سورة الحشر
Al-Hashr
The Exile
medinan . 24 Ayahs
بِسْمِ ٱللَّهِ ٱلرَّحْمَـٰنِ ٱلرَّحِيمِ
59:1
سَبَّحَ لِلَّهِ مَا فِى ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَمَا فِى ٱلْأَرْضِ ۖ وَهُوَ ٱلْعَزِيزُ ٱلْحَكِيمُ
Translation: สิ่งที่อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลายและสิ่งที่อยู่ในแผ่นดินต่างแซ่ซ้องสดุดีแด่อัลลอฮ์และพระองค์เป็นผู้ทรงอำนาจผู้ทรงปรีชาญาณ(1)
Comment: (1)ทุกสิ่งที่อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลายแผ่นดิน เช่น มลาอิกะฮ์ มนุษย์ ญิน สัตว์ ต้นไม้ ตลอดจนสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตชนิดอื่น ๆ ต่างก็แซ่ซ้องสดุดีแด่อัลลอฮ์ ให้ความบริสุทธิ์ให้เกียรติให้ความยิ่งใหญ่แด่พระองค์ เพราะพระองค์เป็นผู้ทรงอำนาจทรงปรีชาญาณ
59:2
هُوَ ٱلَّذِىٓ أَخْرَجَ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ مِنْ أَهْلِ ٱلْكِتَـٰبِ مِن دِيَـٰرِهِمْ لِأَوَّلِ ٱلْحَشْرِ ۚ مَا ظَنَنتُمْ أَن يَخْرُجُوا۟ ۖ وَظَنُّوٓا۟ أَنَّهُم مَّانِعَتُهُمْ حُصُونُهُم مِّنَ ٱللَّهِ فَأَتَىٰهُمُ ٱللَّهُ مِنْ حَيْثُ لَمْ يَحْتَسِبُوا۟ ۖ وَقَذَفَ فِى قُلُوبِهِمُ ٱلرُّعْبَ ۚ يُخْرِبُونَ بُيُوتَهُم بِأَيْدِيهِمْ وَأَيْدِى ٱلْمُؤْمِنِينَ فَٱعْتَبِرُوا۟ يَـٰٓأُو۟لِى ٱلْأَبْصَـٰرِ
Translation: พระองค์เป็นผู้ทรงให้บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาในหมู่พวกอะฮ์ลุลกิตาบออกจากบ้านเรือนของพวกเขา เป็นครั้งแรกของการถูกไล่ออกเป็นกลุ่มๆ พวกเจ้ามิได้คาดคิดกันเลยว่าพวกเขาจะออกไป (ในสภาพเช่นนั้น)(2) และพวกเขาคิดว่าแท้จริงป้อมปราการของพวกเขานั้นจะป้องกันพวกเขาให้รอดพ้นจากการลงโทษของอัลลอฮ์ได้ แต่การลงโทษของอัลลอฮ์ก็ได้มีมายังพวกเขาโดยมิได้คาดคิดมาก่อนเลย(3) และพระองค์ทรงทำให้ความหวาดกลัวเกิดขึ้นในจิตใจของพวกเขา โดยพวกเขาได้ทำลายบ้านเรือนของพวกเขาด้วยน้ำมือของพวกเขาเอง และด้วยน้ำมือของบรรดามุอ์มินดังนั้นพวกเจ้า จงยึดถือเป็นบทเรียนเถิด โอ้ผู้มีสติปัญญาทั้งหลายเอ๋ย(4)
Comment: (2)พระองค์ได้ทรงให้พวกยะฮูด บะนีอันนะฎีร ออกจากบ้านเกิดเมืองนอนของพวกเขา คือนครยัษริบ หรือนครอัลมะดีนะฮ์ เป็นครั้งแรกที่พวกเขาถูกขับไล่ออกมาเป็นกลุ่มๆ ไปยังประเทศชาม พวกเจ้าบรรดามุอ์มินไม่คาดคิดกันมาก่อนเลยว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้น คือการที่พวกเขาถูกขับไล่ออกไปในสภาพที่ต่ำต้อยและไร้เกียรติ ทั้งนี้เพราะพวกเขาเคยมีเกียรติเข้มแข็งมีทรัพย์สินเงินทองเรือกสวนไร่นา
Comment: (3)พวกเขาคิดกันว่าป้อมปราการเหล่านั้นจะปกป้องพวกเขาให้พ้นจากสิ่งที่อัลลอฮ์กำหนดไว้แก่พวกเขาได้ คือการถูกไล่ออกจากนครอัลมะดีนะฮ์ และนี่คือการลงโทษของอัลลอฮ์ซึ่งได้เกิดขึ้นแก่พวกเขาโดยที่มิได้คาดคิดมาก่อนเลย
