سورة طه

Taa-Haa

Taa-Haa


meccan   .   135 Ayahs

بِسْمِ ٱللَّهِ ٱلرَّحْمَـٰنِ ٱلرَّحِيمِ


20:1

طه

Translation: ฏอฮา

20:2

مَآ أَنزَلْنَا عَلَيْكَ ٱلْقُرْءَانَ لِتَشْقَىٰٓ

Translation: เรามิได้ให้อัลกุรอานลงมาแก่เจ้า เพื่อให้เจ้าลำบาก(1)

Comment: (1)แต่เราให้มันลงมาเพื่อเป็นความเมตตาและความสุขแก่เจ้า มีรายงานกล่าวว่า เมื่ออัลกุรอานถูกประทานลงมาแก่ท่านร่อซูลุลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ท่านได้ละหมาดพร้อมกับบรรดาสาวกของท่าน แล้วท่านได้ทำละหมาดให้นานเมื่อพวกกุเรซเห็นเข้าก็กล่าวว่า อัลลอฮ์มิได้ประทานอัลกุรอานนี้ลงมาแก่มุฮัมมัด เว้นแต่เพื่อให้เขาลำบาก ดังนั้นอายะฮ์นี้จึงถูกประทานลงมา

20:3

إِلَّا تَذْكِرَةًۭ لِّمَن يَخْشَىٰ

Translation: เว้นแต่เป็นการตักเตือนแก่ผู้ที่ยำเกรง(2)

Comment: (2)คือมุอ์มินที่ได้รับแสงสว่างจากอัลกุรอาน

20:4

تَنزِيلًۭا مِّمَّنْ خَلَقَ ٱلْأَرْضَ وَٱلسَّمَـٰوَٰتِ ٱلْعُلَى

Translation: เป็นการประทานลงจากพระผู้สร้างแผ่นดินและชั้นฟ้าทั้งหลายอันสูงส่ง

20:5

ٱلرَّحْمَـٰنُ عَلَى ٱلْعَرْشِ ٱسْتَوَىٰ

Translation: ผู้ทรงกรุณาปรานี ทรงสถิตย์อยู่บนบัลลังก์(3)

Comment: (3)โปรดดูคำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ในซูเราะฮ์อัลอะอ์ร็อฟ (หน้า 316) และซูเราะฮ์อัรเราะอ์ดุ (หน้า 509)

20:6

لَهُۥ مَا فِى ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَمَا فِى ٱلْأَرْضِ وَمَا بَيْنَهُمَا وَمَا تَحْتَ ٱلثَّرَىٰ

Translation: กรรมสิทธิ์ของพระองค์นั้นคือ สิ่งที่อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลายและสิ่งที่อยู่ในแผ่นดิน และสิ่งที่อยู่ในระหว่างทั้งสอง และสิ่งที่อยู่ใต้พื้นดิน

20:7

وَإِن تَجْهَرْ بِٱلْقَوْلِ فَإِنَّهُۥ يَعْلَمُ ٱلسِّرَّ وَأَخْفَى

Translation: และหากว่าเจ้ากล่าวเสียงดัง เพราะแท้จริงอัลลอฮ์ทรงรอบรู้สิ่งเร้นลับ และสิ่งซ่อนเร้น(4)

Comment: (4)จุดมุ่งหมายของอายะฮ์นี้คือ ให้ความอบอุ่นใจแก่ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ว่าพระเจ้าของเขานี้ทรงได้ยินเขาเสมอ พระองค์จะไม่ทรงปล่อยให้เขาอยู่อย่างเดียวดาย ในการเผชิญหน้ากับพวกกุฟฟารอย่างแน่นอน

20:8

ٱللَّهُ لَآ إِلَـٰهَ إِلَّا هُوَ ۖ لَهُ ٱلْأَسْمَآءُ ٱلْحُسْنَىٰ

Translation: อัลลอฮ์ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์สำหรับพระองค์นั้นทรงพระนามอันสวยงาม

20:9

وَهَلْ أَتَىٰكَ حَدِيثُ مُوسَىٰٓ

Translation: และเรื่องราวของมูซาได้มีมาถึงเจ้าบ้างไหม ?

20:10

إِذْ رَءَا نَارًۭا فَقَالَ لِأَهْلِهِ ٱمْكُثُوٓا۟ إِنِّىٓ ءَانَسْتُ نَارًۭا لَّعَلِّىٓ ءَاتِيكُم مِّنْهَا بِقَبَسٍ أَوْ أَجِدُ عَلَى ٱلنَّارِ هُدًۭى

Translation: เมื่อเขาเห็นไฟ เขาจึงกลัวแก่ครอบครัวของเขาว่า “พวกท่านจงหยุดอยู่ที่นี่ เพราะฉันเห็นไฟ(5) บางทีฉันจะนำคบเพลิงจากที่นั่นมาให้พวกท่าน หรือฉันอาจจะพบผู้นำทางที่กองไฟนั้น

Comment: (5)อิบนุอับบาส กล่าวว่า เขาหลงทางและคืนวันนั้นเป็นคืนที่มืดและหนาว เขาพยายามจุดไฟแต่ก็ไม่ติด ขณะนั้นเขาเหลือบไปเห็น แสงสว่างแต่ไกลอยู่ทางซ้ายมือของเขา แต่ความจริงนั้นมันเป็นดวงประทีปของอัลลอฮ์

20:11

فَلَمَّآ أَتَىٰهَا نُودِىَ يَـٰمُوسَىٰٓ

Translation: ครั้นเมื่อเขามาถึงกองไฟนั้น มีเสียงเรียกขึ้นว่า “โอ้ มูซาเอ๋ย !

20:12

إِنِّىٓ أَنَا۠ رَبُّكَ فَٱخْلَعْ نَعْلَيْكَ ۖ إِنَّكَ بِٱلْوَادِ ٱلْمُقَدَّسِ طُوًۭى

Translation: “แท้จริงข้าคือพระเจ้าของเจ้า จงถอดรองเท้าทั้งสองข้างของเจ้าออก แท้จริงเจ้ากำลังอยู่ ณ หุบเขาอันศักดิ์สิทธิ์ (มีชื่อว่า) ฏุว่า

20:13

وَأَنَا ٱخْتَرْتُكَ فَٱسْتَمِعْ لِمَا يُوحَىٰٓ

Translation: “และข้าได้เลือกเจ้า(6) ฉะนั้น จงตั้งใจฟังสิ่งที่ถูกวะฮีย์”

Comment: (6)เพื่อทำหน้าที่เป็นนบี

20:14

إِنَّنِىٓ أَنَا ٱللَّهُ لَآ إِلَـٰهَ إِلَّآ أَنَا۠ فَٱعْبُدْنِى وَأَقِمِ ٱلصَّلَوٰةَ لِذِكْرِىٓ

Translation: “แท้จริงข้าคืออัลลอฮ์ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากข้า ดังนั้นเจ้าจงเคารพภักดีต่อข้าและจงดำรงไว้ซึ่งการละหมาด เพื่อรำลึกถึงข้า"

20:15

إِنَّ ٱلسَّاعَةَ ءَاتِيَةٌ أَكَادُ أُخْفِيهَا لِتُجْزَىٰ كُلُّ نَفْسٍۭ بِمَا تَسْعَىٰ

Translation: “แท้จริงวันอวสานของโลกนั้นกำลังมาถึง ข้าปกปิดมันไว้เพื่อทุกชีวิตจะถูกตอบแทนตามี่มันได้แสวงหาไว้(7)

Comment: (7)บรรดานักตัฟซีรให้ความหมายของอายะฮ์นี้ว่า เคล็ดลับในการปกปิดวันอวสานของโลก และปกปิดเวลาตายของมนุษย์ไว้ก็คือ อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงบัญญัติไว้โดยไม่รับการเตาบะฮ์ เมื่อวันอวสานและการตายของมนุษย์มาถึง เพราะหากมนุษย์รู้ถึงกำหนดวันอวสานและวันตายของเขาแล้ว เขาจะมั่วสุมอยู่กับการทำบาปแล้วขอเตาบะฮ์ก่อนถึงเวลา เขาก็จะรอดพ้นจากการลงโทษ อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงปกปิดไว้เป็นความลับ เพื่อให้มนุษย์อยู่ในสภาพระวังตัวและเตรียมพร้อมอยู่เสมอ แทนที่จะให้วันอวสานและความตายรู้จักเขาโดยไม่รู้ตัว

20:16

فَلَا يَصُدَّنَّكَ عَنْهَا مَن لَّا يُؤْمِنُ بِهَا وَٱتَّبَعَ هَوَىٰهُ فَتَرْدَىٰ

Translation: “ดังนั้น ผู้ที่ไม่ศรัทธาต่อมันจะต้องไม่ทำให้เจ้าเหินห่างจากมัน และปฏิบัติตามอารมณ์ต่ำของเขา แล้วเจ้าจะพินาศ”(8)

Comment: (8)เพราะผู้ที่ไม่ให้ความสนใจหรือหลงลืมต่อวันนั้น ย่อมจะต้องประสบกับความพินาศหายนะอย่างแน่นอน

20:17

وَمَا تِلْكَ بِيَمِينِكَ يَـٰمُوسَىٰ

Translation: “และอะไรที่อยู่ในมือขวาขอเจ้าเล่า โอ้มูซา เอ๋ย(9)!

Comment: (9)จุดมุ่งหมายของคำถามก็เพื่อเป็นการยืนยันเป็นการตักเตือนให้รู้สึกว่า สิ่งที่อยู่ในมือมูซานั้นคือไม้เท้า และไม้เท้านี่แหละจะกลายเป็นสิ่งปาฏิหาริย์ในเวลาต่อมา

20:18

قَالَ هِىَ عَصَاىَ أَتَوَكَّؤُا۟ عَلَيْهَا وَأَهُشُّ بِهَا عَلَىٰ غَنَمِى وَلِىَ فِيهَا مَـَٔارِبُ أُخْرَىٰ

Translation: เขากล่าวว่า “มันคือไม้เท้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ใช้มันสำหรับยัน และข้าพระองค์ใช้มันตีบนพุ่มไม้เพื่อเป็นอาหารสำหรับแกะของข้าพระองค์ และข้าพระองค์ใช้มันในประโยชน์อื่นๆ อีก”

20:19

قَالَ أَلْقِهَا يَـٰمُوسَىٰ

Translation: พระองค์ตรัสว่า “จงโยนมันไปซิ โอ้มูซาเอ๋ย”

20:20

فَأَلْقَىٰهَا فَإِذَا هِىَ حَيَّةٌۭ تَسْعَىٰ

Translation: เขาจึงโยนมันลงไป แล้วมันก็ได้กลายเป็นงูเลื้อย(10)

Comment: (10)นักตัฟซีรได้อธิบายว่า เมื่อมูซาได้เห็นสิ่งประหลาดน่ากลัวเช่นนี้ ก็รู้สึกกลัวโดยเฉพาะในเหตุการณ์นี้ ปรากฏการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในขณะที่กำลังสนทนากัน ก็เพื่อเป็นการปลอบใจมิให้ตื่นเต้นต่อปาฏิหาริย์อันยิ่งใหญ่ครั้งนี้ และอีกประการหนึ่งก็เพื่อให้เป็นการฝึกซ้อมให้มีความเคยชินต่อเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้

20:21

قَالَ خُذْهَا وَلَا تَخَفْ ۖ سَنُعِيدُهَا سِيرَتَهَا ٱلْأُولَىٰ

Translation: พระองค์ตรัสว่า”จงจับมันขึ้นมาและอย่ากลัว เราจะให้มันกลับมาเป็นไม้เท้าตามสภาพก่อนของมัน”

20:22

وَٱضْمُمْ يَدَكَ إِلَىٰ جَنَاحِكَ تَخْرُجْ بَيْضَآءَ مِنْ غَيْرِ سُوٓءٍ ءَايَةً أُخْرَىٰ

Translation: “และจงเอามือของเข้าซุกเข้าไปใต้รักแร้แล้วเอามันออกมามันจะมีสภาพขาวประกาย ปราศจากอันตรายใด ๆ(11) มันเป็นอีกสัญญาณหนึ่ง"

Comment: (11)คือเมื่อเอามือเข้าไปซุกในรักแร้แล้วดึงออกมา มือนั้นจะมีประกายแสงขาว ไม่ใช่สภาพของคนเป็นโรคที่น่ากลัวน่าเกลียดเช่นนี้ก็เป็นอีกสัญญาณหนึ่ง นอกจากเรื่องของไม้เท้า

20:23

لِنُرِيَكَ مِنْ ءَايَـٰتِنَا ٱلْكُبْرَى

Translation: “เพื่อเราจะให้เข้าได้เห็นบางส่วนจากสัญญาณทั้งหลายอันยิ่งใหญ่ของเรา”

20:24

ٱذْهَبْ إِلَىٰ فِرْعَوْنَ إِنَّهُۥ طَغَىٰ

Translation: “จงไปหาฟิรอาวน์ เพราะเขาได้ละเมิดฝ่าฝืน”(12)

