سورة الكهف
Al-Kahf
The Cave
meccan . 110 Ayahs
بِسْمِ ٱللَّهِ ٱلرَّحْمَـٰنِ ٱلرَّحِيمِ
18:1
ٱلْحَمْدُ لِلَّهِ ٱلَّذِىٓ أَنزَلَ عَلَىٰ عَبْدِهِ ٱلْكِتَـٰبَ وَلَمْ يَجْعَل لَّهُۥ عِوَجَا ۜ
Translation: บรรดาการสรรเสริญเป็นของอัลลอฮ์ผู้ทรงประทานคัมภีร์แก่บ่าวของพระองค์(1) และพระองค์มิได้ทรงทำให้มันมีการบิดเบือนแต่อย่างใด(2)
Comment: (1)เป็นความโปรดปรานแก่เขา (มุฮัมมัด) และปวงบ่าวทั้งหลาย
Comment: (2)ทั้งที่เกี่ยวกับถ้อยคำและความหมาย และข้อตำหนิใดๆ ทั้งสิ้น
18:2
قَيِّمًۭا لِّيُنذِرَ بَأْسًۭا شَدِيدًۭا مِّن لَّدُنْهُ وَيُبَشِّرَ ٱلْمُؤْمِنِينَ ٱلَّذِينَ يَعْمَلُونَ ٱلصَّـٰلِحَـٰتِ أَنَّ لَهُمْ أَجْرًا حَسَنًۭا
Translation: เป็นคัมภีร์ที่เที่ยงธรรม(3) เพื่อเตือนสำทับถึงการลงโทษอย่างสาหัสจากพระองค์ และเพื่อแจ้งข่าวดีแก่บรรดาผู้ศรัทธาที่กระทำความดีทั้งหลายว่า สำหรับพวกเขานั้นจะได้รับรางวัลอันดีงาม (คือสวนสวรรค์)
Comment: (3)ไม่มีข้อแตกแยกหรือข้อโต้แย้งใดๆ ไม่มีข้อบิดเบือนหรือหันห่างออกจากความจริง
18:3
مَّـٰكِثِينَ فِيهِ أَبَدًۭا
Translation: เป็นผู้พำนักอยู่ในนั้นตลอดกาล
18:4
وَيُنذِرَ ٱلَّذِينَ قَالُوا۟ ٱتَّخَذَ ٱللَّهُ وَلَدًۭا
Translation: และเพื่อเตือนสำทับบรรดาผู้ที่กล่าวว่า “อัลลอฮ์ทรงตั้งพระบุตรขึ้น”(4)
Comment: (4)อัลบัยฎอวีย์กล่าวว่า ที่กล่าวเตือนสำทับแก่พวกนี้โดยเฉพาะ เป็นการชี้ให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่แห่งการกุฟุรของพวกเขา
18:5
مَّا لَهُم بِهِۦ مِنْ عِلْمٍۢ وَلَا لِـَٔابَآئِهِمْ ۚ كَبُرَتْ كَلِمَةًۭ تَخْرُجُ مِنْ أَفْوَٰهِهِمْ ۚ إِن يَقُولُونَ إِلَّا كَذِبًۭا
Translation: พวกเขาไม่มีความรู้ใดๆ ในเรื่องนี้ และบรรพบุรุษของพวกเขาก็เช่นกัน(5) เป็นคำกล่าวที่น่าเกลียดยิ่งที่ออกจากปากของพวกเขา โดยที่พวกเขามิได้กล่าวอันใดนอกจากความเท็จ
Comment: (5)คือพวกเขาไม่รู้เลยว่า การกล่าวอ้างหรือการกล่าวเท็จของพวกเขานั้นเป็นเรื่องร้ายแรงมาก สิ่งที่คู่ควรและเหมาะสมกับพวกเขาคือการลงโทษอย่างแสนสาหัส
18:6
فَلَعَلَّكَ بَـٰخِعٌۭ نَّفْسَكَ عَلَىٰٓ ءَاثَـٰرِهِمْ إِن لَّمْ يُؤْمِنُوا۟ بِهَـٰذَا ٱلْحَدِيثِ أَسَفًا
Translation: ดังนั้น บางทีเจ้าอาจเป็นผู้ทำลายชีวิตของเจ้าด้วยความเสียใจ เนื่องจากการผินหลังของพวกเขา หากพวกเขาไม่ศรัทธาต่ออัลกุรอานนี้(6)
Comment: (6)อายะฮ์นี้เป็นการปลอบใจท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เพราะบุคคลจำพวกนี้ไม่สมควรที่เจ้าจะเสียใจสงสารพวกเขา
18:7
إِنَّا جَعَلْنَا مَا عَلَى ٱلْأَرْضِ زِينَةًۭ لَّهَا لِنَبْلُوَهُمْ أَيُّهُمْ أَحْسَنُ عَمَلًۭا
Translation: แท้จริง เราได้ทำให้สิ่งที่อยู่บนแผ่นดินเป็นที่ประดับสำหรับมัน(7) เพื่อเราจะทดสอบพวกเขาว่า ผู้ใดในหมู่พวกเขามีผลงานที่ดีเยี่ยม
Comment: (7)คือทำให้สิ่งที่อยู่ในหน้าแผ่นดินนี้เพริศแพร้ว และเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสุขทุกประเภท
18:8
وَإِنَّا لَجَـٰعِلُونَ مَا عَلَيْهَا صَعِيدًۭا جُرُزًا
Translation: และแท้จริง แน่นอนเราเป็นผู้ทำให้สิ่งที่อยู่บนพื้นดินเป็นผุยผงแห้งแล้ง(8)
Comment: (8)คือหลังจากที่พระองค์ทรงทำให้เป็นที่สวยงามแล้ว มันก็จะกลายเป็นผุยผงแห้งแล้งและสูญสลาย อายะฮ์นี้ก็เป็นการปลอบใจท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม อีกเช่นกัน ความหมายก็คือ โอ้มุฮัมมัด เจ้าอย่าไปสนใจกับดุนยาและชาวโลกดุนยามากนักเลย เพราะเราทำเช่นนั้นก็เพื่อเป็นการทดสอบชาวโลกดุนยา ฉะนั้น เจ้าจะเห็นได้ว่า บางคนในหมู่พวกเขาก็ใช้สติปัญญาใคร่ครวญและศรัทธา และบางคนในหมู่พวกเขาก็ปฏิเสธศรัทธา แล้วแน่นอนที่สุด วันกิยามะฮ์นั้นก็อยู่ต่อหน้าพวกเขา ดังนั้นเจ้าอย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่ เกี่ยวกับการปฏิเสธศรัทธาของพวกเขา เพราะเราจะเป็นผู้ตอบแทนพวกเขาเอง
18:9
أَمْ حَسِبْتَ أَنَّ أَصْحَـٰبَ ٱلْكَهْفِ وَٱلرَّقِيمِ كَانُوا۟ مِنْ ءَايَـٰتِنَا عَجَبًا
Translation: เจ้าคิดหรือว่า ชาวถ้ำและแผ่นจารึก(9) เป็นส่วนหนึ่งจากสัญญาณมหัศจรรย์ของเรากระนั้นหรือ ?(10)
Comment: (9)อัรร่อกีมคือแผ่นจารึก ซึ่งบรรดาชื่อของชาวถ้ำถูกจารึกไว้
Comment: (10)ความหมายคือ โอ้มุฮัมมัด เจ้าอย่าคิดเลยว่าเรื่องชาวถ้ำเป็นเรื่องมหัศจรรย์ยิ่งในสัญญาณต่างๆ ของอัลลอฮ์เพราะในหน้าของจักรวาลนี้มีสิ่งที่หน้าประหลาดและมหัศจรรย์ ยิ่งกว่าหรือเหนือกว่าเรื่องของชาวถ้ำ
18:10
إِذْ أَوَى ٱلْفِتْيَةُ إِلَى ٱلْكَهْفِ فَقَالُوا۟ رَبَّنَآ ءَاتِنَا مِن لَّدُنكَ رَحْمَةًۭ وَهَيِّئْ لَنَا مِنْ أَمْرِنَا رَشَدًۭا
Translation: จงรำลึก ขณะที่พวกชายหนุ่มหลบเข้าไปในถ้ำแล้วพวกเขากล่าวว่า “ข้าแต่พระผู้อภิบาลของเรา ขอพระองค์ทรงโปรดประทานความเมตตาจากพระองค์แก่เรา(11) และทรงทำให้การงานของเราอยู่ในแนวทางที่ถูกต้อง”
Comment: (11)คือขุมคลังแห่งความเมตตาของพระองค์ โดยเฉพาะคือการอภัยโทษและปัจจัยยังชีพ
18:11
فَضَرَبْنَا عَلَىٰٓ ءَاذَانِهِمْ فِى ٱلْكَهْفِ سِنِينَ عَدَدًۭا
Translation: แล้วเรา(อัลลอฮ์) ได้อุดหูพวกเขา (ให้นอนหลับ) ในถ้ำเป็นเวลาหลายปี
18:12
ثُمَّ بَعَثْنَـٰهُمْ لِنَعْلَمَ أَىُّ ٱلْحِزْبَيْنِ أَحْصَىٰ لِمَا لَبِثُوٓا۟ أَمَدًۭا
Translation: แล้วเราได้ให้พวกเขาลุกขึ้น เพื่อเราจะได้รู้ว่าผู้ใดในสองพวกนั้น(12) นับเวลาที่พวกเขาพำนักอยู่ได้ถูกต้องกว่า
Comment: (12)สองพวกหมายถึงชาวถ้ำ เมื่อพวกเขาตื่นขึ้นมาก็มีความเห็นขัดแย้งกัน ในเรื่องกำหนดเวลาที่พำนักอยู่ในถ้ำบางคนในหมู่พวกเขามีความเห็นว่า พำนักอยู่วันหนึ่งหรือครึ่งวัน อีกบางคนเห็นว่าพระเจ้าของพวกท่านทรงรู้ดียิ่งที่พวกท่านพำนักอยู่
18:13
نَّحْنُ نَقُصُّ عَلَيْكَ نَبَأَهُم بِٱلْحَقِّ ۚ إِنَّهُمْ فِتْيَةٌ ءَامَنُوا۟ بِرَبِّهِمْ وَزِدْنَـٰهُمْ هُدًۭى
Translation: เราจะเล่าเรื่องราวของพวกเขาแก่เจ้าตามความเป็นจริง แท้จริงพวกเขาเป็นชายหนุ่มที่ศรัทธาต่อพระผู้อภิบาลของพวกเขา และเราได้เพิ่มแนวทางที่ถูกต้องให้แก่พวกเขา(13)
Comment: (13)พวกเขาเป็นชายหนุ่มกลุ่มหนึ่งที่ศรัทธาต่ออัลลอฮ์ แล้วเราได้ให้พวกเขามั่นคงอยู่ในศาสนา และเราได้ให้พวกเขามีความเชื่อมั่นในศาสนามากยิ่งขึ้น
18:14
وَرَبَطْنَا عَلَىٰ قُلُوبِهِمْ إِذْ قَامُوا۟ فَقَالُوا۟ رَبُّنَا رَبُّ ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضِ لَن نَّدْعُوَا۟ مِن دُونِهِۦٓ إِلَـٰهًۭا ۖ لَّقَدْ قُلْنَآ إِذًۭا شَطَطًا
Translation: และเราได้ให้ความเข้มแข็งแก่หัวใจของพวกเขา(14) ขณะที่พวกเขายืนขึ้นประกาศว่า “พระผู้อภิบาลของเราคือพระเจ้าแห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินเราจะไม่วิงวอนพระเจ้าอื่นจากพระองค์(15) มิเช่นนั้นเราก็กล่าวเกินความจริงอย่างแน่นอน(16)"
Comment: (14)เราได้ให้ความตั้งใจของพวกเขาเข้มแข็งยิ่งขึ้น และเราได้ดลใจให้พวกเขามีความอดทน จนกระทั่งจิตใจของพวกเขามั่นคงสงบสุขในความจริงและมุ่งมั่นต่อการอีมาน
Comment: (15)ยืนขึ้นประกาศโดยไม่สะทกสะท้าน หรือเกรงกลัวอำนาจของกษัตริย์แต่ประการใด
Comment: (16)หากเราเคารพอิบาดะฮ์อื่นจากพระองค์แล้ว เราก็จะละเมิดความจริงและหันห่างออกจากความถูกต้อง และเราก็จมอยู่ในความอธรรมและการหลงผิด
18:15
هَـٰٓؤُلَآءِ قَوْمُنَا ٱتَّخَذُوا۟ مِن دُونِهِۦٓ ءَالِهَةًۭ ۖ لَّوْلَا يَأْتُونَ عَلَيْهِم بِسُلْطَـٰنٍۭ بَيِّنٍۢ ۖ فَمَنْ أَظْلَمُ مِمَّنِ ٱفْتَرَىٰ عَلَى ٱللَّهِ كَذِبًۭا
Translation: กลุ่มชนของเราเหล่านั้นได้ยึดเอาพระเจ้าต่างๆ อื่นจากพระองค์ ทำไมพวกเขาจึงไม่นำหลักฐานอันชัดแจ้งมายืนยันเล่า ดังนั้นจะมีผู้ใดอธรรมยิ่งไปกว่าผู้ที่กล่าวเท็จต่ออัลลอฮ์(17)
Comment: (17)ไม่มีผู้ใดที่จะอธรรมยิ่งไปกว่าผู้ที่กล่าวเท็จต่ออัลลอฮ์ ด้วยการตั้งภาคีต่อพระองค์
18:16
وَإِذِ ٱعْتَزَلْتُمُوهُمْ وَمَا يَعْبُدُونَ إِلَّا ٱللَّهَ فَأْوُۥٓا۟ إِلَى ٱلْكَهْفِ يَنشُرْ لَكُمْ رَبُّكُم مِّن رَّحْمَتِهِۦ وَيُهَيِّئْ لَكُم مِّنْ أَمْرِكُم مِّرْفَقًۭا
Translation: และเมื่อพวกเจ้าปลีกตัวออกห่างจากพวกเขา และสิ่งที่พวกเขาเคารพบูชาอื่นจากอัลลอฮ์แล้ว ดังนั้นพวกเจ้าก็จงหลบเข้าไปในถ้ำ พระผู้เป็นเจ้าของพวกเจ้าจะทรงแผ่ความเมตตาของพระองค์แก่พวกเจ้า และจะทรงทำให้กิจการของพวกเจ้าดำเนินไปอย่างสะดวกสบาย(18)
Comment: (18)คือพระองค์จะทรงประทานริซกีและเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้แก่พวกเขา เมื่อเข้าไปอยู่ในถ้ำ
18:17
۞ وَتَرَى ٱلشَّمْسَ إِذَا طَلَعَت تَّزَٰوَرُ عَن كَهْفِهِمْ ذَاتَ ٱلْيَمِينِ وَإِذَا غَرَبَت تَّقْرِضُهُمْ ذَاتَ ٱلشِّمَالِ وَهُمْ فِى فَجْوَةٍۢ مِّنْهُ ۚ ذَٰلِكَ مِنْ ءَايَـٰتِ ٱللَّهِ ۗ مَن يَهْدِ ٱللَّهُ فَهُوَ ٱلْمُهْتَدِ ۖ وَمَن يُضْلِلْ فَلَن تَجِدَ لَهُۥ وَلِيًّۭا مُّرْشِدًۭا
