سورة الأحقاف
Al-Ahqaf
The Dunes
meccan . 35 Ayahs
بِسْمِ ٱللَّهِ ٱلرَّحْمَـٰنِ ٱلرَّحِيمِ
46:1
حمٓ
Translation: ฮามีม(1)
Comment: (1)โปรดดูคำอธิบายในเชิงอรรถของอายะฮ์แรกของซูเราะฮ์ที่ 2 ซูเราะฮ์นี้เป็นซูเราะห์ที่เจ็ดซึ่งเป็นซูเราะฮ์สุดท้ายที่เริ่มด้วยอักษรฮามีม และเรียกว่า ฮามีมทั้งเจ็ด หรือตระกูลฮามีม
46:2
تَنزِيلُ ٱلْكِتَـٰبِ مِنَ ٱللَّهِ ٱلْعَزِيزِ ٱلْحَكِيمِ
Translation: การประทานลงมาของคัมภีร์นี้จากอัลลอฮ์ผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงปรีชาญาณ(2)
Comment: (2)อัลกุรอานนี้ถูกประทานลงมาจากอัลลอฮ์ ผู้ทรงอำนาจในการปกครองของพระองค์ ผู้ทรงปรีชาญาณในการกระทำของพระองค์
46:3
مَا خَلَقْنَا ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضَ وَمَا بَيْنَهُمَآ إِلَّا بِٱلْحَقِّ وَأَجَلٍۢ مُّسَمًّۭى ۚ وَٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ عَمَّآ أُنذِرُوا۟ مُعْرِضُونَ
Translation: เรามิได้สร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และสิ่งที่อยู่ระหว่างทั้งสองเพื่ออื่นใดเว้นแต่ด้วยความจริง และวาระที่ถูกกำหนดไว้ แต่บรรดาผู้ปฏิเสธนศรัทธาั้นเป็นผู้ผินหลังให้จากสิ่งที่พวกเขาถูกตักเตือน(3)
Comment: (3)คือเรามิได้สร้างทั้งสองและสิ่งที่อยู่ในมันโดยไร้ประโยชน์ แต่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อเคล็ดลับและเป็นการบ่งชี้ถึงความเป็นเอกภาพของเรา และเดชานุภาพอันสมบูรณ์ของเรา และวาระที่ถูกกำหนดไว้คือ วาระแห่งการสูญสลายมันทั้งสองนั้นคือ วันกิยามะฮ์ แต่พวกกุฟฟารเหล่านั้นผินหลังให้กับสิ่งที่พวกเขาได้รับการตักเตือนว่าจะมีการลงโทษ โดยที่พวกเขามิได้ใคร่ครวญและเตรียมตัวเพื่อเผชิญหน้ากับวันแห่งการตอบแทน
46:4
قُلْ أَرَءَيْتُم مَّا تَدْعُونَ مِن دُونِ ٱللَّهِ أَرُونِى مَاذَا خَلَقُوا۟ مِنَ ٱلْأَرْضِ أَمْ لَهُمْ شِرْكٌۭ فِى ٱلسَّمَـٰوَٰتِ ۖ ٱئْتُونِى بِكِتَـٰبٍۢ مِّن قَبْلِ هَـٰذَآ أَوْ أَثَـٰرَةٍۢ مِّنْ عِلْمٍ إِن كُنتُمْ صَـٰدِقِينَ
Translation: จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่าพวกท่านไม่เห็นดอกหรือ สิ่งที่พวกท่านวิงวอนขออื่นจากอัลลอฮ์จงแสดงให้ข้าเห็นซิว่าพวกมันได้สร้างอะไรในแผ่นดินนี้ หรือว่าพวกมันมีส่วนร่วมใน(การสร้าง) ชั้นฟ้าทั้งหลาย จงนำคัมภีร์ก่อนหน้านี้มาให้ข้าดูซิ หรือจงแสดงร่องรอยแห่งความรู้ (ที่เป็นหลักฐานยืนยันในการนี้) หากพวกท่านเป็นผู้สัตย์จริง(4)
Comment: (4)จงกล่าวแก่พวกมุชริกีนว่า พวกท่านจงบอกฉันซิว่า รูปปั้นหรือเจว็ดที่พวกท่านเคารพบูชาอยู่นั้น พวกมันได้สร้างอะไรให้เป็นประจักษ์พยานหรือเป็นรูปธรรม หรือพวกมันมีส่วนร่วมกับอัลลอฮ์ในการสร้างชั้นฟ้าต่าง ๆ ขอให้พวกท่านนำหลักฐานจากคัมภีร์สักฉบับหนึ่ง ที่ใช้ให้พวกท่านเคารพบูชารูปปั้นเหล่านี้ หากพวกท่านเป็นผู้สัตย์จริงในคำกล่าวอ้างของพวกท่าน
46:5
وَمَنْ أَضَلُّ مِمَّن يَدْعُوا۟ مِن دُونِ ٱللَّهِ مَن لَّا يَسْتَجِيبُ لَهُۥٓ إِلَىٰ يَوْمِ ٱلْقِيَـٰمَةِ وَهُمْ عَن دُعَآئِهِمْ غَـٰفِلُونَ
Translation: และใครเล่าจะหลงทางมากไปกว่าผู้ที่วิงวอนขออื่นจากอัลลอฮ์ที่มันจะไม่ตอบรับ (การวิงวอนของ) เขาจนถึงวันกิยามะฮ์ และพวกมันเฉยเมยต่อการวิงวอนขอของพวกเขา(5)
Comment: (5)ไม่มีผู้ใดที่จะหลงทางและโง่ยิ่งไปกว่าผู้ที่เคารพบูชารูปปั้นหรือเจว็ดที่มันไม่ได้ยินการวิงวอนขอของพวกเขา ไปจนกระทั่งวันกิยามะฮ์ และพวกมันก็ไม่ได้ยิน และไม่เข้าใจคำวิงวอนของพวกเขาเช่นกัน
46:6
وَإِذَا حُشِرَ ٱلنَّاسُ كَانُوا۟ لَهُمْ أَعْدَآءًۭ وَكَانُوا۟ بِعِبَادَتِهِمْ كَـٰفِرِينَ
Translation: และเมื่อมนุษย์ถูกรวมให้มาชุมนุมกัน พวกมัน (เจว็ด) จะเป็นศัตรูกับพวกเขาและจะเป็นผู้ปฏิเสธการเคารพบูชาของพวกเขา(6)
Comment: (6)และเมื่อมนุษย์ถูกนำมาให้ชุมนุมกันเพื่อการสอบสวนในวันกิยามะฮ์ บรรดาเจว็ดจะเป็นศัตรูกับพวกเขา และมันจะปลีกตัวจากการเคารพบูชาของพวกเขา
46:7
وَإِذَا تُتْلَىٰ عَلَيْهِمْ ءَايَـٰتُنَا بَيِّنَـٰتٍۢ قَالَ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ لِلْحَقِّ لَمَّا جَآءَهُمْ هَـٰذَا سِحْرٌۭ مُّبِينٌ
