سورة الإسراء
Al-Israa
The Night Journey
meccan . 111 Ayahs
بِسْمِ ٱللَّهِ ٱلرَّحْمَـٰنِ ٱلرَّحِيمِ
17:1
سُبْحَـٰنَ ٱلَّذِىٓ أَسْرَىٰ بِعَبْدِهِۦ لَيْلًۭا مِّنَ ٱلْمَسْجِدِ ٱلْحَرَامِ إِلَى ٱلْمَسْجِدِ ٱلْأَقْصَا ٱلَّذِى بَـٰرَكْنَا حَوْلَهُۥ لِنُرِيَهُۥ مِنْ ءَايَـٰتِنَآ ۚ إِنَّهُۥ هُوَ ٱلسَّمِيعُ ٱلْبَصِيرُ
Translation: มหาบริสุทธิ์ผู้ทรงนำบ่าวของพระองค์เดินทางในเวลากลางคืน จากมัสยิดอัลหะรอมไปยังมัสยิดอัลอักซอ(1) ซึ่งบริเวณรอบมันเราได้ให้ความจำเริญ เพื่อเราจะให้เขาเห็นบางอย่างจากสัญญาณต่างๆ ของเรา แท้จริง พระองค์คือผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงเห็น
Comment: (1)ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เดินทางจากมัสญิดอัลหะรอมในนครมักกะฮ์ ถึงมัสญิดอัลอักซอในนครเยรูซาเล็ม เพียงช่วงหนึ่งของกลางคืน ทั้งๆ ที่ระยะเวลาเดินทางโดยกองคาราวานจะใช้เวลาถึง 40 วัน การเดินทางในเวลากลางคืน(อัลอิสรออ์)ของท่านนบี ศ็อลลัลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้เกิดขึ้นทั้งวิญญาณและเรือนร่างของท่านขณะที่ท่านตื่นนอนมีสติสัมปชัญญะ มิใช่เป็นความฝันตามความคิดเห็นของคนบางคน พวกปฏิเสธซุนนะฮ์ที่ไม่ยอมเชื่อหะดีษเกี่ยวกับเหตุการณ์อิสรออ์และเมี๊ยะอ์รอจญ์ มีสภาพเช่นเดียวกับพวกปฏิเสธศรัทธา(กุฟฟาร) ที่กล่าวหาท่านนบีว่าพูดเท็จ ทั้งๆ ที่ท่านร่อซูลได้ยืนยันให้พวกเขาทราบว่า อัลลอฮ์ทรงให้ท่านเดินทางไปในเวลากลางคืนจากมัสยิดอัลหะรอมไปยังมัสยิดอัลอักซอ จากนั้น ทรงให้ท่านนบีขึ้นสู่เบื้องบนที่เรียกว่าเมี๊ยะอ์รอจญ์
17:2
وَءَاتَيْنَا مُوسَى ٱلْكِتَـٰبَ وَجَعَلْنَـٰهُ هُدًۭى لِّبَنِىٓ إِسْرَٰٓءِيلَ أَلَّا تَتَّخِذُوا۟ مِن دُونِى وَكِيلًۭا
Translation: และเราได้ให้คัมภีร์แก่มูซา(2) และเราได้ทำให้มันเป็นทางนำแก่วงศ์วานของอิสรออีลว่า อย่ายึดถือผู้ใดอื่นจากข้าเป็นผู้คุ้มครองอย่างเด็ดขาด
Comment: (2)คัมภีร์เตารอฮ์
17:3
ذُرِّيَّةَ مَنْ حَمَلْنَا مَعَ نُوحٍ ۚ إِنَّهُۥ كَانَ عَبْدًۭا شَكُورًۭا
Translation: โอ้ เผ่าพันธุ์ของเราได้บรรทุก (ไว้ในเรือ) กับนูห์เอ๋ย!(3) แท้จริง เขาเป็นบ่าวผู้กตัญญู
Comment: (3)หมายถึงลูกหลานของนบีนูห์
17:4
وَقَضَيْنَآ إِلَىٰ بَنِىٓ إِسْرَٰٓءِيلَ فِى ٱلْكِتَـٰبِ لَتُفْسِدُنَّ فِى ٱلْأَرْضِ مَرَّتَيْنِ وَلَتَعْلُنَّ عُلُوًّۭا كَبِيرًۭا
Translation: และเราได้แจ้งแก่วงศ์วานของอิสรออีลในคัมภีร์ว่า พวกเจ้าจะก่อการเสียหายในแผ่นดินสองครั้ง(4) และแน่นอน พวกเจ้าจะยโสโอหังยิ่ง
Comment: (4)คือจะก่อการเสียหายขึ้นในดินแดนปาเลสไตนฺและรอบๆ เมืองละสองครั้ง อิบนุอับบาสกล่าวว่า ความเสียหายครั้งแรกคือการฆ่านบีซะกะรียา ครั้งที่สองฆ่านบียะห์ยา อะลัยฮิมัสสลาม
17:5
فَإِذَا جَآءَ وَعْدُ أُولَىٰهُمَا بَعَثْنَا عَلَيْكُمْ عِبَادًۭا لَّنَآ أُو۟لِى بَأْسٍۢ شَدِيدٍۢ فَجَاسُوا۟ خِلَـٰلَ ٱلدِّيَارِ ۚ وَكَانَ وَعْدًۭا مَّفْعُولًۭا
Translation: ดังนั้น เมื่อสัญญาหนึ่งในสองครั้งได้มาถึง เราได้ส่งบรรดาบ่าวของเราผู้มีอำนาจเข้มแข็งเข้าครอบครอง(5) พวกเจ้า แล้วพวกเขาได้บุกเข้าค้นตามบ้านเรือน(6) และมันเป็นสัญญาที่ได้เกิดขึ้นแล้ว
Comment: (5)นักตัฟซีรกล่าวว่า เมื่อวงศ์วานของอิสรออีลได้อนุมัติสิ่งที่ต้องห้าม และก่อการนองเลือดขึ้น อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงให้กษัตริย์บุคตันศัรแห่งบาลิโลน เข้าครอบครองกรุงเยรูซาเล็ม วงศ์วานของอิสรออีลถูกฆ่าตายถึง 70,000 คน
Comment: (6)พวกบาบิโลนได้บุกตะลุยตามบ้านเรือน เพื่อฆ่าวงศ์วานอิสรออีลและฉกชิงทรัพย์สมบัติ โดยไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใด
17:6
ثُمَّ رَدَدْنَا لَكُمُ ٱلْكَرَّةَ عَلَيْهِمْ وَأَمْدَدْنَـٰكُم بِأَمْوَٰلٍۢ وَبَنِينَ وَجَعَلْنَـٰكُمْ أَكْثَرَ نَفِيرًا
Translation: และเราได้ให้พวกเจ้ากลับมีอำนาจเหนือพวกเขา และเราได้ให้พวกเจ้ามีทรัพย์สินและบุตรหลาน และเราได้ทำให้พวกเจ้ามีรี้พลมากมาย(7)
Comment: (7)คือเมื่อพวกอิสรออีลกลับตัวขออภัยโทษต่อพระเจ้าของพวกเขาแล้ว พระองค์ก็ทรงให้พวกเขากลับมีอำนาจขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งคือมีทรัพย์สินและพลเมืองมากขึ้น
17:7
إِنْ أَحْسَنتُمْ أَحْسَنتُمْ لِأَنفُسِكُمْ ۖ وَإِنْ أَسَأْتُمْ فَلَهَا ۚ فَإِذَا جَآءَ وَعْدُ ٱلْـَٔاخِرَةِ لِيَسُـۥٓـُٔوا۟ وُجُوهَكُمْ وَلِيَدْخُلُوا۟ ٱلْمَسْجِدَ كَمَا دَخَلُوهُ أَوَّلَ مَرَّةٍۢ وَلِيُتَبِّرُوا۟ مَا عَلَوْا۟ تَتْبِيرًا
Translation: หากพวกเจ้าทำความดี พวกเจ้าก็ทำเพื่อตัวของเจ้าเอง และหากว่าพวกเจ้าทำความชั่วก็เพื่อตัวเอง(8) ดังนั้น เมื่อสัญญาอีกข้อหนึ่งได้มาถึง(9) เพื่อพวกเขาก่อความอับอายขายหน้าแก่พวกเจ้า(10) และเพื่อเข้าไปในมัสยิดเช่นที่พวกเขาได้เข้าไปแล้วในครั้งแรก และเพื่อทำลายสิ่งที่พวกเขาได้ชัยชนะอย่างหมดสิ้น
Comment: (8)หมายถึงการทำความดีก็มิได้ให้คุณแก่พระองค์ และการทำชั่วก็มิได้ให้โทษแก่พระองค์เช่นกัน ทั้งคุณและโทษนั้นกลับไปหาตัวของพวกเขาเอง
Comment: (9)การก่อการเสียหายครั้งที่สองคือ การฆ่านบียะห์ยา
Comment: (10)อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงให้พวกมะญูซีย์จากเปอร์เซียเข้าไปครอบครอง ด้วยการฆ่าและทำลายล้างอย่างสิ้นเชิง
17:8
عَسَىٰ رَبُّكُمْ أَن يَرْحَمَكُمْ ۚ وَإِنْ عُدتُّمْ عُدْنَا ۘ وَجَعَلْنَا جَهَنَّمَ لِلْكَـٰفِرِينَ حَصِيرًا
Translation: หวังว่าพระผู้อภิบาลของพวกเจ้าจะทรงเมตตาแก่พวกเจ้า และหากพวกเจ้ากลับมา(ก่อกวน) อีกเราก็โต้กลับ(11) และเราได้ให้นรกเป็นที่คุมขังสำหรับผู้ปฏิเสธศรัทธา
Comment: (11)พวกอิสรออีลได้กลับมาทำการก่อการร้ายอีก อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงให้มุสลิมีนเข้าไปครอบครอง และไล่พวกอิสรออีลออกจากคาบสมุทรอาหรับ แล้วได้กลับมากระทำอีก พระองค์ทรงให้บ่าวของพระองค์เข้าไปมีอำนาจเหนือพวกเขา และเมื่อสงครามโลกครั้งที่สอง ฮิตเลอร์ แห่งเยอรมันนีได้สังหารพวกอิสรออีลนับจำนวนล้านคน ปัจจุบันอิสรออีลได้ก่อกวนสังหารชาวปาเลสไตน์อีก พระองค์จะทรงให้ผู้มีอำนาจเหนือกว่าเข้าไปกวาดล้างอีกเช่นกัน เพื่อให้เป็นไปตามสัญญาของพระองค์
17:9
إِنَّ هَـٰذَا ٱلْقُرْءَانَ يَهْدِى لِلَّتِى هِىَ أَقْوَمُ وَيُبَشِّرُ ٱلْمُؤْمِنِينَ ٱلَّذِينَ يَعْمَلُونَ ٱلصَّـٰلِحَـٰتِ أَنَّ لَهُمْ أَجْرًۭا كَبِيرًۭا
Translation: แท้จริง อัลกุรอานนี้นำสู่ทางที่เที่ยงตรงยิ่ง และแจ้งข่าวดีแก่บรรดาผู้ศรัทธาที่ประกอบความดีทั้งหลายว่า สำหรับพวกเขานั้นจะได้รับการตอบแทนอันยิ่งใหญ่(12)
Comment: (12)คือสวนสวรรค์อันสุขารมณ์
17:10
وَأَنَّ ٱلَّذِينَ لَا يُؤْمِنُونَ بِٱلْـَٔاخِرَةِ أَعْتَدْنَا لَهُمْ عَذَابًا أَلِيمًۭا
Translation: และแท้จริงบรรดาผู้ไม่ศรัทธาต่อโลกหน้านั้น เราได้เตรียมไว้สำหรับพวกเขาแล้วซึ่งการลงโทษอันเจ็บแสบ(13)
Comment: (13)คือนรกญะฮันนัมที่มีไฟลุกโชติช่วง
17:11
وَيَدْعُ ٱلْإِنسَـٰنُ بِٱلشَّرِّ دُعَآءَهُۥ بِٱلْخَيْرِ ۖ وَكَانَ ٱلْإِنسَـٰنُ عَجُولًۭا
Translation: และมนุษย์นั้นวิงวอนขอความชั้ว เยี่ยงการวิงวอนขอของเขาเพื่อความดี และมนุษย์นั้นเป็นผู้รีบร้อนเสมอ
17:12
وَجَعَلْنَا ٱلَّيْلَ وَٱلنَّهَارَ ءَايَتَيْنِ ۖ فَمَحَوْنَآ ءَايَةَ ٱلَّيْلِ وَجَعَلْنَآ ءَايَةَ ٱلنَّهَارِ مُبْصِرَةًۭ لِّتَبْتَغُوا۟ فَضْلًۭا مِّن رَّبِّكُمْ وَلِتَعْلَمُوا۟ عَدَدَ ٱلسِّنِينَ وَٱلْحِسَابَ ۚ وَكُلَّ شَىْءٍۢ فَصَّلْنَـٰهُ تَفْصِيلًۭا
Translation: และเราได้ทำให้กลางคืนและกลางวันเป็นสองสัญญาณ(14) ดังนั้น เราทำให้สัญญาณของกลางคืนมืดมน และเราได้ทำให้สัญญาณของกลางวันมีแสงสว่าง เพื่อพวกเจ้าจะได้แสวงหาความโปรดปรานจากพระผู้อภิบาลของพวกเจ้า(15) และเพื่อพวกเจ้าจะได้รู้จำนวนปีทั้งหลายและการคำนวณและทุกๆ สิ่งเราได้แจกแจงมันอย่างละเอียดแล้ว(16)
Comment: (14)สองสัญญาณอันยิ่งใหญ่เป็นการแสดงถึง ความเป็นเอกภาพและเดชานุภาพของอัลลอฮ์ ตะอาลา
Comment: (15)กลางคืนมืดเพื่อใช้เป็นเวลาพักผ่อน กลางวันมีแสงสว่างเพื่อประกอบธุรกิจในการยังชีพ
