سورة الفتح

Al-Fath

The Victory


medinan   .   29 Ayahs

بِسْمِ ٱللَّهِ ٱلرَّحْمَـٰنِ ٱلرَّحِيمِ


48:1

إِنَّا فَتَحْنَا لَكَ فَتْحًۭا مُّبِينًۭا

Translation: แท้จริงเราได้ให้ชัยชนะแก่เจ้าซึ่งเป็นชัยชนะอย่างชัดแจ้ง

48:2

لِّيَغْفِرَ لَكَ ٱللَّهُ مَا تَقَدَّمَ مِن ذَنۢبِكَ وَمَا تَأَخَّرَ وَيُتِمَّ نِعْمَتَهُۥ عَلَيْكَ وَيَهْدِيَكَ صِرَٰطًۭا مُّسْتَقِيمًۭا

Translation: เพื่ออัลลอฮ์จะได้ทรงอภัยโทษความผิดของเจ้าที่ได้ล่วงไปแล้วและที่จะเกิดขึ้นภายหลัง และจะทรงให้ความโปรดปรานของพระองค์ครบสมบูรณ์แก่เจ้า และทรงชี้แนะทางแก่เจ้าคือทางอันเที่ยงตรง

48:3

وَيَنصُرَكَ ٱللَّهُ نَصْرًا عَزِيزًا

Translation: และอัลลอฮ์จะทรงช่วยเหลือเจ้าด้วยการช่วยเหลืออย่างเข้มแข็ง(1)

Comment: (1)เราได้กำหนดแก่เจ้าแล้วซึ่งการพิชิตนครมักกะฮ์ คอยบัร และเมืองอื่นๆ เป็นผลมาจากการเสียสละของเจ้าและการอดทนของเจ้า การพิชิตนี้จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน การทำสัญญาปรองดองที่ฮุดัยบียะฮ์นี้เป็นการเริ่มแห่งการพิชิต ดังนั้นจงสรรเสริญและขอบคุณพระเจ้าของเจ้าเถิด เพื่อพระองค์จะทรงอภัยโทษความผิดของเจ้าในอดีตและอนาคต และจะทรงให้ความโปรดปรานของพระองค์ครบถ้วนสมบูรณ์แก่เจ้าด้วยการช่วยเหลือเจ้าให้มีชัยชนะเหนือศัตรูของเจ้าและผู้ที่ต่อต้านเจ้า และจะทรงชี้แนะทางที่เที่ยงตรงแก่เจ้า อัลลอฮ์ทรงประทานความโปรดปรานให้แก่ท่านร่อซูลุลลอฮ์ 4 อย่างด้วยกัน คือการอภัยโทษในอดีตและในอนาคต การพิชิตนครมักกะฮ์ การชี้แนะทางอันเที่ยงตรง และการได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน ดังนั้น ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงดีใจและกล่าวว่าอายะฮ์หนึ่งถูกประทานลงมาให้แก่ฉันเป็นที่รักยิ่งแก่ฉันกว่าโลกดุนยาทั้งหมด

48:4

هُوَ ٱلَّذِىٓ أَنزَلَ ٱلسَّكِينَةَ فِى قُلُوبِ ٱلْمُؤْمِنِينَ لِيَزْدَادُوٓا۟ إِيمَـٰنًۭا مَّعَ إِيمَـٰنِهِمْ ۗ وَلِلَّهِ جُنُودُ ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضِ ۚ وَكَانَ ٱللَّهُ عَلِيمًا حَكِيمًۭا

Translation: พระองค์คือผู้ทรงประทานความเงียบสงบลงมาในจิตใจของบรรดาผู้ศรัทธา เพื่อพวกเขาจะได้เพิ่มพูนการศรัทธาให้กับการศรัทธาของพวกเขา และเป็นของอัลลอฮ์คือไพร่พลแห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงรอบรู้ผู้ทรงปรีชาญาณเสมอ(2)

Comment: (2)อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงประทานความสงบลงมาในจิตใจของบรรดามุอ์มินที่เป็นสาวกของเจ้ามีจำนวน 1,400 คน หลังจากที่พวกเขามีความกังวลใจ เพื่อให้การศรัทธาของพวกเขาเพิ่มพูนยิ่งขึ้น เพราะทุกครั้งที่มีการประทานบัญญัติศาสนาลงมาพวกเขาก็จะศรัทธาและยึดปฏิบัติกัน เช่นบัญญัติให้มีการญิฮาดในทางของอัลลอฮ์ เป็นต้น ไพร่พลทั้งหลายแห่งชั้นฟ้าและแผ่นดิน มลาอิกะฮ์และญิน สัตว์ทุกชนิดสายฟ้า แผ่นดินไหว แผ่นดินถล่ม ทั้งหมดนี้เป็นสิทธิ์ของอัลลอฮ์

48:5

لِّيُدْخِلَ ٱلْمُؤْمِنِينَ وَٱلْمُؤْمِنَـٰتِ جَنَّـٰتٍۢ تَجْرِى مِن تَحْتِهَا ٱلْأَنْهَـٰرُ خَـٰلِدِينَ فِيهَا وَيُكَفِّرَ عَنْهُمْ سَيِّـَٔاتِهِمْ ۚ وَكَانَ ذَٰلِكَ عِندَ ٱللَّهِ فَوْزًا عَظِيمًۭا

Translation: เพื่อพระองค์จะทรงให้บรรดาผู้ศรัทธาชายและบรรดาผู้ศรัทธาหญิงได้เข้าสวนสวรรค์หลากหลาย ณ เบื้องล่างของสวนสวรรค์มีธารน้ำหลายสายไหลผ่าน พวกเขาเป็นผู้พำนักอยู่ตลอดกาลในนั้นและพระองค์จะทรงลบล้างความชั่วของพวกเขาออกจาก พวกเขาและนั่นคือชัยชนะอันใหญ่หลวง ณ ที่อัลลอฮ์(3)

Comment: (3)การที่พระองค์ทรงให้บรรดาผู้ศรัทธาชายและบรรดาผู้ศรัทธาหญิงได้เข้าสวนสวรรค์อยู่ตลาดกาล และทรงลบล้างความชั่วคืออภัยโทษให้แก่พวกเขา นับได้ว่าเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่และความสุขสำราญที่จะไม่มีที่เปรียบปราน เพราะไม่มีความสุขสำราญอย่างอื่นหลังจากได้รับความสุขสำราญในสวนสวรรค์อีกแล้ว

