سورة البقرة

Al-Baqara

The Cow


medinan   .   286 Ayahs

بِسْمِ ٱللَّهِ ٱلرَّحْمَـٰنِ ٱلرَّحِيمِ


2:1

الٓمٓ

Translation: อะลีฟ ลาม มีม(6)(อัลลอฮ์ทรงทราบความหมายของอักษรย่อนี้)

Comment: (6)คำนี้มิใช่เป็นศัพท์ที่ถูกกำหนดให้มีความหมายดังเช่นคำอื่นๆ หากแต่เป็นพยัญชนะโดดๆ ซึ้งถูกนำมารวมกัน เพื่อให้อ่านออกเสียงพยัญชนะเหล่านี้ต่อเนื่องกัน ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องอ่านออกเสียงเป็นพยัญชนะโดดๆ ว่า อะลิฟ ลาม มีม ส่วนความมุ่งหมายอันแท้จริงของคำนี้และคำอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกันเช่น อะลิฟ ลาม รอ เป็นต้น ไม่มีใครสามารถเข้าใจได้ เพราะท่านนบีมิได้อธิบายไว้ แต่กระนั้นก็ยังมีนักปราชญ์บางท่านพยายามหาความเข้าใจ โดยนำพยัญชนะอื่นๆ มาประกอบเพื่อให้มีความหมายในการนนี้ย่อมทำให้ความหมายของแต่ละพยัญชนะแตกต่างกันไป ซึ่งไม่เป็นที่ยึดได้ ยังมีทรรศนะหนึ่งของนักปราชญ์บางท่านว่า พยัญชนะเหล่านี้ถูกนำมาระบุบไว้ในตอนต้นของซูเราะฮ์ เพื่อเตือนผู้คนให้หันมาสนใจและสดับฟังในโองการของอัลลอฮ์ที่จะอ่านให้ฟังต่อไปคล้ายกับคำที่ใช้เตือนให้เตรียมตัว เช่นการนับ หนึ่ง สอง สาม กระนั้น นี่เป็นเพียงทรรศนคติของนักปราชญ์ที่ต้องการจะให้ความหมาย แต่ความหมายที่แท้จริงนั้นไม่มีใครสามารถจะรู้ได้ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว

2:2

ذَٰلِكَ ٱلْكِتَـٰبُ لَا رَيْبَ ۛ فِيهِ ۛ هُدًۭى لِّلْمُتَّقِينَ

Translation: คัมภีร์นี้ ไม่มีความสงสัยใดๆ ในนั้น เป็นแนวทางสำหรับบรรดาผู้ยำเกรงเท่านั้น

2:3

ٱلَّذِينَ يُؤْمِنُونَ بِٱلْغَيْبِ وَيُقِيمُونَ ٱلصَّلَوٰةَ وَمِمَّا رَزَقْنَـٰهُمْ يُنفِقُونَ

Translation: คือบรรดาผู้ศรัทธาต่อสิ่งเร้นลับ(7) และดำรงไว้ซึ่งการละหมาดและส่วนหนึ่งจากสิ่งที่เราได้ให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเขา พวกเขาก็บริจาค

Comment: (7)หมายถึงสิ่งที่พ้นญาณวิสัยของมนุษย์ เช่น องค์อัลลอฮ์ มลาอิกะฮ์ของพระองค์ และสภาพวันกิยามะฮ์ ตลอดจนการสอบสวนของมุงกัร และนะกรี แก่ผู้ที่เสียชีวิตไม่ว่าจะถูกฝังไว้ในสุสานหรือถูกเก็บไว้ในที่อื่นใดก็ตาม พร้อมด้วยการตอบแทน และลงโทษบุคคลเหล่านั้นในเบื้องต้นก่อนด้วย

2:4

وَٱلَّذِينَ يُؤْمِنُونَ بِمَآ أُنزِلَ إِلَيْكَ وَمَآ أُنزِلَ مِن قَبْلِكَ وَبِٱلْـَٔاخِرَةِ هُمْ يُوقِنُونَ

Translation: และบรรดาผู้ที่ศรัทธาต่อสิ่งที่ถูกประทานลงมาแก่เจ้า(8) และสิ่งที่ถูกประทานลงมาก่อนเจ้า(9) และต่อวันปรโลกพวกเขาเชื่อมั่น

Comment: (8)คือ คัมภีร์ อัลกุรอานที่ถูกประทานลงมาแก่นบี

Comment: (9)ได้แก่คัมภีร์ เตารอตและอินญีล และคัมภีร์อื่นๆ

2:5

أُو۟لَـٰٓئِكَ عَلَىٰ هُدًۭى مِّن رَّبِّهِمْ ۖ وَأُو۟لَـٰٓئِكَ هُمُ ٱلْمُفْلِحُونَ

Translation: ชนเหล่านี้ คือ ผู้ที่(ตั้ง)อยู่บนแนวทาง(10) ที่มาจากพระผู้อภิบาลของพวกเขา และชนเหล่านี้ คือผู้ที่บรรลุผล

Comment: (10)ปฏิบัติตามคำแนะนำที่มาจากอัลลอฮ์ผู้เป็นพระเจ้าของพวกเรา

2:6

إِنَّ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ سَوَآءٌ عَلَيْهِمْ ءَأَنذَرْتَهُمْ أَمْ لَمْ تُنذِرْهُمْ لَا يُؤْمِنُونَ

Translation: แท้จริงบรรดาผู้ที่ปฏิเสธการศรัทธานั้นย่อมมีผลเท่ากันแก่พวกเขา เจ้าจะตักเตือนพวกเขาแล้วหรือยังมิได้ตักเตือนพวกเขาก็หาได้ศรัทธาไม่

2:7

خَتَمَ ٱللَّهُ عَلَىٰ قُلُوبِهِمْ وَعَلَىٰ سَمْعِهِمْ ۖ وَعَلَىٰٓ أَبْصَـٰرِهِمْ غِشَـٰوَةٌۭ ۖ وَلَهُمْ عَذَابٌ عَظِيمٌۭ

Translation: อัลลอฮ์ได้ทรงประทับปิดบนหัวใจของพวกเขา และบนหูของพวกเขา และบนตาของพวกเขาก็มีสิ่งบดบังอยู่(11) และเขาเหล่านั้นจะได้รับการลงโทษอันมหันต์

Comment: (11)เป็นการเปรียบเทียบผู้ปฏิเสธศรัทธาว่า พวกเขาประหนึ่งผู้ที่หัวใจและหูของเขาถูกปิดพนึกไว้ เพราะการไม่ยอมเข้าใจ และสดับฟังความจริงที่มาจากพระเจ้าของเขา ย่อมไม่แตกต่างกับหัวใจและหูที่ถูกปิดผนึกไว้แต่อย่างใด เพราะต่างก็ไม่ได้รับความกระจ่างจากอัลลอฮ์เช่นเดียวกันและตาของพวกเขาที่ไม่ใช้มองในสิ่งที่อำนวยประโยชน์ ก็ไม่แตกต่างจากตาที่มีสิ่งปกคลุมแต่อย่างใด

2:8

وَمِنَ ٱلنَّاسِ مَن يَقُولُ ءَامَنَّا بِٱللَّهِ وَبِٱلْيَوْمِ ٱلْـَٔاخِرِ وَمَا هُم بِمُؤْمِنِينَ

Translation: และจากหมู่มนุษย์มีผู้กล่าว่าเราได้ศรัทธาต่ออัลลอฮ์และวันปรโลกแล้ว ทั้งๆ ที่พวกเขาหาใช่เป็นผู้ศรัทธาไม่(12)

Comment: (12)หมายถึงพวกมุนาฟิกที่ศรัทธาแต่เพียงคำพูด แต่หัวใจปฏิเสธ

2:9

يُخَـٰدِعُونَ ٱللَّهَ وَٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ وَمَا يَخْدَعُونَ إِلَّآ أَنفُسَهُمْ وَمَا يَشْعُرُونَ

Translation: เขาเหล่านั้นต่างหลอกลวงอัลลอฮ์และบรรดาผู้ที่ศรัทธา และพวกเขาหาได้หลอกลวงใครไม่ นอกจากตัวของพวกเขาเอง(13) แต่พวกเขาไม่รู้สึก

Comment: (13)คือการหลอกลวงของพวกเขานั้น หาได้เป็นอันตรายแก่ผู้ใดไม่ นอกจากตัวของพวกเขาเองเท่านั้น เพราะพวกเขาปฏิเสธข้อปฏิบัติที่จะอำนวยประโยชน์แก่ตัวของพวกเขาเอง แต่พวกเขาไม่รู้สึก

2:10

فِى قُلُوبِهِم مَّرَضٌۭ فَزَادَهُمُ ٱللَّهُ مَرَضًۭا ۖ وَلَهُمْ عَذَابٌ أَلِيمٌۢ بِمَا كَانُوا۟ يَكْذِبُونَ

Translation: ในหัวใจของพวกเขามีโรคอย่างหนึ่ง(14) แล้วอัลลอฮ์ได้ทรงเพิ่มโรคอีกอย่างหนึ่ง(15) ให้แก่พวกเขา และพวกเขาจะได้รับการลงโทษอันเจ็บแสบเนื่องจากการที่พวกเขากล่าวเท็จ

Comment: (14)โรคแห่งความสงสัย

Comment: (15)โรคแห่งความดื้นรั้นและปฏิเสธศรัทธา

2:11

وَإِذَا قِيلَ لَهُمْ لَا تُفْسِدُوا۟ فِى ٱلْأَرْضِ قَالُوٓا۟ إِنَّمَا نَحْنُ مُصْلِحُونَ

Translation: และเมื่อได้ถูกกล่าวแก่พวกเขาว่า พวกท่านจงอย่าก่อความเสียหาแก่แผ่นดิน พวกเขาก็กล่าวว่า ที่จริงนั้นเราเป็นผู้ปรับปรุงให้ดีต่างหาก(16)

Comment: (16)เป็นการกล่าวแก้ต่างที่แสดงออกซึ่งความดึงดัน และมีทิฐิ

2:12

أَلَآ إِنَّهُمْ هُمُ ٱلْمُفْسِدُونَ وَلَـٰكِن لَّا يَشْعُرُونَ

Translation: พึงรู้เถิดว่า แท้จริง พวกเขานั่นแหละเป็นผู้ที่ก่อความเสียหาย(17) แต่ทว่าพวกเขาไม่รู้สึก

Comment: (17)เพราะพวกเขาประพฤติและปฏิบัติตามความใคร่ใฝ่ต่ำ จึงก่อให้เกิดความเสียหาย แต่เนื่องจากหัวใจของพวกเขาบอดเสียแล้วพวกเขาจึงไม่รู้สึก

2:13

وَإِذَا قِيلَ لَهُمْ ءَامِنُوا۟ كَمَآ ءَامَنَ ٱلنَّاسُ قَالُوٓا۟ أَنُؤْمِنُ كَمَآ ءَامَنَ ٱلسُّفَهَآءُ ۗ أَلَآ إِنَّهُمْ هُمُ ٱلسُّفَهَآءُ وَلَـٰكِن لَّا يَعْلَمُونَ

Translation: และเมื่อได้ถูกล่าวแก่พวกเขาว่า พวกท่านจงศรัทธาเยี่ยงที่ประชาชน(18) เขาศรัทธาเถิด พวกเขากล่าวว่าจะให้เราศรัทธาเยี่ยงผู้โฉดเขลาเหล่านั้นศรัทธา(19) กระนั่นหรือ? พึงรู้เถิดว่า พวกเขาเองนั่นแหละเป็นผู้ที่โฉดเขลาแต่พวกเขาหารู้ไม่

Comment: (18)หมายถึงผู้ที่ศรัทธาด้วยใจจริง

Comment: (19)หมายถึงผู้ที่ศรัทธาต่อท่านนบีมูฮัมมัด กล่าวคือ พวกมุนาฟิกนั้น เมื่อได้รับคำเชิญชวนให้ศรัทธาต่อท่านนบี เช่นเดียวกับผู้ศรัทธาทั้งหลาย พวกเขากล่าวว่า ผู้ศรัทธาทั้งหลายเป็นพวกโง่เขลาทั้งนั้น จะให้พวกเขาศรัทธาเช่นพวกเหล่านั้นย่อมเป็นไปไม่ได้

2:14

وَإِذَا لَقُوا۟ ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ قَالُوٓا۟ ءَامَنَّا وَإِذَا خَلَوْا۟ إِلَىٰ شَيَـٰطِينِهِمْ قَالُوٓا۟ إِنَّا مَعَكُمْ إِنَّمَا نَحْنُ مُسْتَهْزِءُونَ

Translation: และเมื่อพวกเขาพบบรรดาผู้ศรัทธาพวกเขาก็กล่าวว่า เราศรัทธาแล้วและเมื่อพวกเขาได้อยู่กับบรรดาหัวโจกพวกเขาแต่ลำพังพวกเขาก็กล่าวว่า แท้จริง เรายังอยู่กับพวกท่าน ที่จริงเราเป็นแต่เพียงผู้เย้ยหยันเท่านั้น(20)

Comment: (20)คือเย้ยหยันผู้ศรัทธา ด้วยการแสดงตนว่าเป็นผู้ศรัทธา ทั้ง ๆ ที่พวกเขาไม่ได้ศรัทธาแต่อย่างใด

2:15

ٱللَّهُ يَسْتَهْزِئُ بِهِمْ وَيَمُدُّهُمْ فِى طُغْيَـٰنِهِمْ يَعْمَهُونَ

Translation: อัลลอฮ์ทรงเย้ยหยันพวกเขาและทรงยืดเวลาให้พวกเขาระเริงอยู่ในการละเมิดของพวกเขาต่อไป(21)

Comment: (21)อัลลอฮ์จะไม่ทรงลงโทษในทันทีทันใด แต่จะทรงปล่อยให้พวกเขาระเริงอยู่ในการละเมิดต่อไป จนกระทั่งทรงเห็นว่าได้เวลาอันสมควรแล้ว ก็จะทรงลงโทษ และผู้ใดที่อัลลอฮ์ทรงลงโทษแล้วก็ไม่มีใครจะช่วยเขาได้

2:16

أُو۟لَـٰٓئِكَ ٱلَّذِينَ ٱشْتَرَوُا۟ ٱلضَّلَـٰلَةَ بِٱلْهُدَىٰ فَمَا رَبِحَت تِّجَـٰرَتُهُمْ وَمَا كَانُوا۟ مُهْتَدِينَ

Translation: ชนเหล่านี้คือผู้ที่ซื้อทางหลงผิดด้วยทางที่ถูกต้อง(22) ดังนั้นการค้าของพวกเขาจึงไม่ได้กำไร(23) และทั้งพวกเขาก็ไม่เคยเป็นผู้รับเอาทางที่ถูกต้อง

Comment: (22)คือนำเอาแนวทางที่ถูกต้องที่อัลลอฮ์ทรงประทานให้ไปแลกเปลี่ยนเอาทางที่ผิด

Comment: (23)อัลลอฮ์ทรงเปรียบเทียบการดำเนินชีวิตของมนุษย์ว่าเหมือนกับการค้าขาย กล่าวคือการดำเนินชีวิตในทางที่ผิดนั้น ย่อมทำให้ชีวิตได้รับความเดือดร้อนฉันใด การค้าขายที่ซื้อแต่สินค้าเลว ๆ และเสียหาย ย่อมนำมาซึ่งการขาดทุนฉันนั้น

2:17

مَثَلُهُمْ كَمَثَلِ ٱلَّذِى ٱسْتَوْقَدَ نَارًۭا فَلَمَّآ أَضَآءَتْ مَا حَوْلَهُۥ ذَهَبَ ٱللَّهُ بِنُورِهِمْ وَتَرَكَهُمْ فِى ظُلُمَـٰتٍۢ لَّا يُبْصِرُونَ

Translation: อุปมาพวกเขา ดังผู้ที่จุดไฟขึ้น(24) ครั้งเมื่อไฟได้ให้แสงสว่างแก่สิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวเขา(25) อัลลอฮ์ก็ทรงนำเอาแสงสว่างของพวกเขาไป(26) และปล่อยพวกเขาไว้ในบรรดาความมืด ซึ่งพวกเขาไม่สามารถจะมองเห็นได้

Comment: (24)เพื่อจะได้เห็นสิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัวพวกเขาว่า มีอะไรบ้างที่มีประโยชน์และเป็นอันตรายแก่ตัวของพวกเขาอันเปรียบได้ดั่งการมาของอิสลาม เพราะอิสลามทำให้เขารู้และเข้าใจสิ่งที่เป็นหน้าที่ของพวกเขา ความที่ว่า “สิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัวของพวกเขา” นั้น หมายถึงหน้าที่ต่าง ๆ ที่พวกเขาต้องปฏิบัติ

Comment: (25)เมื่อไฟได้ช่วยให้เขาเห็นสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวเขา อันหมายถึงหน้าที่ของพวกเขา แทนที่เขาจะให้ความสนใจกับสิ่งเหล่านั้นเพื่อประโยชน์แก่ตัวของเขา กลับทำเป็นไม่เห็นและผินหลังให้เสีย

Comment: (26)เมื่อพวกเขาไม่สนใจในสิ่งที่พวกเขาเห็นรอบ ๆ ตัวของเขา อัลลอฮ์ทรงปล่อยให้พวกเขาอยู่ในความมืดต่อไปกล่าวคือ ปล่อยให้จมปลักในความโง่ต่อไป ตามที่พวกเขาปรารถนา ทั้งนี้โดยที่ได้ทรงใช้ถ้อยคำในเชิงประชดว่า อัลลอฮ์ก็ทรงนำเอาแสงสว่างของพวกเขาไป ปล่อยให้พวกเขาอยู่ในความมืดมิด ซึ่งพวกเขาไม่สามารถจะมองเห็นได้ ในการที่จะทำให้พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ในความมืด โดยไม่สามารถรู้ว่าอะไรควรและไม่ควร อันเป็นการเปรียบเทียบให้เห็นสภาพของผู้ปฏิบัติศรัทธาว่าการดำเนินชีวิตของพวกเขานั้นเหมือนอยู่ในความมืด

2:18

صُمٌّۢ بُكْمٌ عُمْىٌۭ فَهُمْ لَا يَرْجِعُونَ

Translation: เขาเหล่านั้นเป็นคนหูหนวก เป็นใบ้ และตาบอด ดังนั้น พวกเขาจึงไม่สามารถจะกลับมาได้(27)

Comment: (27)อัลลอฮ์ทรงเปรียบเทียบพวกเขาว่าประหนึ่ง คนหูหนวก เป็นใบ้ และตาบอด และประการหนึ่งว่าพวกมุนาฟิกนั้น เป็นพวกที่สูญเสียอวัยวะสำคัญทั้งสามดังกล่าว แน่นอนผู้ที่มีสภาพดังกล่าวย่อมไม่สามารถกลับไปสู่ทางที่ถูกได้ เพราะว่าจะฟังเขาพูดก็ไม่ได้ยิน จะถามเขาก็พูดไม่ได้ และจะมองก็มองไม่เห็น อันนับได้ว่าเป็นมนุษย์ที่น่าทุเรศที่สุด

2:19

أَوْ كَصَيِّبٍۢ مِّنَ ٱلسَّمَآءِ فِيهِ ظُلُمَـٰتٌۭ وَرَعْدٌۭ وَبَرْقٌۭ يَجْعَلُونَ أَصَـٰبِعَهُمْ فِىٓ ءَاذَانِهِم مِّنَ ٱلصَّوَٰعِقِ حَذَرَ ٱلْمَوْتِ ۚ وَٱللَّهُ مُحِيطٌۢ بِٱلْكَـٰفِرِينَ

Translation: หรือดังฝนที่หลั่งลงมาจากฟากฟ้าโดยที่ในฝนนั้นมีทั้งบรรดาความมืด ฟ้าคำรนและฟ้าแลบ พวกเขาจึงเอานิ้วมือของพวกเขาอุดหูไว้เนื่องจากฟ้าผ่าเพราะกลัวความตาย(28) และอัลลอฮ์นั้นทรงห้อมล้อม(29) พวกปฏิเสธการศรัทธา

Comment: (28)ตามธรรมดาสำหรับผู้มีปัญญานั้น เมื่อกลัวฟ้าผ่า ก็จะต้องหลีกเลี่ยงให้ห่างไกลจากสิ่งที่เป็นสื่อไฟฟ้าเสีย จึงจะได้รับความปลอดภัย ไม่ใช่เอานิ้วมืออุดหู เพื่อไม่ให้ได้ยินเสียฟ้าผ่า แล้วฟ้าก็จะไม่ผ่า อันเป็นการกระทำของผู้ที่ขาดปัญญา ในทำนองเดียวกัน พวกมุนาฟิกที่พยายามหลีกเลี่ยงไม่ยอมฟัง อัลกุรอาน และคำแนะนำของท่านนบีนั้น ก็ใช่ว่าจะพ้นการลงโทษของอัลลอฮ์ได้ เพียงแต่แก้ตัวว่าไม่เคยได้ยินโองการของอัลลอฮ์และคำแนะนำของท่านนบีเท่านั้น

Comment: (29)เป็นการแจ้งให้ทราบว่าพวกเขาไม่สามารถจะหนีให้พ้นไปได้ เพราะประหนึ่งพวกเขาถูกล้อมไว้แล้ว

2:20

يَكَادُ ٱلْبَرْقُ يَخْطَفُ أَبْصَـٰرَهُمْ ۖ كُلَّمَآ أَضَآءَ لَهُم مَّشَوْا۟ فِيهِ وَإِذَآ أَظْلَمَ عَلَيْهِمْ قَامُوا۟ ۚ وَلَوْ شَآءَ ٱللَّهُ لَذَهَبَ بِسَمْعِهِمْ وَأَبْصَـٰرِهِمْ ۚ إِنَّ ٱللَّهَ عَلَىٰ كُلِّ شَىْءٍۢ قَدِيرٌۭ

Translation: สายฟ้าแลบแทบจะเฉี่ยวสายตาของพวกเขาไป(30) คราใดที่มันให้แสงสว่างแก่พวกเขา พวกเขาก็เดินไปในแสงสว่างนั้น(31) และเมื่อมันมืดลงแก่พวกเขา พวกเขาก็หยุดยืน และหากอัลลอฮ์ทรงประสงค์แล้ว(32) แน่นอนก็ทรงนำเอาหูและตาของพวกเขาไปแล้ว แท้จริง อัลลอฮ์นั้นทรงอานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง

Comment: (30)อัลลอฮ์ทรงเปรียบเทียบว่า ความชัดเจนของอัลกุรอานนั้นให้ความเจิดจ้าประดุจสายฟ้าแลบที่แทบจะเฉี่ยวสายตาของพวกเขาไป

Comment: (31)ทรงเทียบว่า เมื่ออัลกุรอานได้ให้ความเข้าใจแก่พวกเขา ในสิ่งที่พวกเขายังมืดมนอยู่ (อันเปรียบเสมือนแสงฟ้าแลบที่ให้ความสว่างแก่พวกเขา) พวกเขาก็ปฏิบัติตาม แต่เมื่อพวกเขาไม่สบอารมณ์ในข้อความของอัลกุรอาน (อันเปรียบเสมือนแสงฟ้าแลบได้มืดลง) พวกเขาก็ไม่ยอมปฏิบัติ (อันเปรียบเสมือนพวกที่ยืนอยู่กับที่)

Comment: (32)ถ้าอัลลอฮ์ทรงประสงค์จะลงโทษพวกเขา พระองค์ก็ทรงให้ตาของพวกเขาบอดไปแล้ว เพราะมีตาก็เหมือนไม่มี เนื่องจากไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองแต่อย่างใด

2:21

يَـٰٓأَيُّهَا ٱلنَّاسُ ٱعْبُدُوا۟ رَبَّكُمُ ٱلَّذِى خَلَقَكُمْ وَٱلَّذِينَ مِن قَبْلِكُمْ لَعَلَّكُمْ تَتَّقُونَ

Translation: มนุษย์เอ๋ย! จงเคารพอิบาดะฮ์(33) พระผู้อภิบาลของพวกเจ้าที่ทรงบังเกิดพวกเจ้าและบรรดาผู้ที่มาก่อนพวกเจ้าเถิดเพื่อว่าพวกเจ้าจะยำเกรง

Comment: (33)การให้เอกภาพแเด่อัลลอฮ์ด้วยความนอบน้อมถ่อมตน และจงรักภักดีต่อพระองค์

2:22

ٱلَّذِى جَعَلَ لَكُمُ ٱلْأَرْضَ فِرَٰشًۭا وَٱلسَّمَآءَ بِنَآءًۭ وَأَنزَلَ مِنَ ٱلسَّمَآءِ مَآءًۭ فَأَخْرَجَ بِهِۦ مِنَ ٱلثَّمَرَٰتِ رِزْقًۭا لَّكُمْ ۖ فَلَا تَجْعَلُوا۟ لِلَّهِ أَندَادًۭا وَأَنتُمْ تَعْلَمُونَ

Translation: พระองค์คือผู้ทรงให้แผ่นดินเป็นที่นอน(34) และฟ้าเป็นอาคาร(35) แก่พวกเจ้าและทรงให้น้ำหลั่งลงมาจากฟากฟ้าแล้วได้ทรงให้บรรดาผลไม้ออกมาเนื่องด้วยน้ำนั้นทั้งนี้เพื่อเป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้า ดังนั้น พวกเจ้าจงอย่าให้มีผู้เท่าเทียมใดๆ ขึ้น สำหรับอัลลอฮ์(36) โดยที่พวกเจ้าก็รู้กันอยู่

Comment: (34)ให้แผ่นดินเป็นผืนราบเหมือนที่นอน

Comment: (35)ให้ฟากฟ้าที่มองเห็นเป็นรูปโดมนั้น เป็นเสมือนอาคารที่มนุษย์พักอาศัย

Comment: (36)อย่าให้มีผู้หนึ่งผู้ใดหรือสิ่งหนึ่งสิ่งใดเท่าเทียมกับพระองค์ ทั้งในความรัก ความกลัวเกรง และในการจงรักภักดี ตลอดจนในสิ่งอื่นใดทั้งสิ้น กล่าวคือ เราจะต้องให้พระองค์อยู่เหนือกว่าสิ่งใดทั้งมวล เฉพาะอย่างยิ่งในการอิบาดะฮ์ต่อพระองค์ทุกประเภท จะต้องให้เป็นไปเพื่อความโปรดปรานของพระองค์ แต่เพียงองค์เดียวเท่านั้น

2:23

وَإِن كُنتُمْ فِى رَيْبٍۢ مِّمَّا نَزَّلْنَا عَلَىٰ عَبْدِنَا فَأْتُوا۟ بِسُورَةٍۢ مِّن مِّثْلِهِۦ وَٱدْعُوا۟ شُهَدَآءَكُم مِّن دُونِ ٱللَّهِ إِن كُنتُمْ صَـٰدِقِينَ

Translation: และหากว่าพวกเจ้าอยู่ในความแคลงใจใด ๆ จากสิ่ง(37) ที่เราได้ลงมาแก่บ่าวของเราแล้ว(38) ก็จงนำมาสักซูเราะฮฺหนึ่งเยี่ยงนั้น(39) และจงเชิญชวนผู้ที่อยู่ในหมู่พวกเจ้าอื่นนอกจากอัลลอฮ์หากพวกเจ้าเป็นผู้พูดจริง(40)

Comment: (37)จากอัลกุรอาน

Comment: (38)แก่ท่านนบีมุฮัมมัด

Comment: (39)คือจงประพันธ์มาสักซูเราะฮ์หนึ่ง เช่นเดียวกับอัลกุรอาน

Comment: (40)อัลลอฮ์ทรงใช้ให้พวกเขาชักชวนบรรดาผู้เชี่ยวชาญที่ร่วมอยู่ในหมู่พวกเขาให้ช่วยเหลือในการประพันธ์อีกด้วย ยกเว้นอัลลอฮ์องค์เดียวเท่านั้น หากพวกเขาพูดจริงตามที่อ้างไว้ และการที่ต้องยกเว้นอัลลอฮ์นั้นก็เพราะว่าพระองค์อยู่ในสภาพที่ร่วมอยู่กับพวกเขาด้วยและสามารถประพันธ์ได้ เพราะอัลกุรอานเป็นดำรัสของพระองค์

2:24

فَإِن لَّمْ تَفْعَلُوا۟ وَلَن تَفْعَلُوا۟ فَٱتَّقُوا۟ ٱلنَّارَ ٱلَّتِى وَقُودُهَا ٱلنَّاسُ وَٱلْحِجَارَةُ ۖ أُعِدَّتْ لِلْكَـٰفِرِينَ

Translation: แต่พวกเจ้าก็ยังมิได้ทำและจะไม่กระทำตลอดไปแล้วก็จงระวังไฟนรกซึ่งเชื้อเพลิงของมันนั้นคือ มนุษย์และหิน(41) โดยที่มันได้ถูกเตรียมไว้สำหรับบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา

Comment: (41)หมายถึงมนุษย์ที่ดื้อด้าน และปฏิเสธศรัทธา ส่วนหินนั้นหมายถึงหินที่มนุษย์นำมาสลักเป็นเจว็ดสำหรับเคารพสักการะ

2:25

وَبَشِّرِ ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ وَعَمِلُوا۟ ٱلصَّـٰلِحَـٰتِ أَنَّ لَهُمْ جَنَّـٰتٍۢ تَجْرِى مِن تَحْتِهَا ٱلْأَنْهَـٰرُ ۖ كُلَّمَا رُزِقُوا۟ مِنْهَا مِن ثَمَرَةٍۢ رِّزْقًۭا ۙ قَالُوا۟ هَـٰذَا ٱلَّذِى رُزِقْنَا مِن قَبْلُ ۖ وَأُتُوا۟ بِهِۦ مُتَشَـٰبِهًۭا ۖ وَلَهُمْ فِيهَآ أَزْوَٰجٌۭ مُّطَهَّرَةٌۭ ۖ وَهُمْ فِيهَا خَـٰلِدُونَ

Translation: และ(มุฮัมมัด) จงแจ้งข่าวดีแก่บรรดาผู้ศรัทธา และประกอบสิ่งที่ดีทั้งหลายว่าแน่นอนพวกเขาจะได้รับบรรดาสวนสวรรค์ ซึ่งมีแม่น้ำหลายสายไหลอยู่ เบื้องใต้สวนสวรรค์เหล่านั้น คราใดที่พวกเขาได้รับผลไม้จากสวนสวรรค์นั้นเป็นเครื่องยังชีพ พวกเขาก็กล่าวว่า นี่คือสิ่งที่เราได้รับเป็นปัจจัยยังชีพมาก่อนแล้ว(42) และสิ่งที่พวกเขาได้รับนั้นมีลักษณะคล้ายคลึงกัน และในสวรรค์นั้น พวกเขาจะได้รับคู่ครองที่บริสุทธิ์(43) และพวกเขาจะพำนักอยู่ในสวรรค์นั้นตลอดกาล

Comment: (42)โดยเข้าใจผิดว่า เป็นผลไม้ที่เหมือนกับที่พวกเขาเคยบริโภคมาก่อนแล้วในโลกนี้ ทั้งนี้เพราะมีลักษณะคล้ายคลึงกัน แต่ความจริงนั้นเหมือนแต่เพียงรูปร่าง และลักษณะเท่านั้น ส่วนรสชาติห่างไกลกันมาก

Comment: (43)คือคู่ครองที่บริสุทธิ์ทั้งจิตใจและร่างกาย และบริสุทธิ์จากการแตะต้องโดยมนุษย์และญิน เป็นคู่ครองที่อยู่กันเยี่ยงสามีภรรยา หาใช่เป็นเพียงเพื่อนสนทนาอย่างที่พวกก็อดยานีเข้าใจไม่

2:26

۞ إِنَّ ٱللَّهَ لَا يَسْتَحْىِۦٓ أَن يَضْرِبَ مَثَلًۭا مَّا بَعُوضَةًۭ فَمَا فَوْقَهَا ۚ فَأَمَّا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ فَيَعْلَمُونَ أَنَّهُ ٱلْحَقُّ مِن رَّبِّهِمْ ۖ وَأَمَّا ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ فَيَقُولُونَ مَاذَآ أَرَادَ ٱللَّهُ بِهَـٰذَا مَثَلًۭا ۘ يُضِلُّ بِهِۦ كَثِيرًۭا وَيَهْدِى بِهِۦ كَثِيرًۭا ۚ وَمَا يُضِلُّ بِهِۦٓ إِلَّا ٱلْفَـٰسِقِينَ

Translation: แท้จริงอัลลอฮ์ไม่ทรงละอายในการที่พระองค์จะทรงยกอุทาหรณ์ใดๆ ขึ้นเปรียบเทียบไม่ว่าจะเป็นริ้นสักตัวหนึ่งแล้วก็สิ่งที่ยิ่งไปกว่านั้นก็ตาม(44) ส่วนบรรดาผู้ที่ศรัทธานั้นพวกเขาย่อมรู้ว่าแท้จริงมัน(45) คือความจริงที่มาจากพระเจ้าของพวกเขาและส่วนบรรดาผู้ที่ปฏิเสธการศรัทธา พวกเขาจะพูดว่าอัลลอฮ์ทรงประสงค์สิ่งใดในการยกอุทาหรณ์ด้วยสิ่งนี้(46)? พระองค์ทรงให้คนมากมายหลงผิดด้วยอุทาหรณ์นั้น(47) และทรงแนะนำทางที่ถูกต้องแก่คนมากมายด้วยอุทาหรณ์นั้น(48) และพระองค์จะไม่ทรงให้ใครหลงผิดด้วยอุทาหรณ์นั้นนอกจากผู้ที่ฝ่าฝืนเท่านั้น

Comment: (44)สิ่งที่เล็กยิ่งกว่าริ้น

Comment: (45)อุทาหรณ์ที่อัลลอฮ์ทรงยกมาเปรียบเทียบ

Comment: (46)ในการที่พระองค์ทรงนำเอาริ้นมาเปรียบเทียบ เนื่องจากพระองค์ทรงประสงค์ในการทดสอบบุคคล

Comment: (47)พวกที่ดื้อดึงไม่ยอมเชื่อ เนื่องจากไม่ใช้ปัญญาหาความเข้าใจ ในอุทาหรณ์ดังกล่าว ดังนั้นพวกเขาจึงหลงทางด้วยการปฏิเสธศรัทธา

Comment: (48)สำหรับผู้ที่ใช้ปัญญา ย่อมเข้าใจในอุทาหรณ์ดีแล้ว พวกเขาก็ได้รับแนวทางที่ถูกต้อง และศรัทธาต่อพระองค์

2:27

ٱلَّذِينَ يَنقُضُونَ عَهْدَ ٱللَّهِ مِنۢ بَعْدِ مِيثَـٰقِهِۦ وَيَقْطَعُونَ مَآ أَمَرَ ٱللَّهُ بِهِۦٓ أَن يُوصَلَ وَيُفْسِدُونَ فِى ٱلْأَرْضِ ۚ أُو۟لَـٰٓئِكَ هُمُ ٱلْخَـٰسِرُونَ

Translation: คือบรรดาผู้ที่ทำลายสัญญาของอัลลอฮ์หลังจากที่ได้มีสัญญาไว้แก่พระองค์(49) และตัดสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงใช้ให้ต่อ(50) และบ่อนทำลายในผืนแผ่นดินชนเหล่านี้แหละคือพวกที่ขาดทุน

Comment: (49)สัญญาทางสามัญสำนึก หรือทางสัญชาตญาณที่จะทำให้พวกเขายอมรับในการเป็นการเป็นพระเจ้าของอัลลอฮ์ ดังที่พระองค์ได้ทรงถามพวกเขาขณะยังอยู่ในสภาพเชื้อสุจิอยู่ว่า “ข้าไม่ใช่พระเจ้าของพวกเจ้าดอกหรือ ? พวกเขาตอบว่า ใช่ขอรับ พวกข้าพระองค์ขอยืนยัน” แต่แล้วพวกเขาก็ทำลายสัญญานั้นเสีย ด้วยการปฏิเสธการเป็นพระเจ้าของพระองค์

Comment: (50)ไม่ปฏิบัติตามสิ่งที่พระองค์ทรงใช้

2:28

كَيْفَ تَكْفُرُونَ بِٱللَّهِ وَكُنتُمْ أَمْوَٰتًۭا فَأَحْيَـٰكُمْ ۖ ثُمَّ يُمِيتُكُمْ ثُمَّ يُحْيِيكُمْ ثُمَّ إِلَيْهِ تُرْجَعُونَ

Translation: พวกเจ้าจะปฏิเสธการศรัทธาต่ออัลลอฮ์ได้อย่างไร? ทั้งๆ ที่พวกเจ้านั้นเคยปราศจากชีวิตมาก่อน(51) แล้วพระองค์ก็ทรงให้เจ้ามีชีวิตขึ้นภายหลังก็จะทรงให้พวกเจ้าตายแล้วก็จะทรงให้พวกเจ้ามีชีวิตขึ้นอีกและพวกเจ้าก็จะถูกนำกลับไปสู่พระองค์

Comment: (51)คือยังอยู่ในสภาพเป็นเดิม อันหมายถึงท่านนบีอาดัมผู้เป็นบิดาแห่งมนุษยชาติทั้งมวล

2:29

هُوَ ٱلَّذِى خَلَقَ لَكُم مَّا فِى ٱلْأَرْضِ جَمِيعًۭا ثُمَّ ٱسْتَوَىٰٓ إِلَى ٱلسَّمَآءِ فَسَوَّىٰهُنَّ سَبْعَ سَمَـٰوَٰتٍۢ ۚ وَهُوَ بِكُلِّ شَىْءٍ عَلِيمٌۭ

Translation: พระองค์คือผู้ได้ทรงสร้างสิ่งทั้งมวลในโลกไว้สำหรับพวกเจ้าภายหลังได้ทรงมุ่งสู่ฟากฟ้า(52) และได้ทำให้มันสมบูรณ์ขึ้นเป็นเจ็ดชั้นฟ้าและพระองค์เป็นผู้ทรงรอบรู้ในทุกสิ่งทุกอย่าง

Comment: (52)ซึ่งขณะนั้นฟากฟ้ายังเป็นหมอกควันอยู่ ดังที่พระองค์ทรงแจ้งไว้ว่า “แล้วพระองค์ได้ทรงมุ่งสู่ฟากฟ้า ขณะที่มันยังเป็นหมอกควันอยู่”

2:30

وَإِذْ قَالَ رَبُّكَ لِلْمَلَـٰٓئِكَةِ إِنِّى جَاعِلٌۭ فِى ٱلْأَرْضِ خَلِيفَةًۭ ۖ قَالُوٓا۟ أَتَجْعَلُ فِيهَا مَن يُفْسِدُ فِيهَا وَيَسْفِكُ ٱلدِّمَآءَ وَنَحْنُ نُسَبِّحُ بِحَمْدِكَ وَنُقَدِّسُ لَكَ ۖ قَالَ إِنِّىٓ أَعْلَمُ مَا لَا تَعْلَمُونَ

Translation: และจงรำลึกถึงขณะที่พระเจ้าของเจ้าได้ตรัสแก่มลาอิกะฮ์ว่าแท้จริง ข้าจะให้มีผู้แทนคนหนึ่ง(53) ในพิภพมลาอิกะฮ์ได้ทูลขึ้นว่าพระองค์จะทรงให้มีขึ้นในพิภพซึ่งผู้ที่บ่อนทำลายและก่อการนองเลือดในพิภพกระนั้นหรือ(54)? ทั้งๆ ที่พวกข้าพระองค์ให้ความบริสุทธิ์พร้อมด้วยการสรรเสริญพระองค์และเทิดทูนความบริสุทธิ์ในพระองค์ พระองค์ตรัสว่าแท้จริงข้ารู้ยิ่งในสิ่งที่พวกเจ้าไม่รู้(55)

Comment: (53)คือนบีอาดัม ซึ่งเป็นมนุษย์คนแรก และเป็นบิดาของมนุษยชาติมิใช่คนใดคนหนึ่งที่ชื่ออาดัม ตามที่พวกก็อดยานีได้บิดเบือนไว้

Comment: (54)การที่มลาอิกะฮ์กล่าวเช่นนั้น อาจเข้าใจได้ว่าเมื่อก่อนโน้นอัลลอฮ์เคยบังเกิดสิ่งที่มีชีวิต และมีปัญญามาในโลก แล้วพวกเขาเหล่านั้นประหัตประหารกัน จนกระทั่งสูญพันธุ์ ทั้งนี้ด้วยพระประสงค์ของพระองค์แล้วพระองค์ก็ทรงบังเกิดอาดัมขึ้นมาใหม่จากเดิม เพื่อเป็นผู้แทนของพระองค์ในพิภพ ซึ่งจะมีลูกหลานแพร่สะพัดไปทั่วโลกในการนี้ให้มลาอิกะฮ์เข้าใจว่า ลูกหลานของอาดัมจะประหัตประหารกัน และหลั่งเลือด จึงได้ถามพระองค์เพื่อต้องการทราบ ใช่ว่าเป็นการคัดค้านแต่อย่างใดไม่

Comment: (55)อัลลอฮ์ทรงรู้ดียิ่ง ถึงเป้าหมายในการบังเกิดท่านนบีอาดัม แต่มลาอิกะฮ์ไม่รู้

2:31

وَعَلَّمَ ءَادَمَ ٱلْأَسْمَآءَ كُلَّهَا ثُمَّ عَرَضَهُمْ عَلَى ٱلْمَلَـٰٓئِكَةِ فَقَالَ أَنۢبِـُٔونِى بِأَسْمَآءِ هَـٰٓؤُلَآءِ إِن كُنتُمْ صَـٰدِقِينَ

Translation: และพระองค์ได้ทรงสอนบรรดานามของทั้งปวงให้แก่อาดัม(56) ภายหลังได้ทรงแสดงสิ่งเหล่านั้นแก่มลาอิกะฮ์ แล้วตรัสว่าจงบอกบรรดาชื่อของสิ่งเหล่านั้นแก่ข้าหากพวกเจ้าเป็นผู้พูดจริง

Comment: (56)อัลลอฮ์ทรงสอนบรรดาชื่อทั้งปวงของสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสร้างไว้ในพิภพ ให้แก่นบีอาดัมได้ทราบ

2:32

قَالُوا۟ سُبْحَـٰنَكَ لَا عِلْمَ لَنَآ إِلَّا مَا عَلَّمْتَنَآ ۖ إِنَّكَ أَنتَ ٱلْعَلِيمُ ٱلْحَكِيمُ

Translation: พวกเขา(บรรดามลาอิกะฮ์)ทูลว่า มหาบริสุทธิ์พระองค์ท่านไม่มีความรู้ใดๆ แก่พวกข้าพระองค์นอกจากสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสอนพวกข้าพระองค์เท่านั้น แท้จริง พระองค์คือผู้ทรงรอบรู้ ผู้ทรงปรีชาญาณ

2:33

قَالَ يَـٰٓـَٔادَمُ أَنۢبِئْهُم بِأَسْمَآئِهِمْ ۖ فَلَمَّآ أَنۢبَأَهُم بِأَسْمَآئِهِمْ قَالَ أَلَمْ أَقُل لَّكُمْ إِنِّىٓ أَعْلَمُ غَيْبَ ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضِ وَأَعْلَمُ مَا تُبْدُونَ وَمَا كُنتُمْ تَكْتُمُونَ

Translation: พระองค์ตรัสว่า โอ้อาดัม! จงบอกบรรดาชื่อของสิ่งเหล่านั้นแก่พวกเขาที (บรรดามลาอิกะฮ์) ครั้นเมื่ออาดัมได้บอกชื่อของสิ่งเหล่านั้นแก่พวกเขาแล้วพระองค์จึงตรัสว่า ข้ามิได้บอกแก่พวกเจ้าดอกหรือว่า แท้จริงข้าเป็นผู้รู้ยิ่งซึ่งความเร้นลับแห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และเป็นผู้รู้ยิ่งในสิ่งที่พวกเจ้าเปิดเผย และสิ่งที่พวกเจ้าปกปิด

2:34

وَإِذْ قُلْنَا لِلْمَلَـٰٓئِكَةِ ٱسْجُدُوا۟ لِـَٔادَمَ فَسَجَدُوٓا۟ إِلَّآ إِبْلِيسَ أَبَىٰ وَٱسْتَكْبَرَ وَكَانَ مِنَ ٱلْكَـٰفِرِينَ

Translation: และจงรำลึกถึง ขณะที่เราได้กล่าวแก่มลาอิกะฮ์ว่า พวกเจ้าจงสุญูด(57) แก่อาดัมเถิด แล้วพวกเขาก็สุญูดกัน นอกจากอิบลีส(58) โดยที่มันไม่ยอมสุญูดและแสดงการโอหัง และมันจึงได้กลายเป็นผู้สิ้นสภาพแห่งการศรัทธา(กาฟิร์)

Comment: (57)หมายถึงการโน้มศีรษะลงด้วยความนอบน้อม เป็นการคารวะและเคารพนับถือ มิใช่หมายถึงการวางใบหน้าลงบนพื้นแต่อย่างใดเพราะปฏิบัติการดังกล่าวนี้ จะกระทำได้เฉพาะอัลลอฮ์เท่านั้น

Comment: (58)เป็นต้นตอแห่งเชื้อสายของชัยฏอน และชัยฏอนนั้นคือผู้ที่ฝ่าฝืนและดื้อดึงจากพวกญิน

2:35

وَقُلْنَا يَـٰٓـَٔادَمُ ٱسْكُنْ أَنتَ وَزَوْجُكَ ٱلْجَنَّةَ وَكُلَا مِنْهَا رَغَدًا حَيْثُ شِئْتُمَا وَلَا تَقْرَبَا هَـٰذِهِ ٱلشَّجَرَةَ فَتَكُونَا مِنَ ٱلظَّـٰلِمِينَ

Translation: และเราได้กล่าว่า โอ้ อาดัม! เจ้าและคู่ครองของเจ้าจงพำนักอยู่ในสวนสวรรค์เถิดและเจ้าทั้งสอง จงบริโภคจากสวนนั้นอย่างเปรมปรีดิ์ตามที่เจ้าทั้งสองปรารถนาและอย่าเข้าใกล้ต้นไม้ต้นนี้(59) (มิเช่นนั้นแล้ว) เจ้าทั้งสองจะกลายเป็นผู้อธรรมแก่ตัวเอง

Comment: (59)ต้นไม้ต้นหนึ่งในสวนสวรรค์ ซึ่งพระองค์ทรงชี้ให้อาดัมและเฮาวา ดู

2:36

فَأَزَلَّهُمَا ٱلشَّيْطَـٰنُ عَنْهَا فَأَخْرَجَهُمَا مِمَّا كَانَا فِيهِ ۖ وَقُلْنَا ٱهْبِطُوا۟ بَعْضُكُمْ لِبَعْضٍ عَدُوٌّۭ ۖ وَلَكُمْ فِى ٱلْأَرْضِ مُسْتَقَرٌّۭ وَمَتَـٰعٌ إِلَىٰ حِينٍۢ

Translation: ภายหลังจากชัยฏอนได้ทำให้ทั้งสองนั้นพลั้งพลาดไปเนื่องจากต้นไม้ต้นนั้น(60) แล้วได้ทำให้ทั้งสองออกจากสถานที่ที่เคยพำนักอยู่(61) และเราได้กล่าวว่าพวกเจ้าจงออกไปโดยที่บางส่วนของพวกเจ้าต่างเป็นศัตรูต่อกัน(62) และ(สำหรับพวกเจ้าในผืนแผ่นดินนั้น) มีที่พำนักและมีสิ่งอำนวยประโยชน์จนถึงระยะเวลาหนึ่ง(63)

Comment: (60)เนื่องจากเข้าใกล้ต้นไม้ต้นนั้น และบริโภคผลของมัน

Comment: (61)ออกจากสวนสวรรค์

Comment: (62)บางส่วนของลุกหลานอาดัม กับผู้ที่สืบเชื้อสายจขากอิบลีสที่จะมีต่อไป

Comment: (63)จนกว่าจะถึงวาระแห่งการสิ้นชีวิต

2:37

فَتَلَقَّىٰٓ ءَادَمُ مِن رَّبِّهِۦ كَلِمَـٰتٍۢ فَتَابَ عَلَيْهِ ۚ إِنَّهُۥ هُوَ ٱلتَّوَّابُ ٱلرَّحِيمُ

Translation: ครั้นดาอัมได้เรียนรู้คำวิงวอนจากพระผู้อภิบาลของเขา(64) แล้วพระองค์อภัยโทษแก่เขาแท้จริงพระองค์คือผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ

Comment: (64)แล้วได้วิงวอนขออภัยโทษต่อพระองค์

2:38

قُلْنَا ٱهْبِطُوا۟ مِنْهَا جَمِيعًۭا ۖ فَإِمَّا يَأْتِيَنَّكُم مِّنِّى هُدًۭى فَمَن تَبِعَ هُدَاىَ فَلَا خَوْفٌ عَلَيْهِمْ وَلَا هُمْ يَحْزَنُونَ

Translation: เราได้กล่าว่า พวกเจ้าจงออกไปทั้งหมด(65) จากสวนนั้นแล้วหากมีคำแนะนำจากข้ามายังพวกเจ้า ดั้งนั้น ผู้ใดที่ปฏิบัติตามคำแนะนำของข้าก็ไม่มีความกลัวใดๆ แก่พวกเขา(66) และทั้งพวกเขาก็จะไม่เสียใจ

Comment: (65)ทั้งนบีอาดัม พระนางเฮาวาอ์ และอิบลีส

Comment: (66)เมื่อพวกเขาฟื้นคืนชีพในวันปรโลก พวกเขาจะไม่มีความกลัวใด ๆ ที่จะถูกลงโทษ และจะไม่เสียใจในสิ่งตอบแทนที่พวกเขาจะได้รับ

2:39

وَٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ وَكَذَّبُوا۟ بِـَٔايَـٰتِنَآ أُو۟لَـٰٓئِكَ أَصْحَـٰبُ ٱلنَّارِ ۖ هُمْ فِيهَا خَـٰلِدُونَ

Translation: และบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธาและไม่เชื่อบรรดาโองการของเรา ชนเหล่านี้คือชาวนรกโดยที่พวกเขาจะอยู่ในนรกนั้นตลอดกาล

2:40

يَـٰبَنِىٓ إِسْرَٰٓءِيلَ ٱذْكُرُوا۟ نِعْمَتِىَ ٱلَّتِىٓ أَنْعَمْتُ عَلَيْكُمْ وَأَوْفُوا۟ بِعَهْدِىٓ أُوفِ بِعَهْدِكُمْ وَإِيَّـٰىَ فَٱرْهَبُونِ

Translation: วงศ์วานอิสรออีลเอ๋ย! จงรำลึกถึงความโปรดปรานของข้าที่ข้าได้โปรดปานแก่พวกเจ้า(67) และจงรักษาข้อสัญญาของข้าให้ครบถ้วน(68) ข้าก็จะรักษาสัญญาของพวกเจ้าให้ครบถ้วนและเฉพาะข้าเท่านั้นพวกเจ้าจงเกรงกลัว

Comment: (67)หมายถึงได้ทรงให้บุคคลในประชาชาติของอิสรออีล เป็นร่อซูลของพระองค์ติดต่อกันมาหลายยุคหลายสมัยจนพวกเขาเข้าใจผิดว่าพวกเขาเป็นประชาชาติที่อัลลอฮ์ทรงรัก

Comment: (68)ให้เคารพอิบาดะฮ์ต่อพระองค์แต่เพียงองค์เดียวเท่านั้น โดยปราศจากการตั้งภาคีใด ๆ ทั้งสิ้น ให้ปฏิบัติตามศาสนบัญญัติ และให้ศรัทธาต่อบรรดาร่อซูลของพระองค์ เมื่อประจักษ์หลักฐานความเป็นจริงของร่อซูลเหล่านั้น

2:41

وَءَامِنُوا۟ بِمَآ أَنزَلْتُ مُصَدِّقًۭا لِّمَا مَعَكُمْ وَلَا تَكُونُوٓا۟ أَوَّلَ كَافِرٍۭ بِهِۦ ۖ وَلَا تَشْتَرُوا۟ بِـَٔايَـٰتِى ثَمَنًۭا قَلِيلًۭا وَإِيَّـٰىَ فَٱتَّقُونِ

Translation: และพวกเจ้าจงศรัทธาต่อสิ่งที่ข้าได้ประทานลงมาเพื่อยืนยันสิ่งทีมีอยู่กับพวกเจ้า(69) และพวกเจ้าจงอย่าเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาต่อสิ่งนั้นเป็นคนแรก(70) และจงอย่าได้นำบรรดาโองการของข้าไปแลกเปลี่ยนด้วยราคาอันเล็กน้อย(71) และเฉพาะข้าเท่านั้นพวกเจ้าจงยำเกรง

Comment: (69)ให้ศรัทธาต่ออัลกุรอานที่ถูกประทานลงมาเพื่อยืนยันคัมภีร์เตารอด และอินญีล ซึ่งมีอยู่ในมือของเขา

Comment: (70)อย่าได้ละทิ้งโองการของอัลลอฮ์ที่ท่านนบีนำมา โดยเห็นแก่ประโยชน์เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เคยได้รับ

Comment: (71)อย่าได้ละทิ้งโองการของอัลลอฮ์ที่ท่านนบีนำมา โดยเห็นแก่ประโยชน์เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เคยได้รับ

2:42

وَلَا تَلْبِسُوا۟ ٱلْحَقَّ بِٱلْبَـٰطِلِ وَتَكْتُمُوا۟ ٱلْحَقَّ وَأَنتُمْ تَعْلَمُونَ

Translation: และพวกเจ้าจงอย่าได้ปะปนความจริงด้วยสิ่งเท็จและจงอย่าปกปิดความจริง(72) ทั้งๆ ที่พวกเจ้ารู้กันอยู่

Comment: (72)อย่าปกปิดลักษณะของนบีมุฮัมมัดที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์ของพวกเจ้า โดยนำเอาลักษณะอื่นที่ไม่เป็นจริงมาแทน

2:43

وَأَقِيمُوا۟ ٱلصَّلَوٰةَ وَءَاتُوا۟ ٱلزَّكَوٰةَ وَٱرْكَعُوا۟ مَعَ ٱلرَّٰكِعِينَ

Translation: และพวกเจ้าจงดำรงการละหมาดและจงชำระซะกาตและจงโค้งรุกัวะอ์ร่วมกับผู้รุกัวะอ์ทั้งหลาย(73)

Comment: (73)ให้พวกเขาอยู่ในหมู่มุสลิม และทำละหมาดร่วมกัน

2:44

۞ أَتَأْمُرُونَ ٱلنَّاسَ بِٱلْبِرِّ وَتَنسَوْنَ أَنفُسَكُمْ وَأَنتُمْ تَتْلُونَ ٱلْكِتَـٰبَ ۚ أَفَلَا تَعْقِلُونَ

Translation: พวกเจ้าใช้ให้ผู้คนกระทำความดี(74) และที่พวกเจ้าลืมตัวของพวกเจ้าเองกระนั้นหรือ ? และทั้งๆ ที่พวกเจ้าอ่านคัมภีร์กันอยู่ แล้วพวกเจ้าไม่ใช้ปัญญากระนั้นหรือ ?

