سورة المائدة
Al-Maaida
The Table
medinan . 120 Ayahs
بِسْمِ ٱللَّهِ ٱلرَّحْمَـٰنِ ٱلرَّحِيمِ
5:1
يَـٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوٓا۟ أَوْفُوا۟ بِٱلْعُقُودِ ۚ أُحِلَّتْ لَكُم بَهِيمَةُ ٱلْأَنْعَـٰمِ إِلَّا مَا يُتْلَىٰ عَلَيْكُمْ غَيْرَ مُحِلِّى ٱلصَّيْدِ وَأَنتُمْ حُرُمٌ ۗ إِنَّ ٱللَّهَ يَحْكُمُ مَا يُرِيدُ
Translation: บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย! จงรักษาบรรดาสัญญา(1) ให้ครบถ้วนเถิด สัตว์ประเภทปศุสัตว์(2) นั้นได้ถูกอนุมัติแก่พวกเจ้าแล้ว นอกจากที่จะถูกอ่านให้พวกเจ้าฟัง(3) โดยที่พวกเจ้ามิใช่ผู้ที่ให้สัตว์ที่จะถูกล่านั้น เป็นที่อนุมัติขณะที่พวกเจ้าอยู่ในเอี๊ยะห์รอม(4) แท้จริงอัลลอฮ์นั้นทรงชี้ขาดตามที่พระองค์ทรงประสงค์
Comment: (1)คือสัญญาทั้งที่ให้ไว้แก่อัลลอฮ์ และผู้คนทั่ว ๆ ไป
Comment: (2)อันได้แก่อูฐ แพะ แกะ วัว ควาย
Comment: (3)คือที่ถูกระบุไว้ในอายะฮ์ที่สามของซูเราะฮ์นี้
Comment: (4)คือที่อนุมัติให้แก่พวกเจ้า ซึ่งการล่าสัตว์ประเภทปศุสัตว์นั้น ในขณะที่พวกเจ้ามิได้อยู่ในระหว่างพิธีฮัจย์ ซึ่งครองผ้าเอี๊ยะห์รอมอยู่แต่ถ้าพวกเจ้าอยู่ในเอี๊ยะห์รอมแล้วทำการล่าสัตว์ประเภทดังกล่าว โดยถือว่าเป็นสัตว์อนุมัติไม่ได้ เพราะผู้ที่อยู่ในเอี๊ยะห์รอมนั้นห้ามล่าสัตว์ใด ๆ ทั้งสิ้น แม้จะเป็นสัตว์ที่อนุมัติก็ตาม
5:2
يَـٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ لَا تُحِلُّوا۟ شَعَـٰٓئِرَ ٱللَّهِ وَلَا ٱلشَّهْرَ ٱلْحَرَامَ وَلَا ٱلْهَدْىَ وَلَا ٱلْقَلَـٰٓئِدَ وَلَآ ءَآمِّينَ ٱلْبَيْتَ ٱلْحَرَامَ يَبْتَغُونَ فَضْلًۭا مِّن رَّبِّهِمْ وَرِضْوَٰنًۭا ۚ وَإِذَا حَلَلْتُمْ فَٱصْطَادُوا۟ ۚ وَلَا يَجْرِمَنَّكُمْ شَنَـَٔانُ قَوْمٍ أَن صَدُّوكُمْ عَنِ ٱلْمَسْجِدِ ٱلْحَرَامِ أَن تَعْتَدُوا۟ ۘ وَتَعَاوَنُوا۟ عَلَى ٱلْبِرِّ وَٱلتَّقْوَىٰ ۖ وَلَا تَعَاوَنُوا۟ عَلَى ٱلْإِثْمِ وَٱلْعُدْوَٰنِ ۚ وَٱتَّقُوا۟ ٱللَّهَ ۖ إِنَّ ٱللَّهَ شَدِيدُ ٱلْعِقَابِ
Translation: ผู้ศรัทธาทั้งหลาย! จงอย่าให้เป็นที่อนุมัติ(5) ซึ่งบรรดาเครื่องหมายแห่งศาสนาของอัลลอฮ์(6) และเดือนที่ต้องห้าม(7) และสัตว์พลี(8) และสัตว์ที่ถูกสามเครื่องหมายไว้ที่คอเพื่อเป็นสัตว์พลี(9) และบรรดาผู้ที่มุ่งสู่บ้านอันเป็นที่ต้องห้าม(10) โดยแสวงหาความโปรดปราน และความพอพระทัยจากพระผู้อภิบาลของพวกเขา แต่เมื่อพวกเจ้าเปลื้องเอี๊ยะห์รอมแล้ว(11) ก็จงล่าสัตว์ได้ และจงอย่าให้การเกลียดชังแก่พวกหนึ่งพวกใด(12) ที่ขัดขวางพวกเจ้ามิให้เข้ามัสยิดฮะรอม ทำให้พวกเจ้ากระทำการละเมิด(13) และพวกจงช่วยเหลือกันในสิ่งที่เป็นคุณธรรม และความยำเกรง และจงอย่าช่วยกันในสิ่งที่เป็นบาปและเป็นศัตรูกัน และพึงกลัวเกรงอัลลอฮ์เถิด แท้จริง อัลลอฮ์เป็นผู้ทรงรุนแรงในการลงโทษ
Comment: (5)คืออย่าให้สิ่งที่จะกล่าวต่อไปนี้เป็นที่อนุมัติให้กระทำตามใจชอบได้
Comment: (6)อันได้แก่ข้อกำหนดแห่งบัญญัติศาสนาที่จะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดโดยไม่ต่อเติมหรือตัดทอนเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับข้อกำหนดในพิธีฮัจญ์และอุมเราะฮ์
Comment: (7)คือเดือนที่ถูกห้ามมิให้ทำการสู้รบและหลั่งเลือดกัน แม้จะเป็นศัตรูที่ประหัตประหารกันอยู่ก็ตาม ซึ่งเดือนดังกล่าวนี้ได้แก่เดือนร่อญับ ซุลเกาะดะฮ์ ซุลฮิจญะฮ์ และเดือน อัล-มุฮัรรอม
Comment: (8)คือสัตว์ที่ผู้ไปประกอบพิธีฮัจญ์นำไปเป็นสัตว์พลี เพื่อความโปรดปรานจากอัลลอฮ์ กล่าวคือ จะทำการจี้เอามันไปหรือเชือดมันหรือขโมยมัน หรือขังมัน หรือทำร้ายมันไม่ได้ หากแต่จะต้องช่วยให้มันได้ไปถึงที่ของมัน ณ นครมักกะฮ์
Comment: (9)คืออูฐที่เจาะจงไว้ว่าจะนำไปเป็นสัตว์พลีที่มักกะฮ์ขณะไปประกอบพิธีฮัจญ์ โดยสวมเครื่องหมายไว้ที่คอเพื่อให้เป็นที่ทราบกัน ซึ่งถือเป็นสัตว์พลีที่ประเสริฐกว่าประเภทอื่น
Comment: (10)หมายถึง อัล- กะอ์บะฮ์ กล่าวคือ จงอย่าได้ทำร้ายหรือขัดขวางผู้ที่มุ่งสู่ อัล-กะอ์บะฮ์ เพื่อแสวงหาความโปรดปรานจากอัลลอฮ์
Comment: (11)คือหลังจากเสร็จพิธีฮัจญ์และเปลื้องเอี๊ยะห์รอมแล้ว
Comment: (12)หมายถึงมุชริกชาวมักกะฮ์ที่ขัดขวางบรรดามุมินมิให้เข้ามัสยิดฮะรอม เพื่อทำอุมเราะฮ์ ในปีอัลฮุดัยบียะฮ์
Comment: (13)คือทำร้ายพวกเขาในขณะไปประกอบพิธีฮัจญะตุลวะดาอ์
5:3
حُرِّمَتْ عَلَيْكُمُ ٱلْمَيْتَةُ وَٱلدَّمُ وَلَحْمُ ٱلْخِنزِيرِ وَمَآ أُهِلَّ لِغَيْرِ ٱللَّهِ بِهِۦ وَٱلْمُنْخَنِقَةُ وَٱلْمَوْقُوذَةُ وَٱلْمُتَرَدِّيَةُ وَٱلنَّطِيحَةُ وَمَآ أَكَلَ ٱلسَّبُعُ إِلَّا مَا ذَكَّيْتُمْ وَمَا ذُبِحَ عَلَى ٱلنُّصُبِ وَأَن تَسْتَقْسِمُوا۟ بِٱلْأَزْلَـٰمِ ۚ ذَٰلِكُمْ فِسْقٌ ۗ ٱلْيَوْمَ يَئِسَ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ مِن دِينِكُمْ فَلَا تَخْشَوْهُمْ وَٱخْشَوْنِ ۚ ٱلْيَوْمَ أَكْمَلْتُ لَكُمْ دِينَكُمْ وَأَتْمَمْتُ عَلَيْكُمْ نِعْمَتِى وَرَضِيتُ لَكُمُ ٱلْإِسْلَـٰمَ دِينًۭا ۚ فَمَنِ ٱضْطُرَّ فِى مَخْمَصَةٍ غَيْرَ مُتَجَانِفٍۢ لِّإِثْمٍۢ ۙ فَإِنَّ ٱللَّهَ غَفُورٌۭ رَّحِيمٌۭ
Translation: ได้ถูกห้ามแก่พวกเจ้าแล้วซึ่งสัตว์ที่ตายเอง(14) และเลือด(15) และเนื้อสุกร(16) และสัตว์ที่ถูกเปล่งนามอื่นจากอัลลอฮ์ที่มัน(17) (ขณะเชือด) และสัตว์ที่ถูกรัดคอตาย(18) และสัตว์ที่ถูกตีตาย(19) และสัตว์ที่ตกเหวตาย(20) และสัตว์ที่ถูกขวิดตาย(21) และสัตว์ที่สัตว์ร้ายกัดกิน นอกจากที่พวกเจ้าเชือดกัน(22) และสัตว์ที่ถูกเชือดบนแท่นหินบูชา(23) และการที่พวกเจ้าเสี่ยงทายด้วยไม้ติ้ว(24) เหล่านั้นเป็นการละเมิด วันนี้(25) บรรดาผู้ปฏิเสธการศรัทธา(26) หมดหวังในศาสนาของพวกเจ้าแล้ว(27) ดังนั้น พวกเจ้าจงอย่ากลัวพวกเขา และจงกลัวข้าเถิด วันนี้ข้าได้ให้สมบูรณ์แก่พวกเจ้าแล้วซึ่งศาสนาของพวกเจ้า และข้าได้ให้ครบถ้วนแก่พวกเจ้าแล้วซึ่งความกรุณาเมตตาของข้า(28) และข้าได้พอใจอิสลามให้เป็นศาสนาแก่พวกเจ้าแล้วผู้ใดได้รับความคับขันในความหิวโหย(29) โดยมิใช่เป็นผู้จงใจกระทำบาปแล้วไซร้(30) แน่นอนอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ
Comment: (14)คือนอกจากสัตว์น้ำ
Comment: (15)คือเลือดที่ไหลออกขณะที่เชือด ส่วนที่ติดอยู่ในเนื้อนั้นไม่เป็นที่ต้องห้าม
Comment: (16)หมายถึงทุกส่วนในตัวของมันด้วย
Comment: (17)คือกล่าวนามใดก็ตามที่มิใช่นามของอัลลอฮ์ขณะเชือด
Comment: (18)หมายถึงที่ถูกหนีบคอและบีบคอตายด้วย
Comment: (19)หมายถึงที่ถูกทุบตายและขว้างตายด้วย
Comment: (20)หมายถึงที่ตกบ่อตาย หรือจมน้ำตาย
Comment: (21)หมายถึงสัตว์ที่ถูกชนตาย ด้วยจะถูกชนด้วยรถยนต์หรือรถไฟก็ตาม
Comment: (22)คือมันยังมีชีวิตอยู่ในขณะที่เชือด
Comment: (23)แท่นบูชานี้มุชริกมักกะฮ์ได้จัดวางไว้รอบกะอ์บะฮ์ เพื่อเป็นที่เชือดสัตว์บูชาแก่เจว็ดของพวกเขา
Comment: (24)คือดุ้นไม้ที่เหลาคล้ายลูกธนูรวมสามดุ้นด้วยกัน ดุ้นหนึ่งเขียนไว้ว่า “พระเจ้าใช้ฉัน” อีกดุ้นหนึ่งเขียนว่า “พระเจ้าห้ามฉัน” และอีกดุ้นหนึ่งมิได้เขียนอะไรไว้ ถ้าพวกเขาต้องการจะทำสิ่งใด ก็จะทำการเสี่ยงทายด้วยติ้วดังกล่าว ถ้าจับได้ติ้วที่มิได้มีข้อเขียนใด ๆ ก็จะจับใหม่ จนกว่าจะได้ติ้วที่แนะนำให้ทำหรือมิให้ทำ อย่างไรก็ดี เครื่องเสี่ยงทายนั้นมีประเภทอื่น ๆ อีก ซึ่งก็อยู่ภายใต้ข้อห้ามนี้ทั้งหมด
Comment: (25)คือวันอะเราะฟะฮ์ของอัจญะตุลวะดาอ์ ในปีที่ 10 แห่งฮิจเราะฮ์ศักราช
Comment: (26)คือมุชริกชาวมักกะฮ์
Comment: (27)คือหมดหวังที่ให้สาวกของท่านนบีมุฮัมมัดกลับเป็นมุชริกดังเดิม
Comment: (28)หมายถึงให้ท่านนบีได้เข้ายึดครองมักกะฮ์ไว้ได้โดยมิได้เสียเลือดเนื้อ
Comment: (29)คือจำเป็นจะต้องใช้อาหารประเภทต้องห้ามดังกล่าวบริโภคเพื่อประทังชีวิตแล้วก็อนุญาตให้บริโภคได้โดยไม่บาปใดๆ
Comment: (30)คือมิใช่ผู้สร้างสถานการณ์ให้คับขัน โดยมีเจตนาจะบริโภคอาหารที่เป็นที่ต้องห้ามเหล่านั้น
5:4
يَسْـَٔلُونَكَ مَاذَآ أُحِلَّ لَهُمْ ۖ قُلْ أُحِلَّ لَكُمُ ٱلطَّيِّبَـٰتُ ۙ وَمَا عَلَّمْتُم مِّنَ ٱلْجَوَارِحِ مُكَلِّبِينَ تُعَلِّمُونَهُنَّ مِمَّا عَلَّمَكُمُ ٱللَّهُ ۖ فَكُلُوا۟ مِمَّآ أَمْسَكْنَ عَلَيْكُمْ وَٱذْكُرُوا۟ ٱسْمَ ٱللَّهِ عَلَيْهِ ۖ وَٱتَّقُوا۟ ٱللَّهَ ۚ إِنَّ ٱللَّهَ سَرِيعُ ٱلْحِسَابِ
Translation: เขาเหล่านั้นจะถามเจ้าว่า มีอะไรบ้างที่ถูกอนุมัติแก่พวกเขา จงกล่าวเถิด ที่ถูกอนุมัติแพวกเจ้านั้นคือสิ่งดี ๆ ทั้งหลาย(31) และบรรดาสัตว์สำหรับล่าเนื้อที่พวกเจ้าฝึกสอนมัน(32) จากสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงสอนพวกเจ้า พวกเจ้าจงบริโภคจากสิ่งที่มันจับมาให้แก่พวกเจ้า(33) และจงกล่าวพระนามของอัลลอฮ์บนมันเสียก่อน(34) และจงกลัวเกรงอัลลอฮ์เถิด แท้จริงอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงรวดเร็วในการชำระสอบสวน
Comment: (31)คือที่ศาสนาได้กำหนดไว้
Comment: (32)ได้แก่สุนัข เหยี่ยว และเสือดาว เป็นต้น
Comment: (33)คือสอนให้มันไปล่าเนื้อมาให้แก่เจ้าของของมันโดยไม่กัดกินส่วนใดส่วนหนึ่ง
Comment: (34)คือจะอยู่ในสภาพที่ตายหรือเป็นก็ตาม แต่ถ้าเป็นก็ให้เชือด และจะต้องไม่ถูกัดกินส่วนใดส่วนหนึ่ง เพราะถ้าถูกกัดกินแล้วแสดงว่ามันล่ามาสำหรับมัน หรือไม่ก็แย่งจากตัวอื่นมา จึงไม่เป็นที่อนุมัติ
5:5
ٱلْيَوْمَ أُحِلَّ لَكُمُ ٱلطَّيِّبَـٰتُ ۖ وَطَعَامُ ٱلَّذِينَ أُوتُوا۟ ٱلْكِتَـٰبَ حِلٌّۭ لَّكُمْ وَطَعَامُكُمْ حِلٌّۭ لَّهُمْ ۖ وَٱلْمُحْصَنَـٰتُ مِنَ ٱلْمُؤْمِنَـٰتِ وَٱلْمُحْصَنَـٰتُ مِنَ ٱلَّذِينَ أُوتُوا۟ ٱلْكِتَـٰبَ مِن قَبْلِكُمْ إِذَآ ءَاتَيْتُمُوهُنَّ أُجُورَهُنَّ مُحْصِنِينَ غَيْرَ مُسَـٰفِحِينَ وَلَا مُتَّخِذِىٓ أَخْدَانٍۢ ۗ وَمَن يَكْفُرْ بِٱلْإِيمَـٰنِ فَقَدْ حَبِطَ عَمَلُهُۥ وَهُوَ فِى ٱلْـَٔاخِرَةِ مِنَ ٱلْخَـٰسِرِينَ
Translation: วันนี้สิ่งดีๆ ทั้งหลายได้ถูกอนุมัติแก่พวกเจ้าแล้ว และอาหารของบรรดาผู้ที่ได้รับคัมภีร์นั้น(35) เป็นที่อนุมัติแก่พวกเจ้าแล้ว และอาหารของพวกเจ้าก็เป็นที่อนุมัติแก่พวกเขาและบรรดาหญิงบริสุทธิ์(36) ในหมู่ผู้ศรัทธาหญิงและบรรดาหญิงบริสุทธิ์ในหมู่ผู้ที่ได้รับคัมภีร์ก่อน จากพวกเจ้าก็เป็นอนุมัติแก่พวกเจ้าด้วย เมื่อพวกเจ้าได้มอบให้แก่พวกนางซึ่งมะฮัร์ของพวกนางในฐานะเป็นผู้แต่งงานมิใช่เป็นผู้กระทำการซินาโดยเปิดเผย และมิใช่ยึดเอานางเป็นเพื่อน โดยกระทำซินาลับๆ และผู้ใดปฏิเสธการศรัทธา แน่นอนงานของเขาก็ไร้ผล ขณะเดียวกันในวันปรโลกพวกเขาจะอยู่ในหมู่ผู้ที่ขาดทุน
Comment: (35)คือพวกยิวและพวกคริสต์
Comment: (36)คือหญิงอิสระที่มิได้กระทำซินา หรือมิใช่หญิงชั่ว
5:6
يَـٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوٓا۟ إِذَا قُمْتُمْ إِلَى ٱلصَّلَوٰةِ فَٱغْسِلُوا۟ وُجُوهَكُمْ وَأَيْدِيَكُمْ إِلَى ٱلْمَرَافِقِ وَٱمْسَحُوا۟ بِرُءُوسِكُمْ وَأَرْجُلَكُمْ إِلَى ٱلْكَعْبَيْنِ ۚ وَإِن كُنتُمْ جُنُبًۭا فَٱطَّهَّرُوا۟ ۚ وَإِن كُنتُم مَّرْضَىٰٓ أَوْ عَلَىٰ سَفَرٍ أَوْ جَآءَ أَحَدٌۭ مِّنكُم مِّنَ ٱلْغَآئِطِ أَوْ لَـٰمَسْتُمُ ٱلنِّسَآءَ فَلَمْ تَجِدُوا۟ مَآءًۭ فَتَيَمَّمُوا۟ صَعِيدًۭا طَيِّبًۭا فَٱمْسَحُوا۟ بِوُجُوهِكُمْ وَأَيْدِيكُم مِّنْهُ ۚ مَا يُرِيدُ ٱللَّهُ لِيَجْعَلَ عَلَيْكُم مِّنْ حَرَجٍۢ وَلَـٰكِن يُرِيدُ لِيُطَهِّرَكُمْ وَلِيُتِمَّ نِعْمَتَهُۥ عَلَيْكُمْ لَعَلَّكُمْ تَشْكُرُونَ
Translation: ผู้ศรัทธาทั้งหลาย! เมื่อพวกเจ้ายืนขึ้นจะไปละหมาด ก็จงล้างหน้าของพวกเจ้า และมือของพวกเจ้าถึงข้อศอก และจงลูบศีรษะของพวกเจ้า และล้างเท้าของพวกเจ้าถึงตาตุ่มทั้งสอง และหากพวกเจ้ามีญะนาบะฮ์(37) ก็จงชำระร่างกายให้สะอาด(38) และหากพวกเจ้าป่วย หรืออยู่ในการเดินทาง หรือคนใดในหมู่พวกท่านมาจากการถ่ายทุกข์ หรือได้สัมผัสหญิงมา(39) แล้วพวกเจ้าไม่พบน้ำก็จงมุ่งสู่ดินที่ดี(40) แล้วลูบใบหน้าของพวกเจ้า และมือของพวกเจ้า(41) จากดินนั้น อัลลอฮ์นั้นไม่ทรงประสงค์เพื่อจะให้มีความลำบากใดๆ แก่พวกเจ้า แต่ทว่าทรงประสงค์ที่จะให้พวกเจ้าสะอาด และเพื่อให้ความกรุณาเมตตาของพระองค์ครบถ้วนแก่พวกเจ้า เพื่อว่าพวกเจ้าจักขอบคุณ
Comment: (37)คือจะด้วยการสมสู่กับภริยาหรือมีอสุจิหลั่งออกด้วยเหตุใดก็ตาม
Comment: (38)คืออาบน้ำญะนาบะฮ์
Comment: (39)หมายถึงสมสู่กับภริยา
Comment: (40)คือดินที่สะอาดและแห้งเพื่อทำ “ตะยัมมุม” โดยใช้ฝ่ามือทั้งสองตบลงยังพื้นดินแล้วลูบหน้าและมือทั้งสอง
Comment: (41)วิธีทำตะยัมมุมนี้มีสองแบบคือ 1. ใช้ฝ่ามือทั้งสองตบลงบนพื้นดินครั้งเดียวแล้วลูบหน้า และหลังมือทั้งสองถึงข้อมือ โดยเริ่มลูบหลังมือขวาก่อน แล้วลูบหลังมือซ้าย 2. ตบมือทั้งสองลงบนพื้นดินสองครั้ง ครั้งแรกลูบหน้า ครั้งที่สองลูบหลังมือตลอดข้อศอก แล้วลูบกลับมาบนท้องแขนถึงข้อมือ ทั้งนี้โดยเริ่มลูบมือขวาก่อน
5:7
وَٱذْكُرُوا۟ نِعْمَةَ ٱللَّهِ عَلَيْكُمْ وَمِيثَـٰقَهُ ٱلَّذِى وَاثَقَكُم بِهِۦٓ إِذْ قُلْتُمْ سَمِعْنَا وَأَطَعْنَا ۖ وَٱتَّقُوا۟ ٱللَّهَ ۚ إِنَّ ٱللَّهَ عَلِيمٌۢ بِذَاتِ ٱلصُّدُورِ
Translation: และจงรำลึกถึงความกรุณาเมตตาของอัลลอฮ์ที่มีต่อพวกเจ้า และสัญญาของพระองค์ที่ได้ทรงกระทำมันไว้แก่พวกเจ้า ขณะที่พวกเจ้ากล่าวว่า พวกเราได้ยินแล้ว และพวกเราเชื่อฟังแล้ว และพึงยำเกรงอัลลอฮ์เถิด แท้จริง อัลลอฮ์นั้นทรงรอบรู้ถึงสิ่งที่อยู่ในทรวงอก
5:8
يَـٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ كُونُوا۟ قَوَّٰمِينَ لِلَّهِ شُهَدَآءَ بِٱلْقِسْطِ ۖ وَلَا يَجْرِمَنَّكُمْ شَنَـَٔانُ قَوْمٍ عَلَىٰٓ أَلَّا تَعْدِلُوا۟ ۚ ٱعْدِلُوا۟ هُوَ أَقْرَبُ لِلتَّقْوَىٰ ۖ وَٱتَّقُوا۟ ٱللَّهَ ۚ إِنَّ ٱللَّهَ خَبِيرٌۢ بِمَا تَعْمَلُونَ
Translation: ผู้ศรัทธาทั้งหลาย! จงเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยดีเพื่ออัลลอฮ์เป็นพยานด้วยความเที่ยงธรรมและจงอย่าให้การเกลียดชังพวกหนึ่งพวกใดทำให้พวกเจ้าไม่ยุติธรรม จงยุติธรรมเถิด มันเป็นสิ่งที่ใกล้กับความยำเกรงยิ่งกว่า และพึงยำเกรงอัลลอฮ์เถิด แท้จริง อัลลอฮ์เป็นผู้ทรงรอบรู้อย่างละเอียดในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำกัน
5:9
وَعَدَ ٱللَّهُ ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ وَعَمِلُوا۟ ٱلصَّـٰلِحَـٰتِ ۙ لَهُم مَّغْفِرَةٌۭ وَأَجْرٌ عَظِيمٌۭ
Translation: และอัลลอฮ์ได้ทรงสัญญาแก่บรรดาผู้ที่ศรัทธา และประกอบสิ่งที่ดีงามทั้งหลายว่า สำหรับพวกเขาคือ(ได้รับ) การอภัยโทษ และรางวัลอันยิ่งใหญ่
5:10
وَٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ وَكَذَّبُوا۟ بِـَٔايَـٰتِنَآ أُو۟لَـٰٓئِكَ أَصْحَـٰبُ ٱلْجَحِيمِ