Comment: (16)ทุกสิ่งที่มีอยู่ในโลกนี้ มิใช่มีขึ้นโดยบังเอิญหรือไร้ประโยชน์ แต่ทว่าได้มีขึ้นโดยกำหนดสภาวะของพระผู้ปรีชาญาณ
17:13
وَكُلَّ إِنسَـٰنٍ أَلْزَمْنَـٰهُ طَـٰٓئِرَهُۥ فِى عُنُقِهِۦ ۖ وَنُخْرِجُ لَهُۥ يَوْمَ ٱلْقِيَـٰمَةِ كِتَـٰبًۭا يَلْقَىٰهُ مَنشُورًا
Translation: และมนุษย์ทุกคน เราได้ให้การงานของเขาแขวนติดไว้ที่ติดไว้ที่คอของเขา(17) และในวันกิยามะฮ์ เราจะเอาบันทึกออกมาให้เขาพบมันในสภาพที่กางแผ่(18)
Comment: (17)มนุษย์นั้นขึ้นอยู่กับการงานของเขา กล่าวคือการงานที่ดีหรือชั่วจะติดตัวเขาไปจนกระทั่งถึงวันชำระบาปบุญคุณโทษ
Comment: (18)บันทึกแห่งผลงานของเขาทั้งดีและชั่ว จะถูกกางแผ่ให้เจ้าของของมันได้เห็น
17:14
ٱقْرَأْ كِتَـٰبَكَ كَفَىٰ بِنَفْسِكَ ٱلْيَوْمَ عَلَيْكَ حَسِيبًۭا
Translation: เจ้าจงอ่านบันทึกของเจ้า พอเพียงแก่ตัวเจ้าแล้ว วันนี้ที่จะเป็นผู้ชำระของตัวเจ้าเอง(19)
Comment: (19)คือเจ้าจะเป็นพยานของตัวเจ้าเอง
17:15
مَّنِ ٱهْتَدَىٰ فَإِنَّمَا يَهْتَدِى لِنَفْسِهِۦ ۖ وَمَن ضَلَّ فَإِنَّمَا يَضِلُّ عَلَيْهَا ۚ وَلَا تَزِرُ وَازِرَةٌۭ وِزْرَ أُخْرَىٰ ۗ وَمَا كُنَّا مُعَذِّبِينَ حَتَّىٰ نَبْعَثَ رَسُولًۭا
Translation: ผู้ใดได้พบแนวทางที่ถูกต้อง แท้จริงเขาจะอยู่ในทางนั้นเพื่อตัวเขาเอง(20) และไม่มีผู้แบกภาระใดที่จะแบกภาระของผู้อื่นได้(21) และเรามิเคยลงโทษผู้ใด จนกว่าเราจะแต่งตั้งร่อซูลมา
Comment: (20)ผู้ใดได้พบฮิดายะฮ์เขาจะอยู่ในแนวทางนั้น และจะได้รับการตอบแทนที่เขาอยู่ในทางฮิดายะฮ์และผู้ใดหลง คือไม่ยอมรับแสงสว่างแห่งการฮิดายะฮ์ เขาก็จะได้รับโทษในการฝ่าฝืนและการหลงทางของเขา
Comment: (21)แบกภาระหมายถึงแบกความผิดหรือโทษ
17:16
وَإِذَآ أَرَدْنَآ أَن نُّهْلِكَ قَرْيَةً أَمَرْنَا مُتْرَفِيهَا فَفَسَقُوا۟ فِيهَا فَحَقَّ عَلَيْهَا ٱلْقَوْلُ فَدَمَّرْنَـٰهَا تَدْمِيرًۭا
Translation: และเมื่อเราปรารถนาที่จะทำลายหมู่บ้านใด เราได้บัญชาให้พวกฟุ่มเฟือยของมัน แล้วพวกเขาก็ฝ่าฝืน(22) ดังนั้น พระดำรัส(การลงโทษ)สมควรแล้วแก่มัน ฉะนั้นเราจะได้ทำลายมันอย่างพินาศ
Comment: (22)คือพระองค์จะบัญชาให้พวกฟุ่มเฟือยเจ้าสำราญหรือบรรดาหัวหน้า ให้จงรักภักดีปฏิบัติตามโองการต่างๆ ผ่านทางร่อซูลของพระองค์ แล้วพวกเขาก็ไม่ยอมปฏิบัติตามคำบัญชาของพระองค์ เมื่อนั้นแหละ พระองค์ก็จะเอาโทษพวกเขา ซึ่งเป็นการลงโทษที่สาสม
17:17
وَكَمْ أَهْلَكْنَا مِنَ ٱلْقُرُونِ مِنۢ بَعْدِ نُوحٍۢ ۗ وَكَفَىٰ بِرَبِّكَ بِذُنُوبِ عِبَادِهِۦ خَبِيرًۢا بَصِيرًۭا
Translation: และกี่ศตวรรษแล้วหลังจากนูห์ที่เราได้ทำลาย(23) และพอเพียงกับพระผู้อภิบาลของเจ้าผู้ทรงรอบรู้ ทรงเห็นความผิดของปวงบ่าวของพระองค์
Comment: (23)คือประชาชาติที่ปฏิเสธศรัทธาต่อบรรดาร่อซูลหลังจากนูห์ เช่น ชนชาติอ๊าด ษะมูดและฟิรอาวน์ อิบนุกะษีรกล่าวว่า ในโองการเป็นการเตือนพวกกุฟฟารกุเรช
17:18
مَّن كَانَ يُرِيدُ ٱلْعَاجِلَةَ عَجَّلْنَا لَهُۥ فِيهَا مَا نَشَآءُ لِمَن نُّرِيدُ ثُمَّ جَعَلْنَا لَهُۥ جَهَنَّمَ يَصْلَىٰهَا مَذْمُومًۭا مَّدْحُورًۭا
Translation: ผู้ใดปรารถนาชีวิตชั่วคราว (ในโลกนี้) เราก็จะเร่งให้เขาได้รับมัน ตามที่เราประสงค์แก่ผู้ที่เราปรารถนา(24) แล้วเราได้เตรียมนรกไว้สำหรับเขา เขาจะเข้าไปอย่างถูกเหยียดหยามถูกขับไส
Comment: (24)ผู้ใดมีความห่วงใยแต่ในเรื่องของโลกนี้ อัลลอฮ์ ตะอาลา จะเร่งเขาได้ตามที่พระองค์ทรงประสงค์ มิใช่ตามความปรารถนาของเขา
17:19
وَمَنْ أَرَادَ ٱلْـَٔاخِرَةَ وَسَعَىٰ لَهَا سَعْيَهَا وَهُوَ مُؤْمِنٌۭ فَأُو۟لَـٰٓئِكَ كَانَ سَعْيُهُم مَّشْكُورًۭا
Translation: และผู้ใดปรารถนาปรโลก และขวนขวายเพื่อมันอย่างจริงจัง โดยที่เขาเป็นผู้ศรัทธา ชนเหล่านั้นการขวนขวายของพวกเขาจะได้รับการชมเชย(25)
Comment: (25)ชนเหล่านี้ซึ่งรวมไว้ด้วยคุณลักษณะอันน่าสรรเสริญคือ ความบริสุทธิ์ใจ ประกอบการงานที่ดี และมีศรัทธา แน่นอนการงานของเขาจะถูกตอบรับ ณ ที่อัลลอฮ์อย่างดีที่สุด และได้รับการตอบแทนที่ดีด้วย
17:20
كُلًّۭا نُّمِدُّ هَـٰٓؤُلَآءِ وَهَـٰٓؤُلَآءِ مِنْ عَطَآءِ رَبِّكَ ۚ وَمَا كَانَ عَطَآءُ رَبِّكَ مَحْظُورًا
Translation: ทั้งหมด เราช่วยเขาเหล่านี้และเขาเหล่าโน้น จากการประทานให้ของพระผู้อภิบาลของเจ้า และการประทานให้ของพระเจ้าของเจ้านั้นมิถูกห้าม (แก่ผู้ใด)(26)
Comment: (26)คือแต่ละฝ่ายในสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งที่ปรารถนาเรื่องของโลกดุนยา อีกฝ่ายหนึ่งปรารถนาเรื่องของโลกอาคิเราะฮ์ อัลลอฮ์ ตะอาลา จะทรงประทานให้ทั้งสองฝ่ายอย่างกว้างขวาง เป็นความโปรดปรานและความดีงามจากพระองค์ พระองค์ทรงประทานริซกีให้แก่มุอ์มิน กาฟิร ผู้จงรักภักดีต่อพระองค์และผู้ที่ปฏิเสธดื้อดึง
17:21
ٱنظُرْ كَيْفَ فَضَّلْنَا بَعْضَهُمْ عَلَىٰ بَعْضٍۢ ۚ وَلَلْـَٔاخِرَةُ أَكْبَرُ دَرَجَـٰتٍۢ وَأَكْبَرُ تَفْضِيلًۭا
Translation: จงดูเถิด! เราได้ทำให้บางคนในหมู่พวกเขาดีเด่นกว่าอีกบางคนอย่างไร?(27) และแน่นอนปรโลกนั้นมีฐานะยิ่งใหญ่กว่าหลายชั้น และยิ่งใหญ่กว่าในทางดีเด่น
Comment: (27)อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงให้มีความแตกต่างกันระหว่างมนุษย์ ในด้านริซกีและมารยาทในการดำรงชีวิตอยู่ในโลกนี้ มีคนรวย คนจน คนมีเกียรติ และคนต่ำต้อย
17:22
لَّا تَجْعَلْ مَعَ ٱللَّهِ إِلَـٰهًا ءَاخَرَ فَتَقْعُدَ مَذْمُومًۭا مَّخْذُولًۭا
Translation: เจ้าอย่าตั้งพระเจ้าอื่นคู่เคียงกับอัลลอฮ์มิฉะนั้นเจ้าจะกลายเป็นผู้ถูกเหยียดหยามถูกทอดทิ้ง
17:23
۞ وَقَضَىٰ رَبُّكَ أَلَّا تَعْبُدُوٓا۟ إِلَّآ إِيَّاهُ وَبِٱلْوَٰلِدَيْنِ إِحْسَـٰنًا ۚ إِمَّا يَبْلُغَنَّ عِندَكَ ٱلْكِبَرَ أَحَدُهُمَآ أَوْ كِلَاهُمَا فَلَا تَقُل لَّهُمَآ أُفٍّۢ وَلَا تَنْهَرْهُمَا وَقُل لَّهُمَا قَوْلًۭا كَرِيمًۭا
Translation: และพระผู้อภิบาลของเจ้าบัญชาว่า พวกเจ้าอย่าเคารพภักดีผู้ใดนอกจากพระองค์เท่านั้นและจงทำดีต่อบิดามารดา(28) เมื่อผู้ใดในทั้งสองหรือทั้งสองบรรลุสู่วัยชราอยู่กับเจ้า ดังนั้นอย่ากล่าวแก่ทั้งสองว่า อุฟ !(29) และอย่าขู่เข็ญท่านทั้งสอง และจงพูดแก่ท่านทั้งสองด้วยถ้อยคำที่อ่อนโยน
Comment: (28)นักตัฟซีรกล่าวว่า การที่พระองค์ตรัสให้ทำความดีต่อบิดามารดา หลังจากใช้ให้เคารพภักดีต่อพระองค์เท่านั้น เป็นการแสดงให้เห็นถึงหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของบิดามารดาที่มีต่อบุตร เพราะทั้งสองเป็นต้นเหตุแห่งการเกิดและการมีชีวิตของเขา
Comment: (29)คำว่า “อุฟ” เป็นการแสดงออกถึงความไม่พอใจ
17:24
وَٱخْفِضْ لَهُمَا جَنَاحَ ٱلذُّلِّ مِنَ ٱلرَّحْمَةِ وَقُل رَّبِّ ٱرْحَمْهُمَا كَمَا رَبَّيَانِى صَغِيرًۭا
Translation: และจงนอบน้อมแก่ท่านทั้งสอง ซึ่งการถ่อมตนเนื่องจากความเมตตา และจงกล่าวว่า “ข้าแต่พระผู้อภิบาลของฉัน ทรงโปรดเมตตาแก่ท่านทั้งสองเช่นที่ทั้งสองได้เลี้ยงดูฉันเมื่อเยาว์วัย”(30)
Comment: (30)จงกระทำทุกอย่างเป็นการแสดงถึงความรักต่อท่านทั้งสอง เป็นต้นว่า การเอาอกเอาใจ การให้เกียรติ และยกย่องท่านทั้งสองต่อหน้าคนอื่น และจงขอพรดุอาอ์ให้แก่ท่านทั้งสองอยู่เสมอ โดยขอให้อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงอภัยโทษและโปรดปรานและเมตตาแก่ท่านทั้งสอง เสมือนกับที่ท่านทั้งสองได้เลี้ยงดูทนุถนอมเรามาเมื่อเรายังเป็นเด็ก
17:25
رَّبُّكُمْ أَعْلَمُ بِمَا فِى نُفُوسِكُمْ ۚ إِن تَكُونُوا۟ صَـٰلِحِينَ فَإِنَّهُۥ كَانَ لِلْأَوَّٰبِينَ غَفُورًۭا
Translation: พระเจ้าของพวกเจ้าทรงรู้ดียิ่งถึงสิ่งที่อยู่ในจิตใจของพวกเจ้า หากพวกเจ้าเป็นคนดี ดังนั้นพระองค์เป็นผู้ทรงอภัยแก่บรรดาผู้กลับเนื้อกลับตัวอย่างแน่นอน
17:26
وَءَاتِ ذَا ٱلْقُرْبَىٰ حَقَّهُۥ وَٱلْمِسْكِينَ وَٱبْنَ ٱلسَّبِيلِ وَلَا تُبَذِّرْ تَبْذِيرًا
Translation: และจงให้สิทธิแก่ญาติที่ใกล้ชิด และผู้ขัดสน และผู้เดินทาง และอย่าสุรุ่ยสุร่ายอย่างฟุ่มเฟือย(31)
Comment: (31)คืออย่าใช้จ่ายทรัพย์สินนอกหนทางของอัลลอฮ์และร่อซูล
17:27
إِنَّ ٱلْمُبَذِّرِينَ كَانُوٓا۟ إِخْوَٰنَ ٱلشَّيَـٰطِينِ ۖ وَكَانَ ٱلشَّيْطَـٰنُ لِرَبِّهِۦ كَفُورًۭا
Translation: แท้จริงบรรดาผู้สุรุ่ยสุร่ายนั้นเป็นพวกพ้องของเหล่าชัยฏอน และชัยฏอนนั้นเนรคุณต่อพระผู้อภิบาลของมัน(32)
