سورة مريم
Maryam
Mary
meccan . 98 Ayahs
بِسْمِ ٱللَّهِ ٱلرَّحْمَـٰنِ ٱلرَّحِيمِ
19:1
كٓهيعٓصٓ
Translation: กาฟ ฮา ยา อัยน์ ศอด(1)
Comment: (1)โปรดดูคำอธิบายในเชิงอรรถของหนังสือ “ความหมายอัลกุรอานเป็นภาษาไทย” สิบญุซแรก หน้า 2
19:2
ذِكْرُ رَحْمَتِ رَبِّكَ عَبْدَهُۥ زَكَرِيَّآ
Translation: (นี่คือ) การกล่าวถึงเมตตาธรรมแห่งพระผู้อภิบาลของเจ้า ที่มีต่อซะกะรียาบ่าวของพระองค์
19:3
إِذْ نَادَىٰ رَبَّهُۥ نِدَآءً خَفِيًّۭا
Translation: เมื่อเขาวิงวอนต่อพระเจ้าของเขา ด้วยการวิงวอนอย่างค่อย ๆ
19:4
قَالَ رَبِّ إِنِّى وَهَنَ ٱلْعَظْمُ مِنِّى وَٱشْتَعَلَ ٱلرَّأْسُ شَيْبًۭا وَلَمْ أَكُنۢ بِدُعَآئِكَ رَبِّ شَقِيًّۭا
Translation: เขากล่าวว่า “ข้าแต่พระผู้อภิบาลของข้าพระองค์ แท้จริงกระดูกของข้าพระองค์อ่อนแล้ว(2) และศีรษะก็มีประกายหงอกแล้ว และมิเคยปรากฏเลยว่าการวิงวอนของข้าพระองค์ต่อพระองค์นั้นไร้ผล(3) โอ้ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์
Comment: (2)หมายถึงกำลังวังชาก็ไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว
Comment: (3)ขอพระองค์ทรงรับการวิงวอนของข้าพระองค์ด้วยเทอญ
19:5
وَإِنِّى خِفْتُ ٱلْمَوَٰلِىَ مِن وَرَآءِى وَكَانَتِ ٱمْرَأَتِى عَاقِرًۭا فَهَبْ لِى مِن لَّدُنكَ وَلِيًّۭا
Translation: “และแท้จริงข้าพระองค์กลัวลูกหลานของข้าพระองค์ ภายหลัง (การตายของ) ข้าพระองค์(4) และภริยาของข้าพระองค์ก็เป็นหมันด้วย ดังนั้นขอพระองค์ทรงโปรดประทานทายาที่ดีจากพระองค์แก่ข้าพระองค์ด้วยเถิด”
Comment: (4)ข้าพระองค์กลัวว่าบรรดาลูกหลานของข้าพระองค์จะทำลายศาสนา หลังจากข้าพระองค์ได้ตายไปแล้ว
19:6
يَرِثُنِى وَيَرِثُ مِنْ ءَالِ يَعْقُوبَ ۖ وَٱجْعَلْهُ رَبِّ رَضِيًّۭا
Translation: “ผู้ซึ่งจะสืบทายาทแทนข้าพระองค์ และสืบทายาทจากตระกูลของยะอ์กูบ(5) และขอพระองค์ทรงโปรดให้เขาเป็นที่โปรดปรานด้วยเถิด ข้าแต่พระผู้อภิบาลของข้าพระองค์”
Comment: (5)คือสืบทายาททางด้านวิชาความรู้และการเป็นนบี
19:7
يَـٰزَكَرِيَّآ إِنَّا نُبَشِّرُكَ بِغُلَـٰمٍ ٱسْمُهُۥ يَحْيَىٰ لَمْ نَجْعَل لَّهُۥ مِن قَبْلُ سَمِيًّۭا
Translation: โอ้ ซะกะรียาเอ๋ย ! แท้จริงเราจะแจ้งข่าวดีแก่เจ้าซึ่งลูกคนหนึ่ง ชื่อของเขาคือยะห์ยา(6) เรามิเคยตั้งชื่อผู้ใดมาก่อนเลย
Comment: (6)โดยผ่านทางมลาอิกะฮ์ ดังเช่น ในซูเราะฮ์อาลอิมรอน อายะฮ์ที่ 39 กล่าวไว้มีความว่า “และมลาอิกะฮ์ได้เรียกเขาขณะที่เขากำลังยืนละหมาดอยู่ในอัลมิห์รอบว่า แท้จริง อัลลอฮ์ทรงแจ้งข่าวดีแก่สูเจ้าด้วยยะห์ยา…
19:8
قَالَ رَبِّ أَنَّىٰ يَكُونُ لِى غُلَـٰمٌۭ وَكَانَتِ ٱمْرَأَتِى عَاقِرًۭا وَقَدْ بَلَغْتُ مِنَ ٱلْكِبَرِ عِتِيًّۭا
Translation: เขากล่าวว่า “ข้าแต่พระผู้อภิบาลของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะมีลูกได้อย่างไร(7) ในเมื่อภริยาของข้าพระองค์ก็เป็นหมัน และข้าพระองค์ได้บรรลุสู่ความแก่ชราแล้ว!”(8)
Comment: (7)เป็นคำถามที่ประหลาดใจและดีใจในเวลาเดียวกัน
Comment: (8)นักตัฟซีรกล่าวกันว่า ขณะนั้นเขามีอายุ 120 ปี และภริยาของเขามีอายุ 98 ปี
19:9
قَالَ كَذَٰلِكَ قَالَ رَبُّكَ هُوَ عَلَىَّ هَيِّنٌۭ وَقَدْ خَلَقْتُكَ مِن قَبْلُ وَلَمْ تَكُ شَيْـًۭٔا
Translation: เขา(มะลัก)(9) กล่าวว่า “กระนั้นก็ดี พระเจ้าของเจ้าได้ตรัสว่า มันง่ายสำหรับข้า และแน่นอนข้าได้บังเกิดเจ้ามาก่อน เมื่อเจ้ายังมิได้เป็นสิ่งใด”(10)
Comment: (9)มะลัก เป็นเอกพจน์ของคำว่า มลาอิกะฮ์
Comment: (10)นำตัฟซีรอธิบายว่า ในการให้บังเกิดมิใช่ว่าเป็นเรื่องง่ายหรือยากสำหรับอัลลอฮ์ เพราะสื่อแห่งการให้บังเกิด สำหรับคนหนุ่มหรือคนแก่ คนมีเกียรติหรือคนต่ำต้อย อยู่ในสภาพเดียวกันหมดคือ พระดำรัสของพระองค์ที่ว่า “จงเป็น แล้วมันก็จะเป็นขึ้น”
19:10
قَالَ رَبِّ ٱجْعَل لِّىٓ ءَايَةًۭ ۚ قَالَ ءَايَتُكَ أَلَّا تُكَلِّمَ ٱلنَّاسَ ثَلَـٰثَ لَيَالٍۢ سَوِيًّۭا
Translation: เขากล่าวว่า “ข้าแต่พระผู้อภิบาลของข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงโปรดทำให้มีสัญญาณ แก่ข้าพระองค์ด้วย” พระองค์ตรัสว่าสัญญาณของเจ้าคืออย่าพูดกับผู้คนเป็นเวลาสามคืน ทั้ง ๆ ที่เจ้าอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์”(11)
Comment: (11)คือไม่ได้เป็นใบ้หรือเจ็บป่วยแต่อย่างใด โดยไม่พูดคุยกับผู้ใด แต่อ่านคัมภีร์อัตเตาร๊อต และกล่าวสรรเสริญพระองค์ได้
19:11
فَخَرَجَ عَلَىٰ قَوْمِهِۦ مِنَ ٱلْمِحْرَابِ فَأَوْحَىٰٓ إِلَيْهِمْ أَن سَبِّحُوا۟ بُكْرَةًۭ وَعَشِيًّۭا
Translation: แล้วเขาได้ออกจากมุมอิบาดะฮ์มายังหมู่ชนของเขา และเขาได้ชี้ใบ้แก่พวกของเขาว่า(12) พวกท่านจงกล่าวสดุดีในยามเช้าและยามเย็น
Comment: (12)ดังเช่นในซูเราะฮ์อาลอิมรอน อายะฮ์ที่ 41 กล่าวไว้มีใจความว่า “พระองค์ตรัสว่า สัญญาณของเจ้านั้นคือ เจ้าจะไม่พูดกับผู้คนเป็นเวลาสามวัน นอกจากการชี้ใบ้
19:12
يَـٰيَحْيَىٰ خُذِ ٱلْكِتَـٰبَ بِقُوَّةٍۢ ۖ وَءَاتَيْنَـٰهُ ٱلْحُكْمَ صَبِيًّۭا
Translation: โอ้ ยะห์ยาเอ๋ย ! เจ้าจงยึดมั่นในคัมภีร์ (เตารอต) อย่างมั่นคง และเราได้ประทานความเฉลียวฉลาดให้เขา ตั้งแต่ยังเป็นเด็กอยู่