Comment: (74)นักปราชญ์ของยิวได้แนะนำให้บางส่วนของพวกเขาศรัทธาต่อท่านนบีมุฮัมมัด แต่พวกเขาเองไม่ยอมศรัทธา

2:45

وَٱسْتَعِينُوا۟ بِٱلصَّبْرِ وَٱلصَّلَوٰةِ ۚ وَإِنَّهَا لَكَبِيرَةٌ إِلَّا عَلَى ٱلْخَـٰشِعِينَ

Translation: และพวกเจ้าจงอาศัยความอดทน(75) และการละหมาดเถิด(76) และแท้จริงการละหมาดนั้นเป็นภาระที่ยิ่งใหญ่(77) นอกจากสำหรับบรรดาผู้ที่นอบน้อมถ่อมตนเท่านั้น(78)

Comment: (75)ให้ใช้ความอดทนเป็นสำคัญในการปฏิบัติตามบัญญัติศาสนา

Comment: (76)ให้ดำรงไว้ซึ่งการละหมาดด้วย เพราะการละหมาดจะช่วยให้ผู้ปฏิบัติรำลึกถึงอัลลอฮ์และมีความยำแกรงต่ออัลลอฮ์

Comment: (77)ทั้งนี้เพราะการละหมาดนั้นต้องปฏิบัติเป็นเนืองนิจ อันเป็นภาระที่เปรียบเสมือนสิ่งใหญ่โตที่ต้องใช้การบากบั่นเป็นอย่างมาก

Comment: (78)นอกจากผู้ที่รู้จักอัลลอฮ์และนอบน้อมแต่พระองค์เท่านั้น ที่จะรู้สึกว่า การละหมาดนั้นเป็นเรื่องเล็กน้อย และปฏิบัติด้วยความศรัทธา

2:46

ٱلَّذِينَ يَظُنُّونَ أَنَّهُم مُّلَـٰقُوا۟ رَبِّهِمْ وَأَنَّهُمْ إِلَيْهِ رَٰجِعُونَ

Translation: (คือ) บรรดาผู้ที่คาดคิดว่า แน่นอนพวกเขาจะพบกับพระผู้อภิบาลของพวกเขาและแน่นอน พวกเขาจะเป็นผู้กลับไปยังพระองค์

2:47

يَـٰبَنِىٓ إِسْرَٰٓءِيلَ ٱذْكُرُوا۟ نِعْمَتِىَ ٱلَّتِىٓ أَنْعَمْتُ عَلَيْكُمْ وَأَنِّى فَضَّلْتُكُمْ عَلَى ٱلْعَـٰلَمِينَ

Translation: วงศ์วานอิสรออีลเอ๋ย! จงรำลึกถึงความโปรดปรานของข้าที่ข้าได้ให้ความโปรดปรานแก่พวกเจ้าและแท้จริงข้าได้เทิดเกียรติพวกเจ้าไว้เหนือประชาชาติทั้งหลาย(79)

Comment: (79)เหนือกว่าประชาชาติในสมัยนั้น และประชาชาติในอดีต เนื่องจากพวกเขายึดมั่นในบัญญัติแห่งศาสนาของพวกเขา

2:48

وَٱتَّقُوا۟ يَوْمًۭا لَّا تَجْزِى نَفْسٌ عَن نَّفْسٍۢ شَيْـًۭٔا وَلَا يُقْبَلُ مِنْهَا شَفَـٰعَةٌۭ وَلَا يُؤْخَذُ مِنْهَا عَدْلٌۭ وَلَا هُمْ يُنصَرُونَ

Translation: และสูเจ้าทั้งหลายจงกลัวเกรงวันหนึ่ง ซึ่งไม่มีชีวิตใดจะทดแทนสิ่งใดแก่อีกชีวิตได้(80) และการช่วยเหลือใดๆ ก็จะไม่ถูกรับจากชีวิตนั้น(81) และค่าไถ่ถอนใดๆ ก็จะไม่ถูกรับเอาจากชีวิตนั้น(82) ด้วย และทั้งพวกเขาก็จะไม่ได้รับความช่วยเหลือ

Comment: (80)ไม่มีคนใดที่จะช่วยแบกภาระแทนกันได้ แม้แต่จะเป็นพ่อแม่ พี่น้อง และลูก ภรรยาก็ตาม

Comment: (81)การขอให้ผู้อื่นมาช่วยเหลือให้ตนได้รับความกรุณาจากอัลลอฮ์นั้น ก็จะไม่ได้รับอนุมัติจากพระองค์

Comment: (82)ถ้าชีวิตนั้นจะนำค่าไถ่ถอนใดๆ เพื่อถ่ายถอนตัวเองให้พ้นจากการลงโทษ อัลลอฮ์ก็จะไม่ทรงรับ ดังกล่าวนี้เพียงเปรียบเทียบให้ทราบว่าไม่มีหนทางใดที่เขาจะหลีกเลี่ยงให้พ้นการลงโทษไปได้เท่านั้น

2:49

وَإِذْ نَجَّيْنَـٰكُم مِّنْ ءَالِ فِرْعَوْنَ يَسُومُونَكُمْ سُوٓءَ ٱلْعَذَابِ يُذَبِّحُونَ أَبْنَآءَكُمْ وَيَسْتَحْيُونَ نِسَآءَكُمْ ۚ وَفِى ذَٰلِكُم بَلَآءٌۭ مِّن رَّبِّكُمْ عَظِيمٌۭ

Translation: และพวกเจ้าจงรำลึกถึง ขณะที่เราได้ช่วยพวกเจ้าให้พ้นจากพวกพ้องของฟิรอาวน์โดยที่พวกเขาบังคับขู่เข็ญพวกเจ้าซึ่งการทรมานอันแสนสาหัส(83) พวกเขาเชือดบรรดาลูกผู้ชายของพวกเจ้าและไว้ชีวิตบรรดาลูกผู้หญิงของพวกเจ้า(84) และในเรื่องนั้นคือการทดสอบอันใหญ่หลวงจากพระผู้อภิบาลของพวกเจ้า(85)

Comment: (83)การเอาพวกเขาเป็นทาสแล้วใช้พวกเขาให้ทำงานหนัก

Comment: (84)โดยมีเจตนาทำลายประชาชาติอิสรออีล ให้สูญพันธุ์

Comment: (85)ทั้งนี้เพื่อให้พวกเขาได้รำลึกถึงความกรุณาของส่วนบุคคลอัลลอฮ์อยู่เสมอ จะได้ไม่ดื้อดึงต่อพระองค์อีก

2:50

وَإِذْ فَرَقْنَا بِكُمُ ٱلْبَحْرَ فَأَنجَيْنَـٰكُمْ وَأَغْرَقْنَآ ءَالَ فِرْعَوْنَ وَأَنتُمْ تَنظُرُونَ

Translation: และพวกเจ้าจงรำลึงถึง ขณะที่เราได้แยกทะเลออกเพื่อพวกเจ้า(86) แล้วเราได้ช่วยพวกเจ้าให้รอดพ้น(87) และได้ให้พวกฟิรอาวน์จมน้ำตาย(88) ขณะที่พวกเจ้ามองดูอยู่(89)

Comment: (86)เพราะพวกเจ้าไม่มีทางอื่นที่จะหนีให้พ้นจากฟิรอาวน์ได้ นอกจากจะต้องให้น้ำในทะเลแดงแยกออกเป็นทางเดินข้ามไปเท่านั้นในเรื่องนี้ พวกก็อดยานีไม่ยอมเชื่อ เขากล่าว่า “เป็นเวลาที่น้ำกำลังลดลงสู่ระดับต่ำจนเห็นท้องทะเล” เขากล่าวอีกว่า “ถ้าน้ำในทะเลแยกออกเป็นร่องจริง และเป็นการแยกที่ไม่ได้มี ปรากฏมาก่อน พวกฟิรอาวน์ก็จะต้องตกใจ คงไม่กล้าเสี่ยงลงข้ามไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงเป็นอภินิหารหรือความมหัศจรรย์ที่ประจวบกันอย่างเหมาะเจาะ” ผู้อ่านคงทราบแล้วเขามีเจตนาบิดเบือนอย่างไร อัลลอฮ์แจ้งให้ทราบว่า “พระองค์ให้น้ำในทะเลแดงแยกออกเป็นทาง” เขาบิดเบือนไปว่า “น้ำมันลดเอง”

Comment: (87)ให้รอดพ้นจากฟิรอาวน์ และไร่พลของเขา

Comment: (88)ขณะที่ฟิรอาวน์ติดตามวงศ์วานอิสรออีลไปถึงกลางทะเล ซึ่งขณะนั้นวงศ์วานอิสรออีลขึ้นฝั่งแล้ว อัลลอฮ์ก็ทรงให้น้ำที่แยกออกสองฟากทางกระแทกตัวเข้าหากัน ทำให้พวกฟิรอาวน์จมน้ำตาย

Comment: (89)ขณะที่วงศ์วานอิสรออีลมองดูกันอยู่

2:51

وَإِذْ وَٰعَدْنَا مُوسَىٰٓ أَرْبَعِينَ لَيْلَةًۭ ثُمَّ ٱتَّخَذْتُمُ ٱلْعِجْلَ مِنۢ بَعْدِهِۦ وَأَنتُمْ ظَـٰلِمُونَ

Translation: และจงรำลึกถึงขณะที่เราได้สัญญาแก่มูซาไว้สี่สิบคืน(90) แล้วพวกเจ้าได้ยึดถือลูกวัวตัวนั้นหลักจากเขา(91) ในสภาพที่พวกเจ้าคือ ผู้อธรรม

Comment: (90)ให้ท่านนบีมูซาไปรับบัญญัติ 10 ประการ ณ ภูเขาสินาย และจะต้องอยู่ที่นั่น 40 คืน

Comment: (91)ยึดถือลูกวัวที่ซารีย์ได้จำลองขึ้นจากทองคำ เป็นที่เคารพสักการะ หลังจากนบีมูซาเดินทางไปรับบัญญัติ 10 ประการ

2:52

ثُمَّ عَفَوْنَا عَنكُم مِّنۢ بَعْدِ ذَٰلِكَ لَعَلَّكُمْ تَشْكُرُونَ

Translation: แล้วเราก็ได้ให้อภัยแก่พวกเจ้าหลังจากนั้นเพื่อว่าพวกเจ้าจักขอบคุณ

2:53

وَإِذْ ءَاتَيْنَا مُوسَى ٱلْكِتَـٰبَ وَٱلْفُرْقَانَ لَعَلَّكُمْ تَهْتَدُونَ

Translation: และจงรำลึกถึงขณะที่เราได้ให้คัมภีร์และสิ่งที่จำแนกความถูกผิดแก่มูซาเพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง

2:54

وَإِذْ قَالَ مُوسَىٰ لِقَوْمِهِۦ يَـٰقَوْمِ إِنَّكُمْ ظَلَمْتُمْ أَنفُسَكُم بِٱتِّخَاذِكُمُ ٱلْعِجْلَ فَتُوبُوٓا۟ إِلَىٰ بَارِئِكُمْ فَٱقْتُلُوٓا۟ أَنفُسَكُمْ ذَٰلِكُمْ خَيْرٌۭ لَّكُمْ عِندَ بَارِئِكُمْ فَتَابَ عَلَيْكُمْ ۚ إِنَّهُۥ هُوَ ٱلتَّوَّابُ ٱلرَّحِيمُ

Translation: และจงรำลึกถึงขณะที่มูซาได้กล่าวแก่กลุ่มชนของเขาว่า โอ้กลุ่มชนของฉัน! แท้จริงพวกท่านได้อยุติธรรมแก่ตัวของพวกท่านเอง โดยที่พวกท่านได้ยึดถือลูกวัวตัวนั้น(92) (เป็นที่เคารพสักการะ) ดังนั้น จงกลับสู่พระผู้บังเกิดพวกท่านเถิด(93) แล้วจงฆ่าตัวของพวกท่านเอง(94) นั่นเป็นสิ่งดีแก่พวกท่าน ณ พระผู้บังเกิดพวกท่าน ภายหลังพระองค์ก็ได้ทรงอภัยโทษแก่พวกท่านแท้จริงพระองค์คือผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ

Comment: (92)ลูกวัวที่ซามิรีย์ได้จำลองขึ้นจากทองที่เขารวบรวมจากวงศ์วานอิสรออีล แล้วประกาศว่า นี่แหละคือ พระเจ้าแล้ววงศ์วานอิสรออีล ส่วนมากก็เคารพสักการะกัน

Comment: (93)กลับเข้าหาพระผู้ทรงบังเกิดด้วยความสำนึกผิดและกลับเนื้อกลับตัวและขออภัยโทษต่อพระองค์

Comment: (94)ให้ทำการประหัตประหารซึ่งกันและกันชั่วระยะเวลาหนึ่ง เพื่อลบล้างความผิด ผู้ใดที่รอดพ้นจากการถูกฆ่าก็จะได้รับการอภัยจากอัลลอฮ์

2:55

وَإِذْ قُلْتُمْ يَـٰمُوسَىٰ لَن نُّؤْمِنَ لَكَ حَتَّىٰ نَرَى ٱللَّهَ جَهْرَةًۭ فَأَخَذَتْكُمُ ٱلصَّـٰعِقَةُ وَأَنتُمْ تَنظُرُونَ

Translation: และจงรำลึกถึง ขณะที่พวกเจ้ากล่าวว่า โอ้มูซา! เราจะไม่ศรัทธาต่อท่านเป็นอันขาด จนกว่าเราจะได้เห็นอัลลอฮ์โดยเปิดเผย(95) แล้วสายฟ้าผ่าก็ได้คร่าพวกเจ้า(96) ขณะที่พวกเจ้ามองดูอยู่

Comment: (95)เห็นอัลลอฮ์ด้วยตาของพวกเขา

Comment: (96)อัลลอฮ์ได้ทรงให้ฟ้าผ่าพวกเขา ทำให้พวกเขาสิ้นชีวิตจนหมดสิ้น ทั้งนี้โดยทยอยกันเสียชีวิตทีละคนสองคน คนที่เสียชีวิตทีหลังก็ได้เห็นคนที่เสียชีวิตก่อน ดังข้อความที่ว่า “ขณะที่พวกเจ้ามองดูอยู่”

2:56

ثُمَّ بَعَثْنَـٰكُم مِّنۢ بَعْدِ مَوْتِكُمْ لَعَلَّكُمْ تَشْكُرُونَ

Translation: ภายหลังเราได้ให้พวกเจ้าคืนชีพ หลังจากที่พวกเจ้าได้ตายไปแล้ว(97) เพื่อว่าพวกเจ้าจักขอบคุณ

Comment: (97)ในเรื่องนี้ พวกก็อดยานี้ไม่เชื่อ จึงได้บิดเบือนความหมายของอัลกุรอานไปว่า “ให้ฟื้นขึ้นหลังจากที่ได้สลบไป” อัลลอฮ์ได้ตรัสว่า “ตาย” เขาว่า “ไม่ใช่ สลบต่างหาก”

2:57

وَظَلَّلْنَا عَلَيْكُمُ ٱلْغَمَامَ وَأَنزَلْنَا عَلَيْكُمُ ٱلْمَنَّ وَٱلسَّلْوَىٰ ۖ كُلُوا۟ مِن طَيِّبَـٰتِ مَا رَزَقْنَـٰكُمْ ۖ وَمَا ظَلَمُونَا وَلَـٰكِن كَانُوٓا۟ أَنفُسَهُمْ يَظْلِمُونَ

Translation: และเราได้ให้เมฆบดบังพวกเจ้า(98) และได้ให้อัลมันนะและอัสซัลวา(99) แก่พวกเจ้าพวกเจ้าจงบริโภคสิ่งที่เราได้ให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้าจากสิ่งดีๆ เถิด และพวกเขาหาได้อธรรมแก่เราไม่ แต่ทว่าพวกเขาอธรรมแก่ตัวของพวกเขาเองต่างหาก

Comment: (98)ให้เมฆบดบังแสงอาทิตย์เพื่อให้ความร่มเย็นแก่พวกเขาขณะเดินทางอยู่ในทะเลทราย

Comment: (99)อัล-มันนะ คือของหวานชนิดหนึ่ง คล้ายน้ำผึ้ง ส่วนอัส-ซัลวานั้น คือ นกคุ่ม

2:58

وَإِذْ قُلْنَا ٱدْخُلُوا۟ هَـٰذِهِ ٱلْقَرْيَةَ فَكُلُوا۟ مِنْهَا حَيْثُ شِئْتُمْ رَغَدًۭا وَٱدْخُلُوا۟ ٱلْبَابَ سُجَّدًۭا وَقُولُوا۟ حِطَّةٌۭ نَّغْفِرْ لَكُمْ خَطَـٰيَـٰكُمْ ۚ وَسَنَزِيدُ ٱلْمُحْسِنِينَ

Translation: และจงรำลึกถึงขณะที่เราได้กล่าวว่า พวกเจ้าจงเข้าไปในเมืองนี้(100) แล้วจงบริโภคจากเมืองนั้นอย่างเปรมปรีดิ์ตามที่พวกเจ้าปรารถนา และจงเข้าประตูนั้น(101) ไปในสภาพผู้โน้มศีรษะลงด้วยความนอบน้อม และจงกล่าวว่า "ฮิฏเฏาะฮ์" เราก็จะอภัยโทษให้แก่พวกเจ้า ซึ่งบรรดาความผิดของพวกเจ้า และเราจะเพิ่มพูนแก่บรรดาผู้กระทำความดี

Comment: (100)คือ บัยตุลมักดิสและเข้าเมืองในสภาพที่โน้มศีรษะลงด้วยความคารวะคือ บัยตุลมักดิสและเข้าเมืองในสภาพที่โน้มศีรษะลงด้วยความคารวะ

Comment: (101)หมายถึงประตูหนึ่งแห่งบัยตุลมักดิส ปัจจุบันเรียกว่า ประตู “ฮิฏเฏาะฮ์”

2:59

فَبَدَّلَ ٱلَّذِينَ ظَلَمُوا۟ قَوْلًا غَيْرَ ٱلَّذِى قِيلَ لَهُمْ فَأَنزَلْنَا عَلَى ٱلَّذِينَ ظَلَمُوا۟ رِجْزًۭا مِّنَ ٱلسَّمَآءِ بِمَا كَانُوا۟ يَفْسُقُونَ

Translation: แล้วผู้อธรรมเหล่านั้น ได้เปลี่ยนเอาคำพูดหนึ่งซึ่งมิใช่คำพูดที่ถูกกล่าวแก่พวกเขา(102) เราจึงได้ให้การลงโทษจากฟากฟ้าลงมาแก่บรรดาผู้อธรรมเหล่านั้น เนื่องจากพวกเขาละเมิด

Comment: (102)เปลี่ยนเป็น “ฮินเฎาะฮ์” แปลว่า “เมล็ดข้าวสาลี” โดยอ้างว่า “ฮิฏเฎาะฮ์” นั้น พวกเขาไม่เข้าใจ

2:60

۞ وَإِذِ ٱسْتَسْقَىٰ مُوسَىٰ لِقَوْمِهِۦ فَقُلْنَا ٱضْرِب بِّعَصَاكَ ٱلْحَجَرَ ۖ فَٱنفَجَرَتْ مِنْهُ ٱثْنَتَا عَشْرَةَ عَيْنًۭا ۖ قَدْ عَلِمَ كُلُّ أُنَاسٍۢ مَّشْرَبَهُمْ ۖ كُلُوا۟ وَٱشْرَبُوا۟ مِن رِّزْقِ ٱللَّهِ وَلَا تَعْثَوْا۟ فِى ٱلْأَرْضِ مُفْسِدِينَ

Translation: และจงรำลึกถึงขณะที่มูซาได้ขอน้ำให้แก่กลุ่มชนของพวกเขาแล้วเราได้กล่าวว่าเจ้าจงตีหินด้วยไม้เท้าของเจ้าแล้วตาน้ำสิบสองตาก็พุ่งออกจากหินนั้น แน่นอนกลุ่มชนแต่ละกลุ่ม(103) ย่อมรู้แหล่งน้ำดื่มของตน พวกเจ้าจงกินและจงดื่มจากปัจจัยยังชีพของอัลลอฮ์และจงอย่าก่อกวนในผืนแผ่นดินในฐานะผู้บ่อนทำลาย

Comment: (103)หมายถึงกลุ่มชน ซึ่งเป็นวงศ์วานอิสรออีลสิบสองกลุ่ม

2:61

وَإِذْ قُلْتُمْ يَـٰمُوسَىٰ لَن نَّصْبِرَ عَلَىٰ طَعَامٍۢ وَٰحِدٍۢ فَٱدْعُ لَنَا رَبَّكَ يُخْرِجْ لَنَا مِمَّا تُنۢبِتُ ٱلْأَرْضُ مِنۢ بَقْلِهَا وَقِثَّآئِهَا وَفُومِهَا وَعَدَسِهَا وَبَصَلِهَا ۖ قَالَ أَتَسْتَبْدِلُونَ ٱلَّذِى هُوَ أَدْنَىٰ بِٱلَّذِى هُوَ خَيْرٌ ۚ ٱهْبِطُوا۟ مِصْرًۭا فَإِنَّ لَكُم مَّا سَأَلْتُمْ ۗ وَضُرِبَتْ عَلَيْهِمُ ٱلذِّلَّةُ وَٱلْمَسْكَنَةُ وَبَآءُو بِغَضَبٍۢ مِّنَ ٱللَّهِ ۗ ذَٰلِكَ بِأَنَّهُمْ كَانُوا۟ يَكْفُرُونَ بِـَٔايَـٰتِ ٱللَّهِ وَيَقْتُلُونَ ٱلنَّبِيِّـۧنَ بِغَيْرِ ٱلْحَقِّ ۗ ذَٰلِكَ بِمَا عَصَوا۟ وَّكَانُوا۟ يَعْتَدُونَ

Translation: และจงรำลึกถึงขณะที่พวกเจ้ากล่าวว่า โอ้มูซา! เราไม่สามารถจะอดทนต่ออาหารชนิดเดียว(104) อีกต่อไปได้ ดังนั้น จงวิงวอนต่อพระผู้อภิบาลของท่านให้แก่เราเถิด พระองค์จะทรงให้ออกมาแก่เราจากสิ่งที่แผ่นดินให้งอกเงยขึ้น อันได้แก่ พืชผัก แตงกวา กระเทียม ถั่ว และหัวหอม มูซาได้กล่าวว่า พวกท่านจะขอเปลี่ยนเอาสิ่งที่เลวกว่าด้วยสิ่งที่ดีกว่ากระนั้นหรือ? พวกท่านจงลงไปอยู่ในเมืองเถิด(105) แล้วสิ่งที่พวกท่านขอก็จะเป็นของพวกท่าน และความอัปยศ และความขัดสนก็ถูกกระหน่ำลงบนพวกเขา(106) และพวกเขาได้นำเอาความกริ้วโกรธจากอัลลอฮ์กลับไป(107) นั่นก็เพราะว่า พวกเขาเคยปฏิเสธสัญญาณต่างๆ ของอัลลอฮ์(108) และยังฆ่าบรรดานบี(109) โดยปราศจากความเป็นธรรม นั่นก็เนื่องจากความดื้อดันของพวกเขา และพวกเขาจึงได้กลายเป็นผู้ละเมิดขอบเขต

Comment: (104)คือกินอัล-มันนะ และอัส-ซัลวา จำเจอยู่เพียงชนิดเดียว

Comment: (105)หมายถึง บัยตุลมักดิส

Comment: (106)อัลลอฮ์ทรงให้พวกเขาได้รับความอัปยศ และความยากจนประหนึ่งว่าความอัปยศและความขัดสนถูกกระหน่ำยังพวกเขา

Comment: (107)ประหนึ่งว่า ความกริ้วโกรธของอัลลอฮ์ที่มีต่อพวกเขานั้นเป็นวัตถุ และพวกเขาก็กลับไปยังพระองค์ ก็นำความกริ้วโกรธนั้นกลับไปด้วย เพื่อให้มองเห็นว่าพวกเขาจะต้องได้รับโทษอย่างแน่นอน

Comment: (108)ฝ่าฝืนและดื้อดึงต่ออัลลอฮ์ ทั้ง ๆ ที่ได้มีสัญญาณต่าง ๆ จากพระองค์ที่แสดงถึงเดชานุภาพของพระองค์ประจักษ์แก่พวกเขาแล้ว ประหนึ่งพวกเขาปฏิเสธสัญญาณเหล่านั้น

Comment: (109)เช่น “ฆ่า นบีซะกะรียา และนบียะฮ์ยา เป็นต้น

2:62

إِنَّ ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ وَٱلَّذِينَ هَادُوا۟ وَٱلنَّصَـٰرَىٰ وَٱلصَّـٰبِـِٔينَ مَنْ ءَامَنَ بِٱللَّهِ وَٱلْيَوْمِ ٱلْـَٔاخِرِ وَعَمِلَ صَـٰلِحًۭا فَلَهُمْ أَجْرُهُمْ عِندَ رَبِّهِمْ وَلَا خَوْفٌ عَلَيْهِمْ وَلَا هُمْ يَحْزَنُونَ

Translation: แท้จริง บรรดาผู้ศรัทธาและบรรดาผู้ที่เป็นยิว และบรรดาผู้ที่เป็นคริสเตียน และอัศซอบิอีน(110) ผู้ใดก็ตามที่ศรัทธาต่ออัลลอฮ์และวันปรโลกและประกอบสิ่งที่ดีแล้ว พวกเขาก็จะได้รับรางวัลของพวกเขา ณ พระผู้อภิบาลของพวกเขา และไม่มีความหวาดกลัวใดๆ แก่พวกเขา และทั้งพวกเขาก็จะไม่เสียใจ

Comment: (110)ในตัฟซีร อัล-ญาละลัยน์ ระบุว่า “ชนกลุ่มหนึ่งจากยิวหรือคริสเตียน” แต่ทัศนะที่มีน้ำหนักกว่าว่า อาหรับมุชริกกลุ่มหนึ่งก่อนอิสลามที่สักการะเจว็ด

2:63

وَإِذْ أَخَذْنَا مِيثَـٰقَكُمْ وَرَفَعْنَا فَوْقَكُمُ ٱلطُّورَ خُذُوا۟ مَآ ءَاتَيْنَـٰكُم بِقُوَّةٍۢ وَٱذْكُرُوا۟ مَا فِيهِ لَعَلَّكُمْ تَتَّقُونَ

Translation: และจงรำลึกถึงขณะที่เราได้เอาคำมั่นสัญญาจากพวกเจ้า และเราได้ยกภูเขาฏูรขึ้นเหนือพวกเจ้า(111) จงยึดถือสิ่งที่เราได้ให้แก่พวกเจ้าด้วยความเข้มแข็ง และจงรำลึกถึงสิ่งที่มีอยู่ในนั้น หวังว่าพวกเจ้าจะเกรงกลัว

Comment: (111)คือยกลอยขึ้นไปเหนือพวกเขาประหนึ่งสิ่งกำบังแดดหรือให้ร่มเงา ในเรื่องพวกก็อดยานี บิดเบือนไปว่า ภูเขามิได้ถูกยกขึ้นแต่อย่างใด หากแต่มันตั้งสูงตระหง่านบังแสงแดดต่างหาก พวกที่ตั้งตนอวดรู้กับอัลลอฮ์เสมอ พระองค์ทรงแจ้งว่าพระองค์ทรงยกภูเขาขึ้น พวกเขาบอกว่าไม่ได้ยกภูเขา มันสูงตระหง่านต่างหาก ถึงกับอาจหาญกล่าวว่า “ข้อที่ว่าภูเขาซินายถูกยกให้ลอยอยู่บนฟ้าเหนือวงศ์วานอิสรออีลนั้น จึงเป็นนิยายชวนหัวเราะ”

2:64

ثُمَّ تَوَلَّيْتُم مِّنۢ بَعْدِ ذَٰلِكَ ۖ فَلَوْلَا فَضْلُ ٱللَّهِ عَلَيْكُمْ وَرَحْمَتُهُۥ لَكُنتُم مِّنَ ٱلْخَـٰسِرِينَ

Translation: แล้วหลังจากนั้น พวกเจ้าก็ผินหลังให้(112) หากอัลลอฮ์ไม่ทรงโปรดปราน และกรุณาเมตตาแก่พวกเจ้าแล้ว แน่นอน พวกเจ้าย่อมกลายเป็นพวกที่ขาดทุน

Comment: (112)ไม่ยอมปฏิบัติตามบัญญัติของอัลลอฮ์ที่ได้ทรงเอาสัญญาแก่พวกเขา

2:65

وَلَقَدْ عَلِمْتُمُ ٱلَّذِينَ ٱعْتَدَوْا۟ مِنكُمْ فِى ٱلسَّبْتِ فَقُلْنَا لَهُمْ كُونُوا۟ قِرَدَةً خَـٰسِـِٔينَ

Translation: และแน่นอน พวกเจ้ารู้กันแล้วถึงบรรดาผู้ที่อยู่ในพวกของเจ้าที่ได้ละเมิดในวันสับบาโต(113) แล้วเราได้กล่าวแก่พวกเขาว่า พวกเจ้าจงเป็นลิงที่ถูกขับไล่ให้ห่างไกล(114)

Comment: (113)คือวันเสาร์ซึ่งถูกกำหนดให้เป็นวันพักผ่อนและประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเท่านั้น แต่พวกเขากลับละเมิดโดยวางแผนล่อปลา ให้เข้าบ่อในวันนั้น แล้วจับในวันต่อไป เนื่องจากในวันนั้นปลาจะออกหากินอย่างชุกชุมและว่ายเข้าไปในบ่อ แล้วพวกเขาก็ปิดปากบ่อ

Comment: (114)มีจิตใจ และลักษณะท่าทางเสมือนลิง ซึ่งใครเห็นก็ขับไล่ให้ห่างไกล ตามที่ อิบนิญะรีร และอิบนุฮาติมรายงานไว้จากมุญาฮิด อย่างไรก็ดี นักปราชญ์ส่วนมากเห็นว่ารูปร่างของพวกเขาถูกเปลี่ยนเป็นลิงจริง ๆ และมีชีวิตอยู่ไม่เกินสามวัน

2:66

فَجَعَلْنَـٰهَا نَكَـٰلًۭا لِّمَا بَيْنَ يَدَيْهَا وَمَا خَلْفَهَا وَمَوْعِظَةًۭ لِّلْمُتَّقِينَ

Translation: แล้วเราได้ให้การลงโทษนั้นเป็นอุทาหรณ์แก่ประชาชาติที่อยู่เบื้องหน้ามัน(115) และประชาชาติที่อยู่เบื้องหลังมัน(116) และให้เป็นข้อเตือนสติแก่ผู้เกรงกลัวทั้งหลาย

Comment: (115)เบื้องหน้าการลงโทษ

Comment: (116)เบื้องหลังจากการลงโทษ

2:67

وَإِذْ قَالَ مُوسَىٰ لِقَوْمِهِۦٓ إِنَّ ٱللَّهَ يَأْمُرُكُمْ أَن تَذْبَحُوا۟ بَقَرَةًۭ ۖ قَالُوٓا۟ أَتَتَّخِذُنَا هُزُوًۭا ۖ قَالَ أَعُوذُ بِٱللَّهِ أَنْ أَكُونَ مِنَ ٱلْجَـٰهِلِينَ

Translation: และจงรำลึกถึงขณะที่มูซาได้กล่าวแก่กลุ่มชนของเขาว่า แท้จริงอัลลอฮ์ทรงบัญชาแก่พวกท่านให้เชือดวัวตัวเมียตัวหนึ่ง(117) พวกเขากล่าวว่าท่านจะถือเอาพวกเราเป็นที่ล้อเล่นกระนั้นหรือ? มูซา กล่าวว่า ฉันขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮ์ให้พ้นจากการที่ฉันจะเป็นผู้หนึ่งจากพวกโง่เขลาเบาปัญญา

Comment: (117)เพื่อนำส่วนหนึ่งของมันไปตีร่างของผู้ที่ถูกฆ่าตาย แล้วผู้นั้นก็จะฟื้นขึ้น บอกว่าใครเป็นคนฆ่า แล้วก็ตายตามเดิม

2:68

قَالُوا۟ ٱدْعُ لَنَا رَبَّكَ يُبَيِّن لَّنَا مَا هِىَ ۚ قَالَ إِنَّهُۥ يَقُولُ إِنَّهَا بَقَرَةٌۭ لَّا فَارِضٌۭ وَلَا بِكْرٌ عَوَانٌۢ بَيْنَ ذَٰلِكَ ۖ فَٱفْعَلُوا۟ مَا تُؤْمَرُونَ

Translation: และพวกเขากล่าวว่า โปรดวิงวอนต่อพระผู้อภิบาลของท่านให้แก่พวกเราด้วยเถิด พระองค์ก็จะทรงแจ้งแก่พวกเราว่า วัวนั้นเป็นอย่างไร? มูซากล่าวว่า แท้จริงพระองค์ตรัสว่า มันเป็นวัวตัวเมียที่ไม่แก่ และไม่สาว แต่มีอายุกึ่งกลางระหว่างนั้น พวกท่านจงปฏิบัติตามสิ่งที่พวกท่านถูกใช้เถิด

2:69

قَالُوا۟ ٱدْعُ لَنَا رَبَّكَ يُبَيِّن لَّنَا مَا لَوْنُهَا ۚ قَالَ إِنَّهُۥ يَقُولُ إِنَّهَا بَقَرَةٌۭ صَفْرَآءُ فَاقِعٌۭ لَّوْنُهَا تَسُرُّ ٱلنَّـٰظِرِينَ

Translation: พวกเขากล่าวว่า โปรดวิงวอนต่อพระผู้อภิบาลของท่านให้แก่พวกเราเถิด พระองค์ก็จะทรงแจ้งแก่พวกเราว่า วัวตัวนั้นสีอะไร? มูซากล่าวว่าแท้จริงพรองค์ตรัสว่า มันเป็นวัวสีเหลืองสีของมันเข้มเป็นที่ปิติยินดีแก่บรรดาผู้ที่มองดู

2:70

قَالُوا۟ ٱدْعُ لَنَا رَبَّكَ يُبَيِّن لَّنَا مَا هِىَ إِنَّ ٱلْبَقَرَ تَشَـٰبَهَ عَلَيْنَا وَإِنَّآ إِن شَآءَ ٱللَّهُ لَمُهْتَدُونَ

Translation: พวกเขากล่าวว่า โปรดวิงวอนต่อพระเจ้าของท่านให้แก่เราเถิด พระองค์ก็จะทรงแจ้งแก่พวกเราว่า วัวนั้นเป็นอย่างไร? แท้จริงวัวนั้นมันคล้ายๆ กันแก่พวกเรา และหากอัลลอฮ์ทรงประสงค์ แน่นอนพวกเราก็เป็นผู้ที่ได้รับคำแนะนำ(118)

Comment: (118)จากอัลลอฮ์ให้ได้วัวที่ต้องการนั้นมา

2:71

قَالَ إِنَّهُۥ يَقُولُ إِنَّهَا بَقَرَةٌۭ لَّا ذَلُولٌۭ تُثِيرُ ٱلْأَرْضَ وَلَا تَسْقِى ٱلْحَرْثَ مُسَلَّمَةٌۭ لَّا شِيَةَ فِيهَا ۚ قَالُوا۟ ٱلْـَٔـٰنَ جِئْتَ بِٱلْحَقِّ ۚ فَذَبَحُوهَا وَمَا كَادُوا۟ يَفْعَلُونَ

Translation: มูซากล่าวว่าแท้จริงพระองค์ตรัสว่า มันเป็นวัวที่ไม่เคยที่จะไถดินและที่จะทดน้ำเข้านา(119) เป็นวัวบริสุทธิ์ปราศจากสีอื่นใดปนในตัวมัน พวกเขากล่าวว่า บัดนี้ท่านได้นำความจริงมาให้แล้ว ต่อมาพวกเขาก็เชือดมันและพวกเขาเกือบจะไม่ทำมันอยู่แล้ว(เพราะหายากและราคาแพง)

Comment: (119)ลากเครื่องทดน้ำเข้านา

2:72

وَإِذْ قَتَلْتُمْ نَفْسًۭا فَٱدَّٰرَْٰٔتُمْ فِيهَا ۖ وَٱللَّهُ مُخْرِجٌۭ مَّا كُنتُمْ تَكْتُمُونَ

Translation: และจงรำลึกถึงขณะที่พวกเจ้าฆ่าคนคนหนึ่งแล้วพวกเจ้าต่างปกป้องตัวเองในเรื่องนั้น(120) และอัลลอฮ์นั้นจะเป็นผู้ทรงเปิดเผยสิ่งที่พวกเจ้าปกปิดไว้

Comment: (120)ปกป้องตัวเองในเรื่องที่จะถูกล่าวหาว่าเป็นผู้ฆ่า

2:73

فَقُلْنَا ٱضْرِبُوهُ بِبَعْضِهَا ۚ كَذَٰلِكَ يُحْىِ ٱللَّهُ ٱلْمَوْتَىٰ وَيُرِيكُمْ ءَايَـٰتِهِۦ لَعَلَّكُمْ تَعْقِلُونَ

Translation: แล้วเราได้กล่าวว่า พวกเจ้าจงตีเขาด้วยบางส่วนของวัวตัวนั้น(121) ในทำนองนั้นแหละอัลลอฮ์ทรงให้ผู้ตาย(122) มีชีวิตขึ้นมา และทรงให้พวกเจ้าเห็นสัญญาณต่างๆ ของพระองค์(123) เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้เข้าใจ

Comment: (121)ตีผู้ที่ถูกฆ่าด้วยบางส่วนของวัวที่ถูกใช้ให้เชือด

Comment: (122)ให้ผู้ที่ถูกฆ่าตายฟื้นคืนชีพ เพื่อบอกว่าใครเป็นคนฆ่า

Comment: (123)สัญญาณแห่งเดชานุภาพของพระองค์ที่ได้ทรงให้ผู้ที่ตายมีชีวิตขึ้นมาได้ ซึ่งเป็นเรื่องง่ายดายสำหรับพระองค์

2:74

ثُمَّ قَسَتْ قُلُوبُكُم مِّنۢ بَعْدِ ذَٰلِكَ فَهِىَ كَٱلْحِجَارَةِ أَوْ أَشَدُّ قَسْوَةًۭ ۚ وَإِنَّ مِنَ ٱلْحِجَارَةِ لَمَا يَتَفَجَّرُ مِنْهُ ٱلْأَنْهَـٰرُ ۚ وَإِنَّ مِنْهَا لَمَا يَشَّقَّقُ فَيَخْرُجُ مِنْهُ ٱلْمَآءُ ۚ وَإِنَّ مِنْهَا لَمَا يَهْبِطُ مِنْ خَشْيَةِ ٱللَّهِ ۗ وَمَا ٱللَّهُ بِغَـٰفِلٍ عَمَّا تَعْمَلُونَ

Translation: แล้วหลังจากนั้นหัวใจของพวกเจ้าก็แข็งกระด้าง มันประดุจหิน หรือแข็งกระด้างยิ่งกว่าและแท้จริงจากบรรดาหินนั้น มีส่วนที่บรรดาธารน้ำพวยพุ่งออกจากมัน และแท้จริงจากบรรดาหินนั้นมีส่วนที่แตกแยกออก แล้วมีน้ำออกจากมันและแท้จริงจากบรรดาหินนั้นมีส่วนที่ทลายลงเนื่องจากความเกรงกลัวอัลลอฮ์และอัลลอฮ์นั้นจะไม่ละเลยต่อสิ่งที่พวกเจ้ากระทำกัน

2:75

۞ أَفَتَطْمَعُونَ أَن يُؤْمِنُوا۟ لَكُمْ وَقَدْ كَانَ فَرِيقٌۭ مِّنْهُمْ يَسْمَعُونَ كَلَـٰمَ ٱللَّهِ ثُمَّ يُحَرِّفُونَهُۥ مِنۢ بَعْدِ مَا عَقَلُوهُ وَهُمْ يَعْلَمُونَ

Translation: พวกเจ้ายังโลภที่จะให้พวกเขา(124) ศรัทธาต่อพวกเจ้าอีกกระนั้นหรือ? ทั้งๆ ที่กลุ่มหนึ่งในพวกเขาเคยสดับฟังดำรัสอัลลอฮ์แล้วพวกเขาก็บิดเบือนมันเสีย หลังจากที่พวกเขาเข้าใจแล้ว ทั้งๆ ที่พวกเขาก็ทราบดี

Comment: (124)หมายถึงพวกยิว

2:76

وَإِذَا لَقُوا۟ ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ قَالُوٓا۟ ءَامَنَّا وَإِذَا خَلَا بَعْضُهُمْ إِلَىٰ بَعْضٍۢ قَالُوٓا۟ أَتُحَدِّثُونَهُم بِمَا فَتَحَ ٱللَّهُ عَلَيْكُمْ لِيُحَآجُّوكُم بِهِۦ عِندَ رَبِّكُمْ ۚ أَفَلَا تَعْقِلُونَ

Translation: และเมื่อพวกเขาได้พบแบบรรดาผุ้ที่ศรัทธาพวกเขาก็กล่าวว่าเราศรัทธาแล้วและเมื่อบางคนในพวกเขาอยู่ตามลำพังกับอีกบางคน พวกเขาก็กล่าวว่าพวกท่านจะพูดให้พวกเขาฟังซึ่งสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงเปิดเผยแก่พวกท่าน เพื่อพวกเขาจะได้นำสิ่งนั้นไปเป็นหลักฐานยืนยันแก่พวกท่าน ณ ที่พระผู้อภิบาลของพวกท่าน กระนั้นหรือ ? พวกท่านไม่ใช้ปัญญาดอกหรือ?

2:77

أَوَلَا يَعْلَمُونَ أَنَّ ٱللَّهَ يَعْلَمُ مَا يُسِرُّونَ وَمَا يُعْلِنُونَ

Translation: และเขาเหล่านั้นไม่รู้หรือว่า แท้จริงอัลลอฮ์นั้นทรงรอบรู้ในสิ่งที่พวกเขาปกปิด และสิ่งที่พวกเขาเปิดเผย

2:78

وَمِنْهُمْ أُمِّيُّونَ لَا يَعْلَمُونَ ٱلْكِتَـٰبَ إِلَّآ أَمَانِىَّ وَإِنْ هُمْ إِلَّا يَظُنُّونَ

Translation: และในหมู่พวกเขามีบรรดาผู้ที่เขียนอ่านไม่เป็นซึ่งพวกเขาไม่รู้คัมภีร์(125) นอกจากความเพ้อฝันเท่านั้นและพวกเขาหาได้มีอะไรไม่นอกจากจะนึกคิดเอาเองเท่านั้น

Comment: (125)อ่านคัมภีร์ไม่ได้

2:79

فَوَيْلٌۭ لِّلَّذِينَ يَكْتُبُونَ ٱلْكِتَـٰبَ بِأَيْدِيهِمْ ثُمَّ يَقُولُونَ هَـٰذَا مِنْ عِندِ ٱللَّهِ لِيَشْتَرُوا۟ بِهِۦ ثَمَنًۭا قَلِيلًۭا ۖ فَوَيْلٌۭ لَّهُم مِّمَّا كَتَبَتْ أَيْدِيهِمْ وَوَيْلٌۭ لَّهُم مِّمَّا يَكْسِبُونَ

Translation: ดังนั้น ความวิบัติได้แก่บรรดาผู้ที่เขียนคัมภัร์ขึ้นด้วยมือของตนเองแล้วกล่าวว่า นี่แหละมาจากอัลลอฮ์เพื่อพวกเขาจะได้นำมันไปแลกเปลี่ยนกับราคาอันเล็กน้อย(126) ดังนั้นความวิบัติจะได้แก่พวกเขาเนื่องจากสิ่งที่มือของพวกเขาได้เขียนขึ้นและความวิบัตินั้นได้แก่พวกเขา เนื่องจากสิ่งที่พวกเขาแสวงหาไว้

Comment: (126)หมายถึง ข้อความที่เขาเขียนขั้นนั้น มีเจตนาที่จะสนับสนุนปฏิบัติการของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพื่อให้ได้มาซึ่งประโยชน์เป็นการตอบแทน

2:80

وَقَالُوا۟ لَن تَمَسَّنَا ٱلنَّارُ إِلَّآ أَيَّامًۭا مَّعْدُودَةًۭ ۚ قُلْ أَتَّخَذْتُمْ عِندَ ٱللَّهِ عَهْدًۭا فَلَن يُخْلِفَ ٱللَّهُ عَهْدَهُۥٓ ۖ أَمْ تَقُولُونَ عَلَى ٱللَّهِ مَا لَا تَعْلَمُونَ

Translation: และเขาเหล่านั้นกล่าวว่าไฟนรกนั้นจะไม่แตะต้องพวกเราเลย นอกจากบรรดาวันที่ถูกนับได้(127) จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า ท่านทั้งหลายได้ยึดถือคำมั่นสัญญา ณ ที่อัลลอฮ์แล้วหรือ? ดังนั้น อัลลอฮ์จะไม่ทรงผิดสัญญาของพระองค์เลย หรือว่าพวกท่านปั้นความเท็จขึ้นให้แก่อัลลอฮ์ในสิ่งที่พวกท่านไม่รู้

Comment: (127)หมายถึง วันเวลาเพียงเล็กน้อย เพียงเจ็ดวัน หรือสี่สิบวันเท่านั้น

2:81

بَلَىٰ مَن كَسَبَ سَيِّئَةًۭ وَأَحَـٰطَتْ بِهِۦ خَطِيٓـَٔتُهُۥ فَأُو۟لَـٰٓئِكَ أَصْحَـٰبُ ٱلنَّارِ ۖ هُمْ فِيهَا خَـٰلِدُونَ

Translation: หาใช่เช่นนั้นไม่ ผู้ใดที่แสดวงหาความชั่วและความผิดของเขาได้ล้อมเขาไว้(128) ชนเหล่านี้คือชาวนรกโดยที่พวกเขาจะอยู่ในนรกตลอดกาล

Comment: (128)คือการะทำความผิดอย่างมากมาย และเป็นความผิดที่เกี่ยวกับการชิริกด้วย ดังนั้น พวกเขาจึงจำต้องอยู่ในรกตลอดกาล

2:82

وَٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ وَعَمِلُوا۟ ٱلصَّـٰلِحَـٰتِ أُو۟لَـٰٓئِكَ أَصْحَـٰبُ ٱلْجَنَّةِ ۖ هُمْ فِيهَا خَـٰلِدُونَ

Translation: และบรรดาผู้ที่ศรัทธา และประกอบสิ่งที่ดีงามทั้งหลายนั้น ชนเหล่านั้นแหละคือ ชาวสวรรค์ พวกเขาจะพำนักอยู่ในสวรรค์ตลอดกาล

2:83

وَإِذْ أَخَذْنَا مِيثَـٰقَ بَنِىٓ إِسْرَٰٓءِيلَ لَا تَعْبُدُونَ إِلَّا ٱللَّهَ وَبِٱلْوَٰلِدَيْنِ إِحْسَانًۭا وَذِى ٱلْقُرْبَىٰ وَٱلْيَتَـٰمَىٰ وَٱلْمَسَـٰكِينِ وَقُولُوا۟ لِلنَّاسِ حُسْنًۭا وَأَقِيمُوا۟ ٱلصَّلَوٰةَ وَءَاتُوا۟ ٱلزَّكَوٰةَ ثُمَّ تَوَلَّيْتُمْ إِلَّا قَلِيلًۭا مِّنكُمْ وَأَنتُم مُّعْرِضُونَ

Translation: และจงรำลึกถึงขณะที่เราได้เอาคำมั่นสัญญาจากวงศ์วานอิสรออีลว่า พวกเจ้าจะต้องไม่เคารพสักการะนอกจากอัลลอฮ์เท่านั้น และจงทำดีต่อบิดามารดา ญาติที่ใกล้ชิด เด็กกำพร้า และผู้ขัดสน และจงพูดจาแก่เพื่อนมนุษย์อย่างดี และจงดำรงไว้ซึ่งการละหมาด และจงชำระซะกาต แต่แล้วพวกเจ้าก็ผินหลังให้ นอกจากเพียงเล็กน้อยในหมู่พวกเจ้าเท่านั้น และพวกเจ้าก็กำลังผินหลังให้อยู่

2:84

وَإِذْ أَخَذْنَا مِيثَـٰقَكُمْ لَا تَسْفِكُونَ دِمَآءَكُمْ وَلَا تُخْرِجُونَ أَنفُسَكُم مِّن دِيَـٰرِكُمْ ثُمَّ أَقْرَرْتُمْ وَأَنتُمْ تَشْهَدُونَ

Translation: และจงรำลึกถึงขณะที่เราได้อาคำมั่นสัญญาแก่พวกเจ้าว่า พวกเจ้าจะต้องไม่หลั่งเลือดของพวกเจ้า และจะต้องไม่ขับไล่ตัวของพวกเจ้าเอง(129) ออกจากหมู่บ้านของพวกเจ้า แล้วพวกเจ้าก็ได้ให้ในการรับรอง และทั้งพวกเจ้าก็ยังยืนอยู่

Comment: (129)หมายถึงขับไล่พวกเขา

2:85

ثُمَّ أَنتُمْ هَـٰٓؤُلَآءِ تَقْتُلُونَ أَنفُسَكُمْ وَتُخْرِجُونَ فَرِيقًۭا مِّنكُم مِّن دِيَـٰرِهِمْ تَظَـٰهَرُونَ عَلَيْهِم بِٱلْإِثْمِ وَٱلْعُدْوَٰنِ وَإِن يَأْتُوكُمْ أُسَـٰرَىٰ تُفَـٰدُوهُمْ وَهُوَ مُحَرَّمٌ عَلَيْكُمْ إِخْرَاجُهُمْ ۚ أَفَتُؤْمِنُونَ بِبَعْضِ ٱلْكِتَـٰبِ وَتَكْفُرُونَ بِبَعْضٍۢ ۚ فَمَا جَزَآءُ مَن يَفْعَلُ ذَٰلِكَ مِنكُمْ إِلَّا خِزْىٌۭ فِى ٱلْحَيَوٰةِ ٱلدُّنْيَا ۖ وَيَوْمَ ٱلْقِيَـٰمَةِ يُرَدُّونَ إِلَىٰٓ أَشَدِّ ٱلْعَذَابِ ۗ وَمَا ٱللَّهُ بِغَـٰفِلٍ عَمَّا تَعْمَلُونَ

Translation: ภายหลังพวกเจ้านี้แหละฆ่าตัวของพวกเจ้าเอง(130) และขับไล่กลุ่มหนึ่งในหมู่พวกเจ้าออกจากหมู่บ้านของพวกเขา โดยที่พวกเจ้าต่างร่วมมือกันเอาชนะพวกเขา(131) ด้วยการกระทำบาปและการเป็นศัตรูกัน และถ้าพวกเขา(132) มายังพวกเจ้าในฐานะเชลยพวกเจ้าก็ไถ่ตัวพวกเขาโดยที่การขับไล่พวกเขาออกไปนั้นเป็นที่ต้องห้ามแก่พวกเจ้า พวกเจ้าจะศรัทธาแต่เพียงบางส่วนของคัมภีร์ และปฏิเสธอีกบางส่วนกระนั้นหรือ? ดังนั้นสิ่งตอบแทนแก่ผู้กระทำเช่นนั้นจากพวกเจ้าจึงมิใช่อะไรอื่นนอกจากความอัปยศอดสูในชีวิตความเป็นอยู่แห่งโลกนี้เท่านั้น และในวันกิยามะฮ์พวกเขาจะถูกนำกลับไปสู่การลงโทษอันฉกรรจ์ยิ่งและอัลลอฮ์จะไม่ทรงละเลยในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำกันอยู่

Comment: (130)หมายถึงฆ่าพวกเดียวกัน เช่นเดียวกับที่ได้อธิบายไว้ในฟุตโน้ต หมายเลขหนึ่ง

Comment: (131)ยิวแต่ละฝ่ายร่วมมือกับพันธมิตรของตนที่เป็นอาหรับมุชริก ขับไล่พวกยิวด้วยกันที่เป็นคู่กรณีกับฝ่ายพันธมิตรออกจากหมู่บ้านของพวกเขา

Comment: (132)พวกยิวที่ถูกขับไล่ไปเป็นเชลยของฝ่ายพันธมิตรที่เป็นมุชริก

2:86

أُو۟لَـٰٓئِكَ ٱلَّذِينَ ٱشْتَرَوُا۟ ٱلْحَيَوٰةَ ٱلدُّنْيَا بِٱلْـَٔاخِرَةِ ۖ فَلَا يُخَفَّفُ عَنْهُمُ ٱلْعَذَابُ وَلَا هُمْ يُنصَرُونَ

Translation: ชนเหล่านี้ คือ ผู้ที่ซื้อเอาชีวิตความเป็นอยู่แห่งโลกนี้ไว้ด้วยชีวิตความเป็นอยู่แห่งปรโลก(133) ดังนั้น การลงโทษจึงไม่ถูกลดหย่อนแก่พวกเขาและทั้งพวกเขาก็จะไม่ได้รับความช่วยเหลือ

Comment: (133)คือเอาชีวิตความเป็นอยู่แห่งปรโลกไปแลกเอาความเป็นอยู่ของโลกนี้ไว้ หรืออีกนัยหนึ่งมุ่งแต่ชีวิตความเป็นอยู่แห่งโลกนี้เท่านั้นโดยมิได้สนใจกับชีวิตความเป็นอยู่แห่งปรโลกแต่อย่างใด

2:87

وَلَقَدْ ءَاتَيْنَا مُوسَى ٱلْكِتَـٰبَ وَقَفَّيْنَا مِنۢ بَعْدِهِۦ بِٱلرُّسُلِ ۖ وَءَاتَيْنَا عِيسَى ٱبْنَ مَرْيَمَ ٱلْبَيِّنَـٰتِ وَأَيَّدْنَـٰهُ بِرُوحِ ٱلْقُدُسِ ۗ أَفَكُلَّمَا جَآءَكُمْ رَسُولٌۢ بِمَا لَا تَهْوَىٰٓ أَنفُسُكُمُ ٱسْتَكْبَرْتُمْ فَفَرِيقًۭا كَذَّبْتُمْ وَفَرِيقًۭا تَقْتُلُونَ

Translation: และแท้จริงนั้นเราได้ให้คัมภีร์มูซาและหลังจากเขาเราได้ให้บรรดาร่อซูลติดตามมาและเราได้ให้หลักฐานต่างๆ อันชัดเจน(134) แก่อีซา บุตรของมัรยัม และเราได้สนับสนุนเขาด้วยวิญญาณอันปริสุทธิ์(135) แล้วทุกครั้งที่ได้มีร่อซูลนำสิ่งที่ไม่สบอารมณ์ของพวกเจ้ามายังพวกเจ้า พวกเจ้าก็แสดงความยโส แล้วกลุ่มหนึ่งพวกเจ้าก็ปฏิเสธ และอีกกลุ่มหนึ่งพวกเจ้าก็ฆ่าเสียกระนั้นหรือ(136) ?