Translation: และเมื่ออายะฮฺต่าง ๆ อันชัดแจ้งของเรา ถูกสาธยายแก่พวกเขา บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาได้กล่าวเกี่ยวกับสัจธรรม(อัลกุรอาน) ที่ได้มีมายังพวกเขาว่า นี่คือมายากลอย่างชัดแจ้ง(7)
Comment: (7)เมื่ออายาตอัลกรุอานถูกอ่านแก่พวกเขา ซึ่งเป็นอายาตที่ชัดแจ้งเป็นพระดำรัสมาจากอัลลอฮ์ พวกปฏิเสธศรัทธา กล่าวเกี่ยวกับอัลกุรอานที่มาจากอัลลอฮ์ว่า นี่คือมายากลอย่างไม่ต้องสงสัย
46:8
أَمْ يَقُولُونَ ٱفْتَرَىٰهُ ۖ قُلْ إِنِ ٱفْتَرَيْتُهُۥ فَلَا تَمْلِكُونَ لِى مِنَ ٱللَّهِ شَيْـًٔا ۖ هُوَ أَعْلَمُ بِمَا تُفِيضُونَ فِيهِ ۖ كَفَىٰ بِهِۦ شَهِيدًۢا بَيْنِى وَبَيْنَكُمْ ۖ وَهُوَ ٱلْغَفُورُ ٱلرَّحِيمُ
Translation: หรือพวกเขากล่าวว่า เขา (มุฮัมมัด) ได้ปั้นแต่งอัลกุรอานนั้น จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ถ้าฉันได้ปั้นแต่งอัลกุรอานขึ้นพวกท่านก็ไม่มีอำนาจอันใดที่จะช่วยเหลือฉันได้จาก (การลงโทษของ) อัลลอฮ์พระองค์ทรงรู้ดียิ่งถึงสิ่งที่พวกท่านกำลังง่วนอยู่ในเรื่องนี้ พอเพียงแล้วที่พระองค์ทรงเป็นพยานระหว่างฉันกับพวกท่าน และพระองค์เป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ(8)
Comment: (8)หรือพวกเขากล่าวว่ามุฮัมมัดได้ปั้นแต่งอัลกุรอานขึ้นจากตัวของเขาเอง มุฮัมมัดจงกล่าวแก่พวกเขาว่า สมมติว่าฉันได้ปั้นแต่งหรือเรียบเรียงอัลกุรอานขึ้นจริง พวกท่านก็ไม่สามารถที่จะปกป้องฉันให้พ้นจากการลงโทษของอัลลอฮ์ได้ ทำไมเล่าฉันจะกุเรื่องขึ้นเพื่อเห็นแก่พวกท่าน และฉันต้องเผชิญกับการลงโทษของพระองค์? พระองค์ทรงรู้ดียิ่งถึงสิ่งที่พวกท่านกำลังง่วนกันอยู่ในเรื่องของอัลกุรอาน โดยกล่าวว่าเป็นกวีเป็นมายากล เป็นการประพันธ์และอื่นจากนี้ เป็นการพอเพียงแล้ว ที่พระองค์ทรงเป็นพยานว่า ฉันเป็นผู้สัจจะ และเป็นผู้เผยแพร่ศาสนาของพระองค์ และทรงเป็นพยานว่า พวกท่านดื้อรั้นและปฏิเสธศรัทธา
46:9
قُلْ مَا كُنتُ بِدْعًۭا مِّنَ ٱلرُّسُلِ وَمَآ أَدْرِى مَا يُفْعَلُ بِى وَلَا بِكُمْ ۖ إِنْ أَتَّبِعُ إِلَّا مَا يُوحَىٰٓ إِلَىَّ وَمَآ أَنَا۠ إِلَّا نَذِيرٌۭ مُّبِينٌۭ
Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ฉันมิได้เป็นคนแรกในบรรดาร่อซูล และฉันไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแก่ฉันและแก่พวกท่าน ฉันมิได้ปฏิบัติตามสิ่งใดนอกจากสิ่งที่ถูกวะฮีย์ให้แก่ฉัน และฉันมิใช่ใครอื่นนอกจากเป็นผู้ตักเตือนอันชัดแจ้ง(9)
Comment: (9)คือฉันมิได้เป็นร่อซูลคนแรกของโลก และฉันมิได้นำเรื่องใดมา โดยที่มิได้มีผู้ใดก่อนหน้าฉันนำมาก่อนแล้ว คือได้มีบรรดาร่อซูลก่อนหน้าฉันได้ทำหน้าที่นี้มาก่อนแล้ว ฉันไม่รู้ว่าสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงกำหนดไว้ให้แก่ฉันและแก่พวกท่านมีอะไรบ้าง ? เพราะกฎสภาวะของอัลลอฮ์นั้นเป็นสิ่งเร้นลับ และฉันจะไม่ปฏิบัติตามสิ่งใดนอกจากสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงประทานวะฮียฺให้แก่ฉัน และฉันนั้นคือร่อซูลผู้ตักเตือนพวกท่านถึงการลงโทษของอัลลอฮ์
46:10
قُلْ أَرَءَيْتُمْ إِن كَانَ مِنْ عِندِ ٱللَّهِ وَكَفَرْتُم بِهِۦ وَشَهِدَ شَاهِدٌۭ مِّنۢ بَنِىٓ إِسْرَٰٓءِيلَ عَلَىٰ مِثْلِهِۦ فَـَٔامَنَ وَٱسْتَكْبَرْتُمْ ۖ إِنَّ ٱللَّهَ لَا يَهْدِى ٱلْقَوْمَ ٱلظَّـٰلِمِينَ
Translation: จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด พวกท่านไม่เห็นดอกหรือว่า ถ้าหากอัลกุรอานมาจากอัลลอฮ์และพวกท่านปฏิเสธอัลกุรอานนั้น ทั้ง ๆ ที่มีพยานคนหนึ่งจากวงศ์วานของอิสรออีลเป็นพยานต่อลักษณะเช่นเดียวกัน (คือคัมภีร์อัตเตารอต) แล้วเขาก็ศรัทธาแต่พวกท่านยังดื้อรั้นหยิ่งยโส แท้จริงอัลลอฮ์จะไม่ทรงชี้แนะทางแก่หมู่ชนผู้อธรรม(10)
Comment: (10)มุฮัมมัดจงกล่าวแก่พวกมุชริกีนว่า พวกท่านจงบอกฉันซิว่า สภาพของพวกท่านจะเป็นเช่นไร ถ้าหากอัลกุรอานมาจากอัลลอฮ์ และพวกท่านได้ปฏิเสธศรัทธาต่ออัลกุรอานทั้ง ๆ ที่มีพยานคนหนึ่งจากวงศ์วานของอิสรออีล คืออับดุลลอฮ์ อิบน์สะลาม เป็นพยานรับรองความเป็นจริงของอัลกุรอาน แล้วเขาก็ศรัทธาต่ออัลกุรอานแต่พวกท่านหยิ่งยโส ไม่ยอมศรัทธา ดังนั้นสภาพของพวกท่านจะเป็นเช่นไรพวกท่านมิใช่เป็นผู้หลงทางที่สุดและอธรรมที่สุดดอกหรือ ?