19:13
وَحَنَانًۭا مِّن لَّدُنَّا وَزَكَوٰةًۭ ۖ وَكَانَ تَقِيًّۭا
Translation: และความน่าสงสารจากเรา และความบริสุทธิ์แก่เขา(13) และเขาเป็นผู้ยำเกรง
Comment: (13)เราทำเช่นนั้นเป็นความเอ็นดูเมตตาจากเราต่อบิดามารดาของเขา และเป็นการเมตตาแก่เขาด้วย และให้เขาบริสุทธิ์จากการกระทำที่น่าเกลียด
19:14
وَبَرًّۢا بِوَٰلِدَيْهِ وَلَمْ يَكُن جَبَّارًا عَصِيًّۭا
Translation: และเป็นผู้กระทำความดีต่อบิดามารดาของเขา และเขามิได้เป็นผู้หยิ่งยโส ผู้ฝ่าฝืน
19:15
وَسَلَـٰمٌ عَلَيْهِ يَوْمَ وُلِدَ وَيَوْمَ يَمُوتُ وَيَوْمَ يُبْعَثُ حَيًّۭا
Translation: และความศานติจงมีแด่เขา วันที่เขาถูกคลอด และวันที่เขาตาย และวันที่เขาถูกฟื้นขึ้นให้มีชีวิตใหม่(14)
Comment: (14)อิบนุอะฏียะฮ์ กล่าวว่า พระองค์ทรงให้เขาได้รับความศานติ ในขณะที่มนุษย์อยู่ในความอ่อนแอที่สุด มีความต้องการมากที่สุด ต้องพึ่งพาอาศัยต่อพระองค์มากที่สุด นั่นคือ ขณะที่เขาเกิด เขาตายและเขาฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่
19:16
وَٱذْكُرْ فِى ٱلْكِتَـٰبِ مَرْيَمَ إِذِ ٱنتَبَذَتْ مِنْ أَهْلِهَا مَكَانًۭا شَرْقِيًّۭا
Translation: และจงกล่าวถึง(เรื่องของ) มัรยัมที่อยู่ในคัมภีร์(15) เมื่อนางได้ปลีกตัวออกจากหมู่ญาติของนาง ไปยังมุมหนึ่งทางตะวันออก(ของบัยตุลมักดิส)(16)
Comment: (15)นี่เป็นเรื่องที่สองของซูเราะฮ์นี้ เป็นเรื่องประหลาดกว่าเรื่องกำเนิดยะฮ์ยา เพราะเป็นเรื่องการคลอดบุตรของหญิงบริสุทธิ์ปราศจากสามี ประหลาดกว่าการคลอดบุตรของหญิงที่เป็นหมันจากสามีที่แก่หง่อม
Comment: (16)นางได้ปลีกตัวออกจากหมู่ญาติของนาง เพื่อทำการอิบาดะห์ แต่พวกก็อดยานีย์ได้อธิบายความหมายของอายะฮ์นี้ว่า “นางเป็นสาวแล้ว มีระดูและอยู่ในโบสถ์ไม่ได้ นางจึงปลีกตนเองไป….” ซุบฮานัลลอฮ์ พวกเขาตีความหมายขัดกับสภาพความเป็นจริงของสตรีเพศ เพราะมันจะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อนางมีระดู นางได้ปลีกตัวออกไปเพื่อตั้งครรภ์ ซึ่งในอายะฮ์ต่อ ๆไป ได้ระบุไว้ หรือว่าการตีความของพวกเขา ต้องการให้ตรงกับความเชื่อมั่นของพวกเขาที่ว่า นางมัรยัมมีสามีชื่อโยเซฟ ซึ่งเป็นบิดาของท่านนบีอีซา
19:17
فَٱتَّخَذَتْ مِن دُونِهِمْ حِجَابًۭا فَأَرْسَلْنَآ إِلَيْهَا رُوحَنَا فَتَمَثَّلَ لَهَا بَشَرًۭا سَوِيًّۭا
Translation: แล้วนางได้ใช้ม่านกั้นให้ห่างพ้นจากพวกเขาแล้วเราได้ส่งวิญญาณของเรา(ญิบรีล) ไปยังนางแล้วเขาได้จำแลงตนแก่นาง ให้เป็นชายอย่างสมบูรณ์(17)
Comment: (17)อิบนุอับบาสอธิบายว่า ญิบรีลได้จำแลงตนมาในรูปของชายหนุ่ม หน้าตาขาว ผมหยิก มีร่างกายครบถ้วนสมบูรณ์
19:18
قَالَتْ إِنِّىٓ أَعُوذُ بِٱلرَّحْمَـٰنِ مِنكَ إِن كُنتَ تَقِيًّۭا
Translation: นางกล่าวว่า “แท้จริงฉันขอความคุ้มครองต่อพระผู้ทรงกรุณาปรานีให้พ้นจากท่าน หากท่านเป็นผู้ยำเกรง”(18)
Comment: (18)เมื่อนางเห็นเขาก็รู้สึกตกใจ กลัวว่าเขาจะประสงค์ร้ายต่อนาง นางจึงขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮ์
19:19
قَالَ إِنَّمَآ أَنَا۠ رَسُولُ رَبِّكِ لِأَهَبَ لَكِ غُلَـٰمًۭا زَكِيًّۭا
Translation: เขา(ญิบรีล) กล่าวว่า “แท้จริงฉันเป็นเพียงทูตแห่งพระผู้อภิบาลของเธอ เพื่อฉันจะให้ลูกชายผู้บริสุทธิ์แก่เธอ”(19)
Comment: (19)เมื่อญิบรีลเห็นนางมีความกลัว จึงบอกความจริงแก่นาง
19:20
قَالَتْ أَنَّىٰ يَكُونُ لِى غُلَـٰمٌۭ وَلَمْ يَمْسَسْنِى بَشَرٌۭ وَلَمْ أَكُ بَغِيًّۭا
Translation: นางกล่าวว่า “ฉันจะมีลูกได้อย่างไร(20) ทั้ง ๆ ที่ไม่มีชายใดมาแตะต้องฉันเลย และฉันก็มิได้เป็นหญิงชั่ว”
Comment: (20)คือลูกคนนี้จะเกิดจากฉันในสภาพอย่างไร
19:21
قَالَ كَذَٰلِكِ قَالَ رَبُّكِ هُوَ عَلَىَّ هَيِّنٌۭ ۖ وَلِنَجْعَلَهُۥٓ ءَايَةًۭ لِّلنَّاسِ وَرَحْمَةًۭ مِّنَّا ۚ وَكَانَ أَمْرًۭا مَّقْضِيًّۭا
Translation: เขา(ญิบรีล) กล่าวว่า “กระนั้นก็เถิด พระเจ้าของเธอตรัสว่า มันง่ายสำหรับข้า และเพื่อเราจะทำให้เขาเป็นสัญญาณหนึ่งสำหรับมนุษย์และเป็นความเมตตาจากเรา และนั่นเป็นกิจการที่ถูกกำหนดไว้แล้ว(21)
Comment: (21)คือเพื่อให้การมาของเขาเป็นหลักฐานแก่มวลมนุษย์ ถึงเดชานุภาพอันน่าประหลาดของเรา และเพื่อเป็นความเมตตาแก่พวกเขาด้วยการส่งเขาให้มาเป็นนบี ชักชวนแนะนำสู่แนวทางที่ถูกต้อง
19:22
۞ فَحَمَلَتْهُ فَٱنتَبَذَتْ بِهِۦ مَكَانًۭا قَصِيًّۭا
Translation: แล้วนางได้ตั้งครรภ์ และนางได้ปลีกตัวออกไปพร้อมกับบุตรในครรภ์ ยังสถานที่ไกลแห่งหนึ่ง(22)
Comment: (22)โดยนางกลัวหมู่ญาติของนางจะประณามว่า นางได้ลูกมาโดยไม่มีสามี
19:23
فَأَجَآءَهَا ٱلْمَخَاضُ إِلَىٰ جِذْعِ ٱلنَّخْلَةِ قَالَتْ يَـٰلَيْتَنِى مِتُّ قَبْلَ هَـٰذَا وَكُنتُ نَسْيًۭا مَّنسِيًّۭا
Translation: ความเจ็บปวดใกล้คลอดทำให้นางหลบไปที่โคนตัวต้นอินทผลัม(23) นางได้กล่าวว่า “โอ้! หากฉันได้ตายไปเสียก่อนหน้านี้ และฉันเป็นคนไร้ค่าถูกลืมเสียก็จะดี”
Comment: (23)เพื่อจะใช้เป็นที่คลอด เพราะห่างไกลจากสายตาคน
19:24
فَنَادَىٰهَا مِن تَحْتِهَآ أَلَّا تَحْزَنِى قَدْ جَعَلَ رَبُّكِ تَحْتَكِ سَرِيًّۭا