Comment: (134)หมายถึง มัวะญิซาต หรือสิ่งที่อยู่นอกเหนือความสามารถของมนุษย์

Comment: (135)หมายถึง ญิบรีล อลัยฮิสสลาม

Comment: (136)เช่น นบีซะกะรียา และนบียะฮ์ยา เป็นต้น

2:88

وَقَالُوا۟ قُلُوبُنَا غُلْفٌۢ ۚ بَل لَّعَنَهُمُ ٱللَّهُ بِكُفْرِهِمْ فَقَلِيلًۭا مَّا يُؤْمِنُونَ

Translation: และพวกเขากล่าวว่า หัวใจของพวกเรามีเปลือกหุ้มอยู่(137) มิใช่เช่นนั้นดอก อัลลอฮ์ทรงขับไล่พวกเขาให้ออกจากความเมตตาของพระองค์ต่างหากเนื่องจากการปฏิเสธศรัทธาของพวกเขาช่างน้อยเหลือเกินที่พวกเขาศรัทธา

Comment: (137)เป็นการกล่าวในเชิงเย้ยหยัน มิใช่มีเปลือกหุ้มจริง ๆ

2:89

وَلَمَّا جَآءَهُمْ كِتَـٰبٌۭ مِّنْ عِندِ ٱللَّهِ مُصَدِّقٌۭ لِّمَا مَعَهُمْ وَكَانُوا۟ مِن قَبْلُ يَسْتَفْتِحُونَ عَلَى ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ فَلَمَّا جَآءَهُم مَّا عَرَفُوا۟ كَفَرُوا۟ بِهِۦ ۚ فَلَعْنَةُ ٱللَّهِ عَلَى ٱلْكَـٰفِرِينَ

Translation: และเมื่อได้มีคัมภีร์ฉบับหนึ่งจากที่อัลลอฮ์มายังพวกเขา ซึ่งยืนยันในสิ่งที่มีอยู่กับพวกเขา ทั้งๆ ที่พวกเขาเคยขอให้มีชัยชนะเหนือบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธามาก่อน ครั้นเมื่อสิ่งที่พวกเขารู้จักดีได้มายังพวกเขาแล้ว พวกเขากลับปฏิเสธสิ่งนั้นเสีย ดังนั้นการสาบแช่ง(138) ของอัลลอฮ์จึงตกอยู่แก่บรรดาผู้ปฏิเสธเหล่านั้น

Comment: (138)ห่างไกลจากความเมตตาของอัลลอฮ์

2:90

بِئْسَمَا ٱشْتَرَوْا۟ بِهِۦٓ أَنفُسَهُمْ أَن يَكْفُرُوا۟ بِمَآ أَنزَلَ ٱللَّهُ بَغْيًا أَن يُنَزِّلَ ٱللَّهُ مِن فَضْلِهِۦ عَلَىٰ مَن يَشَآءُ مِنْ عِبَادِهِۦ ۖ فَبَآءُو بِغَضَبٍ عَلَىٰ غَضَبٍۢ ۚ وَلِلْكَـٰفِرِينَ عَذَابٌۭ مُّهِينٌۭ

Translation: ช่างชั่วช้าจริงๆ สิ่งที่พวกเขาขายตัวของพวกเขาด้วยสิ่งนั้น คือการที่พวกเขาปฏิเสธสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงประทานลงมาทั้งนี้เพราะความอิจฉาริษยาในการที่อัลลอฮ์ทรงประทานจากความโปรดปรานของพระองค์แก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ในหมู่ปวงบ่าวของพระองค์ ดังนั้นพวกเขาจึงนำความกริ้วโกรธซ้อนความกริ้วโกรธกลับไป(ยังพระองค์)(139) และสำหรับผู้ปฏิเสธการศรัทธานั้นจะได้รับการลงโทษอันต่ำช้า

Comment: (139)นำความกริ้วโกรธหลายครั้งหลายคราวที่อัลลอฮ์ทรงมีให้แก่พวกเขากลับไปหาพระองค์ ประหนึ่งว่าความกริ้วโกรธนั้นคือ วัตถุที่สามารถถือหรือแบกได้ ซึ่งเป็นการยืนยันว่า พวกเขาจะต้องได้รับโทษแน่นอน

2:91

وَإِذَا قِيلَ لَهُمْ ءَامِنُوا۟ بِمَآ أَنزَلَ ٱللَّهُ قَالُوا۟ نُؤْمِنُ بِمَآ أُنزِلَ عَلَيْنَا وَيَكْفُرُونَ بِمَا وَرَآءَهُۥ وَهُوَ ٱلْحَقُّ مُصَدِّقًۭا لِّمَا مَعَهُمْ ۗ قُلْ فَلِمَ تَقْتُلُونَ أَنۢبِيَآءَ ٱللَّهِ مِن قَبْلُ إِن كُنتُم مُّؤْمِنِينَ

Translation: และเมื่อมีผู้กล่าวแก่เขาเหล่านั้นว่าจงศรัทธาต่อสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงประทานลงมาเถิด พวกเขาก็กล่าวว่า เรากำลังศรัทธาต่อสิ่งที่ได้ถูกประทานลงมาแก่เราอยู่แล้วและพวกเขาปฏิเสธศรัทธาต่อสิ่งอื่นจากนั้น ทั้ง ๆ ที่สิ่งนั้นคือความจริงที่มายืนยันสิ่งที่มีอยู่กับพวกเขา(140) จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่าเพราะเหตุใดเมื่อก่อนโน้นพวกท่านจึงฆ่านบีของอัลลอฮ์ถ้าหากพวกเจ้าเป็นผู้ศรัทธาจริง

Comment: (140)สิ้งที่อยู่ในคัมภัร์พวกเขาอันได้แก่ การให้เอกภาพแด่อัลลอฮ์

2:92

۞ وَلَقَدْ جَآءَكُم مُّوسَىٰ بِٱلْبَيِّنَـٰتِ ثُمَّ ٱتَّخَذْتُمُ ٱلْعِجْلَ مِنۢ بَعْدِهِۦ وَأَنتُمْ ظَـٰلِمُونَ

Translation: และแน่นอนแท้จริง มูซาได้นำหลักฐานอันชัดเจนมายังพวกเจ้าแล้ว(141) แต่พวกเจ้าได้ยึดเอาลูกวัว(142) (เป็นที่เคารพสักการะ) หลังจากเขาและพวกเจ้านั้นคือพวกอธรรม

Comment: (141)หลักฐานเกี่ยวกับเอกภาพของอัลลอฮ์ และเดชานุภาพของพระองค์

Comment: (142)ลูกวัวที่ถูกจำลองขึ้นจากทองคำโดยน้ำมือของซามิรีย์

2:93

وَإِذْ أَخَذْنَا مِيثَـٰقَكُمْ وَرَفَعْنَا فَوْقَكُمُ ٱلطُّورَ خُذُوا۟ مَآ ءَاتَيْنَـٰكُم بِقُوَّةٍۢ وَٱسْمَعُوا۟ ۖ قَالُوا۟ سَمِعْنَا وَعَصَيْنَا وَأُشْرِبُوا۟ فِى قُلُوبِهِمُ ٱلْعِجْلَ بِكُفْرِهِمْ ۚ قُلْ بِئْسَمَا يَأْمُرُكُم بِهِۦٓ إِيمَـٰنُكُمْ إِن كُنتُم مُّؤْمِنِينَ

Translation: และจงรำลึกถึงขณะที่เราได้เอาคำมั่นสัญญาจากพวกเจ้าและ เราได้ยกภูเขาฎูร์ขึ้นเหนือพวกเจ้า(143) พวกเจ้าจงยึดถือสิ่งที่เราได้ประทานลงมาแก่พวกเจ้าด้วยความเข้มแข็ง และจงสดับฟัง พวกเขากล่าวว่า พวกข้าพระองค์ฟังกันแล้ว และก็ได้ฝ่าฝืนกันไปแล้ว และพวกเขาได้ถูกให้ดื่มลูกวัวเข้าไปในหัวใจของพวกเขา(144) เนื่องจากพวกเขาปฏิเสธศรัทธา จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด)ว่าช่างชั่วช้าจริงๆ สิ่งที่การศรัทธาพวกท่านใช้พวกท่านให้กระทำสิ่งนั้นถ้าหากพวกท่านเป็นผู้ศรัทธา

Comment: (143)ภูเขาฏูรถูกยกขึ้นเหนือศีรษะของพวกเขาประหนึ่งสิ้งกำบังแดด

Comment: (144)ให้เกิดความรักอย่างดื่มด่ำ

2:94

قُلْ إِن كَانَتْ لَكُمُ ٱلدَّارُ ٱلْـَٔاخِرَةُ عِندَ ٱللَّهِ خَالِصَةًۭ مِّن دُونِ ٱلنَّاسِ فَتَمَنَّوُا۟ ٱلْمَوْتَ إِن كُنتُمْ صَـٰدِقِينَ

Translation: จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า ถ้าหากว่าสถานที่พำนักแห่งอาคิเราะฮ์ ณ ที่อัลลอฮ์เป็นของพวกท่านโดยเฉพาะ มิใช่ของบุคคลอื่นแล้วไซร้ก็จงปรารถนาความตายเสียเถิด ถ้าหากพวกเจ้าเป็นผู้พูดจริง

2:95

وَلَن يَتَمَنَّوْهُ أَبَدًۢا بِمَا قَدَّمَتْ أَيْدِيهِمْ ۗ وَٱللَّهُ عَلِيمٌۢ بِٱلظَّـٰلِمِينَ

Translation: และเขาเหล่านั้น(145) จะไม่ปรารถนาความตายเลยตลอดกาล เนื่องด้วยความชั่วที่มือของพวกเขาได้ประกอบล่วงหน้าไว้ และอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงรู้ดียิ่งต่อบรรดาผู้อธรรมเหล่านั้น

Comment: (145)หมายถึงชาวยิวหรือวงศ์วานอิสราอีล

2:96

وَلَتَجِدَنَّهُمْ أَحْرَصَ ٱلنَّاسِ عَلَىٰ حَيَوٰةٍۢ وَمِنَ ٱلَّذِينَ أَشْرَكُوا۟ ۚ يَوَدُّ أَحَدُهُمْ لَوْ يُعَمَّرُ أَلْفَ سَنَةٍۢ وَمَا هُوَ بِمُزَحْزِحِهِۦ مِنَ ٱلْعَذَابِ أَن يُعَمَّرَ ۗ وَٱللَّهُ بَصِيرٌۢ بِمَا يَعْمَلُونَ

Translation: และแน่นอนเหลือเกินเจ้า(146) จะพบว่าพวกเขาปรารถนาการมีชีวิตอยู่ยิ่งกว่ามนุษย์ทั้งหลาย และยิ่งกว่าบรรดาผู้ที่ให้มีภาคีขึ้น(แก่อัลลอฮ์) เสียอีก คนหนึ่งคนใดในพวกเขานั้นชอบ หากว่าเขาจะถูกให้มีอายุถึงพันปี ทั้งๆ ที่การมีอายุยืนนานจะไม่ทำให้เขาห่างไกลจากการถูกลงโทษไปได้ และอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงเห็นในสิ่งที่เขาเหล่านั้นกระทำกันอยู่

Comment: (146)คือท่านนบีจะพบว่าชาวยิวนั้นห่วงใยต่อชีวิตเป็นอย่างยิ่ง

2:97

قُلْ مَن كَانَ عَدُوًّۭا لِّجِبْرِيلَ فَإِنَّهُۥ نَزَّلَهُۥ عَلَىٰ قَلْبِكَ بِإِذْنِ ٱللَّهِ مُصَدِّقًۭا لِّمَا بَيْنَ يَدَيْهِ وَهُدًۭى وَبُشْرَىٰ لِلْمُؤْمِنِينَ

Translation: จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า ใครที่เคยเป็นศัตรูต่อญิบรีลบ้าง? แท้จริง เขาได้นำเอาอัลกุรอานทยอยลงมายังหัวใจจของเจ้าด้วยอนุมัติของอัลลอฮ์ทั้งนี้เพื่อมายืนยันคัมภีร์ที่อยู่หน้าคัมภีร์อัลกุรอาน(147) และเพื่อเป็นข้อแนะนำและข่าวดีแก่ผู้ศรัทธาทั้งหลาย

Comment: (147)หมายถึงคัมภีร์เตารอตและอินญีล

2:98

مَن كَانَ عَدُوًّۭا لِّلَّهِ وَمَلَـٰٓئِكَتِهِۦ وَرُسُلِهِۦ وَجِبْرِيلَ وَمِيكَىٰلَ فَإِنَّ ٱللَّهَ عَدُوٌّۭ لِّلْكَـٰفِرِينَ

Translation: ใครที่เป็นศัตรูต่ออัลลอฮ์และมลาอิกะฮ์ของพระองค์และบรรดาร่อซูลของพระองค์ และเป็นศัตรูต่อญิบรีลและมีกาอีลนั้น แท้จริงอัลลอฮ์ทรงเป็นศัตรูแก่ผู้ปฏิเสธศรัทธาทั้งหลาย

2:99

وَلَقَدْ أَنزَلْنَآ إِلَيْكَ ءَايَـٰتٍۭ بَيِّنَـٰتٍۢ ۖ وَمَا يَكْفُرُ بِهَآ إِلَّا ٱلْفَـٰسِقُونَ

Translation: และแท้จริงเราได้ให้สัญญาณต่างๆ อันชัดแจ้งแก่เจ้าแล้ว(148) และย่อมจะไม่มีใครปฏิเสธสัญญาณเหล่านั้น นอกจากบรรดาผู้ที่ฝ่าฝืนเท่านั้น

Comment: (148)หมายถึงหลักฐานอันชัดเจน

2:100

أَوَكُلَّمَا عَـٰهَدُوا۟ عَهْدًۭا نَّبَذَهُۥ فَرِيقٌۭ مِّنْهُم ۚ بَلْ أَكْثَرُهُمْ لَا يُؤْمِنُونَ

Translation: และทุกครั้งที่พวกเขา(149) ได้ให้คำมั่นสัญญาใดๆ ไว้ กลุ่มหนึ่งในพวกเขาก็โยนสัญญานั้นทิ้งเสียกระนั้นหรือ? หามิได้ส่วนมากของพวกเขาไม่ศรัทธาต่างหาก

Comment: (149)ชาวยิวที่ได้ให้คำมั่นสัญญาแก่อัลลอฮ์ไว้

2:101

وَلَمَّا جَآءَهُمْ رَسُولٌۭ مِّنْ عِندِ ٱللَّهِ مُصَدِّقٌۭ لِّمَا مَعَهُمْ نَبَذَ فَرِيقٌۭ مِّنَ ٱلَّذِينَ أُوتُوا۟ ٱلْكِتَـٰبَ كِتَـٰبَ ٱللَّهِ وَرَآءَ ظُهُورِهِمْ كَأَنَّهُمْ لَا يَعْلَمُونَ

Translation: และเมื่อได้มีร่อซูลคนใด ณ ที่อัลลอฮ์มายังพวกเขาซึ่งจะเป็นผู้ยืนยันสิ่งที่มีอยู่กับพวกเขา(150) กลุ่มหนึ่งจากบรรดาผู้ที่ได้รับคัมภีร์ ก็เหวี่ยงคัมภีร์ของอัลลอฮ์ไว้เบื้องหลังของพวกเขาเสีย(151) เสมือนหนึ่งว่าพวกเขาไม่รู้

Comment: (150)หมายถึงคัมภีร์เตารอต ในส่วนที่ยืนยันเอกภาพแด่อัลลอฮ์ และส่วนที่เป็นรากฐานแห่งบัญญัติศาสนา

Comment: (151)โยนส่วนที่บอกลักษณะของท่านนบีทิ้งเสีย

2:102

وَٱتَّبَعُوا۟ مَا تَتْلُوا۟ ٱلشَّيَـٰطِينُ عَلَىٰ مُلْكِ سُلَيْمَـٰنَ ۖ وَمَا كَفَرَ سُلَيْمَـٰنُ وَلَـٰكِنَّ ٱلشَّيَـٰطِينَ كَفَرُوا۟ يُعَلِّمُونَ ٱلنَّاسَ ٱلسِّحْرَ وَمَآ أُنزِلَ عَلَى ٱلْمَلَكَيْنِ بِبَابِلَ هَـٰرُوتَ وَمَـٰرُوتَ ۚ وَمَا يُعَلِّمَانِ مِنْ أَحَدٍ حَتَّىٰ يَقُولَآ إِنَّمَا نَحْنُ فِتْنَةٌۭ فَلَا تَكْفُرْ ۖ فَيَتَعَلَّمُونَ مِنْهُمَا مَا يُفَرِّقُونَ بِهِۦ بَيْنَ ٱلْمَرْءِ وَزَوْجِهِۦ ۚ وَمَا هُم بِضَآرِّينَ بِهِۦ مِنْ أَحَدٍ إِلَّا بِإِذْنِ ٱللَّهِ ۚ وَيَتَعَلَّمُونَ مَا يَضُرُّهُمْ وَلَا يَنفَعُهُمْ ۚ وَلَقَدْ عَلِمُوا۟ لَمَنِ ٱشْتَرَىٰهُ مَا لَهُۥ فِى ٱلْـَٔاخِرَةِ مِنْ خَلَـٰقٍۢ ۚ وَلَبِئْسَ مَا شَرَوْا۟ بِهِۦٓ أَنفُسَهُمْ ۚ لَوْ كَانُوا۟ يَعْلَمُونَ

Translation: และพวกเขาได้ปฏิบัติตามสิ่งที่บรรดาชัยฏอน(152) ในสมัยสุลัยมานอ่านให้ฟัง และสุลัยมานหาได้ปฏิเสธการศรัทธาไม่ แต่ทว่าชัยฏอนเหล่านั้นต่างหากที่ปฏิเสธการศรัทธา(153) โดยสอนประชาชนซึ่งวิชาไสยศาสตร์และสิ่งที่ถูกประทานลงมา(154) แก่มลาอิกะฮ์ทั้งสอง คือ ฮารูตและมารูต ณ เมืองบาบิลและเขาทั้งสองจะไม่สอนให้แก่ผู้ใดจนกว่าจะกล่าวว่า แท้จริงเราเพียงเป็นผู้ทดสอบเท่านั้น ท่านจงอย่าปฏิเสธการศรัทธาเลย(155) แล้วเขาเหล่านั้นก็ศึกษาจากเขาทั้งสอง สิ่งที่พวกเขาจะใช้มันยังความแตกแยกระหว่างบุคคลกับภรรยาของเขา และพวกเขาไม่อาจทำให้สิ่งนั้นเป็นอันตรายแก่ผู้ใดได้ นอกจากด้วยการอนุมัติของอัลลอฮ์เท่านั้น(156) และพวกเขาก็เรียนสิ่งที่เป็นโทษแก่พวกเขาและมิใช่เป็นคุณแก่พวกเขา และแท้จริงนั้นพวกเขารู้แล้วว่าแน่นอนผู้ที่ซื้อมันไว้นั้น(157) ในปรโลกก็ย่อมไม่มีส่วนได้ใดๆ และแน่นอนเป็นสิ่งที่ชั่วช้าจริงๆ ที่พวกเขาขายตัวของพวกเขาด้วยสิ่งนั้น หากพวกเขารู้

Comment: (152)หมายถึง ชัยฏอนผู้ประพฤติชั่วในสมัยท่านนบีสุลัยมานได้นำวิชาไสยศาสตร์ ออกเผยแพร่ และปฏิบัติกัน

Comment: (153)หมายถึงการยึดถือวิชาไสยศาสตร์ เพราะปฏิบัติการดังกล่าวนี้ถือว่าเป็นการปฏิเสธศรัทธา

Comment: (154)หมายถึงวิชาไสยศาสตร์ที่อัลลอฮ์ทรงให้มะลาอิกะฮ์ทั้งสองนำมาเพื่อทดสอบการอีมานของวงศ์วานอิสรออีล

Comment: (155)จงอย่าศึกษาวิชาไสยศาสตร์เลย เพราะเป็นการปฏิเสธศรัทธา

Comment: (156)นอกจากเป็นไปตามกฎสภาวการณ์ของอัลลอฮ์เท่านั้น

Comment: (157)ผู้ที่เชื่อวิชาไสยศาสตร์

2:103

وَلَوْ أَنَّهُمْ ءَامَنُوا۟ وَٱتَّقَوْا۟ لَمَثُوبَةٌۭ مِّنْ عِندِ ٱللَّهِ خَيْرٌۭ ۖ لَّوْ كَانُوا۟ يَعْلَمُونَ

Translation: และหากว่าเขาเหล่านั้นศรัทธา และเกรงกลัวแล้ว แน่นอนผลานิสงส์ ณ ที่อัลลอฮ์นั้นย่อมดีกว่า หากพวกเขารู้

2:104

يَـٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ لَا تَقُولُوا۟ رَٰعِنَا وَقُولُوا۟ ٱنظُرْنَا وَٱسْمَعُوا۟ ۗ وَلِلْكَـٰفِرِينَ عَذَابٌ أَلِيمٌۭ

Translation: โอ้ ศรัทธาทั้งหลาย! จงอย่าพูดว่ารออินา(158) และจงพูดว่า อุนซุรนา(159) และจงฟังและสำหรับผู้ปฏิเสธการศรัทธานั้น คือการลงโทษอันเจ็บแสบ

Comment: (158)แปลว่า “โปรดสดับฟังเรา”

Comment: (159)แปลว่า “โปรดมองมาทางเรา”

2:105

مَّا يَوَدُّ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ مِنْ أَهْلِ ٱلْكِتَـٰبِ وَلَا ٱلْمُشْرِكِينَ أَن يُنَزَّلَ عَلَيْكُم مِّنْ خَيْرٍۢ مِّن رَّبِّكُمْ ۗ وَٱللَّهُ يَخْتَصُّ بِرَحْمَتِهِۦ مَن يَشَآءُ ۚ وَٱللَّهُ ذُو ٱلْفَضْلِ ٱلْعَظِيمِ

Translation: บรรดาผู้ปฏิเสธการศรัทธาทั้งจากอะฮ์ลุลกิตาบ(160) และจากบรรดามุชริกนั้น(161) ต่างไม่ชอบที่จะให้มีความดีใดๆ จากพระผู้อภิบาลของพวกเจ้าถูกประทานลงมาแก่พวกเจ้า และอัลลอฮ์จะทรงเจาะจงความกรุณาของพระองค์แก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์และอัลลอฮ์เป็นผู้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง

Comment: (160)หมายถึงพวกยิว

Comment: (161)หมายถึงชาวมักกะฮ์ที่สักการะเจว็ด

2:106

۞ مَا نَنسَخْ مِنْ ءَايَةٍ أَوْ نُنسِهَا نَأْتِ بِخَيْرٍۢ مِّنْهَآ أَوْ مِثْلِهَآ ۗ أَلَمْ تَعْلَمْ أَنَّ ٱللَّهَ عَلَىٰ كُلِّ شَىْءٍۢ قَدِيرٌ

Translation: โองการใดที่เรายกเลิก(162) หรือเราทำให้มันลืมเลือนไป เราจะนำสิ่งที่ดีกว่าโองการนั้นมา(163) หรือสิ่งที่เท่าเทียมกับโองการนั้น(164) เจ้ามิได้รู้ดอกหรือว่า แท้จริง อัลลอฮ์นั้นทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง

Comment: (162)คือโองการที่อัลลอฮ์ได้ประทานมาในอดีต เมื่อหมดความเหมาะสมแล้วก็ถูกยกเลิก

Comment: (163)มีประโยชน์มากกว่า

Comment: (164) มีประโยชน์เท่าเทียมกัน

2:107

أَلَمْ تَعْلَمْ أَنَّ ٱللَّهَ لَهُۥ مُلْكُ ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضِ ۗ وَمَا لَكُم مِّن دُونِ ٱللَّهِ مِن وَلِىٍّۢ وَلَا نَصِيرٍ

Translation: เจ้า (มุฮัมมัด) มิได้รู้ดอกหรือว่า แท้จริง อัลลอฮ์ทรงมีอำนาจแห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน อื่นจากอัลลอฮ์แล้ว พวกเจ้าย่อมไม่มีผู้คุ้มครองใดๆ และผู้ช่วยเหลือใด ๆ

2:108

أَمْ تُرِيدُونَ أَن تَسْـَٔلُوا۟ رَسُولَكُمْ كَمَا سُئِلَ مُوسَىٰ مِن قَبْلُ ۗ وَمَن يَتَبَدَّلِ ٱلْكُفْرَ بِٱلْإِيمَـٰنِ فَقَدْ ضَلَّ سَوَآءَ ٱلسَّبِيلِ

Translation: หรือพวกเจ้าจะขอร้องต่อร่อซูลของพวกเจ้า เช่นเดียวกับที่มูซาเคยถูกขอร้องมาก่อนแล้ว(165) และผู้ใดเปลี่ยนเอาการปฏิเสธไว้แทนการศรัทธาแล้วไซร้ แน่นอน เขาได้หลงทางอันเที่ยงตรงเสียแล้ว

Comment: (165)คือถูกขอร้องให้พวกเขาเห็นอัลลอฮ์โดยเปิดเผย และพวกเจ้าในที่นี้หมายถึงชาวมักกะฮ์ ซึ่งขอร้องให้ท่านนบีขยายเนื้อที่มักกะฮ์ให้กว้างขวางขึ้น

2:109

وَدَّ كَثِيرٌۭ مِّنْ أَهْلِ ٱلْكِتَـٰبِ لَوْ يَرُدُّونَكُم مِّنۢ بَعْدِ إِيمَـٰنِكُمْ كُفَّارًا حَسَدًۭا مِّنْ عِندِ أَنفُسِهِم مِّنۢ بَعْدِ مَا تَبَيَّنَ لَهُمُ ٱلْحَقُّ ۖ فَٱعْفُوا۟ وَٱصْفَحُوا۟ حَتَّىٰ يَأْتِىَ ٱللَّهُ بِأَمْرِهِۦٓ ۗ إِنَّ ٱللَّهَ عَلَىٰ كُلِّ شَىْءٍۢ قَدِيرٌۭ

Translation: อะฮ์ลุลกิตาบมากมาย(166) ชอบหากพวกเขาจะสามารถทำให้พวกเจ้ากลับเป็นผู้ปฏิเสธการศรัทธาอีก ทั้งนี้เพราะความอิจฉาริษยาที่มาจากตัวของพวกเขาเอง หลังจากความจริงได้ประจักษ์แก่พวกเขา ดังนั้น พวกเจ้าจงให้อภัย และเบือนหน้าเสีย(167) จนกว่าอัลลอฮ์จะประทานคำสั่งของพระองค์มา แท้จริง อัลลอฮ์นั้นทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่ง

Comment: (166)หมายถึงชาวยิวและชาวคริสเตียน

Comment: (167)ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น

2:110

وَأَقِيمُوا۟ ٱلصَّلَوٰةَ وَءَاتُوا۟ ٱلزَّكَوٰةَ ۚ وَمَا تُقَدِّمُوا۟ لِأَنفُسِكُم مِّنْ خَيْرٍۢ تَجِدُوهُ عِندَ ٱللَّهِ ۗ إِنَّ ٱللَّهَ بِمَا تَعْمَلُونَ بَصِيرٌۭ

Translation: และพวกเจ้าจงดำรงไว้ซึ่งการละหมาดเถิดและจงชำระซะกาตเสีย และความดีใดๆ ที่พวกเจ้าได้ประกอบล่วงหน้าไว้สำหรับตัวของพวกเจ้าเองพวกเจ้าก็จะพบมัน ณ ที่อัลลอฮ์แท้จริงอัลลอฮ์นั้นทรงเห็นในสิ่งที่พวกเจ้าปฏิบัติกันอยู่

2:111

وَقَالُوا۟ لَن يَدْخُلَ ٱلْجَنَّةَ إِلَّا مَن كَانَ هُودًا أَوْ نَصَـٰرَىٰ ۗ تِلْكَ أَمَانِيُّهُمْ ۗ قُلْ هَاتُوا۟ بُرْهَـٰنَكُمْ إِن كُنتُمْ صَـٰدِقِينَ

Translation: และพวกเขากล่าวว่า จะไม่มีใครเข้าสวรรค์เลย นอกจากผู้ที่เป็นยิวหรือเป็นคริสเตียนเท่านั้น(168) นั่นคือความเพ้อฝันของพวกเขา จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่าพวกท่านจงนำหลักฐานของพวกท่านมา ถ้าพวกท่านเป็นผู้พูดจริง

Comment: (168)ต่างฝ่ายต่างก็อ้างว่าฝ่ายตนเท่านี้จะได้เข้าสวรรค์

2:112

بَلَىٰ مَنْ أَسْلَمَ وَجْهَهُۥ لِلَّهِ وَهُوَ مُحْسِنٌۭ فَلَهُۥٓ أَجْرُهُۥ عِندَ رَبِّهِۦ وَلَا خَوْفٌ عَلَيْهِمْ وَلَا هُمْ يَحْزَنُونَ

Translation: หาใช่เช่นนั้นไม่(169) ผู้ใดที่มอบใบหน้าของเขา(170) ให้แก่อัลลอฮ์และขณะเดียวกันเขาก็เป็นผู้กระทำความดีแล้วไซร้ เขาจะได้รับรางวัลของเขา ณ ที่พระผู้อภิบาลของเขา และไม่มีความกลัวใดๆ แก่พวกเขาและทั้งพวกเขาก็จะไม่เสียใจ(171)

Comment: (169)หาใช่ตามที่ชาวยิวและคริสต์เพ้อฝันแต่อย่างใดไม่

Comment: (170)หมายถึงทั้งชีวิตและร่างกาย

Comment: (171)หมายถึงทั้งในโลกนี้และปรโลก

2:113

وَقَالَتِ ٱلْيَهُودُ لَيْسَتِ ٱلنَّصَـٰرَىٰ عَلَىٰ شَىْءٍۢ وَقَالَتِ ٱلنَّصَـٰرَىٰ لَيْسَتِ ٱلْيَهُودُ عَلَىٰ شَىْءٍۢ وَهُمْ يَتْلُونَ ٱلْكِتَـٰبَ ۗ كَذَٰلِكَ قَالَ ٱلَّذِينَ لَا يَعْلَمُونَ مِثْلَ قَوْلِهِمْ ۚ فَٱللَّهُ يَحْكُمُ بَيْنَهُمْ يَوْمَ ٱلْقِيَـٰمَةِ فِيمَا كَانُوا۟ فِيهِ يَخْتَلِفُونَ

Translation: และชาวยิวกล่าวว่า ชาวคริสต์นั้นมิได้ตั้งอยู่บนสิ่งใด(172) และชาวคริสต์ก็กล่าว่า ชาวยิวก็มิได้ตั้งอยู่บนสิ่งใด ทั้งๆ ที่เขาเหล่านั้นอ่านคัมภีร์กันอยู่ ในทำนองเดียวกัน บรรดาผู้ที่ไม่รู้ก็ได้กล่าวเช่นเดียวกับคำกล่าวของพวกเขา ดังนั้นในวันกิยามะฮ์(173) อัลลอฮ์จะทรงตัดสินระหว่างพวกเขาในสิ่งที่พวกเขาขัดแย้งกัน

Comment: (172)คือมิได้ตั้งอยู่บนศาสนาที่ถูกต้อง

Comment: (173)วันที่มนุษย์ถูกให้ฟื้นคืนชีพ เพื่อรับการตอบแทน

2:114

وَمَنْ أَظْلَمُ مِمَّن مَّنَعَ مَسَـٰجِدَ ٱللَّهِ أَن يُذْكَرَ فِيهَا ٱسْمُهُۥ وَسَعَىٰ فِى خَرَابِهَآ ۚ أُو۟لَـٰٓئِكَ مَا كَانَ لَهُمْ أَن يَدْخُلُوهَآ إِلَّا خَآئِفِينَ ۚ لَهُمْ فِى ٱلدُّنْيَا خِزْىٌۭ وَلَهُمْ فِى ٱلْـَٔاخِرَةِ عَذَابٌ عَظِيمٌۭ

Translation: และใครเล่าจะเป็นผู้อธรรมยิ่งไปกว่าผู้ที่หวงห้ามบรรดามัสยิดของอัลลอฮ์ในการที่พระนามของพระองค์จะถูกรำลึกในมัสยิดเหล่านั้น และพยายามในการทำลายมัสยิดเหล่านั้นด้วย(174) ชนเหล่านี้แหละไม่บังควรแก่พวกเขาที่จะเข้าไปในมัสยิดเหล่านั้น นอกจากในฐานะผู้เกรงกลัวเท่านั้น และเขาเหล่านั้นจะได้รับความอัปยศในโลกนี้ และในปรโลก พวกเขาจะได้รับการลงโทษอันใหญ่หลวง

Comment: (174)หมายถึง ติตัสและไพร่พลของเขาซึ่งเป็นชาวโรมันได้ทำลายบัยตุลมักดิส

2:115

وَلِلَّهِ ٱلْمَشْرِقُ وَٱلْمَغْرِبُ ۚ فَأَيْنَمَا تُوَلُّوا۟ فَثَمَّ وَجْهُ ٱللَّهِ ۚ إِنَّ ٱللَّهَ وَٰسِعٌ عَلِيمٌۭ

Translation: และทิศตะวันออกและทิศตะวันตกนั้นเป็นสิทธิของอัลลอฮ์ดังนั้นพวกเจ้าจะผินไปทางไหน ที่นั่นแหละคือพระพักตร์ของอัลลอฮ์แท้จริงอัลลอฮ์คือผู้ทรงกว้างขวาง ผู้ทรงรอบรู้

2:116

وَقَالُوا۟ ٱتَّخَذَ ٱللَّهُ وَلَدًۭا ۗ سُبْحَـٰنَهُۥ ۖ بَل لَّهُۥ مَا فِى ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضِ ۖ كُلٌّۭ لَّهُۥ قَـٰنِتُونَ

Translation: และพวกเขากล่าวว่า อัลลอฮ์ได้ทรงยึดเอาพระบุตรองค์หนึ่ง(175) มหาบริสุทธิ์แห่งพระองค์ หาใช่เช่นนั้นไม่ สิ่งที่อยู่ในบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดินนั้น เป็นของพระองค์ทั้งสิ้น โดยที่ทั้งหมดนั้นเป็นผู้ภักดี(176) และนอบน้อมต่อพระองค์

Comment: (175)หมายถึงท่านนบีอีซา

Comment: (176)หมายถึงนบนอบในอำนาจและพระประสงค์ของพระองค์ทั้งสิ้น

2:117

بَدِيعُ ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضِ ۖ وَإِذَا قَضَىٰٓ أَمْرًۭا فَإِنَّمَا يَقُولُ لَهُۥ كُن فَيَكُونُ

Translation: พระองค์ผู้ทรงเนรมิตรชั้นฟ้า และแผ่นดิน(177) และเมื่อพระองค์ทรงกำหนดสิ่งใดแล้ว พระองค์เพียงแต่ประกาศิตแก่สิ่งนั้นว่า จงเป็นแล้วสิ่งนั้นก็จะเป็นขึ้น

Comment: (177)หมายถึงว่าไม่เคยมีผู้ใดเคยสร้างฟ้าและพิภพมาก่อน

2:118

وَقَالَ ٱلَّذِينَ لَا يَعْلَمُونَ لَوْلَا يُكَلِّمُنَا ٱللَّهُ أَوْ تَأْتِينَآ ءَايَةٌۭ ۗ كَذَٰلِكَ قَالَ ٱلَّذِينَ مِن قَبْلِهِم مِّثْلَ قَوْلِهِمْ ۘ تَشَـٰبَهَتْ قُلُوبُهُمْ ۗ قَدْ بَيَّنَّا ٱلْـَٔايَـٰتِ لِقَوْمٍۢ يُوقِنُونَ

Translation: และบรรดาผู้ที่ไม่รู้กล่าวว่า ไฉนอัลลอฮ์จึงไม่ตรัสแก่พวกเรา หรือไม่มีสัญญาณหนึ่งมายังพวกเรา ในทำนองเดียวกัน บรรดาชนรุ่นก่อนพวกเขา ก็กล่าวเช่นเดียวกับคำพูดของพวกเขา โดยที่หัวใจของพวกเขาคล้ายคลึงกัน แท้จริงนั้น เราได้แจกแจงสัญญาณต่างๆ ไว้อย่างชัดเจนแล้วแก่พวกที่ศรัทธามั่น

2:119

إِنَّآ أَرْسَلْنَـٰكَ بِٱلْحَقِّ بَشِيرًۭا وَنَذِيرًۭا ۖ وَلَا تُسْـَٔلُ عَنْ أَصْحَـٰبِ ٱلْجَحِيمِ

Translation: และแท้จริง เรา(อัลลอฮ์) ได้ส่งเจ้า(มุฮัมมัด)มาพร้อมด้วยความจริง ในฐานะผู้แจ้งข่าวดี และผู้ตักเตือน และเจ้าจะไม่ถูกไต่สวนเกี่ยวกับชาวนรก

2:120

وَلَن تَرْضَىٰ عَنكَ ٱلْيَهُودُ وَلَا ٱلنَّصَـٰرَىٰ حَتَّىٰ تَتَّبِعَ مِلَّتَهُمْ ۗ قُلْ إِنَّ هُدَى ٱللَّهِ هُوَ ٱلْهُدَىٰ ۗ وَلَئِنِ ٱتَّبَعْتَ أَهْوَآءَهُم بَعْدَ ٱلَّذِى جَآءَكَ مِنَ ٱلْعِلْمِ ۙ مَا لَكَ مِنَ ٱللَّهِ مِن وَلِىٍّۢ وَلَا نَصِيرٍ

Translation: และชาวยิวและชาวคริสต์นั่น จะไม่พอใจแก่เจ้า (มุฮัมมัด) เป็นอันขาด จนกว่าเจ้าจะปฏิบัติตามศาสนาของพวกเขา จงกล่าวเถิดแท้จริงคำแนะนำของอัลลอฮ์เท่านั้น คือ คำแนะนำ(178) แน่นอน ถ้าเจ้า ปฏิบัติตามอารมณ์ของพวกเขา หลังจากที่มีความรู้มายังแล้ว ก็ย่อมไม่มีผู้คุ้มครองและผู้ช่วยเหลือใดๆ สำหรับเจ้าให้พ้นจากการลงโทษของอัลลอฮ์ได้

Comment: (178)คือคำแนะนำที่ถูกต้อง และให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย

2:121

ٱلَّذِينَ ءَاتَيْنَـٰهُمُ ٱلْكِتَـٰبَ يَتْلُونَهُۥ حَقَّ تِلَاوَتِهِۦٓ أُو۟لَـٰٓئِكَ يُؤْمِنُونَ بِهِۦ ۗ وَمَن يَكْفُرْ بِهِۦ فَأُو۟لَـٰٓئِكَ هُمُ ٱلْخَـٰسِرُونَ

Translation: บรรดาผู้ที่เราได้ให้คัมภีร์แก่พวกเขาโดยที่พวกเขาอ่านคัมภีร์นั้นอย่างจริงจัง(179) ชนเหล่านี้คือ ผู้ที่ศรัทธาต่อคัมภีร์นั้นและผู้ใดปฏิเสธศรัทธาต่อคัมภีร์นั้นไซร้(180) แน่นอนชนเหล่านี้คือผู้ที่ขาดทุน

Comment: (179)อ่านคัมภีร์นั้นด้วยความศรัทธาและพินิจพิจารณาในการนี้ย่อมทำให้เขารู้แน่ว่า นบีมุฮัมมัด คือนบีที่ถูกระบุลักษณะไว้ในคัมภีร์นั้น

Comment: (180)มิได้อ่านคัมภีร์นั้นอย่างจริงใจ จึงทำให้เขาไม่เข้าใจข้อความซึ่งระบุในคัมภีร์ทำให้เขาปฏิเสธนบีมุฮัมมัด เขาจึงตกอยู่ในฐานะผู้ปฏิเสธคัมภีร์

2:122

يَـٰبَنِىٓ إِسْرَٰٓءِيلَ ٱذْكُرُوا۟ نِعْمَتِىَ ٱلَّتِىٓ أَنْعَمْتُ عَلَيْكُمْ وَأَنِّى فَضَّلْتُكُمْ عَلَى ٱلْعَـٰلَمِينَ

Translation: วงศ์วานอิสรออีลเอ๋ย! จงรำลึกถึงความกรุณาของข้าที่ข้าได้กรุณาต่อพวกเจ้า และแท้จริงข้าได้เทิดพวกเจ้าเหนือ ประชาชนทั้งหลาย

2:123

وَٱتَّقُوا۟ يَوْمًۭا لَّا تَجْزِى نَفْسٌ عَن نَّفْسٍۢ شَيْـًۭٔا وَلَا يُقْبَلُ مِنْهَا عَدْلٌۭ وَلَا تَنفَعُهَا شَفَـٰعَةٌۭ وَلَا هُمْ يُنصَرُونَ

Translation: และพ+วกเจ้าจงหวั่นเกรงวันหนึ่ง(วันกิยามะฮ์)ซึ่งไม่มีชีวิตใดจะชดเชยสิ่งใดแทนอีกชีวิตหนึ่งได้(181) และค่าไถ่ถอนใดๆ ก็หาได้รับประโยชน์แก่ชีวิตนั้นไม่ถูกรับ(182)และ ทั้งการขอให้ความช่วยเหลือใดๆ ก็หาได้ยังประโยชน์แก่ชีวิตนั้นแก่ชีวิตนั้นไม่(183) ตลอดจนเขาเหล่านั้นก็จะไม่ได้รับความช่วยเหลือ

Comment: (181)คือไม่มีใครนำเอาความดีของตนไปชดเชยส่วนบกพร่องของอีกคนหนึ่งได้

Comment: (182)คือสมมุติว่า ชีวิตนั้นจะไถ่ตัวของเขาให้พ้นจากการลงโทษด้วยทรัพย์สินมากมายเท่าใดก็ตาม ก็จะไม่ถูกรับเพราะแต่ละคนจะต้องลิ้มรสแห่งความผิดของตน ไม่มีผู้ใดหรือสิ่งใดช่วยเหลือได้

Comment: (183)การขอให้อัลลอฮ์ทรงกรุณาแก่ชีวิตนั้นก็หาได้รับประโยชน์ไม่

2:124

۞ وَإِذِ ٱبْتَلَىٰٓ إِبْرَٰهِـۧمَ رَبُّهُۥ بِكَلِمَـٰتٍۢ فَأَتَمَّهُنَّ ۖ قَالَ إِنِّى جَاعِلُكَ لِلنَّاسِ إِمَامًۭا ۖ قَالَ وَمِن ذُرِّيَّتِى ۖ قَالَ لَا يَنَالُ عَهْدِى ٱلظَّـٰلِمِينَ

Translation: และจงรำลึกถึงขณะที่พระผู้อภิบาลของอิบรอฮีมได้ทดสอบเขาด้วยพระบัญชาบางประการ(184) แล้วเขาก็ได้สนองตามพระบัญชานั้นโดยครบถ้วน(185) พระองค์ตรัสว่า แท้จริงข้าจะให้เจ้าเป็นผู้นำมนุษยชาติ เขากล่าวว่าและจากลูกหลานของข้าพระองค์ด้วย(186) พระองค์ ตรัสว่า สัญญาของข้านั้นจะไม่ได้แก่บรรดาผู้อธรรม(187)

Comment: (184)เราไม่สามารถรู้ได้ว่าพระบัญชาบางประการนั้นคืออะไรบ้าง? เพราะไม่ปรากฏว่าท่านนบีได้อธิบายไว้ ในการนี้นักปราชญ์จึงมีทรรศนะต่างกัน

Comment: (185)ปฏิบัติตามบัญชานั้นอย่างครบถ้วน

Comment: (186)ท่านนบีอิบรอฮีม ขอให้อัลลอฮ์ทรงแต่งตั้งผู้นำจากลูกหลานของท่านด้วย

Comment: (187)พระองค์ทรงรับคำขอของท่านนบีอิบรอฮีม แต่ถ้าสมัยใดที่ลูกหลานของท่านเป็นผู้อธรรมแล้ว ก็จะไม่ได้รับตามสัญญานั้น

2:125

وَإِذْ جَعَلْنَا ٱلْبَيْتَ مَثَابَةًۭ لِّلنَّاسِ وَأَمْنًۭا وَٱتَّخِذُوا۟ مِن مَّقَامِ إِبْرَٰهِـۧمَ مُصَلًّۭى ۖ وَعَهِدْنَآ إِلَىٰٓ إِبْرَٰهِـۧمَ وَإِسْمَـٰعِيلَ أَن طَهِّرَا بَيْتِىَ لِلطَّآئِفِينَ وَٱلْعَـٰكِفِينَ وَٱلرُّكَّعِ ٱلسُّجُودِ

Translation: และจงรำลึกถึงขณะที่เราได้ให้บ้านหลังนั้นเป็นที่กลับมาสำหรับมนุษย์ และเป็นที่ปลอดภัย และพวกเจ้าจงยึดเอาเป็นที่ยืนของอิบรอฮีม(188) เป็นที่ละหมาดเถิดและ เราได้สั่งเสียแก่อิบรอฮีม และอิสมาอีลว่า เจ้าทั้งสองจงทำความสะอาดบ้านของข้าเพื่อบรรดาผู้ทำการเฎาะวาฟ(189) และบรรดาผู้ทำการเอี๊ยะติกาฟ(190) และบรรดาผู้ที่ทำรุกัวะและสุญูด(191)

Comment: (188)คือ ก้อนหินที่ท่านใช้เป็นที่รองเท้า เพื่อก่ออัล-กะอ์บะฮ์ ซึ่งเรียกกันว่า “มะกอมอิบรอฮีม”

Comment: (189)ผู้เดินเวียนซ้ายรอบกะอ์บะฮ์เจ็ดรอบ

Comment: (190)ผู้ที่จำกัดตนอยู่ในบริเวณกะอ์บะฮ์ตามจำนวนที่เขากำหนดไว้ เพื่อทำการอิบาดะฮ์ต่ออัลลอฮ์

Comment: (191)ผู้ทำละหมาด

2:126

وَإِذْ قَالَ إِبْرَٰهِـۧمُ رَبِّ ٱجْعَلْ هَـٰذَا بَلَدًا ءَامِنًۭا وَٱرْزُقْ أَهْلَهُۥ مِنَ ٱلثَّمَرَٰتِ مَنْ ءَامَنَ مِنْهُم بِٱللَّهِ وَٱلْيَوْمِ ٱلْـَٔاخِرِ ۖ قَالَ وَمَن كَفَرَ فَأُمَتِّعُهُۥ قَلِيلًۭا ثُمَّ أَضْطَرُّهُۥٓ إِلَىٰ عَذَابِ ٱلنَّارِ ۖ وَبِئْسَ ٱلْمَصِيرُ

Translation: และจงรำลึกถึงขณะที่อิบรอฮีมได้วิงวอนว่า ข้าแต่พระผู้อภิบาลของข้าพระองค์โปรดทรงให้ที่นี่เป็นเมืองที่ปลอดภัย และโปรดประทานบรรดาผลไม้ให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่ชาวเมืองนั้นด้วย คือ ผู้ที่ศรัทธาต่ออัลลอฮ์และวันปรโลกจากพวกเขา(192) พระองค์ตรัสว่า ผู้ใดที่ปฏิเสธการศรัทธา ข้าจะให้เขาได้รับความสำราญชั่วเวลาเพียงเล็กน้อยเท่านั้นภายหลังข้าจะบีบบังคับให้เขาไปสู่การทรมานแห่งขุมนรก และเป็นจุดหมายปลายทางอันชั่วช้ายิ่ง

Comment: (192)คือจากลูกหลานของท่านนบีอิบรอฮีม

2:127

وَإِذْ يَرْفَعُ إِبْرَٰهِـۧمُ ٱلْقَوَاعِدَ مِنَ ٱلْبَيْتِ وَإِسْمَـٰعِيلُ رَبَّنَا تَقَبَّلْ مِنَّآ ۖ إِنَّكَ أَنتَ ٱلسَّمِيعُ ٱلْعَلِيمُ

