سورة الحاقة
Al-Haaqqa
The Reality
meccan . 52 Ayahs
بِسْمِ ٱللَّهِ ٱلرَّحْمَـٰنِ ٱلرَّحِيمِ
69:1
ٱلْحَآقَّةُ
Translation: สิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน(วันกิยามะฮ์)
69:2
مَا ٱلْحَآقَّةُ
Translation: สิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน(วันกิยามะฮ์)นั้นคืออะไร(1)
Comment: (1)ซูเราะฮ์ได้เริ่มกล่าวถึงวันกิยามะฮ์ซึ่งเป็นชื่อของซูเราะฮ์คือ อัลหากเกาะฮ์ เป็นวันที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนปราศจากข้อสงสัยใด ๆ ทั้งสิ้นในอายะฮ์ต่อมาติดตามด้วยคำถามที่ชวนให้เกิดความสนใจยิ่งขึ้นว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนนั้นคืออะไร? การกล่าวถึงวันกิยามะฮ์ซ้ำถึง 2 ครั้ง แสดงให้เห็นถึงความสำคัญและความยิ่งใหญ่ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันนั้น
69:3
وَمَآ أَدْرَىٰكَ مَا ٱلْحَآقَّةُ
Translation: และอันใดเล่าทำให้เจ้ารู้ได้ว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน(วันกิยามะฮ์) นั้นคืออะไร ?(2)
Comment: (2)เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าวันกิยามะฮ์คืออะไร เพราะเจ้าไม่เคยรู้มาก่อนเลยถึงความน่าสะพรึงกลัวและความร้ายแรงของวันนั้น คำถามของอายะฮ์ที่ 2 และที่ 3 จะไม่ได้รับคำตอบ ทั้งนี้เพื่อให้ผู้อ่านผู้ฟังวาดภาพความสำคัญของวันนั้นว่าจะมีสภาพเป็นอย่างไร
69:4
كَذَّبَتْ ثَمُودُ وَعَادٌۢ بِٱلْقَارِعَةِ
Translation: พวกษะมูดและพวกอ๊าดได้ปฏิเสธวันกิยามะฮ์
69:5
فَأَمَّا ثَمُودُ فَأُهْلِكُوا۟ بِٱلطَّاغِيَةِ
Translation: พวกษะมูด ถูกทำลายด้วยเสียงกำปนาทที่น่ากลัว
69:6
وَأَمَّا عَادٌۭ فَأُهْلِكُوا۟ بِرِيحٍۢ صَرْصَرٍ عَاتِيَةٍۢ
Translation: ส่วนพวกอ๊าด ถูกทำลายด้วยลมพายุที่หนาวเหน็บ และเสียงดังก้อง(3)
Comment: (3)ในสามอายะฮ์ได้กล่าวถึงสิ่งที่ได้เกิดขึ้นแก่ประชาชาติในอดีตที่ปฏิเสธการศรัทธา ไม่ยอมเชื่อฟังการเรียกร้องไปสู่การให้ความเอกภาพแด่อัลลอฮ์ ตะอาลา ทั้งนี้เพื่อเป็นการเตือนพวกกุฟฟารมักกะฮ์ให้ระลึกถึงการลงโทษที่จะประสบแก่พวกเขาอย่างแน่นอน หากพวกเขายังคงดื้อรั้นในสิ่งที่ร่อซูลของพวกเขานำมาเผยแผ่พวกษะมูดมีถิ่นพำนักอยู่ที่แคว้นหนึ่งทางเหนือของฮิญาซ เรียกว่า มะดาอินซอและฮ์ พวกนี้อัลลอฮ์ทรงลงโทษด้วยเสียงกำปนาทลงสู่บ้านพักของพวกเขา ทำให้ผู้คนล้มตายระเนระนาด สาเหตุเพราะพวกเขาทำร้ายฆ่าอูฐของอัลลอฮ์ ส่วนพวกอ๊าด เพราะความหยิ่งยะโสโอหังของพวกเขา อัลลอฮ์ทรงลงโทษพวกเขาด้วยการสั่งลมพายุที่หนาวเหน็บมีเสียงดังก้องลมพายุนี้ได้พัดติดต่อกันอย่างต่อเนื่องถึงเจ็ดคืนกับแปดวัน
69:7
سَخَّرَهَا عَلَيْهِمْ سَبْعَ لَيَالٍۢ وَثَمَـٰنِيَةَ أَيَّامٍ حُسُومًۭا فَتَرَى ٱلْقَوْمَ فِيهَا صَرْعَىٰ كَأَنَّهُمْ أَعْجَازُ نَخْلٍ خَاوِيَةٍۢ
Translation: พระองค์ทรงให้อภัยนั้นเกิดขึ้นแก่พวกเขา เจ็ดคืนกับแปดวันต่อเนื่องกัน แล้วเจ้าจะเห็นหมู่ชนนั้นนอนตายอยู่เช่นนั้นประหนึ่งต้นอินทผลัมที่กลางล้มระเนระนาด
69:8
فَهَلْ تَرَىٰ لَهُم مِّنۢ بَاقِيَةٍۢ
Translation: แล้วเจ้าเห็นอะไรบ้างหลงเหลือสำหรับพวกเขา(4)
Comment: (4)นี่คือสภาพของประชาชาติสมัยก่อนที่ก่อทำชั่ว นอกเหนือไปจากการปฏิเสธไม่เชื่อฟังคำสั่งสอนและการเรียกร้องของบรรดาร่อซูลไปสู่สัจธรรม กล่าวกันว่า ลมพายุได้พัดเอาศีรษะออกจากร่างของพวกอ๊าดคล้อยกับต้นอินทผลัมที่ถูกตัดยอดออกไป
69:9
وَجَآءَ فِرْعَوْنُ وَمَن قَبْلَهُۥ وَٱلْمُؤْتَفِكَـٰتُ بِٱلْخَاطِئَةِ
Translation: ฟิรอาวน์และพวกก่อนหน้าเขา และพวกมุอ์ตะฟิกาต (เมืองของพวกลูฏซึ่งถูกพลิกแผ่นดิน) ได้กระทำความผิด
69:10
فَعَصَوْا۟ رَسُولَ رَبِّهِمْ فَأَخَذَهُمْ أَخْذَةًۭ رَّابِيَةً
Translation: พวกเขาได้ฝ่าฝืนต่อร่อซูลแห่งพระผู้อภิบาลของพวกเขา ดังนั้นพระองค์จึงทรงลงโทษพวกเขาอย่างหนัก(5)
Comment: (5)พวกฟิรอาวน์ประชาชาติของนบีมูซา และประชาชาติก่อนพวกฟิรอาวน์ ซึ่งซูเราะฮ์นี้ได้ระบุไว้ว่าเป็นพวกใดและพวกมุอ์ตะฟิกาต ซึ่งเป็นหมู่บ้านของพวกลู๊ฏ พวกหลังนี้ถูกลงโทษด้วยการพลิกแผ่นดินประชาชาติดังกล่าวมานี้ ได้กระทำความผิดคือดื้อดึง ไม่ปฏิบัติตามคำเรียกร้องและสั่งสอนของบรรดาร่อซูล ดังนั้น อัลลอฮ์จึงทรงลงโทษอย่างหนักและสาสมกับความผิดที่ได้ก่อกรรมทำไว้
69:11
إِنَّا لَمَّا طَغَا ٱلْمَآءُ حَمَلْنَـٰكُمْ فِى ٱلْجَارِيَةِ
Translation: เมื่อน้ำท่วมสูงขึ้น แท้จริงเราได้บรรทุกพวกเจ้าไว้ในเรือของนูห์
69:12
