سورة الرعد

Ar-Ra'd

The Thunder


medinan   .   43 Ayahs

بِسْمِ ٱللَّهِ ٱلرَّحْمَـٰنِ ٱلرَّحِيمِ


13:1

الٓمٓر ۚ تِلْكَ ءَايَـٰتُ ٱلْكِتَـٰبِ ۗ وَٱلَّذِىٓ أُنزِلَ إِلَيْكَ مِن رَّبِّكَ ٱلْحَقُّ وَلَـٰكِنَّ أَكْثَرَ ٱلنَّاسِ لَا يُؤْمِنُونَ

Translation: อะลิฟ ลาม มีม รออ์ เหล่านี้คือบรรดาโองการแห่งคัมภีร์ และสิ่งที่ได้ถูกประทานลงมาแก่เจ้าจากพระผู้อภิบาลของเจ้านั้นเป็นสัจธรรม และแต่ส่วนมากของมนุษย์ไม่ศรัทธา

13:2

ٱللَّهُ ٱلَّذِى رَفَعَ ٱلسَّمَـٰوَٰتِ بِغَيْرِ عَمَدٍۢ تَرَوْنَهَا ۖ ثُمَّ ٱسْتَوَىٰ عَلَى ٱلْعَرْشِ ۖ وَسَخَّرَ ٱلشَّمْسَ وَٱلْقَمَرَ ۖ كُلٌّۭ يَجْرِى لِأَجَلٍۢ مُّسَمًّۭى ۚ يُدَبِّرُ ٱلْأَمْرَ يُفَصِّلُ ٱلْـَٔايَـٰتِ لَعَلَّكُم بِلِقَآءِ رَبِّكُمْ تُوقِنُونَ

Translation: อัลลอฮ์คือผู้ทรงยกชั้นฟ้าทั้งหลายไว้โดยปราศจากเสาค้ำจุน ซึ่งพวกเจ้ามองเห็นมัน แล้วทรงสถิตย์อยู่บนบัลลังก์(1) และทรงให้ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์(เป็นประโยชน์แก่มนุษย์) ทุกสิ่งโคจรไปตามวาระที่ได้กำหนดไว้ ทรงบริหารกิจการทรงจำแนกโองการทั้งหลายให้ชัดแจ้ง เพื่อพวกเจ้าจะได้เชื่อมั่นในการพบพระเจ้าของพวกเจ้า

Comment: (1)การสถิตย์ที่คู่ควรเหมาะสมกับพระเกียรติของพระองค์โดยไม่ต้องเปรียบเทียบ ไม่ต้องยกตัวอย่าง และไม่บิดเบือน นี่คือแนวทางการศรัทธาในเรื่องนี้ของบรรดาสลัฟ(บรรพชนรุ่นแรก) ท่ามอิมามมาลิก ร่อฮิมะฮุลลอฮ์ กล่าวไว้เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “การสถิตย์เป็นที่รู้จักกันดี การสถิตย์อย่างไรเราไม่รู้ การอิมานต่อเรื่องนี้เป็นวาญิบ(จำเป็น) การถามซักไซ้เป็นบิดอะฮ์”คือต้นไม้หลายชนิดได้รับแหล่งน้ำเดียวกัน และดินชนิดเดียวกัน แต่พืชผลที่ออกมามีชนิดและรสชาติแตกต่างกันออกไป

13:3

وَهُوَ ٱلَّذِى مَدَّ ٱلْأَرْضَ وَجَعَلَ فِيهَا رَوَٰسِىَ وَأَنْهَـٰرًۭا ۖ وَمِن كُلِّ ٱلثَّمَرَٰتِ جَعَلَ فِيهَا زَوْجَيْنِ ٱثْنَيْنِ ۖ يُغْشِى ٱلَّيْلَ ٱلنَّهَارَ ۚ إِنَّ فِى ذَٰلِكَ لَـَٔايَـٰتٍۢ لِّقَوْمٍۢ يَتَفَكَّرُونَ

Translation: และพระองค์คือผู้ทรงแผ่แผ่นดิน(2) และในนั้นทรงทำให้มันมีภูเขามั่นคง(3) และลำน้ำมากหลาย และจากพืชผลทุกชนิดทรงให้มีจำนวนคู่(4) ทรงให้กลางคืนครอบคลุมกลางวัน แท้จริงในการนั้นแน่นอนย่อมเป็นสัญญาณสำหรับหมู่ชนผู้ใคร่ครวญ

Comment: (2)ทรงแผ่ให้กว้างใหญ่ไพศาล เพื่อให้มนุษย์และสัตว์โลกพำนักพักพิง

Comment: (3)เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวของแผ่นดิน

Comment: (4)พืชผลทุกชนิดจะมีจำนวนคู่ คือเพศผู้และเพศเมีย เพื่อให้เกิดการผสมพันธุ์มีจำนวนมากขึ้นและแพร่หลาย ทั้งนี้ย่อมเป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์

13:4

وَفِى ٱلْأَرْضِ قِطَعٌۭ مُّتَجَـٰوِرَٰتٌۭ وَجَنَّـٰتٌۭ مِّنْ أَعْنَـٰبٍۢ وَزَرْعٌۭ وَنَخِيلٌۭ صِنْوَانٌۭ وَغَيْرُ صِنْوَانٍۢ يُسْقَىٰ بِمَآءٍۢ وَٰحِدٍۢ وَنُفَضِّلُ بَعْضَهَا عَلَىٰ بَعْضٍۢ فِى ٱلْأُكُلِ ۚ إِنَّ فِى ذَٰلِكَ لَـَٔايَـٰتٍۢ لِّقَوْمٍۢ يَعْقِلُونَ

Translation: และในแผ่นดินมีเขตแดนติดต่อใกล้เคียงกัน และมีสวนพฤกษาจากต้นองุ่น และต้นที่มีเมล็ด และต้นอินทผลัมที่มาจากรากเดียวกัน และมิใช่รากเดียวกัน ได้รับแหล่งน้ำเดียวกัน และเราได้ให้บางชนิดดีเด่นกว่าอีกบางชนิดในรสชาติ(5) แท้จริงในการนั้น แน่นอนเป็นสัญญาณสำหรับหมู่ชนผู้ใช้ปัญญา

Comment: (5)คือต้นไม้หลายชนิดได้รับแหล่งน้ำเดียวกัน และดินชนิดเดียวกัน แต่พืชผลที่ออกมามีชนิดและรสชาติแตกต่างกันออกไป

13:5

۞ وَإِن تَعْجَبْ فَعَجَبٌۭ قَوْلُهُمْ أَءِذَا كُنَّا تُرَٰبًا أَءِنَّا لَفِى خَلْقٍۢ جَدِيدٍ ۗ أُو۟لَـٰٓئِكَ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ بِرَبِّهِمْ ۖ وَأُو۟لَـٰٓئِكَ ٱلْأَغْلَـٰلُ فِىٓ أَعْنَاقِهِمْ ۖ وَأُو۟لَـٰٓئِكَ أَصْحَـٰبُ ٱلنَّارِ ۖ هُمْ فِيهَا خَـٰلِدُونَ

Translation: และหากเจ้า (มุฮัมมัด) ฉงน ดังนั้นคำกล่าวของพวกเขาก็น่าฉงน (ที่ว่า) “เมื่อเรากลายเป็นผุยผงไปแล้ว แท้จริงเราจะเกิดใหม่กระนั้นหรือ?”(6) ชนเหล่านั้นคือบรรดาผู้ปฎิเสธศรัทธาต่อพระเจ้าของพวกเขา และชนเหล่านั้นคือชาวนรก พวกเขาจะอยู่ในนั้นตลอดกาล

