سورة غافر
Al-Ghaafir
The Forgiver
meccan . 85 Ayahs
بِسْمِ ٱللَّهِ ٱلرَّحْمَـٰنِ ٱلرَّحِيمِ
40:1
حمٓ
Translation: ฮามีม(1)
Comment: (1)ซูเราะฮ์นี้เป็นหนึ่งในซูเราะฮ์ทั้งเจ็ดที่เริ่มด้วยอักษร ฮา มีม และเรียกว่า ฮา มีม ทั้งเจ็ด หรือตระกูล ฮา มีม
40:2
تَنزِيلُ ٱلْكِتَـٰبِ مِنَ ٱللَّهِ ٱلْعَزِيزِ ٱلْعَلِيمِ
Translation: คัมภีร์นี้เป็นการประทานลงมาจากอัลลอฮ์ผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงรอบรู้(2)
Comment: (2)เราได้ประทานอัลกุรอานนี้แก่เจ้า ซึ่งประมวลไว้ด้วยสัจธรรมปราศจากการสงสัยใด ๆ ทั้งสิ้น และข้อเท็จจริงที่ไม่มีความเท็จ หรือไร้สาระเจือปนอยู่เลย อัลกุรอานนี้ถูกประทานลงมาจากพระผู้ทรงเดชานุภาพในอำนาจของพระองค์ ทรงรอบรู้ในกิจการของปวงบ่าวของพระองค์
40:3
غَافِرِ ٱلذَّنۢبِ وَقَابِلِ ٱلتَّوْبِ شَدِيدِ ٱلْعِقَابِ ذِى ٱلطَّوْلِ ۖ لَآ إِلَـٰهَ إِلَّا هُوَ ۖ إِلَيْهِ ٱلْمَصِيرُ
Translation: ผู้ทรงอภัยในบาป และผู้ทรงรับการขอลุแก่โทษ ผู้ทรงเข้มงวดในการลงโทษ ผู้ทรงเต็มเปี่ยมไปด้วยความโปรดปราน ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ ยังพระองค์คือการกลับไป(3)
Comment: (3)พระผู้ทรงอภัยจากการทำบาปของปวงบ่าว และทรงรับการกลับเนื้อกลับตัวของบรรดาผู้ละเมิดและสำนึกผิด และทรงลงโทษอย่างเฉียบขาดแก่ผู้เย่อหยิ่ง ผู้ละเมิดขอบเขต และผินหลังให้กับการจงรักภักดีต่อพระองค์ พระองค์เป็นผู้ทรงเต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตาและความโปรดปราน
40:4
مَا يُجَـٰدِلُ فِىٓ ءَايَـٰتِ ٱللَّهِ إِلَّا ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ فَلَا يَغْرُرْكَ تَقَلُّبُهُمْ فِى ٱلْبِلَـٰدِ
Translation: ไม่มีผู้ใดจะโต้เถียงในอายะฮฺของอัลลอฮ์(อัลกุรอาน) นอกจากบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา ดังนั้น อย่าให้การวางมาดของพวกเขาในหัวเมืองต่าง ๆ เป็นที่หลอกลวงแก่เจ้า(4)
Comment: (4)อัลอายาตของอัลกุรอานเป็นที่ชัดแจ้งแล้ว ดังนั้นบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาเท่านั้นที่จะโต้เถียงและไม่ยอมรับความจริง และอย่าได้ให้พวกเขาที่ได้ตระเวนไปตามหัวเมืองต่าง ๆ เพื่อแสดงความยิ่งใหญ่ของพวกเขาหลอกลวงเจ้า ความภาคภูมิใจของพวกเขานั้นเป็นเพียงชั่วครู่ชั่วยาม และจะต้องสูญสิ้นไป แต่สิ่งที่แน่นอนที่สุดนั้นคือพวกเขาจะต้องได้รับการลงโทษ เพราะข้านั้นจะทรงผ่อนผันให้แก่พวกเขา แต่จะไม่ทอดทิ้งพวกเขาอย่างแน่นอน อายะฮ์นี้เป็นการปลอบใจท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และเป็นสัญญาร้ายแก่พวกกุฟฟาร
40:5
كَذَّبَتْ قَبْلَهُمْ قَوْمُ نُوحٍۢ وَٱلْأَحْزَابُ مِنۢ بَعْدِهِمْ ۖ وَهَمَّتْ كُلُّ أُمَّةٍۭ بِرَسُولِهِمْ لِيَأْخُذُوهُ ۖ وَجَـٰدَلُوا۟ بِٱلْبَـٰطِلِ لِيُدْحِضُوا۟ بِهِ ٱلْحَقَّ فَأَخَذْتُهُمْ ۖ فَكَيْفَ كَانَ عِقَابِ
Translation: (เพราะ) ก่อนหน้าพวกเขานั้น หมู่ชนของนูห์และพลพรรคต่างๆ หลังจากพวกเขาได้ปฏิเสธมาก่อนแล้ว และทุกๆ ประชาชาติได้ตั้งใจที่จะทำลายล้างร่อซูลของพวกเขาและโต้เถียงด้วยความเท็จ เพื่อที่จะลบล้างความจริงให้สูญสิ้นไป ดังนั้นข้าจึงได้ลงโทษพวกเขาแล้วเป็นอย่างไรบ้างการลงโทษของข้า(5)
Comment: (5)ก่อนหน้าพวกกุฟฟารมักกะฮ์ มีหมู่ชนอื่น ๆ เช่น กลุ่มชนของนูห์ อ๊าด, ษะมูด, ฟิรอาวน์ และอื่น ๆ ได้ปฏิเสธบรรดานบีของพวกเขามาก่อนแล้ว แต่ละประชาชาติได้ตั้งใจที่จะฆ่าร่อซูลของพวกเขา และได้โต้เถียงบรรดาร่อซูลด้วยความเท็จ เพื่อที่จะลบล้างสัจธรรมให้หมดสิ้นไป สำหรับพวกเขาเหล่านี้เราได้ลงโทษพวกเขา ซึ่งเป็นที่ประจักษ์แก่พวกกุฟฟารมักกะฮ์ เพราะพวกเขาได้ไปพบเห็นมาแล้ว
40:6
وَكَذَٰلِكَ حَقَّتْ كَلِمَتُ رَبِّكَ عَلَى ٱلَّذِينَ كَفَرُوٓا۟ أَنَّهُمْ أَصْحَـٰبُ ٱلنَّارِ
Translation: และเช่นนั้นแหละ ประกาศิตแห่งพระผู้อภิบาลของเจ้าได้เป็นที่สมจริงแก่บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาว่าพวกเขาเป็นชาวนรก(6)
Comment: (6)ดังที่ประกาศิตแห่งการลงโทษได้กำหนดไว้แก่บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาในสมัยก่อนๆ ว่า พวกเขาต้องเป็นชาวนรก ดังนั้น บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาชาวมักกะฮ์ก็จะมีสภาพเช่นเดียวกันอย่างแน่นอน
40:7
ٱلَّذِينَ يَحْمِلُونَ ٱلْعَرْشَ وَمَنْ حَوْلَهُۥ يُسَبِّحُونَ بِحَمْدِ رَبِّهِمْ وَيُؤْمِنُونَ بِهِۦ وَيَسْتَغْفِرُونَ لِلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ رَبَّنَا وَسِعْتَ كُلَّ شَىْءٍۢ رَّحْمَةًۭ وَعِلْمًۭا فَٱغْفِرْ لِلَّذِينَ تَابُوا۟ وَٱتَّبَعُوا۟ سَبِيلَكَ وَقِهِمْ عَذَابَ ٱلْجَحِيمِ
Translation: บรรดาผู้แบกบัลลังก์ และผู้ที่อยู่รอบๆ บัลลังก์ ต่างก็แซ่ซ้องสดุดีด้วยการสรรเสริญพระผู้อภิบาลของพวกเขา และศรัทธาต่อพระองค์ และอภัยโทษให้แก่บรรดาผู้ศรัทธา ข้าแต่พระเจ้าของเรา พระองค์ท่านทรงแผ่ความเมตตาและความรอบรู้ไปทั่วทุกสิ่ง ขอพระองค์ทรงโปรดอภัยแก่บรรดาผู้ลุแก่โทษ และดำเนินตามแนวทางของพระองค์ท่าน และทรงคุ้มครองพวกเขาให้พ้นจากการลงโทษแห่งไฟนรก(7)
Comment: (7)บรรดามลาอิกะฮ์ผู้แบกบัลลังก์ และผู้ที่เรียงรายล้อมรอบบัลลังก์ ซึ่งเป็นบ่าวผู้มีเกียรติ ไม่มีผู้ใดรู้จำนวนแน่นอนนอกจากอัลลอฮ์พวกเขาอยู่ในสภาพทำการอิบาดะฮ์ต่ออัลลอฮ์อยู่ตลอดกาล จะให้ความบริสุทธิ์ และแซ่ซ้องสดุดีไม่ขาดระยะ พวกเขามีความเชื่อมั่นศรัทธาต่อการมีของพระองค์ นอบน้อมไม่เย่อหยิ่งในการทำอิบาดะฮ์ต่อพระองค์ พวกเขาจะวิงวอนขออภัยโทษให้แก่บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย ตลอดจนผู้ขอลุแก่โทษด้วย เพื่อกลับตัวและดำเนินตามแนวทางแห่งสัจธรรม ซึ่งบรรดาร่อซูลและนบีได้นำมาเผยแผ่ และขอให้ทรงคุ้มครองบรรดาผู้ศรัทธาเหล่านั้นได้พ้นจากการลงโทษแห่งไฟนรก
40:8
رَبَّنَا وَأَدْخِلْهُمْ جَنَّـٰتِ عَدْنٍ ٱلَّتِى وَعَدتَّهُمْ وَمَن صَلَحَ مِنْ ءَابَآئِهِمْ وَأَزْوَٰجِهِمْ وَذُرِّيَّـٰتِهِمْ ۚ إِنَّكَ أَنتَ ٱلْعَزِيزُ ٱلْحَكِيمُ
Translation: ข้าแต่พระผู้อภิบาลของเรา และขอพระองค์ทรงให้พวกเขาได้เข้าในสวนสวรรค์หลากหลายอันสถาพร ซึ่งพระองค์ได้ทรงสัญญาแก่พวกเขาพร้อมทั้งผู้กระทำความดีจากบรรพบุรุษของพวกเขา และคู่ครองของพวกเขาและลูกหลานของพวกเขา แท้จริงพระองค์ท่านนั้นเป็นผู้ทรงมีอำนาจ ผู้ทรงปรีชาญาณ(8)
Comment: (8)นอกจากนั้นพวกเขายังได้วิงวอนขอให้คุ้มครองปู่ย่าตายายของพวกเขา ตลอดจนลูกหลานผู้กระทำความดีให้ได้เข้าในสวนสวรรค์ เพื่อที่จะให้พวกเขาได้มีความสุขอย่างสมบูรณ์ อย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
40:9
وَقِهِمُ ٱلسَّيِّـَٔاتِ ۚ وَمَن تَقِ ٱلسَّيِّـَٔاتِ يَوْمَئِذٍۢ فَقَدْ رَحِمْتَهُۥ ۚ وَذَٰلِكَ هُوَ ٱلْفَوْزُ ٱلْعَظِيمُ
Translation: และขอพระองค์ทรงคุ้มครองพวกเขาให้พ้นจากความชั่วทั้งหลาย และผู้ใดที่พระองค์ทรงคุ้มครองให้พ้นจากความชั่วทั้งหลายในวันนั้นดังนั้นแน่นอนพระองค์ท่านทรงเมตตาแก่เขา และนั่นคือมันเป็นความสำร็จอันใหญ่หลวง(9)