Translation: และบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธา และปฏิเสธบรรดาโองการของเรานั้น ชนเหล่านี้แหละคือชาวนรก
5:11
يَـٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ ٱذْكُرُوا۟ نِعْمَتَ ٱللَّهِ عَلَيْكُمْ إِذْ هَمَّ قَوْمٌ أَن يَبْسُطُوٓا۟ إِلَيْكُمْ أَيْدِيَهُمْ فَكَفَّ أَيْدِيَهُمْ عَنكُمْ ۖ وَٱتَّقُوا۟ ٱللَّهَ ۚ وَعَلَى ٱللَّهِ فَلْيَتَوَكَّلِ ٱلْمُؤْمِنُونَ
Translation: ผู้ศรัทธาทั้งหลาย! จงรำลึกถึงความกรุณาของอัลลอฮ์ที่มีต่อพวกเจ้า ขณะที่พวกหนึ่งปลงใจที่จะยื่นมือของพวกเขามาทำร้ายพวกเจ้าแล้วพระองค์ก็ทรงยับยั้ง(และหันเหมือนพวกเขาออก)จากพวกเจ้าเสีย และพึงยำเกรงอัลลอฮ์เถิด และแต่อัลลอฮ์เท่านั้น ผู้ศรัทธาทั้งหลายจงมอบหมาย
5:12
۞ وَلَقَدْ أَخَذَ ٱللَّهُ مِيثَـٰقَ بَنِىٓ إِسْرَٰٓءِيلَ وَبَعَثْنَا مِنْهُمُ ٱثْنَىْ عَشَرَ نَقِيبًۭا ۖ وَقَالَ ٱللَّهُ إِنِّى مَعَكُمْ ۖ لَئِنْ أَقَمْتُمُ ٱلصَّلَوٰةَ وَءَاتَيْتُمُ ٱلزَّكَوٰةَ وَءَامَنتُم بِرُسُلِى وَعَزَّرْتُمُوهُمْ وَأَقْرَضْتُمُ ٱللَّهَ قَرْضًا حَسَنًۭا لَّأُكَفِّرَنَّ عَنكُمْ سَيِّـَٔاتِكُمْ وَلَأُدْخِلَنَّكُمْ جَنَّـٰتٍۢ تَجْرِى مِن تَحْتِهَا ٱلْأَنْهَـٰرُ ۚ فَمَن كَفَرَ بَعْدَ ذَٰلِكَ مِنكُمْ فَقَدْ ضَلَّ سَوَآءَ ٱلسَّبِيلِ
Translation: และแท้จริง อัลลอฮ์ได้ทรงเอาสัญญาแก่วงศ์วานอิสรออีล(42) และเราได้แต่งตั้งผู้ดูแลจากหมู่พวกเขาขึ้นสิบสองคน(43) และอัลลอฮ์ได้ทรงตรัสว่า(44) แท้จริง ข้านั้นร่วมอยู่ด้วยกับพวกเจ้า ถ้าหากพวกเจ้าดำรงไว้ซึ่งการละหมาด และชำระซะกาต และศรัทธาต่อบรรดาร่อซูลของข้า และสนับสนุนพวกเขา และให้อัลลอฮ์ยืมหนี้ที่ดี(45) แล้ว แน่นอนข้าจะลบล้างให้พ้นจากพวกเจ้า ซึ่งความชั่วทั้งหลายของพวกเจ้า และแน่นอนข้าจะให้พวกเจ้าเข้าบรรดาสวนสวรรค์ ซึ่งมีแม่น้ำหลายสายไหลอยู่เบื้องล่างของสวนสวรรค์เหล่านั้น แล้วผู้ใดในหมู่พวกเจ้าปฏิเสธ(46) หลังจากนั้นแล้ว แท้จริงเขาก็หลงทางอันเที่ยงตรง
Comment: (42)คือเอาสัญญาแก่พวกเขาว่า ให้พวกเขาปฏิบัติตามบัญญัติที่อยู่ในคัมภีร์อัตเตารอต
Comment: (43)คือหัวหน้าเผ่าในหมู่พวกเขาสิบสองเผ่าด้วยกัน
Comment: (44)คือทรงตรัสแก่ท่านนบีมูซา
Comment: (45)หมายถึงให้บริจาคทรัพย์ไปในทางของพระองค์ โดยที่พระองค์จะทรงชดเชยให้ถึงเจ็ดร้อยเท่า
Comment: (46)คือปฏิเสธสัญญาที่ให้ไว้แก่อัลลอฮ์
5:13
فَبِمَا نَقْضِهِم مِّيثَـٰقَهُمْ لَعَنَّـٰهُمْ وَجَعَلْنَا قُلُوبَهُمْ قَـٰسِيَةًۭ ۖ يُحَرِّفُونَ ٱلْكَلِمَ عَن مَّوَاضِعِهِۦ ۙ وَنَسُوا۟ حَظًّۭا مِّمَّا ذُكِّرُوا۟ بِهِۦ ۚ وَلَا تَزَالُ تَطَّلِعُ عَلَىٰ خَآئِنَةٍۢ مِّنْهُمْ إِلَّا قَلِيلًۭا مِّنْهُمْ ۖ فَٱعْفُ عَنْهُمْ وَٱصْفَحْ ۚ إِنَّ ٱللَّهَ يُحِبُّ ٱلْمُحْسِنِينَ
Translation: แต่เนื่องจากการที่พวกเขาทำลายสัญญาของพวกเขา เราจึงได้ให้พวกเขาห่างไกลจากความกรุณาเมตตาของเราและให้หัวใจของพวกเขาแข็งกระด้าง พวกเขากระทำการบิดเบือน บรรดาถ้อยคำให้เฉออกจากตำแหน่งของมัน(47) และลืมส่วนหนึ่งจากสิ่งที่พวกเขาถูกเตือนไว้(48) และเจ้า(49) ก็ยังคงมองเห็นอยู่ในการคดโกงจากพวกเขานอกจากเพียงเล็กน้อยในหมู่พวกเขาเท่านั้น จงอภัยให้แก่พวกเขาเถิด และเมินหน้าเสีย(50) แท้จริงอัลลอฮ์ทรงรักผู้ทำดีทั้งหลาย
Comment: (47)คือบิดเบือนให้เฉออกจากาความหมายเดิม
Comment: (48)คือถูกเตือนให้ศรัทธาต่อท่านนบีมุฮัมมัด
Comment: (49)หมายถึงท่านนบีมุฮัมมัด
Comment: (50)คือทำเป็นเสมือนไม่รู้ไม่เห็น
5:14
وَمِنَ ٱلَّذِينَ قَالُوٓا۟ إِنَّا نَصَـٰرَىٰٓ أَخَذْنَا مِيثَـٰقَهُمْ فَنَسُوا۟ حَظًّۭا مِّمَّا ذُكِّرُوا۟ بِهِۦ فَأَغْرَيْنَا بَيْنَهُمُ ٱلْعَدَاوَةَ وَٱلْبَغْضَآءَ إِلَىٰ يَوْمِ ٱلْقِيَـٰمَةِ ۚ وَسَوْفَ يُنَبِّئُهُمُ ٱللَّهُ بِمَا كَانُوا۟ يَصْنَعُونَ
Translation: และจากบรรดาผู้ที่กล่าวว่า พวกเราเป็นคริสต์นั้น เราได้เอาสัญญาจากพวกเขา แต่แล้วพวกเขาก็ลืมส่วนหนึ่งจากสิ่งที่พวกเขาถูกเตือนไว้(51) เราจึงได้ให้เกิดขึ้นระหว่างพวกเขาซึ่งการเป็นศัตรู และการเกลียดชังกันจนกระทั่งวันกิยามะฮ์ และอัลลอฮ์จะทรงบอกเขาเหล่านั้นถึงสิ่งที่เขาเหล่านั้นได้กระทำมาก่อน
Comment: (51)คือถูกเตือนให้ศรัทธาต่อท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
5:15
يَـٰٓأَهْلَ ٱلْكِتَـٰبِ قَدْ جَآءَكُمْ رَسُولُنَا يُبَيِّنُ لَكُمْ كَثِيرًۭا مِّمَّا كُنتُمْ تُخْفُونَ مِنَ ٱلْكِتَـٰبِ وَيَعْفُوا۟ عَن كَثِيرٍۢ ۚ قَدْ جَآءَكُم مِّنَ ٱللَّهِ نُورٌۭ وَكِتَـٰبٌۭ مُّبِينٌۭ
Translation: บรรดาผู้ได้รับคัมภีร์ทั้งหลาย!(52) แท้จริงร่อซูลของเรา(53) ได้มายังพวกเจ้าแล้ว โดยที่เขาจะแจกแจงแก่พวกเจ้ามากมายจากสิ่งที่พวกเจ้าปกปิดไว้จากคัมภีร์(54) และเขาจะระงับไว้มากมาย(55) แท้จริงแสงสว่างจากอัลลอฮ์และคัมภีร์อันชัดแจ้งนั้นได้มายังพวกเจ้าแล้ว
Comment: (52)หมายถึงพวกยิวและคริสต์
Comment: (53)หมายถึงท่านนบีมุฮัมมัด
Comment: (54)อันได้แก่ลักษณะของท่านนบีมุฮัมมัดและการลงโทษผู้ทำซินา โดยการขว้างด้วยหินจนตาย เป็นต้น
Comment: (55)คือไม่บอกกล่าวสิ่งที่พวกเขาปกปิดไว้
5:16
يَهْدِى بِهِ ٱللَّهُ مَنِ ٱتَّبَعَ رِضْوَٰنَهُۥ سُبُلَ ٱلسَّلَـٰمِ وَيُخْرِجُهُم مِّنَ ٱلظُّلُمَـٰتِ إِلَى ٱلنُّورِ بِإِذْنِهِۦ وَيَهْدِيهِمْ إِلَىٰ صِرَٰطٍۢ مُّسْتَقِيمٍۢ
Translation: ด้วยคัมภีร์นั้นแหละ อัลลอฮ์จะทรงแนะนำผู้ที่ปฏิบัติตามความพึงพระทัยของพระองค์(56) ซึ่งบรรดาทางแห่งความปลอดภัย(57) และจะทรงให้พวกเขาออกจากความมืดไปสู่แสงสว่างด้วยอนุมัติของอัลลอฮ์และจะทรงแนะนำพวกเขาสู่ทางอันเที่ยงตรง
Comment: (56)คือปฏิบัติตามสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์
Comment: (57)คือปราศจากความหวาดกลัวใด ๆ ทั้งสิ้น
5:17
لَّقَدْ كَفَرَ ٱلَّذِينَ قَالُوٓا۟ إِنَّ ٱللَّهَ هُوَ ٱلْمَسِيحُ ٱبْنُ مَرْيَمَ ۚ قُلْ فَمَن يَمْلِكُ مِنَ ٱللَّهِ شَيْـًٔا إِنْ أَرَادَ أَن يُهْلِكَ ٱلْمَسِيحَ ٱبْنَ مَرْيَمَ وَأُمَّهُۥ وَمَن فِى ٱلْأَرْضِ جَمِيعًۭا ۗ وَلِلَّهِ مُلْكُ ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضِ وَمَا بَيْنَهُمَا ۚ يَخْلُقُ مَا يَشَآءُ ۚ وَٱللَّهُ عَلَىٰ كُلِّ شَىْءٍۢ قَدِيرٌۭ
Translation: แน่นอน บรรดาผู้ืั้ปฏิเสธศรัทธากล่าวว่า แท้จริงอัลลอฮ์คือ อัลมะซีห์(58) บุตรของมัรยัม จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ก็ใครเล่าที่จะมีอำนาจครอบครองสิ่งของ(59) จากอัลลอฮ์ได้ หากพระองค์ทรงประสงค์ที่จะทำลายอัลมะซีห์ บุตรของมัรยัม และมารดาของเขา และผู้ที่อยู่ในแผ่นดินทั้งหมด และอำนาจแห่งบรรดาชั้นฟ้า และแผ่นดินและสิ่งที่อยู่ในระหว่างทั้งสองนั้นเป็นสิทธิของอัลลอฮ์เท่านั้น โดยที่พระองค์จะบังเกิดตามที่พระองค์ทรงประสงค์ และอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง
Comment: (58)หมายถึงท่านนบีอีซา
Comment: (59)หมายถึงอำนาจของพระองค์ กล่าวคือไม่มีผู้ใดที่จะยับยั้งอำนาจของพระองค์ได้
5:18
وَقَالَتِ ٱلْيَهُودُ وَٱلنَّصَـٰرَىٰ نَحْنُ أَبْنَـٰٓؤُا۟ ٱللَّهِ وَأَحِبَّـٰٓؤُهُۥ ۚ قُلْ فَلِمَ يُعَذِّبُكُم بِذُنُوبِكُم ۖ بَلْ أَنتُم بَشَرٌۭ مِّمَّنْ خَلَقَ ۚ يَغْفِرُ لِمَن يَشَآءُ وَيُعَذِّبُ مَن يَشَآءُ ۚ وَلِلَّهِ مُلْكُ ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضِ وَمَا بَيْنَهُمَا ۖ وَإِلَيْهِ ٱلْمَصِيرُ
Translation: และบรรดาชาวยิวและชาวคริสต์ได้กล่าวว่า พวกเราคือบุตรของอัลลอฮ์และเป็นที่รักใคร่ของพระองค์ จงกล่าวเถิด (มุฮัดมัด) แล้วไฉนเล่าพระองค์จึงทรงลงโทษพวกท่าน เนื่องด้วยความผิดทั้งหลายของพวกท่าน มิใช่เช่นนั้นดอก พวกท่านเป็นสามัญชนในหมู่ผู้ที่พระองค์ทรงบังเกิดมาต่างหาก ซึ่งพระองค์จะทรงอภัยโทษแก่ผู้ที่พระงอค์ทรงประสงค์ และอำนาจแห่งบรรดาชั้นฟ้า และแผ่นดิน และสิ่งที่อยู่ในระหว่างทั้งสองนั้น เป็นสิทธิของอัลลอฮ์เท่านั้น และยังพระองค์นั้นคือการกลับไป
5:19
يَـٰٓأَهْلَ ٱلْكِتَـٰبِ قَدْ جَآءَكُمْ رَسُولُنَا يُبَيِّنُ لَكُمْ عَلَىٰ فَتْرَةٍۢ مِّنَ ٱلرُّسُلِ أَن تَقُولُوا۟ مَا جَآءَنَا مِنۢ بَشِيرٍۢ وَلَا نَذِيرٍۢ ۖ فَقَدْ جَآءَكُم بَشِيرٌۭ وَنَذِيرٌۭ ۗ وَٱللَّهُ عَلَىٰ كُلِّ شَىْءٍۢ قَدِيرٌۭ
Translation: บรรดาผู้ได้รับคัมภีร์ทั้งหลาย! แท้จริงร่อซูล(60) ของเราได้มายังพวกเจ้าแล้ว โดยที่เขาจะได้ชี้แจงแก่พวกเจ้า(61) ตามวาระสมัยที่ได้ว่างเว้นบรรดาร่อซูล(62) ทั้งนี้เนื่องจากการที่พวกเจ้าจะกล่าวว่า มิได้มีผู้แจ้งข่าวดีคนใด และผู้ตักเตือนคนใดมายังพวกเรา แท้จริงได้มีผู้แจ้งข่าวดีและผู้ตักเตือนมายังพวกเจ้าแล้ว และอัลลอฮ์นั้นทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง
Comment: (60)หมายถึงท่านนบีมุฮัมมัด
Comment: (61)คือให้รู้ถึงหน้าที่และสิทธิต่าง ๆ ที่พวกเจ้าพึงปฏิบัติ ทั้งที่เกี่ยวกับพระเจ้าของพวกเจ้า และเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
Comment: (62)คือได้ว่างเว้นร่อซูลมาเป็นเวลา 560 ปี นับตั้งแต่ท่านนบีอีซาเป็นต้นมา
5:20
وَإِذْ قَالَ مُوسَىٰ لِقَوْمِهِۦ يَـٰقَوْمِ ٱذْكُرُوا۟ نِعْمَةَ ٱللَّهِ عَلَيْكُمْ إِذْ جَعَلَ فِيكُمْ أَنۢبِيَآءَ وَجَعَلَكُم مُّلُوكًۭا وَءَاتَىٰكُم مَّا لَمْ يُؤْتِ أَحَدًۭا مِّنَ ٱلْعَـٰلَمِينَ
Translation: และจงรำลึกถึงขณะที่มูซาได้กล่าวแก่ประชาชาติของเขาว่า โอ้ประชาชาติของฉัน! พึงรำลึกถึงความกรุณาเมตตาของอัลลอฮ์ที่มีแด่พวกท่านเถิด เพราะว่าพระองค์ได้ทรงให้มีบรรดานบีขึ้นในหมู่พวกท่าน และได้ทรงให้พวกท่านเป็นกษัตริย์ และได้ทรงประทานแก่พวกท่าน สิ่งที่มิได้ทรงประทานให้แก่ผู้ใดในหมู่ประชาชาติทั้งหลาย(63)
Comment: (63)คือได้แก่การให้น้ำในทะเลแดงแยกออกเป็นทางเดินเพื่อหนีการตามล่าของฟิรเอาน์ ขณะเดียวกันก็ให้ฟิรเอาน์ และไพร่พลของเขาจมน้ำตาย การให้น้ำตาลฟ้าตกลงมาเป็นของหวานและให้นกคุ้มเป็นอาหารขณะอยู่ในทะเลทรายและให้เมฆบดบังแสงแดด
5:21
يَـٰقَوْمِ ٱدْخُلُوا۟ ٱلْأَرْضَ ٱلْمُقَدَّسَةَ ٱلَّتِى كَتَبَ ٱللَّهُ لَكُمْ وَلَا تَرْتَدُّوا۟ عَلَىٰٓ أَدْبَارِكُمْ فَتَنقَلِبُوا۟ خَـٰسِرِينَ
Translation: โอ้ประชาชาติของฉัน! จงเข้าไปในแผ่นดินอันบริสุทธิ์(64) ที่อัลลอฮ์ได้ทรงกำหนดให้แก่พวกท่านเถิด และจงอย่าหันหลังของพวกท่านกลับ(65) เพราะจะทำให้พวกท่านกลับกลายเป็นผู้ขาดทุน
Comment: (64)คือแคว้นกันอานในเขตปาเลสไตน์
Comment: (65)คืออย่าหันหลังหนีกลับโดยไม่กล้าต่อสู้กับชาวกันอานผู้เป็นเจ้าของถิ่น
5:22
قَالُوا۟ يَـٰمُوسَىٰٓ إِنَّ فِيهَا قَوْمًۭا جَبَّارِينَ وَإِنَّا لَن نَّدْخُلَهَا حَتَّىٰ يَخْرُجُوا۟ مِنْهَا فَإِن يَخْرُجُوا۟ مِنْهَا فَإِنَّا دَٰخِلُونَ
Translation: พวกเขากล่าวว่า โอ้มูซา แท้จริงในแผ่นดินอันบริสุทธิ์นั้นมีพวกที่เหี้ยมโหด(66) และพวกเราจะไม่เข้าไปในแผ่นดินนั้นเป็นอันขาด จนกว่าพวกเขาจะออกไปจากที่นั้น แต่ถ้าพวกเขาออกไปจากที่นั้นแล้ว พวกเราจึงจะเป็นผู้เข้าไป
Comment: (66)คือชาวกันอานซึ่งมีร่างกายแข็งแรงกล้าหาญ
5:23
قَالَ رَجُلَانِ مِنَ ٱلَّذِينَ يَخَافُونَ أَنْعَمَ ٱللَّهُ عَلَيْهِمَا ٱدْخُلُوا۟ عَلَيْهِمُ ٱلْبَابَ فَإِذَا دَخَلْتُمُوهُ فَإِنَّكُمْ غَـٰلِبُونَ ۚ وَعَلَى ٱللَّهِ فَتَوَكَّلُوٓا۟ إِن كُنتُم مُّؤْمِنِينَ
Translation: มีชายสองคนในหมู่ผู้ยำเกรงที่อัลลอฮ์ได้ทรงกรุณาเมตตาแก่เขาทั้งสองได้กล่าวว่าพวกท่านจงเข้าประตูนั้น(67) ไปเผชิญหน้ากับพวกเขาเถิด ครั้นเมื่อพวกท่านเข้าประตูนั้นไปแล้ว แน่นอน พวกท่านจะเป็นผู้ชนะ และแด่อัลลอฮ์นั้นพวกเจ้าจงมอบหมายเถิด หากพวกท่านเป็นผู้ศรัทธา
Comment: (67)คือประตูเมืองกันอาน
5:24
قَالُوا۟ يَـٰمُوسَىٰٓ إِنَّا لَن نَّدْخُلَهَآ أَبَدًۭا مَّا دَامُوا۟ فِيهَا ۖ فَٱذْهَبْ أَنتَ وَرَبُّكَ فَقَـٰتِلَآ إِنَّا هَـٰهُنَا قَـٰعِدُونَ
Translation: พวกเขากล่าวว่า โอ้มูซา! แท้จริงพวกเราจะไม่เข้าไปที่นั้นโดยเด็ดขาดตราบใดที่พวกเขา(68) ยังคงอยู่ที่นั้น ดังนั้น ท่านและพระเจ้าของท่านจงไปเถิด แล้วจงต่อสู้(69) พวกเราจะนั่งกันอยู่ที่นี่
Comment: (68)คือชาวเมืองกันอาน
Comment: (69)คือต่อสู้กับชาวเมือง
5:25
قَالَ رَبِّ إِنِّى لَآ أَمْلِكُ إِلَّا نَفْسِى وَأَخِى ۖ فَٱفْرُقْ بَيْنَنَا وَبَيْنَ ٱلْقَوْمِ ٱلْفَـٰسِقِينَ
Translation: เขา(70) กล่าวว่า โอ้พระเจ้าแห่งข้าพระองค์ แท้จริง ข้าพระองค์ไม่มีอำนาจ(71) นอกจากตัวของข้าพระองค์เองและพี่ชายของข้าพระองค์(72) เท่านั้น ดังนั้นโปรดได้แยกระหว่างเรา กับประชาชาติผู้ละเมิดด้วยเถิด
Comment: (70)คือท่านนบีมูซา
Comment: (71)คือไม่มีอำนาจที่บังคับวงศ์วานอิสรออีลได้
Comment: (72)คือนบีฮารูน
5:26
قَالَ فَإِنَّهَا مُحَرَّمَةٌ عَلَيْهِمْ ۛ أَرْبَعِينَ سَنَةًۭ ۛ يَتِيهُونَ فِى ٱلْأَرْضِ ۚ فَلَا تَأْسَ عَلَى ٱلْقَوْمِ ٱلْفَـٰسِقِينَ
Translation: พระองค์ตรัสว่า แท้จริง แผ่นดินนั้น(73) เป็นที่ต้องห้ามแก่พวกเขา(74) สี่สิบปี ซึ่งพวกเขาจะระเหเร่ร่อนไปในผืนแผ่นดิน(75) ดังนั้นเจ้าจงอย่าเสียใจให้แก่ประชาชาติผู้ละเมิดเหล่านั้นเลย
Comment: (73)คือแผ่นดินอันบริสุทธิ์
Comment: (74)คือพวกวงศ์วานอิสรออีล
Comment: (75)หมายถึงในทะเลทราย
5:27
۞ وَٱتْلُ عَلَيْهِمْ نَبَأَ ٱبْنَىْ ءَادَمَ بِٱلْحَقِّ إِذْ قَرَّبَا قُرْبَانًۭا فَتُقُبِّلَ مِنْ أَحَدِهِمَا وَلَمْ يُتَقَبَّلْ مِنَ ٱلْـَٔاخَرِ قَالَ لَأَقْتُلَنَّكَ ۖ قَالَ إِنَّمَا يَتَقَبَّلُ ٱللَّهُ مِنَ ٱلْمُتَّقِينَ
Translation: และเจ้าจงอ่านให้พวกเขา(76) ฟัง ซึ่งข่าวคราวเกี่ยวกับบุตรชายสองคน(77) ของอาดัมตามความเป็นจริง ขณะที่ทั้งสองได้กระทำการพลีซึ่งสิ่งพลี(78) อยู่นั้น แล้วสิ่งพลีนั้นก็ถูกรับจากคนหนึ่งในสองคน(79) และมันมิได้ถูกรับจากอีกคนหนึ่ง(80) เขา(81) จึงได้กล่าวว่า แน่นอนข้าจะฆ่าเจ้า(82)เขา(83) กล่าวว่า แท้จริง อัลลอฮ์จะทรงรับจากหมู่ผู้มีความยำเกรงเท่านั้น
Comment: (76)คือให้วงศ์วานอิสรออีล
Comment: (77)คือกอบีล และฮาบีล
Comment: (78)สิ่งพลีของกอบีลผู้เป็นพี่นั้นคือผลผลิตจากพืชเพราะเป็นผู้ทำไร่ ส่วนสิ่งพลีของฮาบีลนั้นคือแกะเพราะเป็นผู้เลี้ยงแกะ
Comment: (79)คือถูกรับจากฮาบีล
Comment: (80)คือไม่ถูกรับจากกอบีล
Comment: (81)คือกอบีล
Comment: (82)คือฆ่าฮาบีล
Comment: (83)คือฮาบีล
5:28
لَئِنۢ بَسَطتَ إِلَىَّ يَدَكَ لِتَقْتُلَنِى مَآ أَنَا۠ بِبَاسِطٍۢ يَدِىَ إِلَيْكَ لِأَقْتُلَكَ ۖ إِنِّىٓ أَخَافُ ٱللَّهَ رَبَّ ٱلْعَـٰلَمِينَ
Translation: หากท่าน(84) ยื่นมือของท่านมายังฉัน(85) เพื่อจะฆ่าฉัน ฉันก็จะไม่ยื่นมือของฉันไปยังท่าน เพื่อจะฆ่าท่าน แท้จริงฉันกลัวอัลลอฮ์ผู้เป็นพระเจ้าแห่งสากลโลก
