขา ซึ่งเขาใช้แสงสว่างนั้นเดินไปในหมู่มนุษย์นั้น จะเหมือนกับผู้ที่อุปมาของเขาซึ่งอยู่ในบรรดาความมืดโดยที่มิใช่เป็นผู้ที่จะออกมาจากบรรดาความมืดเหล่านั้นได้กระนั้นหรือ(223) ? ในทำนองนั้นแหละได้ถูกประดับให้สวยงาม(224) แก่ผู้ปฏิเสธศรัทธาทั้งหลาย ซึ่งสิ่งที่พวกเขากระทำกันอยู่
Comment: (220)หมายถึงผู้ที่งมงายโดยเปรียบเทียบพวกนี้ว่าเหมือนคนที่ตายแล้ว
Comment: (221)หมายถึงให้พวกเขาได้รับความรู้ความเข้าใจอันถูกต้องในการดำเนินชีวิต ซึ่งเปรียบประหนึ่งว่าเขามีชีวิตขึ้นใหม่หลังจากตายไปแล้ว
Comment: (222)หมายถึงให้คัมภีร์อัลกุรอานไปด้วยหลักการดำเนินชีวิต ซึ่งเปรียบประหนึ่งแสงสว่างที่ช่วยให้รู้ว่าอะไรคือประโยชน์และอะไรคือโทษ
Comment: (223)แน่นอนย่อมไม่เหมือนกันกล่าวคือผู้ที่ได้รับแสงสว่างย่อมดำเนินชีวิตได้ดีกว่า
Comment: (224)คือโดยกฎแห่งการกำหนดสภาวะ หมายถึงว่าคนดื้อดึงทุกสมัย หรือผู้ปฏิเสธศรัทธานั้น ย่อมจะเห็นสิ่งที่ตนกระทำอยู่นั้นสวยงามเสมอ ทั้งนี้เนื่องจากพวกเขาละเลยการใช้สติปัญญา ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่ยอมรับคำแนะนำของใครทั้งสิ้น แม้แต่ของพระเจ้า
6:123
وَكَذَٰلِكَ جَعَلْنَا فِى كُلِّ قَرْيَةٍ أَكَـٰبِرَ مُجْرِمِيهَا لِيَمْكُرُوا۟ فِيهَا ۖ وَمَا يَمْكُرُونَ إِلَّا بِأَنفُسِهِمْ وَمَا يَشْعُرُونَ
Translation: และในทำนองนั้นแหละ เราได้ให้มีขึ้นในแต่ละเมือง ซึ่งบรรดาบุคคลสำคัญๆ เป็นผู้กระทำความผิดแห่งเมืองนั้นๆ เพื่อที่พวกเขาจะได้วางอุบายหลอกลวงในเมืองนั้น และพวกเขาจะไม่วางอุบายหลอกลวง นอกจากตัวของพวกเขาเองเท่านั้น แต่พวกเขาหารู้สึกไม่
6:124
وَإِذَا جَآءَتْهُمْ ءَايَةٌۭ قَالُوا۟ لَن نُّؤْمِنَ حَتَّىٰ نُؤْتَىٰ مِثْلَ مَآ أُوتِىَ رُسُلُ ٱللَّهِ ۘ ٱللَّهُ أَعْلَمُ حَيْثُ يَجْعَلُ رِسَالَتَهُۥ ۗ سَيُصِيبُ ٱلَّذِينَ أَجْرَمُوا۟ صَغَارٌ عِندَ ٱللَّهِ وَعَذَابٌۭ شَدِيدٌۢ بِمَا كَانُوا۟ يَمْكُرُونَ
Translation: และเมื่อได้มีโองการใดมายังพวกเขาพวกเขาก็กล่าวว่า เราจะไม่ศรัทธาเป็นอันขาด จนกว่าเราจะได้รับ(225) เยี่ยงสิ่งที่บรรดาร่อซูลของอัลลอฮ์ได้รับมาแล้ว อัลลอฮ์เป็นผู้ทรงรอบรู้ยิ่ง ณ ที่(226) ที่พระองค์จะทรงให้มีสารของพระองค์ขึ้น บรรดาความต่ำต้อยและการลงโทษอันรุนแรงจากอัลลอฮ์นั้น จะประสบแก่บรรดาผู้ที่กระทำความผิด เนื่องจากการที่พวกเขาวางอุบายหลอกลวงกัน(227)
Comment: (225)คือได้รับการแสดงมัวะญิชาตจากท่านนบีมุฮัมมัด เช่นเดี่ยวกับที่บรรดาร่อซูลก่อน ๆ เคยนำมาแสดงแก่ประชาชาติของท่าน เช่น ท่านนบีมูซาและอีซา เป็นต้น ส่วนทรรศนะของอิบนิกะซีรนั้นว่า “จนกว่ามลาอิกะฮ์จะนำสารจากอัลลอฮ์มาให้แก่เราเช่นเดียวกับที่บรรดาร่อซูลก่อน ๆ ได้รับ”
Comment: (226)คำว่า “ณ ที่ “ หมายถึงท่านนบีมุฮัมมัด กล่าวคืออัลลอฮ์ทรงรู้ว่านบีมุฮัมมัดเป็นผู้เหมาะสมที่จะให้เป็นร่อซูลของพระองค์มิใช่พวกเขา
Comment: (227)คือหลอกลวงผู้ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์เพื่อให้มีจิตใจไขว้เขวไม่ศรัทธาต่อนบีมุฮัมมัด
6:125
فَمَن يُرِدِ ٱللَّهُ أَن يَهْدِيَهُۥ يَشْرَحْ صَدْرَهُۥ لِلْإِسْلَـٰمِ ۖ وَمَن يُرِدْ أَن يُضِلَّهُۥ يَجْعَلْ صَدْرَهُۥ ضَيِّقًا حَرَجًۭا كَأَنَّمَا يَصَّعَّدُ فِى ٱلسَّمَآءِ ۚ كَذَٰلِكَ يَجْعَلُ ٱللَّهُ ٱلرِّجْسَ عَلَى ٱلَّذِينَ لَا يُؤْمِنُونَ
Translation: ผู้ใดที่อัลลอฮ์ทรงต้องการจะแนะนำเขาก็จะทรงให้หัวอกของเขาเบิกบาน(228) เพื่ออิสลาม และผู้ใดที่พระองค์ทรงต้องการจะปล่อยให้เขาหลงทาง(229) ก็จะทรงให้ทรวงอกของพวกเขาแคบ อึดอัด(230) ประหนึ่งว่าเขากำลังขึ้นไปยังฟากฟ้า(231) ในทำนองนั้นแหละ อัลลอฮ์จะทรงให้มีความโสมม(232) แก่บรรดาผู้ที่ไม่ศรัทธา
Comment: (228)คือมีความปิติยินดีที่จะรับนับถืออัลอิสลาม
Comment: (229)คือปล่อยให้เขาหลงไปตามทางที่เขาต้องการ เนื่องจากเขาไม่ยอมใช้สติปัญญา
Comment: (230)คือไม่ปิติยินดีและรู้สึกอึดอัดใจที่จะรับนับถืออิสลาม เพราะขัดต่อความเชื่อถือที่เขาได้รับถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษของตน
Comment: (231)เพราะเมื่อขึ้นสูงขึ้น ๆ อ๊อกซิเย่นจะน้อยลง ๆ ทำให้หายใจอึดอัด
Comment: (232)เนื่องจากพวกเขาเป็นทาสของอารมณ์ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความโสมมแก่ตัวเอง
6:126
وَهَـٰذَا صِرَٰطُ رَبِّكَ مُسْتَقِيمًۭا ۗ قَدْ فَصَّلْنَا ٱلْـَٔايَـٰتِ لِقَوْمٍۢ يَذَّكَّرُونَ
Translation: และนี่แหละคือทางแห่งพระเจ้าของเจ้าโดยมีสภาพอันเที่ยงตรง แท้จริง เราได้แจกแจงบรรดาโองการทั้งหลายไว้(233) แล้ว สำหรับกลุ่มชนที่รำลึก
Comment: (233)คือแจกแจงข้อปฏิบัติไว้ในบรรดาโองการของพระองค์
6:127
۞ لَهُمْ دَارُ ٱلسَّلَـٰمِ عِندَ رَبِّهِمْ ۖ وَهُوَ وَلِيُّهُم بِمَا كَانُوا۟ يَعْمَلُونَ