Comment: (4)อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงทำให้จิตใจของบะนีอัลนะฎีรเกิดความกลัวและตกอกตกใจ จนกระทั่งพวกเขายอมจำนนต่อข้อตัดสินของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม แล้วพวกเขาก็พากันทำลายบ้านเรือนและป้อมปราการของพวกเขา ดังนั้นเหตุการณ์ครั้งนี้นับได้ว่า เป็นบทเรียนที่ไม่มีใครคาดฝันว่าจะเกิดขึ้นได้หากมิใช่เดชานุภาพของพระองค์ คือการทำให้พวกเขาเกิดความหวาดกลัวขึ้นในจิตใจ
59:3
وَلَوْلَآ أَن كَتَبَ ٱللَّهُ عَلَيْهِمُ ٱلْجَلَآءَ لَعَذَّبَهُمْ فِى ٱلدُّنْيَا ۖ وَلَهُمْ فِى ٱلْـَٔاخِرَةِ عَذَابُ ٱلنَّارِ
Translation: และหากมิใช่เพราะอัลลอฮ์ได้ทรงกำหนดการเนรเทศแก่พวกเขาแล้ว แน่นอนพระองค์จะทรงลงโทษพวกเขาในโลกนี้ และสำหรับพวกเขาในปรโลกนั้นก็คือการลงโทษด้วยนรก
59:4
ذَٰلِكَ بِأَنَّهُمْ شَآقُّوا۟ ٱللَّهَ وَرَسُولَهُۥ ۖ وَمَن يُشَآقِّ ٱللَّهَ فَإِنَّ ٱللَّهَ شَدِيدُ ٱلْعِقَابِ
Translation: ทั้งนี้ก็เพราะว่าพวกเขาต่อต้านอัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์ และผู้ใดต่อต้านอัลลอฮ์แท้จริงอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงเข้มงวดในการลงโทษ(5)
Comment: (5)อันเนื่องมาจากการที่อัลลอฮ์ทรงกำหนดการเนรเทศไว้สำหรับพวกเขาแล้ว ดังนั้นการลงโทษโดยฉับพลันในโลกดุนยาจึงยังมิได้เกิดขึ้นแก่พวกเขา การลงโทษนั้นก็คือการถูกสังหารด้วยคมดาบเสมือนกับที่พี่น้องของพวกเขา คือชาวบะนีกุรอยเซาะฮ์ได้รับการลงโทษหลังจากพวกเขา ส่วนในปรโลก (อาคีเราะฮ์) นั้นพวกเขาจะได้รับการลงโทษคือนรกเป็นที่พำนักของพวกเขา ทั้งนี้ก็เพราะว่าพวกเขาต่อต้านและเป็นศัตรูกับอัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์ นอกจากนี้ยังได้ก่ออาชญากรรมและผิดสัญญาข้อตกลงกับท่านร่อซูลอีกด้วย
59:5
مَا قَطَعْتُم مِّن لِّينَةٍ أَوْ تَرَكْتُمُوهَا قَآئِمَةً عَلَىٰٓ أُصُولِهَا فَبِإِذْنِ ٱللَّهِ وَلِيُخْزِىَ ٱلْفَـٰسِقِينَ
Translation: การที่พวกเจ้าโค่นต้นอินทผลัมหรือปล่อยให้มันยืนไว้บนรากของมันนั้น เนื่องด้วยอนุมัติของอัลลอฮ์และเพื่อพระองค์จะทำให้บรรดาผู้ฝ่าฝืนได้รับอัปยศ(6)
Comment: (6)โอ้บรรดามุอ์มินเอ๋ย การที่พวกเจ้าตัดต้นอินทผาลัมหรือปล่อยมันทิ้งไว้ก็ด้วยพระบัญชาของอัลลอฮ์ และความประสงค์ของพระองค์ เพื่อทำให้พวกยะฮูดโกรธแค้นและต่ำต้อย
59:6
وَمَآ أَفَآءَ ٱللَّهُ عَلَىٰ رَسُولِهِۦ مِنْهُمْ فَمَآ أَوْجَفْتُمْ عَلَيْهِ مِنْ خَيْلٍۢ وَلَا رِكَابٍۢ وَلَـٰكِنَّ ٱللَّهَ يُسَلِّطُ رُسُلَهُۥ عَلَىٰ مَن يَشَآءُ ۚ وَٱللَّهُ عَلَىٰ كُلِّ شَىْءٍۢ قَدِيرٌۭ
Translation: และสิ่งใดที่อัลลอฮ์ทรงให้ร่อซูลของพระองค์ยึดมาได้จากพวกเขา(พวกยะฮูด) พวกเจ้ามิได้เหน็ดเหนื่อยด้วยการขี่ม้าหรือขี่อูฐออกไป แต่อัลลอฮ์ทรงให้บรรดาร่อซูลของพระองค์มีอำนาจเหนือผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงอานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง(7)