Comment: (84)คือกอบีล
Comment: (85)คือฮาบีล
5:29
إِنِّىٓ أُرِيدُ أَن تَبُوٓأَ بِإِثْمِى وَإِثْمِكَ فَتَكُونَ مِنْ أَصْحَـٰبِ ٱلنَّارِ ۚ وَذَٰلِكَ جَزَٰٓؤُا۟ ٱلظَّـٰلِمِينَ
Translation: แท้จริง ฉันต้องการที่จะให้ท่านนำบาปของฉันและบาปของท่านกลับไป(86) แล้วท่านก็จะกลายเป็นคนหนึ่งในหมู่ชาวนรก และนั่นแหละคือการตอบแทนแก่บรรดาผู้อธรรม
Comment: (86)คือนำกลับไปยังอัลลอฮ์ ในวันปรโลก เพื่อรับการลงโทษจากพระองค์ ในเรื่องนี้บรรดามุฟัซซิรีนให้ความหมายว่า “ฉันต้องการที่จะให้ท่านนำบาปที่ฆ่าฉัน และบาปท่านเองกลับไป”
5:30
فَطَوَّعَتْ لَهُۥ نَفْسُهُۥ قَتْلَ أَخِيهِ فَقَتَلَهُۥ فَأَصْبَحَ مِنَ ٱلْخَـٰسِرِينَ
Translation: แล้วจิตใจของเขา(87) ก็คล้อยตามเขาในการที่จะฆ่าน้องชายของเขา แล้วเขาก็ฆ่าน้องชายของเขา ดังนั้นเขาจึงได้กลายเป็นคนหนึ่งในหมู่ผู้ขาดทุน
Comment: (87)คือของกอบิล
5:31
فَبَعَثَ ٱللَّهُ غُرَابًۭا يَبْحَثُ فِى ٱلْأَرْضِ لِيُرِيَهُۥ كَيْفَ يُوَٰرِى سَوْءَةَ أَخِيهِ ۚ قَالَ يَـٰوَيْلَتَىٰٓ أَعَجَزْتُ أَنْ أَكُونَ مِثْلَ هَـٰذَا ٱلْغُرَابِ فَأُوَٰرِىَ سَوْءَةَ أَخِى ۖ فَأَصْبَحَ مِنَ ٱلنَّـٰدِمِينَ
Translation: แล้วอัลลอฮ์ก็ได้ส่งกาตัวหนึ่งมาคุ้ยหาในดิน(88) เพื่อที่จะให้เขาเห็นว่าเขาจะกลบศพน้องชายของเขาอย่างไร เขากล่าวว่า โอ้ความพินาศของฉัน(89) ฉันไม่สามารถที่จะเป็นเช่นกาตัวนี้เชียวหรือนี่? แล้วกลบศพน้องชายของฉันแล้วเขาก็กลายเป็นคนหนึ่งในหมู่ผู้ตรอมใจ
Comment: (88)คือทำประหนึ่งคุ้ยหาอาหารกิน จนกระทั่งเป็นหลุมลึก
Comment: (89)คือเรียกความพินาศของตนให้มาทำลายตนเสีย เพราะถึงเวลาที่ตนควรจะพินาศได้แล้ว ดังกล่าวนี้เป็นถ้อยคำที่แสดงถึงความเศร้าใจ และสังเวชในตัวเอง
5:32
مِنْ أَجْلِ ذَٰلِكَ كَتَبْنَا عَلَىٰ بَنِىٓ إِسْرَٰٓءِيلَ أَنَّهُۥ مَن قَتَلَ نَفْسًۢا بِغَيْرِ نَفْسٍ أَوْ فَسَادٍۢ فِى ٱلْأَرْضِ فَكَأَنَّمَا قَتَلَ ٱلنَّاسَ جَمِيعًۭا وَمَنْ أَحْيَاهَا فَكَأَنَّمَآ أَحْيَا ٱلنَّاسَ جَمِيعًۭا ۚ وَلَقَدْ جَآءَتْهُمْ رُسُلُنَا بِٱلْبَيِّنَـٰتِ ثُمَّ إِنَّ كَثِيرًۭا مِّنْهُم بَعْدَ ذَٰلِكَ فِى ٱلْأَرْضِ لَمُسْرِفُونَ
Translation: เนื่องจากเหตุนั้นแหละ เราจึงได้บัญญัติแก่วงศ์วาน อิสรออีลว่า แท้จริงผู้ใดฆ่าชีวิตหนึ่งโดยมิใช่เป็นการชดเชยอีกชีวิตหนึ่ง หรือมิใช่เนื่องจากกการบ่อนทำลายในแผ่นดินแล้วก็ประหนึ่ง่าเขาได้ฆ่ามนุษย์ทั้งมวล และแท้จริงนั้นบรรดาร่อซูลของเราได้นำหลักฐานต่างๆ อันชัดแจ้งมายังพวกเขาแล้ว แล้วได้มีจำนวนมากมายในหมู่พวกเขาเป็นผู้ฟุ่มเฟือยในแผ่นดิน(90)
Comment: (90)หมายถึงทำการฆ่าฟันกันอย่างมากมาย และฝ่าฝืนบทบัญญัติศาสนาด้วย
5:33
إِنَّمَا جَزَٰٓؤُا۟ ٱلَّذِينَ يُحَارِبُونَ ٱللَّهَ وَرَسُولَهُۥ وَيَسْعَوْنَ فِى ٱلْأَرْضِ فَسَادًا أَن يُقَتَّلُوٓا۟ أَوْ يُصَلَّبُوٓا۟ أَوْ تُقَطَّعَ أَيْدِيهِمْ وَأَرْجُلُهُم مِّنْ خِلَـٰفٍ أَوْ يُنفَوْا۟ مِنَ ٱلْأَرْضِ ۚ ذَٰلِكَ لَهُمْ خِزْىٌۭ فِى ٱلدُّنْيَا ۖ وَلَهُمْ فِى ٱلْـَٔاخِرَةِ عَذَابٌ عَظِيمٌ
Translation: แท้จริง การตอบแทนแก่บรรดาผู้ที่ทำสงครามต่ออัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์ และพยายามบ่อนทำลายในแผ่นดิน(91) ก็คือการที่พวกเขาจะถูกฆ่า หรือถูกตรึงบนไม่กางเขน หรือมือของพวกเขาและเท้าของพวกเขาจะถูกตัดสลับข้าง(92) หรือถูกเนรเทศออกไปจากแผ่นดินนั้นสำหรับพวกเขาจะได้รับความอัปยศในโลกนี้ และจะได้รับการลงโทษอันใหญ่หลวงในอาคิเราะฮ์ (ปรโลก)(93)
Comment: (91)หมายถึงการปล้นสะดม หรือดักจี้ระหว่างทาง
Comment: (92)คือมือขวา และเท้าซ้าย
Comment: (93)สาเหตุแห่งการประทานอายะฮ์นี้ เนื่องจากมีชาวอุร็อยนะฮ์ จำนวน 8 คน ได้มาหาร่อซูลุลลอฮ์เพื่อรับนับถืออิสลามแล้วเกิดไม่สบายขึ้นเนื่องจากผิดอากาศ ร่อซูลุลลอฮ์จึงให้พวกเขาไปดื่มปัสสาวะอูฐและน้ำนมอูฐซึ่งเป็นทรัพย์สินส่วนซะกาต เพื่อเป็นการรักษาอาการป่วยของพวกเขา ครั้นเมื่อพวกเขาหายป่วยแล้วก็ทำการฆ่าคนเลี้ยงอูฐด้วยการตัดมือ ตัดเท้า และแทงตา จนกระทั่งตาย เมื่อท่านนบีทราบจึงได้สั่งให้ทำการติดตาม เพื่อลงโทษพวกเขาเช่นเดียวกับที่พวกเขาได้กระทำกับคนเลี้ยงอูฐ แล้วชาวอุร็อยนะฮ์ดังกล่าวก็ถูกตามล่าและถูกลงโทษตามคำสั่งของท่านนบี
5:34
إِلَّا ٱلَّذِينَ تَابُوا۟ مِن قَبْلِ أَن تَقْدِرُوا۟ عَلَيْهِمْ ۖ فَٱعْلَمُوٓا۟ أَنَّ ٱللَّهَ غَفُورٌۭ رَّحِيمٌۭ
Translation: นอกจากบรรดาผู้ที่สำนึกผิดกลับเนื้อกลับตัว ก่อนจากที่พวกเจ้าจะสามารถลงโทษพวกเขา พึงรู้เถิดว่า แท้จริงอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเอ็นดูเมตตา
5:35
يَـٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ ٱتَّقُوا۟ ٱللَّهَ وَٱبْتَغُوٓا۟ إِلَيْهِ ٱلْوَسِيلَةَ وَجَـٰهِدُوا۟ فِى سَبِيلِهِۦ لَعَلَّكُمْ تُفْلِحُونَ
Translation: ผู้ศรัทธาทั้งหลาย! พึงยำเกรงอัลลอฮ์เถิด และจงแสวงหาสื่อ(94) ไปสู่พระองค์ และจงต่อสู้และเสียสละในทางของอัลลอฮ์เถิด เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รับความสำเร็จ
Comment: (94)คือจะให้มีผลงานอันดีงามนั้นเกิดจากการปฏิบัติศาสนบัญญัติ อันจะเป็นสิ่งให้ได้มาซึ่งความโปรดปรานของอัลลอฮ์ ขณะที่กลับไปยังพระองค์
5:36
إِنَّ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ لَوْ أَنَّ لَهُم مَّا فِى ٱلْأَرْضِ جَمِيعًۭا وَمِثْلَهُۥ مَعَهُۥ لِيَفْتَدُوا۟ بِهِۦ مِنْ عَذَابِ يَوْمِ ٱلْقِيَـٰمَةِ مَا تُقُبِّلَ مِنْهُمْ ۖ وَلَهُمْ عَذَابٌ أَلِيمٌۭ
Translation: แท้จริง บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธานั้น หากพวกเขามีสิ่งที่อยู่ในแผ่นดินทั้งหมด และมีเยี่ยงนั้นอีกรวมกัน(95) เพื่อจะใช้มันไถ่ตัวให้พ้นจากการลงโทษในวันกิยามะฮ์แล้ว มันก็จะไม่ถูกรับจากพวกเขา(96) และสำหรับพวกเขาจะได้รับการลงโทษอันเจ็บแสบ
Comment: (95)คือมีอีกเท่าหนึ่งของสิ่งที่มีอยู่ในแผ่นดินทั้งหมด แล้วรวมกัน
Comment: (96)คืออัลลอฮ์ก็จะไม่ทรงรับ ทั้งนี้เพื่อให้พวกเขาได้รับโทษที่สาสมกับความยโสของพวกเขา
5:37
يُرِيدُونَ أَن يَخْرُجُوا۟ مِنَ ٱلنَّارِ وَمَا هُم بِخَـٰرِجِينَ مِنْهَا ۖ وَلَهُمْ عَذَابٌۭ مُّقِيمٌۭ
Translation: เขาเหล่านั้นปรารถนาที่จะออกจากไฟนรก แต่พวกเขาก็หาได้ออกจากมันไปได้ไม่ และสำหรับพวกเขานั้นคือการลงโทษที่คงอยู่ตลอดไป
5:38
وَٱلسَّارِقُ وَٱلسَّارِقَةُ فَٱقْطَعُوٓا۟ أَيْدِيَهُمَا جَزَآءًۢ بِمَا كَسَبَا نَكَـٰلًۭا مِّنَ ٱللَّهِ ۗ وَٱللَّهُ عَزِيزٌ حَكِيمٌۭ
Translation: และขโมยชายและขโมยหญิงนั้นจงตัดมือของเขา(97) ทั้งสองคน ทั้งนี้เพื่อเป็นการตอบแทนในสิ่งที่ทั้งสองนั้นได้แสวงหาไว้ (และ) เพื่อเป็นเยี่ยงอย่างการลงโทษ(98) จากอัลลอฮ์และอัลลอฮ์นั้นทรงเดชานุภาพ ทรงปรีชาญาณ
Comment: (97)คือตัดมือขวาก่อนและถ้าขโมยอีกให้ตัดมือซ้าย
Comment: (98)คือเป็นเยี่ยงอย่างแก่ผู้คนอื่น ๆ เพื่อจะได้ไม่ประพฤติเช่นเดียวกับเขา
5:39
فَمَن تَابَ مِنۢ بَعْدِ ظُلْمِهِۦ وَأَصْلَحَ فَإِنَّ ٱللَّهَ يَتُوبُ عَلَيْهِ ۗ إِنَّ ٱللَّهَ غَفُورٌۭ رَّحِيمٌ
Translation: แล้วผู้ใดสำนึกผิดกลับเนื้อกลับตัวหลังจากการอธรรมของเขา และแก้ไขปรับปรุงแล้ว แท้จริง อัลลอฮ์จะทรงอภัยโทษให้แก่พวกเขา แท้จริง อัลลอฮ์เป็นผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเอ็นดูเมตตาเสมอ
5:40
أَلَمْ تَعْلَمْ أَنَّ ٱللَّهَ لَهُۥ مُلْكُ ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضِ يُعَذِّبُ مَن يَشَآءُ وَيَغْفِرُ لِمَن يَشَآءُ ۗ وَٱللَّهُ عَلَىٰ كُلِّ شَىْءٍۢ قَدِيرٌۭ
Translation: เจ้ามิได้รู้ดอกหรือว่า แท้จริงอัลลอฮ์นั้นทรงมีอำนาจในบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดิน โดยที่พระองค์จะทรงลงโทษใครก็ได้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และจะทรงอภัยโทษแก่ผู้้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง
5:41
۞ يَـٰٓأَيُّهَا ٱلرَّسُولُ لَا يَحْزُنكَ ٱلَّذِينَ يُسَـٰرِعُونَ فِى ٱلْكُفْرِ مِنَ ٱلَّذِينَ قَالُوٓا۟ ءَامَنَّا بِأَفْوَٰهِهِمْ وَلَمْ تُؤْمِن قُلُوبُهُمْ ۛ وَمِنَ ٱلَّذِينَ هَادُوا۟ ۛ سَمَّـٰعُونَ لِلْكَذِبِ سَمَّـٰعُونَ لِقَوْمٍ ءَاخَرِينَ لَمْ يَأْتُوكَ ۖ يُحَرِّفُونَ ٱلْكَلِمَ مِنۢ بَعْدِ مَوَاضِعِهِۦ ۖ يَقُولُونَ إِنْ أُوتِيتُمْ هَـٰذَا فَخُذُوهُ وَإِن لَّمْ تُؤْتَوْهُ فَٱحْذَرُوا۟ ۚ وَمَن يُرِدِ ٱللَّهُ فِتْنَتَهُۥ فَلَن تَمْلِكَ لَهُۥ مِنَ ٱللَّهِ شَيْـًٔا ۚ أُو۟لَـٰٓئِكَ ٱلَّذِينَ لَمْ يُرِدِ ٱللَّهُ أَن يُطَهِّرَ قُلُوبَهُمْ ۚ لَهُمْ فِى ٱلدُّنْيَا خِزْىٌۭ ۖ وَلَهُمْ فِى ٱلْـَٔاخِرَةِ عَذَابٌ عَظِيمٌۭ
Translation: ร่อซูลเอ๋ย! จงอย่าให้เป็นที่เสียใจแก่เจ้าซึ่งบรรดาผู้ที่รีบเร่งกันในการปฏิเสธศรัทธาจากหมู่ผู้ที่กล่าวด้วยปากของพวกเขาว่า พวกเราศรัทธาแล้วโดยที่หัวใจของพวกเขามิได้ศรัทธา(99) และจากหมู่ผู้ที่เป็นยิวด้วย โดยที่พวกเขาชอบฟังคำมุสา(100) พวกเขาชอบฟังเพื่อพวกอื่นที่มิได้มุ่งหาเจ้า(101) พวกเขาบิดเบือนบรรดาถ้อยคำหลังจาก (ที่มันถูกวางใน) ที่ของมัน(102) พวกเขากล่าวว่า หากพวกท่านได้รับสิ่งนี้ก็จงเอามันไว้(103) และถ้าหากพวกท่านมิได้รับมันก็จงระวัง(104) และผู้ใดที่อัลลอฮ์ทรงประสงค์ซึ่งการทดสอบเขาแล้ว(105) เจ้าก็ไม่มีสิทธิแต่อย่างใดจากอัลลอฮ์ที่จะช่วยเหลือเขาได้(106) ชนเหล่านี้แหละคือผู้ที่อัลลอฮ์มิทรงประสงค์จะให้หัวใจของพวกเขาสะอาด โดยที่พวกเขาจะได้รับความอัปยศในโลกนี้ และจะได้รับการลงโทษอันมหันต์ในปรโลก
Comment: (99)หมายถึงพวกมุนาฟิกแห่งมะดีนะฮ์
Comment: (100)คือชอบฟังคำพูดเท็จที่บรรดาหัวหน้าของพวกเขาอุปโลกน์ขึ้นเกี่ยวกับท่านนบี
Comment: (101)คือชอบฟังคำพูดเท็จจากหัวหน้าของพวกเขาเพื่อเล่าต่อให้แก่พวกอื่นที่มิได้มาหาท่านนบี
Comment: (102)คือบิดเบือนถ้อยคำในคัมภีร์เตารอต หลังจากเป็นที่ประจักษ์แจ้งแล้ว ซึ่งความมุ่งหมายของมัน ทั้งนี้ด้วยการเปลี่ยนถ้อยคำบ้างและความมุ่งหมายบ้าง
Comment: (103)คือเรื่องการทำซินาของชายหญิงชาวยิวคู่หนึ่งในตระกูลที่มีเกียรติ ซึ่งพวกเขาต้องการที่จะให้ได้รับโทษสถานเบา คือโบยคนละร้อยที ซึ่งความเป็นจริงนั้นจะต้องได้รับโทษสถานหนัก คือถูกขว้างด้วยหินจนตายตามบัญญัติศาสนาของพวกเขา ในการนี้พวกเขาได้ให้คนในตระกูลกุร็อยเซาะฮ์ ซึ่งเป็นชาวยิวที่อยู่ในมะดีนะฮ์ถามท่านนบีเกี่ยวกับการลงโทษของชาย-หญิงดังกล่าว โดยกำชับว่าถ้าท่านนบีตอบตรงกับที่เขาต้องการคือโบยร้อยทีก็ให้ยึดถือ แต่ถ้าท่านนบีชีขาดให้ขว้างด้วยหินจนตาย ก็จงระวังอย่าได้ยึดถือ คำว่า “ได้รับสิ่งนี้นั้นหมายถึงได้รับคำตอบจากท่านนบีว่าให้โบยร้อยทีตามที่พวกเขาปรารถนา”
Comment: (104)คือมิให้ยึดถือ
Comment: (105)คือทดสอบความศรัทธาของเขาโดยปล่อยให้เขาแสดงออกซึ่งควากลับกลอกของเขาต่อไปเพื่อให้เขาได้รับโทษอันสาสม
Comment: (106)คือท่านนบีก็ไม่สามารถที่จะช่วยเหลือเขาได้ เพราะท่านไม่มีสิทธิและอำนาจใด ๆ จากอัลลอฮ์ที่จะระงับปฏิบัติการของพระองค์ได้
5:42
سَمَّـٰعُونَ لِلْكَذِبِ أَكَّـٰلُونَ لِلسُّحْتِ ۚ فَإِن جَآءُوكَ فَٱحْكُم بَيْنَهُمْ أَوْ أَعْرِضْ عَنْهُمْ ۖ وَإِن تُعْرِضْ عَنْهُمْ فَلَن يَضُرُّوكَ شَيْـًۭٔا ۖ وَإِنْ حَكَمْتَ فَٱحْكُم بَيْنَهُم بِٱلْقِسْطِ ۚ إِنَّ ٱللَّهَ يُحِبُّ ٱلْمُقْسِطِينَ
Translation: พวกเขาชอบฟังคำมุสา ชอบกินสิ่งต้องห้าม(107) ถ้าหากพวกเขามาหาเจ้า ก็จงตัดสินระหว่างพวกเขา หรือไม่ก็หลีกเลี่ยงพวกเขาเสีย และถ้าหากเจ้าหลีกเลี่ยงพวกเขา พวกเขาก็จะไม่ให้โทษแก่เจ้าได้แต่อย่างใดเลย และหากเจ้าตัดสินใจ ก็จงตัดสินใจระหว่างพวกเขา ด้วยความยุติธรรม แท้จริง อัลลอฮ์ทรงรักบรรดาผู้ที่ยุติธรรม
Comment: (107)คือทรัพย์สมบัติที่ได้มาโดยไม่ชอบ เฉพาะอย่างยิ่งดอกเบี้ย
5:43
وَكَيْفَ يُحَكِّمُونَكَ وَعِندَهُمُ ٱلتَّوْرَىٰةُ فِيهَا حُكْمُ ٱللَّهِ ثُمَّ يَتَوَلَّوْنَ مِنۢ بَعْدِ ذَٰلِكَ ۚ وَمَآ أُو۟لَـٰٓئِكَ بِٱلْمُؤْمِنِينَ
Translation: และอย่างไรเล่าที่พวกเขาจะให้เจ้าตัดสินทั้งๆ ที่พวกเขามี อัตเตารอตอยู่ ซึ่งในนั้นมีข้อตัดสินของอัลลอฮ์อยู่แล้ว แล้วพวกเขาก็ผินหลังให้ หลังจากนั้น(108) ชนเหล่านี้หาใช่เป็นผู้ศรัทธาไม่
Comment: (108)คือไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งของท่านนบีหลังจากที่ท่านได้ตัดสินลงโทษผู้ทำซินาโดยให้ขว้างด้วยหินจนตาย ซึ่งตรงกับข้อชี้ขาดในคัมภีร์ของพวกเขา
5:44
إِنَّآ أَنزَلْنَا ٱلتَّوْرَىٰةَ فِيهَا هُدًۭى وَنُورٌۭ ۚ يَحْكُمُ بِهَا ٱلنَّبِيُّونَ ٱلَّذِينَ أَسْلَمُوا۟ لِلَّذِينَ هَادُوا۟ وَٱلرَّبَّـٰنِيُّونَ وَٱلْأَحْبَارُ بِمَا ٱسْتُحْفِظُوا۟ مِن كِتَـٰبِ ٱللَّهِ وَكَانُوا۟ عَلَيْهِ شُهَدَآءَ ۚ فَلَا تَخْشَوُا۟ ٱلنَّاسَ وَٱخْشَوْنِ وَلَا تَشْتَرُوا۟ بِـَٔايَـٰتِى ثَمَنًۭا قَلِيلًۭا ۚ وَمَن لَّمْ يَحْكُم بِمَآ أَنزَلَ ٱللَّهُ فَأُو۟لَـٰٓئِكَ هُمُ ٱلْكَـٰفِرُونَ
Translation: แท้จริงเราได้ให้อัตเตารอตลงมา โดยที่ในนั้นมีข้อแนะนำและแสงสว่าง ซึ่งบรรดานบีที่สวามิภักดิ์ได้ใช้อัตเตารอตตัดสินบรรดาผู้ที่เป็นยิว และบรรดาผู้ที่รู้แล้วในอัลลอฮ์และนักปราชญ์ทั้งหลายก็ได้ใช้อัตเตารอตตัดสิน(109)ด้วย เนื่องด้วยสิ่งที่พวกเขาได้รับมอบหมายให้รักษาไว้ (นั่นคือ) คัมภีร์ของอัลลอฮ์(110) และพวกเขาก็เป็นพยานยืนยันในคัมภีร์นั้นด้วย ดังนั้นพวกเจ้า(111) จงอย่ากลัวมนุษย์แต่จงกลัวข้าเถิด และจงอย่าแลกเปลี่ยนบรรดาโองการของข้ากับราคาอันเล็กน้อย(112) และผู้ใดที่มิได้ตัดสินด้วยสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงประทานลงมาแล้ว ชนเหล่านี้แหละคือผู้ปฏิเสธการศรัทธา
Comment: (109)คือตัดสินระหว่างพวกยิวหลังจากท่านนบีมูซาได้ล่วงลับไปแล้ว เช่น เกี่ยวกับบรรดาค่อลีฟะฮ์ และบรรดานักปราชญ์ของมุสลิมใช้อัลกุรอานตัดสินระหว่างมุสลิมีน หลังจากท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
Comment: (110)กล่าวคือเนื่องจากอัลลอฮ์ทรงมอบหมายให้บรรดผู้ที่รู้แจ้งในพระองค์และบรรดานักปราชญ์รักษาคัมภีร์ไว้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องใช้คัมภีร์นั้นตัดสินระหว่างพวกเขา
Comment: (111)หมายถึงบรรดาผู้ที่รู้แจ้งในอัลลอฮ์ และนักปราชญ์ทั้งหลาย
Comment: (112)หมายถึงว่าไม่ยอมปฏิบัติตามโองการของอัลลอฮ์ โดยเห็นแก่ผลประโยชน์อันเล็กน้อย
5:45