Translation: สำหรับพวกเขา(234) นั้น คือนิวาสแห่งความปลอดภัย(235) ในพระผู้เป็นเจ้าของพวกเขา และขณะเดียวกันพระองค์ก็ทรงเป็นผู้คุ้มครองพวกเขาด้วยเนื่องจากสิ่งที่พวกเขากระทำ
Comment: (234)คือพวกที่ตั้งอยู่ในทางอันเที่ยงตรงของพระองค์
Comment: (235)หมายถึงสวนสวรรค์อันสถาพร
6:128
وَيَوْمَ يَحْشُرُهُمْ جَمِيعًۭا يَـٰمَعْشَرَ ٱلْجِنِّ قَدِ ٱسْتَكْثَرْتُم مِّنَ ٱلْإِنسِ ۖ وَقَالَ أَوْلِيَآؤُهُم مِّنَ ٱلْإِنسِ رَبَّنَا ٱسْتَمْتَعَ بَعْضُنَا بِبَعْضٍۢ وَبَلَغْنَآ أَجَلَنَا ٱلَّذِىٓ أَجَّلْتَ لَنَا ۚ قَالَ ٱلنَّارُ مَثْوَىٰكُمْ خَـٰلِدِينَ فِيهَآ إِلَّا مَا شَآءَ ٱللَّهُ ۗ إِنَّ رَبَّكَ حَكِيمٌ عَلِيمٌۭ
Translation: และวันที่พระองค์จะทรงชุมชนพวกเขาไว้ทั้งหมด(โดยตรัสขึ้นว่า) หมู่ญินทั้งหลาย! แท้จริง พวกเจ้าได้กระทำแก่พวกมนุษย์มากมาย(236) และบรรดาสหายของพวกเขาจากหมู่มนุษย์ได้กล่วว่า ข้าแด่พระผู้อภิบาลพวกข้าพระองค์ บางส่วนของพวกข้าพระองค์นั้นได้รับประโยชน์ด้วยอีกบางส่วน(237) และพวกข้าพระองค์ก็ได้ถึงแล้วซึ่งกำหนดเวลา(238) ของพวกข้าพระองค์ที่พระองค์ได้ทรงกำหนดไว้แก่พวกข้าพระองค์ พระองค์ตรัสว่า นรกนั้นคือที่อยู่ของพวกเจ้า โดยที่จะเป็นผู้อยู่ในนั้นตลอดกาลนอกจากสิ่ง(239) ที่อัลลอฮ์ทรงประสงค์เท่านั้น แท้จริง พระผู้อภิบาลของเจ้าเป็นผู้ทรงปรีชาญาณ ผู้ทรงรอบรู้
Comment: (236)คือทำให้มนุษย์หลงผิดเป็นจำนวนมาก
Comment: (237)คือสหายของพวกญินที่เป็นมนุษย์ได้กล่าวแก้ตัวแทนพวกญินว่าพวกข้าพระองค์เองสมัครใจเป็นสหายของพวกญิน เพราะพวกข้าพระองค์ต่างได้ประโยชน์ซึ่งกันและกัน
Comment: (238)คือกำหนดเวลาแห่งการฟื้นคืนชีพเพื่อรับการตอบแทน
Comment: (239)คือนอกจากโทษบางส่วนที่พระองค์ทรงประสงค์จะยกให้แก่บางคน ในกรณีเช่นนี้เขาก็ย่อมไม่อยู่ในนรกตลอดกาล อนึ่งการที่อัลลอฮ์ต้องยกเว้นนั้นเพื่อแสดงถึงเดชานุภาพอันยิ่งหใญ่ของพระองค์แต่เพียงองค์เดียวเกี่ยวกับเรื่องญินนั้น พวกก็อดยานีไม่เชื่อว่ามีด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงบิดเบือนไปว่าเป็นหัวใจอันธพาล กุรอานมะญีด เล่ม 1 หน้า 317-318
6:129
وَكَذَٰلِكَ نُوَلِّى بَعْضَ ٱلظَّـٰلِمِينَ بَعْضًۢا بِمَا كَانُوا۟ يَكْسِبُونَ
Translation: ในทำนองนั้นแหละเราจะให้บางส่วนของผู้อธรรมทั้งหลายเป็นสหายกับอีกบางส่วน(240) เนื่องจากสิ่งที่พวกเขาขวนขวายกัน
Comment: (240)คือให้พวกอธรรมเป็นสหายซึ่งกันและกัน เนื่องจากมีเป้าหมายอย่างเดียวกันในความประพฤติตน
6:130
يَـٰمَعْشَرَ ٱلْجِنِّ وَٱلْإِنسِ أَلَمْ يَأْتِكُمْ رُسُلٌۭ مِّنكُمْ يَقُصُّونَ عَلَيْكُمْ ءَايَـٰتِى وَيُنذِرُونَكُمْ لِقَآءَ يَوْمِكُمْ هَـٰذَا ۚ قَالُوا۟ شَهِدْنَا عَلَىٰٓ أَنفُسِنَا ۖ وَغَرَّتْهُمُ ٱلْحَيَوٰةُ ٱلدُّنْيَا وَشَهِدُوا۟ عَلَىٰٓ أَنفُسِهِمْ أَنَّهُمْ كَانُوا۟ كَـٰفِرِينَ
Translation: หมู่ญินและมนุษย์ทั้งหลาย! บรรดาร่อซูลจากพวกเจ้ามิได้มายังพวกเจ้าดอกหรือ? โดยที่พวกเขาจะบอกเล่าแก่พวกเจ้า ซึ่งบรรดาโองการของข้า และเตือนพวกเจ้า ซึ่งบรรดาโองการของข้า และเพื่อนพวกเจ้า ซึ่งการพบกับวัน(241) ของพวกเจ้านี้ พวกเขากล่าวว่า พวกข้าพระองค์ขอยืนยันแก่ตัวของพวกเข้าพระองค์เอง(242) และชีวิตความเป็นอยู่แห่งโลกนี้ได้หลอกลวงพวกเขา(243) และพวกเขาก็ได้ยืนยันแก่ตัวของพวกเขาเองว่า(244) แท้จริงพวกเขานั้นเป็นผู้ปฏิเสธการศรัทธา
Comment: (241)คือวันกิยามะฮ์
Comment: (242)คือขอสารภาพว่าบรรดาร่อซุลของพระองค์ได้นำโองการไปประกาศและเตือนให้ทราบถึงการพบกันวันนี้ แต่พวกข้าพระองค์ไม่เชื่อ
Comment: (243)คือหลอกลวงว่าพวกเขาจะไม่ตาย หรือถ้าตายก็ไม่มีการฟื้นคืนชีพพวกเขาจึงไม่ศรัทธา
Comment: (244)หมายถึงสารภาพ
6:131
ذَٰلِكَ أَن لَّمْ يَكُن رَّبُّكَ مُهْلِكَ ٱلْقُرَىٰ بِظُلْمٍۢ وَأَهْلُهَا غَـٰفِلُونَ
Translation: นั่นก็เพราะว่า พระผู้อภิบาลของเจ้านั้นมิเคยเป็นผู้ทำลายเมืองทั้งหลายด้วยความอธรรม โดยที่ชาวเมืองเหล่านั้นไม่รู้อะไร(245)
Comment: (245)กล่าวคือทุกเมืองที่ถูกลงโทษนั้นหลังจากที่พระองค์ได้ส่งร่อซูลไปก่อนแล้วทั้งสิ้น แต่ประชาชนแห่งเมืองนั้น ๆ ฝ่าฝืนและดื้อดึง
6:132
وَلِكُلٍّۢ دَرَجَـٰتٌۭ مِّمَّا عَمِلُوا۟ ۚ وَمَا رَبُّكَ بِغَـٰفِلٍ عَمَّا يَعْمَلُونَ
Translation: และสำหรับแต่ละคนมีหลายระดับชั้น(246) เนื่องจากสิ่งที่พวกเขาได้ประกอบไว้และพระผู้อภิบาลของเจ้านั้นมิใช่เผลอไผลในสิ่งที่พวกเขากระทำกัน
Comment: (246)คือจะได้รับการตอบแทนในระดับชั้นต่างๆ กัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลงานของแต่ละคน
6:133
وَرَبُّكَ ٱلْغَنِىُّ ذُو ٱلرَّحْمَةِ ۚ إِن يَشَأْ يُذْهِبْكُمْ وَيَسْتَخْلِفْ مِنۢ بَعْدِكُم مَّا يَشَآءُ كَمَآ أَنشَأَكُم مِّن ذُرِّيَّةِ قَوْمٍ ءَاخَرِينَ
Translation: และพระผู้อภิบาลของเจ้าคือผู้ทรงมั่งมี(247) ผู้ทรงเอ็นดูเมตตา หากพระองค์ทรงประสงค์พระองค์ก็จะทรงให้พวกเจ้าหมดสิ้นไป(248) และจะทรงให้สืบ(249) แทนจากพวกเจ้าตามที่พระองค์ทรงประสงค์ดังที่ได้ทรงบังเกิดพวกเจ้ามาจากลูกหลานของกลุ่มชนอื่น