Comment: (7)การที่อัลลอฮ์ทรงให้ทรัพย์สินของพวกยะฮูดชาวบะนีอันนะฎีรกลับคืนมาสู่ท่านร่อซูลของพระองค์ เพราะว่าพวกเขาได้มีสัญญาไว้กับท่านร่อซูลว่า หากพวกเขาผิดสัญญาทรัพย์สินทั้งหมดของพวกเขาจะตกเป็นของท่านร่อซูล ต่อมาพวกเขาได้วางแผนที่จะฆ่าท่านร่อซูลและแผนร้ายของเขาเกือบจะสำเร็จ หากแต่อัลลอฮ์ทรงเปิดเผยเสียก่อน ดังนั้นทรัพย์สินที่ได้มาครั้งนี้จึงมิได้เหน็ดเหนื่อยหรือได้รับความลำบากแต่ประการใด อัลลอฮ์จึงมอบให้เป็นสิทธิของท่านร่อซูลแต่ผู้เดียวที่จะแจกจ่ายไปตามความประสงค์ของท่าน
59:7
مَّآ أَفَآءَ ٱللَّهُ عَلَىٰ رَسُولِهِۦ مِنْ أَهْلِ ٱلْقُرَىٰ فَلِلَّهِ وَلِلرَّسُولِ وَلِذِى ٱلْقُرْبَىٰ وَٱلْيَتَـٰمَىٰ وَٱلْمَسَـٰكِينِ وَٱبْنِ ٱلسَّبِيلِ كَىْ لَا يَكُونَ دُولَةًۢ بَيْنَ ٱلْأَغْنِيَآءِ مِنكُمْ ۚ وَمَآ ءَاتَىٰكُمُ ٱلرَّسُولُ فَخُذُوهُ وَمَا نَهَىٰكُمْ عَنْهُ فَٱنتَهُوا۟ ۚ وَٱتَّقُوا۟ ٱللَّهَ ۖ إِنَّ ٱللَّهَ شَدِيدُ ٱلْعِقَابِ
Translation: และสิ่งใดที่อัลลอฮ์ทรงให้ร่อซูลของพระองค์ยึดมาได้จากชาวเมือง(พวกกุฟฟาร)เป็นสิทธิของอัลลอฮ์และร่อซูล และญาติสนิท และเด็กกำพร้าและผู้ขัดสนและผู้เดินทางเพื่อมันจะมิได้หมุนเวียนอยู่ในระหว่างผู้มั่งมีของพวกเจ้าเท่านั้น และอันใดที่ท่านได้ห้ามพวกเจ้าก็จงละเว้นเสีย พวกเจ้าจงยำเกรงอัลลอฮ์เถิด แท้จริงอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงเข้มงวดในการลงโทษ(8)
Comment: (8)และนี่คือข้อบัญญัติเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ยึดมาได้โดยมิได้มีการเสียเลือดเนื้อ แต่ด้วยการทำสัญญาสงบศึกทรัพย์สินเหล่านี้เป็นสิทธิของอัลลอฮ์และร่อซูลที่จะแจกจ่ายไปตามบุคคลที่เห็นสมควร อัลกุรฏุบีย์กล่าวว่า ที่กระทำเช่นนั้นเพื่อมิให้บรรดาหัวหน้าและคนมั่งมีแบ่งสรรปันส่วนในระหว่างพวกเขาโดยมิได้คำนึงคนยากจนและคนที่อ่อนแอ นักตัฟซีรกล่าวว่า ถึงแม้ว่าอัลอายะฮ์ถูกประทานลงมาเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ยึดมาได้หรือทรัพย์สินเชลยแต่มีบัญญัติคลุมโดยทั่วไปในทุกๆ สิ่งที่ท่านนะบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มีคำสั่งใช้และห้าม
59:8
لِلْفُقَرَآءِ ٱلْمُهَـٰجِرِينَ ٱلَّذِينَ أُخْرِجُوا۟ مِن دِيَـٰرِهِمْ وَأَمْوَٰلِهِمْ يَبْتَغُونَ فَضْلًۭا مِّنَ ٱللَّهِ وَرِضْوَٰنًۭا وَيَنصُرُونَ ٱللَّهَ وَرَسُولَهُۥٓ ۚ أُو۟لَـٰٓئِكَ هُمُ ٱلصَّـٰدِقُونَ
Translation: (สิ่งที่ยึดมาได้จากพวกยะฮูด) เป็นของบรรดาผู้อพยพที่ขัดสนซึ่งถูกขับไล่ออกบ้านเกิดเมืองนอนของพวกเขา และทอดทิ้งทรัพย์สินของพวกเขาเพื่อแสวงหาความโปรดปรานจากอัลลอฮ์และความยินดีของพระองค์และช่วยเหลืออัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์ ชนเหล่านั้นพวกเขาคือผู้สัตย์จริง(9)