Translation: และจงรำลึกถึง ขณะที่อิบรอฮีมและอิสมาอีล ได้ก่อฐานของบ้านหลังนั้น(193) ให้สูงขึ้น (ทั้งสองได้กล่าววิงวอนว่า) ข้าแต่พระผู้อภิบาลของพวกข้าพระองค์โปรดรับ(งาน) จากพวกข้าพระองค์ด้วยเถิด แท้จริงพระองค์นั้นทรงได้ยิน และทรงรอบรู้

Comment: (193)คือ อัล-กะอ์บะฮ์ หรือบัยตุลลอฮ์

2:128

رَبَّنَا وَٱجْعَلْنَا مُسْلِمَيْنِ لَكَ وَمِن ذُرِّيَّتِنَآ أُمَّةًۭ مُّسْلِمَةًۭ لَّكَ وَأَرِنَا مَنَاسِكَنَا وَتُبْ عَلَيْنَآ ۖ إِنَّكَ أَنتَ ٱلتَّوَّابُ ٱلرَّحِيمُ

Translation: พระผู้อภิบาลของข้าพระองค์ โปรดให้พระองค์ทั้งสองเป็นผู้นอบน้อมต่อพระองค์ และโปรดให้มีจากลูกหลานของพวกพระองค์ประชาชนที่นอบน้อมต่อพระองค์ และโปรดแสดงแก่ข้าพระองค์ ซึ่งพิธีการทำฮัจญ์ของพวกข้าพระองค์ และโปรดอภัยโทษแก่พวกข้าพระองค์ด้วย แท้จริงพระองค์ทรงเป็นผู้อภัยโทษ ทรงเอ็นดูเมตตา

2:129

رَبَّنَا وَٱبْعَثْ فِيهِمْ رَسُولًۭا مِّنْهُمْ يَتْلُوا۟ عَلَيْهِمْ ءَايَـٰتِكَ وَيُعَلِّمُهُمُ ٱلْكِتَـٰبَ وَٱلْحِكْمَةَ وَيُزَكِّيهِمْ ۚ إِنَّكَ أَنتَ ٱلْعَزِيزُ ٱلْحَكِيمُ

Translation: พระผู้อภิบาลของพวกข้าพระองค์โปรดส่งร่อซูลคนหนึ่งจากพวกเขาไปในหมู่พวกเขา ซึ่งเขาจะได้อ่านบรรดาโองการของพระองค์ให้พวกเขาฟัง และจะได้สอนคัมภีร์และความมุ่งหมายแห่งบัญญัติให้พวกเขาทราบและซักฟอกพวกเขาให้สะอาด แท้จริงพระองค์ทรงไว้ซึ่งเดชานุภาพ ทรงปรีชาญาณ

2:130

وَمَن يَرْغَبُ عَن مِّلَّةِ إِبْرَٰهِـۧمَ إِلَّا مَن سَفِهَ نَفْسَهُۥ ۚ وَلَقَدِ ٱصْطَفَيْنَـٰهُ فِى ٱلدُّنْيَا ۖ وَإِنَّهُۥ فِى ٱلْـَٔاخِرَةِ لَمِنَ ٱلصَّـٰلِحِينَ

Translation: และใครเล่าที่จะไม่พึงปรารถนาในแนวทางของอิบรอฮีม นอกจากผู้ที่ทำให้ตัวเองโฉดเขลาเท่านั้น และแท้จริงนั้น เราได้คัดเลือกเขา(ให้เป็นนบี และร่อซูล) ในโลกนี้ และแท้จริงในปรโลกนั้น เขาจะอยู่ในหมู่คนดีอย่างแน่นอน

2:131

إِذْ قَالَ لَهُۥ رَبُّهُۥٓ أَسْلِمْ ۖ قَالَ أَسْلَمْتُ لِرَبِّ ٱلْعَـٰلَمِينَ

Translation: จงรำลึกถึงขณะที่พระผู้อภิบาลของเขาได้กล่าวแก่เขาว่าเจ้าจงสวามิภักดิ์เถิดเขากล่าวว่า ข้าพระองค์ได้สวามิภักดิ์แด่พระเจ้าแห่งสากลโลกแล้ว

2:132

وَوَصَّىٰ بِهَآ إِبْرَٰهِـۧمُ بَنِيهِ وَيَعْقُوبُ يَـٰبَنِىَّ إِنَّ ٱللَّهَ ٱصْطَفَىٰ لَكُمُ ٱلدِّينَ فَلَا تَمُوتُنَّ إِلَّا وَأَنتُم مُّسْلِمُونَ

Translation: และอิบรอฮีมได้สั่งเสียแก่ลูกของเขาให้ปฏิบัติตามแนวทางนั้น(194) และยะอ์กูบก็สั่งเสียด้วยว่า โอ้ลูกๆ ของฉัน แท้จริง อัลลอฮ์ได้ทรงเลือกศาสนาให้แก่พวกเจ้าแล้ว ดังนั้น พวกเจ้าจงอย่าตายเป็นอันขาดนอกจากในขณะที่พวกเจ้าเป็นผู้สวามิภักดิ์(ต่ออัลลฮ์) เท่านั้น(195)

Comment: (194)คือแนวทางที่ท่านเรียกร้องและเชิญชวน

Comment: (195)ให้พยายามยึดมั่นในศาสนาที่อัลลอฮ์ได้ทรงคัดเลือกไว้ให้ และถ้าเมื่อตายลงจะได้ตายในฐานะผู้สวามิภักดิ์ต่อพระองค์

2:133

أَمْ كُنتُمْ شُهَدَآءَ إِذْ حَضَرَ يَعْقُوبَ ٱلْمَوْتُ إِذْ قَالَ لِبَنِيهِ مَا تَعْبُدُونَ مِنۢ بَعْدِى قَالُوا۟ نَعْبُدُ إِلَـٰهَكَ وَإِلَـٰهَ ءَابَآئِكَ إِبْرَٰهِـۧمَ وَإِسْمَـٰعِيلَ وَإِسْحَـٰقَ إِلَـٰهًۭا وَٰحِدًۭا وَنَحْنُ لَهُۥ مُسْلِمُونَ

Translation: หรือว่าพวกเจ้าอยู่ด้วยเมื่อความตายได้เยี่ยมกรายยะอ์กูบ ขณะที่เขากล่าวแก่ลูกๆ ของเขาว่า พวกเจ้าจะเคารพสักการะอะไร หลังจากฉัน? พวกเขากล่าวว่า พวกเราจะเคารพสักการะพระเจ้าของท่าน และพระเจ้าแห่งบรรดาบิดาของท่าน คือ อิบรอฮีม อิสมาอีล และอิสฮาก แต่เพียงองค์เดียวและพวกเราจะเป็นผู้สวามิภักดิ์ต่อพระองค์เท่านั้น

2:134

تِلْكَ أُمَّةٌۭ قَدْ خَلَتْ ۖ لَهَا مَا كَسَبَتْ وَلَكُم مَّا كَسَبْتُمْ ۖ وَلَا تُسْـَٔلُونَ عَمَّا كَانُوا۟ يَعْمَلُونَ

Translation: นั่นคือ หมู่ชนที่ล่วงลับไปแล้ว สิ่งที่พวกเขาขวนขวายไว้ ก็ย่อมได้แก่พวกเขา และสิ่งที่พวกเจ้าขวนขวายไว้ก็ย่อมได้แก่พวกเจ้า และพวกเจ้าจะไม่ถูกไต่สวนถึงสิ่งที่พวกเขากระทำ

2:135

وَقَالُوا۟ كُونُوا۟ هُودًا أَوْ نَصَـٰرَىٰ تَهْتَدُوا۟ ۗ قُلْ بَلْ مِلَّةَ إِبْرَٰهِـۧمَ حَنِيفًۭا ۖ وَمَا كَانَ مِنَ ٱلْمُشْرِكِينَ

Translation: และพวกเขากล่าวว่า พวกท่านจงเป็นยิวเถิด หรือเป็นคริสต์เถิด(196) พวกท่านก็จะได้รับคำแนะนำอันถูกต้อง จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) หาใช่เช่นนั้นไม่ แนวทางของอิบรอฮีมผู้ใฝ่หาความจริงต่างหาก(197)เขามิได้เป็นผู้หนึ่งจากบรรดาผู้ตั้งภาคี

Comment: (196)คือทั้งยิวและคริสต์ต่างก็เรียกร้องให้นับถือศาสนาของตน

Comment: (197)แนวทางของท่านนบีอิบรอฮีมต่างหากที่ถูกต้อง

2:136

قُولُوٓا۟ ءَامَنَّا بِٱللَّهِ وَمَآ أُنزِلَ إِلَيْنَا وَمَآ أُنزِلَ إِلَىٰٓ إِبْرَٰهِـۧمَ وَإِسْمَـٰعِيلَ وَإِسْحَـٰقَ وَيَعْقُوبَ وَٱلْأَسْبَاطِ وَمَآ أُوتِىَ مُوسَىٰ وَعِيسَىٰ وَمَآ أُوتِىَ ٱلنَّبِيُّونَ مِن رَّبِّهِمْ لَا نُفَرِّقُ بَيْنَ أَحَدٍۢ مِّنْهُمْ وَنَحْنُ لَهُۥ مُسْلِمُونَ

Translation: พวกท่านจงกล่าวเถิด เราได้ศรัทธาต่ออัลลอฮ์และสิ่งที่ถูกประทานลงมาแก่เรา และสิ่งที่ถูกประทานลงมาแก่อิบรอฮีม และอิสมาอีล และอิสฮาก และยะอ์กูบและบรรดาวงศ์วานเหล่านั้น(198) และสิ่งที่มูซา และอีซาได้รับ และสิ่งที่บรรดานบีได้รับจากพระผู้อภิบาลของพวกเขา พวกเรามิได้แบ่งแยกท่านหนึ่งท่านใดจากเขาเหล่านั้น(199) และพวกเราจะเป็นผู้สวามิภักดิ์ต่อพระองค์เท่านั้น

Comment: (198)ลูกหลานของท่านนบียะอ์กูบ

Comment: (199)มิได้แบ่งแยกระหว่างนบีเหล่านั้นในการศรัทธา หารแต่เราศรัทธาต่อนบีทุกท่าน

2:137

فَإِنْ ءَامَنُوا۟ بِمِثْلِ مَآ ءَامَنتُم بِهِۦ فَقَدِ ٱهْتَدَوا۟ ۖ وَّإِن تَوَلَّوْا۟ فَإِنَّمَا هُمْ فِى شِقَاقٍۢ ۖ فَسَيَكْفِيكَهُمُ ٱللَّهُ ۚ وَهُوَ ٱلسَّمِيعُ ٱلْعَلِيمُ

Translation: แล้วหากพวกเขาศรัทธาอย่างที่พวกเจ้าศรัทธาแล้ว แน่นอนพวกเขาก็ย่อมได้รับข้อแนะนำที่ถูกต้อง และหากพวกเขาผินหลังให้ แน่นอนพวกเขาย่อมอยู่ในความแตกแยกกันแล้วอัลลอฮ์ก็จะทรงให้เจ้าพอเพียงแก่พวกเขา(200) และพระองค์นั้นเป็นผู้ทรงไว้ซึ่งการได้ยิน ทรงไว้ซึ่งความรอบรู้

Comment: (200)คือสามารถหยุดยั้งความเลวร้ายของพวกเขาได้

2:138

صِبْغَةَ ٱللَّهِ ۖ وَمَنْ أَحْسَنُ مِنَ ٱللَّهِ صِبْغَةًۭ ۖ وَنَحْنُ لَهُۥ عَـٰبِدُونَ

Translation: การย้อมของอัลลอฮ์และใครเล่าจะย้อมดียิ่งไปกว่าอัลลอฮ์(201) และพวกเราจะเป็นผู้เคารพอิบาดะฮ์ต่อพระองค์

Comment: (201)ทรงเปรียบเทียบศาสนาของพระองค์ว่าประหนึ่งสีย้อมผ้า แต่ศาสนาของพระองค์นั้นสำหรับย้อมจิตใจมนุษย์และความประพฤติของเขาให้ตั้งอยู่ในทางที่ถูกและดีงาม และใครเล่าจะกำหนดศาสนาได้ดีกว่าพระองค์

2:139

قُلْ أَتُحَآجُّونَنَا فِى ٱللَّهِ وَهُوَ رَبُّنَا وَرَبُّكُمْ وَلَنَآ أَعْمَـٰلُنَا وَلَكُمْ أَعْمَـٰلُكُمْ وَنَحْنُ لَهُۥ مُخْلِصُونَ

Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่าพวกท่านจะโต้แย้งกับเราในเรื่องของอัลลอฮ์กระนั้นหรือ? ทั้งๆ ที่พระองค์ทรงเป็นพระผู้อภิบาลของเราและพระผู้อภิบาลพวกท่าน และบรรดาการงานของเราก็ย่อมเป็นของเรา และบรรดาการงานของพวกท่านก็เป็นของพวกท่าน และพวกเรานั้นเป็นผู้มอบการอิบาดะฮ์ทั้งหลายให้แก่พระองค์เท่านั้น

2:140

أَمْ تَقُولُونَ إِنَّ إِبْرَٰهِـۧمَ وَإِسْمَـٰعِيلَ وَإِسْحَـٰقَ وَيَعْقُوبَ وَٱلْأَسْبَاطَ كَانُوا۟ هُودًا أَوْ نَصَـٰرَىٰ ۗ قُلْ ءَأَنتُمْ أَعْلَمُ أَمِ ٱللَّهُ ۗ وَمَنْ أَظْلَمُ مِمَّن كَتَمَ شَهَـٰدَةً عِندَهُۥ مِنَ ٱللَّهِ ۗ وَمَا ٱللَّهُ بِغَـٰفِلٍ عَمَّا تَعْمَلُونَ

Translation: หรือว่าพวกท่านจะกล่าวว่า แท้จริงอิบรอฮีม และอิสมาอีล และอิสฮาก และยะอ์กูบและบรรดาวงศ์วานเหล่านั้น(202) เป็นพวกยิวหรือเป็นคริสต์จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่าพวกท่านรู้ดียิ่งกว่าอัลลอฮ์กระนั้นหรือ หรือว่าอัลลอฮ์? แล้วผู้ใดจะอธรรมยิ่งไปกว่าผู้ที่ปิดบังหลักฐานจากอัลลอฮ์ซึ่งมีอยู่ที่เขา และอัลลอฮ์นั้นจะไม่ทรงเผลอเรอในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำกันอยู่

Comment: (202)บรรดาลูกหลานของท่านนบียะฮ์กูบ

2:141

تِلْكَ أُمَّةٌۭ قَدْ خَلَتْ ۖ لَهَا مَا كَسَبَتْ وَلَكُم مَّا كَسَبْتُمْ ۖ وَلَا تُسْـَٔلُونَ عَمَّا كَانُوا۟ يَعْمَلُونَ

Translation: นั่นคือ กลุ่มชนที่ล่วงลับไปแล้ว สิ่งที่พวกเขาได้ขวนขวายไว้ก็ย่อมเป็นของพวกเขา และสิ่งที่พวกเจ้าขวนขวายไว้ก็ย่อมเป็นของพวกเจ้าและพวกเจ้าจะไม่ถูกไต่สวน ถึงสิ่งที่เขาเหล่านั้นปฏิบัติกัน

2:142

۞ سَيَقُولُ ٱلسُّفَهَآءُ مِنَ ٱلنَّاسِ مَا وَلَّىٰهُمْ عَن قِبْلَتِهِمُ ٱلَّتِى كَانُوا۟ عَلَيْهَا ۚ قُل لِّلَّهِ ٱلْمَشْرِقُ وَٱلْمَغْرِبُ ۚ يَهْدِى مَن يَشَآءُ إِلَىٰ صِرَٰطٍۢ مُّسْتَقِيمٍۢ

Translation: บรรดาผู้โฉดเขลา(203) ในหมู่มนุษย์จะกล่าวว่า อะไรเล่าที่ทำให้พวกเขา(204) หันออกไปจากกิบลัตของพวกเขา(205) ที่พวกเขาเคยผินไป(206) จงกล่าวเถิด(มุอัมมัด) ว่าทิศตะวันออกและทิศตะวันตกนั้นเป็นสิทธิของอัลลอฮ์เท่านั้น พระองค์จะทรงแนะนำผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ไปสู่ทางอันเที่ยงตรง

Comment: (203)รวมทั้งยิวและคริสเตียน

Comment: (204)หมายถึงมุสลิม

Comment: (205)หมายถึงบัยตุลมักดิส ซึ่งตั้งอยู่ในนครเยรูซาเล็ม

Comment: (206)หมายถึงท่านนบี และบรรดามุมิน

2:143

وَكَذَٰلِكَ جَعَلْنَـٰكُمْ أُمَّةًۭ وَسَطًۭا لِّتَكُونُوا۟ شُهَدَآءَ عَلَى ٱلنَّاسِ وَيَكُونَ ٱلرَّسُولُ عَلَيْكُمْ شَهِيدًۭا ۗ وَمَا جَعَلْنَا ٱلْقِبْلَةَ ٱلَّتِى كُنتَ عَلَيْهَآ إِلَّا لِنَعْلَمَ مَن يَتَّبِعُ ٱلرَّسُولَ مِمَّن يَنقَلِبُ عَلَىٰ عَقِبَيْهِ ۚ وَإِن كَانَتْ لَكَبِيرَةً إِلَّا عَلَى ٱلَّذِينَ هَدَى ٱللَّهُ ۗ وَمَا كَانَ ٱللَّهُ لِيُضِيعَ إِيمَـٰنَكُمْ ۚ إِنَّ ٱللَّهَ بِٱلنَّاسِ لَرَءُوفٌۭ رَّحِيمٌۭ

Translation: และในทำนองเดียวกัน เราได้ให้พวกเจ้าเป็นประชาชาติที่เป็นกลาง เพื่อพวกเจ้าจะได้เป็นสักขีพยานแก่มนุษย์ทั้งหลาย และร่อซูล(207) ก็จะเป็นสักขีพยานแด่พวกเจ้า และเรามิได้ให้มีกิบลัตที่เจ้าเคยผินไป นอกจากเพื่อเราจะได้รู้ว่าใครบ้างที่จะปฏิบัติตามร่อซูล จากผู้ที่กำลังหันสันเท้าทั้งสองของเขากลับ(208) และแท้จริงการเปลี่ยนแปลงกิบลัตนั้นเป็นเรื่องใหญ่(209) นอกจากแก่บรรดาผู้ที่อัลลอฮ์ได้ทรงแนะนำเท่านั้น และใช่ว่าอัลลอฮ์นั้นจะทำให้การศรัทธาของพวกเจ้าสูญไปก็หาไม่ แท้จริงอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงกรุณาปราณี ผู้ทรงเมตตาแก่มนุษย์เสมอ

Comment: (207)หมายถึงท่านนบีมุฮัมมัด

Comment: (208)หมายถึง ผินหลังให้ เพราะการกลับส้นเท้าทั้งสองนั้น ทำให้ร่างกายกลับหันหลังด้วย

Comment: (209)เพราะทำให้ผู้ที่มีศรัทธาไม่มั่นคง เกิดความสงสัย และปฏิเสธการศรัทธาก็มี และเป็นเป้าแห่งการโจมตีของยิวและคริสเตียน

2:144

قَدْ نَرَىٰ تَقَلُّبَ وَجْهِكَ فِى ٱلسَّمَآءِ ۖ فَلَنُوَلِّيَنَّكَ قِبْلَةًۭ تَرْضَىٰهَا ۚ فَوَلِّ وَجْهَكَ شَطْرَ ٱلْمَسْجِدِ ٱلْحَرَامِ ۚ وَحَيْثُ مَا كُنتُمْ فَوَلُّوا۟ وُجُوهَكُمْ شَطْرَهُۥ ۗ وَإِنَّ ٱلَّذِينَ أُوتُوا۟ ٱلْكِتَـٰبَ لَيَعْلَمُونَ أَنَّهُ ٱلْحَقُّ مِن رَّبِّهِمْ ۗ وَمَا ٱللَّهُ بِغَـٰفِلٍ عَمَّا يَعْمَلُونَ

Translation: แท้จริง เราเห็นใบหน้าของเจ้าแหงนไปในฟากฟ้าบ่อยครั้ง แน่นอนเราให้เจ้าผินไปยังทิศ(210) ที่เจ้าพึงใจ ดังนั้น เจ้าจงผินใบหน้าของเจ้าไปทางมัสยิดิลฮะรอมเถิด และที่ใดก็ตามที่พวกเจ้าปรากฏอยู่ ก็จงผินใบหน้าของพวกเจ้าไปทางทิศนั้น(211) และแท้จริงบรรดาผู้ที่ได้รับคัมภีร์(212) นั้นย่อมรู้ดีว่ามัน(213) คือความจริงที่มาจากพระผู้อภิบาลของพวกเขา และอัลลอฮ์ไม่ทรงละเลยในสิ่งที่พวกเขากระทำกัน

Comment: (210)คือ กิบลัต

Comment: (211)ผินไปทางมัสยิดิลฮะรอม

Comment: (212)หมายถึง ยิวและคริสเตียน

Comment: (213)การผินไปสู่มัสยิดฮะรอม

2:145

وَلَئِنْ أَتَيْتَ ٱلَّذِينَ أُوتُوا۟ ٱلْكِتَـٰبَ بِكُلِّ ءَايَةٍۢ مَّا تَبِعُوا۟ قِبْلَتَكَ ۚ وَمَآ أَنتَ بِتَابِعٍۢ قِبْلَتَهُمْ ۚ وَمَا بَعْضُهُم بِتَابِعٍۢ قِبْلَةَ بَعْضٍۢ ۚ وَلَئِنِ ٱتَّبَعْتَ أَهْوَآءَهُم مِّنۢ بَعْدِ مَا جَآءَكَ مِنَ ٱلْعِلْمِ ۙ إِنَّكَ إِذًۭا لَّمِنَ ٱلظَّـٰلِمِينَ

Translation: และแน่นอน ถ้าหากเจ้าได้นำหลักฐานทุกอย่างมาแสดงแก่บรรดาผู้ได้รับคัมภีร์ พวกเขาก็จะไม่ตามกิบลัตของเจ้า(214) และเจ้าก็มิใช่จะเป็นผู้ตามกิบลัตของพวกเขา และบางกลุ่มในพวกเขาเองก็มิใช่จะเป็นผู้ตามกิบลัตของอีกบางกลุ่ม(215) และถ้าหากเจ้าไปปฏิบัติตามอารมณ์ของพวกเขา หลังจากที่มีความรู้มายังเจ้าแล้ว แน่นอนทันใดนั้น เจ้าก็อยู่ในหมู่ผู้อธรรม

Comment: (214)คือ อัลกะอ์บะฮ์

Comment: (215)ยิวและคริสเตียน ต่างก็ไม่ยอมตามกิบลัตของกันและกัน

2:146

ٱلَّذِينَ ءَاتَيْنَـٰهُمُ ٱلْكِتَـٰبَ يَعْرِفُونَهُۥ كَمَا يَعْرِفُونَ أَبْنَآءَهُمْ ۖ وَإِنَّ فَرِيقًۭا مِّنْهُمْ لَيَكْتُمُونَ ٱلْحَقَّ وَهُمْ يَعْلَمُونَ

Translation: บรรดาผู้ที่เราได้ให้ คัมภีร์แก่พวกเขานั้น พวกเขาย่อมรู้จักเขา(216) ดีเหมือนกับที่พวกเขารู้จักลูกๆ ของเขาเอง และแท้จริงกลุ่มหนึ่งจากพวกเขาปิดบังความจริง(217) ไว้ทั้ง ๆ ที่พวกเขารู้กันอยู่

Comment: (216)คือท่านนบีมุฮัมมัด

Comment: (217)ปิดบังลักษณะของท่านนบีมุฮัมมัดที่ระบุไว้คัมภีร์ของพวกเขา

2:147

ٱلْحَقُّ مِن رَّبِّكَ ۖ فَلَا تَكُونَنَّ مِنَ ٱلْمُمْتَرِينَ

Translation: ความจริงนั้นมาจากพระผู้อภิบาลของเจ้า ดังนั้น เจ้าอย่าได้อยู่ในหมู่ผู้สงสัยเป็นอันขาด

2:148

وَلِكُلٍّۢ وِجْهَةٌ هُوَ مُوَلِّيهَا ۖ فَٱسْتَبِقُوا۟ ٱلْخَيْرَٰتِ ۚ أَيْنَ مَا تَكُونُوا۟ يَأْتِ بِكُمُ ٱللَّهُ جَمِيعًا ۚ إِنَّ ٱللَّهَ عَلَىٰ كُلِّ شَىْءٍۢ قَدِيرٌۭ

Translation: และสำหรับแต่ละประชาชาตินั้น ต่างก็มีทิศทางหนึ่ง ซึ่งประชาชาตินั้นผินไปสู่(218) ดังนั้น พวกเจ้าจงแข่งขันในความดีทั้งหลายเถิด ที่ใดก็ตามที่พวกเจ้าปรากฏอยู่ อัลลอฮ์ก็จะทรงนำพวกเจ้ามาทั้งหมด แท้จริง อัลลอฮ์ทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่ง

Comment: (218)คือนบีอิบรอฮีม และนบีอิสมาอีล ผินไปทาง อัลกะอ์บะฮ์ ชาวยิวผินไปทางอัศ-ศ็อคเราะฮ์ แห่งบัยตุลมักดิสและชาวคริสต์ผินไปทางทิศตะวันออก

2:149

وَمِنْ حَيْثُ خَرَجْتَ فَوَلِّ وَجْهَكَ شَطْرَ ٱلْمَسْجِدِ ٱلْحَرَامِ ۖ وَإِنَّهُۥ لَلْحَقُّ مِن رَّبِّكَ ۗ وَمَا ٱللَّهُ بِغَـٰفِلٍ عَمَّا تَعْمَلُونَ

Translation: และจากที่ใดก็ตามที่เจ้าได้ออกไป ก็จงผินหน้าของเจ้าไปทางอัลมัสยิดิลฮะรอม และแท้จริงนั้น มัน(219) คือความจริงที่มาจากพระผู้อภิบาลของเจ้า และอัลลอฮ์นั้นไม่เป็นผู้ทรงละเลยในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำกั้นอยู่

Comment: (219)การผินไปทางอัลมัสยิดิลฮะรอม

2:150

وَمِنْ حَيْثُ خَرَجْتَ فَوَلِّ وَجْهَكَ شَطْرَ ٱلْمَسْجِدِ ٱلْحَرَامِ ۚ وَحَيْثُ مَا كُنتُمْ فَوَلُّوا۟ وُجُوهَكُمْ شَطْرَهُۥ لِئَلَّا يَكُونَ لِلنَّاسِ عَلَيْكُمْ حُجَّةٌ إِلَّا ٱلَّذِينَ ظَلَمُوا۟ مِنْهُمْ فَلَا تَخْشَوْهُمْ وَٱخْشَوْنِى وَلِأُتِمَّ نِعْمَتِى عَلَيْكُمْ وَلَعَلَّكُمْ تَهْتَدُونَ

Translation: และจากที่ใดก็ตามที่เจ้าออกไป ก็จงผินหน้าของเจ้าไปทางอัลมัสยิดิลฮะรอม และที่ใดก็ตามที่พวกเจ้าปรากฏอยู่ ก็จงผินหน้าของพวกเจ้าไปทางนั้น(220) เพื่อว่าจะได้ไม่เป็นข้ออ้างใดๆ แก่หมู่ชนที่แย้งกับพวกเจ้าได้ นอกจากบรรดาผู้อธรรมในหมู่ของพวกเขาเท่านั้น ดังนั้นพวกเจ้าจงอย่ากลัวพวกเขาแต่จงกลัวข้าเถิด และเพื่อที่ข้าจะได้ให้ความกรุณาของข้าครบถ้วนแก่พวกเจ้า และเพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รับแนวทางอันถูกต้อง

Comment: (220)ไปทางอัลมัสยิดิลฮะรอม

2:151

كَمَآ أَرْسَلْنَا فِيكُمْ رَسُولًۭا مِّنكُمْ يَتْلُوا۟ عَلَيْكُمْ ءَايَـٰتِنَا وَيُزَكِّيكُمْ وَيُعَلِّمُكُمُ ٱلْكِتَـٰبَ وَٱلْحِكْمَةَ وَيُعَلِّمُكُم مَّا لَمْ تَكُونُوا۟ تَعْلَمُونَ

Translation: ดังที่เราได้ส่งร่อซูลผู้หนึ่ง(221) จากพวกเจ้าเองมาในหมู่พวกเจ้า ซึ่งเขาจะอ่านบรรดาโองการของเราให้พวกเจ้าฟัง และจะทำให้พวกเจ้าสะอาดบริสุทธิ์ และจะสอนคัมภีร์ และความรู้เกี่ยวกับข้อปฏิบัติให้แก่พวกเจ้า และจะสอนพวกเจ้าในสิ่งที่พวกเจ้าไม่เคยรู้มาก่อน

Comment: (221)ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

2:152

فَٱذْكُرُونِىٓ أَذْكُرْكُمْ وَٱشْكُرُوا۟ لِى وَلَا تَكْفُرُونِ

Translation: ดังนั้นพวกเจ้าจงรำลึกถึงข้าเถิด ข้าก็จะรำลึกถึงพวกเจ้า และจงขอบคุณข้าเถิด และจงอย่าเนรคุณต่อข้าเลย

2:153

يَـٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ ٱسْتَعِينُوا۟ بِٱلصَّبْرِ وَٱلصَّلَوٰةِ ۚ إِنَّ ٱللَّهَ مَعَ ٱلصَّـٰبِرِينَ

Translation: บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย! จงอาศัยความอดทน และการละหมาดเถิด แท้จริงอัลลออ์นั้นทรงอยู่ร่วมกับผู้อดทนทั้งหลาย

2:154

وَلَا تَقُولُوا۟ لِمَن يُقْتَلُ فِى سَبِيلِ ٱللَّهِ أَمْوَٰتٌۢ ۚ بَلْ أَحْيَآءٌۭ وَلَـٰكِن لَّا تَشْعُرُونَ

Translation: และพวกเจ้าอย่ากล่าวแก่ผู้ที่ถูกฆ่าในทางของอัลลอฮ์ว่าพวกเขาตาย(222) หามิได้พวกเขายังมีชีวิตอยู่(223) แต่ทว่าพวกเจ้าไม่รู้สึก

Comment: (222)คือว่าเขาตายเยี่ยงคนทั่วไป

Comment: (223)มีชีวิตอยู่ในอีกโลกหนึ่งอย่างมีเกียรติ

2:155

وَلَنَبْلُوَنَّكُم بِشَىْءٍۢ مِّنَ ٱلْخَوْفِ وَٱلْجُوعِ وَنَقْصٍۢ مِّنَ ٱلْأَمْوَٰلِ وَٱلْأَنفُسِ وَٱلثَّمَرَٰتِ ۗ وَبَشِّرِ ٱلصَّـٰبِرِينَ

Translation: และแน่นอนเราจะทดลองพวกเจ้าด้วยสิ่งใดสิ่งหนึ่งจากความกลัว และความหิวและด้วยความสูญเสีย(อย่างใดอย่างหนึ่ง)จากทรัพย์สมบัติ ชีวิต และพืชผล และเจ้าจงแจ้งข่าวดีแก่บรรดาผู้อดทนเถิด

2:156

ٱلَّذِينَ إِذَآ أَصَـٰبَتْهُم مُّصِيبَةٌۭ قَالُوٓا۟ إِنَّا لِلَّهِ وَإِنَّآ إِلَيْهِ رَٰجِعُونَ

Translation: คือบรรดาผู้ที่เมื่อมีทุกข์ภัยมาประสบแก่พวกเขา(224) พวกเขาก็กล่าวว่า แท้จริง พวกเราเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮ์และแท้จริงพวกเราจะกลับไปยังพระองค์

Comment: (224)เช่นการสูญเสียชีวิต หรือการสูญเสียสิ่งอื่นใดก็ตาม

2:157

أُو۟لَـٰٓئِكَ عَلَيْهِمْ صَلَوَٰتٌۭ مِّن رَّبِّهِمْ وَرَحْمَةٌۭ ۖ وَأُو۟لَـٰٓئِكَ هُمُ ٱلْمُهْتَدُونَ

Translation: ชนเหล่านี้ แหละพวกเขาจะได้รับคำชมเชยและการเอ็นดูเมตตาจากพระเจ้าของพวกเขา และชนเหล่านี้แหละคือผู้ที่ได้รับข้อแนะนำอันถูกต้อง

2:158

۞ إِنَّ ٱلصَّفَا وَٱلْمَرْوَةَ مِن شَعَآئِرِ ٱللَّهِ ۖ فَمَنْ حَجَّ ٱلْبَيْتَ أَوِ ٱعْتَمَرَ فَلَا جُنَاحَ عَلَيْهِ أَن يَطَّوَّفَ بِهِمَا ۚ وَمَن تَطَوَّعَ خَيْرًۭا فَإِنَّ ٱللَّهَ شَاكِرٌ عَلِيمٌ

Translation: แท้จริงภูเขาเศาะฟา และภูเขามัรวะฮ์นั้น เป็นส่วนหนึ่งจากบรรดาเครื่องหมายของอัลลอฮ์(225) ดังนั้นผู้ใดประกอบพิธีอัจญ์หรืออุมเราะฮ์ ณ บัยตุลลอฮ์ก็ไม่มีบาปใดๆ แก่เขาที่จะเดินวนเวียนไปมา ณ ภูเขาทั้งสองนั้น และผู้ใดประกอบความดีโดยสมัครใจแล้ว แน่นอน อัลลอฮ์นั้นคือผู้ทรงขอบใจ(226) และผู้ทรงรอบรู้

Comment: (225)เครื่องหมายแห่งศาสนาของพระองค์ เกี่ยวกับการประกอบพิธีฮัจญ์ และอุมเราะฮ์

Comment: (226)คือทรงประทานรางวัลให้

2:159

إِنَّ ٱلَّذِينَ يَكْتُمُونَ مَآ أَنزَلْنَا مِنَ ٱلْبَيِّنَـٰتِ وَٱلْهُدَىٰ مِنۢ بَعْدِ مَا بَيَّنَّـٰهُ لِلنَّاسِ فِى ٱلْكِتَـٰبِ ۙ أُو۟لَـٰٓئِكَ يَلْعَنُهُمُ ٱللَّهُ وَيَلْعَنُهُمُ ٱللَّـٰعِنُونَ

Translation: แท้จริงบรรดาผู้ที่ปิดบังหลักฐานอันชัดเจน(227) และทางนำอันถูกต้องที่เราได้ให้ลงมาหลังจากที่เราได้ชีแจงมันไว้แล้วในคัมภีร์สำหรับมนุษย์นั้น ชนเหล่านี้แหละอัลลอฮ์จะทรงขับไล่พวกเขาให้พ้นจากความเมตตาของพระองค์ และผู้สาปแช่งทั้งหลายก็จะสาปแช่งพวกเขาด้วย

Comment: (227)หมายถึงอะฮ์ลุลกิตาบ

2:160

إِلَّا ٱلَّذِينَ تَابُوا۟ وَأَصْلَحُوا۟ وَبَيَّنُوا۟ فَأُو۟لَـٰٓئِكَ أَتُوبُ عَلَيْهِمْ ۚ وَأَنَا ٱلتَّوَّابُ ٱلرَّحِيمُ

Translation: นอกจากผู้ที่สำนึกผิดกลับเนื้อกลับตัว และปรับปรุงแก้ไขและชี้แจงสิ่งที่ปกปิดไว้(228) ชนเหล่านี้ข้าจะอภัยโทษให้แก่พวกเขา และข้าคือ ผู้อภัยโทษและผู้ทรงเมตตาเสมอ

Comment: (228)อันได้แก่ลักษณะของท่านนบีที่ระบุไว้ในคัมภีร์เตารอด และอินญีล และบัญญัติการขว้างผู้ทำซินาซึ่งเคยแต่งงานด้วยก้อนหินจนตาย ตลอดจนความจริงเกี่ยวกับเปลี่ยนกิบลัต

2:161

إِنَّ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ وَمَاتُوا۟ وَهُمْ كُفَّارٌ أُو۟لَـٰٓئِكَ عَلَيْهِمْ لَعْنَةُ ٱللَّهِ وَٱلْمَلَـٰٓئِكَةِ وَٱلنَّاسِ أَجْمَعِينَ

Translation: แท้จริง บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา และได้สิ้นชีพลงขณะที่พวกเขาเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาอยู่นั้น ชนเหล่านี้จะได้รับการขับไล่ให้พ้นจากความเมตตาของอัลลอฮ์และจะได้รับการสาปแช่งจากมลาอิกะฮ์ และมนุษย์ทั้งมวล(229)

Comment: (229)คำว่า ”ละอฺนัต” นั้น ถ้ามาจากอัลลอฮ์แปลว่า “การขับไล่ให้พ้นจากความเมตตาของพระองค์” ถ้ามาจากมนุษย์แปลว่า “สาปแช่ง” เพราะการสาปแช่งนั้นก็คือ การขอให้อัลลลอฮ์ทรงขับไล่ให้พ้นจากความเมตตาของพระองค์

2:162

خَـٰلِدِينَ فِيهَا ۖ لَا يُخَفَّفُ عَنْهُمُ ٱلْعَذَابُ وَلَا هُمْ يُنظَرُونَ

Translation: พวกเขาจะอยู่ในการขับไล่ให้พ้นจากความเมตตาของอัลลอฮ์และการสาปแช่งจากะลาอิกะฮ์ และมนุษย์ตลอดกาล โดยที่การลงโทษนั้นจะไม่ถูกผ่อนปรนแก่พวกเขา และทั้งพวกเขาก็จะไม่ถูกรั้งรอในการลงโทษ

2:163

وَإِلَـٰهُكُمْ إِلَـٰهٌۭ وَٰحِدٌۭ ۖ لَّآ إِلَـٰهَ إِلَّا هُوَ ٱلرَّحْمَـٰنُ ٱلرَّحِيمُ

Translation: และพระเจ้าของพวกเจ้ามีเพียงองค์เดียว ไม่มีพระเจ้านอกจากพระองค์ ผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาเสมอเท่านั้น

2:164

إِنَّ فِى خَلْقِ ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضِ وَٱخْتِلَـٰفِ ٱلَّيْلِ وَٱلنَّهَارِ وَٱلْفُلْكِ ٱلَّتِى تَجْرِى فِى ٱلْبَحْرِ بِمَا يَنفَعُ ٱلنَّاسَ وَمَآ أَنزَلَ ٱللَّهُ مِنَ ٱلسَّمَآءِ مِن مَّآءٍۢ فَأَحْيَا بِهِ ٱلْأَرْضَ بَعْدَ مَوْتِهَا وَبَثَّ فِيهَا مِن كُلِّ دَآبَّةٍۢ وَتَصْرِيفِ ٱلرِّيَـٰحِ وَٱلسَّحَابِ ٱلْمُسَخَّرِ بَيْنَ ٱلسَّمَآءِ وَٱلْأَرْضِ لَـَٔايَـٰتٍۢ لِّقَوْمٍۢ يَعْقِلُونَ

Translation: แท้จริงในการสร้างบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดิน และสับเปลี่ยนกลางคืนและกลางวัน และเรือที่วิ่งอยู่ในทะเล พร้อมด้วยสิ่งที่อำนวยประโยชน์แก่มนุษย์ และน้ำที่อัลลอฮ์ได้ทรงให้หลั่งลงมาจากฟากฟ้า แล้วทรงให้แผ่นดินมีชีวิตชีวาขึ้น(230) ด้วยน้ำนั้นหลังจากที่มันตายไปแล้ว(231) และได้ทรงให้สัตว์แต่ละชนิดแพร่สะพัดไปในแผ่นดิน และในการให้ลมเปลี่ยนทิศทาง และให้เมฆซึ่งถูกกำหนดให้บริการ(แก่โลก) ผันแปรไประหว่างฟากฟ้าและแผ่นดินนั้น แน่นอนล้วนเป็นสัญญาณนานาประการแก่กลุ่มชนที่ใช้ปัญญา

Comment: (230)ให้แผ่นดินชุ่มชื้นและมีต้นไม้งอกเงยขึ้น

Comment: (231)คือแผ่นดินแห้งแล้งปราศจากต้นไม้ และพืชผักต่าง ๆ

2:165

وَمِنَ ٱلنَّاسِ مَن يَتَّخِذُ مِن دُونِ ٱللَّهِ أَندَادًۭا يُحِبُّونَهُمْ كَحُبِّ ٱللَّهِ ۖ وَٱلَّذِينَ ءَامَنُوٓا۟ أَشَدُّ حُبًّۭا لِّلَّهِ ۗ وَلَوْ يَرَى ٱلَّذِينَ ظَلَمُوٓا۟ إِذْ يَرَوْنَ ٱلْعَذَابَ أَنَّ ٱلْقُوَّةَ لِلَّهِ جَمِيعًۭا وَأَنَّ ٱللَّهَ شَدِيدُ ٱلْعَذَابِ

Translation: และในหมู่มนุษย์ มีผู้ที่ยึดถือบรรดาภาคี(232) อื่นจากอัลลอฮ์ซึ่งพวกเขารักภาคีเหล่านั้นเช่นเดียวกับรักอัลลอฮ์แต่บรรดาผู้ศรัทธานั้นเป็นผู้ที่รักอัลลอฮ์มากยิ่งกว่าและหากบรรดาผู้อธรรมจะได้เห็น ขณะที่พวกเขาเห็นการลงโทษอยู่นั้น (แน่นอนพวกเขาจะต้องตระหนักดีว่า) แท้จริงพลังทั้งมวลเป็นของอัลลอฮ์ และแท้จริงอัลลอ์เป็นผู้ทรงลงโทษที่รุนแรง

Comment: (232)หมายถึงมนุษย์ มลาอิกะฮ์ ญิน และเจว็ด ตลอดจนสิ่งอื่น ๆ ที่ถูกเคารพนับถือเทียมอัลลอฮ์ เพราะเข้าใจว่าภาคีเหล่านั้นมีบทบาทในวิถีชีวิตของตน

2:166

إِذْ تَبَرَّأَ ٱلَّذِينَ ٱتُّبِعُوا۟ مِنَ ٱلَّذِينَ ٱتَّبَعُوا۟ وَرَأَوُا۟ ٱلْعَذَابَ وَتَقَطَّعَتْ بِهِمُ ٱلْأَسْبَابُ

Translation: (และ) ขณะที่บรรดาผู้ถูกตาม(233) ได้ปลีกตัวออกจากบรรดาผู้ตาม และขณะที่พวกเขาเห็นการลงโทษและบรรดาสัมพันธภาพที่มีต่อกันได้ขาดสะบั้นลง(234)

Comment: (233)หมายถึงผู้ที่เป็นหัวหน้า หรือผู้นำ

Comment: (234)คือขณะที่พวกเขาประสบกับสภาพดังกล่าวนั้น แต่ก็หมดโอกาสที่จะแก้ตัวใหม่เสียแล้ว

2:167

وَقَالَ ٱلَّذِينَ ٱتَّبَعُوا۟ لَوْ أَنَّ لَنَا كَرَّةًۭ فَنَتَبَرَّأَ مِنْهُمْ كَمَا تَبَرَّءُوا۟ مِنَّا ۗ كَذَٰلِكَ يُرِيهِمُ ٱللَّهُ أَعْمَـٰلَهُمْ حَسَرَٰتٍ عَلَيْهِمْ ۖ وَمَا هُم بِخَـٰرِجِينَ مِنَ ٱلنَّارِ

Translation: และบรรดาผู้ที่ตามได้กล่าวว่า หากว่าเรามีโอกาสกลับไปอีกครั้งหนึ่ง(235) เราก็จะปลีกตัวออกจากพวกเขาบ้าง เช่นเดียวกับที่พวกเขาได้ปลีกตัวออกจากพวกเรา ในทำนองเดียวนั้นแหละ อัลลอฮ์จะทรงให้พวกเขาเห็นงานต่างๆ ของพวกเขา เป็นที่น่าเสียใจแก่พวกเขา และทั้งพวกเขาจะไม่ได้ออกจากไฟนรกด้วย

Comment: (235)กลับไปสู่โลก

2:168

يَـٰٓأَيُّهَا ٱلنَّاسُ كُلُوا۟ مِمَّا فِى ٱلْأَرْضِ حَلَـٰلًۭا طَيِّبًۭا وَلَا تَتَّبِعُوا۟ خُطُوَٰتِ ٱلشَّيْطَـٰنِ ۚ إِنَّهُۥ لَكُمْ عَدُوٌّۭ مُّبِينٌ

Translation: มนุษย์เอ๋ย! จงบริโภคสิ่งอนุมัติที่ดีๆ จากสิ่งที่อยู่ในแผ่นดินและจงอย่าตามบรรดาก้าวเดินของชัยฏอน(236) แท้จริงมันคือศัตรูที่ชัดแจ้งของพวกเจ้า

Comment: (236)อย่าปฏิบัติตามคำชักจูง และคำยั่วยุของมัน

2:169

إِنَّمَا يَأْمُرُكُم بِٱلسُّوٓءِ وَٱلْفَحْشَآءِ وَأَن تَقُولُوا۟ عَلَى ٱللَّهِ مَا لَا تَعْلَمُونَ

Translation: ที่จริงมันเพียงแต่จะใช้พวกเจ้าให้ประกอบสิ่งชั่ว และสิ่งลามกเท่านั้น และจะใช้พวกเจ้ากล่าวความเท็จให้แก่อัลลอฮ์ในสิ่งที่พวกเจ้าไม่รู้

2:170

وَإِذَا قِيلَ لَهُمُ ٱتَّبِعُوا۟ مَآ أَنزَلَ ٱللَّهُ قَالُوا۟ بَلْ نَتَّبِعُ مَآ أَلْفَيْنَا عَلَيْهِ ءَابَآءَنَآ ۗ أَوَلَوْ كَانَ ءَابَآؤُهُمْ لَا يَعْقِلُونَ شَيْـًۭٔا وَلَا يَهْتَدُونَ

Translation: และเมื่อได้ถูกกล่าวแก่พวกเขาว่าจงปฏิบัติตามสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงประทานลงมาเถิด พวกเขาก็กล่าวว่า มิได้ เราจะปฏิบัติสิ่งที่เราได้พบบรรดาบรรพบุรุษของเราเคยปฏิบัติมาเท่านั้น และแม้ได้ปรากฏว่าบรรพบุรุษของพวกเขาไม่เข้าใจสิ่งใด และทั้งไม่ได้รับแนวทางอันถูกต้องก็ตามกระนั้นหรือ?(237)

Comment: (237)อัลลอฮ์ทรงถามว่า แม้ว่าบรรพบุรุษของพวกเขาไม่รู้เรื่องอะไรและอยู่ในทางที่ผิดก็จะปฏิบัติกระนั้นหรือ?

2:171

وَمَثَلُ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ كَمَثَلِ ٱلَّذِى يَنْعِقُ بِمَا لَا يَسْمَعُ إِلَّا دُعَآءًۭ وَنِدَآءًۭ ۚ صُمٌّۢ بُكْمٌ عُمْىٌۭ فَهُمْ لَا يَعْقِلُونَ

Translation: และอุปมาบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธานั้นดังผู้ที่ส่งเสียง(238) ที่มันฟังไม่รู้เรื่อง นอกจากเสียงเรียกและเสียงตะโกนเท่านั้น (พวกเขาคือ) คนหูหนวก เป็นใบ้ ตาบอด(239) ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เข้าใจ

Comment: (238)หมายถึงสัตว์

Comment: (239)หมายถึงพวกเขาประหนึ่งคนหูหนวก เป็นใบ้ และตาบอด

2:172

يَـٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ كُلُوا۟ مِن طَيِّبَـٰتِ مَا رَزَقْنَـٰكُمْ وَٱشْكُرُوا۟ لِلَّهِ إِن كُنتُمْ إِيَّاهُ تَعْبُدُونَ

Translation: บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงบริโภคสิ่งที่เราได้ให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้าจากสิ่งดีๆ ทั้งหลาย และจงขอบคุณอัลลอฮ์เถิด(240) หากเฉพาะพระองค์เท่านั้น ที่พวกเจ้าจักเป็นผู้เคารพภักดี

Comment: (240)ให้ปฏิบัติตามบัญญัติของพระองค์ และสำนึกในบุญคุณของพระองค์

2:173

إِنَّمَا حَرَّمَ عَلَيْكُمُ ٱلْمَيْتَةَ وَٱلدَّمَ وَلَحْمَ ٱلْخِنزِيرِ وَمَآ أُهِلَّ بِهِۦ لِغَيْرِ ٱللَّهِ ۖ فَمَنِ ٱضْطُرَّ غَيْرَ بَاغٍۢ وَلَا عَادٍۢ فَلَآ إِثْمَ عَلَيْهِ ۚ إِنَّ ٱللَّهَ غَفُورٌۭ رَّحِيمٌ

Translation: ที่จริงที่พระองค์ทรงห้ามพวกเจ้า(รับประทาน)สัตว์ที่ตายเองและเลือด(241) และเนื้อสุกร(242) และสัตว์ที่ถูกเปล่งเสียงที่มันเพื่ออื่นจากอัลลอฮ์(243) แล้วผู้ใดอยู่ในความคับขัน(244) โดยมิใช่ผู้เสาะแสวงหา(245) และมิใช่เป็นผู้ละเมิดขอบเขตแล้วไซร้(246) ก็ไม่มีบาปใดๆ แก่เขา แท้จริงอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ

Comment: (241)เลือดที่ไหลออกขณะเชือด ส่วนเลือดที่อยู่ในเนื้อนั้นไม่เป็นที่ต้องห้าม

Comment: (242)หมายถึงทุกส่วนในตัวของมันด้วย

Comment: (243)คือเปล่งเสียงกล่าวนามสิ่งที่เขาเชือดเพื่อสิ่งนั้น อื่นจากอัลลอฮ์

Comment: (244)อยู่ในภาวะคับขัน ไม่สามารถจะหาอาหารอื่นเพื่อประทังชีวิตได้ นอกจากเนื้อสุกร

Comment: (245)มิใช่สร้างสถานการณ์ให้คับขันเพื่อต้องการบริโภค

Comment: (246)เมื่อบริโภคแล้วก็บริโภคพอประทังชีวิต มิใช่ถือโอกาสสวาปามจนเกินความจำเป็น

2:174

إِنَّ ٱلَّذِينَ يَكْتُمُونَ مَآ أَنزَلَ ٱللَّهُ مِنَ ٱلْكِتَـٰبِ وَيَشْتَرُونَ بِهِۦ ثَمَنًۭا قَلِيلًا ۙ أُو۟لَـٰٓئِكَ مَا يَأْكُلُونَ فِى بُطُونِهِمْ إِلَّا ٱلنَّارَ وَلَا يُكَلِّمُهُمُ ٱللَّهُ يَوْمَ ٱلْقِيَـٰمَةِ وَلَا يُزَكِّيهِمْ وَلَهُمْ عَذَابٌ أَلِيمٌ

Translation: แท้จริงบรรดาผู้ที่ปิดบังสิ่งซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคัมภีร์(247) ที่อัลลอฮ์ได้ทรงประทานลงมาและนำสิ่งนั้นไปแลกเปลี่ยนกับราคาอันเล็กน้อย(248) ชนเหล่านั้น มิได้กินอะไรเข้าไปในท้องของพวกเขานอกจากไฟเท่านั้น และในวันกิยามะฮ์ อัลลอฮ์จะไม่ทรงตรัสกับพวกเขา และจะไม่ทรงทำให้พวกเขาบริสุทธิ(249) และพวกเขาจะได้รับการลงโทษอันเจ็บแสบ

Comment: (247)หมายถึงลักษณะของท่านนบีมุฮัมมัด และสิ่งอื่น ๆ

Comment: (248)เพื่อผลประโยชน์อันเล็กน้อยที่พวกเขาได้รับจากประชาชาติของพวกเขาในฐานะที่พวกเขาเป็นผู้นำ แต่ถ้าพวกเขาเปิดเผยลักษณะของท่านนบีแล้ว แน่นอนประชาชาติของพวกเขาก็จะต้องศรัทธาต่อท่าน ทำให้พวกเขาต้องหมดโอกาสที่จะได้รับผลประโยชน์ต่อไปอีก การกระทำของพวกเขานี้จึงประหนึ่งว่าพวกเขานำเอาลักษณะของท่านนบีไปแลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์อันนับได้ว่าเป็นสิ่งที่มีราคาอันเล็กน้อย

Comment: (249)คือจะไม่ทรงทำให้พวกเขาบริสุทธิ์จากความสกปรกแห่งการปฏิบัติการของพวกเขา นั่นก็หมายความว่าพระองค์จะไม่ทรงอภัยโทษให้แก่พวกเขาอย่างเด็ดขาด

2:175

أُو۟لَـٰٓئِكَ ٱلَّذِينَ ٱشْتَرَوُا۟ ٱلضَّلَـٰلَةَ بِٱلْهُدَىٰ وَٱلْعَذَابَ بِٱلْمَغْفِرَةِ ۚ فَمَآ أَصْبَرَهُمْ عَلَى ٱلنَّارِ

Translation: ชนเหล่านั้น คือผู้ที่นำเอาแนวทางที่ถูกต้องไปแลกเปลี่ยนกับแนวทางที่หลงผิด และเอาการอภัยโทษไปแลกเปลี่ยนกับการลงโทษ อะไรหนอที่ทำให้พวกนั้นทนต่อไฟนรกได้(250)

Comment: (250)หมายถึงว่าพวกเขาได้รับแนวทางอันถูกต้องจากอัลลอฮ์ กลับปฏิเสธเสีย แล้วนำเอาแนวทางที่หลงผิดมาปฏิบัติในทำนองเดียวกันพระองค์ทรงปรารถนาที่จะอภัยโทษให้แก่พวกเขา หากพวกเขาสำนึกผิดกลับเนื้อกลับตัว แต่พวกเขากลับปฏิเสธที่จะรับการอภัยโทษโดยสมัครใจที่จะเข้าสู่ไฟนรก ในการระทำของพวกเขาดังกล่าวนี้ ทำให้เข้าใจว่า พวกเขาช่างทนต่อการลุกไหม้ของไฟนรกเสียนี่กระไร?