Comment: (6)หากเจ้า(มุฮัมมัด) ฉงนในเรื่องใด แต่ที่น่าฉงนยิ่งกว่าก็คือคำกล่าวของพวกปฏิเสธศรัทธาที่ว่า เมื่อเราตายและกลายเป็นผุยผงไปแล้ว เราจะเกิดใหม่กระนั้นหรือ? เพราะการปฏิเสธของพวกเขาเกี่ยวกับการฟื้นคืนชีพ นี่แหละมันน่าฉงนยิ่งกว่า เพราะว่าผู้ทรงเดชานุภาพในการสร้างชั้นฟ้าและแผ่นดิน ต้นไม้ พืชผลต่างๆ น่านน้ำ และแม่น้ำลำคลอง แน่นอนพระองค์ย่อมสามารถที่จะให้พวกเขากลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกได้ หลังจากที่ได้ตายไปแล้ว

13:6

وَيَسْتَعْجِلُونَكَ بِٱلسَّيِّئَةِ قَبْلَ ٱلْحَسَنَةِ وَقَدْ خَلَتْ مِن قَبْلِهِمُ ٱلْمَثُلَـٰتُ ۗ وَإِنَّ رَبَّكَ لَذُو مَغْفِرَةٍۢ لِّلنَّاسِ عَلَىٰ ظُلْمِهِمْ ۖ وَإِنَّ رَبَّكَ لَشَدِيدُ ٱلْعِقَابِ

Translation: และพวกเขาเร่งเร้าเจ้า ขอความชั่ว (การลงโทษ) ก่อนความดี (ความสุข)(7) และแน่นอนได้มีหลายตัวอย่างเกิดขึ้นก่อนหน้าพวกเขาแล้ว(8) และแท้จริงพระเจ้าของเจ้าเป็นผู้ทรงอภัยโทษแก่มนุษย์ต่อการอธรรมของพวกเขา และแท้จริงพระเจ้าของเจ้าเป็นผู้ทรงเข้มงวดในการลงโทษ

Comment: (7)พวกเขาเร่งเร้าอยากเห็นการลงโทษในโลกนี้ ตามที่มุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวเตือนพวกเขา ทั้งนี้เป็นการท้าทายและเย้ยหยันจากพวกเขา

Comment: (8)คือการลงโทษผู้ปฏิเสธศรัทธา แต่พวกเขาก็หาได้ยึดถือเป็นบทเรียนและข้อเตือนใจไม่

13:7

وَيَقُولُ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ لَوْلَآ أُنزِلَ عَلَيْهِ ءَايَةٌۭ مِّن رَّبِّهِۦٓ ۗ إِنَّمَآ أَنتَ مُنذِرٌۭ ۖ وَلِكُلِّ قَوْمٍ هَادٍ

Translation: และบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาจะกล่าวว่า “ทำไมจึงไม่มีปาฏิหาริย์จากพระผู้อภิบาลของเขาถูกประทานลงมาให้แก่เขา?”(9) แท้จริงเจ้าเป็นเพียงผู้ตักเตือนเท่านั้น และสำหรับทุกๆ หมู่ชนย่อมมีผู้ชี้แนะแนวทาง

Comment: (9)ทั้งๆ ที่อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงประทานปาฏิหาริย์หลายอย่างมาให้ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เช่น การแยกดวงจันทร์ออกเป็นสองซีก ต้นไม้นอนสุญูด และน้ำซึมออกมาจากนิ้วมือ ฯลฯ

13:8

ٱللَّهُ يَعْلَمُ مَا تَحْمِلُ كُلُّ أُنثَىٰ وَمَا تَغِيضُ ٱلْأَرْحَامُ وَمَا تَزْدَادُ ۖ وَكُلُّ شَىْءٍ عِندَهُۥ بِمِقْدَارٍ

Translation: อัลลอฮ์ทรงรอบรู้สิ่งที่ผู้หญิงทุกคนอุ้มครรภ์(10) และที่บรรดามดลูกคลอดก่อนกำหนดและที่เกินกำหนด และทุกๆสิ่ง ณ ที่พระองค์นั้นมีการกำหนดภาวะไว้

Comment: (10)ทรงรอบรู้สิ่งที่อยู่ในครรภ์มารดาว่า ทารกนั้นเป็นเพศชายหรือเพศหญิง

13:9

عَـٰلِمُ ٱلْغَيْبِ وَٱلشَّهَـٰدَةِ ٱلْكَبِيرُ ٱلْمُتَعَالِ

Translation: ผู้ทรงรอบรู้สิ่งเร้นลับและสิ่งเปิดเผยผู้ทรงเกรียงไกร ผู้ทรงสูงส่งยิ่ง

13:10

سَوَآءٌۭ مِّنكُم مَّنْ أَسَرَّ ٱلْقَوْلَ وَمَن جَهَرَ بِهِۦ وَمَنْ هُوَ مُسْتَخْفٍۭ بِٱلَّيْلِ وَسَارِبٌۢ بِٱلنَّهَارِ

Translation: เท่าเทียมกันในหมู่พวกเจ้า ผู้ที่ปกปิดคำพูด(11) ผู้ที่เปิดเผยมัน(12) และผู้ที่ซ่อนการกระทำในเวลากลางคืนและผู้ที่เดินไปอย่างเปิดเผยในเวลากลางวัน

Comment: (11)คือสิ่งที่หัวใจปกปิดเอาไว้

Comment: (12)ลิ้นพูดออกมา

13:11

لَهُۥ مُعَقِّبَـٰتٌۭ مِّنۢ بَيْنِ يَدَيْهِ وَمِنْ خَلْفِهِۦ يَحْفَظُونَهُۥ مِنْ أَمْرِ ٱللَّهِ ۗ إِنَّ ٱللَّهَ لَا يُغَيِّرُ مَا بِقَوْمٍ حَتَّىٰ يُغَيِّرُوا۟ مَا بِأَنفُسِهِمْ ۗ وَإِذَآ أَرَادَ ٱللَّهُ بِقَوْمٍۢ سُوٓءًۭا فَلَا مَرَدَّ لَهُۥ ۚ وَمَا لَهُم مِّن دُونِهِۦ مِن وَالٍ

Translation: สำหรับเขามีมลาอิกะฮ์ผู้เฝ้าติดตามทั้งข้างหน้าและข้างหลังเขา(13) รักษาเขาตามพระบัญชาของอัลลอฮ์แท้จริงอัลลอฮ์จะมิทรงเปลี่ยนแปลงสภาพของชนกลุ่มใด จนกว่าพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงสภาพของพวกเขาเอง(14) และเมื่ออัลลอฮ์ทรงปรารถนาความทุกข์แก่ชนกลุ่มใดก็จะไม่มีผู้ตอบโต้พระองค์(15) และสำหรับพวกเขาไม่มีผู้ช่วยเหลือนอกจากพระองค์

Comment: (13)สำหรับมนุษย์นั้นมีมลาอิกะฮ์ที่ได้รับมอบหมายคอยเฝ้าติดตามโดยเปลี่ยนเวรกันเหมือนยามเฝ้าสถานที่ราชการ