Comment: (12)คือจงนำเอาสัญญาณต่าง ๆ ของเราไปแสดงต่อฟิรอาวน์ เพราะเขาหยิ่งยโสและละเมิดฝ่าฝืนถึงกับอ้างตัวเขาเองว่าเป็นพระเจ้า

20:25

قَالَ رَبِّ ٱشْرَحْ لِى صَدْرِى

Translation: เขากล่าวว่า “ข้าแต่พระผู้อภิบาลของข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงโปรดเปิดอกของข้าพระองค์ให้แก่ข้าพระองค์ด้วยเถิด”

20:26

وَيَسِّرْ لِىٓ أَمْرِى

Translation: “และทรงโปรดทำให้การงานของข้าพระองค์(13) ง่ายดายแก่ข้าพระองค์ด้วย

Comment: (13)หมายถึงสิ่งที่พระองค์ทรงมอบหมายให้ปฏิบัติ คือการเผยแพร่สาส์นของพระองค์

20:27

وَٱحْلُلْ عُقْدَةًۭ مِّن لِّسَانِى

Translation: “และทรงโปรดแก้ปม จากลิ้นของข้าพระองค์ด้วย”(14)

Comment: (14)นักตัฟซีรอธิบายว่า เมื่อครั้งมูซาใช้ชีวิตอยู่ในวังของฟิรอาวน์ ครั้งหนึ่งฟิรอาวน์ได้อุ้มมูซาไว้บนตักของเขาขณะที่เขายังเด็ก ๆ อยู่ มูซาได้ดึงเคราของฟิรอาวน์ ฟิรอาวน์ได้โกรธถึงกับจะฆ่าเขา อาซิยะฮ์ภริยาของเขากล่าวแก่เขาว่า มันเป็นเด็กยังไม่ประสาอะไรจะพิสูจน์ให้เห็นก็ได้ เอ้า เอาถ่านไฟมาสองก้อนและไข่มุกมาสองเม็ด ถ้าหากเขาหยิบเอาไข่มุกก็จะรู้ว่าเขารู้เรื่อง หากเขาหยิบเอาถ่านไฟก็จะรู้ว่าเขาเป็นเด็กไม่ประสาอะไร แล้วก็ยื่นให้มูซา เขาก็หยิบเอาถ่านไฟไปเข้าปาก ดังนั้นลิ้นของเขาจึงเป็นแผล ทำให้พูดไม่ชัด

20:28

يَفْقَهُوا۟ قَوْلِى

Translation: “เพื่อให้พวกเขาเข้าใจคำพูดของข้าพระองค์”

20:29

وَٱجْعَل لِّى وَزِيرًۭا مِّنْ أَهْلِى

Translation: “และทรงโปรดให้คนในครอบครัวของข้าพระองค์ เป็นผู้ช่วยแก่ข้าพระองค์ด้วย”

20:30

هَـٰرُونَ أَخِى

Translation: “ฮารูนพี่ชายของข้าพระองค์”

20:31

ٱشْدُدْ بِهِۦٓ أَزْرِى

Translation: “ได้โปรดให้เขาเพิ่มความเข้มแข็งแก่ข้าพระองค์ด้วย”(15)

Comment: (15)คือให้เป็นกำลังสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่

20:32

وَأَشْرِكْهُ فِىٓ أَمْرِى

Translation: “และให้เขามีส่วนร่วมในกิจการของข้าพระองค์ด้วย”(16)

Comment: (16)คือให้เขามีหุ้นส่วนกับข้าพระองค์ ในการเป็นนบีและการเผยแพร่สาส์น

20:33

كَىْ نُسَبِّحَكَ كَثِيرًۭا

Translation: “เพื่อเราจักได้ถวายการแซ่ซร้องสดุดีต่อพระองค์ท่านอย่างมากมาย”(17)

Comment: (17)เพื่อเราจะได้ร่วมมือกันในการให้ความบริสุทธิ์ต่อพระองค์ ในสิ่งที่ไม่คู่ควรแก่พระองค์ และรำลึกถึงพระองค์ด้วยการวิงวอน และการแซ่ซ้องสดุดี

20:34

وَنَذْكُرَكَ كَثِيرًا

Translation: “และเราจักได้รำลึกถึงพระองค์ท่านอย่างมากมาย”

20:35

إِنَّكَ كُنتَ بِنَا بَصِيرًۭا

Translation: “แท้จริงพระองค์ท่านเป็นผู้ทรงเห็นเรา”

20:36

قَالَ قَدْ أُوتِيتَ سُؤْلَكَ يَـٰمُوسَىٰ

Translation: พระองค์ตรัสว่า “แน่นอน เราได้ให้ตามคำขอของเจ้าแล้ว โอ้ มูซาเอ๋ย”

20:37

وَلَقَدْ مَنَنَّا عَلَيْكَ مَرَّةً أُخْرَىٰٓ

Translation: และโดยแน่นอน เราได้ให้ความโปรดปรานแก่เจ้ามาครั้งหนึ่งก่อนนี้แล้ว

20:38

إِذْ أَوْحَيْنَآ إِلَىٰٓ أُمِّكَ مَا يُوحَىٰٓ

Translation: โดยที่เราได้ดลใจให้มารดของเจ้าถึงสิ่งที่ถูกดลใจ(18)

Comment: (18)ซึ่งเป็นสาเหตุให้เจ้ารอดพ้นจากการถูกฆ่า

20:39

أَنِ ٱقْذِفِيهِ فِى ٱلتَّابُوتِ فَٱقْذِفِيهِ فِى ٱلْيَمِّ فَلْيُلْقِهِ ٱلْيَمُّ بِٱلسَّاحِلِ يَأْخُذْهُ عَدُوٌّۭ لِّى وَعَدُوٌّۭ لَّهُۥ ۚ وَأَلْقَيْتُ عَلَيْكَ مَحَبَّةًۭ مِّنِّى وَلِتُصْنَعَ عَلَىٰ عَيْنِىٓ

Translation: โดยให้นางวางเขาลงในหีบ แล้วเอาไปปล่อยในแม่น้ำ (ไนล์) แล้วแม่น้ำก็ซัดเขาไปติดที่ชายฝั่ง (จากนั้น) ศัตรูของข้าและศัตรูของเขาก็จะเก็บเอาเขาไป และข้าก็ได้ให้ความรักจากข้าแก่เจ้า(19) เพื่อเจ้าจะได้รับการเลี้ยงดู ภายใต้การดูแลของข้า

Comment: (19)อิบนุอับบาสกล่าวว่า อัลลอฮ์ทรงรักเขา แล้วพระองค์ก็ให้เขาเป็นที่รักในหมูบ่าวของพระองค์

20:40

إِذْ تَمْشِىٓ أُخْتُكَ فَتَقُولُ هَلْ أَدُلُّكُمْ عَلَىٰ مَن يَكْفُلُهُۥ ۖ فَرَجَعْنَـٰكَ إِلَىٰٓ أُمِّكَ كَىْ تَقَرَّ عَيْنُهَا وَلَا تَحْزَنَ ۚ وَقَتَلْتَ نَفْسًۭا فَنَجَّيْنَـٰكَ مِنَ ٱلْغَمِّ وَفَتَنَّـٰكَ فُتُونًۭا ۚ فَلَبِثْتَ سِنِينَ فِىٓ أَهْلِ مَدْيَنَ ثُمَّ جِئْتَ عَلَىٰ قَدَرٍۢ يَـٰمُوسَىٰ

Translation: เมื่อพี่สาวของเจ้าเดินไป เธอได้พูด(กับพวกนั้น)ว่า ฉันจะชี้แนะผู้ที่เลี้ยงดูเขาแก่พวกท่านไหม?(20) แล้วเราให้เจ้ากับไปหามารดาของเจ้า เพื่อที่จะได้เป็นที่รื่นรมณ์แก่สายตาของนางและไม่เศร้าโศก และเจ้าได้ฆ่าชายคนหนึ่ง(21) แล้วเราได้ช่วยเจ้าให้พ้นจากความหนักใจ และเราได้ทดสอบเจ้าด้วยการทดสอบนานาชนิด แล้วเจ้าได้พำนักอยู่กับชาวมัดยันเป็นเวลาหลายปี(22) ภายหลังเจ้าได้กลับมาตามกำหนด(23) โอ้ มูซาเอ๋ย !

Comment: (20)นักตัฟซีรอธิบายว่า เมื่อวงศ์วานของฟิรอาวน์ได้เก็บเขาขึ้นไปแล้ว เขาจะไม่ยอมดูดนามจากหญิงอื่น เพราะอัลลอฮ์ทรงห้ามแม่นมอื่น ๆ แก่เขา แม่ของเขารู้สึกเศร้าโศกเสียใจ หลังจากที่นางได้เอาเขาไปปล่อยในแม่น้ำไนล์ นางจึงใช้ให้พี่สาวของเขาติดตามข่าวของมูซา เมื่อนางไปถึงวังของฟิรอาวน์และมองเห็นมูซาแล้ว นางได้กล่าวกับกลุ่มชนที่นั่นว่า ฉันจะชี้แนะแก่พวกท่านถึงสตรีที่ซื่อสัตย์เป็นคนดี เพื่อที่นางจะทำสัญญากับพวกท่าน ในการให้นมแก่หนูน้อยคนนี้เอาไหม? พวกเขาก็ขอร้องนางให้นำแม่นมมา นางก็ได้นำเอามารดาของมูซามา เมื่อนางได้เอาเต้านมออกมามูซาก็จับดูดทันที ภริยาของฟิรอาวน์ดีใจมากและกล่าวขึ้นว่า ขอให้เธออยู่กับฉันในวังนี้ได้ไหม? นางกล่าว่า ฉันไม่สามารถทิ้งบ้านและลูก ๆ ของฉันได้ แต่ฉันจะเอาเขาไปอยู่กับฉัน แล้วฉันจะนำเขามาหาท่านบ่อย ๆ นางกล่าวว่า ดีแล้วแล้วนางก็ทำดีกับแม่ของมูซาอย่างที่สุด นั่นก็คือพระดำรัสของพระองค์ที่ว่า “แล้วเราได้ให้เขากลับคืนเจ้า……..”

Comment: (21)เจ้าได้ฆ่าชาวอียิปต์คริสเตียนคนหนึ่ง

Comment: (22)พำนักอยู่กับนบีชุอัยบ์ที่เมืองมัดยัน

Comment: (23)เจ้าได้มาตามนัด เพื่อทำหน้าที่เผยแพร่สาส์นและเป็นนบี

20:41

وَٱصْطَنَعْتُكَ لِنَفْسِى

Translation: และเราได้เลือกเจ้าเพื่อทำหน้าที่ของข้า

20:42

ٱذْهَبْ أَنتَ وَأَخُوكَ بِـَٔايَـٰتِى وَلَا تَنِيَا فِى ذِكْرِى

Translation: เจ้าจงไปพร้อมกับพี่ชายของเจ้า พร้อมด้วยสัญญาณทั้งหลายของข้า และเจ้าทั้งสองอย่าเฉื่อยชาในการรำลึกถึงข้า(24)

Comment: (24)คือเขาทั้งสองอย่าเฉื่อยชาในการรำลึกถึงอัลลอฮ์ จงรำลึกถึงพระองค์ในขณะที่เผชิญหน้ากับฟิรอาวน์ เพราะการรำลึกถึงพระองค์เป็นการช่วยเหลือ และเป็นพลังแก่เขาทั้งสอง

20:43

ٱذْهَبَآ إِلَىٰ فِرْعَوْنَ إِنَّهُۥ طَغَىٰ

Translation: เจ้าทั้งสองจงไปหาฟิรอาวน์ แท้จริงเขายโสโอหังมาก

20:44

فَقُولَا لَهُۥ قَوْلًۭا لَّيِّنًۭا لَّعَلَّهُۥ يَتَذَكَّرُ أَوْ يَخْشَىٰ

Translation: แล้วเจ้าทั้งสองจงพูดกับเขาด้วยคำพูดที่อ่อนโยน บางทีเขาอาจจะรำลึกขึ้นมา(25) หรือเกิดความยำเกรงขึ้น

Comment: (25)คือรำลึกถึงความยิ่งใหญ่ของอัลลอฮ์ หรือกลัวการลงโทษของพระองค์ แล้วเขาจะเข็ดหลาบจากการยโสของเขา

20:45

قَالَا رَبَّنَآ إِنَّنَا نَخَافُ أَن يَفْرُطَ عَلَيْنَآ أَوْ أَن يَطْغَىٰ

Translation: เขาทั้งสองได้กล่าวว่า “ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าของเรา แท้จริงเรากลัวว่า(26) เขาจะล่วงเกินเรา"

Comment: (26)คือกลัวว่า ถ้าเราเรียกร้องเชิญชวนเขาไปสู่การอีมาน แล้วเขาจะรีบเร่งลงโทษเรา

20:46

قَالَ لَا تَخَافَآ ۖ إِنَّنِى مَعَكُمَآ أَسْمَعُ وَأَرَىٰ

Translation: พระองค์ตรัสว่า “เจ้าทั้งสองอย่ากลัวแท้จริงข้าอยู่กับเจ้าทั้งสอง ข้าได้ยินและได้เห็น (ทุกสิ่งทุกอย่าง)"