وَكَتَبْنَا عَلَيْهِمْ فِيهَآ أَنَّ ٱلنَّفْسَ بِٱلنَّفْسِ وَٱلْعَيْنَ بِٱلْعَيْنِ وَٱلْأَنفَ بِٱلْأَنفِ وَٱلْأُذُنَ بِٱلْأُذُنِ وَٱلسِّنَّ بِٱلسِّنِّ وَٱلْجُرُوحَ قِصَاصٌۭ ۚ فَمَن تَصَدَّقَ بِهِۦ فَهُوَ كَفَّارَةٌۭ لَّهُۥ ۚ وَمَن لَّمْ يَحْكُم بِمَآ أَنزَلَ ٱللَّهُ فَأُو۟لَـٰٓئِكَ هُمُ ٱلظَّـٰلِمُونَ
Translation: และเราได้บัญญัติแก่พวกเขาไว้ในคัมภีร์นั้นว่า ชีวิตด้วยชีวิต และตาด้วยตา และจมูกด้วยจมูก และหูด้วยหู และฟันด้วยฟัน(113) และบรรดาบาดแผลก็ให้มีการชดเชยเยี่ยงเดียวกัน(114) และผู้ใดให้การชดเชยนั้นเป็นทานมันก็เป็นสิ่งลบล้างบาปของเขา(115) และผู้ใดมิได้ตัดสินด้วยสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงประทานลงมาแล้ว ชนเหล่านี้แหละคือผู้อธรรม
Comment: (113)คือถ้าทำร้ายคนอื่นจนถึงแก่ชีวิต ก็ให้ชดใช้ชีวิตนั้นด้วยชีวิตของตนเอง และตาก็ให้ชดใช้ด้วยตาจมูกด้วยจมูก หูก็ด้วยหู และฟันก็ด้วยฟัน
Comment: (114)คือเท่าที่สามารถจะทำให้เขามีบาดแผลเยี่ยงเดียวกันโดยไม่เกินเลย
Comment: (115)คือให้อภัยโดยไม่แก้แค้น ซึ่งการให้อภัยนี้ถือเป็นคุณความดีที่จะลบล้างบาปของเขาตามที่อัลลอฮ์ทรงเห็นสมควร
5:46
وَقَفَّيْنَا عَلَىٰٓ ءَاثَـٰرِهِم بِعِيسَى ٱبْنِ مَرْيَمَ مُصَدِّقًۭا لِّمَا بَيْنَ يَدَيْهِ مِنَ ٱلتَّوْرَىٰةِ ۖ وَءَاتَيْنَـٰهُ ٱلْإِنجِيلَ فِيهِ هُدًۭى وَنُورٌۭ وَمُصَدِّقًۭا لِّمَا بَيْنَ يَدَيْهِ مِنَ ٱلتَّوْرَىٰةِ وَهُدًۭى وَمَوْعِظَةًۭ لِّلْمُتَّقِينَ
Translation: และเราได้ให้อีซาบุตรของมัรยัมตามหลังพวกเขามา(116) ในฐานะผู้ยืนยันสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าเขาคือ อัตเตารอต(117) และเราได้ให้อัลอินญีลแก่เขาซึ่งในนั้นมีคำแนะนำและแสงสว่าง และเป็นที่ยืนยันสิ่งที่อยู่เบื้องหน้ามัน คืออัตเตารอต(118) และเป็นแนวทางที่ถูกต้อง และคำตักเตือนแก่ผู้ยำเกรงทั้งหลาย
Comment: (116)คือตามหลังนบีทั้งหลายมา
Comment: (117)เป็นคัมภีร์ที่ถูกประทานให้แก่ท่านนบีมูซา
Comment: (118)คือ อัลอินญีลก็มาในฐานะยืนยันคัมภีร์อัตเตารอต ซึ่งถูกประทานมาก่อนหน้าแล้วด้วย
5:47
وَلْيَحْكُمْ أَهْلُ ٱلْإِنجِيلِ بِمَآ أَنزَلَ ٱللَّهُ فِيهِ ۚ وَمَن لَّمْ يَحْكُم بِمَآ أَنزَلَ ٱللَّهُ فَأُو۟لَـٰٓئِكَ هُمُ ٱلْفَـٰسِقُونَ
Translation: และบรรดาผู้ที่ได้รับอัลอินญีลก็จงตัดสินด้วยสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงประทานลงมาในนั้น(119) และผู้ใดที่มิได้ตัดสินด้วยสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงประทานลงมาแล้ว ชนเหล่านี้คือผู้ที่ละเมิด
Comment: (119)คือ ตัดสินด้วยบัญญัติที่มีอยู่ในคัมภีร์อัลอินญีล
5:48
وَأَنزَلْنَآ إِلَيْكَ ٱلْكِتَـٰبَ بِٱلْحَقِّ مُصَدِّقًۭا لِّمَا بَيْنَ يَدَيْهِ مِنَ ٱلْكِتَـٰبِ وَمُهَيْمِنًا عَلَيْهِ ۖ فَٱحْكُم بَيْنَهُم بِمَآ أَنزَلَ ٱللَّهُ ۖ وَلَا تَتَّبِعْ أَهْوَآءَهُمْ عَمَّا جَآءَكَ مِنَ ٱلْحَقِّ ۚ لِكُلٍّۢ جَعَلْنَا مِنكُمْ شِرْعَةًۭ وَمِنْهَاجًۭا ۚ وَلَوْ شَآءَ ٱللَّهُ لَجَعَلَكُمْ أُمَّةًۭ وَٰحِدَةًۭ وَلَـٰكِن لِّيَبْلُوَكُمْ فِى مَآ ءَاتَىٰكُمْ ۖ فَٱسْتَبِقُوا۟ ٱلْخَيْرَٰتِ ۚ إِلَى ٱللَّهِ مَرْجِعُكُمْ جَمِيعًۭا فَيُنَبِّئُكُم بِمَا كُنتُمْ فِيهِ تَخْتَلِفُونَ
Translation: และเราได้ให้คัมภีร์ลงมาแก่เจ้า(120) ด้วยความจริง(121) ในฐานะเป็นที่ยืนยันคัมภีร์ที่อยู่เบื้องหน้ามันและเป็นที่ควบคุมคัมภีร์(เบื้องหน้า) นั้น(122) ดังนั้นเจ้าจงตัดสินระหว่างพวกเขา(123) ด้วยสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงประทานลงมาเถิด(124) และจงอย่าปฏิบัติตามความใคร่ใฝ่ต่ำของพวกเขา โดยเขวออกจากความจริงที่ได้มายังเจ้า สำหรับแต่ละประชาชาติในหมู่พวกเจ้านั้น เราได้ให้มีบทบัญญัติและแนวทางไว้(125) และหากอัลลอฮ์ทรงประสงค์แล้วแน่นอนก็ทรงให้พวกเจ้าเป็นประชาชาติเดียวกันแล้ว(126) แต่ทว่าเพื่อที่จะทรงทดสอบพวกเจ้าในสิ่งที่พระองค์ได้ประทานแก่พวกเจ้า(127) ดังนั้นพวกเจ้าจงแข่งขันกันในความดีทั้งหลายเถิด(128) ยังอัลลอฮ์นั้นคือ การกลับไปของพวกเจ้าทั้งหมด แล้วพระองค์จะทรงแจ้งให้พวกเจ้าทราบในสิ่งที่พวกเจ้ากำลังขัดแย้งกันในสิ่งนั้น
Comment: (120)หมายถึงท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
Comment: (121)คือเบื้องหน้าอัลกุรอาน อันได้แก่คัมภีร์เตารอต และอินญีล
Comment: (122)คือควบคุมคัมภีร์เตารอตและอินญีลให้ตั้งอยู่ในความเป็นจริง กล่าวคือสิ่งใดที่แปลกปลอมเข้ามาก็จะแจ้งให้ทราบ และสิ่งที่ถูกตัดทอนออกไปหรือถูกบิดเบือน หรือถูกปกปิดไว้ ก็จะแจ้งให้ทราบเช่นเดียวกัน
Comment: (123)คือระหว่างพวกยิว
Comment: (124)หมายถึง อัลกุรอาน
Comment: (125)คือบทบัญญัติและแนวทางในการดำเนินชีวิตของพวกเขา
Comment: (126)หมายถึงให้มีบัญญัติศาสนาและแนวดำเนินชีวิตอย่างเดียวกันด้วย จะได้ไม่ขัดแย้งกัน
Comment: (127)หมายถึงทดสอบแต่ละประชาชาติว่าประชาชาติใดจะปฏิบัติตามบัญญัติที่พระองค์ทรงประทานได้ดีกว่ากัน
Comment: (128)คือให้แต่ละประชาชาติแข่งขันกันปฏิบัติสิ่งที่ดีงามทั้งหลาย
5:49
وَأَنِ ٱحْكُم بَيْنَهُم بِمَآ أَنزَلَ ٱللَّهُ وَلَا تَتَّبِعْ أَهْوَآءَهُمْ وَٱحْذَرْهُمْ أَن يَفْتِنُوكَ عَنۢ بَعْضِ مَآ أَنزَلَ ٱللَّهُ إِلَيْكَ ۖ فَإِن تَوَلَّوْا۟ فَٱعْلَمْ أَنَّمَا يُرِيدُ ٱللَّهُ أَن يُصِيبَهُم بِبَعْضِ ذُنُوبِهِمْ ۗ وَإِنَّ كَثِيرًۭا مِّنَ ٱلنَّاسِ لَفَـٰسِقُونَ
Translation: และเจ้า(129) จงตัดสินระหว่างพวกเขา(130) ด้วยสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงประทานลงมาเถิด และจงอย่าปฏิบัติตามความใคร่ใฝ่ต่ำของพวกเขา และจงระวังพวกเขา ในการที่พวกเขาจะจูงใจเจ้าให้เขวออกจากบางสิ่ง(131) ที่อัลลอฮ์ได้ทรงประทานลงมาแก่เจ้า แล้วถ้าหากพวกเจ้าผินหลังให้ ก็พึงรู้เถิดว่า แท้จริงอัลลอฮ์นั้นเพียงประสงค์จะให้ประสบแก่พวกเขาซึ่งบางส่วนแห่งโทษของพวกเขา(132) เท่านั้น และแท้จริง จำนวนมากมายในหมู่มนุษย์นั้นเป็นผู้ละเมิด
Comment: (129)หมายถึง นบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
Comment: (130)คือระหว่างชาวยิว
Comment: (131)คือ เขวออกจากบัญญัติบางข้อ
Comment: (132)คือ ชาวยิวนั้นมีโทษอยู่มากมาย เนื่องจากการฝ่าฝืนดื้อดึงของพวกเขา โทษบางส่วนที่อัลลอฮ์ประสงค์ให้ประสบแก่พวกเขานั้นคือการที่ท่านนบีได้ขับไล่บะนีอันนะฎีร ออกจากมะดีนะฮ์ และทำการประหารชีวิตบะนีกุร็อยซอฮ์
5:50
أَفَحُكْمَ ٱلْجَـٰهِلِيَّةِ يَبْغُونَ ۚ وَمَنْ أَحْسَنُ مِنَ ٱللَّهِ حُكْمًۭا لِّقَوْمٍۢ يُوقِنُونَ
Translation: ข้อตัดสินสมัยญาฮิลีญะฮ์(133) กระนั้นหรือ ที่พวกเขาปรารถนา และใครเล่าที่จะมีข้อตัดสินดียิ่งกว่าอัลลอฮ์สำหรับกลุ่มชนที่เชื่อมั่น(134)
Comment: (133)คือ สมัยงมงายก่อนที่อิสลามจะอุบัติขึ้น ซึ่งข้อตัดสินในสมัยนั้นปราศจากเสียซึ่งความเป็นธรรมโดยสิ้นเชิง
Comment: (134)คือ สำหรับกลุ่มชนที่เชื่อมั่นต่ออัลลอฮ์ ย่อมไม่มีใครคิดว่ามีข้อตัดสินของผู้อื่นดีกว่าของอัลลอฮ์อย่างแน่นอน
5:51
۞ يَـٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ لَا تَتَّخِذُوا۟ ٱلْيَهُودَ وَٱلنَّصَـٰرَىٰٓ أَوْلِيَآءَ ۘ بَعْضُهُمْ أَوْلِيَآءُ بَعْضٍۢ ۚ وَمَن يَتَوَلَّهُم مِّنكُمْ فَإِنَّهُۥ مِنْهُمْ ۗ إِنَّ ٱللَّهَ لَا يَهْدِى ٱلْقَوْمَ ٱلظَّـٰلِمِينَ
Translation: ผู้ศรัทธาทั้งหลาย ! จงอย่าได้ยึดเอาชาวยิวและชาวคริสต์เป็นมิตร บางส่วนของพวกเขาคือมิตรของอีกบางส่วน(135) และผู้ใดในหมู่พวกเจ้าเอาพวกเขามาเป็นมิตรแล้วไซร้ แน่นอนผู้นั้นก็เป็นคนหนึ่งในพวกเขา แท้จริงอัลลอฮ์ไม่ทรงแนะนำกลุ่มชนที่อธรรม
Comment: (135)คือ ยิวนั้นต่างรักใคร่ซึ่งกันและกัน และคริสต์เช่นเดียวกัน ในขณะเดียวกันทั้งหมดนั้นเป็นศัตรูของมุสลิมีน ด้วยเหตุนี้ถ้าคบพวกเขาเป็นมิตรแล้วพวกเขาก็ย่อมจะล่วงรู้ในความลับของฝ่ายมุสลิม แล้วรายงานให้พวกเขาทราบ และอีกประการหนึ่ง ยิวกับคริสต์นั้นแม้ว่าพวกเขาจะไม่ศรัทธาต่อนบีของกันและกัน แต่พวกเขาก็ให้ความช่วยเหลือกันในการเป็นศัตรูกับมุสลิม ดังนั้นในสองพวกนี้จึงไม่เป็นที่ไว้วางใจแก่มุสลิมีนได้
5:52
فَتَرَى ٱلَّذِينَ فِى قُلُوبِهِم مَّرَضٌۭ يُسَـٰرِعُونَ فِيهِمْ يَقُولُونَ نَخْشَىٰٓ أَن تُصِيبَنَا دَآئِرَةٌۭ ۚ فَعَسَى ٱللَّهُ أَن يَأْتِىَ بِٱلْفَتْحِ أَوْ أَمْرٍۢ مِّنْ عِندِهِۦ فَيُصْبِحُوا۟ عَلَىٰ مَآ أَسَرُّوا۟ فِىٓ أَنفُسِهِمْ نَـٰدِمِينَ
Translation: แล้วเจ้าจะได้เห็นบรรดาผู้ที่ในหัวใจของพวกเขามีโรค(136) ต่างรีบเร่งกันไปอยู่ในหมู่พวกเขา(137) โดยกล่าวว่า(138) พวกเรากลัวภัยพิบัติ(139) จะเวียนมาประสบแก่พวกเรา อาจเป็นไปได้ว่าอัลลอฮ์จะทรงนำมาซึ่งชัยชนะ(140) หรือไม่ก็นำพระบัญชาอย่างหนึ่งอย่างใดมาจากที่พระองค์(141) แล้วพวกเขาก็กลายเป็นผู้เสียใจต่อสิ่งที่พวกเขาปกปิดไว้ในใจของพวกเขา
Comment: (136)คือโรคแห่งการกลับกลอก อันได้แก่พวกมุนาฟิก เช่น อับดุลลอฮ์ บินอุบัย บินซะลูน
Comment: (137)คือหมู่ชาวยิวเพื่อผูกมิตรกับพวกเขา
Comment: (138)คือกล่าวแก้ตัวแก่บรรดาผู้ศรัทธา
Comment: (139)คือภัยพิบัติอันเกิดจากการแปรปรวนของธรรมชาติที่วนเวียนไปตามกฎสภาวการณ์ เช่น ความแห้งแล้ง และการเจ็บไข้ได้ป่วย เป็นต้น ซึ่งปรารถนาที่จะได้รับความช่วยเหลือจากพวกเขา
Comment: (140)คือเป็นดำรัสของอัลลอฮ์ ที่โต้ตอบต่อคำแก้ตัวของพวกมุนาฟิก กล่าวคืออัลลอฮ์อาจให้ท่านนบีชนะ ทั้งในการปราบปรามศัตรู และประกาศศาสนา เมื่อนั้นแหละพวกเขาจะได้รู้
Comment: (141)กล่าวคือที่เปิดโปงการเป็นมุนาฟิกของพวกเขาและความเลวร้ายของพวกเขา
5:53
وَيَقُولُ ٱلَّذِينَ ءَامَنُوٓا۟ أَهَـٰٓؤُلَآءِ ٱلَّذِينَ أَقْسَمُوا۟ بِٱللَّهِ جَهْدَ أَيْمَـٰنِهِمْ ۙ إِنَّهُمْ لَمَعَكُمْ ۚ حَبِطَتْ أَعْمَـٰلُهُمْ فَأَصْبَحُوا۟ خَـٰسِرِينَ
Translation: และบรรดาผู้ที่ศรัทธากล่าวว่า ชนเหล่านี้หรือ(142) คือผู้ที่สาบานต่ออัลลอฮ์อย่างเข้มแข็งว่า แท้จริงพวกเขานั้นจะรวมอยู่กับพวกเจ้า การงานของพวกเขานั้นไร้ผล(143) แล้วพวกเขาก็กลายเป็นผู้ขาดทุน
Comment: (142)หมายถึงพวกมุนาฟิก
Comment: (143)คือเป็นดำรัสของอัลลอฮ์ที่แจ้งให้พวกเขาทราบว่า งานของพวกเขานั้นไร้ผล
5:54
يَـٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ مَن يَرْتَدَّ مِنكُمْ عَن دِينِهِۦ فَسَوْفَ يَأْتِى ٱللَّهُ بِقَوْمٍۢ يُحِبُّهُمْ وَيُحِبُّونَهُۥٓ أَذِلَّةٍ عَلَى ٱلْمُؤْمِنِينَ أَعِزَّةٍ عَلَى ٱلْكَـٰفِرِينَ يُجَـٰهِدُونَ فِى سَبِيلِ ٱللَّهِ وَلَا يَخَافُونَ لَوْمَةَ لَآئِمٍۢ ۚ ذَٰلِكَ فَضْلُ ٱللَّهِ يُؤْتِيهِ مَن يَشَآءُ ۚ وَٱللَّهُ وَٰسِعٌ عَلِيمٌ
Translation: บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย! ผู้ใดในหมู่พวกเจ้ากลับออกจากศาสนาของพวกเขาไป อัลลอฮ์ก็จะทรงนำมาซึ่งพวกหนึ่ง โดยที่พระองค์ทรงรักพวกเขา และพวกเขาก็รักพระองค์ เป็นผู้นอบน้อมถ่อมตนต่อบรรดามุอ์มินภาคภูมิต่อบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาพวกเขาจะเสียสละและต่อสู้ในทางของอัลลอฮ์และไม่กลัวการตำหนิของผู้ตำหนิคนใดนั่นคือความโปรดปรานของอัลลอฮ์ซึ่งพระองค์จะทรงประทานมันแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงกว้างขวาง ผู้ทรงรอบรู้
5:55
إِنَّمَا وَلِيُّكُمُ ٱللَّهُ وَرَسُولُهُۥ وَٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ ٱلَّذِينَ يُقِيمُونَ ٱلصَّلَوٰةَ وَيُؤْتُونَ ٱلزَّكَوٰةَ وَهُمْ رَٰكِعُونَ
Translation: แท้จริงผู้ที่เป็นมิตรของพวกเจ้านั้น คืออัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์ และบรรดาผู้ศรัทธาที่ดำรงไว้ซึ่งการละหมาด และชำระซะกาตและขณะเดียวกันพวกเขาก็เป็นผู้นอบน้อม(144)
Comment: (144)คำว่า “ผู้นอบน้อม” นี้ถอดความมาจาก “รอกิอูน” ทั้งนี้โดยถือตามตัฟซีร “อัลญะลาลัยน์” และตัฟซีร์ “อัลมะรอฆี”
5:56
وَمَن يَتَوَلَّ ٱللَّهَ وَرَسُولَهُۥ وَٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ فَإِنَّ حِزْبَ ٱللَّهِ هُمُ ٱلْغَـٰلِبُونَ
Translation: และผู้ใดให้อัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์ และบรรดาผู้ที่ศรัทธาเป็นมิตรแล้วไซร้ แท้จริงพรรคของอัลลอฮ์คือพวกที่ชนะ
5:57
يَـٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ لَا تَتَّخِذُوا۟ ٱلَّذِينَ ٱتَّخَذُوا۟ دِينَكُمْ هُزُوًۭا وَلَعِبًۭا مِّنَ ٱلَّذِينَ أُوتُوا۟ ٱلْكِتَـٰبَ مِن قَبْلِكُمْ وَٱلْكُفَّارَ أَوْلِيَآءَ ۚ وَٱتَّقُوا۟ ٱللَّهَ إِن كُنتُم مُّؤْمِنِينَ
Translation: ผู้ศรัทธาทั้งหลาย! จงอย่าได้ยึดเอามาเป็นมิตรผู้ซึ่งถือเอาศรัทธาของพวกเจ้าเป็นการเย้ยหยัน และเป็นการล้อเล่น จากบรรดาผู้ที่ได้รับคัมภีร์(145) ก่อนพวกเจ้า และบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาทั้งหลาย(146) และพึงยำเกรงอัลลอฮ์เถิด หากพวกเจ้าเป็นผู้ศรัทธา
Comment: (145)คือพวกยิวและพวกคริสต์
Comment: (146)คือพวกมุนาฟิกมักกะฮ์
5:58
وَإِذَا نَادَيْتُمْ إِلَى ٱلصَّلَوٰةِ ٱتَّخَذُوهَا هُزُوًۭا وَلَعِبًۭا ۚ ذَٰلِكَ بِأَنَّهُمْ قَوْمٌۭ لَّا يَعْقِلُونَ
Translation: และเมื่อพวกเจ้าได้เรียกร้องไปสู่การละหมาด(147) พวกเขาก็ถือเอาการละหมาดเป็นการเย้ยหยันเป็นการล้อเล่นนั่นก็เพราะพวกเขาเป็นพวกที่ไม่ใช้ปัญญา
Comment: (147)คือทำการอะซาน
5:59
قُلْ يَـٰٓأَهْلَ ٱلْكِتَـٰبِ هَلْ تَنقِمُونَ مِنَّآ إِلَّآ أَنْ ءَامَنَّا بِٱللَّهِ وَمَآ أُنزِلَ إِلَيْنَا وَمَآ أُنزِلَ مِن قَبْلُ وَأَنَّ أَكْثَرَكُمْ فَـٰسِقُونَ
Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่า โอ้บรรดาผู้ได้รับคัมภีร์ทั้งหลาย! พวกท่านมิได้ตำหนิติเตียนและปฏิเสธพวกเรา(เพราะอื่นใด) นอกจากว่าพวกเราศรัทธาต่ออัลลอฮ์และสิ่งที่ถูกประทานลงมาแก่เรา และสิ่งที่ถูกประทานลงมาก่อนแล้วเท่านั้นและแท้จริงส่วนมากของพวกท่านนั้นเป็นผู้ละเมิด
5:60
قُلْ هَلْ أُنَبِّئُكُم بِشَرٍّۢ مِّن ذَٰلِكَ مَثُوبَةً عِندَ ٱللَّهِ ۚ مَن لَّعَنَهُ ٱللَّهُ وَغَضِبَ عَلَيْهِ وَجَعَلَ مِنْهُمُ ٱلْقِرَدَةَ وَٱلْخَنَازِيرَ وَعَبَدَ ٱلطَّـٰغُوتَ ۚ أُو۟لَـٰٓئِكَ شَرٌّۭ مَّكَانًۭا وَأَضَلُّ عَن سَوَآءِ ٱلسَّبِيلِ
Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่าจะให้ฉันบอกแก่พวกท่านไหม ถึงการตอบแทนที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้น ณ ที่อัลลอฮ์คือผู้ที่อัลลอฮ์ได้ทรงละอ์นัต(148) เขาและกริ้วโกรธเขา และให้ส่วนหนึ่งในพวกเขาเป็นลิง และเป็นสุกร และเป็นผู้สักการะชัยฏอน(149) ชนเหล่านี้แหละคือผู้ที่มีตำแหน่งอันชั่วร้ายและเป็นผู้ที่หลงไปจากทางอันเที่ยงตรง
Comment: (148)คือทรงขับไล่ให้ออกจากการเอ็นดูเมตตาของพระองค์
Comment: (149)คือเคารพบูชามันและปฏิบัติตามการชี้นำของมัน