Translation: ดังนั้น เขา(มะลัก) ได้เรียกนางทางเบื้องล่างต้นอินทผลัมว่า “อย่าได้เศร้าเสียใจ แน่นอน พระเจ้าของเธอทรงจัดลำธารไว้เบื้องล่างเธอแล้ว(24)
Comment: (24)อิบนุอับบาสอธิบายว่า ญิบรีลใช้เท้ากระทืบบนดิน แล้วตาน้ำจืดก็ได้พุ่งออกมาเป็นธารน้ำ
19:25
وَهُزِّىٓ إِلَيْكِ بِجِذْعِ ٱلنَّخْلَةِ تُسَـٰقِطْ عَلَيْكِ رُطَبًۭا جَنِيًّۭا
Translation: “และจงเขย่าต้นอินทผลัม ให้มันเอนมาทางตัวเธอ มันจะหล่นลงมาที่ตัวเธอเป็นอินทผลัมที่สุกน่ากิน”
19:26
فَكُلِى وَٱشْرَبِى وَقَرِّى عَيْنًۭا ۖ فَإِمَّا تَرَيِنَّ مِنَ ٱلْبَشَرِ أَحَدًۭا فَقُولِىٓ إِنِّى نَذَرْتُ لِلرَّحْمَـٰنِ صَوْمًۭا فَلَنْ أُكَلِّمَ ٱلْيَوْمَ إِنسِيًّۭا
Translation: “ฉะนั้น จงกิน จงดื่ม และจงทำจิตใจให้เบิกบานเถิด หากเธอเห็นมนุษย์คนใดก็จงกล่าวว่า ฉันได้บนบานสงบนิ่งไว้ต่อพระผู้ทรงกรุณาปรานีฉันจะไม่พูดกับผู้ใดเลยวันนี้”
19:27
فَأَتَتْ بِهِۦ قَوْمَهَا تَحْمِلُهُۥ ۖ قَالُوا۟ يَـٰمَرْيَمُ لَقَدْ جِئْتِ شَيْـًۭٔا فَرِيًّۭا
Translation: แล้วนางใดพาเขามายังหมู่ญาติของนางโดยอุ้มเขามา(25) พวกเขากล่าวว่า “โอ้ มัรยัมเอ๋ย ! แท้จริงเธอได้นำเรื่องประหลาดมาแล้ว”
Comment: (25)ในเมื่อตัวบทของอายะฮ์ระบุไว้แจ้งชัดอย่างนี้ว่า นางได้อุ้มเขา (อีซา) มาหาญาติพี่น้องของนาง แต่พวกก็อดยานีย์ก็ได้ตีความหมายไปว่า “(เมื่ออีซาโตแล้ว) นางได้พาเขามาหาพวกพ้องของนาง (โดย)ให้เขาขี่ (พาหนะ) มา
19:28
يَـٰٓأُخْتَ هَـٰرُونَ مَا كَانَ أَبُوكِ ٱمْرَأَ سَوْءٍۢ وَمَا كَانَتْ أُمُّكِ بَغِيًّۭا
Translation: “โอ้ น้องหญิงของฮารูน พ่อของเธอมิได้เป็นชายชั่ว และแม่ของเธอก็มิได้เป็นหญิงไม่บริสุทธิ์”(26)
Comment: (26)คือ โอ้ผู้ที่มีความคล้ายคลึงกับฮ์ารูนในความดีและการทำอิบาดะฮ์พ่อและแม่ของเธอมิได้เป็นคนชั่ว ทำไมจึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นกับเธอ และเธอก็มาจากครอบครัวที่บริสุทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดีถึงความดี และเคร่งในการอิบาดะฮ์ ก้อตาดะฮ์กล่าวว่า“ฮ์ารูนเป็นคนดีของบนีอิสรออีล เป็นที่รู้จักกันดี หมู่ญาติของมัรยัมจึงเปรียบเปรยนางว่า มีความคล้ายคลึงกับเขา ซึ่งมิใช่ฮ์ารูนพี่ชายของนบีมูซาเพราะระยะเวลาระหว่างฮารูนทั้งสองคนนั้น เป็นเวลานานกว่าหนึ่งพันปี
19:29
فَأَشَارَتْ إِلَيْهِ ۖ قَالُوا۟ كَيْفَ نُكَلِّمُ مَن كَانَ فِى ٱلْمَهْدِ صَبِيًّۭا
Translation: นางชี้ไปทางเขา พวกเขากล่าวว่า “เราจะพูดกับผู้ที่อยู่ในเปลที่เป็นเด็กได้อย่างไร?”(27)
Comment: (27)พวกก็อดยานีย์มีทัศนะว่า อีซามิได้พูดได้ขณะที่เป็นเด็กนอนอยู่ในเปล แต่บอกว่าอีซาขณะนั้นอายุได้ 12 ปี โดยนำเอาข้อความบางตอนจากไบเบิล บทลูกา มายืนยัน อัลกุรอานได้กล่าวยืนยันไว้อย่างชัดเจนว่า อีซา อะลัยฮิสสลาม ได้พูดกับผู้คนขณะที่นอนอยู่ในเปลคนที่นอนอยู่ในเปลนั้นไม่กินกับปัญยาเลยที่จะมีอายุถึง 12 ปี ตามกฎธรรมชาติ อัลลอฮ์ตรัสว่า “และเขา (อีซา) จะพูดแก่ผู้คนขณะที่เขาอยู่ในเปล และขณะที่เขาอยู่ในวัยกลางคน” แล้วถ้าหากว่าคำพูดของอีซาที่ได้โต้ตอบการกล่าวหาของพวกยิว เพื่อความบริสุทธิ์ของมารดา เกิดขึ้นเมื่ออีซามีอายุได้ 12 ปี คำพูดของอีซาก็จะไม่เกิดประโยชน์ในการเป็นเหตุผลหรือหลักฐาน ต่อการพ้นมลทินของมารดาแต่ประการใด เพราะเด็กที่มีอายุถึง 12 ปีนั้น ผู้ใหญ่สามารถจะเสี้ยมสอนให้ตอบ ตามความต้องการของตนได้ แต่เมื่อพวกเขาได้ปฏิเสธนางมัรยัมก็ได้ชี้ไปยังอีซาเพื่อให้ตอบพวกเขาแทนนาง ด้วยสิ่งที่จะทำให้นางบริสุทธิ์จากข้อกล่าวหา อัลลอฮ์ได้ตรัสไว้ว่า “และนางจึงชี้ไปยังเขา….จนกระทั่ง…และพระองค์ทรงทำให้ฉันเป็นผู้ได้รับความจำเริญ ไม่ว่าฉันจะอยู่ ณ ที่ใด”(โปรดดูคำถามคำตอบข้อ 2 ในหนังสือ “ข้อชี้ขาดของนักปราชญ์อิสลามในการบิดเบือนอัลกุรอาน” ของสมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ)
19:30
قَالَ إِنِّى عَبْدُ ٱللَّهِ ءَاتَىٰنِىَ ٱلْكِتَـٰبَ وَجَعَلَنِى نَبِيًّۭا
Translation: เขา(อีซา) กล่าวว่า “แท้จริงฉันเป็นบ่าวของอัลลอฮ์พระองค์ทรงประทานคัมภีร์แก่ฉันและทรงให้ฉันเป็นนบี”
19:31
وَجَعَلَنِى مُبَارَكًا أَيْنَ مَا كُنتُ وَأَوْصَـٰنِى بِٱلصَّلَوٰةِ وَٱلزَّكَوٰةِ مَا دُمْتُ حَيًّۭا
Translation: “และพระองค์ทรงให้ฉันได้รับความจำเริญ ไม่ว่าฉันจะอยู่ ณ ที่ใด และทรงสั่งเสียให้ฉันทำการละหมาดและจ่ายซะกาตตราบที่ฉันมีชีวิตอยู่”
19:32
وَبَرًّۢا بِوَٰلِدَتِى وَلَمْ يَجْعَلْنِى جَبَّارًۭا شَقِيًّۭا
Translation: “และทรงให้ฉันทำดีต่อมารดาของฉันและจะไม่ทรงทำให้ฉันเป็นผู้หยิ่งยโส ผู้เลวทรามต่ำช้า”
19:33
وَٱلسَّلَـٰمُ عَلَىَّ يَوْمَ وُلِدتُّ وَيَوْمَ أَمُوتُ وَيَوْمَ أُبْعَثُ حَيًّۭا
Translation: “และความศานติจงมีแด่ฉัน วันที่ฉันถูกคลอด และวันที่ฉันตาย และวันที่ฉันถูกฟื้นขึ้นให้มีชีวิตใหม่”(28)
Comment: (28)นี่คือสิ่งที่อีซา อะลัยฮิสสลาม ได้กล่าวขณะที่ยังเป็นเด็กนอนแบเบาะอยู่ในเปล และอีซาได้ประกาศการเป็นบ่าวของเขาต่ออัลลอฮ์ เขามิได้เป็นพระบุตรของพระเจ้า”
19:34