Comment: (32)การใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่ายฟุ่มเฟือยนั้น คือการใช้จ่ายไปในทางที่ไม่จงรักภักดีต่ออัลลอฮ์ หรือในทางที่เป็นการฝ่าฝืนพระองค์ หรือในทางเสียหาย ฉะนั้น ผู้ใดปฏิบัติตนอยู่ในแนวทางนี้ เขาย่อมเป็นพี่น้องหรือพวกพ้องของชัยฏอน เพราะชัยฏอนนั้นมันเนรคุณพระเจ้าของมัน ดังนั้นผู้สุรุ่ยสุร่ายจึงอยู่ในสภาพเดียวกับชัยฏอน
17:28
وَإِمَّا تُعْرِضَنَّ عَنْهُمُ ٱبْتِغَآءَ رَحْمَةٍۢ مِّن رَّبِّكَ تَرْجُوهَا فَقُل لَّهُمْ قَوْلًۭا مَّيْسُورًۭا
Translation: และหากเจ้าผินหลังให้พวกเขา เพื่อแสวงหาความเมตตาจากพระผู้อภิบาลของเจ้า โดยหวังมันอยู่ ดังนั้น จงกล่าวแก่พวกเขาด้วยถ้อยคำที่นิ่มนวล(33)
Comment: (33)หากเจ้าผินหลังให้แก่ญาติสนิท ผู้ขัดสน และผู้เดินทาง เพราะเจ้าไม่มีสิ่งที่จะให้แก่พวกเขา ก็จงพูดกับพวกเขาด้วยคำพูดที่อ่อนโยน และให้ความหวังแก่พวกเขา
17:29
وَلَا تَجْعَلْ يَدَكَ مَغْلُولَةً إِلَىٰ عُنُقِكَ وَلَا تَبْسُطْهَا كُلَّ ٱلْبَسْطِ فَتَقْعُدَ مَلُومًۭا مَّحْسُورًا
Translation: และอย่าให้มือของเจ้าถูกตรึงอยู่ที่คอของเจ้า และอย่าแบมันจนหมดสิ้น มิฉะนั้น เจ้าจะกลายเป็นผู้ถูกประนาม เศร้าโศกเสียใจ(34)
Comment: (34)คืออย่าเป็นคนตระหนี่และสุรุ่ยสุร่าย แล้วท่านจะเสียใจภายหลัง
17:30
إِنَّ رَبَّكَ يَبْسُطُ ٱلرِّزْقَ لِمَن يَشَآءُ وَيَقْدِرُ ۚ إِنَّهُۥ كَانَ بِعِبَادِهِۦ خَبِيرًۢا بَصِيرًۭا
Translation: แท้จริง พระผู้อภิบาลของเจ้าทรงเพิ่มพูนปัจจัยยังชีพแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และทรงให้คับแคบ แท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงรอบรู้ เป็นผู้ทรงเห็นปวงบ่าวของพระองค์
17:31
وَلَا تَقْتُلُوٓا۟ أَوْلَـٰدَكُمْ خَشْيَةَ إِمْلَـٰقٍۢ ۖ نَّحْنُ نَرْزُقُهُمْ وَإِيَّاكُمْ ۚ إِنَّ قَتْلَهُمْ كَانَ خِطْـًۭٔا كَبِيرًۭا
Translation: และพวกเจ้าอย่าฆ่าลูกๆ ของพวกเจ้าเพราะกลัวความยากจน เราให้ปัจจัยยังชีพแก่พวกเขาและแก่พวกเจ้าโดยเฉพาะ(35) แท้จริงการฆ่าพวกเขานั้นเป็นความผิดอันใหญ่หลวง
Comment: (35)คือปัจจัยยังชีพของลูก ๆ และของท่านนั้นเป็นหน้าที่ของอัลลอฮ์ ตะอาลา ท่านอย่ากลัวความยากจนเพราะมีลูกมากเลย เพราะการกระทำเช่นนั้น มีสภาพเช่นเดียวกับพวกญาฮิลียะฮ์ ที่ฝังลูกผู้หญิงเพราะกลัวความยากจนและความอับอาย
17:32
وَلَا تَقْرَبُوا۟ ٱلزِّنَىٰٓ ۖ إِنَّهُۥ كَانَ فَـٰحِشَةًۭ وَسَآءَ سَبِيلًۭا
Translation: และพวกเจ้าอย่าเข้าใกล้การผิดประเวณี(36) แท้จริงมันเป็นการลามกและทางอันชั่วช้า(37)
Comment: (36)”อย่าเข้าใกล้การผิดประเวณี” สำนวนนี้มีความลึกซึ้งมากกว่า “ท่านอย่าผิดประเวณี” เพราะสำนวนแรกห้ามถึงการชี้แนะแนวทางที่จะนำไปสู่การผิดประเวณี เช่น การลูบคลำ การจูบ การมองอย่างมีตัณหา หรือการกระทำอื่นๆ ที่จะชักนำไปสู่การผิดประเวณี ดังนั้น การห้ามมิให้เข้าใกล้จึงมีความหมายลึกซึ้งกว่าการห้ามมิให้กระทำ
Comment: (37)คือทางไปสู่นรก
17:33
وَلَا تَقْتُلُوا۟ ٱلنَّفْسَ ٱلَّتِى حَرَّمَ ٱللَّهُ إِلَّا بِٱلْحَقِّ ۗ وَمَن قُتِلَ مَظْلُومًۭا فَقَدْ جَعَلْنَا لِوَلِيِّهِۦ سُلْطَـٰنًۭا فَلَا يُسْرِف فِّى ٱلْقَتْلِ ۖ إِنَّهُۥ كَانَ مَنصُورًۭا
Translation: และพวกเจ้าอย่าฆ่าชีวิตที่อัลลอฮ์ทรงห้ามไว้ เว้นแต่ด้วยความเที่ยงธรรม(38) และผู้ใดถูกฆ่าอย่างอยุติธรรม ดังนั้น เราได้ให้อำนาจแก่ผู้ปกครองของเขา(39) ฉะนั้น อย่าได้ล่วงเกินขอบเขตในเรื่องการฆ่า(40) แท้จริง เขา (ผู้ถูกอธรรม) จะได้รับความช่วยเหลือ
Comment: (38)คือที่บัญญัติอนุญาตให้ฆ่าได้ เช่น คนตกศาสนา ผู้ฆ่าโดยเจตนาผู้ผิดประเวณีที่แต่งงานแล้ว
Comment: (39)คือทายาทของเขามีหน้าที่ฆ่าเป็นการตอบแทน หรือรับค่าทำขวัญ หรือให้อภัย
Comment: (40)คือฆ่าคนที่มิใช่เป็นคนฆ่า หรือฆ่าผู่ที่ถูกตั้งเป็นตัวแทน หรือฆ่าสองคนต่อหนึ่งคน คือให้รักษาความยุติธรรมในการฆ่า
17:34
وَلَا تَقْرَبُوا۟ مَالَ ٱلْيَتِيمِ إِلَّا بِٱلَّتِى هِىَ أَحْسَنُ حَتَّىٰ يَبْلُغَ أَشُدَّهُۥ ۚ وَأَوْفُوا۟ بِٱلْعَهْدِ ۖ إِنَّ ٱلْعَهْدَ كَانَ مَسْـُٔولًۭا
Translation: และพวกเจ้าอย่าเข้าใกล้ทรัพย์สินของเด็กกำพร้า เว้นแต่โดยวิธีที่ดียิ่ง(41) จนกว่าเขาจะบรรลุศาสานภาวะ และจงให้ครบตามสัญญา(เพราะ) แท้จริงสัญญานั้นจะถูกสอบสวน(42)
Comment: (41)คือรักษาทรัพย์ของเขาไว้ หรือนำไปหาผลกำไรให้เพิ่มพูนยิ่งขึ้น
Comment: (42)คือรักษาสัญญาให้ครบถ้วน ถึงแม้ว่าจะเป็นสัญญากับอัลลอฮ์หรือกับมนุษย์ด้วยกันก็ตาม
17:35
وَأَوْفُوا۟ ٱلْكَيْلَ إِذَا كِلْتُمْ وَزِنُوا۟ بِٱلْقِسْطَاسِ ٱلْمُسْتَقِيمِ ۚ ذَٰلِكَ خَيْرٌۭ وَأَحْسَنُ تَأْوِيلًۭا
Translation: และจงตวงให้เต็ม เมื่อพวกเจ้าตวง และจงชั่งด้วยตาชั่งที่เที่ยงตรง(43) นั่นเป็นการดียิ่งและเป็นกานตัดสินใจที่ดีกว่า
Comment: (43)การรักษาในเรื่องของการชั่ง ตวง วัด ให้ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น เป็นการรักษาไว้ซึ่งอะมานะฮ์ ในการปฏิบัติซึ่งกันและกัน และเป็นการแสดงถึงการมีจิตใจที่สะอาดบริสุทธิ์ นอกจากนั้น ยังทำให้มีความเชื่อมั่นในจิตใจ และมีความสิริมงคลในการดำเนินชีวิตอีกด้วย
17:36
وَلَا تَقْفُ مَا لَيْسَ لَكَ بِهِۦ عِلْمٌ ۚ إِنَّ ٱلسَّمْعَ وَٱلْبَصَرَ وَٱلْفُؤَادَ كُلُّ أُو۟لَـٰٓئِكَ كَانَ عَنْهُ مَسْـُٔولًۭا
Translation: และอย่าติดตามสิ่งที่เจ้าไม่มีความรู้ในเรื่องนั้น แท้จริงหู และตา และหัวใจ ทุกสิ่งเหล่านั้นจะถูกสอบสวน(44)
Comment: (44)ก้อตาดะฮ์กล่าวไว้ว่า อย่าพูดว่า ฉันเห็น เมื่อท่านไม่เห็นกับตาเอง อย่าพูดว่าฉันได้ยิน เมื่อท่านไม่ได้ยินกับหูเอง และอย่าพูดว่าฉันรู้ เมื่อท่านไม่รู้ เพราะอัลลอ์ ตะอาลา จะทรงถามท่านในเรื่องนั้นทั้งหมด
17:37
وَلَا تَمْشِ فِى ٱلْأَرْضِ مَرَحًا ۖ إِنَّكَ لَن تَخْرِقَ ٱلْأَرْضَ وَلَن تَبْلُغَ ٱلْجِبَالَ طُولًۭا
Translation: และอย่าเดินบนแผ่นดินอย่างเย่อหยิ่งแท้จริงเจ้าจะแยกแผ่นดินไม่ได้เลย และจะไม่บรรลุความสูงของภูเขา(45)
Comment: (45)ความหมายคือ โอ้มนุษย์เอ๋ย ! เจ้านั้นอ่อนแอน่าสงสาร ไม่สมควรที่เจ้าจะแสดงความเย่อหยิ่งยโส เพราะเจ้านั้นต่ำต้อยและอ่อนแอยิ่งกว่าแผ่นดินและภูเขาเสียอีก
17:38
كُلُّ ذَٰلِكَ كَانَ سَيِّئُهُۥ عِندَ رَبِّكَ مَكْرُوهًۭا
Translation: ทั้งหมดนั้น ความเลวของมันเป็นที่รังเกียจยิ่ง ณ พระผู้อภิบาลของเจ้า(46)
Comment: (46)ที่กล่าวมาแล้วทั้งหมดนั้น อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงห้ามไว้
17:39
ذَٰلِكَ مِمَّآ أَوْحَىٰٓ إِلَيْكَ رَبُّكَ مِنَ ٱلْحِكْمَةِ ۗ وَلَا تَجْعَلْ مَعَ ٱللَّهِ إِلَـٰهًا ءَاخَرَ فَتُلْقَىٰ فِى جَهَنَّمَ مَلُومًۭا مَّدْحُورًا
Translation: นั่นคือส่วนหนึ่งจากที่พระผู้อภิบาลของเจ้าทรงประทานฮิกมะฮ์แก่เจ้า(47) และเจ้าอย่าตั้งพระเจ้าอื่นใดเคียงคู่กับอัลลอฮ์(48) มิฉะนั้น เจ้าจะถูกโยนลงในนรกญะฮันนัม เป็นผู้ถูกครหา ถูกขับไล่
Comment: (47)สิ่งที่พระองค์ทรงประทานให้เช่น เรื่องเกี่ยวกับจริยธรรม เรื่องราวต่างๆ ในอดีต และบัญญัติต่างๆ เกี่ยวกับข้อใช้ข้อห้าม ทั้งนี้เพื่อเป็นการตักเตือนและยึดถือเป็นแบบอย่าง
Comment: (48)จบอายะฮ์ด้วยการให้ความเป็นเอกภาพแด่อัลลอฮ์ เช่นเดียวกับที่ได้เริ่มด้วยเช่นกัน ทั้งนี้เป็นการชี้ให้ทราบว่า เรื่องของการเตาฮีดนั้นมีความสำคัญเป็นอันดับแรกและอันดับสุดท้าย การงานทุกอย่างที่ไม่มีหลักการเตาฮีด ก็จะไร้ผลและไม่บังเกิดประโยชน์อันใด
17:40
أَفَأَصْفَىٰكُمْ رَبُّكُم بِٱلْبَنِينَ وَٱتَّخَذَ مِنَ ٱلْمَلَـٰٓئِكَةِ إِنَـٰثًا ۚ إِنَّكُمْ لَتَقُولُونَ قَوْلًا عَظِيمًۭا
Translation: พระผู้อภิบาลของพวกเจ้าทรงเลือกลูกผู้ชายให้แก่พวกเจ้า และพระองค์ทรงเลือกเอามลาอิกะฮเป็นลูกผู้หญิงกระนั้นหรือ ? แท้จริงพวกเจ้านั้นกำลังกล่าวคำพูดที่ร้ายกาจอย่างแน่นอน
17:41
وَلَقَدْ صَرَّفْنَا فِى هَـٰذَا ٱلْقُرْءَانِ لِيَذَّكَّرُوا۟ وَمَا يَزِيدُهُمْ إِلَّا نُفُورًۭا
Translation: และโดยแน่นอน เราได้ชี้แจงในอัลกุรอานนี้(49) เพื่อพวกเขาจะได้รำลึก แต่มันมิได้เพิ่มสิ่งใดแก่พวกเขา นอกจากการเตลิดหนี(50)