Comment: (9)ผู้ใดที่พระองค์ทรงคุ้มครองให้พวกเขาพ้นจากความชั่ว หรือการลงโทษ นั่นหมายถึงว่า เขาได้รับความโปรดปรานและเมตตาจากพระองค์ และนั่นคือ ความสำเร็จอันใหญ่หลวง
40:10
إِنَّ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ يُنَادَوْنَ لَمَقْتُ ٱللَّهِ أَكْبَرُ مِن مَّقْتِكُمْ أَنفُسَكُمْ إِذْ تُدْعَوْنَ إِلَى ٱلْإِيمَـٰنِ فَتَكْفُرُونَ
Translation: แท้จริงบรรดาผู้ปฎิเสธศรัทธานั้นจะมีเสียงตะโกนบอกว่า การเกลียดชังของอัลลอฮ์นั้นยิ่งใหญ่กว่าการเกลียดชังของพวกเจ้าต่อตัวของพวกเจ้าเอง เมื่อพวกเจ้าถูกเรียกร้องสู่การศรัทธา แล้วพวกเจ้าก็ได้ปฏิเสธศรัทธา(10)
Comment: (10)ในวันกิยามะฮ์ มลาอิกะฮ์จะตะโกนเป็นเชิงประณามแก่พวกกุฟฟารว่า การเกลียดชังของอัลลอฮ์แก่พวกเจ้า ในโลกดุนยานั้นยิ่งใหญ่กว่าการเกลียดชังของพวกเจ้าต่อตัวของพวกเจ้าเองในวันนี้ ขณะที่พวกเจ้ามองเห็นการลงโทษของอัลลอฮ์
40:11
قَالُوا۟ رَبَّنَآ أَمَتَّنَا ٱثْنَتَيْنِ وَأَحْيَيْتَنَا ٱثْنَتَيْنِ فَٱعْتَرَفْنَا بِذُنُوبِنَا فَهَلْ إِلَىٰ خُرُوجٍۢ مِّن سَبِيلٍۢ
Translation: พวกเขากล่าวว่า ข้าแต่พระผู้อภิบาลของเรา พระองค์ท่านได้ทรงทำให้เราตายสองครั้ง และพระองค์ท่านได้ทรงทำให้เรามีชีวิตสองครั้ง ดังนั้นเราขอสารภาพต่อความผิดทั้งหลายของเราดังนั้นจะมีทางออก(แก่เรา)ไหม?(11)
Comment: (11)นักตัฟซีรกล่าวว่า การตายครั้งแรกขณะที่พวกเขายังไม่เกิด การตายครั้งที่สองเมื่อพวกเขาตายในโลกดุนยา ส่วนการมีชีวิตครั้งแรก การมีชีวิตอยู่ในโลกดุนยา การมีชีวิตครั้งที่สองคือการมีชีวิตในการฟื้นคืนชีพวันกิยามะฮ์ นี่คือการตายสองครั้งและการมีชีวิตสองครั้ง นี่คือทัศนะของ อิบนุมัสอู๊ด อิบนุอับบาส และกอตาดะฮ์
40:12
ذَٰلِكُم بِأَنَّهُۥٓ إِذَا دُعِىَ ٱللَّهُ وَحْدَهُۥ كَفَرْتُمْ ۖ وَإِن يُشْرَكْ بِهِۦ تُؤْمِنُوا۟ ۚ فَٱلْحُكْمُ لِلَّهِ ٱلْعَلِىِّ ٱلْكَبِيرِ
Translation: นั่นก็เพราะว่า แท้จริงเมืออัลลอฮ์พระองค์เดียวถูกกล่าวขึ้น พวกเจ้าก็ปฎิเสธศรัทธา และเมื่อหากให้มีการตั้งภาคีกับพระองค์พวกเจ้าก็ศรัทธา ดังนั้น การตัดสินชี้ขาดเป็นสิทธิของอัลลอฮ์ผู้ทรงสูงส่ง ผู้ทรางยิ่งใหญ่(12)
Comment: (12)นั่นคือการลงโทษด้วยการอยู่ในนรกตลอดกาล เพราะการปฏิเสธศรัทธาต่ออัลลอฮ์ของพวกเจ้าคือ เมื่อพวกเจ้าถูกเรียกร้องไปสู่ความเป็นเอกภาพ พวกเจ้าก็ปฏิเสธการศรัทธา และเมื่อมีการเรียกร้องไปสู่อัลลาต อัลอุซซา และเจว็ดอื่นๆ พวกเจ้าก็ศรัทธาต่อการเป็นพระเจ้าของมัน ดังนั้นการชี้ขาดตัดสินจึงเป็นของอัลลอฮ์พระองค์เดียว มิใช่พวกเจว็ดหรือรูปปั้นใด ๆ ทั้งสิ้น และไม่มีทางที่พวกเจ้าจะรอดพ้นไปได้ เพราะพระองค์ทรงสูงส่งเหนือปวงบ่าวของพระองค์ ทรงยิ่งใหญ่ในอำนาจของพระองค์ ซึ่งจะกระทำในสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์
40:13
هُوَ ٱلَّذِى يُرِيكُمْ ءَايَـٰتِهِۦ وَيُنَزِّلُ لَكُم مِّنَ ٱلسَّمَآءِ رِزْقًۭا ۚ وَمَا يَتَذَكَّرُ إِلَّا مَن يُنِيبُ
Translation: พระองค์เป็นผู้แสดงให้เห็นถึงสัญญาณทั้งหลายของพระองค์แก่พวกเจ้า และได้ประทานปัจจัยยังชีพลงมาจากฟากฟ้าแก่พวกเจ้า(13) และจะไม่มีใครใคร่ครวญนอกจากผู้สำนึกตัว
Comment: (13)คือน้ำฝนซึ่งเป็นเหตุแห่งปัจจัยยังชีพและทำให้พืชพันธุ์และผลไม้งอกเงยออกมา
40:14
فَٱدْعُوا۟ ٱللَّهَ مُخْلِصِينَ لَهُ ٱلدِّينَ وَلَوْ كَرِهَ ٱلْكَـٰفِرُونَ
Translation: ดังนั้น จงวิงวอนขอต่ออัลลอฮ์โดยเป็นผู้มีความบริสุทธิ์ใจในศาสนาต่อพระองค์(14) แม้ว่า พวกปฎิเสธศรัทธาจะเกลียดชังก็ตาม
Comment: (14)คือจงอิบาดะฮ์ต่ออัลลอฮ์เถิด โอ้บรรดามุอ์มินทั้งหลาย โดยเป็นผู้มีความบริสุทธิ์ใจในศาสนาต่อพระองค์ และอย่าได้เคารพภักดีผู้ใดร่วมกับพระองค์
40:15
رَفِيعُ ٱلدَّرَجَـٰتِ ذُو ٱلْعَرْشِ يُلْقِى ٱلرُّوحَ مِنْ أَمْرِهِۦ عَلَىٰ مَن يَشَآءُ مِنْ عِبَادِهِۦ لِيُنذِرَ يَوْمَ ٱلتَّلَاقِ
Translation: ผู้ทรงตำแหน่งอันสูงเจ้าแห่งบัลลังก์ ทรงส่งวะฮีย์ตามพระบัญชาของพระองค์แก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์จากปวงบ่าวของพระองค์เพื่อเตือนให้รำลึกถึงวันแห่งการพบปะร่วมกัน (วันกิยามะฮ์)(15)
Comment: (15)พระองค์คืออัลลอฮ์ผู้ทรงตำแหน่งอันสูง เจ้าแห่งบัลลังก์อันยิ่งใหญ่ บัลลังก์นี้เป็นสิ่งที่ถูกบังเกิดที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ไม่มีสิ่งใดที่จะเทียบเคียงได้ในบรรดาสิ่งที่ถูกบังเกิดทั้งหลายของอัลลอฮ์ พระองค์จะประทานวะฮีย์ให้แก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และจะแต่งตั้งให้เขาเป็นร่อซูลเป็นนบี ก็ตาดะฮ์กล่าวว่า ชาวท้องฟ้า (มลาอิกะฮ์) และชาวแผ่นดิน (มนุษย์) จะพบปะกัน เพื่อจะถูกสอบสวนในการงานของพวกเขา
40:16
يَوْمَ هُم بَـٰرِزُونَ ۖ لَا يَخْفَىٰ عَلَى ٱللَّهِ مِنْهُمْ شَىْءٌۭ ۚ لِّمَنِ ٱلْمُلْكُ ٱلْيَوْمَ ۖ لِلَّهِ ٱلْوَٰحِدِ ٱلْقَهَّارِ
Translation: วันที่พวกเขาจะปรากฏตัวออกมา ไม่มีสิ่งใดของพวกเขาจะซ่อนเร้นไปจากอัลลอฮ์(16) อำนาจในวันนี้เป็นของผู้ใดเล่า ? แน่นอนมันเป็นของอัลลอฮ์ผู้ทรงเอกะผู้ทรงพิชิตโดยเด็ดขาด(17)
Comment: (16)วันที่พวกเขาจะออกมาจากกุบูร ไม่มีสิ่งใดจะปกปิดพวกเขา สภาพความเป็นอยู่ของพวกเขา การงานของพวกเขา ความลับต่าง ๆ ของพวกเขาจะไม่เป็นที่ซ่อนเร้นแก่พระองค์แต่อย่างใด
Comment: (17)อัลลอฮ์ ตะอาลา จะตรัสขณะที่มนุษย์ปรากฏตัวอยู่ในทุ่งมะห์ชัรว่า วันนี้อำนาจเป็นของผู้ใด? ไม่มี ผู้ใดตอบเพราะความกลัวและตกใจ แล้วพระองค์ก็จะตอบแก่พระองค์ว่า เป็นของอัลลอฮ์ ผู้ทรงเอกะ ผู้ทรงพิชิตโดยเด็ดขาด
40:17
ٱلْيَوْمَ تُجْزَىٰ كُلُّ نَفْسٍۭ بِمَا كَسَبَتْ ۚ لَا ظُلْمَ ٱلْيَوْمَ ۚ إِنَّ ٱللَّهَ سَرِيعُ ٱلْحِسَابِ
Translation: วันนี้ทุกชีวิตจะได้รับการตอบแทนตามที่มันได้กระทำไว้ ไม่มีการอธรรมในวันนี้ แท้จริงอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงฉับพลันในการสอบสวน(18)
Comment: (18)ในวันนั้น ซึ่งเป็นวันชี้ขาดตัดสินระหว่างปวงบ่าว ทุกคนจะได้รับการตอบแทนตามที่เขาได้กระทำไว้ทั้งความดี และความชั่ว คือ ความดีจะไม่ถูกลด ความชั่วจะไม่ถูกเพิ่ม
40:18
وَأَنذِرْهُمْ يَوْمَ ٱلْـَٔازِفَةِ إِذِ ٱلْقُلُوبُ لَدَى ٱلْحَنَاجِرِ كَـٰظِمِينَ ۚ مَا لِلظَّـٰلِمِينَ مِنْ حَمِيمٍۢ وَلَا شَفِيعٍۢ يُطَاعُ
Translation: และจงเตือนพวกเขาให้ทราบถึงวันที่ใกล้เข้ามา (วันกิยามะฮ์) เมื่อหัวใจเข้ามาติดอยู่ที่ลำคอด้วยความอดกลั้น(19) ไม่มีมิตรที่สนิทสนมสำหรับบรรดาผู้อธรรม และไม่มีผู้ช่วยเหลือคนใดจะได้รับการเชื่อฟัง(20)
Comment: (19)เป็นการเปรียบเทียบเมื่อเกิดความกลัวจนสุดขีด ว่าหัวใจขึ้นมาติดอยู่ที่ลูกกระเดือก
Comment: (20)คือมิตรที่สนิทก็ไม่สามารถจะให้ความช่วยเหลือได้ และผู้ช่วยเหลือคนใดก็ไม่อาจจะช่วยเหลือเขาให้พ้นจากการลงโทษอันหนักหน่วงได้
40:19
يَعْلَمُ خَآئِنَةَ ٱلْأَعْيُنِ وَمَا تُخْفِى ٱلصُّدُورُ
Translation: พระองค์ทรงรอบรู้การทรยศของดวงตา และสิ่งที่ทรวงอกปกปิดอยู่(21)
Comment: (21)คือดวงตาที่ทรยศด้วยการแอบมองสิ่งที่เป็นที่ต้องห้าม และความลับต่าง ๆ ที่ซ่อนอยู่ในทรวงอก
40:20
وَٱللَّهُ يَقْضِى بِٱلْحَقِّ ۖ وَٱلَّذِينَ يَدْعُونَ مِن دُونِهِۦ لَا يَقْضُونَ بِشَىْءٍ ۗ إِنَّ ٱللَّهَ هُوَ ٱلسَّمِيعُ ٱلْبَصِيرُ