ذَٰلِكَ عِيسَى ٱبْنُ مَرْيَمَ ۚ قَوْلَ ٱلْحَقِّ ٱلَّذِى فِيهِ يَمْتَرُونَ
Translation: นั่นคืออีซาบุตรของมัรยัม มันเป็นคำบอกเล่าที่จริง ซึ่งพวกเขายังมีความสงสัยกันอยู่
19:35
مَا كَانَ لِلَّهِ أَن يَتَّخِذَ مِن وَلَدٍۢ ۖ سُبْحَـٰنَهُۥٓ ۚ إِذَا قَضَىٰٓ أَمْرًۭا فَإِنَّمَا يَقُولُ لَهُۥ كُن فَيَكُونُ
Translation: ไม่เป็นการบังควรสำหรับอัลลอฮ์ที่พระองค์จะทรงตั้งผู้ใดเป็นพระบุตร มหาบริสุทธิ์แห่งพระองค์ท่าน ! เมื่อพระองค์ทรงกำหนดกิจการใด พระองค์จะตรัสแก่มันว่า “จงเป็น “ แล้วมันก็จะเป็นขึ้นมา(29)
Comment: (29)นักตัฟซีรอธิบายว่า การตั้งผู้ใดเป็นบุตร เป็นเรื่องของผู้หมดความสามารถ ผู้อ่อนแอ ผู้มีความต้องการ ซึ่งไม่สามารถจะกระทำสิ่งใดได้ ส่วนผู้ที่มีความสามารถมีความพอเพียงแล้ว เขาเพียงแต่กล่าวแก่สิ่งนั้นว่า “จงเป็น” แล้วมันก็จะเป็นขึ้นมา
19:36
وَإِنَّ ٱللَّهَ رَبِّى وَرَبُّكُمْ فَٱعْبُدُوهُ ۚ هَـٰذَا صِرَٰطٌۭ مُّسْتَقِيمٌۭ
Translation: และแท้จริงอัลลอฮ์คือพระผู้อภิบาลของฉันและพระผู้อภิบาลของพวกท่าน ดังนั้น พวกท่านจงเคารพภักดีพระองค์เถิด นี่คือทางอันเที่ยงตรง
19:37
فَٱخْتَلَفَ ٱلْأَحْزَابُ مِنۢ بَيْنِهِمْ ۖ فَوَيْلٌۭ لِّلَّذِينَ كَفَرُوا۟ مِن مَّشْهَدِ يَوْمٍ عَظِيمٍ
Translation: คณะต่างๆ ได้ขัดแย้งระหว่างกันเองดังนั้น ความหายนะจงประสบแก่บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา เมื่อมีการชุมนุมแห่งวันอันยิ่งใหญ่เถิด(30)
Comment: (30)คณะต่าง ๆ จากพวกอะฮ์ลุลกิตาบ ได้แตกแยกกันทางความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่องของอีซา อะลัยฮิสสลาม จนกลายเป็นกลุ่มนิกายที่ขัดแย้งกันเอง บางพวกมีความเห็นว่า อีซาเป็นพระบุตรของอัลลอฮ์ บางพวกมีความเห็นว่า เขาเป็นลูกผิดประเวณี
19:38
أَسْمِعْ بِهِمْ وَأَبْصِرْ يَوْمَ يَأْتُونَنَا ۖ لَـٰكِنِ ٱلظَّـٰلِمُونَ ٱلْيَوْمَ فِى ضَلَـٰلٍۢ مُّبِينٍۢ
Translation: พวกเขาจะได้ฟังอย่างชัดแจ้งและเห็นอย่างชัดอะไรอย่างนั้น! วันที่พวกเขาจะมาหาเรา แต่วันนี้บรรดาผู้อธรรมอยู่ในการหลงผิดที่ชัดแจ้ง
19:39
وَأَنذِرْهُمْ يَوْمَ ٱلْحَسْرَةِ إِذْ قُضِىَ ٱلْأَمْرُ وَهُمْ فِى غَفْلَةٍۢ وَهُمْ لَا يُؤْمِنُونَ
Translation: และเจ้าจงเตือนสำทับพวกเขาถึงวันแห่งความเสียใจ(31) เมื่อกิจการนั้นถูกตัดสิน และพวกเขาอยู่ในหลงลืม และพวกเขาไม่ศรัทธา
Comment: (31)คือวันกิยามะฮ์
19:40
إِنَّا نَحْنُ نَرِثُ ٱلْأَرْضَ وَمَنْ عَلَيْهَا وَإِلَيْنَا يُرْجَعُونَ
Translation: แท้จริง เราเป็นผู้ครอบครองมรดกแผ่นดินและที่อยู่บนแผ่นดิน และพวกเขาจะถูกนำกลับมายังเรา(32)
Comment: (32)เพื่อการชำระบัญชีและการตอบแทน
19:41
وَٱذْكُرْ فِى ٱلْكِتَـٰبِ إِبْرَٰهِيمَ ۚ إِنَّهُۥ كَانَ صِدِّيقًۭا نَّبِيًّا
Translation: และจงกล่าวถึง(เรื่องของ) อิบรอฮีมที่อยู่ในคัมภีร์ แท้จริงเขาเป็นผู้ซื่อสัตย์ เป็นนบี
19:42
إِذْ قَالَ لِأَبِيهِ يَـٰٓأَبَتِ لِمَ تَعْبُدُ مَا لَا يَسْمَعُ وَلَا يُبْصِرُ وَلَا يُغْنِى عَنكَ شَيْـًۭٔا
Translation: และจงรำลึกถึงเมื่อเขากล่าวแก่บิดาของเขาว่า “โอ้พ่อจ๋า ทำไมท่านจึงเคารพบูชาสิ่งที่ไม่ได้ยินและไม่เห็น และไม่ให้ประโยชน์อันใดแก่ท่านเลย ?(33)
Comment: (33)รูปปั้นที่เป็นหินปูน ที่ไม่ได้ให้คุณให้โทษแก่ท่านเลย
19:43
يَـٰٓأَبَتِ إِنِّى قَدْ جَآءَنِى مِنَ ٱلْعِلْمِ مَا لَمْ يَأْتِكَ فَٱتَّبِعْنِىٓ أَهْدِكَ صِرَٰطًۭا سَوِيًّۭا
Translation: “โอ้พ่อจ๋า แท้จริงความรู้ได้มีมายังฉันแล้ว ซึ่งมิได้มีมายังท่าน ดังนั้น จงเชื่อฟังปฏิบัติตามฉันเถิด ฉันจะชี้แนะท่านสู่ทางที่เที่ยงตรง”(34)
Comment: (34)โปรดรับคำแนะนำของฉันเถิด เพราะแนวทางที่ถูกต้องซึ่งฉันจะชี้แจงให้นั้น เป็นทางรอดจากความหายนะ นั่นคือศาสนาของอัลลอฮ์ที่ไม่คดเคี้ยว
19:44
يَـٰٓأَبَتِ لَا تَعْبُدِ ٱلشَّيْطَـٰنَ ۖ إِنَّ ٱلشَّيْطَـٰنَ كَانَ لِلرَّحْمَـٰنِ عَصِيًّۭا
Translation: “โอ้พ่อจ๋า! อย่าเคารพบูชาชัยฏอนเป็นอันขาด แท้จริงชัยฏอนนั้นมันดื้อรั้นต่อพระผู้ทรงกรุณาปรานี(35)
Comment: (35)อย่าเชื่อฟังคำสั่งของชัยฏอนที่มันให้ปฏิเสธศรัทธาและบูชารูปปั้น อัลกุรฏุบีย์กล่าวว่า ที่ใช้สำนวน “เคารพบูชา” แทน “เชื่อฟัง” ก็เพราะผู้ใดเชื่อฟังมันในทางที่เป็นการฝ่าฝืนต่ออัลลอฮ์ ก็เท่ากับว่าเขาเคารพบูชามัน
19:45
يَـٰٓأَبَتِ إِنِّىٓ أَخَافُ أَن يَمَسَّكَ عَذَابٌۭ مِّنَ ٱلرَّحْمَـٰنِ فَتَكُونَ لِلشَّيْطَـٰنِ وَلِيًّۭا
Translation: “โอ้พ่อจ๋า! แท้จริง ฉันกลัวว่าการลงโทษจากพระผู้ทรงกรุณาปรานีจะประสบแก่ท่านแล้วท่านก็จะเป็นสหายของชัยฏอน”(36)
Comment: (36)ฉันกลัวว่าท่านจะตายในสภาพปฏิเสธศรัทธา แล้วการลงโทษอย่าเจ็บแสบจากอัลลอฮ์จะประสบแก่ท่าน และท่านจะเป็นสหายของชัยฏอนด้วยการอยู่ในนรกตลอดกาล
19:46
قَالَ أَرَاغِبٌ أَنتَ عَنْ ءَالِهَتِى يَـٰٓإِبْرَٰهِيمُ ۖ لَئِن لَّمْ تَنتَهِ لَأَرْجُمَنَّكَ ۖ وَٱهْجُرْنِى مَلِيًّۭا
Translation: เขา(บิดา) กล่าวว่า “เจ้ารังเกียจพระเจ้าทั้งหลายของฉันกระนั้นหรือ โอ้อิบรอฮีมเอ๋ย! หากเจ้าไม่หยุดยั้ง(จากการตำหนิ) แน่นอนฉันจะขว้างเจ้า(ด้วยก้อนหิน) และเจ้าจงไปให้พ้นจากฉันตลอดไป”