20:47

فَأْتِيَاهُ فَقُولَآ إِنَّا رَسُولَا رَبِّكَ فَأَرْسِلْ مَعَنَا بَنِىٓ إِسْرَٰٓءِيلَ وَلَا تُعَذِّبْهُمْ ۖ قَدْ جِئْنَـٰكَ بِـَٔايَةٍۢ مِّن رَّبِّكَ ۖ وَٱلسَّلَـٰمُ عَلَىٰ مَنِ ٱتَّبَعَ ٱلْهُدَىٰٓ

Translation: ดังนั้น เจ้าทั้งสองจงไปหาเขาแล้วกล่าวว่า “แท้จริงเราเป็นร่อซูลของพระผู้อภิบาลของท่าน(27) ฉะนั้นท่านจงปล่อยวงศ์วานอิสรออีลมากับเราเถิด และอย่าได้ทรมานพวกเขาเลย(28) แน่นอน เราได้นำสัญญาณ(29) จากพระผู้อภิบาลของท่านมายังท่านแล้ว และความปลอดภัย (จากการลงโทษของอัลลอฮ์) จงมีแด่ผู้ปฏิบัติตามแนวทางที่ถูกต้อง(30)

Comment: (27)การเจาะจงกล่าวคำว่า “พระเจ้าของท่าน”นั้น ก็เพื่อแจ้งให้เขาทราบว่า เขานั้นเป็นบ่าวเป็นทาสของอัลลอฮ์เพราะเขาอ้างว่าเขาเป็นพระเจ้า

Comment: (28)คือการทรมานด้วยการใช้งานหนัก

Comment: (29)คือสิ่งมหัศจรรย์หรือสิ่งปาฏิหาริย์

Comment: (30)คือความปลอดภัยจากการลงโทษของอัลลอฮ์ แก่ผู้ที่ดำเนินตามแนวทางที่ถูกต้อง และผู้ที่ศรัทธาต่ออัลลอฮ์นักตัฟซีรกล่าวว่าคำว่า “อัสสลาม” ในที่นี้มิได้หมายความว่า การแสดงคารวะ เพราะมิใช่เป็นการเริ่มประโยค แต่ความมุ่งหมายคือความปลอดภัยจากการลงโทษและความกริ้วของอัลลอฮ์

20:48

إِنَّا قَدْ أُوحِىَ إِلَيْنَآ أَنَّ ٱلْعَذَابَ عَلَىٰ مَن كَذَّبَ وَتَوَلَّىٰ

Translation: แท้จริงได้มีวะฮีย์มายังเราว่า แท้จริงการลงโทษจะประสบแก่ผู้ที่ปฏิเสธ (บรรดานบีของอัลลอฮ์) และหันหลัง (ให้กับการอีมาน)

20:49

قَالَ فَمَن رَّبُّكُمَا يَـٰمُوسَىٰ

Translation: เขากล่าวว่า “ดังนั้น ใครเล่าคือพระเจ้าของท่านทั้งสอง โอ้ มูซาเอ๋ย”

20:50

قَالَ رَبُّنَا ٱلَّذِىٓ أَعْطَىٰ كُلَّ شَىْءٍ خَلْقَهُۥ ثُمَّ هَدَىٰ

Translation: มูซากล่าวว่า “พระเจ้าของเราคือ ผุ้ทรงประทานทุกอย่างแก่สิ่งที่พระองค์ทรงสร้างแล้วพระองค์ก็ทรงชี้แนะแนวทางให้”(31)

Comment: (31)คือพระเจ้าของเราผู้ซึ่งให้อย่างสมบูรณ์แก่ทุกสิ่งที่ถูกกำเนิด แล้วพระองค์ก็ทรงแนะแนวทางแก่สิ่งเหล่านั้น นี่คือคำตอบที่มีสำนวนลึกซึ้งและชัดแจ้ง เป็นการรวมและชี้บ่งถึงทุกสิ่งที่มีอยู่ในโลกนี้

20:51

قَالَ فَمَا بَالُ ٱلْقُرُونِ ٱلْأُولَىٰ

Translation: เขากล่าวว่า “แล้วสภาพของคนรุ่นก่อน ๆ นั้นเป็นเช่นไร ?”

20:52

قَالَ عِلْمُهَا عِندَ رَبِّى فِى كِتَـٰبٍۢ ۖ لَّا يَضِلُّ رَبِّى وَلَا يَنسَى

Translation: มูซากล่าวว่า “ความรู้ในเรื่องนั้น(32) อยู่ที่พระเจ้าของฉัน ในบันทึกของพระองค์ พระเจ้าของฉันจะไม่ทรงผิดพลาด และไม่ทรงหลงลืม”

Comment: (32)คือความรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์ต่าง ๆ และการปฏิบัติของชนชาติเหล่านั้นอยู่ที่พระเจ้าของฉัน พระองค์ทรงบันทึกไว้แล้วในเลาฮ์มะฮ์ฟูซ

20:53

ٱلَّذِى جَعَلَ لَكُمُ ٱلْأَرْضَ مَهْدًۭا وَسَلَكَ لَكُمْ فِيهَا سُبُلًۭا وَأَنزَلَ مِنَ ٱلسَّمَآءِ مَآءًۭ فَأَخْرَجْنَا بِهِۦٓ أَزْوَٰجًۭا مِّن نَّبَاتٍۢ شَتَّىٰ

Translation: พระผู้ทรงทำให้แผ่นดินเป็นพื้นราบเรียบ สำหรับพวกท่าน และทรงทำให้เป็นถนนหนทางสำหรับพวกท่าน และทรงหลั่งน้ำฝนมาจากฟากฟ้าและเราได้ให้พืชผลนานาชนิดออกมาเป็นคู่ ๆ(33)

Comment: (33)คือทรงทำแผ่นดินให้เป็นพื้นราบเรียบ เป็นถนนหนทาง ทรงหลั่งน้ำฝนลงมา และทรงให้พืชผลหลากชนิด หลากรส หลากรูปร่าง และกลิ่นทุกชนิดออกมาเป็นคู่ ๆ ทั้งนี้ก็เพราะความเมตตาของพระองค์เพื่อให้พวกท่านได้แสวงหาผลประโยชน์จากมัน

20:54

كُلُوا۟ وَٱرْعَوْا۟ أَنْعَـٰمَكُمْ ۗ إِنَّ فِى ذَٰلِكَ لَـَٔايَـٰتٍۢ لِّأُو۟لِى ٱلنُّهَىٰ

Translation: พวกเจ้าจงกิน และจงเลี้ยงปศุสัตว์ของพวกเจ้า แท้จริงในการนั้น แน่นนอน ย่อมเป็นสัญญาณมากหลายสำหรับปัญญาชน(34)

Comment: (34)คำสั่งใช้ให้กินและเลี้ยงปศุสัตว์จากพืชผลต่าง ๆเหล่านั้น เป็นคำสั่งใช้เพื่ออนุมัติมิใช่เป็นวายิบ ทั้งนี้เพื่อเป็นการเตือนพวกเขาให้รำลึกถึงนิอ์มะฮ์ของพระองค์

20:55

۞ مِنْهَا خَلَقْنَـٰكُمْ وَفِيهَا نُعِيدُكُمْ وَمِنْهَا نُخْرِجُكُمْ تَارَةً أُخْرَىٰ

Translation: จากแผ่นดินเราได้บังเกิดพวกเจ้า และ ณ แผ่นดินนั้นเราจะให้พวกเจ้ากลับคืนไป และจากแผ่นดินนั้น เราจะให้พวกเจ้ากลับออกมาอีกครั้งหนึ่ง

20:56

وَلَقَدْ أَرَيْنَـٰهُ ءَايَـٰتِنَا كُلَّهَا فَكَذَّبَ وَأَبَىٰ

Translation: และแน่นอน เราได้ให้เขาเห็นสัญญาณทั้งหมดของเรา(35) แต่เขาได้ปฏิเสธและดื้อดึง

Comment: (35)คือเราได้ให้ฟิรอาวน์ได้เห็นปาฏิหาริย์ต่างๆ ที่ชี้แนะถึงการเป็นนบีของมูซา เช่น ไม้เท้า มือ น้ำท่วม ตั๊กแตน และอื่นๆ อีก รวม 9 อย่าง

20:57

قَالَ أَجِئْتَنَا لِتُخْرِجَنَا مِنْ أَرْضِنَا بِسِحْرِكَ يَـٰمُوسَىٰ

Translation: เขากล่าวว่า “เจ้ามาหาเราเพื่อที่จะเอาเราออกจาแผ่นดินของเรา ด้วยเล่ห์กลของเจ้ากระนั้นหรือ โอ้ มูซาเอ๋ย !”

20:58

فَلَنَأْتِيَنَّكَ بِسِحْرٍۢ مِّثْلِهِۦ فَٱجْعَلْ بَيْنَنَا وَبَيْنَكَ مَوْعِدًۭا لَّا نُخْلِفُهُۥ نَحْنُ وَلَآ أَنتَ مَكَانًۭا سُوًۭى

Translation: “ดังนั้น เราก็จะนำมาซึ่งเล่ห์กลนั้นเจ้าเช่นเดียวกัน(36) ฉะนั้น เจ้าจงกำหนดวันขึ้นระหว่างเรากับท่าน ณ สถานที่ที่แน่นอน โดยที่เราจะไม่ผิดสัญญาและตัวท่านด้วย”

Comment: (36)คือเราจะนําการแสดงเล่ห์กลนั้นมาตอบโต้กับเจ้าเช่นเดียวกัน เพื่อให้เป็นที่ประจักษ์ชัดแก่พวกเขา เจ้านั้นเป็นนักเล่นกล มิใช่เป็นร่อซูล

20:59

قَالَ مَوْعِدُكُمْ يَوْمُ ٱلزِّينَةِ وَأَن يُحْشَرَ ٱلنَّاسُ ضُحًۭى

Translation: มูซากล่าวว่า “กำหนดวันของพวกท่านคือวันอีดวันรื่นเริง โดยให้ประชาชนมาร่วมชุมนุมกันในตอนสาย”(37)

Comment: (37)นักตัฟซีรกล่าวว่า การที่มูซากําหนดวันนั้นเพื่อแสดงฝีมือ และเพื่อให้ความจริงเป็นที่ประจักษ์ และเพื่อให้ความเท็จมลายไปต่อหน้า ประจักษ์พยาน และเพื่อให้แพร่หลายทุกหัวมุมเมืองถึงปรากฏการณ์แห่งความมหัศจรรย์ของเขา

20:60

فَتَوَلَّىٰ فِرْعَوْنُ فَجَمَعَ كَيْدَهُۥ ثُمَّ أَتَىٰ

Translation: ฟิรอาวน์ได้กลับออกไป เพื่อไปร่วมมือกันวางแผนการณ์ของเขา แล้วได้มายังที่นัดหมาย(38)

Comment: (38)อิบนุ อับบาส กล่าวว่า นักเล่นกลของฝ่ายฟิรอาวน์ มี 72 คน แต่ละคนมีเชือกและไม้เท้าติดมือมาด้วย

20:61

قَالَ لَهُم مُّوسَىٰ وَيْلَكُمْ لَا تَفْتَرُوا۟ عَلَى ٱللَّهِ كَذِبًۭا فَيُسْحِتَكُم بِعَذَابٍۢ ۖ وَقَدْ خَابَ مَنِ ٱفْتَرَىٰ

Translation: มูซาได้กล่าวแก่พวกเขา “ความหายนะจงประสบแก่พวกท่าน พวกท่านอย่าได้เสกสรรปั้นแต่งการมุสาต่ออัลลอฮ์มิฉะนั้นพระองค์จะทรงทำลายพวกท่านด้วยการลงโทษ และแน่นอนผู้ปั้นแต่งการมุสานั้น ได้ประสบความผิดหวังมาแล้ว”(39)

Comment: (39)มูซาได้สั่งสอนและตักเตือนพวกเขา หวังว่าพวกเขาคงจะรู้สึกตัวแล้วกลับไปสู่การเชื่อถือที่ถูกต้อง

20:62

فَتَنَـٰزَعُوٓا۟ أَمْرَهُم بَيْنَهُمْ وَأَسَرُّوا۟ ٱلنَّجْوَىٰ

Translation: พวกเขาได้โต้แย้งกันในเรื่องของพวกเขา และได้มีการพูดกันอย่างลับ ๆ(40)

Comment: (40)คือสงสัยในเรื่องของมูซา บางคนในหมู่พวกเขากล่าวว่า นี่มันมิใช่คำพูดของนักเล่นกล และพวกเขาก็ปกปิดความรู้สึกของพวกเขา แล้วก็พูดจาซุบซิบกันเป็นความลับ

20:63

قَالُوٓا۟ إِنْ هَـٰذَٰنِ لَسَـٰحِرَٰنِ يُرِيدَانِ أَن يُخْرِجَاكُم مِّنْ أَرْضِكُم بِسِحْرِهِمَا وَيَذْهَبَا بِطَرِيقَتِكُمُ ٱلْمُثْلَىٰ