2:176

ذَٰلِكَ بِأَنَّ ٱللَّهَ نَزَّلَ ٱلْكِتَـٰبَ بِٱلْحَقِّ ۗ وَإِنَّ ٱلَّذِينَ ٱخْتَلَفُوا۟ فِى ٱلْكِتَـٰبِ لَفِى شِقَاقٍۭ بَعِيدٍۢ

Translation: นั่นก็เพราะว่า อัลลอฮ์ได้ทรงประทานคัมภีร์ลงมาด้วยสัจธรรม และแท้จริง บรรดาผู้ที่ขัดแย้งกันในคัมภีร์ย่อมอยู่ในการแตกแยกที่ห่างไกล

2:177

۞ لَّيْسَ ٱلْبِرَّ أَن تُوَلُّوا۟ وُجُوهَكُمْ قِبَلَ ٱلْمَشْرِقِ وَٱلْمَغْرِبِ وَلَـٰكِنَّ ٱلْبِرَّ مَنْ ءَامَنَ بِٱللَّهِ وَٱلْيَوْمِ ٱلْـَٔاخِرِ وَٱلْمَلَـٰٓئِكَةِ وَٱلْكِتَـٰبِ وَٱلنَّبِيِّـۧنَ وَءَاتَى ٱلْمَالَ عَلَىٰ حُبِّهِۦ ذَوِى ٱلْقُرْبَىٰ وَٱلْيَتَـٰمَىٰ وَٱلْمَسَـٰكِينَ وَٱبْنَ ٱلسَّبِيلِ وَٱلسَّآئِلِينَ وَفِى ٱلرِّقَابِ وَأَقَامَ ٱلصَّلَوٰةَ وَءَاتَى ٱلزَّكَوٰةَ وَٱلْمُوفُونَ بِعَهْدِهِمْ إِذَا عَـٰهَدُوا۟ ۖ وَٱلصَّـٰبِرِينَ فِى ٱلْبَأْسَآءِ وَٱلضَّرَّآءِ وَحِينَ ٱلْبَأْسِ ۗ أُو۟لَـٰٓئِكَ ٱلَّذِينَ صَدَقُوا۟ ۖ وَأُو۟لَـٰٓئِكَ هُمُ ٱلْمُتَّقُونَ

Translation: หาใช่คุณธรรมไม่ การที่พวกเจ้าผินหน้าของพวกเจ้าไปทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตกแต่ทว่าคุณธรรมคือผู้ที่ศรัทธาต่ออัลลอฮ์และวันปรโลก และศรัทธาต่อมลาอิกะฮ์ ต่อบรรดาคัมภีร์และนบีทั้งหลาย และบริจาคทรัพย์โดยความรักในทรัพย์นั้น แก่บรรดาญาติที่สนิทและบรรดาเด็กกำพร้า และแก่บรรดาผู้ยากจนและผู้ที่อยู่ในการเดินทาง(251) และบรรดาผู้ที่มาขอ และบริจาคในการไถ่ทาส และเขาได้ดำรงการละหมาด และชำระซะกาต และ(คุณธรรมนั้น) คือบรรดาผู้ที่รักษาสัญญาของพวกเขาโดยครบถ้วน เมื่อพวกเขาได้สัญญาไว้ และบรรดาผู้ที่อดทนไนความทุกข์ยาก และในความเดือดร้อน(252) และขณะต่อสู่ในสมรภูมิ ชนเหล่านี้แหละ คือผู้ที่พูดจริง และชนเหล่านี้แหละคือผู้ที่มีความยำเกรง

Comment: (251)คือเมื่อเขาขาดเงิน

Comment: (252)เช่นได้รับการเจ็บป่วย หรือสูญเสียสิ่งที่ตนรัก

2:178

يَـٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ كُتِبَ عَلَيْكُمُ ٱلْقِصَاصُ فِى ٱلْقَتْلَى ۖ ٱلْحُرُّ بِٱلْحُرِّ وَٱلْعَبْدُ بِٱلْعَبْدِ وَٱلْأُنثَىٰ بِٱلْأُنثَىٰ ۚ فَمَنْ عُفِىَ لَهُۥ مِنْ أَخِيهِ شَىْءٌۭ فَٱتِّبَاعٌۢ بِٱلْمَعْرُوفِ وَأَدَآءٌ إِلَيْهِ بِإِحْسَـٰنٍۢ ۗ ذَٰلِكَ تَخْفِيفٌۭ مِّن رَّبِّكُمْ وَرَحْمَةٌۭ ۗ فَمَنِ ٱعْتَدَىٰ بَعْدَ ذَٰلِكَ فَلَهُۥ عَذَابٌ أَلِيمٌۭ

Translation: ผู้ศรัทธาทั้งหลาย! การประหารฆาตกรให้ตายตามในกรณีที่มีผู้ถูกฆ่าตายนั้น ได้ถูกกำหนดแก่พวกเจ้าแล้ว คือชายอิสระต่อชายอิสระ และทาสต่อทาส และหญิงต่อหญิง(253) แล้วผู้ใดที่สิ่งหนึ่งจากพี่น้องของเขาถูกอภัยให้แก่เขาแล้ว ก็ให้ปฏิบัติไปตามนั้นโดยชอบ(254) และให้ชำระแก่เขาโดยดี(255) นั่นคือการผ่อนปรนจากพระเจ้าของพวกเจ้า และคือการเอ็นดูเมตตาด้วย แล้วผู้ใดละเมิดหลังจากนั้นเขาก็จะได้รับการลงโทษอันเจ็บแสบ

Comment: (253)คือถ้าชายอิสระถูกฆ่าตาย ก็ต้องชดใช้ชีวิตของผู้ตายด้วยชีวิตของชายอิสระด้วย และถ้าผู้ตายเป็นทาส ก็ชดใช้ด้วยชีวิตของทาสด้วยกัน หรือถ้าผู้ตายเป็นหญิง ก็ชดใช้ด้วยชีวิตหญิงด้วยกัน ดังกล่าวในกรณีที่มีการต่อสู้กันเป็นหมู่ เพราะร่วมกันฆ่าหลายคน แต่ถ้าทำการฆ่าแต่เพียงผู้เดียวแล้วไซร้ แน่นอนผู้ที่ฆ่าเขาก็จะต้องถูกฆ่าให้ตายตามกัน จะเอาอื่นมาแทนไม่ได้

Comment: (254)คือผู้ใดที่ฆ่าเขาตาย โดยที่คนหนึ่งคนใดในบรรดาญาติของผู้ถูกฆ่าให้อภัยแก่ผู้ฆ่า โดยไม่ปรารถนาจะให้ผู้ฆ่าให้ตายตามกันนั้นให้ถือปฏิบัติไปตามนั้น แม้ว่าพี่น้องคนอื่นจะไม่ยินดีก็ตาม คำว่า “สิ่งหนึ่งจากพี่น้องของเขา” นั้นหมายถึงว่าได้มีการอภัยส่วนหนึ่งจากญาติของผู้ตาย และที่ใช้ถ้อยคำว่า “พี่น้องของเขา” นั้น ก็เพื่อให้เกิดความรู้สึกว่า เป็นพี่น้องกันเพราะมุมินนั้นเป็นพี่น้องกัน

Comment: (255)คือเมื่อผู้ฆ่าได้รับการอภัยให้ไม่ต้องถูกฆ่าแล้ว ก็ต้องจ่ายค่าทำขวัญให้แก่ญาติของผู้ตายโดยคิดตามธรรมเนียมที่ถือปฏิบัติกัน

2:179

وَلَكُمْ فِى ٱلْقِصَاصِ حَيَوٰةٌۭ يَـٰٓأُو۟لِى ٱلْأَلْبَـٰبِ لَعَلَّكُمْ تَتَّقُونَ

Translation: และในการประหารฆาตกรให้ตายตามนั้น คือการธำรงไว้ซึ่งชีวิตสำหรับพวกเจ้า(256) โอ้ ผู้มีสติปัญญาทั้งหลาย! เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้ยำเกรง

Comment: (256)คือการรักษาและคุ้มครองชีวิตไว้ กล่าวคือ เมื่อทุกคนรู้ว่าเมื่อฆ่าคนอื่นแล้วตนจะต้องถูกฆ่า แน่นอนย่อมไม่มีใครที่จะฆ่าคนอื่นเพราะการกระทำดังกล่าวเท่ากับเป็นฆ่าตัวเองในการนี้จึงเป็นการธำรงไว้ซึ่งชีวิตมนุษย์

2:180

كُتِبَ عَلَيْكُمْ إِذَا حَضَرَ أَحَدَكُمُ ٱلْمَوْتُ إِن تَرَكَ خَيْرًا ٱلْوَصِيَّةُ لِلْوَٰلِدَيْنِ وَٱلْأَقْرَبِينَ بِٱلْمَعْرُوفِ ۖ حَقًّا عَلَى ٱلْمُتَّقِينَ

Translation: การทำพินัยกรรมให้แก่ผู้บังเกิดเกล้าทั้งสอง และบรรดาญาติที่ใกล้ชิดโดยชอบธรรมนั้นได้ถูกำหนดขึ้นแก่พวกเจ้าแล้ว เมื่อความตายได้มายังคนหนึ่งคนใดในพวกเจ้า(257) หากเขาได้ทิ้งทรัพย์สมบัติไว้ ทั้งนี้เป็นหน้าที่แก่ผู้ยำเกรงทั้งหลาย

Comment: (257)การทำพินัยกรรมให้แก่บิดามารดา และญาติผู้มีสิทธิ์ได้รับมรดกในอายะฮ์นี้นั้น ถูกยกเลิกด้วยอายาต อัล-มะวารีซ 4:11-12 อันเป็นโองการที่กำหนดอัตราส่วนของผู้มีสิทธิ์ได้รับมรดก ทั้งนี้รู้ได้จากโอวาทของท่านนบีที่ว่า ความว่า “ไม่มีพินัยกรรมใด ๆ แก่ผู้มีสิทธิได้รับมรดก” บิดามารดาเป็นผู้มีสิทธิ์ได้รับมรดก หรือญาติที่เป็นผู้มีสิทธิ์ได้รับมรดก จึงไม่มีสิทธิในทางพินัยกรรม อนึ่งการทำพินัยกรรมนั้นก็ให้กระทำได้เพียง1/3 ของมรดกเท่านั้น ทั้งนี้ตามที่ท่านนบีได้อนุมัติไว้

2:181

فَمَنۢ بَدَّلَهُۥ بَعْدَ مَا سَمِعَهُۥ فَإِنَّمَآ إِثْمُهُۥ عَلَى ٱلَّذِينَ يُبَدِّلُونَهُۥٓ ۚ إِنَّ ٱللَّهَ سَمِيعٌ عَلِيمٌۭ

Translation: แล้วผู้ใดเปลี่ยนแปลงพินัยกรรม หลังจากที่เขาได้ยินมันแล้ว โทษแห่งการเปลี่ยนแปลงพินัยกรรมนั้นก็ตกอยู่แก่บรรดาผู้เปลี่ยนแปลงพินัยกรรมนั้นเท่านั้น แท้จริงอัลลอฮ์ทรงได้ยิน ผู้ทรงรอบรู้

2:182

فَمَنْ خَافَ مِن مُّوصٍۢ جَنَفًا أَوْ إِثْمًۭا فَأَصْلَحَ بَيْنَهُمْ فَلَآ إِثْمَ عَلَيْهِ ۚ إِنَّ ٱللَّهَ غَفُورٌۭ رَّحِيمٌۭ

Translation: แล้วผู้ใดเกรงว่าผู้ทำพินัยกรรมมีความไม่เป็นธรรม (โดยไม่รู้) หรือกระทำความผิด(โดยเจตนา) แล้ว แล้วเขาได้ประนีประนอมในระหว่างพวกเขา(258) ก็ไม่มีโทษใดๆ แก่เขา แท้จริงอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ

Comment: (258)คือในระหว่างผู้มีสิทธิตามพินัยกรรม โดยไม่ถือตามพินัยกรรม ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมขึ้นระหว่างพวกเขา หรือแก้ไขให้ถูกต้องตามบัญญัติศาสนา

2:183

يَـٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ كُتِبَ عَلَيْكُمُ ٱلصِّيَامُ كَمَا كُتِبَ عَلَى ٱلَّذِينَ مِن قَبْلِكُمْ لَعَلَّكُمْ تَتَّقُونَ

Translation: บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย! การถือศีลอดนั้นได้ถูกกำหนดแก่พวกเจ้าแล้ว เช่นเดียวกับที่ได้ถูกกำหนดแก่บรรดาผู้ก่อนหน้าพวกเจ้ามาแล้วเพื่อว่าพวกเจ้าจะได้ยำเกรง

2:184

أَيَّامًۭا مَّعْدُودَٰتٍۢ ۚ فَمَن كَانَ مِنكُم مَّرِيضًا أَوْ عَلَىٰ سَفَرٍۢ فَعِدَّةٌۭ مِّنْ أَيَّامٍ أُخَرَ ۚ وَعَلَى ٱلَّذِينَ يُطِيقُونَهُۥ فِدْيَةٌۭ طَعَامُ مِسْكِينٍۢ ۖ فَمَن تَطَوَّعَ خَيْرًۭا فَهُوَ خَيْرٌۭ لَّهُۥ ۚ وَأَن تَصُومُوا۟ خَيْرٌۭ لَّكُمْ ۖ إِن كُنتُمْ تَعْلَمُونَ

Translation: (คือถูกกำหนดให้ถือศีลอด) ในบรรดาวันที่ถูกนับไว้(259) แล้วผู้ใดในพวกเจ้าป่วย หรืออยู่ในการเดินทางก็ให้ถือใช้ในวันอื่น และหน้าที่ของบรรดาผู้ที่ถือศีลอดด้วยความลำบากยิ่ง (โดยที่เขาได้งดเว้นการถือ) นั้น คือการชดเชยอันได้แก่ การให้อาหาร(มื้อหนึ่ง)แก่คนมิสกีนคนหนึ่ง (ต่อการงดเว้นจากการถือหนึ่งวัน) แต่ผู้กระทำความดีโดยสมัครใจ(260) มันก็เป็นความดีแก่เขา และการที่พวกเจ้าจะถือศีลอดนั้น ย่อมเป็นสิ่งที่ดียิ่งแก่พวกเจ้าถ้าหากว่าพวกสูเจ้ารู้(261)

Comment: (259)หมายถึงบรรดาวันแห่งเดือนรอมฎอน

Comment: (260)คือให้อาหารแก่คนมิสกีนมากกว่าหนึ่งคนต่อการงดเว้นจากการถือหนึ่งวัน

Comment: (261)ผู้ที่ถือศีลอดด้วยความลำบากยิ่ง ซึ่งได้รับการผ่อนผันให้งดถือได้ โดยที่เขาจะต้องให้อาหารแก่คนยากจนเป็นการชดเชยกันได้แก่ผู้สูงอายุที่มีกำลังน้อย คนที่มีโรคประจำตัว ซึ่งไม่หวังจะหาย และกรรมกรทีทำงานหนักตลอดเวลา ตลอดจนหญิงที่มีครรภ์ และหญิงที่กำลังให้นมแก่บุตร ทั้งนี้หากว่าทั้งสองนั้นเกรงว่าจะเป็นอันตรายแก่บุตรอนึ่ง ความเข้าใจตามข้อความที่ได้ถอดออกมาจากอายะฮ์นี้นั้น เป็นทรรศนะของท่านอิบนิอับบาส ซึ่งนักปราชญ์ทั้งหลายเห็นชอบด้วย อย่างไรก็ดี มีนักปราชญ์รุ่นหลังนี้คนหนึ่งชื่อ “อับดุล-มุตะอาล อัศเศาะอีดีย์” เป็นชาวอียิปต์ ได้เขียนไว้ในหนังสือชื่อว่า اجتهاد جديد ข้อความที่ว่านั้น หมายถึงผู้ที่สามารถจะถือศีลอดได้ แต่ไม่ถือ ซึ่งบุคคลดังกล่าวนี้นอกจากจะต้องถือศีลอดใช้แล้ว เขาจะต้องให้อาหารแก่คนมิสกีนอีกด้วย ทั้งนี้เป็นชดเชย ท่านได้ให้เหตุผลว่า “ผู้ที่เดินทางก็ดี หรือผู้ป่วยก็ดี โดยที่เขางดเว้นการถือศีลอดนั้น เขายังจำเป็นต้องถือใช้ในวันอื่นด้วย แล้วคนที่มิได้เดินทาง และมิได้ป่วย แต่ไม่ยอมถือศีลอดนั้น แน่นอนเขาย่อมจะต้องถือใช้ยิ่งกว่า คนเดินทาง และคนป่วย ด้วยเหตุนี้ อัลกุรอานจึงมิได้ระบุว่า ผู้ที่สามารถจะถือศีลอดได้ แต่เขาไม่ถือนั้นจำเป็นต้องถือศีลอดใช้ ทั้งนี้เพราะถือว่าย่อมเป็นที่ทราบกันดีแล้วส่วนคนชรา และคนป่วยรื้อรังที่ไม่มีหวังหายนั้น ท่านมีทรรศนะว่า ไม่ต้องมีการฟิตยะฮ์ใด ๆ คือไม่ต้องให้อาหารแก่คนมิสกีนเป็นการชดเชยแต่อย่างใด เพราะคนไม่สามารถนั้น ย่อมไม่อยู่ในข้อบังคับแห่งบัญญัติศาสนา

2:185

شَهْرُ رَمَضَانَ ٱلَّذِىٓ أُنزِلَ فِيهِ ٱلْقُرْءَانُ هُدًۭى لِّلنَّاسِ وَبَيِّنَـٰتٍۢ مِّنَ ٱلْهُدَىٰ وَٱلْفُرْقَانِ ۚ فَمَن شَهِدَ مِنكُمُ ٱلشَّهْرَ فَلْيَصُمْهُ ۖ وَمَن كَانَ مَرِيضًا أَوْ عَلَىٰ سَفَرٍۢ فَعِدَّةٌۭ مِّنْ أَيَّامٍ أُخَرَ ۗ يُرِيدُ ٱللَّهُ بِكُمُ ٱلْيُسْرَ وَلَا يُرِيدُ بِكُمُ ٱلْعُسْرَ وَلِتُكْمِلُوا۟ ٱلْعِدَّةَ وَلِتُكَبِّرُوا۟ ٱللَّهَ عَلَىٰ مَا هَدَىٰكُمْ وَلَعَلَّكُمْ تَشْكُرُونَ

Translation: เดือนรอมฏอนนั้น เป็นเดือนที่อัลกรุอานได้ถูกประทานลงมาในฐานะเป็นข้อแนะนำสำหรับมนุษย์ และเป็นหลักฐานอันชัดเจนเกี่ยวกับข้อแนะนำนั้น(262) และเกี่ยวกับสิ่งที่จำแนกระหว่างความจริงกับความเท็จ(263) ดังนั้นผู้ใดในหมู่พวกเจ้าเข้าอยู่ในเดือนนั้นแล้วก็จงถือศีลอดในเดือนนั้น และผู้ใดป่วยหรืออยู่ในการเดินทางก็จงถือใช้ในวันอื่นแทน(264) อัลลอฮ์ทรงประสงค์ให้มีความสะดวกแก่พวกเจ้าและไม่ทรงให้มีความลำบากแก่พวกเจ้าและเพื่อที่พวกเจ้าจะได้ให้ครบถ้วน ซึ่งจำนวนวัน(ของเดือนรอมฏอน) และเพื่อพวกเจ้าจะได้ให้ความเกรียงไกรแด่อัลลอฮ์ในสิ่งที่พระองค์ทรงแนะนำแก่พวกเจ้า(265) และเพื่อพวกเจ้าจะขอบคุณ

Comment: (262)เกี่ยวกับข้อแนะนำให้มนุษย์มีหลักการศรัทธาอันถูกต้องและข้อปฏิบัติในการดำรงค์ชีวิตของพวกเขา

Comment: (263)เกี่ยวกับหลักการที่จำแนกให้มนุษย์ได้ทราบว่า อะไรคือความเท็จ และอะไรคือความจริง

Comment: (264)เท่ากับจำนวนที่ขาดไป แต่ควรถือใช้ก่อนที่รอมฏอนในปีต่อไปจะมาถึง

Comment: (265)ทั้งนี้ก็เพราะว่า รอมฏอนนั้น ในเดือนแห่งการอบรมบ่มนิสัย และขจัดสิ่งไม่เหมาะไม่ควรให้หมดไป ทำให้ผู้ที่ถือศีลอดกลายเป็นผู้ที่มีคุณธรรมในการนี้ ทำให้ผู้ศีลอดรู้สึกในความเกรียงไกรของอัลลอฮ์ และขอบคุณพระองค์

2:186

وَإِذَا سَأَلَكَ عِبَادِى عَنِّى فَإِنِّى قَرِيبٌ ۖ أُجِيبُ دَعْوَةَ ٱلدَّاعِ إِذَا دَعَانِ ۖ فَلْيَسْتَجِيبُوا۟ لِى وَلْيُؤْمِنُوا۟ بِى لَعَلَّهُمْ يَرْشُدُونَ

Translation: และเมื่อบ่าวของข้าถามเจ้าถึงข้า ก็ (จงตอบเถิดว่า) แท้จริงนั้นอยู่ใกล้ ข้าจะตอบรับคำวิงวอนของผู้ที่วิงวอน เมื่อเขาวิงวอนแด่ข้า ดังนั้น พวกเขาจงตอบรับข้าเถิด(266) และศรัทธาต่อข้า เพื่อว่าพวกเขาจะได้อยู่ในทางที่ถูกต้อง

Comment: (266)ตอบรับคำเรียกร้องของอัลลอฮ์ด้วยการศรัทธาต่อท่านนบีมุฮัมมัด

2:187

أُحِلَّ لَكُمْ لَيْلَةَ ٱلصِّيَامِ ٱلرَّفَثُ إِلَىٰ نِسَآئِكُمْ ۚ هُنَّ لِبَاسٌۭ لَّكُمْ وَأَنتُمْ لِبَاسٌۭ لَّهُنَّ ۗ عَلِمَ ٱللَّهُ أَنَّكُمْ كُنتُمْ تَخْتَانُونَ أَنفُسَكُمْ فَتَابَ عَلَيْكُمْ وَعَفَا عَنكُمْ ۖ فَٱلْـَٔـٰنَ بَـٰشِرُوهُنَّ وَٱبْتَغُوا۟ مَا كَتَبَ ٱللَّهُ لَكُمْ ۚ وَكُلُوا۟ وَٱشْرَبُوا۟ حَتَّىٰ يَتَبَيَّنَ لَكُمُ ٱلْخَيْطُ ٱلْأَبْيَضُ مِنَ ٱلْخَيْطِ ٱلْأَسْوَدِ مِنَ ٱلْفَجْرِ ۖ ثُمَّ أَتِمُّوا۟ ٱلصِّيَامَ إِلَى ٱلَّيْلِ ۚ وَلَا تُبَـٰشِرُوهُنَّ وَأَنتُمْ عَـٰكِفُونَ فِى ٱلْمَسَـٰجِدِ ۗ تِلْكَ حُدُودُ ٱللَّهِ فَلَا تَقْرَبُوهَا ۗ كَذَٰلِكَ يُبَيِّنُ ٱللَّهُ ءَايَـٰتِهِۦ لِلنَّاسِ لَعَلَّهُمْ يَتَّقُونَ

Translation: ได้เป็นที่อนุมัติแก่พวกเจ้าแล้ว ซึ่งการสมสู่กับบรรดาภรรยาของพวกเจ้าในค่ำคืนของการถือศีลอด นางทั้งหลายนั้นคือเครื่องนุ่งห่มของพวกเจ้า และพวกเจ้าก็คือเครื่องนุ่งห่มของพวกนาง(267) อัลลอฮ์ทรงรู้ว่า พวกเจ้านั้นเคยทุจริตต่อพวกเจ้าเอง(268) แล้วพระองค์ก็ทรงยกโทษให้แก่พวกเจ้า และอภัยให้แก่พวกเจ้าแล้ว บัดนี้พวกเจ้าสมสู่กับพวกนางได้ และแสวงหาสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงกำหนดให้แก่พวกเจ้าเถิด(269) และจงกินและดื่มจนกระทั่งเส้นขาว(270) จะประจักษ์แก่พวกเจ้าจากเส้นดำ(271) เนื่องจากแสงรุ่งอรุณแล้วพวกเจ้าจงให้การถือศีลอดครบเต็มจนถึงพลบค่ำ และพวกเจ้าจงอย่าสมสู่กับพวกนางขณะที่พวกเจ้าเอี๊ยะติก๊าฟ(272) อยู่ในมัสยิด นั่นคือ บรรดาขอบเขตของอัลลอฮ์ดังนั้น พวกเจ้าจงอย่าเข้าใกล้ขอบเขตนั้น ในทำนองนั้นแหละ อัลลอฮ์จะทรงแจกแจงบรรดาโองการของพระองค์แก่มนุษย์ เพื่อว่าพวกเขาจะได้ยำเกรง

Comment: (267)อัลลอฮ์ทรงเปรียบเทียบว่าภรรยานั้นประหนึ่งเครื่องนุ่งห่มของสามี และสามีนั้นประหนึ่งเครื่องนุ่งห่มของภรรยาเพราะต่างฝ่ายต่างให้ความอบอุ่น และให้ความสุขซึ่งกันและกัน เฉกเช่นเครื่องนุ่งห่มที่ให้ความอบอุ่นและให้ความสุขแก่ผู้ที่สวมใส่กระนั้น

Comment: (268)ในตอนเริ่มแรกของการถือศีลอดในเดือนรอมฎอนนั้น หลังจากละหมาดอิชาอ์แล้วหรือหลังจากนอนหลับแล้ว ห้ามมิให้สมสู่ภรรยา และบริโภคสิ่งใด ๆ จนกว่าจะถึงเวลาพลบค่ำของวันรุ่งขึ้น มีผู้คนจำนวนมากทำการสมสู่กับภรรยาของตนในเวลาต้องห้ามดังกล่าว ผู้หนึ่งในจำนวนนั้นคือซัยดินาอุมัร ท่านจึงได้ปรับทุกข์แก่ท่านนบีในเรื่องนี้ และอายะฮ์นี้ก็ถูกประทานลงมา อนึ่งความที่ว่า “หลังจากละหมาดอิชาอ์หรือหลังจากนอนกหลับแล้ว” นั้น เป็นรายงานที่มาจากอิบนิอับบาส ทั้งสองรายงานกล่าวคือ รายงานหนึ่งระบุว่า “หลังจากละหมาดอิชาอ์แล้ว” และอีกรายงานหนึ่งระบุว่า “หลังจากนอนหลับแล้ว”

Comment: (269)แสวงหาผู้ที่จะสืบสายโลหิต และผลานิสงส์ในการประกอบอิบาดะฮ์ในค่ำคืนอัลก็อดริ ดังกล่าวนี้เป็นทรรศนะที่ระบุอยู่ในตัฟซีรต่างๆ

Comment: (270)หมายถึงแสงสว่างของรุ่งอรุณ

Comment: (271)หมายถึงความมืดของกลางคืน

Comment: (272)คือเข้าประจำอยู่ที่มัสยิด เพื่อประกอบอิบาดะฮ์ใน 10 คืนหลังของรอมฎอน

2:188

وَلَا تَأْكُلُوٓا۟ أَمْوَٰلَكُم بَيْنَكُم بِٱلْبَـٰطِلِ وَتُدْلُوا۟ بِهَآ إِلَى ٱلْحُكَّامِ لِتَأْكُلُوا۟ فَرِيقًۭا مِّنْ أَمْوَٰلِ ٱلنَّاسِ بِٱلْإِثْمِ وَأَنتُمْ تَعْلَمُونَ

Translation: และพวกเจ้าจงอย่ากินทรัพย์(273) สมบัติของพวกเจ้า(274) ระหว่างพวกเจ้าโดยมิชอบ และจงอย่าจ่ายมัน(275) ให้แก่ผู้พิพากษา เพื่อที่พวกเจ้าจะได้กินส่วนหนึ่งจากทรัพย์สินสมบัติของผู้อื่น ด้วยการกระทำสิ่งที่เป็นบาป(276) ทั้งๆ ที่พวกเจ้ารู้กันอยู่

Comment: (273)คำว่า “กินทรัพย์” นั้น หมายถึงการนำไปใช้ในธุรกิจอื่นๆ ด้วย

Comment: (274)คำว่า “กินทรัพย์ของพวกเจ้า” นั้น หมายถึงทรัพย์ของผู้อื่น ทั้งนี้เนื่องจากอิสลามถือว่า มุมินกับมุมินนั้น เสมือนร่างกายเดียวกัน

Comment: (275)จ่ายให้เป็นสินบน

Comment: (276)หมายถึงสิ่งซึ่งเป็นที่ต้องห้ามโดยบัญญัติศาสนา

2:189

۞ يَسْـَٔلُونَكَ عَنِ ٱلْأَهِلَّةِ ۖ قُلْ هِىَ مَوَٰقِيتُ لِلنَّاسِ وَٱلْحَجِّ ۗ وَلَيْسَ ٱلْبِرُّ بِأَن تَأْتُوا۟ ٱلْبُيُوتَ مِن ظُهُورِهَا وَلَـٰكِنَّ ٱلْبِرَّ مَنِ ٱتَّقَىٰ ۗ وَأْتُوا۟ ٱلْبُيُوتَ مِنْ أَبْوَٰبِهَا ۚ وَٱتَّقُوا۟ ٱللَّهَ لَعَلَّكُمْ تُفْلِحُونَ

Translation: เขาเหล่านั้นจะถามเจ้า(277) เกี่ยวกับเดือนแรกขึ้น(278) จงกล่าวเถิด มันคือกำหนดเวลาต่างๆ สำหรับมนุษย์(279) และสำหรับประกอบพิธีฮัจญ์ และหาใช่เป็นคุณธรรมไม่ ในการที่พวกเจ้าเข้าบ้านทางหลังบ้าน(280) แต่ทว่าคุณธรรมนั้น คือผู้ที่ยำเกรงต่างหาก และพวกเจ้าจงเข้าบ้านทางประตูบ้าน(281) และพวกเจ้าจงยำเกรงอัลลอฮ์เถิด เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รับความสำเร็จ

Comment: (277)ถามท่านนบีมุฮัมมัด

Comment: (278)ขนาดต่างๆ ของเดือนในระยะแรกขึ้น

Comment: (279)ทั้งในการประกอบศาสนกิจและในการประกอบอาชีพ

Comment: (280)ประเพณีในสมัยญาฮิลีญะฮ์นั้น เมื่อทำการอิห์รอมแล้วจะเข้าบ้านกันทางหลังบ้านโดยถือว่าเป็นคุณธรรมและยังถือปฏิบัติกันอยู่จนถึงสมัยเริ่มแรกของอิสลาม แล้วอัลลอฮ์ทรงปฏิเสธในการเชื่อถือของพวกเขา

Comment: (281)เข้าทางประตูหน้าบ้าน

2:190

وَقَـٰتِلُوا۟ فِى سَبِيلِ ٱللَّهِ ٱلَّذِينَ يُقَـٰتِلُونَكُمْ وَلَا تَعْتَدُوٓا۟ ۚ إِنَّ ٱللَّهَ لَا يُحِبُّ ٱلْمُعْتَدِينَ

Translation: และพวกเจ้าจงต่อสู้ในทางของอัลลอฮ์ต่อบรรดาผู้ที่ทำร้ายพวกเจ้า และจงอย่ารุกราน แท้จริง อัลลอฮ์ไม่ทรงชอบบรรดาผู้รุกราน(282)

Comment: (282)ขณะที่บรรดามุมินจะเข้ามักกะฮ์ใช้ตามที่ได้ตกลงไว้แก่ชาวกุไรช์นั้น พวกเขาเกรงว่าจะถูกขัดขวางจากชาวกุไรช์เพราะไม่แน่ใจว่าพวกกุไรช์จะรักษาสัญญาที่ได้กระทำกันไว้ ณ ตำบลฮุดัยบิยะฮ์ ซึ่งฝ่ายมุมินไม่ปรารถนาที่จะทำการต่อสู้ขณะที่อยู่ในอิห์รอมและในเดือนอัล-ฮะรอม ซึ่งเป็นเดือนต้องห้ามในการสู้รบกัน แล้วอัลลอฮ์ก็ทรงอนุญาตให้พวกเขากระทำได้ถ้าฝ่ายกุไรช์รุกราน

2:191

وَٱقْتُلُوهُمْ حَيْثُ ثَقِفْتُمُوهُمْ وَأَخْرِجُوهُم مِّنْ حَيْثُ أَخْرَجُوكُمْ ۚ وَٱلْفِتْنَةُ أَشَدُّ مِنَ ٱلْقَتْلِ ۚ وَلَا تُقَـٰتِلُوهُمْ عِندَ ٱلْمَسْجِدِ ٱلْحَرَامِ حَتَّىٰ يُقَـٰتِلُوكُمْ فِيهِ ۖ فَإِن قَـٰتَلُوكُمْ فَٱقْتُلُوهُمْ ۗ كَذَٰلِكَ جَزَآءُ ٱلْكَـٰفِرِينَ

Translation: และจงประหัตประหารพวกเขา ณ ที่ใดก็ตามที่พวกเจ้าพบพวกเขา(283) และจงขับไล่พวกเขาออกจากที่ที่พวกเขาเคยขับไล่พวกเจ้าออกและการก่อความวุ่นวาย(284) นั้น ร้ายแรงยิงกว่าการสังหารเสียอีก และจงอย่าสู้รบกับพวกเขา ณ อัล-มัสยิดิลฮะรอม จนกว่าพวกเขาจะทำร้าย(285) พวกเจ้าในที่นั้นหากพวกเขาทำร้ายพวกเจ้าแล้ว ก็จงสังหารพวกเขาเสีย เช่นนั้นแหละคือการตอบแทนแก่ผู้ปฏิเสธศรัทธา

Comment: (283)เมื่อเกิดการสู้กันขึ้นแล้ว ก็ต้องทำการหัตประหารฝ่ายกุไรช์ ณ ที่ใดก็ตามที่พบพวกเขา

Comment: (284)คำว่า “การก่อความวุ่นวาย” นั้น ถอดความจากคำว่า “อัลฟิตนะฮ์” อย่างไรก็ดี มีนักปราชญ์หลายท่านมีความเห็นว่า “อัลฟิตนะฮ์” ที่นี้หมายถึง “การให้มีภาคีแก่อัลลอฮ์ หรือการเคารพสักการะเจว็ด”

Comment: (285)คำว่า “ทำร้าย” นั้นถอดความจากคำว่า “กอตะละ” โปรดเข้าใจด้วยว่า คำนี้มีความหมายหลายนัยด้วยกัน เช่น“สู้รบ ต่อสู้ ทำสงคราม ทำร้าย รุกราน”

2:192

فَإِنِ ٱنتَهَوْا۟ فَإِنَّ ٱللَّهَ غَفُورٌۭ رَّحِيمٌۭ

Translation: แล้วถ้าหากพวกเขายุติ แน่นอน อัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงอภัยโทษ ผุ้ทรงเมตตาเสมอ

2:193

وَقَـٰتِلُوهُمْ حَتَّىٰ لَا تَكُونَ فِتْنَةٌۭ وَيَكُونَ ٱلدِّينُ لِلَّهِ ۖ فَإِنِ ٱنتَهَوْا۟ فَلَا عُدْوَٰنَ إِلَّا عَلَى ٱلظَّـٰلِمِينَ

Translation: และจงสู้รบกับพวกเขา จนกว่าการก่อความวุ่นวาย(286) จะไม่ปรากฏขึ้นและจนกว่าการอิบาดะฮ์ ทั้งหลายจะเป็นสิทธิของอัลลอฮ์เท่านั้น แต่ถ้าพวกเขายุติ ก็ย่อมไม่มีการเป็นปฏิปักษ์ใดๆ นอกจากแก่บรรดาผู้อธรรมเท่านั้น

Comment: (286)ความที่ว่า “การก่อความวุ่นวาย” นี้ถอดมาจากคำว่า “อัลฟิตนะฮ์” เนื่องคำนี้มีความหมายหลายนัย นักอธิบายอัลกุรอาน หลายท่านจึงเห็นว่า หมายถึง “การให้มีภาคขึ้น” เช่นเดียวกับ “อัลฟิตนะฮ์” ในซูเราะฮ์ 2 : 191

2:194

ٱلشَّهْرُ ٱلْحَرَامُ بِٱلشَّهْرِ ٱلْحَرَامِ وَٱلْحُرُمَـٰتُ قِصَاصٌۭ ۚ فَمَنِ ٱعْتَدَىٰ عَلَيْكُمْ فَٱعْتَدُوا۟ عَلَيْهِ بِمِثْلِ مَا ٱعْتَدَىٰ عَلَيْكُمْ ۚ وَٱتَّقُوا۟ ٱللَّهَ وَٱعْلَمُوٓا۟ أَنَّ ٱللَّهَ مَعَ ٱلْمُتَّقِينَ

Translation: เดือนที่ต้องห้ามนั้นก็ด้วยเดือนที่ต้องห้าม(287)และบรรดาสิ่งจำเป็นต้องพิทักษ์นั้น ก็ย่อมมีการตอบโต้เยี่ยงเดียวกัน ดังนั้นผู้ใดละเมิดต่อพวกเจ้า(288) ก็จงละเมิดต่อเขา(289) เยี่ยงที่เขาละเมิดต่อพวกเข้า และพึงยำเกรงอัลลอฮ์เถิด และจงรู้ไว้ด้วยว่าแท้จริงอัลลอฮ์นั้นทรงอยู่กับบรรดาผู้ยำเกรงทั้งหลาย(290)

Comment: (287)เดือนต้องห้ามมิใช้สู้รบกันนั้นคือเดือนร่อยับ ซุลเกาะอ์ดะฮ์ ซุลฮิจญะฮ์ และมุฮัรรอม กล่าวคือ ถ้ามีการรุกรานเกิดขึ้นในเดือนดังกล่าวจากฝ่ายกุไรช์ ก็อนุญาตให้ฝ่ายมุสลิมีนทำการตอบโต้ในเดือนเหล่านั้นได้ และการละเมิดในบรรดาสิ่งที่ต้องห้ามในเดือนเหล่านั้นด้วยการขัดขวางมิให้เข้าไปทำอุมเราะฮ์ ก็อนุมัติให้มุสลิมีนกระทำการละเมิดในเดือนเหล่านั้นได้ด้วย คือให้ใช้กำลังต่อสู้ฝ่ายกุไรช์ จนกว่าพวกเขาจะเลิกทำการละเมิด ทั้งนี้เพื่อรักษาเกียรติแห่งเดือนเหล่านั้น

Comment: (288)ละเมิดสัญญาที่ได้กระทำไว้ และทำร้ายพวกเจ้า

Comment: (289)ก็จงทำการป้องกันแล้ว และหลั่งเลือดพวกเขาได้ แม้ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดสัญญาก็ตาม ก็อนุญาตให้กระทำได้เพราะฝ่ายกุเรชเป็นฝ่ายละเมิดสัญญาก่อน

Comment: (290)จะทรงให้ความช่วยเหลือจนกระทั่งได้รับชัยชนะ

2:195

وَأَنفِقُوا۟ فِى سَبِيلِ ٱللَّهِ وَلَا تُلْقُوا۟ بِأَيْدِيكُمْ إِلَى ٱلتَّهْلُكَةِ ۛ وَأَحْسِنُوٓا۟ ۛ إِنَّ ٱللَّهَ يُحِبُّ ٱلْمُحْسِنِينَ

Translation: และพวกเจ้าจงบริจาคในทางของอัลลอฮ์และจงอย่าโยนตัวของพวกเจ้าสู่ความพินาศ(291) และจงทำดีเถิด แท้จริง อัลลอฮ์นั้นทรงชอบผู้กระทำดีทั้งหลาย

Comment: (291)จงอย่าตระหนี่ที่จะเสียสละในทางของอัลลอฮ์ เช่นในการป้องกันรักษาศาสนา ในการให้การศึกษาศาสนาแก่เด็ก ๆ มุสลิม และในการต่อสู้ผู้ที่รุกราน เป็นต้น เพราะการตระหนี่นั้นจะนำซึ่งความหายนะ ประหนึ่งโยนตัวเองสู่ความพินาศ

2:196

وَأَتِمُّوا۟ ٱلْحَجَّ وَٱلْعُمْرَةَ لِلَّهِ ۚ فَإِنْ أُحْصِرْتُمْ فَمَا ٱسْتَيْسَرَ مِنَ ٱلْهَدْىِ ۖ وَلَا تَحْلِقُوا۟ رُءُوسَكُمْ حَتَّىٰ يَبْلُغَ ٱلْهَدْىُ مَحِلَّهُۥ ۚ فَمَن كَانَ مِنكُم مَّرِيضًا أَوْ بِهِۦٓ أَذًۭى مِّن رَّأْسِهِۦ فَفِدْيَةٌۭ مِّن صِيَامٍ أَوْ صَدَقَةٍ أَوْ نُسُكٍۢ ۚ فَإِذَآ أَمِنتُمْ فَمَن تَمَتَّعَ بِٱلْعُمْرَةِ إِلَى ٱلْحَجِّ فَمَا ٱسْتَيْسَرَ مِنَ ٱلْهَدْىِ ۚ فَمَن لَّمْ يَجِدْ فَصِيَامُ ثَلَـٰثَةِ أَيَّامٍۢ فِى ٱلْحَجِّ وَسَبْعَةٍ إِذَا رَجَعْتُمْ ۗ تِلْكَ عَشَرَةٌۭ كَامِلَةٌۭ ۗ ذَٰلِكَ لِمَن لَّمْ يَكُنْ أَهْلُهُۥ حَاضِرِى ٱلْمَسْجِدِ ٱلْحَرَامِ ۚ وَٱتَّقُوا۟ ٱللَّهَ وَٱعْلَمُوٓا۟ أَنَّ ٱللَّهَ شَدِيدُ ٱلْعِقَابِ

Translation: และพวกเจ้าจงให้สมบูรณ์ ซึ่งการทำฮัจญ์ และการทำอุมเราะฮ์เพื่ออัลลอฮ์เถิด แล้วถ้าพวกเจ้าถูกสกัดกั้น(292) ก็ให้เชือดสัตว์พลีที่หาได้ง่าย(293) และจงอย่าโกนศีรษะของพวกเจ้า จนกว่าสัตว์พลีนั้นจะถึงที่ของมัน(294) แล้วผู้ใดในหมู่พวกเจ้าป่วยลง หรือที่เขามีสิ่งก่อความเดือดร้อนจากศรีษะของเขา(295) ก็ให้มีการชดเชย อันได้แก่การถือศีลอด หรือการทำทาน หรือการเชือดสัตว์(296) ครั้นเมื่อพวกเจ้าปลอดภัยแล้ว ผู้ใดที่แสวงหาประโยชน์จนกระทั่งถึงฮัจญ์ด้วยการทำอุมเราะฮ์แล้ว(297) ก็ให้เชือดสัตว์พลีที่หาได้ง่ายผู้ใดที่หาไม่ได้(298) ก็ให้ถือศีลอดสามวันในระหว่างการทำฮัจญ์ และอีกเจ็ดวันเมื่อพวกเจ้ากลับบ้านนั่นคือครบสิบวัน ดังกล่าวนั้น สำหรับที่ครอบครัวของเขามิได้ประจำอยู่ที่อัลมัสยิดิลฮะรอม และพวกเจ้าจงยำเกรงอัลลอฮ์เถิด และพึงรู้ด้วยว่า แท้จริงอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงลงโทษที่รุนแรงยิ่ง

Comment: (292)จะด้วยศัตรูหรือด้วยโรคระบาด หรือมีสงครามเกิดขึ้น เป็นต้น ซึ่งไม่สามารถจะทำฮัจญ์หรืออุมเราะฮ์ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ได้

Comment: (293)เช่น อูฐ วัว แพะ หรือ แกะเป็นต้น

Comment: (294)คือถึงที่ที่อนุมัติให้เชือด กล่าวคือ ถ้าถูกสกัดกั้น ณ ที่ใด ก็ให้โกนศีรษะแล้วเชือดสัตว์พลี แต่ถ้าได้รับความปลอดภัย ก็ให้นำสัตว์พลีไปถึงมักกะฮ์เสียก่อน หลังจากประกอบพิธีฮัจญ์แล้วก็โกนศีรษะ แล้วเชือดสัตว์พลี การโกนศีรษะนั้นแหละที่เรียกว่า “ตะฮัลลุล”

Comment: (295)เช่นเป็นฝีหรือเป็นหิด หรือมีบาดแผลที่ศีรษะ ซึ่งจำเป็นจะต้องโกน ก็ให้กระทำได้ แล้วทำการชดเชย

Comment: (296)การชดเชยนั้นคือการถือศีลอด 3 วัน หรือให้อาหารแก่คนยากจน 6 คน หรือเชือดสัตว์จะเป็นแพะหรือแกะก็ได้

Comment: (297)ทำแต่เพียงอุมเราะฮ์อย่างเดียวก่อน ซึ่งเรียก “ตะมัตตัวะ” แล้วทำฮัจญ์ทีหลัง เมื่อถึงเวลาทำฮัจญ์ ระหว่างทำอุมเราะฮ์เสร็จไปจนถึงเวลาทำฮัจญ์นั้น อนุมัติให้ใช้เครื่องหอมได้ ตัดเล็บตัดผมได้ และใส่เสื้อผ้าอย่างไรก็ได้ ตลอดจนการอภิรมณ์สมสู่กับคู่ครองก็ได้ ดังกล่าวนี้เรียกว่า “แสวงหาประโยชน์”กล่าวคือไม่ต้องรักษาระเบียบวินัย เยี่ยงผู้อยู่ในการทำอุมเราะฮ์และฮัจญ์พร้อมกัน ซึ่งเรียกว่า “กิรอน”

Comment: (298)คือเนื่องจากหาสัตว์เชือดไม่ได้ หรือไม่มีเงินซื้อก็ตาม

2:197

ٱلْحَجُّ أَشْهُرٌۭ مَّعْلُومَـٰتٌۭ ۚ فَمَن فَرَضَ فِيهِنَّ ٱلْحَجَّ فَلَا رَفَثَ وَلَا فُسُوقَ وَلَا جِدَالَ فِى ٱلْحَجِّ ۗ وَمَا تَفْعَلُوا۟ مِنْ خَيْرٍۢ يَعْلَمْهُ ٱللَّهُ ۗ وَتَزَوَّدُوا۟ فَإِنَّ خَيْرَ ٱلزَّادِ ٱلتَّقْوَىٰ ۚ وَٱتَّقُونِ يَـٰٓأُو۟لِى ٱلْأَلْبَـٰبِ

Translation: (เวลา) การทำฮัจญ์นั้นมีหลายเดือนอันเป็นที่ทราบกันอยู่แล้ว(299) ดังนั้นผู้ใดที่ได้ให้การทำฮัจญ์จำเป็นแก่เขาในเดือนเหล่านั้น(300) ก็ต้องไม่มีการสมสู่ และไม่มีการละเมิด และไม่มีการวิวาทใดๆ ใน (เวลา) การทำฮัจญ์ และความดีใดๆ ที่พวกเจ้ากระทำนั้น อัลลอฮ์ทรงรู้ดี และพวกเจ้าจงเตรียมเสบียงเถิด(301) แท้จริงเสบียงที่ดีที่สุดนั้นคือความยำเกรง และพวกเจ้าจงยำเกรงข้าเถิด โอ้ ผู้มีปัญญาทั้งหลาย!