Comment: (9)อายะฮ์นี้มีความสัมพันธ์กับอายะฮ์ก่อน ที่เกี่ยวกับทรัพย์สินที่ยึดมาได้ กล่าวคือทรัพย์สินที่ยึดมาได้จากการทำสงครามนั้นเป็นสิทธิของบรรดาผู้อพยพที่ยากจนมาจากนครมักกะฮ์ ซึ่งพวกกุฟฟารมักกะฮ์ขับไล่พวกเขาให้อพยพจากบ้านเกิดเมืองนอนทอดทิ้งบ้านเรือนและทรัพย์สมบัติโดยแสวงหาความโปรดปรานจากอัลลอฮ์ และมุ่งหวังเพื่อเชิดชูคำกล่าวของอัลลอฮ์ และสนับสนุนศาสนาของพระองค์
59:9
وَٱلَّذِينَ تَبَوَّءُو ٱلدَّارَ وَٱلْإِيمَـٰنَ مِن قَبْلِهِمْ يُحِبُّونَ مَنْ هَاجَرَ إِلَيْهِمْ وَلَا يَجِدُونَ فِى صُدُورِهِمْ حَاجَةًۭ مِّمَّآ أُوتُوا۟ وَيُؤْثِرُونَ عَلَىٰٓ أَنفُسِهِمْ وَلَوْ كَانَ بِهِمْ خَصَاصَةٌۭ ۚ وَمَن يُوقَ شُحَّ نَفْسِهِۦ فَأُو۟لَـٰٓئِكَ هُمُ ٱلْمُفْلِحُونَ
Translation: และบรรดาผู้ที่ได้ตั้งหลักแหล่งอยู่ที่นครมะดีนะฮ์(ชาวอันศอร) และพวกเขาศรัทธาก่อนหน้าการอพยพของพวกเขา(ชาวมุฮาญิรีน) พวกเขารักใคร่ผู้ที่อพยพมายังพวกเขาและจะไม่พบความต้องการหรือความอิจฉาอยู่ในทรวงอกของพวกเขาในสิ่งที่ได้ถูกประทานให้และให้สิทธิผู้อื่นก่อนตัวของพวกเขาเอง ถึงแม้ว่าพวกเขายังมีความต้องการอยู่มากก็ตาม และผู้ใดปกป้องการตระหนี่ที่อยู่ในตัวของเขาชนเหล่านั้นพวกเขาเป็นผู้ประสบความสำเร็จ(10)
Comment: (10) และบรรดาชาวอันศอรที่ศรัทธาก่อนหน้าการอพยพของพวกมุฮาญิรีนไปยังนครอัลมะดีนะฮ์พวกเขารักใคร่พี่น้องชาวมุฮาญิรีนและปลอบใจพวกเขาด้วยการให้ทรัพย์สมบัติและที่พักชาวอันศอรเหล่านั้นมิได้มีความโกรธหรืออิจฉาในสิ่งที่ได้แบ่งสรรให้ชาวมุฮาญิรีนเลยพวกเขาพอใจที่จะให้สิทธิแก่ผู้อื่นก่อนตัวของพวกเขาเองถึงแม้ว่าพวกเขามีความต้องการและยังยากจนอยู่ก็ตามอันนี้นับได้ว่าเป็นการเสียสละอย่างสูง อัลลอฮ์ ตะอาลา จึงกล่าวชมเชยอันศอรไว้ ณ ที่นี้
59:10
وَٱلَّذِينَ جَآءُو مِنۢ بَعْدِهِمْ يَقُولُونَ رَبَّنَا ٱغْفِرْ لَنَا وَلِإِخْوَٰنِنَا ٱلَّذِينَ سَبَقُونَا بِٱلْإِيمَـٰنِ وَلَا تَجْعَلْ فِى قُلُوبِنَا غِلًّۭا لِّلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ رَبَّنَآ إِنَّكَ رَءُوفٌۭ رَّحِيمٌ
Translation: และบรรดาผู้ที่มาหลังจากพวกเขาโดยพวกเขากล่าวว่า ข้าแต่พระผู้อภิบาลของเราทรงโปรดอภัยให้แก่เราและพี่น้องของเราผู้ซึ่งได้ศรัทธาก่อนหน้าเรา และขอพระองค์อย่าได้ให้มีการเคียดแค้นเกิดขึ้นในหัวใจของเราต่อบรรดาผู้ศรัทธา ข้าแต่พระผู้อภิบาลของเราแท้จริงพระองค์ท่านเป็นผู้ทรงเอ็นดู ผู้ทรงเมตตาเสมอ(11)
Comment: (11)นี่คือลักษณะของบรรดามุอ์มินอีกประเภทหนึ่งที่สมควรแก่การยกย่อง คือบรรดาผู้ที่ติดตามมาภายหลังพวกเขาได้กล่าววิงวอนต่ออัลลอฮ์ให้แก่พี่น้องของพวกเขาที่ได้ศรัทธาก่อนพวกเขา และอย่าให้เกิดการเคียดแค้นขึ้นในจิตใจของเราแก่ผู้หนึ่งผู้ใดในหมู่ผู้ศรัทธา ขอพระองค์ทรงตอบรับการวิงวอนของเราด้วยเทอญ เพราะพระองค์เป็นผู้ทรงเอ็นดู ผู้ทรงเมตตาต่อปวงบ่าวเสมอ
59:11