Translation: และเจ้าจะเห็นดวงอาทิตย์ เมื่อมันขึ้น มันจะคล้อยจากถ้ำของพวกเขาไปทางขวา และเมื่อมันตก มันจะเบนออกไปทางซ้าย(19) โดยพวกเขาอยู่ในที่โล่งกว้างของมัน นั่นคือส่วนหนึ่งจากสัญญาณทั้งหลายของอัลลอฮ์(20) ผู้ใดที่อัลลอฮ์ทรงแนะทางที่ถูกต้องแก่เขา เขาก็คือผู้ที่อยู่ในแนวทางที่ถูกต้อง และผู้ใดที่พระองค์ทรงให้เขาหลง เขาจะไม่พบผู้ช่วยเหลือผู้ชี้ทางแก่เขาเลย
Comment: (19)หมายความว่า ดวงอาทิตย์จะไม่ส่องไปถูกพวกเขา ขณะที่มันขึ้น และขณะที่มันตก เป็นการให้เกียรติแก่พวกเขาจากอัลลอฮ์ ตะอาลา
Comment: (20)คือสัญญาณแห่งเดชานุภาพอันชัดแจ้งของอัลลอฮ์ อิบนฺอับบาสกล่าวว่า หากว่าดวงอาทิตย์ส่องมาโดนพวกเขา มันจะทำให้พวกเขาไหม้เกรียม และหากว่าพวกเขาไม่พลิกกลับไปกลับมา ดินก็จะกัดกินพวกเขา
18:18
وَتَحْسَبُهُمْ أَيْقَاظًۭا وَهُمْ رُقُودٌۭ ۚ وَنُقَلِّبُهُمْ ذَاتَ ٱلْيَمِينِ وَذَاتَ ٱلشِّمَالِ ۖ وَكَلْبُهُم بَـٰسِطٌۭ ذِرَاعَيْهِ بِٱلْوَصِيدِ ۚ لَوِ ٱطَّلَعْتَ عَلَيْهِمْ لَوَلَّيْتَ مِنْهُمْ فِرَارًۭا وَلَمُلِئْتَ مِنْهُمْ رُعْبًۭا
Translation: และเจ้าคิดว่าพวกเขาตื่นทั้งๆ ที่พวกเขาหลับ(21) และเราพลิกพวกเขาไปทางขวาและทางซ้ายและสุนัขของพวกเขาเหยียดขาหน้าทั้งสองของมันไปทางปากถ้ำ หากเจ้าจ้องมองพวกเขา แน่นอนเจ้าจะหันหลังเตลิดหนีจากพวกเขา และเจ้าจะเต็มไปด้วยความตกใจเพราะพวกเขา(22)
Comment: (21)พวกก๊อดยานีย์ อธิบายการหลับของพวกอะฮ์ลุลกะฮ์ฟิว่า “เฉื่อยชา, ซบเซา” ทั้งนี้เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจว่า มิใช่เป็นการนอนหลับซึ่งเป็นเจตนารมณ์ที่จะบิดเบือนความเข้าใจออกจากความหมายที่แท้จริง คือ “พวกเขานอนหลับ”
Comment: (22)พวกก๊อดยานีย์ ได้อธิบายบิดเบือนไปว่า “เป็นการทำนายถึงพวกคริสต์ในยุโรปที่หลับไปพักหนึ่ง แล้วตื่นขึ้นเจริญ เดินทางไปทั่วโลกล่าเมืองขึ้นและทรัพยากร และพวกนี้นิยมเลี้ยงสุนัขประจำบ้าน” จากการตีความของพวกเขาเช่นนี้ แสดงให้เห็นถึงการมีเจตนารมณ์ที่จะบิดเบือนไปจากความหมายเดิม ซึ่งเป็นที่เข้าใจกันถึงมัวะญิซาตของอัลลอฮ์ ตะอาลา การที่พวกเขาตีความดังกล่าวข้างต้นก็เพื่อจะให้ตรงกับความเชื่อมั่นของพวกเขาในการปฏิเสธมัวะญิซาตนั่นเอง
18:19
وَكَذَٰلِكَ بَعَثْنَـٰهُمْ لِيَتَسَآءَلُوا۟ بَيْنَهُمْ ۚ قَالَ قَآئِلٌۭ مِّنْهُمْ كَمْ لَبِثْتُمْ ۖ قَالُوا۟ لَبِثْنَا يَوْمًا أَوْ بَعْضَ يَوْمٍۢ ۚ قَالُوا۟ رَبُّكُمْ أَعْلَمُ بِمَا لَبِثْتُمْ فَٱبْعَثُوٓا۟ أَحَدَكُم بِوَرِقِكُمْ هَـٰذِهِۦٓ إِلَى ٱلْمَدِينَةِ فَلْيَنظُرْ أَيُّهَآ أَزْكَىٰ طَعَامًۭا فَلْيَأْتِكُم بِرِزْقٍۢ مِّنْهُ وَلْيَتَلَطَّفْ وَلَا يُشْعِرَنَّ بِكُمْ أَحَدًا
Translation: และในทำนองนั้นเราได้ให้พวกเขาลุกขึ้นเพื่อพวกเขาจะถามซึ่งกันและกัน คนหนึ่งในพวกเขากล่าวว่า “พวกท่านพำนักอยู่นานเท่าใด ?” พวกเขากล่าวว่า “เราพักอยู่วันหนึ่งหรือส่วนหนึ่งของวัน”(23) พวกเขากล่าวว่า “พระผู้อภิบาลของพวกท่านทรงทราบดีว่า พวกท่านพำนักอยู่นานเท่าใด ดังนั้นจงส่งคนหนึ่งในหมู่พวกท่านไปในเมือง พร้อมด้วยเหรียญเงินนี้ของพวกท่าน เพื่อเลือกดูอาหารที่ดียิ่ง และให้เขาซื้อมาให้แก่พวกท่าน และให้เขาประพฤติอย่างสุภาพ และอย่าให้ผู้ใดรู้เรื่องของพวกท่าน”(24)
Comment: (23)นักตัฟซีรอธิบายว่า พวกเขา (ชาวถ้ำ) ได้เข้าไปในถ้ำเวลาเช้า และอัลลอฮ์ทรงให้พวกเขาตื่นในเวลาเย็นพวกเขานึกว่าดวงอาทิตย์ตกแล้ว พวกเขาจึงกล่าวว่า เราพักอยู่ที่นี่วันหนึ่ง แต่บางคนเห็นว่าดวงอาทิตย์ยังไม่ตก พวกเขาจึงกล่าวว่า ส่วนหนึ่งของวันพวกเขาหารู้ไม่ว่า แท้จริงพวกเขาได้นอนอยู่ในถ้ำเป็นเวลาถึง 309 ปี
Comment: (24)คือเข้าไปในเมืองอย่างสุภาพและซื้ออาหาร โดยอย่าให้ผู้ใดรู้เรื่องของพวกเรา
18:20
إِنَّهُمْ إِن يَظْهَرُوا۟ عَلَيْكُمْ يَرْجُمُوكُمْ أَوْ يُعِيدُوكُمْ فِى مِلَّتِهِمْ وَلَن تُفْلِحُوٓا۟ إِذًا أَبَدًۭا
Translation: แท้จริง พวกเขานั้น หากพวกเขารู้เรื่องของพวกท่าน พวกเขาจะเอาก้อนหินขว้างพวกท่านหรือนำพวกท่านกลับไปนับถือศาสนาของพวกเขา และเมื่อนั้นพวกท่านจะไม่บรรลุความสำเร็จเลย”(25)
Comment: (25)นี่คือการสนทนาระหว่างชายหนุ่มด้วยกัน เพื่อหาช่องทางมิให้เรื่องราวของพวกเขาล่วงรู้ไปถึงกษัตริย์ มิฉะนั้นแล้วพวกเขาจะไม่ปลอดภัย
18:21
وَكَذَٰلِكَ أَعْثَرْنَا عَلَيْهِمْ لِيَعْلَمُوٓا۟ أَنَّ وَعْدَ ٱللَّهِ حَقٌّۭ وَأَنَّ ٱلسَّاعَةَ لَا رَيْبَ فِيهَآ إِذْ يَتَنَـٰزَعُونَ بَيْنَهُمْ أَمْرَهُمْ ۖ فَقَالُوا۟ ٱبْنُوا۟ عَلَيْهِم بُنْيَـٰنًۭا ۖ رَّبُّهُمْ أَعْلَمُ بِهِمْ ۚ قَالَ ٱلَّذِينَ غَلَبُوا۟ عَلَىٰٓ أَمْرِهِمْ لَنَتَّخِذَنَّ عَلَيْهِم مَّسْجِدًۭا
Translation: และในทำนองนั้นเราได้เปิดเผย(26) แก่พวกเขา เพื่อพวกเขาจะได้รู้ว่าสัญญาของอัลลอฮ์นั้นเป็นจริง และแท้จริงวันสิ้นโลกนั้นมีจริง ไม่ต้องสงสัยเลย เมื่อพวกเขาโต้เถียงกันในหมู่พวกเขาถึงเรื่องของพวกเขา(ชาวถ้ำ) แล้ว(27) พวกเขากล่าวว่า “จงสร้างอาคารที่ปากถ้ำให้แก่พวกเขา” พระผู้อภิบาลของพวกเขาทรงรู้ดียิ่งขึ้นในเรื่องของพวกเขา ฝ่ายบรรดาผู้มีเสียงข้างมากในเรื่องของพวกเขากล่าวว่า “แน่นอน เราจะสร้างมัสยิดที่ปากถ้ำให้แก่พวกเขา”(28)
Comment: (26)เช่นนั้นแหล่ะ อัลลอฮ์ทรงเปิดเผยให้มนุษย์ได้เห็นเรื่องราวของชาวถ้ำ เพื่อจะได้เป็นหลักฐานอันชัดแจ้งและเป็นที่ประจักษ์ว่าการฟื้นคืนชีพจากการนอนของพวกเขาถึง 309 ปี แน่นอน พระองค์ย่อมสามารถให้ปวงบ่าวของพระองค์ฟื้นคืนชีพอีกครั้งหนึ่งหลังจากการตายของพวกเขา
Comment: (27)ขณะที่กลุ่มชนกำลังโต้เถียงกันในเรื่องของชาวถ้ำ หลังจากที่อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงเผยให้พวกเขาได้ทราบเรื่องของชาวถ้ำแล้วพระองค์ก็ได้เอาชีวิตของพวกเขาไป
Comment: (28)เพื่อพวกเราจะได้ทำละหมาดและทำอิบาดะฮ์ต่ออัลลอฮ์ในมัสยิดนั้น
18:22
سَيَقُولُونَ ثَلَـٰثَةٌۭ رَّابِعُهُمْ كَلْبُهُمْ وَيَقُولُونَ خَمْسَةٌۭ سَادِسُهُمْ كَلْبُهُمْ رَجْمًۢا بِٱلْغَيْبِ ۖ وَيَقُولُونَ سَبْعَةٌۭ وَثَامِنُهُمْ كَلْبُهُمْ ۚ قُل رَّبِّىٓ أَعْلَمُ بِعِدَّتِهِم مَّا يَعْلَمُهُمْ إِلَّا قَلِيلٌۭ ۗ فَلَا تُمَارِ فِيهِمْ إِلَّا مِرَآءًۭ ظَـٰهِرًۭا وَلَا تَسْتَفْتِ فِيهِم مِّنْهُمْ أَحَدًۭا
Translation: พวกเขาจะกล่าวกันว่า ชาวถ้ำนั้นมีสามคน ที่สี่ก็คือสุนัขของพวกเขา และอีกกลุ่มจะกล่าวว่า มีห้าคน ที่หกก็คือสุนัขของพวกเขา ทั้งนี้เป็นการเดาในสิ่งที่ไม่รู้ และอีกกลุ่มหนึ่งจะกล่าวว่ามีเจ็ดคน และที่แปดก็คือสุนัขของพวกเขา จงกล่าวเถิด“พระผู้อภิบาลของฉันทรงรู้ดียิ่งถึงจำนวนของพวกเขา ไม่มีผู้ใดรู้เรื่องของพวกเขาเว้นแต่ส่วนน้อย” ดังนั้น เจ้าอย่าโต้เถียงกันในเรื่องของพวกเขา นอกจากการโต้เถียงที่ประจักษ์แจ้ง และอย่าสอบถามผู้ใดในเรื่องของพวกเขาเลย(29)
Comment: (29)การโต้เถียงกันเกี่ยวกับจำนวนของชายหนุ่มชาวถ้ำนั้นไม่มีที่สิ้นสุด ความจริงแล้วย่อมมี่ผลเท่ากัน ไม่ว่าจะเป็นสามหรือห้าหรือเจ็ดหรือมากกว่านั้น เรื่องของพวกเขาจะถูกมอบไว้แต่อัลลอฮ์ และความรู้เกี่ยวกับพวกเขาอยู่ที่อัลลอฮ์เพราะบทเรียนในเรื่องของพวกเขาย่อมเกิดขึ้น จะด้วยจำนวนมากหรือน้อยก็ตาม ดังนั้นอัลกุรอานจึงได้ชี้แนะแก่ท่านร่อซูลุลลอฮุ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ให้ละทิ้งการโต้เถียงกันในเรื่องนี้
18:23
وَلَا تَقُولَنَّ لِشَا۟ىْءٍ إِنِّى فَاعِلٌۭ ذَٰلِكَ غَدًا
Translation: และเจ้าอย่ากล่าวเกี่ยวกับสิ่งใดว่า “แท้จริงฉันจะเป็นผู้ทำสิ่งนั้นในวันพรุ่งนี้”(30)
Comment: (30)อิบนุกะษีรกล่าวว่า สาเหตุของการประทานอายะฮ์นี้คือ เมื่อท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ถูกถามเกี่ยวกับเรื่องของชาวถ้ำ ท่านได้กล่าวว่า “พรุ่งนี้ฉันจะตอบพวกท่าน” ดังนั้นอัลวะฮ์จึงได้ล่าช้าออกไปจากท่านเป็นเวลาถึง 15 วัน
18:24
إِلَّآ أَن يَشَآءَ ٱللَّهُ ۚ وَٱذْكُر رَّبَّكَ إِذَا نَسِيتَ وَقُلْ عَسَىٰٓ أَن يَهْدِيَنِ رَبِّى لِأَقْرَبَ مِنْ هَـٰذَا رَشَدًۭا
Translation: เว้นแต่อัลลอฮ์ทรงประสงค์ จงรำลึกถึงพระผู้อภิบาลของเจ้าเมื่อลืม และจงกล่าวว่า “บางทีพระผู้อภิบาลของฉันจะทรงชี้แนะทางที่ถูกต้องที่ใกล้กว่านี้แก่ฉัน”(31)
Comment: (31)คือหวังว่าอัลลอฮ์จะทรงประทานความสำเร็จให้แก่ฉัน และทรงชี้แนะแก่ฉันในสิ่งที่เป็นประโยชน์ยิ่ง ในเรื่องของศาสนาของฉันอยู่ในสภาพนอนหลับ และนี่เป็นการชี้แจงในสิ่งที่ได้กล่าวไว้โดยย่อในพระดำรัสของพระองค์ที่ว่า “เป็นจำนวนหลายปี” ในอายะฮ์ที่ 11 ของซูเราะฮ์นี้
18:25
وَلَبِثُوا۟ فِى كَهْفِهِمْ ثَلَـٰثَ مِا۟ئَةٍۢ سِنِينَ وَٱزْدَادُوا۟ تِسْعًۭا
Translation: และพวกเขาพำนักอยู่ในถ้ำของพวกเขาสามร้อยปี และเพิ่มอีกเก้าปี(32)
Comment: (32)อยู่ในสภาพนอนหลับ และนี่เป็นการชี้แจงในสิ่งที่ได้กล่าวไว้โดยย่อในพระดำรัสของพระองค์ที่ว่า “เป็นจำนวนหลายปี” ในอายะฮ์ที่ 11 ของซูเราะฮ์นี้
18:26
قُلِ ٱللَّهُ أَعْلَمُ بِمَا لَبِثُوا۟ ۖ لَهُۥ غَيْبُ ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضِ ۖ أَبْصِرْ بِهِۦ وَأَسْمِعْ ۚ مَا لَهُم مِّن دُونِهِۦ مِن وَلِىٍّۢ وَلَا يُشْرِكُ فِى حُكْمِهِۦٓ أَحَدًۭا