Comment: (247)คือทรงมั่งมีทุกสิ่งทุกอย่างกล่าวคือถ้าพระองค์ทรงประสงค์สิ่งใดสิ่งนั้นย่อมมีอยู่ที่พระองค์โดยครบถ้วน
Comment: (248)คือทรงทำลายพวกเจ้าให้หมดสิ้นไป
Comment: (249)คือให้มีผู้อื่นสืบแทนพวกเจ้า
6:134
إِنَّ مَا تُوعَدُونَ لَـَٔاتٍۢ ۖ وَمَآ أَنتُم بِمُعْجِزِينَ
Translation: แท้จริง สิ่งที่พวกเจ้าถูกสัญญาไว้(250) จะมาแน่นอน และพวกเจ้านั้นไม่สามารถที่จะรอดพ้นไปได้(251)
Comment: (250)หมายถึงการลงโทษในวันปรโลก
Comment: (251)คือรอดพ้นจากการลงโทษของพระองค์
6:135
قُلْ يَـٰقَوْمِ ٱعْمَلُوا۟ عَلَىٰ مَكَانَتِكُمْ إِنِّى عَامِلٌۭ ۖ فَسَوْفَ تَعْلَمُونَ مَن تَكُونُ لَهُۥ عَـٰقِبَةُ ٱلدَّارِ ۗ إِنَّهُۥ لَا يُفْلِحُ ٱلظَّـٰلِمُونَ
Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด)ว่า ประชาชาติของฉันทั้งหลาย! จงปฏิบัติตามสภาพ(252) ของพวกท่านเถิด แท้จริงฉันก็จะเป็นผู้ปฏิบัติด้วย(253) และพวกท่านจะได้รู้ว่า ใครกันบั้นปลาย(254) แห่งปรโลกจะเป็นของเขา แท้จริงบรรดาผู้อธรรมนั้นจะไม่ได้รับความสำเร็จ
Comment: (252)คือตามสภาพแห่งการเชื่อมั่นของพวกท่าน
Comment: (253)คือปฏิบัติตามสภาพที่ฉันประกาศเชิญชวนพวกท่าน
Comment: (254)คือบั้นปลายแห่งชัยชนะ แน่นอนย่อมเป็นของนบี เพราะเป็นแนวทางอันถูกต้องที่ได้รับมาจากอัลลอฮ์
6:136
وَجَعَلُوا۟ لِلَّهِ مِمَّا ذَرَأَ مِنَ ٱلْحَرْثِ وَٱلْأَنْعَـٰمِ نَصِيبًۭا فَقَالُوا۟ هَـٰذَا لِلَّهِ بِزَعْمِهِمْ وَهَـٰذَا لِشُرَكَآئِنَا ۖ فَمَا كَانَ لِشُرَكَآئِهِمْ فَلَا يَصِلُ إِلَى ٱللَّهِ ۖ وَمَا كَانَ لِلَّهِ فَهُوَ يَصِلُ إِلَىٰ شُرَكَآئِهِمْ ۗ سَآءَ مَا يَحْكُمُونَ
Translation: และพวกเขาได้ให้มีส่วนหนึ่งสำหรับอัลลอฮ์ซึ่งสิ่งที่พระองค์ได้บังเกิดขึ้นอันได้แก่พืชและปศุสัตว์ โดยที่พวกเขากล่าวว่า นี่สำหรับอัลลอฮ์ตามการอ้างของพวกเขา และนี่สำหรับบรรดาภาคีของพวกเรา(255) แล้วส่วนที่เป็นของบรรดาภาคีแห่งพวกเขานั้นก็จะไม่ถึงอัลลอฮ์(256) แต่ส่วนที่เป็นของอัลลอฮ์นั้นจะถึงบรรดาภาคีของพวกเขา(257) ช่างชั่วช้าแท้ๆ สิ่งที่พวกเขาตัดสินกัน
Comment: (255)คือบรรดาภาคีที่พวกเขาอุปโลกน์ขึ้นให้มีหุ้นส่วนกับอัลลอฮ์
Comment: (256)คือจะนำไปใช้หรือบริจาคในทางของอัลลอฮ์ไม่ได้ หากแต่เก็บไว้ใช้จ่ายในการเคารพสักการะบรรดาเจว็ดเท่านั้น
Comment: (257)คืออนุมัติส่วนที่เป็นของอัลลอฮ์ให้ใช้จ่ายในวิถีทางแห่งเจว็ดของพวกเขาได้
6:137
وَكَذَٰلِكَ زَيَّنَ لِكَثِيرٍۢ مِّنَ ٱلْمُشْرِكِينَ قَتْلَ أَوْلَـٰدِهِمْ شُرَكَآؤُهُمْ لِيُرْدُوهُمْ وَلِيَلْبِسُوا۟ عَلَيْهِمْ دِينَهُمْ ۖ وَلَوْ شَآءَ ٱللَّهُ مَا فَعَلُوهُ ۖ فَذَرْهُمْ وَمَا يَفْتَرُونَ
Translation: และในทำนองนั้นแหละ บรรดาภาคีของพวกเขา(258) นั้น ได้ทำให้สวยงามแก่จำนวนมากมายในหมู่มุชริกีน ซึ่งการฆ่าลูกๆ ของพวกเขาเพื่อที่จะทำลายพวกเขา และเพื่อที่จะให้สับสนแก่พวกเขาซึ่งศาสนา(259) ของพวกเขา และแม้ว่าอัลลอฮ์ประสงค์(260) แล้วพวกเขาย่อมไม่กระทำมัน เจ้า(261) จงปล่อยพวกเขาและสิ่งที่พวกเขาอุปโลกน์ความเท็จกันเถิด
Comment: (258)หมายถึงพวกญินที่พวกเขาให้เป็นภาคีแก่อัลลอฮ์
Comment: (259)หมายถึงแนวทางของพวกเขาที่เคยปฏิบัติกันมาในอดีต นั่นคือการเอ็นดูเมตตาแก่ลูก ๆ มิใช่ฆ่าลูก ๆ เพราะกลัวความจน
Comment: (260)คือประสงค์มิให้พวกเขาทำโดยใช้อำนาจบังคับ แต่ที่พระองค์ทรงปล่อยให้พวกเขาทำกันนั้นเนื่องจากพระองค์ทรงให้อิสระแก่มนุษย์ที่จะทำอะไรได้ตามความต้องการ แต่ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เขาได้กระทำ
Comment: (261)หมายถึงนบีมุฮัมมัด
6:138
وَقَالُوا۟ هَـٰذِهِۦٓ أَنْعَـٰمٌۭ وَحَرْثٌ حِجْرٌۭ لَّا يَطْعَمُهَآ إِلَّا مَن نَّشَآءُ بِزَعْمِهِمْ وَأَنْعَـٰمٌ حُرِّمَتْ ظُهُورُهَا وَأَنْعَـٰمٌۭ لَّا يَذْكُرُونَ ٱسْمَ ٱللَّهِ عَلَيْهَا ٱفْتِرَآءً عَلَيْهِ ۚ سَيَجْزِيهِم بِمَا كَانُوا۟ يَفْتَرُونَ
Translation: และพวกเขากล่าว่า นี้คือปศุสัตว์ และพืชผลที่หวงห้ามไว้ ซึ่งไม่มีใครจะบริโภคมันได้ นอกจากผู้ที่เราประสงค์(262) เท่านั้น ด้วยการอ้างของพวกเขา และปศุสัตว์ที่หลังของมันถูกห้าม(263) และปศุสัตว์ ที่พวกเขาจะไม่กล่าวพระนามอัลลอฮ์บนมัน(264) ทั้งนี้เป็นการอุปโลกน์ ความเท็จแก่พระองค์(265) ซึ่งพระองค์จะทรงตอบแทน ลงโทษพวกเขา ในสิ่งที่พวกเขาอุปโลกน์ความเท็จขึ้น
Comment: (262)หมายถึงเฉพาะพวกผู้ชายและผู้ทำหน้าที่ดูแลเจว็ดเท่านั้น
Comment: (263)คือถูกห้ามมิให้ขับขี่หรือบรรทุก
Comment: (264)หากแต่พวกเขาจะกล่าวนามเจว็ดของพวกเขาเท่านั้นขณะที่เชือดมัน
Comment: (265)คืออุปโลกน์ว่า เป็นกำหนดกฎเกณฑ์ที่พระองค์ทรงวางไว้
6:139