46:11
وَقَالَ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ لِلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ لَوْ كَانَ خَيْرًۭا مَّا سَبَقُونَآ إِلَيْهِ ۚ وَإِذْ لَمْ يَهْتَدُوا۟ بِهِۦ فَسَيَقُولُونَ هَـٰذَآ إِفْكٌۭ قَدِيمٌۭ
Translation: และบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาได้กล่าวแก่บรรดาผู้ศรัทธาว่า หากว่าอัลกุรอานนี้มีความดี พวกเขา (ผู้ศรัทธา) ก็จะไม่รุดหน้าไปยังอัลกุรอานก่อนเราเป็นแน่ และโดยที่พวกเขา (พวกปฏิเสธศรัทธา) มิได้รับการชี้แนะทางด้วยอัลกุรอาน ดังนั้นพวกเขาจึงกล่าวว่า นี่คือเรื่องโกหกแต่ดั้งเดิม(11)
Comment: (11)พวกกุฟฟารมักกะฮ์ได้กล่าวแก่บรรดาผู้ศรัทธาว่า หากว่าอัลกุรอานนี้และศาสนาเป็นความดี บรรดาคนยากจนผู้อ่อนแอเหล่านี้จะไม่ล้ำหน้าเราไปยังอัลกุรอานก่อนเราเป็นแน่ หมายถึง บิลาล อัมมารฺ ศุไฮบ์ ค็อบบ๊าบ และคนอื่น ๆ และเมื่อพวกเขามิได้ถูกชี้นำด้วยอัลกุรอาน ทั้ง ๆ ที่เป็นที่ชัดแจ้งถึงการเป็นปาฏิหาริย์ของอัลกุรอาน พวกเขาจึงกล่าวว่า นี่คือเรื่องโกหกในอดีตที่มาจากโบราณกาล มุฮัมมัดได้นำมาและได้อ้างว่ามาจากอัลลอฮ์
46:12
وَمِن قَبْلِهِۦ كِتَـٰبُ مُوسَىٰٓ إِمَامًۭا وَرَحْمَةًۭ ۚ وَهَـٰذَا كِتَـٰبٌۭ مُّصَدِّقٌۭ لِّسَانًا عَرَبِيًّۭا لِّيُنذِرَ ٱلَّذِينَ ظَلَمُوا۟ وَبُشْرَىٰ لِلْمُحْسِنِينَ
Translation: และก่อนหน้านี้ (อัลกุรอาน) มีคัมภีร์ของมูซาเป็นแบบอย่างและความเมตตา และนี่อัลกุรอานเป็นคัมภีร์ที่ยืนยันเป็นภาษาอาหรับเพื่อตักเตือนบรรดาผู้กระทำความผิด และเป็นข่าวดีสำหรับผู้กระทำความดี(12)
Comment: (12)ก่อนหน้าอัลกุรอานนี้ มีคัมภีร์อัตเตารอฮ์ของมูซา ซึ่งเป็นแบบอย่างในการยึดถือปฏิบัติของพวกท่าน และในคัมภีร์นั้นก็ได้บอกข่าวถึงการมาเป็นร่อซูลของมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และอัลกุรอานนี้เป็นคัมภีร์ยิ่งใหญ่ยืนยันถึงบรรดาคัมภีร์ฉบับก่อน ๆ อัลกุรอานเป็นคัมภีร์ภาษาอาหรับเพื่อตักเตือนพวกกุฟฟารมักกะฮ์ ผู้อธรรมถึงการลงโทษด้วยไฟนรก และแจ้งข่าวดีบรรดามุอ์มิน ผู้กระทำความดีด้วยสวนสวรรค์อันสุขสำราญ
46:13
إِنَّ ٱلَّذِينَ قَالُوا۟ رَبُّنَا ٱللَّهُ ثُمَّ ٱسْتَقَـٰمُوا۟ فَلَا خَوْفٌ عَلَيْهِمْ وَلَا هُمْ يَحْزَنُونَ
Translation: แท้จริงบรรดาผู้ที่กล่าวว่า อัลลอฮ์คือ พระผู้อภิบาลของพวกเรา แล้วพวกเขาก็ยืนหยัด(ปฏิบัติ) ตามคำกล่าวนั้น จะไม่มีความหวาดกลัวใด ๆ แก่พวกเขา และพวกเขาก็จะไม่เศร้าสลดใจ(13)
Comment: (13)คือบรรดาผู้ที่มีคุณลักษณะประกอบด้วยการศรัทธา การให้ความเป็นเอกภาพแด่อัลลอฮ์ และตั้งจิตมั่นคงตามคำกล่าวนั้น ในวันกิยามะฮ์สิ่งไม่ดีงามและที่น่าเกลียดชังจะไม่ประสบแก่พวกเขา พวกเขาจะไม่มีความหวาดกลัวและความเศร้าสลดเสียใจใด ๆ ต่อสิ่งที่พวกเขาได้กระทำความดีด้วยสวนสวรรค์อันสุขสำราญ
46:14
أُو۟لَـٰٓئِكَ أَصْحَـٰبُ ٱلْجَنَّةِ خَـٰلِدِينَ فِيهَا جَزَآءًۢ بِمَا كَانُوا۟ يَعْمَلُونَ
Translation: ชนเหล่านั้นคือชาวสวนสวรรค์ พวกเขาเป็นผู้พำนักอยู่ในนั้นตลอดกาล เป็นการตอบแทนที่พวกเขาได้กระทำไว้(14)
Comment: (14)บรรดามุอ์มินผู้มีคุณธรรม โดยยึดมั่นอยู่ในศาสนาของพวกเขา เขาเหล่านั้นคือชาวสวรรค์ เป็นผู้พำนักอยู่ในนั้นตลอดกาล พวกเขาได้รับความสุขสำราญเช่นนั้น เป็นการตอบแทนแก่พวกเขาต่อการกระทำความดีของพวกเขานั่นเอง
46:15
وَوَصَّيْنَا ٱلْإِنسَـٰنَ بِوَٰلِدَيْهِ إِحْسَـٰنًا ۖ حَمَلَتْهُ أُمُّهُۥ كُرْهًۭا وَوَضَعَتْهُ كُرْهًۭا ۖ وَحَمْلُهُۥ وَفِصَـٰلُهُۥ ثَلَـٰثُونَ شَهْرًا ۚ حَتَّىٰٓ إِذَا بَلَغَ أَشُدَّهُۥ وَبَلَغَ أَرْبَعِينَ سَنَةًۭ قَالَ رَبِّ أَوْزِعْنِىٓ أَنْ أَشْكُرَ نِعْمَتَكَ ٱلَّتِىٓ أَنْعَمْتَ عَلَىَّ وَعَلَىٰ وَٰلِدَىَّ وَأَنْ أَعْمَلَ صَـٰلِحًۭا تَرْضَىٰهُ وَأَصْلِحْ لِى فِى ذُرِّيَّتِىٓ ۖ إِنِّى تُبْتُ إِلَيْكَ وَإِنِّى مِنَ ٱلْمُسْلِمِينَ