19:47
قَالَ سَلَـٰمٌ عَلَيْكَ ۖ سَأَسْتَغْفِرُ لَكَ رَبِّىٓ ۖ إِنَّهُۥ كَانَ بِى حَفِيًّۭا
Translation: เขา(อิบรอฮีม) กล่าวว่า “ขอความศานติจงมีแด่ท่าน ฉันจะขออภัยโทษจากพระเจ้าของฉันให้แก่ท่าน แท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงเมตตากรุณาแก่ฉันมาก(37)
Comment: (37)อิบรอฮีมได้กล่าวตอบว่า สำหรับฉัน การทำร้ายหรือการกระทำที่น่าเกลียดจากฉันจะไม่ประสบแก่ท่าน ฉันจะไม่พูดในสิ่งที่ทำให้ท่านไม่พอใจอีกต่อไป และฉันจะวิงวอนขอต่ออัลลอฮ์ให้ทรงชี้แนวทางที่ถูกต้องแก่ท่าน และทรงอภัยโทษแก่ท่าน
19:48
وَأَعْتَزِلُكُمْ وَمَا تَدْعُونَ مِن دُونِ ٱللَّهِ وَأَدْعُوا۟ رَبِّى عَسَىٰٓ أَلَّآ أَكُونَ بِدُعَآءِ رَبِّى شَقِيًّۭا
Translation: “และฉันจะปลีกตัวออกจากพวกท่านและสิ่งที่พวกท่านวิงวอนขออื่นจากอัลลอฮ์และฉันจะวิงวอนขอพระผู้อภิบาลของฉัน(38) หวังว่าด้วยการวิงวอนขอต่อพระผู้อภิบาลของฉัน จะไม่ทำให้ฉันได้รับความทุกข์”(39)
Comment: (38)ด้วยความบริสุทธิ์ใจต่อพระองค์ในการอิบาดะฮ์
Comment: (39)เป็นการเปรียบเปรยว่า “ด้วยการวิงวอนขอของพวกเขาต่อพระเจ้าของพวกเขา พวกเขาจะได้รับทุกข์ทรมาน”
19:49
فَلَمَّا ٱعْتَزَلَهُمْ وَمَا يَعْبُدُونَ مِن دُونِ ٱللَّهِ وَهَبْنَا لَهُۥٓ إِسْحَـٰقَ وَيَعْقُوبَ ۖ وَكُلًّۭا جَعَلْنَا نَبِيًّۭا
Translation: ครั้นเมื่อเขาปลีกตัวออกไปจากพวกเขาและสิ่งที่พวกเขาเคารพบูชาอื่นจากอัลลอฮ์แล้ว เราได้ให้แก่เขา อิสฮาก และยะอ์กูบ และแต่ละคนเราได้แต่งตั้งให้เป็นนบี(40)
Comment: (40)เมื่ออิบรอฮีมได้อพยพไปยังเมืองชาม ปลีกตัวออกจากบิดาและหมู่ชนของพวกเขาไปทางของอัลลอฮ์ พระองค์ทรงเปลี่ยนแปลงให้เขาได้พบผู้ที่ดีกว่า พระองค์ทรงประทานอิสฮากและยะอ์กูบแก่เขา ซึ่งทั้งสองเป็นต้นตระกูลของบรรดานบีในวงศ์วานของอิสรออีล
19:50
وَوَهَبْنَا لَهُم مِّن رَّحْمَتِنَا وَجَعَلْنَا لَهُمْ لِسَانَ صِدْقٍ عَلِيًّۭا
Translation: และเราได้ให้ความเมตตาของเราแก่พวกเขา และเราได้ทำให้พวกเขาได้รับการกล่าวขวัญที่ดี (ในหมู่มวลมนุษย์)(41)
Comment: (41)เพราะว่ามนุษย์ในยุคหลัง ๆ ได้กล่าวสรรเสริญยกย่องพวกเขา เนื่องจากพวกเขามีมารยาทที่ดีงาม นอกจากนี้บรรดาผู้ศรัทธายังขอพรและความศิริมงคลให้แก่อิบรอฮีมและวงศ์วานของเขาอีกด้วยจนกระทั่งวันกิยามะฮ์
19:51
وَٱذْكُرْ فِى ٱلْكِتَـٰبِ مُوسَىٰٓ ۚ إِنَّهُۥ كَانَ مُخْلَصًۭا وَكَانَ رَسُولًۭا نَّبِيًّۭا
Translation: และจงกล่าวถึงเรื่องมูซาที่อยู่ในคัมภีร์(42) แท้จริงเขาเป็นผู้ได้รับคัดเลือก และเขาเป็นร่อซูลเป็นนบี
Comment: (42)โอ้มุฮัมมัด จงกล่าวถึงเรื่องราวของมูซาที่มีอยู่ในอัลกุรอานแก่หมู่ชนของเจ้าเถิด
19:52
وَنَـٰدَيْنَـٰهُ مِن جَانِبِ ٱلطُّورِ ٱلْأَيْمَنِ وَقَرَّبْنَـٰهُ نَجِيًّۭا
Translation: และเราได้ร้องเรียกเขาจากทางด้านขวาของภูเขาฎูร และเราได้ให้เขาเข้ามาใกล้ชิดเพื่อบอกความลับ(43)
Comment: (43)กล่าวคืออัลลอฮ์ ตะอาลา ได้ตรัสกับนบีมูซาโดยตรง ไม่ผ่านคนกลาง
19:53
وَوَهَبْنَا لَهُۥ مِن رَّحْمَتِنَآ أَخَاهُ هَـٰرُونَ نَبِيًّۭا
Translation: และเราได้ให้ความเมตตาของเราแก่เขา คือพี่ชายของเขาฮารูน(44)
Comment: (44)คือให้เขาเป็นผู้ช่วยเหลือผู้สนับสนุนแก่นบีมูซา เพราะนบีมูซาพูดไม่ชัด
19:54
وَٱذْكُرْ فِى ٱلْكِتَـٰبِ إِسْمَـٰعِيلَ ۚ إِنَّهُۥ كَانَ صَادِقَ ٱلْوَعْدِ وَكَانَ رَسُولًۭا نَّبِيًّۭا
Translation: และจงกล่าวถึงเรื่องของอิสมาอีลที่อยู่ในคัมภีร์ แท้จริงเขาเป็นผู้ซื่อสัตย์ต่อสัญญา(45) และเขาเป็นร่อซูลเป็นนบี
Comment: (45)ปฏิบัติตามสัญญาอย่างซื่อสัตย์ นักตัฟซีรอธิบายว่า ที่กล่าวว่าเป็นผู้ซื่อสัตย์ต่อสัญญานั้น แม้ว่าลักษณะนี้จะปรากฏอยู่ในบรรดานบีคนอื่น ๆ เป็นการยกย่องให้เกียรติ แต่สำหรับนบีอีสมาอีลนั้นได้เผชิญต่อการรักษาคำมั่นสัญญาเป็นพิเศษซึ่งนบีคนอื่น ๆ ไม่เคยเผชิญเช่นท่าน นั่นคือการอดทนและยอมถวายชีวิตเพื่อให้ บิดาของท่าน ปฏิบัติตามคำบัญชาของอัลลอฮ์ ตะอาลา ที่มีในฝันของท่าน ดังนั้นอัลลอฮ์ ตะอาลา จึงตรัสชมเชยท่าน
19:55
وَكَانَ يَأْمُرُ أَهْلَهُۥ بِٱلصَّلَوٰةِ وَٱلزَّكَوٰةِ وَكَانَ عِندَ رَبِّهِۦ مَرْضِيًّۭا
Translation: และเขาใช้หมู่ญาติของเขาให้ปฏิบัติละหมาดและจ่ายซะกาต และเขาเป็นที่โปรดปราน ณ ที่พระผู้อภิบาลของเขา
19:56
وَٱذْكُرْ فِى ٱلْكِتَـٰبِ إِدْرِيسَ ۚ إِنَّهُۥ كَانَ صِدِّيقًۭا نَّبِيًّۭا
Translation: และจงกล่าวถึงเรื่องของอิดรีสที่อยู่ในคัมภีร์ แท้จริงเขาเป็นผู้ซื่อสัตย์ เป็นนบี(46)
Comment: (46)นักตัฟซีรอธิบายว่า อธิบายว่า อิดรีสคือปู่ของนุห์ ได้รับแต่ตั้งให้เป็นนบีหลังจากอาดัม เป็นคนแรกที่ใช้ปากกาเขียนและสวมอาภรณ์ที่เย็บด้วยผ้า เพราะก่อนหน้านั้นพวกเขาใช้หนังสำหรับประดับกาย
19:57
وَرَفَعْنَـٰهُ مَكَانًا عَلِيًّا
Translation: และเราได้เทิดเกียรติเขาซึ่งตำแหน่งอันสูงส่ง
19:58
أُو۟لَـٰٓئِكَ ٱلَّذِينَ أَنْعَمَ ٱللَّهُ عَلَيْهِم مِّنَ ٱلنَّبِيِّـۧنَ مِن ذُرِّيَّةِ ءَادَمَ وَمِمَّنْ حَمَلْنَا مَعَ نُوحٍۢ وَمِن ذُرِّيَّةِ إِبْرَٰهِيمَ وَإِسْرَٰٓءِيلَ وَمِمَّنْ هَدَيْنَا وَٱجْتَبَيْنَآ ۚ إِذَا تُتْلَىٰ عَلَيْهِمْ ءَايَـٰتُ ٱلرَّحْمَـٰنِ خَرُّوا۟ سُجَّدًۭا وَبُكِيًّۭا ۩