وَقَالُوا۟ مَا فِى بُطُونِ هَـٰذِهِ ٱلْأَنْعَـٰمِ خَالِصَةٌۭ لِّذُكُورِنَا وَمُحَرَّمٌ عَلَىٰٓ أَزْوَٰجِنَا ۖ وَإِن يَكُن مَّيْتَةًۭ فَهُمْ فِيهِ شُرَكَآءُ ۚ سَيَجْزِيهِمْ وَصْفَهُمْ ۚ إِنَّهُۥ حَكِيمٌ عَلِيمٌۭ
Translation: และพวกเขากล่าวว่า สิ่งที่อยู่ในท้องของปศุสัตว์(266) เหล่านั้น เฉพาะบรรดาผู้ชายของเราเท่านั้น และเป็นสิ่งที่ต้องห้ามแก่บรรดาภรรยาของเรา และหากว่ามัน(267) ตาย พวกเขา(268) พวกเขา ก็เป็นผู้มีหุ้นส่วนในมัน และพระองค์จะทรงลงโทษพวกเขาในการที่เขาได้กำหนดลักษณะไว้(269) แท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงปรีชาญาณ ผู้ทรงรอบรู้
Comment: (266)หมายถึงอูฐที่เรียกว่า “อัล-บะฮีเราะฮ์” อันได้แก่อูฐที่ผ่าหูไว้เป็นเครื่องหมายในเมื่ออูฐนั้นให้ลูกห้าตัว ซึ่งตัวที่ห้าเป็นตัวเมียและอูฐที่เรียกว่า “อัซซาอิบะฮ์” อันได้แก่อูฐที่ได้บนบานอุทิศให้แก่เจว็ด และถูกปล่อยให้หากินตามใจชอบโดยที่ไม่มีใครรังแกมัน
Comment: (267)หมายถึงลูกในท้องของมัน
Comment: (268)พวกเขาทั้งชายและหญิง
Comment: (269)คือ กำหนดลักษณะของอูฐว่าเป็นที่ต้องห้ามบ้าง และเป็นที่อนุมัติบ้างตามความอารมณ์ของพวกเขา
6:140
قَدْ خَسِرَ ٱلَّذِينَ قَتَلُوٓا۟ أَوْلَـٰدَهُمْ سَفَهًۢا بِغَيْرِ عِلْمٍۢ وَحَرَّمُوا۟ مَا رَزَقَهُمُ ٱللَّهُ ٱفْتِرَآءً عَلَى ٱللَّهِ ۚ قَدْ ضَلُّوا۟ وَمَا كَانُوا۟ مُهْتَدِينَ
Translation: แท้จริง ได้ขาดทุนแล้ว บรรดาผู้ที่ฆ่าลูกๆ ของพวกเขา(270) เพราะความโง่เขลาโดยปราศจากความรู้ และให้เป็นที่ต้องห้ามในสิ่งที่อัลลอฮ์ให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเขา ทั้งนี้เป็นการอุปโลกน์ความเท็จให้แก่อัลลอฮ์แท้จริงนั้นพวกเขาหลงผิดไปแลพวกเขาไม่เคยได้รับทางนำที่ถูกต้อง
Comment: (270)หมายถึงพวกมุชริกมักกะฮ์
6:141
۞ وَهُوَ ٱلَّذِىٓ أَنشَأَ جَنَّـٰتٍۢ مَّعْرُوشَـٰتٍۢ وَغَيْرَ مَعْرُوشَـٰتٍۢ وَٱلنَّخْلَ وَٱلزَّرْعَ مُخْتَلِفًا أُكُلُهُۥ وَٱلزَّيْتُونَ وَٱلرُّمَّانَ مُتَشَـٰبِهًۭا وَغَيْرَ مُتَشَـٰبِهٍۢ ۚ كُلُوا۟ مِن ثَمَرِهِۦٓ إِذَآ أَثْمَرَ وَءَاتُوا۟ حَقَّهُۥ يَوْمَ حَصَادِهِۦ ۖ وَلَا تُسْرِفُوٓا۟ ۚ إِنَّهُۥ لَا يُحِبُّ ٱلْمُسْرِفِينَ
Translation: และพระองค์คือผู้ที่ทรงให้มีขึ้น ซึ่งสวนทั้งหลาย ทั้งที่ถูกให้มีร้านขึ้น(271) และไม่ถูกให้มีร้านขึ้น(272) และต้นอินทผลัมและพืช โดยที่ผลของมันต่างกัน และต้นซัยตูน(273) และต้นทับทิม โดยที่มีความละม้ายคล้ายกัน(274) และไม่ละม้ายคล้ายกัน(275) จงบริโภคจากผลของมันเถิด เมื่อออกผลและจงจ่ายส่วนอันเป็นสิทธิ(276) ในมันด้วยในวันแห่งการเก็บเกี่ยวมัน(277) และจงอย่าฟุ่มเฟือยทั้งหลาย(278)
Comment: (271)คือสวนองุ่นชนิดพันธุ์เลื้อยที่ต้องทำร้านให้แก่มัน
Comment: (272)คือสวนองุ่นชนิดที่ไม่ต้องทำร้านให้แก่มัน
Comment: (273)พันธุ์หนึ่งของต้นมะกอก
Comment: (274)คือละม้ายคล้ายกันในรูปร่างและลักษณะ
Comment: (275)คือแตกต่างกันในรสชาติ
Comment: (276)หมายถึงส่วนซะกาตในผลของมัน
Comment: (277)หมายถึงเมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวกล่าวคือสำหรับซะกาตผลพืชนั้น เมื่อเก็บเกี่ยวเมื่อใดก็ให้ออกซะกาตเมื่อนั้น ถ้าเก็บเกี่ยวถึงสามครั้งในหนึ่ปีก็ต้องออกซะกาตถึงสามครั้ง ซึ่งแตกต่างกับซะกาตเงินทองและปศุสัตว์ ให้ออกเพียงปีละครั้งเท่านั้น
Comment: (278)คืออย่าใช้จ่ายให้ฟุ่มเฟือย กล่าวคืออย่าให้ถือว่าเป็นของเราจะใช้จ่ายอย่างไรก็ได้
6:142
وَمِنَ ٱلْأَنْعَـٰمِ حَمُولَةًۭ وَفَرْشًۭا ۚ كُلُوا۟ مِمَّا رَزَقَكُمُ ٱللَّهُ وَلَا تَتَّبِعُوا۟ خُطُوَٰتِ ٱلشَّيْطَـٰنِ ۚ إِنَّهُۥ لَكُمْ عَدُوٌّۭ مُّبِينٌۭ
Translation: และหลังจากหมู่ปศุสัตว์นั้น(ได้ทรงให้มี) ที่ใช้บรรทุก(279) และเชือด(280) จงบริโภคจากสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้เาถิด และจงอย่าตามก้าวเดิน(281) ของชัยฏอน แท้จริงมันคือศัตรูอันชัดแจ้งของพวกเจ้า
Comment: (279)อันได้แก่อูฐและลา เป็นต้น
Comment: (280)อันได้แก่สัตว์เล็ก ๆ เช่น แพะแกะ เป็นต้น แต่ถ้าจำเป็นต้องเชือดสัตว์ใหญ่ เช่น วัว ควาย และอูฐ เพื่อเป็นอาหารก็ย่อมกระทำได้
Comment: (281)คือปฏิบัติตามการชี้นำของชัยฏอนประหนึ่งเดินตามก้าวเดินของมัน
6:143
ثَمَـٰنِيَةَ أَزْوَٰجٍۢ ۖ مِّنَ ٱلضَّأْنِ ٱثْنَيْنِ وَمِنَ ٱلْمَعْزِ ٱثْنَيْنِ ۗ قُلْ ءَآلذَّكَرَيْنِ حَرَّمَ أَمِ ٱلْأُنثَيَيْنِ أَمَّا ٱشْتَمَلَتْ عَلَيْهِ أَرْحَامُ ٱلْأُنثَيَيْنِ ۖ نَبِّـُٔونِى بِعِلْمٍ إِن كُنتُمْ صَـٰدِقِينَ
Translation: และ(ได้ทรงให้มี) สัตว์แปดตัวเป็นคู่ๆ(282) คือจากแกะสองตัว และจากแพะสองตัว จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่า ตัวผู้สองตัว(283) นั้นหรือที่พระองค์ทรงห้าม หรือว่าตัวเมียสองตัวนั้น(284) หรือว่าที่มดลูกของตัวเมียทั้งสองนั้นได้คุ้มครองรักษาไว้(285) พวกท่านจงแจ้งให้ฉันทราบด้วยความรู้อันใดอันหนึ่ง หากพวกท่านพูดจริง