Translation: จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด “อัลลอฮ์ทรงรู้ดียิ่งว่าพวกเขาพำนักอยู่นานเท่าใด สำหรับพระองค์นั้นทรงรู้สิ่งพ้นญาณวิสัย ในชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินพระองค์ทรงเห็นชัดและทรงฟังชัดทุกสิ่งทุกอย่าง(33) ไม่มีผู้คุ้มครองใดสำหรับพวกเขาอื่นจากพระองค์ พระองค์ไม่ทรงรับรู้ผู้ใด เข้าร่วมภาคีในการปกครองของพระองค์”
Comment: (33)พระองค์ทรงเห็นชัดในทุก ๆ สิ่งที่มีอยู่ และทรงผังชัดในทุก ๆ สิ่งที่ถูกได้ยิน ทรงตระหนักดีในสิ่งเร้นลับ เช่นเดียวกับที่ทรงตระหนักดีในสิ่งเปิดเผย
18:27
وَٱتْلُ مَآ أُوحِىَ إِلَيْكَ مِن كِتَابِ رَبِّكَ ۖ لَا مُبَدِّلَ لِكَلِمَـٰتِهِۦ وَلَن تَجِدَ مِن دُونِهِۦ مُلْتَحَدًۭا
Translation: และจงอ่านสิ่งที่ถูกวะฮีย์แก่เจ้า จากคัมภีร์ของพระผู้อภิบาลของเจ้า ไม่มีผู้ใดเปลี่ยนแปลงคำกล่าวของพระองค์(34) และเจ้าจะไม่พบที่พึ่งใด ๆ เลยนอกจากพระองค์
Comment: (34)ไม่มีผู้ใดสามารถเปลี่ยนแปลงหรือบิดเบือนคำกล่าวของอัลลอฮ์ได้เลย
18:28
وَٱصْبِرْ نَفْسَكَ مَعَ ٱلَّذِينَ يَدْعُونَ رَبَّهُم بِٱلْغَدَوٰةِ وَٱلْعَشِىِّ يُرِيدُونَ وَجْهَهُۥ ۖ وَلَا تَعْدُ عَيْنَاكَ عَنْهُمْ تُرِيدُ زِينَةَ ٱلْحَيَوٰةِ ٱلدُّنْيَا ۖ وَلَا تُطِعْ مَنْ أَغْفَلْنَا قَلْبَهُۥ عَن ذِكْرِنَا وَٱتَّبَعَ هَوَىٰهُ وَكَانَ أَمْرُهُۥ فُرُطًۭا
Translation: และจงอดทนต่อตัวของเจ้า ร่วมกับบรรดาผู้วิงวอนต่อพระผู้อภิบาลของพวกเขา ทั้งยามเช้าและยามเย็น(35) โดยปารถนาความโปรดปรานของพระองค์ และอย่าให้สายตาของเจ้าหันเหออกไปจากพวกเขา(36) ขณะที่เจ้าประสงค์ความสวยงามแห่งชีวิตของโลกนี้(37) แลเจ้าอย่าเชื่อฟังผู้ที่เราทำให้หัวใจของเขาละเลยจากการรำลึกถึงเรา(38) และปฏิบัติตามอารมณ์ต่ำของเขา และกิจการของเขาพินาศสิ้น
Comment: (35)คือจงกักขังตัวของเจ้าไว้สำหรับบรรดาผู้อ่อนแอและยากจนในหมู่มุสลิมีน ผู้ซึ่งวิวอนขอพรต่อพระเจ้าของพวกเขา ทั้งในยามเช้าและยามเย็น
Comment: (36)คืออย่าได้ให้ความสนใจใครอื่นจากพวกเขา เช่น พวกที่มั่งมีและมีเกียรติ
Comment: (37)คืออย่าหวังเกียรติยศและความโอ้อวด ด้วยการเข้าสังคมกับพวกมุชริกีน
Comment: (38)คืออย่าเชื่อฟังคำพูดของผู้ที่ขอร้องเจ้าให้ขับไล่บรรดามุอ์มิน โดยที่จิตใจของพวกเขาละเลยต่อการรำลึกถึงอัลลอฮ์ นักตัฟซีรกล่าวว่า อายะฮ์นี้ถูกประทานลงมาเนื่องเพราะอุไยนะฮ์ อิบนุหุสน์ และสหายของเขาได้มาหาท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ขณะนั้นมีกลุ่มชนผู้ยากจนนั่งชุมนุมกันอยู่ เช่น ซัลมาน อัลฟารีซีย์ เขาได้สวมเสื่อขนสัตว์และมีเหงื่อไหลย้อย อุไยนะฮ์ได้กล่าวแก่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ว่า กลิ่นไอของพวกนี้ไม่เป็นที่รำคาญแก่ท่านบ้างหรือ? พวกเราเป็นเจ้าขุนมูลนายแห่งตระกูลมุฏร์ หากพวกเราได้เข้าอิสลามมหาชนก็จะเข้าด้วย ไม่มีสิ่งใดกีดกันพวกเราในการปฏิบัติตามท่านนอกจากพวกนี้ ดังนั้นจึงให้พวกเขาออกไปห่างจากท่านเสียก่อน แล้วเราจะปฏิบัติตามท่าน หรือจัดให้พวกเราชุมนุมกันโดยเฉพาะและให้พวกเขาชุมนุมกันอีกที่หนึ่ง ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เกือบจะรับข้อเรียกร้องของพวกเขาอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่ออายะฮ์นี้ถูกประทานลงมา ท่านจึงออกไปยังสาวกผู้ยากจนเหล่านั้น เมื่อท่านพบพวกเขาแล้วท่านก็นั่งร่วมกับพวกเขาแล้วว่า “การสรรเสริญเป็นสิทธิของอัลลอฮ์ ผู้ซึ่งทำให้ในหมู่ประชาชาติของ) ฉัน มีผู้ที่พระเจ้าของฉันใช้ฉันให้อดทนต่อตัวของฉันให้อยู่กับพวกเขา
18:29
وَقُلِ ٱلْحَقُّ مِن رَّبِّكُمْ ۖ فَمَن شَآءَ فَلْيُؤْمِن وَمَن شَآءَ فَلْيَكْفُرْ ۚ إِنَّآ أَعْتَدْنَا لِلظَّـٰلِمِينَ نَارًا أَحَاطَ بِهِمْ سُرَادِقُهَا ۚ وَإِن يَسْتَغِيثُوا۟ يُغَاثُوا۟ بِمَآءٍۢ كَٱلْمُهْلِ يَشْوِى ٱلْوُجُوهَ ۚ بِئْسَ ٱلشَّرَابُ وَسَآءَتْ مُرْتَفَقًا
Translation: และจงกล่าวเถิดมุฮัมมัด “สัจธรรมนั้นมาจากพระผู้อภิบาลของพวกเจ้า” ดังนั้น ผู้ใดประสงค์ก็จงศรัทธา และผู้ใดประสงค์ก็จงปฏิเสธ(39) แท้จริง เราได้เตรียมไฟนรกไว้สำหรับพวกอธรรม ซึ่งกำแพงของมันล้อมรอบพวกเขา และถ้าพวกเขาร้องขอความช่วยเหลือ ก็จะถูกช่วยเหลือด้วยน้ำเสมือนน้ำทองแดงเดือดลวกใบหน้า มันเป็นน้ำดื่มที่ชั่วช้าและเป็นที่พำนักที่เลวร้าย
Comment: (39)ประโยคนี้โดยเผิน ๆ แล้วเป็นคำสั่งใช้ แต่โดยความจริงแล้วเป็นการเตือนสำทับ
18:30
إِنَّ ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ وَعَمِلُوا۟ ٱلصَّـٰلِحَـٰتِ إِنَّا لَا نُضِيعُ أَجْرَ مَنْ أَحْسَنَ عَمَلًا
Translation: แท้จริงบรรดาผู้ศรัทธาและกระทำความดีทั้งหลาย เราจะไม่ให้การตอบแทนของผู้กระทำความดีสูญหายอย่างแน่นอน
18:31
أُو۟لَـٰٓئِكَ لَهُمْ جَنَّـٰتُ عَدْنٍۢ تَجْرِى مِن تَحْتِهِمُ ٱلْأَنْهَـٰرُ يُحَلَّوْنَ فِيهَا مِنْ أَسَاوِرَ مِن ذَهَبٍۢ وَيَلْبَسُونَ ثِيَابًا خُضْرًۭا مِّن سُندُسٍۢ وَإِسْتَبْرَقٍۢ مُّتَّكِـِٔينَ فِيهَا عَلَى ٱلْأَرَآئِكِ ۚ نِعْمَ ٱلثَّوَابُ وَحَسُنَتْ مُرْتَفَقًۭا
Translation: ชนเหล่านั้นแหละ สำหรับพวกเขาจะได้รับสวนสวรรค์หลากหลายเป็นที่พำนัก มีลำน้ำหลายสายไหลผ่าน ณ เบื้องล่างของพวกเขา ในสวนสวรรค์พวกเขาจะได้ประดับกำไลทอง และสวมอาภรณ์สีเขียวทำด้วยผ้าไหมละเอียดและผ้าไหมหยาบนอนเอกเขนกบนเตียงในสวรรค์ เป็นการตอบแทนที่ดียิ่งและเป็นพำนักที่ดีเยี่ยม(40)
Comment: (40)พวกก็อดยานีตีความหมายของอายะฮ์นี้ว่า “เป็นการพยากรณ์อีกโสดหนึ่งถึงชัยชนะของพวกอาหรับต่อพวกโรมันและเปอร์เซีย และจะได้ครองความมั่งคั่ง” การอธิบายความหมายเช่นนี้เป็นการบิดเบือนถ้อยคำของอัลกุรอาน และขัดแย้งกับความเป็นจริงของสำนวนคำพูด ซึ่งคล้ายกับการตีความของของพวกบาฏินียะฮ์ ที่ปฏิเสธเรื่องวันปรโลก และปฏิเสธเรื่องการตอบแทนแก่ผู้ทำดีและผู้ทำชั่วในวันปรโลก เป็นการตีความหมายตามอารมณ์ ถือว่าเป็นพวกที่สิ้นสภาพการเป็นมุสลิม
18:32
۞ وَٱضْرِبْ لَهُم مَّثَلًۭا رَّجُلَيْنِ جَعَلْنَا لِأَحَدِهِمَا جَنَّتَيْنِ مِنْ أَعْنَـٰبٍۢ وَحَفَفْنَـٰهُمَا بِنَخْلٍۢ وَجَعَلْنَا بَيْنَهُمَا زَرْعًۭا
Translation: และจงเปรียบเทียบอุทาหรณ์หนึ่งแก่พวกเขา คือชายสองคน(41) เราได้ให้สวนองุ่นสองแห่งแก่คนหนึ่งในสองคน และเราได้ล้อมสวนทั้งสองไว้ด้วยต้นอินทผลัม และเราได้ทำให้มีพืชพันธุ์ระหว่างสวนทั้งสองด้วย
Comment: (41)นักตัฟซีรกล่าวว่า ชายสองคนเป็นพี่น้องกันจากยะบีอิสรออีล ทั้งสองคนได้รับมรดกจากพ่อของเขา คนพี่เป็นกาฟิรซื้อสวนสองแปลง คนน้องเป็นมุอ์มินใช้จ่ายเงินไปเพื่อความโปรดปรานของอัลลออ์จนกระทั่งหมด คนพี่ได้กล่าวตำหนิคนน้องในความยากจนของเขา และพูดจาโอ้อวดแสดงความมั่งมี จนกระทั่งอัลลอฮ์ทรงให้ทรัพย์สมบัติของเขาสูญสิ้นไปเพราะเขาลืมความโปรดปรานของอัลลอฮ์ที่ได้ให้แก่เขา
18:33
كِلْتَا ٱلْجَنَّتَيْنِ ءَاتَتْ أُكُلَهَا وَلَمْ تَظْلِم مِّنْهُ شَيْـًۭٔا ۚ وَفَجَّرْنَا خِلَـٰلَهُمَا نَهَرًۭا
Translation: แต่ละสวนทั้งสองแห่งนี้ได้ออกผลิตผลของมันอย่างสมบูรณ์ ไม่เคยลดน้อยแต่อย่างใดและเราได้ให้ลำน้ำไหลท่ามกลางสวนทั้งสอง
18:34
وَكَانَ لَهُۥ ثَمَرٌۭ فَقَالَ لِصَـٰحِبِهِۦ وَهُوَ يُحَاوِرُهُۥٓ أَنَا۠ أَكْثَرُ مِنكَ مَالًۭا وَأَعَزُّ نَفَرًۭا
Translation: และเขาได้รับผลิตผล ดังนั้นเขาจึงกล่าวแก่เพื่อนของเขา ขณะที่กำลังโต้เถียงกันอยู่ว่า “ฉันมีทรัพย์สินมากกว่าท่าน และมีข้าบริพารมากกว่า”
18:35
وَدَخَلَ جَنَّتَهُۥ وَهُوَ ظَالِمٌۭ لِّنَفْسِهِۦ قَالَ مَآ أَظُنُّ أَن تَبِيدَ هَـٰذِهِۦٓ أَبَدًۭا
Translation: เขาได้เข้าไปในสวนของเขาโดยที่เขาเป็นผู้อธรรมแก่ตัวเขาเอง เขากล่าวว่า “ฉันไม่คิดว่าสวนนี้จะพินาศไปได้เลย”
18:36
وَمَآ أَظُنُّ ٱلسَّاعَةَ قَآئِمَةًۭ وَلَئِن رُّدِدتُّ إِلَىٰ رَبِّى لَأَجِدَنَّ خَيْرًۭا مِّنْهَا مُنقَلَبًۭا
Translation: “และฉันไม่คิดว่าวันอวสานของโลกจะมีขึ้น และหากว่าฉันจะถูกกลับไปยังพระผู้เป็นเจ้าของฉัน แน่นอน ฉันจะพบที่กลับที่ดียิ่งขึ้นกว่านี้”(42)
Comment: (42)เขามีความเชื่อมั่นว่าวันกิยามะฮ์จะไม่เกิดขึ้น และปฏิเสธว่าสวนของเขานี้จะไม่มีวันพินาศไปได้เลย นอกจากนี้ยังพูดจาโอหังอีกว่า สมมุติว่า หากมีวันฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีก ตามคำกล่าวอ้างของน้องชายที่เป็นมุอ์มินแล้ว พระองค์ก็จะทรงให้เขาดีกว่าในโลกอาคิเราะฮ์เสมือนกับที่พระองค์ทรงให้เขามั่งมีในโลกนี้ อย่างแน่นอน
18:37
قَالَ لَهُۥ صَاحِبُهُۥ وَهُوَ يُحَاوِرُهُۥٓ أَكَفَرْتَ بِٱلَّذِى خَلَقَكَ مِن تُرَابٍۢ ثُمَّ مِن نُّطْفَةٍۢ ثُمَّ سَوَّىٰكَ رَجُلًۭا
Translation: เพื่อนของเขากล่าวแก่เขาขณะที่กำลังโต้เถียงกันอยู่ว่า “ท่านเนรคุณต่อพระผุ้สร้างท่านจากดิน แล้วจากเชื้ออสุจิ แล้วพระองค์ทรงทำให้ท่านเป็นคนโดยสมบูรณ์ กระนั้นหรือ?”