Translation: และอัลลอฮ์ทรงตัดสินด้วยความยุติธรรม และบรรดาผู้ที่วิงวอนขออื่นจากพระองค์นั้นพวกมันไม่อาจจะตัดสินใดๆ ได้(22) แท้จริงอัลลอฮ์พระองค์เป็นผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงเห็น
Comment: (22)คือบรรดาผู้ที่เคารพสักการะสิ่งอื่น ๆ เช่นรูปปั้นและเจว็ดต่าง ๆ อื่นจากอัลลอฮ์ พวกมันไม่อาจตัดสินใด ๆ ได้ เพราะพวกมันไม่ได้ยินและไม่เห็น
40:21
۞ أَوَلَمْ يَسِيرُوا۟ فِى ٱلْأَرْضِ فَيَنظُرُوا۟ كَيْفَ كَانَ عَـٰقِبَةُ ٱلَّذِينَ كَانُوا۟ مِن قَبْلِهِمْ ۚ كَانُوا۟ هُمْ أَشَدَّ مِنْهُمْ قُوَّةًۭ وَءَاثَارًۭا فِى ٱلْأَرْضِ فَأَخَذَهُمُ ٱللَّهُ بِذُنُوبِهِمْ وَمَا كَانَ لَهُم مِّنَ ٱللَّهِ مِن وَاقٍۢ
Translation: พวกเขามิได้ท่องเที่ยวไปตามแผ่นดินดอกหรือ ? แล้วพิจารณาดูว่าบั้นปลายของประชาชาติในยุคก่อนหน้าพวกเขาเป็นเช่นใด เขาเหล่านั้นมีพลังที่เข้มแข็งกว่าพวกเขา และได้ทิ้งร่องรอยไว้มากมาย แล้วอัลลอฮ์ก็ได้ทรงลงโทษพวกเขาด้วยความผิดของพวกเขา และไม่มีผู้ใดจะช่วยปกป้องพวกเขาให้พ้นจากอัลลอฮ์ได้(23)
Comment: (23)คือได้พบเห็นแล้วมิใช่หรือว่า ประชาชาติก่อนจากพวกเขาได้ประสบกับความหายนะ เพราะพวกเขาปฏิเสธไม่ยอมเชื่อบรรดาร่อซูลของพวกเขา ทั้ง ๆ ที่พวกเขาเหล่านั้นมีพลังเข้มแข็งกว่าพวกกุฟฟารมักกะฮ์ และได้ทิ้งร่องรอยไว้มากมายเช่น ป้อมปราการราชวัง ไพร่พลที่ทรงพลัง อัลลอฮ์ได้ลงโทษพวกเขา เพราะพวกเขาได้ปฏิเสธบรรดาร่อซูล
40:22
ذَٰلِكَ بِأَنَّهُمْ كَانَت تَّأْتِيهِمْ رُسُلُهُم بِٱلْبَيِّنَـٰتِ فَكَفَرُوا۟ فَأَخَذَهُمُ ٱللَّهُ ۚ إِنَّهُۥ قَوِىٌّۭ شَدِيدُ ٱلْعِقَابِ
Translation: นั่นก็เพราะว่าเมื่อบรรดาร่อซูลของพวกเขาได้มายังพวกเขาได้มายังพวกเขาพร้อมด้วยหลักฐานต่างๆ อันชัดแจ้งพวกเขาก็ได้ปฏิเสธศรัทธา ดังนั้นอัลลอฮ์จึงทรงลงโทษพวกเขา แท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงพลัง ผู้ทรงรุนแรงในการลงโทษ(24)
Comment: (24)การลงโทษของอัลลอฮ์นั้นก็เพราะว่า เมื่อบรรดาร่อซูลได้มาหาพวกเขาพร้อมด้วยสิ่งปาฏิหาริย์และสัญญาณอันชัดแจ้ง พวกเขาก็ปฏิเสธทั้ง ๆ ที่ได้มีการชี้แจงพร้อมด้วยหลักฐาน พระองค์จึงลงโทษพวกเขาอย่างสาหัสและสาสม
40:23
وَلَقَدْ أَرْسَلْنَا مُوسَىٰ بِـَٔايَـٰتِنَا وَسُلْطَـٰنٍۢ مُّبِينٍ
Translation: และโดยไม่แน่นอน เราได้ส่งมูซามาพร้อมด้วยสัญญาณต่างๆ ของเราและหลักฐานอันชัดแจ้ง
40:24
إِلَىٰ فِرْعَوْنَ وَهَـٰمَـٰنَ وَقَـٰرُونَ فَقَالُوا۟ سَـٰحِرٌۭ كَذَّابٌۭ
Translation: ไปยังฟิรอาวน์ และฮามาน และกอรูน แล้วพวกเขาก็กล่าวว่า (มูซาเป็น) มายากล นักโกหกตัวฉกาจ(25)
Comment: (25)ในหนังสือตัฟซีร “อัลบะหฺรุลมุฮีฏ” กล่าวไว้ว่า ที่กล่าวถึงกอรูนและฮามานโดยเฉพาะ ก็เพราะว่าทั้งสองคนเป็นบุคคลขั้นนำในการปฏิเสธศรัทธาและเป็นลูกน้องาคนสำคัญของฟิรอาวน์
40:25
فَلَمَّا جَآءَهُم بِٱلْحَقِّ مِنْ عِندِنَا قَالُوا۟ ٱقْتُلُوٓا۟ أَبْنَآءَ ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ مَعَهُۥ وَٱسْتَحْيُوا۟ نِسَآءَهُمْ ۚ وَمَا كَيْدُ ٱلْكَـٰفِرِينَ إِلَّا فِى ضَلَـٰلٍۢ
Translation: ครั้นเมื่อมูซาได้มายังพวกเขาด้วยสัจธรรมจากเรา พวกเขากล่าวว่า จงฆ่าลูกชายของบรรดาผู้ศรัทธาร่วมกับเขา และไว้ชีวิตผู้หญิงของพวกเขา แต่แผนการณ์ของพวกปฏิเสธศรัทธานั้นมิใช่อื่นใด นอกจากการผิดพลาด(26)
Comment: (26)ครั้นเมื่อมูซาได้ถูกส่งมายังพวกเขาพร้อมด้วยหลักฐานอันชัดแจ้ง พวกเขาได้วางแผนที่จะฆ่าลูกชายของผู้ศรัทธากับมูซา เพื่อมิให้พวกเขาสืบพันธุ์ และไว้ชีวิตลูกผู้หญิง เพื่อเอามารับใช้พวกเขา แต่แผนการของพวกเขานั้นจะไม่ประสบความสำเร็จ
40:26
وَقَالَ فِرْعَوْنُ ذَرُونِىٓ أَقْتُلْ مُوسَىٰ وَلْيَدْعُ رَبَّهُۥٓ ۖ إِنِّىٓ أَخَافُ أَن يُبَدِّلَ دِينَكُمْ أَوْ أَن يُظْهِرَ فِى ٱلْأَرْضِ ٱلْفَسَادَ
Translation: และฟิรอาวน์ กล่าวว่า จงปล่อยฉัน ฉันจะฆ่ามูซา และให้เขาวิงวอนขอพระผู้อภิบาลของเขา แท้จริง ฉันเกรงว่าเขาจะมาเปลี่ยนศาสนาของพวกท่าน หรือจะก่อการร้ายให้เกิดขึ้นในแผ่นดิน(27)
Comment: (27)การที่ฟิรอาวน์พูดเช่นนี้ก็เพื่อเป็นการเย้ยหยันนบีมูซา คล้ายกับที่เขาจะกล่าวว่า พวกท่านอย่าได้ตกอกตกใจที่เขากล่าวถึงพระเจ้าของเขา เพราะมันไม่เป็นความจริงดอก ฉันต่างหากที่เป็นพระเจ้าผู้สูงส่งของพวกท่าน จุดมุ่งหมายของเขาก็คือ ต้องการจะให้พวกเขาเข้าใจว่า ความจริงที่เขายังไม่ฆ่ามูซานั้นก็เพื่อเอาใจพรรคพวกเพื่อนฝูงของเขา
40:27
وَقَالَ مُوسَىٰٓ إِنِّى عُذْتُ بِرَبِّى وَرَبِّكُم مِّن كُلِّ مُتَكَبِّرٍۢ لَّا يُؤْمِنُ بِيَوْمِ ٱلْحِسَابِ
Translation: และมูซากล่าวว่า แท้จริงฉันของความคุ้มครองต่อพระผู้อภิบาลของฉัน และพระผู้อภิบาลของพวกท่านให้พ้นจากผู้หยิ่งผยองทุกคนที่ไม่ศรัทธาต่อวันแห่งการชำระบัญชี(28)
Comment: (28)ในหนังสือ “อัตตัสฮีล ลิอุลูมิตตันชีล” ได้กล่าวไว้ว่า “จากผู้หยิ่งผยองของทุกคน” โดยไม่กล่าวถึงชื่อของเขา เพื่อให้คลุมถึง ฟิรอาวน์ และคนอื่นๆ
40:28
وَقَالَ رَجُلٌۭ مُّؤْمِنٌۭ مِّنْ ءَالِ فِرْعَوْنَ يَكْتُمُ إِيمَـٰنَهُۥٓ أَتَقْتُلُونَ رَجُلًا أَن يَقُولَ رَبِّىَ ٱللَّهُ وَقَدْ جَآءَكُم بِٱلْبَيِّنَـٰتِ مِن رَّبِّكُمْ ۖ وَإِن يَكُ كَـٰذِبًۭا فَعَلَيْهِ كَذِبُهُۥ ۖ وَإِن يَكُ صَادِقًۭا يُصِبْكُم بَعْضُ ٱلَّذِى يَعِدُكُمْ ۖ إِنَّ ٱللَّهَ لَا يَهْدِى مَنْ هُوَ مُسْرِفٌۭ كَذَّابٌۭ
Translation: และชายผู้ศรัทธาคนหนึ่งจากพวกพ้องของฟิรอาวน์(29) ซึ่งปกปิดการศรัทธาของเขากล่าวว่าพวกท่านจะฆ่าชายคนหนึ่ง(30) ที่เขากล่าวว่า พระผู้อภิบาลของฉันคืออัลลอฮ์กระนั้นหรือ ? และแน่นอนเขาได้นำหลักฐานทั้งหลายอันชัดแจ้ง(31) มาจากพระผู้อภิบาลของพวกท่านมายังพวกท่าน และหากว่าเขาเป็นคนโกหก การโกหกของเขาก็อยู่บนเขาเอง(32) และหากว่าเขาเป็นคนพูดจริง ส่วนหนึ่งจากที่เขาได้สัญญาไว้กับพวกท่านก็จะประสบแก่พวกท่าน แท้จริงอัลลอฮ์จะไม่ชี้แนะทางแก่ผู้ที่เขาเป็นผู้ละเมิด นักโกหกตัวฉกาจ
Comment: (29)มีชื่อว่าซัมอาน ซึ่งเป็นลูกของลุงฟิรอาวน์
Comment: (30)หมายถึงนบีมูซา อะลัยฮิสสลาม
Comment: (31)เช่นปาฏิหาริย์ไม้เท้าและมือ
Comment: (32)คือโทษแห่งการโกหก ก็จะตกอยู่แก่เขา มิใช่พวกท่าน
40:29
يَـٰقَوْمِ لَكُمُ ٱلْمُلْكُ ٱلْيَوْمَ ظَـٰهِرِينَ فِى ٱلْأَرْضِ فَمَن يَنصُرُنَا مِنۢ بَأْسِ ٱللَّهِ إِن جَآءَنَا ۚ قَالَ فِرْعَوْنُ مَآ أُرِيكُمْ إِلَّا مَآ أَرَىٰ وَمَآ أَهْدِيكُمْ إِلَّا سَبِيلَ ٱلرَّشَادِ
Translation: โอ้ หมู่ชนของฉันเอ๋ย! วันนี้อำนาจการปกครองเป็นของพวกท่าน เป็นผู้อยู่เบื้องบนในแผ่นดิน (อียิปต์) แล้วใครเล่าจะช่วยเหลือเราจากการลงโทษของอัลลอฮ์(33) หากมันได้เกิดขึ้นแก่เรา ฟิรอาวน์ กล่าวว่า ฉันมิได้ชี้นำพวกท่านเว้นแต่สิ่งที่ฉันเห็นว่ามันถูกต้อง(34) เท่านั้น และฉันมิได้ชี้แนะทางแก่พวกท่านเว้นแต่ทางที่เป็นสัจธรรมเท่านั้น
Comment: (33)หากว่าเรากระทำการที่เกิดกว่าเหตุ คือฆ่าคนรักของอัลลอฮ์แล้ว ใครเล่าที่จะปกป้องเราให้พ้นจากการลงโทษของอัลลอฮ์ไปได้?