48:6

وَيُعَذِّبَ ٱلْمُنَـٰفِقِينَ وَٱلْمُنَـٰفِقَـٰتِ وَٱلْمُشْرِكِينَ وَٱلْمُشْرِكَـٰتِ ٱلظَّآنِّينَ بِٱللَّهِ ظَنَّ ٱلسَّوْءِ ۚ عَلَيْهِمْ دَآئِرَةُ ٱلسَّوْءِ ۖ وَغَضِبَ ٱللَّهُ عَلَيْهِمْ وَلَعَنَهُمْ وَأَعَدَّ لَهُمْ جَهَنَّمَ ۖ وَسَآءَتْ مَصِيرًۭا

Translation: และเพื่อพระองค์จะทรงลงโทษแก่พวกมุนาฟิกีนชายและพวกมุนาฟิกีนหญิง และบรรดาผู้ตั้งภาคีชาย(มุชริกีน)และบรรดาผู้ตั้งภาคีหญิง(มุชริก๊าต)โดยพวกเขาคิดเกี่ยวกับอัลลอฮ์ด้วยความคิดร้ายเหตุร้ายเหล่านั้นจงประสบแก่พวกเขาเถิดและอัลลอฮ์ทรงโกรธกริ้วพวกเขา และทรงสาปแช่งพวกเขาอีกทั้งทรงเตรียมนรกญะฮันนัมไว้สำหรับพวกเขาอีกด้วย และมันเป็นทางกลับที่ชั่วร้ายยิ่ง(4)

Comment: (4)เพื่อที่อัลลอฮ์จะทรงลงโทษแก่พวกมุนาฟิกีนและพวกมุชริกีนโดยที่พวกเขาคิดร้ายต่ออัลลอฮ์ พวกเขาคิดว่าอัลลอฮ์จะไม่ทรงช่วยเหลือร่อซูลของพระองค์และบรรดามุอ์มิน ความคิดร้ายนั้นจงประสบแก่พวกเขาเถิด และขออัลลอฮ์ทรงกริ้วและทรงสาปแช่งแก่พวกเขา

48:7

وَلِلَّهِ جُنُودُ ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضِ ۚ وَكَانَ ٱللَّهُ عَزِيزًا حَكِيمًا

Translation: และอัลลอฮ์ทรงกรรมสิทธิ์ไพร่พลแห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงปรีชาญาณ(5)

Comment: (5)อายะฮ์นี้เป็นการย้ำเพื่อแก้แค้นเหล่าศัตรูของอิสลาม ทั้งนี้เพราะไพร่พลของอัลลอฮ์บางทีถูกประทานลงมาเพื่อความเมตตา บางทีถูกประทานลงมาเพื่อการลงโทษ ได้กล่าวถึงไพร่พลของอัลลอฮ์ในอายะฮ์ที่ 4 เพื่อประทานความเมตตาแก่บรรดามุอ์มิน และในอายะฮ์นี้เพื่อลงโทษแก่พวกปฏิเสธศรัทธา

48:8

إِنَّآ أَرْسَلْنَـٰكَ شَـٰهِدًۭا وَمُبَشِّرًۭا وَنَذِيرًۭا

Translation: แท้จริงเราได้ส่งเจ้า(มุฮัมมัด)มาเพื่อเป็นพยานและผู้แจ้งข่าวดีและผู้แจ้งข่าวร้าย

48:9

لِّتُؤْمِنُوا۟ بِٱللَّهِ وَرَسُولِهِۦ وَتُعَزِّرُوهُ وَتُوَقِّرُوهُ وَتُسَبِّحُوهُ بُكْرَةًۭ وَأَصِيلًا

Translation: เพื่อให้พวกเจ้าศรัทธาต่ออัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์ และให้ความช่วยเหลือเขา(ร่อซูล) และยกย่องให้เกียรติเขา(ร่อซูล) และแซ่ซ้องสดุดีพระองค์ทั้งในยามเช้าและยามเย็น(6)

Comment: (6)เราได้ส่งเจ้ามาเพื่อเป็นพยานแก่มนุษย์ในวันกิยามะฮ์ เป็นผู้แจ้งข่าวดีคือสวนสวรรค์แก่บรรดามุอ์มิน และเป็นผู้แจ้งข่าวร้ายแก่พวกปฏิเสธศรัทธาด้วยการลงโทษคือนรกญะฮันนัม เราได้ส่งร่อซูลมาเพื่อให้พวกเจ้าศรัทธาต่อพระเจ้าของพวกเจ้าและร่อซูลของพวกเจ้าด้วยการศรัทธาอย่างแท้จริง และให้ความช่วยเหลือและยกย่องให้เกียรติแก่ร่อซูลของพระองค์

48:10

إِنَّ ٱلَّذِينَ يُبَايِعُونَكَ إِنَّمَا يُبَايِعُونَ ٱللَّهَ يَدُ ٱللَّهِ فَوْقَ أَيْدِيهِمْ ۚ فَمَن نَّكَثَ فَإِنَّمَا يَنكُثُ عَلَىٰ نَفْسِهِۦ ۖ وَمَنْ أَوْفَىٰ بِمَا عَـٰهَدَ عَلَيْهُ ٱللَّهَ فَسَيُؤْتِيهِ أَجْرًا عَظِيمًۭا

Translation: แท้จริงบรรดาผู้ที่ให้สัตยาบันกับเจ้านั้น เสมือนกับว่าพวกเขาได้ให้สัตยาบันกับอัลลอฮ์พระหัตถ์ของอัลลอฮ์ทรงอยู่เหนือมือของพวกเขา ฉะนั้นผู้ใดทำลาย(สัตยาบัน)เสมือนกับว่าเขาทำลายตัวของเขาเอง ส่วนผู้ใดปฏิบัติตามสัญญาที่เขาได้มีไว้กับอัลลอฮ์โดยครบถ้วนพระองค์ก็จะทรงตอบแทนรางวัลอันใหญ่หลวงแก่เขา(7)

Comment: (7)คือให้สัตยาบันแก่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ที่จะยอมพลีชีพร่วมกันเพื่อต่อสู้ชาวมักกะฮ์และจะไม่หนีทัพขณะประจัญบานกันการทำสัตยาบันนั้นถึงแม้ว่าได้ทำกับท่านร่อซูล ความจริงแล้วก็เหมือนทำกับอัลลอฮ์เพราะพระองค์ทรงใช้ให้พวกเขาทำญิฮาดและสัญญาที่จะให้สิ่งตอบแทนแก่พวกเขา ดังนั้นผู้ใดที่ผิดสัญญาก็หมายถึงว่าเขาได้ทำลายตัวของเขาเอง