18:38
لَّـٰكِنَّا۠ هُوَ ٱللَّهُ رَبِّى وَلَآ أُشْرِكُ بِرَبِّىٓ أَحَدًۭا
Translation: “แต่ฉันเชื่อว่าพระองค์คืออัลลอฮ์พระผู้อภิบาลของฉัน(43) และฉันจะไม่ตั้งผู้ใดร่วมเป็นภาคีกับผู้เป้นเจ้าของฉันเลย”(44)
Comment: (43)และผู้ให้บังเกิดฉัน
Comment: (44)ดังนั้นพระองค์คือผู้ที่สมควรแก่การเคารพบูชาแต่เพียงพระองค์เดียว ไม่มีภาคีใด ๆ ร่วมกับพระองค์
18:39
وَلَوْلَآ إِذْ دَخَلْتَ جَنَّتَكَ قُلْتَ مَا شَآءَ ٱللَّهُ لَا قُوَّةَ إِلَّا بِٱللَّهِ ۚ إِن تَرَنِ أَنَا۠ أَقَلَّ مِنكَ مَالًۭا وَوَلَدًۭا
Translation: “และทำไมเล่าเมื่อท่านเข้าไปในสวนของท่าน ท่านควรกล่าวว่า สิ่งที่อัลลอฮ์ทรงประสงค์(ย่อมเกิดขึ้น)(45) ไม่มีพลังใด ๆ(ที่จะช่วยเราได้) นอกจากที่อัลลอฮ์หากท่านเห็นว่าฉันด้อยกว่าท่านทางด้านทรัพย์สมบัติและลูกหลาน
Comment: (45)ท่านควรจะกล่าวว่า นี่คือความโปรดปรานของอัลลอฮ์ สิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์ย่อมเกิดขึ้นและสิ่งที่พระองค์ไม่ทรงประสงค์ย่อมจะไม่เกิดขึ้น
18:40
فَعَسَىٰ رَبِّىٓ أَن يُؤْتِيَنِ خَيْرًۭا مِّن جَنَّتِكَ وَيُرْسِلَ عَلَيْهَا حُسْبَانًۭا مِّنَ ٱلسَّمَآءِ فَتُصْبِحَ صَعِيدًۭا زَلَقًا
Translation: ดังนั้น บางทีพระผู้อภิบาลของฉันจะทรงประทานให้ฉันดีกว่าสวนของท่าน(46) และจะทรงส่งสายฟ้าฟาดลงที่สวนของท่าน แล้วมันจะกลายเป็นที่ดินโล่งเตียน
Comment: (46)คือ ฉันหวังว่าจากการกระทำของอัลลอฮ์ ตะอาลา และการทำดีของพระองค์จะทรงเปลี่ยนแปลงสิ่งที่มีอยู่กับฉันและสิ่งที่มีอยู่กับท่าน คือ ความจนและความมั่งมี แล้วพระองค์ก็ทรงประทานริซกีแก่ฉันด้วยสวนดีกว่าของท่าน เนื่องเพราะการอีมานของฉันต่อพระองค์ และทรงถอดถอนความโปรดปรานของพระองค์จากท่าน เพราะการปฏิเสธศรัทธาของท่านต่อพระองค์ และทรงทำลายสวนของท่าน
18:41
أَوْ يُصْبِحَ مَآؤُهَا غَوْرًۭا فَلَن تَسْتَطِيعَ لَهُۥ طَلَبًۭا
Translation: “หรือน้ำของมันกลายเป็นเหือดแห้งแล้วท่านไม่สามารถจะพบมันได้เลย”
18:42
وَأُحِيطَ بِثَمَرِهِۦ فَأَصْبَحَ يُقَلِّبُ كَفَّيْهِ عَلَىٰ مَآ أَنفَقَ فِيهَا وَهِىَ خَاوِيَةٌ عَلَىٰ عُرُوشِهَا وَيَقُولُ يَـٰلَيْتَنِى لَمْ أُشْرِكْ بِرَبِّىٓ أَحَدًۭا
Translation: และผลิตผลของเขาถูกทำลายหมด แล้วเขาก็ประกบฝ่ามือทั้งสองด้วยความเสียใจต่อสิ่งที่เขาก็ประกบฝ่ามือทั้งสองด้วยความเสียใจต่อสิ่งที่เขาได้จับจ่ายไป และมันพังพาบลงมา และเขากล่าวว่า “โอ้ ! หากฉันไม่เอาผู้ใดมาตั้งภาคีกับพระผู้อภิบาลของฉัน”
18:43
وَلَمْ تَكُن لَّهُۥ فِئَةٌۭ يَنصُرُونَهُۥ مِن دُونِ ٱللَّهِ وَمَا كَانَ مُنتَصِرًا
Translation: และเขาไม่มีพรรคพวกจะช่วยเขาได้ นอกจากอัลลอฮ์และเขาก็มิได้เป็นผู้ช่วยเหลือ(47)
Comment: (47)คือตัวเขาเองก็ไม่สามารถจะยับยั้งการพยาบาทและการลงโทษของอัลลอฮ์ ตะอาลา ได้
18:44
هُنَالِكَ ٱلْوَلَـٰيَةُ لِلَّهِ ٱلْحَقِّ ۚ هُوَ خَيْرٌۭ ثَوَابًۭا وَخَيْرٌ عُقْبًۭا
Translation: ด้วยเหตุนั้น การคุ้มครองช่วยเหลือเป็นของอัลลอฮ์ผู้ทรงสัจจะ และพระองค์ทรงดียิ่งในการตอบแทน(48) และทรงดียิ่งในบั้นปลาย(49)
Comment: (48)ทั้งในโลกนี้และโลกหน้าแก่ผู้ที่ศรัทธาต่อพระองค์
Comment: (49)แก่ผู้ที่ยึดพระองค์เป็นที่พึ่ง และหวังในการตอบแทนของพระองค์คือพระองค์ทรงอานุภาพในการทำลายให้พินาศ และทรงอานุภาพในการให้มีชีวิต ไม่มีสิ่งใดในชั้นฟ้าและแผ่นดินจะยับยั้งหรือบั่นทอนการกระทำของพระองค์ได้
18:45
وَٱضْرِبْ لَهُم مَّثَلَ ٱلْحَيَوٰةِ ٱلدُّنْيَا كَمَآءٍ أَنزَلْنَـٰهُ مِنَ ٱلسَّمَآءِ فَٱخْتَلَطَ بِهِۦ نَبَاتُ ٱلْأَرْضِ فَأَصْبَحَ هَشِيمًۭا تَذْرُوهُ ٱلرِّيَـٰحُ ۗ وَكَانَ ٱللَّهُ عَلَىٰ كُلِّ شَىْءٍۢ مُّقْتَدِرًا
Translation: และจงเปรียบอุทาหรณ์การดำรงชีวิตอยู่ในโลกนี้แก่พวกเขา ประหนึ่งน้ำที่เราหลั่งมันลงมาจากฟากฟ้า ดังนั้นพืชผลในแผ่นดินก็จะคลุกเคล้าไปกับน้ำ แล้วมันก็แห้งกรังเป็นเศษเป็นชิ้นซึ่งลมจะพัดมันให้ปลิวว่อน และอัลลอฮ์เป้นผู้ทรงอานุภาพเหนือทุกสิ่ง(50)
Comment: (50)คือพระองค์ทรงอานุภาพในการทำลายให้พินาศ และทรงอานุภาพในการให้มีชีวิต ไม่มีสิ่งใดในชั้นฟ้าและแผ่นดินจะยับยั้งหรือบั่นทอนการกระทำของพระองค์ได้
18:46
ٱلْمَالُ وَٱلْبَنُونَ زِينَةُ ٱلْحَيَوٰةِ ٱلدُّنْيَا ۖ وَٱلْبَـٰقِيَـٰتُ ٱلصَّـٰلِحَـٰتُ خَيْرٌ عِندَ رَبِّكَ ثَوَابًۭا وَخَيْرٌ أَمَلًۭا
Translation: ทรัพย์สมบัติและลูกหลานคือ เครื่องประดับแห่งการดำรงชีวิตในโลกนี้(51) และความดีทั้งหลายที่จีรังนั้น เป็นการตอบแทนที่ดียิ่ง ณ ที่พระผู้อภิบาลของเจ้า และเป็นความหวังที่ดียิ่ง(52)
Comment: (51)ทั้งหมดย่อมไปสู่ความสูญสลายและความพินาศ ไม่มีผู้มดที่จะภาคภูมิใจและหลงใหลในมันออกจากคนโง่อวิชชา
Comment: (52)อิบนุอับบาส กล่าวว่า ความดีทั้งหลายที่จีรังนั้นคือการละหมาด 5 เวลา และว่าหมายถึงงานทุกอย่างที่ดี เช่นคำพูดและการปฏิบัติที่จะคงอยู่เพื่ออาคิเราะฮ์ และในหะดีษมีรายงานว่า “ซุบฮ์านัลลอฮ์ วัลฮัมดุลิลลาฮ์ วะลาอิลาฮ์ะอิลลอฮ์ วัลลอฮุอักบัร” คือ ความดีทั้งหลายที่จีรัง
18:47
وَيَوْمَ نُسَيِّرُ ٱلْجِبَالَ وَتَرَى ٱلْأَرْضَ بَارِزَةًۭ وَحَشَرْنَـٰهُمْ فَلَمْ نُغَادِرْ مِنْهُمْ أَحَدًۭا
Translation: และ(จงรำลึก) วันที่เราให้เทือกเขาเคลื่อนย้ายไป และเจ้าจะเห็นแผ่นดินราบเรียบและเราจะชุมนุมพวกเขา ดังนั้น เราจะไม่ให้ผู้ใดออกไปจากพวกเขาเลย(53)
Comment: (53)คือเราจะชุมนุมมนุษย์ในสมัยแรกและสมัยสุดท้าย ไว้ในสถานที่แห่งการชำระบัญชี เราจะไม่ปล่อยให้ผู้ใดหนีออกไปได้
18:48
وَعُرِضُوا۟ عَلَىٰ رَبِّكَ صَفًّۭا لَّقَدْ جِئْتُمُونَا كَمَا خَلَقْنَـٰكُمْ أَوَّلَ مَرَّةٍۭ ۚ بَلْ زَعَمْتُمْ أَلَّن نَّجْعَلَ لَكُم مَّوْعِدًۭا
Translation: และพวกเขาจะถูกนำมารวมเป็นแถวต่อหน้าพระผู้อภิบาลของเจ้า โดยแน่นอน พวกเจ้าจะถูกนำมายังเราดั่งที่เราให้บังเกิดพวกเจ้าในครั้งแรก(54) แต่พวกเจ้าอ้างว่าเราไม่ได้กำหนดเวลาสำหรับพวกเจ้า
Comment: (54)คือจะมีเสียงกล่าวแก่พวกกุฟฟารเป็นคำสั่งสอนว่า พวกเจ้าได้มาหาเราในสภาพเท้าเปล่าเปลือยกาย ไม่มีอะไรติดตัวมาเลย เช่น ทรัพย์สมบัติและลูกหลานก็ดี เสมือนกับสภาพของพวกเจ้าเมื่อเราได้ให้บังเกิดเจ้าครั้งแรก
18:49
وَوُضِعَ ٱلْكِتَـٰبُ فَتَرَى ٱلْمُجْرِمِينَ مُشْفِقِينَ مِمَّا فِيهِ وَيَقُولُونَ يَـٰوَيْلَتَنَا مَالِ هَـٰذَا ٱلْكِتَـٰبِ لَا يُغَادِرُ صَغِيرَةًۭ وَلَا كَبِيرَةً إِلَّآ أَحْصَىٰهَا ۚ وَوَجَدُوا۟ مَا عَمِلُوا۟ حَاضِرًۭا ۗ وَلَا يَظْلِمُ رَبُّكَ أَحَدًۭا
Translation: และบันทึกจะถูกวางไว้(55) ดังนั้น เจ้าจะเห็นผู้กระทำผิดทั้งหลายหวั่นกลัวสิ่งที่มีอยู่ในบันทึกและพวกเขาจะกล่าวว่า “โอ้ความวิบัติของเราเอ๋ย! บันทึกอะไรกันนี่ มันมิได้ละเว้นสิ่งเล็กน้อยและสิ่งใหญ่โตเลย เว้นแต่ได้บันทึกไว้ครบถ้วน” และพวกเขาได้พบสิ่งที่พวกเขาได้ปฏิบัติไว้ปรากฏอยู่ต่อหน้าและพระผู้อภิบาลของเจ้ามิทรงอธรรมต่อผู้ใดเลย(56)
Comment: (55)คือบันทึกการงานของมนุษย์จะถูกวางไว้ และถูกนำมาเสนอแก่พวกเขา
Comment: (56)คือพระองค์จะไม่ลงโทษผู้ใดโดยปราศจากความผิด และจะไม่ลดหย่อนผลบุญของผู้ทำดี
18:50