۞ أَلَمْ تَرَ إِلَى ٱلَّذِينَ نَافَقُوا۟ يَقُولُونَ لِإِخْوَٰنِهِمُ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ مِنْ أَهْلِ ٱلْكِتَـٰبِ لَئِنْ أُخْرِجْتُمْ لَنَخْرُجَنَّ مَعَكُمْ وَلَا نُطِيعُ فِيكُمْ أَحَدًا أَبَدًۭا وَإِن قُوتِلْتُمْ لَنَنصُرَنَّكُمْ وَٱللَّهُ يَشْهَدُ إِنَّهُمْ لَكَـٰذِبُونَ
Translation: เจ้ามิเห็นดอกหรือว่าบรรดาผู้กลับกลอกกล่าวแก่พี่น้องของพวกเขาที่ปฏิเสธศรัทธาในหมู่อะฮ์ลุลกิตาบว่า หากพวกท่านถูกไล่ออก แน่นอน เราก็จะออกไปพร้อมกับพวกท่านด้วย และเราก็จะไม่เชื่อฟังปฏิบัติตามผู้ใดเป็นอันขาดเกี่ยวกับพวกท่าน และหากพวกท่านถูกโจมตีแน่นอนเราจะช่วยเหลือพวกท่าน และอัลลอฮ์ทรงเป็นพยานว่า แท้จริงพวกเขาเป็นผู้กล่าวเท็จ(12)
Comment: (12)เป็นการแสดงความประหลาดแก่สภาพของพวกมุนาฟิกีน คือพวกเขาได้กล่าวกับพวกยะฮูดบะนีกุร็อยเซาะฮ์ และบะนีอันนะฎีร ซึ่งได้ปฎิเสธศรัทธาต่อสาสน์ของมุฮัมมัดว่า หากพวกท่านถูกไล่ออกจากนครอัลมะดีนะฮ์ พวกเราก็จะออกไปกับพวกท่านด้วย พวกเราจะไม่เชื่อฟังคำสั่งของมุฮัมมัดในการสู้รบกับพวกท่าน และหากผู้ใดเข้าไปโจมตีพวกท่านเราก็จะช่วยเหลือและอยู่เคียงข้างพวกท่านเพื่อต่อสู้กับศัตรูของพวกท่าน และอัลลอฮ์ทรงเป็นพยานว่า พวกมุนาฟิกีนนั้นเป็นผู้กล่าวเท็จในสิ่งที่พวกเขาได้กล่าวและให้สัญญากับพวกเขา
59:12
لَئِنْ أُخْرِجُوا۟ لَا يَخْرُجُونَ مَعَهُمْ وَلَئِن قُوتِلُوا۟ لَا يَنصُرُونَهُمْ وَلَئِن نَّصَرُوهُمْ لَيُوَلُّنَّ ٱلْأَدْبَـٰرَ ثُمَّ لَا يُنصَرُونَ
Translation: หากพวกเขาถูกขับไล่ออกไป บรรดาผู้กลับกลอกเหล่านั้นก็จะไม่ออกไปพร้อมกับพวกเขาและถ้าพวกเขาถูกโจมตีบรรดาผู้กลับกลอกก็จะไม่ช่วยเหลือพวกเขา(ยะฮูดบะนีนะฎีร) และหากบรรดาผู้กลับกลอกช่วยเหลือพวกเขา แน่นอนบรรดาผู้กลับกลอกก็จะผินหลังหนีออกไปพวกเขาก็จะไม่ได้รับความช่วยเหลือ(13)
Comment: (13)หากพวกยะฮูดถูกขับไล่ออกไปพวกมุนาฟิกีนก็จะไม่ออกไปพร้อมกับพวกเขาและหากพวกยะฮูดถูกโจมตีพวกเขาก็จะไม่ช่วยเหลือและไม่ร่วมต่อต้านกับพวกเขาเป็นอันขาดในกรณีสมมติหากพวกมุนาฟิกีนช่วยเหลือในการต่อต้านพวกเขาก็จะพ่ายแพ้และผินหลังหนีออกไปดังนั้นพวกยะฮูดก็จะไม่ได้รับความช่วยเหลือแต่อย่างใด
59:13
لَأَنتُمْ أَشَدُّ رَهْبَةًۭ فِى صُدُورِهِم مِّنَ ٱللَّهِ ۚ ذَٰلِكَ بِأَنَّهُمْ قَوْمٌۭ لَّا يَفْقَهُونَ
Translation: แน่นอนพวกเจ้านั้นเป็นที่หวาดเกรงในทรวงอกของพวกเขายิ่งกว่าที่พวกเขามีต่ออัลลอฮ์ ทั้งนี้ก็เพราะว่าพวกเขาเป็นหมู่ชนที่ไม่เข้าใจ(14)
Comment: (14)คือพวกเจ้า บรรดามุสลิมนั้นเป็นที่เกรงขามและหวาดกลัวของพวกเขาที่มีต่อพวกเจ้านั้นก็เพราะว่าพวกเขาไม่รู้ถึงความยิ่งใหญ่ของอัลลอฮ์
59:14
لَا يُقَـٰتِلُونَكُمْ جَمِيعًا إِلَّا فِى قُرًۭى مُّحَصَّنَةٍ أَوْ مِن وَرَآءِ جُدُرٍۭ ۚ بَأْسُهُم بَيْنَهُمْ شَدِيدٌۭ ۚ تَحْسَبُهُمْ جَمِيعًۭا وَقُلُوبُهُمْ شَتَّىٰ ۚ ذَٰلِكَ بِأَنَّهُمْ قَوْمٌۭ لَّا يَعْقِلُونَ