48:11

سَيَقُولُ لَكَ ٱلْمُخَلَّفُونَ مِنَ ٱلْأَعْرَابِ شَغَلَتْنَآ أَمْوَٰلُنَا وَأَهْلُونَا فَٱسْتَغْفِرْ لَنَا ۚ يَقُولُونَ بِأَلْسِنَتِهِم مَّا لَيْسَ فِى قُلُوبِهِمْ ۚ قُلْ فَمَن يَمْلِكُ لَكُم مِّنَ ٱللَّهِ شَيْـًٔا إِنْ أَرَادَ بِكُمْ ضَرًّا أَوْ أَرَادَ بِكُمْ نَفْعًۢا ۚ بَلْ كَانَ ٱللَّهُ بِمَا تَعْمَلُونَ خَبِيرًۢا

Translation: ชาวอาหรับชนบทที่เหลืออยู่ในเมืองจะกล่าวแก่เจ้าว่าทรัพย์สินของเราและครอบครัวของเราทำให้เรามีธุระยุ่งอยู่ ดังนั้นได้โปรดขออภัยให้แก่เราด้วย พวกเขากล่าวด้วยลิ้นของพวกเขาโดยไม่มีอะไรในหัวใจของพวกเขา จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ใครเล่าจะมีอำนาจอันใดที่จะป้องกันพวกเจ้าจากอัลลอฮ์หากพระองค์ทรงประสงค์ให้ความทุกข์แก่พวกเจ้า หรือพระองค์ทรงประสงค์จะให้ประโยชน์แก่พวกเจ้า แต่ว่าอัลลอฮ์ทรงตระหนักยิ่งในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำ(8)

Comment: (8)อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงเปิดโปงชาวอาหรับทะเลทรายถึงสภาพอันแท้จริงของพวกเขาก่อนที่ท่านนบีจะเดินทางกลับถึงนครอัลมะดีนะฮ์ว่า พวกเขาจะกล่าวข้อขัดข้องที่มิได้ไปร่วมกับท่านนบีและบรรดามุอ์มิน และขอให้ท่านนบีขออภัยโทษให้แก่พวกเขาด้วย การกระทำเช่นนี้นับได้ว่าเป็นการโกหกในการกระทำของพวกเขา เช่นนี้ใครเล่าจะปกป้องพวกเขาหากอัลลอฮ์ทรงประสงค์จะให้พวกเขาได้รับความดีหรือความชั่ว เพราะพระองค์ทรงตระหนักดียิ่งถึงการกระทำของพวกเขา

48:12

بَلْ ظَنَنتُمْ أَن لَّن يَنقَلِبَ ٱلرَّسُولُ وَٱلْمُؤْمِنُونَ إِلَىٰٓ أَهْلِيهِمْ أَبَدًۭا وَزُيِّنَ ذَٰلِكَ فِى قُلُوبِكُمْ وَظَنَنتُمْ ظَنَّ ٱلسَّوْءِ وَكُنتُمْ قَوْمًۢا بُورًۭا

Translation: หามิได้ พวกเจ้าคิดว่าอร่อซูลและบรรดามุอ์มินผู้ศรัทธาจะไม่กลับไปยังครอบครัวของพวกเขาเป็นอันขาด และนั่นได้ถูกทำให้เป็นที่เพริศแพร้วในจิตใจของพวกเจ้า และพวกเจ้าได้คิดร้ายและพวกเจ้าเป็นหมู่ชนที่วิบัติ(9)

Comment: (9)พวกมุนาฟิกีนคิดกันว่าท่านร่อศูลและบรรดาสาวกจะไม่มีทางกลับไปหาครอบครัวของพวกเขาในนครอัลมะดีนะฮ์เป็นอันขาด โดยคิดว่าพวกมุชริกีนมักกะฮ์จะฆ่าพวกเขาจนหมดสิ้น ในการคิดร้ายของพวกมุนาฟิกีนเช่นนี้ย่อมจะนำความพินาศมาสู่พวกเขา และเป็นการสมควรแล้วที่พวกเขาจะได้รับความกริ้วและการลงโทษของพระองค์

48:13

وَمَن لَّمْ يُؤْمِنۢ بِٱللَّهِ وَرَسُولِهِۦ فَإِنَّآ أَعْتَدْنَا لِلْكَـٰفِرِينَ سَعِيرًۭا

Translation: และถ้าผู้ใดมิได้ศรัทธาต่ออัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์ แท้จริงเราได้เตรียมไฟที่ลุกโชติช่วงไว้สำหรับผู้ปฏิเสธศรัทธา(10)

Comment: (10)เป็นการสำทับแก่พวกมุนาฟิกีนที่ไม่ศรัทธาต่ออัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์

48:14

وَلِلَّهِ مُلْكُ ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضِ ۚ يَغْفِرُ لِمَن يَشَآءُ وَيُعَذِّبُ مَن يَشَآءُ ۚ وَكَانَ ٱللَّهُ غَفُورًۭا رَّحِيمًۭا

Translation: และอำนาจเด็ดขาดแห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินนั้นเป็นของอัลลอฮ์พระองค์จะทรงอภัยแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และจะทรงลงโทษผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ(11)

Comment: (11)คือพระองค์ทรงบริหารทุกๆ สิ่งตามที่พระองค์ทรงประสงค์ และพระองค์จะทรงประทานความเมตตาและทรงลงโทษแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์

48:15

سَيَقُولُ ٱلْمُخَلَّفُونَ إِذَا ٱنطَلَقْتُمْ إِلَىٰ مَغَانِمَ لِتَأْخُذُوهَا ذَرُونَا نَتَّبِعْكُمْ ۖ يُرِيدُونَ أَن يُبَدِّلُوا۟ كَلَـٰمَ ٱللَّهِ ۚ قُل لَّن تَتَّبِعُونَا كَذَٰلِكُمْ قَالَ ٱللَّهُ مِن قَبْلُ ۖ فَسَيَقُولُونَ بَلْ تَحْسُدُونَنَا ۚ بَلْ كَانُوا۟ لَا يَفْقَهُونَ إِلَّا قَلِيلًۭا