5:61
وَإِذَا جَآءُوكُمْ قَالُوٓا۟ ءَامَنَّا وَقَد دَّخَلُوا۟ بِٱلْكُفْرِ وَهُمْ قَدْ خَرَجُوا۟ بِهِۦ ۚ وَٱللَّهُ أَعْلَمُ بِمَا كَانُوا۟ يَكْتُمُونَ
Translation: และเมื่อเขาเหล่านั้น(150) มาหาพวกเจ้า พวกเขาก็กล่าวว่า เราศรัทธาแล้ว ทั้งๆ ที่โดยแท้จริงนั้น พวกเขาเข้ามาในสภาพผู้ปฏิเสธศรัทธา และขณะที่พวกเขาออกไปก็ในสภาพนั้น(151) และอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงรู้ยิ่งในสิ่งที่พวกเขาปกปิด
Comment: (150)คือพวกยิว
Comment: (151)คือในสภาพปฏิเสธศรัทธาในการที่พวกเขาเข้ามาหาร่อซูล โดยได้รับคำแนะนำจากร่อซูลนั้นไม่ทำให้การดื้อด้านของพวกเขาลดลงได้ ด้วยเหตุนี้เมื่อพวกเขาออกจากร่อซูลไป จึงออกไปในสภาพผู้ปฏิเสธศรัทธาเช่นเดิม
5:62
وَتَرَىٰ كَثِيرًۭا مِّنْهُمْ يُسَـٰرِعُونَ فِى ٱلْإِثْمِ وَٱلْعُدْوَٰنِ وَأَكْلِهِمُ ٱلسُّحْتَ ۚ لَبِئْسَ مَا كَانُوا۟ يَعْمَلُونَ
Translation: และเจ้าจะได้เห็นมากมายในหมู่พวกเขา(152) ต่างรีบเร่งกันในการทำบาป และการเป็นศัตรูกันและการที่พวกเขากินสิ่งที่เป็นที่ต้องห้าม(153) ช่างเลวจริงๆ สิ่งที่พวกเขากระทำกัน
Comment: (152)คือพวกยิว
Comment: (153)เช่นกินดอกเบี้ย เป็นต้น
5:63
لَوْلَا يَنْهَىٰهُمُ ٱلرَّبَّـٰنِيُّونَ وَٱلْأَحْبَارُ عَن قَوْلِهِمُ ٱلْإِثْمَ وَأَكْلِهِمُ ٱلسُّحْتَ ۚ لَبِئْسَ مَا كَانُوا۟ يَصْنَعُونَ
Translation: ไฉนเล่าผู้ที่รู้แจ้งในอัลลอฮ์และนักปราชญ์เหล่านั้นจึงไม่ห้ามพวกเขา ในการที่พวกเขาพูดสิ่งที่เป็นบาป และในการที่พวกเขากินสิ่งที่ต้องห้ามช่างเลวจริง ๆ สิ่งที่พวกเขาทำ
5:64
وَقَالَتِ ٱلْيَهُودُ يَدُ ٱللَّهِ مَغْلُولَةٌ ۚ غُلَّتْ أَيْدِيهِمْ وَلُعِنُوا۟ بِمَا قَالُوا۟ ۘ بَلْ يَدَاهُ مَبْسُوطَتَانِ يُنفِقُ كَيْفَ يَشَآءُ ۚ وَلَيَزِيدَنَّ كَثِيرًۭا مِّنْهُم مَّآ أُنزِلَ إِلَيْكَ مِن رَّبِّكَ طُغْيَـٰنًۭا وَكُفْرًۭا ۚ وَأَلْقَيْنَا بَيْنَهُمُ ٱلْعَدَٰوَةَ وَٱلْبَغْضَآءَ إِلَىٰ يَوْمِ ٱلْقِيَـٰمَةِ ۚ كُلَّمَآ أَوْقَدُوا۟ نَارًۭا لِّلْحَرْبِ أَطْفَأَهَا ٱللَّهُ ۚ وَيَسْعَوْنَ فِى ٱلْأَرْضِ فَسَادًۭا ۚ وَٱللَّهُ لَا يُحِبُّ ٱلْمُفْسِدِينَ
Translation: และชาวยิวนั้นได้กล่าวว่า พระหัตถ์ของอัลลอฮ์นั้นถูกล่ามตรวน(154) มือของพวกเขาต่างหากที่ถูกล่ามตรวน(155) และพวกเขาได้รับละอ์นัต(156) เนื่องจากสิ่งที่พวกเขาพูด(157) พระหัตถ์ทั้งสองของพระองค์ถูกแบออกต่างหาก ซึ่งพระองค์จะทรงแจกจ่ายอย่างไรก็ได้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และแน่นอนสิ่งที่ถูกประทานลงมาแก่เจ้าจากพระเจ้าของเจ้านั้นจะเพิ่มการละเมิด และการปฏิเสธศรัทธาแก่จำนวนมากมายในหมู่พวกเขา(158) และเราได้ก่อให้เกิดการเป็นศัตรูกันและการเกลียดชังกันในระหว่างพวกเขา(159) จนถึงวันกิยามะฮ์ ทุกครั้งที่พวกเขาจุดไฟขึ้น(160) เพื่อทำสงคราม(161) อัลลอฮ์ก็ทรงดับไฟนั้นเสีย และพวกเขาเพียรพยายามบ่อนทำลายในผืนแผ่นดิน และอัลลอฮ์ไม่ทรงชอบผู้บ่อนทำลายทั้งหลาย
Comment: (154)คือเป็นสำนวนเปรียบเทียบในการกล่าวหาว่า อัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงตระหนี่ เพราะเมื่อมือถูกล่ามตรวนเสียแล้วก็ไม่สามารถจะหยิบอะไรให้แก่ใครได้
Comment: (155)เป็นการโต้ตอบจากอัลลอฮ์ว่า คนที่ตระหนี่นั้นหาใช่ใครที่ไหนไม่ คือพวกยิวนั้นเอง
Comment: (156)คือถูกขับไล่ให้ออกจากการเอ็นดูเมตตาจากพระองค์
Comment: (157)คือพระองค์ก็มิได้เป็นผู้ตระหนี่อย่างที่พวกยิวกล่าวหา
Comment: (158)คืออัลกุรอานที่ถูกประทานลงมาให้แก่ท่านนบีนั้น จะทำให้พวกเขาเพิ่มการละเมิด และการปฏิเสธศรัทธายิ่งขึ้น
Comment: (159)คือระหว่างยิวและคริสต์
Comment: (160)หมายถึงว่าทุกครั้งที่พวกเขาก่อเหตุแห่งสงครามขึ้น
Comment: (161)คือเพื่อทำสงครามกับท่านนบี
5:65
وَلَوْ أَنَّ أَهْلَ ٱلْكِتَـٰبِ ءَامَنُوا۟ وَٱتَّقَوْا۟ لَكَفَّرْنَا عَنْهُمْ سَيِّـَٔاتِهِمْ وَلَأَدْخَلْنَـٰهُمْ جَنَّـٰتِ ٱلنَّعِيمِ
Translation: และหากอะฮ์ลุลกิตาบ(ชาวคัมภีร์) ศรัทธาและยำเกรงแล้ว แน่นอนเราก็จะลบล้างบรรดาความชั่วของพวกเขาให้พ้นจากพวกเขา และแน่นอนเราจะให้พวกเขาเข้าบรรดาสวนสวรรค์แห่งความสุขสำราญ
5:66
وَلَوْ أَنَّهُمْ أَقَامُوا۟ ٱلتَّوْرَىٰةَ وَٱلْإِنجِيلَ وَمَآ أُنزِلَ إِلَيْهِم مِّن رَّبِّهِمْ لَأَكَلُوا۟ مِن فَوْقِهِمْ وَمِن تَحْتِ أَرْجُلِهِم ۚ مِّنْهُمْ أُمَّةٌۭ مُّقْتَصِدَةٌۭ ۖ وَكَثِيرٌۭ مِّنْهُمْ سَآءَ مَا يَعْمَلُونَ
Translation: และหากว่าเขาเหล่านั้น(162) ได้ดำรงไว้ซึ่งอัตเตารอต และอัลอินญีล และสิ่งที่ถูกประทานลงมา(163) แก่พวกเขาจากพระผู้อภิบาลของพวกเขาแล้ว แน่นอนพวกเขาก็ได้บริโภคไปแล้วที่มาจากเบื้องบน(164) ของพวกเขา และที่มาจาภายใต้เท้า(165) ของพวกเขาในหมู่พวกเขานั้นมีกลุ่มหนึ่งที่มีความยุติธรรม(166) และมากมายในหมู่พวกเขานั้น ช่างเลวร้ายจริงๆ สิ่งที่พวกเขากระทำกัน
Comment: (162)หมายถึงยิวและคริสต์
Comment: (163)คืออัลกุรอาน
Comment: (164)คือจะได้บริโภคน้ำฝนที่หลั่งลงมาจากฟากฟ้าอันมากมาย
Comment: (165)คือพืชพันธุ์ธัญญาหารที่งอกงามขึ้นมาจากดิน
Comment: (166)เช่น อับดุลลอฮ์ บินสะลาม และเพื่อน ๆ ของเขา ตลอดจนอันนะญาชีย์ และผู้ที่เห็นด้วยกับเขา
5:67
۞ يَـٰٓأَيُّهَا ٱلرَّسُولُ بَلِّغْ مَآ أُنزِلَ إِلَيْكَ مِن رَّبِّكَ ۖ وَإِن لَّمْ تَفْعَلْ فَمَا بَلَّغْتَ رِسَالَتَهُۥ ۚ وَٱللَّهُ يَعْصِمُكَ مِنَ ٱلنَّاسِ ۗ إِنَّ ٱللَّهَ لَا يَهْدِى ٱلْقَوْمَ ٱلْكَـٰفِرِينَ
Translation: ร่อซูลเอ๋ย! จงประกาศสิ่งที่ถูกประทานลงมาแก่เจ้าจากพระเจ้าของเจ้า(167) และถ้าเจ้ามิได้ปฏิบัติ เจ้าก็มิได้ประกาศสารของพระองค์(168) และอัลลอฮ์จะทรงคุ้มกันเจ้าให้พ้นจากมนุษย์(169) แท้จริง อัลลอฮ์จะไม่ทรงแนะนำพวกที่ปฏิเสธศรัทธา
Comment: (167)คืออัลกุรอาน
Comment: (168)คือถ้าปกปิดเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งจะถือว่าท่านมิได้ประกาศศาสนาเลย
Comment: (169)คือให้พ้นจากการทำร้ายของมนุษย์
5:68
قُلْ يَـٰٓأَهْلَ ٱلْكِتَـٰبِ لَسْتُمْ عَلَىٰ شَىْءٍ حَتَّىٰ تُقِيمُوا۟ ٱلتَّوْرَىٰةَ وَٱلْإِنجِيلَ وَمَآ أُنزِلَ إِلَيْكُم مِّن رَّبِّكُمْ ۗ وَلَيَزِيدَنَّ كَثِيرًۭا مِّنْهُم مَّآ أُنزِلَ إِلَيْكَ مِن رَّبِّكَ طُغْيَـٰنًۭا وَكُفْرًۭا ۖ فَلَا تَأْسَ عَلَى ٱلْقَوْمِ ٱلْكَـٰفِرِينَ
Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่า บรรดาผู้ได้รับคัมภีร์ทั้งหลาย!(170) พวกท่านมิได้ตั้งอยู่บนสิ่งใด(171) จนกว่าพวกท่านจะดำรงไว้ซึ่งอัตเตารอต และอัลอินญีล และสิ่งที่ถูกประทานลงมาแก่พวกท่านจากพระเจ้าของพวกท่าน(172) และแน่นอนสิ่งที่ถูกประทานลงมาแก่เจ้าจากพระเจ้าของเจ้านั้นจะเพิ่มการละเมิด และการปฏิเสธศรัทธาแก่จำนวนมากในหมู่พวกเขา(173) ดังนั้น เจ้าจงอย่าเศร้าใจแก่พวกที่ปฏิเสธศรัทธาเหล่านั้นเลย
Comment: (170)หมายถึงยิวและคริสต์
Comment: (171)คือไม่ถือว่าได้ปฏิบัติศาสนาแต่อย่างใด
Comment: (172)หมายถึงอัลกุรอาน
Comment: (173)คือยิวและคริสต์
5:69
إِنَّ ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ وَٱلَّذِينَ هَادُوا۟ وَٱلصَّـٰبِـُٔونَ وَٱلنَّصَـٰرَىٰ مَنْ ءَامَنَ بِٱللَّهِ وَٱلْيَوْمِ ٱلْـَٔاخِرِ وَعَمِلَ صَـٰلِحًۭا فَلَا خَوْفٌ عَلَيْهِمْ وَلَا هُمْ يَحْزَنُونَ
Translation: แท้จริง บรรดาผู้ที่ศรัทธา และบรรดาผู้ที่เป็นยิว และพวกซอบิอูน(174) และบรรดาผู้ที่เป็นคริสต์ ผู้ใดที่ศรัทธาต่ออัลลอฮ์และวันปรโลกและประกอบสิ่งที่ดีงามแล้ว ก็ไม่มีความกลัวใดๆ แก่พวกเขา และทั้งพวกเขาก็ไม่เสียใจ
Comment: (174)คือพวกที่สักการะดวงดาว บางทรรศนะก็ว่าสักการะมลาอิกะฮ์ และไม่ผินหน้าไปทางกิบลัต เวลาทำการสวด
5:70
لَقَدْ أَخَذْنَا مِيثَـٰقَ بَنِىٓ إِسْرَٰٓءِيلَ وَأَرْسَلْنَآ إِلَيْهِمْ رُسُلًۭا ۖ كُلَّمَا جَآءَهُمْ رَسُولٌۢ بِمَا لَا تَهْوَىٰٓ أَنفُسُهُمْ فَرِيقًۭا كَذَّبُوا۟ وَفَرِيقًۭا يَقْتُلُونَ
Translation: แน่นอนเราได้เอาสัญญาแก่วงศ์วานอิสราอีล(175) และเราได้ส่งบรรดาร่อซูลมายังพวกเขา ทุกครั้งที่ร่อซูลคนใดนำสิ่งที่จิตใจของพวกเขาไม่ชอบมายังพวกเขาแล้ว กลุ่มหนึ่ง(176) พวกเขาก็ปฏิเสธ และอีกกลุ่มหนึ่งพวกเขาก็ฆ่า(177) เสีย
Comment: (175)คือเอาสัญญาว่าให้พวกเขาให้เอกภาพแต่อัลลอฮ์ และปฏิบัติตามบทบัญญัติศาสนาโดยเคร่งครัด
Comment: (176)คือกลุ่มหนึ่งในบรรดาร่อซูล
Comment: (177)เช่น ฆ่านบียะฮห์ยา เป็นต้รชน
5:71
وَحَسِبُوٓا۟ أَلَّا تَكُونَ فِتْنَةٌۭ فَعَمُوا۟ وَصَمُّوا۟ ثُمَّ تَابَ ٱللَّهُ عَلَيْهِمْ ثُمَّ عَمُوا۟ وَصَمُّوا۟ كَثِيرٌۭ مِّنْهُمْ ۚ وَٱللَّهُ بَصِيرٌۢ بِمَا يَعْمَلُونَ
Translation: และพวกเขาคิดว่าจะไม่มีการทดสอบใดๆ เกิดขึ้น(178) แล้วพวกเขาจึงได้ตาบอด และหูหนวก(179) แล้วอัลลอฮ์ก็ทรงอภัยโทษให้แก่พวกเขา(180) แล้วพวกเขาก็ตาบอดและหูหนวกอีก(181) คือจำนวนมากในหมู่พวกเขา และอัลลอฮ์ทรงเป็นผู้เห็นสิ่งที่พวกเขากระทำกัน
Comment: (178)คือจะไม่ถูกชาติใดชาติหนึ่งที่มีกำลังเหนือกว่าโจมตีพวกเขา และทำลายความยิ่งใหญ่ของพวกเขาได้
Comment: (179)คือพวกขาจึงประมาทและไม่สนใจต่อบัญญัติแห่งพระเจ้า จะดูก็ไม่ยอมดู จะฟังก็ไม่ยอมฟัง ทำตนประหนึ่งคนตาบอดและหูหนวก
Comment: (180)คือหลังจากได้สำนึกผิดและกลับเนื้อกลับตัว
Comment: (181)แล้วพวกเขาก็กลับประพฤติตนเหมือนสภาพเดิมอีก
5:72
لَقَدْ كَفَرَ ٱلَّذِينَ قَالُوٓا۟ إِنَّ ٱللَّهَ هُوَ ٱلْمَسِيحُ ٱبْنُ مَرْيَمَ ۖ وَقَالَ ٱلْمَسِيحُ يَـٰبَنِىٓ إِسْرَٰٓءِيلَ ٱعْبُدُوا۟ ٱللَّهَ رَبِّى وَرَبَّكُمْ ۖ إِنَّهُۥ مَن يُشْرِكْ بِٱللَّهِ فَقَدْ حَرَّمَ ٱللَّهُ عَلَيْهِ ٱلْجَنَّةَ وَمَأْوَىٰهُ ٱلنَّارُ ۖ وَمَا لِلظَّـٰلِمِينَ مِنْ أَنصَارٍۢ
Translation: แท้จริง บรรดาผู้ที่กล่าวว่า อัลลอฮ์คือ อัลมะซีห์ บุตรของมัรยัมนั้นได้ตกเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาแล้ว และอัลมะซีห์ได้กล่าวว่า วงศ์วานอิสรออีลเอ๋ย! จงเคารพอิบาดะฮ์ต่ออัลลอฮ์ผู้เป็นพระผู้อภิบาลของฉัน และเป็นพระผู้อภิบาลของพวกท่านเถิด แท้จริง ผู้ใดให้มีภาคีเกิดขึ้นแก่อัลลอฮ์แน่นอนอัลลอฮ์จะทรงให้สวรรค์เป็นที่ต้องห้ามแก่เขา และที่พำนักของเขานั้นคือนรก และสำหรับบรรดาผู้อธรรมนั้นย่อมไม่มีผู้ช่วยเหลือใด ๆ
5:73
لَّقَدْ كَفَرَ ٱلَّذِينَ قَالُوٓا۟ إِنَّ ٱللَّهَ ثَالِثُ ثَلَـٰثَةٍۢ ۘ وَمَا مِنْ إِلَـٰهٍ إِلَّآ إِلَـٰهٌۭ وَٰحِدٌۭ ۚ وَإِن لَّمْ يَنتَهُوا۟ عَمَّا يَقُولُونَ لَيَمَسَّنَّ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ مِنْهُمْ عَذَابٌ أَلِيمٌ
Translation: แน่นอนบรรดาผู้ที่กล่าวว่าอัลลอฮ์เป็นผู้ที่สามของสามองค์(182) พวกเขาได้ตกเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาแล้ว ไม่มีสิ่งใดที่ควรได้รับการเคารพสักการะนอกจากผู้ที่ควรเคารพสักการะองค์เดียวเท่านั้น(183) และหากพวกเขามิหยุดยั้งจากสิ่งที่พวกเขากล่าว แน่นอน บรรดาผู้ที่ปฏิเสธการศรัทธาในหมู่พวกเขาจะต้องประสบการลงโทษอันเจ็บแสบ
Comment: (182)สามองค์นั้นคือ พระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระบิดาหมายถึงอัลลอฮ์ พระบุตรหมายถึงท่านนบีอีซา และพระวิญญาณบริสุทธิ์นั้นหมายถึงการที่พระบิดาได้เข้าอยู่ในพระบุตร จึงได้ประกอบขึ้นเป็นพระวิญญาณ อย่างไรก็ดีในทรรศนะของคริสต์ถือว่าแต่ละองค์ในสามองค์นั้นเป็นพระเจ้าสมบูรณ์ มิใช่เป็นส่วนหนึ่งของพระเจ้า และก็ถือว่าทั้งสามองค์นั้นคือพระเจ้าองค์เดียว กล่าวคือพระบิดาก็คืออัลลอฮ์ พระบุตรก็คืออัลลอฮ์ และพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็คือ อัลลอฮ์ด้วยเหตุนี้พวกคริสต์จึงกล่าวคำจำกัดความว่า “ตรีเอกานุภาพ” หมายถึงสามนั้นคือองค์เดียว
Comment: (183)คือ อัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา
5:74
أَفَلَا يَتُوبُونَ إِلَى ٱللَّهِ وَيَسْتَغْفِرُونَهُۥ ۚ وَٱللَّهُ غَفُورٌۭ رَّحِيمٌۭ
Translation: พวกเขาไม่สำนึกผิดกลับเนื้อกลับตัวต่ออัลลอฮ์และขออภัยโทษต่อพระองค์กระนั้นหรือ? และอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเอ็นดูเมตตาเสมอ
5:75
مَّا ٱلْمَسِيحُ ٱبْنُ مَرْيَمَ إِلَّا رَسُولٌۭ قَدْ خَلَتْ مِن قَبْلِهِ ٱلرُّسُلُ وَأُمُّهُۥ صِدِّيقَةٌۭ ۖ كَانَا يَأْكُلَانِ ٱلطَّعَامَ ۗ ٱنظُرْ كَيْفَ نُبَيِّنُ لَهُمُ ٱلْـَٔايَـٰتِ ثُمَّ ٱنظُرْ أَنَّىٰ يُؤْفَكُونَ
Translation: อัลมะซีห์บุตรของมัรยัม(184) มิใช่ใครอื่นนอกจากเป็นร่อซูลคนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งบรรดาร่อซูลก่อนเขาก็ได้ล่วงลับไปแล้ว(185) และมารดาของเขาคือหญิงที่มีสัจจะวาจา(186) ซึ่งทั้งสองนั้นรับประทานอาหาร(187) จงดูเถิด(มุฮัมมัด) ว่าอย่างไรเล่าที่เราได้แจกแจงโองการต่างๆ แก่พวกเขา? และจงดูเถิดว่าอย่างไรเล่าพวกเขาจึงถูกหันเหไปได้
Comment: (184)คือท่านนบีอีซา
Comment: (185)หมายความว่า ท่านนบีอีซานั้นมิใช่เป็นพระบุตรอย่างที่คริสตจักรเข้าใจ หากแต่เป็นปุถุชนคนหนึ่งที่เป็นร่อซูลของอัลลอฮ์และบรรดาร่อซูลของพระองค์ที่ล่วงลับไปแล้วก็ล้วนแต่เป็นปุถุชนทั้งสิ้น
Comment: (186)คือเป็นผู้ที่พูดแต่ความจริง ดังนั้นในการที่นางแจ้งแก่พวกของนางว่านางคลอดท่านนบีอีซามาโดยมิได้มีสามี และมิได้สมสู่กับชายใดนั้นเป็นความจริง
Comment: (187)คือ ทั้งท่านนบีอีซาและพระนางมัรยัมนั้นเป็นปุถุชน เช่นเดียวกับปุถุชนอื่นๆ ท่านทั้งสองรับประทานอาหารเช่นเดียวกับคนทั่วๆ ไปรับประทาน
5:76
قُلْ أَتَعْبُدُونَ مِن دُونِ ٱللَّهِ مَا لَا يَمْلِكُ لَكُمْ ضَرًّۭا وَلَا نَفْعًۭا ۚ وَٱللَّهُ هُوَ ٱلسَّمِيعُ ٱلْعَلِيمُ
Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่า พวกท่านจะเคารพสักการะอื่นจากอัลลอฮ์สิ่งซึ่งไม่มีอำนาจครอบครองอันตรายใด ๆ และประโยชน์ใด ๆ ไว้สำหรับพวกท่านกระนั้นหรือ?(188) และอัลลอฮ์คือผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงรอบรู้
Comment: (188)คือเคารพสักการะสิ่งใดหรือผู้ใดที่ไม่มีอำนาจจะให้คุณและให้โทษแก่พวกท่านได้กระนั้นหรือ? โดยละทิ้งอัลลอฮ์ ทั้งๆ ที่พระองค์ทรงบังเกิดพวกท่านและให้คุณให้โทษแก่พวกท่านได้ด้วย เฉพาะอย่างยิ่งพวกท่านจะต้องกลับไปหาพระองค์ อย่างไรก็ดี การกระทำของพวกท่านนั้นอยู่ในความรู้เห็นของอัลลอฮ์โดยสิ้นเชิง
5:77
قُلْ يَـٰٓأَهْلَ ٱلْكِتَـٰبِ لَا تَغْلُوا۟ فِى دِينِكُمْ غَيْرَ ٱلْحَقِّ وَلَا تَتَّبِعُوٓا۟ أَهْوَآءَ قَوْمٍۢ قَدْ ضَلُّوا۟ مِن قَبْلُ وَأَضَلُّوا۟ كَثِيرًۭا وَضَلُّوا۟ عَن سَوَآءِ ٱلسَّبِيلِ
Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่าบรรดาผู้ได้รับคัมภีร์ทั้งหลาย! จงอย่าปฏิบัติให้เกินขอบเขตในศาสนาของพวกท่าน(189) โดยปราศจากความเป็นจริง และจงอย่าปฏิบัติตามความใคร่ใฝ่ต่ำของพวกหนึ่งพวกใดที่พวกเขาได้หลงผิดมาก่อนแล้ว(190) และได้ทำให้ผู้คนมากมายหลงผิดด้วย(191) และพวกเขาก็ได้หลงผิดไปจากทางอันเที่ยงตรง(192)
Comment: (189)คืออย่าปฏิบัติสิ่งหนึ่งสิ่งใดให้เกิดขอบเขตที่ศาสนาได้บัญญัติไว้ เช่น ยกฐานะท่านนบีอีซาขึ้นเป็นพระเจ้า ทั้งๆ ที่ท่านเป็นเพียงปุถุชนคนหนึ่งที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นร่อซูลของพระเจ้าเช่นเดียวกับบรรดาร่อซูลอื่นๆที่ล่วงลับไปแล้วเท่านั้น
Comment: (190)คือเตือนวงศ์วานอิสรออีลในสมัยที่ท่านนบีมุฮัมมัดประกาศศาสนาว่าจงอย่าได้ปฏิบัติตามบรรพบุรุษของพวกเขาในอดีตที่ได้หลงผิดมาแล้ว
Comment: (191)คือทำให้ชนรุ่นหลังซึ่งเป็นลูกหลานของอิสรออีลหลงผิดตามไปด้วย
Comment: (192)คือพวกลูกหลานอิสรออีลรุ่นหลังก็ได้หลงผิดกันเรื่อยมา ซึ่งทางอันเที่ยงตรงจนกระทั้งปัจจุบันนี้
5:78
لُعِنَ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ مِنۢ بَنِىٓ إِسْرَٰٓءِيلَ عَلَىٰ لِسَانِ دَاوُۥدَ وَعِيسَى ٱبْنِ مَرْيَمَ ۚ ذَٰلِكَ بِمَا عَصَوا۟ وَّكَانُوا۟ يَعْتَدُونَ
Translation: บรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธาในหมู่วงศ์วานอิสรออีลได้ถูกสาปโดยถ้อยคำของดาวูด(193) และอีซาบุตรของมัรยัม(194) ก็เนื่องจากการที่พวกเขาฝ่าฝืน และที่พวกเขาเคยละเมิดกัน(195)
Comment: (193)คืออัลลอฮ์ทรงสาปพวกเขาให้เป็นลิงโดยที่คำสาปนั้นมาในถ้อยคำของท่านนบีดาวูด
Comment: (194)และสาปพวกเขาให้เป็นสุกรโดยผ่านถ้อยคำของท่านนบีอีซา
Comment: (195)คือที่ถูกสาปให้เป็นลิงนั้นเนื่องจากพวกเขาละเมิดวันสะบาโต อันเป็นวันที่ถูกห้ามมิให้จับปลา และพวกที่ถูกสาปนี้เป็นชาวอัยละฮ์ ส่วนผู้ที่ถูกสาปให้เป็นสุกรนั้นอันได้แก่พวกที่ขอร้องให้ท่านนบีอีซานำสำรับอาหารมาจากฟากฟ้าให้พวกเขารับประทาน เพื่อพวกเขาก็จะได้เชื่อมั่นต่อท่านยิ่งขึ้น และจะไม่ฝ่าฝืน แต่เมื่ออัลลอฮ์ได้ทรงประทานสำรับมาให้พวกเขา พวกเขาก็กลับฝ่าฝืนและดื้อดึงเช่นเคยด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงได้ถูกสาปเป็นสุกร
5:79
كَانُوا۟ لَا يَتَنَاهَوْنَ عَن مُّنكَرٍۢ فَعَلُوهُ ۚ لَبِئْسَ مَا كَانُوا۟ يَفْعَلُونَ
Translation: ปรากฏว่าพวกเขาต่างไม่ห้ามปรามกันในสิ่งไม่ชอบที่พวกเขาได้กระทำมันขึ้น ช่างเลวร้ายจริง ๆ สิ่งที่พวกเขากระทำ
5:80
تَرَىٰ كَثِيرًۭا مِّنْهُمْ يَتَوَلَّوْنَ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ ۚ لَبِئْسَ مَا قَدَّمَتْ لَهُمْ أَنفُسُهُمْ أَن سَخِطَ ٱللَّهُ عَلَيْهِمْ وَفِى ٱلْعَذَابِ هُمْ خَـٰلِدُونَ
Translation: เจ้า(มุฮัมมัด) ก็จะเห็นมากมายในหมู่พวกเขา(196) เป็นมิตรกับบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธา(197) ช่างเลวร้ายจริงๆ สิ่งที่ตัวของพวกเขาเองได้ประกอบล่วงหน้าไว้สำหรับพวกเขา(198) อันเป็นเหตุให้อัลลอฮ์ทรงกริ้วพวกเขาและพวกเขาจะคงอยู่ในการลงโทษตลอดกาล
Comment: (196)คือพวกยิว อันได้แก่ กะอ์บิน อัล-อัชรอฟ และมิตรสหายของเขา
Comment: (197)หมายถึงมุชริกชาวมักกะฮ์
Comment: (198)คือประกอบความชั่วล่วงหน้าไว้
5:81
وَلَوْ كَانُوا۟ يُؤْمِنُونَ بِٱللَّهِ وَٱلنَّبِىِّ وَمَآ أُنزِلَ إِلَيْهِ مَا ٱتَّخَذُوهُمْ أَوْلِيَآءَ وَلَـٰكِنَّ كَثِيرًۭا مِّنْهُمْ فَـٰسِقُونَ
Translation: และหากพวกเขาศรัทธาต่ออัลลอฮ์และนบีและสิ่งที่ถูกประทานลงมาแก่เขา(199) แล้วพวกเขาก็จะไม่ยึดเอาเขาเหล่านั้น(200) เป็นมิตร แต่ทว่ามากมายในหมู่พวกเขานั้นเป็นผู้ที่ละเมิด
Comment: (199)คือแก่ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
Comment: (200)คือพวกมุซริกชาวมักกะฮ์
5:82
۞ لَتَجِدَنَّ أَشَدَّ ٱلنَّاسِ عَدَٰوَةًۭ لِّلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ ٱلْيَهُودَ وَٱلَّذِينَ أَشْرَكُوا۟ ۖ وَلَتَجِدَنَّ أَقْرَبَهُم مَّوَدَّةًۭ لِّلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ ٱلَّذِينَ قَالُوٓا۟ إِنَّا نَصَـٰرَىٰ ۚ ذَٰلِكَ بِأَنَّ مِنْهُمْ قِسِّيسِينَ وَرُهْبَانًۭا وَأَنَّهُمْ لَا يَسْتَكْبِرُونَ
Translation: แน่นอนเจ้าจะพบว่า หมู่ชนที่เป็นศัตรูอันรุนแรงแก่บรรดาผู้ที่ศรัทธานั้นคือชาวยิว และบรรดาผู้ที่ให้มีภาคีแก่อัลลอฮ์(201) และแน่นอนเจ้าจะพบว่าบรรดาผู้ที่มีความรักใคร่แก่บรรดาผู้ที่ศรัทธาใกล้กว่า(202) พวกเขา(203) นั้นคือ บรรดาผู้ที่กล่าวว่าแท้จริงพวกเราเป็นคริสต์ นั่นก็เพราะว่า ในหมู่พวกเขานั้นมีบรรดานักปราชญ์ และบาทหลวงและก็เพราะว่าพวกเขาไม่เย่อหยิ่ง
Comment: (201)หมายถึงพวกมุชริก และพวกกาเฟรทั่ว ๆ ไปนอกเหนือจากพวกอะฮ์ลุลกิตาบ
Comment: (202)คือใกล้กว่าพวกยิว และพวกมุชริก
Comment: (203)คือใกล้กว่าพวกยิวและพวกมุชริก
5:83
وَإِذَا سَمِعُوا۟ مَآ أُنزِلَ إِلَى ٱلرَّسُولِ تَرَىٰٓ أَعْيُنَهُمْ تَفِيضُ مِنَ ٱلدَّمْعِ مِمَّا عَرَفُوا۟ مِنَ ٱلْحَقِّ ۖ يَقُولُونَ رَبَّنَآ ءَامَنَّا فَٱكْتُبْنَا مَعَ ٱلشَّـٰهِدِينَ
Translation: และเมื่อพวกเขา(204) ได้ยินสิ่งที่ถูกประทานลงมาแก่ร่อซูลแล้ว เจ้า(205) ก็จะเห็นตาของพวกเขาหลั่งออกมาซึ่งน้ำตา เนื่องจากความจริงที่พวกเขารู้(206) โดยที่พวกเขาจะกล่าวว่า โอ้พระผู้อภิบาลของพวกข้าพระองค์โปรดได้ทรงจารึกพวกข้าพระองค์ไว้ร่วมกับบรรดาผู้กล่าวปฏิญาณยืนยันด้วยเถิด(207)
Comment: (204)คือพวกที่กล่าวว่า เราเป็นคริสต์ได้ยินโองการที่ถูกประทานลงมาแก่ท่านนบีมุฮัมมัด
Comment: (205)หมายถึงท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
Comment: (206)คือเนื่องในโองการที่พวกเขาได้ยินนั้นมีความจริงตรงตามที่พวกเขาเคยรู้มาก่อนจากคัมภีร์ของพวกเขา เช่น กษัตริย์อันนะญาชีย์ และบรรดาปุโรหิตของพระองค์ได้ฟังอัลกรุอานที่ระบุเกี่ยวกับความเป็นจริงของท่านนบีอีซา เป็นต้น
Comment: (207)คือผู้ที่กล่าวปฏิญาณยืนยันสองกะลิมะฮ์ ชะฮาดะฮ์ เพื่อรับนับถือ อัลอิสลาม
5:84
وَمَا لَنَا لَا نُؤْمِنُ بِٱللَّهِ وَمَا جَآءَنَا مِنَ ٱلْحَقِّ وَنَطْمَعُ أَن يُدْخِلَنَا رَبُّنَا مَعَ ٱلْقَوْمِ ٱلصَّـٰلِحِينَ
Translation: และไม่มีเหตุผลใดๆ แก่เราที่เราจะไม่ศรัทธาต่ออัลลอฮ์และความจริงที่มายังเรา และเราปรารถนาอย่างแรงกล้าที่พระผู้อภิบาลของเราจะทรงให้เราเข้าร่วมอยู่กับพวกที่ดี ๆ ทั้งหลาย(208)
Comment: (208)คือพวกที่ดำเนินชีวิตอยู่ในวิถีทางของอัลลอฮ์อย่างเคร่งครัด
5:85
فَأَثَـٰبَهُمُ ٱللَّهُ بِمَا قَالُوا۟ جَنَّـٰتٍۢ تَجْرِى مِن تَحْتِهَا ٱلْأَنْهَـٰرُ خَـٰلِدِينَ فِيهَا ۚ وَذَٰلِكَ جَزَآءُ ٱلْمُحْسِنِينَ
Translation: แล้วอัลลอฮ์ก็ได้ทรงตอบแทนแก่พวกเขาเนื่องด้วยสิ่งที่พวกเขากล่าว(209) ซึ่งบรรดาสวนสวรรค์ที่มีแม่น้ำหลายสายไหลอยู่ภายใต้สวนเหล่านั้น โดยที่พวกเขาจะพำนักอยู่ในนั้นตลอดกาล และนั่นแหละคือ การตอบแทนแก่บรรดาผู้กระทำดี
Comment: (209)หมายถึงสิ่งที่พวกเขากล่าวว่า โอ้ พระเจ้าพวกข้าพระองค์โปรดทรงจารึกพวกข้าพระองค์ไว้ร่วมกับบรรดาผู้กล่าวปฏิญาณยืนยันด้วยเถิด”
5:86
وَٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ وَكَذَّبُوا۟ بِـَٔايَـٰتِنَآ أُو۟لَـٰٓئِكَ أَصْحَـٰبُ ٱلْجَحِيمِ
Translation: และบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธา(210) และปฏิเสธบรรดาโองการของเรานั้น(211) ชนเหล่านี้แหละคือ ชาวนรกที่มีเปลวไฟอันโชติช่วง(อัลญะฮีม)
Comment: (210)คือปฏิเสธศรัทธาต่อท่านนบีมุฮัมมัด
Comment: (211)คือไม่ยอมเชื่อว่าสิ่งที่ระบุอยู่ในโองการของเราเป็นความจริง
5:87
يَـٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ لَا تُحَرِّمُوا۟ طَيِّبَـٰتِ مَآ أَحَلَّ ٱللَّهُ لَكُمْ وَلَا تَعْتَدُوٓا۟ ۚ إِنَّ ٱللَّهَ لَا يُحِبُّ ٱلْمُعْتَدِينَ
Translation: ผู้ที่ศรัทธาทั้งหลาย! จงอย่าได้ห้ามบรรดาสิ่งดีๆ ในสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงอนุมัติแก่พวกเจ้า และพวกเจ้าจงอย่าละเมิด(212) แท้จริง อัลลอฮ์ไม่ทรงรักบรรดาผู้ละเมิด
Comment: (212)คือละเมิดขอบเขตแห่งบัญญัติของพระองค์
5:88
وَكُلُوا۟ مِمَّا رَزَقَكُمُ ٱللَّهُ حَلَـٰلًۭا طَيِّبًۭا ۚ وَٱتَّقُوا۟ ٱللَّهَ ٱلَّذِىٓ أَنتُم بِهِۦ مُؤْمِنُونَ
Translation: และพวกเจ้าจงบริโภคสิ่งอนุมัติที่ดีๆ จากสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้า และพึงยำเกรงอัลลอฮ์ผู้ซึ่งพวกเจ้าศรัทธาต่อพระองค์เถิด
5:89
لَا يُؤَاخِذُكُمُ ٱللَّهُ بِٱللَّغْوِ فِىٓ أَيْمَـٰنِكُمْ وَلَـٰكِن يُؤَاخِذُكُم بِمَا عَقَّدتُّمُ ٱلْأَيْمَـٰنَ ۖ فَكَفَّـٰرَتُهُۥٓ إِطْعَامُ عَشَرَةِ مَسَـٰكِينَ مِنْ أَوْسَطِ مَا تُطْعِمُونَ أَهْلِيكُمْ أَوْ كِسْوَتُهُمْ أَوْ تَحْرِيرُ رَقَبَةٍۢ ۖ فَمَن لَّمْ يَجِدْ فَصِيَامُ ثَلَـٰثَةِ أَيَّامٍۢ ۚ ذَٰلِكَ كَفَّـٰرَةُ أَيْمَـٰنِكُمْ إِذَا حَلَفْتُمْ ۚ وَٱحْفَظُوٓا۟ أَيْمَـٰنَكُمْ ۚ كَذَٰلِكَ يُبَيِّنُ ٱللَّهُ لَكُمْ ءَايَـٰتِهِۦ لَعَلَّكُمْ تَشْكُرُونَ
Translation: อัลลอฮ์จะไม่ทรงเอาโทษแก่พวกเจ้าด้วยถ้อยคำที่ไร้สาระในการสาบานของพวกเจ้า(213) แต่ทว่าพระองค์จะทรงเอาโทษแก่พวกเจ้าด้วยถ้อยคำที่พวกเจ้าปลงใจสาบาน(214) แล้วสิ่งไถ่โทษมัน(215) นั้นคือการให้อาหารแก่มิสกีนสิบคนจากอาหารปานกลางของสิ่งที่พวกเจ้าให้เป็นอาหารแก่ครอบครัวของพวกเจ้า หรือไม่ก็ให้เครื่องนุ่งห่มแก่พวกเขา หรือไถ่ทาสคนหนึ่งให้เป็นอิสระ ผู้ใดไม่พบ(216) ก็ให้มีการถือบวชสามวัน นั่นแหละคือสิ่งไถ่โทษในการสาบานของพวกเจ้าเมื่อพวกเจ้าได้สาบานไว้ และจงรักษาการสาบานของพวกเจ้าเถิด(217) ในทำนองนั้นแหละอัลลอฮ์จะทรงแจกแจงบรรดาโองการของพระองค์แก่พวกเจ้า เพื่อว่าพวกเจ้าจักขอบคุณ
Comment: (213)คือถ้อยคำสาบานที่ติดปากโดยมิได้ตั้งใจ เช่นกล่าวว่า (เปล่า ฉันขอสาบานต่ออัลลอฮ์)
Comment: (214)คือเอาโทษแก่ผู้ที่สาบานด้วยความจริงใจ แต่ไม่รักษาคำสาบาน
Comment: (215)คือสิ่งไถ่โทษคำสาบานที่ต้องเพิกถอนหรือไม่ต้องการรักษา
Comment: (216)หมายถึงไม่พบสิ่งหนึ่งสิ่งใดในสามสิ่งที่จะทำการไถ่โทษ หรือไม่มีเงินซื้อ
Comment: (217)คือถ้าสาบานว่าจะกระทำสิ่งที่ดีก็จงรักษาการสาบานนั้นไว้เถิด
5:90
يَـٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوٓا۟ إِنَّمَا ٱلْخَمْرُ وَٱلْمَيْسِرُ وَٱلْأَنصَابُ وَٱلْأَزْلَـٰمُ رِجْسٌۭ مِّنْ عَمَلِ ٱلشَّيْطَـٰنِ فَٱجْتَنِبُوهُ لَعَلَّكُمْ تُفْلِحُونَ
Translation: ผู้ศรัทธาทั้งหลาย! ที่จริงสุราและการพนันและแท่นหินสำหรับเชือดสัตว์บูชายัญ(218) และการเสี่ยงติ้ว(219) นั้นเป็นสิ่งโสมมอันเกิดจากการกระทำของชัยฏอน(200) ดังนั้นพวกเจ้าจงห่างไกลจากมันเสียเพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รับความสำเร็จ
Comment: (218)เป็นแท่นหินที่ถูกวางไว้รอบ ๆ กะฮ์บะฮ์ โดยที่พวกมุชริกถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และทำการเคารพบูชากัน
Comment: (219)ได้อธิบายไว้แล้วในอายะฮ์ที่สามของซูเราะฮ์ อัล-มาอิดะฮ์ โปรดกลับไปดูใหม่
Comment: (200)หมายถึงการชี้นำของมัน แล้วมนุษย์ก็หลงเชื่อ
5:91
إِنَّمَا يُرِيدُ ٱلشَّيْطَـٰنُ أَن يُوقِعَ بَيْنَكُمُ ٱلْعَدَٰوَةَ وَٱلْبَغْضَآءَ فِى ٱلْخَمْرِ وَٱلْمَيْسِرِ وَيَصُدَّكُمْ عَن ذِكْرِ ٱللَّهِ وَعَنِ ٱلصَّلَوٰةِ ۖ فَهَلْ أَنتُم مُّنتَهُونَ
Translation: ที่จริงชัยฏอนนั้นเพียงต้องการที่จะให้เกิดการเป็นศัตรูกันและการเกลียดชังกันระหว่างพวกเจ้าในสุราและการพนัน(221) และมันจะหันเหพวกเจ้าออกจากการรำลึกถึงอัลลอฮ์และการละหมาด(222) แล้วพวกเจ้าจะยุติไหม(223)
Comment: (221)คือในการดื่มสุราและการเล่นการพนัน เราะทั้งสองนั้นก่อให้เกิดการวิวาทกัน และผิดใจกัน
Comment: (222)เพราะผู้ที่มึนเมานั้นง่ายแก่การที่ชัยฏอนจะจูงเขาให้ไปทางไหนก็ได้ เฉพาะอย่างยิ่งในการหันเหออกจากการรำลึกถึงอัลลอฮ์และการละหมาด ส่วนการพนันนั้นก็ทำให้ผู้เล่นมุ่งที่จะได้รับกำไร จึงไม่มีช่องที่รำลึกถึงอัลลอฮ์ และไม่มีเวลาไปทำละหมาด
Comment: (223)เป็นคำถามในเชิงปรามเพื่อให้ให้ยุติในการดื่มสุราและการพนัน
5:92
وَأَطِيعُوا۟ ٱللَّهَ وَأَطِيعُوا۟ ٱلرَّسُولَ وَٱحْذَرُوا۟ ۚ فَإِن تَوَلَّيْتُمْ فَٱعْلَمُوٓا۟ أَنَّمَا عَلَىٰ رَسُولِنَا ٱلْبَلَـٰغُ ٱلْمُبِينُ
Translation: และพวกเจ้าจงเชื่อฟังอัลลอฮ์และจงเชื่อฟังร่อซูลเถิด และพึงระมัดระวัง(224) ไว้ด้วย แต่ถ้าพวกเจ้าผินหลังได้(225) ก็พึงรู้เถิดว่าที่จริงหน้าที่ของร่อซูลของเรานั้น คือ การประกาศอันชัดเจนเท่านั้น(226)
Comment: (224)คือระมัดระวังมิให้ตกอยู่ในฐานะผู้ฝ่าฝืนอัลลอฮ์ และร่อซูลของพระองค์มิเช่นนั้นแล้วพวกเขาจะได้รับโทษ
Comment: (225)คือไม่เชื่อฟังอัลลอฮ์ และร่อซูลของพระองค์
Comment: (226)คือท่านนบีมีหน้าที่ประกาศศาสนาของอัลลอฮ์ แก่พวกท่านอย่างชัดเจนเท่านั้น ส่วนพวกท่านจะเชื่อฟังหรือไม่นั้นเป็นเรื่องระหว่างพวกท่านกับอัลลอฮ์ ท่านนบีได้กระทำหน้าที่ของท่านโดยสมบูรณ์แล้ว
5:93
لَيْسَ عَلَى ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ وَعَمِلُوا۟ ٱلصَّـٰلِحَـٰتِ جُنَاحٌۭ فِيمَا طَعِمُوٓا۟ إِذَا مَا ٱتَّقَوا۟ وَّءَامَنُوا۟ وَعَمِلُوا۟ ٱلصَّـٰلِحَـٰتِ ثُمَّ ٱتَّقَوا۟ وَّءَامَنُوا۟ ثُمَّ ٱتَّقَوا۟ وَّأَحْسَنُوا۟ ۗ وَٱللَّهُ يُحِبُّ ٱلْمُحْسِنِينَ
Translation: ไม่มีบาปใดๆ แก่บรรดาผู้ที่ศรัทธาและปฏิบัติสิ่งที่ดีงามทั้งหลาย ในสิ่งที่พวกเขาได้บริโภค(227) เมื่อพวกเขามีความยำเกรงและศรัทธา และปฏิบัติสิ่งที่ดีงามทั้งหลาย แล้วก็มีความยำเกรงและศรัทธาแล้วก็มีความยำเกรง และกระทำดี และอัลลอฮ์ทรงรักผู้กระทำดีทั้งหลาย
Comment: (227)บริโภคอาหารที่ซื้อมาด้วยเงินที่ได้จากการพนัน หรือดื่มสุราทั้งนี้ก่อนจากที่ได้มีบัญญัติห้ามไว้ และเมื่อมีบัญญัติห้ามแล้ว พวกเขาก็เลิก
5:94
يَـٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ لَيَبْلُوَنَّكُمُ ٱللَّهُ بِشَىْءٍۢ مِّنَ ٱلصَّيْدِ تَنَالُهُۥٓ أَيْدِيكُمْ وَرِمَاحُكُمْ لِيَعْلَمَ ٱللَّهُ مَن يَخَافُهُۥ بِٱلْغَيْبِ ۚ فَمَنِ ٱعْتَدَىٰ بَعْدَ ذَٰلِكَ فَلَهُۥ عَذَابٌ أَلِيمٌۭ
Translation: ผู้ศรัทธาทั้งหลาย! แน่นอนอัลลอฮ์จะทรงทดสอบพวกเจ้าด้วยสิ่งหนึ่ง อันได้แก่สัตว์ล่า(228) ที่มือของพวกเจ้าได้มันมา(229) และหอกของพวกเจ้าด้วย(230) เพื่ออัลลอฮ์จะทรงรู้ว่าใครที่ยำเกรงพระองค์ในสภาพที่เขาไม่เห็นพระองค์ แล้วผู้ใดละเมิดหลังจากนั้น(231) เขาก็จะได้รับโทษอันเจ็บแสบ