Comment: (34)คือให้ฆ่ามูซา อะลัยอิสสลาม
40:30
وَقَالَ ٱلَّذِىٓ ءَامَنَ يَـٰقَوْمِ إِنِّىٓ أَخَافُ عَلَيْكُم مِّثْلَ يَوْمِ ٱلْأَحْزَابِ
Translation: และชายผู้ศรัทธากล่าวอีกว่า โอ้ หมู่ชนของฉันเอ๋ย! แท้จริง ฉันกลัวแทนพวกท่านเยี่ยงวันแห่งการลงโทษของกลุ่มชนต่างๆ ในอดีต
40:31
مِثْلَ دَأْبِ قَوْمِ نُوحٍۢ وَعَادٍۢ وَثَمُودَ وَٱلَّذِينَ مِنۢ بَعْدِهِمْ ۚ وَمَا ٱللَّهُ يُرِيدُ ظُلْمًۭا لِّلْعِبَادِ
Translation: เยี่ยงกับเคราะห์กรรมของหมู่ชนของนูห์ และอ๊าด และษะมูด และกับหมู่ชน หลังจากพวกเขา และอัลลอฮ์มิ ทรงประสงค์การอธรรมใดๆ แก่ปวงบ่าว(35)
Comment: (35)คือวันแห่งการลงโทษซึ่งหมู่ชนต่าง ๆ ได้ถูกลงโทษมาแล้ว เพราะพวกเขาทำร้ายบรรดานบี เช่น หมู่ชนของนูห์ อ๊าด ษะมูด และลูฏอัลซะมัคชะรีย์ กล่าวว่า การทำลายล้างและการลงโทษเป็นการยุติธรรมแล้ว เพราะพวกเขาเหมาะสมและคู่ควรแก่การลงโทษอันเนื่องมาจากการกระทำของพวกเขา
40:32
وَيَـٰقَوْمِ إِنِّىٓ أَخَافُ عَلَيْكُمْ يَوْمَ ٱلتَّنَادِ
Translation: และ โอ้ หมู่ชนของฉันเอ๋ย! ฉันกลัวแทนพวกท่าน เยี่ยงวันแห่งการร้องเรียกหาซึ่งกันและกัน(36)
Comment: (36)ชายศรัทธาผู้นั้นได้ขู่พวกเขาถึงการลงโทษในวันกิยามะฮ์ หลังจากได้ขู่พวกเขาถึงการลงโทษในโลกดุนยา
40:33
يَوْمَ تُوَلُّونَ مُدْبِرِينَ مَا لَكُم مِّنَ ٱللَّهِ مِنْ عَاصِمٍۢ ۗ وَمَن يُضْلِلِ ٱللَّهُ فَمَا لَهُۥ مِنْ هَادٍۢ
Translation: วันที่พวกท่านหันหลังกลับหนี(37) ไม่มีผู้ใดจะช่วยปกป้องพวกท่านให้พ้นจากการลงโทษของอัลลอฮ์ได้ และผู้ใดที่อัลลอฮ์ทรงให้เขาหลงทางแล้ว ก็จะไม่มีผู้ชี้แนะทางให้แก่เขา(38)
Comment: (37)นักตัฟชีร กล่าวว่า พวกกุฟฟารเมื่อได้ยินเสียงร้องของนรก พวกเขาจะผินหลังหนีออกไป ไม่ทันที่พวกเขาจะหนีออกไปก็จะพบมลาอิกะฮ์ไล่ต้อนพวกเขาให้กลับไปลงนรก
Comment: (38)คือให้รอดพ้นจากการลงโทษของอัลลอฮ์ได้
40:34
وَلَقَدْ جَآءَكُمْ يُوسُفُ مِن قَبْلُ بِٱلْبَيِّنَـٰتِ فَمَا زِلْتُمْ فِى شَكٍّۢ مِّمَّا جَآءَكُم بِهِۦ ۖ حَتَّىٰٓ إِذَا هَلَكَ قُلْتُمْ لَن يَبْعَثَ ٱللَّهُ مِنۢ بَعْدِهِۦ رَسُولًۭا ۚ كَذَٰلِكَ يُضِلُّ ٱللَّهُ مَنْ هُوَ مُسْرِفٌۭ مُّرْتَابٌ
Translation: และโดยแน่นอน แต่ก่อนนี้ยูซุฟ(39) ได้มายังพวกท่านพร้อมด้วยหลักฐานอันชัดแจ้งแต่พวกท่านก็ยังคงอยู่ในการสงสัยในสิ่งที่เขาได้นำมายังพวกท่าน(40) จนกระทั่งเมื่อเขาได้ตายไปแล้ว พวกท่านก็กล่าวว่าอัลลอฮ์จะไม่ทรงตั้งร่อซูลคนใดอีกแล้วหลังจากเขา(41) เช่นนั้นแหละ อัลลอฮ์จะทรงให้ผู้ที่เขาฝ่าฝืนสงสัยหลงทาง(42)
Comment: (39)คือนบียูซุฟ อิบนฺ ยะอฺกู๊บ
Comment: (40)คือการปฏิเสธศรัทธาในสิ่งที่เขาได้นำมาจากอัลลอฮ์
Comment: (41)อบูฮัยยาน กล่าวว่า ในการนี้ มิใช่เป็นการเชื่อต่อสาส์นของยซูฟ เพราะพวกเขายังมีข้อสงสัยต่อการเป็นร่อซูลของยูซุฟ
Comment: (42)เพราะการหลงทางเช่นนี้แหละ อัลลอฮ์ทรงให้พวกเขาเหล่านั้นหลงทางต่อไปอีก หลังจากหลักฐานและข้อพิสูจน์ได้เป็นที่ประจักษ์แจ้งแก่พวกเขาแล้ว
40:35
ٱلَّذِينَ يُجَـٰدِلُونَ فِىٓ ءَايَـٰتِ ٱللَّهِ بِغَيْرِ سُلْطَـٰنٍ أَتَىٰهُمْ ۖ كَبُرَ مَقْتًا عِندَ ٱللَّهِ وَعِندَ ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ ۚ كَذَٰلِكَ يَطْبَعُ ٱللَّهُ عَلَىٰ كُلِّ قَلْبِ مُتَكَبِّرٍۢ جَبَّارٍۢ
Translation: บรรดาผู้โต้เถียงในสัญญาณต่าง ๆ ของอัลลอฮ์โดยไม่มีหลักฐานใดๆ มายังพวกเขา เป็นที่น่าเกลียดชังยิ่ง ณ ที่อัลลอฮ์และ ณ บรรดาผู้ศรัทธา เช่นนั้นแหละอัลลอฮ์ทรงประทับบนทุกๆ หัวใจของผู้จองหองหยิ่งยโส(43)
Comment: (43)ในการกระทำของเขาเหล่านั้น คือพวกเขาต้องการที่จะลบล้างความจริงและดับรัศมีของอัลลอฮ์ด้วยคำพูดของพวกเขาโดยปราศจากหลักฐาน การกระทำเช่นนี้ อัลลอฮ์ทรงเกลียดชังยิ่ง และบรรดามุอ์มินผู้ศรัทธาก็เช่นเดียวกัน และพระองค์ทรงประทับตราบนหัวใจของผู้ที่จองหองต่อการอีมาน หยิ่งยโสต่อปวงบ่าว จนกระทั่งไม่ยอมรับความจริงและไม่ใช้สติปัญญาใคร่ครวญ
40:36
وَقَالَ فِرْعَوْنُ يَـٰهَـٰمَـٰنُ ٱبْنِ لِى صَرْحًۭا لَّعَلِّىٓ أَبْلُغُ ٱلْأَسْبَـٰبَ
Translation: และฟิรอาวน์กล่าวว่า โอ้ฮามานเอ๋ย! จงสร้างหอสูงให้ฉันเพื่อฉันจะได้บรรลุถึงทางที่จะขึ้นไป
40:37
أَسْبَـٰبَ ٱلسَّمَـٰوَٰتِ فَأَطَّلِعَ إِلَىٰٓ إِلَـٰهِ مُوسَىٰ وَإِنِّى لَأَظُنُّهُۥ كَـٰذِبًۭا ۚ وَكَذَٰلِكَ زُيِّنَ لِفِرْعَوْنَ سُوٓءُ عَمَلِهِۦ وَصُدَّ عَنِ ٱلسَّبِيلِ ۚ وَمَا كَيْدُ فِرْعَوْنَ إِلَّا فِى تَبَابٍۢ
Translation: ทางที่จะขึ้นไปสู่ชั้นฟ้าทั้งหลาย เพื่อฉันจะได้เห็นพระเจ้าของมูซา(44) และแท้จริงฉันคิดอย่างแน่ใจแล้วว่าเขาเป็นคนโกหก(45) เช่นนั้นแหละ การงานที่ชั่วช้าของเขาได้ถูกทำให้เพริศแพร้วแก่ฟิรอาวน์ และเขาถูกปิดกั้นจากแนวทาง (ของอัลลอฮ์) และแผนการของฟิรอาวน์นั้นมิใช่อื่นนอกจากอยู่ในความหายนะ(46)
Comment: (44)อัลกุรฏบีย์ กล่าวไว้ในหนังสือของเขาว่า เมื่อผู้ศรัทธาจากวงศ์วานของฟิรอาวน์ ได้กล่าวตักเตือนเขาแล้วฟิรอาวน์กลัวว่า คำพูดของเขาจะเป็นที่ประทับใจของหมู่ชน และคิดว่าเขาถูกทอสอบจากมูซา เขาจึงใช้ให้มุขมนตรีของเขา คือฮามาน ให้สร้างหอสูงเพื่อที่จะขึ้นไปบนชั้นฟ้า และดูพระเจ้าของมูซาด้วยตาตนเอง
Comment: (45)เมื่อฟิรอาวน์กล่าวว่า “เพื่อฉันจะได้เห็นพระเจ้าของมูซา” คำพูดของเขาเช่นนี้เป็นการยอมรับว่ามีพระเจ้า ดังนั้นเขาจึงกล่าวเสริมเป็นการเลี่ยงการยอมรับของเขาว่า “และแท้จริงฉันคิดอย่างแน่ใจแล้วว่าเขาเป็นคนโกหก”
Comment: (46)คือเห็นผิดเป็นชอบ และด้วยการหลงผิดของเขาจึงทำให้เขาไม่ได้พบกับแนวทางแห่งความถูกต้อง และแผนการอันชั่วช้าของเขานั้นทำให้เขาสูญเสียอำนาจของเขาในดุนยาด้วยการจมน้ำตาย ส่วนในอาคิเราะฮ์นั้นเขาจะอยู่ในนรกตลอดกาล
40:38
وَقَالَ ٱلَّذِىٓ ءَامَنَ يَـٰقَوْمِ ٱتَّبِعُونِ أَهْدِكُمْ سَبِيلَ ٱلرَّشَادِ
Translation: และผู้ศรัทธากล่าวว่า โอ้หมู่ชนของฉันเอ๋ย! จงปฏิบัติตามฉัน ฉันจะชี้แนะทางแก่พวกท่านสู่ทางแห่งสัจธรรม
40:39
يَـٰقَوْمِ إِنَّمَا هَـٰذِهِ ٱلْحَيَوٰةُ ٱلدُّنْيَا مَتَـٰعٌۭ وَإِنَّ ٱلْـَٔاخِرَةَ هِىَ دَارُ ٱلْقَرَارِ
Translation: โอ้หมู่ชนของฉันเอ๋ย แท้จริง ชีวิตแห่งโลกนี้เป็นเพียงแค่ความเพลิดเพลินเท่านั้น และแท้จริงโลกอาคิเราะฮ์นั้นมันเป็นที่อยู่อันมั่นคง(47)
Comment: (47)ผู้ศรัทธาจากวงศ์วานของฟิรอาวน์ได้เรียกร้องหมู่ชนของเขาไปสู่การอีมานต่ออัลลอฮ์พระองค์เดียว โดยเปิดเผยให้พวกเขาได้ตระหนักถึงคุณค่าแห่งชีวิตที่สูญหาย เรียกร้องหมู่พวกเขาให้มีการสนใจต่อความสุขสำราญในชีวิตที่ยั่งยืนนาน และกล่าวเตือนพวกเขาให้รำลึกถึงการลงโทษของอัลลอฮ์ ความหมายของอายะฮ์ก็คือ โอ้หมู่ชนของฉันเอ๋ย! จงเชื่อฟังการเรียกร้องของฉันเถิด และดำเนินตามแนวทางของฉัน เพราะฉันเป็นผู้ชี้แนะไปสู่แนวทางสู่สวรรค์ อัลกุรฏบีย์กล่าวว่า ความมุ่งหมายที่กล่าวถึงปรโลกนั้นก็คือ สวนสวรรค์และนรก เพราะทั้งสองนั้นจะไม่สูญสลาย
40:40
مَنْ عَمِلَ سَيِّئَةًۭ فَلَا يُجْزَىٰٓ إِلَّا مِثْلَهَا ۖ وَمَنْ عَمِلَ صَـٰلِحًۭا مِّن ذَكَرٍ أَوْ أُنثَىٰ وَهُوَ مُؤْمِنٌۭ فَأُو۟لَـٰٓئِكَ يَدْخُلُونَ ٱلْجَنَّةَ يُرْزَقُونَ فِيهَا بِغَيْرِ حِسَابٍۢ
Translation: ผู้ใดที่กระทำความชั่ว เขาจะไม่ได้รับการตอบแทน เว้นแต่เยี่ยงเช่นนั้น(48) และผู้ใดกระทำความดีจากเพศชายหรือเพศหญิงก็ตามและเขาเป็นผู้ศรัทธาด้วย ชนเหล่านั้นแหละพวกเขาจะได้เข้าสวนสวรรค์ จะได้รับปัจจัยยังชีพในนั้น โดยปราศจากการคำนวณ(49)