Translation: และเราได้สั่งเสียมนุษย์ให้ทำดี ต่อบิดามารดาของเขา มารดาของเขาได้อุ้มครรภ์เขาด้วยความเหนื่อยยาก และได้คลอดเขาด้วยความเจ็บปวด และการอุ้มครรภ์เขาและการหย่านมของเขาในระยะเวลาสามสิบเดือน จนกระทั่งเมื่อเขาบรรลุวัยฉกรรจ์ของเขาและมีอายุถึงสี่สิบปี เขาจะกล่าววิงวอนว่า ข้าแต่พระผู้อภิบาลของเข้าพระองค์ขอพระองค์ทรงโปรดประทานแก่ข้าพระองค์ เพื่อให้ข้าพระองค์ขอบคุณต่อความโปรดของพระองค์ท่าน ซึ่งพระองค์ท่านได้ทรงโปรดปรานแก่ข้าพระองค์และบิดามารดาของข้าพระองค์ และให้ข้าพระองค์ทำความดีเพื่อให้พระองค์ทรงพอพระทัยแก่ข้าพระองค์ และทรงให้ความดีเกิดขึ้นในลูกหลานของข้าพระองค์ แท้จริงข้าพระองค์ขอลุแก่โทษต่อพระองค์ และแท้จริงข้าพระองค์อยู่ในหมู่ผู้นอบน้อม(15)
Comment: (15)ในเมื่อความโปรดปรานของอัลลอฮ์อยู่ที่ความพอใจของบิดามารดา และความกริ้วของพระองค์อยู่ที่ความไม่พอใจของท่านทั้งสอง ดังนั้นเราจึงใช้มนุษย์อย่างหนักแน่นให้ทำความดีต่อบิดามารดา เพราะมารดาของเขาได้อุ้มครรภ์และคลอดเขาด้วยความเหนื่อยยากและเจ็บปวด ระยะเวลาตั้งแต่อุ้มครรภ์จนกระทั้งหย่านมเป็นเวลาถึง 2 ปีครึ่ง ครั้นเมื่อเขาเจริญเติบโตมีอายุบรรลุวัยหนุ่มฉกรรจ์คือ 40 ปี เขาจะวิงวอนขอต่ออัลลอฮ์ 3 ประการ คือ 1. ขอให้อัลลอฮ์ทรงประทานความสำเร็จให้แก่เขา เพื่อขอบคุณต่อความโปรดปรานของพระองค์ที่ประทานให้แก่เขาและบิดามารดาของเขา คือความโปรดปรานแห่งการอีมาน การเตาฮีดและอิสลาม 2. ขอให้พระองค์ทรงประทานความสำเร็จให้แก่เขาด้วยการจงรักภักดีที่เป็นที่พอพระทัย ณ ที่อัลลอฮ์ 3. และทรงให้ความดีเกิดขึ้นในหมู่ลูกหลานของเขา
46:16
أُو۟لَـٰٓئِكَ ٱلَّذِينَ نَتَقَبَّلُ عَنْهُمْ أَحْسَنَ مَا عَمِلُوا۟ وَنَتَجَاوَزُ عَن سَيِّـَٔاتِهِمْ فِىٓ أَصْحَـٰبِ ٱلْجَنَّةِ ۖ وَعْدَ ٱلصِّدْقِ ٱلَّذِى كَانُوا۟ يُوعَدُونَ
Translation: ชนเหล่านี้คือ บรรดาผู้ที่เรารับรองส่วนที่ดียิ่งจากพวกเขา ซึ่งพวกเขาได้ปฏิบัติไว้ และเราจะละเลยความผิดต่างๆ ของพวกเขาโดยอยู่ร่วมกับชาวสวรรค์ เป็นการสัญญาแห่งความจริงซึ่งพวกเขาได้ปฏิบัติไว้ และเราจะละเลยความผิดต่างๆ ของพวกเขาโดยอยู่ร่วมกับชาวสวรรค์ เป็นการสัญญาแห่งความจริงซึ่งพวกเขาได้ถูกสัญญาไว้(16)
Comment: (16)ชนเหล่านั้นเรารับรองการจงรักภักดีของพวกเขา และเราจะตอบแทนการงานที่ดีของพวกเขาด้วยสิ่งที่ดียิ่งกว่า และเราอภัยโทษความผิดต่าง ๆ ของพวกเขาโดยให้อยู่ร่วมกับชาวสวรรค์ซึ่งได้ยกย่องให้เกียรติแก่พวกเขาด้วยการอภัยโทษ ซึ่งเราได้สัญญาไว้ด้วยความสัตย์ผ่านทางบรรดาร่อซูลของเรา
46:17
وَٱلَّذِى قَالَ لِوَٰلِدَيْهِ أُفٍّۢ لَّكُمَآ أَتَعِدَانِنِىٓ أَنْ أُخْرَجَ وَقَدْ خَلَتِ ٱلْقُرُونُ مِن قَبْلِى وَهُمَا يَسْتَغِيثَانِ ٱللَّهَ وَيْلَكَ ءَامِنْ إِنَّ وَعْدَ ٱللَّهِ حَقٌّۭ فَيَقُولُ مَا هَـٰذَآ إِلَّآ أَسَـٰطِيرُ ٱلْأَوَّلِينَ
Translation: และผู้ที่กล่าวแก่บิดามารดาของเขา ว่า "อุ๊ฟ" แก่ท่านทั้งสอง ท่านทั้งสองขู่ฉันว่าฉันจะถูกให้ออกมาฟื้นคืนชีพอีกกระนั้นหรือ ? ทั้ง ๆ ที่หลายศตวรรษก่อนหน้าฉันได้ล่วงลับไปแล้ว และเขาทั้งสองร้องขอความช่วยเหลือต่ออัลลอฮ์พลางกล่าวแก่ลูกว่า ความหายนะ จงประสบแก่เจ้า จงศรัทธาเถิด แท้จริงสัญญาของอัลลอฮ์นั้นเป็นความจริง แล้วเขาก็พูดว่า เรื่องนี้มิใช่อะไรอื่นนอกจากเป็นนิยายเหลวไหลสมัยก่อนเท่านั้น
46:18
أُو۟لَـٰٓئِكَ ٱلَّذِينَ حَقَّ عَلَيْهِمُ ٱلْقَوْلُ فِىٓ أُمَمٍۢ قَدْ خَلَتْ مِن قَبْلِهِم مِّنَ ٱلْجِنِّ وَٱلْإِنسِ ۖ إِنَّهُمْ كَانُوا۟ خَـٰسِرِينَ
Translation: ชนเหล่านี้คือ บรรดาผู้ที่พระดำรัส (แห่งการลงโทษ) เป็นที่คู่ควรแก่พวกเขาที่จะเข้าร่วมอยู่กับหมู่ชนต่าง ๆ แห่งพวกญินและมนุษย์ที่ได้ล่วงลับไปก่อนพวกเขา แท้จริงพวกเขาเป็นผู้ขาดทุน(17)
Comment: (17)ชนเหล่านั้นเป็นอาชญากรที่คู่ควรแก่พระดำรัสของอัลลอฮ์ที่ว่า พวกเขาเป็นชาวนรก ซึ่งจะอยู่รวมกับชาวนรกทั้งหลายของประชาชาติในอดีตที่ได้ล่วงลับไปแล้วแห่งพวกญินและมนุษย์ พวกเขาเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาจะประสบกับการขาดทุนในโลกอาคิเราะฮ์
46:19
وَلِكُلٍّۢ دَرَجَـٰتٌۭ مِّمَّا عَمِلُوا۟ ۖ وَلِيُوَفِّيَهُمْ أَعْمَـٰلَهُمْ وَهُمْ لَا يُظْلَمُونَ