Translation: พวกเขากล่าวว่า “สองคนนี้มิได้เป็นอื่นใด นอกจากเป็นนักมายากลอย่างแน่นอน ต้องการที่จะเอาพวกท่านออกจาแผ่นดินของพวกท่านด้วยเล่ห์กลของเขาทั้งสอง และต้องการจะลบล้างขนบธรรมเนียมอันดีงามของพวกท่าน"(41)

Comment: (41)จุดมุ่งหมายของทั้งสองคือ ทำลายล้างศาสนาของพวกท่านซึ่งพวกท่านกำลังยึดถืออยู่ อันเป็นการพูดแก่เขินเพราะพวกเขากลัวว่ามูซาและฮารูนจะชนะพวกเขา และมหาชนจะเชื่อฟังเขาทั้งสอง

20:64

فَأَجْمِعُوا۟ كَيْدَكُمْ ثُمَّ ٱئْتُوا۟ صَفًّۭا ۚ وَقَدْ أَفْلَحَ ٱلْيَوْمَ مَنِ ٱسْتَعْلَىٰ

Translation: “ดังนั้น พวกท่านจงรวบรวมแผนการณ์ของพวกท่าน แล้วเดินออกมาเป็นแถว(42) และวันนี้ผู้ใดเหนือกว่า ก็จะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน”(43)

Comment: (42)พวกเขาจึงตัดสินใจและแข็งใจออกเดินไปยังสถานที่ที่ได้จัดไว้เป็นริ้วขบวน

Comment: (43)นักตัฟซีรอธิบายว่า พวกเขาหวังที่จะเอาชนะให้ได้ เพราะฟิรอาวน์ได้สัญญากับเขาว่าจะได้รับสิ่งตอบแทนอย่างมากมาย และจะเป็นผู้ใกล้ชิดพร้อมกับได้รับเกียรติอีกด้วย ซึ่งอัลลอฮ์ ตะอาลา ตรัสไว้ในซูเราะฮ์ อัลอะอ์ร็อฟ อายะฮ์ที่ 113 และในซูเราะฮ์ อัชชุอะรออ์ อายะฮ์ที่ 41

20:65

قَالُوا۟ يَـٰمُوسَىٰٓ إِمَّآ أَن تُلْقِىَ وَإِمَّآ أَن نَّكُونَ أَوَّلَ مَنْ أَلْقَىٰ

Translation: พวกเขากล่าวว่า “โอ้ มูซาเอ๋ย ! ท่านจะเป็นผู้โยนหรือว่าพวกเราจะเป็นผู้โยนก่อน”

20:66

قَالَ بَلْ أَلْقُوا۟ ۖ فَإِذَا حِبَالُهُمْ وَعِصِيُّهُمْ يُخَيَّلُ إِلَيْهِ مِن سِحْرِهِمْ أَنَّهَا تَسْعَىٰ

Translation: มูซากล่าวว่า “แต่ว่าพวกท่านจงโยนก่อนเถิด” ณ บัดนั้น เชือกและไม้เท้าของพวกเขาดูประหนึ่งว่ามันเลื้อยคลานไปมาเพราะเล่ห์กลของพวกเขา

20:67

فَأَوْجَسَ فِى نَفْسِهِۦ خِيفَةًۭ مُّوسَىٰ

Translation: มูซาจึงรู้สึกกลัวขึ้นในตัวของเขา(44)

Comment: (44)โดยธรรมชาติของมนุษย์ที่ได้เห็นสิ่งแปลกประหลาดย่อมมีความรู้สึกเช่นนั้น

20:68

قُلْنَا لَا تَخَفْ إِنَّكَ أَنتَ ٱلْأَعْلَىٰ

Translation: เรากล่าวว่า “เจ้าอย่ากลัว แท้จริง เจ้าอยู่ในสภาพที่เหนือกว่า”(45)

Comment: (45)คือจะเป็นผู้ชนะอย่างแน่นอน

20:69

وَأَلْقِ مَا فِى يَمِينِكَ تَلْقَفْ مَا صَنَعُوٓا۟ ۖ إِنَّمَا صَنَعُوا۟ كَيْدُ سَـٰحِرٍۢ ۖ وَلَا يُفْلِحُ ٱلسَّاحِرُ حَيْثُ أَتَىٰ

Translation: “และเจ้าจงโยนสิ่งที่อยู่ในมือขวาของเจ้า มันจะกลืนสิ่งที่พวกเขาทำขึ้น แท้จริงสิ่งที่พวกเขาทำขึ้นนั้นเป็นแผนของนักมายากล และนักมายากลนั้นจะไม่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าเขาจะมาจากทางไหนก็ตาม”(46)

Comment: (46)เพราะมันเป็นการโกหก หลอกลวง ทำให้หลงใหล

20:70

فَأُلْقِىَ ٱلسَّحَرَةُ سُجَّدًۭا قَالُوٓا۟ ءَامَنَّا بِرَبِّ هَـٰرُونَ وَمُوسَىٰ

Translation: ดังนั้น พวกนักมายากลได้ก้มลงสุญูด โดยกล่าวว่า “เราขอศรัทธาต่อพระเจ้าของฮารูนและมูซา”(47)

Comment: (47)โดยที่พวกเขาได้เห็นสัญญาณอันชัดแจ้ง

20:71

قَالَ ءَامَنتُمْ لَهُۥ قَبْلَ أَنْ ءَاذَنَ لَكُمْ ۖ إِنَّهُۥ لَكَبِيرُكُمُ ٱلَّذِى عَلَّمَكُمُ ٱلسِّحْرَ ۖ فَلَأُقَطِّعَنَّ أَيْدِيَكُمْ وَأَرْجُلَكُم مِّنْ خِلَـٰفٍۢ وَلَأُصَلِّبَنَّكُمْ فِى جُذُوعِ ٱلنَّخْلِ وَلَتَعْلَمُنَّ أَيُّنَآ أَشَدُّ عَذَابًۭا وَأَبْقَىٰ

Translation: เขา (ฟิรอาวน์) กล่าวว่า “พวกท่านศรัทธาต่อเขา ก่อนที่ฉันจะขออนุญาตให้แก่พวกท่านกระนั้นหรือ ? แท้จริงเขาต้องเป็นหัวหน้าของพวกท่าน ซึ่งได้สอนวิชามายากลแก่พวกท่าน(48) ฉะนั้น ฉันจะตัดมือและเท้าของพวกท่านสลับข้างกัน(49) และฉันจะเอาพวกท่านไปตรึงไว้ที่ต้นอินทผลัม และพวกท่านก็จะรู้อย่างแน่ชัดว่า ผู้ใดในหมู่พวกเราที่จะให้การลงโทษที่สาหัสกว่า และยาวนานยิ่งกว่า”

Comment: (48)อัลกุรฏุบีย์ กล่าวว่า ฟิรอาวน์กล่าวเช่นนี้ก็เพื่อให้มหาชนสับสน และเพื่อมิให้มหาชนปฏิบัติตามและศรัทธา เช่นเดียวกับที่พวกเขาศรัทธา

Comment: (49)ในโองการต่อๆ มามิได้ระบุว่าฟิรอาวน์ได้ปฏิบัติตามที่ได้กล่าวขู่ขวัญไว้ แต่บรรดานักตัฟซีรกล่าวว่าฟิรอาวน์ปฏิบัติตามที่ได้ให้สัญญาไว้โดยตัดแขนและขาของพวกเล่ห์กลเหล่านั้น พวกเขาจึงตายในสภาพของผู้ศรัทธา ด้วยเหตุนี้ อิบนุอับบาส จึงได้ให้คำอรรถาธิบายไว้ว่าในตอนเช้าพวกเขาเป็นนักเล่ห์กล ตกเย็นพวกเขากลายเป็นชุฮะดาอ์ (ตายในสภาพของผู้เป็นชะฮีด)

20:72

قَالُوا۟ لَن نُّؤْثِرَكَ عَلَىٰ مَا جَآءَنَا مِنَ ٱلْبَيِّنَـٰتِ وَٱلَّذِى فَطَرَنَا ۖ فَٱقْضِ مَآ أَنتَ قَاضٍ ۖ إِنَّمَا تَقْضِى هَـٰذِهِ ٱلْحَيَوٰةَ ٱلدُّنْيَآ

Translation: พวกเขากล่าวว่า “เราจะไม่ฝักใฝ่ท่านมากกว่าหลักฐานที่ชัดแจ้งที่ได้มายังเรา(50) ขอสาบานต่อพระผู้ให้บังเกิดเรา ท่านจงกระทำตามสิ่งที่ท่านต้องการจะกระทำผิด แท้จริงท่านจะกระทำได้ในชีวิตแห่งโลกนี้เท่านั้น(51)

Comment: (50)คือพวกนักเล่ห์กลกล่าวว่า เราจะไม่นับถือท่านและเทิดทูนท่าน เหนือกว่าทางนำที่ถูกต้องและการอีมาน ซึ่งอัลลอฮ์ทรงประทานให้เราผ่านทางมูซา ถึงแม้ว่าในการนั้นจะทำให้เราประสบกับความหายนะก็ตาม

Comment: (51)อิกร่อมะฮ์ กล่าวว่า ขณะที่พวกเขาสุญูด อัลลอฮ์ทรงให้พวกเขาเห็นที่พำนักของพวกเขาในสวนสวรรค์ ดังนั้น พวกเขาจึงกล่าวดังที่พวกเขากล่าว

20:73

إِنَّآ ءَامَنَّا بِرَبِّنَا لِيَغْفِرَ لَنَا خَطَـٰيَـٰنَا وَمَآ أَكْرَهْتَنَا عَلَيْهِ مِنَ ٱلسِّحْرِ ۗ وَٱللَّهُ خَيْرٌۭ وَأَبْقَىٰٓ

Translation: “แท้จริง เราได้ศรัทธาต่อพระเจ้าของเราเพื่อพระองค์จะทรงอภัยความผิดต่าง ๆ ของเราให้แก่เรา และทรงอภัยสิ่งที่ท่านได้บังคับให้เรากระทำเกี่ยวกับเรื่องมายากล(52) และอัลลอฮ์นั้นทรงเป็นผู้ดีเลิศยิ่งและทรงยั่งยืนตลอดไป”

Comment: (52)เพื่ออับดวงประทีปของอัลลอฮ์

20:74

إِنَّهُۥ مَن يَأْتِ رَبَّهُۥ مُجْرِمًۭا فَإِنَّ لَهُۥ جَهَنَّمَ لَا يَمُوتُ فِيهَا وَلَا يَحْيَىٰ

Translation: ความจริงนั้น ผู้ใดมาหาพระเจ้าของเขาในสภาพของผู้กระทำความผิด แน่นอน เขาจะได้รับนรกเป็นการตอบแทน โดยที่เขาจะไม่ตายและไม่เป็นในนั้น(53)

Comment: (53)นี่คือคำกล่าวของพวกนักเล่ห์กล เป็นการสั่งสอนแก่ฟิรอาวน์

20:75

وَمَن يَأْتِهِۦ مُؤْمِنًۭا قَدْ عَمِلَ ٱلصَّـٰلِحَـٰتِ فَأُو۟لَـٰٓئِكَ لَهُمُ ٱلدَّرَجَـٰتُ ٱلْعُلَىٰ

Translation: และผู้ใดมาหาพระองค์โดยเป็นผู้ศรัทธาเขาได้กระทำความดีต่าง ๆ ไว้ ชนเหล่านี้แหละสำหรับพวกเขานั้นจะมีสถานะอันสูงส่ง(54)

Comment: (54)คือผู้ใดเข้าพบพระองค์โดยเขาเป็นมุอ์มิน ให้เอกภาพต่อพระองค์ ปฏิบัติการงานด้วยความจงรักภักดีและไม่ปฏิบัติสิ่งที่เป็นข้อห้ามเขาเหล่านั้นคือผู้ศรัทธา โดยจะมีตำแหน่งฐานะอันสูงส่ง

20:76

جَنَّـٰتُ عَدْنٍۢ تَجْرِى مِن تَحْتِهَا ٱلْأَنْهَـٰرُ خَـٰلِدِينَ فِيهَا ۚ وَذَٰلِكَ جَزَآءُ مَن تَزَكَّىٰ

Translation: สวนสวรรค์หลากหลายอันสถาพร(55) ณ เบื้องล่างของมันมีลำน้ำหลายสายไหลผ่าน พวกเขาเป็นผู้พำนักอยู่ในนั้นตลอดกาล และนั่นคือการตอบแทนสำหรับผู้ขัดเกลาตนเอง (ให้พ้นจากความชั่ว)

Comment: (55)มีรายงานหะดีษกล่าวว่า : “สวนสวรรค์นั้นมีหนึ่งร้อยชั้น ระหว่างทุกสองชั้นเสมือนกับระหว่างชั้นฟ้ากับแผ่นดินสวนสวรรค์ที่มีชื่อว่า อัลฟิรเดาส์ นั้นเป็นชั้นสูงสุด เมื่อพวกท่านขอพรต่ออัลลอฮ์ จงขอสวนสวรรค์ชั้นฟิรเดาส์ต่อพระองค์”