Comment: (48)คือในวันอาคิเราะฮ์เขาจะไม่ได้รับโทษเว้นแต่เท่าที่เขาได้กระทำไปเท่านั้น ทั้งนี้เป็นความเมตตาจากพระองค์ต่อปวงบ่าว
Comment: (49)คือผู้กระทำความดีเหล่านั้นจะได้เข้าสู่สวนสวรรค์อย่างสุขสำราญ และได้รับการตอบแทนของพวกเขาโดยปราศจากการคำนวณ ยิ่งกว่านั้น จะได้รับการตอบแทนอย่างเพิ่มพูนอีกหลายเท่า เป็นความโปรดปราณและการยกย่องจากอัลลอฮ์
40:41
۞ وَيَـٰقَوْمِ مَا لِىٓ أَدْعُوكُمْ إِلَى ٱلنَّجَوٰةِ وَتَدْعُونَنِىٓ إِلَى ٱلنَّارِ
Translation: และโอ้หมู่ชนของฉันเอ๋ย! ทำไมฉันจึงเชิญชวนพวกท่านไปสู่การรอดพ้น แต่พวกท่านเชิญชวนฉันไปสู่ไฟนรก(50)
Comment: (50)เป็นคำถามเชิงประหลาดใจคล้ายกับจะกล่าวว่า ฉันประหลาดใจต่อสภาพของพวกท่านเช่นนี้ คือฉันได้เรียกร้องเชิญชวนพวกท่านให้รอดพ้นจากการลงโทษและไปสู่ความดี แต่พวกท่านได้เรียกร้องฉันไปสู่ไฟนรกและความชั่ว
40:42
تَدْعُونَنِى لِأَكْفُرَ بِٱللَّهِ وَأُشْرِكَ بِهِۦ مَا لَيْسَ لِى بِهِۦ عِلْمٌۭ وَأَنَا۠ أَدْعُوكُمْ إِلَى ٱلْعَزِيزِ ٱلْغَفَّـٰرِ
Translation: พวกท่านเชิญชวนฉันให้ปฏิเสธศรัทธาต่ออัลลอฮ์และให้ฉันตั้งภาคีต่อพระองค์โดยที่ฉันไม่รู้มาก่อนเลยในเรื่องนั้น(51) และฉันได้เชิญชวนพวกท่านไปสู่ผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงอภัยอย่างมากมาย(52)
Comment: (51)คือเรียกร้องไปสู่ผู้ที่ตั้งตัวเป็นพระเจ้า และเขาไม่มีคุณลักษณะที่จะเป็นพระเจ้าเลย คือฟิรอาวน์
Comment: (52)คืออัลลอฮ์ ผู้ทรงเอกะ ผู้ทรงอำนาจ ไม่มีใครจะมีอำนาจเหนือพระองค์ ผู้ทรงอภัยอย่างเหลือล้นต่อการกระทำบาปของปวงบ่าว
40:43
لَا جَرَمَ أَنَّمَا تَدْعُونَنِىٓ إِلَيْهِ لَيْسَ لَهُۥ دَعْوَةٌۭ فِى ٱلدُّنْيَا وَلَا فِى ٱلْـَٔاخِرَةِ وَأَنَّ مَرَدَّنَآ إِلَى ٱللَّهِ وَأَنَّ ٱلْمُسْرِفِينَ هُمْ أَصْحَـٰبُ ٱلنَّارِ
Translation: ไม่ต้องสงสัยเลยว่า แท้จริงที่พวกท่านเชิญชวนฉันไปสู่นั้น มันไม่เหมาะสม (ที่จะเอาใจใส่) แก่มันทั้งในโลกนี้และในปรโลกด้วย และแท้จริง การกลับของเรานั้นไปสู่อัลลอฮ์(53) และแท้จริงบรรดาผู้ฝ่าฝืนละเมิดนั้นพวกเขาเป็นชาวนรก
Comment: (53)เป็นความจริงทีเดียวว่า สิ่งที่พวกท่านเชิญชวนให้เคารพภักดีนั้นมันไม่เหมาะสมที่จะเป็นพระเจ้า เพราะมันจะไม่ตอบรับการเรียกร้องของผู้วิงวอนขอ และมันไม่สามารถที่จะปลดเปลื้องความทุกข์ยากของเขาได้ ทั้งในโลกดุนยาและโลกหน้า และทางกลับของเรานั้นย่อมไปสู่อัลลอฮ์ เพื่อตอบแทนการงานของแต่ละคน
40:44
فَسَتَذْكُرُونَ مَآ أَقُولُ لَكُمْ ۚ وَأُفَوِّضُ أَمْرِىٓ إِلَى ٱللَّهِ ۚ إِنَّ ٱللَّهَ بَصِيرٌۢ بِٱلْعِبَادِ
Translation: ดังนั้นพวกท่านจะต้องระลึกถึงสิ่งที่ฉันได้กล่าวแก่พวกท่าน(54) และฉันขอมอบภารกิจของฉันแด่อัลลอฮ์แท้จริงอัลลอฮ์ทรงเป็นผู้เฝ้าดูปวงบ่าว(55)
Comment: (54)คือท่านจะรำลึกถึงคำพูดของฉันที่เป็นจริง เมื่อการลงโทษได้ประสบแก่พวกท่านแล้ว
Comment: (55)อัลกุรฏบีย์กล่าวไว้หนังสือตัฟซีรของเขาว่า อันนี้เป็นการบ่งชี้ว่า พวกเขาได้ขู่เข็ญเขา และต้องการที่จะฆ่าเขา และพระองค์เป็นผู้เฝ้าดูการงานของพวกเขา ไม่มิสิ่งปิดบังใด ๆ จะมาปกปิดสภาพของพวกเขาแก่พระองค์
40:45
فَوَقَىٰهُ ٱللَّهُ سَيِّـَٔاتِ مَا مَكَرُوا۟ ۖ وَحَاقَ بِـَٔالِ فِرْعَوْنَ سُوٓءُ ٱلْعَذَابِ
Translation: อัลลอฮ์ได้ทรงคุ้มครองเขาให้พ้นจากความชั่วทั้งหลายที่พวกเขาวางแผนไว้ และการลงโทษที่ชั่วช้าก็จะห้อมล้อมบริวารของฟิรอาวน์(56)
Comment: (56)คือพระองค์จะทรงคุ้มครองเขาให้รอดพ้นจากการวางแผนอันชั่วช้าของพวกเขา และพระองค์ได้ทรงลงโทษอย่างหนักแก่ฟิรอาวน์ และพวกพ้องของเขา นั่นก็คือ ถูกจมน้ำตายในโลกดุนยานี้ และการเผาไหม้ในนรกในวันอาคิเราะฮ์
40:46
ٱلنَّارُ يُعْرَضُونَ عَلَيْهَا غُدُوًّۭا وَعَشِيًّۭا ۖ وَيَوْمَ تَقُومُ ٱلسَّاعَةُ أَدْخِلُوٓا۟ ءَالَ فِرْعَوْنَ أَشَدَّ ٱلْعَذَابِ
Translation: ไฟนรกนั้นพวกเขาจะถูกนำมาให้เห็นทั้งในยามเช้า และยามเย็น และวันกิยามะฮ์นั้น จะมีเสียงกล่าวว่า จงให้บริวารของฟิรอาวน์เข้าไปรับการลงโทษอันสาหัสยิ่ง(57)
Comment: (57)คือพวกเขาจะถูกเผาไหม้ทั้งในเวลาเช้าและเวลาเย็น นักตัฟซีรกล่าวว่า ความมุ่งหมายของไฟนรกคือ ไฟในกุบูรและการลงโทษของพวกเขาในกุบูร และจะมีเสียงกล่าวแก่มลาอิกฮ์ว่า จงนำฟิรอาวน์และบริวารของเขาเข้าสู่นรกญะฮันนัม ซึ่งมันเป็นการลงโทษที่สาหัสยิ่งกว่าการลงโทษในโลกดุนยา
40:47
وَإِذْ يَتَحَآجُّونَ فِى ٱلنَّارِ فَيَقُولُ ٱلضُّعَفَـٰٓؤُا۟ لِلَّذِينَ ٱسْتَكْبَرُوٓا۟ إِنَّا كُنَّا لَكُمْ تَبَعًۭا فَهَلْ أَنتُم مُّغْنُونَ عَنَّا نَصِيبًۭا مِّنَ ٱلنَّارِ
Translation: และจงรำลึกถึงเมื่อพวกเขาโต้เถียงกันในนรก(58) พวกอ่อนแอแกล่าวกับพวกหัวหน้าว่า “แท้จริง พวกเราเป็นผู้ตามพวกท่าน ดังนั้นพวกท่านจะช่วยพวกเราให้พ้นจากการลงโทษสักส่วนหนึ่งของไฟนรกนี้ได้ไหม?(59)
Comment: (58)คือการโต้เถียงระหว่างหัวหน้ากับลูกน้องผู้ปฏิบัติตาม
Comment: (59)คือพวกลูกน้องกล่าวแก่พวกหน้าว่า พวกเรานั้นเป็นผู้ปฏิบัติตามคำสั่งของพวกท่านอย่างนอบน้อม ดังนั้น พวกท่านจะช่วยป้องกันพวกเราให้พ้นจากการลงโทษบางส่วน ซึ่งพวกเรากำลังประสบอยู่นี้บ้างได้หรือไม่? อัรรอซีย์กล่าวว่า พวกเขารู้ว่าบรรดาหัวหน้าไม่มีความสามารถที่จะผ่อนคลายการลงโทษให้แก่พวกเขาได้ แต่จุดมุ่งหมายในการพูดเช่นนี้ก็เพื่อทำให้พวกเขาขายหน้า และได้รับความอับอาย
40:48
قَالَ ٱلَّذِينَ ٱسْتَكْبَرُوٓا۟ إِنَّا كُلٌّۭ فِيهَآ إِنَّ ٱللَّهَ قَدْ حَكَمَ بَيْنَ ٱلْعِبَادِ
Translation: บรรดาหัวหน้ากล่าวว่า แท้จริงเราทั้งหมดอยู่ในนรก แท้จริงอัลลอฮ์ทรงตัดสินระหว่างปวงบ่าวแล้วอย่างแน่นอน(60)
Comment: (60)บรรดาหัวหน้ากล่าวตอบว่า หากเราสามารถที่จะปกป้องการลงโทษให้พ้นจาพวกท่านได้ เราก็จะกระทำแก่ตัวของเราเองก่อนเป็นแน่ แต่ทว่าอัลลอฮ์ทรงตัดสินแล้วอย่างยุติธรรม ด้วยการให้บรรดามุอ์มินเข้าสวนสวรรค์ และบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาอยู่ในนรกเราไม่สามารถที่จะกระทำสิ่งใดให้แก่พวกท่านได้
40:49
وَقَالَ ٱلَّذِينَ فِى ٱلنَّارِ لِخَزَنَةِ جَهَنَّمَ ٱدْعُوا۟ رَبَّكُمْ يُخَفِّفْ عَنَّا يَوْمًۭا مِّنَ ٱلْعَذَابِ
Translation: และบรรดาผู้อยู่ในนรก กล่าวแก่ยามเฝ้าประตูนรกว่า โปรดช่วยวิงวอนขอต่อพระผู้อภิบาลของพวกท่านให้ทรงลดหย่อนการลงโทษแก่เราสักวันหนึ่ง
40:50
قَالُوٓا۟ أَوَلَمْ تَكُ تَأْتِيكُمْ رُسُلُكُم بِٱلْبَيِّنَـٰتِ ۖ قَالُوا۟ بَلَىٰ ۚ قَالُوا۟ فَٱدْعُوا۟ ۗ وَمَا دُعَـٰٓؤُا۟ ٱلْكَـٰفِرِينَ إِلَّا فِى ضَلَـٰلٍ
Translation: พวกเขากล่าวว่า บรรดาร่อซูลของพวกท่านมิได้มายังพวกท่านพร้อมด้วยหลักฐานอันชัดแจ้งดอกหรือ ?(61) พวกเขากล่าวว่า มีครับ เขาทั้งหลายกล่าวว่า พวกท่านจงวิงวอนขอเองซิ แต่การวิงวอนขอของผู้ปฏิเสธศรัทธานั้น มิใช่อื่นใดนอกจากอยู่ในการหลงทาง(62)
Comment: (61)แล้วพวกท่านได้ปฏิเสธไม่ยอมรับศรัทธาใช่หรือไม่
Comment: (62)อัรรอซีย์กล่าวว่า คำกล่าวของพวกเขาที่ว่า “พวกท่านจงวิงวอนขอเองซิ” มิใช่เพื่อหวังที่จะได้ประโยชน์จากการขอ หากแต่ว่าเป็นการบ่งชี้ถึงความล้มเหลว เพราะบรรดามลาอิกะฮ์ผู้ใกล้ชิดนั้น การวิงวอนขอของพวกเขายังไม่ถูกตอบรับ แล้วอย่างไรเสียอีกเล่าการวิงวอนขอของพวกปฏิเสธศรัทธาจะถูกตอบรับ แล้วอย่างไรเสียอีกเล่า การวิงวอนขอของพวกปฏิเสธจะถูกตอบรับละหรือ?