Translation: บรรดาผู้ที่เหลืออยู่ในเมืองจะกล่าวว่า เมื่อพวกท่านออกเดินทางไปยังกองทรัพย์เชลย(ที่ค็อยบัร) เพื่อไปยึดเอามา ก็จงปล่อยให้พวกเราออกติดตามพวกท่านไปด้วย พวกเขาประสงค์ที่จะเปลี่ยนคำกล่าวของอัลลอฮ์จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด พวกท่านจะติดตามพวกเราไปไม่ได้เป็นอันขาด เพราะอัลลอฮ์ได้ตรัสไว้ก่อนแล้ว แล้วพวกเขาก็จะกล่าวอีกว่า หามิได้ พวกท่านอิจฉาพวกเรา เปล่าเลย พวกเขาไม่เข้าใจอะไรเลยนอกจากเพียงเล็กน้อย(12)

Comment: (12)บรรดาผู้ที่มิได้ออกไปร่วมทำสัตยาบันที่อัลฮุดัยบียะฮ์จะกล่าวว่า หากพวกท่านจะออกไปยึดทรัพย์เชลยที่อัลค็อยบัรก็ขอให้พวกเราออกไปด้วย คำกล่าวของเขาเช่นนี้เป็นความประสงค์ของพวกเขาที่จะเปลี่ยนสัญญาของอัลลอฮ์ ซึ่งพระองค์ทรงสัญญากับชาวฮุดัยบียะฮ์ที่จะให้ทรัพย์เชลยค็อยบัรนี้เป็นของพวกเขาโดยเฉพาะ เพราะอัลลอฮ์ทรงแจ้งแก่พวกเราก่อนที่พวกเราจะกลับไปยังนครอัลมะดีนะฮ์ว่า มิให้พวกท่านติดตามพวกเราออกไป

48:16

قُل لِّلْمُخَلَّفِينَ مِنَ ٱلْأَعْرَابِ سَتُدْعَوْنَ إِلَىٰ قَوْمٍ أُو۟لِى بَأْسٍۢ شَدِيدٍۢ تُقَـٰتِلُونَهُمْ أَوْ يُسْلِمُونَ ۖ فَإِن تُطِيعُوا۟ يُؤْتِكُمُ ٱللَّهُ أَجْرًا حَسَنًۭا ۖ وَإِن تَتَوَلَّوْا۟ كَمَا تَوَلَّيْتُم مِّن قَبْلُ يُعَذِّبْكُمْ عَذَابًا أَلِيمًۭا

Translation: จงกล่าวเถิดมุฮัมมัดแก่ชาวอาหรับชนบทที่เหลืออยู่ในเมืองว่า พวกท่านจะถูกเรียกให้ไปร่วมต่อสู้พวกเขาหรือให้พวกเขายอมจำนน ดังนั้นเมื่อพวกท่านเชื่อฟังปฏิบัติตามอัลลอฮ์ก็จะทรงประทานรางวัลอันดีงามแก่พวกท่าน แต่ถ้าพวกท่านผินหลังออกมาก่อนแล้วพระองค์จะทรงลงโทษพวกท่านด้วย การลงโทษอันเจ็บปวด(13)

Comment: (13)คือพวกอาหรับที่มิได้ออกไปร่วมในการทำสัตยาบันครั้งก่อนนั้นจงกล่าวแก่พวกเขาว่าพวกท่านจะถูกเรียกร้องให้เข้าร่วมทำสงครามกับบนีฮุนัยฟะฮ์คือหมู่ชนของมุไสละมะฮ์ อัลกัซซาบโดยทำการสู้รบกับพวกเหล่านี้จนกว่าพวกเขาจะยอมจำนนและเข้ารับนับถืออิสลามหากพวกท่านยอมเชื่อฟังโดยออกไปร่วมทำสงครามกับหมู่ชนเหล่านั้นอัลลอฮ์ก็จะทรงประทานทรัพย์เชลยและชัยชนะแก่พวกท่านในโลกดุนยาและสวนสวรรค์ในโลกอาคิเราะฮ์หากพวกท่านผินหลังคือไม่ยอมออกไปร่วมทำสงครามพวกท่านก็จะได้รับการลงโทษอย่างเจ็บแสบ

48:17

لَّيْسَ عَلَى ٱلْأَعْمَىٰ حَرَجٌۭ وَلَا عَلَى ٱلْأَعْرَجِ حَرَجٌۭ وَلَا عَلَى ٱلْمَرِيضِ حَرَجٌۭ ۗ وَمَن يُطِعِ ٱللَّهَ وَرَسُولَهُۥ يُدْخِلْهُ جَنَّـٰتٍۢ تَجْرِى مِن تَحْتِهَا ٱلْأَنْهَـٰرُ ۖ وَمَن يَتَوَلَّ يُعَذِّبْهُ عَذَابًا أَلِيمًۭا

Translation: ไม่เป็นการลำบากอันใดแก่คนตาบอดและไม่เป็นการลำบากใจอันใดแก่คนพิการและไม่เป็นการลำบากใจอันใดแก่คนป่วยแต่ถ้าผู้ใดเชื่อฟังปฏิบัติตามอัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์ พระองค์จะทรงให้เขาเข้าสู่สวนสวรรค์หลากหลาย ณ เบื้องล่างมีธารน้ำหลายสายไหลผ่านส่วนผู้ใดผินหลัง พระองค์จะทรงลงโทษเขาด้วยการลงโทษอันเจ็บปวด(14)

Comment: (14)คือคนตาบอดคนพิการและคนป่วยจะไม่คิดโทษและเป็นบาปในการที่ไม่ได้ออกไปร่วมทำสงครามเพราะเหตุขัดข้องดังกล่าว และผู้ใดเชื่อฟังและปฏิบัติตามข้อใช้ของอัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์ เขาจะได้รับการตอบแทนด้วยสวนสวรรค์ ส่วนผู้ใดหลีกเลี่ยงจากการทำญิฮาดโดยปราศจากข้อขัดข้อง อัลลอฮ์ก็จะลงโทษเขาทั้งโลกดุนยาและโลกอาคิเราะฮ์

48:18

۞ لَّقَدْ رَضِىَ ٱللَّهُ عَنِ ٱلْمُؤْمِنِينَ إِذْ يُبَايِعُونَكَ تَحْتَ ٱلشَّجَرَةِ فَعَلِمَ مَا فِى قُلُوبِهِمْ فَأَنزَلَ ٱلسَّكِينَةَ عَلَيْهِمْ وَأَثَـٰبَهُمْ فَتْحًۭا قَرِيبًۭا