20:77

وَلَقَدْ أَوْحَيْنَآ إِلَىٰ مُوسَىٰٓ أَنْ أَسْرِ بِعِبَادِى فَٱضْرِبْ لَهُمْ طَرِيقًۭا فِى ٱلْبَحْرِ يَبَسًۭا لَّا تَخَـٰفُ دَرَكًۭا وَلَا تَخْشَىٰ

Translation: และโดยแน่นอน เราได้วะฮีย์แก่มูซาว่า “จงเดินทางในเวลากลางคืนพร้อมด้วยปวงบ่าวของข้าแล้วฟาดลงในทะเล(56) ให้เป็นทางเดินแห้งแก่พวกเขา เจ้าอย่าได้กลัวว่าจะถูกตามทัน(57) และเจ้าอย่าได้กลัวจมน้ำ”

Comment: (56)คือจงใช้ไม้เท้าฟาดลงไปบนทะเล เพื่อมันจะกลายเป็นทางเดินที่แห้ง ใช้เดินทางข้ามไปอีกฟากหนึ่ง

Comment: (57)คือกลัวว่าฟิรอาวน์และพลพรรคของเขาจะตามมาทัน

20:78

فَأَتْبَعَهُمْ فِرْعَوْنُ بِجُنُودِهِۦ فَغَشِيَهُم مِّنَ ٱلْيَمِّ مَا غَشِيَهُمْ

Translation: ฟิรอาวน์พร้อมด้วยไร่พลของเขาได้ตามมาทันพวกเขา แล้วน้ำจากทะเลได้ท่วม ทำให้พวกเขาจมน้ำ(58)

Comment: (58)คือสภาพของน้ำทะเลได้ทำให้พวกเขาหวาดกลัว ไม่มีใครรู้ความน่ากลัวของมันนอกจากอัลลอฮ์

20:79

وَأَضَلَّ فِرْعَوْنُ قَوْمَهُۥ وَمَا هَدَىٰ

Translation: และฟิรอาวน์ได้ทำให้กลุ่มชนของเขาหลงผิด และมิได้แนะทางที่ถูกต้องให้

20:80

يَـٰبَنِىٓ إِسْرَٰٓءِيلَ قَدْ أَنجَيْنَـٰكُم مِّنْ عَدُوِّكُمْ وَوَٰعَدْنَـٰكُمْ جَانِبَ ٱلطُّورِ ٱلْأَيْمَنَ وَنَزَّلْنَا عَلَيْكُمُ ٱلْمَنَّ وَٱلسَّلْوَىٰ

Translation: โอ้ วงศ์วานของอิสรออีลเอ๋ย!(59) แน่นอนเราได้ช่วยพวกเจ้าให้พ้นจากศัตรูของพวกเจ้า(60) และเราได้สัญญาพวกเจ้าทางด้านขวาของภูเขาฏูร(61) และเราได้ให้อาหารหวานและนกคุ่มแก่พวกเจ้า(62)

Comment: (59)เป็นการสนทนากับวงศ์วานอิสรออีล หลังจากที่รอดพ้นจากการข้ามทะเล และฟิรอาวน์พร้อมด้วยไพร่พลได้จมน้ำตายไปหมดแล้ว

Comment: (60)คือพวกท่านจงรำลึกถึงความโปรดปรานอันยิ่งใหญ่ของเราที่ให้แก่พวกเจ้า โดยเราได้ช่วยพวกเจ้าให้พ้นจากฟิรอาวน์และไพร่พลของเขา ซึ่งพวกเขาได้ทรมานพวกเจ้าด้วยการลงโทษอย่างหนั

Comment: (61)คือเราได้สัญญากับมูซาเพื่อสนทนาและให้คัมภีร์เตารอตแก่เขา ทางด้านขวาของภูเขาฏูร

Comment: (62)เราได้ให้ริสกีแก่พวกท่านในดินแดนที่พวกท่านหลงทาง ด้วยอาหารหวานคล้ายน้ำผึ้ง และนกคุ่มซึ่งเป็นนกที่เนื้อของมันอร่อยที่สุด ในการลำดับความโปรดปรานของพระองค์ที่มีต่อบนีอิสรออีล ได้ดำเนินไปอย่างดีที่สุดคือ เริ่มด้วยความโปรดปรานให้พ้นจากศัตรู ต่อมาก็ด้วยความโปรดปรานของพระองค์ที่มีต่อบนีอิสรออีล ได้ดำเนินไปอย่างดีที่สุดคือเริ่มด้วยความโปรดปรานทางโลกดุนยา

20:81

كُلُوا۟ مِن طَيِّبَـٰتِ مَا رَزَقْنَـٰكُمْ وَلَا تَطْغَوْا۟ فِيهِ فَيَحِلَّ عَلَيْكُمْ غَضَبِى ۖ وَمَن يَحْلِلْ عَلَيْهِ غَضَبِى فَقَدْ هَوَىٰ

Translation: พวกเจ้าจงกินจากสิ่งที่ดีทั้งหลาย ที่เราได้ให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้า และพวกเจ้าอย่าได้ฝ่าฝืน มิฉะนั้น ความกริ้วของข้าจะเกิดขึ้นแก่พวกเจ้า(63) และผู้ใดที่ความกริ้วของข้าจะเกิดขึ้นแก่เขาแน่นอนเขาจะประสบความพินาศ

Comment: (63)คือในยามที่ได้รับริซกีกว้างขวางและยามสุขสบาย พวกท่านอย่าทรยศด้วยการฝ่าฝืนบทบัญญัติของเรา มิฉะนั้นแล้ว การลงโทษจะประสบแก่พวกท่าน

20:82

وَإِنِّى لَغَفَّارٌۭ لِّمَن تَابَ وَءَامَنَ وَعَمِلَ صَـٰلِحًۭا ثُمَّ ٱهْتَدَىٰ

Translation: และแท้จริง ข้าเป็นผู้อภัยอย่างมากหลายแก่ผู้ลุแก่โทษ และศรัทธา และประกอบความดีแล้วยึดมั่นอยู่ในแนวทางที่ถูกต้อง(64)

Comment: (64)ในอายะฮ์เป็นการสนับสนุนและเปิดโอกาสให้แก่ผู้ที่ตกอยู่ในห้วงแห่งการหลงผิดและการฝ่าฝืนด้วยการชี้แจงถึงทางออกและอย่าหมดหวัง

20:83

۞ وَمَآ أَعْجَلَكَ عَن قَوْمِكَ يَـٰمُوسَىٰ

Translation: และอะไรเล่าที่ทำให้เจ้ารีบเร่งออกจากกลุ่มชนของเจ้า โอ้ มูซาเอ๋ย !(65)

Comment: (65)อัลซะมัดซะรีย์กล่าวว่า มูซาได้อยู่กับบรรดาหัวหน้าที่เขาคัดเลือกมาจากพวกของเขาที่ภูเขาฏูร ตามสัญญาที่ถูกกำหนดไว้ แล้วเขาก็รีบล่วงหน้าไปก่อน เพราะใคร่ที่จะรับฟังพระดำรัสของพระเจ้าของเขา

20:84

قَالَ هُمْ أُو۟لَآءِ عَلَىٰٓ أَثَرِى وَعَجِلْتُ إِلَيْكَ رَبِّ لِتَرْضَىٰ

Translation: เขากล่าวว่า ”พวกเขาเหล่านั้นตามหลังข้าพระองค์มาอยู่แล้ว และข้าพระองค์ได้รีบเร่งมายังพระองค์เท่านั้น โอ้พระผู้อภิบาลของข้าพระองค์ก็เพื่อให้พระองค์ทรงพอพระทัยเท่านั้น"

20:85

قَالَ فَإِنَّا قَدْ فَتَنَّا قَوْمَكَ مِنۢ بَعْدِكَ وَأَضَلَّهُمُ ٱلسَّامِرِىُّ

Translation: พระองค์ตรัสว่า “แท้จริงเราได้ทดสอบกลุ่มชนของเจ้า หลังจากที่เจ้าได้จากมา และซามิรีย์ก็ได้ทำให้พวกเขาหลงทาง”(66)

Comment: (66)นักตัฟซีรกล่าวว่า ขณะที่มูซากำลังสนทนาอยู่กับพระเจ้าของเขานั้น เขาได้มอบให้ฮารูนพี่ชายของเขาอยู่ร่วมกับบนีอิสรออีล และใช้ให้เขาทำสัญญากับพวกเขา ให้พำนักอยู่ด้วยความจงรักภักดีต่ออัลลอฮ์ ในขณะนั้นซามิรีย์ได้รวบรวมเครื่องประดับเอามาประกอบเป็นลูกวัว แล้วได้เชิญชวนพวกเขาให้ไปบูชา พวกเขาจึงเฝ้าบูชาอยู่ เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากมูซาได้จากพวกเขาไปเป็นเวลา 20 วัน

20:86

فَرَجَعَ مُوسَىٰٓ إِلَىٰ قَوْمِهِۦ غَضْبَـٰنَ أَسِفًۭا ۚ قَالَ يَـٰقَوْمِ أَلَمْ يَعِدْكُمْ رَبُّكُمْ وَعْدًا حَسَنًا ۚ أَفَطَالَ عَلَيْكُمُ ٱلْعَهْدُ أَمْ أَرَدتُّمْ أَن يَحِلَّ عَلَيْكُمْ غَضَبٌۭ مِّن رَّبِّكُمْ فَأَخْلَفْتُم مَّوْعِدِى

Translation: มูซาได้กลับมายังกลุ่มชนของเขาด้วยความกริ้วโกรธเสียใจ(67) เขากล่าวว่า “โอ้กลุ่มชนของฉันเอ๋ย พระเจ้าของพวกท่านมิได้ทรงสัญญากับพวกท่านด้วยสัญญาที่ดีดอกหรือ คำมั่นสัญญานั้นนานเกินไปสำหรับพวกท่านกระนั้นหรือ ? หรือว่าพวกท่านประสงค์ที่จะให้ความกริ้วจากพระเจ้าของพวกท่าน เกิดขึ้นแก่พวกท่าน ? พวกท่านจึงได้บิดพริ้วสัญญาของฉัน”

Comment: (67)คือมูซาได้กลับมาจากภูเขาฏูร หลังจากที่ได้พำนักอยู่ที่นั่นเป็นเวลา 40 วัน ซึ่งเป็นระยะเวลาที่เขาได้รับวะฮีคัมภีร์เตารอต

20:87

قَالُوا۟ مَآ أَخْلَفْنَا مَوْعِدَكَ بِمَلْكِنَا وَلَـٰكِنَّا حُمِّلْنَآ أَوْزَارًۭا مِّن زِينَةِ ٱلْقَوْمِ فَقَذَفْنَـٰهَا فَكَذَٰلِكَ أَلْقَى ٱلسَّامِرِىُّ

Translation: พวกเขากล่าวว่า “เรามิได้บิดพริ้วสัญญาของท่าน ตามความสมัครใจของเราดอก แต่ว่าเราต้องแบกน้ำหนักเครื่องประดับของพรรคพวกอย่างมากมาย(68) เราจึงโยนมันลงไป(69) เช่นเดียวกัน ซามิรีย์ก็ได้โยนมันลงไปด้วย”

Comment: (68)คือเราถูกบังคับให้กระทำเช่นนั้น

Comment: (69)คือโยนเครื่องประดับที่แบกกันมานั้นลงในกองไฟ โดยคำสั่งของซามิรีย์

20:88

فَأَخْرَجَ لَهُمْ عِجْلًۭا جَسَدًۭا لَّهُۥ خُوَارٌۭ فَقَالُوا۟ هَـٰذَآ إِلَـٰهُكُمْ وَإِلَـٰهُ مُوسَىٰ فَنَسِىَ

Translation: แล้วซามิรีย์ก็ได้ทำลูกวัวออกมาเป็นรูปร่างมีเสียงร้อง(70) พวกเขาจึงกล่าวว่า “นี่คือพระเจ้าของพวกท่าน และพระเจ้าของมูซา แต่เขาลืมเสีย”(71)

Comment: (70)คือจากเครื่องประดับเหล่านั้นเขาหลอมเป็นลูกวัว มันไม่มีวิญญาณ แต่มีเสียงร้องคล้ายลูกวัว

Comment: (71)คือมูซาได้ลืมพระเจ้าของเขาไว้ที่นี่ และไปขอพระเจ้าที่ภูเขาฏูร

20:89

أَفَلَا يَرَوْنَ أَلَّا يَرْجِعُ إِلَيْهِمْ قَوْلًۭا وَلَا يَمْلِكُ لَهُمْ ضَرًّۭا وَلَا نَفْعًۭا

Translation: พวกเขาไม่รู้ดอกหรือว่า มันไม่อาจจะให้คำตอบแพวกเขา และมันไม่สามารถจะให้โทษและให้คุณแก่พวกเขาเลย(72)

Comment: (72)แล้วมันจะเป็นพระเจ้าได้อย่างไร

20:90

وَلَقَدْ قَالَ لَهُمْ هَـٰرُونُ مِن قَبْلُ يَـٰقَوْمِ إِنَّمَا فُتِنتُم بِهِۦ ۖ وَإِنَّ رَبَّكُمُ ٱلرَّحْمَـٰنُ فَٱتَّبِعُونِى وَأَطِيعُوٓا۟ أَمْرِى