Comment: (64)อิบนฺญะรีรกล่าวว่า การแก้ตัวของพวกมุชรนิกินนั้นจะไม่อำนวยประโยชน์อันใด
Comment: (65)คือพวกเขาจะถูกขับไล่ออกจากความเมตตาของอัลลอฮ์ และจะมีบั้นปลาย และทางกลับที่ชั่วช้าเลวทรามยิ่ง
40:51
إِنَّا لَنَنصُرُ رُسُلَنَا وَٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ فِى ٱلْحَيَوٰةِ ٱلدُّنْيَا وَيَوْمَ يَقُومُ ٱلْأَشْهَـٰدُ
Translation: แท้จริงเราจะช่วยเหลือบรรดาร่อซูลของเรา และบรรดาผู้ศรัทธาอย่างแน่นอน ทั้งในชีวิตของโลกนี้ และวันที่ซึ่งปวงพยานจะยืนขึ้นเป็นพยาน(63)
Comment: (63)คือจะช่วยเหลือด้วยหลักฐาน การมีชัยชนะและการแก้แค้นของบรรดามุอ์มินต่อพวกปฏิเสธศรัทธาที่เป็นอาชญากร ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า อัรรอซีย์กล่าวว่า อายะฮ์นี้เป็นสัญญาดีแก่ร่อซูลของพระองค์ ที่จะให้ได้ชัยชนะเหนือเหล่าศัตรูของท่านทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
40:52
يَوْمَ لَا يَنفَعُ ٱلظَّـٰلِمِينَ مَعْذِرَتُهُمْ ۖ وَلَهُمُ ٱللَّعْنَةُ وَلَهُمْ سُوٓءُ ٱلدَّارِ
Translation: วันที่การแก้ตัวของพวกเขาจะไม่อำนวยผลแก่บรรดาผู้อธรรม(64) และสำหรับพวกเขาจะได้รับการสาปแช่ง และสำหรับพวกเขาจะมีที่พำนักอันชั่วช้า(65)
40:53
وَلَقَدْ ءَاتَيْنَا مُوسَى ٱلْهُدَىٰ وَأَوْرَثْنَا بَنِىٓ إِسْرَٰٓءِيلَ ٱلْكِتَـٰبَ
Translation: และโดนแน่นอนเราได้ประทานการชี้นำทางแก่มูซา และเราได้ให้มรดกแก่วงศ์วานของอิสรออีล คือคัมภีร์
40:54
هُدًۭى وَذِكْرَىٰ لِأُو۟لِى ٱلْأَلْبَـٰبِ
Translation: เพื่อเป็นการชี้นำทางและเป็นการเตือนรำลึกแก่บรรดาผู้มีสติปัญญา(66)
Comment: (66)คือเราได้ประทานการชี้แนะทางในเรื่องของศาสนาแก่มูซา เช่น สิ่งปาฏิหาริย์, คัมภีร์ บทบัญญัติต่าง ๆ วิชาความรู้ที่เป็นประโยชน์ และคัมภีร์ที่ชี้นำทางคือ อัตเตารอฮ์
40:55
فَٱصْبِرْ إِنَّ وَعْدَ ٱللَّهِ حَقٌّۭ وَٱسْتَغْفِرْ لِذَنۢبِكَ وَسَبِّحْ بِحَمْدِ رَبِّكَ بِٱلْعَشِىِّ وَٱلْإِبْكَـٰرِ
Translation: ดังนั้น เจ้าจงอดทนเพราะแท้จริงสัญญาของอัลลอฮ์นั้นเป็นความจริง และจงขออภัยโทษต่อความผิดของเจ้า(67) และจงแซ่ซ้องสดุดีด้วยการสรรเสริญพระผู้อภิบาลของเจ้าทั้งในยามเย็นและในยามเช้า(68)
Comment: (67)อิมามอัลฟัคร์กล่าวว่า เมื่ออัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงชี้แจงว่า พระองค์ทรงช่วยเหลือบรรดาร่อซูลของพระองค์ และทรงยกตัวอย่างในการนี้ด้วยสภาพของนบีมูซา พระองค์ได้ตรัสแก่ร่อซูลของพระองค์หลังจากนั้นว่า “เจ้าจงอดทนเถิดเพราะแท้จริง สัญญาของอัลลอฮ์นั้นเป็นความจริง” ความมุ่งหมายก็คือ แท้จริงอัลลอฮ์นั้นจะทรงช่วยเหลือเจ้าดังเช่นที่พระองค์ได้ช่วยเหลือพวกเขามาก่อนแล้ว และพระองค์เป็นผู้ปฏิบัติตามสัญญาของพระองค์กับเจ้า เสมือนกับที่พระองค์ได้ปฏิบัติตามสัญญาในสิทธิของพวกเขา
Comment: (68)อัศซอวีย์กล่าวว่า จุดมุ่งหมายในการนี้ก็คือ เพื่อเป็นการสั่งสอนประชาชาติให้กระทำเช่นนั้น เพราะอย่างไรก็ดีท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม นั้นปราศจากความผิด ไม่มีที่ติ และธำรงมั่นไว้ด้วยการแซ่ซ้องสดุดีพฺระผู้อภิบาลในยามเช้ายามเย็น
40:56
إِنَّ ٱلَّذِينَ يُجَـٰدِلُونَ فِىٓ ءَايَـٰتِ ٱللَّهِ بِغَيْرِ سُلْطَـٰنٍ أَتَىٰهُمْ ۙ إِن فِى صُدُورِهِمْ إِلَّا كِبْرٌۭ مَّا هُم بِبَـٰلِغِيهِ ۚ فَٱسْتَعِذْ بِٱللَّهِ ۖ إِنَّهُۥ هُوَ ٱلسَّمِيعُ ٱلْبَصِيرُ
Translation: แท้จริง บรรดาผู้โต้เถียงในเรื่องอายะฮฺของอัลลอฮ์(อัลกุรอาน) โดยปราศจากหลักฐานมายังพวกเขานั้น ไม่มีอะไรในทรวงอกของพวกเขานอกจากต้องการจะเป็นใหญ่ ซึ่งพวกเขาจะไม่เป็นผู้บรรลุถึงมันได้(69) ดังนั้น จงขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮ์แท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงเห็น(70)
Comment: (69)คือในจิตใจของพวกเขาไม่มีอะไรนอกจากความหยิ่งยโสต้องการเป็นใหญ่ ซึ่งจะห้ามพวกเขามิให้ปฏิบัติตามเจ้า และพวกเขาจะไม่บรรลุความต้องการนั้น ๆ ได้ นั่นคือการดับรัศมีของอัลลอฮ์ และการมีอำนาจเหนือเจ้า
Comment: (70)คือความคุ้มครองต่ออัลลอฮ์ให้พ้นจากการวางแผนของพวกเขา และปกป้องให้พ้นจากความชั่วร้ายของพวกเขา
Comment: (78)อิบน์อับบาส กล่าวว่า ทรงทำให้มันเป็นที่พำนักในขณะที่มีชีวิตอยู่และหลังจากตายไปแล้ว
Comment: (79)คือทรงทำให้เป็นรูปร่างขณะอยู่ในครรภ์ของมารดา และมีรูปร่างที่สวยงาม มีอวัยวะทุกส่วน เหมาะสม ได้สัดส่วนกัน อัลซะมัคชะรีย์กล่าวว่า พระองค์มิได้สร้างสัตว์มีรูปร่างสวยงามกว่ามนุษย์ ดังเช่นคำตรัสของพระองค์ที่ว่า “โดยแน่นอนเราได้สร้างมนุษย์มาในรูปแบบที่สวยงามยิ่ง”
Comment: (80)คือปัจจัยยังชีพมี่มีรสชาติแตกต่างมากมาย นั่นคืออัลลอฮ์พระผู้อภิบาลของพวกเจ้า พระผู้ทรงกระทำสิ่งเหล่านี้ พระผู้ทรงประทานให้ความโปรดปรานเหล่านี้
40:57
لَخَلْقُ ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضِ أَكْبَرُ مِنْ خَلْقِ ٱلنَّاسِ وَلَـٰكِنَّ أَكْثَرَ ٱلنَّاسِ لَا يَعْلَمُونَ
Translation: แน่นอนการสร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินนั้นใหญ่ยิ่งกว่าการสร้างมนุษย์ แต่ว่าส่วนมากของมนุษย์ไม่รู้(71)
Comment: (71)คือการสร้างมันทั้งสอง การริเริ่ม และการเนรมิตให้สวยงาม จากไม่มีอะไรเลยนั้น มันยิ่งใหญ่กว่าการสร้างมนุษย์ ดังนั้น ผู้ที่สามารถสร้างมันทั้งสองทั้ง ๆ ที่ความยิ่งใหญ่ของมัน จะไม่มีความสามารถในการสร้างสิ่งที่เล็กกว่าและง่ายกว่ากระนั้นหรือ?
40:58
وَمَا يَسْتَوِى ٱلْأَعْمَىٰ وَٱلْبَصِيرُ وَٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ وَعَمِلُوا۟ ٱلصَّـٰلِحَـٰتِ وَلَا ٱلْمُسِىٓءُ ۚ قَلِيلًۭا مَّا تَتَذَكَّرُونَ
Translation: และคนตาบอดกับคนตาดีนั้นย่อมไม่เท่าเทียมกัน และบรรดาผู้ศรัทธาและประกอบความดีทั้งหลายกับพวกกระทำความชั่วก็ไม่เท่าเทียมเช่นกัน เพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่พวกเจ้าจะใคร่ครวญ(72)
Comment: (72)คือคนมุอ์มินกับคนกาฟิรนั้นย่อมไม่เท่าเทียมกัน และคนดีกับคนชั่วก็ไม่เหมือนกัน
40:59
إِنَّ ٱلسَّاعَةَ لَـَٔاتِيَةٌۭ لَّا رَيْبَ فِيهَا وَلَـٰكِنَّ أَكْثَرَ ٱلنَّاسِ لَا يُؤْمِنُونَ
Translation: แท้จริง วันอวสานนั้นจะมีมาอย่างแน่นอน ไม่มีข้อสงสัยใด ๆ ในวันนั้น แต่ว่าส่วนมากของมนุษย์ไม่ยอมศรัทธา(73)
Comment: (73)คือวันกิยามะฮ์จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนปราศจากข้อสงสัยใดๆ ทั้งสิ้น แต่ส่วนมากของมนุษย์คือผู้ปฏิเสธศรัทธานั้นไม่ยอมเชื่อ ดังนั้นพวกเขาจึงปฏิเสธการฟื้นคืนชีพ และการตอบแทน
40:60
وَقَالَ رَبُّكُمُ ٱدْعُونِىٓ أَسْتَجِبْ لَكُمْ ۚ إِنَّ ٱلَّذِينَ يَسْتَكْبِرُونَ عَنْ عِبَادَتِى سَيَدْخُلُونَ جَهَنَّمَ دَاخِرِينَ
Translation: และพระผู้อภิบาลของพวกเจ้าตรัสว่า จงวิงวอนขอต่อข้า ข้าจะตอบรับแก่พวกเจ้า ส่วนบรรดาผู้โอหังกต่อการเคารพภักดีข้านั้น จะเข้าไปอยู่ในนรกอย่างต่ำต้อย(74)
Comment: (74)อิบนุกะซีรกล่าวว่า อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงเรียกร้องให้บ่าวของพระองค์วิงวอนขอต่อพระองค์ และพระองค์ยังรับรองที่จะตอบรับให้แก่พวกเขา เป็นความโปรดปราน การให้เกียรติจากพระองค์
40:61
ٱللَّهُ ٱلَّذِى جَعَلَ لَكُمُ ٱلَّيْلَ لِتَسْكُنُوا۟ فِيهِ وَٱلنَّهَارَ مُبْصِرًا ۚ إِنَّ ٱللَّهَ لَذُو فَضْلٍ عَلَى ٱلنَّاسِ وَلَـٰكِنَّ أَكْثَرَ ٱلنَّاسِ لَا يَشْكُرُونَ
Translation: อัลลอฮ์ผู้ทรงบันดาลกลางคืนให้แก่พวกเจ้า เพื่อจะได้พักผ่อนในเวลาของมัน และกลางวันเพื่อจะได้มองเห็น แท้จริงอัลลอฮ์เป็นเจ้าของความโปรดปรานแก่ปวงมนุษย์แต่ว่าส่วนมากของมนุษย์ไม่ขอบคุณ(75)
Comment: (75)ด้วยเดชานุภาพและความปรีชาญาณของอัลลอฮ์ ตะอาลา พระองค์ทรงทำให้กลางคืนมืด เพื่อพวกเจ้าจะได้พักผ่อนจากความเหนื่อยยากจากการทำงานในเวลากลางวัน และทรงทำให้กลางวันมีแสงสว่างเพื่อพวกเจ้าจะได้ทำมาหากินและแสวงหาริซกี
40:62
ذَٰلِكُمُ ٱللَّهُ رَبُّكُمْ خَـٰلِقُ كُلِّ شَىْءٍۢ لَّآ إِلَـٰهَ إِلَّا هُوَ ۖ فَأَنَّىٰ تُؤْفَكُونَ
Translation: นั่นคืออัลลอฮ์พระผู้อภิบาลของพวกเจ้าผู้ทรงสร้างทุกสิ่ง ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ ดังนั้นทำไมพวกเจ้าจึงถูกหันเหออกจากพระองค์เล่า?(76)
Comment: (76)ไม่มีผู้ใดที่จะถูกเคารพในโลกนี้นอกจากพระองค์ ดังนั้น ทำไมพวกเจ้าจึงหันเหออกจากการอิบาดะฮ์พระผู้สร้างพระผู้ทรงอำนาจ ไปเคารพสักการะรูปปั้น และเจว็ดต่าง ๆ เล่า?