Translation: ชนเหล่านั้นคือบรรดาผู้ที่อัลลอฮ์ทรงโปรดปรานพวกเขาให้เป็นนบี(47) ที่มีเชื้อสายจากอาดัม(48) และจากเชื้อสายผู้ที่เราบรรทุกไว้ในเรือกับนูห์(49) และจากเชื้อสายของอิบรอฮีม(50) และอิสรออีล(51) และจากเชื้อสายผู้ที่เราได้ชี้แนะทางและเราได้คัดเลือกไว้(52) เมื่อบรรดาโองการของพระผู้ทรงกรุณาปรานีถูกอ่านแก่พวกเขา พวกเขาจะก้มลงสุญูดและร้องให้
Comment: (47)ซึ่งพระองค์ทรงเล่าเรื่องของพวกเขาแก่เจ้าในซูเราะฮ์นี้มีทั้งหมดสิบคน คนแรกคือซะกะรียา คนสุดท้ายคืออิดรีส
Comment: (48)คืออิดรีส
Comment: (49)คืออิบรอฮีม เพราะเขามีเชื้อสายมาจาก ซาม อิบน์ นูห์
Comment: (50)คืออิสมาอีล อิสฮาก และยะอ์กูบ
Comment: (51)คือยะอ์กูบ เช่น มูซา ฮารูน ซะกะรียา ยะห์ยา และอีซา
Comment: (52)คือฮิดายะฮ์ เพื่อการอีมาน และคัดเลือกพวกเขาไว้ เพื่อเผยแพร่สาส์นของเรา
19:59
۞ فَخَلَفَ مِنۢ بَعْدِهِمْ خَلْفٌ أَضَاعُوا۟ ٱلصَّلَوٰةَ وَٱتَّبَعُوا۟ ٱلشَّهَوَٰتِ ۖ فَسَوْفَ يَلْقَوْنَ غَيًّا
Translation: ภายหลังจากพวกเขา(53) ชนรุ่นชั่วก็ได้สืบต่อมา พวกเขาได้ทิ้งละหมาด และปฏิบัติตามความใคร่ ต่อมาพวกเขาก็จะประสบความหายนะ(54)
Comment: (53)คือภายหลังจากบรรดาผู้ยำเกรงเหล่านั้น
Comment: (54)คือความชั่ว การขาดทุน ความเสียหาย และความหายนะ อิบนุอับบาสกล่าวว่า “ฆัยยุน” เป็นทุ่งแห่งหนึ่งในนรก
19:60
إِلَّا مَن تَابَ وَءَامَنَ وَعَمِلَ صَـٰلِحًۭا فَأُو۟لَـٰٓئِكَ يَدْخُلُونَ ٱلْجَنَّةَ وَلَا يُظْلَمُونَ شَيْـًۭٔا
Translation: เว้นแต่ผู้ขอลุแก่โทษและศรัทธา และกระทำความดี ชนเหล่านั้นจะได้เข้าสวนสวรรค์และพวกเขาจะไม่ได้รับความอธรรมแต่อย่างใด
19:61
جَنَّـٰتِ عَدْنٍ ٱلَّتِى وَعَدَ ٱلرَّحْمَـٰنُ عِبَادَهُۥ بِٱلْغَيْبِ ۚ إِنَّهُۥ كَانَ وَعْدُهُۥ مَأْتِيًّۭا
Translation: สวนสวรรค์หลากหลายอันสถาพร ซึ่งพระผู้ทรงกรุณาปรานีทรงสัญญาแก่ปวงบ่าวของพระองค์ด้วยความเร้นลับ(55) แท้จริงสัญญาของพระองค์นั้นจะมีมาอย่างแน่นอน
Comment: (55)คือพวกเขาศรัทธาต่อสัญญาเร้นลับนั้น ก่อนที่พวกเขาจะเห็นมัน อันเป็นการเชื่อมั่นต่อสัญญาของพระองค์
19:62
لَّا يَسْمَعُونَ فِيهَا لَغْوًا إِلَّا سَلَـٰمًۭا ۖ وَلَهُمْ رِزْقُهُمْ فِيهَا بُكْرَةًۭ وَعَشِيًّۭا
Translation: พวกเขาจะไม่ได้ยินสิ่งไร้สาระในนั้น นอกจากคำทักทายที่เป็นศานติ(56) และสำหรับพวกเขาจะได้รับเครื่องยังชีพของพวกเขาในนั้น(57) ทั้งในยามเช้าและยามเย็น
Comment: (56)คือการให้สลามของมลาอิกะฮ์แก่พวกเขา เป็นการให้เกียรติและแสดงความเคา
Comment: (57)คือสิ่งที่พวกเขามีความอยากได้ เช่น อาหาร และเครื่องดื่ม
19:63
تِلْكَ ٱلْجَنَّةُ ٱلَّتِى نُورِثُ مِنْ عِبَادِنَا مَن كَانَ تَقِيًّۭا
Translation: นั่นคือสวนสวรรค์ ซึ่งเราให้เป็นมรดกแก่ปวงบ่าวของเรา ผู้ที่มีความยำเกรง
19:64
وَمَا نَتَنَزَّلُ إِلَّا بِأَمْرِ رَبِّكَ ۖ لَهُۥ مَا بَيْنَ أَيْدِينَا وَمَا خَلْفَنَا وَمَا بَيْنَ ذَٰلِكَ ۚ وَمَا كَانَ رَبُّكَ نَسِيًّۭا
Translation: และเรา(ญิบรีล) มิได้ลงมา เว้นแต่ด้วยพระบัญชาของพระผู้อภิบาลของท่าน(58) สำหรับพระองค์นั้น สิ่งที่อยู่ระหว่างเบื้องหน้าของเราและสิ่งที่อยู่เบื้องหลังของเรา และสิ่งที่อยู่ระหว่างทั้งสองและพระผู้อภิบาลของท่านนั้นมิทรงหลงลืมสิ่งใดเลย
Comment: (58)เป็นถ้อยคำของญิบรีลแก่ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ขณะที่วะฮีถูกยับยั้งเป็นระยะเวลาหนึ่ง
19:65
رَّبُّ ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضِ وَمَا بَيْنَهُمَا فَٱعْبُدْهُ وَٱصْطَبِرْ لِعِبَـٰدَتِهِۦ ۚ هَلْ تَعْلَمُ لَهُۥ سَمِيًّۭا
Translation: พระเจ้าแห่งบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดินและสิ่งที่อยู่ระหว่างทั้งสอง ดังนั้นจงเคารพภักดีต่อพระองค์ และจงอดทนต่อการเคารพภักดีพระองค์สูเจ้ารู้หรือว่า มีผู้ใดเสมอเหมือนพระองค์ ?
19:66
وَيَقُولُ ٱلْإِنسَـٰنُ أَءِذَا مَا مِتُّ لَسَوْفَ أُخْرَجُ حَيًّا
Translation: และมนุษย์(กาเฟร) กล่าวว่า “เมื่อฉันตายไปแล้ว ฉันจะถูกให้ออกมา(59) ในสภาพมีชีวิตจริงหรือ ?”
Comment: (59)คือ ออกมาจากกุบูรอย่างมีชีวิตจริงหรือ ?
19:67
أَوَلَا يَذْكُرُ ٱلْإِنسَـٰنُ أَنَّا خَلَقْنَـٰهُ مِن قَبْلُ وَلَمْ يَكُ شَيْـًۭٔا
Translation: มนุษย์ไม่คิดบ้างหรือว่า แท้จริงเราได้บังเกิดเขามาแต่กาลก่อน โดยที่เขามิได้เป็นสิ่งใดมาก่อนเลย(60)
Comment: (60)ไม่ต้องสงสัยว่า การให้กลับมาเกิดใหม่นั้น ย่อมง่ายกว่าการให้เกิดในครั้งแรก
19:68
فَوَرَبِّكَ لَنَحْشُرَنَّهُمْ وَٱلشَّيَـٰطِينَ ثُمَّ لَنُحْضِرَنَّهُمْ حَوْلَ جَهَنَّمَ جِثِيًّۭا
Translation: ดังนั้นด้วยพระนามของพระผู้อภิบาลของเจ้า แน่นอนเราจะชุมนุมพวกเขาพร้อมด้วยบรรดาชัยฏอนแล้วเราจะนำพวกเขาให้มาคุกเข่าอยู่รอบ ๆ นรก(61)
Comment: (61)บรรดาผู้กระทำผิดและชัยฏอน จะมาชุมนุมพร้อมกันในสภาพคุกเข่ารอบ ๆ นรก พวกเขาไม่สามารถยืนขึ้นได้ เพราะความกลัวของพวกเขา
19:69