Comment: (299)คือเดือน เชาวาล ซุลเกาะดะฮ์ และอีกสิบวันแรกของเดือนซุลฮิจญะฮ์

Comment: (300)หลังจากทำการอิห์รอมแล้ว

Comment: (301)หมายถึงเสบียงในการเดินทางไปทำฮัจญ์

2:198

لَيْسَ عَلَيْكُمْ جُنَاحٌ أَن تَبْتَغُوا۟ فَضْلًۭا مِّن رَّبِّكُمْ ۚ فَإِذَآ أَفَضْتُم مِّنْ عَرَفَـٰتٍۢ فَٱذْكُرُوا۟ ٱللَّهَ عِندَ ٱلْمَشْعَرِ ٱلْحَرَامِ ۖ وَٱذْكُرُوهُ كَمَا هَدَىٰكُمْ وَإِن كُنتُم مِّن قَبْلِهِۦ لَمِنَ ٱلضَّآلِّينَ

Translation: ไม่มีโทษใดๆ แก่พวกเจ้า การที่พวกเจ้าจะแสดวงหาความกรุณาอย่างหนึ่งอย่างใดจากพระเจ้าของพวกเจ้า ครั้นเมื่อพวกเจ้าได้หลั่งไหล(302) กันออกจากอะเราะฟาตแล้ว ก็จงกล่าวรำลึกถึงอัลลอฮ์ณ อัล-มัชอะริลฮะรอม(303) และจงกล่าวรำลึกถึงพระองค์ ดังที่พระองค์ได้ทรงแนะแนวพวกเจ้าไว้ และแท้จริงก่อนหน้านั้น พวกเจ้าอยู่ในหมู่ผู้ที่หลงทาง

Comment: (302)หมายถึงออกจากอะเราะฟาดไป หลังจากตะวันตกแล้ว เพื่อไปพักแรมที่ “มินา” อีกสองหรือสามวัน แต่คืนนั้นให้พักแรมที่ “มุซดะลิฟะฮ์” การที่อัลกุรอานใช้ถ้อยคำว่า “หลั่งไหล” นั้น เนื่องจากขณะที่กลุ่มชนเคลื่อนออกจากอะเราะฟาตนั้นประหนึ่งน้ำไหลกระนั้น

Comment: (303)เป็นเนินเขาเล็ก ๆ ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณ “มุซดะลิฟะฮ์” มีมัสยิดอยู่บนนั้น แบบกำแพงล้อมไม่มีหลังคา

2:199

ثُمَّ أَفِيضُوا۟ مِنْ حَيْثُ أَفَاضَ ٱلنَّاسُ وَٱسْتَغْفِرُوا۟ ٱللَّهَ ۚ إِنَّ ٱللَّهَ غَفُورٌۭ رَّحِيمٌۭ

Translation: แล้วพวกเจ้าจงหลั่งไหลกันออกไปจากที่ที่ผู้คนได้หลั่งไหลกันออกไป(304) และจงขออภัยต่ออัลลอฮ์เถิด แท้จริง อัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ

Comment: (304)หมายถึงหลั่งไหลออกจากอะเราะฟาต หรืออะเราะฟะฮ์

2:200

فَإِذَا قَضَيْتُم مَّنَـٰسِكَكُمْ فَٱذْكُرُوا۟ ٱللَّهَ كَذِكْرِكُمْ ءَابَآءَكُمْ أَوْ أَشَدَّ ذِكْرًۭا ۗ فَمِنَ ٱلنَّاسِ مَن يَقُولُ رَبَّنَآ ءَاتِنَا فِى ٱلدُّنْيَا وَمَا لَهُۥ فِى ٱلْـَٔاخِرَةِ مِنْ خَلَـٰقٍۢ

Translation: ครั้นเมื่อพวกเจ้าประกอบพิธีฮัจญ์ของพวกเจ้าเสร็จแล้ว ก็จงกล่าวรำลึกถึงอัลลอฮ์ดังที่พวกเจ้ากล่าวรำลึกถึงบรรพบุรุษของพวกเจ้า หรือกล่าวรำลึกให้มากยิ่งกว่า ในหมู่มนุษย์นั้นมีผู้กล่าวว่า โอ้พระเจ้าของเรา โปรดประทานให้แก่พวกเราในโลกนี้เถิด(305) และเขาจะไม่ได้รับส่วนดีใดๆ ในปรโลก

Comment: (305)หมายถึง ถ้าพระองค์จะทรงกรุณาประทานสิ่งดีใดๆ ให้แก่พวกเขาแล้ว ก็โปรดได้ทรงประทานให้แก่พวกเขาในโลกนี้เถิด ทั้งนี้ก็เพราะพวกเขาไม่เชื่อในวันปรโลก

2:201

وَمِنْهُم مَّن يَقُولُ رَبَّنَآ ءَاتِنَا فِى ٱلدُّنْيَا حَسَنَةًۭ وَفِى ٱلْـَٔاخِرَةِ حَسَنَةًۭ وَقِنَا عَذَابَ ٱلنَّارِ

Translation: และในหมู่พวกเขานั้น มีผู้ที่กล่าว่า โอ้พระเจ้าของเรา โปรดประทานให้แก่พวกเรา ซึ่งดีงามในโลกนี้ และสิ่งดีงามในปรโลก และโปรดคุ้มครองพวกเราให้พ้นจากลงโทษแห่งไฟนรกด้วยเถิด

2:202

أُو۟لَـٰٓئِكَ لَهُمْ نَصِيبٌۭ مِّمَّا كَسَبُوا۟ ۚ وَٱللَّهُ سَرِيعُ ٱلْحِسَابِ

Translation: ชนเหล่านั้นแหละ พวกเขาจะได้รับส่วนดี จากสิ่งที่พวกเขาได้แสวงหาไว้ และอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงรวดเร็วในการชำระสอบสวน

2:203

۞ وَٱذْكُرُوا۟ ٱللَّهَ فِىٓ أَيَّامٍۢ مَّعْدُودَٰتٍۢ ۚ فَمَن تَعَجَّلَ فِى يَوْمَيْنِ فَلَآ إِثْمَ عَلَيْهِ وَمَن تَأَخَّرَ فَلَآ إِثْمَ عَلَيْهِ ۚ لِمَنِ ٱتَّقَىٰ ۗ وَٱتَّقُوا۟ ٱللَّهَ وَٱعْلَمُوٓا۟ أَنَّكُمْ إِلَيْهِ تُحْشَرُونَ

Translation: และพวกเจ้าจงกล่าวรำลึกถึงอัลลอฮ์(306) ในบรรดาวันที่ถูกนับไว้(307) แล้วผู้ใดรีบกลับในสองวัน(308) ก็ไม่มีโทษใดๆ แก่เขา และผู้ใดรั้งรอไปอีก(309) ก็ไม่มีโทษใด ๆ แก่เขา (ทั้งนี้) สำหรับผู้ที่มีความยำเกรง(310) และจงยำเกรงอัลลอฮ์เถิด และพึงรู้ด้วย ว่าพวกเจ้านั้นจะถูกนำไปชุมนุมยังพระองค์

Comment: (306)กล่าวตักบีร

Comment: (307)วันที่ 11-13 ของเดือน ซุลฮิจญะฮ์

Comment: (308)ค้างที่มินาสองวัน แล้วรีบกลับมักกะฮ์ ก่อนค่ำวันที่สอง แต่ถ้าค่ำเสียแล้ว จะไม่ได้รับอนุมัติให้กลับ หากแต่จะต้องค้างอีกหนึ่งวัน

Comment: (309)ค้างที่มินาจนครบสามวัน

Comment: (310)การที่จะค้างอยู่ที่มินาสองวันหรือสามวันนั้น ไม่ถือเป็นสิ่งสำคัญ แต่ที่สำคัญนั้นคือ การมีอัตตักวา

2:204

وَمِنَ ٱلنَّاسِ مَن يُعْجِبُكَ قَوْلُهُۥ فِى ٱلْحَيَوٰةِ ٱلدُّنْيَا وَيُشْهِدُ ٱللَّهَ عَلَىٰ مَا فِى قَلْبِهِۦ وَهُوَ أَلَدُّ ٱلْخِصَامِ

Translation: และในหมู่มนุษย์นั้น มีผู้ที่คำพูดของเขา(311) ทำให้เจ้าพึงพอใจในชีวิตความเป็นอยู่แห่งโลกนี้ และจะอ้างอัลลอฮ์เป็นพยานซึ่งสิ่งที่อยู่ในหัวใจของเขา(312) และขณะเดียวกันก็เป็นผู้โต้เถียงที่ฉกาจฉกรรจ์ยิ่ง

Comment: (311)อัล-อัคนัส บินชุร็อยดเป็นมุนาฟิก พูดจาแก่ท่านนบีด้วยคำพูดที่อ่อนหวาน เป็นที่ประทับใจแก่ท่านนบี

Comment: (312)เขาจะสาบานต่ออัลลอฮ์ว่า จิตใจของเขามีความเชื่อถือตรงตามที่เขาพูดทุกประการ แต่ความจริงหาใช่เช่นนั้นไม่

2:205

وَإِذَا تَوَلَّىٰ سَعَىٰ فِى ٱلْأَرْضِ لِيُفْسِدَ فِيهَا وَيُهْلِكَ ٱلْحَرْثَ وَٱلنَّسْلَ ۗ وَٱللَّهُ لَا يُحِبُّ ٱلْفَسَادَ

Translation: และเมื่อเขาหันกลับไปแล้วเขาก็เพียรพยายามในแผ่นดิน เพื่อก่อความเสียหายในนั้น และทำลายพืชผล และเผ่าพันธุ์(313) และอัลลอฮ์ไม่ทรงชอบการก่อความเสียหาย

Comment: (313)คือลอบฆ่าฟันมถ้าจะเชื่อฟังตามคำตักเตือนของคนอื่น ก็เป็นการยอมรับผิดโดยปริยายในความผิดของตน อันทำให้เกียรติต้องมัวหมอง จึงจำต้องรักษาเกียรติด้วยการกระทำความผิดต่อไป เพื่อเป็นการยืนยันว่าที่กระทำอยู่นั้นถูกต้องแล้ว ทั้ง ๆ ที่รู้ดีว่าได้กระทำความผิดอยู่นุษย์ผู้ซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์และสืบเชื้อสายต่อเนื่องกันมา และทำลายปศุสัตว์ด้วยการลักขโมยและวางยา เป็นต้น

2:206

وَإِذَا قِيلَ لَهُ ٱتَّقِ ٱللَّهَ أَخَذَتْهُ ٱلْعِزَّةُ بِٱلْإِثْمِ ۚ فَحَسْبُهُۥ جَهَنَّمُ ۚ وَلَبِئْسَ ٱلْمِهَادُ

Translation: และเมื่อถูกกล่าวแก่เขาว่า จงยำเกรงอัลลอฮ์เถิด ความหยิ่งในเกียรติก็ยึดเขาไว้ให้กระทำบาปต่อไป(314) สิ่งที่พอเพียงแก่เขานั้นก็คือญะฮันนัม และแน่นอนเป็นที่หลับนอนอันเลวร้ายยิ่ง

Comment: (314)ถ้าจะเชื่อฟังตามคำตักเตือนของคนอื่น ก็เป็นการยอมรับผิดโดยปริยายในความผิดของตน อันทำให้เกียรติต้องมัวหมอง จึงจำต้องรักษาเกียรติด้วยการกระทำความผิดต่อไป เพื่อเป็นการยืนยันว่าที่กระทำอยู่นั้นถูกต้องแล้ว ทั้ง ๆ ที่รู้ดีว่าได้กระทำความผิดอยู่

2:207

وَمِنَ ٱلنَّاسِ مَن يَشْرِى نَفْسَهُ ٱبْتِغَآءَ مَرْضَاتِ ٱللَّهِ ۗ وَٱللَّهُ رَءُوفٌۢ بِٱلْعِبَادِ

Translation: และในหมู่มนุษย์นั้นมีผู้ที่ขายตัวของเขา(315) ทั้งนี้เพื่อแสวงหาความพอพระทัยของอัลลอฮ์และอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงปรานีแก่ปวงบ่าวทั้งหลาย

Comment: (315)เสียสละทั้งชีวิตและทรัพย์สมบัติของเขาเพื่อธำรงไว้ซึ่งศาสนาของอัลลอฮ์

2:208

يَـٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ ٱدْخُلُوا۟ فِى ٱلسِّلْمِ كَآفَّةًۭ وَلَا تَتَّبِعُوا۟ خُطُوَٰتِ ٱلشَّيْطَـٰنِ ۚ إِنَّهُۥ لَكُمْ عَدُوٌّۭ مُّبِينٌۭ

Translation: บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย! จงเข้าอยู่ในความสันติ(316) โดยทั่วทั้งหมด และจงอย่าทำตามบรรดาก้าวเดินของชัยฏอน(317) แท้จริง มันคือศัตรูที่ชัดแจ้งของพวกเจ้า

Comment: (316)เข้าอยู่ในบัญญัติแห่งอิสลาม

Comment: (317)อย่าปฏิบัติตามคำชักจูง คำยั่วยุ และแบบอย่างอันเลวของชัยฏอน

2:209

فَإِن زَلَلْتُم مِّنۢ بَعْدِ مَا جَآءَتْكُمُ ٱلْبَيِّنَـٰتُ فَٱعْلَمُوٓا۟ أَنَّ ٱللَّهَ عَزِيزٌ حَكِيمٌ

Translation: แต่ถ้าพวกเจ้าหันเหออกไป(318) หลังจากที่ได้มีบรรดาหลักฐานอันชัดเจนมายังพวกเจ้าแล้วก็พึงรู้เถิดว่า แท้จริงอัลลอฮ์นั้นทรงเดชานุภาพ ทรงปรีชาญาณ

Comment: (318)คำว่า “ซะลัลตุม”ที่นี้หมายถึง หันเหหรือเอนเอียงออก

2:210

هَلْ يَنظُرُونَ إِلَّآ أَن يَأْتِيَهُمُ ٱللَّهُ فِى ظُلَلٍۢ مِّنَ ٱلْغَمَامِ وَٱلْمَلَـٰٓئِكَةُ وَقُضِىَ ٱلْأَمْرُ ۚ وَإِلَى ٱللَّهِ تُرْجَعُ ٱلْأُمُورُ

Translation: และพวกเขามิได้คอยอะไร นอกจากการที่อัลลอฮ์และมลาอิกะอ์ของพระองค์จะมายังพวกเขาในร่มเงาจากเมฆ(319) และเรื่องนั้นได้ถูกชี้ขาดไว้แล้ว(320) และยังอัลลอฮ์นั้นเรื่องราวทั้งหลายจะถูกนำกลับไป

Comment: (319)หมายถึงจะนำการลงโทษมายังพวกเขาโดยกะทันหัน ที่นำการลงโทษมาในก้อนเมฆนั้นเพื่อมิให้พวกดื้อดันเหล่านั้นรู้ตัว ประกอบกับเมฆนั้นเป็นที่มาของฝน ซึ่งทำให้พวกเขาปิติยินดีที่จะได้น้ำฝน แต่แล้วกลับกลายเป็นการลงโทษโดยให้ลมพัดอย่างรุนแรง ก่อให้เกิดความพินาศแก่พวกเขา เช่นเกี่ยวกับที่ได้ทำการลงโทษพวกอาดมาแล้วในอดีต การที่อัลลอฮ์ทรงใช้สำนวนในทำนองว่าพระองค์และมลาอิกะฮ์จะมาในร่มเงาของก้อนเมฆนั้น ก็เพื่อให้มองเห็นเป็นภาพพจน์ และเป็นจริงเป็นจังน่าเกรงขามเช่นเดียวกับที่มนุษย์ได้ปฏิบัติกันอยู่

Comment: (320)การลงโทษผู้ปฏิเสธศรัทธาเหล่านั้นเป็นเรื่องที่ถูกชี้ขาดไว้แล้ว

2:211

سَلْ بَنِىٓ إِسْرَٰٓءِيلَ كَمْ ءَاتَيْنَـٰهُم مِّنْ ءَايَةٍۭ بَيِّنَةٍۢ ۗ وَمَن يُبَدِّلْ نِعْمَةَ ٱللَّهِ مِنۢ بَعْدِ مَا جَآءَتْهُ فَإِنَّ ٱللَّهَ شَدِيدُ ٱلْعِقَابِ

Translation: เจ้าจงถามวงศ์วานอิสรออีลดูเถิดว่าสัญญาณอันชัดเจนกี่มากน้อยแล้ว ที่เราได้นำมายังพวกเขา และผู้ใดเปลี่ยนแปลงความกรุณาของอัลลอฮ์(321) หลังจากที่มันได้มายังเขาแล้ว แน่นอนอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงลงโทษที่รุนแรง

Comment: (321)แทนที่พวกเขาจะศรัทธาต่ออัลลอฮ์ และยึดมั่นในศาสนาอันถือเป็นความกรุณาอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ กลับปฏิเสธและยึดถือความหลงผิดแทน

2:212

زُيِّنَ لِلَّذِينَ كَفَرُوا۟ ٱلْحَيَوٰةُ ٱلدُّنْيَا وَيَسْخَرُونَ مِنَ ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ ۘ وَٱلَّذِينَ ٱتَّقَوْا۟ فَوْقَهُمْ يَوْمَ ٱلْقِيَـٰمَةِ ۗ وَٱللَّهُ يَرْزُقُ مَن يَشَآءُ بِغَيْرِ حِسَابٍۢ

Translation: ชีวิตความเป็นอยู่แห่งโลกนี้ได้ถูกประดับให้สวยงามแก่ผู้ปฏิเสธศรัทธาทั้งหลาย และพวกเขายังเย้ยหยันบรรดาผู้ที่ศรัทธาด้วย แต่บรรดาผู้ยำเกรงนั้น เหนือกว่าพวกเขาในวันกิยามะฮ์ และอัลลอฮ์จะทรงประทานปัจจัยยังชีพแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์โดยปราศจากการคำนวณนับ

2:213

كَانَ ٱلنَّاسُ أُمَّةًۭ وَٰحِدَةًۭ فَبَعَثَ ٱللَّهُ ٱلنَّبِيِّـۧنَ مُبَشِّرِينَ وَمُنذِرِينَ وَأَنزَلَ مَعَهُمُ ٱلْكِتَـٰبَ بِٱلْحَقِّ لِيَحْكُمَ بَيْنَ ٱلنَّاسِ فِيمَا ٱخْتَلَفُوا۟ فِيهِ ۚ وَمَا ٱخْتَلَفَ فِيهِ إِلَّا ٱلَّذِينَ أُوتُوهُ مِنۢ بَعْدِ مَا جَآءَتْهُمُ ٱلْبَيِّنَـٰتُ بَغْيًۢا بَيْنَهُمْ ۖ فَهَدَى ٱللَّهُ ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ لِمَا ٱخْتَلَفُوا۟ فِيهِ مِنَ ٱلْحَقِّ بِإِذْنِهِۦ ۗ وَٱللَّهُ يَهْدِى مَن يَشَآءُ إِلَىٰ صِرَٰطٍۢ مُّسْتَقِيمٍ

Translation: มนุษย์นั้นเคยเป็นประชาชาติเดียวกัน(322) ภายหลังอัลลอฮ์ได้ส่งบรรดานบีมาในฐานะผู้แจ้งข่าวดี และผู้ตักเตือน และได้ทรงประทานคัมภีร์อันกอปรไปด้วยความจริงลงมากับพวกเขา เพื่อว่าคัมภีร์นั้นจะได้ตัดสินระหว่างมนุษย์ในสิ่งที่พวกเขาขัดแย้งกัน และไม่มีใครที่ขัดแย้งในคัมภีร์นั้น นอกจากบรรดาผู้ที่ได้รับคัมภีร์นั้นมา(323) หลังจากที่บรรดาหลักฐานอันชัดเแจ้งได้มายังพวกเขาเหล่านั้น(324) ทั้งนี้เพราะความอิจฉาริษยาในระหว่างพวกเขา(325) แล้วอัลลอฮ์ก็ทรงนำทางแก่บรรดาผู้ศรัทธา ซึ่งความจริงที่พวกเขาขัดแย้งกันด้วยอนุมัติของพระองค์(326) และอัลลอฮ์ทรงแนะนำผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ไปสู่ทางอันเที่ยงตรง

Comment: (322)มีความสามัคคีกัน เพราะความรู้ความเข้าใจยังมีน้อย ต่อมาความต้องการของมนุษย์มีมากขึ้น เนื่องจากได้รับความรู้เพิ่มขึ้น ก็เกิดขัดแย้งกัน ทั้งที่เกี่ยวกับการเชื่อถือและผลประโยชน์

Comment: (323)หมายถึงพวกยิวและพวกคริสต์

Comment: (324)หลังจากท่านนบีมุอัมมัดได้นำหลักฐานอันชัดแจ้งมาประกาศแก่พวกเขา

Comment: (325)อิจฉาริษยาที่ท่านนบีมุฮัมมัดได้รับแต่งตั้งให้เป็นร่อซูล ซึ่งมิได้เป็นวงศ์วานของพวกเขา

Comment: (326)ด้วยการอนุมัติของอัลลออ์ที่ให้ท่านนบี นำความจริงมาประกาศ

2:214

أَمْ حَسِبْتُمْ أَن تَدْخُلُوا۟ ٱلْجَنَّةَ وَلَمَّا يَأْتِكُم مَّثَلُ ٱلَّذِينَ خَلَوْا۟ مِن قَبْلِكُم ۖ مَّسَّتْهُمُ ٱلْبَأْسَآءُ وَٱلضَّرَّآءُ وَزُلْزِلُوا۟ حَتَّىٰ يَقُولَ ٱلرَّسُولُ وَٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ مَعَهُۥ مَتَىٰ نَصْرُ ٱللَّهِ ۗ أَلَآ إِنَّ نَصْرَ ٱللَّهِ قَرِيبٌۭ

Translation: หรือพวกเจ้าคิดว่า พวกเจ้าจะได้เข้าสวรรค์ โดยเยี่ยงอย่างของผู้ล่วงลับไปก่อนพวกเจ้า ยังมิได้มายังพวกเจ้าเลย(327) ซึ่งบรรดาความลำบากและความเดือดร้อนได้ประสบแก่พวกเขา และพวกเขาได้รับความหวั่นไหว จนกระทั่งร่อซูลและบรรดาผู้ศรัทธาซึ่งอยู่กับเขา กล่าวขึ้นว่า เมื่อไรเล่าการช่วยเหลือของอัลลอฮ์? พึงรู้เถิดว่าแท้จริงการช่วยเหลือของอัลลอฮ์ใกล้อยู่แล้ว

Comment: (327)เยี่ยงอย่างแห่งความอดทนในการต่อต้าน และความอดทนจากการทำร้ายของฝ่ายศัตรูผู้ปฏิเสธศรัทธา

2:215

يَسْـَٔلُونَكَ مَاذَا يُنفِقُونَ ۖ قُلْ مَآ أَنفَقْتُم مِّنْ خَيْرٍۢ فَلِلْوَٰلِدَيْنِ وَٱلْأَقْرَبِينَ وَٱلْيَتَـٰمَىٰ وَٱلْمَسَـٰكِينِ وَٱبْنِ ٱلسَّبِيلِ ۗ وَمَا تَفْعَلُوا۟ مِنْ خَيْرٍۢ فَإِنَّ ٱللَّهَ بِهِۦ عَلِيمٌۭ

Translation: พวกเขาจะถามเจ้า (มุฮัมมัด) ว่า พวกเขาจะบริจาคสิ่งใดบ้าง? จงกล่าวเถิดว่า คือทรัพย์สินใด ๆ ก็ตามที่พวกท่านบริจาคไปก็จงให้แก่ผู้บังเกิดเกล้าทั้งสอง และบรรดาญาติที่ใกล้ชิด และแก่บรรดาเด็กกำพร้า และบรรดาคนยากจน และผู้ที่อยู่ในการเดินทาง(328) และก็ความดีใดๆ ที่พวกท่านกระทำอยู่นั้น แท้จริงอัลลอฮ์ทรงรู้ดี

Comment: (328)หมายถึงผู้ที่อยู่ในการเดินทางซึ่งขาดเงิน

2:216

كُتِبَ عَلَيْكُمُ ٱلْقِتَالُ وَهُوَ كُرْهٌۭ لَّكُمْ ۖ وَعَسَىٰٓ أَن تَكْرَهُوا۟ شَيْـًۭٔا وَهُوَ خَيْرٌۭ لَّكُمْ ۖ وَعَسَىٰٓ أَن تُحِبُّوا۟ شَيْـًۭٔا وَهُوَ شَرٌّۭ لَّكُمْ ۗ وَٱللَّهُ يَعْلَمُ وَأَنتُمْ لَا تَعْلَمُونَ

Translation: การสู้รบนั้นได้ถูกกำหนดแก่พวกเจ้าแล้ว ทั้งๆ ที่มันเป็นที่รังเกียจแก่พวกเจ้า และอาจเป็นไปได้ว่า การที่พวกเจ้าเกลียดสิ่งหนึ่ง ทั้งๆ ที่สิ่งนั้นเป็นสิ่งดีแก่พวกเจ้าและก็อาจเป็นไปได้ว่าการที่พวกเจ้าชอบสิ่งหนึ่ง ทั้งๆ ที่สิ่งนั้นเป็นสิ่งเลวร้ายแก่พวกเจ้า และอัลลอฮ์ทรงรู้ดี แต่พวกเจ้าไม่รู้

2:217

يَسْـَٔلُونَكَ عَنِ ٱلشَّهْرِ ٱلْحَرَامِ قِتَالٍۢ فِيهِ ۖ قُلْ قِتَالٌۭ فِيهِ كَبِيرٌۭ ۖ وَصَدٌّ عَن سَبِيلِ ٱللَّهِ وَكُفْرٌۢ بِهِۦ وَٱلْمَسْجِدِ ٱلْحَرَامِ وَإِخْرَاجُ أَهْلِهِۦ مِنْهُ أَكْبَرُ عِندَ ٱللَّهِ ۚ وَٱلْفِتْنَةُ أَكْبَرُ مِنَ ٱلْقَتْلِ ۗ وَلَا يَزَالُونَ يُقَـٰتِلُونَكُمْ حَتَّىٰ يَرُدُّوكُمْ عَن دِينِكُمْ إِنِ ٱسْتَطَـٰعُوا۟ ۚ وَمَن يَرْتَدِدْ مِنكُمْ عَن دِينِهِۦ فَيَمُتْ وَهُوَ كَافِرٌۭ فَأُو۟لَـٰٓئِكَ حَبِطَتْ أَعْمَـٰلُهُمْ فِى ٱلدُّنْيَا وَٱلْـَٔاخِرَةِ ۖ وَأُو۟لَـٰٓئِكَ أَصْحَـٰبُ ٱلنَّارِ ۖ هُمْ فِيهَا خَـٰلِدُونَ

Translation: พวกเขาจะถามเจ้าเกี่ยวกับเดือนต้องห้าม(329) ซึ่งการสู้รบในเดือนนั้น จงกล่าวเถิดว่า การสู้รบในเดือนนั้นเป็นสิ่งใหญ่โต และการขัดขวางให้ออกจากทางของอัลลอฮ์และการปฏิเสธการศรัทธาต่อพระองค์ และการกีดกันมัสยิดิลฮะรอมตลอดจนการขับไล่ชาวมัสยิดิลฮะรอมออกไปนั้นเป็นสิ่งใหญ่โตยิ่งกว่า ณ ที่อัลลอฮ์และการฟิตนะฮ์(330) นั้นใหญ่โตยิ่งกว่าการฆ่า(331) และพวกเขาจะยังคงต่อสู้พวกเจ้าต่อไป จนกว่าพวกเขาจะทำให้พวกเจ้ากลับออกไปจากศาสนาของพวกเจ้า หากพวกเขาสามารถ และผู้ใดในหมู่พวกเจ้ากลับออกไปจากศาสนาของเขา แล้วเขาตายลง ขณะที่เขาเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาแล้วไซร้ ชนเหล่านี้แหละบรรดาการงานของพวกเขาไร้ผล ทั้งในโลกนี้และปรโลก และชนเหล่านี้แหละคือชาวนรก ซึ่งพวกเขาจะอยู่ในนรกนั้นตลอดกาล

Comment: (329)คือเดือนซุลเกาะอ์ดะฮ์ ซุลฮิจญะฮ์ มุฮัรร็อม และเดือนร่อญับ

Comment: (330)อัลฟิตนะฮ์ เป็นคำที่มีความหมายหลายนัยด้วยกันคือ ความเชี่ยวชาญ ความหลงผิด การปฏิเสธศาสนา การเปิดโปงความชั่วสิ่งที่ใช้ทดสอบมนุษย์จากภัยธรรมชาติ ความเป็นบ้า ข้อคิด การลงโทษ การเจ็บไข้ ทรัพย์สมบัติ และลูก ๆ ตลอดจนความเห็นขัดแย้งกัน และการสู้รบกัน ด้วยเหตุนี้บรรดาผู้อธิบายอัลกุรอานจึงมีทรรศนะแตกต่างกัน นักปราชญ์ในอดีตหลายท่านให้ความหมายว่า “อัชชิรกุ” คือการให้มีภาคีแก่อัลลอฮ์ บางท่านให้ความหมายว่า “อัลกุฟรุ” คือการปฏิเสธศรัทธาในอัลลอฮ์ สำหรับตัฟซีร “อัลมะรอฆี-อัลมะนาร และตัฟซีร อัล วะสีฏ” ซึ่งเป็นตัฟซีรของนักปราชญ์สมัยหลัง ๆ นี้ให้ความหมายคล้าย ๆ กันว่า “อัลฟิตนะฮ์” ในอายะฮ์นี้หมายถึง “การทำร้ายมุสลิมที่อ่อนแอ ด้วยความโหดร้ายทารุณ และกดขี่บังคับให้พวกเขาละทิ้งศาสนาอิสลาม ก่อกวนและขัดขวางมิให้พวกเขาประกอบอิบาดะฮ์ต่ออัลลอฮ์

Comment: (331)ฝ่ายกุเรชคนหนึ่งชื่ออัมรุบนุ อัล-ฮัฏร่อมีย์ ถูกฆ่าตายในเดือนต้องห้ามโดยฝ่ายมุสลิมีน

2:218

إِنَّ ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ وَٱلَّذِينَ هَاجَرُوا۟ وَجَـٰهَدُوا۟ فِى سَبِيلِ ٱللَّهِ أُو۟لَـٰٓئِكَ يَرْجُونَ رَحْمَتَ ٱللَّهِ ۚ وَٱللَّهُ غَفُورٌۭ رَّحِيمٌۭ

Translation: แท้จริงบรรดาผู้ศรัทธา และบรรดาผู้ที่อพยพ(332) และได้เสียสละต่อสู้ในทางของอัลลอฮ์ชนเหล่านี้แหละที่หวังในความเมตตาของอัลลอฮ์และอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ

Comment: (332)อพยพจากมักกะฮ์ไปมะดีนะฮ์

2:219

۞ يَسْـَٔلُونَكَ عَنِ ٱلْخَمْرِ وَٱلْمَيْسِرِ ۖ قُلْ فِيهِمَآ إِثْمٌۭ كَبِيرٌۭ وَمَنَـٰفِعُ لِلنَّاسِ وَإِثْمُهُمَآ أَكْبَرُ مِن نَّفْعِهِمَا ۗ وَيَسْـَٔلُونَكَ مَاذَا يُنفِقُونَ قُلِ ٱلْعَفْوَ ۗ كَذَٰلِكَ يُبَيِّنُ ٱللَّهُ لَكُمُ ٱلْـَٔايَـٰتِ لَعَلَّكُمْ تَتَفَكَّرُونَ

Translation: พวกเขาจะถามเจ้าเกี่ยวกับน้ำเมา และการพนัน จงกล่าวเถิดว่า ในทั้งสองนั้นมีโทษมากและมีคุณหลายอย่างแก่มนุษย์ แต่โทษของมันทั้งสองนั้นมากกว่าคุณของมัน และพวกเขาจะถามเจ้าว่า พวกเขาจะบริจาคสิ่งใด? จงกล่าวเถิดว่า สิ่งที่เหลือจากการใช้จ่าย ในทำนองนั้นแหละ อัลลอฮ์จะทรงแจกแจงโองการทั้งหลายแก่พวกเจ้า หวังว่าพวกเจ้าจะได้ใคร่ครวญ

2:220

فِى ٱلدُّنْيَا وَٱلْـَٔاخِرَةِ ۗ وَيَسْـَٔلُونَكَ عَنِ ٱلْيَتَـٰمَىٰ ۖ قُلْ إِصْلَاحٌۭ لَّهُمْ خَيْرٌۭ ۖ وَإِن تُخَالِطُوهُمْ فَإِخْوَٰنُكُمْ ۚ وَٱللَّهُ يَعْلَمُ ٱلْمُفْسِدَ مِنَ ٱلْمُصْلِحِ ۚ وَلَوْ شَآءَ ٱللَّهُ لَأَعْنَتَكُمْ ۚ إِنَّ ٱللَّهَ عَزِيزٌ حَكِيمٌۭ

Translation: ทั้งในโลกนี้และปรโลก และพวกเขาจะถามเจ้าเกี่ยวกับบรรดาเด็กกำพร้า จงกล่าวเถิดว่า การแก้ไขปรับปรุงใด ๆ ให้แก่พวกเขานั้น เป็นสิ่งที่ดียิ่ง และถ้าหากพวกเจ้าจะร่วมอยู่กับพวกเขา ก็คือพี่น้องของพวกเจ้า(333) และอัลลอฮ์ทรงรู้ดีถึงผู้ที่ก่อความเสียหาย จากผู้ที่ปรับปรุงแก้ไข(334) และหากอัลลอฮ์ทรงประสงค์แล้ว แน่นอนก็ทรงให้พวกเจ้าลำบากไปแล้ว(335) แท้จริงอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงเดชานุภาพ ผู้ทรงปรีชาญาณ

Comment: (333)เพราะบรรดามุมินนั้นเป็นพี่น้องกัน ในการนี้จึงทำดีแก่เขาเหมือนเป็นพี่น้องของพวกเจ้า

Comment: (334)ทรงรู้ว่าใครเป็นผู้ที่ปรับปรุงแก้ไขกิจการของเด็กกำพร้าให้ดีขึ้น และใครเป็นผู้ที่ก่อความเดือดร้อนให้เด็กกำพร้า

Comment: (335)ห้ามมิให้พวกเจ้ากินอยู่ร่วมกับเด็กกำพร้า อันเป็นเหตุให้พวกเจ้าได้รับความลำบาก

2:221

وَلَا تَنكِحُوا۟ ٱلْمُشْرِكَـٰتِ حَتَّىٰ يُؤْمِنَّ ۚ وَلَأَمَةٌۭ مُّؤْمِنَةٌ خَيْرٌۭ مِّن مُّشْرِكَةٍۢ وَلَوْ أَعْجَبَتْكُمْ ۗ وَلَا تُنكِحُوا۟ ٱلْمُشْرِكِينَ حَتَّىٰ يُؤْمِنُوا۟ ۚ وَلَعَبْدٌۭ مُّؤْمِنٌ خَيْرٌۭ مِّن مُّشْرِكٍۢ وَلَوْ أَعْجَبَكُمْ ۗ أُو۟لَـٰٓئِكَ يَدْعُونَ إِلَى ٱلنَّارِ ۖ وَٱللَّهُ يَدْعُوٓا۟ إِلَى ٱلْجَنَّةِ وَٱلْمَغْفِرَةِ بِإِذْنِهِۦ ۖ وَيُبَيِّنُ ءَايَـٰتِهِۦ لِلنَّاسِ لَعَلَّهُمْ يَتَذَكَّرُونَ

Translation: และพวกเจ้าจงอย่าแต่งงานกับหญิงมุชริก(336) จนกว่านางจะศรัทธา(337) และทาสหญิงที่เป็นผู้ศรัทธานั้นดียิ่งกว่าหญิงที่เป็นมุชริก แม้ว่านางได้ทำให้พวกเจ้าพึงใจก็ตาม และพวกเจ้าจงอย่าจัดการแต่งงานให้กับบรรดาชายมุชริก(338) จนกว่าพวกเขาจะศรัทธา และทาสชายที่เป็นผู้ศรัทธานั้นดีกว่าชายมุชริก และแม้ว่าเขาได้ทำให้พวกเจ้าพึงใจก็ตาม ชนเหล่านี้แหละจะชักชวนไปสู่ไฟนรกและอัลลอฮ์นั้นทรงเชิญชวนไปสู่สวรรค์ และไปสู่การอภัยโทษ ด้วยอนุมัติของพระองค์ และพระองค์จะทรงแจกแจงบรรดาโองการของพระองค์แก่มนุษย์ เพื่อว่าพวกเขาจะได้รำลึก

Comment: (336)หญิงที่มีภาคีต่ออัลลอฮ์ หรือเคารพสักการะเจว็ด ร่วมกับการเคารพสักการะอัลลอฮ์

Comment: (337)ศรัทธาด้วยความจริงใจ มิใช่เพื่อประโยชน์อย่างอื่น

Comment: (338)จงอย่าจัดการแต่งงานหญิงมุมินะฮ์ให้แก่ชายมุชริก

2:222

وَيَسْـَٔلُونَكَ عَنِ ٱلْمَحِيضِ ۖ قُلْ هُوَ أَذًۭى فَٱعْتَزِلُوا۟ ٱلنِّسَآءَ فِى ٱلْمَحِيضِ ۖ وَلَا تَقْرَبُوهُنَّ حَتَّىٰ يَطْهُرْنَ ۖ فَإِذَا تَطَهَّرْنَ فَأْتُوهُنَّ مِنْ حَيْثُ أَمَرَكُمُ ٱللَّهُ ۚ إِنَّ ٱللَّهَ يُحِبُّ ٱلتَّوَّٰبِينَ وَيُحِبُّ ٱلْمُتَطَهِّرِينَ

Translation: และพวกเขาจะถามเจ้าเกี่ยวกับประจำเดือน(339) จงกล่าวเถิดว่า มันเป็นสิ่งที่ให้โทษ ดังนั้นพวกเจ้าจงผละจากหญิง(340) ในขณะมีประจำเดือน และจงอย่าเข้าใกล้นาง(341) จนกว่านางจะสะอาด ครั้นเมื่อนางได้ชำระร่างกายสะอาดแล้ว(342) ก็จงมาหานางตามที่อัลลอฮ์ทรงใช้พวกท่าน(343) แท้จริง อัลลอฮ์ทรงชอบบรรดาผู้สำนึกผิดกลับตัว และทรงรักบรรดาผู้ที่ทำตนให้สะอาด

Comment: (339)เกี่ยวกับการสมสู่กับภรรยาระหว่างมาประจำเดือน

Comment: (340)จงอย่าสมสู่ภรรยา

Comment: (341)หมายถึงมิให้สมสู่ภรรยา

Comment: (342)เมื่ออาบน้ำหมดประจำเดือนแล้ว

Comment: (343)อนุมัติให้สมสู่ภรรยาได้ตามขอบเขตที่อัลลอฮ์ทรงกำหนดไว้

2:223

نِسَآؤُكُمْ حَرْثٌۭ لَّكُمْ فَأْتُوا۟ حَرْثَكُمْ أَنَّىٰ شِئْتُمْ ۖ وَقَدِّمُوا۟ لِأَنفُسِكُمْ ۚ وَٱتَّقُوا۟ ٱللَّهَ وَٱعْلَمُوٓا۟ أَنَّكُم مُّلَـٰقُوهُ ۗ وَبَشِّرِ ٱلْمُؤْمِنِينَ

Translation: บรรดาผู้หญิงของพวกเจ้านั้น(344) คือแหล่งเพาะปลูกของพวกเจ้า ดังนั้นพวกเจ้าจงมายังแหล่งเพาะปลูกของพวกเจ้า(345) ตามที่พวกเจ้าประสงค์ และจงประกอบล่วงหน้าไว้สำหรับตัวของพวกเจ้า และพึงยำเกรงอัลลอฮ์เถิด และพึงรู้ด้วยว่า แท้จริงพวกเจ้านั้นจะเป็นผู้พบกับพระองค์ และเจ้า(346) จงแจ้งข่าวดีแก่บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลายเถิด

Comment: (344)หมายถึงบรรดาภรรยา

Comment: (345)คือแหล่งที่ให้กำเนิดบุตร

Comment: (346)หมายถึงท่านนบีมุฮัมมัด

2:224

وَلَا تَجْعَلُوا۟ ٱللَّهَ عُرْضَةًۭ لِّأَيْمَـٰنِكُمْ أَن تَبَرُّوا۟ وَتَتَّقُوا۟ وَتُصْلِحُوا۟ بَيْنَ ٱلنَّاسِ ۗ وَٱللَّهُ سَمِيعٌ عَلِيمٌۭ

Translation: และพวกเจ้าจงอย่าให้อัลลอฮ์เป็นอุปสรรคขัดขวาง(347) เนื่องจากการสาบานของพวกเจ้าในการที่พวกเจ้าจะกระทำความดีและที่จะมีความยำเกรง และในการที่พวกเจ้าจะประนีประนอมระหว่างผู้คน และอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงรอบรู้

Comment: (347)อย่าสาบานต่ออัลลอฮ์ว่าจะไม่กระทำความดีจะไม่เกรงกลัวอัลลอฮ์ และทำหน้าที่ประนีประนอมระหว่างผู้คนเพราะจะทำให้อัลลอฮ์เป็นอุปสรรค์ขัดขวางการปฏิบัติดังกล่าวอันนับเป็นสิ่งดีงาม คำว่า “ที่จะมีความยำเกรง” นั้นหมายถึงการปฏิบัติตามบัญญัติศาสนา อันแสดงถึงการมีความยำเกรงต่ออัลลอฮ์

2:225

لَّا يُؤَاخِذُكُمُ ٱللَّهُ بِٱللَّغْوِ فِىٓ أَيْمَـٰنِكُمْ وَلَـٰكِن يُؤَاخِذُكُم بِمَا كَسَبَتْ قُلُوبُكُمْ ۗ وَٱللَّهُ غَفُورٌ حَلِيمٌۭ

Translation: อัลลอฮ์จะไม่ทรงเอาโทษแก่พวกเจ้าด้วยคำพูดพล่อยๆ ในการสาบานของพวกเจ้า แต่ทว่าพระองค์จะทรงเอาโทษแก่พวกเจ้า ด้วยการสาบานที่หัวใจของพวกเจ้ามุ่งหมายด้วย และอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงอภัยโทษผู้ทรงหนักแน่น

2:226

لِّلَّذِينَ يُؤْلُونَ مِن نِّسَآئِهِمْ تَرَبُّصُ أَرْبَعَةِ أَشْهُرٍۢ ۖ فَإِن فَآءُو فَإِنَّ ٱللَّهَ غَفُورٌۭ رَّحِيمٌۭ

Translation: สำหรับบรรดาผู้ที่สาบานว่าจะไม่สมสู่ภรรยาของเขานั้น ให้มีการรอคอยไว้สี่เดือน(348) แล้วถ้าหากเขากลับคืนดี แน่นอนอัลลอฮ์นั้น เป็นผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ

Comment: (348)ถ้าครบสี่เดือนแล้วเขาจะต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่ง กล่าวคือ เขาจะคืนดีหรือหย่าขาด ถ้าเขาไม่คืนดีก็ถือว่าเขาได้อหย่าขาดภรรยาของเขาแล้ว แม้เขาจะไม่ใช้คำหย่าก็ตาม การสาบานที่จะไม่สมสู่กับภรรยานี้เรียกว่า إيلاء – อีลาอ์

2:227

وَإِنْ عَزَمُوا۟ ٱلطَّلَـٰقَ فَإِنَّ ٱللَّهَ سَمِيعٌ عَلِيمٌۭ

Translation: และถ้าพวกเขาปลงใจ ซึ่งการหย่าแล้วไซร้ แน่นอน อัลลอฮ์ผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงรอบรู้

2:228

وَٱلْمُطَلَّقَـٰتُ يَتَرَبَّصْنَ بِأَنفُسِهِنَّ ثَلَـٰثَةَ قُرُوٓءٍۢ ۚ وَلَا يَحِلُّ لَهُنَّ أَن يَكْتُمْنَ مَا خَلَقَ ٱللَّهُ فِىٓ أَرْحَامِهِنَّ إِن كُنَّ يُؤْمِنَّ بِٱللَّهِ وَٱلْيَوْمِ ٱلْـَٔاخِرِ ۚ وَبُعُولَتُهُنَّ أَحَقُّ بِرَدِّهِنَّ فِى ذَٰلِكَ إِنْ أَرَادُوٓا۟ إِصْلَـٰحًۭا ۚ وَلَهُنَّ مِثْلُ ٱلَّذِى عَلَيْهِنَّ بِٱلْمَعْرُوفِ ۚ وَلِلرِّجَالِ عَلَيْهِنَّ دَرَجَةٌۭ ۗ وَٱللَّهُ عَزِيزٌ حَكِيمٌ

Translation: และบรรดาหญิงที่ถูกหย่าร้าง พวกนางจะต้องรอคอยตัวของตนเองสามกุรูอ์(349) และไม่อนุมัติให้แก่พวกนาง ในการที่พวกนางจะปกปิดสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงให้บังเกิดขึ้นในมดลูกของพวกนาง(350) หากพวกนางศรัทธาต่ออัลลอฮ์และวันปรโลกและบรรดาสามีของพวกนางนั้นเป็นผู้มีสิทธิกว่าในการให้พวกนางกลับมาในกรณีดังกล่าว(351) หากพวกเขาปรารถนาประนีประนอมและพวกนางนั้นจะได้นรับเช่นเดียวกับสิ่งที่เป็นหน้าที่ของพวกนางจะต้องปฏิบัติโดยชอบธรรม(352) และสำหรับบรรดาชายนั้นมีฐานะเหนือพวกนางขั้นหนึ่ง และอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงเดชานุภาพ ผู้ทรงปรีชาญาณ

Comment: (349)ให้นางรอคอยจนกว่ามดลูกของนางสะอาดสามครั้ง หรือนางมาประจำเดือนสามครั้ง ดังนี้เนื่องจากมีความเข้าใจแตกต่างกันของนักปราชญ์ในคำว่า “กุรุฮ์” แต่ความเข้าใจว่า “กุรุฮ์” หมายถึง ความสะอาด” นั้น ตรงกับที่ได้เคยปฏิบัติในสมัยร่อซูล

Comment: (350)หมายถึงการปิดบังการตั้งครรภ์ เพื่อต้องการแต่งงานใหม่โดยเร็ว เพราะถ้านางเปิดเผยการตั้งครรภ์ของนางแล้วนางจะต้องรอจนกว่าจะคลอดเสียก่อน

Comment: (351)ในกรณีที่นางรอคอยตัวเองสามกุรุฮ์ หรือในระหว่างที่นางอยู่ใน อิดดะฮ์

Comment: (352)จะได้รับปฏิบัติชอบจากสามี เช่นเดียวกับที่พวกนางมีหน้าที่จะต้องปฏิบัติชอบแก่สามี กล่าวคือต่างฝ่ายต่างกระทำความดีเป็นการแลกเปลี่ยนกัน

2:229

ٱلطَّلَـٰقُ مَرَّتَانِ ۖ فَإِمْسَاكٌۢ بِمَعْرُوفٍ أَوْ تَسْرِيحٌۢ بِإِحْسَـٰنٍۢ ۗ وَلَا يَحِلُّ لَكُمْ أَن تَأْخُذُوا۟ مِمَّآ ءَاتَيْتُمُوهُنَّ شَيْـًٔا إِلَّآ أَن يَخَافَآ أَلَّا يُقِيمَا حُدُودَ ٱللَّهِ ۖ فَإِنْ خِفْتُمْ أَلَّا يُقِيمَا حُدُودَ ٱللَّهِ فَلَا جُنَاحَ عَلَيْهِمَا فِيمَا ٱفْتَدَتْ بِهِۦ ۗ تِلْكَ حُدُودُ ٱللَّهِ فَلَا تَعْتَدُوهَا ۚ وَمَن يَتَعَدَّ حُدُودَ ٱللَّهِ فَأُو۟لَـٰٓئِكَ هُمُ ٱلظَّـٰلِمُونَ

Translation: การหย่านั้นมีสองครั้ง(353) แล้วให้มีการยับยั้งไว้โดยชอบธรรม หรือไม่ก็ปล่อยไปพร้อมด้วยการทำความดี(354) และไม่อนุญาตแก่พวกเจ้าในการที่พวกเจ้าจะเอาสิ่งหนึ่งสิ่งใดจากสิ่งที่พวกเจ้าได้ให้แก่พวกนาง (มะฮัร) นอกจากทั้งสองเกรงว่าจะไม่สามารถดำรงไว้ซึ่งขอบเขตของอัลลอฮ์ได้เท่านั้น(355) ถ้าหากพวกเจ้าเกรงว่า เขาทั้งสองจะไม่ดำรงไว้ซึ่งขอบเขตของอัลลอฮ์แล้วไซร้ ก็ไม่มีบาปใด ๆ แก่เขาทั้งสองในสิ่งที่นางใช้มันไถ่ตัวนาง เหล่านั้นแหละคือ ขอบเขตของอัลลอฮ์พวกเจ้าจงอย่าละเมิดมัน และผู้ใดละเมิดขอบเขตของอัลลอฮ์แล้ว ชนเหล่านั้นแหละคือผู้ที่อธรรมแก่ตัวเอง

Comment: (353)การหย่าที่จะคืนดีกันได้นั้นมีเพียงสองครั้งเท่านั้น คือการหย่าครั้งที่หนึ่งและครั้งที่สอง

Comment: (354)ให้นางขาดจากการเป็นภรรยา พร้อมกับจ่ายทรัพย์ให้แก่นางบ้างตามสมควร และไม่พูดให้นางได้รับความเสื่อมเสีย เพื่อนางจะได้เป็นที่สนใจของชายอื่นต่อไป

Comment: (355)บัญญัติของอัลลอฮ์ อันพึงปฏิบัติระหว่างสามีภรรยา

2:230

فَإِن طَلَّقَهَا فَلَا تَحِلُّ لَهُۥ مِنۢ بَعْدُ حَتَّىٰ تَنكِحَ زَوْجًا غَيْرَهُۥ ۗ فَإِن طَلَّقَهَا فَلَا جُنَاحَ عَلَيْهِمَآ أَن يَتَرَاجَعَآ إِن ظَنَّآ أَن يُقِيمَا حُدُودَ ٱللَّهِ ۗ وَتِلْكَ حُدُودُ ٱللَّهِ يُبَيِّنُهَا لِقَوْمٍۢ يَعْلَمُونَ

Translation: ถ้าหากเขาได้หย่านางอีก(356) นางก็ไม่เป็นที่อนุมัติแก่เขาหลังจากนั้น จนกว่าจะแต่งงานกับสามีอื่นจากเขา(357) แล้วหากสามีนั้นหย่านาง ก็ไม่มีบาปใด ๆ แก่ทั้งสอง(358) ที่จะคืนดีกันใหม่ หากเขาทั้งสองคิดว่า จะดำรงไว้ซึ่งขอบเขตของอัลลอฮ์ได้ และนั่นแหละคือขอบเขตของอัลลอฮ์ซึ่งพระองค์ทรงแจกแจงมันอย่างแจ่มแจ้งแก่กลุ่มชนที่รู้ดี

Comment: (356)หย่าภรรยาเป็นครั้งที่สาม

Comment: (357)แต่งงานกับชายอื่น ด้วยความสมัครรักใคร่กัน มิใช่เป็นการจ้างชายอื่นให้แต่งงานกับนาง แล้วทำการหย่านางเพื่อให้นางสามารถคืนดีกับสามีเก่าได้ การกระทำดังกล่าวนอกจากจะเป็นการฝ่าฝืนบัญญัติของอัลลอฮ์แล้ว ยังเป็นการหลอกลวงพระองค์อีกด้วย

Comment: (358)แก่นางและสามีเก่าของนาง

2:231

وَإِذَا طَلَّقْتُمُ ٱلنِّسَآءَ فَبَلَغْنَ أَجَلَهُنَّ فَأَمْسِكُوهُنَّ بِمَعْرُوفٍ أَوْ سَرِّحُوهُنَّ بِمَعْرُوفٍۢ ۚ وَلَا تُمْسِكُوهُنَّ ضِرَارًۭا لِّتَعْتَدُوا۟ ۚ وَمَن يَفْعَلْ ذَٰلِكَ فَقَدْ ظَلَمَ نَفْسَهُۥ ۚ وَلَا تَتَّخِذُوٓا۟ ءَايَـٰتِ ٱللَّهِ هُزُوًۭا ۚ وَٱذْكُرُوا۟ نِعْمَتَ ٱللَّهِ عَلَيْكُمْ وَمَآ أَنزَلَ عَلَيْكُم مِّنَ ٱلْكِتَـٰبِ وَٱلْحِكْمَةِ يَعِظُكُم بِهِۦ ۚ وَٱتَّقُوا۟ ٱللَّهَ وَٱعْلَمُوٓا۟ أَنَّ ٱللَّهَ بِكُلِّ شَىْءٍ عَلِيمٌۭ

Translation: และเมื่อพวกเจ้าหย่าบรรดาหญิง แล้วพวกนางถึงกำหนดเวลา(359) ของพวกนางแล้ว ก็จงยับยั้งนางไว้โดยชอบธรรม หรือไม่ก็จงปล่อยนางไปโดยชอบธรรม และพวกเจ้าจงอย่ายับยั้งพวกนางไว้ โดยมุ่งก่อความเดือดร้อน เพื่อพวกเจ้าจะได้ข่มเหงรังแก(360) และผู้ใดกระทำเช่นนั้น แน่นอนเขาก็ข่มเหงตนเอง และจงอย่าถือเอาโองการของอัลลอฮ์เป็นที่เย้ยหยัน และพึงรำลึกถึงความเมตตาของอัลลอฮ์ที่มีแก่พวกเจ้า และสิ่งที่พระองค์ได้ทรงประทานลงมาแก่พวกเจ้าอันได้แก่คัมภีร์ และบทบัญญัติ(ที่มีอยู่ในคัมภีร์นั้น) ซึ่งพระองค์จะทรงใช้คัมภีร์นั้นแนะนำตักเตือนพวกเจ้า และพวกเจ้าพึงยำเกรงอัลลอฮ์เถิด และจงรู้ด้วยเถิดว่า แท้จริงอัลลอฮ์นั้นทรงรอบรู้ในทุกสิ่งทุกอย่าง

Comment: (359)หมายถึงใกล้ที่จะหมดเวลาของอิดดะฮ์

Comment: (360)จะได้หาทางให้นางคืนมะอัรให้แก่พวกเขา เป็นการไถ่ตัวนางให้เป็นอิสระจากพวกเขา อันเป็นการกระทำที่ละเมิดบัญญัติศาสนา

2:232

وَإِذَا طَلَّقْتُمُ ٱلنِّسَآءَ فَبَلَغْنَ أَجَلَهُنَّ فَلَا تَعْضُلُوهُنَّ أَن يَنكِحْنَ أَزْوَٰجَهُنَّ إِذَا تَرَٰضَوْا۟ بَيْنَهُم بِٱلْمَعْرُوفِ ۗ ذَٰلِكَ يُوعَظُ بِهِۦ مَن كَانَ مِنكُمْ يُؤْمِنُ بِٱللَّهِ وَٱلْيَوْمِ ٱلْـَٔاخِرِ ۗ ذَٰلِكُمْ أَزْكَىٰ لَكُمْ وَأَطْهَرُ ۗ وَٱللَّهُ يَعْلَمُ وَأَنتُمْ لَا تَعْلَمُونَ

Translation: และเมื่อพวกเจ้าหย่าบรรดาหญิง แล้วนางเหล่านั้นได้ถึงกำหนดเวลาของพวกนาง ก็จงอย่าขัดขวางพวกนางในการที่พวกนางจะแต่งกับบรรดาคู่ครองของพวกนาง(361) เมื่อพวกเขาต่างพอใจกันระหว่างพวกเขาโดยชอบธรรม นั่นแหละคือ สิ่งที่จะถูกนำมาแนะนำตักเตือนแก่ผู้ที่ศรัทธาต่ออัลลอฮ์และวันปรโลก นั่นแหละคือสิ่งที่บริสุทธิ์กว่า และสะอาดกว่า สำหรับพวกเจ้าและอัลลอฮ์นั้นทรงรู้ แต่พวกเจ้าไม่รู้