Translation: พวกเขาทั้งหมดจะไม่ต่อสู้กับพวกเจ้าเว้นแต่ในเมืองที่มีป้อมปราการหรือจากเบื้องหลังของกำแพง การเป็นศัตรูระหว่างพวกเขากันเองนั้นรุนแรงยิ่งนัก เจ้าเข้าใจว่าพวกเขารวมกันเป็นปึกแผ่นแต่(ความจริงแล้ว)จิตใจของพวกเขาแตกแยกกัน ทั้งนี้ก็เพราะว่าพวกเขาเป็นหมู่ชนที่ไม่ใช้สติปัญญาใคร่ครวญ(15)
Comment: (15)พวกยะฮูดเหล่านั้นไม่สามารถที่จะต่อสู้กับพวกเจ้าได้ เว้นแต่เมื่อพวกเขาอยู่ในเมืองที่มีป้อมปราการล้อมรอบด้วยกำแพงและสนามเพลาะ ทั้งนี้เพื่อเป็นด่านป้องกันพวกเขา เนื่องจากความหวาดกลัวของพวกเขานั่นเอง ระหว่างพวกเขาด้วยกันเองนั้นมีความคิดเห็นและผลประโยชน์ขัดแย้งกันอยู่เสมอ เจ้าคิดว่าพวกเขาเป็นอันหนึ่งอันเดียวแต่ความจริงแล้วพวกเขาแตกแยกกันอยู่เสมอ การแตกแยกของพวกเขานั้นก็เพราะว่าพวกเขาไม่มีสติปัญญาที่จะใคร่ครวญบัญญัติของอัลลอฮ์
59:15
كَمَثَلِ ٱلَّذِينَ مِن قَبْلِهِمْ قَرِيبًۭا ۖ ذَاقُوا۟ وَبَالَ أَمْرِهِمْ وَلَهُمْ عَذَابٌ أَلِيمٌۭ
Translation: (สภาพของพวกเขา) ประหนึ่งอุปมาสภาพของบรรดาพวกยิวก่อนหน้าพวกเขาเพียงเล็กน้อย ซึ่งพวกเขาได้ลิ้มรสผลร้ายแห่งการงานของพวกเขา และการลงโทษอันเจ็บปวดจะได้แก่พวกเขา(16)
Comment: (16)ประหนึ่งพวกยะฮูดในการไม่ยอมศรัทธาและต่อสู้ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เช่นเดียวกับพี่น้องของพวกเขาบะนีก็อยนะกออ์และพวกมุชริกีนในสงครามบัตรพวกเขาได้ลิ้มรสบั้นปลายของการปฏิเสธศรัทธาและการทำสงครามของพวกเขาต่อท่านร่อซูลซึ่งพวกเขาได้รับการการลงโทษอย่างเจ็บปวดในโลกอาคิเราะฮ์
59:16
كَمَثَلِ ٱلشَّيْطَـٰنِ إِذْ قَالَ لِلْإِنسَـٰنِ ٱكْفُرْ فَلَمَّا كَفَرَ قَالَ إِنِّى بَرِىٓءٌۭ مِّنكَ إِنِّىٓ أَخَافُ ٱللَّهَ رَبَّ ٱلْعَـٰلَمِينَ
Translation: ประหนึ่งเช่นชัยฏอนเมื่อมันกล่าวแก่มนุษย์ว่าจงปฎิเสธศรัทธาเถิด ครั้นเมื่อเขาได้ปฎิเสธศรัทธาแล้วมันจะกล่าวว่า แท้จริงฉันขอปลีกตัวออกจากท่าน แท้จริงฉันกลัวอัลลอฮ์พระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก(17)
Comment: (17)สภาพของพวกยะฮูดดังกล่าวเช่นกันเปรียบเสมือนการเชื่อฟังและยอมจำนนของพวกเขาต่อพวกมุนาฟิกีน เช่นเดียวกับที่ชัยฏอนได้เสี้ยมสอนมนุษย์ให้ปฏิเสธศรัทธา เมื่อมนุษย์ได้เชื่อฟังมันแล้ว มันก็ขอปลีกตัวจากการกระทำของมันและว่าฉันกลัวอัลลอฮ์พระเจ้าแห่งสากลโลก
59:17
فَكَانَ عَـٰقِبَتَهُمَآ أَنَّهُمَا فِى ٱلنَّارِ خَـٰلِدَيْنِ فِيهَا ۚ وَذَٰلِكَ جَزَٰٓؤُا۟ ٱلظَّـٰلِمِينَ
Translation: ดังนั้น บั้นปลายของพวกเขาทั้งสองคือ พวกเขาทั้งสองจะอยู่ในนรกเป็นผู้พำนักอยู่ในนั้นตลอดกาล และนั่นคือการตอบแทนของบรรดาผู้อธรรม(18)
Comment: (18)บั้นปลายของมนุษย์และชัยฏอนคือการอยู่ในนรกตลอดกาลเป็นการตอบแทนแก่พวกมุชริกีน และบรรดาผู้ฝ่าฝืนไม่ยอมเชื่อฟังและภักดีต่ออัลลอฮ์
59:18
يَـٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ ٱتَّقُوا۟ ٱللَّهَ وَلْتَنظُرْ نَفْسٌۭ مَّا قَدَّمَتْ لِغَدٍۢ ۖ وَٱتَّقُوا۟ ٱللَّهَ ۚ إِنَّ ٱللَّهَ خَبِيرٌۢ بِمَا تَعْمَلُونَ