Translation: และโดยแน่นอน ฮารูนกล่าวกับพวกเขาก่อนว่า(73) “โอ้ กลุ่มชนของฉันเอ๋ย แท้จริงพวกท่านถูกทดสอบให้หลงเสียแล้ว และแท้จริงพระเจ้าของพวกท่านนั้นคือพระผู้ทรงกรุณาปรานี ดังนั้นพวกท่านจงปฏิบัติตามฉัน(74) และจงเชื่อฟังคำสั่งของฉัน(75)"

Comment: (73)คือก่อนที่มูซาจะกลับมายังพวกเขา

Comment: (74)ด้วยการเคารพอิบาดะฮ์อัลลอฮ์ ตะอาลา องค์เดียว

Comment: (75)คือเชื่อฟังคำสั่งของฉันด้วยการเลิกบูชาลูกวัว

20:91

قَالُوا۟ لَن نَّبْرَحَ عَلَيْهِ عَـٰكِفِينَ حَتَّىٰ يَرْجِعَ إِلَيْنَا مُوسَىٰ

Translation: พวกเขากล่าวว่า “เรายังคงจะบูชามันโดยจะจงรักภักดี (ต่อมัน) จนกว่ามูซาจะกลับมาหาพวกเรา”

20:92

قَالَ يَـٰهَـٰرُونُ مَا مَنَعَكَ إِذْ رَأَيْتَهُمْ ضَلُّوٓا۟

Translation: (เมื่อมูซากลับมาแล้ว)(76) เขากล่าวว่า “โอ้ฮารูนเอ๋ย อันใดเล่าที่ยับยั้งท่าน เมื่อท่านเห็นพวกเขาหลงผิด”

Comment: (76)คือ เมื่อมูซากลับมาแล้ว และได้เห็นพวกเขาเฝ้าบูชาลูกวัวอยู่ เขาโกรธมาก ตรงรี่เข้าไปหาฮารูนพี่ชาย มือหนึ่งดึงผมอีกมือหนึ่งดึงเคราแล้วกล่าวว่า มีอะไรมาห้ามท่านหรือ เมื่อท่านเห็นพวกเขากุฟุรต่ออัลลอฮ์ แล้วไม่ห้ามปรามพวกเขา

20:93

أَلَّا تَتَّبِعَنِ ۖ أَفَعَصَيْتَ أَمْرِى

Translation: “ทำไมท่านจึงไม่ปฏิบัติตามฉัน” ท่านฝ่าฝืนคำสั่งของฉันกระนั้นหรือ ?”

20:94

قَالَ يَبْنَؤُمَّ لَا تَأْخُذْ بِلِحْيَتِى وَلَا بِرَأْسِىٓ ۖ إِنِّى خَشِيتُ أَن تَقُولَ فَرَّقْتَ بَيْنَ بَنِىٓ إِسْرَٰٓءِيلَ وَلَمْ تَرْقُبْ قَوْلِى

Translation: ฮารูน กล่าวว่า “โอ้ลูกของแม่ฉันเอ๋ย อย่าดึงเคราและศีรษะของฉันซิ แท้จริงฉันกลัวว่า ท่านจะกล่าว(แก่ฉัน) ว่า ท่านได้ก่อการแตกแยกขึ้นในหมู่วงศ์วานอิสรออีล(77) และท่านไม่คอบฟังคำสั่งของฉัน”(78)

Comment: (77)ฉันกลัวว่า หากฉันห้ามพวกเขาด้วยกำลัง ก็จะเกิดการฆ่ากันขึ้น แล้วท่านก็จะมาว่าฉันว่า ท่านได้ก่อให้เกิดฟิตนะฮ์ขึ้นในระหว่างพวกเขา

Comment: (78)ด้วยเหตุนี้ฉันจึงเห็นว่า ฉันจะไม่ทำอะไรจนกว่าท่านจะกลับมาหาพวกเขา เพื่อท่านจะได้รุ้เห็นเหตุการณ์ด้วยตัวของท่านเอง

20:95

قَالَ فَمَا خَطْبُكَ يَـٰسَـٰمِرِىُّ

Translation: มูซากล่าวว่า “เจ้าต้องการอะไร โอ้ซามิรีย์เอ๋ย !”

20:96

قَالَ بَصُرْتُ بِمَا لَمْ يَبْصُرُوا۟ بِهِۦ فَقَبَضْتُ قَبْضَةًۭ مِّنْ أَثَرِ ٱلرَّسُولِ فَنَبَذْتُهَا وَكَذَٰلِكَ سَوَّلَتْ لِى نَفْسِى

Translation: เขากล่าวว่า “ฉันเห็นในสิ่งที่พวกเขามองไม่เห็น ดังนั้น ฉันจึงกำเอากอบหนึ่งจากรอยของร่อซูล(หมายถึงญิบรีล)(79) แล้วฉันได้โยนมันลงไปและเช่นนั้นแหละจิตใจของฉันได้เห็นดีเห็นงาม”

Comment: (79)มีรายงานหลายกระแสกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เขา (ซามิรีย์) ได้เห็นญิบรีล อะลัยฮิสสลาม ในสภาพที่ท่านแปลงร่างลงมาในแผ่นดินนี้ แล้วเขาก็ได้กำเอาฝุ่นมากอบหนึ่งจากรอยเท้าของญิบรีล หรือจากรอยเท้าของพาหนะที่ญิบรีลขี่ลงมา แล้วเอาโยนลงไปที่ลูกวัวที่ทำขึ้นมาด้วยทองแท้ ลูกวัวจึงมีเสียงร้องออกมา จากตัฟซีร “ฟิซิลาลิลกุรอาน” ของซัยยิด กุฏบ์

20:97

قَالَ فَٱذْهَبْ فَإِنَّ لَكَ فِى ٱلْحَيَوٰةِ أَن تَقُولَ لَا مِسَاسَ ۖ وَإِنَّ لَكَ مَوْعِدًۭا لَّن تُخْلَفَهُۥ ۖ وَٱنظُرْ إِلَىٰٓ إِلَـٰهِكَ ٱلَّذِى ظَلْتَ عَلَيْهِ عَاكِفًۭا ۖ لَّنُحَرِّقَنَّهُۥ ثُمَّ لَنَنسِفَنَّهُۥ فِى ٱلْيَمِّ نَسْفًا

Translation: มูซากล่าวว่า “ท่านจงออกไป แท้จริงสำหรับท่านในชีวิตนี้จะได้รับการลงโทษโดยท่านกล่าวว่า อย่ามาแตะต้องฉัน(80) และแท้จริงสำหรับท่านนั้นมีสัญญาหนึ่ง(81) ท่านจะไม่ถูกทำให้ผิดสัญญา และจงดูพระเจ้าของท่านซึ่งท่านยึดถือบูชามันแน่นอนเราจะเผามัน แล้วเราจะโปรยมันลงในทะเลให้กระจาย”

Comment: (80)มูซากล่าวแก่ซามิรีย์ว่า การลงโทษแก่ท่านในโลกนี้คือ ท่านอย่าไปแตะต้องหรืออย่าไปยุ่งกับผู้ใดและก็ไม่มีผู้ใดมาแตะต้องหรือยุ่งเกี่ยวกับท่าน ทั้งในทางดีหรือทางชั่ว นี่คือวิธีหนึ่งของการลงโทษในศาสนาของนบีมูซา คือการลงโทษให้อยู่อย่างโดดเดี่ยว

Comment: (81)การลงโทษในโลกอาคิเราะฮ์นั้นคือการตอบแทนจากอัลลอฮ์ ท่านจะผิดสัญญาไม่ได้ หมายถึงจะได้รับการตอบแทนอย่างแน่นอน

20:98

إِنَّمَآ إِلَـٰهُكُمُ ٱللَّهُ ٱلَّذِى لَآ إِلَـٰهَ إِلَّا هُوَ ۚ وَسِعَ كُلَّ شَىْءٍ عِلْمًۭا

Translation: แท้จริง พระเจ้าของพวกท่านนั้นคือ อัลลอฮ์ซึ่งไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ พระองค์ทรงแผ่ความรอบรู้ในยังทุกสิ่ง

20:99

كَذَٰلِكَ نَقُصُّ عَلَيْكَ مِنْ أَنۢبَآءِ مَا قَدْ سَبَقَ ۚ وَقَدْ ءَاتَيْنَـٰكَ مِن لَّدُنَّا ذِكْرًۭا

Translation: เช่นนี้แหละ เราได้บอกเล่าข่าวคราวที่ได้เกิดขึ้นแต่กาลก่อนแก่เจ้า(82) และแน่นอน เราได้ให้ข้อเตือนสติ(83) จากเราแก่เจ้า

Comment: (82)เราได้บอกเล่าข่าวคราวของมูซากับฟิรอาวน์และเรื่องราวแปลกๆและเรายังได้บอกเล่าข่าวคราวของประชาชาติในสมัยก่อนๆ

Comment: (83)คือคัมภีร์อัลกุรอาน

20:100

مَّنْ أَعْرَضَ عَنْهُ فَإِنَّهُۥ يَحْمِلُ يَوْمَ ٱلْقِيَـٰمَةِ وِزْرًا

Translation: ผู้ใดหันหลังให้อัลกุรอาน(84) แท้จริงเขาจะแบกโทษหนักในวันกิยามะฮ์ (อยู่ในนรก)

Comment: (84)คือไม่ศรัทธาและไม่ปฏิบัติตามสิ่งที่มีอยู่ในมัน

20:101

خَـٰلِدِينَ فِيهِ ۖ وَسَآءَ لَهُمْ يَوْمَ ٱلْقِيَـٰمَةِ حِمْلًۭا

Translation: พวกเขาจะพำนักอย่างถาวรอยู่ในนั้น(85) และโทษหนักนั้นเป็นความชั่วช้าสำหรับพวกเขาในวันกิยามะฮ์เสียนี่กระไร !

Comment: (85)ในการทรมานนั้นด้วยโทษหนักของพวกเขา

20:102

يَوْمَ يُنفَخُ فِى ٱلصُّورِ ۚ وَنَحْشُرُ ٱلْمُجْرِمِينَ يَوْمَئِذٍۢ زُرْقًۭا

Translation: วันซึ่งสังข์จะถูกเป่า และในวันนั้นเราจะรวมนักโทษทั้งหลายที่มีตาสีฟ้าไว้ด้วยกัน(86)

Comment: (86)คือนักโทษเหล่านั้นจะมีสภาพนัยน์ตาสีฟ้า หน้าดำ

20:103

يَتَخَـٰفَتُونَ بَيْنَهُمْ إِن لَّبِثْتُمْ إِلَّا عَشْرًۭا

Translation: พวกเขาจะกระซิบกระซาบระหว่างกันว่า “พวกท่านมิได้พักในโลกนี้นอกจากเพียง 10 วัน เท่านั้น”(87)

Comment: (87)ที่พวกเขากล่าวเช่นนั้นเนื่องเพราะความกลัวและตกใจ

20:104

نَّحْنُ أَعْلَمُ بِمَا يَقُولُونَ إِذْ يَقُولُ أَمْثَلُهُمْ طَرِيقَةً إِن لَّبِثْتُمْ إِلَّا يَوْمًۭا

Translation: เรารู้ดียิ่งในสิ่งที่พวกเขากล่าวกัน เมื่อผู้มีความคิดที่ดียิ่งกล่าวว่า “พวกท่านมิได้พักอยู่ นอกจากเพียงวันเดียวเท่านั้น”

20:105

وَيَسْـَٔلُونَكَ عَنِ ٱلْجِبَالِ فَقُلْ يَنسِفُهَا رَبِّى نَسْفًۭا

Translation: และพวกเขาจะถามเจ้าเกี่ยวกับภูเขา จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) “พระเจ้าของฉันจะทรงทำให้มันแตกออกเป็นผุยผง ”(88)

Comment: (88)คือพระเจ้าของฉันจะทำให้มันละเอียดคล้ายทราย แล้วลมก็พัดพามันปลิวว่อนกระจัดกระจายไป

20:106

فَيَذَرُهَا قَاعًۭا صَفْصَفًۭا

Translation: “แล้วจะทรงปล่อยให้มันเป็นที่ราบโล่งเตียน (ไม่มีต้นไม้และสิ่งก่อสร้าง)”

20:107

لَّا تَرَىٰ فِيهَا عِوَجًۭا وَلَآ أَمْتًۭا

Translation: “สูเจ้าจะไม่เห็น ณ ที่นั้น ที่ลุ่มและที่ดอน”

20:108

يَوْمَئِذٍۢ يَتَّبِعُونَ ٱلدَّاعِىَ لَا عِوَجَ لَهُۥ ۖ وَخَشَعَتِ ٱلْأَصْوَاتُ لِلرَّحْمَـٰنِ فَلَا تَسْمَعُ إِلَّا هَمْسًۭا

Translation: วันนั้นพวกเขาจะติดตามผู้ร้องเรียกไปโดยไม่มีการอิดเอื้อนแต่ประการใด(89) เสียงทั้งหลายก็จะลดค่อยลงต่อพระผู้ทรงกรุณาปรานี เจ้าจะไม่ได้ยินเสียงใด นอกจากเสียแผ่วเบา