Translation: และสำหรับทุกกลุ่มย่อมมีลำดับชั้นตามที่พวกเขาได้กระทำไว้ และพระองค์จะทรงตอบแทนพวกเขาอย่างครบถ้วนตามผลงานของพวกเขา โดยที่พวกเขาจะไม่ถูกอยุติธรรม(18)
Comment: (18)มุอ์มินแต่ละคน และกาฟิรแต่ละคนย่อมมีลำดับชั้นหรือตำแหน่งของแต่ละคนที่ได้กระทำไว้ ลำดับชั้นของบรรดามุอ์มินในสวนสวรรค์ย่อมสูงขึ้น ส่วนลำดับชั้นของบรรดากาฟิรในนรกย่อมต่ำลง พระองค์จะตอบแทนการกระทำของพวกเขาอย่างครบถ้วนไม่ขาดและไม่เกิน ทั้งนี้ตามผลงานของแต่ละคนอย่างยุติธรรม
46:20
وَيَوْمَ يُعْرَضُ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ عَلَى ٱلنَّارِ أَذْهَبْتُمْ طَيِّبَـٰتِكُمْ فِى حَيَاتِكُمُ ٱلدُّنْيَا وَٱسْتَمْتَعْتُم بِهَا فَٱلْيَوْمَ تُجْزَوْنَ عَذَابَ ٱلْهُونِ بِمَا كُنتُمْ تَسْتَكْبِرُونَ فِى ٱلْأَرْضِ بِغَيْرِ ٱلْحَقِّ وَبِمَا كُنتُمْ تَفْسُقُونَ
Translation: และวันที่บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาจะถูกนำมาอยู่ต่อหน้าไฟนรก (จะมีเสียงกล่าวแก่พวกเขาว่า) พวกเจ้าได้เอาสิ่งดีงามทั้งหลายของพวกเจ้าในโลกดุนยาไปแล้ว และพวกเจ้าได้มีความสำราญกับมันแล้ว ฉะนั้นวันนี้พวกเจ้าจะได้รับการตอบแทนด้วยการลงโทษอันอัปยศ เนื่องด้วย พวกเจ้าหยิ่งยโสในแผ่นดินโดยไม่เป็นธรรมและเนื่องด้วยพวกเจ้าฝ่าฝืน(19)
Comment: (19)ในวันกิยามะฮ์บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาจะถูกนำมาอยู่ต่อหน้าไฟนรกและพวกเขาจะมองดูไฟที่มันซึ่งกำลังลุกไหม้อยู่ จะมีเสียงกล่าวแก่พวกเขาว่า ความดีงามทั้งหลายของพวกเจ้าได้หมดไปแล้ว และพวกเจ้าได้รับความสุขสำราญในโลกดุนยากันแล้ว ในวันนี้ส่วนได้ของพวกเจ้าไม่มีเหลือไว้เพื่อเป็นการตอบแทนนอกจากการลงโทษอันอัปยศและต่ำต้อย เพราะการหยิ่งยโสของพวกเจ้าต่อการอีมานและการจงรักภักดีและด้วยการกระทำที่เป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติของพวกเจ้า
46:21
۞ وَٱذْكُرْ أَخَا عَادٍ إِذْ أَنذَرَ قَوْمَهُۥ بِٱلْأَحْقَافِ وَقَدْ خَلَتِ ٱلنُّذُرُ مِنۢ بَيْنِ يَدَيْهِ وَمِنْ خَلْفِهِۦٓ أَلَّا تَعْبُدُوٓا۟ إِلَّا ٱللَّهَ إِنِّىٓ أَخَافُ عَلَيْكُمْ عَذَابَ يَوْمٍ عَظِيمٍۢ
Translation: จงรำลึกถึง(ฮูด) พี่น้องคนหนึ่งของพวกอ๊าด ขณะที่เขากล่าวเตือนหมู่ชนของเขาที่เนินเขาอัลอะฮ์ก็อฟ และแน่นอน บรรดาผู้ตักเตือน (ร่อซูล) ก่อนหน้าเขาและภายหลังเขา (ได้กล่าวตักเตือนว่า) พวกท่านอย่าเคารพอิบาดะฮ์ผู้ใดนอกจากอัลลอฮ์แท้จริงฉันกลัวแทนพวกท่านถึงการลงโทษแห่งวันอันยิ่งใหญ่(20)
Comment: (20)มุฮัมมัดจงรำลึกถึงเรื่องของนบีฮูด อะลัยฮิสสลาม กับหมู่ชนของเขา เพื่อให้พวกมุชริกีนได้ตระหนักและใคร่ครวญว่า ขณะที่เขาได้กล่าวเตือนหมู่ชนของเขาคือพวกอ๊าด ถึงการลงโทษของอัลลอฮ์หากพวกเขาไม่ศรัทธา หมู่ชนเหล่านั้นมีถิ่นพำนักอยู่ที่เนินเขาอัลอะฮ์ก็อฟในประเทศเยเมน และบรรดาร่อซูลผู้ตักเตือนก่อนหน้านบีฮูด และภายหลังเขา ซึ่งแต่ละท่านได้กล่าวเตือนประชาชาติของเขาว่า พวกท่านอย่าได้เคารพอิบาดะฮ์สิ่งอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์ และได้กล่าวเตือนถึงผลแห่งการทำชิริก ซึ่งเป็นบาปขั้นอุกฤษณ์ และว่าแท้จริง ฉันกลัวว่าหากพวกท่านเคารพอิบาดะฮ์ สิ่งใดอื่นจากอัลลอฮ์แล้ว การลงโทษแห่งวันอันยิ่งใหญ่คือ วันกิยามะฮ์จะต้องเกิดขึ้นกับพวกท่านอย่างแน่นอน
46:22
قَالُوٓا۟ أَجِئْتَنَا لِتَأْفِكَنَا عَنْ ءَالِهَتِنَا فَأْتِنَا بِمَا تَعِدُنَآ إِن كُنتَ مِنَ ٱلصَّـٰدِقِينَ
Translation: พวกเขากล่าวว่า ท่านมาหาพวกเราเพื่อจะหันห่างพวกเรา จากการเคารพสักการะพระเจ้าทั้งหลายของเรากระนั้นหรือ ? ดังนั้นจงนำ (การลงโทษ) ตามที่ท่านได้สัญญากับเราไว้ หากท่านอยู่ในหมู่ผู้สัตย์จริง(21)
Comment: (21)พวกเขากล่าวตอบการเตือนของนบีฮูดว่า ท่านมาหาพวกเราเพื่อที่จะให้หันห่างพวกเราจากการเคารพสักการะพระเจ้าของพวกเรากระนั้นหรือ ? หากท่านเป็นผู้สัตย์จริงก็จงนำการลงโทษตามที่ท่านได้สัญญาไว้กับพวกเรา
46:23