Comment: (49)โดยมีตัวอย่าง คำแนะนำสั่งสอน สัญญาต่างๆ และข้อตักเตือน เพื่อที่จะได้รำลึกเพราะในนั้นมีหลักฐานอันชัดแจ้ง
Comment: (50)ถึงจะมีการชี้แจงถึงความสำคัญที่มีอยู่ในอัลกุรอาน ก็มิได้ทำให้พวกเขาเพิ่มการศรัทธาแต่ประการใด แต่กลับทำให้พวกเขาทำตัวห่างไกลจากความจริงมากยิ่งขึ้น
17:42
قُل لَّوْ كَانَ مَعَهُۥٓ ءَالِهَةٌۭ كَمَا يَقُولُونَ إِذًۭا لَّٱبْتَغَوْا۟ إِلَىٰ ذِى ٱلْعَرْشِ سَبِيلًۭا
Translation: จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด หากมีพระเจ้ามากหลายคู่เคียงกับพระองค์เช่นที่พวกเขากล่าว เมื่อนั้นแน่นอนพวกมันจะแสวงหาทางไปสู่พระผู้ทรงครองบัลลังก์(51)
Comment: (51)เช่นเดียวกับบรรดากษัตริย์ที่มีอยู่ในโลกนี้
17:43
سُبْحَـٰنَهُۥ وَتَعَـٰلَىٰ عَمَّا يَقُولُونَ عُلُوًّۭا كَبِيرًۭا
Translation: มหาบริสุทธิ์แห่งพระองค์ และพระองค์ทรงสูงส่งเหนือจากที่พวกเขากล่าว ทรงสูงส่งอย่างใหญ่หลวง
17:44
تُسَبِّحُ لَهُ ٱلسَّمَـٰوَٰتُ ٱلسَّبْعُ وَٱلْأَرْضُ وَمَن فِيهِنَّ ۚ وَإِن مِّن شَىْءٍ إِلَّا يُسَبِّحُ بِحَمْدِهِۦ وَلَـٰكِن لَّا تَفْقَهُونَ تَسْبِيحَهُمْ ۗ إِنَّهُۥ كَانَ حَلِيمًا غَفُورًۭا
Translation: ชั้นฟ้าทั้งเจ็ดและแผ่นดินและที่อยู่ในนั้น สดุดีสรรเสริญแด่พระองค์ และไม่มีสิ่งใดเว้นแต่จะสดุดีด้วยการสรรเสริญพระองค์แต่ว่าพวกเจ้าไม่เข้าใจคำสดุดีของพวกเขา(52) แท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงหนักแน่น ผู้ทรงอภัยเสมอ
Comment: (52)คือพวกเจ้าไม่เข้าใจภาษาการสดุดีของสิ่งต่างๆ เหล่านั้น
17:45
وَإِذَا قَرَأْتَ ٱلْقُرْءَانَ جَعَلْنَا بَيْنَكَ وَبَيْنَ ٱلَّذِينَ لَا يُؤْمِنُونَ بِٱلْـَٔاخِرَةِ حِجَابًۭا مَّسْتُورًۭا
Translation: และเมื่อเจ้าอ่านอัลกุรอาน เราได้กางม่านที่ถูกซ่อนไว้ กั้นระหว่างเจ้าและบรรดาผู้ไม่ศรัทธาต่อวันอาคิเราะฮ์(53)
Comment: (53)เพื่อมิให้เข้าใจอัลกุรอาน และจะไม่ตระหนักถึงเคล็ดลับและฮิกมะฮ์ของมัน
17:46
وَجَعَلْنَا عَلَىٰ قُلُوبِهِمْ أَكِنَّةً أَن يَفْقَهُوهُ وَفِىٓ ءَاذَانِهِمْ وَقْرًۭا ۚ وَإِذَا ذَكَرْتَ رَبَّكَ فِى ٱلْقُرْءَانِ وَحْدَهُۥ وَلَّوْا۟ عَلَىٰٓ أَدْبَـٰرِهِمْ نُفُورًۭا
Translation: และเราได้ทำฝาปิดบนหัวใจของพวกเขาเพื่อมิให้พวกเขาเข้าใจมัน (อัลกุรอาน) และในหูของพวกเขานั้นหนวก(54) และเมื่อเจ้ากล่าวถึงพระผู้อภิบาลของเจ้าในอัลกุรอานเพียงองค์เดียว พวกเขาก็ผินหลังของพวกเขาเตลิดหนี
Comment: (54)เพื่อมิให้พวกเขาได้ยินอัลกุรอาน
17:47
نَّحْنُ أَعْلَمُ بِمَا يَسْتَمِعُونَ بِهِۦٓ إِذْ يَسْتَمِعُونَ إِلَيْكَ وَإِذْ هُمْ نَجْوَىٰٓ إِذْ يَقُولُ ٱلظَّـٰلِمُونَ إِن تَتَّبِعُونَ إِلَّا رَجُلًۭا مَّسْحُورًا
Translation: เรารู้ดียิ่งถึงสิ่งที่พวกเขาฟังมัน ขณะที่พวกเขาเงี่ยหูฟังเจ้า และขณะที่พวกเขาปรึกษากันลับๆ(55) โดยพวกอธรรมกล่าวว่า“พวกท่านมิได้ตามผู้ใด นอกจากผู้ถูกเวทมนต์เท่านั้น”
Comment: (55)พวกเขาฟังการอ่านอัลกุรอานก็เพื่อเป็นการเยาะเย้ยและเหยียดหยาม
17:48
ٱنظُرْ كَيْفَ ضَرَبُوا۟ لَكَ ٱلْأَمْثَالَ فَضَلُّوا۟ فَلَا يَسْتَطِيعُونَ سَبِيلًۭا
Translation: จงดูเถิด! พวกเขายกอุทาหรณ์แก่เจ้าอย่างไร(56) ดังนั้น พวกเขาได้หลงแล้ว พวกเขาไม่สามารถหาทางใดๆ ได้
Comment: (56)บางครั้งพวกเขาพูดว่า ท่านเป็นมายากล บางครั้งเขาว่าท่านเป็นกวี บางครั้งก็ว่าเป็นคนบ้า
17:49
وَقَالُوٓا۟ أَءِذَا كُنَّا عِظَـٰمًۭا وَرُفَـٰتًا أَءِنَّا لَمَبْعُوثُونَ خَلْقًۭا جَدِيدًۭا
Translation: และพวกเขากล่าวว่า “เมื่อเราเป็นกระดูกและร่วนยุ่ยแล้ว แท้จริงเราจะถูกให้ฟื้นขึ้นเพื่อกำเนิดใหม่แน่หรือ" ?
17:50
۞ قُلْ كُونُوا۟ حِجَارَةً أَوْ حَدِيدًا
Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) “หากพวกท่านเป็นหินหรือเหล็ก”
17:51
أَوْ خَلْقًۭا مِّمَّا يَكْبُرُ فِى صُدُورِكُمْ ۚ فَسَيَقُولُونَ مَن يُعِيدُنَا ۖ قُلِ ٱلَّذِى فَطَرَكُمْ أَوَّلَ مَرَّةٍۢ ۚ فَسَيُنْغِضُونَ إِلَيْكَ رُءُوسَهُمْ وَيَقُولُونَ مَتَىٰ هُوَ ۖ قُلْ عَسَىٰٓ أَن يَكُونَ قَرِيبًۭا
Translation: ”หรือกำเนิดใดจากที่แข็งยิ่งในหัวอกของพวกท่านก็ตาม”(57) ดังนั้นพวกเขาจะกล่าวว่า “ผู้ใดเล่าจะให้เรากลับขึ้นมาอีก ?”จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด)“พระองค์ผู้ทรงบังเกิดพวกท่านเป็นครั้งแรก” แล้วพวกเขาก็สั่นศีรษะของพวกเขาแก่เจ้าพลางกล่าวว่า“เมื่อใดเล่า ?” จงกล่าวเถิด(มุฮัมหมัด) “หวังว่ามันใกล้เข้ามาแล้ว”
Comment: (57)คือพวกเจ้าจะเป็นผู้กำเนิดจากอื่นใดก็ตาม ที่ไกลที่สุดจากการมีชีวิตยิ่งกว่าหินหรือเหล็ก ซึ่งเป็นการยากลำบากที่พวกเจ้าจะวาดภาพให้มันเป็น ในสภาพเช่นนั้นอัลลอฮ์ ตะอาลา ก็จะทรงให้พวกเจ้ากลับฟื้นขึ้นมาอีกอย่างแน่นอน
17:52
يَوْمَ يَدْعُوكُمْ فَتَسْتَجِيبُونَ بِحَمْدِهِۦ وَتَظُنُّونَ إِن لَّبِثْتُمْ إِلَّا قَلِيلًۭا
Translation: วันที่พระองค์จะทรงเรียกร้องพวกเจ้าและพวกเจ้าจะตอบสนองด้วยการสรรเสริญพระองค์และพวกเจ้าจะนึกว่ามิได้อยู่ (ในโลกนี้) เว้นแต่เพียงชั่วครู่เท่านั้น
17:53
وَقُل لِّعِبَادِى يَقُولُوا۟ ٱلَّتِى هِىَ أَحْسَنُ ۚ إِنَّ ٱلشَّيْطَـٰنَ يَنزَغُ بَيْنَهُمْ ۚ إِنَّ ٱلشَّيْطَـٰنَ كَانَ لِلْإِنسَـٰنِ عَدُوًّۭا مُّبِينًۭا
Translation: และจงกล่าวแก่ปวงบ่าวของข้าที่พวกเขากล่าวแต่คำพูดที่ดียิ่งว่า แท้จริงชัยฏอนนั้นมันยุแหย่ระหว่างพวกเขา แท้จริงชัยฏอนนั้นเป็นศัตรูที่เปิดเผยของมนุษย์
17:54
رَّبُّكُمْ أَعْلَمُ بِكُمْ ۖ إِن يَشَأْ يَرْحَمْكُمْ أَوْ إِن يَشَأْ يُعَذِّبْكُمْ ۚ وَمَآ أَرْسَلْنَـٰكَ عَلَيْهِمْ وَكِيلًۭا
Translation: พระผู้อภิบาลของพวกเจ้าทรงรู้จักพวกเจ้าดียิ่ง หากพระองค์ทรงประสงค์พระองค์ก็จะทรงเมตตาพวกเจ้า(58) หรือหากพระองค์ทรงประสงค์พระองค์ก็จะทรงลงโทษพวกเจ้า(59) และเรามิได้ส่งเจ้ามาเป็นผู้คุ้มครองพวกเขาแต่ประการใด
Comment: (58)ด้วยการเตาฟีกไปสู่การศรัทธา
Comment: (59)ด้วยการให้ตายในสภาพของการปฏิเสธศรัทธาและการฝ่าฝืน
17:55
وَرَبُّكَ أَعْلَمُ بِمَن فِى ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضِ ۗ وَلَقَدْ فَضَّلْنَا بَعْضَ ٱلنَّبِيِّـۧنَ عَلَىٰ بَعْضٍۢ ۖ وَءَاتَيْنَا دَاوُۥدَ زَبُورًۭا
Translation: และพระผู้อภิบาลของเจ้าทรงรู้ดียิ่งถึงสิ่งที่อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และโดยแน่นอนเราได้เลือกนบีบางคนให้ดีเด่นกว่าอีกบางคน(60) และเราได้ให้ซะบูรแก่ดาวูด
Comment: (60)โดยฮิกมะฮ์ของเรา และเราคัดเลือกพวกเขาด้วยผลประโยชน์โดยเฉพาะ เราได้เลือกอิบรอฮึมเป็นมิตรของเรา มูซาผู้พูดกับเรา สุไลมานผู้มีอำนาจมากมาย และมุฮัมมัดด้วยการอิสรออ์และเมี๊ยะอ์รอจญ์ และเป็นผู้นำของประชาชาติทั้งในอดีตและปัจจุบัน
17:56
قُلِ ٱدْعُوا۟ ٱلَّذِينَ زَعَمْتُم مِّن دُونِهِۦ فَلَا يَمْلِكُونَ كَشْفَ ٱلضُّرِّ عَنكُمْ وَلَا تَحْوِيلًا
Translation: จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด “พวกท่านจงวิงวอนบรรดาสิ่งที่พวกท่านกล่าวอ้างอื่นจากพระองค์(61) พวกมันไม่มีอำนาจที่จะปลดเปลื้องความทุกข์ยากและเปลี่ยนแปลงมันจากพวกท่านได้”
Comment: (61)คือพระเจ้าหลายองค์หรือเจว็ด อัลหะซันกล่าวว่า หมายถึงมลาอิกะฮ์ อีซาและอุซัยร์ เพราะพวกเขากล่าวว่า เหล่านั้นสามารถช่วยเหลือพวกเขาได้ ณ ที่อัลลอฮ์
17:57
أُو۟لَـٰٓئِكَ ٱلَّذِينَ يَدْعُونَ يَبْتَغُونَ إِلَىٰ رَبِّهِمُ ٱلْوَسِيلَةَ أَيُّهُمْ أَقْرَبُ وَيَرْجُونَ رَحْمَتَهُۥ وَيَخَافُونَ عَذَابَهُۥٓ ۚ إِنَّ عَذَابَ رَبِّكَ كَانَ مَحْذُورًۭا
Translation: เหล่านั้นที่พวกเขาวิงวอนนั้น พวกมันก็ยังหวังที่จะหาทางเข้าสู่พระผู้อภิบาลของพวกมันว่า ผู้ใดในหมู่พวกมันจะเข้าใกล้ที่สุดและพวกมันยังหวังในความเมตตาของพระองค์ และกลัวการลงโทษของพระองค์ แท้จริงการลงโทษของพระผู้อภิบาลของเจ้านั้นควรน่าระวัง(62)
Comment: (62)บรรดาพระเจ้าหรือเจว็ดเหล่านั้น พวกมันเองก็ยังวิ่งเข้าหาพระเจ้าของมัน เพื่อหวังในความโปรดปรานของพระองค์ เพราะพวกมันกลัวการลงโทษของพระองค์ แต่ทำไมเล่าพวกเขาจึงเคารพบูชา และวิงวอนขอความช่วยเหลือจากมัน
17:58