وَإِذْ قُلْنَا لِلْمَلَـٰٓئِكَةِ ٱسْجُدُوا۟ لِـَٔادَمَ فَسَجَدُوٓا۟ إِلَّآ إِبْلِيسَ كَانَ مِنَ ٱلْجِنِّ فَفَسَقَ عَنْ أَمْرِ رَبِّهِۦٓ ۗ أَفَتَتَّخِذُونَهُۥ وَذُرِّيَّتَهُۥٓ أَوْلِيَآءَ مِن دُونِى وَهُمْ لَكُمْ عَدُوٌّۢ ۚ بِئْسَ لِلظَّـٰلِمِينَ بَدَلًۭا
Translation: และเมื่อเราได้กล่าวแก่มลาอิกะฮ์ว่า “จงสุญูดคารวะต่ออาดัม”(57) พวกเขาก็แสดงคารวะเว้นแต่อิบลิส มันอยู่ในจำพวกญิน(58) ดังนั้น มันจึงฝ่าฝืนคำสั่งของพระผู้อภิบาลของมัน แล้วพวกเจ้าจะยึดเอามันและวงศ์วานของมัน เป็นผู้คุ้มครองอื่นจากข้ากระนั้นหรือหรือ? ทั้งๆ ที่พวกมันเป็นศัตรูกับพวกเจ้า มันช่างชั่วช้าแท้ๆ ในการแลกเปลี่ยนสำหรับพวกอธรรม(59)
Comment: (57)เป็นการสุญูดคารวะและให้เกียรติ มิใช่สุญูดอิบาดะฮ์
Comment: (58)ในอายะฮ์แจ้งไว้อย่างชัดเจนว่า อิบลิสเป็นจำพวกญิน มิใช่มลาอิกะฮ์
Comment: (59)คือชั่วช้าแท้ ๆ ในการอิบาดะฮ์ชัยฏอนแทนการอิบาดะฮ์อัรเราะฮ์มาน
18:51
۞ مَّآ أَشْهَدتُّهُمْ خَلْقَ ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضِ وَلَا خَلْقَ أَنفُسِهِمْ وَمَا كُنتُ مُتَّخِذَ ٱلْمُضِلِّينَ عَضُدًۭا
Translation: ข้ามิได้เอาพวกมันมาเป็นพยาน ในการสร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน แม้ในการสร้างตัวพวกมันเอง(60) และข้ามิได้เอาพวกที่ทำให้ผู้อื่นหลงผิดมาให้ความช่วยเหลือ(61)
Comment: (60)เพราะพวกมันก็เป็นบ่าวเช่นเดียวกับพวกเจ้า มันไม่มีอำนาจใด ๆ ทั้งสิ้น
Comment: (61)คือข้ามิได้เอาพวกมันมาให้ความช่วยเหลือข้าในการสร้าง แล้วทำไมพวกเจ้าจึงหลงเชื่อฟังพวกมันอื่นจากข้า
18:52
وَيَوْمَ يَقُولُ نَادُوا۟ شُرَكَآءِىَ ٱلَّذِينَ زَعَمْتُمْ فَدَعَوْهُمْ فَلَمْ يَسْتَجِيبُوا۟ لَهُمْ وَجَعَلْنَا بَيْنَهُم مَّوْبِقًۭا
Translation: และ(จงรำลึก) วันที่พระองค์ตรัสว่าพวกเจ้าจงเรียกคู่ภาคีของข้าที่พวกเจ้ากล่าวอ้างนั้น(62) แล้วพวกเขาก็ร้องขอให้พวกมันช่วยเหลือ แต่พวกมันจะไม่ตอบรับพวกเขา และเราได้กำหนดให้มีแหล่งพินาศระหว่างพวกมันเอง?”(63)
Comment: (62)คือให้พวกมันช่วยเหลือเจ้าจากการลงโทษของข้า
Comment: (63)คือระหว่างพวกบูชากับพวกถูกบูชา ทั้งสองพวกจะไม่ผ่านนรกไปได้
18:53
وَرَءَا ٱلْمُجْرِمُونَ ٱلنَّارَ فَظَنُّوٓا۟ أَنَّهُم مُّوَاقِعُوهَا وَلَمْ يَجِدُوا۟ عَنْهَا مَصْرِفًۭا
Translation: และพวกกระทำผิดมองเห็นไฟนรกพวกเขาก็รู้ว่า แน่นอนพวกตนจะตกลงไปในนั้นและพวกเขาจะไม่พบทางรอดจากมันไปได้เลย
18:54
وَلَقَدْ صَرَّفْنَا فِى هَـٰذَا ٱلْقُرْءَانِ لِلنَّاسِ مِن كُلِّ مَثَلٍۢ ۚ وَكَانَ ٱلْإِنسَـٰنُ أَكْثَرَ شَىْءٍۢ جَدَلًۭا
Translation: และเราได้ชี้แจงแก่มนุษย์ในอัลกุรอานนี้แต่ละตัวอย่าง(64) แต่มนุษย์นั้นชอบโต้เถียงในเรื่องต่างๆ เป็นส่วนใหญ่
Comment: (64)คือในอัลกุรอานนี้มีทั้งตัวอย่าง หลักฐาน และบทเรียนอย่างมากมาย
18:55
وَمَا مَنَعَ ٱلنَّاسَ أَن يُؤْمِنُوٓا۟ إِذْ جَآءَهُمُ ٱلْهُدَىٰ وَيَسْتَغْفِرُوا۟ رَبَّهُمْ إِلَّآ أَن تَأْتِيَهُمْ سُنَّةُ ٱلْأَوَّلِينَ أَوْ يَأْتِيَهُمُ ٱلْعَذَابُ قُبُلًۭا
Translation: และไม่มีสิ่งใดที่จะยับยั้งมนุษย์จากการศรัทธา เมื่อแนวทางที่ถูกต้องได้มายังพวกเขา และการขออภัยโทษต่อพระเจ้าของพวกเขา เว้นแต่จะให้แบบอย่างแต่เก่าก่อน(การลงโทษ) มายังพวกเขาหรือจะให้การลงโทษมายังพวกเขาต่อหน้าต่อตา(65)
Comment: (65)ความหมายของอายะฮ์คือ ไม่มีสิ่งใดที่จะยับยั้งพวกเขาจากการอีมานและการขออภัยโทษ เว้นแต่การเรียกร้องของพวกเขาที่อยากจะเห็นการลงโทษที่ถูกสัญญาไว้อย่างทันตาเห็น
18:56
وَمَا نُرْسِلُ ٱلْمُرْسَلِينَ إِلَّا مُبَشِّرِينَ وَمُنذِرِينَ ۚ وَيُجَـٰدِلُ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ بِٱلْبَـٰطِلِ لِيُدْحِضُوا۟ بِهِ ٱلْحَقَّ ۖ وَٱتَّخَذُوٓا۟ ءَايَـٰتِى وَمَآ أُنذِرُوا۟ هُزُوًۭا
Translation: และเรามิได้ส่งบรรดาร่อซูลมาเพื่ออื่นใดเว้นแต่เป็นผู้แจ้งข่าวดีและเป็นผู้ตักเตือน(66) และบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาจะโต้แย้งด้วยความเท็จ เพื่อทำลายล้างสัจธรรมด้วยมัน(ความเท็จ)(67) และพวกเขายึดเอาโองการทั้งหลายของข้าและสิ่งที่ถูกตักเตือนเป็นการล้อเลียน
Comment: (66)คือเพื่อแจ้งข่าวดีแก่บรรดาผู้ศรัทธา และตักเตือนแก่บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา
Comment: (67)คือขณะที่พวกเขาเรียกร้องขอสิ่งปาฏิหาริย์ หรือสิ่งมหัศจรรย์ หรือเร่งเร้าให้มีการลงโทษนั้น พวกเขามิได้ประสงค์การศรัทธาดอกแต่ทว่าพวกเขากระทำไปเพื่อเป็นการล้อเลียนและเหยียดหยามเท่านั้น
18:57
وَمَنْ أَظْلَمُ مِمَّن ذُكِّرَ بِـَٔايَـٰتِ رَبِّهِۦ فَأَعْرَضَ عَنْهَا وَنَسِىَ مَا قَدَّمَتْ يَدَاهُ ۚ إِنَّا جَعَلْنَا عَلَىٰ قُلُوبِهِمْ أَكِنَّةً أَن يَفْقَهُوهُ وَفِىٓ ءَاذَانِهِمْ وَقْرًۭا ۖ وَإِن تَدْعُهُمْ إِلَى ٱلْهُدَىٰ فَلَن يَهْتَدُوٓا۟ إِذًا أَبَدًۭا
Translation: และผู้ใดจะอธรรมยิ่งไปกว่าผู้ที่ถูกตักเตือนให้รำลึก ด้วยโองการทั้งหลายของพระผู้อภิบาลของเขา แล้วเขาก็หันหลังห่างออกไป แล้วลืมสิ่งที่มือทั้งสองของเขาประกอบไว้(68) แท้จริงเราได้ทำฝาปิดบนหัวใจของพวกเขา ในการที่พวกเขาจะเข้าใจมัน และในหูของพวกเขานั้นหนวก(69) และถ้าเจ้าเรียกร้องพวกเขาไปสู่แนวทางที่ถูกต้อง พวกเขาจะก็ไม่อยู่ในแนวทางที่ถูกต้องนั้นเลย(70)
Comment: (68)คือลืมสิ่งที่เขาได้กระทำไว้ เช่น การทำบาปขั้นอุกฤษฏ์และการงานที่น่าเกลียดโดยไม่นึกถึงบั้นปลายของมัน
Comment: (69)คือเราทำให้หัวใจของเขามีฝาปิด เพื่อมิให้เข้าใจอัลกุรอานและตระหนักถึงเคล็ดลับต่างๆ และมิได้รับประโยชน์จากบทเรียนต่างๆ ของบัญญัติต่างๆ และในหูของพวกเขานั้นหนวก หมายถึงความหนวกของหูจะปิดกั้นพวกเขามิให้เข้าใจหรือได้รับประโยชน์
Comment: (70)เพราะพวกเขาไม่เข้าใจและไม่ได้ยิน ดังนั้นสภาพของพวกเขาจึงเปรียบเสมือนปศุสัตว์
18:58
وَرَبُّكَ ٱلْغَفُورُ ذُو ٱلرَّحْمَةِ ۖ لَوْ يُؤَاخِذُهُم بِمَا كَسَبُوا۟ لَعَجَّلَ لَهُمُ ٱلْعَذَابَ ۚ بَل لَّهُم مَّوْعِدٌۭ لَّن يَجِدُوا۟ مِن دُونِهِۦ مَوْئِلًۭا
Translation: และพระผู้เป็นเจ้าของเจ้า คือผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ หากพระองค์จะทรงเอาโทษพวกเขา ตามที่พวกเขาได้สะสมเอาไว้แน่นอนพระองค์จะทรงเร่งการลงโทษแก่พวกเขา(71) แต่สำหรับพวกเขามีกำหนดเวลา ซึ่งพวกเขาจะไม่พบที่พึ่งอื่นใดนอกจากพระองค์
Comment: (71)แต่พระองค์ทรงผ่อนผันและยึดเวลาการลงโทษแก่พวกเขา ทั้งนี้เพราะความเมตตาของพระองค์ คือทรงผ่อนผันแก่ผู้อธรรมแต่พระองค์จะไม่ทรงทอดทิ้งเขาเป็นแน่
18:59
وَتِلْكَ ٱلْقُرَىٰٓ أَهْلَكْنَـٰهُمْ لَمَّا ظَلَمُوا۟ وَجَعَلْنَا لِمَهْلِكِهِم مَّوْعِدًۭا
Translation: และเมืองเหล่านั้น เราได้ทำลายพวกเขาเมื่อพวกเขาอยุติธรรม และเราได้กำหนดกำหนดเวลาสำหรับความพินาศของพวกเขาไว้แล้ว(72)
Comment: (72)นั่นคือข่าวคราวของประชาชาติต่างๆ ในอดีต เช่น ชนชาติฮูด ศอและฮ์ ลูฏ และชุไอบ์ เราได้ทำลายพวกเขาเมื่อพวกเขาอธรรม โดยได้กำหนดเวลาไว้อย่างแน่นอน ดังนั้นพวกปฏิเสธศรัทธาและพวกดื้อรั้นจะไม่ใคร่ครวญบ้างหรือ?