Comment: (14)อัลลอฮ์จะมิทรงให้ความโปรดปรานของพระองค์สูญสิ้นไปจากกลุ่มชนใด เว้นแต่กลุ่มชนนั้นจะทรยศต่อความโปรดปรานของพระองค์ด้วยการเอาของแปลกปลอมของเลวเข้ามาแทนที่

Comment: (15)คือถ้าพระองค์จะนำความหายนะหรือการลงโทษของพระองค์มาสู่กลุ่มชนใด ก็ไม่มีผู้ใดสามารถจะตอบโต้หรือป้องกันพระประสงค์ของพระองค์ได้

13:12

هُوَ ٱلَّذِى يُرِيكُمُ ٱلْبَرْقَ خَوْفًۭا وَطَمَعًۭا وَيُنشِئُ ٱلسَّحَابَ ٱلثِّقَالَ

Translation: พระองค์คือผู้ทรงให้พวกเจ้าเห็นฟ้าแลบ เพื่อความกลัวและความหวัง และทรงให้เกิดเมฆทึบ(16)

Comment: (16)เมื่อก้อนเมฆรวมตัวกันขึ้น จะเกิดฟ้าแลบ อิบนุอับบาสกล่าวว่า เพื่อความกลัวฟ้าผ่า และความหวังที่จะมีฝนตก

13:13

وَيُسَبِّحُ ٱلرَّعْدُ بِحَمْدِهِۦ وَٱلْمَلَـٰٓئِكَةُ مِنْ خِيفَتِهِۦ وَيُرْسِلُ ٱلصَّوَٰعِقَ فَيُصِيبُ بِهَا مَن يَشَآءُ وَهُمْ يُجَـٰدِلُونَ فِى ٱللَّهِ وَهُوَ شَدِيدُ ٱلْمِحَالِ

Translation: และฟ้าลั่นจะแซ่ซี้อง สดุดีด้วยการสรรเสริญพระองค์(17) และมลาอิกะฮ์จะสดุดีด้วย เพราะความกลัวพระองค์ และพระองค์ทรงให้ฟ้าผ่าแล้วมันจะฟาดไปยังผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ โดยพวกเขาโต้เถียงกันในเรื่องของอัลลอฮ์(18) และพระองค์คือผู้ทรงอำนาจยิ่ง

Comment: (17)พระองค์ทรงยืนยันไว้ในซูเราะฮ์อิสรออ์ อายะฮ์ที่ 44 ว่า “และไม่มีสิ่งใด เว้นแต่มันจะแซ่ซ้องสดุดีพระองค์”

Comment: (18)พวกกุฟฟารมักกะฮ์ได้โต้เถียงกันถึงเรื่องการมีอัลลอฮ์และความเป็นเอกะของพระองค์ และเรื่องเดชานุภาพของพระองค์ในการให้มนุษย์ฟื้นคืนชีพในวันอาคิเราะฮ์สาเหตุแห่งการประทานอายะฮ์นี้ มีรายงานจากอะนัสว่า ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ส่งชายคนหนึ่งไปหาชาวอาหรับผู้เกรี้ยวกราดคนหนึ่ง ท่านนบีกล่าวกับชายผู้นั้นว่า จงไปเรียกเขามาหาฉัน ชายคนนั้นกล่าวว่า โอ้ท่านร่อซูลุลลอฮ์ เขาเป็นคนเกรี้ยวกราดและดุดัน ท่านนบีกล่าวกับเขาอีกว่า เอาเถอะ ไปเรียกเขาให้มาหาฉัน เขาจึงออกไปหาชายคนนั้นแล้วกล่าวว่า ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เรียกท่าน อาหรับผู้นั้นถามว่า จงบอกฉันถึงพระเจ้าของมุฮัมมัดว่าทำจากทอง หรือจากเงินหรือจากทองเหลือง? แล้วเขาก็กลับไปหาท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม บอกท่านตามที่ชายผู้นั้นกล่าว แล้วกล่าวต่อไปว่า ฉันได้บอกท่านแล้วว่าเขาเกรี้ยวกราดและดุดันมิใช่หรือ? ท่านนบีกล่าวอีกว่า กลับไปหาเขาอีกครั้งหนึ่ง แล้วเรียกเขาให้มาหาฉัน เขาได้กลับไปหาชายผู้นั้น และก็เช่นเดียวกันกับที่ได้กล่าวมาแล้วขณะที่เขากำลังโต้เถียงกันอยู่นั้น อัลลอฮ์ทรงส่งเมฆให้มาลอยเหนือศีรษะเขา แล้วฟ้าได้ผ่าและฝาดลงมาบนศีรษะของอาหรับผู้นั้น อัลลอฮ์ตะอาลา จึงทรงประทานอายะฮ์นี้ลงมา

13:14

لَهُۥ دَعْوَةُ ٱلْحَقِّ ۖ وَٱلَّذِينَ يَدْعُونَ مِن دُونِهِۦ لَا يَسْتَجِيبُونَ لَهُم بِشَىْءٍ إِلَّا كَبَـٰسِطِ كَفَّيْهِ إِلَى ٱلْمَآءِ لِيَبْلُغَ فَاهُ وَمَا هُوَ بِبَـٰلِغِهِۦ ۚ وَمَا دُعَآءُ ٱلْكَـٰفِرِينَ إِلَّا فِى ضَلَـٰلٍۢ

Translation: สำหรับพระองค์นั้น คือการวิงวอนที่แท้จริง(19) และบรรดาผู้วิงวอนอื่นจากพระองค์ มัน(เจว็ด) จะไม่สนองตอบใดๆ แก่พวกเขา เว้นแต่เสมือนกับผู้ที่แบมือทั้งสองไปยังน้ำเพื่อให้ไหลสู่ปากของเขา และมันจะไหลถึงไม่ได้(20) และการวิงวอนของพวกปฏิเสธศรัทธานั้นหาใช่อื่นใด นอกจากอยู่ในการหลงผิด

Comment: (19)คือพระองค์นั้นสมควรยิ่งที่จะได้รับการเคารพภักดีเพียงพระองค์เดียว ด้วยการวิงวอนและการพึ่งพักพิง

Comment: (20)เพราะน้ำเป็นของเหลว มันไม่มีความรู้สึกและไม่ได้ยิน เหมือนกับเจว็ดทั้งหลายที่จะไม่สนองตอบคำวิงวอนของผู้ปฏิเสธศรัทธา

13:15

وَلِلَّهِ يَسْجُدُ مَن فِى ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضِ طَوْعًۭا وَكَرْهًۭا وَظِلَـٰلُهُم بِٱلْغُدُوِّ وَٱلْـَٔاصَالِ ۩

Translation: และผู้อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินต่างก็สญูดต่ออัลลอฮ์ด้วยความภักดีและด้วยความจำยอม(21) และเงาของมันจะสญูดด้วย ทั้งยามเช้าและยามเย็น

Comment: (21)อัลหะซัน กล่าวว่า : คนมุอ์มินจะสญูดด้วยความภักดี ส่วนคนกาฟิรจะสุญูดด้วยความจำใจคือในภาวะตกใจและคับขัน