وَإِن مِّن قَرْيَةٍ إِلَّا نَحْنُ مُهْلِكُوهَا قَبْلَ يَوْمِ ٱلْقِيَـٰمَةِ أَوْ مُعَذِّبُوهَا عَذَابًۭا شَدِيدًۭا ۚ كَانَ ذَٰلِكَ فِى ٱلْكِتَـٰبِ مَسْطُورًۭا
Translation: และไม่มีหมู่บ้านใดเว้นแต่เราเป็นผู้ทำลายมันก่อนถึงวันกิยามะฮ์ หรือเป็นผู้ลงโทษมันด้วยการลงโทษอย่างสาหัส(63) นั่นมันได้ถูกบันทึกไว้แล้วในบันทึก
Comment: (63)คือจะถูกทำลายอย่างถอนรากถอนโคน หรือชาวเมืองผู้ดื้อดึงฝ่าฝืนจะถูกลงโทษเป็นรายๆ ไป
17:59
وَمَا مَنَعَنَآ أَن نُّرْسِلَ بِٱلْـَٔايَـٰتِ إِلَّآ أَن كَذَّبَ بِهَا ٱلْأَوَّلُونَ ۚ وَءَاتَيْنَا ثَمُودَ ٱلنَّاقَةَ مُبْصِرَةًۭ فَظَلَمُوا۟ بِهَا ۚ وَمَا نُرْسِلُ بِٱلْـَٔايَـٰتِ إِلَّا تَخْوِيفًۭا
Translation: ไม่มีสิ่งใดยับยั้งเราโดยที่เราจะส่งสัญญาณต่างๆ เว้นแต่ว่าพวกสมัยก่อนๆ ได้ปฏิเสธมัน(64) และเราได้ให้อูฐตัวเมียเป็นที่ประจักษ์แจ้งแก่พวกษะมูด(65) แต่พวกเขาได้ทารุณมัน และเรามิได้ส่งสัญญาณต่างๆ เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเป็นการเตือนสำทับเท่านั้น
Comment: (64)บรรดานักตัฟซีรกล่าวว่า พวกมุชริกีนได้ขอร้องให้ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม นำปาฏิหาริย์ต่างๆ มา เช่น ขอให้ภูเขาศ่อฟาเป็นทอง และขอให้ภูเขามากหลายนั้นกลายเป็นที่ราบเรียบ อัลลอฮ์ ตะอาลา จึงบอกพวกเขาว่า หากพระองค์ทรงตอบรับสิ่งที่พวกเขาขอร้องนั้น แล้วพวกเขาไม่ยอมศรัทธา ก็เป็นการสมควรที่จะถูกลงโทษอย่างถอนรากถอนโคน แต่ด้วยฮิกมะฮ์ของพระองค์ พระองค์จึงผ่อนผัน ประวิงเวลาให้พวกเขา เพราะพระองค์ทรงรู้ดีว่า แน่นอนจะมีบางคนในหมู่พวกเขาและลูกหลานของพวกเขาศรัทธาต่อพระองค์ ด้วยเหตุนี้พระองค์จึงไม่ตอบรับข้อเรียกร้องของพวกเขา
Comment: (65)คือพระองค์ได้ส่งอูฐตัวเมียมาให้ชนชาติของนบีศอและฮ์ เป็นการแสดงถึงสัญญาณอันแจ้งชัดหรือปาฏิหาริย์อันเด่นชัด แต่พวกเขาได้ฆ่าทารุณมัน
17:60
وَإِذْ قُلْنَا لَكَ إِنَّ رَبَّكَ أَحَاطَ بِٱلنَّاسِ ۚ وَمَا جَعَلْنَا ٱلرُّءْيَا ٱلَّتِىٓ أَرَيْنَـٰكَ إِلَّا فِتْنَةًۭ لِّلنَّاسِ وَٱلشَّجَرَةَ ٱلْمَلْعُونَةَ فِى ٱلْقُرْءَانِ ۚ وَنُخَوِّفُهُمْ فَمَا يَزِيدُهُمْ إِلَّا طُغْيَـٰنًۭا كَبِيرًۭا
Translation: และจงรำลึกเมื่อเรากล่าวแก่เจ้าว่า แท้จริงพระผู้อภิบาลของเจ้าทรงรอบรู้ในเรื่องของมนุษย์และมิได้ทำให้การฝันซึ่งเราได้เจ้าเห็นเพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเป็นการทดสอบแก่มนุษย์(66) และต้นไม้(ซักกูม) ที่ถูกสาปในอัลกุรอาน และเราได้ทำให้พวกเขาหวาดกลัว ดังนั้น มันมิได้เพิ่มสิ่งใดแก่พวกเขา นอกจากการดื้อรั้นมาก(67)
Comment: (66)คือการที่พระองค์ทรงให้ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้เห็นด้วยตาของท่านเองในคืนอัลเมียะอ์ราจญ์ซึ่งสิ่งประหลาดมากหลายบนแผ่นดินและชั้นฟ้า ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการทดสอบการอีมานของชาวมักกะฮ์นั่นเอง
Comment: (67)พระองค์ทรงเตือน พวกมุชริกีนด้วยการลงโทษนานาชนิด แต่พวกเขาก็หาได้เข็ดหลาบหรือสำนึกตัวไม่ หากแต่พวกเขากลับทวีความดื้อรั้นและความยโสมากขึ้น
17:61
وَإِذْ قُلْنَا لِلْمَلَـٰٓئِكَةِ ٱسْجُدُوا۟ لِـَٔادَمَ فَسَجَدُوٓا۟ إِلَّآ إِبْلِيسَ قَالَ ءَأَسْجُدُ لِمَنْ خَلَقْتَ طِينًۭا
Translation: และจงรำลึกเมื่อเรากล่าวแก่มลาอิกะฮ์ว่า “จงสุญูดต่ออาดัม”(68) ดังนั้นพวกเขาได้สุญูดเว้นแต่อิบลีส มันกล่าวว่า “ฉันจะสุญูดต่อผู้ที่พระองค์ทรงสร้างจากดินกระนั้นหรือ ?”
Comment: (68)เป็นการสุญูดเพื่อให้เกียรติ มิใช่สุญูดอิบาดะฮ์
17:62
قَالَ أَرَءَيْتَكَ هَـٰذَا ٱلَّذِى كَرَّمْتَ عَلَىَّ لَئِنْ أَخَّرْتَنِ إِلَىٰ يَوْمِ ٱلْقِيَـٰمَةِ لَأَحْتَنِكَنَّ ذُرِّيَّتَهُۥٓ إِلَّا قَلِيلًۭا
Translation: มันกล่าวว่า “พระองค์ทรงเห็นแล้วมิใช่หรือ เขาผู้นี้ที่พระองค์ทรงให้เกียรติมากกว่าฉันหากพระองค์ทรงโปรดประวิงเวลาแก่ฉันจนถึงวันกิยามะฮ์ แน่นอนฉันจะทำลายล้างลูกหลานของเขาให้หมดสิ้น เว้นแต่เพียงเล็กน้อย”
17:63
قَالَ ٱذْهَبْ فَمَن تَبِعَكَ مِنْهُمْ فَإِنَّ جَهَنَّمَ جَزَآؤُكُمْ جَزَآءًۭ مَّوْفُورًۭا
Translation: พระองค์ตรัสว่า “เจ้าจงไปให้พ้น(69) ดังนั้น ผู้ใดในหมู่พวกเขาปฏิบัติตามเจ้า แท้จริง นรกคือการตอบแทนของพวกเจ้าเป็นการตอบแทนที่สมบูรณ์"
Comment: (69)เป็นสำนวนขับไล่ที่จะลดเกียรติของผู้ถูกขับไล่
17:64
وَٱسْتَفْزِزْ مَنِ ٱسْتَطَعْتَ مِنْهُم بِصَوْتِكَ وَأَجْلِبْ عَلَيْهِم بِخَيْلِكَ وَرَجِلِكَ وَشَارِكْهُمْ فِى ٱلْأَمْوَٰلِ وَٱلْأَوْلَـٰدِ وَعِدْهُمْ ۚ وَمَا يَعِدُهُمُ ٱلشَّيْطَـٰنُ إِلَّا غُرُورًا
Translation: ”และเจ้าจงยั่วยวนผู้ที่เจ้าสามารถทำให้เขาหลงในหมู่พวกเขาด้วยเสียงของเจ้า(70) และชักชวนพวกเขาให้เห็นพ้องด้วยด้วยม้าของเจ้าและด้วยเท้าของเจ้า(71) และจงร่วมกับพวกเขาในทรัพย์สินและลูกหลาน(72) และจงสัญญาพวกเขา ”และชัยฏอนมิได้ให้สัญญาใดๆ แก่พวกเขา เว้นแต่เป็นการหลอกลวงเท่านั้น(73)
Comment: (70)คือล่อลวงให้เขาหลง อิบนุอับบาสกล่าวว่า ด้วยเสียงของมันคือการเรียกร้องเชิญชวนของมันทุกอย่าง ที่จะนำไปสู่การฝ่าฝืนอัลลอฮ์ ตะอาลา มุญาฮิดกล่าวว่า เสียงของมันคือเสียงเพลง เสียงดนตรี และการละเล่นต่าง ๆ
Comment: (71)การชักชวนของมันพร้อมด้วยลูกน้องและสมัครพรรคพวกของมัน จะโดยทางยานพาหนะหรือการเดินด้วยเท้าก็ตาม
Comment: (72)จงร่วมกับพวกเขา (หมายถึงมนุษย์) คือเป็นหุ้นส่วนกับพวกเขาในทรัพย์สิน สนับสนุนให้เขาแสวงหาอาชีพในทางทุจริตในทางหะรอมและใช้จ่ายไปในทางที่เป็นมะอ์ศิยัต ส่วนการเป็นหุ้นส่วนในลูกหลานก็คือ สนับสนุนให้มีการสังคมที่ปะปนกันระหว่างชายกับหญิง จนกระทั่งนำไปสู่การกระทำที่ไม่ถูกต้องตามบัญญัติศาสนา และเกิดลูกหลานจากการซินามากขึ้น
Comment: (73)คือสัญญาที่ยั่วยวนและให้ความหวังที่เลื่อนลอย เช่น สัญญาว่าพวกเจว็ดจะให้ความช่วยเหลือได้ สัญญาว่าจะร่ำรวยจากทรัพย์สินที่หะรอม ฯลฯ
17:65
إِنَّ عِبَادِى لَيْسَ لَكَ عَلَيْهِمْ سُلْطَـٰنٌۭ ۚ وَكَفَىٰ بِرَبِّكَ وَكِيلًۭا
Translation: ”แท้จริงปวงบ่าวของข้านั้น เจ้าไม่มีอำนาจใดๆ เหนือพวกเขา และพอเพียงแล้วที่พระผู้อภิบาลของเจ้าเป็นผู้คุ้มครอง”(74)
Comment: (74)คือบ่าวของพระองค์ที่จงรักภักดีและมีความบริสุทธิ์ใจต่อพระองค์ เขาเหล่านั้น พวกชัยฏอนไม่มีอำนาจที่จะไปเกลี้ยกล่อมให้เป็นพวกของมันได้ เพราะพระองค์ทรงคุ้มครองรักษาพวกเขาอยู่
17:66
رَّبُّكُمُ ٱلَّذِى يُزْجِى لَكُمُ ٱلْفُلْكَ فِى ٱلْبَحْرِ لِتَبْتَغُوا۟ مِن فَضْلِهِۦٓ ۚ إِنَّهُۥ كَانَ بِكُمْ رَحِيمًۭا
Translation: พระผู้อภิบาลของพวกเจ้าคือผู้ทรงให้เรือแล่นตามท้องทะเล เพื่อพวกเจ้าจะได้แสวงหาความโปรดปรานของพระองค์(75) แท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงเมตตาแก่พวกเจ้าเสมอ
Comment: (75)คือแสวงหาริซกีของเขาในการเดินทาง และการทำมาค้าขาย
17:67
وَإِذَا مَسَّكُمُ ٱلضُّرُّ فِى ٱلْبَحْرِ ضَلَّ مَن تَدْعُونَ إِلَّآ إِيَّاهُ ۖ فَلَمَّا نَجَّىٰكُمْ إِلَى ٱلْبَرِّ أَعْرَضْتُمْ ۚ وَكَانَ ٱلْإِنسَـٰنُ كَفُورًا
Translation: และเมื่อทุกข์ภัยประสบแก่พวกเจ้าในท้องทะเล ผู้ที่พวกเจ้าวิงวอนขอก็จะสูญหายไปเว้นแต่พระองค์เท่านั้น(76) ต่อมาเมื่อพระองค์ทรงช่วยให้พวกเจ้ารอดพ้นขึ้นบก พวกเจ้าก็หันหลังออกไป และมนุษย์นั้นเป็นผู้เนรคุณเสมอ(77)
Comment: (76)คือพวกเจว็ดที่พวกเขาเคารพบูชาอยู่ก็ได้หายไปจากความนึกคิดของพวกเขา ในสภาพเช่นนี้มนุษย์ไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากหันหน้าเข้าหาอัลลอฮ์ ตะอาลา องค์เดียวเท่านั้น
Comment: (77)มนุษย์นั้นเนรคุณต่อความโปรดปรานแห่งพระผู้ทรงเมตตา
17:68
أَفَأَمِنتُمْ أَن يَخْسِفَ بِكُمْ جَانِبَ ٱلْبَرِّ أَوْ يُرْسِلَ عَلَيْكُمْ حَاصِبًۭا ثُمَّ لَا تَجِدُوا۟ لَكُمْ وَكِيلًا
Translation: พวกเจ้าจะปลอดภัยละหรือ หากพระองค์จะทรงให้ริมฝั่งนั้นถล่มลงไปกับพวกเจ้า(78) หรือจะทรงส่งลมหอบกรวดกระหน่ำลงมาใส่พวกเจ้าแล้วพวกเจ้าจะไม่พบผู้ใดเป็นผู้คุ้มครองพวกเจ้าเลย
Comment: (78)เมื่อพวกท่านรอดพ้นจากการจมน้ำตายในน่านน้ำ แล้วจะมาพบกับแผ่นดินสูบอีก ถ้าหากพระองค์ทรงประสงค์จะกระทำเช่นนั้น พวกท่านจะปลอดภัยละหรือ ?