لِنَجْعَلَهَا لَكُمْ تَذْكِرَةًۭ وَتَعِيَهَآ أُذُنٌۭ وَٰعِيَةٌۭ
Translation: เพื่อเราจักได้ทำให้มันเป็นเครื่องเตือนสติแก่พวกเจ้า และหูที่สำเหนียกจะได้จดจำมันไว้อย่างแม่นยำ(6)
Comment: (6)สภาพของน้ำท่วม สภาพเรือของนบีนูห์ และสภาพหมู่ชนของนบีนูห์ที่กำลังจมน้ำตาย เพราะไม่เชื่อฟังและปฏิบัติตามคำเรียกร้องเชิญชวนของนบีนูห์ สภาพของการลงโทษดังกล่าวมานี้ย่อมเป็นบทเรียนแก่ประชาชาติใดก็ตามที่ปฏิเสธดื้อดึง และต่อต้านขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่อันเที่ยงธรรมของบรรดาร่อซูล
69:13
فَإِذَا نُفِخَ فِى ٱلصُّورِ نَفْخَةٌۭ وَٰحِدَةٌۭ
Translation: ครั้นเมื่อ เสียงเป่าศู๊ร(แตรสัญญาณ) ครั้งเดียว(ครั้งแรก) ถูกเป่าขึ้นโดยสังข์ (เป็นสัญญาณแจ้งให้ทราบถึงวันกิยามะฮ์)
69:14
وَحُمِلَتِ ٱلْأَرْضُ وَٱلْجِبَالُ فَدُكَّتَا دَكَّةًۭ وَٰحِدَةًۭ
Translation: แผ่นดินและเทือกเขาจะถูกยกขึ้นแล้วมันทั้งสองจะถูกกระแทกกันแตกกระจายเป็นผุยผง
69:15
فَيَوْمَئِذٍۢ وَقَعَتِ ٱلْوَاقِعَةُ
Translation: ในวันนั้นวันกิยามะฮ์ก็จะเกิดขึ้น
69:16
وَٱنشَقَّتِ ٱلسَّمَآءُ فَهِىَ يَوْمَئِذٍۢ وَاهِيَةٌۭ
Translation: และชั้นฟ้าก็จะแยกออก แล้วมันก็จะอ่อนกำลังลงอย่างไม่เป็นระเบียบในวันนั้น(7)
Comment: (7)อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงแจ้งให้เราทราบว่าเมื่อได้เกิดการเป่าศู๊รครั้งแรกขึ้น หลังจากนั้นเหตุการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ก็จะเกิดขึ้นเป็นสัญญาณแจ้งให้มนุษย์ทราบว่า วันกิยามะฮ์ได้เกิดขึ้นแล้วสภาพจะเป็นอย่างไร ? เมื่อแผ่นดินที่มนุษย์เหยียบย่ำอยู่อย่างปลอดภัย และภูเขาที่เรียงรายอย่างสูงตระหง่านได้ลอยขึ้นไปบนฟากฟ้า และได้หมดกำลังลงหลังจากนั้นก็หล่นลงมานั่นแหละคือวันกิยามะฮ์หรือวากิอะฮ์ได้เกิดขึ้นแล้วอย่างแน่นอน หลังจากนั้นชั้นฟ้าทั้งหลายก็จะแตกแยกออกและอ่อนกำลังลงอย่างไม่เป็นระเบียบ นี่คือสภาพของแผ่นดินภูเขาและชั้นฟ้าตามที่อัลกุรอานได้แจ้งให้เราทราบ เราไม่อาจล่วงรู้ได้นอกเหนือไปกว่านั้น
69:17
وَٱلْمَلَكُ عَلَىٰٓ أَرْجَآئِهَا ۚ وَيَحْمِلُ عَرْشَ رَبِّكَ فَوْقَهُمْ يَوْمَئِذٍۢ ثَمَـٰنِيَةٌۭ