18:60
وَإِذْ قَالَ مُوسَىٰ لِفَتَىٰهُ لَآ أَبْرَحُ حَتَّىٰٓ أَبْلُغَ مَجْمَعَ ٱلْبَحْرَيْنِ أَوْ أَمْضِىَ حُقُبًۭا
Translation: และจงรำลึกเมื่อมูซาได้กล่าวแก่คนใช้หนุ่ม (ยูชะฮ์ อิบน์นูน) ของเขาว่า “ฉันจะยังคงเดินต่อไปจนกว่าจะบรรลุสู่ชุมทางแห่งสองทะเลหรือฉันจะคงเดินต่อไปอีกหลายปี”(73)
Comment: (73)เรื่องราวของมูซา อะลัยอิสลาม มิได้นำมากล่าวไว้ในอัลกุรอาน นอกจากในซูเราะฮ์นี้ อัลกรุอานมิได้กำหนดสถานที่นอกจาก กล่าวว่า เป็นชุมทางแห่งสองทะเล และมิได้กำหนดเวลาว่าเป็นช่วงไหนในชีวิตของมูซา ไม่ว่าจะเป็นขณะที่อยู่ในอียิปต์ก่อนที่จะพาบะนีอิสรออีลออกไป หรือหลังจากเดินทางไปอยู่ที่นั่นแล้ว…มีรายงานมาจากอิบนุอับบาสและคนอื่นๆ ในเรื่องนี้ แต่เราขอยุติเพียงตัวบทของเรื่องที่มีปรากฏอยู่ในอัลกุรอาน และเรามีความเชื่อมั่นว่า การที่อัลกุรอานได้นำมากล่าวไว้โดยมิได้เพิ่มเติม และมิได้กำหนดสถานที่ วัน เวลา และชื่อต่างๆ นั้น เป็นเคล็ดลับโดยเฉพาะ
18:61
فَلَمَّا بَلَغَا مَجْمَعَ بَيْنِهِمَا نَسِيَا حُوتَهُمَا فَٱتَّخَذَ سَبِيلَهُۥ فِى ٱلْبَحْرِ سَرَبًۭا
Translation: ดังนั้น เมื่อทั้งสองถึงชุมทางระหว่างสองทะเลแล้ว(74) ทั้งสองลืมปลาของเขา ดังนั้นมันจึงหาวิธีของมันลงทะเลไปตามทาง(75)
Comment: (74)ส่วนใหญ่ของนักตัฟซีรมีความเห็นว่า ชุมทางของทะเลเมดิเตอเรเนียนและทะเลแดง คือบริเวณทะเลสาบอัลมุเราะฮ์กับทะเลสาบอัลติมซาห์ หรือชุมทางของอ่าวอะเกาะบะฮ์และสุเอซในทะเลแดง เพราะอาณาบริเวณนี้เป็นสถานที่เกิดเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ของนบีอิสรออีล เนื่องจากการเดินทางออกจากอียิปต์
Comment: (75)ส่วนใหญ่ของนักตัฟซีรมีความเห็นว่า ปลาในที่นี้เป็นปลาย่าง การให้มันมีชีวิตขึ้นมาและหาทางลงทะเลนั้นเป็นสัญญาณหนึ่งในบรรดาสัญญาณต่างๆ ของอัลลอฮ์แก่มูซา
18:62
فَلَمَّا جَاوَزَا قَالَ لِفَتَىٰهُ ءَاتِنَا غَدَآءَنَا لَقَدْ لَقِينَا مِن سَفَرِنَا هَـٰذَا نَصَبًۭا
Translation: ครั้นเมื่อทั้งสองเดินเลยต่อไปอีก เขาได้กล่าวแก่คนใช้หนุ่มของเขาว่า “จงนำอาหารกลางวันของเราออกมา โดยแน่นอน เราได้รับความลำบากจากการเดินทางของเรานี้”
18:63
قَالَ أَرَءَيْتَ إِذْ أَوَيْنَآ إِلَى ٱلصَّخْرَةِ فَإِنِّى نَسِيتُ ٱلْحُوتَ وَمَآ أَنسَىٰنِيهُ إِلَّا ٱلشَّيْطَـٰنُ أَنْ أَذْكُرَهُۥ ۚ وَٱتَّخَذَ سَبِيلَهُۥ فِى ٱلْبَحْرِ عَجَبًۭا
Translation: เขากล่าวว่า “ท่านมิเห็นดอกหรือ เมื่อเราพักอยู่ที่ก้อนหิน แท้จริงฉันลืมที่จะพูดถึงเรื่องปลาและไม่มีผู้ใดที่ทำให้ฉันลืมกล่าวถึงมันนอกจากชัยฏอน และมันก็หาทางลงทะเลไปอย่างน่าประหลาดแท้ ๆ”
18:64
قَالَ ذَٰلِكَ مَا كُنَّا نَبْغِ ۚ فَٱرْتَدَّا عَلَىٰٓ ءَاثَارِهِمَا قَصَصًۭا
Translation: เขากล่าวว่า “นั่นแหละคือสิ่งที่เราต้องการหา”(76) ดังนั้น ทั้งสองจึงหวลกลับตามร่องรอยไปที่เดิม”
Comment: (76)นั้นคือจุดมุ่งหมายของเรา คือการพบปะกับคนดีศอและฮ์
18:65
فَوَجَدَا عَبْدًۭا مِّنْ عِبَادِنَآ ءَاتَيْنَـٰهُ رَحْمَةًۭ مِّنْ عِندِنَا وَعَلَّمْنَـٰهُ مِن لَّدُنَّا عِلْمًۭا
Translation: แล้วทั้งสองได้พบบ่าวคนหนึ่งจากปวงบ่าวของเรา(77) ที่เราได้ประทานความเมตตาจากเราให้แก่เขา และเราได้สอนความรู้จากเราให้แก่เขา
Comment: (77)ทั้งสองได้พบเราะฏิร อะลัยฮิสลาม ที่โขดหินแห่งหนึ่ง ซึ่งปลาได้หายตัวไป ตามรายงานซึ่งมีหลักฐานจากอัลกุรอานและซุนนะฮ์ยืนยันว่าเคาะฎิร อะลัยฮิสลาม เป็นนบีท่านหนึ่ง ซึ่งในอายะฮ์ได้ใช้สำนวนว่าเป็นบ่าวคนหนึ่งในปวงบ่าวของพระองค์โดยสำนวนนี้อัลลอฮ์ ตะอาลา เคยใช้กับบรรดานบี
18:66
قَالَ لَهُۥ مُوسَىٰ هَلْ أَتَّبِعُكَ عَلَىٰٓ أَن تُعَلِّمَنِ مِمَّا عُلِّمْتَ رُشْدًۭا
Translation: มูซาได้กล่าวแก่เขาว่า “จะให้ฉันติดตามท่านไปได้ไหม? โดยท่านจะต้องสอนฉันจากสิ่งที่ท่านได้เคยเรียนรู้มา ตามแนวทางที่เที่ยงตรง”(78)
Comment: (78)คือท่านจะอนุญาตให้ฉันติดตามท่านไป เพื่อที่ฉันจะได้เรียนรู้วิชาการจากท่าน โดยมันจะช่วยชี้แนะการดำรงชีวิตของฉันได้ไหม?
18:67
قَالَ إِنَّكَ لَن تَسْتَطِيعَ مَعِىَ صَبْرًۭا
Translation: เขากล่าวว่า”แท้จริง ท่านจะไม่สามารถมีความอดทนร่วมกันฉันได้”(79)
Comment: (79)อิบนุอับบาสอธิบายว่า ท่านจะอดทนไม่ได้ต่อการกระทำของฉัน เพราะฉันรู้ในสิ่งเร้นลับบางอย่างของพระเจ้าของฉัน
18:68
وَكَيْفَ تَصْبِرُ عَلَىٰ مَا لَمْ تُحِطْ بِهِۦ خُبْرًۭا
Translation: “และท่านจะอดทนอย่างได้อย่างไร ในสิ่งที่ท่านไม่มีความรู้อย่างละเอียดลออ?”(80)
Comment: (80)คือท่านจะอดทนได้อย่างไร ในสิ่งที่โดยเปิดเผยแล้วท่านยอมรับไม่ได้ และท่านก็ไม่รู้ในสิ่งที่ถูกปกปิดไว้
18:69
قَالَ سَتَجِدُنِىٓ إِن شَآءَ ٱللَّهُ صَابِرًۭا وَلَآ أَعْصِى لَكَ أَمْرًۭا
Translation: เขากล่าวว่า “หากอัลลอฮ์ทรงประสงค์ท่านจะพบฉันเป็นผู้อดทน และฉันจะไม่ฝ่าฝืนคำสั่งของท่าน”
18:70
قَالَ فَإِنِ ٱتَّبَعْتَنِى فَلَا تَسْـَٔلْنِى عَن شَىْءٍ حَتَّىٰٓ أُحْدِثَ لَكَ مِنْهُ ذِكْرًۭا
Translation: เขากล่าวว่า “ดังนั้น ถ้าท่านติดตามฉันก็อย่าได้ถามฉันถึงสิ่งใด จนกว่าฉันจะเล่าเรื่องนั้นแก่ท่าน”
18:71
فَٱنطَلَقَا حَتَّىٰٓ إِذَا رَكِبَا فِى ٱلسَّفِينَةِ خَرَقَهَا ۖ قَالَ أَخَرَقْتَهَا لِتُغْرِقَ أَهْلَهَا لَقَدْ جِئْتَ شَيْـًٔا إِمْرًۭا
Translation: ดังนั้นทั้งสองจึงออกเดินทาง(81) จนกระทั่งเมื่อทั้งสองลงเรือเขา(เคาะฏิร) จึงเจาะรูมัน เขา(มูซา) กล่าวว่า “ท่านเจาะรูมันเพื่อให้ผู้ที่อยู่ในเรือจมน้ำกรนั้นหรือ? โดยแน่นอนท่านได้นำมาซึ่งสิ่งที่อันตรายยิ่ง”
Comment: (81)เมื่อทั้งสองออกเดินทางมาตามชายทะเล จนกระทั้งเมื่อเรือผ่านมา บรรดาลูกเรือรู้จักเคาะฎิร จึงให้ทั้งสองลงเรือไปโดยไม่คิดค่าโดยสารแต่อย่างใด
18:72
قَالَ أَلَمْ أَقُلْ إِنَّكَ لَن تَسْتَطِيعَ مَعِىَ صَبْرًۭا
Translation: เขากล่าวว่า “ฉันมิได้บอกหรือว่า แท้จริงท่านจะไม่สามารถมีความอดทนร่วมกับฉันได้”
18:73
قَالَ لَا تُؤَاخِذْنِى بِمَا نَسِيتُ وَلَا تُرْهِقْنِى مِنْ أَمْرِى عُسْرًۭا
Translation: เขา(มูซา) กล่าวว่า “โปรดอย่าเอาโทษกับฉันเลยในสิ่งที่ฉันลืม และอย่าบังคับฉันให้ลำบากใจเรื่องของฉันเลย”
18:74
فَٱنطَلَقَا حَتَّىٰٓ إِذَا لَقِيَا غُلَـٰمًۭا فَقَتَلَهُۥ قَالَ أَقَتَلْتَ نَفْسًۭا زَكِيَّةًۢ بِغَيْرِ نَفْسٍۢ لَّقَدْ جِئْتَ شَيْـًۭٔا نُّكْرًۭا
Translation: ดังนั้นเขาทั้งสองจึงออกเดินทางต่อไปจนกระทั่งเมื่อทั้งสองพบเด็กคนหนึ่ง เขา(เคาะฏิร)จึงฆ่าเด็กคนนั้น(82) เขา(มูซา)กล่าวว่า “ท่านฆ่าชีวิตบริสุทธิ์โดยมิได้ทำผิดต่อชีวิตอื่นกระนั้นหรือ? โดยแน่นอน ท่านทำสิ่งที่ร้ายแรงยิ่ง”
Comment: (82)หลังจากลงเรือแล้ว ทั้งสองได้ออกเดินทางต่อไป
18:75
۞ قَالَ أَلَمْ أَقُل لَّكَ إِنَّكَ لَن تَسْتَطِيعَ مَعِىَ صَبْرًۭا
Translation: เขากล่าวว่า “ฉันมิได้บอกหรือว่า แท้จริงท่านจะไม่สามารถมีความอดทนร่วมกับฉันได้”
18:76
قَالَ إِن سَأَلْتُكَ عَن شَىْءٍۭ بَعْدَهَا فَلَا تُصَـٰحِبْنِى ۖ قَدْ بَلَغْتَ مِن لَّدُنِّى عُذْرًۭا
Translation: เขา(มูซา) กล่าวว่า “หากฉันถามสิ่งใดจากท่านหลังจากนี้ท่านอย่าคบฉันเป็นเพื่อร่วมทางอีกเลย แน่นอน ท่านมีข้อแก้ตัวจากฉันพอแล้ว”(83)
Comment: (83)คือท่านได้ยอมรับข้อแก้ตัวแก่ฉันแล้ว ในการเลิกคบฉันเป็นเพื่อนร่วมทางถึง 2 ครั้ง ดังนั้นท่านมีข้อแก้ตัวแก่ฉันแล้วเพราะฉันผิดสัญญากับท่านถึงสามครั้ง
18:77
فَٱنطَلَقَا حَتَّىٰٓ إِذَآ أَتَيَآ أَهْلَ قَرْيَةٍ ٱسْتَطْعَمَآ أَهْلَهَا فَأَبَوْا۟ أَن يُضَيِّفُوهُمَا فَوَجَدَا فِيهَا جِدَارًۭا يُرِيدُ أَن يَنقَضَّ فَأَقَامَهُۥ ۖ قَالَ لَوْ شِئْتَ لَتَّخَذْتَ عَلَيْهِ أَجْرًۭا
Translation: ดังนั้นทั้งสองจึงออกเดินทางต่อไป จนกระทั่งเมื่อทั้งสองพบชาวเมืองหนึ่ง ทั้งสองได้ขออาหารจากชาวเมืองนั้น(84) แต่พวกเขาปฏิเสธที่จะต้อนรับเขาทั้งสองต่อมาเขาทั้งสองได้พบกำแพงแห่งหนึ่งกำลังจะพังลงมาแล้วเขาก็ทำให้มันตรงเขา(มูซา)กล่าวว่า “ถ้าท่านประสงค์ แน่นอนท่านจะเอาค่าแรงตอบแทนสำหรับมันได้”(85)