17:69
أَمْ أَمِنتُمْ أَن يُعِيدَكُمْ فِيهِ تَارَةً أُخْرَىٰ فَيُرْسِلَ عَلَيْكُمْ قَاصِفًۭا مِّنَ ٱلرِّيحِ فَيُغْرِقَكُم بِمَا كَفَرْتُمْ ۙ ثُمَّ لَا تَجِدُوا۟ لَكُمْ عَلَيْنَا بِهِۦ تَبِيعًۭا
Translation: หรือพวกเจ้าจะปลอดภัยละหรือ หากพระองค์จะทรงนำพวกเจ้ากลับไปในนั้นอีกครั้งหนึ่ง(79) แล้วทรงส่งลมพายุร้ายกระหน่ำพวกเจ้า แล้วให้พวกเจ้าจมน้ำตายเพราะพวกเจ้าเนรคุณ หลังจากนั้น พวกเจ้าก็จะไม่พบผู้ใดแก้แค้นแทนเรา
Comment: (79)คือพระองค์จะทรงนำพวกท่านกลับไปในทะเลอีกครั้งหนึ่ง
17:70
۞ وَلَقَدْ كَرَّمْنَا بَنِىٓ ءَادَمَ وَحَمَلْنَـٰهُمْ فِى ٱلْبَرِّ وَٱلْبَحْرِ وَرَزَقْنَـٰهُم مِّنَ ٱلطَّيِّبَـٰتِ وَفَضَّلْنَـٰهُمْ عَلَىٰ كَثِيرٍۢ مِّمَّنْ خَلَقْنَا تَفْضِيلًۭا
Translation: และโดยแน่นอน เราได้ให้เกียรติแก่ลูกหลานของอาดัม(80) และเราได้บรรทุกพวกเขาทั้งทางบกและทางทะเล และได้ให้ปัจจัยยังชีพที่ดีทั้งหลายแก่พวกเขา(81) และเราได้ให้พวกเขาดีเด่นอย่างมีเกียรติเหนือกว่าผู้ที่เราได้ให้บังเกิดมาเป็นส่วนใหญ่
Comment: (80)คือให้เกียรติเหนือกว่าบรรดามัคลูกทั้งหลาย ด้วยการประทานสติปัญญา วิชาความรู้ การพูด การสนทนาและให้ทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลเป็นประโยชน์แก่พวกเขา
Comment: (81)คืออาหารและเครื่องดื่มที่มีรสชาติดี
17:71
يَوْمَ نَدْعُوا۟ كُلَّ أُنَاسٍۭ بِإِمَـٰمِهِمْ ۖ فَمَنْ أُوتِىَ كِتَـٰبَهُۥ بِيَمِينِهِۦ فَأُو۟لَـٰٓئِكَ يَقْرَءُونَ كِتَـٰبَهُمْ وَلَا يُظْلَمُونَ فَتِيلًۭا
Translation: วันที่เราจะเรียกร้องมหาชนทั้งหลาย(82) พร้อมด้วยบันทึกของพวกเขา ดังนั้น ผู้ใดที่บันทึกของเขาถูกยื่นให้ทางขวาของเขา(83) เขาเหล่านั้นก็จะได้อ่านบันทึกของพวกเขา(84) โดยที่พวกเขาจะไม่ถูกอธรรมแม้แต่น้อย(85)
Comment: (82)คือวันฟื้นคืนชีพที่มนุษย์ทั้งมวลจะไปรวมกันที่ทุ่งมะห์ชัร
Comment: (83)คือบรรดาผู้ที่มีความสุข หมายถึงผู้ที่มองเห็นการณ์ไกล ผู้มีสติปัญญา และผู้ยำเกรงอัลลอฮ์ ตะอาลา
Comment: (84)อ่านความดีงามของพวกเขาด้วยความดีใจ เพราะพวกเขาได้รับบันทึกของพวกเขาทางเบื้องขวา
Comment: (85)ผลตอบแทนแห่งการงานของพวกเขา จะไม่ถูก ลดหย่อนหรือบกพร่องแต่ประการใด
17:72
وَمَن كَانَ فِى هَـٰذِهِۦٓ أَعْمَىٰ فَهُوَ فِى ٱلْـَٔاخِرَةِ أَعْمَىٰ وَأَضَلُّ سَبِيلًۭا
Translation: และผู้ใดบอดในโลกนี้(86) ดังนั้นเขาก็จะตาบอดในอาคิเราะฮ์ด้วย และหลงทางอย่างไกลยิ่ง(87)
Comment: (86)คือบอดทางใจ เขาจะไม่พบทางเดินไปสู่สัจธรรมและความดีเลย
Comment: (87)ในปรโลกเขาจะตาบอดและหลงทางที่ไกลยิ่ง จากทางแห่งความสันติสุขและความรอดพ้น
17:73
وَإِن كَادُوا۟ لَيَفْتِنُونَكَ عَنِ ٱلَّذِىٓ أَوْحَيْنَآ إِلَيْكَ لِتَفْتَرِىَ عَلَيْنَا غَيْرَهُۥ ۖ وَإِذًۭا لَّٱتَّخَذُوكَ خَلِيلًۭا
Translation: และหากว่าพวกเขาจะทำให้เจ้าหลงไปจากที่เราได้วะฮีย์แก่เจ้า เพื่อเจ้าจะได้กุสิ่งอื่นขึ้นแก่เรา(88) และเมื่อนั้นแหละพวกเขาก็จะคบเจ้าเป็นเพื่อนสนิท
Comment: (88)เพื่อให้เจ้านำสิ่งอื่นจากที่อัลลอฮ์ทรงวะฮีแก่เจ้า และเป็นการผิดจากที่พระองค์ทรงบัญชา
17:74
وَلَوْلَآ أَن ثَبَّتْنَـٰكَ لَقَدْ كِدتَّ تَرْكَنُ إِلَيْهِمْ شَيْـًۭٔا قَلِيلًا
Translation: และหากว่าเรามิได้ให้เจ้าตั้งมั่นอยู่บนความจริงแล้ว โดยแน่นอนยิ่ง เจ้าอาจจะโน้มเอียงไปทางพวกเขาบ้างเล็กน้อย
17:75
إِذًۭا لَّأَذَقْنَـٰكَ ضِعْفَ ٱلْحَيَوٰةِ وَضِعْفَ ٱلْمَمَاتِ ثُمَّ لَا تَجِدُ لَكَ عَلَيْنَا نَصِيرًۭا
Translation: ถ้าเช่นนั้น แน่นอนเราก็จะให้เจ้าลิ้มรส(การลงโทษ) สองเท่าในชีวิตนี้ และสองเท่าเมื่อยามตาย(89) แล้วเจ้าจะไม่พบผู้ช่วยเหลือแก่เจ้าให้พ้นจาก (การลงโทษของ) เรา
Comment: (89)คือจะได้รับโทษสองเท่าทั้งในโลกนี้และปรโลก ความมุ่งหมายของอายะฮ์นี้คือ ชี้แจงถึงความโปรดปรานของอัลลอฮ์ที่มีต่อท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ในการให้ตั้งอยู่บนสัจธรรม และคุ้มครองให้พ้นจากการล่อลวงของพวกมุชริกีน
17:76
وَإِن كَادُوا۟ لَيَسْتَفِزُّونَكَ مِنَ ٱلْأَرْضِ لِيُخْرِجُوكَ مِنْهَا ۖ وَإِذًۭا لَّا يَلْبَثُونَ خِلَـٰفَكَ إِلَّا قَلِيلًۭا
Translation: และหากพวกเขายุแหย่ให้เจ้าออกจากแผ่นดิน เพื่อขับไล่เจ้าออกไป และเมื่อนั้นพวกเขาจะไม่พำนักอยู่นานหลังจากเจ้า(ออกไปแล้ว) เว้นแต่ช่วงเวลาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น(90)
Comment: (90)ก้อตาดะฮ์ กล่าวว่า ชาวมักกะฮ์ตั้งใจที่จะขับท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ออกจากมักกะฮ์ หากพวกเขาทำเช่นนั้น พวกเขาจะได้รับโทษทันที แต่ทว่าอัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงยับยั้งเอาไว้ จนกระทั่งพระองค์ทรงบัญชาให้ท่านออกจากนครมักกะฮ์ โดยอพยพไปตั้งภูมิลำเนาใหม่ ณ นครมะดีนะฮ์
17:77
سُنَّةَ مَن قَدْ أَرْسَلْنَا قَبْلَكَ مِن رُّسُلِنَا ۖ وَلَا تَجِدُ لِسُنَّتِنَا تَحْوِيلًا
Translation: นี่คือแนวทางของผู้ที่เราได้ส่งเขามาก่อนเจ้าจากบรรดาร่อซูลของเรา และเจ้าจะไม่พบการเปลี่ยนแปลงในแนวทางของเราแต่ประการใด(91)
Comment: (91)พวกมุชริกีนได้ใช้ความพยายามหลายรูปแบบ เช่น การต่อรองของพวกเขาต่อท่านนบี โดยพวกเขาจะเคารพอิบาดะฮ์พระเจ้าของเขา (คืออัลลอฮ์) เป็นการแลกเปลี่ยนกับการขอร้องให้ท่านนบีละทิ้งการประณามพระเจ้าของพวกเขา และสิ่งที่บรรพบุรุษของพวกเขาเคารพบูชาอยู่ และการต่อรองของบางคนในหมู่พวกเขา ที่จะให้ดินแดนของพวกเขาเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ถูกหวงห้าม และการต่อรองโดยขอร้องให้บรรดาผู้นำของพวกเขา มีสถานที่ชุมนุมโดยเฉพาะ อื่นจากที่ชุมนุมของพวกยากจนขัดสนของพวกมุสลิมีน
17:78
أَقِمِ ٱلصَّلَوٰةَ لِدُلُوكِ ٱلشَّمْسِ إِلَىٰ غَسَقِ ٱلَّيْلِ وَقُرْءَانَ ٱلْفَجْرِ ۖ إِنَّ قُرْءَانَ ٱلْفَجْرِ كَانَ مَشْهُودًۭا
Translation: จงดำรงการละหมาดไว้ตั้งแต่ตะวันคล้อยจนพลบค่ำ และการอ่านยามรุ่งอรุณ(92) จริงการอ่านยามรุ่งอรุณนั้นเป็นพยานยืนยันเสมอ
Comment: (92)ที่ใช้สำนวน “การอ่านยามรุ่งอรุณ” ก็เพราะว่าการละหมาดเวลาฟัจรฺนั้นชอบให้อ่านต้นยาวๆ ในอายะฮ์นี้ เป็นการชี้แนะถึงเวลาละหมาดที่ถูกกำหนดไว้ คือละหมาดตั้งแต่ตะวันคล้อย หมายถึงละหมาดซุฮ์ริ และอัลอัศรฺ พลบค่ำหมายถึงเวลามักริบ และอิชาอ์ ยามรุ่งอรุณหมายถึงละหมาดศุบฮ์
17:79
وَمِنَ ٱلَّيْلِ فَتَهَجَّدْ بِهِۦ نَافِلَةًۭ لَّكَ عَسَىٰٓ أَن يَبْعَثَكَ رَبُّكَ مَقَامًۭا مَّحْمُودًۭا
Translation: และจากบางส่วนของกลางคืนเจ้าจงตื่นขึ้นมาละหมาดในเวลาของมัน เป็นการสมัครใจสำหรับเจ้า หวังว่าพระผู้อภิบาลของเจ้าจะทรงให้เจ้าได้รับตำแหน่งที่ถูกสรรเสริญ(93)
Comment: (93)ในวันกิยามะฮ์ คือตำแหน่งชะฟาอะฮ์อันยิ่งใหญ่
17:80
وَقُل رَّبِّ أَدْخِلْنِى مُدْخَلَ صِدْقٍۢ وَأَخْرِجْنِى مُخْرَجَ صِدْقٍۢ وَٱجْعَل لِّى مِن لَّدُنكَ سُلْطَـٰنًۭا نَّصِيرًۭا
Translation: และจงกล่าวว่า “ข้าแต่พระผู้อภิบาลของข้าพระองค์ ได้ทรงโปรดนำข้าพระองค์เข้าตามทางเข้าที่ชอบธรรม และได้ทรงโปรดนำข้าพระองค์ออกตามทางออกที่ชอบธรรม(94) และทรงโปรดให้ข้าพระองค์มีอำนาจที่เข้มแข็ง ซึ่งได้รับการช่วยเหลือจากพระองค์”(95)
Comment: (94)ทางเข้าที่ชอบธรรมและทางออกที่ชอบธรรม
Comment: (95)หมายถึงการทำกิจกรรมทุกอย่างในการเริ่มและการสิ้นสุด ในครั้งแรกและครั้งสุดท้ายเพื่อต่อต้านศัตรูของพระองค์ และเพื่อทำให้ศาสนาของพระองค์ได้รับเกียรติ
17:81
وَقُلْ جَآءَ ٱلْحَقُّ وَزَهَقَ ٱلْبَـٰطِلُ ۚ إِنَّ ٱلْبَـٰطِلَ كَانَ زَهُوقًۭا
Translation: และจงกล่าวเถิด “เมื่อความจริง”(96) ปรากฏขึ้นและความเท็จย่อมมลายไป(97) แท้จริงความเท็จนั้นย่อมมลายไปเสมอ(98)
Comment: (96)คืออัลอิสลาม
Comment: (97)คือการปฏิเสธศรัทธาและการเคารพบูชาเจว็ดและรูปปั้น
Comment: (98)มีรายงานว่า เมื่อท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้เข้านครมักกะฮ์ ซึ่งเป็นปีพิชิตมักกะฮ์นั้น ปรากฏว่ารอบๆ อัลกะอ์บะฮ์มีรูปปั้นอยู่ 360 ชิ้น ท่านได้เอาไม้เท้าที่ถืออยู่จิ้มหน้ารูปปั้นและใช้ให้ทำลายให้หมดสิ้นพลางท่านกล่าวว่า “เมื่อความจริงปรากฏขึ้นและความเท็จย่อมมลาย แท้จริงความเท็จนั้นย่อมมลายไปเสมอ”
17:82
وَنُنَزِّلُ مِنَ ٱلْقُرْءَانِ مَا هُوَ شِفَآءٌۭ وَرَحْمَةٌۭ لِّلْمُؤْمِنِينَ ۙ وَلَا يَزِيدُ ٱلظَّـٰلِمِينَ إِلَّا خَسَارًۭا
Translation: และเราได้ให้ส่วนหนึ่งจากอัลกุรอานลงมา(99) ซึ่งเป็นการบำบัดและความเมตตาแก่บรรดาผู้ศรัทธา(100) และมันมิได้เพิ่มอันใดแก่พวกอธรรม นอกจากการขาดทุนเท่านั้น
Comment: (99)โองการต่างๆ ของอัลกุรอาน
Comment: (100)เป็นการบำบัดจิตใจให้พ้นจากโรคแห่งความอวิชชาและความหลงผิด และทำลายล้างสนิมที่เกาะกินจิตใจให้พ้นจากความใคร่ใฝ่ต่ำ ตัณหา ความสกปรก การตระหนี่ และการอิจฉา
17:83
وَإِذَآ أَنْعَمْنَا عَلَى ٱلْإِنسَـٰنِ أَعْرَضَ وَنَـَٔا بِجَانِبِهِۦ ۖ وَإِذَا مَسَّهُ ٱلشَّرُّ كَانَ يَـُٔوسًۭا
Translation: และเมื่อเราให้ความโปรดปรานแก่มนุษย์ เขาเหินห่างและปลีกตัวออกไปข้างๆ(101) และเมื่อความชั่วประสบแก่เขาเขาก็เบื่อหน่ายหมดอาลัย
Comment: (101)เช่น การมีสุขภาพแข็งแรง มีความปลอดภัย และมีทรัพย์สินเงินทอง
17:84
قُلْ كُلٌّۭ يَعْمَلُ عَلَىٰ شَاكِلَتِهِۦ فَرَبُّكُمْ أَعْلَمُ بِمَنْ هُوَ أَهْدَىٰ سَبِيلًۭا
Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) “ทุกคนจะกระทำตามรูปแบบของเขา(102) ฉะนั้น พระผู้อภิบาลของพวกท่านทรงรู้ดียิ่งถึงผู้ที่เขาได้รับแนวทางอย่างถูกต้อง”
Comment: (102)คือจะดำเนินตามแนวทางของเขา คือผู้ที่อยู่ในแนวทางที่ถูกต้องก็จะปฏิบัติการงานที่ดี ส่วนผู้ที่อยู่ในทางหลงผิด ก็จะปฏิบัติการงานที่ชั่วและเลวร้าย
17:85
وَيَسْـَٔلُونَكَ عَنِ ٱلرُّوحِ ۖ قُلِ ٱلرُّوحُ مِنْ أَمْرِ رَبِّى وَمَآ أُوتِيتُم مِّنَ ٱلْعِلْمِ إِلَّا قَلِيلًۭا
Translation: และพวกเขาจะถามเจ้า เกี่ยวกับวิญญาณ จงกล่าวเถิดว่า “เรื่องวิญญาณนั้นเป็นไปตามพระบัญชาของพระผู้อภิบาลของฉัน(103) และพวกท่านจะไม่ได้รับความรู้ใดๆ เว้นแต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น”
Comment: (103)คือเป็นสิ่งเร้นลับซึ่งไม่มีใครจะล่วงรู้ได้ นอกจากพระองค์
17:86
وَلَئِن شِئْنَا لَنَذْهَبَنَّ بِٱلَّذِىٓ أَوْحَيْنَآ إِلَيْكَ ثُمَّ لَا تَجِدُ لَكَ بِهِۦ عَلَيْنَا وَكِيلًا
Translation: และหากเราประสงค์ แน่นอนเราจะเอาสิ่งซึ่งเราได้วะฮีย์แก่เจ้าไปเสีย(104) และเจ้าจะไม่พบผู้คุ้มครองคนใดเหนือเราในเรื่องนี้สำหรับเจ้า(105)
Comment: (104)คืออัลกุรอานที่อยู่ในหัวอกของท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
Comment: (105)คือจะไม่พบผู้ใดเป็นตัวแทนเพื่อนำเอาวะฮีกลับมา หลังจากที่เราได้เอามันไปจากเจ้า
17:87
إِلَّا رَحْمَةًۭ مِّن رَّبِّكَ ۚ إِنَّ فَضْلَهُۥ كَانَ عَلَيْكَ كَبِيرًۭا
Translation: นอกจากมันเป็นพระเมตตาจากพระเจ้าของเจ้า(106) แท้จริงความโปรดปรานของพระองค์ที่มีต่อเจ้านั้นใหญ่หลวงนัก(107)
Comment: (106)ดังนั้น เราจึงปล่อยให้มันถูกเก็บรักษาไว้ในทรวงอกของเจ้า และทรวงอกของบรรดาสาวกของเจ้า
Comment: (107)โดยการประทานอัลกุรอานแก่เจ้า และประทานอัลมะกอมอัลมะห์มูดแก่เจ้า และให้เจ้าเป็นร่อซูลคนสุดท้ายและเป็นนายของกลุ่มชนสมัยแรกและสมัยสุดท้าย
17:88
قُل لَّئِنِ ٱجْتَمَعَتِ ٱلْإِنسُ وَٱلْجِنُّ عَلَىٰٓ أَن يَأْتُوا۟ بِمِثْلِ هَـٰذَا ٱلْقُرْءَانِ لَا يَأْتُونَ بِمِثْلِهِۦ وَلَوْ كَانَ بَعْضُهُمْ لِبَعْضٍۢ ظَهِيرًۭا
Translation: จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด แน่นอนหากมนุษย์และญินรวมกันที่จะนำมาเช่นอัลกุรอานนี้ พวกเขาไม่อาจจะนำมาเช่นนั้นได้ และแม้ว่าบางคนในหมู่พวกเขาเป็นผู้ช่วยเหลือแก่อีกบางคนก็ตาม(108)
Comment: (108)อัลกุรอานเป็นสิ่งที่อยู่เหนือความสามารถของมนุษย์และญิน ที่คิดจะเลียนแบบ ต่อเติม ตัดทอน และบิดเบือน ได้มีความพยายามของมนุษย์ตั้งแต่ยุคแรกจนกระทั่งถึงปัจจุบัน เพื่อกระทำการดังกล่าว ถึงแม้จะมีมนุษย์บางคนหลงผิดเชื่อฟังไปบ้างก็ตาม แต่อัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา จะทรงคุ้มครองปกป้องรักษาคัมภีร์ของพระองค์ ให้พ้นจากการกระทำดังกล่าว จวบจนกระทั่งถึงวันกิยามะฮ์อย่างแน่นอน
17:89
وَلَقَدْ صَرَّفْنَا لِلنَّاسِ فِى هَـٰذَا ٱلْقُرْءَانِ مِن كُلِّ مَثَلٍۢ فَأَبَىٰٓ أَكْثَرُ ٱلنَّاسِ إِلَّا كُفُورًۭا
Translation: และโดยแน่นอนเราได้อธิบายแก่มนุษย์แล้ว จากทุกอุทาหรณ์ในอัลกุรอานนี้(109) แต่ส่วนมากของมนุษย์ปฏิเสธไม่ยอมรับนอกจากการไม่ศรัทธา
Comment: (109)คือเราได้ชี้แจงอย่างชัดแจ้งแก่พวกเขาแล้วซึ่งข้อเท็จจริง ด้วยโองการต่างๆ บทเรียนและอุทาหรณ์ ตลอดจนการชี้แนะชักชวนให้ทำความดี และการกล่าวตักเตือนให้ละเว้นความชั่ว
17:90
وَقَالُوا۟ لَن نُّؤْمِنَ لَكَ حَتَّىٰ تَفْجُرَ لَنَا مِنَ ٱلْأَرْضِ يَنۢبُوعًا
Translation: และพวกเขากล่าวว่า “เราจะไม่ศรัทธาต่อท่าน จนกว่าท่านจะทำให้แผ่นดินแตกออกเป็นลำธารแก่เรา"
17:91
أَوْ تَكُونَ لَكَ جَنَّةٌۭ مِّن نَّخِيلٍۢ وَعِنَبٍۢ فَتُفَجِّرَ ٱلْأَنْهَـٰرَ خِلَـٰلَهَا تَفْجِيرًا
Translation: ”หรือให้ท่านมีส่วนอินทผลัม และองุ่นให้มันแยกเป็นลำน้ำหลายสาย พวยพุ่งออกมาท่านกลางมัน"
17:92
أَوْ تُسْقِطَ ٱلسَّمَآءَ كَمَا زَعَمْتَ عَلَيْنَا كِسَفًا أَوْ تَأْتِىَ بِٱللَّهِ وَٱلْمَلَـٰٓئِكَةِ قَبِيلًا
Translation: ”หรือท่านทำให้ชั้นฟ้าหล่นลงมาบนพวกเราเป็นเสี่ยงๆ ตามที่ท่านอ้าง หรือนำอัลลอฮ์และมลาอิกะฮ์มาให้เราเห็นต่อหน้า"(110)
Comment: (110)พวกมุชริกีนมักกะฮ์เสนอเงื่อนไขเพื่อศรัทธาต่อมุฮัมมัด คือ (1) จะต้องให้ดินแดนมักกะฮ์มีธารน้ำ (2) มีสวนอินทผาลัมและสวนองุ่น (3) มีแม่น้ำลำธารไหลอยู่ตลอดเวลา (4) หรือให้ชั้นฟ้าหล่นลงมาทับพวกเขาเป็นเสี่ยงๆ (5) หรือนำอัลลอฮ์และมลาอิกะฮ์มาให้พวกเขาได้เห็น
17:93
أَوْ يَكُونَ لَكَ بَيْتٌۭ مِّن زُخْرُفٍ أَوْ تَرْقَىٰ فِى ٱلسَّمَآءِ وَلَن نُّؤْمِنَ لِرُقِيِّكَ حَتَّىٰ تُنَزِّلَ عَلَيْنَا كِتَـٰبًۭا نَّقْرَؤُهُۥ ۗ قُلْ سُبْحَانَ رَبِّى هَلْ كُنتُ إِلَّا بَشَرًۭا رَّسُولًۭا
Translation: ”หรือให้ท่านมีบ้านที่ประดับประดาไว้หนึ่งหลัง หรือท่านขึ้นไปบนชั้นฟ้า และเราจะไม่ศรัทธาสำหรับการขึ้นไปของท่านจนกว่าท่านจะนำคัมภีร์เล่มหนึ่งลงมาให้เราได้อ่าน” จงกล่าวเถิด “มหาบริสุทธิ์แห่งพระผู้อภิบาลของฉัน ฉันมิได้เป็นอื่นใด นอกจากเป็นมนุษย์ เป็นร่อซูล”(111)
Comment: (111)ข้อเสนอแนะและข้อเรียกร้องต่างๆ ที่พวกมุชริกีนกล่าวมาทั้งหมดนั้น เป็นการแสดงให้เห็นถึงความโง่เง่าและความดื้อรั้นต่อกฎสภาวะของอัลลอฮ์ในการสร้างมนุษย์ เพราะมุฮัมมัดมิได้เป็นพระเจ้าที่พวกเขาจะเรียกร้องเอาสิ่งที่พวกเขาต้องการ เพื่อที่จะศรัทธาหากแต่มุฮัมมัดเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา และเป็นร่อซูลของพระองค์
17:94
وَمَا مَنَعَ ٱلنَّاسَ أَن يُؤْمِنُوٓا۟ إِذْ جَآءَهُمُ ٱلْهُدَىٰٓ إِلَّآ أَن قَالُوٓا۟ أَبَعَثَ ٱللَّهُ بَشَرًۭا رَّسُولًۭا
Translation: และไม่มีสิ่งใดที่จะห้ามมนุษย์ให้พวกเขาศรัทธา เมื่อแนวทางที่ถูกต้องมายังพวกเขาแล้ว นอกจากพวกเขาจะกล่าวว่า “อัลลอฮ์ทรงแต่งตั้งมนุษย์ธรรมดาเป็นร่อซูลกระนั้นหรือ?”(112)
Comment: (112)หลังจากที่สิ่งปาฏิหาริย์ได้ปรากฏเป็นที่กระจ่างแจ้งแล้ว พวกมุชริกีนก็พยายามบ่ายเบี่ยงหาข้ออ้างอื่นๆ มากล่าวอีก นั่นก็คือทำไมอัลลอฮ์จึงทรงแต่งตั้งมนุษย์ธรรมดามาเป็นร่อซูล ทำไมไม่ส่งมลาอิกะฮ์มาเล่า ดังนั้น อัลลอฮ์จึงตอบพวกเขาในอายะฮ์ต่อมา คืออายะฮ์ที่ 95 และว่าเป็นการพอเพียงแล้วที่อัลลอฮ์ทรงเป็นพยาน ในการเป็นร่อซูลของมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ถึงแม้พวกเขาจะไม่ศรัทธาก็ตาม
17:95
قُل لَّوْ كَانَ فِى ٱلْأَرْضِ مَلَـٰٓئِكَةٌۭ يَمْشُونَ مُطْمَئِنِّينَ لَنَزَّلْنَا عَلَيْهِم مِّنَ ٱلسَّمَآءِ مَلَكًۭا رَّسُولًۭا
Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) “หากมลาอิกะฮเดินสัญจรอย่างสงบในแผ่นดิน แน่นอนเราจะส่งมะลักหนึ่งลงมาจากฟากฟ้า เป็นร่อซูลแก่พวกเขา”
17:96
قُلْ كَفَىٰ بِٱللَّهِ شَهِيدًۢا بَيْنِى وَبَيْنَكُمْ ۚ إِنَّهُۥ كَانَ بِعِبَادِهِۦ خَبِيرًۢا بَصِيرًۭا
Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัดฉ “พอเพียงแล้วที่อัลลอฮ์ทรงเป็นพยาน ระหว่างฉันและพวกท่านแท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงรอบรู้ ทรงมองเห็นปวงบ่าวของพระองค์”
17:97
وَمَن يَهْدِ ٱللَّهُ فَهُوَ ٱلْمُهْتَدِ ۖ وَمَن يُضْلِلْ فَلَن تَجِدَ لَهُمْ أَوْلِيَآءَ مِن دُونِهِۦ ۖ وَنَحْشُرُهُمْ يَوْمَ ٱلْقِيَـٰمَةِ عَلَىٰ وُجُوهِهِمْ عُمْيًۭا وَبُكْمًۭا وَصُمًّۭا ۖ مَّأْوَىٰهُمْ جَهَنَّمُ ۖ كُلَّمَا خَبَتْ زِدْنَـٰهُمْ سَعِيرًۭا
Translation: และผู้ใดที่อัลลอฮ์ทรงแนะแนวทาง เขาก็จะเป็นผู้อยู่ในแนวทางที่ถูกต้อง และผู้ใดที่อัลลอฮ์ทรงให้หลงทางแล้ว ดังนั้นสูเจ้าจะไม่พบอีกเลยสำหรับพวกเขา ซึ่งบรรดาผู้คุ้มครองอื่นจากพระองค์และเราจะชุมนุมพวกเขาในวันกิยามะฮ์ ถูกลากคว่ำหน้า(113) โดยมีสภาพเป็นคนตาบอด เป็นใบ้และหูหนวก(114) ที่พำนักของพวกเขาคือนรกญะฮันนัมทุกครั้งที่มันมอดเราได้เพิ่มการเผาไหม้ลุกโชนแก่พวกเขา
Comment: (113)คือจะถูกจับขาลากไปลงนรก
Comment: (114)หมายถึงปราศจากความรู้สึก คืออยู่ในสภาพที่ไม่เห็น ไม่พูด ไม่ได้ยิน เมื่อได้ลงไปในนรกแล้วความรู้สึกต่างๆ เหล่านั้นจะกลับคืนมา
17:98
ذَٰلِكَ جَزَآؤُهُم بِأَنَّهُمْ كَفَرُوا۟ بِـَٔايَـٰتِنَا وَقَالُوٓا۟ أَءِذَا كُنَّا عِظَـٰمًۭا وَرُفَـٰتًا أَءِنَّا لَمَبْعُوثُونَ خَلْقًۭا جَدِيدًا
Translation: นั่นคือการตอบแทนของพวกเขา โดยแท้จริง พวกเขาปฏิเสธศรัทธาต่อโองการทั้งหลายของเรา และพวกเขากล่าวว่า “เมื่อเราเป็นกระดูกและเปื่อยยุ่ยแล้ว แน่นอนเราจะถูกให้ฟื้นขึ้นเพื่อกำเนิดใหม่ได้อย่างไร ?”