13:16

قُلْ مَن رَّبُّ ٱلسَّمَـٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضِ قُلِ ٱللَّهُ ۚ قُلْ أَفَٱتَّخَذْتُم مِّن دُونِهِۦٓ أَوْلِيَآءَ لَا يَمْلِكُونَ لِأَنفُسِهِمْ نَفْعًۭا وَلَا ضَرًّۭا ۚ قُلْ هَلْ يَسْتَوِى ٱلْأَعْمَىٰ وَٱلْبَصِيرُ أَمْ هَلْ تَسْتَوِى ٱلظُّلُمَـٰتُ وَٱلنُّورُ ۗ أَمْ جَعَلُوا۟ لِلَّهِ شُرَكَآءَ خَلَقُوا۟ كَخَلْقِهِۦ فَتَشَـٰبَهَ ٱلْخَلْقُ عَلَيْهِمْ ۚ قُلِ ٱللَّهُ خَـٰلِقُ كُلِّ شَىْءٍۢ وَهُوَ ٱلْوَٰحِدُ ٱلْقَهَّـٰرُ

Translation: จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) “ใครคือพระผู้อภิบาลแห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน?” จงกล่าวเถิด ”อัลลอฮ์” จงกล่าวเถิด “พวกท่านได้ยึดเอาบรรดาผู้คุ้มครองอื่นจากอัลลอฮ์กระนั้นหรือ? ซึ่งพวกเขาไม่มีอำนาจให้คุณและให้โทษแก่ตัวของพวกเขาเอง” จงกล่าวเถิด “คนตาบอดกับคนตาดีจะเหมือนกันหรือ? หรือความมืดจะเหมือนกับแสงสว่างหรือ?” หรือพวกเขาได้ตั้งเหล่าภาคีขึ้นเพื่ออัลลอฮ์นั้น เพื่อให้ได้สร้างเช่นกับการสร้างของพระองค์ แล้วการสร้างนั้นได้คล้ายคลึงแก่พวกเขากระนั้นหรือ? จงกล่าวเถิด อัลลอฮ์คือผู้ทรงสร้างทุกสิ่ง และพระองค์คือผู้ทรงเอกะ ผู้ทรงพิชิต

13:17

أَنزَلَ مِنَ ٱلسَّمَآءِ مَآءًۭ فَسَالَتْ أَوْدِيَةٌۢ بِقَدَرِهَا فَٱحْتَمَلَ ٱلسَّيْلُ زَبَدًۭا رَّابِيًۭا ۚ وَمِمَّا يُوقِدُونَ عَلَيْهِ فِى ٱلنَّارِ ٱبْتِغَآءَ حِلْيَةٍ أَوْ مَتَـٰعٍۢ زَبَدٌۭ مِّثْلُهُۥ ۚ كَذَٰلِكَ يَضْرِبُ ٱللَّهُ ٱلْحَقَّ وَٱلْبَـٰطِلَ ۚ فَأَمَّا ٱلزَّبَدُ فَيَذْهَبُ جُفَآءًۭ ۖ وَأَمَّا مَا يَنفَعُ ٱلنَّاسَ فَيَمْكُثُ فِى ٱلْأَرْضِ ۚ كَذَٰلِكَ يَضْرِبُ ٱللَّهُ ٱلْأَمْثَالَ

Translation: พระองค์ทรงประทานน้ำลงมาจากฟากฟ้า แล้วลำน้ำต่าง ๆ ก็ไหลไปตามปริมาณของมัน กระแสน้ำได้พัดพาเอาฟองลอยอยู่เหนือน้ำ(22) และจากสิ่งที่พวกเขาหลอมลงไปในไฟ เพื่อหวังทำเครื่องประดับหรือเครื่องใช้จะมีฟองเช่นกันในทำนองนั้นอัลลอฮ์ทรงยกตัวอย่างความจริงและความเท็จสำหรับฟองนั้นก็จะออกไปเป็นสิ่งเหลือเดน ส่วนที่เป็นประโยชน์แก่มนุษย์ก็คงจะอยู่ในแผ่นดิน(23) ในทำนองนั้น อัลลอฮ์ทรงยกอุทาหรณ์ทั้งหลาย

Comment: (22)อัฏฏ็อบรีย์ กล่าวว่า : นี่คืออุทาหรณ์ที่อัลลอฮ์ทรงยกมาเปรียบเทียบเกี่ยวกับความจริงกับความเท็จ และการอีมานกับการกุฟร

Comment: (23)สิ่งที่เป็นประโยชน์แก่มนุษย์คือน้ำ และแร่ธาตุบริสุทธิ์ หลังจากที่ได้เอาฟองหรือกากเดนที่ลอยอยู่ข้างบนออกไป

13:18

لِلَّذِينَ ٱسْتَجَابُوا۟ لِرَبِّهِمُ ٱلْحُسْنَىٰ ۚ وَٱلَّذِينَ لَمْ يَسْتَجِيبُوا۟ لَهُۥ لَوْ أَنَّ لَهُم مَّا فِى ٱلْأَرْضِ جَمِيعًۭا وَمِثْلَهُۥ مَعَهُۥ لَٱفْتَدَوْا۟ بِهِۦٓ ۚ أُو۟لَـٰٓئِكَ لَهُمْ سُوٓءُ ٱلْحِسَابِ وَمَأْوَىٰهُمْ جَهَنَّمُ ۖ وَبِئْسَ ٱلْمِهَادُ

Translation: สำหรับบรรดาผู้ตอบสนองต่อพระผู้อภิบาลของพวกเขา คือการได้รับความดี(24) และบรรดาผู้ไม่ตอบสนองต่อพระองค์(25) แม้ว่าพวกเขาจะมีทั้งหมดที่มีอยู่ในแผ่นดินและมีอีกเยี่ยงนั้น พวกเขาจะยอมเอามาไถ่โทษอย่างแน่นอน(26) ชนเหล่านั้นสำหรับพวกเขาคือการมีบัญชีที่ชั่ว และที่พำนักของพวกเขาคือนรกญะฮันนัน มันเป็นที่พำนักที่ชั่วช้ายิ่ง

Comment: (24)คือบรรดามุอ์มินที่ตอบสนองการเรียกร้องเชิญชวนของอัลลอฮ์ ด้วยการศรัทธาและเชื่อฟัง

Comment: (25)คือพวกปฏิเสธการศรัทธา

Comment: (26)เพื่อให้พ้นจากการลงโทษของอัลลอฮ์

13:19

۞ أَفَمَن يَعْلَمُ أَنَّمَآ أُنزِلَ إِلَيْكَ مِن رَّبِّكَ ٱلْحَقُّ كَمَنْ هُوَ أَعْمَىٰٓ ۚ إِنَّمَا يَتَذَكَّرُ أُو۟لُوا۟ ٱلْأَلْبَـٰبِ

Translation: ดังนั้น ผู้ที่รู้ว่า แท้จริงสิ่งที่ถูกประทานแก่เจ้าจากพระเจ้าของเจ้านั้นเป็นความจริง จะเหมือนกับผู้ที่ตาบอดกระนั้นหรือ?(27) แท้จริงบรรดาผู้มีสติปัญญาเท่านั้นที่จะใคร่ครวญ(28)

Comment: (27)อิบนุอับบาส กล่าวว่า : อายะฮ์นี้ถูกประทานลงมาเป็นการเปรียบเทียบระหว่างฮัมซะฮ์กับอะบีญะฮัล