Comment: (84)อิบนุอับบาสกล่าว เป็นชาวเมืองอัฏฏอกียะฮ์ ชาวเมืองนั้นเป็นคนตระหนี่ ไม่ต้อนรับแขกและไม่เผื่อแผ่เจือจุนแก่คนหิวโหย
Comment: (85)คือเอาค่าแรงเป็นค่าจ้าง เพื่อไปซื้ออาหารมาได้
18:78
قَالَ هَـٰذَا فِرَاقُ بَيْنِى وَبَيْنِكَ ۚ سَأُنَبِّئُكَ بِتَأْوِيلِ مَا لَمْ تَسْتَطِع عَّلَيْهِ صَبْرًا
Translation: เขากล่าว่า “นี่คือการแยกกันระหว่างฉันกับท่าน(86) ฉันจะบอกท่านถึงความหมายที่ท่านไม่สามารถมีความอดทนในสิ่งนั้นๆ ได้”
Comment: (86)ถึงเวลาแล้วที่เราจะแยกจากกัน ตามสัญญาที่ท่านได้ให้ไว้
18:79
أَمَّا ٱلسَّفِينَةُ فَكَانَتْ لِمَسَـٰكِينَ يَعْمَلُونَ فِى ٱلْبَحْرِ فَأَرَدتُّ أَنْ أَعِيبَهَا وَكَانَ وَرَآءَهُم مَّلِكٌۭ يَأْخُذُ كُلَّ سَفِينَةٍ غَصْبًۭا
Translation: ส่วนหนึ่งของเรือเดินทะเลนั้น มันเป็นของพวกผู้ขัดสนทำงานอยู่ในทะเล ฉันตั้งใจจะทำให้มันมีตำหนิ เพราะเบื้องหลังพวกเขานั้นมีกษัตริย์องค์หนึ่งคอยยึดเรือดีๆ ทุกลำโดยใช้อำนาจ(87)
Comment: (87)คือยึดเรืองดี ๆ ทุกลำที่ไม่มีตำหนิ
18:80
وَأَمَّا ٱلْغُلَـٰمُ فَكَانَ أَبَوَاهُ مُؤْمِنَيْنِ فَخَشِينَآ أَن يُرْهِقَهُمَا طُغْيَـٰنًۭا وَكُفْرًۭا
Translation: “และส่วนเรื่องของเด็กนั้นก็คือ พ่อแม่ของเขาเป็นผู้ศรัทธา เรากลัวว่าเขาจะเคี่ยวเข็ญให้ทั้งสองตกอยู่ในการละเมิดและปฏิเสธศรัทธา”(88)
Comment: (88)ส่วนเด็กที่ฉันฆ่านั้นเป็นกาฟิรและคนเลว
18:81
فَأَرَدْنَآ أَن يُبْدِلَهُمَا رَبُّهُمَا خَيْرًۭا مِّنْهُ زَكَوٰةًۭ وَأَقْرَبَ رُحْمًۭا
Translation: “ดังนั้น เราปรารถนา(ฆ่าเขาโดยหวัง) ว่าพระผู้อภิบาลของทั้งสองจะทรงเปลี่ยนลูกที่ดีกว่าให้แก่ทั้งสอง มัความบริสุทธิ์กว่าและใกล้ชิดต่อความเมตตา(แก่ทั้งสอง)"
18:82
وَأَمَّا ٱلْجِدَارُ فَكَانَ لِغُلَـٰمَيْنِ يَتِيمَيْنِ فِى ٱلْمَدِينَةِ وَكَانَ تَحْتَهُۥ كَنزٌۭ لَّهُمَا وَكَانَ أَبُوهُمَا صَـٰلِحًۭا فَأَرَادَ رَبُّكَ أَن يَبْلُغَآ أَشُدَّهُمَا وَيَسْتَخْرِجَا كَنزَهُمَا رَحْمَةًۭ مِّن رَّبِّكَ ۚ وَمَا فَعَلْتُهُۥ عَنْ أَمْرِى ۚ ذَٰلِكَ تَأْوِيلُ مَا لَمْ تَسْطِع عَّلَيْهِ صَبْرًۭا
Translation: “และส่วนเรื่องของกำแพงนั้น มันเป็นของเด็กผู้ชายกำพร้าสองคนที่อยู่ในเมือง และใต้กำแพงนั้นมีขุมทรัพย์ของเขาทั้งสอง(89) และพ่อของเด็กทั้งสองก็เป็นคนดี ดังนั้น พระผู้อภิบาลของท่านทรงประสงค์ที่จะให้เด็กทั้งสองบรรลุสู่ความเป็นผู้ใหญ่และจะให้เด็กทั้งสองเอาขุมทรัพย์ของทั้งสองออกมาเอง(90) เป็นความเมตตาจากพระผู้อภิบาลของท่าน และฉันมิได้ทำสิ่งนั้นตามความพอใจของฉัน นั่นคือความหมายที่ท่านไม่สามารถมีความอดทนในสิ่งนั้นๆ ได้”
Comment: (89)ถ้าปล่อยให้กำแพงพังลงมา ขุมทรัพย์ก็จะประจักษ์ออกมา เด็กทั้งสองไม่สามารถป้องกันขุมทรัพย์นั้นได้
Comment: (90)โดยที่เด็กทั้งสองสามารถคุ้มกันขุมทรัพย์นั้นได้ ณ ที่นี้ความลับได้ถูกเผยออกมา อันหนึ่งจากเคล็ดลับแห่งการกระทำเช่นนั้นของบ่าวที่ศอลิห์ เช่นเดียวกับที่มันได้ถูกเผยออกมา โดยที่พระองค์จะไม่ทรงเปิดเผยให้ผู้ใด นอกจากที่พระองค์ทรงพอพระทัยเท่านั้น นี่แหละคือเรื่องราวของมูซากับบ่าวที่ศอลิห์ จึงมีความสัมพันธ์กับเรื่องชาวถ้ำตรงที่ว่า ปล่อยให้เรื่องของสิ่งพ้นญาณวิสัยเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮ์องค์เดียวซึ่งพระองค์ทรงจัดเตรียมเรื่องต่างๆ ด้วยฮิกมะฮ์ของพระองค์
18:83
وَيَسْـَٔلُونَكَ عَن ذِى ٱلْقَرْنَيْنِ ۖ قُلْ سَأَتْلُوا۟ عَلَيْكُم مِّنْهُ ذِكْرًا
Translation: และพวกเขาถามเจ้าเกี่ยวกับซุลก็อรนัยน์(91) จงกล่าวเถิด “ฉันจะเล่าเรื่องของเขาแก่พวกท่าน”
Comment: (91)กล่าวกันว่า เป็นกษัตริย์มุสลิมแห่งเยเมน ที่เรียกกันว่า “ซุลก็อรนัยน์” ก็เพราะเขามีอำนาจปกครองดินแดนจากตะวันออกจรดตะวันตก
18:84
إِنَّا مَكَّنَّا لَهُۥ فِى ٱلْأَرْضِ وَءَاتَيْنَـٰهُ مِن كُلِّ شَىْءٍۢ سَبَبًۭا
Translation: แท้จริงเราได้ให้อำนาจแก่เขาในแผ่นดิน และเราให้เขาทุกสิ่งที่เขาต้องการ(92)
Comment: (92)นักตัฟซีรกล่าวว่า ซุลก็อรนัยน์มีอำนาจปกครองในสมัยระหว่างนบีอีซากับนบีมุฮัมมัด มีรายงานว่าบุคคลที่มีอำนาจปกครองแผ่นดินมีอยู่ 4 คน เป็นมุอ์มิน 2 คน กาฟิร 2 คน ที่เป็นมุอ์มินคือ นบีสุลัยมานกับซุลก็อรนัยน์ ส่วนกาฟิร 2 คนคือ นัมรู้ด และบัดตันศิร
18:85
فَأَتْبَعَ سَبَبًا
Translation: ดังนั้น เขาจึงมุ่งไปทางหนึ่ง (ทางทิศตะวันตก)
18:86
حَتَّىٰٓ إِذَا بَلَغَ مَغْرِبَ ٱلشَّمْسِ وَجَدَهَا تَغْرُبُ فِى عَيْنٍ حَمِئَةٍۢ وَوَجَدَ عِندَهَا قَوْمًۭا ۗ قُلْنَا يَـٰذَا ٱلْقَرْنَيْنِ إِمَّآ أَن تُعَذِّبَ وَإِمَّآ أَن تَتَّخِذَ فِيهِمْ حُسْنًۭا
Translation: จนกระทั่งเมื่อเขาไปถึงดินแดนที่ดวงอาทิตย์ตก เขาพบมันตกลงในน้ำขุ่นดำ(93) และพบชนหมู่หนึ่ง ณ ที่นั่น เรากล่าวว่า(อัลลอฮ์ทรงดลใจเขา) “โอ้ ซุลก็อรนัยน์ เจ้าจะลงโทษพวกเขา(94) หรือทำความดีต่อพวกเขา”
Comment: (93)คือดวงอาทิตย์ ณ สถานที่นั้น เพราะเขายืนอยู่ในบริเวณนั้น มิได้หมายความว่ามันตกลงไปในน้ำขุ่นดำจริงๆ เพราะผู้ที่ยืนอยู่กลางทะเลทรายจะเห็นว่าดวงอาทิตย์ตกท่ามกลางทะเลทราย
Comment: (94)นักตัฟซิรอธิบายว่า ชนหมู่นั้นเป็นพวกปฏิเสธศรัทธา อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงให้เขาเลือกปฏิบัติเอา ระหว่างให้ลงโทษพวกเขาด้วยการฆ่า หรือเรียกร้องเชิญชวนพวกเขาไปสู่อิสลาม แล้วทำดีกับพวกเขา
18:87
قَالَ أَمَّا مَن ظَلَمَ فَسَوْفَ نُعَذِّبُهُۥ ثُمَّ يُرَدُّ إِلَىٰ رَبِّهِۦ فَيُعَذِّبُهُۥ عَذَابًۭا نُّكْرًۭا
Translation: เขากล่าวว่า “ส่วนผู้ที่อธรรมนั้นเราจะลงโทษเขา แล้วเขาจะถูกกลับไปยังพระผู้เป็นเจ้าของเขา ดังนั้นพระองค์จะทรงลงโทษเขาซึ่งการลงโทษอย่างรุนแรง
18:88
وَأَمَّا مَنْ ءَامَنَ وَعَمِلَ صَـٰلِحًۭا فَلَهُۥ جَزَآءً ٱلْحُسْنَىٰ ۖ وَسَنَقُولُ لَهُۥ مِنْ أَمْرِنَا يُسْرًۭا
Translation: “และส่วนผู้ศรัทธาและประกอบความดีนั้น สำหรับเขาคือการตอบแทนที่ดี และเราจะพูดกับเขาในกิจการงานของเราอย่างง่ายๆ“
18:89
ثُمَّ أَتْبَعَ سَبَبًا
Translation: แล้วเขาได้มุ่งไปอีกทางหนึ่ง(ทางตะวันออก)
18:90
حَتَّىٰٓ إِذَا بَلَغَ مَطْلِعَ ٱلشَّمْسِ وَجَدَهَا تَطْلُعُ عَلَىٰ قَوْمٍۢ لَّمْ نَجْعَل لَّهُم مِّن دُونِهَا سِتْرًۭا
Translation: จนกระทั่งเมื่อเขาไปถึงดินแดนที่ตะวันขึ้น(95) เขาพบมันขึ้นเหนือกลุ่มชนหนึ่ง เรามิได้ทำที่กำบังแดดให้แก่พวกเขา(96)
Comment: (95)ที่กล่าวไว้ว่า เมื่อเขาไปถึงดินแดนที่ตะวันตก ณ ที่นี้ก็เช่นเดียวกันคือ เมื่อเขาเดินทางไปถึงดินแดนที่ตะวันขึ้นจุดมุ่งหมายก็คือทางขึ้นของตะวันออกในสายตาของผู้มอง อัลกุรอานมิได้กำหนดสถานที่ไว้อย่างแน่นอน
Comment: (96)คือเป็นดินแดนที่โล่งเตียน เปิดเผย ไม่มีตีกรามบ้านช่อง และไม่มีต้นไม้เป็นที่กำบัง
18:91
كَذَٰلِكَ وَقَدْ أَحَطْنَا بِمَا لَدَيْهِ خُبْرًۭا
Translation: เช่นนั้นแหละ เราหยั่งรู้ข่าวคราวที่เกี่ยวกับเขา
18:92
ثُمَّ أَتْبَعَ سَبَبًا
Translation: แล้วเขาได้มุ่งไปอีกทางหนึ่ง(ไปทางเหนือ)(97)
Comment: (97)เขาออกเดินทางไปยังแหล่งที่สาม คือระหว่างตะวันออกกับตะวันตก คือมุ่งสู่ทางเหนือที่มีภูเขาสูง ๆ
18:93
حَتَّىٰٓ إِذَا بَلَغَ بَيْنَ ٱلسَّدَّيْنِ وَجَدَ مِن دُونِهِمَا قَوْمًۭا لَّا يَكَادُونَ يَفْقَهُونَ قَوْلًۭا
Translation: จนกระทั่งเมื่อเขาไปถึงบริเวณหว่างภูผาทั้งสอง(98) เขาได้พบชนกลุ่มหนึ่งที่เชิงภูผาทั้งสอง นั้นซึ่งพวกเขาเกือบจะไม่เข้าใจคำพูดกันเลย(99)
Comment: (98)เมื่อไปถึงอาณาบริเวณที่มีภูเขาใหญ่ 2 ลูก
Comment: (99)ชนหมู่นั้นพูดหลายภาษา ทำความเข้าใจกันยาก
18:94
قَالُوا۟ يَـٰذَا ٱلْقَرْنَيْنِ إِنَّ يَأْجُوجَ وَمَأْجُوجَ مُفْسِدُونَ فِى ٱلْأَرْضِ فَهَلْ نَجْعَلُ لَكَ خَرْجًا عَلَىٰٓ أَن تَجْعَلَ بَيْنَنَا وَبَيْنَهُمْ سَدًّۭا
Translation: พวกเขากล่าวว่า “โอ้ ซุลก็อรนัยน์ แท้จริงยะอ์ญูจและมะอ์ญูจนั้นเป็นผู้บ่อนทำลายในแผ่นดินนี้ ดังนั้น เราขอมอบบรรดาณาการแก่ท่าน เพื่อท่านจะได้สร้างกำแพงกั้นระหว่างพวกเรากับพวกเขา”(100)