قَالَ إِنَّمَا ٱلْعِلْمُ عِندَ ٱللَّهِ وَأُبَلِّغُكُم مَّآ أُرْسِلْتُ بِهِۦ وَلَـٰكِنِّىٓ أَرَىٰكُمْ قَوْمًۭا تَجْهَلُونَ
Translation: เขา(ฮูด) กล่าวว่า แท้จริงความรู้ (เรื่องการลงโทษ) นั้นอยู่ที่อัลลอฮ์และฉันขอประกาศแก่พวกท่านตามที่ฉันได้ถูกส่งมาเพื่อการนี้ แต่ฉันเห็นว่าพวกท่านเป็นหมู่ชนผู้โง่เขลา(22)
Comment: (22)ฮูดได้กล่าวว่า กำหนดเวลามาของการลงโทษนั้น ไม่มีใครรู้นอกจากอัลลอฮ์ แต่ฉันขอประกาศแจ้งแก่พวกท่าน สิ่งที่อัลลอฮ์ส่งฉันมาเพื่อพวกท่าน และฉันเห็นว่าพวกท่านนั้นเป็นพวกโง่เขลาในการขอของพวกท่านที่จะให้การลงโทษเกิดขึ้นอย่างเร็ว
46:24
فَلَمَّا رَأَوْهُ عَارِضًۭا مُّسْتَقْبِلَ أَوْدِيَتِهِمْ قَالُوا۟ هَـٰذَا عَارِضٌۭ مُّمْطِرُنَا ۚ بَلْ هُوَ مَا ٱسْتَعْجَلْتُم بِهِۦ ۖ رِيحٌۭ فِيهَا عَذَابٌ أَلِيمٌۭ
Translation: ครั้นเมื่อพวกเขาเห็นเมฆทึบเคลื่อนมายังที่ราบลุ่มในหมู่บ้านของพวกเขา พวกเขากล่าวว่า นี่คือเมฆที่จะให้น้ำฝนแก่เรา เปล่าเลยมันคือสิ่งที่พวกเจ้าเร่งขอให้เกิด มันคือลมพายุ ในนั้นมีการลงโทษอันเจ็บปวด(23)
Comment: (23)เมื่อพวกเขาเห็นก้อนเมฆปรากฎขึ้นบนท้องฟ้ากำลังเคลื่อนมายังที่ราบลลุ่มในหมู่บ้านของพวกเขาซึ่งกำลังอยู่ในสภาพแห้งแล้ง พวกเขากล่าวว่า นี่คือก้อนเมฆที่อุ้มน้ำฝนกำลังจะนำความชุ่มชื้นมาให้แก่พวกเรา ฮูดได้กล่าวแก่พวกเขาว่า เปล่าเลยมันมิใช่น้ำฝนตามที่พวกท่านเข้าใจกัน แต่มันเป็นการลงโทษที่พวกท่านเร่งขอให้มันเกิดขึ้นต่างหาก มันคือลมพายุแห่งการทำลายที่มีการลงโทษอย่างเจ็บปวดอยู่ในนั้นด้วย
46:25
تُدَمِّرُ كُلَّ شَىْءٍۭ بِأَمْرِ رَبِّهَا فَأَصْبَحُوا۟ لَا يُرَىٰٓ إِلَّا مَسَـٰكِنُهُمْ ۚ كَذَٰلِكَ نَجْزِى ٱلْقَوْمَ ٱلْمُجْرِمِينَ
Translation: มันจะทำลายทุกสิ่งตามพระบัญชาของพระผู้อภิบาลของมัน แล้วพวกเขาก็กลายเป็นไม่มีอะไรให้แลเห็น นอกจากบ้านพักอาศัยของพวกเขาเท่านั้น เช่นนี้แหละเราจะตอบแทนหมู่ชนผู้กระทำผิด(24)
Comment: (24)ลมพายุนั้นจะทำลายทุกสิ่งที่ขวางอยู่ข้างหน้ามัน ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ สัตว์พาหนะ และทรัพย์สินตามพระบัญชาของพระองค์ ลมพายุนั้นจะทำลายทุกสิ่งจนกระทั่งไม่มีอะไร เหลือนอกจากบ้านพักอาศัยที่สลักหักพังที่ว่างเปล่า และนี่แหละการตอบแทนด้วยความพินาศ ซึ่งเราจะตอบแทนผู้กระทำผิดทั้งหลายที่พวกเขาทำลายตัวเองด้วยการทำชิริก และการฝ่าฝืน
46:26
وَلَقَدْ مَكَّنَّـٰهُمْ فِيمَآ إِن مَّكَّنَّـٰكُمْ فِيهِ وَجَعَلْنَا لَهُمْ سَمْعًۭا وَأَبْصَـٰرًۭا وَأَفْـِٔدَةًۭ فَمَآ أَغْنَىٰ عَنْهُمْ سَمْعُهُمْ وَلَآ أَبْصَـٰرُهُمْ وَلَآ أَفْـِٔدَتُهُم مِّن شَىْءٍ إِذْ كَانُوا۟ يَجْحَدُونَ بِـَٔايَـٰتِ ٱللَّهِ وَحَاقَ بِهِم مَّا كَانُوا۟ بِهِۦ يَسْتَهْزِءُونَ
Translation: และแน่นอน เราได้ตั้งหลักแหล่งที่มั่นคงแก่พวกเขา โดยที่เรามิได้ตั้งหลักแหล่งที่มั่นคงแก่พวกเจ้าในนั้น และเราได้ทำให้พวกเขามีหู มีตา และมีหัวใจ แต่ว่าหูของพวกเขา ตาของพวกเขา และหัวใจของพวกเขามิได้อำนวยประโยชน์อันใดแก่พวกเขา โดยที่พวกเขาปฏิเสธสัญญาณต่าง ๆ ของอัลลอฮ์และสิ่งที่พวกเขาได้เคยเยาะเย้ยไว้นั้นก็ห้อมล้อมพวกเขา(25)
Comment: (25)เราได้ให้ความมั่นคงแข็งแรงทางด้านวัตถุแก่หมู่ชนอ๊าด โดยที่เรามิได้ให้แก่พวกเจ้าชาวกุฟฟารกุเรช และเราได้ให้ หู ตา หัวใจ แก่พวกเขา แต่สัมผัสดังกล่าวนั้นมิได้อำนวยประโยชน์อันใดแก่พวกเขา และมันก็มิได้ปกป้องสิ่งใดจากการลงโทษของอัลลอฮ์ไปได้ ทั้งนี้เพราะพวกเขาปฏิเสธสัญญาณต่าง ๆ ของอัลลอฮ์
46:27
وَلَقَدْ أَهْلَكْنَا مَا حَوْلَكُم مِّنَ ٱلْقُرَىٰ وَصَرَّفْنَا ٱلْـَٔايَـٰتِ لَعَلَّهُمْ يَرْجِعُونَ
Translation: และโดยแน่นอน เราได้ทำลายหมู่บ้านต่าง ๆ ที่อยู่รอบ ๆ พวกเจ้า และเราได้แจกแจงสัญญาณต่าง ๆ หลายต่อหลายครั้ง หวังว่าพวกเขาจะกลับมาสำนึกผิด(26)
Comment: (26)เป็นการขู่แก่พวกกุฟฟารมักกะฮ์อีกว่าเราได้ทำลายเมืองต่าง ๆ ที่อยู่ข้างเคียงพวกเจ้า เช่น หมู่บ้านของอ๊าด ษะมูด สะบะอ์ และหมู่ชนของลูฏ และเราได้นำหลักฐานต่าง ๆ อย่างชัดแจ้ง และข้อแนะนำต่าง ๆ หวังว่าพวกเขาจะกลับเนื้อกลับตัวจากการดื้อรั้น และการหลงทางของพวกเขา