Comment: (228)คือสัตว์ป่า กล่าวคือ ในขณะครองอิห์รอมเพื่อประกอบกพิธีฮัจญ์นั้น ห้ามมิให้ทำการล่าสัตว์ป่า และขณะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์อัลกะฮ์บะฮ์นั้น ย่อมจะพบสัตว์ป่าตามทาง ในการนี้จึงเป็นการทดสอบอีมานของพวกเขาว่า ถ้าพวกเขามีอีมานเข้มแข็ง ก็จะไม่ทำการล่าสัตว์ป่า แต่ถ้าไม่เข้มแข็งก็จะทำการล่าเพื่อเป็นอาหารอันโอชะในระหว่างทาง
Comment: (229)สัตว์ป่าบางปะเภทที่ล่ามันได้ด้วยมือเปล่า
Comment: (230)สัตว์บางประเภทที่ล่ามันด้วยหอก
Comment: (231)ล่าสัตว์ป่าขณะขณะครองอิห์รอม หลังจากที่ได้มีบัญญัติห้ามไว้
5:95
يَـٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ لَا تَقْتُلُوا۟ ٱلصَّيْدَ وَأَنتُمْ حُرُمٌۭ ۚ وَمَن قَتَلَهُۥ مِنكُم مُّتَعَمِّدًۭا فَجَزَآءٌۭ مِّثْلُ مَا قَتَلَ مِنَ ٱلنَّعَمِ يَحْكُمُ بِهِۦ ذَوَا عَدْلٍۢ مِّنكُمْ هَدْيًۢا بَـٰلِغَ ٱلْكَعْبَةِ أَوْ كَفَّـٰرَةٌۭ طَعَامُ مَسَـٰكِينَ أَوْ عَدْلُ ذَٰلِكَ صِيَامًۭا لِّيَذُوقَ وَبَالَ أَمْرِهِۦ ۗ عَفَا ٱللَّهُ عَمَّا سَلَفَ ۚ وَمَنْ عَادَ فَيَنتَقِمُ ٱللَّهُ مِنْهُ ۗ وَٱللَّهُ عَزِيزٌۭ ذُو ٱنتِقَامٍ
Translation: ผู้ศรัทธาทั้งหลาย! จงอย่าฆ่าสัตว์ล่าในขณะที่พวกเจ้ากำลังครองเอี๊ยะห์รอมอยู่ และผู้ใดในหมู่พวกเจ้าได้ฆ่ามันโดยเจตนาแล้วไซร้ การชดเชยก็คือชนิดเดียวกับที่ถูกฆ่า (จากปศุสัตว์(232)) โดยผู้ที่ยุติธรรมสองคนในหมู่พวกเจ้าจะกระทำการชี้ขาดมัน(233) ในฐานะเป็นสัตว์พลีที่ไปถึงอัลกะฮ์บะฮ์(234) หรือไม่ก็ให้มีการลงไถ่โทษ คือให้อาหารแก่บรรดามีสกีน(235) หรือสิ่งที่เท่าเทียมสิ่งนั้น ด้วยการถือศีลอด(236) เพื่อที่เขาจะได้ลิ้มรสผลภัยแห่งกิจกรรมของเขา อัลลอฮ์ได้ทรงอภัยให้จากสิ่งที่ได้ล่วงเลยมาแล้ว(237) และผู้ใดกลับกระทำอีก อัลลอฮ์ก็จะทรงลงโทษเขาและอัลลอฮ์คือผู้ทรงเดชานุภาพ ผู้ทรงลงโทษ
Comment: (232)ให้ชดเชยด้วยสัตว์เลี้ยงชนิดเดียวกับที่ถูกฆ่า แต่ถ้าไม่พบก็ให้มีลักษณะใกล้เคียงกัน
Comment: (233)ชี้ขาดว่า สัตว์เลี้ยงที่จะชดเชยนั้นใกล้เคียงกันหรือไม่
Comment: (234)สัตว์เลี้ยงที่ชดเชยนั้นให้ถือเป็นสัตว์พลี นำไปเชือดที่อัลกะอ์บะฮ์เพื่อเป็นอาหารแก่คนมีสกีน
Comment: (235)จะเป็นจำนวนกี่คนนั้นขึ้นอยู่กับการประเมินราคาของสัตว์เลี้ยงที่ใช้ชดเชยสัตว์ป่าที่ถูกล่า
Comment: (236)ถ้าได้ประเมินราคาสัตว์ชดเชย เท่ากับให้อาหารแก่มิสกีน 5 คน ก็ให้ถือศีลอด 5 วัน
Comment: (237)ที่ได้กระทำขึ้นก่อนมีบัญญัติห้าม
5:96
أُحِلَّ لَكُمْ صَيْدُ ٱلْبَحْرِ وَطَعَامُهُۥ مَتَـٰعًۭا لَّكُمْ وَلِلسَّيَّارَةِ ۖ وَحُرِّمَ عَلَيْكُمْ صَيْدُ ٱلْبَرِّ مَا دُمْتُمْ حُرُمًۭا ۗ وَٱتَّقُوا۟ ٱللَّهَ ٱلَّذِىٓ إِلَيْهِ تُحْشَرُونَ
Translation: ได้ถูกอนุมัติแก่พวกเจ้า ซึ่งสัตว์ล่าในทะเล(238) และอาหารจากทะเล(239) ทั้งนี้เพื่อเป็นสิ่งอำนวยประโยชน์แก่พวกเจ้า และแก่บรรดาผู้เดินทาง และได้ถูกห้ามแก่พวกเจ้า ซึ่งสัตว์ล่าบนบกตราบใดที่พวกเจ้าครองเอี๊ยะห์รอมอยู่และจงยำเกรงอัลลอฮ์เถิด ผู้ที่พวกเจ้าจะถูกรวบรวมนำไปสู่พระองค์
Comment: (238)อนุมัติให้จับปลาในทะเลได้ ขณะที่อยู่ในอิห์รอม
Comment: (239)หมายถึงปลาที่เกยหาดตายหรือที่ตายลอยอยู่ในทะเล
5:97
۞ جَعَلَ ٱللَّهُ ٱلْكَعْبَةَ ٱلْبَيْتَ ٱلْحَرَامَ قِيَـٰمًۭا لِّلنَّاسِ وَٱلشَّهْرَ ٱلْحَرَامَ وَٱلْهَدْىَ وَٱلْقَلَـٰٓئِدَ ۚ ذَٰلِكَ لِتَعْلَمُوٓا۟ أَنَّ ٱللَّهَ يَعْلَمُ مَا فِى ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَمَا فِى ٱلْأَرْضِ وَأَنَّ ٱللَّهَ بِكُلِّ شَىْءٍ عَلِيمٌ
Translation: อัลลอฮ์ได้ทรงให้อัลกะอ์บะฮ์ อันเป็นบ้านที่ต้องห้ามนั้นเป็นที่ดำรงอยู่สำหรับมนุษย์(240) และเดือนที่ต้องห้าม และสัตว์พลีและสัตว์ที่ถูกสวมเครื่องหมายไว้ที่คอ เพื่อเป็นสัตว์พลีด้วย นั่นก็เพื่อพวกเจ้าจะได้รู้ว่า แท้จริงอัลลอฮ์ทรงรู้สิ่งที่อยู่ในบรรดาชั้นฟ้า และสิ่งที่อยู่ในแผ่นดิน และแท้จริงอัลลอฮ์ทรงรอบรู้ในทุกสิ่งทุกอย่าง
Comment: (240)ผู้คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น เพื่อดูแลบัยตุลลอฮ์และกระทำการอิบาดะฮ์ ตลอดจนเป็นที่พักของผู้เดินทางไปทำฮัจญ์และอุมเราะฮ์เพราะเป็นสถานที่ปลอดภัย ซึ่งอาหรับทุกเผ่าให้การเคารพนับถือ ไม่มีใครทำร้ายกันในบริเวณนั้น
5:98
ٱعْلَمُوٓا۟ أَنَّ ٱللَّهَ شَدِيدُ ٱلْعِقَابِ وَأَنَّ ٱللَّهَ غَفُورٌۭ رَّحِيمٌۭ
Translation: พวกเจ้าพึงรู้เถิดว่า แท้จริง อัลลอฮ์เป็นผู้รุนแรงในการลงโทษ(241) และแท้จริงอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงอภัยโทษทรงเอ็นดูเมตตา(242)
Comment: (241)สำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนดื้อดึง
Comment: (242)สำหรับผู้ที่สำนึกผิด กลับเนื้อกลับตัวและขออภัยโทษต่อพระองค์
5:99
مَّا عَلَى ٱلرَّسُولِ إِلَّا ٱلْبَلَـٰغُ ۗ وَٱللَّهُ يَعْلَمُ مَا تُبْدُونَ وَمَا تَكْتُمُونَ
Translation: หน้าที่ของร่อซูลนั้นมิใช่อะไรอื่น นอกจากการประกาศให้ทราบ(243) เท่านั้น และอัลลอฮ์ทรงรู้สิ่งที่พวกเจ้าเปิดเผย และสิ่งที่พวกเจ้าปกปิด
Comment: (243)ทำหน้าที่ประกาศศาสนาของอัลลอฮ์ให้มนุษย์ทราบเท่านั้น ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อไม่ใช่หน้าที่ของท่าน
5:100
قُل لَّا يَسْتَوِى ٱلْخَبِيثُ وَٱلطَّيِّبُ وَلَوْ أَعْجَبَكَ كَثْرَةُ ٱلْخَبِيثِ ۚ فَٱتَّقُوا۟ ٱللَّهَ يَـٰٓأُو۟لِى ٱلْأَلْبَـٰبِ لَعَلَّكُمْ تُفْلِحُونَ
Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด)ว่าสิ่งเลวกับสิ่งดีนั้นย่อมไม่เท่าเทียมกัน(244) และแม้ว่าความมากมายของสิ่งชั่วนั้น ได้ทำให้ท่านพึงใจก็ตาม(245) จงยำเกรงอัลลอฮ์เถิด ผู้มีสติบัญญัติทั้งหลาย! เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รับความสำเร็จ
Comment: (244)หมายถึงสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงบัญญัติให้ปฏิบัติกับสิ่งที่มนุษย์นึกคิดขึ้นเองนั้นย่อมไม่เท่าเทียมกัน
Comment: (245)หมายถึงมีคนจำนวนมากกระทำความชั่ว จนทำให้ท่านเห็นดีเห็นชอบด้วย
5:101
يَـٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ لَا تَسْـَٔلُوا۟ عَنْ أَشْيَآءَ إِن تُبْدَ لَكُمْ تَسُؤْكُمْ وَإِن تَسْـَٔلُوا۟ عَنْهَا حِينَ يُنَزَّلُ ٱلْقُرْءَانُ تُبْدَ لَكُمْ عَفَا ٱللَّهُ عَنْهَا ۗ وَٱللَّهُ غَفُورٌ حَلِيمٌۭ
Translation: ผู้ศรัทธาทั้งหลาย! จงอย่าถามถึงสิ่งต่างๆ(246) หากสิ่งเหล่านี้ถูกเปิดเผยขึ้น(247) แล้วมันก็จะก่อให้เกิดความเลวร้าย(248) แก่พวกเจ้า และถ้าพวกเจ้าถามถึงสิ่งเหล่านั้น ขณะที่อัลกุรอานถูกประทานลงมา มันก็จะถูกเปิดเผยขึ้น(249) แก่พวกเจ้า อัลลอฮ์ได้ทรงอภัยสิ่งเหล่านั้นแล้ว(250) และอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงอภัยผู้ทรงหนักแน่น
Comment: (246)สิ่งที่อัลลอฮ์มิได้บัญญัติให้ปฏิบัติ
Comment: (247)คือถูกบัญญัติให้ปฏิบัติสิ่งเหล่านั้น
Comment: (248)เพราะเป็นการเพิ่มภาระแก่พวกเจ้า และทำให้พวกเจ้าลำบาก
Comment: (249)ถูกบัญญัติให้ปฏิบัติ
Comment: (250)กล่าวคือ สิ่งต่างๆ ที่พวกเจ้าต้องการจะถาม โดยที่พระองค์มิได้ทรงบัญญัติไว้นั้น เป็นการอภัยให้แก่พวกเจ้า ไม่ต้องเป็นกังวลว่าพวกเจ้าจะต้องปฏิบัติ
5:102
قَدْ سَأَلَهَا قَوْمٌۭ مِّن قَبْلِكُمْ ثُمَّ أَصْبَحُوا۟ بِهَا كَـٰفِرِينَ
Translation: แท้จริงได้มีพวกหนึ่งก่อนพวกเจ้าได้ถามถึงสิ่งต่างๆ เหล่านั้นมาแล้ว(251) แล้วพวกเขาก็กลายเป็นผู้ปฏิเสธสิ่งต่างๆ เหล่านั้น
Comment: (251)ถามสิ่งต่างๆ ที่คล้ายคลึงกับสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงห้ามมิให้บรรดามุมินถาม เพื่อให้อัลลอฮ์ทรงบัญญัติสิ่งเหล่านั้นให้พวกเขาปฏิบัติ
5:103
مَا جَعَلَ ٱللَّهُ مِنۢ بَحِيرَةٍۢ وَلَا سَآئِبَةٍۢ وَلَا وَصِيلَةٍۢ وَلَا حَامٍۢ ۙ وَلَـٰكِنَّ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ يَفْتَرُونَ عَلَى ٱللَّهِ ٱلْكَذِبَ ۖ وَأَكْثَرُهُمْ لَا يَعْقِلُونَ
Translation: อัลลอฮ์มิได้ทรงให้มีขึ้น ซึ่งบะฮีเราะฮ์(252) และซาอิบะฮ์(253) และวะซีละฮ์(254) และฮาม(255) แต่ทว่าบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาต่างหากที่อุปโลกน์ความเท็จแก่อัลลอฮ์และส่วนมากของพวกเขาไม่ใช่ปัญญา
Comment: (252)คือแม่อูฐที่ผ่าหูอย่างกว้าง แล้วปล่อยมันให้เป็นอิสระ โดยที่มันจะไม่ถูกขี่ จะไม่ถูกรีดนม ไม่ถูกบรรทุกสิ่งหนึ่งสิ่งใดจะไม่ถูกขับไล่ให้ออกจากแหล่งน้ำ เมื่อมันต้องการดื่มและจะไม่ถูกกีดกันแหล่งหญ้าใด ๆด้วย ทั้งนี้เนื่องจากมันได้ออกลูก 5 ตัวโดยที่ตัวสุดท้ายเป็นตัวผู้ บางรายงานก็ว่า ตัวสุดท้ายเป็นตัวเมีย ดังรายงานของอิบนิอับบาส
Comment: (253)คือแม่อูฐที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระ เนื่องจากได้บนให้แก่เจว็ด ซึ่งมันจะหาแหล่งหญ้ากินตามที่มันต้องการ มันจะไม่ถูกบรรทุกสิ่งของใด ๆ จะไม่ถูกตัดขน แลจะไม่ถูกรีดนม นอกจากเพื่อแขกที่มาเยี่ยมเท่านั้น
Comment: (254)คือแม่แพะที่หากมันออกลูกเป็นตัวเมียก็เป็นสิทธิของเจ้าของ แต่ถ้ามันออกลูกเป็นตัวผู้ก็เป็นสิทธิของเจว็ดของพวกเขา แต่ถ้ามันออกทั้งตัวผู้และตัวเมียแล้ว ถือกันว่า ตัวเมียได้มาทันน้องตัวผู้ของมัน ในการนี้เขาจะไม่เชือดตัวผู้ถวายแก่เจว็ดของพวกเขา
Comment: (255)พ่อพันธุ์ที่ได้ผสมพันธุ์จนแม่อูฐออกลูกถึงสิบท้อง ในการนี้หลังของมันจะถูกคุ้มครองรักษา โดยมันจะไม่ถูกขี่จะไม่ถูกบรรทุกจะไม่ถูกหวงห้ามจากแหล่งน้ำและแหล่งหญ้าใด ๆ อนึ่งเกี่ยวกับสัตว์สี่ประเภทดังกล่าวนั้นมีรายงานที่ให้ความหายเป็นอย่างอื่นอีก
5:104
وَإِذَا قِيلَ لَهُمْ تَعَالَوْا۟ إِلَىٰ مَآ أَنزَلَ ٱللَّهُ وَإِلَى ٱلرَّسُولِ قَالُوا۟ حَسْبُنَا مَا وَجَدْنَا عَلَيْهِ ءَابَآءَنَآ ۚ أَوَلَوْ كَانَ ءَابَآؤُهُمْ لَا يَعْلَمُونَ شَيْـًۭٔا وَلَا يَهْتَدُونَ
Translation: และเมื่อได้ถูกกล่าวแก่พวกเขาว่า ท่านทั้งหลายจงมาสู้สิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงประทานลงมาเถิด(256) และมาสู่ร่อซูลด้วย(257) พวกเขาก็กล่าวว่า เป็นการพอเพียงแก่เราแล้ว สิ่งที่เราได้พบบรรพบุรุษของเราเคยกระทำมันมา(258) ถึงแม้ได้ปรากฏว่าบรรพบุรุษของพวกเขาไม่เข้าใจสิ่งใด และทั้งไม่ได้รับคำแนวทางที่ถูกต้องอีกด้วยกระนั้นหรือ?(259)
Comment: (256)คือหันมาศรัทธาต่ออัลกรุอาน
Comment: (257)คือหันมาศรัทธาต่อท่านนบีมุฮัมมัด
Comment: (258)กล่าวคือสิ่งที่เราได้พบได้เห็นบรรพบุรุษของเราเคยกระทำมา โดยที่เราจะถือปฏิบัติตามนั้นเป็นการพอเพียงแก่เราแล้ว ดังนั้นเราจึงไม่พึงปรารถนาในสิ่งที่อัลลอฮ์ประทานมาให้ หรือคำแนะนำของร่อซูลของพระองค์
Comment: (259)เป็นคำถามในเชิงปรามให้สำนึกผิด และกลับเนื้อกลับตัว
5:105
يَـٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ عَلَيْكُمْ أَنفُسَكُمْ ۖ لَا يَضُرُّكُم مَّن ضَلَّ إِذَا ٱهْتَدَيْتُمْ ۚ إِلَى ٱللَّهِ مَرْجِعُكُمْ جَمِيعًۭا فَيُنَبِّئُكُم بِمَا كُنتُمْ تَعْمَلُونَ
Translation: ผู้ศรัทธาทั้งหลาย! จำเป็นแก่พวกเจ้าในการป้องกันตัวของพวกเจ้า(260) ผู้ที่หลงผิดไปจะไม่เป็นอันตรายแก่พวกเจ้า(261) ได้ เมื่อพวกเจ้ารับคำแนะนำไว้(262) ยังอัลลอฮ์คือการกลับไปของพวกเจ้าทั้งหมด แล้วพระองค์ก็จะทรงบอกแก่พวกเจ้าทั้งหลาย ในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำกัน
Comment: (260)คือป้องกันตัวเองมิให้กระทำการใด ๆ อันเป็นการฝ่าฝืนบัญญัติของอัลลอฮ์ในขณะเดียวกันก็ไม่เฉยเมยต่อบัญญัติที่พระองค์ทรงใช้ปฏิบัติ
Comment: (261)คือจะไม่ทำให้พวกเจ้าได้รับโทษจากอัลลอฮ์อย่างใด เมื่อพวกเจ้าได้ใช้ความพยายามแนะนำชักชวนเขาให้ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกแล้วแต่เขาดื้อรั้นไม่ยอมรับฟัง มิได้หมายความว่า ธุระไม่ใช่ ใครจะทำอย่างไรก็ตามใจ ตัวใครตัวมัน ถ้าเช่นนี้แล้วเขาจะต้องได้รับโทษจากอัลลอฮ์เพราะการไม่ตักเตือนเขานั้น เท่ากับเป็นการสนับสนุนว่าเขากระทำถูกและอีกประการหนึ่งหน้าที่ของมุสลิมจะต้องแนะนำตักเตือนพี่น้องมุสลิมเมื่อเห็นเขากระทำผิดถ้าเขาละเลยเขาก็จะได้รับโทษ และเพื่ออัลลอฮ์ทรงลงโทษพวกเขาก็ร่วมได้รับโทษด้วย ดั่งเช่นที่เกิดขึ้นในสมัยท่านนบีมูซา
Comment: (262)คือพวกเจ้ายอมรับคำแนะนำไม่ว่าจะศึกษาด้วยตนเองจากอัลกรุอาน และอัล-ฮะดีซ หรือมีผู้รู้แนะนำชี้แจงบัญญัติศาสนาที่ถูกต้องให้ทราบก็ตาม และก็ได้ปฏิบัติตามอย่างดี
5:106
يَـٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ شَهَـٰدَةُ بَيْنِكُمْ إِذَا حَضَرَ أَحَدَكُمُ ٱلْمَوْتُ حِينَ ٱلْوَصِيَّةِ ٱثْنَانِ ذَوَا عَدْلٍۢ مِّنكُمْ أَوْ ءَاخَرَانِ مِنْ غَيْرِكُمْ إِنْ أَنتُمْ ضَرَبْتُمْ فِى ٱلْأَرْضِ فَأَصَـٰبَتْكُم مُّصِيبَةُ ٱلْمَوْتِ ۚ تَحْبِسُونَهُمَا مِنۢ بَعْدِ ٱلصَّلَوٰةِ فَيُقْسِمَانِ بِٱللَّهِ إِنِ ٱرْتَبْتُمْ لَا نَشْتَرِى بِهِۦ ثَمَنًۭا وَلَوْ كَانَ ذَا قُرْبَىٰ ۙ وَلَا نَكْتُمُ شَهَـٰدَةَ ٱللَّهِ إِنَّآ إِذًۭا لَّمِنَ ٱلْـَٔاثِمِينَ
Translation: ผู้ศรัทธาทั้งหลาย! การเป็นพยานระหว่างพวกเจ้าเมื่อความตายได้มายังคนหนึ่งคนใดในพวกเจ้า(263) ขณะมีการทำพินัยกรรม คือสองคนที่เป็นผู้เที่ยงธรรมในหมู่พวกเจ้า หรือคนอื่นสองคนที่มิใช่ในหมู่พวกเจ้า(264) หากพวกเจ้าได้เดินทางไปในผืนแผ่นดินแล้วได้มีภัยแห่งความตายประสบกับพวกเจ้าโดยที่พวกเจ้าจะต้องกักตัวเขาทั้งสองไว้หลังจากละหมาด(265) แล้วทั้งสองนั้นก็จะสาบานต่ออัลลอฮ์หากพวกเจ้าสงสัย(266) ว่าเราจะไม่นำการสาบานนั้นไปแลกเปลี่ยนกับราคาใดๆ(267) และแม้ว่าเขา(268) จะเป็นญาติใกล้ชิดก็ตาม และเราจะไม่ปกปิดหลักฐานของอัลลอฮ์(269) (ถ้ามิเช่นนั้น)แน่นอนทันใดนั้นเองเรา ก็จะอยู่ในหมู่ผู้ที่กระทำบาป
Comment: (263)หมายถึงสาเหตุแห่งความตายได้ปรากฏแก่พวกเจ้า ขณะอยู่ในระหว่างเดินทาง
Comment: (264)คือถ้าไม่พบพยานที่เป็นมุสลิม ก็อนุญาตใช้ผู้ที่มิใช่มุสลิมสองคนก็ได้
Comment: (265)คือเมื่อกลับถึงมะดีนะฮ์ หลังจากละหมาดอัศริแล้วก็ให้กักตัวพยานทั้งสองนั้นไว้
Comment: (266)คือสงสัยว่าพยานจะไม่พูดความจริงตามที่ผู้ตายได้ทำพินัยกรรมไว้
Comment: (267)คือจะไม่ให้การสาบานของเขาประหนึ่งสินค้าที่ใช้แลกเปลี่ยนเงินทอง เพราะการกระทำเช่นนั้นเท่ากับเขาหมิ่นในเดชานุภาพของอัลลอฮ์ ซึ่งเป็นความผิดมหันต์
Comment: (268)คือแม้ว่าผู้ที่เขาสาบานนั้น จะเป็นญาติสนิทกับเขา เขาก็ไม่กล้าที่จะสาบานเท็จ เพื่อให้ประโยชน์แก่เขาได้
Comment: (269)หมายถึงว่าพวกเขาจะยืนหยัดไว้ซึ่งความจริง อันถือเป็นหลักฐานของอัลลอฮ์ซึ่งพวกเขาจะปกปิดมิได้ เพราะเกรงกลัวการลงโทษของพระองค์
5:107