Comment: (89)คือจะรีบเดินไปยังทุ่งมะฮ์ซัรอย่างเร็ว ไม่ชักช้า

20:109

يَوْمَئِذٍۢ لَّا تَنفَعُ ٱلشَّفَـٰعَةُ إِلَّا مَنْ أَذِنَ لَهُ ٱلرَّحْمَـٰنُ وَرَضِىَ لَهُۥ قَوْلًۭا

Translation: วันนั้น การชะฟาอะฮ์(90) จะไม่เกิดประโยชน์อันใด นอกจากผู้ที่พระผู้ทรงกรุณาปรานีทรงอนุญาตแก่เขา และพระองค์ทรงพอพระทัยในคำพูดของเขาเท่านั้น

Comment: (90)การชะฟาอะฮ์ คือ การขอความช่วยเหลือจากผู้มีอำนาจ เพื่อให้ปลดเปลื้องทุกข์ร้อน นี่คือความหมายโดยทั่วไปส่วนการชะฟาอะฮ์ในวันอาคิเราะฮ์นั้น เป็นสิทธิ์ของอัลลอฮ์ ตะอาลา องค์เดียว และพระองค์จะทรงให้สิทธิ์นั้นแก่ผู้ที่พระองค์ทรงพอพระทัยเท่านั้น อาทิเช่น ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม บรรดานบี บรรดาผู้ที่พระองค์ทรงรักใคร่ (เอาลิยาอ์) และบรรดาคนศอและฮ์ อิบนุอับบาส กล่าวว่า คือผู้ที่อยู่ในโลกดถุนยา เป็นผู้ที่กล่าว “ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์”

20:110

يَعْلَمُ مَا بَيْنَ أَيْدِيهِمْ وَمَا خَلْفَهُمْ وَلَا يُحِيطُونَ بِهِۦ عِلْمًۭا

Translation: พระองค์ทรงรอบรู้สิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ข้างหน้าพวกเขา และสิ่งต่าง ๆที่อยู่ลับหลังพวกเขาและความรู้ของพวกเขาไม่อาจจะเท่าเทียมความรู้ของพระองค์ได้

20:111

۞ وَعَنَتِ ٱلْوُجُوهُ لِلْحَىِّ ٱلْقَيُّومِ ۖ وَقَدْ خَابَ مَنْ حَمَلَ ظُلْمًۭا

Translation: และใบหน้าทั้งหลาย(91) ได้สยบลงต่อพระผู้ทรงเป็นอยู่เสมอ พระผู้ทรงอมตะ และแน่นอน ผู้ที่แบกเอาความอธรรมไว้ (ชิริก)ต้องประสบกับการขาดทุนอย่างแน่นอน

Comment: (91)อัลซะมัดซะรีย์ กล่าวว่า ใบหน้าทั้งหลายในที่นี้หมายถึงใบหน้าของผู้ฝ่าฝืน เพราะในวันกิยามะฮ์ เมื่อพวกเขาพบเห็นความผิดหลังความทุกข์ และการสอบสวน ใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปอยู่ในสภาพที่ต่ำต้อยท้อแท้

20:112

وَمَن يَعْمَلْ مِنَ ٱلصَّـٰلِحَـٰتِ وَهُوَ مُؤْمِنٌۭ فَلَا يَخَافُ ظُلْمًۭا وَلَا هَضْمًۭا

Translation: และผู้ใดปฏิบัติคุณงามความดีทั้งหลายโดยที่เขาเป็นผู้ศรัทธา เขาจะไม่กลัวความอธรรมและการบั่นทอนใด ๆ(92)

Comment: (92)คือเขาจะไม่กลัวความอธรรม โดยการเพิ่มความชั่วให้แก่เขา หรือถูกลิดรอนความดีของเขาให้ลดน้อยลง

20:113

وَكَذَٰلِكَ أَنزَلْنَـٰهُ قُرْءَانًا عَرَبِيًّۭا وَصَرَّفْنَا فِيهِ مِنَ ٱلْوَعِيدِ لَعَلَّهُمْ يَتَّقُونَ أَوْ يُحْدِثُ لَهُمْ ذِكْرًۭا

Translation: และเช่นนั้นแหละ เราได้ให้กุรอานเป็นภาษาอาหรับลงมาแก่เขา และเราได้กล่าวซ้ำในนั้นซึ่งข้อตักเตือน หวังว่าพวกเขาจะมีความยำเกรงหรือเกิดข้อเตือนใจแก่พวกเขา(93)

Comment: (93)คือเพื่อป้องกันการกุฟุร และการฝ่าฝืน หรือเกิดข้อเตือนใจขึ้นในจิตใจของพวกเขา แล้วพวกเขาก็จะปฏิบัติตามข้อใช้ และปลีกตัวให้ห่างจากข้อห้าม

20:114

فَتَعَـٰلَى ٱللَّهُ ٱلْمَلِكُ ٱلْحَقُّ ۗ وَلَا تَعْجَلْ بِٱلْقُرْءَانِ مِن قَبْلِ أَن يُقْضَىٰٓ إِلَيْكَ وَحْيُهُۥ ۖ وَقُل رَّبِّ زِدْنِى عِلْمًۭا

Translation: ดังนั้น อัลลอฮ์คือพระผู้ทรงสูงส่งยิ่ง พระผู้ทรงอำนาจอันแท้จริง และเจ้าอย่ารีบเร่งในการอ่านอัลกุรอาน ก่อนที่วะฮีย์ของพระองค์จะจบลง(94) และจงกล่าวเถิด “ข้าแต่พระผู้อภิบาลของข้า พระองค์ขอพระองค์ทรงโปรดเพิ่มพูนความรู้แก่ข้าพระองค์ด้วย”(95)

Comment: (94)คือเมื่อญิบรีลได้อ่านอัลกุรอานแก่สูเจ้า สูเจ้าอย่ารีบเร่งอ่านพร้อมกับเขา จงฟังเขาและอดทนรอจนกระทั่งเขาอ่านเสร็จ แล้วสูเจ้าก็อ่านมัน

Comment: (95)คือให้เพิ่มความรู้ที่เป็นประโยชน์

20:115

وَلَقَدْ عَهِدْنَآ إِلَىٰٓ ءَادَمَ مِن قَبْلُ فَنَسِىَ وَلَمْ نَجِدْ لَهُۥ عَزْمًۭا

Translation: และโดยแน่นอน เราได้ให้คำมั่นสัญญาแก่อาดัมแต่กาลก่อน(96) แต่เขาได้ลืม และเราไม่พบความมั่นใจ อดทนในตัวเขา

Comment: (96)คือไม่ให้กินผลไม้จากต้นไม้

20:116

وَإِذْ قُلْنَا لِلْمَلَـٰٓئِكَةِ ٱسْجُدُوا۟ لِـَٔادَمَ فَسَجَدُوٓا۟ إِلَّآ إِبْلِيسَ أَبَىٰ

Translation: และเมื่อเรากล่าวแก่บรรดามลาอิกะฮ์ว่า “จงสุญูดคารวะแก่อาดัม” และพวกเขาได้สุญูดนอกจากอิบลีส มันได้ดื้อดึง(97)

Comment: (97)อัศศอวีย์กล่าวว่า เรื่องนี้ได้กล่าวซ้ำใน 7 ซูเราะฮ์ในอัลกุรอาน เป็นการเตือนปวงบ่าวให้ปฏิบัติตามข้อใช้ และละเว้นจากข้อห้าม และเป็นการเตือนให้รำลึกถึงการเป็นศัตรูของอิบลีสต่อบิดาคนแรกของพวกเขา คืออาดัม

20:117

فَقُلْنَا يَـٰٓـَٔادَمُ إِنَّ هَـٰذَا عَدُوٌّۭ لَّكَ وَلِزَوْجِكَ فَلَا يُخْرِجَنَّكُمَا مِنَ ٱلْجَنَّةِ فَتَشْقَىٰٓ

Translation: แล้วเราได้กล่าวว่า “โอ้อาดัมเอ๋ย ! แท้จริงนี่คือศัตรูของเจ้าและของภริยาของเจ้า ดังนั้นอย่าให้มันทำให้เจ้าทั้งสองออกจากสวนสวรรค์(98) แล้วเจ้าจะได้รับความลำบาก”

Comment: (98)คือเจ้าทั้งสองอย่าเชื่อฟังคำล่อลวงของมัน

20:118

إِنَّ لَكَ أَلَّا تَجُوعَ فِيهَا وَلَا تَعْرَىٰ

Translation: “แท้จริงในสวนสวรรค์นั้น เจ้าจะไม่หิวและจะไม่ต้องเปลือยกาย”

20:119

وَأَنَّكَ لَا تَظْمَؤُا۟ فِيهَا وَلَا تَضْحَىٰ

Translation: “และแท้จริงในสวนสวรรค์นั้น เจ้าจะไม่กระหายน้ำ และจะไม่ตากแดด”

20:120

فَوَسْوَسَ إِلَيْهِ ٱلشَّيْطَـٰنُ قَالَ يَـٰٓـَٔادَمُ هَلْ أَدُلُّكَ عَلَىٰ شَجَرَةِ ٱلْخُلْدِ وَمُلْكٍۢ لَّا يَبْلَىٰ

Translation: ต่อมาชัยฏอนมารร้ายได้กระซิบกระซาบเขา มันกล่าวว่า “อาดัมเอ๋ย ฉันจะชี้แนะแก่ท่านไปยังต้นไม้ที่อยู่เป็นนิจตลอดกาลและการมีอำนาจที่ไม่สูญสลายเอาไหม?”(99)

Comment: (99)คือผู้ใดกินเข้าไปแล้ว เขาจะมีชีวิตอยู่ยืนนาน ไม่ตาย และมีอำนาจอยู่ตลอดไป นี่คือแผนการล่อลวงของมันโดยทั่วไปแล้วเสมือนเป็นการสั่งสอน แต่เมื่อใดเล่าเจ้าตัวถูกสาปแช่งจะเป็นผู้สั่งสอน ?

20:121

فَأَكَلَا مِنْهَا فَبَدَتْ لَهُمَا سَوْءَٰتُهُمَا وَطَفِقَا يَخْصِفَانِ عَلَيْهِمَا مِن وَرَقِ ٱلْجَنَّةِ ۚ وَعَصَىٰٓ ءَادَمُ رَبَّهُۥ فَغَوَىٰ

Translation: ดังนั้น เขาทั้งสองจึงกินจากต้นไม้นั้นสิ่งพึงสงวนของทั้งสองจึงถูกเผยแก่เขาทั้งสอง เขาทั้งสองจึงเริ่มเอาใบไม้ของสวนนั้นมาปกปิดบนตัวของเขาทั้งสอง และอาดัมได้ฝ่าฝืนพระเจ้าของเขา เขาจึงหลงผิด(100)

Comment: (100)คือเขาได้ฝ่าฝืนข้อใช้ของพระเจ้าของเขา ด้วยการกินจากต้นไม้ เขาจึงหลงจากสิ่งที่เขาต้องการคือการอยู่ในสวนสวรรค์ตลอดกาล โดยที่เขาหลงเชื่อคำล่อลวงของศัตรู

20:122

ثُمَّ ٱجْتَبَـٰهُ رَبُّهُۥ فَتَابَ عَلَيْهِ وَهَدَىٰ

Translation: ภายหลัง พระผู้อภิบาลของเขาทรงคัดเลือกเขาแล้วทรงอภัยโทษให้แก่เขา และทรงแนะทางที่ถูกต้องให้เขา

20:123

قَالَ ٱهْبِطَا مِنْهَا جَمِيعًۢا ۖ بَعْضُكُمْ لِبَعْضٍ عَدُوٌّۭ ۖ فَإِمَّا يَأْتِيَنَّكُم مِّنِّى هُدًۭى فَمَنِ ٱتَّبَعَ هُدَاىَ فَلَا يَضِلُّ وَلَا يَشْقَىٰ

Translation: พระองค์ตรัสว่า “เจ้าทั้งสองจงออกไปจากสวนสวรรค์ทั้งหมด โดยบางคน (ลูกหลาน) ในหมู่พวกเจ้าเป็นศัตรูกับอีกบางคน(101) บางทีเมื่อมีคำแนะนำ (ฮิดายะฮ์) จากข้ามายังพวกเจ้า แล้วผู้ใดปฏิบัติตามคำแนะนำ (ฮิดายะฮ์) ของข้า เขาก็จะไม่หลงผิด และจะไม่ได้รับความลำบาก”(102)

Comment: (101)คืออัลลอฮ์ ตรัสแก่อาดัมและเอาวาว่า เจ้าทั้งสองจงออกไปจากสวนสวรรค์ไปยังแผ่นดิน โดยไปอยู่รวมกัน บางคนในหมู่ลูกหลานของเจ้าทั้งสองก็จะเป็นศัตรูต่อกัน เพราะการแสวงหาอาชีพ การมีสภาพแวดล้อมแตกต่างกัน และความต้องการที่แตกต่างกัน