ثُمَّ لَنَنزِعَنَّ مِن كُلِّ شِيعَةٍ أَيُّهُمْ أَشَدُّ عَلَى ٱلرَّحْمَـٰنِ عِتِيًّۭا
Translation: แล้วแน่นอนที่สุดเราจะดึงออกจากทุกๆ คณะ ใครในหมู่พวกเขาที่ดื้อรั้นที่สุดต่อพระผู้ทรงกรุณาปรานี(62)
Comment: (62)คือในวันกิยามะฮ์ อัลลอฮ์ ตะอาลา จะทรงคัดเอาพวกหัวหน้าและพวกที่ดื้อรั้นไปลงนรก
19:70
ثُمَّ لَنَحْنُ أَعْلَمُ بِٱلَّذِينَ هُمْ أَوْلَىٰ بِهَا صِلِيًّۭا
Translation: แล้วแน่นอนที่สุด เรารู้ดียิ่งถึงบรรดาผู้ที่เหมาะสมยิ่งที่จะเข้าไปอยู่ในนรก
19:71
وَإِن مِّنكُمْ إِلَّا وَارِدُهَا ۚ كَانَ عَلَىٰ رَبِّكَ حَتْمًۭا مَّقْضِيًّۭا
Translation: และไม่มีผู้ใดในหมู่พวกเจ้า นอกจากจะเป็นผู้ผ่านเข้าไปในมัน(63) มันเป็นสิ่งที่กำหนดไว้แน่นอนแล้วสำหรับพระผู้อภิบาลของเจ้า
Comment: (63)คือทั้งคนดีและคนชั่วจะต้องผ่านนรก สำหรับคนมุอ์มินจะเดินผ่านไป ส่วนคนกาฟิรจะเข้าไปอยู่ในมัน ขออัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงให้พวกเรารอดพ้นจากนรกด้วยเทอญ
19:72
ثُمَّ نُنَجِّى ٱلَّذِينَ ٱتَّقَوا۟ وَّنَذَرُ ٱلظَّـٰلِمِينَ فِيهَا جِثِيًّۭا
Translation: แล้วเราจะให้บรรดาผู้ยำเกรงรอดพ้น แล้วเราจะปล่อยให้บรรดาผู้อธรรมคุกเข่าอยู่ในนั้น
19:73
وَإِذَا تُتْلَىٰ عَلَيْهِمْ ءَايَـٰتُنَا بَيِّنَـٰتٍۢ قَالَ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ لِلَّذِينَ ءَامَنُوٓا۟ أَىُّ ٱلْفَرِيقَيْنِ خَيْرٌۭ مَّقَامًۭا وَأَحْسَنُ نَدِيًّۭا
Translation: และเมื่อโองการทั้งกลายอันแจ่มแจ้งของเรา ถูกอ่นขึ้นแก่พวกเขา บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธากล่าวแก่บรรดาผู้ศรัทธาว่า “ฝ่ายใดในสองฝ่ายนี้จะมีฐานะดีกว่า และมีเกียรติทางสังคมมากกว่า ?”(64)
Comment: (64)คือพวกมุชริกีนได้กล่าวอวดอ้าง เปรียบเทียบสภาพของพวกเขากับบรรดามุอ์มิน
19:74
وَكَمْ أَهْلَكْنَا قَبْلَهُم مِّن قَرْنٍ هُمْ أَحْسَنُ أَثَـٰثًۭا وَرِءْيًۭا
Translation: และกี่มากน้อยแล้วประชาชาติก่อนพวกเขา เราได้ทำลายพวกเขา โดยที่พวกเขามีสิ่งของ เครื่องใช้และรูปร่างลักษณะดีกว่า(65)
Comment: (65)อัลลอฮ์ ตะอาลา ตรัสตอบว่า ประชาชาติในอดีตที่ปฏิเสธโองการทั้งหลายของเรา เราได้ทำลายพวกเขาเพราะพวกเขาปฏิเสธศรัทธา ทั้ง ๆ ที่พวกเขามีตำแหน่งและสถานภาพดีกว่า
19:75
قُلْ مَن كَانَ فِى ٱلضَّلَـٰلَةِ فَلْيَمْدُدْ لَهُ ٱلرَّحْمَـٰنُ مَدًّا ۚ حَتَّىٰٓ إِذَا رَأَوْا۟ مَا يُوعَدُونَ إِمَّا ٱلْعَذَابَ وَإِمَّا ٱلسَّاعَةَ فَسَيَعْلَمُونَ مَنْ هُوَ شَرٌّۭ مَّكَانًۭا وَأَضْعَفُ جُندًۭا
Translation: จงกล่าวเถิด ผู้ที่อยู่ในความหลงผิดนั้น พระผู้ทรงกรุณาปรานีจะทรงผ่อนผันให้เขาระยะหนึ่ง จนกระทั่ง เมื่อพวกเขาได้เห็นสิ่งที่พวกเขาถูกสัญญาไว้ว่า จะเป็นการลงโทษในโลกนี้หรือจะเป็นการลงโทษในปรโลก(66) แล้วพวกเขาก็จะรู้ว่าใครจะมีฐานะชั่วร้ายกว่าและมีกำลังพลน้อยกว่า(67)
Comment: (66)คือการลงโทษในโลกนี้ด้วยการถูกฆ่าหรือถูกจับเป็นเชลย ส่วนการลงโทษในปรโลกนั้นพวกเขาจะประสบกับความหวาดกลัว ความโกลาหล ก่อนที่จะได้รับโทษเป็นการตอบแทนในผลงานของพวกเขา
Comment: (67)ในวันนั้นเมื่อข้อเท็จจริงได้ประจักษ์ขึ้นแล้ว พวกเขาก็จะรู้ว่าใครมีฐานะเลวกว่า และมีกำลังพลสนับสนุนน้อยกว่า จะเป็นพวกกุฟฟารหรือบรรดาผู้ศรัทธากันแน่ ?
19:76
وَيَزِيدُ ٱللَّهُ ٱلَّذِينَ ٱهْتَدَوْا۟ هُدًۭى ۗ وَٱلْبَـٰقِيَـٰتُ ٱلصَّـٰلِحَـٰتُ خَيْرٌ عِندَ رَبِّكَ ثَوَابًۭا وَخَيْرٌۭ مَّرَدًّا
Translation: และอัลลอฮ์จะทรงเพิ่มแนวทางที่ถูกต้องให้แก่ผู้ที่อยู่ในแนวทางนั้น(68) และการงานที่ดีที่ยั่งยืนนั้นดียิ่ง ณ ที่พระผู้อภิบาลของเจ้า ในการตอบแทนรางวัล และดียิ่งในการกลับ(ไปสู่พระองค์)
Comment: (68)คือให้บรรดามุอ์มิน ได้อยู่ในแนวทางที่ถูกต้องมากยิ่งขึ้น และได้รับการอีมานเพิ่มขึ้น
Comment: (69)ส่วนการงานที่ดีนั้นก็จะอยู่คู่กับเจ้าของของมัน เพื่อเป็นเสบียงในโลกอาคิเราะฮ์ แน่นอนมันจะดียิ่ง ณ ที่อัลลอฮ์กว่าสิ่งที่ชาวโลกนำมาอวดอ้าง
19:77
أَفَرَءَيْتَ ٱلَّذِى كَفَرَ بِـَٔايَـٰتِنَا وَقَالَ لَأُوتَيَنَّ مَالًۭا وَوَلَدًا
Translation: เจ้าเห็นหรือไม่ว่า ผู้ที่ปฏิเสธโองการทั้งหลายของเรา แล้วเขากล่าวอ้างว่า ฉันจะได้รับทรัพย์สมบัติและลูกหลานนั้น(70)
Comment: (70)สาเหตุแห่งการประทานโองการนี้ก็คือ มีรายงานจากค็อบบ๊าบ อิบนิลอัรดิ กล่าวว่า ฉันเป็นช่างเหล็ก ฉันมีหนี้อยู่ที่อัลดาศ อิบน์ วาอิล ฉันได้มาหาเขาเพื่อขอรับหนี้ที่อยู่ที่เขา เขากล่าวว่า วัลลอฮิ ฉันจะไม่จ่ายหนี้ให้ท่านจนกว่าท่านจะกุฟุรต่อมุฮัมมัด จนกว่าท่านจะตายไปแล้วเกิดขึ้นมาใหม่ (คือท่านจะตายเดี๋ยวนี้และเกิดใหม่ต่อหน้าฉัน ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้) เขากล่าวว่าเมื่อฉันตายไปแล้วเกิดใหม่แล้วท่านมาหาฉัน ท่านจะเห็นฉันมีผู้สนับสนุนและทรัพย์สมบัติ แล้วฉันจะใช้หนี้แก่ท่าน อัลลอฮ์ ตะอาลา จึงประทานอายะฮ์นี้ลงมา
19:78
أَطَّلَعَ ٱلْغَيْبَ أَمِ ٱتَّخَذَ عِندَ ٱلرَّحْمَـٰنِ عَهْدًۭا
Translation: เขาล่วงรู้ในสิ่งเร้นลับหรือว่าเขาได้รับคำมั่นสัญญา จากพระผู้ทรงกรุณาปรานี ?