Comment: (28)ผู้ที่มีสติปัญญาสมบูรณ์เท่านั้นที่จะใคร่ครวญต่อสัญญาณต่างๆ ของพระองค์ สำหรับคุณลักษณะของผู้ที่มีสติปัญญาสมบูรณ์นั้น ในอายะฮ์ต่อๆ ไป ตั้งแต่อายะฮ์ที่ 20 ถึงอายะฮ์ที่ 22 ได้กล่าวถึงบุคคลประเภทนี้ไว้ดังนี้คือ 1.ผู้ที่ให้ครบถ้วนซึ่งสัญญาของอัลลอฮ์ 2.ผู้ที่ไม่บิดพลิ้วข้อตกลงต่าง ๆ 3.ผู้ที่สัมพันธ์ต่อญาติตามที่พระองค์ทรงบัญชา 4.ผู้ที่ยำเกรงต่ออัลลอฮ์ ตะอาลา 5.ผู้ที่กลัวการมีบัญชีที่ชั่ว 6.ผู้ที่มีความอดทนโดยหวังความโปรดปรานจากพระองค์ 7.ผู้ที่ดำรงรักษาไว้ซึ่งการละหมาด 8.ผู้ที่บริจาคซะกาต ทั้งอย่างลับๆ และอย่างเปิดเผย 9.ผู้ที่ขจัดความชั่วด้วยความดี ในอายะฮ์ที่ 23-24 กล่าวถึงการตอบแทนและรางวัลสำหรับบุคคลประเภทต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น

13:20

ٱلَّذِينَ يُوفُونَ بِعَهْدِ ٱللَّهِ وَلَا يَنقُضُونَ ٱلْمِيثَـٰقَ

Translation: บรรดาผู้ให้ครบถ้วนซึ่งสัญญาณของอัลลอฮ์และไม่บิดพริ้วข้อตกลง

13:21

وَٱلَّذِينَ يَصِلُونَ مَآ أَمَرَ ٱللَّهُ بِهِۦٓ أَن يُوصَلَ وَيَخْشَوْنَ رَبَّهُمْ وَيَخَافُونَ سُوٓءَ ٱلْحِسَابِ

Translation: และบรรดาผู้เชื่อมสัมพันธ์ที่อัลลอฮ์ทรงบัญชาให้เขาเชื่อมสัมพันธ์ และยำเกรงพระเจ้าของพวกเขา และกลัวการมีบัญชีที่ชั่ว

13:22

وَٱلَّذِينَ صَبَرُوا۟ ٱبْتِغَآءَ وَجْهِ رَبِّهِمْ وَأَقَامُوا۟ ٱلصَّلَوٰةَ وَأَنفَقُوا۟ مِمَّا رَزَقْنَـٰهُمْ سِرًّۭا وَعَلَانِيَةًۭ وَيَدْرَءُونَ بِٱلْحَسَنَةِ ٱلسَّيِّئَةَ أُو۟لَـٰٓئِكَ لَهُمْ عُقْبَى ٱلدَّارِ

Translation: และบรรดาผู้อดทนโดยหวังพระพักตร์ (ความโปรดปราน) ของพระเจ้าของพวกเขา และดำรงการละหมาดและบริจาคสิ่งที่เราได้ให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเขา โดยซ่อนเร้นและเปิดเผย และพวกเขาขจัดความชั่วด้วยความดี ชนเหล่านั้นสำหรับพวกเขาคืนที่พำนักในปั้นปลายที่ดี

13:23

جَنَّـٰتُ عَدْنٍۢ يَدْخُلُونَهَا وَمَن صَلَحَ مِنْ ءَابَآئِهِمْ وَأَزْوَٰجِهِمْ وَذُرِّيَّـٰتِهِمْ ۖ وَٱلْمَلَـٰٓئِكَةُ يَدْخُلُونَ عَلَيْهِم مِّن كُلِّ بَابٍۢ

Translation: สวนสวรรค์ทั้งหลายอันสถาพร พวกเขาจะเข้าไปอยู่พร้อมกับผู้ทำดีจากบรรพบุรุษของพวกเขา และคู่ครองของพวกเขา และบรรดาลูกหลานของพวกเขา และมลาอิกะฮ์จะเข้ามาหาพวกเขาจากทุกประตู (ของสวนสวรรค์)

13:24

سَلَـٰمٌ عَلَيْكُم بِمَا صَبَرْتُمْ ۚ فَنِعْمَ عُقْبَى ٱلدَّارِ

Translation: (พร้อมกับกล่าวว่า) “ความศานติจงมีแด่พวกท่านเนื่องด้วยพวกท่านได้อดทน มันช่างดีเสียนี่กระไรที่พำนักบั้นปลายนี้”

13:25

وَٱلَّذِينَ يَنقُضُونَ عَهْدَ ٱللَّهِ مِنۢ بَعْدِ مِيثَـٰقِهِۦ وَيَقْطَعُونَ مَآ أَمَرَ ٱللَّهُ بِهِۦٓ أَن يُوصَلَ وَيُفْسِدُونَ فِى ٱلْأَرْضِ ۙ أُو۟لَـٰٓئِكَ لَهُمُ ٱللَّعْنَةُ وَلَهُمْ سُوٓءُ ٱلدَّارِ

Translation: และบรรดาผู้ทำลายพันธะของอัลลอฮ์หลังจากที่ได้ให้คำมั่นสัญญาแก่พระองค์ และพวกเขาตัดขาดสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงใช้ให้เขาต่อ และบ่อนทำลายในแผ่นดิน ชนเหล่านี้แหละพวกเขาจะได้รับการสาปแช่ง และจะได้ที่พำนักอันชั่วช้า(29)

Comment: (29)สำหรับประเภทของบุคคลที่ขาดสติสัมปชัญญะมีดังนี้คือ 1.ผู้ที่ทำลายพันธะหรือคำมั่นสัญญาที่ได้ให้ไว้ 2.ผู้ที่ตัดขาดญาติ 3.ผู้ที่ก่อความเสียหายหรือบ่อนทำลายในแผ่นดิน บุคคลเหล่านี้จะได้รับการสาปแช่ง และได้รับการตอบแทนคือนรกญะฮันนัม อันเป็นที่พำนักอาศัยของพวกเขา

13:26

ٱللَّهُ يَبْسُطُ ٱلرِّزْقَ لِمَن يَشَآءُ وَيَقْدِرُ ۚ وَفَرِحُوا۟ بِٱلْحَيَوٰةِ ٱلدُّنْيَا وَمَا ٱلْحَيَوٰةُ ٱلدُّنْيَا فِى ٱلْـَٔاخِرَةِ إِلَّا مَتَـٰعٌۭ

Translation: อัลลอฮ์ทรงให้กว้างขวางและทรงให้คับแคบซึ่งปัจจัยยังชีพ แก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์(30) และพวกเขาดีใจต่อชีวิตในโลกนี้ และชีวิตของโลกนี้เมื่อเทียบกับโลกอาคิเราะฮ์แล้ว หาใช่อื่นใดไม่ นอกจากความเพลิดเพลินเท่านั้น

Comment: (30)ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับฮิกมะฮ์และผลประโยชน์

13:27

وَيَقُولُ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ لَوْلَآ أُنزِلَ عَلَيْهِ ءَايَةٌۭ مِّن رَّبِّهِۦ ۗ قُلْ إِنَّ ٱللَّهَ يُضِلُّ مَن يَشَآءُ وَيَهْدِىٓ إِلَيْهِ مَنْ أَنَابَ

Translation: และบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธากล่าวว่า “ทำไมสัญญาณจากพระผู้อภิบาลของเขาจึงไม่ถูกประทานให้แก่เขา?” จงกล่าวเถิด “แท้จริงอัลลอฮ์ทรงให้หลงทางแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และทรงนำทางสู่พระองค์แก่ผู้ที่สำนึกตัว(31)