46:28
فَلَوْلَا نَصَرَهُمُ ٱلَّذِينَ ٱتَّخَذُوا۟ مِن دُونِ ٱللَّهِ قُرْبَانًا ءَالِهَةًۢ ۖ بَلْ ضَلُّوا۟ عَنْهُمْ ۚ وَذَٰلِكَ إِفْكُهُمْ وَمَا كَانُوا۟ يَفْتَرُونَ
Translation: ทำไมบรรดาที่พวกเขายึดถือมันเป็นพระเจ้าอื่นจากอัลลอฮ์เพื่อความใกล้ชิด (กับอัลลอฮ์) จึงไม่ช่วยเหลือพวกเขาเล่า ? แต่พวกมันได้หายสาปสูญไปจากพวกเขา และนั่นคือ การกล่าวเท็จของพวกเขาและสิ่งที่พวกเขากุขึ้น(27)
Comment: (27)ทำไมพระเจ้าต่าง ๆ ของพวกเขาที่พวกเขากราบไหว้บูชา จึงไม่ช่วยเหลือพวกเขาให้พ้นจากการลงโทษของอัลลอฮ์เล่า ? แต่ว่าพวกมันได้หายหน้าจากการให้ความช่วยเหลือพวกเขาในขณะที่พวกเขามีความต้องการอย่างยิ่ง ต่อความช่วยเหลือสิ่งที่ประสบแก่พวกเขานั้นคือ การกล่าวเท็จแก่อัลลอฮ์ โดยพวกเขากล่าวอ้างว่ารูปปั้นหรือเจว็ดต่าง ๆ นั้น คู่เคียงกับอัลลอฮ์ และจะช่วยเหลือแก่พวกเขา ณ ที่อัลลอฮ์
46:29
وَإِذْ صَرَفْنَآ إِلَيْكَ نَفَرًۭا مِّنَ ٱلْجِنِّ يَسْتَمِعُونَ ٱلْقُرْءَانَ فَلَمَّا حَضَرُوهُ قَالُوٓا۟ أَنصِتُوا۟ ۖ فَلَمَّا قُضِىَ وَلَّوْا۟ إِلَىٰ قَوْمِهِم مُّنذِرِينَ
Translation: และจงรำลึกเมื่อเราได้ให้ญินจำนวนหนึ่งมุ่งไปยังเจ้า เพื่อฟังอัลกุรอาน ครั้นเมื่อพวกเขามาปรากฏตัวต่อหน้าอัลกุรอาน พวกเขากล่าวว่า จงนิ่งฟังซิ เมื่อ (การอ่าน) จบลงแล้ว พวกเขาก็หันกลับไปยังหมู่ชนของพวกเขาเพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ตักเตือน(28)
Comment: (28)จงรำลึกซิมุฮัมมัดเอ๋ย ขณะที่เราได้ส่งญินจำนวนหนึ่งไปฟังเจ้าอ่านอัลกุรอานที่ทุ่งอัลนัคละฮ์ในตอนเช้ามืด เมื่อพวกเขามาปรากฏตัวขณะที่เจ้ากำลังอ่านอัลกุรอาน พวกเขาได้กล่าวซึ่งกันและกันว่า จงนิ่งฟังอัลกุรอาน เมื่อเจ้าได้อ่านจบแล้ว พวกเขาได้กลับไปหาพรรคพวกของเขาโดยกล่าวเตือนพวกเขาถึงการลงโทษของอัลลอฮ์หากพวกเขาไม่ยอมศรัทธา และนี่เป็นการเตือนสำทับพวกมุชริกีนกุเรช เพราะพวกญินเมื่อได้ฟังอัลกุรอาน ก็ศรัทธาและเชื่อว่ามาจากอัลลอฮ์ แต่พวกเจ้าได้ผินหลังให้ และยืนกรานที่จะอยู่ในการเป็นกุฟร์
46:30
قَالُوا۟ يَـٰقَوْمَنَآ إِنَّا سَمِعْنَا كِتَـٰبًا أُنزِلَ مِنۢ بَعْدِ مُوسَىٰ مُصَدِّقًۭا لِّمَا بَيْنَ يَدَيْهِ يَهْدِىٓ إِلَى ٱلْحَقِّ وَإِلَىٰ طَرِيقٍۢ مُّسْتَقِيمٍۢ
Translation: พวกเขากล่าวว่า โอ้หมู่ชนของเราเอ๋ย แท้จริงเราได้ฟังคัมภีร์ (อัลกุรอาน) ถูกประทานลงมาหลังจากมูซา เป็นการยืนยันในสิ่งที่ได้มีมาก่อนอัลกุรอาน เพื่อชี้แนะทางไปสู่สัจธรรม และแนวทางที่เที่ยงตรง(29)
Comment: (29)พวกเขากล่าวว่า โอ้หมู่ชนของเรา เราได้ยินคัมภีร์ที่มีสำนวนไพเราะถูกประทานให้แก่ร่อซูลหลังจากมูซา เป็นการยืนยันถึงที่ได้มีมาก่อนคือ คัมภีร์อัตเตารอฮ์ อัลกุรอานนี้ได้ชี้แนะไปสู่ควมจริงอันชัดแจ้งและศาสนาของอัลลอฮ์ที่เที่ยงธรรม
46:31
يَـٰقَوْمَنَآ أَجِيبُوا۟ دَاعِىَ ٱللَّهِ وَءَامِنُوا۟ بِهِۦ يَغْفِرْ لَكُم مِّن ذُنُوبِكُمْ وَيُجِرْكُم مِّنْ عَذَابٍ أَلِيمٍۢ
Translation: โอ้หมู่ชนของเราเอ๋ย จงตอบรับต่อผู้เรียกร้องของอัลลอฮ์เถิด และจงศรัทธาต่อเขา พระองค์จะทรงอภัยโทษจากความผิดของพวกท่านให้แก่พวกท่าน และจะทรงให้พวกท่านรอดพ้นจากการลงโทษอันเจ็บปวด(30)
Comment: (30)พวกท่านจงตอบรับการเรียกร้องของมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุลัยฮิวะซัลลัม ในสิ่งที่เขาเชิญชวนไปสู่การอีมาน และจงเชื่อมั่นต่อการเป็นร่อซูลของเรา แล้วอัลลอฮ์จะทรงลบล้างความผิดของพวกท่านให้แก่พวกท่าน และจะคุ้มกันพวกท่านให้พ้นจากการลงโทษของพระองค์
46:32
وَمَن لَّا يُجِبْ دَاعِىَ ٱللَّهِ فَلَيْسَ بِمُعْجِزٍۢ فِى ٱلْأَرْضِ وَلَيْسَ لَهُۥ مِن دُونِهِۦٓ أَوْلِيَآءُ ۚ أُو۟لَـٰٓئِكَ فِى ضَلَـٰلٍۢ مُّبِينٍ
Translation: และผู้ใดที่ไม่ตอบรับผู้เรียกร้องของอัลลอฮ์เขาจะไม่รอดพ้น (จากการลงโทษ) ในแผ่นดินนี้ และสำหรับเขาจะไม่มีผู้คุ้มครองอื่นจากพระองค์ ชนเหล่านี้อยู่ในการหลงผิดอย่างชัดแจ้ง(31)