Comment: (282)คือสี่คู่ด้วยกันแต่ละคู่มีตัวผู้ตัวเมีย
Comment: (283)คือแกะตัวผู้และแพะตัวเมีย
Comment: (284)คือแกะตัวเมียและแพะตัวเมีย
Comment: (285)หมายถึง ลูกของแกะ และแพะที่ยังอยู่ในมดลูกแม่ของมันทั้งสอง
6:144
وَمِنَ ٱلْإِبِلِ ٱثْنَيْنِ وَمِنَ ٱلْبَقَرِ ٱثْنَيْنِ ۗ قُلْ ءَآلذَّكَرَيْنِ حَرَّمَ أَمِ ٱلْأُنثَيَيْنِ أَمَّا ٱشْتَمَلَتْ عَلَيْهِ أَرْحَامُ ٱلْأُنثَيَيْنِ ۖ أَمْ كُنتُمْ شُهَدَآءَ إِذْ وَصَّىٰكُمُ ٱللَّهُ بِهَـٰذَا ۚ فَمَنْ أَظْلَمُ مِمَّنِ ٱفْتَرَىٰ عَلَى ٱللَّهِ كَذِبًۭا لِّيُضِلَّ ٱلنَّاسَ بِغَيْرِ عِلْمٍ ۗ إِنَّ ٱللَّهَ لَا يَهْدِى ٱلْقَوْمَ ٱلظَّـٰلِمِينَ
Translation: และจากอูฐสองตัว และจากวัวสองตัวจงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่า ตัวผู้สองตัวนั้น(286) กระนั้นหรือ ที่พระองค์ทรงห้ามหรือว่าตัวเมียทั้งสอง(287) นั้นหรือที่มดลูกของตัวเมียทั้งสองนั้นได้คุ้มครองรักษาไว้(288) หรือว่าพวกท่านร่วมอยู่ ขณะที่อัลลอฮ์ได้ทรงรับสั่งแก่พวกท่านด้วยสิ่งนี้(289) ก็ใครเล่าคือผู้ที่อธรรมยิ่งกว่าผู้ที่ได้อุปโลกน์ความเท็จให้แก่อัลลอฮ์(290) เพื่อจะทำให้มนุษย์หลงผิดโดยไม่มีความรู้(291) แท้จริงอัลลอฮ์จะไม่ทรงนำทางกลุ่มชนที่อธรรม
Comment: (286)หมายถึงอูฐตัวผู้และวัวตัวผู้
Comment: (287)คืออูฐตัวเมียและวัวตัวเมีย
Comment: (288)หมายถึงลูกของอูฐและวัวที่ยังอยู่ในมดลุกแม่ของมันทั้งสอง
Comment: (289)เป็นคำถามในเชิงปฏิเสธและแฝงไว้ด้วยการตำหนิ กล่าวคือพระองค์ไม่เคยรับสั่งแก่พวกท่านในเรื่องนี้เลย พวกท่านยืนยันได้ไหมว่าพระองค์ทรงรับสั่งดังกล่าวโดยที่พวกท่านร่วมกันฟังอยู่ ช่างกล้าอุปโลกน์ความเท็จให้แก่อัลลอฮ์เสียนี่กระไร?
Comment: (290)คืออุปโลกน์ว่าพระองค์ทรงห้ามมิให้บริโภคสัตว์ดังกล่าว
Comment: (291)คือโดยผู้ที่ทำการอุปโลกน์นั้นไม่มีความรู้ใด ๆ ทั้งสิ้น
6:145
قُل لَّآ أَجِدُ فِى مَآ أُوحِىَ إِلَىَّ مُحَرَّمًا عَلَىٰ طَاعِمٍۢ يَطْعَمُهُۥٓ إِلَّآ أَن يَكُونَ مَيْتَةً أَوْ دَمًۭا مَّسْفُوحًا أَوْ لَحْمَ خِنزِيرٍۢ فَإِنَّهُۥ رِجْسٌ أَوْ فِسْقًا أُهِلَّ لِغَيْرِ ٱللَّهِ بِهِۦ ۚ فَمَنِ ٱضْطُرَّ غَيْرَ بَاغٍۢ وَلَا عَادٍۢ فَإِنَّ رَبَّكَ غَفُورٌۭ رَّحِيمٌۭ
Translation: จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า ฉันไม่พบว่าในสิ่งที่ถูกให้เป็นโองการแก่ฉันนั้น มีสิ่งต้องห้ามแก่ผู้บริโภคที่จะบริโภคมัน นอกจากสิ่งนั้นเป็นสัตว์ที่ตายเอง(292) หรือเลือดที่ไหลออก(293) หรือเนื้อสุกร(294) แท้จริงมันเป็นสิ่งโสมม หรือเป็นสิ่งละเมิด(295) ซึ่งถูกเปล่งนามอื่นจากอัลลอฮ์ที่มัน(296) ถ้าผู้ใดได้รับความคับขัน โดยมิใช่เป็นผู้แสวงหา(297) และมิใช่ผู้ละเมิด(298) แล้วไซร้ แท้จริงพระผู้อภิบาลของเจ้านั้น เป็นผู้ทรงอภัยโทษ เป็นผู้ทรงเอ็นดูเมตตา
Comment: (292)และรวมถึงสัตว์ที่มิได้เชือดตามบัญญัติศาสนาด้วย
Comment: (293)คือไหลออกมาขณะทำการเชือด
Comment: (294)หมายถึงไขมันของมันและส่วนอื่นๆ ของมันทั้งหมดด้วย ทั้งนี้ก็เพราะว่าเมื่อห้ามเนื้อแดงของมันซึ่งเป็นส่วนที่ดีที่สุดของมันแล้ว ส่วนที่เลวกว่าก็ย่อมถูกห้ามมากกว่า
Comment: (295)หมายถึงสัตว์ที่ถูกเชือดโดยละเมิดบัญญัติศาสนา
Comment: (296)คือขณะเชือดมัน
Comment: (297)คือมิใช่มีเจตนาแสวงหาทางที่จะบริโภคโดยสร้างสถานการณ์ให้คับขันขึ้น
Comment: (298)คือละเมิดขอบเขตแห่งความจำเป็นในการรักษาซึ่งชีวิต
6:146
وَعَلَى ٱلَّذِينَ هَادُوا۟ حَرَّمْنَا كُلَّ ذِى ظُفُرٍۢ ۖ وَمِنَ ٱلْبَقَرِ وَٱلْغَنَمِ حَرَّمْنَا عَلَيْهِمْ شُحُومَهُمَآ إِلَّا مَا حَمَلَتْ ظُهُورُهُمَآ أَوِ ٱلْحَوَايَآ أَوْ مَا ٱخْتَلَطَ بِعَظْمٍۢ ۚ ذَٰلِكَ جَزَيْنَـٰهُم بِبَغْيِهِمْ ۖ وَإِنَّا لَصَـٰدِقُونَ
Translation: และแก่บรรดาผู้เป็นยิวนั้น เราได้ห้ามสัตว์ทุกชนิดที่นิ้วตีนไม่แยกจากกัน(299) และจากวัวและแกะนั้น เราได้ห้ามแก่พวกเขา ซึ่งไขมันของมัน นอกจากไขมันที่หลังของมัน หรือลำไส้ได้อุ้มไว้(300) หรือที่ปะปนอยู่ที่กระดูกนั่นแหละ เราได้ลงโทษพวกเขา เนื่องด้วยความอธรรมของพวกเขา และแท้จริงเรานั้นเป็นผู้พูดจริง
Comment: (299)เช่น อูฐ นกกระจอกเทศ ห่าน และเป็ด เป็นต้น
Comment: (300)คือไขมันที่อยู่ในเนื้อสันหลังของมัน และที่อยู่ในลำไส้ของมัน
6:147
فَإِن كَذَّبُوكَ فَقُل رَّبُّكُمْ ذُو رَحْمَةٍۢ وَٰسِعَةٍۢ وَلَا يُرَدُّ بَأْسُهُۥ عَنِ ٱلْقَوْمِ ٱلْمُجْرِمِينَ
Translation: หากพวกเขาปฏิเสธเจ้า ก็จงกล่าวเถิดว่าพระเจ้าของพวกเจ้านั้นเป็นผู้ทรงเอ็นดูเมตตาอันกว้างขวาง และการลงโทษของพระองค์นั้นจะไม่ถูกโต้กลับให้พ้นจากกลุ่มชนที่กระทำความผิด
6:148