Comment: (31)พวกกุฟฟาร กล่าวว่า ทำไมพระเจ้าของมุฮัมมัดจึงไม่ประทานสิ่งที่เป็นปาฏิหาริย์แก่มุฮัมมัดเหมือนกับที่ได้ประทานแก่มูซาและอีซา อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงใช้ให้มุฮัมมัดแจ้งแก่พวกกุฟฟารว่า การงานทั้งหมดอยู่ในพระหัตถ์ของอัลลอฮ์ มิได้อยู่ที่ฉัน ผู้ที่พระองค์จะให้เขาหลงทางนั้น แม้จะมีสัญญาณหรือปาฏิหาริย์ใดๆ มาปรากฏต่อหน้าพวกเขา พวกเขาก็จะอยู่ในทางที่ผิดอยู่นั่นเอง

13:28

ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ وَتَطْمَئِنُّ قُلُوبُهُم بِذِكْرِ ٱللَّهِ ۗ أَلَا بِذِكْرِ ٱللَّهِ تَطْمَئِنُّ ٱلْقُلُوبُ

Translation: “บรรดาผู้ศรัทธา และจิตใจของพวกเขาสงบด้วยการรำลึกถึงอัลลอฮ์พึงทราบเถิด! ด้วยการรำลึกถึงอัลลอฮ์เท่านั้นทำให้จิตใจสงบ

13:29

ٱلَّذِينَ ءَامَنُوا۟ وَعَمِلُوا۟ ٱلصَّـٰلِحَـٰتِ طُوبَىٰ لَهُمْ وَحُسْنُ مَـَٔابٍۢ

Translation: “บรรดาผู้ศรัทธาและกระทำความดี ความผาสุกย่อมได้แก่พวกเขา และเป็นการกลับไปที่ดียิ่ง”

13:30

كَذَٰلِكَ أَرْسَلْنَـٰكَ فِىٓ أُمَّةٍۢ قَدْ خَلَتْ مِن قَبْلِهَآ أُمَمٌۭ لِّتَتْلُوَا۟ عَلَيْهِمُ ٱلَّذِىٓ أَوْحَيْنَآ إِلَيْكَ وَهُمْ يَكْفُرُونَ بِٱلرَّحْمَـٰنِ ۚ قُلْ هُوَ رَبِّى لَآ إِلَـٰهَ إِلَّا هُوَ عَلَيْهِ تَوَكَّلْتُ وَإِلَيْهِ مَتَابِ

Translation: ในทำนองนี้เราได้ส่งเจ้ามายังกลุ่มชนหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านั้นมีกลุ่มชนอื่นได้ล่วงลับไปแล้ว เพื่อเจ้าจะได้บอกกล่าวแก่พวกเขาถึงสิ่งที่เราได้วะฮีย์(32) แก่เจ้า โดยที่พวกเขาปฏิเสธศรัทธาต่อพระผู้ทรงกรุณาปรานี จงกล่าวเถิด “พระองค์คือพระเจ้าของฉัน ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์เฉพาะพระองค์เท่านั้นฉันมอบความไว้วางใจ และยังพระองค์คือการกลับไปของฉัน”(33)

Comment: (32)วะฮ์ยู คือพระดำรัสของอัลลอฮ์ ที่ได้ประทานให้แก่ท่านบี

Comment: (33)สาเหตุของการประทานอายะฮ์นี้คือ อิบนุอับบาส กล่าวว่า อายะฮ์นี้ประทานลงมาเนื่องจากพวกกุฟฟารมักกะฮ์ เมื่อท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวแก่พวกเขาว่า พวกท่านจงสุญูดแด่พระผู้ทรงกรุณาปรานี (อัรเราะฮ์มาน) พวกเขากล่าวว่า และใครคืออัรเราะฮ์มาน จะให้พวกเราสุญูดตามที่ท่านใช้เรากระนั้นหรือ? อัลลอฮ์ ตะอาลา จึงประทานอายะฮนี้ลงมา “….. โดยที่พวกเขาปฏิเสธศรัทธาต่อพระผู้ทรงกรุณาปรานี .....”

13:31

وَلَوْ أَنَّ قُرْءَانًۭا سُيِّرَتْ بِهِ ٱلْجِبَالُ أَوْ قُطِّعَتْ بِهِ ٱلْأَرْضُ أَوْ كُلِّمَ بِهِ ٱلْمَوْتَىٰ ۗ بَل لِّلَّهِ ٱلْأَمْرُ جَمِيعًا ۗ أَفَلَمْ يَا۟يْـَٔسِ ٱلَّذِينَ ءَامَنُوٓا۟ أَن لَّوْ يَشَآءُ ٱللَّهُ لَهَدَى ٱلنَّاسَ جَمِيعًۭا ۗ وَلَا يَزَالُ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ تُصِيبُهُم بِمَا صَنَعُوا۟ قَارِعَةٌ أَوْ تَحُلُّ قَرِيبًۭا مِّن دَارِهِمْ حَتَّىٰ يَأْتِىَ وَعْدُ ٱللَّهِ ۚ إِنَّ ٱللَّهَ لَا يُخْلِفُ ٱلْمِيعَادَ

Translation: และมาตรว่าอัลกุรอาน โดยมันนั้นภูเขาถูกทำให้เคลื่อนที่ได้ หรือโดยมันนั้นแผ่นดินถูกทำให้แยกออกจากกันได้ หรือโดยมันนั้นคนตายถูกทำให้พูดได้(34) แต่ทว่าพระบัญชาทั้งมวลเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮ์บรรดาผู้ศรัทธายังมิรู้ดอกหรือว่า มาตรว่าอัลลอฮ์ทรงประสงค์ แน่นอนพระองค์จะทรงชี้แนะทางแก่มนุษย์ทั้งมวลก็ได้ และบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธานั้น ความหายนะคงจะประสบแก่พวกเขา เนื่องด้วยพวกเขาได้กระทำไว้ หรือจะเกิดขึ้นใกล้ที่พำนักของพวกเขา จนกระทั่งสัญญาณของอัลลอฮ์จะมาถึง แท้จริงอัลลอฮ์มิทรงผิดสัญญา

Comment: (34)มาตรว่าอัลกุรอานทำให้ภูเขาเคลื่อนที่ได้ หรือทำให้แผ่นดินแยกออกจากกันได้ หรือทำให้คนตายพูดได้ หากเป็นเช่นดังที่ได้กล่าวมาแล้ว คำตอบก็คือ “อัลกุรอานฉบับนี้” เพราะว่ามันเป็นผู้ชี้แนะทางที่ถูกต้อง เป็นผู้ตักเตือนและขู่สำทับ คำตอบดังกล่าวนี้ เป็นทัศนะของอัลซุมัคชะรีย์ ส่วนอัชชัซญาจมีทัศนะเป็นคำตอบว่า “พวกเขาจะศรัทธาอย่างแน่นอน” ทั้งนี้ก็เพราะว่าพวกเขาหยิ่งผยอง ดึงดันอยู่ในทางที่ผิด และบ่อนทำลาย

13:32

وَلَقَدِ ٱسْتُهْزِئَ بِرُسُلٍۢ مِّن قَبْلِكَ فَأَمْلَيْتُ لِلَّذِينَ كَفَرُوا۟ ثُمَّ أَخَذْتُهُمْ ۖ فَكَيْفَ كَانَ عِقَابِ

Translation: และโดยแน่นอน บรรดาร่อซูลก่อนหน้าเจ้าได้ถูกเย้ยหยันมาแล้ว(35) ข้าได้ประวิงเวลาแก่บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาแล้วข้าได้คร่าพวกเขา ดังนั้นการลงโทษของข้าเป็นเช่นใด?