40:63
كَذَٰلِكَ يُؤْفَكُ ٱلَّذِينَ كَانُوا۟ بِـَٔايَـٰتِ ٱللَّهِ يَجْحَدُونَ
Translation: เช่นนั้นแหละ บรรดาผู้ที่ปฏิเสธต่อสัญญาณทั้งหลายของอัลลอฮ์จะถูกทำให้หันเหออก (จากสัจธรรม)(77)
Comment: (77)เช่นเดียวกับที่พวกเจ้าหันเหออกจาการอีมาน และการเตาฮีด ทั้ง ๆ ที่มีหลักฐานอย่างแข็งแรง ดังนั้น บรรดาผู้ที่ปฏิเสธต่อสัญญาณทั้งหลายของอัลลอฮ์ ก็ย่อมจะหันเหออกทุกกาลเวลา และทุกสถานที่ เพราะสัญญาณต่าง ๆ ของพระเจ้า ก็คือหลักฐานและข้อพิสูจน์ ดังนั้น ผู้ที่ปฏิเสธต่อมันก็จะปฏิเสธต่อทุกสิ่งแม้กระทั่งตัวของเขาเอง วัลอิยาซุบิลลาฮ์
40:64
ٱللَّهُ ٱلَّذِى جَعَلَ لَكُمُ ٱلْأَرْضَ قَرَارًۭا وَٱلسَّمَآءَ بِنَآءًۭ وَصَوَّرَكُمْ فَأَحْسَنَ صُوَرَكُمْ وَرَزَقَكُم مِّنَ ٱلطَّيِّبَـٰتِ ۚ ذَٰلِكُمُ ٱللَّهُ رَبُّكُمْ ۖ فَتَبَارَكَ ٱللَّهُ رَبُّ ٱلْعَـٰلَمِينَ
Translation: อัลลอฮ์คือผู้ทรงทำให้แผ่นดินนี้เป็นที่พำนักแก่พวกเจ้า(78) และชั้นฟ้าเป็นเพดานมั่นคง และทรงทำให้พวกเจ้าเป็นรูปร่าง และทรงทำให้รูปร่างของพวกเจ้าสวยงาม(79) และทรงประทานปัจจัยยังชีพจากสิ่งที่ดี ๆ แก่พวกเจ้า นั่นคืออัลลอฮ์พระผู้อภิบาลของพวกเจ้า ดังนั้นอัลลอฮ์พระเจ้าแห่งสากลโลกทรงจำเริญยิ่ง(80)
40:65
هُوَ ٱلْحَىُّ لَآ إِلَـٰهَ إِلَّا هُوَ فَٱدْعُوهُ مُخْلِصِينَ لَهُ ٱلدِّينَ ۗ ٱلْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ ٱلْعَـٰلَمِينَ
Translation: พระองค์คือผู้ทรงมีชีวิต ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ ดังนั้น จงวิงวอนขอต่อพระองค์โดยเป็นผู้มีความบริสุทธิ์ใจในศาสนาของพระองค์(81) บรรดาการสรรเสริญนั้นเป็นของอัลลอฮ์พระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก
Comment: (81)จงเคารพภักดีต่อัลลอฮ์เถิด โอ้บรรดามุอ์มิน โดยเป็นผู้สุจริตมั่นในการภักดีต่อพระองค์ และอย่าได้เคารพภักดีผู้ใดร่วมกับพระองค์
40:66
۞ قُلْ إِنِّى نُهِيتُ أَنْ أَعْبُدَ ٱلَّذِينَ تَدْعُونَ مِن دُونِ ٱللَّهِ لَمَّا جَآءَنِىَ ٱلْبَيِّنَـٰتُ مِن رَّبِّى وَأُمِرْتُ أَنْ أُسْلِمَ لِرَبِّ ٱلْعَـٰلَمِينَ
Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) แท้จริง ฉันถูกห้ามมิให้เคารพภักดีต่อบรรดาที่พวกท่านวิงวอนขออื่นจากอัลลอฮ์เมื่อหลักฐานทั้งหลายอันชัดแจ้งจากพระผู้อภิบาลของฉันได้มีมายังฉันแล้ว และฉันถูกบัญชาให้นอบน้อมต่อพระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก(82)
Comment: (82)อัศซอวีย์กล่าวว่า พระองค์ทรงใช้ให้นบีของพระองค์ประกาศแก่หมู่ชนทั้งหลายเช่นนั้น เป็นการห้ามเขาทั้งหลาย ซึ่งยังคงเคารพบูชาสิ่งอื่นจากอัลลอฮ์ หลังจากที่ได้ปรากฏหลักฐานอย่างชัดแจ้งแล้ว
40:67
هُوَ ٱلَّذِى خَلَقَكُم مِّن تُرَابٍۢ ثُمَّ مِن نُّطْفَةٍۢ ثُمَّ مِنْ عَلَقَةٍۢ ثُمَّ يُخْرِجُكُمْ طِفْلًۭا ثُمَّ لِتَبْلُغُوٓا۟ أَشُدَّكُمْ ثُمَّ لِتَكُونُوا۟ شُيُوخًۭا ۚ وَمِنكُم مَّن يُتَوَفَّىٰ مِن قَبْلُ ۖ وَلِتَبْلُغُوٓا۟ أَجَلًۭا مُّسَمًّۭى وَلَعَلَّكُمْ تَعْقِلُونَ
Translation: พระองค์คือผู้ทรงสร้างพวกเจ้าจากฝุ่นดิน แล้วจากเชื้ออสุจิ แล้วจากก้อนเลือดแล้วทรงให้พวกเจ้าคลอดออกมาเป็นทารกแล้วเพื่อพวกเจ้าจะได้บรรลุสู่วัยฉกรรจ์ของพวกเจ้า แล้วเพื่อพวกเจ้าจะได้เป็นคนชรา และในหมู่พวกเจ้ามีผู้เสียชีวิตในวัยหนุ่ม และเพื่อให้พวกเจ้าจะได้บรรลุสู่วัยที่ถูกกำหนดไว้ และเพื่อพวกเจ้าจะได้ใช้สติปัญญาใคร่ครวญ(83)
Comment: (83)ในอายะฮ์นี้เป็นการชี้แจงถึงขั้นตอนในการสร้างมนุษย์ อัลรอซีย์กล่าวไว้ในหนังสือตัฟซีรของเขาว่า อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงกำหนดขั้นตอนชีวิตของมนุษย์ไว้ 3 ขั้นตอนด้วยกันคือ วัยเด็ก วัยฉกรรจ์ และวัยชรา และนี่คือการกำหนดขั้นตอนที่สอดคล้องกับสติปัญญา เพราะมนุษย์นั้น ในตอนเริ่มแรกของชีวิตอยู่ในขั้นตอนเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์ ซึ่งเรียกว่า วัยหนุ่มฉกรรจ์ จากนั้นก็เริ่มถดถอยลง กำลังวังชาก็เริ่มลดน้อย และอ่อนแอลง และนี่คือวัยชรา
40:68
هُوَ ٱلَّذِى يُحْىِۦ وَيُمِيتُ ۖ فَإِذَا قَضَىٰٓ أَمْرًۭا فَإِنَّمَا يَقُولُ لَهُۥ كُن فَيَكُونُ
Translation: พระองค์ คือผู้ทรงให้เป็นและทรงให้ตาย ดังนั้น เมื่อพระองค์ทรงกำหนดกิจการใดๆ พระองค์ก็จะกล่าวแก่มันว่า จงเป็น แล้วมันก็จะเป็นขึ้นมา(84)
Comment: (84)อะบุสสะอู๊ด กล่าวว่า นี่คือตัวอย่างแห่งเดชานุภาพอันสมบูรณ์ของพระองค์ และเป็นการวาดภาพแห่งการให้มีขึ้นของกิจการใด อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องไห้มีการใช้ และถูกใช้
40:69
أَلَمْ تَرَ إِلَى ٱلَّذِينَ يُجَـٰدِلُونَ فِىٓ ءَايَـٰتِ ٱللَّهِ أَنَّىٰ يُصْرَفُونَ
Translation: เจ้าไม่เห็นดอกหรือว่า บรรดาผู้ที่โต้เถียงในอายะฮฺของอัลลอฮ์(อัลกุรอาน) พวกเขาถูกให้พันเหออกไปอย่างไร ?
40:70
ٱلَّذِينَ كَذَّبُوا۟ بِٱلْكِتَـٰبِ وَبِمَآ أَرْسَلْنَا بِهِۦ رُسُلَنَا ۖ فَسَوْفَ يَعْلَمُونَ
Translation: บรรดาผู้ปฏิเสธต่อคัมภีร์ และต่อสิ่งที่เราได้ส่งมาพร้อมกับรรดาร่อซูลของเราแล้วพวกเขาก็จะได้รู้(85)
Comment: (85)คือเจ้าไม่เห็น และไม่แปลกใจบ้างดอกหรือ ? ถึงสภาพของบรรดาผู้หยิ่งยโสที่โต้เถียงในบรรดาอายาตอัลกุรอานที่ชัดแจ้ง ทำไมพวกเขาจึงหันเหสติปัญญาของพวกเขาออกจากแนวทางที่ถูกต้องไปสู่การหลงทาง บรรดาผู้ที่ปฏิเสธต่ออัลกุรอาน และบรรดาคัมภีร์ต่าง ๆ แล้วพวกเขาจะรู้ถึงบั้นปลายแห่งการปฏิเสธของพวกเขา
40:71
إِذِ ٱلْأَغْلَـٰلُ فِىٓ أَعْنَـٰقِهِمْ وَٱلسَّلَـٰسِلُ يُسْحَبُونَ
Translation: เมื่อห่วงคล้องคออยู่บนต้นของพวกเขา และโซ่ตรวนถูกลากไป
40:72
فِى ٱلْحَمِيمِ ثُمَّ فِى ٱلنَّارِ يُسْجَرُونَ
Translation: ในน้ำเดือดพล่าน แล้วในไฟนรกพวกเขาจะถูกเผาไหม้(86)
Comment: (86)คือขณะที่พวกเขาเข้าสู่นรก มือของพวกเขาจะถูกมัดติดกับต้นคอด้วยโซ่ตรวน และจะถูกลากเข้าไปในน้ำเดือดพล่านด้วยไฟนรก แล้วพวกเขาจะถูกเผาไหม้
40:73
ثُمَّ قِيلَ لَهُمْ أَيْنَ مَا كُنتُمْ تُشْرِكُونَ
Translation: แล้วจะมีเสียงกล่าวแก่พวกเขาว่าไหนเล่าสิ่งที่พวกเจ้าตั้งภาคี(87)
Comment: (87)พวกเขาจะถูกถามว่า ไหนเล่ารูปปั้นและเจว็ดต่าง ๆ ที่พวกเจ้าเคารพบูชา และตั้งให้เป็นภาคีกับอัลลอฮ์
40:74
مِن دُونِ ٱللَّهِ ۖ قَالُوا۟ ضَلُّوا۟ عَنَّا بَل لَّمْ نَكُن نَّدْعُوا۟ مِن قَبْلُ شَيْـًۭٔا ۚ كَذَٰلِكَ يُضِلُّ ٱللَّهُ ٱلْكَـٰفِرِينَ
Translation: อื่นจากอัลลอฮ์พวกเขากล่าวว่ามันได้หลงหายไปจากพวกเราแล้ว แต่ว่าพวกเรามิได้วิงวอนขอต่อสิ่งใดก่อนหน้านี้ดอก! เช่นนั้นแหละ อัลลอฮ์ทรงให้บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาหลงทาง(88)
Comment: (88)พวกเขาจะกล่าวว่า มันได้หายไปจากเราแล้ว เราไม่เห็นมัน และเราก็จะไม่ขอช่วยเหลือจากมัน ยิ่งไปกว่านั้น เราไม่เคยเคารพบูชาสิ่งใด ๆ เลย นักตัฟซีรกล่าวว่า พวกเขาปฏิเสธการเคารพบูชาพวกมัน ที่ทำเช่นนี้ก็เพราะความงมงาย และความปั่นป่วนของพวกเขา
40:75
ذَٰلِكُم بِمَا كُنتُمْ تَفْرَحُونَ فِى ٱلْأَرْضِ بِغَيْرِ ٱلْحَقِّ وَبِمَا كُنتُمْ تَمْرَحُونَ
Translation: นั่นก็เพราะว่า พวกเจ้าหลงระเริงในแผ่นดิน โดยไม่เป็นธรรม และเพราะว่าพวกเจ้าอวดดี(89)
Comment: (89)การลงโทษเช่นนั้นก็เพราะว่าสิ่งที่พวกเจ้าแสดงออกในโลกดุนยา เช่นการดีใจต่อการกระทำความผิด การมีทรัพย์สมบัติมากมาย และใช้จ่ายไปในทางต้องห้าม อีกทั้งการโอ้อวดหยิ่งยโสของพวกเจ้า