سَيَقُولُ ٱلَّذِينَ أَشْرَكُوا۟ لَوْ شَآءَ ٱللَّهُ مَآ أَشْرَكْنَا وَلَآ ءَابَآؤُنَا وَلَا حَرَّمْنَا مِن شَىْءٍۢ ۚ كَذَٰلِكَ كَذَّبَ ٱلَّذِينَ مِن قَبْلِهِمْ حَتَّىٰ ذَاقُوا۟ بَأْسَنَا ۗ قُلْ هَلْ عِندَكُم مِّنْ عِلْمٍۢ فَتُخْرِجُوهُ لَنَآ ۖ إِن تَتَّبِعُونَ إِلَّا ٱلظَّنَّ وَإِنْ أَنتُمْ إِلَّا تَخْرُصُونَ
Translation: บรรดาผู้ที่ให้มีภาคีขึ้นนั้นจะกล่าวว่า หากว่าอัลลอฮ์ทรงประสงค์(301) แล้วไซร้ พวกเราก็ย่อมไม่ให้มีภาคีขึ้น และทั้งบรรพบุรุษของพวกเราอีกด้วย และพวกเราก็ย่อมไม่ให้สิ่งใดเป็นที่ต้องห้าม(302) ในทำนองนั้นแหละบรรดาผู้ก่อนหน้าพวกเขาก็ได้มุสาแล้ว(303) จนกระทั่งพวกเขาได้ลิ้มรสการลงโทษของเรา จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด)ว่า ที่พวกท่านนั้นมีความรู้อันใดกระนั้นหรือ(304) ฉะนั้นพวกเจ้าจงจะต้องนำมันออกมาให้แก่เรา พวกท่านจะไม่ปฏิบัติตามสิ่งใด นอกจากการคาดคิดเอาเท่านั้น และพวกท่านไม่มีอื่นใด นอกจากจะกล่าวเท็จเท่านั้น
Comment: (301)คือประสงค์ที่จะไม่ให้พวกเขากระทำ
Comment: (302)คือไม่ให้สัตว์ประเภทหนึ่งประเภทใดเป็นที่ต้องห้ามในการบริโภค
Comment: (303)โกหกว่าอัลลอฮ์ทรงใช้ให้ทำอย่างนั้น ห้ามทำอย่างนี้ ทั้งๆ ที่พระองค์มิได้ทรงใช้และห้ามแต่อย่างใด
Comment: (304)เป็นคำถามเพื่อปรามพวกเขา มิใช่เพื่อต้องการรู้ เพราะรู้อยู่แล้วว่าพวกเขาไม่มีหลักฐานใดๆ
6:149
قُلْ فَلِلَّهِ ٱلْحُجَّةُ ٱلْبَـٰلِغَةُ ۖ فَلَوْ شَآءَ لَهَدَىٰكُمْ أَجْمَعِينَ
Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่าอัลลอฮ์ทรงมีหลักฐานอันครบถ้วน(305) หากว่าพระองค์ทรงประสงค์แล้ว แน่นอน พระองค์ก็ย่อมนำทางพวกท่านแล้วทั้งหมด(306)
Comment: (305)คือทั่วถึงทุกสิ่งทุกอย่างในการยืนยันความเป็นจริง ซึ่งแตกต่างกับพวกท่าน ได้แต่อ้างเท่านั้น หาได้มีหลักฐานยืนยันไม่
Comment: (306)แนะนำให้พวกท่านได้รับความเข้าใจและยอมรับความจริง
6:150
قُلْ هَلُمَّ شُهَدَآءَكُمُ ٱلَّذِينَ يَشْهَدُونَ أَنَّ ٱللَّهَ حَرَّمَ هَـٰذَا ۖ فَإِن شَهِدُوا۟ فَلَا تَشْهَدْ مَعَهُمْ ۚ وَلَا تَتَّبِعْ أَهْوَآءَ ٱلَّذِينَ كَذَّبُوا۟ بِـَٔايَـٰتِنَا وَٱلَّذِينَ لَا يُؤْمِنُونَ بِٱلْـَٔاخِرَةِ وَهُم بِرَبِّهِمْ يَعْدِلُونَ
Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่า พวกท่านจงนำมาซึ่งบรรดาพยานของพวกท่านที่จะยืนว่า แท้จริง ฮัลลอฮ์ได้ทรงห้ามสิ่งนี้(307) แล้วถ้าพวกเขา(เป็นพยาน) ยืนยัน เจ้าก็อย่ายืนยันกับพวกเขาด้วย และอย่าตามความใคร่ใฝ่ต่ำของบรรดาผู้ที่ปฏิเสธโองการทั้งหลายของเรา และบรรดาผู้ที่ไม่ศรัทธาต่อปกโลก และขณะเดียวกันพวกเขาก็ให้สิ่งอื่นเท่าเทียมกับพระผู้อภิบาลของพวกเขา
Comment: (307)หมายถึงสัตว์ประเภทต่าง ๆ ที่พวกเขาอ้าง
6:151
۞ قُلْ تَعَالَوْا۟ أَتْلُ مَا حَرَّمَ رَبُّكُمْ عَلَيْكُمْ ۖ أَلَّا تُشْرِكُوا۟ بِهِۦ شَيْـًۭٔا ۖ وَبِٱلْوَٰلِدَيْنِ إِحْسَـٰنًۭا ۖ وَلَا تَقْتُلُوٓا۟ أَوْلَـٰدَكُم مِّنْ إِمْلَـٰقٍۢ ۖ نَّحْنُ نَرْزُقُكُمْ وَإِيَّاهُمْ ۖ وَلَا تَقْرَبُوا۟ ٱلْفَوَٰحِشَ مَا ظَهَرَ مِنْهَا وَمَا بَطَنَ ۖ وَلَا تَقْتُلُوا۟ ٱلنَّفْسَ ٱلَّتِى حَرَّمَ ٱللَّهُ إِلَّا بِٱلْحَقِّ ۚ ذَٰلِكُمْ وَصَّىٰكُم بِهِۦ لَعَلَّكُمْ تَعْقِلُونَ
Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด)ว่าท่านทั้งหลายจงมากันเถิด ฉันจะอ่านให้ฟังสิ่งที่พระผู้อภิบาลของพวกท่านได้ห้ามไว้แก่พวกท่านคือ พวกเจ้าอย่าให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นภาคีกับพระองค์ และจงทำดีต่อผู้บังเกิดเกล้าทั้งสองจริงๆ และอย่าฆ่าลูกของพวกเจ้า เนื่องจากความจนเราเป็นผู้ให้ปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้า และแก่พวกเขา(308) และจงอย่าเข้าใกล้บรรดาสิ่งชั่วช้า(309) ทั้งที่เปิดเผยและที่ปกปิด และอย่าฆ่าชีวิต(310) ที่อัลลอฮ์ทรงห้ามไว้ นอกจากด้วยสิทธิอันชอบธรรมเท่านั้น(311) นั่นแหละที่พระองค์ได้ทรงสั่งเสียมันไว้แก่พวกเจ้า เพื่อว่าพวกเจ้าจะใช้ปัญญา
Comment: (308)พวกลูก ๆ ของพวกเจ้าด้วย
Comment: (309)หมายถึงการทำซินาและสิ่งอื่น ๆ ที่มีโทษมหันต์
Comment: (310)หมายถึงชีวิตมนุษย์
Comment: (311)หมายถึงสิทธิที่จะให้อีกชีวิตหนึ่งตายตกไปตามกัน เช่นการฆ่าผู้ที่ฆ่าคนอื่นโดยเจตนา ทั้งนี้เพื่อลงโทษให้เขาตายตามกันหรือฆ่าผู้ที่เป็นมุรตัด ทั้งนี้หลังจากให้เวลาแก่เขาสามวันเพื่อให้เขาสำนึกผิด หลังจากสามวันแล้วถ้าเขายังไม่สำนึกผิดก็ให้ประหารชีวิตได้
6:152
وَلَا تَقْرَبُوا۟ مَالَ ٱلْيَتِيمِ إِلَّا بِٱلَّتِى هِىَ أَحْسَنُ حَتَّىٰ يَبْلُغَ أَشُدَّهُۥ ۖ وَأَوْفُوا۟ ٱلْكَيْلَ وَٱلْمِيزَانَ بِٱلْقِسْطِ ۖ لَا نُكَلِّفُ نَفْسًا إِلَّا وُسْعَهَا ۖ وَإِذَا قُلْتُمْ فَٱعْدِلُوا۟ وَلَوْ كَانَ ذَا قُرْبَىٰ ۖ وَبِعَهْدِ ٱللَّهِ أَوْفُوا۟ ۚ ذَٰلِكُمْ وَصَّىٰكُم بِهِۦ لَعَلَّكُمْ تَذَكَّرُونَ