Translation: โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย พวกเจ้าจงยำเกรงอัลลอฮ์เถิด และทุกชีวิตจงพิจารณาดูว่าอะไรบ้างที่ตนได้เตรียมไว้สำหรับพรุ่งนี้(วันกิยามะฮ์) และจงยำเกรงอัลลอฮ์เถิด แท้จริงอัลลอฮ์ทรงรู้ดียิ่งในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำ(19)
Comment: (19)เมื่อได้กล่าวถึงสภาพของพวกยะฮูดและพวกมุนาฟิกีนแล้ว พระองค์ทรงสั่งสอนบรรดามุอ์มินด้วยการสั่งสอนที่ดีมิให้เป็นเยี่ยงอย่างมนุษย์จำพวกดังกล่าวมาแล้ว คือให้บรรดามุอ์มินจงมีความยำเกรงอัลลอฮ์ และระวังการลงโทษของพระองค์ และว่าทุกคนจงพิจารณาตัวเองว่าได้เตรียมผลงานที่ดีอะไรไว้บ้างสำหรับวันกิยามะฮ์ การกล่าวย้ำถึงการตักวาอีกครั้งหนึ่งในอายะฮ์เดียวกันแสดงถึงตำแหน่งและความสำคัญของการตักวา
59:19
وَلَا تَكُونُوا۟ كَٱلَّذِينَ نَسُوا۟ ٱللَّهَ فَأَنسَىٰهُمْ أَنفُسَهُمْ ۚ أُو۟لَـٰٓئِكَ هُمُ ٱلْفَـٰسِقُونَ
Translation: และพวกเจ้าอย่าได้เป็นเช่นบรรดาผู้ที่ลืมอัลลอฮ์ มิฉะนั้นอัลลอฮ์จะทรงทำให้พวกเขาลืมตัวของพวกเขาเอง ชนเหล่านั้นพวกเขาเป็นผู้ฝ่าฝืน(20)
Comment: (20)พวกเจ้าโอ้บรรดามุอมินเอ๋ยอย่าได้เป็นเช่นบรรดาผู้ที่ลืมอัลลอฮคือไม่ยอมเชื่อฟังจงรักภักดีต่อพระองค์แล้วพระองค์จะลงโทษพวกเจ้าด้วยการให้ลืมตัวเองโดยไม่กระทำความดีเลย
59:20
لَا يَسْتَوِىٓ أَصْحَـٰبُ ٱلنَّارِ وَأَصْحَـٰبُ ٱلْجَنَّةِ ۚ أَصْحَـٰبُ ٱلْجَنَّةِ هُمُ ٱلْفَآئِزُونَ
Translation: บรรดาชาวนรกกับบรรดาชาวสวนสวรรค์นั้นไม่เหมือนกันดอก บรรดาชาวสวนสวรรค์พวกเขาเป็นผู้ได้รับความสำเร็จ(21)
Comment: (21)คือชาวนรกอยู่ในนรกขั้นต่ำสุด ส่วนชาวสวรรค์อยู่ในสวรรค์ชั้นสูงสุด จะเท่าเทียมกันได้อย่างไร ชาวสวรรค์เป็นผู้ประสบชัยชนะ ส่วนชาวนรกนั้นเป็นผู้ขาดทุน
59:21
لَوْ أَنزَلْنَا هَـٰذَا ٱلْقُرْءَانَ عَلَىٰ جَبَلٍۢ لَّرَأَيْتَهُۥ خَـٰشِعًۭا مُّتَصَدِّعًۭا مِّنْ خَشْيَةِ ٱللَّهِ ۚ وَتِلْكَ ٱلْأَمْثَـٰلُ نَضْرِبُهَا لِلنَّاسِ لَعَلَّهُمْ يَتَفَكَّرُونَ
Translation: หากเราประทานอัลกุรอานนี้ลงมาบนภูเขาลูกหนึ่ง แน่นอน เจ้าจะเห็นมันนอบน้อมแตกแยกออกเป็นเสี่ยงๆ เนื่องเพราะความกลัวต่ออัลลอฮ์ อุปมาเหล่านี้เราได้ยกมันมาเปรียบเทียบสำหรับมนุษย์เพื่อพวกเขาจะได้พิจารณาใคร่ครวญ(22)
Comment: (22)หากอัลลอฮ์ทรงให้ภูเขามีสติปัญญาแยกแยะเสมือนกับที่พระองค์ทรงประทานให้แก่มนุษย์แล้ว พระองค์ก็จะประทานอัลกุรอานให้แก่ภูเขา จะเห็นได้ว่าภูเขาจะนอบน้อมและแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เพราะความกลัวของมันต่ออัลลอฮ์ ในการเปรียบเทียบนี้เป็นการเตือนแก่บรรดามุอ์มินให้ใคร่ครวญและมีความยำเกรงเมื่ออ่านหรือได้ยินอัลกุรอาน
59:22
هُوَ ٱللَّهُ ٱلَّذِى لَآ إِلَـٰهَ إِلَّا هُوَ ۖ عَـٰلِمُ ٱلْغَيْبِ وَٱلشَّهَـٰدَةِ ۖ هُوَ ٱلرَّحْمَـٰنُ ٱلرَّحِيمُ