Comment: (31)และผู้ใดไม่ศรัทธาต่ออัลลอฮ์ และไม่ตอบรับการเรียกร้องของร่อซูลของพระองค์ เขาจะไม่รอดพ้นจากการลงโทษของอัลลอฮ์ และไม่สามารถจะหลบหนีไปไหนได้ เขาจะไม่มีผู้ช่วยเหลือคุ้มครองเขาให้พ้นจากการลงโทษของอัลลอฮ์ไปได้ ชนเหล่านั้นย่อมอยู่ในการขาดทุนอย่างย่อยยับและการหลงผิดอย่างไกลลิบ
46:33
أَوَلَمْ يَرَوْا۟ أَنَّ ٱللَّهَ ٱلَّذِى خَلَقَ ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضَ وَلَمْ يَعْىَ بِخَلْقِهِنَّ بِقَـٰدِرٍ عَلَىٰٓ أَن يُحْـِۧىَ ٱلْمَوْتَىٰ ۚ بَلَىٰٓ إِنَّهُۥ عَلَىٰ كُلِّ شَىْءٍۢ قَدِيرٌۭ
Translation: และพวกเขาไม่เห็นดอกหรือว่า แท้จริงอัลลอฮ์ซึ่งทรงสร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินนี้ และมิทรงอ่อนเพลียต่อการสร้างสิ่งเหล่านั้น ย่อมทรงเป็นผู้อานุภาพที่จะให้คนตายมีชีวิตขึ้นมาอีก แน่นอนแท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงอานุภาพเหนือทุก ๆ สิ่ง(32)
Comment: (32)พวกกุฟฟารผู้ปฏิเสธการฟื้นคืนชีพเหล่านั้นไม่เห็นดอกหรือว่า อัลลอฮ์ผู้ทรงยิ่งใหญ่ผู้ทรงเดชานุภาพ ซึ่งทรงสร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน เริ่มมาจากไม่มีแบบอย่างมาก่อนเลย พระองค์จะไม่ทรงอ่อนเปลี้ยหรือเหน็ดเหนื่อยในการสร้างสิ่งเหล่านั้น และแน่นอนพระองค์ทรงอานุภาพที่จะให้คนตายไปแล้วกลับฟื้นคืนชีพมาจากหลุมฝังศพ เพื่อการตอบแทนตามผลงานของแต่ละคน
46:34
وَيَوْمَ يُعْرَضُ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ عَلَى ٱلنَّارِ أَلَيْسَ هَـٰذَا بِٱلْحَقِّ ۖ قَالُوا۟ بَلَىٰ وَرَبِّنَا ۚ قَالَ فَذُوقُوا۟ ٱلْعَذَابَ بِمَا كُنتُمْ تَكْفُرُونَ
Translation: และวันซึ่งบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาจะถูกนำมาอยู่ต่อหน้าไฟนรก (จะมีเสียงกล่าวขึ้นว่า) นี่มิใช่ความจริงดอกหรือ? พวกเขากล่าวว่า แน่นอนครับ ขอสาบานต่อพระผู้อภิบาลของเรา พระองค์ตรัสว่า ดังนั้นพวกเจ้าจงลิ้มรสการลงโทษตามที่พวกเจ้าได้ปฏิเสธศรัทธา(33)
Comment: (33)มุฮัมมัดจงเตือนให้พวกมุชริกีนเหล่านั้นรำลึกถึงความน่ากลัว ซึ่งพวกเขาจะได้เห็นในวันกิยามะฮ์ และวันที่พวกเขาจะถูกนำมาอยู่ต่อหน้าไฟนรกว่า การลงโทษที่พวกท่านจะได้ลิ้มรสอยู่นี้มิใช่ความจริงดอกหรือ ? พวกเขาตอบว่า เป็นความจริงครับ ขอสาบานด้วยเกียรติแห่งพระเจ้าของเรา ได้มีเสียงกล่าวแก่พวกเขาว่า ดังนั้นจงลิ้มรสการลงโทษอันเจ็บปวด เพราะการปฏิเสธของพวกเจ้าเถิด
46:35
فَٱصْبِرْ كَمَا صَبَرَ أُو۟لُوا۟ ٱلْعَزْمِ مِنَ ٱلرُّسُلِ وَلَا تَسْتَعْجِل لَّهُمْ ۚ كَأَنَّهُمْ يَوْمَ يَرَوْنَ مَا يُوعَدُونَ لَمْ يَلْبَثُوٓا۟ إِلَّا سَاعَةًۭ مِّن نَّهَارٍۭ ۚ بَلَـٰغٌۭ ۚ فَهَلْ يُهْلَكُ إِلَّا ٱلْقَوْمُ ٱلْفَـٰسِقُونَ
Translation: ดังนั้นเจ้าจงอดทนดังเช่นบรรดาผู้ตั้งจิตมั่นแห่งร่อซูลทั้งหลาย ได้อดทนมาก่อนแล้ว และอย่ารีบเร่ง (ให้มีการลงโทษ) แก่พวกเขา วันที่พวกเขาจะเห็นสิ่งที่ถูกสัญญาไว้แก่พวกเขานั้น ประหนึ่งว่าพวกเขามิได้พำนักอยู่ในโลกนี้เว้นแต่เพียงชั่วครู่หนึ่งยามกลางวันเท่านั้น นี้คือการประกาศตักเตือนดังนั้นความหายนะจะไม่ประสบแก่ผู้ใดนอกจากหมู่ชนผู้ฝ่าฝืนเท่านั้น(34)
Comment: (34)ดังนั้นเจ้าจงอดทน โอ้มุฮัมมัดเอ๋ย ต่อการทำร้ายของพวกมุชริกีน ดังเช่นบรรดาผู้ตั้งจิตมั่นแห่งร่อซูลทั้งหลายคือ นูห์ อิบรอฮีม ได้อดทนมาก่อนแล้ว และอย่าได้วิงวอนขอไห้มีการลงโทษแก่พวกกุเรชอย่างรีบด่วนเพราะการลงโทษนั้นจะเกิดขึ้นแก่พวกเขาอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง วันที่พวกเขาเห็นสิ่งที่ถูกสัญญาไว้แก่พวกเขานั้น คือการลงโทษประหนึ่งว่าพวกเขาพำนักอยู่ในโลกดุนยาเพียงชั่วโมงของเวลากลางวันเท่านั้น คือขณะที่พวกเขาพบเห็นการลงโทษอย่างหนักหน่วงและยาวนาน ดังกล่าวนี้ คือการประกาศตักเตือนแก่ปวงมนุษย์ ความหายนะและความวิบัติจะไม่เกิดขึ้นแก่ผู้ใดนอกจากบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา ที่ออกนอกลู่นอกทางจากการจงรักภักดีต่ออัลลอฮ์