Translation: และมะลักก็จะปรากฏอยู่ข้างๆ และจะมีมลาอิกะฮ์แปดองค์จะทูนบังลังก์แห่งพระผู้อภิบาลของเจ้าไว้เบื้องบนพวกเขาในวันนั้น
69:18
يَوْمَئِذٍۢ تُعْرَضُونَ لَا تَخْفَىٰ مِنكُمْ خَافِيَةٌۭ
Translation: วันนั้นพวกเจ้าจะถูกนำมาอยู่ต่อหน้าพระองค์ ไม่มีความลับอันใดจะถูกปิดบังแก่พวกเจ้า(8)
Comment: (8)ในวันนั้นมลาอิกะฮ์ จะปรากฏตนอยู่บนเวหาท่ามกลางท้องฟ้าที่แตกกระจัดกระจาย มลาอิกะฮ์ จำนวน 8 ท่านหรือ 8 แถว ซึ่งพระองค์ทรงทราบดียิ่ง เราไม่รู้บัลลังก์มีสภาพเป็นอย่างไร ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งเร้นลับแต่มีความลับชนิดอื่น คือสิ่งที่มนุษย์ได้ปฏิบัติไว้ในโลกดุนยาจะถูกนำมาเปิดเผยให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาในวันนั้น
69:19
فَأَمَّا مَنْ أُوتِىَ كِتَـٰبَهُۥ بِيَمِينِهِۦ فَيَقُولُ هَآؤُمُ ٱقْرَءُوا۟ كِتَـٰبِيَهْ
Translation: ส่วนผู้ที่บันทึกของเขาถูกนำมายื่นให้ทางเบื้องขวาของเขา เขาจะกล่าวว่า มาอ่านบันทึกของฉันซิ
69:20
إِنِّى ظَنَنتُ أَنِّى مُلَـٰقٍ حِسَابِيَهْ
Translation: ความจริงฉันนึกทีเดียวว่า ฉันจะได้พบบัญชีของฉัน
69:21
فَهُوَ فِى عِيشَةٍۢ رَّاضِيَةٍۢ
Translation: แล้วเขาจะมีความเป็นอยู่อย่างสุขสำราญ
69:22
فِى جَنَّةٍ عَالِيَةٍۢ
Translation: ในสวนสวรรค์อันสูงส่ง
69:23
قُطُوفُهَا دَانِيَةٌۭ
Translation: การเด็ดผลไม้ของมันอยู่แค่เอื้อมมือ
69:24
كُلُوا۟ وَٱشْرَبُوا۟ هَنِيٓـًٔۢا بِمَآ أَسْلَفْتُمْ فِى ٱلْأَيَّامِ ٱلْخَالِيَةِ
Translation: พวกเจ้าจงกิน จงดื่ม อย่างเกษมสำราญ เพราะสิ่งที่พวกเจ้าได้ปฏิบัติไว้ในวันเวลาที่ได้ผ่านมา
69:25
وَأَمَّا مَنْ أُوتِىَ كِتَـٰبَهُۥ بِشِمَالِهِۦ فَيَقُولُ يَـٰلَيْتَنِى لَمْ أُوتَ كِتَـٰبِيَهْ
Translation: ส่วนผู้ที่บันทึกของเขาถูกนำมายื่นให้ทางเบื้องซ้ายของเขา เขาจะกล่าวว่า ฉันภาวนาที่จะไม่ให้บันทึกของฉันถูกนำมายื่น
69:26
وَلَمْ أَدْرِ مَا حِسَابِيَهْ
Translation: และฉันไม่รู้ว่าบัญชีของฉันจะเป็นเช่นใด
69:27
يَـٰلَيْتَهَا كَانَتِ ٱلْقَاضِيَةَ
Translation: โอ้ หากว่าความตายได้เกิดขึ้นเสียก็จะดี
69:28
مَآ أَغْنَىٰ عَنِّى مَالِيَهْ ۜ
Translation: ทรัพย์สมบัติของฉันไม่ได้คุ้มกันแก่ฉันเลย