Translation: พระองค์คืออัลลอฮ์ซึ่งไม่มีพระเจ้าอื่นใดอีกนอกจากพระองค์ ผู้ทรงรอบรู้สิ่งเร้นลับและสิ่งเปิดเผย พระองค์คือผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาเสมอ(23)
Comment: (23)ไม่มีสิ่งที่ถูกสักการะบูชาอย่างแท้จริงนอกจากพระองค์พระองค์ทรงรอบรู้สิ่งเร้นลับและสิ่งเปิดเผยคือทั้งในที่ลับและที่แจ้งสิ่งที่เป็นปรากฎและสิ่งที่ไม่ปรากฎสิ่งที่อยู่ภายในและสิ่งที่อยู่ภายนอกพระองค์คือผู้ทรงกรุณาปรานีซึ่งความกรุณาปรานีของพระองค์แผ่กลุ่มไปทั่วจักรวาลผู้ทรงเมตตาต่อปวงบ่าวของพระองค์ผู้ศรัทธา
59:23
هُوَ ٱللَّهُ ٱلَّذِى لَآ إِلَـٰهَ إِلَّا هُوَ ٱلْمَلِكُ ٱلْقُدُّوسُ ٱلسَّلَـٰمُ ٱلْمُؤْمِنُ ٱلْمُهَيْمِنُ ٱلْعَزِيزُ ٱلْجَبَّارُ ٱلْمُتَكَبِّرُ ۚ سُبْحَـٰنَ ٱللَّهِ عَمَّا يُشْرِكُونَ
Translation: พระองค์คืออัลลอฮ์ซึ่งไม่มีพระเจ้าอื่นใดอีกนอกจากพระองค์ ผู้ทรงอำนาจสูงสุด ผู้ทรงบริสุทธิ์ ผู้ทรงความศานติสุข ผู้ทรงคุ้มครองการศรัทธา ผู้ทรงปกปักรักษาความปลอดภัย ผู้ทรงอำนาจยิ่ง ผู้ทรงเกรียงไกร ผู้ทรงความยิ่งใหญ่ มหาบริสุทธิ์แด่อัลลอฮ์ให้พ้นจากสิ่งที่พวกเขาตั้งภาคีต่อพระองค์(24)
Comment: (24)ไม่มีสิ่งที่ถูกเคารพบูชาอย่างแท้จริงนอกจากพระองค์ เพราะพระองค์เป็นผู้สร้าง ผู้ประทานปัจจัยยังชีพ ผู้จัดระบบให้เรียบร้อย ไม่มีใครอื่นนอกจากพระองค์ พระองค์เป็นผู้ทรงอำนาจในทุก ๆ สิ่ง ทรงปกครองทุกๆ สิ่ง ผู้ทรงบริสุทธิ์จากสิ่งที่ไม่เหมาะสมกับพระองค์ ทรงสมบูรณ์จากทุกสิ่งที่บกพร่อง ทรงคุ้มครองบรรดาร่อซูลของพระองค์ด้วยสิ่งปาฏิหาริย์ต่างๆ ทรงเป็นผู้พิทักษ์ ทรงเป็นพยานแก่ปวงบ่าวของพระองค์ด้วยการงานของพวกเขา ผู้ทรงมีอำนาจในการผูกพยาบาทของพระองค์ ผู้ทรงปราบและจัดระบบทุกสิ่งให้เรียบร้อย ผู้ทรงยิ่งใหญ่ยโสเหนือปวงบ่าวของพระองค์ มหาบริสุทธิ์แด่อัลลอฮ์จากการตั้งภาคีใดๆ ที่เป็นพระเจ้าจอมปลอม
59:24
هُوَ ٱللَّهُ ٱلْخَـٰلِقُ ٱلْبَارِئُ ٱلْمُصَوِّرُ ۖ لَهُ ٱلْأَسْمَآءُ ٱلْحُسْنَىٰ ۚ يُسَبِّحُ لَهُۥ مَا فِى ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضِ ۖ وَهُوَ ٱلْعَزِيزُ ٱلْحَكِيمُ
Translation: พระองค์คืออัลลอฮ์ผู้ทรงสร้างผู้ทรงให้บังเกิด ผู้ทรงทำให้เป็นรูปร่าง สำหรับพระองค์คือ พระนามทั้งหลายอันสวยงามไพเราะสิ่งที่อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลาย และแผ่นดินต่างแซ่ซ้องสดุดีพระองค์ และพระองค์เป็นผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงปรีชาญาณ(25)
Comment: (25)พระองค์คือพระเจ้าอย่าง แท้จริงไม่มีใครอื่นนอกจากพระองค์พระผู้ทรงสร้างสำหรับทุก ๆ สิ่ง พระผู้ทรงบังเกิดทั้งหลายเป็นรูปร่างในรูปแบบที่แตกต่างกันพระองค์มีพระนามที่สวยงามไพเราะ 99 พระนามทุก ๆ สิ่งที่อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินต่างแซ่ซ้องสดุดีและให้ความบริสุทธิ์แด่พระองค์ด้วยคำกล่าวและสภาพความเป็นอยู่ทรงมีอำนาจเหนือกิจการของพระองค์ทรงปรีชาญาณในการจัดระบบทั้งมวลของพระองค์