Translation: โดยแน่นอน อัลลอฮ์ทรงโปรดปรานต่อบรรดาผู้ศรัทธาขณะที่พวกเขาให้สัตยาบันแก่เจ้าใต้ต้นไม้ (ที่ฮุดัยบิยะฮ์) เพราะพระองค์ทรงรอบรู้ดีถึงสิ่งที่มีอยู่ในจิตใจของพวกเขา พระองค์จึงได้ทรงประทานความสงบใจลงมาบนพวกเขา และได้ทรงตอบแทนให้แก่พวกเขาซึ่งชัยชนะอันใกล้นี้(15)

Comment: (15)คืออัลลอฮ์ทรงพอพระทัยต่อบรรดามุอ์มิน จำนวน 1,400 คน ซึ่งทำสัตยาบันกับท่านนบี ใต้ต้นไม้ “สะมะเราะฮ์” ที่ฮุดัยบียะฮ์ ทั้งนี้เพื่อเป็นการปลอบโยนบรรดามุอ์มินเหล่านั้น หลังจากพวกเขาไม่มีโอกาสได้เข้านครมักกะฮ์เพื่อทำอุมเราะฮ์ในปีนั้น โดยพวกกุเรชมักกะฮ์ ขอทำสัญญาสงบศึก และสัญญาจะให้ท่านนบีกับบรรดามุอ์มินเข้านครมักกะฮ์ ในปีต่อไปอัลลอฮ์ทรงรู้ดีถึงความจริงใจและคำมั่นสัญญาในจิตใจของพวกเขา ดังนั้น พระองค์จึงประทานความสงบใจและความอบอุ่นใจขณะทำสัตยาบัน และทรงตอบแทนพวกเขาด้วยการพิชิตเมืองค็อยบัร

48:19

وَمَغَانِمَ كَثِيرَةًۭ يَأْخُذُونَهَا ۗ وَكَانَ ٱللَّهُ عَزِيزًا حَكِيمًۭا

Translation: และทรัพย์เชลยอันมากมายที่พวกเขาจะได้รับมัน และอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงอำนาจผู้ทรงปรีชาญาณ(16)

Comment: (16)และจะให้พวกเขาได้รับทรัพย์เชลยอันมากมายในการพิชิตเมืองค็อยบัร พระองค์จะได้ทรงชี้แนะทางแก่พวกเจ้าสู่ทางอันเที่ยงตรง

48:20

وَعَدَكُمُ ٱللَّهُ مَغَانِمَ كَثِيرَةًۭ تَأْخُذُونَهَا فَعَجَّلَ لَكُمْ هَـٰذِهِۦ وَكَفَّ أَيْدِىَ ٱلنَّاسِ عَنكُمْ وَلِتَكُونَ ءَايَةًۭ لِّلْمُؤْمِنِينَ وَيَهْدِيَكُمْ صِرَٰطًۭا مُّسْتَقِيمًۭا

Translation: อัลลอฮ์ได้ทรงสัญญาแก่พวกเจ้าซึ่งทรัพย์เชลยอันมากมายที่พวกเจ้าจะได้รับมัน โดยพระองค์ทรงเร่ง(ทรัพย์เชลยที่ค็อยบัร)อันนี้แก่พวกเจ้าและพระองค์ทรงยับยั้งมือของผู้คน(พวกยะฮูด)จาก(การทำร้าย)พวกเจ้าและเพื่อมัน(การยับยั้งจากการทำร้าย)จะได้เป็นสัญญาณหนึ่งแก่บรรดาผู้ศรัทธาและเพื่อพระองค์ จะได้ทรงชี้แนะทางแก่พวกเจ้าสู่ทางอันเที่ยงตรง(17)

Comment: (17)เพราะการญิฮาดและการอดทนของพวกเจ้านั้นเอง อัลลอฮ์จึงทรงสัญญากับพวกเจ้าว่า จะให้มีการพิชิตเมืองค็อยบัรในเร็ววัน และจะห้ามมิให้พวกพันธมิตรตระกูลของพวกยะฮูดมาทำร้ายพวกเจ้าโดยให้เหล่าศัตรูเกิดความกลัวขึ้น แล้วพวกเจ้าจะได้ทรัพย์เชลยที่เมืองค็อยบัรอย่างง่ายดาย และการได้มาซึ่งทรัพย์เชลยก็ดี การพิชิตเมืองมักกะฮ์ก็ดี และการเข้ามัสยิดฮะรอมก็ดี เหล่านี้เป็นสัญญาอย่างชัดแจ้งที่บ่งชี้ถึงคำบอกเล่าของท่านร่อซูลว่าเป็นความจริง

48:21

وَأُخْرَىٰ لَمْ تَقْدِرُوا۟ عَلَيْهَا قَدْ أَحَاطَ ٱللَّهُ بِهَا ۚ وَكَانَ ٱللَّهُ عَلَىٰ كُلِّ شَىْءٍۢ قَدِيرًۭا

Translation: และทรัพย์เชลยอันอื่นอีกที่พวกเจ้าไม่มีกำลังที่จะเอาชนะมันได้ แต่อัลลอฮ์ทรงล้อมพวกมันไว้แล้ว (คืออาณาจักรเปอร์เซียและโรมันตะวันออก) และอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงอานุภาพเหนือทุกสิ่งอย่าง(18)

Comment: (18)คือทรัพย์เชลยจากพวกยุโรปและเอเซีย ซึ่งพวกเจ้าไม่สามารถที่เอาชนะพวกเหล่านั้น ได้แต่อัลลอฮทรงให้พวกเจ้าสามารถยึดเอามาได้ ทั้งนี้ด้วยเดชานุภาพของพระองค์

48:22

وَلَوْ قَـٰتَلَكُمُ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ لَوَلَّوُا۟ ٱلْأَدْبَـٰرَ ثُمَّ لَا يَجِدُونَ وَلِيًّۭا وَلَا نَصِيرًۭا

Translation: และถ้าบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาได้ต่อสู้กับพวกเจ้า พวกเขาก็จะผินหลังกลับอย่างแน่นอน แล้วพวกเขาจะไม่พบผู้คุ้มครองและผู้ช่วยเหลือ

48:23

سُنَّةَ ٱللَّهِ ٱلَّتِى قَدْ خَلَتْ مِن قَبْلُ ۖ وَلَن تَجِدَ لِسُنَّةِ ٱللَّهِ تَبْدِيلًۭا

Translation: นั่นคือแนวทางของอัลลอฮ์แก่บรรดาผู้ที่ล่วงลับไปแล้วแต่กาลก่อน และเจ้าจะไม่พบการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในแนวทางของอัลลอฮ์(19)

Comment: (19)ส่วนหนึ่งจากความโปรดปรานของพระองค์แก่พวกเจ้าคือ เมื่อชาวมักกะฮ์ได้ต่อสู้กับพวกเจ้า อัลลอฮ์จะช่วยเหลือพวกเจ้าให้ได้รับชัยชนะ แล้วพวกศัตรูก็ผินหลังหนีแพ้กลับไป โดยไม่มีผู้คุ้มครองให้ความช่วยเหลือ และแนวทางของพระองค์นี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นอันขาด ตราบใดที่บรรดาผู้ศรัทธามีความเชื่อมั่นต่อพระองค์

48:24

وَهُوَ ٱلَّذِى كَفَّ أَيْدِيَهُمْ عَنكُمْ وَأَيْدِيَكُمْ عَنْهُم بِبَطْنِ مَكَّةَ مِنۢ بَعْدِ أَنْ أَظْفَرَكُمْ عَلَيْهِمْ ۚ وَكَانَ ٱللَّهُ بِمَا تَعْمَلُونَ بَصِيرًا

Translation: และพระองค์คือผู้ทรงยับยั้งมือของพวกเขาจากพวกเจ้า และมือของพวกเจ้าจากพวกเขา (มิให้มีการสู้รบกัน) ที่หุบเขานครมักกฮ์ (ที่ฮุดัยบียะฮ์) หลังจากที่พระองค์ได้ทรงให้พวกเจ้ามีชัยชนะเหนือพวกเขา และอัลลอฮ์ทรงรู้เห็นในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำ(20)

Comment: (20)อันนี้นับได้ว่าเป็นมหากรุณาธิคุณจากอัลลอฮ์ ตะอาลา โดยมิให้ทั้งสองฝ่ายรบพุ่งกัน และทำให้มีการเจรจาประนีประนอมกัน ทั้งนี้นับได้ว่าเป็นผลดีแก่บรรดามุอ์มินทั้งในดุนยาและอาคิเราะฮ์ หลังจากได้ให้พวกเจ้าจับพวกกุเรช จำนวน 80 คน เป็นเชลยศึก แล้วให้นำมามอบให้แก่ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม แล้วท่านก็ได้อภัยและปล่อยตัวพวกเขาไป ดังนั้นจึงได้มีการเจรจาประนีประนอม

48:25

هُمُ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ وَصَدُّوكُمْ عَنِ ٱلْمَسْجِدِ ٱلْحَرَامِ وَٱلْهَدْىَ مَعْكُوفًا أَن يَبْلُغَ مَحِلَّهُۥ ۚ وَلَوْلَا رِجَالٌۭ مُّؤْمِنُونَ وَنِسَآءٌۭ مُّؤْمِنَـٰتٌۭ لَّمْ تَعْلَمُوهُمْ أَن تَطَـُٔوهُمْ فَتُصِيبَكُم مِّنْهُم مَّعَرَّةٌۢ بِغَيْرِ عِلْمٍۢ ۖ لِّيُدْخِلَ ٱللَّهُ فِى رَحْمَتِهِۦ مَن يَشَآءُ ۚ لَوْ تَزَيَّلُوا۟ لَعَذَّبْنَا ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ مِنْهُمْ عَذَابًا أَلِيمًا

Translation: พวกเขาคือบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาและปิดกั้นพวกเจ้าให้หันห่างจากมัสยิดอัลฮะรอม และการเชือดสัตว์พลีที่ถูกกักกันไว้มิให้บรรลุสู่ที่เชือดของมัน และหากมิใช่เพราะมีบรรดาผู้ศรัทธาชายและบรรดาผู้ศรัทธาหญิงซึ่งพวกเจ้าไม่รู้จักพวกเขา พวกเจ้าก็จะฆ่าพวกเขา แล้วก็จะก่อให้เกิดโทษแก่พวกเจ้าเพราะพวกเขาโดยไม่รู้ตัว ทั้งนี้เพื่ออัลลอฮ์จะทรงให้ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์เข้าอยู่ในความเมตตาของพระองค์ หากพวกเขาแยกออกจากกัน แน่นอนเราก็จะลงโทษบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาในหมู่พวกเขาซึ่งการลงโทษอันเจ็บปวด(21)

Comment: (21)พวกกุฟฟารกุเรชที่ปฏิเสธศรัทธาต่ออัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์ ปิดกั้นพวกเจ้ามิให้เข้าสู่มัสยิดอัลฮะรอมเพื่อทำอุมเราะฮ์ในปีฮุดัยบียะฮ์ และปิดกั้นมิให้เชือดสัตว์พลีที่อัลฮะรอม และในนครมักกะฮ์นั้นมีบรรดาผู้ศรัทธาทั้งชายและหญิงที่อ่อนแอ และปกปิดการอีมานของพวกเขาเพราะกลัวพวกมุชริกีน โดยที่พวกเจ้าไม่รู้จักพวกเขา แล้วพวกเจ้าก็ฆ่าพวกเขาโดยที่พวกเจ้าไม่รู้และจะเกิดโทษแก่พวกเจ้า การกระทำเช่นนี้ก็เพื่อให้บรรดามุอ์มินรอดพ้นจากพวกมุชริกีน และเพื่อให้ชาวมักกะฮ์เข้าสู่อิสลามอีกเป็นจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้พระองค์จึงยังไม่ทรงอนุญาตให้พวกเจ้าเข้าสู่นครมักกะฮ์เป็นการพิชิตในปีนั้น หากบรรดามุอ์มินแยกออกจากพวกกุฟฟารอย่างแจ้งชัดแล้ว พระองค์ก็ทรงอนุญาตแก่พวกเจ้าให้พิชิต และจะให้พวกกุฟฟารได้รับการลงโทษอย่างเจ็บปวดด้วยน้ำมือของพวกเจ้า

48:26

إِذْ جَعَلَ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ فِى قُلُوبِهِمُ ٱلْحَمِيَّةَ حَمِيَّةَ ٱلْجَـٰهِلِيَّةِ فَأَنزَلَ ٱللَّهُ سَكِينَتَهُۥ عَلَىٰ رَسُولِهِۦ وَعَلَى ٱلْمُؤْمِنِينَ وَأَلْزَمَهُمْ كَلِمَةَ ٱلتَّقْوَىٰ وَكَانُوٓا۟ أَحَقَّ بِهَا وَأَهْلَهَا ۚ وَكَانَ ٱللَّهُ بِكُلِّ شَىْءٍ عَلِيمًۭا

Translation: ขณะที่พวกปฏิเสธศรัทธาได้ทำให้ความหยิ่งยโสมีขึ้นในจิตใจของพวกเขา ซึ่งเป็นความหยิ่งยโสในสมัยแห่งความงมงาย อัลลอฮ์จึงประทานความเงียบสงบของพระองค์ให้แก่ร่อซูลของพระองค์และแก่บรรดาผู้ศรัทธา และทรงให้พวกเขาตั้งมั่นอยู่บนคำกล่าวแห่งความยำเกรง (คำกล่าวชะฮาดะฮ์) โดยที่พวกเขามีสิทธิ์ยิ่งต่อคำกล่าวนี้ และเหมาะสมคู่ควรยิ่งอีกด้วย และอัลลอฮ์นั้นทรงรอบรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง(22)

Comment: (22)ความหยิ่งยโสของพวกกุฟฟารเหล่านั้น เป็นความหยิ่งยโสที่มีมาแต่สมัยญาฮิลียะฮ์ เป็นเหตุให้พวกเขาไม่ยอมรับความจริงและไม่ยอมจำนนต่อเหตุผล จนกระทั่งไม่ยอมให้ท่านนบีและบรรดามุอ์มินเข้ามัสยิดอัลฮะรอมเพื่อทำอุมเราะฮ์ ด้วยเหตุนี้บรรดามุอ์มินจึงตกลงใจที่จะไม่ยอมรับการเจรจาประนีประนอม เพราะเป็นการเสียเปรียบให้พวกมุชริกีนอย่างมาก เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอัลลอฮ์ ตะอาลา จึงประทานความเงียบสงบให้แก่ท่านร่อซูลและบรรดาผู้ศรัทธา และให้พวกเขาตั้งมั่นอยู่ในคำกล่าวชะฮาดะฮ์ ซึ่งเป็นคำกล่าวแห่งการตักวา คือเป็นการป้องกันพวกเขาให้พ้นจากการทำซิริก และการลงโทษ โดยที่พวกเขาเป็นผู้ที่มีสิทธิ์ยิ่งและเหมาะสมยิ่งต่อคำกล่าวนี้

48:27

لَّقَدْ صَدَقَ ٱللَّهُ رَسُولَهُ ٱلرُّءْيَا بِٱلْحَقِّ ۖ لَتَدْخُلُنَّ ٱلْمَسْجِدَ ٱلْحَرَامَ إِن شَآءَ ٱللَّهُ ءَامِنِينَ مُحَلِّقِينَ رُءُوسَكُمْ وَمُقَصِّرِينَ لَا تَخَافُونَ ۖ فَعَلِمَ مَا لَمْ تَعْلَمُوا۟ فَجَعَلَ مِن دُونِ ذَٰلِكَ فَتْحًۭا قَرِيبًا

Translation: โดยแน่นอนอัลลอฮ์ได้ทรงทำให้ความฝันนั้นสมจริงแก่ร่อซูลของพระองค์ด้วยความจริง แน่นอน พวกเจ้าจะได้เข้าสู่มัสยิดอัลฮะรอมอย่างปลอดภัยหากอัลลอฮ์ทรงประสงค์ (อินชาอัลลอฮ์) โดย (บางคน) โกนผมของพวกเจ้าและ (อีกบางคน) ตัดผม พวกเจ้าอย่าได้หวาดกลัว เพราะอัลลอฮ์ทรงรอบรู้สิ่งที่พวกเจ้าไม่รู้ ดังนั้นพระองค์จึงได้ทรงกำหนดชัยชนะอื่นจากนั้น ซึ่งชัยชนะอันใกล้นี้(23)

Comment: (23)นักตีฟซีรอธิบายว่า ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ฝันว่าท่านและบรรดาสาวกของท่านได้เข้านครมักกะฮ์ และได้ทำอุมเราะฮ์ ต่อมาท่านร่อซูลได้เล่าความฝันให้บรรดาสาวกฟังทำให้พวกเขาดีอกอีใจ ครั้นเมื่อได้ออกเดินทางไปอัลฮุดัยบียะฮ์ และได้ถูกพวกมุชริกีนขัดขวางมิให้เข้าไปในนครมักกะฮ์ และได้เกิดเหตุการณ์การเจรจาประนีประนอมขึ้น พวกมุนาฟิกีนก็ได้กล่าวเยาะเย้ยถากถางจึงทำให้บรรดามุสลิมเกิดความน้อยใจ ดังนั้น อายะฮ์จึงถูกประทานลงมาเป็นการยืนยันว่า ความฝันของท่านนบีนั้นจะเกิดขึ้นจริงในปีต่อมา อัลลอฮ์ทรงรู้ดียิ่งว่าในการเจรจาประนีประนอมกันนี้มีเคล็ดลับความดีและผลประโยชน์แก่พวกเจ้าซึ่งพวกเจ้าไม่อาจจะรู้ได้ ดังนั้นก่อนหน้าจากการได้รับชัยชนะในการพิชิตเมืองมักกะฮ์ ก็มีชัยชนะนั่นก็คือการเจรจาประนีประนอม

48:28

هُوَ ٱلَّذِىٓ أَرْسَلَ رَسُولَهُۥ بِٱلْهُدَىٰ وَدِينِ ٱلْحَقِّ لِيُظْهِرَهُۥ عَلَى ٱلدِّينِ كُلِّهِۦ ۚ وَكَفَىٰ بِٱللَّهِ شَهِيدًۭا

Translation: พระองค์คือผู้ทรงส่งร่อซูลของพระองค์พร้อมด้วยแนวทางที่ถูกต้องและศาสนาแห่งสัจธรรมเพื่อพระองค์จะทรงให้ศาสนา (ของพระองค์) นั้นประจักษ์แจ้งเหนือศาสนาอื่นทั้งมวล และพอเพียงแล้วที่อัลลอฮ์ทรงเป็นพยาน(24)

Comment: (24)พระองค์ได้ส่งมุฮัมมัดมาเป็นร่อซูลเพื่อเผยแผ่แนวทางที่ถูกต้อง และศาสนาที่เที่ยงแท้ สัจธรรมคือศาสนาอิสลาม เพื่อให้เป็นที่ประจักษ์เด่นชัดเหนือศาสนาอื่น ๆ แม้กระทั่งบทบัญญัติต่าง ๆ ที่มาจากฟากฟ้า เช่น เตารอฮ์ และอินญีล และเป็นการพอเพียงแล้วที่อัลลอฮ์ทรงเป็นพยานให้ว่ามุฮัมมัดเป็นร่อซูลของพระองค์

48:29

مُّحَمَّدٌۭ رَّسُولُ ٱللَّهِ ۚ وَٱلَّذِينَ مَعَهُۥٓ أَشِدَّآءُ عَلَى ٱلْكُفَّارِ رُحَمَآءُ بَيْنَهُمْ ۖ تَرَىٰهُمْ رُكَّعًۭا سُجَّدًۭا يَبْتَغُونَ فَضْلًۭا مِّنَ ٱللَّهِ وَرِضْوَٰنًۭا ۖ سِيمَاهُمْ فِى وُجُوهِهِم مِّنْ أَثَرِ ٱلسُّجُودِ ۚ ذَٰلِكَ مَثَلُهُمْ فِى ٱلتَّوْرَىٰةِ ۚ وَمَثَلُهُمْ فِى ٱلْإِنجِيلِ كَزَرْعٍ أَخْرَجَ شَطْـَٔهُۥ فَـَٔازَرَهُۥ فَٱسْتَغْلَظَ فَٱسْتَوَىٰ عَلَىٰ سُوقِهِۦ يُعْجِبُ ٱلزُّرَّاعَ لِيَغِيظَ بِهِمُ ٱلْكُفَّارَ ۗ وَعَدَ ٱللَّهُ ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ وَعَمِلُوا۟ ٱلصَّـٰلِحَـٰتِ مِنْهُم مَّغْفِرَةًۭ وَأَجْرًا عَظِيمًۢا

Translation: มุฮัมมัดเป็นร่อซูลของอัลลอฮ์และบรรดาผู้ที่อยู่ร่วมกับเขา เป็นผู้เข้มแข็งกล้าหาญต่อพวกปฏิเสธศรัทธา เป็นผู้เมตตาสงสารระหว่างพวกเขาเอง เจ้าจะเห็นพวกเขาเป็นผู้รูกั๊วะ ผู้สุญูด โดยแสวงหาคุณความดีจากอัลลอฮ์และความโปรดปราน (ของพระองค์) เครื่องหมายของพวกเขาอยู่บนใบหน้าของพวกเขาเนื่องจากร่องรอยแห่งการสุญูด นั่นคืออุปมาของพวกเขาที่มีอยู่ในอัตเตารอต และอุปมาของพวกเขาที่มีอยู่ในอัลอินญีล ประหนึ่งเมล็ดพืชที่งอกหน่อหรือกิ่งก้านของมันออกมาแล้วทำให้มันงอกงาม แล้วมันก็เติบโตแข็งแรงและทรงตัวอยู่ได้บนลำต้นของมัน นำความปลื้มปิติมาให้แก่ผู้หว่าน เพื่อที่พระองค์จะก่อความโกรธแค้นแก่พวกปฏิเสธศรัทธา เพราะพวกเขา (มุสลิมีน) และอัลลอฮ์ทรงสัญญาบรรดาผู้ศรัทธาและกระทำความดีทั้งหลายในหมู่พวกเขาว่าจะได้รับการอภัยโทษและรางวัลอันใหญ่หลวง(25)

Comment: (25)มุฮัมมัด คือร่อซูลของอัลลอฮ์อย่างแท้จริง และบรรดาศ่อฮาบะฮ์ผู้ทรงคุณธรรมเป็นผู้แสดงออกซึ่งความเข้มแข็งและแข็งกร้าวต่อผู้ที่ขัดแย้งต่อศาสนาของพวกเขา และมีความเมตตาสงสารต่อผู้มีความคิดเห็นตรงกันในเรื่องศาสนา จะเห็นได้ว่าคนหนึ่งคนใดในหมู่พวกเขาไม่ชอบที่จะให้อวัยวะของเขา หรือเสื้อผ้าของเขาไปกระทบกับอวัยวะหรือเสื้อผ้าของคนกาฟิร แต่ถ้ากับพี่น้องมุสลิมด้วยกันเองแล้วเขาจะจับมือโอบกอดและแสดงออกซึ่งความรักใคร่ นอกจากนี้แล้วจะเห็นพวกเขาก้มลงรูกั๊วะและสุญูดในเวลาละหมาดของพวกเขา โดยหวังการตอบแทนด้วยสวนสวรรค์และความโปรดปรานจากอัลลอฮ์ เครื่องหมายแห่งการอีมานและความบริสุทธิ์ของพวกเขา ปรากฏอยู่บนใบหน้าของพวกเขาอันเนื่องมาจากร่องรอยแห่งการสุญูด เพราะในวันกิยามะฮ์นั้น พวกเขาก็จะถูกฟื้นคืนชีพมาโดยมีใบหน้าและเท้ามีแสงเป็นประกายอันเนื่องมาจากน้ำละหมาด คุณลักษณะดังกล่าวข้างต้นนั้นได้กล่าวไว้เป็นอุปมาในคัมภีร์อัตเตารอฮ์และคัมภีร์อัลอินญีล อัฏเฏ๊าะฮาก กล่าวว่า อุปมานี้เป็นที่ชัดแจ้งที่สุด เมล็ดพืชคือท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม หน่อหรือกิ่งก้านนี่คือบรรดาสาวก ในตอนแรกมีจำนวนน้อยอ่อนแอแล้วก็ได้เพิ่มขึ้นมากมายและแข็งแรง ทั้งนี้เพื่อที่จะก่อความโกรธแค้นให้แก่พวกกุฟฟาร อันเนื่องมาจากจำนวนและความเข้มแข็งของบรรดาสาวก อัลลอฮ์ทรงสัญญาแก่บรรดาผู้ศรัทธา และบรรดาผู้กระทำความดีว่าพวกเขาจะได้รับการอภัยโทษอย่างสมบูรณ์และรางวัลอันยิ่งใหญ่อีกทั้งริซกีอันหลากหลายในสวนสวรรค์