Comment: (361)คู่ครองของพวกนางนั้นจะเป็นสามีเดิมของพวกนางหรือคู่ครองใหม่ก็ตาม

2:233

۞ وَٱلْوَٰلِدَٰتُ يُرْضِعْنَ أَوْلَـٰدَهُنَّ حَوْلَيْنِ كَامِلَيْنِ ۖ لِمَنْ أَرَادَ أَن يُتِمَّ ٱلرَّضَاعَةَ ۚ وَعَلَى ٱلْمَوْلُودِ لَهُۥ رِزْقُهُنَّ وَكِسْوَتُهُنَّ بِٱلْمَعْرُوفِ ۚ لَا تُكَلَّفُ نَفْسٌ إِلَّا وُسْعَهَا ۚ لَا تُضَآرَّ وَٰلِدَةٌۢ بِوَلَدِهَا وَلَا مَوْلُودٌۭ لَّهُۥ بِوَلَدِهِۦ ۚ وَعَلَى ٱلْوَارِثِ مِثْلُ ذَٰلِكَ ۗ فَإِنْ أَرَادَا فِصَالًا عَن تَرَاضٍۢ مِّنْهُمَا وَتَشَاوُرٍۢ فَلَا جُنَاحَ عَلَيْهِمَا ۗ وَإِنْ أَرَدتُّمْ أَن تَسْتَرْضِعُوٓا۟ أَوْلَـٰدَكُمْ فَلَا جُنَاحَ عَلَيْكُمْ إِذَا سَلَّمْتُم مَّآ ءَاتَيْتُم بِٱلْمَعْرُوفِ ۗ وَٱتَّقُوا۟ ٱللَّهَ وَٱعْلَمُوٓا۟ أَنَّ ٱللَّهَ بِمَا تَعْمَلُونَ بَصِيرٌۭ

Translation: และมารดาทั้งหลายนั้น(362) จะให้นมแก่ลูก ๆ ของนางภายในสองปีเต็ม สำหรับผู้ที่ต้องการ(363) จะให้ครบถ้วนในการให้นม และหน้าที่ของพ่อเด็กนั้นคือ(การให้)ปัจจัยยังชีพของพวกนางและเครื่องนุ่งห่มของพวกนางโดยชอบธรรม(364) ไม่มีชีวิตใดจะถูกบังคับนอกจากเท่าที่ชีวิตนั้นมีกำลังความสามารถเท่านั้น มารดาก็จงอย่าได้ก่อความเดือดร้อน(ให้แก่สามี) เนื่องด้วยลูกของนาง และพ่อเด็กก็จงอย่าได้ก่อความเดือดร้อน(ให้แก่ภรรยา) เนื่องด้วยลูกของเขา(365) และหน้าที่ของทายาทผู้รับมรดกก็เช่นเดียวกัน(366) แต่ถ้าทั้งสองต้องการหย่านม อันเกิดจากความพอใจ และการปรึกษาหารือกันจากทั้งสองคนแล้ว ก็ไม่มีบาปใดๆ แก่เขาทั้งสอง และหากพวกเจ้าประสงค์ที่จะให้มีแม่นมขึ้นแก่ลูก ๆ ของพวกเจ้าแล้วก็ย่อมไม่มีบาปใด ๆ แก่พวกเจ้า เมื่อพวกเจ้าได้มอบสิ่งที่พวกเจ้าให้(แก่นางเป็นค่าตอบแทน) โดยชอบธรรม(367) และจงยำเกรงอัลลอฮ์เถิด และพึงรู้ด้วยว่า แท้จริงอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงเห็นในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำ

Comment: (362)หมายถึงมารดาของเด็กที่สามีเดิมของพวกนางหรือคู่ครองใหม่ก็ตาม

Comment: (363)หมายถึงพ่อของเด็ก

Comment: (364)เป็นหน้าที่ของพ่อเด็ก ที่จะต้องให้ปัจจัยยังชีพและเครื่องนุ่งห่มแก่นางโดยชอบธรรม

Comment: (365)แต่ละฝ่ายจากภรรยาและสามีนั้นจะต้องไม่ทำให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดได้รับความเดือดร้อน โดยใช้ลูกเป็นสิ่งต่อรอง

Comment: (366)ถ้าพ่อเด็กเสียชีวิต ทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกจากเด็กจะต้องจ่ายเงินค่านมและสิ่งอื่น ๆ แทนพ่อเด็ก

Comment: (367)เงินที่เป็นค่าจ้างของแม่นม

2:234

وَٱلَّذِينَ يُتَوَفَّوْنَ مِنكُمْ وَيَذَرُونَ أَزْوَٰجًۭا يَتَرَبَّصْنَ بِأَنفُسِهِنَّ أَرْبَعَةَ أَشْهُرٍۢ وَعَشْرًۭا ۖ فَإِذَا بَلَغْنَ أَجَلَهُنَّ فَلَا جُنَاحَ عَلَيْكُمْ فِيمَا فَعَلْنَ فِىٓ أَنفُسِهِنَّ بِٱلْمَعْرُوفِ ۗ وَٱللَّهُ بِمَا تَعْمَلُونَ خَبِيرٌۭ

Translation: และบรรดาผู้ที่ถึงแก่ชีวิตลงในหมู่พวกเจ้า และทิ้งคู่ครองไว้นั้น พวกนางจะต้องรอคอยตัวของพวกนางเอง(368) สี่เดือนกับสิบวัน ครั้นเมื่อพวกนางครบกำหนดเวลาของพวกนางแล้ว ก็ไม่มีบาปใด ๆ แก่พวกเจ้า(369) ในสิ่งที่พวกนางได้กระทำไปในส่วนตัวของพวกนางโดยชอบธรรม(370) และอัลลอฮ์นั้นทรงรอบรู้อย่างละเอียด ในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำ

Comment: (368)รอคอยเวลาที่ถูกกำหนดแก่นาง (อิดดะฮ์วะฟาต) ในบ้านของสามีในฐานะผู้ไว้ทุกข์สี่เดือนกับสิบวัน

Comment: (369)หมายถึงผู้ปกครองของพวกนาง

Comment: (370)ในสิ่งที่นางได้ปฏิบัติตนโดยชอบเยี่ยงสตรีโดยทั่วไป เช่นการแต่งตัว ออกจากบ้านสามีไปอยู่กับบิดามารดาของนางหรือญาติพี่น้องของนาง หรือรับตอบการแต่งงานจากชายที่ประสงค์จะแต่งงานด้วย

2:235

وَلَا جُنَاحَ عَلَيْكُمْ فِيمَا عَرَّضْتُم بِهِۦ مِنْ خِطْبَةِ ٱلنِّسَآءِ أَوْ أَكْنَنتُمْ فِىٓ أَنفُسِكُمْ ۚ عَلِمَ ٱللَّهُ أَنَّكُمْ سَتَذْكُرُونَهُنَّ وَلَـٰكِن لَّا تُوَاعِدُوهُنَّ سِرًّا إِلَّآ أَن تَقُولُوا۟ قَوْلًۭا مَّعْرُوفًۭا ۚ وَلَا تَعْزِمُوا۟ عُقْدَةَ ٱلنِّكَاحِ حَتَّىٰ يَبْلُغَ ٱلْكِتَـٰبُ أَجَلَهُۥ ۚ وَٱعْلَمُوٓا۟ أَنَّ ٱللَّهَ يَعْلَمُ مَا فِىٓ أَنفُسِكُمْ فَٱحْذَرُوهُ ۚ وَٱعْلَمُوٓا۟ أَنَّ ٱللَّهَ غَفُورٌ حَلِيمٌۭ

Translation: และไม่มีบาปใดๆ แก่พวกเจ้า ในสิ่งที่พวกเจ้ากล่าวเป็นนัยในการขอสตรี(371) และสิ่งที่พวกเจ้าเก็บงำไว้ในใจของพวกเจ้า(372) อัลลอฮ์ทรงรู้ว่า พวกเจ้าจะบอกกล่าวแก่นางให้ทราบ แต่ทว่าพวกเจ้าอย่าได้สัญญาแก่นางเป็นการลับ นอกจากพวกเจ้าจะกล่าวถ้อยคำอันดีเท่านั้น(373) และจงอย่าปลงใจซึ่งการทำพิธีแต่งงาน จนกว่าเวลาที่ถูกกำหนดไว้จะบรรลุถึงความสิ้นสุดของมัน(374) และพึงรู้เถิดว่าแท้จริงอัลลอฮ์ทรงรู้สิ่งที่อยู่ในจิตใจของพวกเจ้า พวกเจ้าจงสังวรณ์พระองค์ไว้เถิด(375) และพึงรู้ไว้เถิดว่า อัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงหนักแน่น

Comment: (371)หญิงที่อยู่ในระหว่างอิดดะฮ์ที่สามีเสียชีวิต หรืออิดดะฮ์ที่สามีหย่าครั้งที่สามเท่านั้น

Comment: (372)นึกในใจว่าจะแต่งงานกับนาง

Comment: (373)ถ้อยคำที่ไม่หยาบคาย หรือเป็นที่ละอาย

Comment: (374)จนกว่านางจะครบกำหนดอิดดะฮ์ของนาง

Comment: (375)จงระมัดระวังอย่าให้พระองค์ทรงกริ้ว ทั้งนี้ด้วยการปฏิบัติในสิ่งที่พระองค์ทรงบัญญัติไว้

2:236

لَّا جُنَاحَ عَلَيْكُمْ إِن طَلَّقْتُمُ ٱلنِّسَآءَ مَا لَمْ تَمَسُّوهُنَّ أَوْ تَفْرِضُوا۟ لَهُنَّ فَرِيضَةًۭ ۚ وَمَتِّعُوهُنَّ عَلَى ٱلْمُوسِعِ قَدَرُهُۥ وَعَلَى ٱلْمُقْتِرِ قَدَرُهُۥ مَتَـٰعًۢا بِٱلْمَعْرُوفِ ۖ حَقًّا عَلَى ٱلْمُحْسِنِينَ

Translation: ไม่มีบาปใด ๆ แก่พวกเจ้า ถ้าหากพวกเจ้าหย่าหญิง โดยที่พวกเจ้ายังมิได้แตะต้องพวกนาง(376) หรือยังมิได้กำหนดมะฮัรใดๆ แก่พวกนาง และจงให้นางได้รับสิ่งที่อำนวยประโยชน์แก่พวกนาง(377) โดยที่หน้าที่ของผู้มั่งมีนั้นคือตามกำลังความสามารถของเขา และหน้าที่ของผู้ยากจนนั้นคือตามกำลังความสามารถของเขา เป็นการให้ประโยชน์โดยชอบธรรม เป็นสิทธิเหนือผู้กระทำดีทั้งหลาย

Comment: (376)หมายถึงยังมิได้สมสู่นาง

Comment: (377)จงจ่ายทรัพย์ให้แก่นางตามสมควร ทั้งนี้เป็นการปลอบใจนาง และเพื่อมิให้คนอื่นเข้าใจในตัวนางผิดว่า นางเป็นผู้บกพร่องไม่เหมาะสมจะเป็นคู่ครอง

2:237

وَإِن طَلَّقْتُمُوهُنَّ مِن قَبْلِ أَن تَمَسُّوهُنَّ وَقَدْ فَرَضْتُمْ لَهُنَّ فَرِيضَةًۭ فَنِصْفُ مَا فَرَضْتُمْ إِلَّآ أَن يَعْفُونَ أَوْ يَعْفُوَا۟ ٱلَّذِى بِيَدِهِۦ عُقْدَةُ ٱلنِّكَاحِ ۚ وَأَن تَعْفُوٓا۟ أَقْرَبُ لِلتَّقْوَىٰ ۚ وَلَا تَنسَوُا۟ ٱلْفَضْلَ بَيْنَكُمْ ۚ إِنَّ ٱللَّهَ بِمَا تَعْمَلُونَ بَصِيرٌ

Translation: และถ้าหากพวกเจ้าหย่าพวกนางก่อนที่พวกเจ้าจะแตะต้องพวกนาง(378) โดยที่พวกเจ้าได้กำหนดมะฮัรแก่นางแล้ว ก็จงให้แก่นางครึ่งหนึ่งของสิ่งที่พวกเจ้ากำหนดไว้ นอกจากว่าพวกนางจะยกให้หรือผู้ที่การตกลงแต่งงานอยู่ในมือของเขา(379) จะยกให้และการที่พวกเจ้าจะยกให้นั้น เป็นสิ่งที่ใกล้แก่ความยำเกรงมากกว่า และพวกเจ้าอย่าลืมการทำคุณในระหว่างพวกเจ้า แท้จริงอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงเห็นในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำกัน

Comment: (378)ก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์กับนาง

Comment: (379)ผู้ที่เป็นสามี

2:238

حَـٰفِظُوا۟ عَلَى ٱلصَّلَوَٰتِ وَٱلصَّلَوٰةِ ٱلْوُسْطَىٰ وَقُومُوا۟ لِلَّهِ قَـٰنِتِينَ

Translation: พวกเจ้าจงรักษาบรรดาละหมาดไว้ และละหมาดที่อยู่กึ่งกลาง(380) และจงยืนละหมาดเพื่ออัลลอฮ์โดยนอบน้อม

Comment: (380)ให้ทำละหมาดฟัรดู ห้าเวลาเป็นประจำ เฉพาะอย่างยิ่งละหมาดเวลาอัศริ ควรขะมักเขม้นให้มาก และบุคคลมักจะละเลยการเรียกละหมาดอัศรินี้ว่า ละหมาดกึ่งกลางก็เพราะ อยู่กึ่งกลางระหว่างละหมาดห้าเวลา

2:239

فَإِنْ خِفْتُمْ فَرِجَالًا أَوْ رُكْبَانًۭا ۖ فَإِذَآ أَمِنتُمْ فَٱذْكُرُوا۟ ٱللَّهَ كَمَا عَلَّمَكُم مَّا لَمْ تَكُونُوا۟ تَعْلَمُونَ

Translation: ถ้าพวกเจ้ากลัว ก็จงละหมาดพลางเดินหรือขี่พาหนะ(381) ครั้นเมื่อพวกเจ้าปลอดภัยแล้ว ก็จงกล่าวรำลึกถึงอัลลอฮ์(382) ดังที่พระองค์ได้ทรงสอนพวกเจ้าซึ่งสิ่งที่พวกเจ้ามิเคยรู้มาก่อน

Comment: (381)คือให้ละหมาดขณะที่เดิน หรือขณะที่ขับขี่พาหนะ อันเป็นการละหมาดระหว่างสงคราม

Comment: (382)คือให้ขอบคุณต่ออัลลอฮ์ ด้วยการปฏิบัติตามบทบัญญัติ เยี่ยงที่พระองค์ได้ทรงสอนพวกเขาไว้

2:240

وَٱلَّذِينَ يُتَوَفَّوْنَ مِنكُمْ وَيَذَرُونَ أَزْوَٰجًۭا وَصِيَّةًۭ لِّأَزْوَٰجِهِم مَّتَـٰعًا إِلَى ٱلْحَوْلِ غَيْرَ إِخْرَاجٍۢ ۚ فَإِنْ خَرَجْنَ فَلَا جُنَاحَ عَلَيْكُمْ فِى مَا فَعَلْنَ فِىٓ أَنفُسِهِنَّ مِن مَّعْرُوفٍۢ ۗ وَٱللَّهُ عَزِيزٌ حَكِيمٌۭ

Translation: และบรรดาผู้ที่จะถึงแก่ชีวิตลงในหมู่พวกเจ้า และทิ้งคู่ครองไว้นั้น จงให้มีพินัยกรรมไว้แก่คู่ครองของพวกนาง ซึ่งสิ่งอำนวยประโยชน์(แก่นาง) ถึงหนึ่งปี โดยไม่มีการขับไล่ใดๆ(383) แก่พวกเจ้าในสิ่งที่พวกนางได้กระทำในส่วนตัวของพวกนางจากสิ่งที่ชอบธรรม และอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงเดชานุภาพ ผู้ทรงปรีชาญาณ

Comment: (383)หมายถึงขับไล่ออกจากบ้านของสามี

2:241

وَلِلْمُطَلَّقَـٰتِ مَتَـٰعٌۢ بِٱلْمَعْرُوفِ ۖ حَقًّا عَلَى ٱلْمُتَّقِينَ

Translation: และสำหรับบรรดาหญิงที่ถูกหย่านั้นจะได้รับสิ่งอำนวยประโยชน์โดยชอบธรรม(384) เป็นสิทธิเหนือผู้ยำเกรงทั้งหลาย

Comment: (384)จะได้รับค่าใช้จ่ายจากสามีตามสมควร

2:242

كَذَٰلِكَ يُبَيِّنُ ٱللَّهُ لَكُمْ ءَايَـٰتِهِۦ لَعَلَّكُمْ تَعْقِلُونَ

Translation: ในทำนองนั้นแหละ อัลลอฮ์จะทรงแจกแจงบรรดาโองการของพระองค์ให้พวกเจ้าทราบ เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้เข้าใจ

2:243

۞ أَلَمْ تَرَ إِلَى ٱلَّذِينَ خَرَجُوا۟ مِن دِيَـٰرِهِمْ وَهُمْ أُلُوفٌ حَذَرَ ٱلْمَوْتِ فَقَالَ لَهُمُ ٱللَّهُ مُوتُوا۟ ثُمَّ أَحْيَـٰهُمْ ۚ إِنَّ ٱللَّهَ لَذُو فَضْلٍ عَلَى ٱلنَّاسِ وَلَـٰكِنَّ أَكْثَرَ ٱلنَّاسِ لَا يَشْكُرُونَ

Translation: เจ้ามิได้มองดู(385) บรรดาผู้ที่ออกจากบ้านของพวกเขาดอกหรือ(386) ทั้งๆ ที่พวกเขามีจำนวนพันๆ คน ทั้งนี้เพราะกลัวความตาย และอัลลอฮ์ก็ได้ประกาศิตแก่พวกเขาว่า พวกเจ้าจงตายเสียเถิด ภายหลังพระองค์ทรงให้พวกเขามีชีวิตขึ้นใหม่(387) แท้จริงอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้มีบุญคุณแก่มนุษย์ แต่ทว่ามนุษย์ส่วนมากไม่ขอบพระคุณ

Comment: (385)คำว่า “มองดู” ในที่นี้หมายถึงรู้ เพราะเหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นในอดีต การที่ใช้คำว่า “มองดู” นั้น ก็เพื่อให้เห็นเป็นภาพพจน์ประหนึ่งว่าเหตุการณ์นั้นกำลังเกิดขึ้นต่อหน้า

Comment: (386)หมายถึงพวกนบีอิสรออีลพากันหนีศัตรู

Comment: (387)พวกก็อดยานีบิดเบือนไปว่า คำว่า “ตาย” นั้น หมายถึง “ชนรุ่นหนึ่งสูญไปหรือเสื่อมโทรมไป และคำว่า “มีชีวิตขึ้น” หมายถึง “มีชนรุ่นใหม่เกิดขึ้น (จากกรุอานมะญีด หน้า 87) การที่เขาบิดเบือนดังกล่าวเนื่องจากเขาเข้าใจผิดไปว่ามนุษย์นั้นเมื่อตายแล้ว จะฟื้นคืนชีพเฉพาะในวันกิยามะฮ์เท่านั้น ไม่มีการฟื้นคืนชีพในโลกนี้ ด้วยเหตุนี้เขาจึงตีความทุกอายะฮ์ที่เกี่ยวกับความตายว่า “นอน” บ้าง “สลบ” บ้างและที่เกี่ยวกับการฟื้นคืนชีพว่า “ตื่นขึ้น” บ้าง และ “รู้สึกตัว” บ้างทั้งนี้โดยมีเจตนาบิดเบือน

2:244

وَقَـٰتِلُوا۟ فِى سَبِيلِ ٱللَّهِ وَٱعْلَمُوٓا۟ أَنَّ ٱللَّهَ سَمِيعٌ عَلِيمٌۭ

Translation: และพวกเจ้าจงต่อสู้ในทางของอัลลอฮ์เถิด และพึงรู้ด้วยว่า แท้จริงอัลลอฮ์นั้น เป็นผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงรอบรู้

2:245

مَّن ذَا ٱلَّذِى يُقْرِضُ ٱللَّهَ قَرْضًا حَسَنًۭا فَيُضَـٰعِفَهُۥ لَهُۥٓ أَضْعَافًۭا كَثِيرَةًۭ ۚ وَٱللَّهُ يَقْبِضُ وَيَبْصُۜطُ وَإِلَيْهِ تُرْجَعُونَ

Translation: มีใครบ้างไหมที่จะให้อัลลอฮ์ทรงยืมหนี้ที่ดี(388) แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มพูนหนี้(389) นั้น ให้แก่เขามากมายหลายเท่าและอัลลอฮ์ทรงกำไว้ และทรงแบออก(390) และยังพระองค์เท่านั้นพวกเจ้าจะถูกนำกลับไป

Comment: (388)หมายถึงให้บริจาคทรัพย์ในทางของอัลลอฮ์ เพื่อรักษาไว้ซึ่งศาสนาของพระองค์ และยกระดับความเป็นอยู่ของคนยากจน ตลอดจนป้องกันศัตรูที่รุกราน

Comment: (389)จะทรงตอบแทนในทรัพย์ที่บริจาคไปนั้นเป็นจำนวนมากมายถึงเจ็ดร้อยเท่า 2:261

Comment: (390)คำว่า “กำไว้” นั้นหมายถึงพระองค์ทรงมีอำนาจที่จะไม่ทรงให้แก่ใครก็ได้ และคำว่า “ทรงแบออก” นั้น หมายถึงว่าพระองค์จะทรงให้แก่ใครอย่างกว้างขวางก็ได้ ไม่มีใครจะยับยั้งพระองค์ได้

2:246

أَلَمْ تَرَ إِلَى ٱلْمَلَإِ مِنۢ بَنِىٓ إِسْرَٰٓءِيلَ مِنۢ بَعْدِ مُوسَىٰٓ إِذْ قَالُوا۟ لِنَبِىٍّۢ لَّهُمُ ٱبْعَثْ لَنَا مَلِكًۭا نُّقَـٰتِلْ فِى سَبِيلِ ٱللَّهِ ۖ قَالَ هَلْ عَسَيْتُمْ إِن كُتِبَ عَلَيْكُمُ ٱلْقِتَالُ أَلَّا تُقَـٰتِلُوا۟ ۖ قَالُوا۟ وَمَا لَنَآ أَلَّا نُقَـٰتِلَ فِى سَبِيلِ ٱللَّهِ وَقَدْ أُخْرِجْنَا مِن دِيَـٰرِنَا وَأَبْنَآئِنَا ۖ فَلَمَّا كُتِبَ عَلَيْهِمُ ٱلْقِتَالُ تَوَلَّوْا۟ إِلَّا قَلِيلًۭا مِّنْهُمْ ۗ وَٱللَّهُ عَلِيمٌۢ بِٱلظَّـٰلِمِينَ

Translation: เจ้า (มุฮัมมัด) มิได้มองดู(391) พวกหัวหน้าในหมู่วงศ์วานอิสรออีล หลังจากมูซาดอกหรือ? ขณะที่พวกเขาได้กล่าวแก่นบีของพวกเขาคนหนึ่ง(392) ว่า โปรดส่งกษัตริย์องค์หนึ่งมาให้แก่พวกเราเถิด พวกเราจะได้ต่อสู้ในทางของอัลลอฮ์เขากล่าวว่า(393) อาจเป็นไปได้ไหมว่า พวกท่านนั้น ถ้าการสู้รบได้ถูกกำหนดแก่พวกท่านแล้ว พวกท่านจะไม่ต่อสู้ พวกเขากล่าว่า และได้มีสิ่งใดเกิดขึ้นแก่พวกเรากระนั้นหรือ(394) ที่พวกเราจะไม่ต่อสู้ในทางของอัลลอฮ์ทั้งๆ ที่พวกเรา และลูกๆ ของพวกเราถูกขับไล่ออกจากหมู่บ้านของเรา ครั้นเมื่อการสู้รบได้ถูกกำหนดขึ้นแก่พวกเขาแล้ว พวกเขาก็ผินหลังให้ นอกจากส่วนน้อยในหมู่พวกเขาเท่านั้น และอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงรู้ดีต่อบรรดาผู้อธรรมเหล่านั้น

Comment: (391)โปรดดูฟุตโน๊ต อายะฮ์ที่ 243

Comment: (392)มีนามว่า “ซัมวีล”

Comment: (393)แก่นบีของพวกเขามีนามว่า “ซัมวีล”

Comment: (394)ไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงความตั้งใจอันเด็ดเดี่ยวของเราได้

2:247

وَقَالَ لَهُمْ نَبِيُّهُمْ إِنَّ ٱللَّهَ قَدْ بَعَثَ لَكُمْ طَالُوتَ مَلِكًۭا ۚ قَالُوٓا۟ أَنَّىٰ يَكُونُ لَهُ ٱلْمُلْكُ عَلَيْنَا وَنَحْنُ أَحَقُّ بِٱلْمُلْكِ مِنْهُ وَلَمْ يُؤْتَ سَعَةًۭ مِّنَ ٱلْمَالِ ۚ قَالَ إِنَّ ٱللَّهَ ٱصْطَفَىٰهُ عَلَيْكُمْ وَزَادَهُۥ بَسْطَةًۭ فِى ٱلْعِلْمِ وَٱلْجِسْمِ ۖ وَٱللَّهُ يُؤْتِى مُلْكَهُۥ مَن يَشَآءُ ۚ وَٱللَّهُ وَٰسِعٌ عَلِيمٌۭ

Translation: และนบีของพวกเขาก็กล่าวแก่พวกเขาว่า แท้จริงอัลลอฮ์ได้ทรงส่งฎอลูตมาเป็นกษัตริย์แก่พวกท่านแล้ว พวกเขากล่าวว่า เขาจะมีอำนาจเหนือพวกเราได้อย่างไร? ทั้ง ๆ ที่พวกเราเป็นผู้สมควรต่ออำนาจนั้นยิ่งกว่าเขา และทั้งเขาก็มิได้รับทรัพย์สมบัติอันกว้างขวางเขา(นบีของเขา)กล่าวว่า ฮัลลอฮ์ได้ทรงคัดเลือกเขาให้มีอำนาจเหนือพวกท่านแล้ว และได้ทรงเพิ่มให้แก่เขาอีก ซึ่งความกว้างขวางในความรู้ และความสูงใหญ่ในร่างกายและอัลลอฮ์นั้นจะทรงประทานอำนาจของพระองค์ให้แก่ผุ้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงกว้างขวาง ผู้ทรงรอบรู้

2:248

وَقَالَ لَهُمْ نَبِيُّهُمْ إِنَّ ءَايَةَ مُلْكِهِۦٓ أَن يَأْتِيَكُمُ ٱلتَّابُوتُ فِيهِ سَكِينَةٌۭ مِّن رَّبِّكُمْ وَبَقِيَّةٌۭ مِّمَّا تَرَكَ ءَالُ مُوسَىٰ وَءَالُ هَـٰرُونَ تَحْمِلُهُ ٱلْمَلَـٰٓئِكَةُ ۚ إِنَّ فِى ذَٰلِكَ لَـَٔايَةًۭ لَّكُمْ إِن كُنتُم مُّؤْمِنِينَ

Translation: และนบีของพวกเขาได้กล่าวแก่พวกเขาว่า แท้จริง สัญญาณแห่งอำนาจของเขานั้นคือ การที่หีบใบนั้น(395) จะมายังพวกท่าน ในหีบนั้นมีความสงบ(396) จากพระผู้อภิบาลของพวกท่าน และมีส่วนที่เหลือจากสิ่งที่วงศ์วานของมูซา และวงศ์วานของฮารูนได้ละทิ้งไว้(397) โดยที่มลาอิกะฮ์จะแบกมันมา แท้จริงในเรื่องนั้นมีสัญญาณหนึ่งแน่นอนสำหรับพวกท่านหากพวกท่านเป็นผู้ศรัทธา

Comment: (395)หีบที่บรรจุคัมภีร์เตารอตไว้ ซึ่งฝ่ายศัตรูผู้ชนะได้ยึดเอาไป

Comment: (396)หมายถึงคัมภีร์เตารอตเพราะการปฏิบัติตามคัมภีร์นั้นทำให้เกิดความสงบ

Comment: (397)อันได้แก่ไม้เท้าของนบีมูซา เศษแท่นจารึกบัญญัติสิบประการ และเสื้อผ้าของท่านนบีมูซา ตลอดจนสิ่งอื่น ๆ

2:249

فَلَمَّا فَصَلَ طَالُوتُ بِٱلْجُنُودِ قَالَ إِنَّ ٱللَّهَ مُبْتَلِيكُم بِنَهَرٍۢ فَمَن شَرِبَ مِنْهُ فَلَيْسَ مِنِّى وَمَن لَّمْ يَطْعَمْهُ فَإِنَّهُۥ مِنِّىٓ إِلَّا مَنِ ٱغْتَرَفَ غُرْفَةًۢ بِيَدِهِۦ ۚ فَشَرِبُوا۟ مِنْهُ إِلَّا قَلِيلًۭا مِّنْهُمْ ۚ فَلَمَّا جَاوَزَهُۥ هُوَ وَٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ مَعَهُۥ قَالُوا۟ لَا طَاقَةَ لَنَا ٱلْيَوْمَ بِجَالُوتَ وَجُنُودِهِۦ ۚ قَالَ ٱلَّذِينَ يَظُنُّونَ أَنَّهُم مُّلَـٰقُوا۟ ٱللَّهِ كَم مِّن فِئَةٍۢ قَلِيلَةٍ غَلَبَتْ فِئَةًۭ كَثِيرَةًۢ بِإِذْنِ ٱللَّهِ ۗ وَٱللَّهُ مَعَ ٱلصَّـٰبِرِينَ

Translation: ครั้นเมื่อฎอลูตได้นำกำลังทหารออกไป เขาได้กล่าวว่า แท้จริงอัลลอฮ์จะเป็นผู้ทดสอบพวกท่านด้วยแม่น้ำสายหนึ่ง(398) ผู้ใดดื่มน้ำจากแม่น้ำนั้น เขาก็จะไม่ใช่พวกของฉัน และผู้ใดไม่ชิมมัน แท้จริง เขาเป็นพวกของฉัน นอกจากผู้วักน้ำด้วยมือของเขาอุ้งมือหนึ่งเท่านั้น แต่แล้วพวกเขาก็ดื่มน้ำกันจากแม่น้ำนั้น นอกจากส่วนน้อยในหมู่พวกเขาเท่านั้น ครั้นเมื่อ ฎอลูต และบรรดาผู้ศรัทธาที่ร่วมอยู่กับเขาได้ข้ามแม่น้ำนั้นไป พวกเขาก็กล่าวว่า วันนี้พวกเราไม่มีกำลังใดๆ จะต่อสู้กับญาลูต(399) และไพร่พลของเขาได้ บรรดาผู้ที่เชื่อแน่ว่าพวกเขาจะพบกับอัลลอฮ์ได้กล่าวว่า กี่มากน้อยแล้ว พวกน้อยเอาชนะพวกมากได้ ด้วยอนุมัติของอัลลอฮ์และอัลลอฮ์นั้นทรงอยู่กับผู้อดทนทั้งหลาย

Comment: (398)ซึ่งอยู่ระหว่างจอร์แดนกับปาเลสไตน์

Comment: (399)มนุษย์ทรงพลัง ซึ่งเป็นทั้งกษัตริย์และแม่ทัพ

2:250

وَلَمَّا بَرَزُوا۟ لِجَالُوتَ وَجُنُودِهِۦ قَالُوا۟ رَبَّنَآ أَفْرِغْ عَلَيْنَا صَبْرًۭا وَثَبِّتْ أَقْدَامَنَا وَٱنصُرْنَا عَلَى ٱلْقَوْمِ ٱلْكَـٰفِرِينَ

Translation: และเมื่อพวกเขาได้ออกไปประจัญหน้ากับญาลูต และไพร่พลของเขาแล้ว พวกเขาก็กล่าวว่า โอ้พระผู้อภิบาลของพวกข้าพระองค์ ทรงโปรดประทานความอดทนให้แก่พวกข้าพระองค์ด้วยเถิด และโปรดทรงให้มั่นคงซึ่งเท้าของข้าพระองค์ และโปรดทรงช่วยพวกข้าพระองค์ให้ชนะเหนือพวกปฏิเสธศรัทธาทั้งหลาย

2:251

فَهَزَمُوهُم بِإِذْنِ ٱللَّهِ وَقَتَلَ دَاوُۥدُ جَالُوتَ وَءَاتَىٰهُ ٱللَّهُ ٱلْمُلْكَ وَٱلْحِكْمَةَ وَعَلَّمَهُۥ مِمَّا يَشَآءُ ۗ وَلَوْلَا دَفْعُ ٱللَّهِ ٱلنَّاسَ بَعْضَهُم بِبَعْضٍۢ لَّفَسَدَتِ ٱلْأَرْضُ وَلَـٰكِنَّ ٱللَّهَ ذُو فَضْلٍ عَلَى ٱلْعَـٰلَمِينَ

Translation: แล้วพวกเขาก็ยังความปราชัยให้แก่พวกนั้น(400) ด้วยอนุมัติของอัลลอฮ์และดาวูดได้ฆ่าญาลูต และอัลลอฮ์ได้ทรงประทานอำนาจ และความรู้แก่เขา(401) และทรงสอนเขาจากสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์ และหากว่าอัลลอฮ์ไม่ทรงป้องกันมนุษย์ ซึ่งบางส่วนของพวกเขาด้วยอีกบางส่วนแล้วไซร้ แน่นอน แผ่นดินก็ย่อมเสียหายไปแล้ว แต่ทว่า อัลลอฮ์ทรงเป็นผู้มีพระคุณแก่โลกทั้งหลาย

Comment: (400)พวกของญาลูต

Comment: (401)นบีดาวูด

2:252

تِلْكَ ءَايَـٰتُ ٱللَّهِ نَتْلُوهَا عَلَيْكَ بِٱلْحَقِّ ۚ وَإِنَّكَ لَمِنَ ٱلْمُرْسَلِينَ

Translation: นั้นแหละคือบรรดาโองการของอัลลอฮ์ซึ่งเราอ่านโองการเหล่านั้นให้เจ้าฟังด้วยความจริง และแท้จริง เจ้านั้นเป็นผู้หนึ่งในบรรดาร่อซูลทั้งหลาย

2:253

۞ تِلْكَ ٱلرُّسُلُ فَضَّلْنَا بَعْضَهُمْ عَلَىٰ بَعْضٍۢ ۘ مِّنْهُم مَّن كَلَّمَ ٱللَّهُ ۖ وَرَفَعَ بَعْضَهُمْ دَرَجَـٰتٍۢ ۚ وَءَاتَيْنَا عِيسَى ٱبْنَ مَرْيَمَ ٱلْبَيِّنَـٰتِ وَأَيَّدْنَـٰهُ بِرُوحِ ٱلْقُدُسِ ۗ وَلَوْ شَآءَ ٱللَّهُ مَا ٱقْتَتَلَ ٱلَّذِينَ مِنۢ بَعْدِهِم مِّنۢ بَعْدِ مَا جَآءَتْهُمُ ٱلْبَيِّنَـٰتُ وَلَـٰكِنِ ٱخْتَلَفُوا۟ فَمِنْهُم مَّنْ ءَامَنَ وَمِنْهُم مَّن كَفَرَ ۚ وَلَوْ شَآءَ ٱللَّهُ مَا ٱقْتَتَلُوا۟ وَلَـٰكِنَّ ٱللَّهَ يَفْعَلُ مَا يُرِيدُ

Translation: บรรดาร่อซูลเหล่านั้น เราได้ให้บางคนในหมู่พวกเขาดีเด่นกว่าอีกบางคนในหมู่พวกเขานั้น มีผู้ทีอัลลอฮ์ตรัสด้วย(402) และได้ทรงยกบางคนในหมู่พวกเขาขึ้นหลายขั้น(403) และเราได้ให้บรรดาหลักฐานอันชัดแจ้งแก่อีซาบุตรของมัรยัม(404) และเราได้สนับสนุนเขาด้วยวิญญาณแห่งความบริสุทธิ์(405) และหากอัลลอฮ์ทรงประสงค์แล้ว บรรดาชนหลังจากพวกเขา(406) ก็คงไม่ฆ่าฟันกัน หลังจากได้มีบรรดาหลักฐานอันชัดเจนมายังพวกเขา(407) แต่ทว่าพวกเขาขัดแย้งกันแล้วในหมู่พวกเขานั้นมีผู้ที่ศรัทธา และในหมู่พวกเขานั้น มีผู้ที่ปฏิเสธศรัทธา และหากว่าอัลลอฮ์ทรงประสงค์แล้ว(408) พวกเขาก็คงไม่ฆ่าฟันกัน แต่ทว่า อัลลอฮ์นั้นทรงกระทำตามที่พระทรองค์ทรงประสงค์

Comment: (402)โดยไม่มีสื่อกลางเช่น นบีมูซา อะลัยฮิสสลาม

Comment: (403)หมายถึงท่านนบีมุฮัมมัด ซ็อลลัลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

Comment: (404)หมายถึงได้ทรงประทานมัวะญิซาตต่าง ๆ ให้แก่ท่านนบีอีซา

Comment: (405)หมายถึง ญิบรีล

Comment: (406)หลังจากบรรดาร่อซูลของพวกเขา

Comment: (407)หลังจากนบีของพวกเขาได้นำหลักฐานอันชัดเจนมายังพวกเขา

Comment: (408)คือประสงค์ที่จะไม่ให้ฆ่าฟันกัน

2:254

يَـٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوٓا۟ أَنفِقُوا۟ مِمَّا رَزَقْنَـٰكُم مِّن قَبْلِ أَن يَأْتِىَ يَوْمٌۭ لَّا بَيْعٌۭ فِيهِ وَلَا خُلَّةٌۭ وَلَا شَفَـٰعَةٌۭ ۗ وَٱلْكَـٰفِرُونَ هُمُ ٱلظَّـٰلِمُونَ

Translation: บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงบริจาคส่วนหนึ่ง(409) จากสิ่งที่เราได้ให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้าก่อนจากที่วันหนึ่งจะมาถึง(410) ซึ่งในวันนั้นไม่มีการซื้อขาย(411) และไม่มีการเป็นมิตร(412) และไม่มีชะฟาอะฮ์(413) และบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธานั้น คือ พวกที่อธรรม(แก่ตัวเอง)(414)

Comment: (409)ส่วนที่เป็นซะกาต และส่วนที่บัญญัติศาสนาส่งเสริมให้บริจาคด้วยความสมัครใจ

Comment: (410)วันกิยามะฮ์อันเป็นวันชำระสอบสวนเพื่อตอบแทนและลงโทษ

Comment: (411)หมายถึงการไถ่ถอน หรือการชดเชยใด ๆ เพื่อให้พ้นจากการลงโทษ

Comment: (412)ไม่มีมิตรสหายใด ๆ ที่จะให้ความเห็นอกเห็นใจ หรือแบ่งเบาภาระได้ แม้แต่พ่อแม่ พี่น้อง และลูกเมีย ต่างก็หลบหน้าหนี

Comment: (413)การขอความกรุณาต่ออัลลอฮ์ให้ทรงอภัยให้แก่ผู้อื่น

Comment: (414)หมายถึงว่าผู้ที่ปฏิเสธศรัทธานั้น เท่ากับเป็นการข่มเหงตนเอง เพราะทำให้ตนเองได้รับโทษ

2:255

ٱللَّهُ لَآ إِلَـٰهَ إِلَّا هُوَ ٱلْحَىُّ ٱلْقَيُّومُ ۚ لَا تَأْخُذُهُۥ سِنَةٌۭ وَلَا نَوْمٌۭ ۚ لَّهُۥ مَا فِى ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَمَا فِى ٱلْأَرْضِ ۗ مَن ذَا ٱلَّذِى يَشْفَعُ عِندَهُۥٓ إِلَّا بِإِذْنِهِۦ ۚ يَعْلَمُ مَا بَيْنَ أَيْدِيهِمْ وَمَا خَلْفَهُمْ ۖ وَلَا يُحِيطُونَ بِشَىْءٍۢ مِّنْ عِلْمِهِۦٓ إِلَّا بِمَا شَآءَ ۚ وَسِعَ كُرْسِيُّهُ ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضَ ۖ وَلَا يَـُٔودُهُۥ حِفْظُهُمَا ۚ وَهُوَ ٱلْعَلِىُّ ٱلْعَظِيمُ

Translation: อัลลอฮ์นั้น คือ ไม่มีผู้ที่เป็นที่เคารพภักดีใดๆ นอกจากพระองค์เท่านั้น ผู้ทรงมีชีวิต(415) ผู้ทรงบริหารกิจการทั้งหลาย(416) โดยที่การง่วงนอน และการนอนหลับใดๆ จะไม่ครอบงำพระองค์(417) สิ่งที่อยู่ในบรรดาชั้นฟ้าและสิ่งที่อยู่ในแผ่นดินนั้นเป็นของพระองค์ ใครเล่าคือผู้ที่จะขอความช่วยเหลือให้แก่ผู้อื่น ณ ที่พระองค์ได้ นอกจากด้วยอนุมัติของพระองค์เท่านั้น(418) พระองค์ทรงรู้สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าของพวกเขา และสิ่งที่อยู่เบื้องหลังของพวกเขา(419) และพวกเขาจะไม่ล้อมสิ่งใด(420) จากความรู้ของพระองค์ไว้ได้ นอกจากสิ่งที่พระองค์ประสงค์เท่านั้น(421) เก้าอี้พระองค์นั้นกว้างขวางทั่วชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน(422) และการรักษามันทั้งสองก็ไม่เป็นภาระหนักแก่พระองค์(423) และพระองค์นั้นคือผู้ทรงสูงส่ง ผู้ทรงยิงใหญ่

Comment: (415)ทรงมีชีวิตอยู่ตลอดกาลโดยไม่มีกาลอวสาน

Comment: (416)ทั้งในฟากฟ้าและแผ่นดิน

Comment: (417)พระองค์ไม่ทรงง่วงนอน และนอนหลับ นั้นเอง แต่ที่พระองค์ทรงใช้สำนวนว่า “การง่วงนอน และการนอนหลับจะไม่เอาพระองค์” นั้นเป็นการเปรียบเทียบว่า การง่วงนอนก็ดี และการนอนหลับก็ดี ประหนึ่งสิ่งที่มีชีวิตและอิทธิพลสามารถทำให้ผู้คนง่วงนอนและ นอนหลับได้ กระนั้นก็ดีมันจะไม่แตะต้องพระองค์

Comment: (418)นอกจากผู้ที่ได้รับอนุมัติจากพระองค์เท่านั้น

Comment: (419)ทรงรู้สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมาแล้ว และที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

Comment: (420)หมายถึงไม่สามารถล่วงรู้สิ่งหนึ่งสิ่งใดจากความรอบรู้ของพระองค์ได้

Comment: (421)จะรู้ได้เฉพาะสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์จะให้รู้เท่านั้น

Comment: (422)หมายถึงว่าอัลลอฮ์นั้นทรงรอบรู้ในทุกหนทุกแห่งทั้งในฟากฟ้าและพิภพ เพราะเมื่อเก้าอี้ของพระองค์กว้างใหญ่ทั่วชั้นฟ้าและแผ่นดินแล้ว สิ่งใดที่เกิดขึ้นในชั้นฟ้าและแผ่นดินจะเป็นที่ใดก็ตาม ก็ย่อมอยู่ในความรู้ของพระองค์ทั้งสิ้น

Comment: (423)ไม่เป็นการยากลำบากแก่พระองค์เลย แม้แต่นิดเดียว

2:256

لَآ إِكْرَاهَ فِى ٱلدِّينِ ۖ قَد تَّبَيَّنَ ٱلرُّشْدُ مِنَ ٱلْغَىِّ ۚ فَمَن يَكْفُرْ بِٱلطَّـٰغُوتِ وَيُؤْمِنۢ بِٱللَّهِ فَقَدِ ٱسْتَمْسَكَ بِٱلْعُرْوَةِ ٱلْوُثْقَىٰ لَا ٱنفِصَامَ لَهَا ۗ وَٱللَّهُ سَمِيعٌ عَلِيمٌ

Translation: ไม่มีการบังคับใคร (ให้นับถือ) ในศาสนาอิสลาม(424) แน่นอน ความถูกต้องนั้นได้เป็นที่กระจ่างแจ้งแล้วจากความผิด(425) ดังนั้นผู้ใดปฏิเสธศรัทธาต่อ อัฎฏอฆูต(426) และศรัทธาต่ออัลลอฮ์แล้ว แน่นอน เขาได้ยึดห่วงอันมั่นคงไว้แล้ว(427) โดยไม่มีการแยกใด ๆ เกิดขึ้นแก่มัน และอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงรอบรู้

Comment: (424)ในศาสนาอิสลามนั้นมิได้มีบัญญัติบังคับผู้คนให้รับนับถือ

Comment: (425)หมายถึง ในอิสลามนั้นได้เป็นที่กระจ่างแจ้งแล้วว่าอะไรคือสิ่งที่ถูกและอะไรคือสิ่งที่ผิด ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีการบังคับให้ผู้คนรับนับถือ

Comment: (426)หมายถึงปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำชี้นำของชัยฏอน

Comment: (427)ประหนึ่งเขาได้ยึดห่วงอันมั่นคงไว้

2:257

ٱللَّهُ وَلِىُّ ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ يُخْرِجُهُم مِّنَ ٱلظُّلُمَـٰتِ إِلَى ٱلنُّورِ ۖ وَٱلَّذِينَ كَفَرُوٓا۟ أَوْلِيَآؤُهُمُ ٱلطَّـٰغُوتُ يُخْرِجُونَهُم مِّنَ ٱلنُّورِ إِلَى ٱلظُّلُمَـٰتِ ۗ أُو۟لَـٰٓئِكَ أَصْحَـٰبُ ٱلنَّارِ ۖ هُمْ فِيهَا خَـٰلِدُونَ

Translation: และอัลลอฮ์คือผู้ทรงช่วยเหลือบรรดาผู้ที่ศรัทธา โดยทรงนำพวกเขาออกจากบรรดาความมืดสู่แสงสว่าง(428) และบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธานั้น บรรดาผู้ช่วยเหลือของพวกเขาก็คือ อัฎ-ฏอฆูต(429) โดยที่พวกมันจะนำพวกเขาออกจากแสงสว่างไปสู่ความมืด(430) ชนเหล่านี้แหละคือชาวนรก โดยที่พวกเขาจะอยู่ในนรกนั้นตลอดกาล

Comment: (428)ออกจากความหลงผิด ไปสู่สิ่งถูกต้อง

Comment: (429)หมายถึงชัยฏอน

Comment: (430)ออกจากสิ่งที่ถูกต้องไปสู่สิ่งที่ผิด

2:258

أَلَمْ تَرَ إِلَى ٱلَّذِى حَآجَّ إِبْرَٰهِـۧمَ فِى رَبِّهِۦٓ أَنْ ءَاتَىٰهُ ٱللَّهُ ٱلْمُلْكَ إِذْ قَالَ إِبْرَٰهِـۧمُ رَبِّىَ ٱلَّذِى يُحْىِۦ وَيُمِيتُ قَالَ أَنَا۠ أُحْىِۦ وَأُمِيتُ ۖ قَالَ إِبْرَٰهِـۧمُ فَإِنَّ ٱللَّهَ يَأْتِى بِٱلشَّمْسِ مِنَ ٱلْمَشْرِقِ فَأْتِ بِهَا مِنَ ٱلْمَغْرِبِ فَبُهِتَ ٱلَّذِى كَفَرَ ۗ وَٱللَّهُ لَا يَهْدِى ٱلْقَوْمَ ٱلظَّـٰلِمِينَ

Translation: เจ้า(มุฮัมมัด) มิได้มองดูผู้ที่โต้แย้ง(431) อิบรอฮีมในเรื่องพระเจ้าของเขาดอกหรือ? เนื่องจากอัลลอฮ์ได้ทรงประทานอำนาจแก่เขา(432) ขณะที่อิบรอฮีมได้กล่าวว่า พระผู้อภิบาลของฉันนั้น คือ ผู้ที่ทรงให้เป็นและทรงให้ตายได้ เขากล่าวว่า ข้าก็ให้เป็นและให้ตายได้(433) อิบรอฮีมกล่าวว่า แท้จริงอัลลอฮ์นั้นทรงนำดวงอาทิตย์มาจากทิศตะวันออก ท่านจงนำมันมาจากทิศตะวันตกเถิด แล้วผู้ที่ปฏิเสธศรัทธานั้น ก็เกิดความงงงวย(434) และอัลลอฮ์จะไม่ทรงประทานแนวทางอันถูกต้องแก่ผู้อธรรมทั้งหลาย

Comment: (431)หมายถึงกษัตริย์นัมรูดได้โต้แย้งท่านนบีอิบรอฮีม

Comment: (432)อัลลอฮ์ได้ทรงให้เขาได้เป็นกษัตริย์แห่งอัด-ดานียีน

Comment: (433)โดยปล่อยนักโทษที่ถูกตัดสินประหารชีวิตให้เป็นอิสระและประหารชีวิตผู้ต้องหาที่ถูกตัดสินให้เป็นผู้บริสุทธิ์

Comment: (434)ทำให้กษัตริย์นัมรูดงงงวย ไม่สามารถจะกระทำได้

2:259

أَوْ كَٱلَّذِى مَرَّ عَلَىٰ قَرْيَةٍۢ وَهِىَ خَاوِيَةٌ عَلَىٰ عُرُوشِهَا قَالَ أَنَّىٰ يُحْىِۦ هَـٰذِهِ ٱللَّهُ بَعْدَ مَوْتِهَا ۖ فَأَمَاتَهُ ٱللَّهُ مِا۟ئَةَ عَامٍۢ ثُمَّ بَعَثَهُۥ ۖ قَالَ كَمْ لَبِثْتَ ۖ قَالَ لَبِثْتُ يَوْمًا أَوْ بَعْضَ يَوْمٍۢ ۖ قَالَ بَل لَّبِثْتَ مِا۟ئَةَ عَامٍۢ فَٱنظُرْ إِلَىٰ طَعَامِكَ وَشَرَابِكَ لَمْ يَتَسَنَّهْ ۖ وَٱنظُرْ إِلَىٰ حِمَارِكَ وَلِنَجْعَلَكَ ءَايَةًۭ لِّلنَّاسِ ۖ وَٱنظُرْ إِلَى ٱلْعِظَامِ كَيْفَ نُنشِزُهَا ثُمَّ نَكْسُوهَا لَحْمًۭا ۚ فَلَمَّا تَبَيَّنَ لَهُۥ قَالَ أَعْلَمُ أَنَّ ٱللَّهَ عَلَىٰ كُلِّ شَىْءٍۢ قَدِيرٌۭ

Translation: หรือเช่นผู้ที่ได้ผ่านเมืองหนึ่ง(435) (บัยตุลมักดิส) โดยที่มันพังทับลงบนหลังคาของมัน(436) เขาได้กล่าวว่า อัลลอฮ์จะทรงให้เมืองนี้มีชีวิตขึ้นได้อย่างไร หลังจากที่มันได้ตาย(พินาศ)ไปแล้ว(437) และอัลลอฮ์ก็ทรงให้เขาตายเป็นเวลาร้อยปี(438) ภายหลังพระองค์ได้ทรงให้เขาฟื้นคืนชีพ พระองค์ตรัสว่า เจ้าพักอยู่นานเท่าใด? เขากล่าวว่า ข้าพระองค์พักอยู่วันหนึ่งหรือบางส่วนของวันเท่านั้น(439) พระองค์ทรงกล่าวว่า หามิได้เจ้าพักอยู่นานถึงร้อยปี เจ้าจงมองดูอาหารของเจ้า และเครื่องดื่มของเจ้า มันยังไม่บูดเลย(440) และจงมองดูลาของเจ้าซิ(441) และเพื่อเราจะให้เจ้าเป็นสัญญาณหนึ่งสำหรับมนุษย์(442) และจงมองบรรดากระดูกเหล่านั้น(443) ดูว่าเรากำลังยกมันไว้ ณ ที่ของมัน และประกอบมันขึ้นแล้วให้มีเนื้อหุ้มห่อมันไว้อย่างไร?(444) ครั้นเมื่อสิ่งเหล่านั้นได้ประจักษ์แก่เขา เขาก็กล่าวว่า ข้าพระองค์รู้ว่า แท้จริง อัลลอฮ์นั้นทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง

Comment: (435)ผู้ที่ผ่านเมืองนั้น บางทรรศนะว่า อุซัยร์ บุตรของ ชัรคิยา , และเมืองที่พังนั้นคือ บัยตุลมักดิส และบางทรรศนะว่า ผู้ที่ผ่านนั้น คือ อิรมิยา จากลูกหลานนบีฮารูน และเมืองที่พังนั้นคือที่พำนักของบาทหลวงแห่งเฮราคลีโอส

Comment: (436)หลังคาพังหล่นลงมาก่อน และผนังก็พังลงบนหลังคาอีกทอดหนึ่ง

Comment: (437)หมายถึงหลังคาที่มันพังพินาศไปหมดแล้ว

Comment: (438)ตายในเมืองที่พังพินาศที่เขาผ่านไป

Comment: (439)คือเข้าใจผิดคิดไปว่าพักอยู่เพียงวันหนึ่ง หรือยามหนึ่งของวัน

Comment: (440)เพื่อให้ประจักษ์ถึงเดชานุภาพของอัลลอฮ์ที่ทรงรักษาอาหารและเครื่องดื่มไม่ให้บูด ทั้ง ๆ ที่วันเวลาได้ผ่านพ้นไปถึงร้อยปี

Comment: (441)คือเหลือแต่กระดูกเพราะได้ตายไปเป็นเวลาถึงร้อยปี อันเป็นการยืนยันว่าที่อาหารและเครื่องดื่มไม่บูดนั้น ใช่ว่าตั้งอยู่เพียงประเดี๋ยวเดียวก็หาไม่

Comment: (442)คือเป็นสัญญาณให้มนุษย์ได้ประจักษ์ถึงเดชานุภาพของพระองค์ในการที่จะให้มนุษย์ฟื้นคืนชีพในวันกิยามะฮ์

Comment: (443)บรรดากระดูกของลาที่เขาขี่เป็นพาหนะในการเดินทาง

Comment: (444)ขณะที่ชายผู้นั้นมองกระดูกอยู่นั้น อัลลอฮ์ก็ทรงให้กระดูกเหล่านั้นประกอบกันขึ้นเป็นโครงร่างของลา แล้วให้เนื้อหนังห่อหุ้มกระดูกและมีชีวิตขึ้นดังเดิม

2:260

وَإِذْ قَالَ إِبْرَٰهِـۧمُ رَبِّ أَرِنِى كَيْفَ تُحْىِ ٱلْمَوْتَىٰ ۖ قَالَ أَوَلَمْ تُؤْمِن ۖ قَالَ بَلَىٰ وَلَـٰكِن لِّيَطْمَئِنَّ قَلْبِى ۖ قَالَ فَخُذْ أَرْبَعَةًۭ مِّنَ ٱلطَّيْرِ فَصُرْهُنَّ إِلَيْكَ ثُمَّ ٱجْعَلْ عَلَىٰ كُلِّ جَبَلٍۢ مِّنْهُنَّ جُزْءًۭا ثُمَّ ٱدْعُهُنَّ يَأْتِينَكَ سَعْيًۭا ۚ وَٱعْلَمْ أَنَّ ٱللَّهَ عَزِيزٌ حَكِيمٌۭ

Translation: และจงรำลึกถึงขณะที่่อิบรอฮีม กล่าวว่า โอ้พระผู้อภิบาลของข้าพระองค์ โปรดได้ทรงให้ข้าพระองค์เห็นด้วยเถิดว่า พระองค์จะทรงให้บรรดาผู้ที่ตายมีชีวิตขึ้นอย่างไร?(445) พระองค์ตรัสว่า เจ้ามิได้เชื่อดอกหรือ? อิบรอฮีมกล่าวว่า หามิได้ แต่ทว่า เพื่อหัวใจของข้าพระองค์จะได้สงบ พระองค์ตรัสว่า เจ้าจงเอานกมาสี่ตัว(446) แล้วจงเลี้ยงมันให้คุ้นแก่เจ้า(447) แล้วสับมันรวมกัน(448) ภายหลังเจ้าจงวางไว้บนภูเขาทุกลูก(449) ซึ่งส่วนหนึ่งจากนกเหล่านั้น แล้วจงเรียกมัน มันจะมายังเจ้าโดยรีบเร่ง และพึงรู้ไว้เถิดว่า แท้จริงอัลลอฮ์นั้น เป็นผู้ทรงเดชานุภาพ ผู้ทรงปรีชาญาณ

Comment: (445)คือให้พระองค์ทรงแสดงถึงวิธีที่จะให้คนตายมีชีวิตใหม่ในวันกิยามะฮ์

Comment: (446)แน่นอนนกแต่ละตัวย่อมมีสีสรรค์ และรูปร่างไม่เหมือนกัน เช่นเดียวกับมนุษย์ที่มีผิวพรรณ และรูปร่างหน้าตาไม่เหมือนกัน

Comment: (447)เพื่อจะได้จำมันได้ว่าตัวไหนสีอะไร?