فَإِنْ عُثِرَ عَلَىٰٓ أَنَّهُمَا ٱسْتَحَقَّآ إِثْمًۭا فَـَٔاخَرَانِ يَقُومَانِ مَقَامَهُمَا مِنَ ٱلَّذِينَ ٱسْتَحَقَّ عَلَيْهِمُ ٱلْأَوْلَيَـٰنِ فَيُقْسِمَانِ بِٱللَّهِ لَشَهَـٰدَتُنَآ أَحَقُّ مِن شَهَـٰدَتِهِمَا وَمَا ٱعْتَدَيْنَآ إِنَّآ إِذًۭا لَّمِنَ ٱلظَّـٰلِمِينَ
Translation: แล้วหากได้รับรู้ว่าพยานทั้งสองคนนั้นสมควรได้รับโทษ(270) ก็ให้คนอื่นสองคนทำหน้าที่ในตำแหน่งพยานทั้งสองนั้นแทน จากบรรดาผู้ที่มีคนสองคนในหมู่พวกเขาเป็นผู้สมควร(271) แล้วทั้งสองนั้นก็จะสาบานต่ออัลลอฮ์ว่า แน่นอนการเป็นพยานของเรานั้นสมควรยิ่งกว่าการเป็นพยานของเขาทั้งสอง(272) และเรามิได้ละเมิด(ถ้ามิเช่นนั้น)แน่นอนทันใดนั้นเอง เราก็จะอยู่ในหมู่ผู้อธรรม
Comment: (270)มีหลักฐานยืนยันว่า พยานทั้งสองนั้นได้บิดเบือนพินัยกรรมหรืออื่นใด ซึ่งสมควรได้รับโทษ
Comment: (271)หมายถึงให้ทายาทของผู้ทำหน้าที่แทนในตำแหน่งพยานทั้งสองนั้น โดยเลือกผู้ที่เหมาะสมและใกล้ชิดแก่ผู้ตายในหมู่ทายาทของผู้ตาย
Comment: (272)พยานทั้งสองเดิมทีบิดเบือนพินัยกรรม
5:108
ذَٰلِكَ أَدْنَىٰٓ أَن يَأْتُوا۟ بِٱلشَّهَـٰدَةِ عَلَىٰ وَجْهِهَآ أَوْ يَخَافُوٓا۟ أَن تُرَدَّ أَيْمَـٰنٌۢ بَعْدَ أَيْمَـٰنِهِمْ ۗ وَٱتَّقُوا۟ ٱللَّهَ وَٱسْمَعُوا۟ ۗ وَٱللَّهُ لَا يَهْدِى ٱلْقَوْمَ ٱلْفَـٰسِقِينَ
Translation: นั้นแหละคือสิ่งที่ใกล้ยิ่งกว่า ในการที่พวกเขาจะนำมาซึ่งการเป็นพยานตามความเป็นจริงของมัน(273) หรือในการที่พวกเขากลัวว่า คำสาบานจะถูกปฏิเสธ(274) หลังจากที่พวกเขาสาบาน จงยำเกรงอัลลอฮ์และจงสดับฟังเถิด แท้จริง อัลลอฮ์จะไม่ทรงแนะนำพวกที่เป็นผู้ละเมิด
Comment: (273)คือบทบัญญัติที่ถูกกำหนดให้ปฏิบัติเกี่ยวกับการเป็นพยานในพินัยกรรมดังที่กล่าวมานั้น เป็นสิ่งที่จะทำให้ผู้เป็นพยาน ทำหน้าที่ยืนยันตามความเป็นจริงของพินัยกรรมโดยเคร่งครัดยิ่งกว่ามาตรการอื่นใด
Comment: (274)พวกเขากลัวว่า คำสาบานของเขาจะถูกปฏิเสธหรือไม่เป็นที่ยอมรับท่ามกลางประชาชนที่ร่วมเป็นสักขีพยานในการเป็นพยานยืนยันของเขา ทั้งนี้เพราะได้ให้มีการยืนยันต่อหน้าประชาชนหลังละหมาดอัศริ นั่นก็หมายความว่า ถ้าคำสาบานของเขาเพื่อยืนยันเกี่ยวกับพินัยกรรมถูกปฏิเสธแล้ว แน่นอนเขาก็จะกลายเป็นที่รังเกียจของผู้คน ด้วยเหตุนี้ วิธีการดังกล่าวจึงเป็นมาตรการที่ดีกว่าอย่างอื่น
5:109
۞ يَوْمَ يَجْمَعُ ٱللَّهُ ٱلرُّسُلَ فَيَقُولُ مَاذَآ أُجِبْتُمْ ۖ قَالُوا۟ لَا عِلْمَ لَنَآ ۖ إِنَّكَ أَنتَ عَلَّـٰمُ ٱلْغُيُوبِ
Translation: วันที่อัลลอฮ์จะทรงชุมนุมบรรดาร่อซูล แล้วตรัสว่าสิ่งใดบ้างที่พวกเจ้าได้รับการตอบสนอง(275) พวกเขากล่าวว่าไม่มีความรู้ใด ๆ แก่พวกข้าพระองค์(276) แท้จริง พระองค์เป็นผู้ทรงรอบรู้ความเร้นลับทั้งหลาย
Comment: (275)หลักการที่บรรดาร่อซูลได้รับมอบหมายให้ทำการประกาศแก่มนุษย์นั้นมีสองประเภทด้วยกันคือหลักการศรัทธา และหลักการปฏิบัติในการนี้พระองค์จึงได้ทรงถามบรรดาร่อซูลของพระองค์ว่า มนุษย์ได้ตอบสนองคำเชิญชวนของพวกเขาอย่างไรบ้าง กล่าวคือทั้งในด้านการศรัทธาและการปฏิบัติ
Comment: (276)คือ แทนที่บรรดาร่อซูลจะคอยถามที่ได้ทราบ กลับแจ้งว่าพวกตนไม่มีความรู้ใด ๆ เลยเกี่ยวกับการตอบสนองของมนุษย์ ทั้งนี้เนื่องจากพวกเขาทราบดีว่าอัลลอฮ์นั้นทรงรู้อย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว ส่วนที่พวกเขารู้นั้นเมื่อเทียบกับความรู้ของพระองค์แล้ว ประหนึ่งว่าพวกเขาไม่มีความรู้ใดๆ เลย อนึ่งในการที่พระองค์ทรงถามบรรดาร่อซูล ทั้งๆ ที่พระองค์ก็ทรงทราบดีนั้น ก็เพื่อเป็นการปรามผู้ดื้อดึงทั้งหลายมิให้พวกเขาชะล่าใจต่อการศรัทธา ในสิ่งที่บรรดาร่อซูลของพระองค์นั้นนำมาประทาน เพราะเมื่อเขากลับไปหาพระองค์ และถูกสอบสวนแล้ว เขาไม่มีทางที่จะกล่าวเท็จ
5:110
إِذْ قَالَ ٱللَّهُ يَـٰعِيسَى ٱبْنَ مَرْيَمَ ٱذْكُرْ نِعْمَتِى عَلَيْكَ وَعَلَىٰ وَٰلِدَتِكَ إِذْ أَيَّدتُّكَ بِرُوحِ ٱلْقُدُسِ تُكَلِّمُ ٱلنَّاسَ فِى ٱلْمَهْدِ وَكَهْلًۭا ۖ وَإِذْ عَلَّمْتُكَ ٱلْكِتَـٰبَ وَٱلْحِكْمَةَ وَٱلتَّوْرَىٰةَ وَٱلْإِنجِيلَ ۖ وَإِذْ تَخْلُقُ مِنَ ٱلطِّينِ كَهَيْـَٔةِ ٱلطَّيْرِ بِإِذْنِى فَتَنفُخُ فِيهَا فَتَكُونُ طَيْرًۢا بِإِذْنِى ۖ وَتُبْرِئُ ٱلْأَكْمَهَ وَٱلْأَبْرَصَ بِإِذْنِى ۖ وَإِذْ تُخْرِجُ ٱلْمَوْتَىٰ بِإِذْنِى ۖ وَإِذْ كَفَفْتُ بَنِىٓ إِسْرَٰٓءِيلَ عَنكَ إِذْ جِئْتَهُم بِٱلْبَيِّنَـٰتِ فَقَالَ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ مِنْهُمْ إِنْ هَـٰذَآ إِلَّا سِحْرٌۭ مُّبِينٌۭ
Translation: จงรำลึกถึงขณะที่อัลลอฮ์ตรัสแก่อีซาบุตรของมัรยัมว่า จงรำถึงความโปรดปรานของข้าที่มีต่อเจ้าและมารดาของเจ้า ขณะที่ข้าได้สนับสนุนเจ้า ด้วยวิญญาณอันบริสุทธิ์(277) โดยที่เจ้าพูดกับประชาชน ขณะที่อยู่ในเปล(278) และขณะที่อยู่ในวัยกลางคน(279) และขณะที่ข้าได้สอนเจ้า ซึ่งคัมภีร์และความมุ่งหมายแห่งบัญญัติศาสนาและอัตเตารอตและอัลอินญีล และขณะที่เจ้าสร้างขึ้นจากดินดั่งรูปนกด้วยอนุมัติของข้า แล้วเจ้าเป่าเข้าไปในรูปนกนั้น มันก็กลายเป็นนก(280) ด้วยอนุมัติของข้า และที่เจ้าทำให้คนตาบอดแต่กำเนิด และคนเป็นโรคผิวหนังหาย(281) ด้วยอนุมัติของข้า และขณะที่เจ้าทำให้บรรดาคนตายออกมา(282) ด้วยอนุมัติของข้า และขณะที่ข้าได้ยับยั้งและหันเหวงศ์วานอิสรออีลออกจากเจ้า(283) เมื่อเจ้านำบรรดาหลักฐานอันชัดแจ้งมายังพวกเขาแล้วบรรดาผู้ฝ่าฝืนในหมู่พวกเขาก็กล่าวว่า สิ่งนี้(284) มิใช่อื่นใด นอกจากมายากลอันชัดแจ้งเท่านั้น
Comment: (277)หมายถึงญิบรีล
Comment: (278)การพูดของท่านนบีอีซาที่นอนแบเบาะอยู่ในเปลนั้น เป็นการพูดความจริงเกี่ยวกับการเกิดของท่านและหน้าที่ของท่านในฐานะเป็นนบีในอนาคต และเป็นการพูดเพื่อให้ความบริสุทธิ์แก่มารดาของท่านที่ถูกกล่าวหา เนื่องจากเข้าใจผิด มิใช่พูดอ้อแอ้ ดั่งที่พวกก็อตยานีย์ได้บิดเบือนไว้
Comment: (279)พูดแก่ประชาชนในฐานะผู้ประกาศศาสนา เนื่องจากท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นร่อซูลของอัลลอฮ์
Comment: (280)ขณะที่ท่านนบีอีซาปั้นดินให้เป็นรูปนก แล้วเป่าลมปากไปที่ตัวนกนั้น แล้วมันก็เป็นนกบินได้เหมือนนกทั่วๆ ไปทั้งนี้ด้วยอนุมัติของอัลลอฮ์ ในเรื่องนี้พวกก็อดยานีบิดเบือนไปว่า มิได้เกิดขึ้นจริง
Comment: (281)คือคนตาบอดตั้งแต่กำเนิดก็กลายเป็นคนตาดี มองเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง และคนเป็นโรคผิวหนังก็กลายเป็นปกติ เหมือนผู้คนทั่วๆ ไป
Comment: (282)ให้บรรดาผู้ที่ตายแล้วคืนชีพ แล้วออกมาจากที่เก็บศพ
Comment: (283)หันเหออกจากที่พวกเขาจงใจจะฆ่าท่านนบีอีซา
Comment: (284)หมายถึงมัวะญิชาตต่างๆ ที่ท่านนบีอีซาได้แสดงให้ประจักษ์ต่อหน้าพวกเขา เช่น ทำให้รูปนกซึ่งปั้นขึ้นจากดินมีชีวิตบินได้ และให้คนตาบอดแต่กำเนิดกลายเป็นคนตาดี และให้คนตายคืนชีพ เป็นต้น
5:111
وَإِذْ أَوْحَيْتُ إِلَى ٱلْحَوَارِيِّـۧنَ أَنْ ءَامِنُوا۟ بِى وَبِرَسُولِى قَالُوٓا۟ ءَامَنَّا وَٱشْهَدْ بِأَنَّنَا مُسْلِمُونَ
Translation: และจงรำลึกถึงขณะที่ข้าได้ดลใจแก่อัล-ฮะวารียิน(285) ว่าจงศรัทธาต่อข้าและต่อร่อซูลของข้า(286) เถิด พวกเขากล่าวว่า พวกข้าพระองค์ศรัทธากันแล้ว และโปรดได้ทรงเป็นพยานด้วยว่า แท้จริงพวกข้าพระองค์นั้นเป็นผู้สวามิภักดิ์(ต่อพระองค์)
Comment: (285)คือให้ท่านนบีอีซารำลึกถึง ขณะที่อัลลอฮ์ได้ดลใจแก่อัล-ฮะวารียีน (บรรดาผู้เป็นสาวกของท่านนบีอีซา ด้วยความบริสุทธิ์ใจ)
Comment: (286)หมายถึงท่านนบีอีซา
5:112
إِذْ قَالَ ٱلْحَوَارِيُّونَ يَـٰعِيسَى ٱبْنَ مَرْيَمَ هَلْ يَسْتَطِيعُ رَبُّكَ أَن يُنَزِّلَ عَلَيْنَا مَآئِدَةًۭ مِّنَ ٱلسَّمَآءِ ۖ قَالَ ٱتَّقُوا۟ ٱللَّهَ إِن كُنتُم مُّؤْمِنِينَ
Translation: ขณะที่อัล-ฮะวารียูนกล่าวว่า โอ้ อีซาบุตรของมัรยัม! พระเจ้าของท่านสามารถที่จะให้สำรับอาหารจากฟากฟ้าลงมาแก่พวกเราไหม? เขากล่าวว่า(287) พวกเจ้าจงยำเกรงอัลลอฮ์หากพวกเจ้าเป็นผู้ศรัทธา
Comment: (287)ท่านนบีอีซากล่าวเตือนบรรดาสาวกของท่านให้ระมัดระวังในการใช้ถ้อยคำ โดยกล่าวว่า หากพวกท่านศรัทธาต่ออัลลอฮ์แล้ว ก็พึงยำเกรงต่อพระองค์เถิด เพราะพระองค์ทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง
5:113
قَالُوا۟ نُرِيدُ أَن نَّأْكُلَ مِنْهَا وَتَطْمَئِنَّ قُلُوبُنَا وَنَعْلَمَ أَن قَدْ صَدَقْتَنَا وَنَكُونَ عَلَيْهَا مِنَ ٱلشَّـٰهِدِينَ
Translation: พวกเขากล่าวว่า พวกเราต้องการที่จะบริโภคจากมัน และที่จะให้หัวใจของพวกเราสงบ(288) และที่พวกเราจะได้รู้ว่า ท่านได้พูดจริงแก่พวกเรา และที่พวกเราจะได้เป็นพยานยืนยันในเรื่องนั้นด้วย(289)
Comment: (288)มีความเลื่อมใสศรัทธายิ่งขึ้น อันก่อให้เกิดความสงบแก่จิตใจ
Comment: (289)เป็นพยานยืนยันแก่บรรดาผู้ที่มิได้รู้เห็นในเรื่องที่มีสำรับอาหารถูกประทานลงมาจากฟากฟ้า
5:114
قَالَ عِيسَى ٱبْنُ مَرْيَمَ ٱللَّهُمَّ رَبَّنَآ أَنزِلْ عَلَيْنَا مَآئِدَةًۭ مِّنَ ٱلسَّمَآءِ تَكُونُ لَنَا عِيدًۭا لِّأَوَّلِنَا وَءَاخِرِنَا وَءَايَةًۭ مِّنكَ ۖ وَٱرْزُقْنَا وَأَنتَ خَيْرُ ٱلرَّٰزِقِينَ
Translation: อีซา บุตรของมัรยัม ได้กล่าวว่า ข้าแต่อัลลอฮ์ผู้เป้นพระผู้อภิบาลของข้าพระองค์! โปรดได้ทรงประทานลงมาแก่พวกข้าพระองค์ ซึ่งสำรับอาหารจากฟากฟ้าด้วยเถิด จะได้เป็นวันรื่นเริงแก่พวกข้าพระองค์ ทั้งแก่คนแรกของพวกข้าพระองค์และแก่คนสุดท้ายของพวกข้าพระองค์(290) และจะได้เป็นสัญญาณหนึ่ง(291) จากพระองค์ และโปรดได้ทรงประทานปัจจัยยังชีพแก่พวกข้าพระองค์ด้วยเถิด และพระองค์นั้น คือผู้ที่ดีเยี่ยมในหมู่ผู้ประทานปัจจัยยังชีพทั้งหลาย
Comment: (290)คือวันที่สำรับอาหารถูกประทานลงมานั้น จะได้ถือเป็นวันรื่นเริงทั้งแก่คนแรก และคนสุดท้ายที่ศรัทธาต่อท่านนบีอีซา
Comment: (291)ที่แสดงถึงเดชานุภาพของพระองค์
5:115
قَالَ ٱللَّهُ إِنِّى مُنَزِّلُهَا عَلَيْكُمْ ۖ فَمَن يَكْفُرْ بَعْدُ مِنكُمْ فَإِنِّىٓ أُعَذِّبُهُۥ عَذَابًۭا لَّآ أُعَذِّبُهُۥٓ أَحَدًۭا مِّنَ ٱلْعَـٰلَمِينَ
Translation: อัลลอฮ์ตรัสว่า แท้จริงข้าจะให้มันลงมาแก่พวกเจ้า แล้วผู้ใดในหมู่พวกเจ้าปฏิเสธศรัทธาหลังจากนั้น แน่นอนข้าจะลงโทษเขา ซึ่งโทษที่ข้าจะไม่ลงโทษนั้นแก่ผู้ใดในหมู่ประชาชาติทั้งหลาย(292)
Comment: (292)คือเขาจะได้รับการลงโทษอย่างรุนแรงที่สุด ซึ่งพระองค์จะไม่ทรงลงโทษเยี่ยงนั้นแก่ผู้ใดทั้งสิ้น
5:116
وَإِذْ قَالَ ٱللَّهُ يَـٰعِيسَى ٱبْنَ مَرْيَمَ ءَأَنتَ قُلْتَ لِلنَّاسِ ٱتَّخِذُونِى وَأُمِّىَ إِلَـٰهَيْنِ مِن دُونِ ٱللَّهِ ۖ قَالَ سُبْحَـٰنَكَ مَا يَكُونُ لِىٓ أَنْ أَقُولَ مَا لَيْسَ لِى بِحَقٍّ ۚ إِن كُنتُ قُلْتُهُۥ فَقَدْ عَلِمْتَهُۥ ۚ تَعْلَمُ مَا فِى نَفْسِى وَلَآ أَعْلَمُ مَا فِى نَفْسِكَ ۚ إِنَّكَ أَنتَ عَلَّـٰمُ ٱلْغُيُوبِ
Translation: และจงรำลึกถึงขณะที่อัลลอฮ์ตรัสว่า(293) อีซาบุตรของมัรยัมเอ๋ย! เจ้าพูดแก่ผู้คนกระนั้นหรือว่า จงยึดถือฉันและมารดาของฉันเป็นที่เคารพสักการะทั้งสองอื่นจากอัลลอฮ์(294) เขากล่าวว่า มหาบริสุทธิ์พระองค์ท่าน! ข้าพระองค์ไม่เคยที่จะกล่าวสิ่งที่มิใช่สิทธิของข้าพระองค์ หากข้าพระองค์เคยกล่าวสิ่งนั้น แน่นอนพระองค์ย่อมรู้ดี โดยที่พระองค์ทรงรู้สิ่งที่อยู่ในใจของข้าพระองค์ และข้าพระองค์ไม่รู้สิ่งที่อยู่ในใจของพระองค์(295) แท้จริง พระองค์นั้นคือผู้ทรงรอบรู้ในสิ่งเร้นลับทั้งหลาย
Comment: (293)ทรงใช้ให้ท่านนบีมุฮัมมัดรำลึกถึงขณะที่อัลลอฮ์จะตรัสแก่นบีอีซาในวันกิยามะฮ์
Comment: (294)ที่อัลลอฮ์ทรงถามเช่นนั้น เพื่อเป็นการยืนยันว่าท่านนบีอีซามิได้ประกาศแก่ชาวคริสต์ว่า ท่านและมารดาของท่านเป็นที่เคารพสักการะของพวกเขา ดังนั้นการที่พวกเขาอ้างว่าท่านนบีอีซาเป็นพระเจ้าก็ดี หรือพระบุตรก็ดี จึงเป็นการกุขึ้นจากพวกเขาเอง ซึ่งเป็นความผิดอันมหันต์ที่พวกเขาจะต้องรับผิดชอบ
Comment: (295)คำว่าใจของพระองค์ มุสลิมทุกคนจะต้องเข้าใจว่า ไม่เหมือนกับจิตใจของมนุษย์หรือสิ่งอื่นใด เพราะพระองค์ไม่ทรงเหมือนกับสิ่งใด ๆในโลกทั้งสิ้น ส่วนความเป็นจริงแห่งจิตใจของพระองค์นั้นไม่มีใครจะรู้ได้ และมิใช่หน้าที่ของใครที่จะค้นคว้า เพราะไม่อยู่ในวิสัยที่มนุษย์จะกระทำได้เราเพียงศรัทธาตามที่พระองค์แจ้งให้ทราบเท่านั้น
5:117
مَا قُلْتُ لَهُمْ إِلَّا مَآ أَمَرْتَنِى بِهِۦٓ أَنِ ٱعْبُدُوا۟ ٱللَّهَ رَبِّى وَرَبَّكُمْ ۚ وَكُنتُ عَلَيْهِمْ شَهِيدًۭا مَّا دُمْتُ فِيهِمْ ۖ فَلَمَّا تَوَفَّيْتَنِى كُنتَ أَنتَ ٱلرَّقِيبَ عَلَيْهِمْ ۚ وَأَنتَ عَلَىٰ كُلِّ شَىْءٍۢ شَهِيدٌ
Translation: ข้าพระองค์มิได้กล่าวแก่พวกเขา นอกจากสิ่งที่พระองค์ใช้ข้าพระองค์เท่านั้น นั่นคือให้ท่านทั้งหลายจงเคารพสักการะต่ออัลลอฮ์พระผู้อภิบาลของฉัน และเป็นพระผู้อภิบาลของพวกท่านด้วย และข้าพระองค์ย่อมเป็นพยานยืนยันต่อพวกเขาในระยะเวลาที่ข้าพระองค์อยู่ในหมู่พวกเขา ครั้นเมื่อพระองค์ได้ทรงรับข้าพระองค์ไปแล้ว(296) พระองค์ก็เป็นผู้ดูและพวกเขา และพระองค์ทรงเป็นสักขีพยานในทุกสิ่ง
Comment: (296)ได้ทรงยกข้าพระองค์ขึ้นมายังพระองค์ทั้งชีวิตและร่างกาย ขณะที่พวกเขาจะเอาชีวิตข้าพระองค์
5:118
إِن تُعَذِّبْهُمْ فَإِنَّهُمْ عِبَادُكَ ۖ وَإِن تَغْفِرْ لَهُمْ فَإِنَّكَ أَنتَ ٱلْعَزِيزُ ٱلْحَكِيمُ
Translation: หากพระองค์จะทรงลงโทษพวกเขา แท้จริงพวกเขาก็คือบ่าวของพระองค์(297) และหากพระองค์จะทรงอภัยโทษให้แก่พวกเขา แท้จริงพระองค์ท่านคือ ผู้ทรงเดชานุภาพ ผู้ทรงปรีชาญาณ
Comment: (297)กล่าวคือหากพระองค์จะทรงลงโทษพวกเขา พระองค์ก็ย่อมกระทำได้เพราะพวกเขาเป็นบ่าวของพระองค์
5:119
قَالَ ٱللَّهُ هَـٰذَا يَوْمُ يَنفَعُ ٱلصَّـٰدِقِينَ صِدْقُهُمْ ۚ لَهُمْ جَنَّـٰتٌۭ تَجْرِى مِن تَحْتِهَا ٱلْأَنْهَـٰرُ خَـٰلِدِينَ فِيهَآ أَبَدًۭا ۚ رَّضِىَ ٱللَّهُ عَنْهُمْ وَرَضُوا۟ عَنْهُ ۚ ذَٰلِكَ ٱلْفَوْزُ ٱلْعَظِيمُ
Translation: อัลลอฮ์ตรัสว่า นี่แหละคือวัน(298) ที่การพูดความจริงของพวกเขาจะอำนวยประโยชน์แก่บรรดาผู้ที่พูดจริง พวกเขาจะได้รับบรรดาสวนสวรรค์เหล่านั้น ซึ่งมีแม่น้ำหลายสายไหลอยู่เบื้องใต้มันโดยที่พวกเขาจะพำนักอยู่ในนั้นตลอดกาล โดยที่อัลลอฮ์ทรงพอพระทัยในพวกเขา และพวกเขาก็พึงพอใจในพระองค์นั่นแหละคือชัยชนะอันยิ่งใหญ่
Comment: (298)หมายถึงวันกิยามะฮ์
5:120
لِلَّهِ مُلْكُ ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضِ وَمَا فِيهِنَّ ۚ وَهُوَ عَلَىٰ كُلِّ شَىْءٍۢ قَدِيرٌۢ
Translation: อำนาจแห่งบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดิน และสิ่งที่อยู่ในบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดินนั้น เป็นสิทธิของอัลลอฮ์ทั้งสิ้น และพระองค์ทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง