سورة محمد

Muhammad

Muhammad


medinan   .   38 Ayahs

بِسْمِ ٱللَّهِ ٱلرَّحْمَـٰنِ ٱلرَّحِيمِ


47:1

ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ وَصَدُّوا۟ عَن سَبِيلِ ٱللَّهِ أَضَلَّ أَعْمَـٰلَهُمْ

Translation: บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา และปิดกั้นให้ห่างจากทางของอัลลอฮ์พระองค์ได้ทรงทำให้การงานของพวกเขาไร้ผล(1)

Comment: (1)คือท่าทีของบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาต่อการให้ความเอกภาพต่ออัลลอฮ์ การพบพระองค์ สัญญาณต่างๆ ของพระองค์ ร่อซูลของพระองค์ และปิดกั้นบุคคลอื่น ๆ มิให้เข้าสู่อิสลาม การงานต่าง ๆ ที่ดีของพวกเขา เช่นการให้อาหารแก่คนยากจน และการต่อญาติจะไม่ปรากฏร่องรอยให้ปรากฏในวันกิยามะฮ์

47:2

وَٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ وَعَمِلُوا۟ ٱلصَّـٰلِحَـٰتِ وَءَامَنُوا۟ بِمَا نُزِّلَ عَلَىٰ مُحَمَّدٍۢ وَهُوَ ٱلْحَقُّ مِن رَّبِّهِمْ ۙ كَفَّرَ عَنْهُمْ سَيِّـَٔاتِهِمْ وَأَصْلَحَ بَالَهُمْ

Translation: ส่วนบรรดาผู้ศรัทธาและกระทำความดีทั้งหลาย และศรัทธาในสิ่งที่ถูกประทานแก่มุฮัมมัด และว่าอัลกุรอานเป็นสัจธรรมมาจากพระผู้อภิบาลของพวกเขา พระองค์จะทรงลบล้างความชั่วของพวกเขา ให้ออกไปจากพวกเขาและจะทรงปรับปรุงสภาพของพวกเขาให้ดีขึ้น(2)

Comment: (2)ส่วนบรรดาผู้ที่มีคุณลักษณะรวมไว้ซึ่งการศรัทธาอย่างแท้จริง และกระทำความดี และศรัทธาในสิ่งที่ถูกประทานมาให้แก่มุฮัมมัดคืออัลกุรอาน และว่าอัลกุรอานนั้นเป็นคำกล่าวและเป็นวะฮีย์มาจากอัลลอฮ์ พระองค์จะทรงลบล้างบาปกรรมต่าง ๆ ของพวกเขาในอดีตให้หมดสิ้นไป และจะปรับปรุงกิจการต่าง ๆ และสภาพการณ์ของพวกเขาให้ดีขึ้นทั้งโลกดุนยาและโลกอาคิเราะฮ์

47:3

ذَٰلِكَ بِأَنَّ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ ٱتَّبَعُوا۟ ٱلْبَـٰطِلَ وَأَنَّ ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ ٱتَّبَعُوا۟ ٱلْحَقَّ مِن رَّبِّهِمْ ۚ كَذَٰلِكَ يَضْرِبُ ٱللَّهُ لِلنَّاسِ أَمْثَـٰلَهُمْ

Translation: ทั้งนี้เพราะว่าบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาได้ปฏิบัติตามความเท็จ แต่ส่วนบรรดาผู้ศรัทธาได้ปฏิบัติตามสัจธรรมมาจากพระผู้อภิบาลของพวกเขา เช่นนี้แหละอัลลอฮ์ทรงยกอุทาหรณ์ทั้งหลายของพวกเขาแก่ปวงมนุษย์(3)

Comment: (3)บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาได้ปฏิบัติตามชัยฏอน และสิ่งที่มันล่อลวงเช่นการทำชิริก การทำความชั่วและก่อความเสียหาย ส่วนบรรดาผู้ศรัทธาได้ปฏิบัติตามอัลกุรอาน ซึ่งประมวลไว้ด้วยหลักการศรัทธาที่ถูกต้องและอิบาดะฮ์ที่ขัดเกลาจิตใจ ดังเช่นการชี้แจงอันชัดแจ้งดังกล่าวของบรรดาผู้ศรัทธา ก็เพื่อให้มนุษย์ยึดถือเป็นบทเรียนเพื่อใคร่ครวญ

47:4

فَإِذَا لَقِيتُمُ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ فَضَرْبَ ٱلرِّقَابِ حَتَّىٰٓ إِذَآ أَثْخَنتُمُوهُمْ فَشُدُّوا۟ ٱلْوَثَاقَ فَإِمَّا مَنًّۢا بَعْدُ وَإِمَّا فِدَآءً حَتَّىٰ تَضَعَ ٱلْحَرْبُ أَوْزَارَهَا ۚ ذَٰلِكَ وَلَوْ يَشَآءُ ٱللَّهُ لَٱنتَصَرَ مِنْهُمْ وَلَـٰكِن لِّيَبْلُوَا۟ بَعْضَكُم بِبَعْضٍۢ ۗ وَٱلَّذِينَ قُتِلُوا۟ فِى سَبِيلِ ٱللَّهِ فَلَن يُضِلَّ أَعْمَـٰلَهُمْ

Translation: และเมื่อพวกเจ้าพบบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาก็จงฟันที่คอ (จงฆ่าเสีย) จนกระทั่งเมื่อพวกเจ้าปราบพวกเขาจนแพ้แล้ว ก็จงจับพวกเขาเป็นเชลยหลังจากนั้นจะปล่อยเป็นไทหรือจะเรียกเอาค่าไถ่ก็ได้ จนกระทั่งการทำสงครามได้สิ้นสุดลงด้วยการวางอาวุธ(4) เช่นนั้นแหละ และหากอัลลอฮ์ทรงประสงค์แน่นอน พระองค์จะทรงตอบแทนการลงโทษพวกเขา(5) แต่ทั้งนี้เพื่อพระองค์จะทรงทดสอบบางคนในหมู่พวกเจ้ากับอีกบางคน ส่วนบรรดาผู้ที่ถูกฆ่าตายในทางของอัลลอฮ์พระองค์จะไม่ทรงทำให้การงานของพวกเขาไร้ผลเป็นอันขาด(6)

Comment: (4)คือเมื่อพวกเจ้าประจันบานกับพวกปฏิเสธศรัทธาในสนามรบก็จงฆ่าพวกเขาเสีย และเมื่อพวกเจ้าได้ฆ่าพวกเขาเป็นจำนวนมากแล้ว จนกระทั่งพวกเขาอ่อนกำลังลงเพราะถูกฆ่า และได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมากแล้ว ก็จงจับพวกเขาเป็นเชลย หลังจากนั้นพวกเจ้าจะเลือกเอาโดยปล่อยพวกเขาเป็นไท โดยไม่คิดค่าตอบแทนหรือจะเรียกเอาค่าไถ่ก็ได้ จนกระทั่งการทำสงครามได้สิ้นสุดลงด้วยการวางอาวุธ

Comment: (5)โดยพวกเจ้าไม่ต้องลงมือฆ่า เช่นถูกแผ่นดินสูบหรือเกิดโรคตายระหว่างพวกเขา

Comment: (6)แต่ทรงใช้ให้มีการฆ่าเพื่อฮิกมะฮ์ คือ มีการทดสอบ คนมุอ์มินถูกฆ่าตายก็ได้เข้าสวรรค์ ส่วนกุฟฟารถูกฆ่าตายก็เข้า นรก

47:5

سَيَهْدِيهِمْ وَيُصْلِحُ بَالَهُمْ

Translation: พระองค์จะทรงชี้แนะทางแก่พวกเขาและจะทรงปรับปรุงสภาพของพวกเขาให้ดีขึ้น

47:6

وَيُدْخِلُهُمُ ٱلْجَنَّةَ عَرَّفَهَا لَهُمْ

Translation: และจะทรงให้พวกเขาเขาสวนสวรรค์ ซึ่งพระองค์ทรงแจ้งให้พวกเขารู้แล้ว(7)

Comment: (7)คือจะให้พวกเขาประสบความสำเร็จด้วยการได้รับความดีมีความสุขและมีสภาพดีขึ้น และจะให้พวกเขาเข้าสู่สวนสวรรค์ในวันกิยามะฮ์ตามที่พระองค์ทรงแจ้งให้พวกเขารู้ในคัมภีร์ของพระองค์และโดยหนทาง ร่อซูลของพระองค์

47:7

يَـٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوٓا۟ إِن تَنصُرُوا۟ ٱللَّهَ يَنصُرْكُمْ وَيُثَبِّتْ أَقْدَامَكُمْ

Translation: โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย หากพวกเจ้าสนับสนุน (ศาสนาของ) อัลลอฮ์พระองค์ก็จะทรงสนับสนุนพวกเจ้าและจะทรงตรึงเท้าของพวกเจ้าให้มั่นคง(8)

Comment: (8)คือสนับสนุนศาสนาของพระองค์ ร่อซูลของพระองค์ และบรรดามุอ์มินแล้ว พระองค์ก็จะทรงช่วยเหลือพวกเจ้าให้มีชัยชนะเหนือศัตรูและจะให้พวกเจ้ามีความหนักแน่นอดทนในสนามรบ

47:8

وَٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ فَتَعْسًۭا لَّهُمْ وَأَضَلَّ أَعْمَـٰلَهُمْ

Translation: ส่วนบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธานั้น ความหายนะจะได้แก่พวกเขาและพระองค์ได้ทรงทำให้การงานของพวกเขาไร้ผล(9)

Comment: (9)สำหรับผู้ปฏิเสธศรัทธา จะประสบแต่ความพินาศ และการขาดทุนพวกเขาจะไม่ได้รับประโยชน์อันใดจากการตอบแทน ดังนั้นการงานของพวกเขาจึงขาดทุนทั้งในโลกนี้ และโลกหน้า

47:9

ذَٰلِكَ بِأَنَّهُمْ كَرِهُوا۟ مَآ أَنزَلَ ٱللَّهُ فَأَحْبَطَ أَعْمَـٰلَهُمْ

Translation: ทั้งนี้เพราะว่า พวกเขาเกลียดชังสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงประทานลงมา พระองค์จึงทรงทำให้การงานของพวกเขาไร้ผล(10)

Comment: (10)เพราะพวกเขาเกลียดชังอัลกุรอานที่ประมวลไว้ด้วยการฮิดายะฮ์ต่าง ๆ และการแก้ไขปรับปรุงมากมาย การงานของพวกเขาจึงไร้ผลและขาดทุน

47:10

۞ أَفَلَمْ يَسِيرُوا۟ فِى ٱلْأَرْضِ فَيَنظُرُوا۟ كَيْفَ كَانَ عَـٰقِبَةُ ٱلَّذِينَ مِن قَبْلِهِمْ ۚ دَمَّرَ ٱللَّهُ عَلَيْهِمْ ۖ وَلِلْكَـٰفِرِينَ أَمْثَـٰلُهَا

Translation: พวกเขามิได้ท่องเที่ยวไปตามแผ่นดินดอกหรือ แล้วพิจารณาดูว่า บั้นปลายของประชาชาติในยุคก่อนหน้าพวกเขานั้นเป็นเช่นใด? อัลลอฮ์ได้ทรงทำลายล้างพวกเขา และสำหรับพวกปฏิเสธศรัทธาก็เป็นเช่นเดียวกัน(11)

Comment: (11)พวกมุชริกีนเหล่านั้นมิได้ท่องเที่ยวไปตามหัวเมืองต่าง ๆ เพื่อพิจารณาดูบั้นปลายของประชาชาติต่าง ๆ ในสมัยก่อน ๆ เช่น พวกอ๊าด และพวกซูมู๊ด อัลลอฮ์ ได้ทรงทำลายล้างบ้านเรือนของพวกเขา ผู้คนและทรัพย์สินของพวกเขาเหล่านั้นถูกทำลายอย่างราบเรียบ เพราะความดื้อรั้นไม่ยอมศรัทธา ดังนั้น พวกมุชริกีนผู้ปฏิเสธศรัทธาก็จะมีสภาพเช่นเดียวกัน

47:11

ذَٰلِكَ بِأَنَّ ٱللَّهَ مَوْلَى ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ وَأَنَّ ٱلْكَـٰفِرِينَ لَا مَوْلَىٰ لَهُمْ

Translation: ทั้งนี้เพราะว่าอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงคุ้มครองบรรดาผู้ศรัทธา และแน่นอนพวกปฏิเสธศรัทธาไม่มีผู้คุ้มครองสำหรับพวกเขา(12)

Comment: (12)สำหรับผู้ศรัทธาทั้งหลาย อัลลอฮ์ทรงคุ้มครองและช่วยเหลือพวกเขา ส่วนผู้ปฏิเสธศรัทธาทั้งหลาย พวกเขาไม่มีผู้คุ้มครองและช่วยเหลือพวกเขา

47:12

إِنَّ ٱللَّهَ يُدْخِلُ ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ وَعَمِلُوا۟ ٱلصَّـٰلِحَـٰتِ جَنَّـٰتٍۢ تَجْرِى مِن تَحْتِهَا ٱلْأَنْهَـٰرُ ۖ وَٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ يَتَمَتَّعُونَ وَيَأْكُلُونَ كَمَا تَأْكُلُ ٱلْأَنْعَـٰمُ وَٱلنَّارُ مَثْوًۭى لَّهُمْ

Translation: แท้จริงอัลลอฮ์จะทรงให้บรรดาผู้ศรัทธาและกระทำความดีทั้งหลายเข้าสู่สวนสวรรค์หลากหลาย ณ เบื้องล่างสวนสวรรค์มีลำน้ำหลายสายไหลผ่าน ส่วนบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธานั้นพวกเขาจะหลงระเริงและกินเยี่ยงปศุสัตว์กัน และไฟนรกคือที่พำนักของพวกเขา(13)

Comment: (13)นี่คือสัญญาของ อัลลอฮ์ ตะอาลา แก่บรรดาผู้ศรัทธาและปฏิบัติความดีว่า ในวันกิยามะฮ์พระองค์จะให้พวกเขาได้เข้าสู่สวนสวรรค์ที่มีลำน้ำไหลผ่าน ณ เบื้องล่าง ส่วนบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธานั้นในโลกดุนยามีความห่วงใยอยู่กับเรื่องปากท้องและความใคร่ พวกเขาไม่สนใจในเรื่องของโลกอาคิเราะฮ์ ดังนั้นที่พำนักของพวกเขาคือไฟนรก และนี่คือสัญญาร้ายแก่พวกเขา

47:13

وَكَأَيِّن مِّن قَرْيَةٍ هِىَ أَشَدُّ قُوَّةًۭ مِّن قَرْيَتِكَ ٱلَّتِىٓ أَخْرَجَتْكَ أَهْلَكْنَـٰهُمْ فَلَا نَاصِرَ لَهُمْ

Translation: และกี่เมืองมาแล้ว ที่มันมีพลังเข้มแข็งกว่าเมืองของเจ้า ซึ่งมันขับไสเจ้า (มุฮัมมัด)ออกไป เราได้ทำลายล้างพวกเขา ดังนั้น สำหรับพวกเขาจึงไม่มีผู้ช่วยเหลือ(14)

Comment: (14)อายะฮ์นี้ถูกประทานลงมาขณะที่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ออกจากบ้านไปยังถ้ำซูร เพื่อจะอพยพไปยังนครอัลมะดีนะฮ์ ท่านได้เหลียวหลังไปยังนครมักกะฮ์ด้วยความอาลัยอาวรณ์พลางกล่าวว่า เจ้าเป็นเมืองที่รักยิ่งของอัลลอฮ์ และเป็นเมืองของอัลลอฮ์ที่รักยิ่งของข้า ถ้าหากพวกมุชริกีนไม่ขับไล่ให้ข้าออก ข้าก็ไม่ออกไปจากเจ้าดอก ความหมายของอายะฮ์ก็คือ มีเมืองต่าง ๆ มากมายที่ชาวเมืองแข็งแรงยิ่งกว่าชาวเมืองของเจ้าคือมักกะฮ์ที่พวกเขาไล่เจ้าให้ออกไปและพยายามที่จะสังหารเจ้า เราได้ทำลายล้างชาวเมืองเหล่านั้นและก็ไม่มีผู้ใดจะคุ้มครองช่วยเหลือพวกเขาให้พ้นจากการลงโทษของเราได้ อายะฮ์นี้เป็นการปลอบโยนท่านนะบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

47:14

أَفَمَن كَانَ عَلَىٰ بَيِّنَةٍۢ مِّن رَّبِّهِۦ كَمَن زُيِّنَ لَهُۥ سُوٓءُ عَمَلِهِۦ وَٱتَّبَعُوٓا۟ أَهْوَآءَهُم

Translation: ดังนั้นผู้ที่อยู่บนหลักฐานอันชัดแจ้งจากพระผู้อภิบาลของเขาจะเหมือนกับผู้ที่ความชั่วแห่งการงานของเขาได้ถูกทำให้เพริศแพร้วแก่เขา และพวกเขาก็ปฏิบัติตามอารมณ์ใฝ่ต่ำของพวกเขากระนั้นหรือ?(15)

Comment: (15)คำตอบก็คือย่อมไม่เหมือนกัน และไม่เท่าเทียมกัน

47:15

مَّثَلُ ٱلْجَنَّةِ ٱلَّتِى وُعِدَ ٱلْمُتَّقُونَ ۖ فِيهَآ أَنْهَـٰرٌۭ مِّن مَّآءٍ غَيْرِ ءَاسِنٍۢ وَأَنْهَـٰرٌۭ مِّن لَّبَنٍۢ لَّمْ يَتَغَيَّرْ طَعْمُهُۥ وَأَنْهَـٰرٌۭ مِّنْ خَمْرٍۢ لَّذَّةٍۢ لِّلشَّـٰرِبِينَ وَأَنْهَـٰرٌۭ مِّنْ عَسَلٍۢ مُّصَفًّۭى ۖ وَلَهُمْ فِيهَا مِن كُلِّ ٱلثَّمَرَٰتِ وَمَغْفِرَةٌۭ مِّن رَّبِّهِمْ ۖ كَمَنْ هُوَ خَـٰلِدٌۭ فِى ٱلنَّارِ وَسُقُوا۟ مَآءً حَمِيمًۭا فَقَطَّعَ أَمْعَآءَهُمْ

Translation: อุปมาของสวนสวรรค์ซึ่งบรรดาผู้ยำเกรงได้ถูกสัญญาไว้ในสวนสวรรค์นั้น มีธารน้ำหลายสายที่ไม่ผันแปร (ทั้งรสและกลิ่น) และธารน้ำนมหลายสาย ที่รสชาติของมันไม่เปลี่ยนแปลง และธารน้ำจัณฑ์ (เหล้า) หลายสายเป็นโอชะอร่อยแก่ผู้ดื่ม และธารน้ำผึ้งที่สะอาดบริสุทธิ์หลายสาย และสำหรับพวกเขาในสวนสวรรค์นั้นมีผลไม้หลายชนิด และการอภัยโทษจากพระผู้อภิบาลของพวกเขาจะเหมือนกับผู้ที่พำนักอยู่ในไฟนรก และถูกให้ดื่มน้ำร้อนจัดแล้วมันตัดลำไส้ของพวกเขากระนั้นหรือ?(16)

Comment: (16)ลักษณะของสวนสวรรค์ที่มีธารน้ำต่าง ๆ เช่นธารน้ำจืด ธารน้ำนม ธารน้ำจัณฑ์ (เหล้า) และธารน้ำผึ้ง ซึ่งจะมีรสชาติโอชะอร่อยตามชนิดของมัน ทั้งรสและกลิ่นจะไม่เปลี่ยนแปลงหรือผันแปรอันเนื่องมาจากกาลเวลา และมีผลไม้นานาชนิด ทั้งนี้ตามคำมั่นสัญญาที่ อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงเตรียมไว้สำหรับปวงบ่าวผู้ยำเกรงต่อพระองค์ และพวกเขาเป็นปวงบ่าวผู้ใกล้ชิดที่เคารพภักดี ให้ความเป็นเอกภาพต่อพระองค์ และเชื่อฟังปฏิบัติตามพระองค์ในข้อใช้และข้อห้าม บรรดาผู้ที่อยู่ในสวนสวรรค์อันบรมสุข ย่อมจะไม่เท่าเทียมกับผู้ที่จมอยู่ในนรกตลอดกาล

47:16

وَمِنْهُم مَّن يَسْتَمِعُ إِلَيْكَ حَتَّىٰٓ إِذَا خَرَجُوا۟ مِنْ عِندِكَ قَالُوا۟ لِلَّذِينَ أُوتُوا۟ ٱلْعِلْمَ مَاذَا قَالَ ءَانِفًا ۚ أُو۟لَـٰٓئِكَ ٱلَّذِينَ طَبَعَ ٱللَّهُ عَلَىٰ قُلُوبِهِمْ وَٱتَّبَعُوٓا۟ أَهْوَآءَهُمْ

Translation: ในหมู่พวกเขามีผู้เงี่ยหูฟังเจ้าจนกระทั่งเมื่อพวกเขาออกไปจากเจ้า พวกเขาก็จะพูดแก่ผู้มีความรู้ว่า เมื่อกี้นี้เขา (มุฮัมมัด) พูดอะไรกัน ชนเหล่านี้แหละคือบรรดาผู้ที่อัลลอฮ์ทรงประทับตราบนหัวใจของพวกเขา(17) และพวกเขาปฏิบัติตามอารมณ์ใฝ่ต่ำของพวกเขา

Comment: (17)ในหมู่พวกมุนาฟิกีนมีผู้ฟังการแสดงคุตบะฮ์ของเจ้า เมื่อพวกเขาออกมาจากมัสยิดพวกเขาได้ถามอับดุลลอฮ์ อิบนิมัสอูด ว่า เมื่อกี้นี้มุฮัมมัดพูดอะไร? พวกเขาหมายถึงว่าสิ่งที่ท่านร่อซูล ศ็อลฯ พูดนั้นไม่มีประโยชน์แต่อย่างใด พวกเหล่านี้อัลลอฮ์ทรงประทับตาการเป็นกุฟร์และการนิฟากบนหัวใจของพวกเขา สาเหตุเพราะพวกเขาไม่ปฏิบัติตามแนวทางที่ถูกต้องและยึดถืออารมณ์ใฝ่ต่ำเป็นที่ตั้ง

47:17

وَٱلَّذِينَ ٱهْتَدَوْا۟ زَادَهُمْ هُدًۭى وَءَاتَىٰهُمْ تَقْوَىٰهُمْ

Translation: ส่วนผู้ที่ปฏิบัติตามแนวทางที่ถูกต้อง พระองค์ทรงเพิ่มแนวทางที่ถูกต้องให้แก่พวกเขา และจะทรงประทานให้แก่พวกเขาซึ่งการยำเกรงของพวกเขา(18)

Comment: (18)ส่วนบรรดามุอ์มินผู้ศรัทธาและปฏิบัติความดี อัลลอฮ์ก็จะเพิ่มการฮิดายะฮ์ให้แก่พวกเขา และทรงดลใจให้แก่พวกเขาถึงสิ่งที่พวกเขายำเกรง คือพวกเขากลัวต่อความกริ้วของอัลลอฮ์เช่นการชิริกและการฝ่าฝืน

47:18

فَهَلْ يَنظُرُونَ إِلَّا ٱلسَّاعَةَ أَن تَأْتِيَهُم بَغْتَةًۭ ۖ فَقَدْ جَآءَ أَشْرَاطُهَا ۚ فَأَنَّىٰ لَهُمْ إِذَا جَآءَتْهُمْ ذِكْرَىٰهُمْ

Translation: ดังนั้น พวกเขามิได้คอยสิ่งใดนอกจากยามอวสานซึ่งมันจะมาหาพวกเขาอย่างกระทันหัน แต่ว่าเครื่องหมายต่าง ๆ ของมันได้มีมาแล้ว ดังนั้น เมื่อการตักเตือนของพวกเขาได้มายังพวกเขาแล้วจะเกิดประโยชน์อันใดเล่าแก่พวกเขา?(19)

Comment: (19)บรรดาหัวหน้ากุฟฟารกุเรชในมักกะฮ์มิได้คอยสิ่งใดนอกจากยามอวสานคือวันกิยามะฮ์ที่จะมายังพวกเขาอย่างกะทันหัน เครื่องหมายต่าง ๆ แห่งวันกิยามะฮ์ ได้มีมาแล้ว เช่น การเป็นร่อซูลของมุฮัมมัด ศ็อลฯ ควันไฟ และการแยกของดวงจันทร์ ดังนั้นการขอลุแก่โทษจะไม่เกิดประโยชน์อันใดแก่พวกเขา ในเมื่อการตักเตือนและเครื่องหมายต่าง ๆ ได้มายังพวกเขาแล้ว

47:19

فَٱعْلَمْ أَنَّهُۥ لَآ إِلَـٰهَ إِلَّا ٱللَّهُ وَٱسْتَغْفِرْ لِذَنۢبِكَ وَلِلْمُؤْمِنِينَ وَٱلْمُؤْمِنَـٰتِ ۗ وَٱللَّهُ يَعْلَمُ مُتَقَلَّبَكُمْ وَمَثْوَىٰكُمْ

Translation: ฉะนั้นพึงรู้เถิดว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์และจงขออภัยโทษต่อความผิดเพื่อตัวเจ้าและเพื่อบรรดาผู้ศรัทธาชาย และเพื่อบรรดาผู้ศรัทธาหญิง และอัลลอฮ์ทรงรู้ดียิ่งถึงพฤติการณ์ของพวกเจ้าและที่พำนักของพวกเจ้า(20)

Comment: (20)ด้วยเหตุดังกล่าวพึงรู้เถิดว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์ และจงขออภัยโทษต่อความผิดของพวกเจ้าที่เป็นมุอ์มินชาย และมุอ์มินหญิง เพราะอัลลอฮ์ทรงรู้ดีถึงพฤติกรรมต่าง ๆ ของพวกเจ้าทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน

47:20

وَيَقُولُ ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ لَوْلَا نُزِّلَتْ سُورَةٌۭ ۖ فَإِذَآ أُنزِلَتْ سُورَةٌۭ مُّحْكَمَةٌۭ وَذُكِرَ فِيهَا ٱلْقِتَالُ ۙ رَأَيْتَ ٱلَّذِينَ فِى قُلُوبِهِم مَّرَضٌۭ يَنظُرُونَ إِلَيْكَ نَظَرَ ٱلْمَغْشِىِّ عَلَيْهِ مِنَ ٱلْمَوْتِ ۖ فَأَوْلَىٰ لَهُمْ

Translation: และบรรดาผู้ศรัทธากล่าวว่า ทำไม่สักซูเราะฮฺหนึ่งจึงไม่ถูกประทานลงมา? ครั้นเมื่อซูเราะฮฺหนึ่งที่รัดกุมชัดเจนถูกประทานลงมา และได้มีการทำสงครามถูกรวมไว้ในนั้น เจ้าจะเห็นบรรดาผู้ที่ในหัวใจของพวกเขามีโรคจะจ้องมองไปยังเจ้าเสมือนการมองของผู้เป็นลมใกล้จะตาย ดังนั้นความหายนะจงประสบแก่พวกเขาเถิด(12)

Comment: (21)บรรดาผู้ศรัทธาสาวกของท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวด้วยความหวังอยากให้ซูเราะฮ์หนึ่งถูกประทานลงมาใช้ให้ทำญิฮาด ครั้นเมื่อซูเราะฮ์เกี่ยวกับการทำญิฮาดถูกประทานลงมา มุฮัมมัดเจ้าจะเห็นบรรดาผู้ที่ในหัวใจของพวกเขาเป็นโรค คือโรคสงสัยและนิฟากจะจ้องมองไปยังเจ้าเหมือนกับการมองของผู้เป็นลมใกล้จะตาย เป็นการสมควรแล้ว ขอให้พวกเขาจงประสบกับความวิบัติเถิด

47:21

طَاعَةٌۭ وَقَوْلٌۭ مَّعْرُوفٌۭ ۚ فَإِذَا عَزَمَ ٱلْأَمْرُ فَلَوْ صَدَقُوا۟ ٱللَّهَ لَكَانَ خَيْرًۭا لَّهُمْ

Translation: การเชื่อฟังและปฏิบัติตามคำพูดที่ดีไพเราะ(นั้นเป็นการที่ดียิ่ง) ดังนั้นเมื่อกิจการใดถูกกำหนดไว้แล้ว หากว่าพวกเขาจริงใจต่ออัลลอฮ์แล้ว ก็จะเป็นการดีแก่เขา(22)

Comment: (22)การเชื่อฟังปฏิบัติตามเจ้าและคำพูดที่ดียิ่งนั้นเป็นการดียิ่งแก่พวกเขา หรือจะกล่าวว่า เป็นการเหมาะสมยิ่งแก่พวกเขา คือการเชื่อฟังปฏิบัติตามร่อซูลลุลลอฮ์และคำพูดที่ดีเป็นการดีแก่ร่อซูลลุลลอฮ์ ดังนั้นเมื่อการญิฮาดได้ถูกกำหนดไว้แล้ว และหากว่าพวกเขาจริงใจต่ออัลลอฮ์ที่ได้สัญญาไว้กับพระองค์ว่าพวกเขาจะร่วมรบกับท่านร่อซูลลอฮ์ ก็จะเป็นการดีแก่พวกเขาทั้งในดุนยาและอาคิเราะฮ์

47:22

فَهَلْ عَسَيْتُمْ إِن تَوَلَّيْتُمْ أَن تُفْسِدُوا۟ فِى ٱلْأَرْضِ وَتُقَطِّعُوٓا۟ أَرْحَامَكُمْ

Translation: ดังนั้น หวังกันว่า หากพวกเจ้าผินหลังให้(กับการอีมานแล้ว)พวกเจ้าก็จะก่อความเสียหายในแผ่นดินและตัดความสัมพันธ์ทางเครือญาติของพวกเจ้ากระนั้นหรือ?

47:23

أُو۟لَـٰٓئِكَ ٱلَّذِينَ لَعَنَهُمُ ٱللَّهُ فَأَصَمَّهُمْ وَأَعْمَىٰٓ أَبْصَـٰرَهُمْ

Translation: ชนเหล่านี้คือบรรดาผู้ที่อัลลอฮ์ทรงสาปแช่งพวกเขา ดังนั้นพระองค์จึงทรงทำให้พวกเขาหูหนวก และทรงทำให้พวกเขาตาบอด(23)

Comment: (23)คือหวังว่าหากพวกเจ้าผินหลังให้กับการศรัทธาและกลับไปสู่สภาพเดิม คือการเป็นกุฟร์และการทำชิริก หรืออีกความหมายหนึ่ง หากพวกเจ้ามีอำนาจในการปกครอง พวกเจ้าก็จะก่อให้เกิดความเสียหายขึ้นในแผ่นดินและตัดญาติขาดมิตรกระนั้นหรือ? ชนเหล่านี้คือบรรดาผู้ที่อัลลอฮ์ทรงขับไล่ออกจากความเมตตาของพระองค์ พวกเขาจึงหูหนวกไม่ได้ยินความจริง และตาบอดมองไม่เห็นสิ่งที่ถูกต้องและแนวทางที่เที่ยงธรรม

47:24

أَفَلَا يَتَدَبَّرُونَ ٱلْقُرْءَانَ أَمْ عَلَىٰ قُلُوبٍ أَقْفَالُهَآ

Translation: พวกเขามิได้พิจารณาใคร่ครวญอัลกุรอานดอกหรือ? แต่ว่าบนหัวใจของพวกเขามีกุญแจหลายดอกลั่นอยู่(24)

Comment: (24)คือพวกเขามิได้ใคร่ครวญอัลกุรอานเพื่อที่จะได้รู้จักข้อเท็จจริงจากความเท็จ เปล่าเลย แต่ว่าหัวใจของพวกเขาแข็งกระด้าง และมืดมนเสมือนกับถูกล่ามไว้ด้วยกุญแจหลายดอก

47:25

إِنَّ ٱلَّذِينَ ٱرْتَدُّوا۟ عَلَىٰٓ أَدْبَـٰرِهِم مِّنۢ بَعْدِ مَا تَبَيَّنَ لَهُمُ ٱلْهُدَى ۙ ٱلشَّيْطَـٰنُ سَوَّلَ لَهُمْ وَأَمْلَىٰ لَهُمْ

Translation: แท้จริงบรรดาผู้ผินหลังกลับของพวกเขาหลังจากที่แนวทางที่ถูกต้องเป็นที่ประจักษ์แก่พวกเขาแล้ว ชัยฏอนมารร้ายได้ล่อลวง พวกเขาได้ให้ความหวังแก่พวกเขา (ว่าจะมีชีวิตยืนนาน)(25)

Comment: (25)แท้จริงบรรดาผู้ที่กลับไปสู่การกุฟร์ด้วยการนิฟาก หลังจากที่ความสัจจะของท่านร่อซูลเป็นที่ประจักษ์แก่พวกเขาแล้ว และความถูกต้องของศาสนาของท่านด้วยข้อพิสูจน์และหลักฐานต่าง ๆ ชนเหล่านั้นชัยฏอนได้เข้าไปครอบงำจิตใจของพวกให้มีความหวังต่าง ๆ นานา

47:26

ذَٰلِكَ بِأَنَّهُمْ قَالُوا۟ لِلَّذِينَ كَرِهُوا۟ مَا نَزَّلَ ٱللَّهُ سَنُطِيعُكُمْ فِى بَعْضِ ٱلْأَمْرِ ۖ وَٱللَّهُ يَعْلَمُ إِسْرَارَهُمْ

Translation: ทั้งนี้เพราะว่าพวกเขาได้กล่าวแก่บรรดาผู้เกลียดชังสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงประทานลงมาว่าเราจะเชื่อฟังปฏิบัติตามในกิจการบางอย่าง แต่อัลลอฮ์ทรงทราบดีถึงความลับของพวกเขา(26)

Comment: (26)ทั้งนี้เพราะพวกมุชริกีนได้กล่าวแก่บรรดาผู้เกลียดชังถึงสิ่งที่อัลลอฮ์ประทานลงมาคืออัลกุรอานว่า เราจะร่วมมือกับพวกท่านในการเป็นศัตรูต่อร่อซูล และด้วยการขัดขวางบรรดามุอ์มินมิให้เข้าทำการญิฮาด แล้วอัลลอฮ์จะทรงเปิดเผยความลับของพวกเขา

47:27

فَكَيْفَ إِذَا تَوَفَّتْهُمُ ٱلْمَلَـٰٓئِكَةُ يَضْرِبُونَ وُجُوهَهُمْ وَأَدْبَـٰرَهُمْ

Translation: แล้ว(สภาพของพวกเขา) จะเป็นเช่นไร เมื่อมลาอิกะฮ์มาเอาชีวิตของพวกเขาโดยตีใบหน้าของพวกเขาและหลังของพวกเขา(27)

Comment: (27)สภาพของพวกเขาจะเป็นอย่างไร ขณะที่มลาอิกะฮ์แห่งการลงโทษมาเอาชีวิตของพวกเขาโดยมีฆ้อนเหล็กมาเพื่อตีใบหน้าและหลังของพวกเขา

47:28

ذَٰلِكَ بِأَنَّهُمُ ٱتَّبَعُوا۟ مَآ أَسْخَطَ ٱللَّهَ وَكَرِهُوا۟ رِضْوَٰنَهُۥ فَأَحْبَطَ أَعْمَـٰلَهُمْ

Translation: ทั้งนี้เพราะว่าพวกเขาได้ปฏิบัติตามสิ่งที่จะก่อความกริ้วแด่อัลลอฮ์และพวกเขารังเกียจความโปรดปรานของพระองค์ ดังนั้นพระองค์จึงทรงทำให้การงานของพวกเขาไร้ผล(28)

Comment: (28)ทั้งนี้ก็เพราะว่าพวกเขาได้ปฏิบัติตามสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงกริ้วคือการชิริกและการฝ่าฝืน และสิ่งที่อัลลอฮ์พอพระทัย คือ การเตาฮีด และการงานที่ดี ดังนั้นสิ่งที่พวกเขากระทำไปก็จะเป็นการไร้ผล ไม่ได้ผลบุญเป็นการตอบแทน

47:29

أَمْ حَسِبَ ٱلَّذِينَ فِى قُلُوبِهِم مَّرَضٌ أَن لَّن يُخْرِجَ ٱللَّهُ أَضْغَـٰنَهُمْ

Translation: บรรดาผู้ที่หัวใจของพวกเขามีโรค คิดหรือว่าอัลลอฮ์จะไม่ทรงนำเอาความอิจฉาริษยาของพวกเขาออกมาให้เป็นที่ประจักษ์

47:30

وَلَوْ نَشَآءُ لَأَرَيْنَـٰكَهُمْ فَلَعَرَفْتَهُم بِسِيمَـٰهُمْ ۚ وَلَتَعْرِفَنَّهُمْ فِى لَحْنِ ٱلْقَوْلِ ۚ وَٱللَّهُ يَعْلَمُ أَعْمَـٰلَكُمْ

Translation: และหากเราประสงค์ แน่นอน เราจะเปิดเผยพวกเขาแก่เจ้า แล้วเจ้าก็จะรู้จักพวกเขาอย่างแน่นอนที่เครื่องหมายของพวกเขา และแน่นอนเจ้าจะรู้จักพวกเขาได้ในน้ำเสียงแห่งการพูด และอัลลอฮ์ทรงรู้ดีถึงการงานของพวกเจ้า(29)

Comment: (29)พวกมุนาฟิกีนคิดว่าอัลลอฮ์จะไม่เปิดเผยความลับที่มีอยู่ในจิตใจของพวกเขา แต่พวกเขาต้องผิดหวังเพราะอัลลอฮ์กล่าวว่า หากเราประสงค์เราจะเปิดเผยให้เจ้ารู้ถึงบุคลิกของพวกเขาด้วยเครื่องหมายอย่างชัดแจ้ง และเจ้าจะรู้จักพวกมุนาฟิกีนจากสำนวนและสำเนียงการพูดของพวกเขา คือภายนอกมีการศรัทธา ภายในมีการปฏิเสธศรัทธาและนิฟาก

47:31

وَلَنَبْلُوَنَّكُمْ حَتَّىٰ نَعْلَمَ ٱلْمُجَـٰهِدِينَ مِنكُمْ وَٱلصَّـٰبِرِينَ وَنَبْلُوَا۟ أَخْبَارَكُمْ

Translation: และแน่นอนเราจะทดสอบพวกเจ้าจนกระทั่งเราจะได้รู้ถึงบรรดาผู้ต่อสู้ดิ้นรน และบรรดาผู้หนักแน่นอดทนในหมู่พวกเจ้า และเราจะทดสอบการงานของพวกเจ้า(30)

Comment: (30)เราจะทดสอบพวกเจ้าด้วยการญิฮาด และข้อบัญญัติอื่น ๆ ที่เป็นการยากลำบากเพื่อเราจะได้รู้ถึงบรรดาผู้ต่อสู้ดิ้นรนในทางของอัลลอฮ์ และบรรดาผู้หนักแน่นอดทนต่อความยากลำบากของญิฮาด และเราจะทดสอบการงานที่ดีและการงานที่เลวของพวกเจ้า

47:32

إِنَّ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ وَصَدُّوا۟ عَن سَبِيلِ ٱللَّهِ وَشَآقُّوا۟ ٱلرَّسُولَ مِنۢ بَعْدِ مَا تَبَيَّنَ لَهُمُ ٱلْهُدَىٰ لَن يَضُرُّوا۟ ٱللَّهَ شَيْـًۭٔا وَسَيُحْبِطُ أَعْمَـٰلَهُمْ

Translation: แท้จริงบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาและปิดกั้นให้ห่างจากทางของอัลลอฮ์และต่อต้านร่อซูลนี้ หลังจากที่แนวทางที่ถูกต้องได้เป็นที่ประจักษ์แก่พวกเขาแล้ว พวกเขาจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ แก่อัลลอฮ์ได้เลย พระองค์จะทรงทำให้การงานของพวกเขาไร้ผล(31)

Comment: (31)บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาต่ออัลลอฮ์ และการพบกับพระองค์ และต่อต้านร่อซูลของพระองค์และสิ่งที่มีมายังท่านคือศาสนาที่แท้จริงทั้ง ๆ ที่พวกเขารู้ว่าท่านร่อซูลนั้นคือสัจธรรม และอิสลามคือสัจธรรม เช่นพวกยะฮูดและคนอื่น ๆ การกระทำของพวกเขาเหล่านั้นจะไม่เกิดอันตรายใด ๆ แก่อัลลอฮ์เลย เพราะพระองค์ทรงสูงส่งเกินกว่าที่จะได้รับอันตรายจากบ่าวของพระองค์ การงานของพวกเขาก็จะไร้ผลและขาดทุน

47:33

۞ يَـٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوٓا۟ أَطِيعُوا۟ ٱللَّهَ وَأَطِيعُوا۟ ٱلرَّسُولَ وَلَا تُبْطِلُوٓا۟ أَعْمَـٰلَكُمْ

Translation: โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย จงเชื่อฟังปฏิบัติตามอัลลอฮ์และจงเชื่อฟังปฏิบัติตามร่อซูลคนนี้เถิดและอย่าทำให้การงานของพวกเจ้าไร้ผล(32)

Comment: (32)บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย จงเชื่อฟังและปฏิบัติตามอัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์อย่าทำให้การงานของพวกเจ้าไร้ผลด้วยการอวดอ้าง การทำซิริก และการฝ่าฝืนข้อบัญญัติ

47:34

إِنَّ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ وَصَدُّوا۟ عَن سَبِيلِ ٱللَّهِ ثُمَّ مَاتُوا۟ وَهُمْ كُفَّارٌۭ فَلَن يَغْفِرَ ٱللَّهُ لَهُمْ

Translation: แท้จริง บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาและปิดกั้นให้ห่างจากทางของอัลลอฮ์แล้วพวกเขาตายลงทั้ง ๆ ที่พวกเขาเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาอยู่ อัลลอฮ์จะไม่ทรงอภัยโทษให้พวกเขาเลย(33)

Comment: (33)บรรดาผู้ที่มีลักษณะดังกล่าวถ้าเขาตายลง อัลลอฮ์จะไม่อภัยโทษพวกเขา เพราะพวกเขาตายในสภาพของผู้ปฏิเสธศรัทธา ผู้มีลักษณะดังกล่าว การงานของเขาไร้ผลและขาดทุน

47:35

فَلَا تَهِنُوا۟ وَتَدْعُوٓا۟ إِلَى ٱلسَّلْمِ وَأَنتُمُ ٱلْأَعْلَوْنَ وَٱللَّهُ مَعَكُمْ وَلَن يَتِرَكُمْ أَعْمَـٰلَكُمْ

Translation: ดังนั้น พวกเจ้าอย่าท้อแท้และเรียกร้องไปสู่การสงบศึก เพราะพวกเจ้าเป็นผู้อยู่เหนือสุด และอัลลอฮ์ทรงอยู่ร่วมกับพระเจ้าและพระองค์จะไม่ทรงลิดรอนผลตอบแทนแห่งการงานของพวกเจ้า(34)

Comment: (34)ดังนั้นพวกเจ้าอย่าได้ลดละความพยายามในการฆ่าศัตรูของพวกเจ้า และจงเรียกร้องไปสู่การทำสัญญาสงบศึก เพราะพวกเจ้ามีชัยชนะเหนือพวกเขาอยู่แล้ว อัลลอฮ์จะไม่ลดหย่อนผลตอบแทนแห่งการงานของพวกเจ้าและจะเพิ่มความโปรดปรานของพระองค์แก่พวกเจ้าอีก

47:36

إِنَّمَا ٱلْحَيَوٰةُ ٱلدُّنْيَا لَعِبٌۭ وَلَهْوٌۭ ۚ وَإِن تُؤْمِنُوا۟ وَتَتَّقُوا۟ يُؤْتِكُمْ أُجُورَكُمْ وَلَا يَسْـَٔلْكُمْ أَمْوَٰلَكُمْ

Translation: การมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ เป็นแต่เพียงการละเล่นและการสนุกสนานร่าเริงเท่านั้น และหากพวกเจ้าศรัทธาและยำเกรงพระองค์จะทรงประทานรางวัลของพวกเจ้าแก่พวกเจ้าและพระองค์จะไม่ทรงขอทรัพย์สินของพวกเจ้า(35)

Comment: (35)นี่คือข้อเท็จจริงเพราะการมีชีวิตอยู่ในโลกดุนยา หากผู้ใดหันหน้าเข้าหามันโดยลืมโลกอาคิเราะฮ์แล้ว ผลที่จะได้แก่เขาก็คือเป็นการละเล่น การสนุกสนานร่าเริง ซึ่งมีสภาพเช่นเดียวกับเด็ก ๆ แต่ถ้าพวกเจ้ามีความศรัทธาอย่างแท้จริงและยำเกรงสิ่งที่ก่อให้เกิดความกริ้วต่อพระองค์แล้ว พระองค์ก็จะประทานรางวัลแห่งผลงานของพวกเจ้าอย่างสมบูรณ์ พระองค์จะไม่ทรงขอร้องพวกเจ้าให้บริจาคทรัพย์สินทั้งหมดของพวกเจ้า แต่ทรงบัญญัติให้บริจาคซะกาต เพื่อเป็นการปลอบโยนพี่น้องของพวกเจ้าที่ยากจนเพื่อที่ผลประโยชน์และการตอบแทนจะกลับคืนมาสู่พวกเจ้า

47:37

إِن يَسْـَٔلْكُمُوهَا فَيُحْفِكُمْ تَبْخَلُوا۟ وَيُخْرِجْ أَضْغَـٰنَكُمْ

Translation: หากพระองค์จะทรงขอทรัพย์สินต่อพวกเจ้าและทรงรบเร้าพวกเจ้า (ให้บริจาค) พวกเจ้าก็จะตระหนี่ และพระองค์จะทรงนำเอาความอึดอัดใจของพวกเจ้าออกมาให้ประจักษ์(36)

Comment: (36)หากพระองค์จะขอร้องให้พวกเจ้าบริจาคทรัพย์สินทั้งหมดของพวกเจ้า และพระองค์จะทรงรบเร้าให้พวกเจ้าบริจาค พวกเจ้าก็จะตระหนี่ และแสดงออกซึ่งความโกรธแค้นและไม่พอใจ แต่ด้วยความเมตตาของพระองค์ที่มีต่อปวงบ่าว พระองค์จึงขอร้องด้วยความสมัครใจ

47:38

هَـٰٓأَنتُمْ هَـٰٓؤُلَآءِ تُدْعَوْنَ لِتُنفِقُوا۟ فِى سَبِيلِ ٱللَّهِ فَمِنكُم مَّن يَبْخَلُ ۖ وَمَن يَبْخَلْ فَإِنَّمَا يَبْخَلُ عَن نَّفْسِهِۦ ۚ وَٱللَّهُ ٱلْغَنِىُّ وَأَنتُمُ ٱلْفُقَرَآءُ ۚ وَإِن تَتَوَلَّوْا۟ يَسْتَبْدِلْ قَوْمًا غَيْرَكُمْ ثُمَّ لَا يَكُونُوٓا۟ أَمْثَـٰلَكُم

Translation: พึงรู้เถิดว่าพวกเจ้านี้แหละคือหมู่ชนที่ถูกเรียกร้องให้บริจาคในทางของอัลลอฮ์แต่มีบางคนในหมู่พวกเจ้าเป็นผู้ตระหนี่ ดังนั้น ผู้ใดตระหนี่เขาก็ตระหนี่แก่ตัวของเขาเอง เพราะอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงมั่งมี แต่พวกเจ้าเป็นผู้ขัดสนและถ้าพวกเจ้าเผินหลังออก พระองค์ก็จะทรงเปลี่ยนหมู่ชนอื่นแทนพวกเจ้า แล้วพวกเขาเหล่านั้นจะไม่เป็นเช่นพวกเจ้า(37)

Comment: (37)พวกเจ้าถูกขอร้องให้บริจาคส่วนหนึ่งจากทรัพย์สมบัติของพวกเจ้าในทางซะกาต หรือทางญิฮาด เพราะพระองค์ทรงรู้ดียิ่งถึงจิตใจที่หวงแหนในเรื่องทรัพย์สิน ดังนั้น ผู้ใดตระหนี่เขาก็ตระหนี่แก่ตัวของเขาเองเพราะเขาได้กีดกันผลการตอบแทนแห่งการบริจาคในทางของอัลลอฮ์ซึ่งมีผลบุญอันใหญ่หลวง อัลลอฮ์ทรงพอเพียงจากการบริจาคของพวกท่าน แต่พวกเจ้าต่างหากที่มีความต้องการต่อพระองค์ แต่ถ้าพวกเจ้าเผินหลังให้อิสลามไปสู่การกุฟร์ อัลลอฮ์ก็จะทรงเปลี่ยนประชาชาติอื่นจากพวกท่านที่ไม่เหมือนกับพวกเจ้า แต่พวกเขาจะเป็นผู้มีความจงรักภักดียิ่งแด่อัลลอฮ์ ตะอาลา