Comment: (35)เป็นการปลอบใจท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ว่า เหตุการณ์เช่นนี้ได้เกิดขึ้นแล้วแก่บรรดาร่อซูลในอดีต

13:33

أَفَمَنْ هُوَ قَآئِمٌ عَلَىٰ كُلِّ نَفْسٍۭ بِمَا كَسَبَتْ ۗ وَجَعَلُوا۟ لِلَّهِ شُرَكَآءَ قُلْ سَمُّوهُمْ ۚ أَمْ تُنَبِّـُٔونَهُۥ بِمَا لَا يَعْلَمُ فِى ٱلْأَرْضِ أَم بِظَـٰهِرٍۢ مِّنَ ٱلْقَوْلِ ۗ بَلْ زُيِّنَ لِلَّذِينَ كَفَرُوا۟ مَكْرُهُمْ وَصُدُّوا۟ عَنِ ٱلسَّبِيلِ ۗ وَمَن يُضْلِلِ ٱللَّهُ فَمَا لَهُۥ مِنْ هَادٍۢ

Translation: ดังนั้น พระองค์ผู้ทรงเฝ้ามองทุกชีวิตที่มันได้ขวนขวายเอาไว้ (จะเหมือนกับเจว็ดทั้งหลาย)(36) กระนั้นหรือ? และพวกเขาได้ตั้งภาคีเทียมอัลลอฮ์จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด “พวกท่านจงกล่าวชื่อพวกมัน หรือพวกท่านจะบอกพระองค์ในสิ่งที่พระองค์ไม่รู้ในแผ่นดิน หรือเป็นเพียงคำพูดที่กล่าวขึ้นมาลอยๆ กระนั้นหรือ? เปล่าเลย! ได้ถูกทำให้เพริศแพร้วแก่บรรดาผู้ปฏิเสธ ซึ่งแผนการณ์ของพวกเขา และถูกปิดกั้นจากแนวทาง (ของอัลลอฮ์) และผู้ใดที่อัลลอฮ์ทรงประสงค์ให้เขาหลงทางสำหรับเขาจะไม่มีผู้ชี้แนะให้เลย

Comment: (36)ข้อความในวงเล็บคือคำตอบ

13:34

لَّهُمْ عَذَابٌۭ فِى ٱلْحَيَوٰةِ ٱلدُّنْيَا ۖ وَلَعَذَابُ ٱلْـَٔاخِرَةِ أَشَقُّ ۖ وَمَا لَهُم مِّنَ ٱللَّهِ مِن وَاقٍۢ

Translation: สำหรับพวกเขาจะได้รับการลงโทษในชีวิตของโลกนี้ และแน่นอนการลงโทษในปรโลกนั้นร้ายแรงกว่า และสำหรับพวกเขาไม่มีผู้คุ้มกันจาก(การลงโทษของ) อัลลอฮ์ได้

13:35

۞ مَّثَلُ ٱلْجَنَّةِ ٱلَّتِى وُعِدَ ٱلْمُتَّقُونَ ۖ تَجْرِى مِن تَحْتِهَا ٱلْأَنْهَـٰرُ ۖ أُكُلُهَا دَآئِمٌۭ وَظِلُّهَا ۚ تِلْكَ عُقْبَى ٱلَّذِينَ ٱتَّقَوا۟ ۖ وَّعُقْبَى ٱلْكَـٰفِرِينَ ٱلنَّارُ

Translation: อุปมาสวนสวรรค์ซึ่งบรรดาผู้ยำเกรงได้ถูกสัญญาไว้คือ มีลำน้ำหลายสายไหลผ่านภายใต้มัน ผลไม้และเงาร่มมีอยู่ตลอดกาล(37) นั่นคือบั้นปลายของบรรดาผู้ยำเกรง และบั้นปลายของบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา ก็คือไฟนรก

Comment: (37)ผลไม้มีให้กินตลอดกาล ไม่มีขาดตอนหรือหมดฤดู เงาร่มก็เช่นเดียวกันมีอยู่ตลอดเวลา ดวงอาทิตย์ไม่อาจเข้ามากล้ำกรายได้

13:36

وَٱلَّذِينَ ءَاتَيْنَـٰهُمُ ٱلْكِتَـٰبَ يَفْرَحُونَ بِمَآ أُنزِلَ إِلَيْكَ ۖ وَمِنَ ٱلْأَحْزَابِ مَن يُنكِرُ بَعْضَهُۥ ۚ قُلْ إِنَّمَآ أُمِرْتُ أَنْ أَعْبُدَ ٱللَّهَ وَلَآ أُشْرِكَ بِهِۦٓ ۚ إِلَيْهِ أَدْعُوا۟ وَإِلَيْهِ مَـَٔابِ

Translation: และบรรดาผู้ที่เราได้ให้คัมภีร์แก่พวกเขาต่างก็ดีใจ(38) ต่อสิ่งที่ได้ถูกประทานให้แก่เจ้า(อัลกุรอาน) และส่วนหนึ่งจากกลุ่มชนต่างๆ มีผู้ปฏิเสธบางส่วนของมัน (อัลกุรอาน) จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) “แท้จริงฉันถูกบัญชาให้เคารพภักดีต่ออัลลอฮ์และฉันจะไม่ตั้งภาคีเท่าเทียมพระองค์ และยังพระองค์ฉันจะเชิญชวน และยังพระองค์เท่านั้นคือการกลับไปของฉัน”

Comment: (38)คือบรรดาผู้ที่เราได้ให้คัมภีร์อัตเตารอตและอัลอินญีลแก่พวกเขา ส่วนหนึ่งจากผู้ที่ศรัทธาและเชื่อฟังเจ้าเช่น อับดุลลอฮ์ อิบนุสลาม และอัลนะญาชีย์ กษัตริย์แห่งอัลหะบะซะฮ์หรือเอธิโอเปีย ตลอดจนบริวารของเขา ต่างก็ดีใจต่อการประทานอัลกุรอานลงมาแก่มุฮัมมัด เพราะในคัมภีร์ของพวกเขามีหลักฐานยืนยันถึงข้อเท็จจริงอันนี้

13:37

وَكَذَٰلِكَ أَنزَلْنَـٰهُ حُكْمًا عَرَبِيًّۭا ۚ وَلَئِنِ ٱتَّبَعْتَ أَهْوَآءَهُم بَعْدَ مَا جَآءَكَ مِنَ ٱلْعِلْمِ مَا لَكَ مِنَ ٱللَّهِ مِن وَلِىٍّۢ وَلَا وَاقٍۢ

Translation: และในทำนองนั้น เราได้ให้อัลกุรอานแก่เขาไว้เป็นข้อชี้ขาดที่เป็นภาษาอาหรับ และหากเจ้าปฏิบัติตามความใคร่ของพวกเขา หลังจากหลักฐานได้มายังเจ้าแล้ว(39) สำหรับเจ้าจะไม่มีผู้ช่วยเหลือ และผู้คุ้มกันจากการลงโทษของอัลลอฮ์(40)