69:29
هَلَكَ عَنِّى سُلْطَـٰنِيَهْ
Translation: อำนาจของฉันก็ได้สูญสิ้นไปจากฉันแล้ว(9)
Comment: (9)สภาพบุคคลที่บันทึกของเขาถูกนำมายื่นให้ทางเบื้องซ้ายนั้นก็คือ การยืนนิ่งด้วยความเสียใจ เบื่อหน่าย หมดหวัง จนกระทั่งเขาหวังไม่อยากจะพบเห็นบันทึกว่ามีอะไรอยู่ในนั้นเสียเลย และหากว่าวันกิยามะฮ์ทำให้เขาตายไปเสียก็จะเป็นการดีแก่เขา ทรัพย์สมบัติและอำนาจราชศักดิ์ที่เขาเคยภาคภูมิใจและได้รวบรวมเอาไว้ ก็ไม่ได้ให้ความคุ้มครองแก่เขาแต่อย่างใด
69:30
خُذُوهُ فَغُلُّوهُ
Translation: (จะมีคำบัญชาแก่มลาอิกะฮ์ว่า) จงนำเขาไป แล้วจำตรวนเสีย
69:31
ثُمَّ ٱلْجَحِيمَ صَلُّوهُ
Translation: แล้วโยนเขาเข้ากองไฟนรก
69:32
ثُمَّ فِى سِلْسِلَةٍۢ ذَرْعُهَا سَبْعُونَ ذِرَاعًۭا فَٱسْلُكُوهُ
Translation: แล้วล่ามโซ่เขา ซึ่งความยาวของมันเจ็ดสิบศอก
69:33
إِنَّهُۥ كَانَ لَا يُؤْمِنُ بِٱللَّهِ ٱلْعَظِيمِ
Translation: แท้จริง เขามิได้ศรัทธาต่ออัลลอฮ์ผู้ยิ่งใหญ่
69:34
وَلَا يَحُضُّ عَلَىٰ طَعَامِ ٱلْمِسْكِينِ
Translation: และเขามิได้ส่งเสริมให้อาหารแก่คนขัดสน(10)
Comment: (10)คำบัญชาที่ได้กล่าวแก่มลาอิกะฮ์ผู้เฝ้าประตูนรก ให้นำเอาอาชญากรผู้นี้ไปล่ามโซ่ ซึ่งมีความยาวถึง 70 ศอกหรือเอาไปโยนในกองไฟนรก ทำให้ทุกคนวาดสภาพถึงความน่ากลัวของเหตูการณ์ในขณะนั้น ทั้งนี้ก็เพราะว่าเขาปฏิเสธไม่ยอมศรัทธาต่ออัลลอฮ์และปรโลก บุคคลจำพวกนี้จิตใจของเขาไม่มีความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ คือคนยากจนขัดสน
69:35
فَلَيْسَ لَهُ ٱلْيَوْمَ هَـٰهُنَا حَمِيمٌۭ
Translation: ดังนั้น วันนี้เขาจะไม่มีมิตรสนิท ณ ที่นี้
69:36
وَلَا طَعَامٌ إِلَّا مِنْ غِسْلِينٍۢ
Translation: และไม่มีอาหารอย่างใด นอกจากน้ำหนองที่ไหลมาจากแผลของชาวนรก
69:37
لَّا يَأْكُلُهُۥٓ إِلَّا ٱلْخَـٰطِـُٔونَ
Translation: ไม่มีผู้ใดกินมัน นอกจากบรรดาผู้กระทำความผิด(11)
Comment: (11)บุคคลพวกดังกล่าวในวันกิยามะฮ์ มิตรสหายเพื่อนฝูงของเขาพากันหลีกเลี่ยงและหลบหนี แม้แต่อาหารก็จะไม่ได้กินนอกจากชนิดที่น่าเกลียดน่าทุเรศ เป็นอาหารของชาวนรก ซึ่งได้ถูกจัดไว้เฉพาะผู้ที่กระทำผิดโดยเจตนา
69:38
فَلَآ أُقْسِمُ بِمَا تُبْصِرُونَ