17:99
۞ أَوَلَمْ يَرَوْا۟ أَنَّ ٱللَّهَ ٱلَّذِى خَلَقَ ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضَ قَادِرٌ عَلَىٰٓ أَن يَخْلُقَ مِثْلَهُمْ وَجَعَلَ لَهُمْ أَجَلًۭا لَّا رَيْبَ فِيهِ فَأَبَى ٱلظَّـٰلِمُونَ إِلَّا كُفُورًۭا
Translation: พวกเขาไม่เห็นดอกหรือว่า แท้จรองอัลลอฮ์ผู้ทรงสร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน(115) พระองค์เป็นผู้ทรงอานุภาพที่จะสร้างเยี่ยงพวกเขา และทรงกำหนดเวลาหนึ่งสำหรับพวกเขา ไม่มีการสงสัยใดๆ ในนั้น แต่พวกอธรรมปฏิเสธไม่ยอมรับนอกจากการไม่ศรัทธา
Comment: (115)กล่าวคือ พวกมุชริกีนไม่เห็นดอกหรือว่า อัลลอฮ์ผู้ทรงยิ่งใหญ่ผู้ทรงเดชานุภาพ ผู้ทรงสร้างจักรวาลอันยิ่งใหญ่ รวมทั้งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน พระองค์ย่อมสามารถที่จะให้เรือนร่างของมนุษย์กลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง หลังจากสูญสิ้นไปแล้วอย่างแน่นอน
17:100
قُل لَّوْ أَنتُمْ تَمْلِكُونَ خَزَآئِنَ رَحْمَةِ رَبِّىٓ إِذًۭا لَّأَمْسَكْتُمْ خَشْيَةَ ٱلْإِنفَاقِ ۚ وَكَانَ ٱلْإِنسَـٰنُ قَتُورًۭا
Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) “หากพวกท่านครอบครองขุมแห่งความเมตตาของพระผู้อภิบาลของฉัน เมื่อนั้นพวกท่านก็จะหน่วงเหนี่ยวมันไว้(116) เพราะกลัวการบริจาค และมนุษย์นั้นเป็นคนตระหนี่”
Comment: (116)คือพวกท่านจะตระหนี่ ไม่ยอมบริจาค เพราะกลัวจะหมด
17:101
وَلَقَدْ ءَاتَيْنَا مُوسَىٰ تِسْعَ ءَايَـٰتٍۭ بَيِّنَـٰتٍۢ ۖ فَسْـَٔلْ بَنِىٓ إِسْرَٰٓءِيلَ إِذْ جَآءَهُمْ فَقَالَ لَهُۥ فِرْعَوْنُ إِنِّى لَأَظُنُّكَ يَـٰمُوسَىٰ مَسْحُورًۭا
Translation: และโดยแน่นอน เราได้ให้แก่มูซาสัญญาณต่างๆ อันแจ่มชัด 9 ประการ(117) ดังนั้น เจ้าจงถามวงศ์วานของอิสรออีลเมื่อเขา (มูซา) มายังพวกเขาฟิรอาวน์ได้พูดกับเขาว่า “โอ้ มูซาเอ๋ย แท้จริงฉันคิดว่าท่านถูกเวทมนต์อย่างแน่นอน”(118)
Comment: (117)สัญญาณ 9 ประการคือ ไม้เท้า มือ น้ำท่วม ตั๊กแตน เหา กบ เลือด การแยกออกของทะเล และความแห้งแล้ง
Comment: (118)อัลลอฮ์ ตะอาลา ตรัสในที่นี้ว่า ความมากมายของสิ่งมหัศจรรย์หรือปาฏิหาริย์มิได้ทำให้เกิดการอีมานในจิตใจของผู้ที่ดื้อรั้น ดังเช่นฟิรอาวน์ ซึ่งอัลลอฮ ตะอาลา ได้ทรงให้สัญญาณต่างๆ แก่มูซาถึง 9 ประการ แต่ฟิรอาวน์และพรรคพวกของเขาก็หาได้ศรัทธาต่อมูซาไม่
17:102
قَالَ لَقَدْ عَلِمْتَ مَآ أَنزَلَ هَـٰٓؤُلَآءِ إِلَّا رَبُّ ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضِ بَصَآئِرَ وَإِنِّى لَأَظُنُّكَ يَـٰفِرْعَوْنُ مَثْبُورًۭا
Translation: เขากล่าวว่า “โดยแน่นอนท่านย่อมรู้ดีว่าไม่มีผู้ใดประทานสิ่งเหล่านี้ นอกจากพระเจ้าแห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินเพื่อเป็นพยาน และแท้จริงฉันคิดว่าแน่นอนท่าน โอ้ ฟิรอาวน์เอ๋ย เป็นผู้หายนะแล้ว”
17:103
فَأَرَادَ أَن يَسْتَفِزَّهُم مِّنَ ٱلْأَرْضِ فَأَغْرَقْنَـٰهُ وَمَن مَّعَهُۥ جَمِيعًۭا
Translation: ดังนั้น เขา (ฟิรอาวน์) ต้องการที่จะย้ายพวกเขาออกไปจากแผ่นดิน(119) ฉะนั้น เราจึงให้เขาจมน้ำตายและผู้ที่อยู่ร่วมกับเขาทั้งหมด
Comment: (119)คือฟิรอาวน์ต้องการจะขับไล่มูซาและชนชาติของเขาออกจากดินแดนอียิปต์
17:104
وَقُلْنَا مِنۢ بَعْدِهِۦ لِبَنِىٓ إِسْرَٰٓءِيلَ ٱسْكُنُوا۟ ٱلْأَرْضَ فَإِذَا جَآءَ وَعْدُ ٱلْـَٔاخِرَةِ جِئْنَا بِكُمْ لَفِيفًۭا
Translation: และเราได้กล่าวแก่วงศ์วานของอิสรออีลหลังจากเขาว่า(120) “จงพำนักอยู่ในดินแดนนี้”(121) ดังนั้นเมื่อสัญญาแห่งวันอาคิเราะฮ์ได้มาถึง เราจะนำพวกเจ้าทั้งหมดมารวมไว้ด้วยกัน”(122)
Comment: (120)หลังจากฟิรอาวน์และพรรคพวกของเขาได้จมน้ำตายแล้ว
Comment: (121)คือดินแดนอียิปต์
Comment: (122)คือ เราจะนำพวกท่านออกจากหลุมฝังศพไปยังทุ่งมะห์ชัร เดินรวมไปกันหมดมีทั้งมุอ์มินและกาฟิร คนดีและคนเลว
17:105
وَبِٱلْحَقِّ أَنزَلْنَـٰهُ وَبِٱلْحَقِّ نَزَلَ ۗ وَمَآ أَرْسَلْنَـٰكَ إِلَّا مُبَشِّرًۭا وَنَذِيرًۭا
Translation: และด้วยความจริง เราได้ประทานมัน (อัลกุรอาน) ลงมา และด้วยความจริงมันได้ลงมาและเรามิได้ส่งเจ้าเพื่ออื่นใด นอกจากเพื่อเป็นผู้แจ้งข่าวดี และเป็นผู้ตักเตือน(123)
Comment: (123)คือเพื่อแจ้งข่าวดีด้วยสวนสวรรค์แก่ผู้ที่เชื่อฟัง จงรักภักดี และตักเตือนด้วยนรกญะฮันนัมแก่ผู้ที่ดื้อรั้นและฝ่าฝืน
17:106
وَقُرْءَانًۭا فَرَقْنَـٰهُ لِتَقْرَأَهُۥ عَلَى ٱلنَّاسِ عَلَىٰ مُكْثٍۢ وَنَزَّلْنَـٰهُ تَنزِيلًۭا
Translation: และอัลกุรอาน เราได้แยกมันไว้อย่างชัดเจน เพื่อเจ้าจะได้อ่านมันแก่มนุษย์อย่างช้าๆ และเราได้ประทานมันลงมาเป็นขั้นตอน(124)
Comment: (124)คือประทานลงมาเป็นระยะๆ สอดคล้องกับสถานการณ์และผลประโยชน์ เพื่อมนุษย์จะได้อ่านอย่างช้าๆ และท่องจำได้ง่าย
17:107
قُلْ ءَامِنُوا۟ بِهِۦٓ أَوْ لَا تُؤْمِنُوٓا۟ ۚ إِنَّ ٱلَّذِينَ أُوتُوا۟ ٱلْعِلْمَ مِن قَبْلِهِۦٓ إِذَا يُتْلَىٰ عَلَيْهِمْ يَخِرُّونَ لِلْأَذْقَانِ سُجَّدًۭا
Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) “พวกท่านจะศรัทธาในมันหรือไม่ศรัทธาก็ตาม(125) แท้จริง บรรดาผู้ได้รับความรู้ก่อนหน้ามันนั้นเมื่อมันได้ถูกอ่านแก่พวกเขาพวกเขาจะหมอบราบลง ใบหน้าจรดพื้นเพื่อสุญด”(126)
Comment: (125)เพราะการอีมานของพวกท่านต่ออัลกุรอาน จะไม่เพิ่มความสมบูรณ์ให้มันแต่ประการใด และการไม่ศรัทธาต่อมันก็จะไม่ทำให้อัลกุรอานขาดตกบกพร่องแต่ประการใด
Comment: (126)อัรรอซีย์กล่าวว่า ประโยชน์ของการกล่าวซ้ำนี้ เพราะสถานะแตกต่างกันคือ สถานะการหมอบราบลงจรดคางของพวกเขาเพื่อสุญูด กับสถานะของพวกเขาร้องไห้ เมื่อได้ยินการอ่านอัลกุรอาน และทำให้พวกเขาเพิ่มการนบนอบถ่อมตัวต่ออัลลอฮ์ ตะอาลา
17:108
وَيَقُولُونَ سُبْحَـٰنَ رَبِّنَآ إِن كَانَ وَعْدُ رَبِّنَا لَمَفْعُولًۭا
Translation: และพวกเขาจะกล่าวว่า “มหาบริสุทธิ์แห่งพระผู้อภิบาลของเรา สัญญาของพระผู้อภิบาลของเรานั้นแน่นอน ย่อมถูกปฏิบัติให้ครบถ้วน”
17:109
وَيَخِرُّونَ لِلْأَذْقَانِ يَبْكُونَ وَيَزِيدُهُمْ خُشُوعًۭا ۩
Translation: และพวกเขาจะหมอบราบลงใบหน้าจรดพื้นพลางร้องไห้ และมันจะเพิ่มการสำรวมแก่พวกเขา
17:110
قُلِ ٱدْعُوا۟ ٱللَّهَ أَوِ ٱدْعُوا۟ ٱلرَّحْمَـٰنَ ۖ أَيًّۭا مَّا تَدْعُوا۟ فَلَهُ ٱلْأَسْمَآءُ ٱلْحُسْنَىٰ ۚ وَلَا تَجْهَرْ بِصَلَاتِكَ وَلَا تُخَافِتْ بِهَا وَٱبْتَغِ بَيْنَ ذَٰلِكَ سَبِيلًۭا
Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) “พวกท่านจงเรียกอัลลอฮ์หรือจงเรียกอัรเราะห์มานเถิด อันใดก็ตามที่เจ้าเรียก สำหรับพระองค์นั้นพระนามสวยงามยิ่ง(127) และอย่ายกเสียงดังในเวลาละหมาดของเจ้า(128) และอย่าลดให้ค่อยเช่นกัน(129) แต่จงแสวงหาทางระหว่างนั้น (ปานกลาง)”
Comment: (127)“อัลลอฮ์” และ “อัรเราะห์มาน” คือพระนามของพระองค์ พระนามใดที่พวกท่านวิงวอนขอก็ใช้ได้ทั้งนั้น เพราะเป็นพระนามที่สวยงามยิ่งของพระองค์ นักตัฟซีรอธิบายว่า สาเหตุแห่งการประทานอายะฮ์นี้คือ พวกกุฟฟารเมื่อได้ยินท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าววิงวอนว่า “ยาอัลลอฮ์ ยาเราะห์มาน” พวกเขากล่าวว่า มุฮัมมัดใช้ให้เราวิงวอนต่อพระเจ้าองค์เดียว แต่นี่เขาวิงวอนต่อพระเจ้าสององค์ อายะฮ์นี้จึงถูกประทานลงมาเพื่อชี้แจงว่า พระนามทั้งสองคือพระนามเดียวกัน
Comment: (128)เพราะเมื่อพวกมุชริกีนได้ยินเข้า พวกเขาจะประณามอัลกุรอานและผู้ที่ประทานมันลงมา
Comment: (129)โดยที่จะทำให้ผู้ที่อยู่ข้างหลังท่านไม่ได้ยินการอ่านของท่าน
17:111
وَقُلِ ٱلْحَمْدُ لِلَّهِ ٱلَّذِى لَمْ يَتَّخِذْ وَلَدًۭا وَلَمْ يَكُن لَّهُۥ شَرِيكٌۭ فِى ٱلْمُلْكِ وَلَمْ يَكُن لَّهُۥ وَلِىٌّۭ مِّنَ ٱلذُّلِّ ۖ وَكَبِّرْهُ تَكْبِيرًۢا
Translation: และจงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) “การสรรเสริญทั้งมวลเป็นของอัลลอฮ์ซึ่งไม่ทรงตั้งพระบุตรและไม่มีภาคีใดๆ ร่วมกับพระองค์ในอำนาจ และไม่มีผู้ช่วยเหลือใดๆ แก่พระองค์ให้พ้นจากความต่ำต้อยและจงให้ความเกรียงไกรแด่พระองค์อย่างกึกก้อง”(130)
Comment: (130)จงให้ความยิ่งใหญ่อย่างสมบูรณ์แก่พระเจ้าของท่าน และจงกล่าวรำลึกถึงพระองค์ด้วยคุณลักษณะแห่งผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงเกริกก้อง ผู้ทรงยิ่งใหญ่ ผู้ทรงสมบูรณ์ยิ่ง ซูเราะฮ์นี้จบลงด้วยการสรรเสริญอัลลอฮ์ เช่นเดียวกับตอนเริ่ม และยืนยันความเป็นเอกภาพของพระองค์ โดยปราศจากพระบุตรและการตั้งภาคี และให้ความบริสุทธิ์แด่พระองค์ จากการมีผู้ช่วยเหลือหรือสนับสนุน พระองค์คือ ผู้ทรงสูงส่งผู้ทรงยิ่งใหญ่