19:79
كَلَّا ۚ سَنَكْتُبُ مَا يَقُولُ وَنَمُدُّ لَهُۥ مِنَ ٱلْعَذَابِ مَدًّۭا
Translation: เปล่าเลย! เราจะบันทึกสิ่งที่เขากล่าวและเราจะเพิ่มการลงโทษแก่เขาอีกระยะหนึ่ง(71)
Comment: (71)เราจะเพิ่มการลงโทษแก่เขาและผ่อนผันเวลาให้ และจะเพิ่มกำหนดเวลาลงโทษแทนการให้ทรัพย์สมบัติและลูกหลาน ตามคำกล่าวอ้างของเขา
19:80
وَنَرِثُهُۥ مَا يَقُولُ وَيَأْتِينَا فَرْدًۭا
Translation: และเราจะรับช่วงจากเขาสิ่งที่เขากล่าวไว้(72) และเขาจะมาหาเราอย่างโดดเดี่ยว
Comment: (72)คือจะรับช่วงสิ่งที่เขาทิ้งเอาไว้ เช่น ทรัพย์สมบัติและลูกหลาน แล้วในวันกิยามะฮ์เขาจะมาหาเราอย่างโดดเดี่ยว
19:81
وَٱتَّخَذُوا۟ مِن دُونِ ٱللَّهِ ءَالِهَةًۭ لِّيَكُونُوا۟ لَهُمْ عِزًّۭا
Translation: และพวกเขาได้ยึดเอารูปปั้นต่างๆ เป็นพระเจ้าอื่นจากอัลลอฮ์เพื่อที่จะเป็นพลังอำนาจแก่พวกเขา
19:82
كَلَّا ۚ سَيَكْفُرُونَ بِعِبَادَتِهِمْ وَيَكُونُونَ عَلَيْهِمْ ضِدًّا
Translation: เปล่าเลย! รูปปั้นเหล่านั้นจะปฏิเสธการเคารพบูชาของพวกเขา และพวกมันจะเป็นปฏิปักษ์ต่อพวกเขา
19:83
أَلَمْ تَرَ أَنَّآ أَرْسَلْنَا ٱلشَّيَـٰطِينَ عَلَى ٱلْكَـٰفِرِينَ تَؤُزُّهُمْ أَزًّۭا
Translation: เจ้ามิเห็นดอกหรือว่า แท้จริงเราได้ปล่อยให้ชัยฏอนมีอำนาจเหนือพวกที่ปฏิเสธศรัทธาเพื่อมันจะได้ยุแหย่พวกเขาอย่างจริงจัง(73)
Comment: (73)เพื่อมันจะได้หลอกลวงให้เขาทำความชั่ว ด้วยวิธีการต่าง ๆ อย่างแยบยล
19:84
فَلَا تَعْجَلْ عَلَيْهِمْ ۖ إِنَّمَا نَعُدُّ لَهُمْ عَدًّۭا
Translation: ดังนั้น เจ้าอย่าได้เร่งร้อนต่อพวกเขา(74) แท้จริงเราได้นับวันที่เหลือสำหรับพวกเขาไว้แล้วด้วยการนับที่แน่นอน
Comment: (74)อย่ารีบร้อนในการขอให้ทำลายหรือลงโทษพวกเขา เพราะเวลาที่เหลืออยู่นั้นมันน้อยจริง ๆ
19:85
يَوْمَ نَحْشُرُ ٱلْمُتَّقِينَ إِلَى ٱلرَّحْمَـٰنِ وَفْدًۭا
Translation: วันที่เราจะรวมบรรดาผู้ยำเกรง ให้มาชุมนุมต่อหน้าพระผู้ทรงกรุณาปรานีเป็นกลุ่ม ๆ(75)
Comment: (75)คือมาชุมนุมอย่างมีเกียรติ เหมือนคณะทูตที่จะเข้าเฝ้ากษัตริย์
19:86
وَنَسُوقُ ٱلْمُجْرِمِينَ إِلَىٰ جَهَنَّمَ وِرْدًۭا
Translation: และเราจะไล่ต้อนบรรดาผู้มีความผิดไปยังนรก อย่างสัตว์ที่กระหายน้ำเป็นฝูง ๆ(76)
Comment: (76)เสมือนกับการไล่ต้อนฝูงสัตว์กระหายน้ำไปยังบ่อน้ำ
19:87
لَّا يَمْلِكُونَ ٱلشَّفَـٰعَةَ إِلَّا مَنِ ٱتَّخَذَ عِندَ ٱلرَّحْمَـٰنِ عَهْدًۭا
Translation: พวกเขาไม่มีอำนาจในการชะฟาอะฮ์(77) นอกจากผู้ที่ได้ทำสัญญาไว้กับพระผู้ทรงกรุณาปรานี(78)
Comment: (77)คือจะไม่เป็นผู้ช่วยเหลือและได้รับความช่วยเหลือ
Comment: (78)คือผู้มีอีมานและประกอบการงานที่ดี อิบนุอับบาสกล่าวว่า “สัญญา” นั้นก็คือ การกล่าวปฏิญาณตนว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอนกจากอัลลอฮ์
19:88
وَقَالُوا۟ ٱتَّخَذَ ٱلرَّحْمَـٰنُ وَلَدًۭا
Translation: และพวกเขากล่าวว่า(79) “พระผู้ทรงกรุณาปรานีทรงตั้งพระบุตรขึ้นเพื่อพระองค์”
Comment: (79)คือพวกยะฮูดีและนะศอรอ
19:89
لَّقَدْ جِئْتُمْ شَيْـًٔا إِدًّۭا
Translation: แน่นอนที่สุด พวกเจ้าได้นำมาซึ่งสิ่งร้ายแรงยิ่งใหญ่(80)
Comment: (80)มันเป็นคำพูดที่น่าเกลียดและเป็นบาปใหญ่
19:90
تَكَادُ ٱلسَّمَـٰوَٰتُ يَتَفَطَّرْنَ مِنْهُ وَتَنشَقُّ ٱلْأَرْضُ وَتَخِرُّ ٱلْجِبَالُ هَدًّا
Translation: ชั้นฟ้าทั้งหลายแทบจะพังทลายลงมาและแผ่นดินก็แทบจะถล่มลึกลงไป และขุนเขาทั้งหลายก็แทบจะยุบทลายลงมาเป็นเสี่ยง ๆ(81)
Comment: (81)จากคำพูดดังกล่าวนั้น แม้กระทั่งจักรวาลก็ไม่สามารถจะรับฟังได้
19:91
أَن دَعَوْا۟ لِلرَّحْمَـٰنِ وَلَدًۭا
Translation: ที่พวกเขาอ้างพระบุตรแก่พระผู้ทรงกรุณาปรานี
19:92
وَمَا يَنۢبَغِى لِلرَّحْمَـٰنِ أَن يَتَّخِذَ وَلَدًا
Translation: และไม่เป็นการบังควรแก่พระผู้ทรงกรุณาปรานี ที่พระองค์จะทรงตั้งพระบุตรขึ้น
19:93
إِن كُلُّ مَن فِى ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضِ إِلَّآ ءَاتِى ٱلرَّحْمَـٰنِ عَبْدًۭا
Translation: ไม่มีผู้ใดในชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินเว้นแต่เขาจะมายังพระผู้ทรงกรุณาปรานีในฐานะบ่าวคนหนึ่ง(82)
Comment: (82)คือจะเข้าหาพระองค์ในฐานะบ่าวที่ต่ำต้อย เชื่อฟังทุกสิ่งทุกอย่าง
19:94
لَّقَدْ أَحْصَىٰهُمْ وَعَدَّهُمْ عَدًّۭا
Translation: แน่นอนที่สุด พระองค์ทรงรอบรู้ถึงพวกเขาและทรงนับพวกเขาอย่างถี่ถ้วนไว้แล้ว(83)
Comment: (83)พระองค์ทรงรู้จำนวนบ่าวของพระองค์ ไม่มีสิ่งใดในกิจการของพวกเขาจะซ่อนเร้นจากพระองค์ได้
19:95
وَكُلُّهُمْ ءَاتِيهِ يَوْمَ ٱلْقِيَـٰمَةِ فَرْدًا
Translation: และทุกคนในพวกเขาจะมายังพระองค์ในวันกิยามะฮ์อย่างโดดเดี่ยว
19:96
إِنَّ ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ وَعَمِلُوا۟ ٱلصَّـٰلِحَـٰتِ سَيَجْعَلُ لَهُمُ ٱلرَّحْمَـٰنُ وُدًّۭا
Translation: แท้จริง บรรดาผู้ศรัทธาและประกอบคุณงามความดีทั้งหลายนั้น พระผู้ทรงกรุณาปรานีจะทรงโปรดปรานความรักใคร่แก่พวกเขา(84)
Comment: (84)คือจะให้มีความรักขึ้นในจิตใจของปวงบ่าวที่ดีของพระองค์ อัรร่อเบียะอ์กล่าวว่า พระองค์จะรักพวกเขาและให้พวกเขาเป็นที่รักใคร่ในหมู่มวลมนุษย์
19:97
فَإِنَّمَا يَسَّرْنَـٰهُ بِلِسَانِكَ لِتُبَشِّرَ بِهِ ٱلْمُتَّقِينَ وَتُنذِرَ بِهِۦ قَوْمًۭا لُّدًّۭا
Translation: แท้จริง เราได้ทำให้อัลกุรอานเป็นภาษาที่ง่ายแก่เจ้า(85) เพื่อว่าเจ้าจะได้นำมันไปแจ้งเป็นข่าวดีแก่บรรดาผู้ยำเกรง และเจ้าจะได้นำมันไปตักเตือนหมู่ชนที่ดื้อรั้น
Comment: (85)คือภาษาอาหรับ และทำให้มันง่ายแก่ผู้ที่ใคร่ครวญตรึกตรอง
19:98
وَكَمْ أَهْلَكْنَا قَبْلَهُم مِّن قَرْنٍ هَلْ تُحِسُّ مِنْهُم مِّنْ أَحَدٍ أَوْ تَسْمَعُ لَهُمْ رِكْزًۢا
Translation: และกี่มากน้อยแล้วจากประชาชาติในอดีต เราได้ทำลายพวกเขา เจ้าได้เห็นผู้ใดในหมู่พวกเขาหรือได้ยินเสียงกระซิบของพวกเขาบ้างไหม ?(86)
Comment: (86)ความหมายก็คือ ประชาชาติในอดีตก่อนหน้าพวกเขาได้สูญสิ้นไปแล้ว ถูกทำลายไปแล้ว ตึกรามบ้านช่องก็ถูกทำลายหมดสิ้นแล้ว เพราะพวกเขาปฏิเสธบรรดาร่อซูล ท่านเห็นใครบ้างในหมู่พวกเขาที่เหลืออยู่ เช่นเดียวกับที่เราได้ทำลายพวกเขาเหล่านั้นเราก็จะทำลายพวกเขาเหล่านี้