Translation: และจงอย่าเข้าใกล้ทรัพย์สมบัติของเด็กกำพร้า นอกจากด้วยวิถีทางที่ดียิ่ง จนกว่าเขาจะบรรลุวัยฉกรรจ์ และจงให้ครบเต็มซึ่งเครื่องตวงและเครื่องชั่งด้วยความเที่ยงตรง เราจะไม่บังคับชีวิตใดเท่าที่ความสามารถเท่านั้นและเมื่อพวกเจ้าพูด ก็จงยุติธรรม และแม้ว่าเขา(312) จะเป็นญาติที่ใกล้ชิดก็ตาม และต่อสัญญาของอัลลอฮ์นั้นก็จงปฏิบัติตามให้ครบถ้วน นั่นแหละที่พระองค์ได้ทรงสั่งเสียมันไว้แก่พวกเจ้า เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รำลึก
Comment: (312)หมายถึงผู้ที่ถูกกล่าวถึงหรือผู้ที่ถูกยืนยัน
6:153
وَأَنَّ هَـٰذَا صِرَٰطِى مُسْتَقِيمًۭا فَٱتَّبِعُوهُ ۖ وَلَا تَتَّبِعُوا۟ ٱلسُّبُلَ فَتَفَرَّقَ بِكُمْ عَن سَبِيلِهِۦ ۚ ذَٰلِكُمْ وَصَّىٰكُم بِهِۦ لَعَلَّكُمْ تَتَّقُونَ
Translation: และแท้จริงนี้คือทางของข้าอันเที่ยงตรงพวกเจ้าจงปฏิบัติตามมันเถิด และอย่าปฏิบัติตามหลายๆ ทาง(313) เพราะมันจะทำให้พวกเจ้าแยกออกไปจากทางของพระองค์ นั่นแหละที่พระองค์ได้สั่งเสียมันไว้แก่พวกเจ้า เพื่อว่าพวกเจ้าจะยำเกรง
Comment: (313)คือทางอื่น ๆ ที่มนุษย์อุตริกำหนดขึ้นเอง ซึ่งมิใช่มาจากอัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์
6:154
ثُمَّ ءَاتَيْنَا مُوسَى ٱلْكِتَـٰبَ تَمَامًا عَلَى ٱلَّذِىٓ أَحْسَنَ وَتَفْصِيلًۭا لِّكُلِّ شَىْءٍۢ وَهُدًۭى وَرَحْمَةًۭ لَّعَلَّهُم بِلِقَآءِ رَبِّهِمْ يُؤْمِنُونَ
Translation: แล้วเราได้ให้คัมภีร์แก่มูซาโดยครบถ้วน(314) แก่ผู้ที่กระทำดี และเป็นการแจกแจงในทุกสิ่งทุกอย่าง(315) และเพื่อเป็นการนำทาง และเป็นการเอ็นดูเมตตา เพื่อว่าพวกเขาจะได้ศรัทธาต่อการพบกับพระผู้อภิบาลของพวกเขา(316)
Comment: (314)คือให้ครบถ้วนซึ่งความกรุณาเมตตาของพระองค์
Comment: (315)ทุกสิ่งทุกอย่างในบัญญัติศาสนาที่พวกเขายังไม่เข้าใจ
Comment: (316)ในวันกิยามะฮ์
6:155
وَهَـٰذَا كِتَـٰبٌ أَنزَلْنَـٰهُ مُبَارَكٌۭ فَٱتَّبِعُوهُ وَٱتَّقُوا۟ لَعَلَّكُمْ تُرْحَمُونَ
Translation: และนี้แหละคือคัมภีร์(317) ที่มีความจำเริญ ซึ่งเราได้ให้คัมภีร์ลงมายังเจ้า(318) จงปฏิบัติตามคัมภีร์นั้นเถิด และจงยำเกรง เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รับความกรุณาเมตตา
Comment: (317)หมายถึงอัลกุรอาน
Comment: (318)หมายถึงชาวมักกะฮ์
6:156
أَن تَقُولُوٓا۟ إِنَّمَآ أُنزِلَ ٱلْكِتَـٰبُ عَلَىٰ طَآئِفَتَيْنِ مِن قَبْلِنَا وَإِن كُنَّا عَن دِرَاسَتِهِمْ لَغَـٰفِلِينَ
Translation: (มิเช่นนั้น)(319) พวกเจ้าจะกล่าวว่า(320) แท้จริงคัมภีร์ได้ถูกประทานลงมาให้แก่สองพวก(321) เท่านั้น ก่อนหน้าพวกข้าพระองค์และแท้จริงพวกข้าพระองค์ไม่รู้เรื่องในการอ่านของพวกเขา(322)
Comment: (319)เป็นข้อความที่ละไว้ซึ่งเป็นที่เข้าใจกันดีในภาษาอาหรับ
Comment: (320)กล่าวแก้ตัวในวันกิยามะฮ์
Comment: (321)หมายถึงพวกยิวและพวกคริสต์
Comment: (322)คัมภีร์ทั้งสองฉบับนั้นมิใช่เป็นภาษาของพวกเรา ดังนั้นการอ่านของพวกเขา พวกเราจึงฟังไม่รู้เรื่องและพวกเขาก็มิได้ชี้แจงให้พวกเขาทราบ
6:157
أَوْ تَقُولُوا۟ لَوْ أَنَّآ أُنزِلَ عَلَيْنَا ٱلْكِتَـٰبُ لَكُنَّآ أَهْدَىٰ مِنْهُمْ ۚ فَقَدْ جَآءَكُم بَيِّنَةٌۭ مِّن رَّبِّكُمْ وَهُدًۭى وَرَحْمَةٌۭ ۚ فَمَنْ أَظْلَمُ مِمَّن كَذَّبَ بِـَٔايَـٰتِ ٱللَّهِ وَصَدَفَ عَنْهَا ۗ سَنَجْزِى ٱلَّذِينَ يَصْدِفُونَ عَنْ ءَايَـٰتِنَا سُوٓءَ ٱلْعَذَابِ بِمَا كَانُوا۟ يَصْدِفُونَ
Translation: หรือไม่ก็พวกเจ้าจะกล่าวว่า แท้จริง พวกข้าพระองค์นั้น หากได้มีคัมภีร์ถูกประทานลงมาแก่พวกข้าพระองค์แล้วไซร้ แน่นอนพวกข้าพระองค์ก็เป็นผู้ที่อยู่ในทางนำดียิ่งกว่าพวกเขา(323) แท้จริงนั้นได้มายังพวกเจ้าแล้วจากพระผู้อภิบาลของพวกเจ้า ซึ่งหลักฐานอันชัดแจ้ง(324) และทางนำและการเอ็นดูเมตตา ดังนั้นใครเล่าคือ ผู้อธรรมยิ่งไปกว่าผู้ที่ปฏิเสธบรรดาโองการของอัลลอฮ์และผินหลังให้แก่โองการเหล่านั้น เราจะตอบแทนแก่บรรดาผู้ที่ผินหลังให้แก่โองการทั้งหลายของเรา ซึ่งการลงโทษอันชั่วช้า เนื่องจากการที่พวกเขาผินหลังให้
Comment: (323)จะเป็นผู้ปฏิบัติตามบัญญัติได้ดีกว่าพวกยิวและพวกคริสต์
Comment: (324)หมายถึงคัมภีร์อัลกุรอาน
6:158
هَلْ يَنظُرُونَ إِلَّآ أَن تَأْتِيَهُمُ ٱلْمَلَـٰٓئِكَةُ أَوْ يَأْتِىَ رَبُّكَ أَوْ يَأْتِىَ بَعْضُ ءَايَـٰتِ رَبِّكَ ۗ يَوْمَ يَأْتِى بَعْضُ ءَايَـٰتِ رَبِّكَ لَا يَنفَعُ نَفْسًا إِيمَـٰنُهَا لَمْ تَكُنْ ءَامَنَتْ مِن قَبْلُ أَوْ كَسَبَتْ فِىٓ إِيمَـٰنِهَا خَيْرًۭا ۗ قُلِ ٱنتَظِرُوٓا۟ إِنَّا مُنتَظِرُونَ
Translation: พวกเขามิได้รอคอยอะไร นอกจากการที่มลาอิกะฮ์จะมายังพวกเขา(325) หรือการที่พระผู้อภิบาลของเจ้าจะมา(326) หรือการที่สัญญาณบางอย่างแห่งพระผู้อภิบาลของเจ้าจะมา(327) วันที่สัญญาณบางอย่างแห่งพระผู้อภิบาลของเจ้ามานั้น จะไม่อำนวยประโยชน์แก่ชีวิตหนึ่งชีวิตใด ซึ่งการศรัทธาของเขาโดยที่เขามิได้ศรัทธามาก่อน(328) หรือมิได้แสวงหาความดีใด ๆ ไว้ในการศรัทธาของเขา(329) จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่า พวกท่านจงรอกันเถิด(330) แท้จริงพวกเราก็เป็นผู้รอคอย