Translation: เปล่าเลย ข้าขอสาบานต่อสิ่งที่พวกเจ้ามองเห็น
69:39
وَمَا لَا تُبْصِرُونَ
Translation: และสิ่งที่พวกเจ้ามองไม่เห็น
69:40
إِنَّهُۥ لَقَوْلُ رَسُولٍۢ كَرِيمٍۢ
Translation: แท้จริงอัลกรุอานนั้นคือคำกล่าวของร่อซูลผู้ทรงเกียรติ
69:41
وَمَا هُوَ بِقَوْلِ شَاعِرٍۢ ۚ قَلِيلًۭا مَّا تُؤْمِنُونَ
Translation: และมิใช่คำกล่าวของนักกวี ส่วนน้อยเท่านั้นที่พวกเจ้าศรัทธา
69:42
وَلَا بِقَوْلِ كَاهِنٍۢ ۚ قَلِيلًۭا مَّا تَذَكَّرُونَ
Translation: และไม่ใช่คำกล่าวของนักพยากรณ์ส่วนน้อยเท่านั้นที่พวกเจ้าใคร่ครวญ
69:43
تَنزِيلٌۭ مِّن رَّبِّ ٱلْعَـٰلَمِينَ
Translation: เป็นการประทานมาจากพระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก(12)
Comment: (12) อิมามอัลฟัคร์ กล่าวว่า การสาบานของอัลลอฮ์ หมายถึงสิ่งที่ถูกสาบาน 2 ประเภทด้วยกันคือ สิ่งที่มองเห็นและมองไม่เห็น ซึ่งมีความหมายคลุมไปถึงผู้สร้างและสิ่งที่ถูกสร้าง หมายถึงโลกดุนยาและโลกอาคิเราะฮ์ หมายถึงร่างกายและชีวิตมนุษย์และญิน และหมายถึงนิอ์มะฮ์ที่มองเห็นและมองไม่เห็นและว่าแท้จริงอัลกุรอานฉบับนี้เป็นคำกล่าวของ อัลลอฮ์ ตะละอา โดยท่านร่อซูลผู้ทรงเกียรติเป็นผู้อ่าน เป็นผู้นำมาแจ้งแก่บรรดาสาวกและเผยแผ่แก่ประชาชาติอาหรับและประชาชาติอื่นๆโดยทั่วไป อัลกุรอานมิใช่เป็นคำกล่าวของนักกวีและมิใช่คำกล่าวของนักพยากรณ์แต่ประการใด ตามคำกล่าวอ้างของพวกมุชริกีนที่ได้ตั้งข้อสังเกตเอาไว้หลังจากนั้นพระองค์ทรงยืนยันว่า อัลกุรอานนั้นเป็นการประทานมาจากพระเจ้าแห่งสากลโลก
69:44
وَلَوْ تَقَوَّلَ عَلَيْنَا بَعْضَ ٱلْأَقَاوِيلِ
Translation: และหากเขา (มุฮัมมัด) เสกสรรกล่าวคำเท็จบางคำแก่เราแล้ว
69:45
لَأَخَذْنَا مِنْهُ بِٱلْيَمِينِ
Translation: เราก็จะจับเขาด้วยความมั่นคง
69:46
ثُمَّ لَقَطَعْنَا مِنْهُ ٱلْوَتِينَ
Translation: แล้วเราก็จะตัดเส้นชีวิตให้ขาดไปจากเขา
69:47
فَمَا مِنكُم مِّنْ أَحَدٍ عَنْهُ حَـٰجِزِينَ
Translation: ดังนั้นจะไม่มีผู้ใดในหมู่พวกเจ้าเป็นผู้คุ้มกันเขาได้(13)