Comment: (39)คือเชื่อฟังตามคำเรียกร้องเชิญชวนของพวกเขา

Comment: (40)จุดมุ่งหมายก็คือเตือนประชาชาติทั้งหลาย มิให้เชื่อพังความใคร่ของมนุษย์ เพราะเมื่อท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุลัยฮิวะซัลลัม ถูกเตือนเช่นนี้ จุดมุ่งหมายก็เพื่อเตือนมหาชนทั่วไป

13:38

وَلَقَدْ أَرْسَلْنَا رُسُلًۭا مِّن قَبْلِكَ وَجَعَلْنَا لَهُمْ أَزْوَٰجًۭا وَذُرِّيَّةًۭ ۚ وَمَا كَانَ لِرَسُولٍ أَن يَأْتِىَ بِـَٔايَةٍ إِلَّا بِإِذْنِ ٱللَّهِ ۗ لِكُلِّ أَجَلٍۢ كِتَابٌۭ

Translation: และโดยแน่นอน เราได้ส่งบรรดาร่อซูลมาก่อนหน้าเจ้า และเราได้ให้พวกเขามีภริยาและลูกหลาน(41) และไม่บังควรแก่ร่อซูลที่จะนำมาซึ่งสัญญาณ(ปาฏิหาริย์) ใดๆ เว้นแต่โดยอนุมัติของอัลลอฮ์สำหรับทุกสิ่งอย่างนั้น มีบันทึกไว้แล้ว

Comment: (41)สาเหตุแห่งการประทานอายะฮ์นี้ อัลกัลบีย์ กล่าวว่า พวกยะฮูดได้ตำหนิท่านร่อซูลุลลอฮ์ว่า เรามองไม่เห็นการปฏิบัติหน้าที่ของชายผู้นี้(คือท่านนบี) เลย นอกจากเรื่องของผู้หญิงและการแต่งงาน หากเขาเป็นนบีตามที่เขาอ้าง แน่นอนเรื่องของการเป็นนบีจะเป็นที่กังวลแก่เขามากกว่าเรื่องของผู้หญิง อายะฮนี้จึงถูกประทานลงมา เพื่อเป็นการตอบโต้ข้อตำหนิของพวกยะฮูด

13:39

يَمْحُوا۟ ٱللَّهُ مَا يَشَآءُ وَيُثْبِتُ ۖ وَعِندَهُۥٓ أُمُّ ٱلْكِتَـٰبِ

Translation: อัลลอฮ์ทรงยกเลิกสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์ และทรงยืนหยัดให้มั่น (สิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์) และที่พระองค์คือแม่บทแห่งคัมภีร์ (อัลลูฮุลมะฮ์ฟูซ)(42)

Comment: (42)อิบนุอับบาส กล่าวว่า อัลลอฮ์ทรงเปลี่ยนแปลงสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์ แล้วทรงยกเลิก เว้นแต่ความตาย ความเป็น ความทุกข์ ความสุข เพราะสิ่งเหล่านี้ถูกบันทึกไว้เรียบร้อยแล้ว กล่าวกันว่า การยกเลิกและการยืนหยัดให้มั่น มีความหมายคลุมถึงสิ่งทั่วๆ ไป เพราะมีรายงานว่า ขณะที่อุมัร อิบนุ อัลค็อฏฏอบ กำลังเดินเวียนรอบอัลกะอ์บะฮ์ ท่านร้องไห้พลางกล่าวว่า ข้าแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า หากพระองค์ทรงบันทึกความทุกข์และความผิดแก่ข้าพระองค์แล้ว ขอพระองค์ทรงยกเลิกให้แก่ข้าพระองค์ด้วย เพราะว่าพระองค์นั้นทรงยกเลิกสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์ และทรงยืนหยัดให้มั่น และที่พระองค์นั้นคือรากฐานแห่งคัมภีร์

13:40

وَإِن مَّا نُرِيَنَّكَ بَعْضَ ٱلَّذِى نَعِدُهُمْ أَوْ نَتَوَفَّيَنَّكَ فَإِنَّمَا عَلَيْكَ ٱلْبَلَـٰغُ وَعَلَيْنَا ٱلْحِسَابُ

Translation: และหากเราจะให้เจ้าเห็นบางสิ่ง ซึ่งเราสัญญากับพวกเขา (ถึงการลงโทษ) หรือเราจะให้เจ้าตาย แท้จริงหน้าที่ของเจ้าคือการเผยแพร่ และหน้าที่ของเราคือการชำระบัญชี

13:41

أَوَلَمْ يَرَوْا۟ أَنَّا نَأْتِى ٱلْأَرْضَ نَنقُصُهَا مِنْ أَطْرَافِهَا ۚ وَٱللَّهُ يَحْكُمُ لَا مُعَقِّبَ لِحُكْمِهِۦ ۚ وَهُوَ سَرِيعُ ٱلْحِسَابِ

Translation: พวกเขาไม่เห็นดอกหรือว่า แท้จริงเขาขยายพื้นที่ แล้วเราให้มันลดน้อยลงจากอาณาเขตของมัน(43) และอัลลอฮ์ทรงตัดสิน ไม่มีผู้ใดเปลี่ยนแปลงการตัดสินของพระองค์ และพระองค์เป็นผู้ทรงฉับพลันในการคิดบัญชี

Comment: (43)

13:42

وَقَدْ مَكَرَ ٱلَّذِينَ مِن قَبْلِهِمْ فَلِلَّهِ ٱلْمَكْرُ جَمِيعًۭا ۖ يَعْلَمُ مَا تَكْسِبُ كُلُّ نَفْسٍۢ ۗ وَسَيَعْلَمُ ٱلْكُفَّـٰرُ لِمَنْ عُقْبَى ٱلدَّارِ

Translation: และโดยแน่นอน บรรดาผู้ที่มาก่อนหน้า พวกเขาได้วางแผนมาก่อนแล้ว ดังนั้นแผนการณ์ทั้งหมดเป็นของอัลลอฮ์(44) พระองค์ทรงรอบรู้สิ่งที่ทุกชีวิตแสวงหาเอาไว้ และพวกปฏิเสธศรัทธาจะได้รู้ว่าจะได้แก่ผู้ใดบ้างที่พำนักที่ดีในบั้นปลายจะได้แก่ผู้ใดบ้าง

Comment: (44)พระองค์จะให้การลงโทษมาถึงพวกเขา โดยที่พวกเขาไม่รู้

13:43

وَيَقُولُ ٱلَّذِينَ كَفَرُوا۟ لَسْتَ مُرْسَلًۭا ۚ قُلْ كَفَىٰ بِٱللَّهِ شَهِيدًۢا بَيْنِى وَبَيْنَكُمْ وَمَنْ عِندَهُۥ عِلْمُ ٱلْكِتَـٰبِ

Translation: และบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธากล่าวว่า “ท่านมิใช่เป็นผู้ได้รับแต่งตั้ง” จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) “เพียงพอแล้วที่อัลลอฮ์ทรงเป็นพยานระหว่างฉันกับพวกท่าน(45) และผู้ที่เขามีความรู้ในคัมภีร์ (46)(ก็เป็นพยานด้วย)"

Comment: (45)พระองค์ทรงเป็นพยานต่อความสัจจะของฉัน โดยที่พระองค์ทรงสนับสนุนฉันด้วยปาฏิหาริย์ต่างๆ

Comment: (46)การเป็นพยานของบรรดามุอ์มินจากบรรดาผู้รู้ของชาวอะฮ์ลุลกิตาบ