40:76
ٱدْخُلُوٓا۟ أَبْوَٰبَ جَهَنَّمَ خَـٰلِدِينَ فِيهَا ۖ فَبِئْسَ مَثْوَى ٱلْمُتَكَبِّرِينَ
Translation: จงเข้าไปในประตูทั้งหลายของนรก เป็นผู้พำนักอยู่ตลอดกาลในนั้น ฉะนั้นที่พำนักของพวกหยิ่งผยองมันชั่วช้าแท้ ๆ
40:77
فَٱصْبِرْ إِنَّ وَعْدَ ٱللَّهِ حَقٌّۭ ۚ فَإِمَّا نُرِيَنَّكَ بَعْضَ ٱلَّذِى نَعِدُهُمْ أَوْ نَتَوَفَّيَنَّكَ فَإِلَيْنَا يُرْجَعُونَ
Translation: ดังนั้นเจ้าจงอดทน แท้จริง สัญญาของอัลลอฮ์นั้นเป็นจริง(90) บางทีเราจะให้เจ้าได้เห็นบางสิ่งที่ได้สัญญาแก่พวกเขา หรือเราจะทำให้เจ้าตายเสียก่อน ดังนั้นพวกเขาจะถูกกลับไปยังเรา(91)
Comment: (90)คือจงอดทนเถิด มุฮัมมัด ต่อการปฏิเสธต่อเจ้า ของกลุ่มชนของเจ้า เพราะสัญญาของอัลลอฮ์ต่อการลงโทษของพวกเขาจะมีขึ้นอย่างแน่นอน อันนี้นับได้ว่าเป็นการปลอบโยนท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และเป็นสัญญาดีที่จะช่วยเหลือท่านให้มีชัยชนะเหนือปวงศัตรู
Comment: (91)คือเราจะให้ได้เห็นการลงโทษ หรือเราจะให้เจ้าตายเสียก่อนที่จะได้เห็นการลงโทษแก่พวกเขา แล้วพวกเขาจะต้องกลับไปหาเราในวันกิยามะฮ์ เพื่อเราจะได้แก้แค้นให้อย่างสาสม
40:78
وَلَقَدْ أَرْسَلْنَا رُسُلًۭا مِّن قَبْلِكَ مِنْهُم مَّن قَصَصْنَا عَلَيْكَ وَمِنْهُم مَّن لَّمْ نَقْصُصْ عَلَيْكَ ۗ وَمَا كَانَ لِرَسُولٍ أَن يَأْتِىَ بِـَٔايَةٍ إِلَّا بِإِذْنِ ٱللَّهِ ۚ فَإِذَا جَآءَ أَمْرُ ٱللَّهِ قُضِىَ بِٱلْحَقِّ وَخَسِرَ هُنَالِكَ ٱلْمُبْطِلُونَ
Translation: และโดยแน่นอน เราได้ส่งบรรดาร่อซูลมาก่อนหน้าเจ้าบางคนในหมู่พวกเขามีผู้ที่เราบอกเล่าแก่เจ้า และบางคนในหมู่พวกเขามีผู้ที่เรามิได้บอกเล่าแก่เจ้า และไม่บังควรแก่ร่อซูลที่จะนำสัญญาณใด ๆ มา เว้นแต่ ด้วยอนุมัติของอัลลอฮ์มาถึงเรื่องนั้นก็จะถูกตัดสินด้วยความยุติธรรม และขณะนั้นบรรดาผู้กล่าวเท็จก็จะขาดทุนอย่างย่อยยับ(92)
Comment: (92)อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงบอกร่อซูลของพระองค์เป็นการยืนยันข่าวแก่เขาเป็นการปลอบโยนแก่เขา เพื่อให้เขามีความอดทนต่อไป ว่าก่อนหน้าเขานั้น พระองค์ได้ส่งบรรดาร่อซูลมากมาย บางคนพระองค์ทรงเล่าข่าวคราวของพวกเขาแก่เขา บางคนพระองค์ก็มิได้ทรงเล่าข่าวคราวของพวกเขาแก่เขา ซึ่งก็มีมากมายเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสำคัญและไม่สำคัญของเรื่องนั้น ๆ
40:79
ٱللَّهُ ٱلَّذِى جَعَلَ لَكُمُ ٱلْأَنْعَـٰمَ لِتَرْكَبُوا۟ مِنْهَا وَمِنْهَا تَأْكُلُونَ
Translation: อัลลอฮ์คือผู้ทรงทำปศุสัตว์บางชนิดให้พวกเจ้าเพื่อใช้เป็นพาหนะ และบางชนิด เพื่อให้พวกเจ้าใช้กิน
40:80
وَلَكُمْ فِيهَا مَنَـٰفِعُ وَلِتَبْلُغُوا۟ عَلَيْهَا حَاجَةًۭ فِى صُدُورِكُمْ وَعَلَيْهَا وَعَلَى ٱلْفُلْكِ تُحْمَلُونَ
Translation: และสำหรับพวกเจ้าในตัวมันนั้นมีประโยชน์มากหลาย และเพื่อพวกเจ้าจะได้บรรลุสมความปราถนาที่มีอยู่ในทรวงอกของพวกเจ้า และพวกเจ้าบรรทุกบนหลังมันเช่นเดียวกับใช้บรรทุกบนเรือ(93)
Comment: (93)อัลลอฮ์ ตะอาลา ผู้ซึ่งบรรดาพระเจ้าอื่นใดไม่เหมาะสมที่จะเป็นพระเจ้านอกจากพระองค์ทรงทำให้อูฐ วัว ควาย แพะแกะเกิดมาเพื่อผลประโยชน์ของพวกเจ้า ทำทำให้อูฐเป็นพาหนะใช้บรรทุกสัมภาระและสินค้าในระยะทางไกล ๆ ทำให้เป็นที่พอใจของพวกเจ้า สำหรับสัตว์ที่ใช้ประโยชน์สำหรับกินก็คือ วัยควายแพะแกะ และยังให้ประโยชน์ทางด้านอื่น ๆ เช่น เขา ขน หนัง และนมของมันใช้สำหรับดื่ม และทำเนยสำหรับปรุงอาหารอีกด้วย ที่เปรียบเทียบ การบรรทุกหลังอูฐกับการบรรทุกบนเรือนั้นมีความคล้ายคลึงกันมากเพราะเรือนั้นเป็นพาหนะทางน้ำ ส่วนอูฐเป็นพาหนะทางบก
40:81
وَيُرِيكُمْ ءَايَـٰتِهِۦ فَأَىَّ ءَايَـٰتِ ٱللَّهِ تُنكِرُونَ
Translation: และพระองค์ได้ทรงให้พวกเจ้าเห็นสัญญาณต่าง ๆ ของพระองค์ดังนั้น ด้วยสัญญาณต่าง ๆ ของอัลลอฮ์อันใดเล่าที่พวกเจ้าปฏิเสธ(94)
Comment: (94)คือพระองค์ทรงให้พวกเจ้าเห็นหลักฐานและข้อพิสูจน์ต่าง ๆ เหล่านั้น ทั้ง ๆ ที่มันเป็นที่ประจักษ์แจ้งอยู่แล้ว
40:82
أَفَلَمْ يَسِيرُوا۟ فِى ٱلْأَرْضِ فَيَنظُرُوا۟ كَيْفَ كَانَ عَـٰقِبَةُ ٱلَّذِينَ مِن قَبْلِهِمْ ۚ كَانُوٓا۟ أَكْثَرَ مِنْهُمْ وَأَشَدَّ قُوَّةًۭ وَءَاثَارًۭا فِى ٱلْأَرْضِ فَمَآ أَغْنَىٰ عَنْهُم مَّا كَانُوا۟ يَكْسِبُونَ
Translation: พวกเข้ามิได้ท่องเที่ยวไปตามแผ่นดินดอกหรือ ? แล้วพิจารณาดูว่า บั้นปลายของประชาชาติในยุคก่อนหน้าพวกเขาเป็นเช่นใด เขาเหล่านั้นมีจำนวนมากกว่ายพวกเขา และมีพลังเข้มแข็งว่า และได้ทิ้งร่องรอยไว้มากมายในแผ่นดิน ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาได้กระทำไว้นั้นหาได้อำนวยประโยชน์แก่พวกเขาไม่(95)
Comment: (95)โปรดดูคำอธิบายอายะฮ์ที่ 21 ของซูเราะฮ์นี้
40:83
فَلَمَّا جَآءَتْهُمْ رُسُلُهُم بِٱلْبَيِّنَـٰتِ فَرِحُوا۟ بِمَا عِندَهُم مِّنَ ٱلْعِلْمِ وَحَاقَ بِهِم مَّا كَانُوا۟ بِهِۦ يَسْتَهْزِءُونَ
Translation: ดังนั้น เมื่อบรรดาร่อซูลของพวกเขาได้มายังพวกเขาพร้อมด้วยหลักฐานต่าง ๆ อันชัดแจ้งพวกเขาก็ดีใจกับความรู้ (ทางด้านวัตถุ) ที่มีอยู่กับพวกเขา และสิ่งที่พวกเขาเคยเยาะเย้ยไว้นั้นก็ห้อมล้อมพวกเขา(96)
Comment: (96)อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงแจ้งให้เราทราบถึงพวกปฏิเสธศรัทธาเหล่านั้นว่า เมื่อบรรดาร่อซูลได้มาหาพวกเขาพร้อมด้วยหลักฐานต่าง ๆ อันชัดแจ้งถึงความเป็นเอกภาพของอัลลอฮ์ การพื้นคืนชีพ การตอบแทนและการเป็นนบี และการเป็นร่อซูลนั้นเป็นสัจจะพวกเขาดีใจกับความรู้ของพวกเขาที่มีอยู่ คือความรู้ทางโลกดุนยาเกี่ยวกับทางด้านวัตถุ พวกเขาดูถูกเย้ยหยันความรู้ทางด้านศาสนา ดังนั้นการลงโทษอันเนื่องมาจากการปฏิเสธศรัทธาของพวกเขา และการดูถูกเย้ยหยันของพวกเขาได้มาปรากฏให้พวกเขาได้เห็นอย่างชัดเจน
40:84
فَلَمَّا رَأَوْا۟ بَأْسَنَا قَالُوٓا۟ ءَامَنَّا بِٱللَّهِ وَحْدَهُۥ وَكَفَرْنَا بِمَا كُنَّا بِهِۦ مُشْرِكِينَ
Translation: ครั้นเมื่อพวกเขาได้เห็นการลงโทษอย่างหนักของเรา พวกเขาก็กล่าวว่า เราศรัทธาต่อัลลอฮ์องค์เดียว และเราปฏิเสธศรัทธาต่อสิ่งที่เราเคยตั้งภาคีต่อพระองค์(97)
Comment: (97)เมื่อพวกเขาได้เห็นการลงโทษอย่างหนักห้อมล้อมพวกเขา พวกเขาก็ประกาศกลับเนื้อกลับตัว ว่า พวกเราศรัทธาต่ออัลลอฮ์พระองค์เดียว พวกเราปฏิเสธต่อการที่เราตั้งสิ่งอื่นเป็นภาคีกับพระองค์คือกล่าวว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์
40:85
فَلَمْ يَكُ يَنفَعُهُمْ إِيمَـٰنُهُمْ لَمَّا رَأَوْا۟ بَأْسَنَا ۖ سُنَّتَ ٱللَّهِ ٱلَّتِى قَدْ خَلَتْ فِى عِبَادِهِۦ ۖ وَخَسِرَ هُنَالِكَ ٱلْكَـٰفِرُونَ
Translation: แต่การศรัทธาของพวกเขาจะไม่อำนวยประโยชน์แก่พวกเขาเลย ในเมื่อพวกเขาได้เห็นการลงโทษอย่างหนักของเรา นี่คือแนวทางของอัลลอฮ์ที่ได้มีมาแต่ในอดีตในปวงบ่าวของพระองค์ และขณะนั้นบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาก็ได้ขาดทุนอย่างย่อยยับ(98)
Comment: (98)อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงแจ้งให้พวกเขาทราบว่า นี่คือแนวทางของอัลลอฮ์ในการสร้างของพระองค์ นั่นก็คือการอีมานศรัทธาจะไม่อำนวยประโยชน์ เมื่อได้เห็นการลงโทษ หากว่าการอีมานถูกรับเมื่อได้เห็นการลงโทษแล้ว คนกาฟิร ก็จะไม่ปฏิเสธศรัทธา และก็จะไม่มีผู้ใดเข้านรกเลย