Comment: (100)ซุลก็อรนัยมีความเห็นว่า วิธีที่ง่ายและดีที่สุดในการสร้างกำแพงนั้นคือ ปิดทางผ่านระหว่างภูเขาทั้งสองลูก
18:95
قَالَ مَا مَكَّنِّى فِيهِ رَبِّى خَيْرٌۭ فَأَعِينُونِى بِقُوَّةٍ أَجْعَلْ بَيْنَكُمْ وَبَيْنَهُمْ رَدْمًا
Translation: เขากล่าวว่า “สิ่งที่พระผู้อภิบาลของฉันได้ให้อำนาจแก่ฉันดียิ่งกว่า ดังนั้นพวกท่านจงช่วยฉันด้วยกำลัง ฉันจะสร้างกำแพงแน่นหนากั้นระหว่างพวกท่านกับพวกเขา”
18:96
ءَاتُونِى زُبَرَ ٱلْحَدِيدِ ۖ حَتَّىٰٓ إِذَا سَاوَىٰ بَيْنَ ٱلصَّدَفَيْنِ قَالَ ٱنفُخُوا۟ ۖ حَتَّىٰٓ إِذَا جَعَلَهُۥ نَارًۭا قَالَ ءَاتُونِىٓ أُفْرِغْ عَلَيْهِ قِطْرًۭا
Translation: “พวกท่านจงเอาเหล็กท่อนโตๆ มาให้ฉัน” จนกระทั่งเมื่อเขาทำให้บริเวณภูผาทั้งสองราบเรียบเขาก็กล่าวว่า “จงเป่ามันด้วยเครื่องเป่าลม” จนกกระทั่งเมื่อเขาทำให้มันร้อนเป็นไฟ เขากล่าวว่า “ปล่อยให้ฉันเททองแดงหลอมลงไปบนมัน”(101)
Comment: (101)เขาใช้ให้ชาวบ้านนำเหล็กท่อนโตๆ มาวางเรียงเป็นกองพะเนินสูง แล้วจุดไฟเผาเหล็กจนร้องแดง หลังจากนั้นให้เอาทองแดงหลอมเทราดบนเหล็ก แล้วมันจะแข็งกล้า ในสมัยปัจจุบันก็ได้ค้นพบว่า การผสมทองแดงส่วนหนึ่งเข้ากับธาตุเหล็ก จะทำให้เหล็กมีความแข็งกล้าและทนทาน
18:97
فَمَا ٱسْطَـٰعُوٓا۟ أَن يَظْهَرُوهُ وَمَا ٱسْتَطَـٰعُوا۟ لَهُۥ نَقْبًۭا
Translation: ดังนั้น พวกเขา(ยะอ์ญูจและมะอ์ญูจ) ไม่สามารถจะข้ามมันได้ และไม่สามารถจะขุดโพรงผ่านมาได้(102)
Comment: (102)ด้วยการทำประตูเหล็กดังกล่าว พวกบ่อนทำลายคือยะอญูจ จึงไม่สามารถจะปืนป่ายข้ามไปได้เพราะความสูงและความลื่นเป็นมันของเหล็ก ในเวลาเดียวกันก็ไม่สามารถจะขุดเจาะประตูเหล็กได้ เพราะความแข็งกล้าของเหล็กนั่นเอง
18:98
قَالَ هَـٰذَا رَحْمَةٌۭ مِّن رَّبِّى ۖ فَإِذَا جَآءَ وَعْدُ رَبِّى جَعَلَهُۥ دَكَّآءَ ۖ وَكَانَ وَعْدُ رَبِّى حَقًّۭا
Translation: เขากล่าวว่า “นี่คือความเมตตาจากพระผู้เป็นเจ้าของฉัน ดังนั้น เมื่อสัญญาของพระผู้เป็นเจ้าของฉันมาถึง(103) พระองค์จะทรงทำให้มันพังทลาย และสัญญาของพระผู้เป็นเจ้าของฉันนั้นเป็นจริงเสมอ”
Comment: (103)คือเมื่อยะฮ์ญูจและมะอ์ญูจออกมา นั่นคือสัญญาณแห่งวันใกล้กิยามะฮ์จะเกิดขึ้น และประตูเหล็กที่ซุลก็อรนัยน์ได้ทำไว้นั้นก็จะพังราบเรียบ
18:99
۞ وَتَرَكْنَا بَعْضَهُمْ يَوْمَئِذٍۢ يَمُوجُ فِى بَعْضٍۢ ۖ وَنُفِخَ فِى ٱلصُّورِ فَجَمَعْنَـٰهُمْ جَمْعًۭا
Translation: และวันนั้นเราได้ปล่อยให้บางส่วนของพวกเขาปะทะกับอีกบางส่วน และสังข์จะถูกเป่าขึ้น(104) แล้วเราจะรวมพวกเขาทั้งหมด
Comment: (104)ในวันกิยามะฮ์มนุษย์จะเดินชนกัน เพราะความมากมายของพวกเขานั่นเอง แล้วสังข์จะถูกเป่าขึ้นเป็นครั้งที่สอง ในวันนั้นมนุษย์จะมารวมกันในสถานที่เดียวกัน เพื่อการสอบสวนและการตอบแทน
18:100
وَعَرَضْنَا جَهَنَّمَ يَوْمَئِذٍۢ لِّلْكَـٰفِرِينَ عَرْضًا
Translation: และวันนั้นเราจะนำนรกญะฮันนัม มาเปิดเผยแก่พวกปฏิเสธศรัทธา
18:101
ٱلَّذِينَ كَانَتْ أَعْيُنُهُمْ فِى غِطَآءٍ عَن ذِكْرِى وَكَانُوا۟ لَا يَسْتَطِيعُونَ سَمْعًا
Translation: คือบรรดาผู้ที่ดวงตาของพวกเขาถูกปกปิดจากการรำลึกถึงข้า และพวกเขาไม่สามารถจะได้ยิน(105)
Comment: (105)คือบรรดาผู้ที่ (ในโลกดุนยา) ดวงตาของเขาบอด ไม่พิจารณาใคร่ครวญถึงหลักฐานต่างๆ แห่งเดชานุภาพของอัลลอฮ์ และความเป็นเอกภาพของพระองค์ และไม่สามารถจะรับฟังพจนารถของอัลลอฮ์ ตะอาลา เพราะความมืดของหัวใจของพวกเขา
18:102
أَفَحَسِبَ ٱلَّذِينَ كَفَرُوٓا۟ أَن يَتَّخِذُوا۟ عِبَادِى مِن دُونِىٓ أَوْلِيَآءَ ۚ إِنَّآ أَعْتَدْنَا جَهَنَّمَ لِلْكَـٰفِرِينَ نُزُلًۭا
Translation: บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาได้คิดแล้วหรือว่า พวกเขาจะยึดเอาปวงบ่าวของข้าอื่นจากข้าเป็นผู้คุ้มครองได้(106) แท้จริงเราได้เตรียมนรกณะฮันนัมไว้เป็นที่พำนัก สำหรับบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาแล้ว
Comment: (106)ปวงบ่าวของข้าอื่นจากข้า เช่น มลาอิกะฮ์ อุไซร์ และมะซีห์อิบนุมัรยัม เป็นต้น
18:103
قُلْ هَلْ نُنَبِّئُكُم بِٱلْأَخْسَرِينَ أَعْمَـٰلًا
Translation: จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด “เราจะแจ้งแก่พวกท่านไหม ถึงบรรดาผู้ที่ขาดทุนยิ่งในการงาน?”
18:104
ٱلَّذِينَ ضَلَّ سَعْيُهُمْ فِى ٱلْحَيَوٰةِ ٱلدُّنْيَا وَهُمْ يَحْسَبُونَ أَنَّهُمْ يُحْسِنُونَ صُنْعًا
Translation: “คือบรรดาผู้ที่การขวนขวายของพวกเขาสูญสิ้นไป ในการมีชีวิตในโลกนี้(107) และพวกเขาคิดว่าแท้จริงพวกเขาปฏิบัติความดีแล้ว”
Comment: (107)คือการงานของพวกเขาเป็นโมฆะ และสูญหายในการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ เพราะการปฏิเสธศรัทธากับการจงรักภักดีจะอยู่ร่วมกันไม่ได้
18:105
أُو۟لَـٰٓئِكَ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ بِـَٔايَـٰتِ رَبِّهِمْ وَلِقَآئِهِۦ فَحَبِطَتْ أَعْمَـٰلُهُمْ فَلَا نُقِيمُ لَهُمْ يَوْمَ ٱلْقِيَـٰمَةِ وَزْنًۭا
Translation: เขาเหล่านั้นคือบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาต่อโองการทั้งหลายของพระผู้อภิบาลของพวกเขา(108) และการพบกับพระองค์ ดังนั้นการงานของพวกเขาจึงไร้ผล และในวันกิยามะฮ์เราจะไม่ให้มันมีค่าแก่พวกเขาเลย(109)
Comment: (108)คือปฏิเสธศรัทธาต่ออัลกุรอาน ต่อวันฟื้นคืนชีพ
Comment: (109)พวกเขาจะไม่มีคุณค่าและน้ำหนักอย่างใดเลย ณ ที่อัลลอฮ์
18:106
ذَٰلِكَ جَزَآؤُهُمْ جَهَنَّمُ بِمَا كَفَرُوا۟ وَٱتَّخَذُوٓا۟ ءَايَـٰتِى وَرُسُلِى هُزُوًا
Translation: นั่นแหละการตอบแทนของพวกเขาคือนรกญะฮันนัม เนื่องจากพวกเขาปฏิเสธศรัทธา และพวกเขายึดเอาโองการทั้งหลายของข้า และบรรดาร่อซูลของข้า เป็นที่ล้อเล่น
18:107
إِنَّ ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ وَعَمِلُوا۟ ٱلصَّـٰلِحَـٰتِ كَانَتْ لَهُمْ جَنَّـٰتُ ٱلْفِرْدَوْسِ نُزُلًا
Translation: แท้จริง บรรดาผู้ศรัทธาและปฏิบัติความดีสำหรับพวกเขานั้นคือสวนสวรรค์ชั้นฟิรเดาส์ เป็นที่พำนัก(110)
Comment: (110)คือสวรรค์ชั้นสูงสุดและยอดเยี่ยมที่สุด
18:108
خَـٰلِدِينَ فِيهَا لَا يَبْغُونَ عَنْهَا حِوَلًۭا
Translation: พวกเขาพำนักอย่างถาวรอยู่ในนั้น พวกเขาไม่ประสงค์จะเปลี่ยนที่จากมัน
18:109
قُل لَّوْ كَانَ ٱلْبَحْرُ مِدَادًۭا لِّكَلِمَـٰتِ رَبِّى لَنَفِدَ ٱلْبَحْرُ قَبْلَ أَن تَنفَدَ كَلِمَـٰتُ رَبِّى وَلَوْ جِئْنَا بِمِثْلِهِۦ مَدَدًۭا
Translation: จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด “หากว่าทะเลเป็นน้ำหมึกสำหรับบันทึกพจนารถของพระผู้อภิบาลของฉัน แน่นอน ทะเลจะเหือดแห้งก่อนที่คำกล่าวของพระผู้อภิบาลของฉันหมดสิ้นไป และแม้ว่าเราจะนำมันเยี่ยงนั้นมาเป็นน้ำหมึกอีกก็ตาม(111)
Comment: (111)ถึงแม้ว่าจะนำน้ำทะเลซึ่งเปรียบเทียบเป็นน้ำหมึกมาเพิ่มขึ้นอีกกี่เท่าตัวก็ตาม ก็ไม่สามารถบันทึกคำกล่าวหรือพจนารถของพระองค์ให้หมดได้
18:110
قُلْ إِنَّمَآ أَنَا۠ بَشَرٌۭ مِّثْلُكُمْ يُوحَىٰٓ إِلَىَّ أَنَّمَآ إِلَـٰهُكُمْ إِلَـٰهٌۭ وَٰحِدٌۭ ۖ فَمَن كَانَ يَرْجُوا۟ لِقَآءَ رَبِّهِۦ فَلْيَعْمَلْ عَمَلًۭا صَـٰلِحًۭا وَلَا يُشْرِكْ بِعِبَادَةِ رَبِّهِۦٓ أَحَدًۢا
Translation: จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด “แท้จริง ฉันเป็นเพียงสามัญชนคนหนึ่งเยี่ยงพวกท่าน มีวะฮีย์แก่ฉันว่าแท้จริง พระเจ้าของพวกท่านนั้นคือพระเจ้าองค์เดียว ดังนั้น ผู้ใดหวังที่จะพบพระผู้เป็นเจ้าของเขา(112) ก็ให้เขาประกอบการงานที่ดี(113) และอย่าตั้งผู้ใดเป็นภาคีในการเคารพภักดีต่อพระผู้เป็นเจ้าของเขาเลย”(114)
Comment: (112)หวังที่จะได้รับผลบุญการตอนแทน และกลัวการลงโทษของพระองค์
Comment: (113)คือให้ความบริสุทธิ์ในการอิบาดะฮ์ต่อพระองค์
Comment: (114)คืออย่างอวดอ้างผลงานของเขา และอย่างหวังในสิ่งที่เขาได้กระทำไปเพื่อใครอื่น นอกจากเพื่อพระพักตร์ของอัลลอฮ์ และเพื่อความโปรดปรานของพระองค์