Comment: (102)คือเมื่อมีคัมภีร์และร่อซูลจากข้ามายังพวกเจ้า เพื่อชี้แนะพวกเจ้าไปสู่แนวทางที่ถูกต้องแล้ว ผู้ใดยึดมั่นต่อบทบัญญัติของข้าและปฏิบัติตามร่อซูลของข้าแล้ว เขาจะไม่หลงทางในโลกดุนยา และจะไม่ได้รับความลำบากในโลกอาคิเราะฮ์

20:124

وَمَنْ أَعْرَضَ عَن ذِكْرِى فَإِنَّ لَهُۥ مَعِيشَةًۭ ضَنكًۭا وَنَحْشُرُهُۥ يَوْمَ ٱلْقِيَـٰمَةِ أَعْمَىٰ

Translation: “และผู้ใดผินหลังจากการรำลึกถึงข้า แท้จริงสำหรับเขาคือ การมีชีวิตอยู่อย่างคับแค้น(103) และเราจะให้เขาฟื้นคืนชีพในวันกิยามะฮ์ในสภาพของคนตาบอด”

Comment: (103)คือไม่ปฏิบัติตามบัญญัติของข้าแล้ว เขาจะมีชีวิตอยู่อย่างยากแค้น ถึงแม้ชีวิตที่เห็นจากภายนอกจะสุขสบายดีก็ตาม

20:125

قَالَ رَبِّ لِمَ حَشَرْتَنِىٓ أَعْمَىٰ وَقَدْ كُنتُ بَصِيرًۭا

Translation: เขากล่าวว่า “ข้าแต่พระผู้อภิบาลของข้าพระองค์ ทำไมพระองค์จึงทรงให้ข้าพระองค์ฟื้นคืนชีพขึ้นมาในสภาพของคนตาบอดเล่า ทั้งๆที่ข้าพระองค์เคยเป็นคนตาดี มองเห็น”(104)

Comment: (104)คือเขาจะกล่าวว่า โอ้พระเจ้าของข้าพระองค์ ด้วยบาปอันใดพระองค์จึงลงโทษข้าพระองค์ ให้อยู่ในสภาพของคนตาบอด ทั้ง ๆ ที่ในโลกดุนยาข้าพระองค์เป็นคนตาดี

20:126

قَالَ كَذَٰلِكَ أَتَتْكَ ءَايَـٰتُنَا فَنَسِيتَهَا ۖ وَكَذَٰلِكَ ٱلْيَوْمَ تُنسَىٰ

Translation: พระองค์ตรัสว่า “เช่นนั้นแหละ เมื่อโองการทั้งหลายของเราได้มีมายังเจ้า เจ้าก็ทำเป็นลืมมัน และในทำนองเดียวกัน วันนี้เจ้าก็จะถูกลืม”(105)

Comment: (105)คือเจ้าทำเป็นไม่เห็นเสีย และละเลยมัน เช่นเดียวกัน วันนี้เจ้าจะถูกละเลย และได้รับโทษเป็นการตอบแทนอย่างสาสม

20:127

وَكَذَٰلِكَ نَجْزِى مَنْ أَسْرَفَ وَلَمْ يُؤْمِنۢ بِـَٔايَـٰتِ رَبِّهِۦ ۚ وَلَعَذَابُ ٱلْـَٔاخِرَةِ أَشَدُّ وَأَبْقَىٰٓ

Translation: และเช่นเดียวกัน เราจะตอบแทนผู้ที่ล่วงละเมิดขอบเขต(106) และไม่ศรัทธาต่อโองการทั้งหลายของพระเจ้า และแน่นอน การลงโทษในปรโลกนั้นสาหัสยิ่ง และยาวนานยิ่ง

Comment: (106)คือเราจะลงโทษผู้ที่มั่วสุมอยู่ในเรื่องของตัณหา

20:128

أَفَلَمْ يَهْدِ لَهُمْ كَمْ أَهْلَكْنَا قَبْلَهُم مِّنَ ٱلْقُرُونِ يَمْشُونَ فِى مَسَـٰكِنِهِمْ ۗ إِنَّ فِى ذَٰلِكَ لَـَٔايَـٰتٍۢ لِّأُو۟لِى ٱلنُّهَىٰ

Translation: ยังมิเป็นที่ประจักษ์ชัดแก่พวกเขาดอกหรือว่า กี่มากน้อยแล้ว เราได้ทำลายประชาชาติก่อนหน้าพวกเขาหลายชั่วศตวรรษ โดยที่พวกเขา (กุฟารมักกะฮ์) ได้ไปพบเห็นมาในที่พำนักอาศัยของพวกเขา(107) แท้จริง ในการลงโทษเช่นนั้นแหละเป็นนิทัศน์อุทาหารณ์สำหรับบรรดาผู้มีสติปัญญา

Comment: (107)คือพวกเขาได้ไปพบเห็นบ้านเรือนของพวกอ๊าด ษะมูด และได้เห็นมากับตาของพวกเขาเองถึงร่องรอยแห่งความหายนะของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจะไม่ใคร่ครวญพินิจพิจารณาดูบ้างหรือ?

20:129

وَلَوْلَا كَلِمَةٌۭ سَبَقَتْ مِن رَّبِّكَ لَكَانَ لِزَامًۭا وَأَجَلٌۭ مُّسَمًّۭى

Translation: และหากมิใช่ลิขิตจากพระผู้อภิบาลของเจ้า ถูกบันทึกไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว(108) แน่นอน การลงโทษจะเกิดขึ้นทันทีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

Comment: (108)คือหากมิใช่ลิขิตของอัลลอฮ์ให้ประวิงการลงโทษแก่พวกเขาไว้ก่อนแล้ว การลงโทษก็จะเกิดแก่พวกเขาอย่างแน่นอน

20:130

فَٱصْبِرْ عَلَىٰ مَا يَقُولُونَ وَسَبِّحْ بِحَمْدِ رَبِّكَ قَبْلَ طُلُوعِ ٱلشَّمْسِ وَقَبْلَ غُرُوبِهَا ۖ وَمِنْ ءَانَآئِ ٱلَّيْلِ فَسَبِّحْ وَأَطْرَافَ ٱلنَّهَارِ لَعَلَّكَ تَرْضَىٰ

Translation: ดังนั้น เจ้าจงอดทนต่อสิ่งที่พวกเขากล่าวร้าย และจงแซ่ซ้องสดุดีด้วยการสรรเสริญพระผู้อภิบาลของเจ้า ก่อนตะวันขึ้นและก่อนตะวันลับลงไป และส่วนหนึ่งจากเวลากลางคืน ก็จงแซ่ซ้องสดุดีและปลายช่วงของเวลากลางวัน เพื่อเจ้าจะได้พออกพอใจ(109)

Comment: (109)ส่วนใหญ่ของนักตัฟซีรมีความเห็นพ้องกันว่า อายะฮ์นี้บ่งถึงเวลาละหมาดทั้งห้า “ก่อนตะวันขึ้น” หมายถึงละหมาดศุบห์ “ก่อนการลับของมัน” หมายถึงละหมาดอัศร์ “เวลากลางคืน” หมายถึงละหมาดอิชาอ์ “ปลายช่วงเวลากลางวัน”หมายถึงละหมาดมักริบและดุฮ์ร เพราะเวลาดุฮ์รคือปลายช่วงแรกของเวลากลางวัน และมักริบคือปลายช่วงหลังของเวลากลางวัน

20:131

وَلَا تَمُدَّنَّ عَيْنَيْكَ إِلَىٰ مَا مَتَّعْنَا بِهِۦٓ أَزْوَٰجًۭا مِّنْهُمْ زَهْرَةَ ٱلْحَيَوٰةِ ٱلدُّنْيَا لِنَفْتِنَهُمْ فِيهِ ۚ وَرِزْقُ رَبِّكَ خَيْرٌۭ وَأَبْقَىٰ

Translation: และเจ้าจงอย่าทอดสายตาของเจ้าไปยังสิ่งที่เราได้ให้ความเพลิดเพลินแก่บุคคลประเภทต่าง ๆ ของพวกกุฟฟาร ซึ่งความสุขสำราญในโลกดุนยา เพื่อเราจะได้ทดสอบพวกเขาในการนี้ และการตอบแทนของพระเจ้านั้น ดียิ่งกว่าและจีรังยิ่งกว่า(110)

Comment: (110)คืออย่าไปมองดูสิ่งที่เราได้ให้ความรื่นรมย์แก่พวกกุฟฟาร อันความสุขสบายประเภทต่าง ๆ ของโลกดุนยา และความเพริศแพร้วที่จอมปลอม

20:132

وَأْمُرْ أَهْلَكَ بِٱلصَّلَوٰةِ وَٱصْطَبِرْ عَلَيْهَا ۖ لَا نَسْـَٔلُكَ رِزْقًۭا ۖ نَّحْنُ نَرْزُقُكَ ۗ وَٱلْعَـٰقِبَةُ لِلتَّقْوَىٰ

Translation: และเจ้าจงใช้ครอบครัวของเจ้า(111) ให้ทำละหมาด และจงอดทนในการปฏิบัติ เรามิได้ขอเครื่องยังชีพจากเจ้า(112) เราต่างหากเป็นผู้ให้เครื่องยังชีพแก่เจ้า และบั้นปลายนั้นสำหรับผู้ที่มีความยำแกรง(113)

Comment: (111)คือจงใช้ครอบครัวและประชาชาติของสูเจ้

Comment: (112)คือเรามิได้บังคับเจ้าให้หาเครื่องยังชีพแก่ตัวเจ้า และครอบครัวของเจ้า แต่เราต่างหากที่จะคุ้มครอง ให้เครื่องยังชีพแก่เจ้าและครอบครัวของเจ้า

Comment: (113)อิบนุกะษีรกล่าวว่า บั้นปลายที่ดีนั้นคือสวนสวรรค์ สำหรับผู้ที่มีความยำเกรงอัลลอฮ์

20:133

وَقَالُوا۟ لَوْلَا يَأْتِينَا بِـَٔايَةٍۢ مِّن رَّبِّهِۦٓ ۚ أَوَلَمْ تَأْتِهِم بَيِّنَةُ مَا فِى ٱلصُّحُفِ ٱلْأُولَىٰ

Translation: และพวกเขากล่าวว่า “ทำไมเขาจึงไม่นำสัญญาณหนึ่งจากพระเจ้าของเขามาให้เรา”(114) หรือว่าหลักฐานอันชัดแจ้งที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์ต่างๆ สมัยก่อนนั้น มิได้มีมายังพวกเขาดอกหรือ?(115)

Comment: (114)พวกมุชริกูนกล่าวว่า ทำไมจึงไม่นำสิ่งมหัศจรรย์ที่ชี้แนะถึงสัจจะของเขามาให้เรา?

Comment: (115)ไม่เป็นการพอเพียงแก่พวกเขาดอกหรือ ที่อัลกุรอานสิ่งมหัศจรรย์ได้ถูกประทานแก่มุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ซึ่งประมวลไว้ด้วยข่าวคราวของประชาชาติในอดีต

20:134

وَلَوْ أَنَّآ أَهْلَكْنَـٰهُم بِعَذَابٍۢ مِّن قَبْلِهِۦ لَقَالُوا۟ رَبَّنَا لَوْلَآ أَرْسَلْتَ إِلَيْنَا رَسُولًۭا فَنَتَّبِعَ ءَايَـٰتِكَ مِن قَبْلِ أَن نَّذِلَّ وَنَخْزَىٰ

Translation: และหากเราทำลายพวกเขาด้วยการลงโทษก่อนการให้อัลกุรอานลงมา(116) แน่นอนพวกเขาก็กล่าวว่า ข้าแต่พระผู้อภิบาลของเราทำไมพระองค์ท่านจึงไม่ส่งร่อซูลมายังพวกเรา เพื่อเราจะได้ปฏิบัติตามโองการของพระองค์ท่าน ก่อนที่เราจะได้รับความต่ำต้อยและความอัปยศ(117)

Comment: (116)และการส่งร่อซูลมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มายังพวกเขา

Comment: (117)นักตัฟซีรกล่าวว่า อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงประสงค์ที่จะชี้แจงว่า ไม่มีข้ออ้างแก่ผู้ใดต่ออัลลอฮ์อีกแล้ว หลังจากการส่งบรรดาร่อซูล และประทานคัมภีร์ต่าง ๆ มายังมวลมนุษย์

20:135

قُلْ كُلٌّۭ مُّتَرَبِّصٌۭ فَتَرَبَّصُوا۟ ۖ فَسَتَعْلَمُونَ مَنْ أَصْحَـٰبُ ٱلصِّرَٰطِ ٱلسَّوِىِّ وَمَنِ ٱهْتَدَىٰ

Translation: จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด " ทุกคนเป็นผู้คอย(118) ดังนั้น พวกท่านจงคอยเถิด แล้วพวกท่านจะได้รู้ว่าใครคือ พวกที่อยู่ในแนวทางอันเที่ยงตรง และใครคือผู้ที่อยู่ในแนวทางที่ถูกต้อง”

Comment: (118)คือคอยการหมุนเวียนของกาลเวลา