Comment: (448)สับนกทั้งสี่ตัวนั้นรวมกัน เพื่อให้เหมือนกับสภาพของมนุษย์ที่กระดูกและเนื้อหนังของพวกเขาปะปนกันหลุมศพ

Comment: (449)เขาทุกลูกในละแวกที่ท่านนบีอิบรอฮีมอาศัยอยู่

2:261

مَّثَلُ ٱلَّذِينَ يُنفِقُونَ أَمْوَٰلَهُمْ فِى سَبِيلِ ٱللَّهِ كَمَثَلِ حَبَّةٍ أَنۢبَتَتْ سَبْعَ سَنَابِلَ فِى كُلِّ سُنۢبُلَةٍۢ مِّا۟ئَةُ حَبَّةٍۢ ۗ وَٱللَّهُ يُضَـٰعِفُ لِمَن يَشَآءُ ۗ وَٱللَّهُ وَٰسِعٌ عَلِيمٌ

Translation: อุปมาบรรดาผู้ที่บริจาคทรัพย์ของพวกเขาในทางของอัลลอฮ์ดังอุปมัยเมล็ดพืชเมล็ดหนึ่งที่งอกขึ้นเป็นเจ็ดรวงซึ่งในแต่ละรวงนั้นมีร้อยเมล็ด(450) และอัลลอฮ์นั้นจะทรงเพิ่มพูนแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์อีก(451) และอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงกว้างขวาง ผู้ทรงรอบรู้

Comment: (450)รวมเป็นเจ็ดร้อยเมล็ด อันหมายถึงว่า ถ้าบริจาคหนึ่งบาทจะได้รับการตอบแทนถึงเจ็ดร้อยบาท

Comment: (451)หมายถึงผู้ที่หมั่นกระทำความดีเป็นเนืองนิจ เพื่อหวังในความโปรดปรานของอัลลอฮ์จนเป็นที่รักใคร่ของพระองค์

2:262

ٱلَّذِينَ يُنفِقُونَ أَمْوَٰلَهُمْ فِى سَبِيلِ ٱللَّهِ ثُمَّ لَا يُتْبِعُونَ مَآ أَنفَقُوا۟ مَنًّۭا وَلَآ أَذًۭى ۙ لَّهُمْ أَجْرُهُمْ عِندَ رَبِّهِمْ وَلَا خَوْفٌ عَلَيْهِمْ وَلَا هُمْ يَحْزَنُونَ

Translation: บรรดาผู้บริจาคทรัพย์ของพวกเขาในทางของอัลลอฮ์(452) แล้วพวกเขามิให้ติดตามสิ่งที่พวกเขาบริจาคไป การลำเลิกและการก่อความเดือดร้อน(453)ใด ๆ นั้น พวกเขาจะได้รับรางวัลของพวกเขา ณ พระผู้อภิบาลของพวกเขา และไม่มีความกลัวใดๆ แก่พวกเขา และทั้งพวกเขาก็จะไม่เสียใจ

Comment: (452)เช่นทำทานแก่คนยากจน ให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่ขัดสน ช่วยเหลือครูเกี่ยวกับเงินเดือน เป็นต้น

Comment: (453)เช่น ถือโอกาสใช้ผู้ที่รับบริจาค ให้ทำธุรกิจให้แก่ตนฟรี ๆ เป็นการชดเชยสิ่งที่ได้บริจาคให้เขาไป เป็นต้น

2:263

۞ قَوْلٌۭ مَّعْرُوفٌۭ وَمَغْفِرَةٌ خَيْرٌۭ مِّن صَدَقَةٍۢ يَتْبَعُهَآ أَذًۭى ۗ وَٱللَّهُ غَنِىٌّ حَلِيمٌۭ

Translation: คำพูดที่ดี และการให้อภัย ดียิ่งกว่าทานที่มีการก่อความเดือดร้อนติดตามทานนั้น และอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงมั่งมี ผู้ทรงหนักแน่นเสมอ

2:264

يَـٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ لَا تُبْطِلُوا۟ صَدَقَـٰتِكُم بِٱلْمَنِّ وَٱلْأَذَىٰ كَٱلَّذِى يُنفِقُ مَالَهُۥ رِئَآءَ ٱلنَّاسِ وَلَا يُؤْمِنُ بِٱللَّهِ وَٱلْيَوْمِ ٱلْـَٔاخِرِ ۖ فَمَثَلُهُۥ كَمَثَلِ صَفْوَانٍ عَلَيْهِ تُرَابٌۭ فَأَصَابَهُۥ وَابِلٌۭ فَتَرَكَهُۥ صَلْدًۭا ۖ لَّا يَقْدِرُونَ عَلَىٰ شَىْءٍۢ مِّمَّا كَسَبُوا۟ ۗ وَٱللَّهُ لَا يَهْدِى ٱلْقَوْمَ ٱلْكَـٰفِرِينَ

Translation: ผู้ศรัทธาทั้งหลาย! จงอย่าให้บรรดาทานของพวกเจ้าไร้ผล ด้วยการลำเลิกและการก่อความเดือดร้อน เช่นผู้ที่บริจาคทรัพย์ของเขา เพื่อโอ้อวดผู้คน และทั้งเขาก็ไม่ศรัทธาต่ออัลลอฮ์และวันปรโลก ดังนั้น อุปมาเขาผู้นั้น ดังอุปมัยหินเกลี้ยงที่มีฝุ่นจับอยู่บนมัน แล้วมีฝนหนักประสบแก่มัน แล้วได้ทิ้งมันไว้ในสภาพเกลี้ยง(454) พวกเขาไม่สามารถที่จะได้สิ่งหนึ่งสิ่งใดจากสิ่งที่ขวนขวายไว้(455) และอัลลอฮ์จะไม่ทรงแนะนำแก่กลุ่มชนที่ปฏิเสธศรัทธา

Comment: (454)คือทำให้ฝุ่นที่จับอยู่บนหินนั้นหายไปหมด

Comment: (455)ผู้ที่บริจาคทรัพย์เพื่อโอ้อวดผู้คนนั้นเขาจะไม่ได้รับการตอบแทนผลงานที่เขาได้กระทำไว้แต่อย่างใด เนื่องจากการอวดอ้างได้ทำลายมันโดยหมดสิ้น ดังเช่นฝุ่นที่จับอยู่บนหินเกลี้ยงที่ฝนได้ทำให้มันหายไปหมด

2:265

وَمَثَلُ ٱلَّذِينَ يُنفِقُونَ أَمْوَٰلَهُمُ ٱبْتِغَآءَ مَرْضَاتِ ٱللَّهِ وَتَثْبِيتًۭا مِّنْ أَنفُسِهِمْ كَمَثَلِ جَنَّةٍۭ بِرَبْوَةٍ أَصَابَهَا وَابِلٌۭ فَـَٔاتَتْ أُكُلَهَا ضِعْفَيْنِ فَإِن لَّمْ يُصِبْهَا وَابِلٌۭ فَطَلٌّۭ ۗ وَٱللَّهُ بِمَا تَعْمَلُونَ بَصِيرٌ

Translation: และอุปมาบรรดาผู้ที่บริจาคทรัพย์ของพวกเขา เพื่อแสวงหาความพึงใจของอัลลอฮ์(456) และเพื่อให้เกิดความมั่นคงแก่ตัวของพวกเขาเอง(457) นั้น ดังอุปมัยสวนแห่งหนึ่ง ณ ที่เนินสูง ซึ่งมีฝนหนัก ประสบแก่มันแล้วมันก็นำมาซึ่งผลของมันสองเท่า แต่ถ้ามิได้มีฝนหนักประสบแก่มัน ก็มีฝนปรอยๆ(458) และอัลลอฮ์นั้นทรงเห็นในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำกันอยู่

Comment: (456)โดยมิได้มีเจตนาเพื่อโอ้อวดผู้คน หรือให้ผู้คนยกย่อย ชมเชยร่วมไปด้วย

Comment: (457)เพื่อให้ตัวของพวกเขามั่นอยู่ในการอีมานต่อพระองค์ และในบัญญัติของพระองค์

Comment: (458)หมายความว่า สวนนั้นก็ยังให้ดอกออกผล แม้ว่าไม่มากถึงสองเท่า อันเป็นการแสดงว่าสวนนั้นให้ดอกออกผล อยู่ตลอดเวลา

2:266

أَيَوَدُّ أَحَدُكُمْ أَن تَكُونَ لَهُۥ جَنَّةٌۭ مِّن نَّخِيلٍۢ وَأَعْنَابٍۢ تَجْرِى مِن تَحْتِهَا ٱلْأَنْهَـٰرُ لَهُۥ فِيهَا مِن كُلِّ ٱلثَّمَرَٰتِ وَأَصَابَهُ ٱلْكِبَرُ وَلَهُۥ ذُرِّيَّةٌۭ ضُعَفَآءُ فَأَصَابَهَآ إِعْصَارٌۭ فِيهِ نَارٌۭ فَٱحْتَرَقَتْ ۗ كَذَٰلِكَ يُبَيِّنُ ٱللَّهُ لَكُمُ ٱلْـَٔايَـٰتِ لَعَلَّكُمْ تَتَفَكَّرُونَ

Translation: มีคนใดในพวกเจ้าชอบบ้างไหมที่เขาจะมีสวน อินทผลัม และองุ่น ซึ่งเบื้องล่างของสวนนั้นมีลำน้ำหลายสายไหลผ่าน ผลไม้ทั้งหมดในสวนนั้นเป็นของเขา และความชราได้ประสบแก่เขา และเขาก็มีลูก ๆ ที่ยังอ่อนแออยู่(459) แต่แล้วได้มีลมพายุประสบแก่สวนนั้น ซึ่งในลมพายุนั้นมีไฟด้วย แล้วมันเผามอดไหม้ไป ในทำนองนั้นแหละ อัลลอฮ์จึงทรงแจกแจงโองการทั้งหลายให้พวกเจ้าทราบ เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้ใคร่ครวญ

Comment: (459)ยังไม่สามารถให้ความช่วยเหลือใด ๆ แก่บิดาได้

2:267

يَـٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوٓا۟ أَنفِقُوا۟ مِن طَيِّبَـٰتِ مَا كَسَبْتُمْ وَمِمَّآ أَخْرَجْنَا لَكُم مِّنَ ٱلْأَرْضِ ۖ وَلَا تَيَمَّمُوا۟ ٱلْخَبِيثَ مِنْهُ تُنفِقُونَ وَلَسْتُم بِـَٔاخِذِيهِ إِلَّآ أَن تُغْمِضُوا۟ فِيهِ ۚ وَٱعْلَمُوٓا۟ أَنَّ ٱللَّهَ غَنِىٌّ حَمِيدٌ

Translation: บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย! จงบริจาคส่วนหนึ่งจากบรรดาสิ่งดีๆ(460) ของสิ่งที่พวกเจ้าได้แสวงหาไว้ และจากสิ่งที่เราได้ให้ออกมาจากดิน(461) สำหรับพวกเจ้า และพวกเจ้าอย่ามุ่งเอาสิ่งที่เลวจากมันมาบริจาค ทั้งๆ ที่พวกเจ้าเองก็มิใช่จะเป็นผู้รับมันไว้(462) นอกจากว่าพวกเจ้าจะหลับตาในการรับมันเท่านั้น และพึงรู้เถิดว่า แท้จริงอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงมั่งคั่ง(463) ผู้ทรงได้รับการสรรเสริญ

Comment: (460)คือสิ่งดี ๆ ที่ได้มาในทางที่ชอบด้วยบัญญัติศาสนา

Comment: (461)อันได้แก่พืชผลที่พวกเขาเพาะปลูก และรวมไปถึงแร่ต่าง ๆ ที่ขุดพบ และน้ำมันที่สำรวจพบในแหล่งต่าง ๆ

Comment: (462)คือถ้าสมมติว่า พวกเจ้าเองเป็นผู้จะได้รับสิ่งเลวดังกล่าวแล้ว พวกเจ้าก็จะไม่รับ เพราะความเลวของมัน นอกจากจะหลับตารับเท่านั้น

Comment: (463)ที่พระองค์ทรงใช้ให้พวกเจ้าบริจาคแก่คนยากจนนั้นใช่ว่าพระองค์ไม่อยู่ในฐานะจะช่วยเหลือพวกเขาก็หาไม่ หากแต่พระองค์ทรงทดสอบพวกเจ้าเท่านั้น ความจริงพระองค์นั้นทรงมั่งมี สามารถที่จะช่วยเหลือข้าของพระองค์ที่ยากจนได้โดยไม่ลำบากแต่อย่างใด

2:268

ٱلشَّيْطَـٰنُ يَعِدُكُمُ ٱلْفَقْرَ وَيَأْمُرُكُم بِٱلْفَحْشَآءِ ۖ وَٱللَّهُ يَعِدُكُم مَّغْفِرَةًۭ مِّنْهُ وَفَضْلًۭا ۗ وَٱللَّهُ وَٰسِعٌ عَلِيمٌۭ

Translation: ชัยฏอนนั้น มันจะขู่พวกเจ้าให้กลัวความยากจน(464) และจะใช้พวกเจ้าให้กระทำความชั่ว(465) และอัลลอฮ์นั้น ทรงสัญญาแก่พวกเจ้าไว้ ซึ่งการอภัยโทษ และความกรุณาจากพระองค์(466) และอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงกว้างขวางผู้ทรงรอบรู้

Comment: (464)โดยชี้นำให้ตระหนี่ หรือมิให้บริจาคเพราะจะเกิดความยากจน

Comment: (465)ในทางที่ชั่วแล้ว มันจะยุให้จ่ายเงิน

Comment: (466)อัลลอฮ์ทรงสัญญาว่า ถ้าบริจาคทรัพย์ในวิถีทางของพระองค์ นอกจากจะได้รับผลตอบแทนจากการบริจาคนั้นแล้วเขาจะได้รับการอภัยโทษและความกรุณาจากพระองค์อีกด้วย

2:269

يُؤْتِى ٱلْحِكْمَةَ مَن يَشَآءُ ۚ وَمَن يُؤْتَ ٱلْحِكْمَةَ فَقَدْ أُوتِىَ خَيْرًۭا كَثِيرًۭا ۗ وَمَا يَذَّكَّرُ إِلَّآ أُو۟لُوا۟ ٱلْأَلْبَـٰبِ

Translation: พระองค์จะทรงประทานความรู้ให้แก่ผู้ที่พรองค์ทรงประสงค์(467) และผู้ใดที่ได้รับความรู้ แน่นอนเขาก็ได้รับความความดีอันมากมาย(468) และไม่มีใครจะรำลึก นอกจากบรรดาผู้ที่มีสติปัญญาเท่านั้น

Comment: (467)ความจริงพระองค์ทรงประสงค์ให้ข้าของพระองค์ทุกคนมีความรู้ ด้วยการประทานคัมภีร์ของพระองค์มาให้ พร้อมกับทรงใช้ให้หาความรู้ในด้านอื่น ๆ ด้วย ผู้ใดที่ศรัทธาต่อคัมภีร์ของพระองค์ และปฏิบัติตามที่พระองค์ทรงใช้ เขาก็อยู่ในความประสงค์ของพระองค์ แต่ถ้าผู้ใดไม่ศรัทธาต่อคัมภีร์ของพระองค์ เขาก็ไม่อยู่ในความประสงค์ของพระองค์

Comment: (468)เพราะความรู้นั้นสามารถให้เขารู้ได้ว่าอะไรจริง อะไรเท็จ อะไรควรปฏิบัติ และอะไรไม่ควรปฏิบัติ และรู้วิถีทางที่จะได้มาซึ่งปัจจัยยังชีพ ดังนั้นผู้ที่ได้รับความรู้จึงถือว่า เขาได้รับความดีอันมากมาย

2:270

وَمَآ أَنفَقْتُم مِّن نَّفَقَةٍ أَوْ نَذَرْتُم مِّن نَّذْرٍۢ فَإِنَّ ٱللَّهَ يَعْلَمُهُۥ ۗ وَمَا لِلظَّـٰلِمِينَ مِنْ أَنصَارٍ

Translation: และสิ่งที่บริจาคใดก็ดี ที่พวกเจ้าบริจาคไป(469) หรือสิ่งบนบานใดก็ดีที่พวกเจ้าได้บนบานไว้นั้น(470) แท้จริง อัลลอฮ์ทรงรู้มันดีและสำหรับผู้อธรรมทั้งหลายนั้น ย่อมไม่มีผู้ช่วยเหลือ

Comment: (469)จะในทางที่ดีหรือในทางที่ชั่ว จะด้วยความบริสุทธิ์ใจหรือไม่ เป็นต้น

Comment: (470)จะเป็นการบนบาน เพื่อจงรักภักดีต่อพระองค์ หรือเพื่อจะกระทำการฝ่าฝืนบัญญัติของพระองค์

2:271

إِن تُبْدُوا۟ ٱلصَّدَقَـٰتِ فَنِعِمَّا هِىَ ۖ وَإِن تُخْفُوهَا وَتُؤْتُوهَا ٱلْفُقَرَآءَ فَهُوَ خَيْرٌۭ لَّكُمْ ۚ وَيُكَفِّرُ عَنكُم مِّن سَيِّـَٔاتِكُمْ ۗ وَٱللَّهُ بِمَا تَعْمَلُونَ خَبِيرٌۭ

Translation: หากพวกเจ้าเปิดเผยสิ่งที่ให้เป็นทาน มันก็เป็นสิ่งที่ดีอยู่(471) และถ้าหากพวกเจ้าปกปิดมัน และให้มันแก่บรรดาผู้ยากจนแล้ว มันก็เป็นสิ่งที่ดียิ่งกว่าแก่พวกเจ้า(472) และอัลลอฮ์จะทรงลบล้างออกจากพวกเจ้า ซึ่งบางส่วนจากาบรรดาความผิดของพวกเจ้า(473) และอัลลอฮ์นั้นทรงรอบรู้อย่างถี่ถ้วนในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำกันอยู่

Comment: (471)ทั้งนี้เพราะเป็นตัวอย่างอันดีแก่ผู้อื่น หรือเพื่อจูงใจให้ผู้ที่ไม่เคยคิดจะบริจาค คิดจะบริจาคบ้าง

Comment: (472)เพราะการปกปิดในดารบริจาคนั้น จะช่วยให้ผู้ที่บริจาคห่างไกลจากการโอ้อวด และกระทำไปโยหวังความโปรดปรานจากอัลลอฮ์ เท่านั้น

Comment: (473)เพราะการทำทานนั้นไม่อยู่ในฐานะที่จะลบล้างความผิดทั้งหมดได้ หากแต่จะต้องกระทำความดีอื่น ๆ ด้วย จึงจะลบล้างความผิดให้หมดได้

2:272

۞ لَّيْسَ عَلَيْكَ هُدَىٰهُمْ وَلَـٰكِنَّ ٱللَّهَ يَهْدِى مَن يَشَآءُ ۗ وَمَا تُنفِقُوا۟ مِنْ خَيْرٍۢ فَلِأَنفُسِكُمْ ۚ وَمَا تُنفِقُونَ إِلَّا ٱبْتِغَآءَ وَجْهِ ٱللَّهِ ۚ وَمَا تُنفِقُوا۟ مِنْ خَيْرٍۢ يُوَفَّ إِلَيْكُمْ وَأَنتُمْ لَا تُظْلَمُونَ

Translation: หาใช่เป็นหน้าที่ของเจ้าไม่ ซึ่งการแนะนำพวกเขา (ให้เกิดความศรัทธา)(474) แต่ทว่าอัลลอฮ์ต่างหากที่จะแนะนำใครก็ได้ที่พระองค์ทรงประสงค์(ให้เขาศรัทธา) สิ่งดีใดๆ ที่พวกเจ้าบริจาคไปก็ย่อมแก่ตัวของพวกเจ้าเอง และพวกเจ้าจะไม่บริจาคสิ่งใด นอกจากเพื่อแสวงหาความโปรดปรานของอัลลอฮ์เท่านั้น(475) และสิ่งดีใด ๆ ที่พวกเจ้าบริจาคไป มันก็จะถูกตอบแทนโดยครบถ้วนแก่พวกเจ้า และพวกเจ้าจะไม่ถูกอยุติธรรมเลย

Comment: (474)ท่านนบีมีหน้าที่เพียงทำการชี้แจงแนะนำเท่านั้น ส่วนใครจะศรัทธาหรือไม่นั้นมิใช่เป็นหน้าที่รับผิดชอบของท่าน

Comment: (475)บรรดามุสลิมนั้น พวกเขาจะไม่บริจาคเพื่ออื่นใด นอกจากเพื่อแสวงหาความโปรดปรานจากอัลลอฮ์องค์เดียวเท่านั้น

2:273

لِلْفُقَرَآءِ ٱلَّذِينَ أُحْصِرُوا۟ فِى سَبِيلِ ٱللَّهِ لَا يَسْتَطِيعُونَ ضَرْبًۭا فِى ٱلْأَرْضِ يَحْسَبُهُمُ ٱلْجَاهِلُ أَغْنِيَآءَ مِنَ ٱلتَّعَفُّفِ تَعْرِفُهُم بِسِيمَـٰهُمْ لَا يَسْـَٔلُونَ ٱلنَّاسَ إِلْحَافًۭا ۗ وَمَا تُنفِقُوا۟ مِنْ خَيْرٍۢ فَإِنَّ ٱللَّهَ بِهِۦ عَلِيمٌ

Translation: (คือให้บริจาคทาน) แก่บรรดาผู้ที่ยากจนที่ถูกจำกัดตัวให้อยู่ในทางของอัลลอฮ์(476) โดยที่พวกเขาสามารถจะเดินทางไปในดินแดนอื่นๆ ได้(เพื่อประกอบอาชีพ) ผู้ที่ไม่รู้คิดว่าพวกเขาเป็นผู้มั่งมี อันเนื่องจากความสงบเสงี่ยมเจียมตัว โดยที่เจ้าจะรู้จักเขาได้ด้วยเครื่องหมายของพวกเขา(477) พวกเขาจะไม่ขอจากผู้คนในสภาพเซ้าซี้ และสิ่งดีใด ๆ ที่พวกเจ้าบริจาคไปนั้น แท้จริงอัลลอฮ์ทรงรู้ดีในสิ่งนั้น

Comment: (476)อันหมายถึงผู้อุทิศตนเพื่อต่อสู้ศัตรูที่รุกราน เพื่ออบรมเยาวชนมุสลิมให้เข้าใจ และปฏิบัติตามบัญญัติศาสนา และเพื่อเผยแพร่หลักการอิสลามที่ถูกต้องแก่พี่น้องมุสลิม และบุคคลทั่วไป

Comment: (477)คือมีริ้วรอยแห่งความยากจนปรากฏอยู่ที่ตัวเขา

2:274

ٱلَّذِينَ يُنفِقُونَ أَمْوَٰلَهُم بِٱلَّيْلِ وَٱلنَّهَارِ سِرًّۭا وَعَلَانِيَةًۭ فَلَهُمْ أَجْرُهُمْ عِندَ رَبِّهِمْ وَلَا خَوْفٌ عَلَيْهِمْ وَلَا هُمْ يَحْزَنُونَ

Translation: บรรดาผู้ที่บริจาคทรัพย์ของพวกเขาทั้งในเวลากลางคืน และกลางวัน ทั้งโดยปกปิด และเปิดเผยนั้น พวกเขาจะได้รับรางวัลของพวกเขา ณ พระผู้อภิบาลของพวกเขา และไม่มีความกลัวอย่างหนึ่งอย่างใดเกิดขึ้นแก่พวกเขา(478) และทั้งพวกเขาก็จะไม่เสียใจ

Comment: (478)หมายถึงในวันกิยามะฮ์

2:275

ٱلَّذِينَ يَأْكُلُونَ ٱلرِّبَوٰا۟ لَا يَقُومُونَ إِلَّا كَمَا يَقُومُ ٱلَّذِى يَتَخَبَّطُهُ ٱلشَّيْطَـٰنُ مِنَ ٱلْمَسِّ ۚ ذَٰلِكَ بِأَنَّهُمْ قَالُوٓا۟ إِنَّمَا ٱلْبَيْعُ مِثْلُ ٱلرِّبَوٰا۟ ۗ وَأَحَلَّ ٱللَّهُ ٱلْبَيْعَ وَحَرَّمَ ٱلرِّبَوٰا۟ ۚ فَمَن جَآءَهُۥ مَوْعِظَةٌۭ مِّن رَّبِّهِۦ فَٱنتَهَىٰ فَلَهُۥ مَا سَلَفَ وَأَمْرُهُۥٓ إِلَى ٱللَّهِ ۖ وَمَنْ عَادَ فَأُو۟لَـٰٓئِكَ أَصْحَـٰبُ ٱلنَّارِ ۖ هُمْ فِيهَا خَـٰلِدُونَ

Translation: บรรดาผู้กินดอกเบี้ยนั้น พวกเขาจะไม่ทรงตัว(479) นอกจากจะเป็นเช่นเดียวกับผู้ที่ชัยฏอนทำร้ายเขาทรงตัว(480) พวกเขากล่าวว่า ที่จริงการค้าขายนั้นก็เหมือนการเอาดอกเบี้ยนั้นเอง(481) และอัลลอฮ์นั้นทรงอนุมัติการขาย และทรงห้ามการเอาดอกเบี้ย(482) ดังนั้น ผู้ใดที่การตักเตือนจากพระผู้อภิบาลของเขาได้มายังเขา แล้วเขาก็เลิก สิ่งที่ล่วงแล้วมาก็เป็นสิทธิของเขา(483) และเรื่องของเขานั้นย่อมกลับไปสู่อัลลอฮ์(484) และผู้ใดกลับไป(กระทำ) อีก ชนเหล่านี้แหละคือชาวนรกโดยที่พวกเขาจะอยู่ในนรกนั้นตลอดกาล

Comment: (479)หมายถึงการทรงตัวในการดำเนินชีวิต

Comment: (480)คนที่ถูกชัยฏอนทำร้ายนั้นจะมีสติฟั่นเฟือนหรือเป็นบ้า ดังนั้น การทรงตัวของผู้กินดอกเบี้ยจึงประหนึ่งคนบ้า คือบ้าเงิน

Comment: (481)พวกกินดอกเบี้ยกล่าวแก้ว่า การค้าขายก็เหมือนการดอกเบี้ย กล่าวคือการนำเงินไปลงทุนค้าขายก็ได้กำไร และการให้เงินเขากู้ได้กำไร ซึ่งก็เหมือนกัน

Comment: (482)อัลลอฮ์ทรงแจ้งให้ทราบว่า พระองค์ทรงอนุมัติแต่เพียงการค้าขาย และไม่ทรงอนุมัติการกินดอกเบี้ย เพราะการค้าขายและการกินดอกเบี้ยนั้นไม่เหมือนกันอย่างที่พวกเขาคิด

Comment: (483)ดอกเบี้ยที่เขาเคยรับไว้ในอดีตนั้นเป็นสิทธิของเขา ไม่ต้องส่งคืน

Comment: (484)อัลลอฮ์จะทรงพิจารณาเรื่องราวของเขาเอง

2:276

يَمْحَقُ ٱللَّهُ ٱلرِّبَوٰا۟ وَيُرْبِى ٱلصَّدَقَـٰتِ ۗ وَٱللَّهُ لَا يُحِبُّ كُلَّ كَفَّارٍ أَثِيمٍ

Translation: อัลลอฮ์จะทรงให้ดอกเบี้ยลดน้อยลง และหมดความจำเริญ(485) และจะทรงให้บรรดาที่เป็นทานเพิ่มพูนขึ้น(486) และอัลลอฮ์นั้นไม่ทรงชอบผู้เนรคุณ(487) ผู้กระทำบาปทุกคน

Comment: (485)เงินดอกเบี้ยที่ได้มาจะถูกบั่นทอนให้น้อยลงจนหมดสิ้นโดยขาดความจำเริญ

Comment: (486)จะทรงให้ทรัพย์สินของผู้บริจาคเพิ่มพูนขึ้น

Comment: (487)ผู้ที่ไม่ยอมรับรู้ความกรุณาของอัลลอฮ์ โดยที่เข้าใจว่าสิ่งที่เขาได้รับนั้นไม่เกี่ยวกับอัลลอฮ์แต่ประการใด

2:277

إِنَّ ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ وَعَمِلُوا۟ ٱلصَّـٰلِحَـٰتِ وَأَقَامُوا۟ ٱلصَّلَوٰةَ وَءَاتَوُا۟ ٱلزَّكَوٰةَ لَهُمْ أَجْرُهُمْ عِندَ رَبِّهِمْ وَلَا خَوْفٌ عَلَيْهِمْ وَلَا هُمْ يَحْزَنُونَ

Translation: แท้จริง บรรดาผู้ที่ศรัทธา และประกอบสิ่งที่ดีงามทั้งหลาย และดำรงค์ไว้ซึ่งการละหมาดและจ่ายซะกาต พวกเขาจะได้รับรางวัลของพวกเขา ณ พระผู้อภิบาลของพวกเขา และไม่มีความกลัวอย่างหนึ่ง อย่างใดเกิดขึ้นแก่พวกเขา(488) และทั้งพวกเขาก็จะไม่เสียใจ

Comment: (488)ในวันกิยามะฮ์

2:278

يَـٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ ٱتَّقُوا۟ ٱللَّهَ وَذَرُوا۟ مَا بَقِىَ مِنَ ٱلرِّبَوٰٓا۟ إِن كُنتُم مُّؤْمِنِينَ

Translation: บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย! พึงยำเกรงอัลลอฮ์เถิด และจงละเว้นดอกเบี้ยที่ยังเหลืออยู่เสีย(489) หากพวกเจ้าเป็นผู้ศรัทธา

Comment: (489)ยังมิได้รับจากผู้ที่กู้ยืมเงิน

2:279

فَإِن لَّمْ تَفْعَلُوا۟ فَأْذَنُوا۟ بِحَرْبٍۢ مِّنَ ٱللَّهِ وَرَسُولِهِۦ ۖ وَإِن تُبْتُمْ فَلَكُمْ رُءُوسُ أَمْوَٰلِكُمْ لَا تَظْلِمُونَ وَلَا تُظْلَمُونَ

Translation: และถ้าพวกเจ้ามิได้ปฏิบัติตาม ก็พึงรับรู้ไว้ด้วยว่า พวกเจ้าได้ประกาศซึ่งสงครามจากอัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์(490) และหากพวกเจ้าสำนึกผิดกลับเนื้อกลับตัวแล้ว สำหรับพวกเจ้า ก็คือต้นทุนแห่งทรัพย์ของพวกเจ้า(491) โดยที่พวกเจ้าจะได้ไม่อธรรม และไม่ถูกอธรรม(492)

Comment: (490)อัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์จะทำสงครามกับพวกเจ้า

Comment: (491)รับเอาเฉพาะต้นทุนกลับคืนเท่านั้น

Comment: (492)จะได้ไม่ตกอยู่ในฐานะเป็นการข่มเหงลุกหนี้ และถูกลูกหนี้ข่มเหง

2:280

وَإِن كَانَ ذُو عُسْرَةٍۢ فَنَظِرَةٌ إِلَىٰ مَيْسَرَةٍۢ ۚ وَأَن تَصَدَّقُوا۟ خَيْرٌۭ لَّكُمْ ۖ إِن كُنتُمْ تَعْلَمُونَ

Translation: และหากเขา (ลูกหนี้) เป็นผู้ยากไร้ก็จงให้มีการรอคอยจนกว่าจะถึงคราวสะดวก(493) และการที่พวกเจ้าจะให้เป็นทานนั้น(494) ย่อมเป็นการดีแก่พวกเจ้า หากพวกเจ้ารู้

Comment: (493)ให้เจ้าหนี้รอคอยไปก่อน จนกว่าลูกหนี้จะมีเงิน

Comment: (494)ถ้ายกหนี้นั้นให้เป็นทานเสียเลยก็เป็นการดียิ่ง

2:281

وَٱتَّقُوا۟ يَوْمًۭا تُرْجَعُونَ فِيهِ إِلَى ٱللَّهِ ۖ ثُمَّ تُوَفَّىٰ كُلُّ نَفْسٍۢ مَّا كَسَبَتْ وَهُمْ لَا يُظْلَمُونَ

Translation: และพวกเจ้าจงยำเกรงวันหนึ่ง(495) ซึ่งพวกเจ้าจะถูกนำกลับไปยังอัลลอฮ์ในวันนั้น แล้วแต่ละชีวิตจะถูกตอบแทนโดยครบถ้วนตามที่ชีวิตนั้นได้แสวงหาไว้ และพวกเขาจะไม่ถูกอธรรม

Comment: (495)วันกิยามะฮ์

2:282

يَـٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوٓا۟ إِذَا تَدَايَنتُم بِدَيْنٍ إِلَىٰٓ أَجَلٍۢ مُّسَمًّۭى فَٱكْتُبُوهُ ۚ وَلْيَكْتُب بَّيْنَكُمْ كَاتِبٌۢ بِٱلْعَدْلِ ۚ وَلَا يَأْبَ كَاتِبٌ أَن يَكْتُبَ كَمَا عَلَّمَهُ ٱللَّهُ ۚ فَلْيَكْتُبْ وَلْيُمْلِلِ ٱلَّذِى عَلَيْهِ ٱلْحَقُّ وَلْيَتَّقِ ٱللَّهَ رَبَّهُۥ وَلَا يَبْخَسْ مِنْهُ شَيْـًۭٔا ۚ فَإِن كَانَ ٱلَّذِى عَلَيْهِ ٱلْحَقُّ سَفِيهًا أَوْ ضَعِيفًا أَوْ لَا يَسْتَطِيعُ أَن يُمِلَّ هُوَ فَلْيُمْلِلْ وَلِيُّهُۥ بِٱلْعَدْلِ ۚ وَٱسْتَشْهِدُوا۟ شَهِيدَيْنِ مِن رِّجَالِكُمْ ۖ فَإِن لَّمْ يَكُونَا رَجُلَيْنِ فَرَجُلٌۭ وَٱمْرَأَتَانِ مِمَّن تَرْضَوْنَ مِنَ ٱلشُّهَدَآءِ أَن تَضِلَّ إِحْدَىٰهُمَا فَتُذَكِّرَ إِحْدَىٰهُمَا ٱلْأُخْرَىٰ ۚ وَلَا يَأْبَ ٱلشُّهَدَآءُ إِذَا مَا دُعُوا۟ ۚ وَلَا تَسْـَٔمُوٓا۟ أَن تَكْتُبُوهُ صَغِيرًا أَوْ كَبِيرًا إِلَىٰٓ أَجَلِهِۦ ۚ ذَٰلِكُمْ أَقْسَطُ عِندَ ٱللَّهِ وَأَقْوَمُ لِلشَّهَـٰدَةِ وَأَدْنَىٰٓ أَلَّا تَرْتَابُوٓا۟ ۖ إِلَّآ أَن تَكُونَ تِجَـٰرَةً حَاضِرَةًۭ تُدِيرُونَهَا بَيْنَكُمْ فَلَيْسَ عَلَيْكُمْ جُنَاحٌ أَلَّا تَكْتُبُوهَا ۗ وَأَشْهِدُوٓا۟ إِذَا تَبَايَعْتُمْ ۚ وَلَا يُضَآرَّ كَاتِبٌۭ وَلَا شَهِيدٌۭ ۚ وَإِن تَفْعَلُوا۟ فَإِنَّهُۥ فُسُوقٌۢ بِكُمْ ۗ وَٱتَّقُوا۟ ٱللَّهَ ۖ وَيُعَلِّمُكُمُ ٱللَّهُ ۗ وَٱللَّهُ بِكُلِّ شَىْءٍ عَلِيمٌۭ

Translation: ผู้ศรัทธาทั้งหลาย! เมื่อพวกเจ้าต่างมีหนี้สินกันจะด้วยหนี้สินใดๆ ก็ตาม จนกว่าจะถึงกำหนดเวลา(ใช้หนี้) ที่ถูกระบุไว้แล้ว(496) ก็จงบันทึกหนี้สินนั้นเสีย และผู้เขียนก็จงบันทึกระหว่างพวกเจ้าด้วยความเที่ยงธรรม และผู้เขียนคนหนึ่งคนใดก็จงอย่าปฏิเสธที่จะบันทึก ดังที่อัลลอฮ์ได้ทรงสอนเขา(497) ดังนั้นเขา จงบันทึกเถิด และจงให้ผู้ที่มีสิทธิเหนือเขา(ลูกหนี้) บอกให้บันทึกและเขาจงยำเกรงอัลลอฮ์ผู้เป็นพระเจ้าของเขา และจงอย่าให้บกพร่องแต่อย่างใดจากสิทธินั้น(498) และถ้าผู้มีสิทธิเหนือเขา(ลูกหนี้) เป็นคนโง่ หรือเป็นผู้อ่อนแอหรือไม่สามารถจะบอกให้บันทึกได้ ก็จงให้ผู้ปกครองของเขาบอกด้วยความเที่ยงธรรม และพวกเจ้าจงให้มีพยานขึ้นสองนายจากบรรดาผู้ชายในหมู่พวกเจ้า แต่ถ้ามิปรากฏว่า พยานทั้งสองนั้นเป็นชายก็ให้มีผู้ชายหนึ่งกับผู้หญิงสองคน จากผู้ที่พวกเจ้าพึงใจในหมู่พยานทั้งหลาย เพื่อว่าหญิงใดในสองคนนั้นหลงไป คนหนึ่งในสองคนนั้นก็จะได้เตือนอีกคนหนึ่ง และบรรดาพยานนั้นก็จงอย่าได้ปฏิเสธ(499) เมื่อพวกเขาถูกเรียกร้อง และพวกเจ้าจงอย่าเบื่อหน่ายที่จะบันทึกหนี้สินนั้นไม่ว่าน้อยหรือมากก็ตาม จนกว่าจะถึงกำหนดเวลาของมัน นั่นแหละ คือสิ่งที่ยุติธรรมยิ่งกว่า ณ ที่อัลลอฮ์และเที่ยงตรงยิ่งกว่าสำหรับเป็นหลักฐานยืนยัน และเป็นสิ่งใกล้ยิ่งกว่าที่พวกเจ้าจะไม่สงสัย นอกจากว่ามันเป็นสินค้าที่ปรากฏอยู่ต่อหน้า ซึ่งพวกเจ้าหมุนเวียนมัน (ซื้อขายแลกเปลี่ยน) ระหว่างพวกเจ้าก็ไม่มีโทษอันใดแก่พวกเจ้าที่พวกเจ้าจะไม่บันทึกมัน และพวกเจ้าจงให้มีพยานขึ้น เมื่อพวกเจ้าต่างซื้อขายกัน และผู้เขียนก็จงอย่าก่อให้เกิดความเดือดร้อนขึ้น(500) และผู้เป็นพยานด้วย(501) และหากว่าพวกเจ้ากระทำแน่นอนมันก็เป็นการฝ่าฝืนเนื่องด้วยพวกเจ้า(502) และพวกเจ้าจงพึงยำเกรงอัลลอฮ์เถิด และอัลลอฮ์ทรงให้ความรู้แก่พวกเจ้าอยู่ และอัลลอฮ์นั้นทรงรอบรู้ในทุกสิ่งทุกอย่าง

Comment: (496)เป็นหนี้เป็นสินกันโดยมีกำหนดเวลาใช้หนี้จะเป็นเดือนหนึ่งหรือปีหนึ่งก็ตาม

Comment: (497)ตามความรู้ที่อัลลอฮ์ได้ทรงสอนเขา มิใช่ตามความนึกคิดของเขา

Comment: (498)จากจำนวนหนี้สินที่เป็นหนี้เขาหรือขอยืมเขา

Comment: (499)อย่าได้ปฏิเสธที่จะเป็นพยาน

Comment: (500)เขียนให้ถูกต้อง และชัดเจนตามที่บอกให้เขียนโดยไม่บิดเบือนด้วยการลดจำนวนหนี้ หรือเพิ่มขึ้น เป็นต้น

Comment: (501)ยืนยันตามความเป็นจริง อย่าได้เข้าข้างฝ่ายเจ้าหน้าหนี้หรือลูกหนี้

Comment: (502)เนื่องจากพวกเจ้าเป็นสาเหตุ

2:283

۞ وَإِن كُنتُمْ عَلَىٰ سَفَرٍۢ وَلَمْ تَجِدُوا۟ كَاتِبًۭا فَرِهَـٰنٌۭ مَّقْبُوضَةٌۭ ۖ فَإِنْ أَمِنَ بَعْضُكُم بَعْضًۭا فَلْيُؤَدِّ ٱلَّذِى ٱؤْتُمِنَ أَمَـٰنَتَهُۥ وَلْيَتَّقِ ٱللَّهَ رَبَّهُۥ ۗ وَلَا تَكْتُمُوا۟ ٱلشَّهَـٰدَةَ ۚ وَمَن يَكْتُمْهَا فَإِنَّهُۥٓ ءَاثِمٌۭ قَلْبُهُۥ ۗ وَٱللَّهُ بِمَا تَعْمَلُونَ عَلِيمٌۭ

Translation: และถ้าพวกเจ้าอยู่ในระหว่างเดินทางและไม่พบผู้เขียนคนใด ก็ให้มีสิ่งค้ำประกันยึดถือไว้แต่ถ้าบางคนในพวกเจ้าไว้ใจอีกบางคน(ลูกหนี้) ผู้ที่ได้รับความไว้ใจ (ลูกหนี้) ก็จงคืนสิ่งที่ถูกไว้ใจ(หนี้) ของเขาเสีย และเขาจงกลัวเกรงอัลลอฮ์ผู้เป็นพระผู้อภิบาลของเขาเถิด และพวกเจ้าจงอย่าปกปิดพยานหลักฐาน และผู้ใดปกปิดมันไว้ แน่นอนหัวใจของเขาก็มีบาป และอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงรอบรู้ในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำ

2:284

لِّلَّهِ مَا فِى ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَمَا فِى ٱلْأَرْضِ ۗ وَإِن تُبْدُوا۟ مَا فِىٓ أَنفُسِكُمْ أَوْ تُخْفُوهُ يُحَاسِبْكُم بِهِ ٱللَّهُ ۖ فَيَغْفِرُ لِمَن يَشَآءُ وَيُعَذِّبُ مَن يَشَآءُ ۗ وَٱللَّهُ عَلَىٰ كُلِّ شَىْءٍۢ قَدِيرٌ

Translation: สิ่งที่อยู่ในบรรดาชั้นฟ้า และสิ่งที่อยู่ในแผ่นดินนั้น เป็นสิทธิของอัลลอฮ์และถ้าหากพวกเจ้าเปิดเผยสิ่งที่อยู่ในใจของพวกเจ้าหรือปกปิดมันไว้ก็ตาม อัลลอฮ์จะทรงนำสิ่งนั้นมาชำระสอบสวนแก่พวกเจ้า แล้วพระองค์จะทรงอภัยโทษแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์(503) และอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง

Comment: (503)การนึกคิดในจิตใจนั้นอัลลอฮ์จะทรงนำมาชำระสอบสวนด้วย ถ้าทรงเห็นว่าผู้ใดควรได้รับอภัย และพระองค์ก็จะทรงอภัยให้ แต่ถ้าผู้ใดควรได้รับการลงโทษก็จะทรงลงโทษ

2:285

ءَامَنَ ٱلرَّسُولُ بِمَآ أُنزِلَ إِلَيْهِ مِن رَّبِّهِۦ وَٱلْمُؤْمِنُونَ ۚ كُلٌّ ءَامَنَ بِٱللَّهِ وَمَلَـٰٓئِكَتِهِۦ وَكُتُبِهِۦ وَرُسُلِهِۦ لَا نُفَرِّقُ بَيْنَ أَحَدٍۢ مِّن رُّسُلِهِۦ ۚ وَقَالُوا۟ سَمِعْنَا وَأَطَعْنَا ۖ غُفْرَانَكَ رَبَّنَا وَإِلَيْكَ ٱلْمَصِيرُ

Translation: ร่อซูล(นบีมุฮัมมัด) ได้ศรัทธาต่อสิ่งที่ได้ถูกประทานลงมาแก่เขา(504) จากพระผู้อภิบาลของเขา และมุอ์มินทั้งหลายก็ศรัทธาด้วย ทุกคนศรัทธาต่ออัลลอฮ์และมลาอิกะฮ์ของพระองค์ และบรรดาคัมภีร์ของพระองค์ และบรรดาร่อซูลของพระองค์(พวกเขากล่าวว่า) เราจะไม่แยกระหว่างท่านหนึ่งท่านใดจากบรรดาร่อซูลของพระองค์(505) และพวกเขาได้กล่าวว่า(506) เราได้ยินแล้ว และได้ปฏิบัติตามแล้ว การอภัยโทษจากพระองค์เท่านั้นที่พวกเราปรารถนา โอ้พระเจ้าของพวกเรา! และยังพระองค์นั้น คือ การกลับไป(507)

Comment: (504)นบีมุฮัมมัดนั้นได้ศรัทธาต่ออัลกุรอานที่อัลลอฮ์ได้ทรงประทานลงมา

Comment: (505)ไม่แยกศรัทธาเฉพาะบางท่าน และปฏิเสธอีกบางท่าน เช่น คริสเตียนปฏิเสธศรัทธาต่อท่านนบีมูซา และท่านนบีมุฮัมมัดและยิวปฏิเสธศรัทธาต่อท่านนบีอีซา และท่านนบีมุฮัมมัด เป็นต้น

Comment: (506)หมายถึงบรรดามุมิน

Comment: (507)พวกมุมินยอมรับว่า พวกเขาจะกลับไปหาพระองค์

2:286

لَا يُكَلِّفُ ٱللَّهُ نَفْسًا إِلَّا وُسْعَهَا ۚ لَهَا مَا كَسَبَتْ وَعَلَيْهَا مَا ٱكْتَسَبَتْ ۗ رَبَّنَا لَا تُؤَاخِذْنَآ إِن نَّسِينَآ أَوْ أَخْطَأْنَا ۚ رَبَّنَا وَلَا تَحْمِلْ عَلَيْنَآ إِصْرًۭا كَمَا حَمَلْتَهُۥ عَلَى ٱلَّذِينَ مِن قَبْلِنَا ۚ رَبَّنَا وَلَا تُحَمِّلْنَا مَا لَا طَاقَةَ لَنَا بِهِۦ ۖ وَٱعْفُ عَنَّا وَٱغْفِرْ لَنَا وَٱرْحَمْنَآ ۚ أَنتَ مَوْلَىٰنَا فَٱنصُرْنَا عَلَى ٱلْقَوْمِ ٱلْكَـٰفِرِينَ

Translation: อัลลอฮ์จะไม่ทรงบังคับชีวิตหนึ่งชีวิตใดนอกจากตามความสามารถของชีวิตนั้นเท่านั้น(508) ชีวิตนั้นจะได้รับการตอบแทนดีในสิ่งที่เขาได้แสวงหาไว้ และชีวิตนั้นจะได้รับการลงโทษในสิ่งชั่วที่เขาได้แสวงหาไว้ โอ้พระผู้อภิบาลของพวกเรา! โปรดอย่าเอาโทษแก่เราเลย หากพวกเราลืมหรือผิดพลาดไป โอ้พระเจ้าของพวกเรา! โปรดอย่าได้ให้แบกภาระหนักใดๆ แก่พวกเรา(509) เช่นเดียวกับที่พระองค์ได้ทรงให้แบกภาระมันแก่บรรดาผู้ที่อยู่ก่อนหน้าพวกเรามาแล้ว โอ้พระผู้อภิบาลของพวกเรา! โปรดอย่าให้พวกเราแบกมันได้(510) และโปรดได้ทรงอภัยแก่พวกเราและยกโทษให้แก่พวกเรา และเมตตาแก่พวกเราด้วยเถิดพระองค์ คือผู้ปกครองของพวกเรา ดังนั้นโปรดได้ทรงช่วยเหลือพวกเราให้ได้รับชัยชนะเหนือกลุ่มชนที่ปฏิเสธศรัทธาด้วยเถิด

Comment: (508)อัลลอฮ์ได้ทรงใช้ให้แต่ละคนปฏิบัติเท่าที่เขามีความสามารถเท่านั้น

Comment: (509)หมายถึงบัญญัติอันเป็นภาระหนักในการปฏิบัติ ที่ใช่คำว่าแบกนั้นเป็นสำนวนเปรียบเทียบ กล่าวคือ บัญญัติอันเป็นภาระหนักในการปฏิบัตินั้น ประหนึ่งการแบกภาระอันหนัก

Comment: (510)หมายถึงบัญญัติที่ไม่มีกำลังความสามารถที่จะปฏิบัติได้ ที่ใช้คำว่าแบกก็เป็นสำนวนเปรียบเทียบ