Comment: (325)คือมาลงโทษพวกเขาโดยเอาวิญญาณของพวกเขา ทั้งนี้ด้วยพระบัญชาของอัลลอฮ์
Comment: (326)หมายถึงประกาศิตแห่งการลงโทษของพระองค์จะมา
Comment: (327)หมายถึงสัญญาณแห่งวันกิยามะฮ์
Comment: (328)คือมิได้ศรัทธาก่อนที่สัญญาณแห่งวันกิยามะฮ์ จะอุบัติขึ้น
Comment: (329)คือศรัทธาอยู่ก่อนแล้วแต่มิได้ประกอบความดีไว้ตามบัญญัติศาสนาที่ตนศรัทธา
Comment: (330)คือรอดูกันต่อไปว่าใครจะเป็นฝ่ายที่ถูก
6:159
إِنَّ ٱلَّذِينَ فَرَّقُوا۟ دِينَهُمْ وَكَانُوا۟ شِيَعًۭا لَّسْتَ مِنْهُمْ فِى شَىْءٍ ۚ إِنَّمَآ أَمْرُهُمْ إِلَى ٱللَّهِ ثُمَّ يُنَبِّئُهُم بِمَا كَانُوا۟ يَفْعَلُونَ
Translation: แท้จริง บรรดาผู้ที่แบ่งแยกศาสนาของพวกเขา และพวกเขาได้กลายเป็นนิกายต่างๆ(331) เจ้า (มุฮัมมัด) หาใช่อยู่ในพวกเขาแต่อย่างใดไม่ แท้จริงเรื่องราวของพวกเขานั้นย่อมไปสู่อัลลอฮ์แล้วพระองค์จะทรงแจ้งแก่พวกเขาในสิ่งที่พวกเขากระทำกัน
Comment: (331)คือเป็นกลุ่มต่าง ๆ มากมาย ซึ่งแต่ละกลุ่มมีการปฏิบัติแตกต่างกันไป ทั้งนี้เกิดจากได้มีการบัญญัติข้อปฏิบัติทางศาสนากันขึ้นใหม่ตามอารมณ์และละเลยบัญญัติที่นบีของพวกเขาได้สอนไว้ พระองค์จะทรงชำระพวกเขาเอง
6:160
مَن جَآءَ بِٱلْحَسَنَةِ فَلَهُۥ عَشْرُ أَمْثَالِهَا ۖ وَمَن جَآءَ بِٱلسَّيِّئَةِ فَلَا يُجْزَىٰٓ إِلَّا مِثْلَهَا وَهُمْ لَا يُظْلَمُونَ
Translation: ผู้ใดที่นำความดีมา เขาก็จะได้รับสิบเท่าของความดีนั้น และผู้ใดนำความชั่วมาเขาจะไม่ถูกตอบแทน นอกจากเท่าความชั่วนั้นเท่านั้น และพวกเขาจะไม่ถูกอธรรม
6:161
قُلْ إِنَّنِى هَدَىٰنِى رَبِّىٓ إِلَىٰ صِرَٰطٍۢ مُّسْتَقِيمٍۢ دِينًۭا قِيَمًۭا مِّلَّةَ إِبْرَٰهِيمَ حَنِيفًۭا ۚ وَمَا كَانَ مِنَ ٱلْمُشْرِكِينَ
Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่า แท้จริงฉันนั้น พระผู้อภิบาลของฉันได้นำทางฉันไปสู่ทางอันเที่ยงตรง คือศาสนที่เที่ยงแท้อันเป็นแนวทางของอิบรอฮีมผู้ใฝ่หาความจริง และเขา(อิบรอฮีม) ไม่เป็นผู้อยู่ในหมู่ผู้ให้มีภาคีขึ้น
6:162
قُلْ إِنَّ صَلَاتِى وَنُسُكِى وَمَحْيَاىَ وَمَمَاتِى لِلَّهِ رَبِّ ٱلْعَـٰلَمِينَ
Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่า แท้จริงการละหมาดของฉัน และการอิบาดะฮ์(332) ของฉัน และการมีชีวิตของฉัน และการตายของฉันนั้นเพื่ออัลลอฮ์ผู้เป็นพระผู้อภิบาลแห่งสากลโลกเท่านั้น
Comment: (332)คำว่า “อิบาดะฮ์” ซึ่งแปลมาจากคำว่า “นุซุก”นั้น มีความหมายกว้างขวางมาก กล่าวคือการปฏิบัติทุกอย่างตามบัญญัติศาสนานั้นเรียกว่าอิบาดะฮ์ทั้งสิ้น ด้วยเหตุนี้คำว่า “นุซุก”ในบางครั้งก็ถูกใช้ไปในความหมายของข้อปฏิบัติแต่ละอย่างในพิธีฮัจญ์ และบางทีก็ใช้ไปในความหมายว่า ”การเชือด” เพราะการปฏิบัติในพิธีฮัจญ์ก็ดีและการเชือดก็ดีล้วนแต่เป็นอิบาดะฮ์ทั้งสิ้น
6:163
لَا شَرِيكَ لَهُۥ ۖ وَبِذَٰلِكَ أُمِرْتُ وَأَنَا۠ أَوَّلُ ٱلْمُسْلِمِينَ
Translation: ไม่มีภาคีใดๆ แก่พระองค์ และด้วยสิ่งนั้นแหละข้าพระองค์ถูกใช้ และข้าพระองค์คือคนแรกในหมู่ผู้สวามิภักดิ์ทั้งหลาย
6:164
قُلْ أَغَيْرَ ٱللَّهِ أَبْغِى رَبًّۭا وَهُوَ رَبُّ كُلِّ شَىْءٍۢ ۚ وَلَا تَكْسِبُ كُلُّ نَفْسٍ إِلَّا عَلَيْهَا ۚ وَلَا تَزِرُ وَازِرَةٌۭ وِزْرَ أُخْرَىٰ ۚ ثُمَّ إِلَىٰ رَبِّكُم مَّرْجِعُكُمْ فَيُنَبِّئُكُم بِمَا كُنتُمْ فِيهِ تَخْتَلِفُونَ
Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด)ว่า อื่นจากอัลลอฮ์กระนั้นหรือ ที่ฉันจะแสวงหาพระผู้อภิบาล? ทั้งๆ ที่พระองค์นั้นเป็นพระผู้อภิบาลของทุกสิ่ง และแต่ละชีวิตนั้นจะไม่แสวงหาสิ่งใด นอกจากจะเป็นภาระแก่ชีวิตนั้นเองเท่านั้น และไม่มีผู้แบกภาระคนใดจะแบกภาระของผู้อื่นได้ แล้วยังพระผู้อภิบาลของพวกเจ้านั้น คือการกลับไปของพวกเจ้า แล้วพระองค์จะทรงแจ้งแก่พวกเจ้าในสิ่งที่พวกเจ้าขัดแย้งกัน
6:165
وَهُوَ ٱلَّذِى جَعَلَكُمْ خَلَـٰٓئِفَ ٱلْأَرْضِ وَرَفَعَ بَعْضَكُمْ فَوْقَ بَعْضٍۢ دَرَجَـٰتٍۢ لِّيَبْلُوَكُمْ فِى مَآ ءَاتَىٰكُمْ ۗ إِنَّ رَبَّكَ سَرِيعُ ٱلْعِقَابِ وَإِنَّهُۥ لَغَفُورٌۭ رَّحِيمٌۢ
Translation: และพระองค์นั้นคือผู้ที่ทรงให้พวกเจ้าเป็นผู้สืบแทนในแผ่นดิน(333) และได้ทรงเทิดบางคนของพวกเจ้าเหนือกว่าอีกบางคนหลายขั้น(334) เพื่อที่พระองค์จะทรงทดสอบพวกเจ้าในสิ่งที่พระองค์ได้ทรงประทานแก่พวกเจ้า แท้จริงพระผู้อภิบาลของเจ้านั้น เป็นผู้รวดเร็วในการลงโทษ และแท้จริงพระองค์นั้นเป็นผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเอ็นดูเมตตา
Comment: (333)คือสืบแทนมาจากบรรพบุรุษของพวกเจ้าในการปกครองแผ่นดิน และแสวงหาความกรุณาของพระองค์ในนั้น
Comment: (334)คือเทิดให้เหนือกว่าทั้งในด้านกำลังกาย, กำลังทรัพย์ และกำลังอำนาจ