Comment: (13)อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงย้ำอย่างหนักแน่นถึงการลงโทษอย่างถอนรากถอนโคนปราศจากความเมตตาปรานีใดๆ หากมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ผู้ซึ่งได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เผยแผ่สัจธรรมและเขาไม่ปฏิบัติตามหน้าที่โดยมีเจตนาจะบิดเบือนหรือปิดบังข้อเท็จจริง หรือเสกสรรกล่าวคำเท็จสักคำเดียว ต่อข้อใช้ข้อห้ามในศาสนาของพระองค์แล้ว จะได้รับการลงโทษอย่างหนักและทันที โดยจะไม่ได้รับความเห็นอกเห็นใจหรือความเมตตาจากพระองค์เลย และจะไม่มีผู้ใดกล้ามาขัดขวางหรือคุ้มกันการลงโทษของพระองค์ได้
69:48
وَإِنَّهُۥ لَتَذْكِرَةٌۭ لِّلْمُتَّقِينَ
Translation: และแท้จริง อัลกุรอานนั้นเป็นข้อเตือนสติแก่บรรดาผู้ยำเกรง
69:49
وَإِنَّا لَنَعْلَمُ أَنَّ مِنكُم مُّكَذِّبِينَ
Translation: และแท้จริง เรารู้อย่างแน่นอนว่ามีบรรดาผู้ปฏิเสธอัลกุรอานในหมู่พวกเจ้า
69:50
وَإِنَّهُۥ لَحَسْرَةٌ عَلَى ٱلْكَـٰفِرِينَ
Translation: และแท้จริง อัลกุรอานนั้น เป็นการเศร้าโศกเสียใจแก่บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา(14)
Comment: (14)อัลกุรอานฉบับนี้ประมวลไว้ด้วยข้อเตือนสติแก่จิตใจของผู้ที่มีความยำเกรง แล้วเขาก็จะรำลึกถึงพระองค์และจะทำให้เขาสำนึกถึงตัวของเขาเอง ส่วนผู้ที่ไม่มีความยำเกรงต่อพระองค์ จิตใจของเขาจะถูกปิดและตายด้านไม่มีการรำลึกถึงพระผู้ทรงบังเกิดเขาเลย และคัมภีร์ฉบับนี้มิได้อำนวยประโยชน์อันใดให้แก่เขาเช่นกันอีกทั้งเป็นหลักฐานยืนยันแก่พวกเขาอีกด้วยว่า ในวันกิยามะฮ์พระองค์จะทรงลงโทษพวกเขา ซึ่งจะได้รับแต่ความเศร้าโศกเสียใจในการกระทำของพวกเขาทั้งในโลกนี้และปรโลก
69:51
وَإِنَّهُۥ لَحَقُّ ٱلْيَقِينِ
Translation: และแท้จริง อัลกุรอานนั้นคือความจริงอันเที่ยงแท้แน่นอน
69:52
فَسَبِّحْ بِٱسْمِ رَبِّكَ ٱلْعَظِيمِ
Translation: ดังนั้น เจ้าจงให้ความบริสุทธิ์ด้วยพระนามแห่งพระผู้อภิบาลผู้ยิ่งใหญ่(15)
Comment: (15)อัลกุรอานนั้นเป็นความจริงระดับสุดยอด และเป็นความเที่ยงแท้แน่นอน ปราศจากข้อสงสัยแคลงใจใด ๆ ทั้งสิ้นมาจากพระเจ้าผู้ทรงไว้ซึ่งความจริงอันสูงส่ง ดังนั้น จงให้ความบริสุทธิ์แด่พระองค์ด้วยการกล่าว “มหาบริสุทธิ์แด่พระเจ้าของข้าพระองค์ให้พ้นจากการบิดเบือน และนำภาคีต่าง ๆ มาคู่เคียงกับพระองค์”